1 00:00:16,767 --> 00:00:20,979 เวลาเห็น B-17 ผมยังมีอาการเหมือนเดิม 2 00:00:21,688 --> 00:00:22,689 (ปี 1997) 3 00:00:22,689 --> 00:00:24,441 แต่เครื่องบินรุ่นนี้สวยเนอะ 4 00:00:25,150 --> 00:00:26,777 เหมือนงานศิลปะเลย 5 00:00:28,195 --> 00:00:30,405 {\an8}แถมเวลาบินอยู่บนฟ้าก็ยังงดงามมากด้วย 6 00:00:30,405 --> 00:00:32,406 {\an8}(โรเบิร์ต "โรซี่" โรเซนธอล นักบินฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 7 00:00:37,079 --> 00:00:39,039 พอบินเรียงกันเป็นขบวน... 8 00:00:42,918 --> 00:00:45,504 ตอนที่มีเครื่องบินเป็นพันลํา... 9 00:00:47,923 --> 00:00:50,384 เป็นภาพที่สวยตระการตามากครับ 10 00:00:52,636 --> 00:00:55,013 บนน่านฟ้ายุโรปในฤดูหนาว 11 00:00:55,556 --> 00:00:57,224 เกิดการสู้รบแบบใหม่ขึ้น 12 00:00:57,224 --> 00:01:01,228 ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีใครเคยเผชิญมาก่อน 13 00:01:01,854 --> 00:01:04,897 มันเป็นอุบัติการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์การรบ 14 00:01:04,897 --> 00:01:08,694 ที่ไม่เคยเกิดขึ้นและจะต้องไม่ซ้ํารอย 15 00:01:19,246 --> 00:01:21,748 ทหารอากาศจากฝูงบินทิ้งระเบิด 40 ฝูง 16 00:01:21,748 --> 00:01:25,544 บาดเจ็บและล้มตายเป็นจํานวนมาก ในการสู้รบทางอากาศ 17 00:01:26,044 --> 00:01:29,464 มีฝูงหนึ่งที่ก้าวร้าวและเหลวไหล 18 00:01:29,464 --> 00:01:33,677 มีผู้บาดเจ็บเป็นจํานวนมากในช่วงเวลาสั้นๆ 19 00:01:33,677 --> 00:01:36,471 จนได้รับการขนานนามว่า ฝูงบู๊ที่ 100 20 00:01:54,198 --> 00:01:55,699 (เกิดสงครามในยุโรป) 21 00:01:55,699 --> 00:01:57,993 เยอรมนีรุกรานโปแลนด์ 22 00:01:57,993 --> 00:02:02,122 {\an8}วอร์ซอโดนระเบิดโจมตีอย่างหนัก ตอนเวลาประมาณเก้าโมง 23 00:02:02,122 --> 00:02:03,874 {\an8}(วอร์ซอ) 24 00:02:06,877 --> 00:02:10,130 {\an8}เช้านี้กองทัพเยอรมัน รุกรานฮอลแลนด์กับเบลเยียม 25 00:02:10,130 --> 00:02:11,924 ทางแผ่นดินและทางอากาศ 26 00:02:11,924 --> 00:02:12,841 (ดัตช์ยอมแพ้) 27 00:02:14,092 --> 00:02:15,177 (เหล่านาซีรุกคืบไปยังฝรั่งเศส) 28 00:02:16,762 --> 00:02:18,805 {\an8}นโยบายของเราเหรอ 29 00:02:18,805 --> 00:02:22,142 เราจะต่อสู้ทั้งทางทะเล ทางบก และทางอากาศ 30 00:02:22,142 --> 00:02:26,813 ทําสงครามต่อต้านอาชญากรรม อันโหดร้ายรุนแรงต่อมนุษยชาติ 31 00:02:26,813 --> 00:02:30,943 และชั่วช้าสามานย์ที่สุดในประวัติศาสตร์ 32 00:02:31,610 --> 00:02:33,237 (เดลีนิวส์ ลอนดอนโดนถล่ม) 33 00:02:33,237 --> 00:02:34,571 (อังกฤษกล่าวว่านาซีทิ้งระเบิด) 34 00:02:34,571 --> 00:02:36,657 ถ้าสหราชอาณาจักรล่มสลาย 35 00:02:36,657 --> 00:02:42,704 {\an8}ฝ่ายอักษะจะเรืองอํานาจในยุโรป เอเชีย 36 00:02:42,704 --> 00:02:46,375 {\an8}และแอฟริกา นอกจากนี้ยังจะเป็นชนวนเหตุ 37 00:02:46,375 --> 00:02:52,464 ให้กําลังพลทั้งทางบก และทางทะเลมาโจมตีซีกโลกนี้ 38 00:02:53,632 --> 00:02:55,509 {\an8}เช้าวันนี้เราได้เห็น 39 00:02:55,509 --> 00:02:59,596 {\an8}เครื่องบินศัตรูทิ้งระเบิดโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ 40 00:03:00,138 --> 00:03:01,515 ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะครับ 41 00:03:01,515 --> 00:03:02,683 สงครามจริงๆ 42 00:03:02,683 --> 00:03:03,600 (โจมตีฮาวาย) 43 00:03:05,060 --> 00:03:05,894 (ประกาศสงคราม) 44 00:03:05,894 --> 00:03:08,272 {\an8}ผมขอให้สภาคองเกรส 45 00:03:08,272 --> 00:03:11,191 {\an8}ประกาศสภาวะสงคราม 46 00:03:11,817 --> 00:03:15,946 {\an8}เนื่องจากญี่ปุ่นโจมตีเราอย่างไร้เหตุผล 47 00:03:16,613 --> 00:03:18,657 และขี้ขลาดตาขาว 48 00:03:19,575 --> 00:03:23,120 (อิตาลี, เยอรมนีประกาศภาวะสงคราม) 49 00:03:32,546 --> 00:03:33,964 ในสมัยนั้น 50 00:03:33,964 --> 00:03:36,925 {\an8}ฮิตเลอร์จากเยอรมนียึดครองทวีปยุโรป 51 00:03:36,925 --> 00:03:39,678 {\an8}ประเทศประชาธิปไตยสุดท้ายในยุโรป 52 00:03:39,678 --> 00:03:44,224 ที่เป็นเอกเทศและอ่อนไหว อย่างสหราชอาณาจักรจึงต้องทําสงครามกับนาซี 53 00:03:44,766 --> 00:03:47,936 แต่ยังไม่มีใครคิดออกว่าจะตอบโต้ศัตรูยังไง 54 00:03:48,937 --> 00:03:52,191 หัวหน้าฝูงบินของอังกฤษ โจมตีเยอรมนีไม่หยุดหย่อน 55 00:03:52,191 --> 00:03:54,943 แต่ไร้ประโยชน์มาตั้งแต่ปี 1940 56 00:03:54,943 --> 00:03:59,907 สูญเงินไปกับการโจมตีตอนกลางคืน ที่มักจะพลาดเป้าไปหลายโยชน์ 57 00:04:01,909 --> 00:04:05,370 ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าการกระทําของเหล่านาซี 58 00:04:05,370 --> 00:04:07,664 เป็นภัยต่อประชาธิปไตยทั่วโลก 59 00:04:07,664 --> 00:04:10,584 {\an8}ฉะนั้นบุคคลที่เกิดในช่วงสงคราม คนรุ่นพ่อผม 60 00:04:10,584 --> 00:04:11,752 {\an8}(สตีเว่น สปีลเบิร์ก ผู้กํากับภาพยนตร์) 61 00:04:11,752 --> 00:04:14,004 {\an8}จึงให้ความสําคัญกับความรักชาติมากๆ 62 00:04:16,548 --> 00:04:19,091 ผมไม่หนักใจเลยที่ต้องมาพูดกับพวกคุณ 63 00:04:19,091 --> 00:04:22,721 เพราะผมอยากพูดเรื่องที่ผมชอบ คือเรื่องกองทัพอากาศ 64 00:04:22,721 --> 00:04:24,348 {\an8}(เจมส์ "จิมมี่" สตวร์ท นักบินฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 453) 65 00:04:24,348 --> 00:04:26,350 {\an8}ผมเพิ่งเข้ามาเป็นทหารได้ไม่นาน 66 00:04:27,142 --> 00:04:28,644 ผมรับใช้ชาติมาแค่ปีเดียว 67 00:04:28,644 --> 00:04:31,939 แต่ผมก็รู้แล้วว่ากองทัพอากาศดียังไงบ้าง 68 00:04:33,106 --> 00:04:34,483 ผมอยากเล่าเรื่องนี้แหละครับ 69 00:04:35,692 --> 00:04:39,363 กองทัพอากาศต้องการ เรืออากาศเอก 15,000 นาย 70 00:04:39,363 --> 00:04:43,784 เรืออากาศโท 40,000 นาย จ่าอากาศ 35,000 นาย 71 00:04:44,326 --> 00:04:47,037 มาเป็นนักบินกันเถอะครับชายชาติอเมริกา 72 00:04:47,621 --> 00:04:49,248 มาติดปีกไปด้วยกัน 73 00:04:51,250 --> 00:04:54,586 ตอนนั้นเป็นช่วงปีสองกลางเทอม 74 00:04:54,586 --> 00:04:58,507 {\an8}ผมก็เอ้อระเหยไปวันๆ จีบสาวแล้วก็จิบเหล้า 75 00:04:58,507 --> 00:05:00,551 {\an8}(จอห์น "ลัคกี้" ลักคาดู นักบินฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 76 00:05:01,176 --> 00:05:04,137 พอดีเกิดเหตุการณ์ที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ 77 00:05:04,137 --> 00:05:09,685 ผมกับพี่น้องร่วมหอ เลยถูกเกณฑ์ไปเป็นนักเรียนการบิน 78 00:05:09,685 --> 00:05:11,311 แถวตรง! 79 00:05:12,437 --> 00:05:15,607 ตอนนั้นชาวยิวโดนต่อต้านหนักมาก 80 00:05:15,607 --> 00:05:20,070 ฮิตเลอร์พูดข่มทํานองว่าชาวอารยันเหนือกว่า 81 00:05:20,070 --> 00:05:24,658 ผมรู้สึกหงุดหงิดที่ตัวเองทําอะไรไม่ได้ 82 00:05:24,658 --> 00:05:27,494 อยู่ๆ ผมก็หายหงุดหงิด 83 00:05:27,494 --> 00:05:29,663 เพราะรู้สึกว่าตัวเองทําอะไรได้แล้ว 84 00:05:30,163 --> 00:05:33,876 {\an8}ผมคิดว่าการรับใช้ชาติ ที่เห็นผลที่สุดคือการเป็นนักบิน 85 00:05:33,876 --> 00:05:35,169 (ศูนย์รับสมัคร) 86 00:05:35,169 --> 00:05:40,090 วันรุ่งขึ้น ผมก็ไปสมัคร เป็นนักเรียนนายเรืออากาศ 87 00:05:43,218 --> 00:05:46,847 ก่อนเกณฑ์ทหาร นักบินอเมริกันหลายพันคน 88 00:05:46,847 --> 00:05:51,685 ไม่เคยก้าวเท้าขึ้นเครื่องบิน หรือยิงอะไรที่ดุกว่ากระรอกเลย 89 00:05:51,685 --> 00:05:54,771 พวกเขามาจากทั่วอเมริกา 90 00:05:54,771 --> 00:05:57,274 และมาจากทุกครรลองชีวิต 91 00:05:57,274 --> 00:06:01,612 ทั้งนักเรียนเอกประวัติศาสตร์จากฮาร์วาร์ด คนงานเหมืองถ่านหินในเวสต์เวอร์จิเนีย 92 00:06:01,612 --> 00:06:04,740 ทนายจากวอลสตรีต คาวบอยจากโอคลาโฮมา 93 00:06:05,365 --> 00:06:08,660 ไอดอลจากฮอลลีวูด และนักฟุตบอลชื่อดัง 94 00:06:11,330 --> 00:06:13,207 บัดนี้นักเรียนสอบผ่าน 95 00:06:13,207 --> 00:06:15,250 ได้ไปเรียนขับเครื่องบินแล้ว 96 00:06:16,043 --> 00:06:19,421 ครูคนนึงต่อนักเรียนสี่คน 97 00:06:19,421 --> 00:06:23,342 สามคนในกลุ่มเคยหัดบินมาบ้าง แต่ผมไม่เคย 98 00:06:23,342 --> 00:06:25,511 ผมไม่เคยนั่งเครื่องบินเลย 99 00:06:30,015 --> 00:06:32,935 เรียนครบสิบชั่วโมง ก็ได้ขึ้นบินเดี่ยว 100 00:06:33,435 --> 00:06:35,521 {\an8}พอล้อพ้นจากพื้นเมื่อไหร่ก็ตัวใครตัวมัน 101 00:06:35,521 --> 00:06:36,605 {\an8}(จอห์น อ. คลาร์ก นักบินฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 102 00:06:36,605 --> 00:06:37,648 {\an8}ไม่มีใครช่วยแล้ว 103 00:06:40,025 --> 00:06:43,779 {\an8}ผมได้เป็นเนวิเกเตอร์ เพราะสอบนักบินตก 104 00:06:43,779 --> 00:06:45,280 {\an8}(แฮร์รี่ ครอสบี้ เนวิเกเตอร์ฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 105 00:06:46,657 --> 00:06:47,741 ผมซิ่วครับ 106 00:06:47,741 --> 00:06:50,994 {\an8}ผมไม่เข้าใจเรืออากาศโทเมย์แท็ก คนที่ให้ผมตกเลย 107 00:06:50,994 --> 00:06:53,330 {\an8}เป็นชื่อที่ได้ยินก็รู้แล้วว่าชอบจับนักเรียนตก 108 00:06:53,330 --> 00:06:54,498 {\an8}(โจเซฟ อาร์มานีนี่ พลทิ้งระเบิดฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 109 00:06:55,082 --> 00:06:59,670 มีครูทหารคนนึงจะให้ผมตก 110 00:07:00,379 --> 00:07:02,422 เขาบอกว่า "ยังไงคุณก็ตายอยู่ดี 111 00:07:02,422 --> 00:07:06,093 แต่เอางี้ เดี๋ยวผมจะไปนั่งใต้ต้นไม้ 112 00:07:06,093 --> 00:07:11,515 {\an8}ถ้าคุณเอาเครื่องขึ้นบินไปตามเส้นทาง แล้วลงจอดได้ครบสามรอบ ผมจะให้ผ่าน 113 00:07:12,057 --> 00:07:14,059 ถ้าทําไม่ได้ ก็ตก" 114 00:07:14,059 --> 00:07:15,394 {\an8}(กองทัพสหรัฐ) 115 00:07:16,687 --> 00:07:20,732 พวกเขาบินตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงสองทุ่ม 116 00:07:20,732 --> 00:07:24,778 ผมบินซ้อมรบหลายท่าเลย ทั้งท่าชานเดล ท่าเลซี่เอส 117 00:07:24,778 --> 00:07:27,614 บางทีวันหยุดเราก็บินท่าด็อกไฟท์ 118 00:07:29,616 --> 00:07:32,578 มันเป็นช่วงที่ผมสนุกกับสิ่งที่ทํามาก 119 00:07:43,505 --> 00:07:48,427 เพื่อนร่วมชั้นของผม 40 คนที่เรียนจบ 120 00:07:48,427 --> 00:07:49,344 พร้อมกับผม 121 00:07:49,344 --> 00:07:50,846 (โรงเรียนการบิน นายทหาร - คลาส 43 บี) 122 00:07:50,846 --> 00:07:53,056 ได้บินเครื่อง B-17 กันหมด 123 00:07:53,056 --> 00:07:55,893 ไม่มีใครเคยขับ B-17 มาก่อน 124 00:07:58,145 --> 00:08:01,398 โบอิ้งฟลายอิ้งฟอร์เทรสมีลูกเรือสิบนาย 125 00:08:01,398 --> 00:08:04,401 เครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นใหม่ บินได้ 483 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 126 00:08:04,401 --> 00:08:07,112 รอยนูนบนลําตัวเครื่องบินคือป้อมปืนกล 127 00:08:07,905 --> 00:08:09,573 ด้วยเครื่องยนต์ 4,000 แรงม้า 128 00:08:09,573 --> 00:08:13,452 จึงบินได้ประมาณ 2,800 กิโลเมตรโดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิง 129 00:08:13,452 --> 00:08:18,749 B-17 เป็นทั้งเครื่องบินโจมตี และป้องกันเครื่องแรกของโลก 130 00:08:19,458 --> 00:08:23,754 มันมีความสามารถในการโจมตีสูงกว่า เครื่องบินทุกรุ่นในยุคนั้น 131 00:08:23,754 --> 00:08:27,299 แล้วที่ชื่อฟลายอิ้งฟอร์เทรส เพราะมีปืนกล 50 แคลจํานวนมาก 132 00:08:28,884 --> 00:08:31,845 B-17 ขับดีมาก 133 00:08:32,346 --> 00:08:37,768 เครื่องบินตอบสนองดีจนผม ติดใจเลย 134 00:08:38,809 --> 00:08:41,313 ผมดีใจมากที่ได้ขับ B-17 135 00:08:42,898 --> 00:08:45,859 เรามีเวลาฝึกบินและเตรียมตัวออกรบ 136 00:08:45,859 --> 00:08:48,153 ที่ต่างประเทศอยู่ 5-6 เดือน 137 00:08:50,113 --> 00:08:52,282 {\an8}เดือนพฤษภา 1943 เราโดนส่งตัวไปอังกฤษ... 138 00:08:52,282 --> 00:08:54,117 {\an8}(แฟรงค์ เมอร์ฟี่ เนวิเกเตอร์ฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 139 00:08:54,117 --> 00:08:55,994 {\an8}เพื่อเข้าร่วมกับกองทัพอากาศที่แปด 140 00:08:57,955 --> 00:09:01,083 ก่อนออกเดินทางเขาบอกว่า 141 00:09:01,875 --> 00:09:04,503 "มองซ้ายมองขวาให้ดีๆ นะ 142 00:09:04,503 --> 00:09:06,672 จะมีคนได้กลับมาแค่คนเดียว" 143 00:09:07,256 --> 00:09:09,508 พวกเราจะบินไปตาย 144 00:09:25,357 --> 00:09:28,777 ตอนลูกเรือฝูงบินที่ 100 เพิ่งมาถึงฐานทัพใหม่ 145 00:09:28,777 --> 00:09:32,364 ในชนบททางตะวันออกของอังกฤษ สงครามยุโรปก็เข้าสู่ช่วงใหม่ 146 00:09:32,364 --> 00:09:33,991 (ธอร์ปแอบบ็อตส์ อีสต์แองเกลีย อังกฤษ) 147 00:09:33,991 --> 00:09:36,535 เป็นช่วงต้นๆ ของแผนพอยต์แบลงก์ 148 00:09:36,535 --> 00:09:38,996 คือการทิ้งระเบิดทั้งวันทั้งคืน 149 00:09:38,996 --> 00:09:42,165 อเมริกันลงมือตอนกลางวัน ส่วนอังกฤษลงมือตอนกลางคืน 150 00:09:42,666 --> 00:09:47,004 มีวัตถุประสงค์เพื่อครอบครองน่านฟ้า ทางตอนเหนือของยุโรป 151 00:09:47,004 --> 00:09:49,590 ให้ได้ก่อนวันดีเดย์ในฤดูใบไม้ผลิปีต่อมา 152 00:09:50,591 --> 00:09:53,302 ถ้ายังครอบครองน่านฟ้าไม่ได้ ฝ่ายสัมพันธมิตรก็บุกเข้ายุโรปไม่ได้ 153 00:09:53,302 --> 00:09:54,636 (ธอร์ปแอบบ็อตส์ อีสต์แองเกลีย อังกฤษ) 154 00:09:54,636 --> 00:09:56,096 (กองบัญชาการฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 155 00:09:58,223 --> 00:10:01,894 เราเพิ่งถึง เพิ่งได้ทําความรู้จักกัน 156 00:10:01,894 --> 00:10:04,438 {\an8}นักบินที่ชื่อคิงก็ถามว่า "ก่อนหน้านี้คุณทําอะไรมา" 157 00:10:04,438 --> 00:10:06,356 {\an8}(ริชาร์ด ซี. คิง นักบินฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 158 00:10:06,356 --> 00:10:09,318 {\an8}ผมบอกว่า "อ๋อ ก่อนหน้านี้ผมเป็นคาวบอย" 159 00:10:09,318 --> 00:10:11,278 {\an8}(โอเว่น "คาวบอย" โรน นักบินฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 160 00:10:11,278 --> 00:10:15,032 {\an8}เขาบอกว่า "โอเค งั้นผมจะเรียกคุณว่าคาวบอย" 161 00:10:15,949 --> 00:10:17,826 ฝูงบินที่ 100 มีแต่เด็กหนุ่มๆ 162 00:10:17,826 --> 00:10:20,913 ผู้บัญชาการก็วัยรุ่นหัวร้อนพอกัน 163 00:10:20,913 --> 00:10:22,915 {\an8}ชื่อเกล เคลเว็นเป็นหัวหน้าหน่วยบิน 164 00:10:22,915 --> 00:10:24,416 {\an8}(เกล "บั๊ค" เคลเว็น นักบินฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 165 00:10:24,416 --> 00:10:26,084 {\an8}และรองผู้บังคับฝูงชื่อจอห์น อีแกน 166 00:10:26,084 --> 00:10:27,544 {\an8}(จอห์น "บั๊คกี้" อีแกน นักบินฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 167 00:10:27,544 --> 00:10:30,088 {\an8}อีแกนกับเคลเว็นไม่ต้องบิน เพราะเป็นผู้นําหน่วยบิน แต่ก็บินตลอด 168 00:10:30,088 --> 00:10:31,507 {\an8}(โดนัลด์ แอล. มิลเลอร์ ผู้เขียน MASTERS OF THE AIR) 169 00:10:31,507 --> 00:10:33,300 {\an8}ลูกน้องถึงชื่นชมพวกเขา 170 00:10:33,300 --> 00:10:38,180 บั๊ค เคลเว็น กับบั๊คกี้ อีแกนชอบผูกผ้าพันคอ 171 00:10:38,180 --> 00:10:41,517 แล้วชอบใส่หมวกเป๋ไปข้างนึง 172 00:10:41,517 --> 00:10:43,519 วางท่าเต๊ะจุ๊ย 173 00:10:43,519 --> 00:10:46,563 {\an8}ชอบนั่งสโมสรนายทหาร ชอบพูดว่า 174 00:10:46,563 --> 00:10:49,650 {\an8}"เรืออากาศโท แท็กซี่มานี่ ขอคุยด้วยหน่อย" 175 00:10:49,650 --> 00:10:50,734 {\an8}(หน่วยบินทิ้งระเบิดที่ 350 จุดที่ 4) 176 00:10:50,734 --> 00:10:52,361 {\an8}จอห์น อีแกน เกล เคลเว็น 177 00:10:52,361 --> 00:10:55,322 {\an8}เป้าหมายในชีวิตของพวกเขาคือการขับเครื่องบิน 178 00:10:55,322 --> 00:10:56,823 แล้วพวกเขาก็ได้ขับเครื่องบิน 179 00:10:56,823 --> 00:10:59,243 {\an8}ทําสิ่งที่พวกเขารัก เพื่อประเทศที่พวกเขารัก... 180 00:10:59,243 --> 00:11:00,160 {\an8}(เซธ แพริดัน นักประวัติศาสตร์) 181 00:11:00,160 --> 00:11:01,495 {\an8}ทําภารกิจที่พวกเขาเชื่อมั่น 182 00:11:02,538 --> 00:11:05,040 เคลเว็นกับอีแกนจะช่วยนําฝูงบินที่ 100 183 00:11:05,040 --> 00:11:09,586 ปะทะกองทัพอากาศที่น่าเกรงขามที่สุดในโลก อย่างลุฟท์วัฟเฟอของเยอรมัน 184 00:11:09,586 --> 00:11:14,299 ที่นักบินรุ่นเก๋าเคยประจักษ์มาแล้วใน สเปน นอร์เวย์ โปแลนด์ 185 00:11:14,299 --> 00:11:19,680 ฝรั่งเศส รัสเซีย กรีซแอฟริกาเหนือ และอังกฤษ 186 00:11:20,180 --> 00:11:23,058 {\an8}เดี๋ยวพวกเขาก็เข้าใจว่าตัวเองประเมินผิด... 187 00:11:23,058 --> 00:11:24,142 {\an8}(แฟรงคลิน ดี. โรเซอเวลต์) 188 00:11:24,142 --> 00:11:26,019 {\an8}(ปธน.สหรัฐ การแถลงนโยบายประจําปีต่อรัฐสภาปี 1943) 189 00:11:26,019 --> 00:11:30,649 {\an8}ว่าเหล่านาซีจะมี กําลังรบทางอากาศเหนือกว่าไปตลอด 190 00:11:31,191 --> 00:11:35,362 ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว 191 00:11:35,946 --> 00:11:41,326 เราเชื่อว่าเหล่านาซี กับพวกฟาสซิสต์หาเรื่องเจ็บตัว 192 00:11:41,326 --> 00:11:43,328 และเราจะสนองให้ 193 00:11:47,791 --> 00:11:48,834 (มิถุนายน 1943) 194 00:11:50,085 --> 00:11:51,795 (หนึ่งปีก่อนดีเดย์) 195 00:11:52,379 --> 00:11:55,007 เรืออากาศเอกเคิร์ก เรืออากาศเอกธอมป์สัน เรืออากาศโทบุชก้า 196 00:11:55,007 --> 00:11:57,426 ไอเวอร์สัน, ฮอลโลเวย์, และฮอว์เคอร์ส เตรียมบิน 197 00:11:57,426 --> 00:11:58,343 ตื่นได้แล้ว 198 00:12:02,014 --> 00:12:04,391 ผู้บัญชาการฝูงบินจะเดินขึ้นไปหน้าห้อง 199 00:12:05,225 --> 00:12:07,519 แล้วจะ ดึงม่านขึ้น 200 00:12:07,519 --> 00:12:10,063 {\an8}เราจะเห็นริบบิ้นสีแดงจาก ธอร์ปแอบบ็อตส์ยาวไปถึงเป้าหมาย 201 00:12:10,063 --> 00:12:12,566 {\an8}(บรูซ อัลส์เฮาส์ พลปืนหางฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 202 00:12:13,817 --> 00:12:16,653 เป้าหมายคือกลุ่มอาคารตรงนี้ 203 00:12:17,404 --> 00:12:19,990 อาคารเหล่านี้เป็นจุดเล็ง 204 00:12:20,532 --> 00:12:24,161 ถ้าคุณกระหน่ําทิ้งระเบิดบริเวณนี้ 205 00:12:24,161 --> 00:12:27,539 ก็ควรจะทําลายโรงงานได้ราบคาบ 206 00:12:35,214 --> 00:12:38,967 พอลงจากรถจี๊ป เอาของไปเก็บ 207 00:12:38,967 --> 00:12:40,969 {\an8}ก็ปีนขึ้นเครื่อง จัดที่จัดทาง ก็สตาร์ตเครื่องเลย 208 00:12:40,969 --> 00:12:42,304 {\an8}(โรเบิร์ต โวล์ฟ นักบินฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 209 00:12:55,609 --> 00:12:57,653 แผนการบินแบบป้องกันตนเอง 210 00:12:57,653 --> 00:13:00,322 เรียกว่าคอมแบตบ็อกซ์ 211 00:13:00,322 --> 00:13:04,826 เครื่องบินลําหนึ่งมีปืนทั้งหมด 13 กระบอก 212 00:13:04,826 --> 00:13:09,206 ยิงต่อสู้เครื่องบินศัตรูได้เป็นจํานวนมาก 213 00:13:10,582 --> 00:13:13,252 ธันเดอร์โบลต์พร้อมที่ลานจอด 214 00:13:18,382 --> 00:13:20,592 เพื่อไปเจอกลุ่มเครื่องบินทิ้งระเบิด 215 00:13:20,592 --> 00:13:23,971 ทั้งสองกลุ่มนัดกันเหนือช่องแคบอังกฤษ 216 00:13:23,971 --> 00:13:27,474 พอเครื่องบินรบบินรอบขบวนเครื่องบินทิ้งระเบิด 217 00:13:27,474 --> 00:13:30,310 ฝูงบินก็เคลื่อนที่เข้าหาศัตรู 218 00:13:32,229 --> 00:13:35,607 เครื่องบินทิ้งระเบิดได้รับการคุ้มกันจาก 219 00:13:35,607 --> 00:13:39,528 เครื่องบินรบที่ปราดเปรียว อย่าง P-47 ธันเดอร์โบลต์ 220 00:13:39,528 --> 00:13:42,990 ที่มีถังเชื้อเพลิงขนาดเล็ก จึงต้องแยกกับเครื่องบินทิ้งระเบิด 221 00:13:42,990 --> 00:13:45,492 เมื่อบินลึกเข้าไปในเยอรมนี 222 00:13:45,492 --> 00:13:47,452 พอเจอสภาพอากาศแปลกๆ 223 00:13:47,452 --> 00:13:52,416 ลูกเรือจึงต้องใส่ชุดพิเศษปกปิดร่างกาย ใช้อุปกรณ์พิเศษ 224 00:13:52,416 --> 00:13:54,209 หายใจโดยอัดออกซิเจนเข้าปอด 225 00:13:54,209 --> 00:13:57,254 เพื่อให้ยังมีชีวิตรอดไปได้ 226 00:13:57,254 --> 00:14:00,591 พอบินขึ้นไปถึงระดับหนึ่ง เราก็ต้องใช้ออกซิเจน 227 00:14:00,591 --> 00:14:03,135 เลยต้องมีหน้ากากออกซิเจนติดไว้ตลอด 228 00:14:03,135 --> 00:14:05,012 อากาศก็เย็นยะเยียบ 229 00:14:05,012 --> 00:14:07,431 อุณหภูมิเลวร้าย 230 00:14:07,431 --> 00:14:11,310 เราทํางานในอุณหภูมิลบ 50 หรือ 60 องศา 231 00:14:17,941 --> 00:14:21,153 ระยะบินของเครื่องบินรบคุ้มกัน B-17 232 00:14:21,153 --> 00:14:25,282 ไปไม่ถึงเป้าหมายในประเทศเยอรมนี 233 00:14:25,282 --> 00:14:27,534 เครื่องบินรบสัมพันธมิตรจึงแยกกลับอังกฤษ 234 00:14:35,334 --> 00:14:39,129 ผมยังจําตอนข้ามช่องแคบอังกฤษได้ 235 00:14:39,129 --> 00:14:43,383 พอมองลงไปก็พบว่าเราอยู่ในน่านฟ้าของศัตรูแล้ว 236 00:14:43,383 --> 00:14:45,427 ตอนนั้นเหมือนมีอะไรติดคอ 237 00:14:45,427 --> 00:14:46,845 ผมใจสั่น 238 00:14:49,681 --> 00:14:51,683 มีจุดดําๆ จากปืนฟลาก 239 00:14:51,683 --> 00:14:53,977 ลอยขึ้นมาจากปืนต่อสู้อากาศยานข้างล่าง 240 00:14:54,770 --> 00:14:56,939 ปืนฟลากคือปืนเยอรมัน 88 มม. 241 00:14:56,939 --> 00:15:00,067 ที่ยิงขีปนาวุธได้สูงถึง 12 กิโลเมตร 242 00:15:00,067 --> 00:15:05,197 ขีปนาวุธจะระเบิดบนฟ้า ทําให้เศษกระสุนกระจายตัว 243 00:15:07,574 --> 00:15:10,661 ตัวถังเครื่องบินไม่ใช่เหล็ก แต่เป็นอลูมิเนียม 244 00:15:10,661 --> 00:15:13,121 แปลว่าเศษจากปืนฟลากเจาะทะลุเครื่องบิน 245 00:15:15,249 --> 00:15:20,337 เกิดมาผมเพิ่งเคยเห็นปืนต่อสู้อากาศยาน 246 00:15:20,337 --> 00:15:23,298 มันน่ากลัวมาก 247 00:15:28,053 --> 00:15:31,682 เราต้องเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้าม 248 00:15:31,682 --> 00:15:36,061 ที่ทั้งมีประสบการณ์ อาวุธครบมือ และฝึกมาเป็นอย่างดี 249 00:15:36,061 --> 00:15:39,857 พวกเขามือโปร พวกเราเพิ่งมาเป็นทหาร 250 00:15:43,902 --> 00:15:46,488 พอบินเข้าไปใกล้เป้าหมาย 251 00:15:46,488 --> 00:15:50,200 พลทิ้งระเบิดกรอกค่าตัวแปร เช่นความเร็วลม และกระแสลม 252 00:15:50,200 --> 00:15:51,910 ลงไปในเครื่องเล็งเป้ายิงนอร์เดน 253 00:15:51,910 --> 00:15:55,455 เครื่องเล็งเป้าลับสุดยอดที่สามารถนําเครื่องบิน 254 00:15:55,455 --> 00:15:59,001 ไปยังจุดทิ้งระเบิดที่เหมาะสมที่สุดได้ 255 00:15:59,585 --> 00:16:02,546 เครื่องเล็งเป้ายิงนอร์เดนควรจะแม่นยํามาก 256 00:16:02,546 --> 00:16:07,801 จนทิ้งระเบิดจากความสูงหกเมตร ลงไปในถังหมักแตงกวาได้เลย 257 00:16:10,596 --> 00:16:12,055 ตอนทิ้งระเบิด 258 00:16:12,055 --> 00:16:14,099 {\an8}ผมจะเห็นระเบิดก่อนตกจากเครื่อง... 259 00:16:14,099 --> 00:16:15,517 {\an8}(จีน แบงสตัน พลปลดระเบิดฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 260 00:16:15,517 --> 00:16:17,644 แต่ชะโงกดูทางจมูกเครื่องบินใสๆ 261 00:16:17,644 --> 00:16:21,231 ก็เห็นระเบิดตกจากเครื่องบินเหมือนกัน 262 00:16:21,231 --> 00:16:25,569 พอระเบิด เราก็เห็นตอนระเบิด 263 00:16:25,569 --> 00:16:27,237 เครื่องบินทิ้งระเบิดลําแรกไปถึง 264 00:16:27,237 --> 00:16:30,574 เป้าหมายบางส่วนโดนไฟโหมปกคลุมอยู่ 265 00:16:31,366 --> 00:16:34,912 เรายิงโดนโรงงานไฟฟ้า เรือดําน้ําที่กําลังสร้าง 266 00:16:34,912 --> 00:16:36,955 โดนแม้กระทั่งเรืออูในน้ํา 267 00:16:38,957 --> 00:16:40,375 มีเครื่องบินรบสองลํา 268 00:16:40,375 --> 00:16:43,045 โจมตีเราตอนทิ้งระเบิด แต่ทุกคนปลอดภัย 269 00:16:43,629 --> 00:16:45,714 {\an8}ผมคิดว่า "มันก็ไม่แย่นี่" 270 00:16:48,509 --> 00:16:52,221 ภารกิจช่วงแรกๆ ของฝูงบินที่ 100 อยู่แถวชายฝั่ง 271 00:16:52,221 --> 00:16:55,432 เช่นจุดจอดเรือดําน้ํา และโรงงานในฝรั่งเศสกับนอร์เวย์ 272 00:16:55,432 --> 00:16:57,434 (แซ็งนาแซร์ - เลอม็อง - ปารีส ลีล - เบรเมน - ฮัมบวร์ค) 273 00:16:57,434 --> 00:16:59,770 กองทัพอากาศพยายามทําลาย 274 00:16:59,770 --> 00:17:02,147 เครื่องจักรสงครามของนาซีเยอรมนี 275 00:17:02,147 --> 00:17:05,442 โรงงานผลิตเครื่องบิน ผลิตรถถัง 276 00:17:05,442 --> 00:17:07,194 โรงงานผลิตตลับลูกปืน 277 00:17:07,778 --> 00:17:09,488 ที่ลานจอดเครื่องบินในอังกฤษ 278 00:17:09,488 --> 00:17:11,114 หลังการสู้รบเสร็จสิ้นลง 279 00:17:12,199 --> 00:17:14,826 เครื่องบินหลายลําเสียหาย 280 00:17:14,826 --> 00:17:19,164 บางลําก็ปีกหัก หรือใช้อุปกรณ์ร่อนลงไม่ได้ 281 00:17:20,249 --> 00:17:23,210 ใครๆ ก็รู้ว่าเครื่อง B-17 เชื่อถือได้และปลอดภัย 282 00:17:23,210 --> 00:17:24,502 พังแค่ไหนก็กลับบ้านได้ 283 00:17:24,502 --> 00:17:26,630 ต่อให้เครื่องยนต์พังไปสามเครื่อง 284 00:17:26,630 --> 00:17:30,050 ต่อให้แพนหางแนวตั้งเหลือครึ่งเดียว 285 00:17:30,050 --> 00:17:31,176 ก็กลับบ้านได้ 286 00:17:31,176 --> 00:17:34,054 มีสองเครื่องยนต์ก็กลับบ้านได้ 287 00:17:34,054 --> 00:17:35,472 {\an8}ผมเคยเห็นเครื่องยนต์เดียวก็กลับได้ 288 00:17:35,472 --> 00:17:36,557 {\an8}(โธมัส เจฟฟรีย์ ผู้บัญชาการฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 289 00:17:37,307 --> 00:17:38,559 (17 สิงหาคม 1943) 290 00:17:39,059 --> 00:17:40,727 (สิบเดือนก่อนดีเดย์) 291 00:17:40,727 --> 00:17:42,646 (ห้องประชุม - ผู้ไม่ได้รับอนุญาตห้ามเข้า) 292 00:17:42,646 --> 00:17:44,940 สถานการณ์กําลังจะเปลี่ยนแปลง 293 00:17:44,940 --> 00:17:47,568 เมื่อกองทัพอากาศที่แปด กับกองกําลังที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 294 00:17:47,568 --> 00:17:51,363 โจมตีโรงงานตลับลูกปืนในชไวน์เฟิร์ต 295 00:17:51,363 --> 00:17:54,241 กับโรงงานเมสเซอร์ชมิตต์ ในเรเกนสเบิร์กพร้อมกัน 296 00:17:54,241 --> 00:17:58,203 เป้าหมายที่มีความคุ้มกันแน่นหนาในเยอรมนี 297 00:17:58,203 --> 00:18:01,498 ฝูงบินที่ 100 ได้รับมอบหมายให้โจมตีเรเกนสเบิร์ก 298 00:18:02,165 --> 00:18:04,960 พอเปิดม่านดูแผนที่ 299 00:18:04,960 --> 00:18:07,963 จะเห็นเส้นสีแดงโยงไปทั่วเยอรมนี 300 00:18:07,963 --> 00:18:10,048 {\an8}เราคิดว่า "แม่เจ้า" 301 00:18:10,716 --> 00:18:13,427 ดูแล้วเป็นแผนที่ชาญฉลาดมาก 302 00:18:13,427 --> 00:18:14,344 มีทั้ง... 303 00:18:14,344 --> 00:18:15,929 {\an8}(นาวาอากาศเอกเคอร์ติส ลีเมย์ ผู้บัญชาการ) 304 00:18:15,929 --> 00:18:19,057 {\an8}กองพลบินทิ้งระเบิดที่สามของเคอร์ติส ลีเมย์ 305 00:18:19,057 --> 00:18:23,270 โจมตีโรงงานเมสเซอร์ชมิตต์ ในเรเกนสเบิร์กแล้วมุ่งหน้าไปแอฟริกา 306 00:18:23,270 --> 00:18:27,232 หลังจากพวกเขาสิบนาที ก็จะมีกองพลบินทิ้งระเบิดที่หนึ่ง 307 00:18:27,232 --> 00:18:30,068 {\an8}เข้าไปโจมตีโรงงานตลับลูกปืนในชไวน์เฟิร์ต 308 00:18:30,068 --> 00:18:31,653 {\an8}แล้วบินกลับอังกฤษ 309 00:18:31,653 --> 00:18:35,032 {\an8}พวกเยอรมันจึงต้องเลือกว่าจะสู้กับกลุ่มไหน 310 00:18:35,032 --> 00:18:37,784 {\an8}ปัญหาเซอร์ไพรส์ คือเดือนสิงหาคมอังกฤษหมอกหนา 311 00:18:37,784 --> 00:18:39,703 {\an8}(ดร. คอนราด ซี. เครน - SSI อาวุโส นักประวัติศาสตร์วิทยาลัยการทัพบก) 312 00:18:41,205 --> 00:18:42,623 เช้าวันนั้นเราออกไป 313 00:18:42,623 --> 00:18:47,169 {\an8}ผมต้องใช้ตะเกียง ไฟฉาย เอาเครื่องบินขึ้น 314 00:18:48,086 --> 00:18:51,423 ผมไปรวมฝูงสายสิบนาที แต่ก็เอาเครื่องขึ้นได้ 315 00:18:51,423 --> 00:18:54,426 เคอร์ติส ลีเมย์ฝึกกองพลบินทิ้งระเบิด 316 00:18:54,426 --> 00:18:56,512 ให้เอาเครื่องขึ้นท่ามกลางหมอก 317 00:18:56,512 --> 00:18:59,014 แต่กองพลบินอื่นไม่ได้ฝึก 318 00:18:59,014 --> 00:19:02,643 ตอนนั้นทหารของลีเมย์ เลยเอาเครื่องขึ้นได้ทั้งหมด 319 00:19:02,643 --> 00:19:05,020 แต่กองพลบินอื่นยังไม่ได้เอาเครื่องขึ้นด้วยซ้ํา 320 00:19:05,771 --> 00:19:08,774 สุดท้ายแทนที่จะห่างกันสิบนาที ดันกลายเป็นสองชั่วโมง 321 00:19:11,235 --> 00:19:14,112 ฝ่ายเยอรมันถ่ายความไวของเครื่องรุ่น 109 322 00:19:14,112 --> 00:19:17,157 และฟ็อกเคอวัลฟ์ 190 หลังได้รับสัญญาณเตือนแจ้ง 323 00:19:17,658 --> 00:19:21,036 พวกเขามีเวลารวมพล เครื่องบินรบที่จุดโจมตีเหลือเฟือ 324 00:19:21,036 --> 00:19:24,790 แถมยังมีเครื่องบินคุ้มกัน เยอะกว่าเราแบบ 2:1 ถึง 10:1 325 00:19:27,960 --> 00:19:30,963 วันนั้นอากาศดีมาก ผมบินข้ามช่องแคบ 326 00:19:31,755 --> 00:19:32,840 พอถึงชายฝั่งดัตช์ 327 00:19:32,840 --> 00:19:35,133 ก็เหมือนโลกระเบิดแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย 328 00:19:36,176 --> 00:19:38,136 กินเวลานานสองชั่วโมง 329 00:19:41,014 --> 00:19:44,184 ตอนที่ฝึกเราอาจจะโดนกรอกหูมา 330 00:19:44,184 --> 00:19:46,728 ว่าเราเอาชนะเครื่องบินรบของเยอรมันได้ 331 00:19:46,728 --> 00:19:50,107 พอมาเจอกับตัวถึงรู้ว่าไม่จริง 332 00:19:50,983 --> 00:19:55,153 {\an8}เจอทั้งปืนฟลาก เจอทั้งเครื่องบินรบ กระหน่ําไม่จบไม่สิ้น 333 00:19:55,153 --> 00:19:59,867 {\an8}ผมได้ยินพลปืนป้อมบนยิงปืนกลออกไป 334 00:20:00,534 --> 00:20:04,246 เครื่องเคลเว็นโดนยิงหกแผล 335 00:20:04,246 --> 00:20:07,249 ระบบไฮดรอลิกพัง เครื่องยนต์พังไปหนึ่ง 336 00:20:07,833 --> 00:20:09,501 ห้องนักบินโดนไฟไหม้ 337 00:20:09,501 --> 00:20:13,589 เคลเว็นหันไปมองพลปืนวิทยุ 338 00:20:13,589 --> 00:20:15,883 ปรากฏว่าไม่เห็นขาเขา 339 00:20:15,883 --> 00:20:17,050 โดนยิงขาดไปแล้ว 340 00:20:19,887 --> 00:20:22,014 ผมยังจําได้ว่ามีเครื่องนึง 341 00:20:22,014 --> 00:20:24,808 ไฟปะทุออกมาจากทุกอณูของตัวเครื่อง 342 00:20:26,810 --> 00:20:29,521 มันตามหลอกหลอนผมในฝันอยู่นานเลย 343 00:20:30,564 --> 00:20:32,399 ลูกเรือทุกคนในเครื่องบินลําน้ัน 344 00:20:32,399 --> 00:20:35,611 สู้เพื่อประชาธิปไตยและอิสรภาพโดยแท้ 345 00:20:35,611 --> 00:20:39,198 แต่ตอนอยู่ในสมรภูมิรบเนี่ย คุณสู้เพื่อใครล่ะ 346 00:20:39,198 --> 00:20:41,992 คนที่อยู่ข้างซ้าย ข้างขวา 347 00:20:41,992 --> 00:20:44,328 ข้างหน้า แล้วก็ข้างหลังไง 348 00:20:44,328 --> 00:20:45,746 คือสู้เพื่อทุกคนในเครื่องบิน 349 00:20:48,707 --> 00:20:53,545 เคลเว็นนั่งอยู่ในห้องนักบิน แล้วนักบินร่วมพูดประมาณว่า 350 00:20:53,545 --> 00:20:55,672 "สละเครื่องเถอะ กดปุ่มสละเครื่อง" 351 00:20:55,672 --> 00:20:57,841 เคลเว็นบอกว่า "เราต้องไปให้ถึงเป้าหมาย 352 00:20:57,841 --> 00:21:00,093 ขอทิ้งระเบิดให้เสร็จก่อน" 353 00:21:00,093 --> 00:21:05,432 ก่อนถึงเป้าหมายห้านาที ทุกอย่างหยุดนิ่ง 354 00:21:05,432 --> 00:21:07,392 ไม่มีเครื่องบินรบ ไม่มีปืนฟลาก เงียบกริบ 355 00:21:08,227 --> 00:21:10,812 เราทิ้งระเบิดสําเร็จ 356 00:21:13,982 --> 00:21:16,068 เชื้อเพลิงลดถึงขีดอันตราย 357 00:21:16,068 --> 00:21:21,240 กลุ่มที่โจมตีเรเกนสเบิร์ก กัดฟันบินข้ามเทือกเขาแอลป์ไปถึงแอฟริกาเหนือ 358 00:21:21,240 --> 00:21:25,953 ส่วนกลุ่มชไวน์เฟิร์ตบินเข้าใจกลางลุฟท์วัฟเฟอ 359 00:21:26,828 --> 00:21:30,207 แปลว่าเยอรมันได้โอกาสล้างแค้นพวกลีเมย์ 360 00:21:30,207 --> 00:21:33,544 มีเวลาเอาเครื่องลง เอนหลัง เติมอาวุธ เติมเชื้อเพลิง 361 00:21:33,544 --> 00:21:35,420 เสร็จแล้วก็ออกไปยิงกลุ่มชไวน์เฟิร์ต 362 00:21:39,174 --> 00:21:44,513 กองทัพลุฟท์วัฟเฟอ รุมกินโต๊ะกลุ่มชไวน์เฟิร์ตจนย่อยยับ 363 00:21:51,812 --> 00:21:53,939 ฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100 364 00:21:54,523 --> 00:21:58,652 ไปถึงแอฟริกาเหนือตอนพลบค่ําในสภาพอิดโรย 365 00:21:59,194 --> 00:22:01,530 แต่ยังโชคดีที่รอดมาได้ 366 00:22:02,906 --> 00:22:05,784 ผู้บัญชาการที่สั่งให้ทหารสู้ 367 00:22:05,784 --> 00:22:07,744 ทั้งที่เสียเปรียบ 368 00:22:07,744 --> 00:22:10,038 และอาวุธก็ไม่พร้อมรบ... 369 00:22:10,038 --> 00:22:11,790 {\an8}(พล.อ.ท. (เกษียณ) ไอรา อีเคอร์ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศที่แปด) 370 00:22:11,790 --> 00:22:15,794 {\an8}แถมเทรนมาก็น้อย เรียกว่าพุ่งชนปัญหาจนมึนไปเลย 371 00:22:16,920 --> 00:22:19,131 มันเหมือนการส่งนักโทษไปตาย 372 00:22:23,594 --> 00:22:28,932 {\an8}เครื่องผมแตะแผ่นดินอังกฤษในฤดูร้อนปี 1943 373 00:22:30,184 --> 00:22:33,520 {\an8}แล้วก็โดนส่งเข้าฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100 เลย 374 00:22:33,520 --> 00:22:36,481 โรซี่ โรเซนธอล มาถึงฝูงบิน 375 00:22:36,481 --> 00:22:40,736 ในฐานะลูกเรือแทนพวกที่หายตัวไป 376 00:22:41,320 --> 00:22:45,324 อีแกนได้ข่าวว่าคนชื่อโรซี่ขับเครื่องบินเก่ง 377 00:22:45,324 --> 00:22:48,952 อีแกนเลยลากเขาไปขับเครื่องบินรัวๆ 378 00:22:48,952 --> 00:22:51,038 แล้วบอกว่า "คุณมาอยู่หน่วยผม" 379 00:22:54,875 --> 00:22:56,668 ผมบังเอิญไปที่บาร์ 380 00:22:56,668 --> 00:23:03,258 นั่งจิบเหล้าตามปกติ แล้วรู้สึกว่ามีคนมาแตะบ่า 381 00:23:03,759 --> 00:23:06,887 พอหันไปก็เจอผู้บัญชาการหน่วยบิน 382 00:23:07,471 --> 00:23:10,390 เขาบอกว่า "กลับไปนอนเถอะลัคกี้ 383 00:23:11,058 --> 00:23:12,392 พรุ่งนี้คุณต้องบิน" 384 00:23:13,060 --> 00:23:14,561 (ตุลาคม 1943) 385 00:23:15,062 --> 00:23:16,438 (แปดเดือนก่อนดีเดย์) 386 00:23:16,438 --> 00:23:20,234 วันที่ 8 ตุลาคม อากาศที่เยอรมนีเริ่มสดใส 387 00:23:20,234 --> 00:23:24,238 ทหารอเมริกันกระหน่ําทําภารกิจ 388 00:23:24,238 --> 00:23:27,366 ทําลายโรงงานผลิตเครื่องบินกันเต็มสูบ 389 00:23:28,158 --> 00:23:31,870 ทหารอากาศเรียกช่วงเวลานั้นว่าแบล็กวีก 390 00:23:32,579 --> 00:23:36,375 วันที่ 8 ตุลาคมมีเครื่องบิน ออกจากสหราชอาณาจักร 391 00:23:36,375 --> 00:23:38,877 เพื่อไปโจมตีเบรเมนกับวีเกอซัคทั้งหมด 855 ลํา 392 00:23:38,877 --> 00:23:41,713 ขนระเบิดไปทั้งหมด 1.1 ล้านกิโลกรัม 393 00:23:41,713 --> 00:23:44,591 กระสุน 2,750,000 นัด 394 00:23:46,510 --> 00:23:50,013 ตอนบินออกจากจุดทิ้งระเบิด 395 00:23:50,013 --> 00:23:56,353 หางตาผมเห็นว่ามี เครื่อง Fw 190 สองลําเล็งมาทางเรา 396 00:23:56,353 --> 00:23:59,815 ยิงเครื่องบินลํานึงตกต่อหน้าต่อตาผม 397 00:23:59,815 --> 00:24:03,735 จนหน่วยบินเราเสียขบวน แล้วเครื่องบินลํานั้นก็ระเบิด 398 00:24:05,070 --> 00:24:06,738 ยับเยินกันทั้งหน่วย 399 00:24:06,738 --> 00:24:10,617 เราโดนยิงจนเสียขบวน เครื่องยนต์ที่สามไฟไหม้ 400 00:24:11,869 --> 00:24:13,370 เคลเว็นพยายามขยับขึ้นมา 401 00:24:13,370 --> 00:24:16,498 บินนําฝูงบิน จนทําให้โดนยิงตก 402 00:24:17,833 --> 00:24:18,959 เคลเว็นโดนยิง 403 00:24:19,668 --> 00:24:21,670 โกลาหลกันทั้งลํา 404 00:24:21,670 --> 00:24:23,589 ห้องนักบินไฟไหม้ ต้องสละเครื่อง 405 00:24:27,384 --> 00:24:28,927 เกล เคลเว็นโดนยิงตก 406 00:24:28,927 --> 00:24:33,098 ตอนนั้นทุกคน ในฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100 เคว้งคว้างมาก 407 00:24:33,098 --> 00:24:36,476 เพราะทุกคนคิดว่าเขาเสียชีวิตแล้ว 408 00:24:37,811 --> 00:24:43,317 นั่นเป็นครั้งแรก ที่ผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะรอดกลับไป 409 00:24:44,318 --> 00:24:49,114 {\an8}โรซี่สริเวเตอร์สโดนทําลายเสียหายหนัก 410 00:24:49,114 --> 00:24:51,325 เครื่องยนต์ดับไปสองเครื่อง 411 00:24:53,160 --> 00:24:54,912 พอทิ้งระเบิดเสร็จ 412 00:24:54,912 --> 00:24:58,665 ผมก็บินนําพวกที่เหลือกลับฐาน 413 00:24:58,665 --> 00:25:01,084 ซึ่งมีกันอยู่แค่หกลํา 414 00:25:04,379 --> 00:25:08,425 สูญเสียลูกเรือไปขนาดนั้นในวันเดียว ขวัญและกําลังใจจะเหลือแค่ไหน 415 00:25:09,009 --> 00:25:11,303 พวกเขาใช้วิธีเคลียร์โรงนอน 416 00:25:11,303 --> 00:25:13,388 พอเครื่องบินตก ก็ขนทุกอย่างออกไป 417 00:25:13,388 --> 00:25:15,933 เดินเข้ามาจะได้เห็นแต่โรงนอนโล่งๆ 418 00:25:17,267 --> 00:25:20,771 อีแกนหยุดไปเที่ยวลอนดอน 419 00:25:20,771 --> 00:25:23,565 ระหว่างนั้นก็ได้ข่าวว่าเคลเว็นโดนยิงตก 420 00:25:24,816 --> 00:25:28,695 อีแกนเลือดขึ้นหน้าจนหมดอารมณ์เที่ยว 421 00:25:28,695 --> 00:25:33,450 กลับไปบอกที่ฐานว่า "ผมจะนําภารกิจต่อไปเอง" 422 00:25:34,201 --> 00:25:37,162 แผนโจมตีมุนสเตอร์เป็นแผนทําลายเมือง 423 00:25:37,162 --> 00:25:39,289 เป็นแผนที่กองทัพอากาศที่แปดคิดขึ้นมาใหม่ 424 00:25:39,289 --> 00:25:43,710 ยุทธการนี้จะทําลาย ลานจอดรถไฟและใจกลางเมือง 425 00:25:43,710 --> 00:25:47,589 รวมถึงย่านที่พักพนักงานขับรถไฟที่อยู่ติดกันด้วย 426 00:25:48,215 --> 00:25:53,345 แผนทําลายล้างนาซีบ้าอํานาจ เป้าหมายคือชีวิตมนุษย์ 427 00:25:53,345 --> 00:25:56,557 และโรงงานผลิตอาวุธในเยอรมนี 428 00:25:56,557 --> 00:25:58,559 มีการถกเครียด 429 00:25:58,559 --> 00:26:01,645 เป็นครั้งแรกที่ทหารอากาศหลายคน 430 00:26:01,645 --> 00:26:03,105 ไม่เห็นด้วยกับภารกิจ 431 00:26:03,689 --> 00:26:05,607 อีแกนขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ 432 00:26:05,607 --> 00:26:10,279 ภารกิจนี้อุทิศให้เคลเว็น เพื่อแก้แค้น 433 00:26:13,490 --> 00:26:14,700 {\an8}(มุนสเตอร์) 434 00:26:14,700 --> 00:26:19,913 {\an8}เพราะฝูงเราทั้งสูญเสียและเสียหายอย่างหนัก 435 00:26:20,414 --> 00:26:24,376 {\an8}จึงเหลือเครื่องบินปฏิบัติภารกิจแค่ 13 ลํา 436 00:26:26,003 --> 00:26:28,672 {\an8}สําหรับเครื่องบินรบของเยอรมัน 437 00:26:28,672 --> 00:26:34,136 ถ้าขบวนคุณมีช่องโหว่ เช่นมีเครื่องบินแค่ 13 ลําจาก 18 ลํา 438 00:26:34,136 --> 00:26:36,513 ทหารเยอรมันจะโจมตีเป้าหมายอ่อนๆ ก่อน 439 00:26:36,513 --> 00:26:40,767 พอไปถึงเราก็โดน เครื่องบินรบ 200 ลําของเยอรมันรุม 440 00:26:41,351 --> 00:26:46,523 เครื่องรุ่น Me 109 จู่โจมด้านหลัง ฆ่าพลปืนหางของเรา 441 00:26:46,523 --> 00:26:50,360 เศษกระสุนที่ปืนฟลากยิงขีปนาวุธ กระเด็นมาโดนผม 442 00:26:50,360 --> 00:26:51,904 จนสลบคาที่ 443 00:26:51,904 --> 00:26:54,781 ตอนนั้นเครื่องบินเสียเพดานบิน 444 00:26:54,781 --> 00:26:57,034 และกําลังจะตก 445 00:26:57,576 --> 00:27:00,746 เราอยู่บนระดับความสูง ประมาณ 6,400-6,700 เมตร 446 00:27:00,746 --> 00:27:04,833 อยู่สูงจากพื้นดินมาก แต่ผมไม่มีทางเลือก 447 00:27:04,833 --> 00:27:07,252 ผมต้องสละเครื่อง ก็เลยโดด 448 00:27:15,719 --> 00:27:20,140 เครื่องตกในลานจอดเครื่องบิน เรานั่งรอกันอยู่นาน 449 00:27:24,478 --> 00:27:26,855 จนมีคนมารับ 450 00:27:28,023 --> 00:27:30,567 มีเครื่องจากฝูงบินที่ 100 กลับมาแค่ลําเดียว 451 00:27:31,068 --> 00:27:33,904 เป็นเครื่องที่โรเซนธอลขับเอง 452 00:27:33,904 --> 00:27:38,700 แปลว่าเขาเห็นภาพน่าสลดมาไม่น้อย 453 00:27:40,994 --> 00:27:43,872 ที่สโมสรนายทหาร 454 00:27:43,872 --> 00:27:46,792 เงียบเหมือนป่าช้า 455 00:27:46,792 --> 00:27:49,920 มีคนที่ไม่เคยบินทําภารกิจอยู่นิดหน่อย 456 00:27:50,546 --> 00:27:53,173 แต่ไม่มีใครเดินเข้ามาคุย 457 00:27:53,173 --> 00:27:55,092 เราก็เลยเดินออกมาเอง 458 00:27:55,092 --> 00:27:57,594 ตอนนั้นมันแปลกมากครับ 459 00:27:59,179 --> 00:28:04,268 เรารู้สึกสูญเสียเพราะมีเครื่องโดนยิงตก 460 00:28:04,268 --> 00:28:10,899 โดยเฉพาะผม ผมเสียเพื่อนรักไปในภารกิจมุนสเตอร์ 461 00:28:14,486 --> 00:28:17,948 ยิ่งตอนบั๊คกี้ อีแกนกับเคลเว็นโดนยิงตก 462 00:28:17,948 --> 00:28:20,993 ยิ่งทําให้ขวัญและกําลังใจของทุกคนลดฮวบ 463 00:28:20,993 --> 00:28:24,788 เพราะทุกคนมองว่าพวกเขาหนังเหนียว 464 00:28:26,582 --> 00:28:30,544 ตอนนั้นภารกิจมุนสเตอร์ เป็นการรบทางอากาศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 465 00:28:30,544 --> 00:28:33,338 ถือเป็นการโจมตีและต่อสู้ครั้งสําคัญ 466 00:28:33,338 --> 00:28:37,009 ระหว่างสองกองทัพอากาศที่ใหญ่และดุดัน 467 00:28:37,009 --> 00:28:40,888 ฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100 พร้อมนักบิน 140 นาย 468 00:28:40,888 --> 00:28:43,807 มาถึงที่อังกฤษสี่เดือนก่อนภารกิจมุนสเตอร์ 469 00:28:43,807 --> 00:28:48,854 หลังจบภารกิจ เหลือทหารทํางานต่อได้เพียงสามนาย 470 00:28:49,354 --> 00:28:52,065 {\an8}ข้อมูลทํานองนี้แพร่ออกไป 471 00:28:52,065 --> 00:28:54,359 {\an8}คนก็เลยเป็นห่วงเรากันใหญ่ 472 00:28:54,359 --> 00:28:56,361 {\an8}จนเราได้สมญานามว่าฝูงบู๊ที่ 100 473 00:28:58,697 --> 00:29:00,407 คนที่ออกปฏิบัติภารกิจ 474 00:29:00,407 --> 00:29:02,534 จะมีช่วงเวลาสยองอยู่สี่ชั่วโมง 475 00:29:02,534 --> 00:29:04,953 เสร็จงานก็ปั่นจักรยาน หาที่เที่ยวใกล้ๆ ฐาน 476 00:29:04,953 --> 00:29:07,956 ดื่มเบียร์ พาสาวไปเที่ยว กลับฐาน 477 00:29:07,956 --> 00:29:09,291 ชีวิตสงบเรียบง่าย 478 00:29:09,291 --> 00:29:12,461 ตื่นมาก็ขึ้นไปเจอเรื่องสยองต่อเหมือนเดิม 479 00:29:15,047 --> 00:29:22,012 กิจวัตรแบบนี้ทําให้ทหารหลายคนสติแตกมาแล้ว 480 00:29:25,599 --> 00:29:27,100 หลังแบล็กวีก 481 00:29:27,100 --> 00:29:30,270 ขวัญและกําลังใจ ในกองทัพอากาศที่แปดก็ดิ่งลงเหว 482 00:29:30,270 --> 00:29:32,856 ผู้บัญชาการกังวลว่าลูกเรือจะลุกฮือ 483 00:29:33,398 --> 00:29:35,901 มีจดหมายร้องเรียนจากศัลยแพทย์ทหาร 484 00:29:35,901 --> 00:29:40,906 และจิตแพทย์ของกองทัพอากาศหลายคน เรื่องพฤติกรรมไม่ปกติของลูกเรือ 485 00:29:40,906 --> 00:29:46,578 เพราะการออกรบส่งผลให้ ทหารอากาศควบคุมตัวเองไม่ได้ 486 00:29:46,578 --> 00:29:48,664 ผมเคยเห็นบางคน 487 00:29:48,664 --> 00:29:53,961 ควบคุมตัวเองไม่ได้ ถึงขนาดเดินออกจากเครื่องบินไปเลย 488 00:29:54,962 --> 00:29:57,673 พวกนั้นเป็นกลุ่มที่ส่อแวว 489 00:29:57,673 --> 00:30:01,051 มีความอ่อนล้าจากการรบอยู่แล้ว 490 00:30:03,345 --> 00:30:06,098 เราพบว่าหลายคนที่มีอาการทางจิตแบบนี้ 491 00:30:06,098 --> 00:30:07,349 ดีขึ้นเร็วมาก 492 00:30:07,349 --> 00:30:10,269 เมื่อเอาตัวเองออกมา จากสภาพแวดล้อมนั้นชั่วคราว 493 00:30:10,769 --> 00:30:13,397 แต่ตามหลักการก็ขึ้นอยู่กับ 494 00:30:13,397 --> 00:30:16,108 พลังใจในการฟื้นตัวของคนไข้ด้วย 495 00:30:16,108 --> 00:30:19,945 แต่มันจะเพิ่มพูนขึ้นไวมาก หากไม่ต้องอยู่ในโรงพยาบาล 496 00:30:19,945 --> 00:30:22,072 (ฟลากเฮาส์ ออกซ์ฟอร์ด อังกฤษ) 497 00:30:22,072 --> 00:30:26,660 เราจะให้พวกเขาปลีกตัวออกจากสภาพสงคราม 498 00:30:26,660 --> 00:30:30,497 แล้วไปพักผ่อนสักสองสามวัน 499 00:30:30,497 --> 00:30:32,457 ที่แห่งนั้นชื่อฟลากเฮาส์ 500 00:30:33,500 --> 00:30:37,588 ส่วนใหญ่จะได้ผล บางทีก็ไม่ได้ผล 501 00:30:39,089 --> 00:30:41,967 ผู้บัญชาการเจอปัญหานี้กันหมด 502 00:30:41,967 --> 00:30:46,430 เพราะสารเคมีในสมองและจิตใจของบางคน 503 00:30:46,430 --> 00:30:49,141 อะไรพวกนั้น ก็จัดการเรื่องแบบนี้ไม่ได้ 504 00:30:49,808 --> 00:30:53,312 เราต้องรีบดึงคนประเภทนั้นออกไป 505 00:30:53,312 --> 00:30:56,440 จากกลุ่มลูกเรือและฐานทัพ 506 00:30:56,440 --> 00:31:00,611 เพราะมันกระทบต่อทัศนคติของคนอื่นไปด้วย 507 00:31:00,611 --> 00:31:04,448 เราไม่อยากให้ส่งผล ต่อขวัญและกําลังใจของพวกที่ 508 00:31:04,448 --> 00:31:08,660 ต้องออกรบและทําหน้าที่ของตัวเองทุกวัน 509 00:31:10,954 --> 00:31:13,832 ตอนนั้นนอกจากกองทัพอากาศสัมพันธมิตร 510 00:31:13,832 --> 00:31:17,002 จะครองน่านฟ้าเยอรมนีกับยุโรปไม่ได้ 511 00:31:17,002 --> 00:31:18,962 แต่ยังมีแววจะรบทางอากาศแพ้ด้วย 512 00:31:20,422 --> 00:31:23,800 เราไม่ได้ทิ้งระเบิดแม่นทุกครั้งนะ 513 00:31:23,800 --> 00:31:27,095 {\an8}ขนาดวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส บางทีระเบิด 514 00:31:27,095 --> 00:31:29,640 {\an8}ก็ตกห่างจากเป้าหมายไปหลายกิโลเมตร 515 00:31:30,724 --> 00:31:32,351 ระเบิดลงไม่ตรงเป้า 516 00:31:32,351 --> 00:31:35,938 จนพวกเขาตกเป็นเป้าเครื่องบินรบคุ้มกัน 517 00:31:35,938 --> 00:31:38,273 {\an8}ของเยอรมันเสียเอง ทหารฝ่ายเราเลยตายหมู่ 518 00:31:38,273 --> 00:31:39,650 {\an8}(แรนดอล แฮนเซ็น ผู้เขียน FIRE AND FURY) 519 00:31:40,400 --> 00:31:43,779 ขยะกองนี้คือซากเครื่องบิน 520 00:31:43,779 --> 00:31:46,198 ที่รับใช้ทหารอเมริกันมา 22,000 ชั่วโมง 521 00:31:47,157 --> 00:31:50,869 ซากเหล่านี้หมายถึง เด็กหนุ่มอเมริกันที่เสียชีวิตหรือโดนจับไป 522 00:31:56,208 --> 00:31:59,378 ทุกคนกลัวโดนยิงตกมากที่สุด 523 00:31:59,378 --> 00:32:00,379 (นาซีรุกรานฝรั่งเศส) 524 00:32:00,379 --> 00:32:02,214 เรารู้ว่ามันเป็นไปได้ 525 00:32:02,214 --> 00:32:05,175 ด้วยความเป็นเด็กหนุ่มไม่กลัวตาย 526 00:32:05,175 --> 00:32:07,678 ทําให้เราคิดว่าเราไม่โดนหรอก 527 00:32:07,678 --> 00:32:09,012 น่าจะเป็นคนอื่น 528 00:32:09,012 --> 00:32:10,347 (เรืออากาศเอก เอฟ. ดี. เมอร์ฟี่ สูญหายขณะปฏิบัติหน้าที่) 529 00:32:10,347 --> 00:32:12,683 ผมรู้ว่าแม่ห่วงผมมาก 530 00:32:12,683 --> 00:32:14,601 และรู้ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผม 531 00:32:14,601 --> 00:32:18,605 กระทรวงการสงครามจะส่งจดหมาย แจ้งการสูญหายในหน้าที่ไปให้ 532 00:32:18,605 --> 00:32:21,149 ให้แม่รู้ว่าผมเป็นอะไรไป 533 00:32:23,527 --> 00:32:26,822 เขาเอาร่มชูชีพให้ทหารอากาศแต่ไม่สอนใช้ 534 00:32:26,822 --> 00:32:31,034 แล้วสอนเทคนิคหลบหนีและหลีกเลี่ยงเล็กๆ น้อยๆ 535 00:32:31,034 --> 00:32:35,247 แถมไม่เคยกําชับด้วย ว่าประชาชนในเมืองที่โดนระเบิด 536 00:32:35,247 --> 00:32:38,667 เริ่มออกทําร้ายทหารอากาศกันมากขึ้น 537 00:32:40,794 --> 00:32:43,172 ตอนที่เคลเว็นตก 538 00:32:43,172 --> 00:32:46,717 เขาเห็นชาวไร่เดินเข้ามามุง 539 00:32:46,717 --> 00:32:47,843 แต่จําได้แค่ 540 00:32:47,843 --> 00:32:51,471 ชาวไร่เอาคราดมากดหน้าอกนิดนึงแล้ว 541 00:32:51,471 --> 00:32:52,639 และกําลังเตรียมจะกดซ้ํา 542 00:32:53,307 --> 00:32:56,226 ตํารวจลุฟท์วัฟเฟอโผล่มา 543 00:32:58,312 --> 00:33:01,690 ผมโดนควบคุมตัว ไปที่ลานบินของกองทัพอากาศเยอรมัน 544 00:33:01,690 --> 00:33:03,066 ที่เป็นศูนย์รวม 545 00:33:03,066 --> 00:33:06,236 นักบินอเมริกันที่โดนจับในวันนั้น 546 00:33:08,155 --> 00:33:10,073 (ดูลักลุฟท์ แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี) 547 00:33:11,700 --> 00:33:13,577 ผมโดนผู้ชายคนนึงสอบปากคํา 548 00:33:13,577 --> 00:33:17,289 เขาแสดงความยินดีที่ผมได้เลื่อนขั้น 549 00:33:18,290 --> 00:33:22,377 ผมเพิ่งได้ยศเรืออากาศโทมาสามวัน 550 00:33:22,377 --> 00:33:24,963 เซอร์ไพรส์เหมือนกันที่เขารู้ 551 00:33:24,963 --> 00:33:27,716 แล้วเขาก็ส่งการ์ดขนาด 3 คูณ 5 มาให้ 552 00:33:27,716 --> 00:33:32,638 มีข้อมูลชื่อ วันเกิด ชื่อพ่อแม่ ที่อยู่ผม 553 00:33:32,638 --> 00:33:34,139 (ลอเรนซ์ โวล์ฟ ช่อง 54 พาโลสเวอร์ดีเอสเตท) 554 00:33:34,765 --> 00:33:37,643 สายลับเยอรมันที่อยู่ในสหรัฐ 555 00:33:37,643 --> 00:33:40,145 คอยส่งหนังสือพิมพ์ของเมืองไปให้ 556 00:33:40,145 --> 00:33:41,313 เขาจะทําให้เราผ่อนคลาย 557 00:33:41,313 --> 00:33:43,941 ทําให้รู้สึกเหมือนนั่งคุยกันเล่นๆ 558 00:33:43,941 --> 00:33:46,109 แต่รู้เรื่องเราหมดแล้ว 559 00:33:46,109 --> 00:33:48,237 เทคนิคการหลอกถาม 560 00:33:48,237 --> 00:33:51,907 บางทีก็ใช้ได้ผลกับทหารอากาศที่ไม่เฉลียวใจ 561 00:33:51,907 --> 00:33:55,452 ให้ข้อมูลที่ตัวเองมองว่าไม่สําคัญอะไร 562 00:33:55,452 --> 00:33:58,372 แต่เป็นข้อมูลอันเลอค่าของผู้ซักถาม 563 00:33:59,289 --> 00:34:02,626 เช้าวันรุ่งขึ้น เขาก็ให้เราเข้าตู้ขนของ 564 00:34:02,626 --> 00:34:05,796 ตู้นึงอัดกันประมาณ 30 - 40 คน 565 00:34:07,089 --> 00:34:09,049 ไม่มีใครรู้ชะตากรรมตัวเอง 566 00:34:11,510 --> 00:34:13,178 (สตาลักลุฟท์ 3 ซากัน เยอรมนี) 567 00:34:15,556 --> 00:34:17,558 ผมจําได้ว่าเดินผ่านประตูเข้าไป 568 00:34:17,558 --> 00:34:19,935 เจอไม้ท่อนยาวๆ ปักอยู่ 569 00:34:19,935 --> 00:34:22,688 มีลวดหนามพันล้อมพื้นที่ไว้ 570 00:34:22,688 --> 00:34:25,732 มียามเฝ้าอยู่บนหอคอยทุกมุม 571 00:34:25,732 --> 00:34:30,152 มีพื้นที่ประมาณสามเมตรคั่นระหว่างรั้วใหญ่ 572 00:34:30,152 --> 00:34:32,322 กับรั้วเล็กๆ 573 00:34:32,322 --> 00:34:35,324 เขาบอกว่าถ้าเราเดินไปตรงรั้วเล็กๆ จะโดนยิง 574 00:34:36,577 --> 00:34:38,911 เชลยศึกชาวอเมริกันที่อยู่นั่น 575 00:34:38,911 --> 00:34:41,456 มีหลายคนมาจาก ฝูงบินที่ 100 576 00:34:41,456 --> 00:34:44,501 ที่โดนยิงตกก่อนผม 577 00:34:44,501 --> 00:34:46,378 พอเห็นเราเดินเข้าไป ก็... 578 00:34:46,378 --> 00:34:49,089 มีคนหัวเราะบอกว่า "กําลังรออยู่เลย 579 00:34:49,089 --> 00:34:50,174 มาจนได้นะ" 580 00:34:50,174 --> 00:34:51,507 {\an8}(อีแกน, จอห์น ซี. เคลเว็น, เกล ดับเบิลยู.) 581 00:34:51,507 --> 00:34:56,096 {\an8}เคลเว็นกับอีแกนมาถึงสตาลักลุฟท์ 3 ไล่เลี่ยกัน 582 00:34:56,096 --> 00:34:59,683 เคลเว็นแซวที่อีแกนบาดเจ็บ 583 00:34:59,683 --> 00:35:02,269 ในที่สุดรูมเมตก็กลับมาเจอกัน 584 00:35:02,269 --> 00:35:05,564 แล้วทหารก็มีหัวหน้าดูแลเหมือนเดิม 585 00:35:05,564 --> 00:35:08,275 เราอยู่ด้วยกัน ทําอาหารกินกันเอง 586 00:35:08,275 --> 00:35:11,236 ซักผ้าด้วยกัน อาบน้ําด้วยกัน 587 00:35:11,236 --> 00:35:14,781 อาบน้ําอาทิตย์ละครั้ง ถ้าโชคดีน่ะนะ 588 00:35:15,782 --> 00:35:18,243 ชีวิตในค่ายสตาลักลุฟท์ 589 00:35:18,243 --> 00:35:19,953 เคร่งครัดมากๆ 590 00:35:19,953 --> 00:35:23,248 เหมือนไปเข้าค่ายทหาร มีงานให้ทําแก้เซ็ง 591 00:35:23,248 --> 00:35:26,335 ฝึกวินัย ไม่ทํางานเขาก็ไม่เอาไว้ 592 00:35:27,377 --> 00:35:28,378 (เตหะราน อิหร่าน) 593 00:35:29,338 --> 00:35:30,923 (พฤศจิกายน 1943) 594 00:35:31,882 --> 00:35:34,092 ปลายเดือน พ.ย. 1943 มีประชุมลับ 595 00:35:34,092 --> 00:35:36,094 เรียกการประชุมเตหะราน 596 00:35:36,094 --> 00:35:41,767 โรเซอเวลต์, เชอร์ชิล, แล้วก็สตาลิน เห็นควรเปิดแนวรบที่สองเพื่อต่อต้านนาซีเยอรมนี 597 00:35:41,767 --> 00:35:45,521 ให้อเมริกันกับอังกฤษเป็นผู้วางแผนและปฏิบัติการ 598 00:35:45,521 --> 00:35:46,813 (หาดยูทาห์ - หาดโอฮามา - หาดโกลด์) 599 00:35:46,813 --> 00:35:47,898 (หาดจูโน่ - หาดสวอร์ด - นอร์มังดี) 600 00:35:47,898 --> 00:35:49,483 นี่เป็นแผนโจมตีสะเทินน้ําสะเทินบก 601 00:35:49,483 --> 00:35:50,984 ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 602 00:35:50,984 --> 00:35:55,656 กินพื้นที่ครอบคลุมชายหาดทั้งห้า ในนอร์มังดี ฝรั่งเศส ชื่อรหัส "โอเวอร์ลอร์ด" 603 00:35:55,656 --> 00:36:00,911 กําหนดลงมือเดือนพฤษภาคม 1944 คืออีกหกเดือนข้างหน้า 604 00:36:01,787 --> 00:36:04,331 พอพลเอกไอเซนฮาวร์มาถึงลอนดอน 605 00:36:05,666 --> 00:36:09,837 เขาบอกว่าถ้ายังถล่มลุฟท์วัฟเฟอไม่ได้ ก็ปล่อยกองบินนี้ออกไปไม่ได้ 606 00:36:09,837 --> 00:36:10,921 (ภารกิจที่ต้องทํา ลําดับการสู้รบ) 607 00:36:10,921 --> 00:36:12,381 เราจึงต้องทําให้ได้ก่อน 608 00:36:12,381 --> 00:36:17,803 เราได้รับคําสั่งว่าห้ามเปิดฉากบุกทางบก 609 00:36:17,803 --> 00:36:20,722 ถ้ายังครองน่านฟ้าไม่ได้ 610 00:36:22,266 --> 00:36:25,102 เป้าหมายสูงสุดของเรา คือยิงเครื่องบินรบให้ตกเยอะๆ 611 00:36:25,102 --> 00:36:27,646 จนฝ่ายเยอรมันสู้เครื่องบินรบคุ้มกันไม่ไหว 612 00:36:30,858 --> 00:36:34,945 {\an8}เราโดนเครื่องบินรบโจมตี จนสูญเสียย่อยยับ 613 00:36:34,945 --> 00:36:36,280 {\an8}(เสียงของ พล.อ. (เกษียณ) เจมส์ ดูลิตเทิล) 614 00:36:36,280 --> 00:36:37,614 {\an8}(ผู้บัญชาการกองทัพอากาศที่แปด 1944-1945) 615 00:36:37,614 --> 00:36:42,661 เขาจึงเร่งผลิตเครื่องบินรบให้เรามากขึ้น 616 00:36:43,370 --> 00:36:46,331 ปลายปี 1943 เครื่องบินรบก็มาถึงอังกฤษ 617 00:36:46,331 --> 00:36:49,334 เป็นเครื่องบินขับไล่ที่กองทัพอากาศที่แปดรออยู่ 618 00:36:49,334 --> 00:36:51,170 นั่นคือ P-51 มัสแตง 619 00:36:51,170 --> 00:36:52,087 {\an8}(โพรบอสซิส) 620 00:36:52,087 --> 00:36:54,423 {\an8}เครื่องมัสแตง เครื่อง P-51 621 00:36:54,423 --> 00:36:56,884 เครื่องบินรบระยะไกลที่สุดในโลก 622 00:36:56,884 --> 00:37:01,305 แรง ไต่ระดับไว ลดระดับเร็ว วงเลี้ยวแคบ 623 00:37:01,847 --> 00:37:03,891 พอได้เครื่อง P-51 มา 624 00:37:03,891 --> 00:37:08,645 เราก็บินไปโจมตีเป้าหมายแล้วบินกลับได้สบาย 625 00:37:08,645 --> 00:37:11,857 แล้วเขายังปรับปรุงเครื่อง P-47 626 00:37:11,857 --> 00:37:15,485 ด้วยการติดถังน้ํามันตรงปีกให้ขับได้ไกลขึ้นด้วย 627 00:37:17,613 --> 00:37:21,491 ผมเห็น P-51 สุดสวยตอนบินไปเอ็มเด็น 628 00:37:21,491 --> 00:37:23,869 ความคิดแรก ที่แว่บเข้ามาในหัวคือ "รอดแล้วเรา" 629 00:37:25,746 --> 00:37:26,872 ภารกิจแรก 630 00:37:26,872 --> 00:37:28,790 ไม่ใช่ป้องกันเครื่องบินทิ้งระเบิดจนถึงฐาน 631 00:37:28,790 --> 00:37:33,086 แต่เป็นภารกิจโจมตีลุฟท์วัฟเฟอ ทั้งบนอากาศและบนบก 632 00:37:37,508 --> 00:37:40,135 เช้าวันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์... 633 00:37:40,135 --> 00:37:41,553 (20 กุมภาพันธ์ 1944 สี่เดือนก่อนดีเดย์) 634 00:37:41,553 --> 00:37:42,930 เราเตรียมการโจมตี 635 00:37:42,930 --> 00:37:46,808 ครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ ยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศอเมริกา 636 00:37:47,976 --> 00:37:50,729 นี่เป็นการนําร่องก่อนบุก 637 00:37:52,022 --> 00:37:57,027 พวกเขาวางแผนโจมตีต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน 638 00:37:57,027 --> 00:37:58,987 เดี๋ยวก็รู้ว่าหมู่หรือจ่า 639 00:38:05,744 --> 00:38:07,788 วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า 640 00:38:08,288 --> 00:38:13,460 มัสแตงกับธันเดอร์โบลต์ ปะทะ Me 109 กับ Fw 190 641 00:38:13,460 --> 00:38:16,630 เครื่องบินรบของเราโจมตี โจมตี โจมตี 642 00:38:17,339 --> 00:38:20,592 สถิติรบชนะของเราอยู่ที่ 4 ต่อ 1 643 00:38:21,885 --> 00:38:25,222 จํานวนนักบินเยอรมัน ที่เสียชีวิตตามแนวรบฝั่งตะวันตก 644 00:38:25,222 --> 00:38:29,726 ช่วงมกราถึงพฤษภา 1944 อยู่ที่ 99% 645 00:38:29,726 --> 00:38:31,812 ก็คือตายเรียบ 646 00:38:33,981 --> 00:38:36,650 หลังจากเริ่มเอามัสแตงมาร่วมรบ 647 00:38:36,650 --> 00:38:39,903 อเมริกากับอังกฤษ ก็ครองน่านฟ้าได้มากกว่าเยอรมนี 648 00:38:41,238 --> 00:38:42,865 ถ้าคุณอยากเจาะรังศัตรู 649 00:38:42,865 --> 00:38:45,868 {\an8}ล่อให้ลุฟท์วัฟเฟอออกมา ต้องไปเบอร์ลิน 650 00:38:45,868 --> 00:38:47,202 {\an8}(ดร. แทมี่ เดวิส บิดเดิล - ผู้เขียน RHETORIC & REALITY IN AIR WARFARE) 651 00:38:48,245 --> 00:38:50,789 {\an8}พวกเขาเปิดม่านตอนสรุปแผน 652 00:38:50,789 --> 00:38:53,458 {\an8}เราเห็นริบบิ้นสีแดงยาวไปถึงเบอร์ลิน 653 00:38:54,168 --> 00:38:57,754 ตอนแรกทุกคนเงียบกริบ สักพักเสียงก็ดังสนั่น 654 00:39:01,425 --> 00:39:03,427 เราบินสูงแปดกิโลเมตร 655 00:39:03,427 --> 00:39:05,095 แต่ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย 656 00:39:05,637 --> 00:39:09,683 แต่ลานจอดรถไฟ ถังสารเคมี เรือ และโกดังต่างๆ 657 00:39:09,683 --> 00:39:14,313 เครื่องยนต์สํารอง และโรงงานผลิตตลับลูกปืน โดนเผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน 658 00:39:15,522 --> 00:39:20,110 นี่เป็นครั้งแรก ที่อเมริกาบุกไปทิ้งระเบิดในเบอร์ลิน 659 00:39:20,110 --> 00:39:23,197 เป้าหมายที่ยากที่สุดของกองทัพอากาศที่แปด 660 00:39:23,780 --> 00:39:25,115 แต่เป็นสิ่งที่ต้องทํา 661 00:39:27,242 --> 00:39:29,453 นี่ถ้าผมอยู่เยอรมนี 662 00:39:29,453 --> 00:39:35,083 แล้วเห็นเครื่องบินทิ้งระเบิด ยกโขยงมากระหน่ําขนาดนั้น 663 00:39:35,083 --> 00:39:37,753 ผมคงกลัวหัวหดเลย 664 00:39:37,753 --> 00:39:41,798 มั่นใจว่าประชาชนกับทหารก็ขวัญหนีดีฝ่อเหมือนกัน 665 00:39:43,926 --> 00:39:45,177 (สตาลักลุฟท์ 3) 666 00:39:47,763 --> 00:39:50,974 การเป็นเชลยศึกมันเลวร้าย 667 00:39:51,475 --> 00:39:54,728 ตรงที่ไม่รู้ว่าต้องโดนกักตัวไว้นานแค่ไหน 668 00:39:54,728 --> 00:39:57,731 เพราะโทษเราไม่ได้มีกําหนดแน่ชัด 669 00:39:57,731 --> 00:40:01,401 เราต้องอยู่ในนั้น จนกว่าจะหนีออกมาหรือสงครามยุติ 670 00:40:02,194 --> 00:40:03,904 ผมขุดอุโมงค์นะ 671 00:40:04,404 --> 00:40:07,449 ที่นั่นมีห้องน้ําเก่าที่พื้นเป็นกระเบื้อง 672 00:40:07,449 --> 00:40:10,327 ผมเลยคิดว่าอยากจะลองขุดดูสักหน่อย 673 00:40:10,327 --> 00:40:14,665 จุดประสงค์ของผม คืออยากใช้กระเบื้องที่เลาะง่ายๆ 674 00:40:14,665 --> 00:40:16,166 เราจะได้เริ่มขุดอุโมงค์ 675 00:40:16,166 --> 00:40:18,627 แต่โดนผู้คุมสกัดดาวรุ่งทันที 676 00:40:18,627 --> 00:40:20,087 {\an8}(อุโมงค์แฮร์รี่) 677 00:40:20,087 --> 00:40:25,133 {\an8}เชลยศึกชาวอังกฤษ ประมาณ 76 คนหนีออกจากที่พัก 678 00:40:25,133 --> 00:40:28,846 ที่อยู่ติดกับเราด้วยการมุดอุโมงค์ที่ขุดไว้ 679 00:40:28,846 --> 00:40:31,139 การหนีครั้งนั้นเรียก Great Escape 680 00:40:31,139 --> 00:40:37,312 มีคนรอดไปสองคน ส่วนอีก 50 โดนทหารเยอรมันสังหาร 681 00:40:38,397 --> 00:40:41,358 หลังจากนั้นความสัมพันธ์ดีๆ ระหว่างเรากับฝั่งเยอรมัน 682 00:40:41,358 --> 00:40:43,318 ก็ไม่เหลือหลอ 683 00:40:46,655 --> 00:40:49,950 ผมรับโทรศัพท์แล้วปลายสายบอกว่า 684 00:40:49,950 --> 00:40:52,202 "นายพลลีเมย์ขอสายคุณ" 685 00:40:52,202 --> 00:40:55,289 เขาบอกว่า "เจฟฟรีย์ ผมอยากได้ผู้บัญชาการฝูงบิน 686 00:40:55,289 --> 00:40:58,208 คุมฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 95 กับฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100 687 00:40:58,208 --> 00:40:59,960 คุณเลือกเลย 688 00:40:59,960 --> 00:41:01,044 (กองบัญชาการ ฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 95 เอช) 689 00:41:01,044 --> 00:41:03,172 ฝูงบินที่ 95 ประสบความสําเร็จมาก 690 00:41:03,172 --> 00:41:05,174 เสียเครื่องบินน้อยที่สุด 691 00:41:05,174 --> 00:41:09,469 สถิติการทิ้งระเบิดก็ดี ผมเลยคิดว่าตัวเองน่าจะมีประโยชน์ 692 00:41:09,469 --> 00:41:11,430 กับฝูงบินที่ 100 มากกว่าฝูงบินที่ 95 693 00:41:11,430 --> 00:41:15,142 ผมเลยโทรกลับไปบอกเขาว่าขออนุญาต 694 00:41:15,142 --> 00:41:17,269 ไปอยู่ฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100 695 00:41:17,269 --> 00:41:19,396 พอถามว่า "จะให้ผมไปรายงานตัวเมื่อไหร่" 696 00:41:19,396 --> 00:41:20,689 เขาบอกว่า "บ่ายนี้เลย" 697 00:41:25,194 --> 00:41:30,324 เรื่องแรกที่ผมขอนายพลลีเมย์ คือขอให้ฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100 698 00:41:30,324 --> 00:41:33,869 หยุดพักจากภารกิจสักสองวันซึ่งเขาก็อนุญาต 699 00:41:33,869 --> 00:41:35,621 ในช่วงสองวันนั้น 700 00:41:35,621 --> 00:41:37,706 เราเอาเครื่องบินทุกลําในฝูงบินที่ 100 701 00:41:37,706 --> 00:41:42,085 ขึ้นไปตั้งขบวนช่วงเช้าสี่ชั่วโมง และช่วงเย็นสี่ชั่วโมง 702 00:41:42,920 --> 00:41:49,301 ทอม เจฟฟรีย์เป็นคนมีพลัง มาดดี และมีความรู้ 703 00:41:49,301 --> 00:41:53,138 นอกจากรู้เรื่องเครื่องบิน ยังรู้เรื่องการบินต่อสู้ด้วย 704 00:41:54,681 --> 00:41:56,725 ผมให้คนที่บินอยู่ลําข้างหน้า 705 00:41:56,725 --> 00:41:58,060 ถ่ายรูปขบวนไว้ 706 00:41:58,060 --> 00:42:01,522 เราจะได้เห็นว่าแต่ละคนบินเป็นยังไงกันบ้าง 707 00:42:01,522 --> 00:42:05,359 ส่วนผมก็เอาเครื่องเก่าไปบินรอบๆ ขบวน 708 00:42:05,359 --> 00:42:08,403 บินไปบินมา เพื่อตบๆ ให้ทั้งฝูงเข้าประจําที่ 709 00:42:08,403 --> 00:42:10,989 {\an8}พวกผู้บัญชาการฝูงบินเข้มงวด 710 00:42:10,989 --> 00:42:13,992 {\an8}กับการจัดแถวให้แน่นมาก 711 00:42:13,992 --> 00:42:16,787 นักบินคิดว่าแน่นแล้ว พวกเขาบอกว่าแน่นอีก 712 00:42:17,788 --> 00:42:19,831 พอจบสองวัน 713 00:42:19,831 --> 00:42:23,961 ฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100 ก็เข้าขบวนได้เป๊ะที่สุด 714 00:42:25,087 --> 00:42:30,300 เรากลายเป็นฝูงบินที่ยอดเยี่ยมได้เพราะเจฟฟรีย์ 715 00:42:31,093 --> 00:42:33,679 เป็นฝูงที่เก่งที่สุดในกองทัพอากาศเลยมั้ง 716 00:42:37,766 --> 00:42:42,271 ลูกเรือเครื่องบินทิ้งระเบิดของ กองทัพอากาศที่แปดต้องทําภารกิจ 25 ครั้ง 717 00:42:42,271 --> 00:42:44,314 พอครบ 25 ภารกิจแล้ว 718 00:42:44,314 --> 00:42:46,441 เขาก็จะส่งตัวเรากลับอเมริกา 719 00:42:47,693 --> 00:42:52,322 หลังทําภารกิจครบ เขาก็บอกว่าผมจะอยู่ต่อ 720 00:42:52,322 --> 00:42:58,120 ในฐานะหัวหน้าหน่วยบินหรือกลับอเมริกาก็ได้ 721 00:42:58,120 --> 00:43:04,376 ผมว่าที่ผ่านมาผมโชคดีสุดๆ 722 00:43:04,376 --> 00:43:09,756 แล้วก็เฮงมากที่รอดมาได้ ไม่ควรได้คืบจะเอาศอก 723 00:43:09,756 --> 00:43:13,051 ผมเลยเลือกกลับบ้าน 724 00:43:14,845 --> 00:43:17,222 โรซี่ โรเซนธอลปฏิบัติภารกิจครบ 25 ครั้ง 725 00:43:17,222 --> 00:43:21,143 ในวันที่ 8 มีนาคม 1944 ที่บินโจมตีเบอร์ลิน 726 00:43:21,852 --> 00:43:25,606 ลูกเรือยุให้ผมบินโฉบลานจอดเครื่องบิน 727 00:43:25,606 --> 00:43:29,109 พอดีผมเป็นนักบินหัวโบราณ เลยบอกว่า "ไม่เอาอะ" 728 00:43:29,860 --> 00:43:33,363 แต่ตอนบินกลับผมบอกว่า "เอาวะ" 729 00:43:33,363 --> 00:43:38,035 ผมพุ่งใส่หอบังคับการบินจนทุกคนต้องกระโดดหนี 730 00:43:38,619 --> 00:43:42,414 แล้วก็โฉบลานจอดสามสี่รอบถึงค่อยลงจอด 731 00:43:42,414 --> 00:43:44,416 ตอนหลังมีคนมาถามว่า 732 00:43:44,416 --> 00:43:48,504 "โรซี่ นายรู้มั้ยว่านายพลฮักลินอยู่ที่หอ 733 00:43:49,004 --> 00:43:52,424 เขากระโดดหนีจนเครื่องแบบหลุดลุ่ยเลย" 734 00:43:52,424 --> 00:43:56,220 แล้วนายพลฮักลินก็เดินเข้าห้องซักถาม 735 00:43:56,220 --> 00:43:58,597 เดินมาจับมือผม 736 00:43:58,597 --> 00:44:01,391 แล้วบอกว่า "โฉบได้หวาดเสียวมากโรซี่" 737 00:44:02,476 --> 00:44:05,437 ทุกคนรู้ว่าใกล้ถึงดีเดย์แล้ว 738 00:44:05,437 --> 00:44:10,192 และความตั้งใจของโรซี่คือทําลายกองกําลังนาซี 739 00:44:10,692 --> 00:44:14,613 การไปจากที่นี่ ก็เหมือนไปจากศูนย์กลางของจักรวาล 740 00:44:14,613 --> 00:44:17,991 ผมเลยตัดสินใจบินต่อ 741 00:44:17,991 --> 00:44:22,621 จนสุดท้ายได้เป็นผู้บัญชาการหน่วยบิน 742 00:44:23,539 --> 00:44:27,709 วันนี้ฟลายอิ้งฟอร์เทรสของอเมริกา 650 ลํา 743 00:44:27,709 --> 00:44:31,463 สร้างความเสียหายรุนแรง ให้แนวป้องกันฝั่งชายหาดของเยอรมัน 744 00:44:35,843 --> 00:44:39,137 ผมบินไปทิ้งระเบิดในฝรั่งเศส 745 00:44:39,137 --> 00:44:42,516 พอกลับมาก็มีคนมาหาถึงเครื่อง 746 00:44:42,516 --> 00:44:48,272 บอกว่าคืนนี้ให้ผมไปรายงานตัว ที่กองบัญชาการของนายพลลีเมย์ 747 00:44:49,523 --> 00:44:54,945 {\an8}นายพลลีเมย์เดินเข้ามาประกาศว่าพรุ่งนี้เช้า 748 00:44:54,945 --> 00:44:58,740 {\an8}กองกําลังสัมพันธมิตรจะยกพลขึ้นฝั่งที่นอร์มังดี 749 00:44:58,740 --> 00:45:03,120 {\an8}แต่เขาบอกว่าผมอยากให้เข้าใจตรงกัน 750 00:45:03,120 --> 00:45:06,415 {\an8}ว่างานนี้สําคัญมาก 751 00:45:06,415 --> 00:45:11,420 กองทัพอากาศที่แปดจะใช้เครื่องบินทุกลํา 752 00:45:11,420 --> 00:45:14,882 ที่มีอยู่เพื่อให้พวกเขาขึ้นฝั่งสําเร็จ 753 00:45:16,133 --> 00:45:18,343 {\an8}ผมนั่งอยู่ในห้องสรุปแผนงาน 754 00:45:18,343 --> 00:45:22,723 พอพวกเขาเปิดม่านคลุมแผนที่ ทุกคนเฮลั่นเลย 755 00:45:22,723 --> 00:45:25,726 ผมไม่เคยได้ยินเสียงแบบนี้นะ 756 00:45:25,726 --> 00:45:27,644 ในที่สุดก็ถึงดีเดย์ 757 00:45:28,437 --> 00:45:29,938 (6 มิถุนายน 1944) 758 00:45:30,689 --> 00:45:31,648 (ดีเดย์) 759 00:45:31,648 --> 00:45:34,276 ทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ 760 00:45:34,276 --> 00:45:36,361 แห่งกําลังรบนอกประเทศสัมพันธมิตร 761 00:45:37,905 --> 00:45:40,073 {\an8}พวกคุณกําลังจะเปิดฉากสงครามครั้งมโหฬาร 762 00:45:40,073 --> 00:45:41,825 {\an8}(เสียงของ พล.อ. ดไวท์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ผู้บัญชาการทหารผสมสูงสุด) 763 00:45:41,825 --> 00:45:43,660 ซึ่งเราเคี่ยวเข็ญกันมาหลายเดือน 764 00:45:44,578 --> 00:45:46,538 ทั้งโลกกําลังเอาใจช่วยคุณอยู่ 765 00:45:47,998 --> 00:45:50,125 งานนี้ไม่ง่ายเลย 766 00:45:51,001 --> 00:45:54,588 ศัตรูได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี อาวุธครบมือ และเชี่ยวชาญ 767 00:45:55,088 --> 00:45:56,757 เขาไม่ปรานีแน่ 768 00:45:57,633 --> 00:46:02,721 ผมเชื่อว่าทุกคนกล้าหาญ ทุ่มเทในหน้าที่ และมีทักษะในการรบ 769 00:46:03,680 --> 00:46:06,975 พวกเราต้องชนะอย่างเด็ดขาดเท่านั้น 770 00:46:10,437 --> 00:46:12,022 ตอนบินเหนือช่องแคบ 771 00:46:12,022 --> 00:46:16,860 เราเห็นเรือหลายพันลํา ในกองเรือรบที่อยู่ข้างล่าง 772 00:46:18,570 --> 00:46:25,452 มันดูน่าขนลุกจนลูกเรือคนนึง เริ่มสวดมนต์แล้วทุกคนก็สวดตาม 773 00:46:30,541 --> 00:46:34,336 โรเบิร์ต เซนต์จอห์น จากห้องข่าว NBC ในนิวยอร์ก 774 00:46:34,336 --> 00:46:37,339 กับชั่วโมงสําคัญต่อประวัติศาสตร์โลกเช่นนี้ 775 00:46:37,923 --> 00:46:42,177 ทหารของนายพล ดไวท์ ไอเซนฮาวร์ กําลังลงจากเรือ 776 00:46:42,177 --> 00:46:45,889 เดินบุกหาดไปยังที่มั่นของนาซีเยอรมนี 777 00:46:46,723 --> 00:46:48,517 พวกเขาโจมตีศัตรูทางทะเล 778 00:46:48,517 --> 00:46:52,271 โดยมีเครื่องบินขับไล่ฝูงมหึมาคอยคุ้มกัน 779 00:46:53,522 --> 00:46:56,149 มีระเบิดลงมาไม่ขาดสาย 780 00:46:56,149 --> 00:47:01,113 วันนั้นทหารอากาศยิงคุ้มกัน ให้กองกําลังภาคพื้นดินไม่หยุดหย่อน 781 00:47:01,113 --> 00:47:05,534 ยิงเสร็จ ก็กลับไปเติมน้ํามัน เติมระเบิด เติมกระสุน 782 00:47:05,534 --> 00:47:08,829 แล้วออกไปคุ้มกันต่อรอบแล้วรอบเล่า 783 00:47:12,207 --> 00:47:16,587 ตอนเราไปถึงนอร์มังดี ไม่มีลุฟท์วัฟเฟอ 784 00:47:16,587 --> 00:47:17,880 เข้าแทรกแซงเลย 785 00:47:19,089 --> 00:47:21,466 กองทัพอากาศอเมริกาช่วยปูทาง 786 00:47:21,466 --> 00:47:24,761 ให้ทหารเรือข้ามช่องแคบอังกฤษ 787 00:47:28,473 --> 00:47:31,018 ตอนนี้เยอรมนีต้องรับมือสองด้าน 788 00:47:31,018 --> 00:47:35,314 {\an8}คือสัมพันธมิตรอังกฤษ-อเมริกันทางตะวันตก และรัสเซียทางตะวันออก 789 00:47:35,314 --> 00:47:36,857 {\an8}(อังกฤษ - ฝรั่งเศส - เยอรมนี แนวหน้ารัสเซีย) 790 00:47:36,857 --> 00:47:39,318 สิงหาคม 1944 กองทัพแดงค้นพบไมดาแนก 791 00:47:39,318 --> 00:47:44,531 ค่ายกักกันร้างของนาซี และค่ายมรณะใกล้ลูบลิน ประเทศโปแลนด์ 792 00:47:44,531 --> 00:47:50,204 หลักฐานมัดตัวฮิตเลอร์ ข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวในยุโรป 793 00:47:50,204 --> 00:47:52,247 (เปิดโปงค่ายสังหารหมู่ของนาซี) 794 00:47:56,084 --> 00:47:58,837 กองกําลังของเรารุกโรม 795 00:47:58,837 --> 00:48:01,840 โจมตีกองกําลังนาซี ที่โดนสั่งมาให้ยอมตายดีกว่ายอมแพ้ 796 00:48:01,840 --> 00:48:03,300 (สตาลักลุฟท์ 3 ซากัน เยอรมนี) 797 00:48:03,967 --> 00:48:08,096 แต่ก็มีแค่สองทางจริงๆ ครับ เพราะการโจมตีในครั้งนี้ 798 00:48:08,096 --> 00:48:12,684 เป็นคําสั่งจากผู้บัญชาการสัมพันธมิตร ให้สู้อย่างเต็มอัตราศึก 799 00:48:12,684 --> 00:48:14,520 {\an8}ในค่ายเชลยศึกมีวิทยุลับ 800 00:48:14,520 --> 00:48:16,230 {\an8}(วิลเลียม "บิล" เคาช์ พลทิ้งระเบิดฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 801 00:48:16,230 --> 00:48:19,358 {\an8}เรารู้ทุกเรื่องที่ BBC รู้ 802 00:48:19,358 --> 00:48:23,362 ตอนเริ่มรุกโจมตีในเดือนมิถุนายน ปี 44 803 00:48:23,362 --> 00:48:25,697 เรารู้แล้วว่าเราไม่ตายที่นั่นแน่ 804 00:48:26,990 --> 00:48:30,577 ยังมีทหารอากาศที่โดนยิงตก หลั่งไหลเข้าไปในค่ายสตาลักลุฟท์ 3 805 00:48:30,577 --> 00:48:32,412 นักบินผิวดําก็มีไม่น้อย 806 00:48:32,412 --> 00:48:36,875 {\an8}รวมถึงเรืออากาศตรี อเล็กซานเดอร์ เจฟเฟอร์สันและริชาร์ด เมคอน 807 00:48:36,875 --> 00:48:41,672 {\an8}จากกองบินขับไล่ที่ 332 ชื่อดัง เร้ดเทลส์ 808 00:48:41,672 --> 00:48:45,008 นักบินทัสคีจีทาหางเครื่องบินสีแดงเข้ม 809 00:48:45,008 --> 00:48:47,845 {\an8}ถึงคนจะไม่รู้ว่านักบินเป็นคนผิวดํา... 810 00:48:47,845 --> 00:48:48,929 {\an8}(ดร. แมทธิว เอฟ. เดลมอนท์ ผู้เขียน HALF AMERICAN) 811 00:48:48,929 --> 00:48:50,556 แต่ทุกคนจําเครื่องบินหางแดงได้ 812 00:48:51,056 --> 00:48:54,768 เราไม่กลัวเลยว่าจะบินไปเจอศัตรู 813 00:48:54,768 --> 00:48:57,813 เพราะเรารู้ว่าตัวเองฝีมือเหนือกว่าพวกนั้น 814 00:48:57,813 --> 00:48:59,022 {\an8}ถ้าเจอก็ "เตรียม เล็ง ยิง" 815 00:48:59,022 --> 00:49:00,440 {\an8}(ริชาร์ด เมคอน นักบินกองบินขับไล่ที่ 332) 816 00:49:02,276 --> 00:49:04,653 นักบินผิวดําผู้องอาจ 817 00:49:04,653 --> 00:49:09,575 อยากมาช่วยรบมาก แล้วฝีมือพวกเขาก็ไม่ธรรมดาซะด้วย 818 00:49:11,785 --> 00:49:15,622 ในกองทัพอากาศ โดยเฉพาะลูกเรือเครื่องบินทิ้งระเบิด 819 00:49:15,622 --> 00:49:20,294 ที่เสี่ยงชีวิตบินปฏิบัติภารกิจไกลๆ ชื่นชมพวกเร้ดเทลส์ 820 00:49:20,294 --> 00:49:22,796 {\an8}มากกว่าหน่วยบินอื่นๆ ที่เข้าร่วมรบ 821 00:49:22,796 --> 00:49:23,922 {\an8}(เจ. ท็อดด์ มอย ผู้เขียน FREEDOM FLYERS) 822 00:49:24,715 --> 00:49:27,134 เมคอนกับเจฟเฟอร์สันเคยโดนแบ่งแยกเชื้อชาติ 823 00:49:27,134 --> 00:49:29,803 ในกองทัพอากาศทั้งที่อเมริกาและอิตาลี 824 00:49:29,803 --> 00:49:31,388 และช็อกมากที่ได้รู้ 825 00:49:31,388 --> 00:49:34,850 ว่าที่พักในสตาลักลุฟท์ 3 เป็นที่พักรวม 826 00:49:34,850 --> 00:49:36,602 มีทหารประมาณ 150 นาย 827 00:49:36,602 --> 00:49:40,022 เข้ามาที่ค่าย เรายืนต่อแถวกันอยู่ 828 00:49:40,022 --> 00:49:44,526 {\an8}มีเด็กเคนตักกี้ตัวสูงๆ เดินทะเล่อทะล่าเลยไป... 829 00:49:44,526 --> 00:49:46,111 {\an8}(อเล็กซานเดอร์ เจฟเฟอร์สัน นักบินกองบินขับไล่ที่ 332) 830 00:49:46,111 --> 00:49:50,991 {\an8}เดินกลับมาแล้วบอกว่า "เอาละเว้ย คนนี้แหละ" 831 00:49:50,991 --> 00:49:54,328 นาวาอากาศเอกเดินมาบอกว่า "ไปกับเขาเลยเรืออากาศโท" 832 00:49:55,162 --> 00:49:56,163 "ครับท่าน" 833 00:49:57,164 --> 00:49:58,999 ทหารเยอรมันพาผมไป 834 00:49:58,999 --> 00:50:03,086 ดูเตียงที่ผมต้องนอน เป็นเตียงชั้นสาม 835 00:50:03,629 --> 00:50:06,340 ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าตัวเองเจ็บหนักแค่ไหน 836 00:50:06,340 --> 00:50:09,009 ผมเป็นอัมพาตครึ่งล่าง 837 00:50:09,009 --> 00:50:11,595 พอเห็นว่าผมขยับไม่ได้ 838 00:50:11,595 --> 00:50:14,431 ทหารเยอรมันก็ถามว่า 839 00:50:14,431 --> 00:50:17,559 มีใครจะยกเตียงชั้นล่างให้เขาบ้าง 840 00:50:17,559 --> 00:50:19,019 ไม่มีเลย 841 00:50:19,019 --> 00:50:23,232 สุดท้ายมีเด็กเทกซัสบอกว่า "เอาไปเลย เดี๋ยวผมขึ้นไปนอนเตียงบนเอง" 842 00:50:23,857 --> 00:50:26,443 สุดท้ายเราก็กลายเป็นเพื่อนซี้กัน 843 00:50:27,361 --> 00:50:30,155 เชลยศึกต้องสามัคคีเพื่อความอยู่รอด 844 00:50:30,155 --> 00:50:34,701 ทุกคนเลิกเหยียดเชื้อชาติ รังเกียจชาติพันธุ์ หรือไม่ก็เป็นน้อยลง 845 00:50:34,701 --> 00:50:37,371 เพราะพวกเขาต้องให้กําลังใจกัน 846 00:50:37,371 --> 00:50:38,580 เพื่อเอาตัวรอดในนั้น 847 00:50:40,582 --> 00:50:44,753 ภารกิจท้ายๆ ของกองทัพอากาศ คือการตัดเชื้อเพลิงของฝั่งเยอรมัน 848 00:50:44,753 --> 00:50:47,881 ด้วยการระเบิดโรงงานผลิตน้ํามันทิ้ง 849 00:50:47,881 --> 00:50:52,094 ฝ่ายสัมพันธมิตรต้องโจมตีระบบขนส่งและโกดัง 850 00:50:52,094 --> 00:50:55,389 เก็บถ่านหินที่ใช้ในโรงงานผลิตเครื่องบินเจ็ตด้วย 851 00:50:55,389 --> 00:50:58,892 การปิดกั้นทางอากาศ ทําให้เยอรมันผลิตยุทโธปกรณ์ไม่ได้ 852 00:50:58,892 --> 00:51:01,603 และเมื่อถึงคราวที่โดนกระหน่ําโจมตี 853 00:51:01,603 --> 00:51:04,314 จึงคุ้มกันน่านฟ้าของตัวเองได้ไม่ทั่วถึง 854 00:51:04,314 --> 00:51:07,109 {\an8}เราอยู่ที่สโมสรนายทหารจนถึงตีหนึ่งตีสอง 855 00:51:07,901 --> 00:51:10,112 {\an8}แล้วก็ได้ยินเสียงประกาศ 856 00:51:10,112 --> 00:51:12,114 ให้เตรียมตัวตื่นมาทําภารกิจ 857 00:51:15,033 --> 00:51:18,370 เราเอาเครื่องบินทิ้งระเบิดหนักขึ้น 2,000 ลํา 858 00:51:18,370 --> 00:51:22,374 บนท้องฟ้าวันนั้น มีแต่เครื่องบินทิ้งระเบิดสี่เครื่องยนต์ 859 00:51:24,918 --> 00:51:27,004 ในสมัยนั้นการทําลายโรงงานหนึ่งโรง 860 00:51:27,004 --> 00:51:29,214 ที่เมืองลอยน่าใกล้ๆ เมอร์สเบิร์ก 861 00:51:29,214 --> 00:51:35,262 ต้องใช้เครื่องบินทิ้งระเบิด 6,000 ลํา บินไปทําภารกิจทั้งหมด 40 รอบ 862 00:51:36,597 --> 00:51:40,392 ฝูงเราบินนําไปโจมตีเบอร์ลิน 863 00:51:40,392 --> 00:51:42,186 วันนั้นอากาศดีมาก 864 00:51:42,186 --> 00:51:44,938 แดดจ้า ฟ้าใส 865 00:51:45,606 --> 00:51:49,776 ตอนบินเข้าใกล้เป้าหมาย มีเครื่องบินโดนยิง 866 00:51:49,776 --> 00:51:52,863 แต่เรายังตั้งหน้าตั้งตาทิ้งระเบิด 867 00:51:52,863 --> 00:51:56,200 เพราะรู้ว่าเรากลับฐานไม่ได้ 868 00:51:56,783 --> 00:52:00,537 เครื่องบินผมไฟไหม้ควันโขมงจนผมอยู่ไม่ได้ 869 00:52:00,537 --> 00:52:03,123 ตอนออกมาผมนึกว่าตัวเองขึ้นสวรรค์ 870 00:52:04,374 --> 00:52:07,836 แต่พอเท้าแตะพื้นแล้วเงยหน้าขึ้นมา 871 00:52:08,629 --> 00:52:11,673 ผมเห็นทหารสามคนถือปืนวิ่งเข้ามา 872 00:52:12,674 --> 00:52:16,803 คนนึงยกปืนเตรียมจะยิงผม 873 00:52:16,803 --> 00:52:21,767 พอดีผมเห็นสัญลักษณ์ทหารแดงบนหมวกเขา 874 00:52:22,434 --> 00:52:25,479 เลยตะโกนอเมริกันสกี โรเซอเวลต์ 875 00:52:25,479 --> 00:52:28,023 สตาลิน, เชอร์ชิล, เป๊ปซี่-โคล่า 876 00:52:28,023 --> 00:52:31,485 โคคา-โคล่า, ลัคกี้สไตรค์ 877 00:52:32,653 --> 00:52:36,448 เบอร์ลินเป็นภารกิจที่ 52 และภารกิจสุดท้ายของโรซี่ 878 00:52:36,448 --> 00:52:39,826 เขาเป็นนักบินที่ทําภารกิจมากที่สุด ในฝูงบินที่ 100 879 00:52:39,826 --> 00:52:42,496 หลังจากพักฟื้นในโรงพยาบาลของรัสเซีย 880 00:52:42,496 --> 00:52:44,831 โรซี่ก็เดินทางกลับธอร์ปแอบบ็อตส์ 881 00:52:44,831 --> 00:52:49,294 ที่เขาบินทําภารกิจแรกเมื่อหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา 882 00:52:52,589 --> 00:52:55,843 ทหารรัสเซียรุกคืบเข้ามาทุกขณะ 883 00:52:55,843 --> 00:52:57,970 เราได้ยินเสียงปืนใหญ่ 884 00:52:57,970 --> 00:53:01,431 และเสียงอาวุธอื่นๆ ดังแว่วมา 885 00:53:02,057 --> 00:53:03,559 ฮิตเลอร์ยังคิดไม่ตก 886 00:53:03,559 --> 00:53:05,894 {\an8}ว่าจะให้เชลยศึกออกเดินเท้าหรือฆ่าทิ้งดี 887 00:53:05,894 --> 00:53:07,938 {\an8}(แมริลิน เจฟเฟอร์ส วอลทัน - ผู้เขียน FROM INTERROGATION TO LIBERATION) 888 00:53:07,938 --> 00:53:09,273 {\an8}เป็นไปได้ทุกรูปแบบ 889 00:53:09,982 --> 00:53:11,233 อยู่ๆ คืนนึง 890 00:53:11,233 --> 00:53:14,903 ทหารเยอรมันก็มาบอกนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของเรา 891 00:53:14,903 --> 00:53:17,364 ให้ทหารอเมริกันรีบอพยพ 892 00:53:17,364 --> 00:53:21,994 เราต้องเดินเท้าออกจากค่ายภายในหนึ่งชั่วโมง 893 00:53:22,911 --> 00:53:25,664 เขาบอกว่าทําเพื่อความปลอดภัยของเรา 894 00:53:26,248 --> 00:53:28,625 เขาพูดแบบนั้น แต่พวกเรารู้ทัน 895 00:53:30,502 --> 00:53:32,504 เชลยศึกเดินแบบไม่รู้จุดหมาย 896 00:53:32,504 --> 00:53:35,465 ทุกคนกลัวว่าฮิตเลอร์จะเอาทหารอากาศอเมริกัน 897 00:53:35,465 --> 00:53:37,676 ไปเป็นโล่มนุษย์ 898 00:53:37,676 --> 00:53:41,054 ปีนั้นฤดูหนาวในยุโรปโหดที่สุดในรอบ 100 ปีด้วย 899 00:53:42,431 --> 00:53:44,016 หนาวจับขั้วหัวใจ 900 00:53:44,016 --> 00:53:46,560 หิมะสูงถึงเข่า 901 00:53:46,560 --> 00:53:50,981 เขาสั่งให้เราเดินทั้งคืนจนถึงเย็นๆ วันรุ่งขึ้น 902 00:53:50,981 --> 00:53:52,065 มีพักเป็นช่วงๆ 903 00:53:52,065 --> 00:53:54,151 {\an8}(ชเพร็มแบร์ก - ซากัน - มูสบูร์ก) 904 00:53:54,151 --> 00:53:55,861 (เยอรมนี - เชโกสโลวาเกีย) 905 00:53:57,029 --> 00:53:59,239 {\an8}เขาพาเราไปขึ้นรถไฟที่ชเพร็มแบร์ก 906 00:53:59,239 --> 00:54:01,742 {\an8}จับเราขังในตู้ขนของ 907 00:54:01,742 --> 00:54:04,328 {\an8}อัดกันอยู่ประมาณ 60 - 70 คน 908 00:54:04,328 --> 00:54:06,079 ไม่มีที่ให้นั่งเลย 909 00:54:06,079 --> 00:54:07,456 เหมือนนรก 910 00:54:08,165 --> 00:54:10,667 {\an8}พวกเราอัดกันยิ่งกว่าปลากระป๋อง 911 00:54:10,667 --> 00:54:13,670 {\an8}ใครล้มก็โดนเหยียบ 912 00:54:13,670 --> 00:54:14,922 พอรถไฟเทียบท่า 913 00:54:14,922 --> 00:54:17,549 มีแต่เสียงทุบประตูให้เปิด 914 00:54:17,549 --> 00:54:19,760 พอผู้คุมเปิดออกมา 915 00:54:20,385 --> 00:54:22,554 สภาพมันเลวร้ายสุดจะบรรยาย 916 00:54:26,850 --> 00:54:28,101 (สตาลัก 7-A มูสบูร์ก เยอรมนี) 917 00:54:28,101 --> 00:54:31,146 มันเป็นค่ายที่ออกแบบมา 918 00:54:31,146 --> 00:54:34,525 ให้จุคนได้ 8,000 หรือเต็มที่ก็ 10,000 คน 919 00:54:34,525 --> 00:54:36,944 แต่พวกเรามีกัน 100,000 คน 920 00:54:36,944 --> 00:54:38,820 เรียกค่ายนรกจะเหมาะกว่า 921 00:54:40,739 --> 00:54:43,033 ไม่มีโรงนอน คนต้องนอนข้างนอก 922 00:54:43,033 --> 00:54:44,493 สภาพน่าสังเวชมาก 923 00:54:44,493 --> 00:54:46,245 ไม่มีใครรู้ชะตากรรมพวกเขา 924 00:54:47,621 --> 00:54:49,665 (29 เมษายน 1945) 925 00:54:49,665 --> 00:54:52,292 {\an8}วันนึงเราเดินๆ อยู่ 926 00:54:52,292 --> 00:54:55,420 {\an8}มีคนบอกว่า "รถถังมา รถถังฝ่ายเรา" 927 00:54:55,420 --> 00:54:57,172 มองไปก็เห็นอย่างเขาว่า 928 00:54:57,172 --> 00:54:59,633 เห็นรถถังเชอร์แมนอยู่ลิบๆ 929 00:55:00,634 --> 00:55:02,761 กองทัพที่สามของผู้บัญชาการแพตตัน 930 00:55:02,761 --> 00:55:07,599 ผมเห็นแพตตัน บนรถถังที่เคลื่อนเข้าประตูค่ายสตาลัก 7A มา 931 00:55:07,599 --> 00:55:08,684 เราเป็นอิสระแล้ว 932 00:55:10,936 --> 00:55:15,941 มีคนปีนขึ้นไปปลดธงสวัสติกะลงมาจากยอดเสา 933 00:55:15,941 --> 00:55:21,154 คลี่ธงชาติสหรัฐชูขึ้น ทุกคนยืนตัวตรง 934 00:55:21,154 --> 00:55:24,241 เราไม่ได้ใส่เครื่องแบบ เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง สภาพเยินสุดๆ 935 00:55:24,241 --> 00:55:26,910 แต่ผมตะเบ๊ะสวยที่สุดในชีวิตก็วันนั้นแหละ 936 00:55:29,830 --> 00:55:31,665 เป็นภาพที่จับใจมาก 937 00:55:31,665 --> 00:55:33,750 ในที่สุดเราก็เป็นไท 938 00:55:33,750 --> 00:55:38,630 หลังจากโดนจับ เป็นเชลยศึกอยู่นานแรมเดือนแรมปี 939 00:55:38,630 --> 00:55:42,634 จะว่าไปก็แทบไม่น่าเชื่อ ว่าสุดท้ายเราจะได้กลับบ้านแล้ว 940 00:55:43,760 --> 00:55:45,929 รายการลอนดอนคอลลิ่งครับ 941 00:55:45,929 --> 00:55:47,973 ข่าวด่วนวันนี้ 942 00:55:48,473 --> 00:55:53,270 วิทยุเยอรมันประกาศว่าฮิตเลอร์เสียชีวิตแล้ว 943 00:55:53,270 --> 00:55:55,147 (ซานมาเทโอไทมส์ ฮิตเลอร์สิ้นแล้ว นาซีกล่าว) 944 00:55:55,147 --> 00:56:00,110 วันที่ 1 พฤษภาคม 1945 คือวันที่โลกรู้ว่าฮิตเลอร์ยิงตัวตาย 945 00:56:00,110 --> 00:56:02,446 ฝูงบินที่ 100 ทําภารกิจสุดท้าย 946 00:56:02,446 --> 00:56:05,490 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในปฏิบัติการชาวฮาวด์ 947 00:56:05,490 --> 00:56:09,745 คือบินทิ้งร่มชูชีพอาหาร ไม่ใช่ระเบิด 948 00:56:09,745 --> 00:56:12,956 เพื่อเยียวยาชาวเนเธอร์แลนด์ ผู้หิวโหยเกือบห้าล้านคน 949 00:56:12,956 --> 00:56:15,709 ที่ยังโดนนาซีดื้อด้านรุกรานอยู่ 950 00:56:16,210 --> 00:56:19,588 พอเครื่องบินทิ้งระเบิด บินไปถึงชานเมืองอัมสเตอร์ดัม 951 00:56:19,588 --> 00:56:22,841 {\an8}ก็เห็นทุ่งทิวลิปสีสันเจิดจ้า 952 00:56:22,841 --> 00:56:23,926 {\an8}(ขอบคุณมาก) 953 00:56:23,926 --> 00:56:25,469 {\an8}มีทุ่งหนึ่ง เขาตัดดอกออก 954 00:56:25,469 --> 00:56:29,389 {\an8}เป็นคําว่า "ขอบคุณมากอเมริกัน" 955 00:56:35,020 --> 00:56:37,731 {\an8}(เดอะสตาร์สแอนด์สไตรป์ส สัมพันธมิตรประกาศ: มันจบแล้ว) 956 00:56:37,731 --> 00:56:39,650 {\an8}สงครามในยุโรปยุติแล้ว 957 00:56:39,650 --> 00:56:43,028 ลูกเรือฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100 เก็บของใส่ถุงทะเล 958 00:56:43,028 --> 00:56:46,073 ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ ธอร์ปแอบบ็อตส์ 959 00:56:46,073 --> 00:56:48,242 แต่งตัวเต็มยศ 960 00:56:48,242 --> 00:56:51,620 มาร่วมกันส่งพวกเขาเดินทางกลับบ้าน 961 00:56:57,835 --> 00:57:00,003 (ขอต้อนรับกลับบ้าน) 962 00:57:00,003 --> 00:57:02,548 พอมาถึงแอตแลนตา ผมรีบไปที่ตู้โทรศัพท์ 963 00:57:02,548 --> 00:57:05,676 โทรไปบอกแม่ว่าผมถึงบ้านแล้ว 964 00:57:06,218 --> 00:57:07,845 แม่ผมบ่อน้ําตาแตกเลย 965 00:57:09,513 --> 00:57:11,181 แล้วก็รีบออกมา... 966 00:57:11,181 --> 00:57:15,769 ขับรถมารับผมที่ฟอร์ตแมคเฟอร์สันแล้วกลับบ้านกัน 967 00:57:18,438 --> 00:57:20,065 พอกลับมาถึงแคลิฟอร์เนีย 968 00:57:20,065 --> 00:57:21,984 พ่อกับแม่ผมรออยู่แล้ว 969 00:57:21,984 --> 00:57:25,696 มีงานฉลองอลังการเลย ผมดี๊ด๊าสุดๆ 970 00:57:26,822 --> 00:57:30,284 ผมได้เจอบาร์บาร่าว่าที่ภรรยา 971 00:57:30,284 --> 00:57:33,078 แล้วสามสัปดาห์ต่อมาเราก็แต่งงานกัน 972 00:57:34,788 --> 00:57:37,958 หนุ่มๆ ในฝูงบู๊ที่ 100 ได้กลับบ้าน 973 00:57:38,834 --> 00:57:41,086 ไปอยู่กับครอบครัว 974 00:57:41,753 --> 00:57:43,130 กับภรรยา 975 00:57:44,006 --> 00:57:45,674 และคนรักแล้ว 976 00:57:46,175 --> 00:57:49,720 บางคนไม่ได้เจอกันตั้งแต่จากบ้านไปทําสงคราม 977 00:57:50,762 --> 00:57:54,808 พอปลดประจําการ ผมล้ามาก 978 00:57:54,808 --> 00:57:57,186 ด้วยความที่ผ่านประสบการณ์มาสาหัส 979 00:57:57,186 --> 00:58:00,772 ผมเลยอยากลืมอดีต แล้วกลับมาใช้ชีวิตปกติ 980 00:58:01,982 --> 00:58:05,652 ผมกลับไปทํางานบริษัทกฎหมายเดิมที่เคยทํา 981 00:58:05,652 --> 00:58:09,198 ทั้งที่ยังไม่พร้อมจะกลับไปเลย 982 00:58:09,198 --> 00:58:11,408 แล้วหลังจากทําอยู่หกเดือน... 983 00:58:11,408 --> 00:58:12,743 (สัมพันธมิตรฟ้องระบอบฮิตเลอร์ ข้อหาฆาตกรรม) 984 00:58:12,743 --> 00:58:18,123 {\an8}ก็ได้ข่าวว่าเขากําลังหา คนไปนูเรมเบิร์กในฐานะทนายฝ่ายโจทก์ 985 00:58:18,123 --> 00:58:19,917 {\an8}(โรเบิร์ต โรเซนธอล คณะกรรมการอาชญากรรมสงคราม) 986 00:58:20,584 --> 00:58:23,545 ตอนนั่งเรือไปที่นั่น ผมได้เจอสาวงามนางหนึ่ง 987 00:58:23,545 --> 00:58:27,549 ที่ก็เป็นทนายความ และมาเป็นทนายฝ่ายโจทก์เหมือนกัน 988 00:58:27,549 --> 00:58:31,178 ไม่เกิน 10 วัน เราก็หมั้นหมายกัน 989 00:58:31,720 --> 00:58:33,722 และแต่งงานกันในนูเรมเบิร์ก 990 00:58:35,557 --> 00:58:40,437 ผมเจอจําเลยที่ตอนนี้หมดยุคเรืองอํานาจแล้ว 991 00:58:40,437 --> 00:58:44,149 นั่งหน้าสลดตอนโดนไต่สวน โดนศาลตัดสิน 992 00:58:44,691 --> 00:58:48,779 พอได้เห็นภาพนั้น ผมวางใจแล้วว่าสงครามจบจริงๆ 993 00:58:53,867 --> 00:58:57,454 สงครามโลกครั้งที่สอง เป็นเหตุการณ์ล้างผลาญที่สุดในประวัติศาสตร์ 994 00:58:58,664 --> 00:59:02,125 คร่าชีวิตคนไปมากกว่าสงครามครั้งไหนๆ 995 00:59:03,126 --> 00:59:08,131 ทั้งนี้ กองทัพอากาศที่แปด มีตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงที่สุด 996 00:59:08,131 --> 00:59:11,176 ในบรรดากองทัพอื่นๆ ในสหรัฐ 997 00:59:14,304 --> 00:59:16,765 พอรอดมาแล้ว 998 00:59:16,765 --> 00:59:22,354 มองย้อนกลับไป ในช่วงที่เราเข้าไปแทรกแซงสงคราม 999 00:59:23,313 --> 00:59:25,524 มันเปลี่ยนชีวิตผมเลยนะ 1000 00:59:27,025 --> 00:59:28,318 คนสมัยนี้ 1001 00:59:28,318 --> 00:59:32,489 คงรู้สึกตื่นเต้น โลดโผน และเกินจริง ก็ไม่ผิด 1002 00:59:32,489 --> 00:59:36,994 เพื่อนใหม่ๆ ที่นั่นช่วยชีวิตผมไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง 1003 00:59:36,994 --> 00:59:40,080 เรียกว่าเป็นยอดมิตรแท้เลยล่ะ 1004 00:59:40,664 --> 00:59:43,584 คนที่รบเคียงบ่าเคียงไหล่เรา 1005 00:59:43,584 --> 00:59:46,587 สละชีวิต อุทิศเพื่อชาติ ด้วยความกล้าหาญ 1006 00:59:47,129 --> 00:59:50,048 เราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา 1007 00:59:50,048 --> 00:59:54,511 เห็นเครื่องบินเพื่อนโดนยิงตก โดนฆ่า 1008 00:59:54,511 --> 00:59:57,848 บาดเจ็บ กลายเป็นเชลยศึก 1009 00:59:57,848 --> 01:00:01,643 {\an8}ประสบการณ์เหล่านี้ ทําให้พวกเรานับถือกันและชนะสงครามด้วยกัน 1010 01:00:01,643 --> 01:00:03,353 {\an8}(หน่วยบินที่ 351 ฉลองครบรอบหนึ่งปีฝูงบินทิ้งระเบิดที่ 100) 1011 01:00:03,353 --> 01:00:07,191 {\an8}ผมว่าทุกคนก็รู้สึกเหมือนผมนี่แหละ 1012 01:00:07,191 --> 01:00:09,902 ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่เรามาเจอกัน 1013 01:00:12,696 --> 01:00:16,241 เราต้องชื่นชมทุกคน 1014 01:00:16,241 --> 01:00:21,246 ที่เสียสละให้โลกใบนี้ไม่ตกอยู่ใต้เผด็จการ 1015 01:00:23,749 --> 01:00:28,378 อิสรภาพที่เราได้มาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ 1016 01:00:28,378 --> 01:00:32,049 มันเป็นผลผลิตจากคนรุ่นผม 1017 01:00:32,049 --> 01:00:35,302 และบรรพบุรุษรุ่นก่อนผม 1018 01:00:35,302 --> 01:00:36,720 เพราะฉะนั้น 1019 01:00:36,720 --> 01:00:42,601 ผมว่าเราควรระลึกถึง คนที่มีชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง 1020 01:00:50,776 --> 01:00:53,278 (บรรยายโดย ทอม แฮงส์) 1021 01:02:01,138 --> 01:02:02,139 (ขอขอบคุณกระทรวงกลาโหมสหรัฐ) 1022 01:02:02,139 --> 01:02:03,265 (และหน่วยงานค้นคว้า ประวัติศาสตร์กองทัพอากาศสหรัฐ) 1023 01:02:03,265 --> 01:02:04,349 (ณ ฐานทัพอากาศแม็กซ์เวล) 1024 01:02:10,355 --> 01:02:12,357 คําบรรยายโดย Navaluck K.