1 00:00:06,965 --> 00:00:12,095 ‎(ซีรีส์สารคดีจาก NETFLIX) 2 00:00:12,178 --> 00:00:14,758 ‎อัลบี้ แซคส์เป็นนักเคลื่อนไหวชาวแอฟริกาใต้ 3 00:00:14,848 --> 00:00:16,638 ‎นักกฎหมาย นักเขียน 4 00:00:16,725 --> 00:00:19,765 ‎และอดีตผู้พิพากษา ‎ที่ได้รับแต่งตั้งโดยเนลสัน แมนเดลา 5 00:00:19,853 --> 00:00:23,063 ‎ให้ทำงานในศาลรัฐธรรมนูญ ‎แห่งแรกของแอฟริกาใต้ 6 00:00:23,898 --> 00:00:25,898 ‎ระหว่างต่อสู้เพื่อยุตินโยบายแบ่งแยกสีผิว 7 00:00:25,984 --> 00:00:27,744 ‎อัลบี้ได้รอดชีวิตจากระเบิด 8 00:00:27,819 --> 00:00:31,609 ‎ที่กองกำลังรักษาความปลอดภัย ‎ของแอฟริกาใต้เอาไปใส่ไว้ในรถของเขา 9 00:00:32,323 --> 00:00:35,413 ‎เขาเสียแขนไปหนึ่งข้างและตาบอดหนึ่งข้าง 10 00:00:35,493 --> 00:00:38,963 ‎แต่หลายปีต่อมา เมื่อมีคนถามว่า ‎โลกต้องการสิ่งใดมากที่สุด 11 00:00:39,581 --> 00:00:42,001 ‎คำตอบของเขายังคงเดิมไม่สั่นคลอน 12 00:00:43,460 --> 00:00:46,300 ‎คำว่า "โอบอ้อมอารี" ‎มันผุดขึ้นมาในหัวตลอดเลย 13 00:00:48,548 --> 00:00:53,638 ‎และอาจเป็นเพราะตอนนี้ ‎ทุกคนยโสโอหังกันมากเหลือเกิน 14 00:00:53,720 --> 00:00:56,770 ‎มันกลายเป็นที่นิยม ได้รับการสนับสนุน 15 00:00:57,348 --> 00:01:02,688 ‎แต่เราหักล้างมันได้ด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น 16 00:01:03,438 --> 00:01:05,068 ‎ด้วยการพูดคุยกับผู้อื่น 17 00:01:05,148 --> 00:01:10,858 ‎ด้วยการดึงให้พลังมันหันไปในทิศทางเดียวกัน 18 00:01:11,529 --> 00:01:16,369 ‎และด้วยการยอมรับและโอบรับความหลากหลาย 19 00:01:16,451 --> 00:01:19,291 ‎ซีรีส์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเนลสัน แมนเดลา 20 00:01:19,913 --> 00:01:24,583 ‎ที่เคยกล่าวไว้ว่า "สิ่งสำคัญในชีวิต ‎มิใช่เพียงการได้มีชีวิตอยู่เท่านั้น… 21 00:01:24,667 --> 00:01:28,247 ‎แต่คือความเปลี่ยนแปลง ‎ที่เราได้ก่อให้เกิดในชีวิตผู้อื่นต่างหาก 22 00:01:28,338 --> 00:01:32,088 ‎ที่จะเป็นตัวชี้วัดว่า ‎ชีวิตของเรานั้นมีความหมายเพียงใด" 23 00:01:32,967 --> 00:01:36,427 ‎ชีวิตของเขาได้สร้างรอยประทับไว้บนโลกใบนี้ 24 00:01:36,513 --> 00:01:40,233 ‎มรดกที่ได้สร้างแรงบันดาลใจ ‎ให้อีกหลายต่อหลายคนลุกขึ้นยืนหยัด… 25 00:01:40,809 --> 00:01:42,229 ‎ต่อสู้เพื่อเปลี่ยนโลก 26 00:01:42,310 --> 00:01:43,980 ‎และเป็นผู้นำ 27 00:01:44,062 --> 00:01:46,982 ‎ดังนั้นนี่คือการรำลึกถึงมาดิบา 28 00:01:47,649 --> 00:01:51,189 ‎ถูกทำขึ้นมาเพื่อย้ำเตือนเรา ‎ว่าคนหนึ่งคนสร้างความแตกต่างได้เพียงไร 29 00:01:51,277 --> 00:01:54,607 ‎มันเกี่ยวกับเหล่าผู้คนที่ได้เลือกทำสิ่งที่กล้าหาญ 30 00:01:54,697 --> 00:01:58,407 ‎เหล่าผู้นำที่ได้เดินเคียงบ่าเคียงไหล่ ‎และเดินตามรอยของเขา 31 00:01:58,993 --> 00:02:03,253 ‎คอยดูแลผู้อื่น และมุ่งมั่น ‎สร้างโลกที่น่าอยู่และเท่าเทียมขึ้น 32 00:02:04,165 --> 00:02:06,915 ‎และสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเราที่เหลือ 33 00:02:07,585 --> 00:02:09,545 ‎ดำเนินชีวิตเช่นผู้นำ 34 00:02:19,639 --> 00:02:26,349 ‎(อัลบี้ แซคส์) 35 00:02:28,731 --> 00:02:32,361 ‎รายงานผลการเรียนฉบับแรก ‎ที่ผมได้รับตอนอายุหกขวบ 36 00:02:33,319 --> 00:02:36,569 ‎ขึ้นต้นด้วยคำว่า "อัลเบิร์ตเป็นเด็กช่างฝัน" 37 00:02:37,824 --> 00:02:43,084 ‎และตอนนี้ 70 กว่าปีต่อมา 38 00:02:43,163 --> 00:02:45,423 ‎อัลบี้ก็ยังเป็นเด็กช่างฝันคนเดิม 39 00:02:47,167 --> 00:02:50,417 ‎(มาปูโต ประเทศโมซัมบิก ‎7 เมษายน ปี 1988) 40 00:02:50,503 --> 00:02:53,803 ‎เหยื่อรายล่าสุดของการโจมตี ‎พรรคสมัชชาแห่งชาติแอฟริกาทั่วโลก 41 00:02:53,882 --> 00:02:56,342 ‎กำลังเปิดประตูรถของเขาตอนที่เกิดการระเบิด 42 00:02:56,926 --> 00:02:59,046 ‎อัลบี้ แซคส์บาดเจ็บสาหัส 43 00:02:59,137 --> 00:03:02,677 ‎ตอนเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ‎แพทย์บอกว่าเขามีโอกาสรอดน้อยมาก 44 00:03:02,765 --> 00:03:04,385 ‎แต่เขารอดมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ 45 00:03:04,475 --> 00:03:08,435 ‎สะบักสะบอม ดวงตาหนึ่งข้าง ‎สูญเสียการมองเห็น แขนถูกตัดทิ้งหนึ่งข้าง 46 00:03:08,521 --> 00:03:10,231 ‎ถึงกระนั้น สองเดือนต่อมา 47 00:03:10,315 --> 00:03:13,855 ‎ผู้นำพรรคเอเอ็นซีผู้นี้ ‎ยังคงมีความหวังให้กับอนาคตของบ้านเกิดเขา 48 00:03:13,943 --> 00:03:15,903 ‎แก้แค้นไปแขนผมก็ไม่งอกกลับมา 49 00:03:16,738 --> 00:03:19,948 ‎และตรงกันข้าม ‎การแก้แค้นจะลดทอนคุณค่าของตัวผม 50 00:03:20,033 --> 00:03:22,743 ‎ในทางที่ทำให้ทุกอย่างที่เคยทำมานั้นสูญเปล่า 51 00:03:23,369 --> 00:03:27,829 ‎ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ 52 00:03:27,916 --> 00:03:29,826 ‎แอฟริกาใต้จะมีเสรีภาพ 53 00:03:29,918 --> 00:03:33,548 ‎เราจะรู้จักเสรีภาพในช่วงชีวิตนี้ ‎และเราจะสร้างสังคมที่ดีงามขึ้นที่นี่ 54 00:03:33,630 --> 00:03:36,090 ‎นั่นต้องเป็นเป้าหมายของเรา 55 00:03:40,762 --> 00:03:44,352 ‎แขกของเราในวันนี้คือ ‎ผู้พิพากษาอัลเบิร์ต แอล. แซคส์ 56 00:03:44,432 --> 00:03:48,352 ‎สมาชิกของศาลรัฐธรรมนูญแอฟริกาใต้ 57 00:03:52,273 --> 00:03:57,203 ‎ผู้พิพากษาแซคส์เป็นผู้นำ ‎ในการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนในแอฟริกาใต้ 58 00:03:57,278 --> 00:04:01,318 ‎อีกทั้งยังเป็นนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพ ‎ในพรรคสมัชชาแห่งชาติแอฟริกา 59 00:04:01,407 --> 00:04:05,577 ‎การที่เขามีส่วนร่วมในสายอาชีพนี้ ‎ทำให้เขาไปมีปัญหากับตำรวจ 60 00:04:05,662 --> 00:04:08,252 ‎เขาเคยถูกคุมตัวโดยไม่ได้ขึ้นศาลถึงสองครั้ง 61 00:04:08,331 --> 00:04:10,211 ‎ขณะที่เขาถูกจองจำ 62 00:04:10,291 --> 00:04:12,381 ‎ขังเดี่ยว กักตัว 63 00:04:12,460 --> 00:04:14,380 ‎เขาต้องหนีออกนอกประเทศอยู่ช่วงหนึ่ง… 64 00:04:14,462 --> 00:04:18,882 ‎และได้กลายเป็นเป้าหมาย ‎ของการพยายามลอบสังหารโดยรัฐ 65 00:04:18,967 --> 00:04:22,297 ‎แล้วเนลสัน แมนเดลาก็ถูกปล่อยตัว 66 00:04:22,387 --> 00:04:24,557 ‎หลังจากต้องลี้ภัยทางการเมืองนาน 24 ปี 67 00:04:24,639 --> 00:04:28,229 ‎อัลบี้ แซคส์ได้รับการต้อนรับ ‎จากแม่ที่สนามบินเคปทาวน์ 68 00:04:28,309 --> 00:04:30,059 ‎เขาไปร่วมการเจรจา 69 00:04:30,144 --> 00:04:33,114 ‎ที่ทำให้แอฟริกาใต้ ‎เป็นประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ 70 00:04:33,189 --> 00:04:38,069 ‎และเขาได้รับแต่งตั้งให้ทำงาน ‎ในศาลรัฐธรรมนูญโดยเนลสัน แมนเดลา 71 00:04:38,152 --> 00:04:39,652 ‎ตลอดเวลาที่เขาเป็นผู้พิพากษา 72 00:04:39,737 --> 00:04:44,237 ‎เขาได้รับสมญานามว่าเป็นจิตสำนึกของศาล 73 00:04:44,909 --> 00:04:49,329 ‎อัลบี้ใช้ชีวิตโดยปราศจากความเคียดแค้น 74 00:04:49,998 --> 00:04:53,378 ‎อัลบี้ทำให้เราเชื่อมั่นในการเป็นมนุษย์… 75 00:04:54,752 --> 00:04:56,592 ‎ในการเป็นชาวแอฟริกาใต้ 76 00:04:56,671 --> 00:04:59,471 ‎ชายผิวขาวชาวแอฟริกาใต้ ‎เวลามองอัลบี้ก็จะคิดว่า… 77 00:05:00,341 --> 00:05:01,301 ‎(อีวอนน์ ม็อกโกโร่) 78 00:05:01,384 --> 00:05:03,144 ‎อัลบี้คือสิ่งที่เป็นไปได้ 79 00:05:28,328 --> 00:05:30,498 ‎(การต่อสู้นโยบายแบ่งแยกสีผิว) 80 00:05:30,580 --> 00:05:34,880 ‎มันมีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง ‎ตอนหกขวบ ขณะที่ผมเก็บกระเป๋าลี้ภัย 81 00:05:34,959 --> 00:05:40,169 ‎ผมไปเจอการ์ดอวยพรวันเกิด ‎จากพ่อ ซอลลี่ แซคส์ 82 00:05:41,799 --> 00:05:47,309 ‎"อัลบี้ ขอให้ลูกเติบใหญ่ขึ้น ‎เป็นทหารที่ต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชนนะ" 83 00:05:48,348 --> 00:05:51,098 ‎ผมว่ามันหนักอึ้งมากสำหรับเด็กหกขวบ 84 00:05:51,184 --> 00:05:54,904 ‎แต่ผมโตมาในจักรวาลแบบนั้น 85 00:05:54,979 --> 00:05:57,649 ‎กฎหมายกำหนดให้คนขาวมีอำนาจเหนือกว่า 86 00:05:57,732 --> 00:05:59,072 ‎และคนส่วนใหญ่ที่มีผิวดำ 87 00:05:59,150 --> 00:06:01,900 ‎ต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติในทุกแง่มุมของชีวิต 88 00:06:02,528 --> 00:06:06,028 ‎แอฟริกาใต้ถูกนโยบายแบ่งแยกสีผิวครอบงำ 89 00:06:06,699 --> 00:06:10,329 ‎ตอนอายุ 17 ผมอยู่ในห้องโถงกับคนผิวดำเพียบ 90 00:06:10,411 --> 00:06:13,211 ‎น่าจะสัก 200 คน มีคนขาวห้าถึงสิบคน 91 00:06:13,289 --> 00:06:14,669 ‎และผู้คนร้องเพลงกัน 92 00:06:14,749 --> 00:06:17,589 ‎พวกเขาร้องเพลงเกี่ยวกับเสรีภาพ 93 00:06:17,668 --> 00:06:21,708 ‎และร้องเรียกให้คนอาสาสมัคร ‎ไปร่วมโครงการต่อต้านกฎหมายที่ไม่ยุติธรรม 94 00:06:21,798 --> 00:06:23,878 ‎ผมหันไปบอกเพื่อน 95 00:06:23,966 --> 00:06:25,836 ‎"อาวี่ ฉันอยากอาสา" 96 00:06:26,469 --> 00:06:27,599 ‎เขาตอบ "ไม่ได้" 97 00:06:27,678 --> 00:06:28,638 ‎"ทำไมล่ะ" 98 00:06:28,721 --> 00:06:29,811 ‎"ก็นายเป็นคนขาว" 99 00:06:30,556 --> 00:06:32,016 ‎"เราต่อสู้การเหยียดผิว" 100 00:06:32,100 --> 00:06:34,140 ‎"มันเป็นศึกของคนดำที่มีคนดำเป็นผู้นำ" 101 00:06:34,936 --> 00:06:37,356 ‎แต่เก้าเดือนต่อมา 102 00:06:38,481 --> 00:06:41,031 ‎หลังผมสอบเสร็จแล้ว 103 00:06:41,109 --> 00:06:43,819 ‎ช่วงปิดเทอมผมได้ไปนำกลุ่ม 104 00:06:45,029 --> 00:06:49,489 ‎หนุ่มผิวขาวสี่คนไปนั่งบนม้านั่ง ‎ที่เขียนว่า "คนไม่ขาวเท่านั้น" 105 00:06:49,575 --> 00:06:52,995 ‎และผมได้มีส่วนร่วมในการประชุมและการค้นหา 106 00:06:53,079 --> 00:06:58,709 ‎ผมคิดว่ามันสำคัญสำหรับผม ‎ผู้คนที่ผมได้ไปรู้จักช่วงต่อสู้นโยบายแบ่งแยกสีผิว 107 00:06:58,793 --> 00:07:00,093 ‎(เราสนับสนุนผู้นำของเรา) 108 00:07:00,169 --> 00:07:03,049 ‎มีพลัง มีชีวิตชีวา มีจินตนาการ 109 00:07:03,131 --> 00:07:05,471 ‎มันน่าสนใจมากกว่า 110 00:07:05,550 --> 00:07:08,180 ‎เส้นทางชีวิตของเราที่ถูกวางไว้ให้แล้วเยอะ 111 00:07:08,261 --> 00:07:12,641 ‎ว่าจะต้องหาอาชีพที่ทำเงินได้ ‎แล้วต้องไปเป็นคนใหญ่คนโต 112 00:07:13,641 --> 00:07:19,231 ‎การไปเรียนเป็นทนาย ‎เป็นองค์ประกอบสำคัญของการเคลื่อนไหว 113 00:07:20,106 --> 00:07:22,356 ‎ผมเคยทำคดีมาหลากหลายรูปแบบ 114 00:07:22,442 --> 00:07:25,992 ‎แต่งานหลักๆ ที่ผมทำ 115 00:07:26,070 --> 00:07:32,910 ‎มันเกี่ยวกับคนถูกลงโทษหรือโดนขู่ว่าจะถูกลงโทษ 116 00:07:32,994 --> 00:07:36,084 ‎เพราะความคิดเห็น ‎เพราะพวกเขาต่อต้านนโยบายแบ่งแยกสีผิว 117 00:07:36,164 --> 00:07:37,964 ‎หรือเพราะพวกเขาไม่พกเอกสาร 118 00:07:38,040 --> 00:07:41,380 ‎ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายมากมาย ‎ที่เขียนขึ้นมาเพื่อกดขี่คนดำ 119 00:07:41,461 --> 00:07:44,171 ‎(คณะการกรรมการแบ่งแยกของเคป ‎พื้นที่คนขาว) 120 00:07:44,255 --> 00:07:47,675 ‎(ระวังชาวพื้นเมือง) 121 00:07:47,758 --> 00:07:49,008 ‎(ไอ้มืดที่บุกรุกจะถูกยิง) 122 00:07:49,093 --> 00:07:50,393 ‎มันแย่มาก 123 00:07:50,470 --> 00:07:53,810 ‎ปี 1960 ปีที่มีการสังหารหมู่ที่ชาร์ปวิลล์… 124 00:07:53,890 --> 00:07:57,560 ‎ที่ชาร์ปวิลล์ ตำรวจยิงกลุ่มผู้ประท้วงไม่พกอาวุธ 125 00:07:58,603 --> 00:08:01,693 ‎มีผู้เสียชีวิต 69 ราย ส่วนใหญ่ถูกยิงหลัง 126 00:08:01,772 --> 00:08:04,862 ‎เอเอ็นซี พรรคสมัชชาแห่งชาติแอฟริกันถูกแบน 127 00:08:04,942 --> 00:08:08,822 ‎ทุกอย่างถูกบีบลงไปใต้ดิน ‎เขาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 128 00:08:08,905 --> 00:08:11,775 ‎และทุกอย่างก็มืดมนกว่าเดิมมาก 129 00:08:12,366 --> 00:08:14,286 ‎ไม่ว่าเราจะอยู่ที่บ้าน 130 00:08:14,368 --> 00:08:18,998 ‎ที่ทำงาน หรือเดินอยู่บนถนน ‎ก็สามารถถูกตำรวจจับได้ตามใจชอบ 131 00:08:19,081 --> 00:08:22,591 ‎ผมเห็นลูกความของผมถูกจับไปทีละคน 132 00:08:23,211 --> 00:08:25,801 ‎แล้วถูกนำตัวไปขังนาน 90 วันตามกฎหมาย 133 00:08:25,880 --> 00:08:28,590 ‎พวกเขาสามารถกักตัวเราไว้โดยไม่ให้พบทนาย 134 00:08:28,674 --> 00:08:32,474 ‎ไม่ให้เจอศาล ครอบครัว ‎หรือเจอใครเลยนาน 90 วัน 135 00:08:32,553 --> 00:08:37,983 ‎เพียงแค่พวกเขาสงสัยว่า ‎เรามีข้อมูลช่วยเหลือผู้ก่อการร้าย 136 00:08:39,018 --> 00:08:41,728 ‎และเนื่องจากคุณต่อสู้ความอยุติธรรมนี้ 137 00:08:41,812 --> 00:08:44,322 ‎ไม่ใช่แค่ในฐานะทนายที่ว่าความให้คนดำเท่านั้น 138 00:08:44,398 --> 00:08:46,318 ‎แต่ในฐานะนักเคลื่อนไหว 139 00:08:47,026 --> 00:08:48,236 ‎พวกเขาเลยจับคุณไปด้วย 140 00:08:48,319 --> 00:08:51,319 ‎(การอยู่รอดในความมืด) 141 00:08:51,405 --> 00:08:54,615 ‎เราเข้าร่วมการต่อสู้ เราไปเป็นอาสาสมัคร 142 00:08:55,326 --> 00:08:57,536 ‎เรากลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการต่อต้าน 143 00:08:57,620 --> 00:09:00,040 ‎ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต่อสู้พวกนาซี 144 00:09:00,122 --> 00:09:04,592 ‎กลุ่มคนที่เข้าข้างพวกเขา ‎ในยุโรปช่วงสงครามโลก 145 00:09:06,796 --> 00:09:08,086 ‎คนที่เคยติดคุก 146 00:09:08,172 --> 00:09:10,472 ‎ที่ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ติดคุก 147 00:09:10,550 --> 00:09:15,390 ‎เราก็จะหามาอ่าน ‎และเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้พร้อม 148 00:09:15,471 --> 00:09:17,221 ‎"อ๋อ ในคุกเป็นแบบนี้นี่เอง" 149 00:09:19,016 --> 00:09:20,266 ‎แต่เราไม่พร้อมเลยจริงๆ 150 00:09:22,103 --> 00:09:24,613 ‎เราไม่พร้อม เราไม่พร้อมที่จะอยู่คนเดียว 151 00:09:27,066 --> 00:09:29,686 ‎เราพร้อมไม่ได้ เพราะว่ามันไม่มีทางเลือกอื่น 152 00:09:29,777 --> 00:09:31,697 ‎จะทำไงได้ล่ะ ก็ร้องไห้ได้ 153 00:09:33,573 --> 00:09:36,873 ‎แต่เรามีทางเลือก ‎เราสามารถให้ความร่วมมือหรือยอมแพ้ได้ 154 00:09:36,951 --> 00:09:41,621 ‎ดังนั้นศึกที่แท้จริงคือการห้ามใจไม่ยอมเปิดปาก 155 00:09:41,706 --> 00:09:45,076 ‎ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล 156 00:09:46,210 --> 00:09:48,670 ‎พอผ่านไปสักพัก ‎เราจะลืมไปเลยว่าติดคุกเพราะอะไร 157 00:09:48,754 --> 00:09:51,514 ‎เราจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไม… เรารู้แค่ว่า 158 00:09:51,591 --> 00:09:54,091 ‎ประโยคที่เคยรู้สึกยิ่งใหญ่ทรงพลัง 159 00:09:54,176 --> 00:09:57,466 ‎ที่เคยมีความหมายนักหนา ตอนนี้กลวงโบ๋ 160 00:09:57,555 --> 00:09:59,555 ‎เสรีภาพอะไร ไร้สาระสิ้นดี 161 00:09:59,640 --> 00:10:04,100 ‎เราอยู่ในโลกที่ทำให้เราหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง 162 00:10:04,186 --> 00:10:06,976 ‎มีแค่ตัวเราคนเดียวกับความเจ็บปวดที่รู้สึก 163 00:10:07,064 --> 00:10:09,734 ‎ในวันที่ดี ผมจะซึมเศร้า 164 00:10:09,817 --> 00:10:11,777 ‎นั่นวันที่ดีนะ แค่ซึมเศร้า 165 00:10:12,612 --> 00:10:14,032 ‎แต่ในวันที่แย่… 166 00:10:15,823 --> 00:10:18,623 ‎ไม่ถึงกับอยากฆ่าตัวตาย แต่ก็ใกล้เคียง 167 00:10:18,701 --> 00:10:20,871 ‎อยู่ในสภาพหมดอาลัยตายอยาก 168 00:10:28,169 --> 00:10:30,959 ‎วันหนึ่ง ผมได้ยินเสียงผิวปาก 169 00:10:32,798 --> 00:10:35,508 ‎ไม่อยากจะเชื่อเลย ‎เพราะมันไม่ใช่แค่เสียงทั่วไป 170 00:10:35,593 --> 00:10:37,433 ‎ในคุกจะมีเสียงดัง 171 00:10:37,511 --> 00:10:42,641 ‎มีคนกรีดร้อง ตะโกน ‎มีการกระแทกประตู ทุกคนแหกปากกัน 172 00:10:43,225 --> 00:10:46,725 ‎แล้วผมได้ยินเสียงผิวปาก ผมเลยผิวปากตอบ 173 00:11:03,663 --> 00:11:06,083 ‎แล้วผมก็ได้ยินเสียงจากอีกฟากของเรือนจำ… 174 00:11:14,548 --> 00:11:16,128 ‎ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร 175 00:11:18,636 --> 00:11:21,676 ‎แต่นี่เป็นรูปแบบการสื่อสารที่วิเศษมาก 176 00:11:23,432 --> 00:11:26,892 ‎หลังจากนั้นผมจะกายบริหารเป็นกิจวัตรประจำวัน 177 00:11:26,977 --> 00:11:29,727 ‎แล้วระหว่างที่ผมกำลังวิดพื้น 100 ที 178 00:11:29,814 --> 00:11:34,284 ‎ผมก็ได้ยินเสียงผิวปาก ‎แต่ผมตอบว่า "เพิ่งวิดพื้นได้ 75 ทีเอง" 179 00:11:34,360 --> 00:11:36,950 ‎"รอก่อนได้ไหม รอหน่อยนะ" 180 00:11:37,029 --> 00:11:40,529 ‎เราเลยต้องตกลงนัดเวลาเดิมทุกวัน 181 00:11:40,616 --> 00:11:44,576 ‎ที่เราจะพร้อมผิวปากด้วยกัน ‎จนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร 182 00:11:46,539 --> 00:11:49,249 ‎หลังผ่านไป 90 วัน ผมได้รับการปล่อยตัว 183 00:11:49,333 --> 00:11:51,593 ‎ผมเดินออกไปที่ถนนแล้ว… 184 00:11:53,921 --> 00:11:54,961 ‎ก็โดนจับไปขังอีก 185 00:11:56,424 --> 00:12:00,144 ‎พวกเขายึดเนกไทผมไป ยึดนาฬิกาผมไป 186 00:12:00,219 --> 00:12:02,849 ‎ขังต่ออีก 78 วัน 187 00:12:02,930 --> 00:12:06,100 ‎จากนั้นผมก็ถูกปล่อยตัว ‎ไม่รู้ว่าทำไม และผมรู้สึก… 188 00:12:07,643 --> 00:12:08,853 ‎มีชัย อิ่มอกอิ่มใจ 189 00:12:08,936 --> 00:12:13,896 ‎จนวิ่งปร๊าดจากใจกลางเมืองเคปทาวน์ ‎ไปจนถึงคลิฟตัน น่าจะสัก… 190 00:12:15,943 --> 00:12:19,453 ‎สิบ สิบเอ็ด หรือสิบสองกิโลเมตร ‎ผมไม่เคยวิ่งไกลเท่านั้นมาก่อนในชีวิต 191 00:12:19,530 --> 00:12:21,370 ‎ผมกระโจนลงทะเล 192 00:12:21,449 --> 00:12:27,119 ‎เพื่อนร่วมงานของผม ‎ใส่ชุดสูทรองเท้ามันวาวเดินลงมาที่ชายหาด 193 00:12:29,832 --> 00:12:32,882 ‎แล้วคิดว่าผมเป็นบ้า ผมก็บ้านิดๆ แหละ 194 00:12:32,960 --> 00:12:35,670 ‎ผมดูเหมือนมีชัย แต่ข้างในมันพังไปแล้ว 195 00:12:39,008 --> 00:12:41,178 ‎เราไม่มีวันก้าวผ่านการถูกขังเดี่ยวไปได้ 196 00:12:42,887 --> 00:12:43,797 ‎ไม่มีวัน 197 00:12:47,391 --> 00:12:52,561 ‎หลายปีหลังจากนั้น ตอนที่ผมต้องลี้ภัย 198 00:12:57,777 --> 00:12:58,647 ‎ผมถูกลอบระเบิด 199 00:13:00,613 --> 00:13:03,033 ‎(โมซัมบิก ปี 1988) 200 00:13:04,742 --> 00:13:07,662 ‎รูธ เฟิสต์เพื่อนผมถูกจดหมายระเบิดฆ่าตาย 201 00:13:10,080 --> 00:13:13,290 ‎ที่สุสานเมืองมาปูโตจะมีบริเวณหนึ่ง 202 00:13:13,375 --> 00:13:18,125 ‎ที่ใช้ฝังร่างชาวแอฟริกาใต้มากมาย ‎ซึ่งกว่า 20 ถูกฆ่าตาย 203 00:13:18,214 --> 00:13:21,384 ‎และทุกครั้งที่เราไปที่นั่น เราจะสงสัยว่า 204 00:13:21,467 --> 00:13:24,967 ‎"พื้นที่เล็กๆ ตรงนั้นจะเป็นของฉันไหมนะ" 205 00:13:25,054 --> 00:13:30,644 ‎เนื่องจากเขาเป็นศัตรูคนสำคัญ ‎ของนโยบายการแบ่งแยกสีผิว 206 00:13:30,726 --> 00:13:33,436 ‎เขาจึงตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวงตลอดเวลา 207 00:13:33,521 --> 00:13:36,981 ‎ผมนึกว่าเขาคงไม่ฆ่าผมหรอก ‎ผมไม่ใช่เป้าหมายสำคัญสักนิด 208 00:13:37,066 --> 00:13:41,236 ‎แล้วมันจะปลุกกระแสต่อต้านแน่ๆ แต่ผมคิดผิดถนัด 209 00:13:42,321 --> 00:13:46,031 ‎เสียงระเบิดดังสนั่นทั่วทั้งมาปูโต ‎เมืองหลวงของโมซัมบิก 210 00:13:46,116 --> 00:13:49,746 ‎คาดว่ากับดักนี้เป็นฝีมือ ‎ของเจ้าหน้าที่ของแอฟริกาใต้ 211 00:13:49,829 --> 00:13:52,079 ‎พวกเขาตั้งใจให้รถคันนี้กลายเป็นโลงศพของเขา 212 00:13:56,877 --> 00:14:01,757 ‎ผมรู้สึกว่ามีคนมาลากผมออกไป ผมบอกว่า 213 00:14:01,841 --> 00:14:04,471 ‎"ทิ้งผมไว้นี่แหละ ผมอยากตายตรงนี้มากกว่า" 214 00:14:06,470 --> 00:14:12,350 ‎ผมนึกว่ากำลังถูกลักพาตัว ‎พาข้ามชายแดนกลับไปแอฟริกาใต้ 215 00:14:16,438 --> 00:14:19,978 ‎(โรงพยาบาลเมืองมาปูโต) 216 00:14:20,067 --> 00:14:23,647 ‎มืดสนิท ได้เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น 217 00:14:23,737 --> 00:14:26,657 ‎ผมไม่รู้ว่าคืออะไร ‎ผมได้ยินเสียงในความมืดพูดว่า 218 00:14:27,616 --> 00:14:31,116 ‎"อัลบี้ นี่อีโว การ์ริโดนะครับ" 219 00:14:31,203 --> 00:14:33,543 ‎"คุณอยู่ที่โรงพยาบาลเมืองมาปูโต" 220 00:14:34,999 --> 00:14:38,749 ‎"สภาพแขนของคุณแย่มาก ‎คุณต้องเผชิญหน้ากับอนาคตด้วยความกล้า" 221 00:14:38,836 --> 00:14:41,206 ‎ผมเลยถามความมืดนั้นว่า "เกิดอะไรขึ้น" 222 00:14:41,297 --> 00:14:43,627 ‎เสียงผู้หญิงตอบว่า "มีการลอบวางระเบิดรถ" 223 00:14:44,592 --> 00:14:48,142 ‎ผมหมดสติอีกรอบ แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกปีติใจ 224 00:14:48,220 --> 00:14:52,730 ‎ผมนึกว่าถูกลักพาตัว ‎กลับไปขังคุกที่แอฟริกาใต้ซะแล้ว 225 00:14:52,808 --> 00:14:56,978 ‎แต่ผมรู้ว่าผมปลอดภัยอยู่ในความดูแลของเฟรลิโม 226 00:14:57,646 --> 00:14:59,436 ‎รัฐบาลประเทศโมซัมบิก 227 00:15:00,816 --> 00:15:05,696 ‎เวลาผ่านไปสักพัก 228 00:15:07,489 --> 00:15:09,489 ‎ผมรู้สึกสบายใจ ตอนนั้นนอนหงายอยู่ 229 00:15:09,575 --> 00:15:12,825 ‎มองไม่เห็นอะไรสักอย่าง ‎ตาปิดสนิท ผมเล่าเรื่องตลกให้ตัวเองฟัง 230 00:15:14,830 --> 00:15:16,790 ‎เกี่ยวกับไฮมี่ โคเฮน เขาเป็นยิวเหมือนผม 231 00:15:16,874 --> 00:15:18,754 ‎เขาหล่นลงจากรถเมล์ แต่เขาลุกขึ้น… 232 00:15:20,127 --> 00:15:22,877 ‎แล้วเขาทำมือ… 233 00:15:24,048 --> 00:15:25,088 ‎ทำมือแบบนี้ 234 00:15:25,174 --> 00:15:27,644 ‎มีคนถามว่า "ไฮมี่ ‎เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเป็นคนคาทอลิก" 235 00:15:27,718 --> 00:15:29,388 ‎"ผมเป็นคนคาทอลิกยังไง" 236 00:15:30,179 --> 00:15:34,639 ‎"แค่จับดูว่าแว่น ไข่ กระเป๋า ‎และนาฬิกายังอยู่ดีไหม" 237 00:15:34,725 --> 00:15:37,975 ‎มันเป็นมุกเก่า ปกติจะไม่เล่าในสถานการณ์แบบนี้ 238 00:15:38,062 --> 00:15:41,022 ‎แต่ผมเริ่มจากจับไข่ ทุกอย่างดูปกติดี 239 00:15:41,106 --> 00:15:44,606 ‎กระเป๋าสตางค์ยังอยู่ แว่นตา… 240 00:15:46,654 --> 00:15:48,864 ‎ถ้าตรงนี้มีรอยบุบ ผมซวยแน่ 241 00:15:48,948 --> 00:15:53,448 ‎โอเค แล้วถึงรู้ว่าแขนขาด ‎ผมเสียแขนไปแค่ข้างเดียว 242 00:15:53,535 --> 00:15:55,575 ‎ช่วงเวลาที่นักต่อสู้เพื่อเสรีภาพต่างเฝ้ารอ 243 00:15:55,663 --> 00:15:58,543 ‎"วันนี้พวกเขาจะมาจัดการฉันไหม ‎ฉันจะกล้าหาญไหมนะ" 244 00:15:58,624 --> 00:16:02,044 ‎พวกเขามาจัดการผมแล้ว ‎พวกเขาพยายามฆ่าผม แต่ผมรอดมาได้ 245 00:16:02,127 --> 00:16:03,627 ‎ผมมีความสุขและมีชัย 246 00:16:03,712 --> 00:16:09,722 ‎นั่นคือเมื่อวันที่ 7 เมษายน ‎หรือวันที่ 8 เมษายน ปี 1988 247 00:16:09,802 --> 00:16:11,602 ‎จนถึงวันนี้ก็ยังรู้สึกเช่นนั้น 248 00:16:11,679 --> 00:16:14,929 ‎มันปัดเป่าความเศร้าโศกจากที่ถูกขังเดี่ยวไปหมด 249 00:16:15,015 --> 00:16:17,635 ‎มันเปลี่ยนมุมมองชีวิตผมไปเลย 250 00:16:17,726 --> 00:16:19,726 ‎ผมกลับมาเป็นคนเดิมได้ยังไงไม่รู้ 251 00:16:19,812 --> 00:16:21,652 ‎ผมอธิบายมันออกมาไม่ได้ 252 00:16:21,730 --> 00:16:25,730 ‎แล้วผมก็หวั่นๆ อยู่ว่า ‎พอพูดเสร็จแล้วอาการจะทรุด 253 00:16:26,860 --> 00:16:29,700 ‎แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ผมมาถึงจุดที่ต้อง… 254 00:16:30,864 --> 00:16:36,414 ‎สร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ ทั้งร่างกายและจิตใจ 255 00:16:36,996 --> 00:16:43,286 ‎ผมต้องหัดเขียนใหม่ ‎"ดูสิแม่จ๋า ผมเขียนหนังสือได้แล้ว!" 256 00:16:44,128 --> 00:16:47,588 ‎หัดตั้งไข่ใหม่ "ดูสิแม่จ๋า ผมเดินได้ ยืนได้" 257 00:16:47,673 --> 00:16:52,343 ‎การรักษาตัวหลังจากเหตุระเบิด ‎มันน่ายินดีมากเพราะอะไรก็ไม่รู้ 258 00:16:59,893 --> 00:17:05,943 ‎ผมได้รับจดหมาย 259 00:17:06,025 --> 00:17:08,235 ‎ตอนนอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาลที่ลอนดอน 260 00:17:08,318 --> 00:17:14,738 ‎จดหมายเขียนว่า "ไม่ต้องห่วงนะ สหายอัลบี้ ‎เราจะล้างแค้นให้คุณ ลงชื่อ บ็อบบี้ ไนดู" 261 00:17:15,659 --> 00:17:17,199 ‎ผมคิดในใจ "ล้างแค้นให้เนี่ยนะ" 262 00:17:17,286 --> 00:17:20,406 ‎"เราจะไปตัดแขนแล้วแทงตาใครงั้นเหรอ" 263 00:17:21,040 --> 00:17:22,880 ‎เราต่อสู้ให้ประเทศชาติเป็นแบบนั้นเหรอ 264 00:17:22,958 --> 00:17:26,628 ‎ถ้าเราได้มีเสรีภาพ ‎ได้มีระบอบประชาธิปไตย ได้มีหลักนิติธรรม 265 00:17:26,712 --> 00:17:29,842 ‎นั่นสิที่จะถือเป็นการล้างแค้นแบบนิ่มนวลให้ผม 266 00:17:29,923 --> 00:17:32,053 ‎กุหลาบกับดอกลิลลี่จะงอกออกมาจากแขนผม 267 00:17:38,432 --> 00:17:41,942 ‎(สองปีต่อมา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ‎เอฟ.ดับเบิลยู เดอ แกลร์กยอมอ่อนข้อ) 268 00:17:42,019 --> 00:17:45,229 ‎วันนี้ผมสามารถประกาศ ‎การตัดสินใจที่จะมีผลแผ่ไปไกล 269 00:17:45,314 --> 00:17:48,364 ‎การปราบปรามพรรคสมัชชาแห่งชาติแอฟริกัน 270 00:17:48,442 --> 00:17:49,942 ‎สภาชาวแอฟริกัน 271 00:17:50,027 --> 00:17:52,987 ‎และพรรคคอมมิวนิสต์แอฟริกาใต้ ‎จะถูกยกเลิก 272 00:17:55,866 --> 00:17:57,366 ‎อยู่ในความสงบ 273 00:17:57,451 --> 00:18:01,411 ‎คนที่ถูกจองจำอยู่ในคุก ‎แค่เพราะพวกเขาเป็นสมาชิก 274 00:18:01,497 --> 00:18:05,287 ‎ในองค์กรเหล่านี้จะได้รับการระบุตัวและปล่อยตัว 275 00:18:05,375 --> 00:18:09,585 ‎และในอีกกรณีที่เกี่ยวข้องกัน ‎รัฐบาลได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ 276 00:18:09,671 --> 00:18:12,261 ‎ว่าจะปล่อยตัวคุณแมนเดลาโดยไม่มีเงื่อนไข 277 00:18:12,341 --> 00:18:15,221 ‎(การกลับบ้าน) 278 00:18:18,555 --> 00:18:20,515 ‎(ยินดีต้อนรับกลับบ้าน) 279 00:18:56,093 --> 00:18:57,933 ‎ผมกลับมาที่แอฟริกาใต้ 280 00:19:04,268 --> 00:19:06,228 ‎เรามีสิทธิ์มีเสียงเท่ากันเป็นครั้งแรก 281 00:19:06,311 --> 00:19:09,441 ‎ณ ตอนนี้ ในระบอบประชาธิปไตย ‎ที่เพิ่งเกิดใหม่ในแอฟริกาใต้ 282 00:19:09,523 --> 00:19:13,743 ‎ผู้ออกแบบระบอบนี้ผู้โด่งดังที่สุด ‎ได้ทำให้เวลานี้ถูกบันทึกไว้อย่างสวยงาม 283 00:19:13,819 --> 00:19:16,279 ‎โดยประกาศว่า ‎ศึกที่เขาสู้มาทั้งชีวิตได้ประสบผลแล้ว 284 00:19:16,363 --> 00:19:21,583 ‎ผมต่อสู้อย่างหนักแน่น ‎ต่อต้านไม่ให้คนขาวครอบงำเรา 285 00:19:21,660 --> 00:19:27,500 ‎ผมต่อสู้อย่างหนักแน่น ‎ต่อต้านไม่ให้คนดำครอบงำเขา 286 00:19:27,583 --> 00:19:32,253 ‎ผมยึดมั่นในแนวคิดแอฟริกาใต้ใหม่ 287 00:19:32,838 --> 00:19:35,418 ‎การต่อสู้ของเราสำเร็จแล้ว 288 00:19:37,426 --> 00:19:39,676 ‎นั่นคือเครื่องพิสูจน์ทุกอย่างที่ทำมา 289 00:19:42,264 --> 00:19:45,644 ‎จากนั้นผมก็ได้รับแต่งตั้ง ‎เป็นผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ 290 00:19:45,726 --> 00:19:47,846 ‎เพื่อปกป้องสิ่งที่เราต่อสู้ดิ้นรนไขว่คว้ามา 291 00:19:47,936 --> 00:19:50,806 ‎ครั้งสุดท้ายที่ผมได้ไปขึ้นศาล… 292 00:19:50,898 --> 00:19:53,818 ‎(ศาลรัฐธรรมนูญ) 293 00:19:53,901 --> 00:19:58,321 ‎ก็เพื่อฟังว่า 294 00:20:00,073 --> 00:20:02,033 ‎ผมจะถูกตัดสินประหารชีวิตหรือไม่ 295 00:20:03,535 --> 00:20:07,995 ‎ในวันนี้ ผมขึ้นมาพูด ไม่ใช่ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา… 296 00:20:10,083 --> 00:20:11,293 ‎แต่เพื่อทำพิธีเปิด 297 00:20:12,753 --> 00:20:15,423 ‎ศาลที่แอฟริกาใต้ไม่เคยมีมาก่อน 298 00:20:17,841 --> 00:20:21,891 ‎ศาลที่เป็นรากฐาน 299 00:20:22,679 --> 00:20:25,929 ‎ของอนาคตระบอบประชาธิปไตยเรา 300 00:20:26,600 --> 00:20:31,900 ‎และเพื่อเป็นการตบท้าย ‎กระบวนการล้างแค้นแบบนิ่มนวล 301 00:20:31,980 --> 00:20:34,780 ‎ผมได้เจอกับคนที่วางแผนการวางระเบิดรถผม 302 00:20:34,858 --> 00:20:37,818 ‎เฮนรี่ แวน เดอร์ เวสไธเซน ‎ที่กำลังจะไปหาคณะกรรมการความจริง 303 00:20:37,903 --> 00:20:40,243 ‎(เนลสัน แมนเดลาได้ก่อตั้ง ‎คณะกรรมการค้นหาความจริงและการปรองดอง) 304 00:20:40,322 --> 00:20:42,622 ‎(เพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษย์ ‎ผ่านการประชาพิจารณ์) 305 00:20:42,699 --> 00:20:44,989 ‎(เพื่อเป็นหนทางเยียวยา ‎แอฟริกาใต้หลังสิ้นสุดการแบ่งแยก) 306 00:20:45,077 --> 00:20:48,157 ‎แล้วเขาอยากเจอผมก่อนจะไปที่นั่น 307 00:20:48,247 --> 00:20:51,747 ‎เขาขึ้นมาที่ห้องของผม ห้องทำงานของผู้พิพากษา 308 00:20:52,501 --> 00:20:54,801 ‎บทสนทนาของเราไม่ธรรมดาจริงๆ 309 00:20:54,878 --> 00:20:58,758 ‎เขาเล่าเรื่องวัยเด็กให้ฟัง ‎ว่าเขาเรียนเก่งแค่ไหน 310 00:20:58,840 --> 00:21:00,840 ‎และไต่เต้าในกองทัพเร็วแค่ไหน 311 00:21:00,926 --> 00:21:02,756 ‎เขาภูมิใจมากที่ก้าวหน้า 312 00:21:02,844 --> 00:21:06,104 ‎เขาได้กลายเป็นสมาชิกระดับสูงของหน่วยจู่โจม 313 00:21:06,181 --> 00:21:10,981 ‎จุดนี้แหละที่นิสัยอยากรู้อยากเห็นของผม ‎ทำให้รู้สึกตะลึงจริงๆ 314 00:21:11,061 --> 00:21:15,361 ‎การวางตัวของเขาดูใสซื่อ 315 00:21:16,733 --> 00:21:18,533 ‎แต่เขาจะไปหาคณะกรรมการความจริง 316 00:21:18,610 --> 00:21:20,200 ‎เขาจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น 317 00:21:20,862 --> 00:21:25,122 ‎ต้องเป็นทหารที่กล้าหาญมากจริงๆ ‎จึงจะแปรทัพมาเข้าร่วมแอฟริกาใต้ใหม่ได้ 318 00:21:26,535 --> 00:21:31,325 ‎ผมลืมเขาไปเลย ‎แล้วหกเดือนต่อมาผมไปงานเลี้ยง 319 00:21:32,124 --> 00:21:34,754 ‎ผมได้ยินเสียงเรียก "อัลบี้!" 320 00:21:34,835 --> 00:21:37,045 ‎พอหันไปก็เห็นเฮนรี่ ไม่อยากจะเชื่อสายตา 321 00:21:37,129 --> 00:21:39,919 ‎เขายิ้มร่าเลย เขาเล่าว่า ‎"ผมไปหาคณะกรรมการความจริง 322 00:21:40,007 --> 00:21:42,047 ‎แล้วได้เจอบ็อบบี้" คนที่เขียนจดหมายหาผม 323 00:21:42,134 --> 00:21:44,764 ‎"และซูกับฟารุค ผมเล่าให้ฟังหมดเปลือก 324 00:21:44,845 --> 00:21:48,345 ‎แล้วคุณบอกว่าสักวันถ้าเราเจอกัน ‎คุณอาจจับมือผม" 325 00:21:49,016 --> 00:21:51,346 ‎ผมเลยยื่นมือออกไปจับมือเขา 326 00:21:51,435 --> 00:21:54,185 ‎เขาเดินหน้าบานออกไปเลย ผมแทบเป็นลม 327 00:21:54,271 --> 00:21:57,771 ‎แต่ผมได้มารู้ทีหลังว่าเขาออกไปจากงานเลี้ยง 328 00:21:57,858 --> 00:22:00,688 ‎แล้วกลับบ้านไปร้องไห้อยู่สองอาทิตย์ 329 00:22:00,777 --> 00:22:03,777 ‎ผมไม่รู้ว่าจริงไหม แต่ผมอยากเชื่อนะว่าจริง 330 00:22:03,864 --> 00:22:06,244 ‎ผมไม่อยากไปค้นเจอว่ามันไม่จริง 331 00:22:06,325 --> 00:22:09,695 ‎เพราะสำหรับผม ‎แบบนั้นดีกว่าส่งเขาเข้าคุกเสียอีก 332 00:22:09,786 --> 00:22:13,076 ‎ความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ‎การชดใช้ในรูปแบบที่ต่างจากเดิม 333 00:22:13,165 --> 00:22:15,285 ‎ตอนนี้เราเริ่มอยู่ในประเทศเดียวกันแล้ว 334 00:22:15,375 --> 00:22:17,705 ‎สำหรับผม มันมหัศจรรย์มาก 335 00:22:18,879 --> 00:22:24,049 ‎ทำไมคุณถึงสามารถรักเพื่อนมนุษย์ พร้อมให้อภัย 336 00:22:24,134 --> 00:22:28,564 ‎มองโลกในแง่ดี และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ขนาดนี้ครับ 337 00:22:28,638 --> 00:22:30,308 ‎ไปเอามาจากไหนหมด 338 00:22:31,933 --> 00:22:34,313 ‎ผมเจอคำถามนั้นบ่อยมาก 339 00:22:34,394 --> 00:22:38,944 ‎ผมไม่อยากจะไล่นิสัยพวกนั้นไป ‎ด้วยการไปสงสัยมันมากเกินไป 340 00:22:39,024 --> 00:22:41,574 ‎มันก็แค่อยู่ในตัวเรา คือตัวเรา 341 00:22:46,239 --> 00:22:49,199 ‎ปี 1990 แมนเดลาถูกปล่อยตัว 342 00:22:49,284 --> 00:22:51,874 ‎ผมกำลังจะกลับไปแอฟริกาใต้ 343 00:22:51,953 --> 00:22:54,833 ‎แล้วนักข่าวชาวอเมริกันชื่อโทนี่ ลูวิสพูดว่า 344 00:22:55,916 --> 00:22:59,666 ‎"อัลบี้ ตอนนี้คุณคงโมโหมาก ‎เพราะจะได้กลับไปแล้ว" 345 00:22:59,753 --> 00:23:01,133 ‎เขามองแขนของผม 346 00:23:01,922 --> 00:23:05,882 ‎ผมตอบไปว่า "โทนี่ ผมเคยกลัวว่า ‎ผมจะเป็นนักปฏิวัติที่ล้มเหลวนะ" 347 00:23:05,967 --> 00:23:07,217 ‎ผมไม่มีแรงแค้นในใจ 348 00:23:07,302 --> 00:23:10,972 ‎ผมน่าจะอยากหยิบมีดขึ้นมา ‎ปักหลังพวกกองทหารพวกนั้น 349 00:23:11,056 --> 00:23:13,016 ‎แต่ผมเห็นพวกเขาเป็นแค่คนที่ทำตามหน้าที่ 350 00:23:13,100 --> 00:23:16,690 ‎พวกเขาไม่ได้ชั่วที่สุด ‎ทั้งคนสอบปากคำและคนอื่นๆ 351 00:23:16,770 --> 00:23:19,190 ‎ผมเลยคิดว่าผมล้มเหลว 352 00:23:19,272 --> 00:23:23,822 ‎เขาบอกว่า "ใจเย็นๆ ครับ ‎ผมก็ถามแมนเดลาแบบนี้เหมือนกัน" 353 00:23:24,986 --> 00:23:26,316 ‎"เขาก็ให้คำตอบคล้ายๆ กัน 354 00:23:26,405 --> 00:23:29,235 ‎และซีซูลู กับอาห์เหม็ด แคทราดา 355 00:23:29,324 --> 00:23:31,334 ‎และอัลแบร์ตินา ซิซูลู" 356 00:23:31,410 --> 00:23:33,870 ‎ผมจึงรู้ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมนี้ 357 00:23:33,954 --> 00:23:37,924 ‎และพวกเราทุกคนที่มีความฝันที่ยิ่งใหญ่ ‎อยากให้แอฟริกาใต้มีเสรีภาพ 358 00:23:37,999 --> 00:23:41,339 ‎ที่ได้พบเจอกันและกัน สร้างสัมพันธ์กัน 359 00:23:41,420 --> 00:23:44,800 ‎และค้นพบด้านที่น่าทึ่งของตัวเราเอง ‎ผ่านการร่วมมือกับผู้อื่น 360 00:23:44,881 --> 00:23:49,391 ‎นั่นคือความหวังว่า ‎เราอยู่ร่วมกันในประเทศเดียวกันได้ 361 00:23:49,469 --> 00:23:54,059 ‎ชาวแอฟริกันมีแนวคิดหนึ่ง ‎ที่ทรงพลังมาก เรียกว่า "อูบุนตู" 362 00:23:54,141 --> 00:23:56,601 ‎ผมเป็นคนเพราะคุณเป็นคน 363 00:23:56,685 --> 00:24:01,055 ‎ผมแยกความเป็นคนของผม ‎ออกจากการเคารพความเป็นคนของคุณ 364 00:24:01,148 --> 00:24:03,438 ‎และการพึ่งพาอาศัยกันของมนุษย์ไม่ได้ 365 00:24:04,860 --> 00:24:09,910 ‎และความคิดนี้ส่วนใหญ่ ‎มาจากการต้องเห็นการต่อสู้นี้แต่เด็ก 366 00:24:09,990 --> 00:24:12,530 ‎ซึ่งนำโดยชาวแอฟริกันที่… 367 00:24:12,617 --> 00:24:17,327 ‎มันไม่ใช่แค่การร้องเพลงกับบรรยากาศ ‎แต่เป็นการปฏิสัมพันธ์และความสง่างาม 368 00:24:17,414 --> 00:24:21,294 ‎ผมไม่ได้จะพูดว่าไม่เคยเกิด ‎เรื่องเลวร้ายนะ มันเกิดขึ้นจริงๆ 369 00:24:21,376 --> 00:24:24,666 ‎แต่แก่นหลักของมันมีอะไรแบบนั้นอยู่ 370 00:24:26,339 --> 00:24:29,219 ‎(อะไรสำคัญ) 371 00:24:29,301 --> 00:24:31,221 ‎สำหรับผม ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีสำคัญสุด 372 00:24:31,303 --> 00:24:34,643 ‎สำคัญกว่าอาหาร สำคัญกว่าสิทธิในการพูด 373 00:24:34,723 --> 00:24:37,853 ‎ความรู้ผิดชอบชั่วดีคือหัวใจของตัวตนเรา 374 00:24:37,934 --> 00:24:42,194 ‎มันจะเป็นเหมือนเครื่องปรับสมดุลในตัว 375 00:24:42,272 --> 00:24:47,822 ‎ที่ทำให้เราสมดุลและทำให้สามารถ… 376 00:24:49,654 --> 00:24:54,124 ‎ใช้ชีวิตด้วยศีลธรรมอันดีงามได้ 377 00:24:54,201 --> 00:24:58,581 ‎ไม่ใช่เพราะเราทำตามศีลของพระเจ้า ‎หรือเข้าพิธีศักดิ์สิทธิ์อะไรนะ 378 00:24:58,663 --> 00:25:01,963 ‎แต่เพราะมีบางอย่างในใจเราที่มันถูกต้อง 379 00:25:02,042 --> 00:25:02,922 ‎มันดีงาม 380 00:25:03,001 --> 00:25:07,421 ‎มันเข้ากับทุกอย่างที่ทำให้เรารู้สึกเป็นมนุษย์ 381 00:25:07,506 --> 00:25:12,546 ‎รู้สึกเป็นคนมีศักดิ์ศรี กล้าหาญ ‎มีสไตล์ มีความชำนาญ มีจินตนาการ 382 00:25:12,636 --> 00:25:15,676 ‎และนิสัยทุกอย่างที่น่ารักและดีงามในตัวคน 383 00:25:16,306 --> 00:25:18,226 ‎นิสัยเหล่านี้มันแผ่ออกมาจากสิ่งนั้น 384 00:25:18,975 --> 00:25:23,435 ‎และผมคิดว่ามันยากที่จะโกหก ‎ตำรวจความมั่นคงด้วยซ้ำ 385 00:25:26,191 --> 00:25:29,241 ‎แม้ในตอนนั้นผมก็ไม่อยากโกหก เพราะ… 386 00:25:30,278 --> 00:25:32,658 ‎มันไม่ใช่เพราะการโกหกมันไม่ดีนะ 387 00:25:32,739 --> 00:25:35,159 ‎แต่มันขัดกับความเชื่อส่วนตัวของผม 388 00:25:35,242 --> 00:25:39,252 ‎จงเผชิญหน้ากับความจริง ‎ไม่ว่าจะเกิดผลที่ตามมายังไงก็ตาม 389 00:25:43,375 --> 00:25:45,785 ‎ใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง 390 00:25:46,878 --> 00:25:50,168 ‎อย่าแม้แต่เห็นอัลบี้เป็นแบบอย่าง 391 00:25:50,257 --> 00:25:52,547 ‎คนนี้ที่กำลังสอนว่าต้องใช้ชีวิตยังไง 392 00:25:52,634 --> 00:25:54,724 ‎แต่จงเป็นแบบอย่างให้ตัวเอง 393 00:25:54,803 --> 00:25:57,853 ‎ในแง่นั้น อย่าทำตามความฝันของตัวเอง 394 00:25:57,931 --> 00:26:00,141 ‎แต่ตามเส้นทางชีวิตไป เดี๋ยวฝันมันจะตามไปเอง 395 00:26:01,101 --> 00:26:02,771 ‎ไม่ว่าชีวิตคุณจะหมายถึงอะไรก็ตาม 396 00:26:03,895 --> 00:26:07,225 ‎และให้สำรวจและปล่อยให้มันแตกสาขาออกไป 397 00:26:07,315 --> 00:26:11,105 ‎และต้องกล้าเสี่ยง 398 00:26:12,612 --> 00:26:16,622 ‎อย่าเลือกแต่เส้นทางที่ง่ายดายและสะดวกสบาย 399 00:26:17,409 --> 00:26:19,199 ‎มีช่วงหนึ่งที่ผมบอกตัวเองว่า 400 00:26:19,286 --> 00:26:23,366 ‎"ถ้าต้องตัดสินใจเลือกสิ่งที่สำคัญ 401 00:26:24,749 --> 00:26:27,749 ‎แล้วตัวเลือกหนึ่งจะยากเย็น 402 00:26:28,461 --> 00:26:30,711 ‎ส่วนอีกตัวเลือกจะง่ายกว่ามาก 403 00:26:30,797 --> 00:26:32,007 ‎ให้เลือกอันที่ยาก" 404 00:26:33,300 --> 00:26:36,300 ‎เพราะเราจะได้ทำมากกว่าเดินไปสุดเส้นทางนั้น 405 00:26:36,386 --> 00:26:38,806 ‎แต่เราจะได้ฟันฝ่าอุปสรรค 406 00:26:38,888 --> 00:26:41,728 ‎ได้สำรวจ ได้ลองเสี่ยง ได้เรียนรู้ 407 00:26:45,061 --> 00:26:46,651 ‎คำถามสุดท้ายครับ 408 00:26:46,730 --> 00:26:52,280 ‎ถ้ามีโอกาส คุณอยากแนะนำอะไร ‎ให้ตัวเองวัย 20 ปี 409 00:26:52,360 --> 00:26:55,820 ‎หากมองย้อนกลับไปในชีวิตคุณ ‎ถ้าบอกอะไรกับหนุ่มคนนั้นได้… 410 00:26:55,905 --> 00:26:57,275 ‎ผมจะบอกว่า… 411 00:26:58,700 --> 00:27:00,040 ‎"อย่าหยุดฝัน" 412 00:27:01,369 --> 00:27:02,539 ‎"อย่าหยุดฝัน" 413 00:29:05,702 --> 00:29:07,702 ‎(แด่มาดิบา) 414 00:29:07,787 --> 00:29:12,077 ‎("หัวที่ดีเลิศและจิตใจที่ดีงาม ‎ถือเป็นสองคุณสมบัติที่น่าเกรงขามเสมอ") 415 00:29:12,167 --> 00:29:16,457 ‎คำบรรยายโดย นันทวัน ริดเดล