1 00:00:02,000 --> 00:00:07,000 Downloaded from YTS.MX 2 00:00:08,000 --> 00:00:13,000 Official YIFY movies site: YTS.MX 3 00:00:27,444 --> 00:00:31,281 ‎โป-เต-โตส-ซาห์ 4 00:00:32,282 --> 00:00:33,783 ‎โปเตโตส์ 5 00:00:34,492 --> 00:00:37,078 ‎เบบี้ 6 00:00:37,620 --> 00:00:40,415 ‎ผมขอฟังแบบไม่มีเอฟเฟกต์หน่อยครับ 7 00:00:41,332 --> 00:00:44,377 ‎เย็ป เย็ป เย็ป 8 00:00:44,461 --> 00:00:46,171 ‎"ทุกคนที่พยายาม…" 9 00:00:46,254 --> 00:00:47,547 ‎เอาละ เปิดเอฟเฟกต์ครับ 10 00:00:48,798 --> 00:00:51,843 ‎"ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย 11 00:00:51,926 --> 00:00:54,512 ‎ในมุมแดง…" 12 00:00:54,596 --> 00:00:56,431 ‎- “ในฐานะคนแอฟริกาใต้…” ‎- เย็ป เย็ป เย็ป 13 00:00:56,514 --> 00:00:58,516 ‎"ในมุมแดง…" 14 00:00:58,600 --> 00:01:03,104 ‎- "ฉันมีอยู่ตั้งเยอะตั้งแยะ…" ‎- "อเมริกา" 15 00:01:03,188 --> 00:01:04,773 ‎- เย็ป ‎- "ในฐานะชาวอเมริกัน" 16 00:01:04,856 --> 00:01:06,149 ‎"ในฐานะชาวอเมริกัน" 17 00:01:06,232 --> 00:01:07,817 ‎"คุณต้องรู้นะว่า… 18 00:01:07,901 --> 00:01:09,194 ‎นั่นไม่ใช่คําถาม" 19 00:01:09,277 --> 00:01:10,945 ‎มีที่แห่งหนึ่ง… 20 00:01:11,029 --> 00:01:12,655 ‎"ตั้งเยอะ ตั้งแยะ…" 21 00:01:12,739 --> 00:01:15,116 ‎- "แต่เป็นการรู้วิธี" ‎- "ฉันลองแล้ว…" 22 00:01:15,200 --> 00:01:18,369 ‎- "ฉันรู้ว่าเราทําได้" ‎- "ฉันรู้…" 23 00:01:20,205 --> 00:01:21,790 ‎เย็ป 24 00:01:21,873 --> 00:01:24,542 ‎คนหายไปไหนกันหมด ทําไมไม่มีใครเลย 25 00:01:24,626 --> 00:01:26,169 ‎หมายความว่าไง ผมมาไว 26 00:01:33,009 --> 00:01:34,511 ‎ใช่ ฟังดูดีแล้วล่ะ 27 00:01:53,530 --> 00:01:57,450 ‎(เทรเวอร์ โนอาห์: ฉันอยากให้เธอ…) 28 00:01:58,326 --> 00:02:03,790 ‎เป็นอย่างไร โทรอนโต แคนาดา 29 00:02:05,166 --> 00:02:07,085 ‎สบายดีกันนะครับ 30 00:02:08,586 --> 00:02:10,130 ‎ยินดีต้อนรับครับ 31 00:02:11,089 --> 00:02:15,760 ‎ยินดีต้อนสู่โชว์ของเรา ขอบคุณมากที่มากันนะครับ 32 00:02:15,844 --> 00:02:17,262 ‎เราทําได้ 33 00:02:17,345 --> 00:02:19,305 ‎เราทําได้ครับ 34 00:02:19,389 --> 00:02:20,348 ‎น่าทึ่งมากๆ 35 00:02:20,431 --> 00:02:22,684 ‎นานมากครับ นานเหลือเกิน 36 00:02:22,767 --> 00:02:25,687 ‎นานเกินไป แต่เราก็กลับมาแล้ว 37 00:02:26,479 --> 00:02:28,773 ‎ดีใจมากครับที่ได้มาเจอกันอีก 38 00:02:29,816 --> 00:02:32,777 ‎ให้ตาย คิดถึงครับ คิดถึงมากจริงๆ 39 00:02:33,486 --> 00:02:35,196 ‎ผมคิดถึงการท่องโลก 40 00:02:35,280 --> 00:02:37,949 ‎คิดถึงภาษาและวัฒนธรรม 41 00:02:38,032 --> 00:02:40,326 ‎เราเพิ่งโชว์ที่ยุโรปมา น่าอัศจรรย์มาก 42 00:02:40,410 --> 00:02:41,494 ‎ฝันที่เป็นจริงของผม 43 00:02:41,578 --> 00:02:43,538 ‎ได้ไปสวิตเซอร์แลนด์ครั้งแรก 44 00:02:43,621 --> 00:02:44,789 ‎นั่นคือฝันของผม 45 00:02:44,873 --> 00:02:48,042 ‎เผื่อใครที่ยังไม่ทราบ ‎ผมจะขอเล่าให้ฟังว่ามันเป็นฝันที่ยิ่งใหญ่ยังไง 46 00:02:48,126 --> 00:02:50,962 ‎แม่ผมเป็นคนผิวสี สาวโคซ่าจากแอฟริกาใต้ 47 00:02:51,045 --> 00:02:53,006 ‎ผมโตในแอฟริกาใต้ 48 00:02:54,841 --> 00:02:58,595 ‎พ่อผมเป็นหนุ่มสวิส ‎จากสวิตเซอร์แลนด์ พ่อเป็นฝรั่งขาว 49 00:02:58,678 --> 00:03:00,680 ‎แล้วผมก็ไม่เคยไปสวิตเซอร์แลนด์มาก่อนเลย 50 00:03:00,763 --> 00:03:02,765 ‎ตอนมีช่องทางให้ไปก็ไม่มีเวลา 51 00:03:02,849 --> 00:03:05,727 ‎แล้วก็ไปไม่ได้ แต่จนแล้วจนรอด ‎เราก็ไปสวิตเซอร์แลนด์ 52 00:03:05,810 --> 00:03:06,728 ‎เป็นครั้งแรก 53 00:03:06,811 --> 00:03:09,022 ‎และมันคือการปลดเปลื้องครับ 54 00:03:09,105 --> 00:03:10,440 ‎เพราะเรื่องของเรื่องก็คือ 55 00:03:10,523 --> 00:03:12,692 ‎ตลอดทั้งชีวิตผม 56 00:03:12,775 --> 00:03:17,405 ‎ผมรู้สึกมาตลอดว่าพ่อไม่ได้รักผมจริงๆ หรอก 57 00:03:18,072 --> 00:03:18,948 ‎โอเคนะ 58 00:03:19,532 --> 00:03:23,244 ‎แต่พอไปเจอพ่อที่สวิตเซอร์แลนด์ 59 00:03:23,328 --> 00:03:24,787 ‎ผมถึงแบบ "ไม่นี่" 60 00:03:24,871 --> 00:03:26,414 ‎"พ่อก็แค่สวิส" 61 00:03:28,499 --> 00:03:29,792 ‎เค้าเป็นกันแบบนั้น 62 00:03:33,171 --> 00:03:34,589 ‎ก็แปลกดี แปลกดีครับ 63 00:03:34,672 --> 00:03:36,883 ‎ผมพยายามจะเซอร์ไพรส์พ่อ 64 00:03:36,966 --> 00:03:39,427 ‎กะจะเรียนภาษาเยอรมันไปเซอร์ไพรส์พ่อ 65 00:03:39,510 --> 00:03:41,054 ‎เราไม่ได้เจอกันมาสักพักนึงแล้ว 66 00:03:41,137 --> 00:03:43,848 ‎พ่อผมพูดเยอรมัน ‎ผมเลยกะจะเซอร์ไพรส์พ่อตอนเจอกัน 67 00:03:43,932 --> 00:03:46,893 ‎นึกออกมั้ย ผมเข้าดิวโอลิงโก ‎มีภาษาให้เรียนเพียบ 68 00:03:46,976 --> 00:03:50,146 ‎ผมไปที่ภาษาเยอรมัน ฝึกมันทุกอย่าง 69 00:03:50,230 --> 00:03:52,273 ‎พอไปถึงสวิตเซอร์แลนด์ ก็แบบ "คราวนี้ล่ะ" 70 00:03:52,357 --> 00:03:54,192 ‎ผมพร้อมแล้ว "ขอเซอร์ไพรส์พ่อหน่อยเหอะ" 71 00:03:54,275 --> 00:03:55,777 ‎ผมตั้งใจว่าจะไปหาที่บ้าน เคาะประตู 72 00:03:55,860 --> 00:03:57,528 ‎พ่อเปิด ทำท่าเซอร์ไพรส์ "เทรเวอร์" 73 00:03:57,612 --> 00:04:00,740 ‎แล้วผมก็จะแบบ "ป๊า ผมพูดภาษาเยอรมัน" 74 00:04:00,823 --> 00:04:03,826 ‎พ่อก็จะตอบมาว่า "เหรอ รักลูกจังเลย" 75 00:04:03,910 --> 00:04:04,911 ‎แล้วก็แบบ… 76 00:04:06,913 --> 00:04:09,290 ‎มันต้องสุดยอดครับ วางแผนไปอย่างดี 77 00:04:10,333 --> 00:04:11,626 ‎ไม่เป็นไปตามแผนเลย 78 00:04:12,961 --> 00:04:15,713 ‎ผมไปถึง ก็เซอร์ไพรส์นะ ‎พ่อดูมีความสุข แต่พอผมอ้าปาก 79 00:04:15,797 --> 00:04:17,548 ‎"ป๊า ผมพูดเยอรมัน" 80 00:04:17,632 --> 00:04:19,467 ‎พ่อสวนเลย "ไม่ต้องพูด ไม่ต้อง" 81 00:04:20,301 --> 00:04:22,011 ‎"ไม่ ไม่เอาไม่พูด ไม่" 82 00:04:25,515 --> 00:04:27,725 ‎วิธีเรียนรู้ภาษาเยอรมันของผม ‎จะออกเพี้ยนๆ หน่อย 83 00:04:27,809 --> 00:04:32,438 ‎นึกออกนะครับ ผมอยากพูดให้ได้ ‎เพราะญาติฝั่งพ่อส่วนใหญ่พูดได้กันหมด 84 00:04:32,522 --> 00:04:34,107 ‎แต่ผม… 85 00:04:34,190 --> 00:04:37,735 ‎แต่แล้วผมก็ได้เรียนรู้ว่า ‎ภาษาเยอรมันผมมันไม่ค่อยจะดีเอาซะเลย 86 00:04:37,819 --> 00:04:39,153 ‎ผมอยู่ในเยอรมนี 87 00:04:39,988 --> 00:04:42,615 ‎ไปเยี่ยมญาติห่างๆ ที่โคโลญจน์ 88 00:04:42,699 --> 00:04:44,617 ‎เมืองสวยมากครับ ใครยังไม่เคยไป จงไปครับ 89 00:04:44,701 --> 00:04:46,077 ‎แล้วคุณจะตะลึง 90 00:04:46,703 --> 00:04:49,372 ‎ผมมีเพื่อนอยู่คนนึง รอล์ฟ อยู่กับผมที่นั่น 91 00:04:49,956 --> 00:04:52,792 ‎มีอยู่วันนึง เจ้ารอล์ฟหันมา ‎แล้วถามว่า "เทรเวอร์ 92 00:04:52,875 --> 00:04:56,796 ‎วันนี้เราไปหาอาหารพื้นเมือง ‎ของเยอรมันกินกันดีมั้ย" 93 00:04:56,879 --> 00:04:59,090 ‎"อยากกินมั้ย อาหารพื้นเมืองเยอรมัน" 94 00:04:59,173 --> 00:05:01,092 ‎"เดี๋ยวเราพานายไปกิน ไปมั้ย" 95 00:05:01,175 --> 00:05:03,845 ‎ผมตอบ "ฟังดูดี รอล์ฟ แต่จะกินอะไรกันล่ะ" 96 00:05:03,928 --> 00:05:06,306 ‎เขาตอบ "โอเค เคยได้ยินคำว่าซับเวย์มั้ย" 97 00:05:08,933 --> 00:05:10,893 ‎"นั่นไม่ใช่เยอรมันแล้วมั้ง รอล์ฟ" 98 00:05:11,436 --> 00:05:14,272 ‎เขาบอก "ไม่ๆๆ ฉันจะอธิบายขั้นตอนให้ฟัง" 99 00:05:14,355 --> 00:05:16,774 ‎"โอเคนะ นายไปที่นี่เพื่อหาแซนด์วิชกิน 100 00:05:16,858 --> 00:05:19,152 ‎เค้าให้ขนมปังมา แล้วนายก็เลือกท็อปปิ้ง" 101 00:05:19,235 --> 00:05:21,446 ‎"เออ ฉันรู้วิธีสั่งซับเวย์ เพื่อน" 102 00:05:21,529 --> 00:05:25,199 ‎เขาก็แบบ "โอเคๆ นั่นแหละ ‎ฉันจะพานายไปดูเวอร์ชั่นเยอรมัน" 103 00:05:25,283 --> 00:05:26,576 ‎"เทพกว่าอีก เทพกว่า" 104 00:05:26,659 --> 00:05:28,995 ‎"ขนมปังขั้นเทพ เนื้อขั้นเทพ นายต้องไป" 105 00:05:29,078 --> 00:05:30,496 ‎แล้วเขาก็พาจริงๆ ไม่ได้พูดเล่น 106 00:05:30,580 --> 00:05:32,749 ‎เราก็เลยไปร้านแซนด์วิชร้านนี้กัน 107 00:05:32,832 --> 00:05:34,667 ‎อายุสักครึ่งร้อยได้ 108 00:05:34,751 --> 00:05:36,669 ‎ทั้งร้านเป็นเยอรมัน เราเข้าไป ผมก็แบบ… 109 00:05:36,753 --> 00:05:38,129 ‎"เฮ้ย นี่แหละ" 110 00:05:39,172 --> 00:05:42,425 ‎"อาจจะไม่ใช่บ้านพ่อผม ‎แต่ผมฝึกภาษาเยอรมันที่นี่ได้" 111 00:05:43,885 --> 00:05:46,262 ‎รอล์ฟมองมาที่ผม ‎ถามว่า "อยากให้ฉันสั่งมั้ย" 112 00:05:46,345 --> 00:05:48,639 ‎ผมบอก "ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันสั่งเอง" 113 00:05:48,723 --> 00:05:50,641 ‎เขาแบบ "โอเค งั้นนายซื้อกินเองนะ" 114 00:05:50,725 --> 00:05:52,727 ‎"อ๋อเปล่า แกแหละซื้อ แต่ฉันสั่ง" 115 00:05:54,562 --> 00:05:56,397 ‎"ฉันแค่จะฝึกพูดเยอรมัน" 116 00:05:56,481 --> 00:05:58,483 ‎เขาก็แบบ "แต่พวกเขาจะไม่เข้าใจนายนะ" 117 00:05:58,566 --> 00:05:59,817 ‎"ภาษาเยอรมันไม่ได้หมู…" 118 00:05:59,901 --> 00:06:01,694 ‎ผมตัดบท "โย่ ฉันรู้แล้ว รอล์ฟ" 119 00:06:02,987 --> 00:06:05,323 ‎แล้วก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ ‎พนักงานหญิงเป็นกันเองมาก 120 00:06:05,406 --> 00:06:07,241 ‎เธอแบบ "หวัดดีค่ะ ให้ช่วยอะไรดีคะ" 121 00:06:07,325 --> 00:06:08,618 ‎ผมก็ใส่เลย "หวัดดี" 122 00:06:10,369 --> 00:06:13,081 ‎"ผมขอขนมปังก้อนเล็กๆ ด้วยความยินดี!" 123 00:06:13,790 --> 00:06:16,125 ‎"ขอขนมปังสีดำใส่ชีส" 124 00:06:16,209 --> 00:06:17,794 ‎"และแฮมด้วยครับ!" 125 00:06:18,419 --> 00:06:21,798 ‎"ขอเป๊ปซี่โคล่าหนึ่งด้วย ขอบคุณ" 126 00:06:29,430 --> 00:06:30,973 ‎แล้วเธอก็อึราด 127 00:06:37,396 --> 00:06:39,023 ‎ผมจะจำสีหน้าของเธอคนนั้น 128 00:06:39,857 --> 00:06:41,442 ‎ไปจนวันตาย 129 00:06:42,610 --> 00:06:45,613 ‎เธอตัวแข็งทื่อ จ้องเขม็งมาที่ผม แล้วพูดขึ้นว่า 130 00:06:45,696 --> 00:06:47,573 ‎"แดร์ ชวาร์ซ ฮิตเลอร์" 131 00:06:50,118 --> 00:06:52,703 ‎แปลว่า "ฮิตเลอร์ผิวดำ" ครับ 132 00:06:57,542 --> 00:06:58,668 ‎ใช่ 133 00:06:59,544 --> 00:07:01,629 ‎ชัดเจนว่าการผันเสียงคำบางคำของผม 134 00:07:01,712 --> 00:07:04,882 ‎ไปกระตุกต่อมอะไรสักอย่างเข้า 135 00:07:08,261 --> 00:07:09,470 ‎ผมใจสลาย 136 00:07:10,721 --> 00:07:12,974 ‎เจ้ารอล์ฟคิดว่ามันฮา 137 00:07:14,142 --> 00:07:16,602 ‎เขาขำค้างตลอดทาง ตอนเรานั่งรถกลับบ้าน 138 00:07:18,354 --> 00:07:20,148 ‎"คุณพระช่วย" 139 00:07:20,690 --> 00:07:22,400 ‎"แดร์ ชวาร์ซ ฮิตเลอร์" 140 00:07:23,985 --> 00:07:26,612 ‎"เทรเวอร์ นายนึกภาพฮิตเลอร์ ‎ตัวดําๆ ออกรึเปล่า" 141 00:07:28,948 --> 00:07:30,992 ‎"ดูไม่เข้ากันเลย ว่ามั้ย" 142 00:07:37,832 --> 00:07:39,459 ‎"มันไม่ขำว่ะ รอล์ฟ" 143 00:07:40,835 --> 00:07:42,753 ‎"ฉันฝึกพูดเยอรมันเพื่อสานสัมพันธ์กับครอบครัว 144 00:07:42,837 --> 00:07:44,797 ‎แต่ดันไปเหมือนพวกผู้ร้ายในอดีตซะงั้น" 145 00:07:44,881 --> 00:07:46,841 ‎เขาก็แบบ "รู้ แต่มันตลกนี่หว่า 146 00:07:46,924 --> 00:07:48,593 ‎นายต้องได้เห็นตัวเอง" 147 00:07:50,720 --> 00:07:52,555 ‎"ท่าทางยังกับจะไปบุกท้ายครัวเค้า 148 00:07:52,638 --> 00:07:54,515 ‎ให้ตายเถอะ นายต้องเห็น…" 149 00:07:54,599 --> 00:07:56,392 ‎ผมบอก "รอล์ฟ ไม่เจ๋งว่ะ เพื่อน" 150 00:07:56,476 --> 00:07:57,602 ‎"ฉันเฮิร์ทอยู่นะเว้ย" 151 00:07:57,685 --> 00:08:02,064 ‎เขาก็แบบ "ใจเย็นน่า เทรเวอร์ ‎คิดซะว่าชาเดนฟรอยด์ฉันแล้วกันนะ" 152 00:08:02,982 --> 00:08:05,026 ‎ต้องยอมรับว่ามันก็สอนคำใหม่ให้ผม 153 00:08:05,109 --> 00:08:06,903 ‎ใช่ ผมก็เพิ่งเคยได้ยิน 154 00:08:06,986 --> 00:08:09,030 ‎"ชาเดนฟรอยด์" 155 00:08:09,113 --> 00:08:11,699 ‎ภาษาเยอรมันครับ ชาเดนฟรอยด์ 156 00:08:12,241 --> 00:08:13,201 ‎โอเคนะครับ 157 00:08:13,284 --> 00:08:20,124 ‎มันแปลว่า "มีความปีติ ‎บนความเจ็บช้ำ ระกำจิต ของผู้อื่น" 158 00:08:23,419 --> 00:08:24,462 ‎เกร็ดความรู้… 159 00:08:24,545 --> 00:08:26,964 ‎คํานี้ไม่เคยถูกแปลเป็นภาษาอื่นครับ 160 00:08:28,883 --> 00:08:29,967 ‎แปลกใจจัง 161 00:08:33,387 --> 00:08:35,640 ‎เป็นคำที่แฝงความโรคจิตหน่อยๆ ชาเดนฟรอยด์ 162 00:08:35,723 --> 00:08:36,891 ‎ทําไมถึงต้องการแบบนั้น 163 00:08:37,558 --> 00:08:40,186 ‎ทำไมถึงอยากดื่มด่ำ ‎กับความชอกช้ำของคนอื่น ทําไม… 164 00:08:40,269 --> 00:08:43,523 ‎แต่พอมาคิดๆ ดู ‎ผมก็แบบ "มันฟังดูแย่นะ แต่… 165 00:08:44,690 --> 00:08:45,900 ‎เราเป็นกันแบบนั้น" 166 00:08:46,901 --> 00:08:48,361 ‎เราทุกคนในห้องนี้ 167 00:08:48,444 --> 00:08:51,405 ‎เราทุกคนมีประสบการณ์ชาเดนฟรอยด์ 168 00:08:52,031 --> 00:08:52,949 ‎นึกออกมั้ยครับ 169 00:08:53,032 --> 00:08:55,159 ‎เราทุกคน คุณรู้ว่าคุณมีชาเดนฟรอยด์เมื่อไหร่ 170 00:08:55,785 --> 00:08:58,704 ‎ตอนคุณขับรถอยู่บนทางด่วนมั้ย 171 00:08:58,788 --> 00:09:01,165 ‎คุณขับไปเนียนๆ ทุกอย่างลื่นไหล 172 00:09:01,958 --> 00:09:05,795 ‎แต่พอมองไปอีกฝั่ง รถติดยาวยิ่งกว่าถนนมิตรภาพ 173 00:09:07,129 --> 00:09:09,423 ‎แล้วคุณก็กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ข้างใน 174 00:09:09,507 --> 00:09:12,802 ‎"ฉันเลือกทางที่ถูกต้องให้กับชีวิต" 175 00:09:15,221 --> 00:09:16,264 ‎นั่นคือชาเดนฟรอยด์ครับ 176 00:09:17,515 --> 00:09:18,641 ‎นึกภาพออกมั้ยครับ 177 00:09:18,724 --> 00:09:21,727 ‎ชาเดนฟรอยด์คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อผู้หญิงผิวสี 178 00:09:21,811 --> 00:09:23,771 ‎เห็นชายวัยกลางคนผิวขาวกำลังร้องไห้ 179 00:09:23,854 --> 00:09:26,399 ‎หลังดิสนีย์ประกาศว่าจะเปลี่ยนตัว ‎ลิตเติ้ลเมอร์เมด 180 00:09:31,028 --> 00:09:32,363 ‎นั่นคือชาเดนฟรอยด์ 181 00:09:34,824 --> 00:09:37,743 ‎หนึ่งในเรื่องที่ผมเห็นแล้วฮาแตก 182 00:09:38,369 --> 00:09:40,371 ‎ผู้ชายตัวโตๆ กำลังร้องโยเย 183 00:09:40,454 --> 00:09:43,040 ‎"วัยเด็กของฉันกำลังป่นปี้ 184 00:09:43,666 --> 00:09:45,918 ‎พวกเขาเปลี่ยนตัวลิตเติ้ลเมอร์เมด 185 00:09:46,002 --> 00:09:48,754 ‎ดูไม่เหมือนต้นฉบับเลยสักนิด" 186 00:09:48,838 --> 00:09:49,880 ‎"สักนิดเลยเหรอ" 187 00:09:50,631 --> 00:09:53,259 ‎ดูไม่เหมือนต้นฉบับเลยสักนิด ‎จริงเหรอ ไม่เลยเหรอ 188 00:09:53,342 --> 00:09:56,470 ‎ตอนมองไปที่เธอ ไม่มีอะไรทำให้คุณ ‎นึกถึงต้นฉบับได้เลยเหรอ 189 00:09:56,554 --> 00:09:59,557 ‎ไม่สักนิดเลยเหรอ คุณรู้ดีว่า ‎อย่างเดียวที่เปลี่ยนคือสีผิวของเธอ 190 00:09:59,640 --> 00:10:01,225 ‎สีผิวช่วงตรงนี้ 191 00:10:01,309 --> 00:10:03,603 ‎แต่ผมยังสีแดง ตัวเป็นปลา 192 00:10:03,686 --> 00:10:05,980 ‎แต่คุณนึกภาพลิตเติ้ลเมอร์เมดไม่ออกเหรอ 193 00:10:06,063 --> 00:10:09,442 ‎ส่วนหลักๆ ที่ทำให้คุณนึกถึง ‎ลิตเติ้ลเมอร์เมดมีอยู่แค่นั้น จริงมั้ยครับ 194 00:10:13,279 --> 00:10:14,739 ‎เข้าใจชาเดนฟรอยด์แล้วนะ 195 00:10:15,865 --> 00:10:17,074 ‎ชาเดนฟรอยด์ 196 00:10:17,992 --> 00:10:18,993 ‎คืออะไรที่ 197 00:10:20,119 --> 00:10:21,329 ‎ทุกๆ คนจาก 198 00:10:21,996 --> 00:10:24,415 ‎ไอร์แลนด์ และเคนยา 199 00:10:25,207 --> 00:10:26,626 ‎และตรินิแดด 200 00:10:26,709 --> 00:10:28,210 ‎และจาเมกา 201 00:10:29,170 --> 00:10:30,588 ‎และแอฟริกาใต้ 202 00:10:31,339 --> 00:10:32,506 ‎และอินเดีย 203 00:10:33,966 --> 00:10:35,009 ‎ต่างก็รู้สึก 204 00:10:35,801 --> 00:10:39,639 ‎เมื่อมีข่าวออกมาว่า "ราชวงศ์มีข่าวร้าย" 205 00:10:52,109 --> 00:10:57,406 ‎คนทั่วไปจะไม่เข้าใจครับ ‎"ไม่นะ เรื่องแบบนี้หัวเราะได้เหรอ" 206 00:10:57,490 --> 00:10:59,283 ‎"ใช่ อันดับแรกเลย แต่…" 207 00:11:00,618 --> 00:11:02,161 ‎"คุณกําลังเข้าใจผิด" 208 00:11:02,244 --> 00:11:06,040 ‎เมื่อราชวงศ์มีข่าวร้าย ‎พวกเขามักจะอ่อนไหวกับท่าทีของผู้คน 209 00:11:06,123 --> 00:11:08,417 ‎แต่พวกเขาไม่เข้าใจว่ามันไม่ใช่ข่าวร้าย 210 00:11:08,501 --> 00:11:10,836 ‎ทุกครั้งราชวงศ์จะอยากให้เรา ‎รู้สึกเสียใจกับพวกเขา 211 00:11:10,920 --> 00:11:12,380 ‎มันเป็นข่าวร้ายจริงๆ เหรอ 212 00:11:12,463 --> 00:11:16,092 ‎พวกเขาจะแบบ "ได้โปรด ‎เราขอความเห็นใจจากพวกท่าน 213 00:11:16,175 --> 00:11:19,095 ‎"เราสูญเสียแฮร์รี่และเมแกนไปแล้ว" 214 00:11:19,178 --> 00:11:21,013 ‎"สูญเสียพวกเขาไป หายตัวไปเหรอ" 215 00:11:21,097 --> 00:11:22,306 ‎"เปล่าๆ" 216 00:11:22,390 --> 00:11:26,685 ‎"คู่รักยอดนิยมของอังกฤษกลายเป็น ‎คู่รักยอดนิยมของอเมริกาไปแล้ว" 217 00:11:35,486 --> 00:11:37,905 ‎"ราชวงศ์มีข่าวร้าย" 218 00:11:37,988 --> 00:11:39,865 ‎"นั่นใช่ข่าวร้ายเหรอ" "ใช่สิ" 219 00:11:39,949 --> 00:11:41,992 ‎"สมเด็จราชินีสิ้นแล้ว" "สิ้นเพราะ" 220 00:11:42,076 --> 00:11:43,285 ‎วาระสุดท้ายของชีวิต 221 00:11:46,414 --> 00:11:48,332 ‎ล้อเล่นรึเปล่า ไม่ได้บอกว่าไม่ควรเศร้านะครับ 222 00:11:48,416 --> 00:11:50,584 ‎แต่ท่านถึงวาระสุดท้ายแล้ว 223 00:11:50,668 --> 00:11:53,546 ‎รู้มั้ยว่ามีกี่ชีวิตที่ไปถึงตรงนั้นไม่ได้ ‎แต่ท่านไปถึงครับ 224 00:11:53,629 --> 00:11:56,340 ‎ท่านสิ้นในฐานะราชินี เพราะอะไร ความชรา 225 00:11:56,424 --> 00:11:58,384 ‎นั่นหมายถึงจบเกมแล้ว 226 00:11:58,467 --> 00:12:00,094 ‎จบบริบูรณ์ กำลังขึ้นเครดิต 227 00:12:02,346 --> 00:12:04,265 ‎ฝังไปพร้อมกับเครื่องเพชร 228 00:12:04,348 --> 00:12:05,641 ‎แฮชแท็ก "ชนะ" 229 00:12:06,851 --> 00:12:09,895 ‎อยากให้ประเทศราชเศร้ามั้ย ‎นั่นเครื่องเพชรพวกเขา 230 00:12:11,647 --> 00:12:13,691 ‎แอฟริกันถามว่า "เราขอเพชรคืนได้รึเปล่า" 231 00:12:13,774 --> 00:12:16,485 ‎ตอบ "ไม่ได้หรอก ราชินีจะเอาไปด้วย" 232 00:12:18,571 --> 00:12:19,488 ‎ล้อเล่นมั้ยเนี่ย 233 00:12:19,572 --> 00:12:23,117 ‎คนจะแบบ "นี่ไม่ใช่เวลาวิจารณ์ท่านนะ 234 00:12:23,200 --> 00:12:25,494 ‎ไม่ควรพูดถึงท่านในทางเสียๆ หายๆ 235 00:12:25,578 --> 00:12:27,455 ‎คุณไม่ควรพูดไม่ดีถึงคนตาย" 236 00:12:27,538 --> 00:12:29,331 ‎ไม่จริง นั่นแหละควรที่สุดแล้ว 237 00:12:29,999 --> 00:12:32,835 ‎เวลาที่เหมาะสมที่สุด ‎สำหรับนินทาชาวบ้านคือตอนที่เขาตายแล้ว 238 00:12:32,918 --> 00:12:33,752 ‎ถูกมั้ยครับ 239 00:12:35,004 --> 00:12:36,172 ‎สังคมเราเอากันแบบนี้มั้ย 240 00:12:36,255 --> 00:12:38,507 ‎เผื่อตอนยังอยู่จะได้ดีๆ กันมากกว่านี้ 241 00:12:38,591 --> 00:12:40,885 ‎แล้วรอให้ตายก่อนแล้วค่อยนินทา 242 00:12:40,968 --> 00:12:41,927 ‎มั้ยครับ 243 00:12:44,847 --> 00:12:46,098 ‎ทํากับผมแบบนั้นครับ 244 00:12:46,182 --> 00:12:49,018 ‎รอผมตายก่อน แล้วอยากพูดอะไร พูดเลย 245 00:12:49,101 --> 00:12:51,228 ‎แต่ถ้าเจอผมตามถนน แค่ทักกันก็พอ 246 00:12:52,438 --> 00:12:53,981 ‎ทําไมรู้มั้ยครับ เพราะผมไปแล้ว 247 00:12:54,857 --> 00:12:55,858 ‎คนจะแบบ… 248 00:12:56,567 --> 00:12:58,986 ‎"พวกนั้นกำลังเต้นบนหลุมศพท่าน" 249 00:12:59,069 --> 00:13:02,072 ‎ใช่ หลุมศพทำมาเพื่อการนั้น ‎มันถึงได้แบนราบไง 250 00:13:03,657 --> 00:13:05,659 ‎ทั้งหมดก็เพื่อให้คนขึ้นไปเต้น 251 00:13:05,743 --> 00:13:08,662 ‎ไม่งั้นมันก็ต้องเอียงๆ ใครขึ้นไปก็จะลื่นลงมา 252 00:13:09,747 --> 00:13:11,999 ‎แต่แม้กระทั่งเรื่องนั้น ราชินีก็ชนะอยู่ดี 253 00:13:12,082 --> 00:13:15,336 ‎ท่านได้สุดยอดนักเต้น ‎ไปเต้นอยู่บนหลุมศพของท่าน 254 00:13:15,961 --> 00:13:17,796 ‎นึกออกมั้ยครับ พวกแอฟริกันก็มา 255 00:13:17,880 --> 00:13:20,174 ‎พวกเขามาเต้นตามแบบของพวกเขา 256 00:13:20,257 --> 00:13:22,801 ‎แล้วพวกไอริชก็บอกว่า "เดี๋ยวเราขึ้นต่อ 257 00:13:22,885 --> 00:13:24,720 ‎เว้นที่ปากหลุมให้เราด้วย" 258 00:13:27,431 --> 00:13:30,226 ‎พวกอินเดียก็มา ‎"เวลาของพวกเรามาถึงแล้ว" 259 00:13:31,852 --> 00:13:35,439 ‎สุดท้าย แคริบเบียนทุกคนขึ้นมาร้อง ‎"ฆาตกรรมที่เธอจดไว้" 260 00:13:39,860 --> 00:13:40,819 ‎ตบมือหน่อย 261 00:13:55,125 --> 00:13:56,418 ‎หนึ่งในกิจกรรมโปรดของผม 262 00:13:57,419 --> 00:13:58,629 ‎ผมเคยชอบทํามาก 263 00:13:59,755 --> 00:14:02,675 ‎คือการดูหนังสยองขวัญ 264 00:14:03,926 --> 00:14:07,471 ‎แล้วก็คอยว่าคนอื่นตอนพวกเขาตัดสินใจโง่ๆ 265 00:14:12,393 --> 00:14:13,435 ‎ผมชอบมาก 266 00:14:15,271 --> 00:14:16,397 ‎หาหนังสยองมาดู 267 00:14:17,147 --> 00:14:18,649 ‎แล้วก็รอให้มีใครตัดสินใจโง่ๆ 268 00:14:19,191 --> 00:14:21,569 ‎แล้วพอเขาตายก็ว่าเขา "สมน้ำหน้า" 269 00:14:24,864 --> 00:14:25,865 ‎ไม่เคยมีพล็อตสมเหตุสมผล 270 00:14:26,740 --> 00:14:27,700 ‎ไม่เคย 271 00:14:27,783 --> 00:14:29,618 ‎นึกออกมั้ยครับ ตอนคนถูกไล่ฆ่า 272 00:14:30,244 --> 00:14:33,330 ‎ผู้ชายใส่หน้ากาก ในมือถือมีด 273 00:14:33,414 --> 00:14:35,291 ‎ค่อยๆ เดินเข้ามา 274 00:14:35,374 --> 00:14:38,127 ‎คนวิ่งหนีไปที่รถ ลนลานหากุญแจ 275 00:14:42,214 --> 00:14:43,507 ‎ตาย ทำอิหยังวะ 276 00:14:44,675 --> 00:14:45,676 ‎คุณทำอะไรกัน 277 00:14:45,759 --> 00:14:48,721 ‎ถ้ามีคนถือมีดไล่ฆ่าคุณ แล้วคุณวิ่งไปที่รถ 278 00:14:48,804 --> 00:14:50,973 ‎อย่าลำบากขึ้นรถให้เสียเวลาครับ 279 00:14:51,557 --> 00:14:54,101 ‎ที่คุณต้องทําก็แค่วิ่งไปอยู่อีกฝั่ง 280 00:14:54,768 --> 00:14:55,811 ‎จากนั้นคุณก็รอ 281 00:14:57,313 --> 00:14:59,064 ‎พอมันไปทางนั้น คุณก็ไปทางนี้ 282 00:14:59,732 --> 00:15:01,442 ‎มันไปทางนั้น คุณก็ไปทางนี้ 283 00:15:01,525 --> 00:15:03,277 ‎ทําอยู่แค่นี้แหละทั้งวัน 284 00:15:11,452 --> 00:15:14,413 ‎แต่พอเป็นหนังสยองขวัญ ‎จะต้องตัดสินใจกันโง่ๆ ผมก็ไม่เข้าใจ 285 00:15:15,915 --> 00:15:17,625 ‎ฉากโปรดเลยคือตอนที่หนีไปซ่อน 286 00:15:17,708 --> 00:15:20,210 ‎ทั้งหมดที่ต้องทําคือซ่อนและหุบปาก 287 00:15:22,796 --> 00:15:24,673 ‎หนังหนึ่งชั่วโมงครึ่ง แต่ทํากันไม่ได้ 288 00:15:25,382 --> 00:15:26,592 ‎อย่างในเรื่องดินแดนไร้เสียง 289 00:15:26,675 --> 00:15:28,969 ‎ดูกันรึยังครับ หนึ่งในหนังในดวงใจของผม 290 00:15:29,053 --> 00:15:32,181 ‎เรื่องนี้มีพวกเอเลี่ยน มองอะไรไม่เห็นเลย 291 00:15:32,264 --> 00:15:35,768 ‎ต้องทำเสียงสะท้อนเพื่อระบุตำแหน่งของทุกคน 292 00:15:50,074 --> 00:15:53,077 ‎แล้วทุกครั้งก็ต้องมีคนไปซ่อนอยู่ในโรงนา ‎แล้วก็แบบ… 293 00:16:03,879 --> 00:16:05,965 ‎คุณแค่ต้องเงียบครับ คุณชิลได้เลย 294 00:16:07,132 --> 00:16:08,550 ‎นั่งยาวๆ สบายๆ 295 00:16:08,634 --> 00:16:10,803 ‎นั่งเล่นเอ็กซ์บ็อกซ์ไปเงียบๆ ก็ได้ 296 00:16:11,720 --> 00:16:12,763 ‎ไม่ 297 00:16:15,432 --> 00:16:16,517 ‎แล้วก็ต้องมีเด็กคนนั้น 298 00:16:21,230 --> 00:16:24,358 ‎แล้วก็จะมีฉากให้คุณเห็น ‎ว่าสัตว์ประหลาดมันยอมแพ้แล้ว 299 00:16:24,441 --> 00:16:26,527 ‎นึกออกมั้ย ฉากที่สัตว์ประหลาดมันจะแบบ… 300 00:16:34,910 --> 00:16:37,955 ‎แต่พอมันกำลังจะออกไปเท่านั้นแหละ 301 00:16:38,038 --> 00:16:40,457 ‎จะมีอีลุงโง่ๆ คนนึงดีดผึงขึ้นมา 302 00:16:40,541 --> 00:16:43,335 ‎"ไม่ทนแล้วโว๊ย" 303 00:16:43,419 --> 00:16:45,170 ‎"เข้ามาสิวะ" 304 00:16:46,505 --> 00:16:48,007 ‎ตาย สมน้ำหน้าแก 305 00:16:50,801 --> 00:16:52,803 ‎เพราะผมไม่เคยเข้าใจ ไม่เข้าใจเลย 306 00:16:53,429 --> 00:16:55,764 ‎ทําไม ทั้งหมดที่ต้องทำก็แค่รอ 307 00:16:55,848 --> 00:16:59,101 ‎แค่รอให้นานพอ ‎แล้วอันตรายทั้งหมดจะซาไปเอง 308 00:16:59,184 --> 00:17:02,646 ‎ทําไมถึงทํากันไม่ได้ ‎ทําไมการอยู่แต่ข้างใน มันถึงได้ยากนักหนา 309 00:17:04,773 --> 00:17:06,442 ‎แล้วโควิดก็ระบาด 310 00:17:09,278 --> 00:17:11,572 ‎ผมแบบ "อ่า ตูเข้าใจแล้ว" 311 00:17:14,950 --> 00:17:17,119 ‎เพราะเรามาถึงจุดแตกหัก 312 00:17:17,828 --> 00:17:19,663 ‎การระบาดใหญ่บีบคั้นเรา 313 00:17:20,247 --> 00:17:22,791 ‎ผมคิดไปถึงว่าพวกเราทุกคน ‎จะหลอมรวมกัน ผมเชื่อแบบนั้น 314 00:17:22,875 --> 00:17:24,501 ‎จากหนังทุกเรื่องที่เคยดูตอนเด็กๆ 315 00:17:24,585 --> 00:17:28,380 ‎ผมคิดว่าถ้ามนุษย์ถูกคุกคาม ‎ด้วยภยันตรายระดับล้างเผ่าพันธุ์ 316 00:17:28,464 --> 00:17:31,258 ‎เราจะทิ้งความบาดหมางส่วนตัวที่เรามี 317 00:17:32,092 --> 00:17:34,386 ‎แล้วรวมใจเป็นหนึ่งสู่ชัยชนะ 318 00:17:34,970 --> 00:17:35,888 ‎นึกออกมั้ย 319 00:17:36,805 --> 00:17:38,807 ‎ผมคิดว่าถ้าไวรัสมา เราจะเอากันแบบนั้น 320 00:17:38,891 --> 00:17:43,020 ‎เราจะแบบ "เอาละ ไม่เหยียดผิว ‎ไม่เหยียดเพศ เรามาทําสิ่งนี้ด้วยกัน" 321 00:17:43,103 --> 00:17:46,440 ‎แล้วเราก็ไปปราบเอเลี่ยนคู่อริ ‎เสร็จแล้วก็กลับมา 322 00:17:46,523 --> 00:17:49,526 ‎แล้วก็แบบ "เอาละ ‎กลับมาเหยียดผิวเหยียดเพศกันต่อ" 323 00:17:52,279 --> 00:17:54,782 ‎เหมือนในเรื่องไอดีโฟร์ จำได้มั้ยครับ 324 00:17:54,865 --> 00:17:56,325 ‎ผมโตมากับการดูหนังเรื่องนั้น 325 00:17:56,992 --> 00:18:00,621 ‎ทุกคนบนโลกรวมตัวกัน ‎เพื่อต่อสู้กับเอเลี่ยน เรื่องของเรายุติก่อน 326 00:18:00,704 --> 00:18:04,041 ‎ไม่มีการเมือง ไม่มีอะไรทั้งนั้น ‎เราเป็นหนึ่งเดียว แล้วเราก็ชนะ 327 00:18:04,124 --> 00:18:07,753 ‎แต่ชีวิตจริงเราทําอะไร ‎เราสู้กันเอง แล้วเราก็แพ้ 328 00:18:08,587 --> 00:18:10,464 ‎เราควรจะเป็นทีมเดียวกัน 329 00:18:10,547 --> 00:18:12,424 ‎วิล สมิธควรจะเป็นฮีโร่ของเรา 330 00:18:19,598 --> 00:18:21,266 ‎ไม่เป็นไปตามแผนเลย 331 00:18:29,900 --> 00:18:32,111 ‎ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ก็เพราะแบบนี้มั้ย 332 00:18:33,695 --> 00:18:35,823 ‎บางทีอาจเป็นเพราะพวกมัน ‎ไม่เคยเห็นตรงกันเลย 333 00:18:36,990 --> 00:18:39,243 ‎ตัวนึงอาจจะพยายามเตือน "มีดาวเคราะห์น้อย 334 00:18:39,326 --> 00:18:40,994 ‎ดาวเคราะห์น้อยพุ่งลงมาที่โลกแล้ว" 335 00:18:41,078 --> 00:18:43,956 ‎ไดโนเสาร์อีกตัวก็แบบ ‎"ดาวเคราะห์น้อยไม่มีจริง 336 00:18:45,165 --> 00:18:46,416 ‎มันหลอกลวง" 337 00:18:47,751 --> 00:18:49,920 ‎หินก้อนนั้นพุ่งชนโลก… 338 00:18:51,922 --> 00:18:53,882 ‎ฝุ่นปกคลุมไปทั่วทั้งโลก 339 00:18:54,550 --> 00:18:56,426 ‎ไดโนเสาร์ทุกตัววิ่งหนีแตกตื่น 340 00:18:56,510 --> 00:18:58,679 ‎"มีฝุ่นเต็มไปหมด 341 00:18:58,762 --> 00:19:01,390 ‎ใส่หน้ากาก" 342 00:19:02,432 --> 00:19:04,810 ‎ทีเร็กซ์ก็แบบ "ใส่ไม่ได้" 343 00:19:14,653 --> 00:19:16,196 ‎คุณรู้มั้ยอะไรที่บ้าสุดๆ… 344 00:19:17,531 --> 00:19:21,785 ‎ผมคิดว่าการระบาดจะทำลายแอฟริกาหนักสุด 345 00:19:23,078 --> 00:19:24,872 ‎ไม่โกหกเลย ผมกลัวจับใจ 346 00:19:24,955 --> 00:19:26,832 ‎กลัวแทนทวีปแอฟริกาครับ 347 00:19:27,457 --> 00:19:30,502 ‎ตลอดชีวิตที่ผมเจอมา เมื่อไหร่ก็ตาม ‎ที่โลกมีไวรัสแพร่ระบาด 348 00:19:30,586 --> 00:19:32,462 ‎แล้วถ้ามันไปถึงแอฟริกา เราจะโดนหนักมาก 349 00:19:33,130 --> 00:19:35,591 ‎ผมยังจําได้ตอนที่มันเริ่มแพร่ไปทั่วโลก 350 00:19:35,674 --> 00:19:36,925 ‎ผมกำลังเตรียมรับมือ 351 00:19:37,009 --> 00:19:39,136 ‎เพื่อนๆ ที่บ้านโทรศัพท์มาหา 352 00:19:39,219 --> 00:19:42,681 ‎พวกเขาแบบ "เทรเวอร์ ‎เห็นฤทธิ์เดชไวรัสโคโรนารึยัง" 353 00:19:42,764 --> 00:19:45,017 ‎"เออ เห็นแล้ว" "นายว่าต่อไปเป็นไง" 354 00:19:45,100 --> 00:19:47,311 ‎ผมตอบ "เพื่อนเอ๊ย พวกนายบรรลัยแน่" 355 00:19:48,353 --> 00:19:51,273 ‎"พวกนายเหรอ" ‎"ใช่ พี่อยู่อเมริกาจ้ะ น้องจ๋า 356 00:19:52,274 --> 00:19:54,318 ‎พี่เลือกทางที่ถูกต้องให้กับชีวิต" 357 00:19:56,069 --> 00:19:57,487 ‎กลายเป็นตรงข้ามครับ 358 00:19:57,571 --> 00:20:00,741 ‎ชอตต่อชอตแล้ว แอฟริกาควบคุมโรค 359 00:20:00,824 --> 00:20:02,367 ‎ได้ดีกว่าทวีปไหนๆ ทั้งนั้น 360 00:20:07,873 --> 00:20:09,249 ‎ช็อกกันถ้วนหน้า 361 00:20:10,417 --> 00:20:12,211 ‎แต่ที่ดุกว่านั้น… 362 00:20:13,253 --> 00:20:15,464 ‎คือตอนที่อีโบลาระบาดในแอฟริกา 363 00:20:15,547 --> 00:20:21,345 ‎แล้วสื่อต่างๆ ก็เหมือนจะพร้อมใจกันบอกว่า ‎แอฟริกาคือคนผิดที่อีโบลาระบาด 364 00:20:22,137 --> 00:20:26,225 ‎ข่าวที่คุณดูทุกข่าว ‎จะต้องมีแอบตําหนิอยู่ระดับนึงเสมอ 365 00:20:26,308 --> 00:20:28,435 ‎ข่าวจะเป็นกันแบบนั้น ถูกมั้ยครับ 366 00:20:28,518 --> 00:20:30,270 ‎ไม่ส่งเสริมมนุษยธรรม 367 00:20:30,354 --> 00:20:33,941 ‎ตลอดเวลาจะมีคนของสกายหรือบีบีซี ‎ยืนอยู่ตรงนั้น 368 00:20:34,024 --> 00:20:36,318 ‎มีร่างผู้ตายกองซ้อนกันอยู่ด้านหลัง ‎แล้วก็แบบ… 369 00:20:36,401 --> 00:20:40,072 ‎"ซาร่าห์คะ ฉันยืนอยู่ในแอฟริกาตะวันตก ‎และคุณจะเห็นได้จากด้านหลังของฉัน 370 00:20:40,155 --> 00:20:43,408 ‎ร่างของเหยื่ออีโบลาถูกกองซ้อนกันอยู่ 371 00:20:43,492 --> 00:20:45,827 ‎นักวิทยาศาสตร์ชาวยุโรปหลายคนสงสัยว่า 372 00:20:45,911 --> 00:20:49,289 ‎ชาวแอฟริกันผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้ ‎ต้องโทษตัวเองหรือไม่ 373 00:20:49,373 --> 00:20:52,876 ‎ที่ปฏิเสธคําแนะนําขององค์การอนามัยโลก 374 00:20:52,960 --> 00:20:55,879 ‎ไม่ให้ความสําคัญกับการเว้นระยะห่าง 375 00:20:55,963 --> 00:20:57,089 ‎ในช่วงเวลานี้ 376 00:20:57,172 --> 00:21:00,801 ‎และดูเหมือนว่า ‎พวกเขาคงโทษได้แค่ตัวเองเท่านั้นค่ะ 377 00:21:00,884 --> 00:21:04,221 ‎ดิลเลียน แพนน์ บีบีซี ‎กลับไปหาคุณที่สตูดิโอกันต่อค่ะ" 378 00:21:04,805 --> 00:21:06,723 ‎ดูเสร็จผมร้องออกมาเลย "ไม่ 379 00:21:06,807 --> 00:21:09,434 ‎พี่น้องแอฟริกัน ทําไมเราทำกับตัวเองแบบนี้ 380 00:21:10,102 --> 00:21:11,603 ‎ทําไม แอฟริกา 381 00:21:11,687 --> 00:21:12,980 ‎ทําไม 382 00:21:13,063 --> 00:21:15,065 ‎ทําไมเราถึงชอบทํากับตัวเองเยี่ยงนี้นะ 383 00:21:15,148 --> 00:21:17,651 ‎ทําไมถึงชอบไปจูบลิงด้วย" 384 00:21:20,279 --> 00:21:22,197 ‎"ปากเซ็กซี่จุงเบย" 385 00:21:27,828 --> 00:21:29,371 ‎แล้วก็มาถึงคราวของโควิด 386 00:21:29,955 --> 00:21:31,790 ‎แอฟริกาใช้บทเรียนทั้งหมดที่เคยเรียนรู้มา 387 00:21:31,873 --> 00:21:34,793 ‎จากไวรัสทุกตัวที่พวกเขาต้องสู้ ‎โดยไร้การช่วยเหลือจากชาติตะวันตก 388 00:21:35,419 --> 00:21:38,171 ‎แล้วพวกเขาก็จัดการกับมัน ‎ได้ดีกว่าทวีปไหนๆ ทั้งนั้นครับ 389 00:21:39,548 --> 00:21:42,551 ‎แต่ไม่ได้เครดิตนะครับ ‎ทุกคนทําเหมือนกับว่ามันเป็นโชคช่วย 390 00:21:44,970 --> 00:21:47,556 ‎โชคที่ช่วยโลกไว้คือ ‎คนแอฟริกันไม่เคยคิดแค้นครับ 391 00:21:48,432 --> 00:21:49,641 ‎ใช่ 392 00:21:49,725 --> 00:21:51,518 ‎คนแอฟริกันไม่ใช่พวกเจ้าคิดเจ้าแค้น 393 00:21:51,601 --> 00:21:53,061 ‎เพราะผมยินดียกให้ทุกอย่าง 394 00:21:53,145 --> 00:21:54,938 ‎แลกกับการได้เห็นนักข่าวสักคนรายงานว่า 395 00:21:55,022 --> 00:21:58,275 ‎"สวัสดีค่ะ คุณผู้ชม ‎ขอต้อนรับสู่เครือข่ายข่าวแอฟริกา 396 00:21:58,358 --> 00:22:02,195 ‎คืนนี้เราจะไปติดตามสถานการณ์ ‎การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส 397 00:22:02,279 --> 00:22:04,406 ‎ที่กําลังทําลายล้างโลกตะวันตกอยู่ตอนนี้ค่ะ 398 00:22:05,532 --> 00:22:07,492 ‎นักวิทยาศาสตร์แอฟริกันหลายคนสงสัยว่า 399 00:22:07,576 --> 00:22:10,370 ‎คนเหล่านี้จะไม่โทษตัวเองได้หรือไม่ 400 00:22:12,831 --> 00:22:16,918 ‎หลายคนปฏิเสธคําแนะนํา ‎ขององค์การอนามัยโลก 401 00:22:18,003 --> 00:22:21,131 ‎เพิกเฉยต่อการเว้นระยะห่าง ‎ทางสังคมโดยสิ้นเชิง 402 00:22:21,214 --> 00:22:24,968 ‎บางคนถึงกับต้องให้สอน วิธีการล้างมือตัวเอง" 403 00:22:27,512 --> 00:22:28,847 ‎"พวกคนป่า" 404 00:22:33,852 --> 00:22:38,815 ‎"ดูเหมือนว่าสิ่งที่ทวีความรุนแรงของปัญหานี้ 405 00:22:38,899 --> 00:22:43,403 ‎คือความจริงที่ว่าบางคน ‎ไม่อยากสวมหน้ากากอนามัยให้ถูกต้อง 406 00:22:43,487 --> 00:22:47,199 ‎โดยอ้างว่า ‎'ผ้าผืนนี้ทำให้ฉันหายใจไม่ออก'" 407 00:22:49,076 --> 00:22:53,330 ‎"สิ่งนี้รู้จักกันโดยทั่วไปในหมู่นักวิทยาศาสตร์ ‎ว่า 'กลุ่มอาการปอดแหก' ค่ะ" 408 00:22:54,581 --> 00:22:57,042 ‎"กลับไปหาคุณที่สตูดิโอกันต่อนะคะ ชิปเปวา" 409 00:23:00,003 --> 00:23:01,588 ‎ผมให้ได้ทุกอย่างเพื่อได้เห็นแบบนี้ 410 00:23:02,881 --> 00:23:07,302 ‎ผลข้างเคียงที่ร้ายแรงอย่างนึงของโควิด ‎ที่ผมคาดไม่ถึงคือ 411 00:23:07,385 --> 00:23:09,679 ‎มันทำให้มนุษย์โง่ได้มากแค่ไหน 412 00:23:11,932 --> 00:23:13,642 ‎ใช่ สิ่งนึงที่ไวรัสโคโรนาทำได้ 413 00:23:13,725 --> 00:23:16,561 ‎คือสอนให้ผมรู้ว่าเพื่อนๆ ผมมันโง่บรม 414 00:23:17,229 --> 00:23:19,815 ‎เรียนมหาวิทยาลัยเฟซบุ๊กกันทุกคน 415 00:23:21,358 --> 00:23:23,151 ‎นักวิทยาศาสตร์กันทุกคน 416 00:23:25,737 --> 00:23:27,489 ‎ทุกคนมีทฤษฎีสมคบคิด 417 00:23:28,115 --> 00:23:30,700 ‎"รู้มั้ยว่าความจริงมันเกิดอะไรขึ้น ‎รัฐบาลเป็นคนทํา" 418 00:23:30,784 --> 00:23:33,120 ‎"รัฐบาลเหรอ" ‎"ใช่ รัฐบาลนั่นแหละทํา" 419 00:23:33,203 --> 00:23:35,122 ‎"ทําไม" ‎"เพื่อควบคุมพวกเราไง" 420 00:23:36,123 --> 00:23:38,125 ‎"แกคิดว่านี่คือควบคุมได้รึ" 421 00:23:39,709 --> 00:23:42,379 ‎"แกคิดว่ารัฐบาลต้องการสิ่งนี้รึ" 422 00:23:43,672 --> 00:23:46,383 ‎คุณคิดว่าอะไรให้อำนาจในการควบคุม ‎กับรัฐบาลมากกว่ากัน 423 00:23:47,384 --> 00:23:50,762 ‎ระหว่างประชาชนไปทํางาน หารายได้ 424 00:23:50,846 --> 00:23:54,307 ‎ซื้อของที่ไม่มีปัญญาจ่าย ต้องเป็นหนี้ ‎ต้องกลับไปทํางาน 425 00:23:54,391 --> 00:23:56,476 ‎ทําสิ่งที่ไม่รักมากขึ้นเพื่อหาเงินให้ได้มากขึ้น 426 00:23:56,560 --> 00:23:58,353 ‎เพื่อเอาไปจ่ายหนี้ค่าของที่ไม่มีความจำเป็น 427 00:23:58,436 --> 00:23:59,855 ‎มิหนำซ้ำยังแพงหูฉี่ 428 00:23:59,938 --> 00:24:02,190 ‎เพื่อหาเงินไปทํางานที่ตัวเองไม่รัก 429 00:24:02,274 --> 00:24:03,525 ‎เพื่อของที่ไม่จำเป็นกับตัวเอง 430 00:24:03,608 --> 00:24:05,819 ‎เพื่อกู้เงินมาซื้อของที่ตัวเองไม่ต้องการ 431 00:24:05,902 --> 00:24:08,029 ‎เพื่อเป็นหนี้กับสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการมากขึ้น 432 00:24:08,113 --> 00:24:10,115 ‎เพื่อไปทํางานที่ไม่จำเป็น แค่เพื่อเงิน… 433 00:24:10,198 --> 00:24:12,450 ‎อะไรให้อำนาจในการควบคุมมากกว่ากัน ‎ระหว่างสิ่งนั้น 434 00:24:13,910 --> 00:24:15,662 ‎หรือการที่ทุกคนแค่นั่งอยู่ที่บ้าน 435 00:24:16,663 --> 00:24:18,874 ‎ได้ตังค์มาฟรีๆ แค่คิดถึงชีวิตไป 436 00:24:22,294 --> 00:24:24,004 ‎ทุกคนแค่นั่งอยู่ที่บ้าน แล้วก็แบบ 437 00:24:24,629 --> 00:24:26,715 ‎"สุดสัปดาห์จะมีแค่สองวันได้อย่างไร" 438 00:24:34,014 --> 00:24:35,974 ‎นี่เป็นฝันร้ายที่สุดของรัฐบาลครับ 439 00:24:37,851 --> 00:24:39,477 ‎ไอ้ที่ว่าสมคบคิดทั้งหลายมันงี่เง่า 440 00:24:39,561 --> 00:24:42,272 ‎แต่ต้องบอกว่าผมไม่ได้ต่อต้าน ‎ทฤษฎีสมคบคิดนะครับ 441 00:24:42,355 --> 00:24:46,151 ‎โปรดทำความเข้าใจก่อน ‎ทฤษฎีสมคบคิดเจ๋งๆ ผมชอบมาก 442 00:24:46,234 --> 00:24:48,236 ‎จริงๆ แล้วผมคิดว่าทุกคนก็ควรมีไว้สักทฤษฎีนึง 443 00:24:48,862 --> 00:24:54,784 ‎ควรมีทฤษฎีสมคบคิดเจ๋งๆ อย่างน้อยหนึ่งทฤษฎี ‎เป็นที่ยึดเหนี่ยวในชีวิตของคุณ 444 00:24:54,868 --> 00:24:56,453 ‎ใช่ แล้วคุณจะตื่นตัวอยู่เสมอ 445 00:24:57,704 --> 00:24:59,831 ‎อย่าเชื่อทุกอย่างที่เค้าพูด 446 00:25:00,916 --> 00:25:02,125 ‎เอาทฤษฎีเดียวพอ 447 00:25:02,209 --> 00:25:03,960 ‎อย่างของผม ความชอบส่วนตัว 448 00:25:05,086 --> 00:25:06,171 ‎ผมเชื่อว่า 449 00:25:07,172 --> 00:25:09,758 ‎กลูเตนเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของคนขาวครับ 450 00:25:17,015 --> 00:25:18,391 ‎คุณรู้ผมพูดถูก 451 00:25:22,354 --> 00:25:25,273 ‎แต่โควิดนี่สิ ‎เรื่องสมคบคิดทั้งหลายนี่ไร้สาระมาก 452 00:25:26,233 --> 00:25:28,235 ‎โดยเฉพาะผมดันรู้ว่าเรื่องจริงมันคืออะไร 453 00:25:28,318 --> 00:25:30,320 ‎ผมก็เลยผิดหวังมาก 454 00:25:31,112 --> 00:25:32,197 ‎จริงๆ ครับ 455 00:25:32,906 --> 00:25:34,991 ‎ผมรู้ดีว่าโควิดมีสาเหตุมาจากอะไร 456 00:25:35,075 --> 00:25:38,328 ‎ผมเห็นมันกำลังมาแต่ผมไม่พูดอะไรเลย ‎ผมผิดเองแหละ 457 00:25:39,412 --> 00:25:40,789 ‎ความปรารถนาเยอะเกินไปครับ 458 00:25:41,873 --> 00:25:43,375 ‎เราขอพรกันเยอะเกิน 459 00:25:43,458 --> 00:25:44,960 ‎ผมเห็นเลย มันกำลังมา 460 00:25:45,043 --> 00:25:48,713 ‎คุณรู้มั้ย ตอนผมเป็นเด็ก ‎การขอพรเป็นเรื่องพิเศษมาก 461 00:25:49,256 --> 00:25:52,217 ‎ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ คุณต้องมีเหตุการณ์ที่เป็นพิเศษ 462 00:25:52,300 --> 00:25:53,760 ‎คุณถึงจะขอพรได้ 463 00:25:53,843 --> 00:25:57,138 ‎คุณต้องเจอใบโคลเวอร์สี่แฉก 464 00:25:58,348 --> 00:26:00,058 ‎ต้องเห็นดาวกำลังตกพอดี 465 00:26:00,141 --> 00:26:01,518 ‎"ไหน" "นั่นไง" ไม่ทันแล้ว 466 00:26:03,979 --> 00:26:05,981 ‎หรือมันต้องเป็นวันเกิดคุณ 467 00:26:06,064 --> 00:26:07,524 ‎คนจะเอาเทียนออกมา 468 00:26:08,066 --> 00:26:09,734 ‎แล้วถ้าคุณเป่าดับหมด 469 00:26:09,818 --> 00:26:11,444 ‎คุณก็ได้ขอพร 470 00:26:11,528 --> 00:26:13,613 ‎แต่ถ้าไม่หมด คุณตาย 471 00:26:18,493 --> 00:26:20,495 ‎แล้วคนก็เริ่มขอแบบไม่เลือก 472 00:26:21,871 --> 00:26:23,540 ‎เจอขนตาติดแก้ม 473 00:26:23,623 --> 00:26:25,125 ‎"ขอพรจ้ะ" 474 00:26:25,208 --> 00:26:28,128 ‎รู้มั้ยว่าวันวันนึงมีอะไรแบบนี้ติดหน้าคุณเท่าไหร่ 475 00:26:29,296 --> 00:26:31,298 ‎แล้วก็เริ่มขอกันเป็นเวลา 476 00:26:31,381 --> 00:26:33,174 ‎อย่างเช่น "11:11" 477 00:26:34,050 --> 00:26:35,385 ‎"ขอพรจ้ะ" 478 00:26:35,468 --> 00:26:36,886 ‎นั่นมันทุกวันนะ 479 00:26:38,638 --> 00:26:41,474 ‎ถ้าเป็นฝั่งนี้ของโลกก็วันละสองครั้ง ‎เพราะไม่ชอบตัวเลขเยอะๆ 480 00:26:43,351 --> 00:26:46,479 ‎คุณขอพรทุกวันไม่ได้ ‎นั่นไม่ใช่โอกาสพิเศษ แต่คนก็ทํา 481 00:26:46,563 --> 00:26:49,190 ‎ผู้คนต่างขอพร 482 00:26:49,274 --> 00:26:51,067 ‎ไปที่ไหนก็เจอ ‎ไม่เว้นแม้แต่แร็ปเปอร์ 483 00:26:51,151 --> 00:26:55,280 ‎"ขอให้นิกก้าได้" ได้อะไร ‎ปล่อยให้เป็นปลายเปิดแบบนั้นไม่ได้ 484 00:26:58,491 --> 00:27:01,244 ‎และนี่คือสาเหตุที่เราติดโควิด ‎คือการเอาพรทุกข้อมายำเข้าด้วยกัน 485 00:27:01,328 --> 00:27:03,204 ‎แล้วก็ให้มันกลายเป็นจริงพร้อมๆ กัน 486 00:27:03,288 --> 00:27:04,456 ‎และนั่นคือสิ่งที่เราได้รับ 487 00:27:05,206 --> 00:27:08,793 ‎ใช่ครับ โควิดเหมือนจีนี่เฮงซวย ‎ที่ให้ทุกอย่างที่เราขอ 488 00:27:13,506 --> 00:27:14,341 ‎เราขอกันทุกคน 489 00:27:14,924 --> 00:27:16,384 ‎มีกี่คนที่ถูตะเกียง 490 00:27:17,177 --> 00:27:18,595 ‎ตอนต้นปี 2020 491 00:27:19,512 --> 00:27:20,680 ‎แล้วก็ขอประมาณว่า 492 00:27:20,764 --> 00:27:24,351 ‎"ขออย่าให้ต้องเข้าออฟฟิศทุกวันทีเถอะ เพี้ยง" 493 00:27:30,774 --> 00:27:32,776 ‎"พรของเจ้าสมปรารถนาแล้ว" 494 00:27:36,029 --> 00:27:38,656 ‎ไงล่ะ ขอไม่ต้องเข้าออฟฟิศ 495 00:27:38,740 --> 00:27:41,951 ‎แต่คุณลืมขอว่าออฟฟิศอย่าเข้ามาในบ้าน 496 00:27:46,456 --> 00:27:48,083 ‎แล้วตอนนี้คุณก็ติดแหง็ก 497 00:27:48,166 --> 00:27:51,336 ‎ประชุมซูมทุกวัน 498 00:27:51,419 --> 00:27:54,297 ‎กะพริบตาก็ไม่ได้ ต้องสบตาตลอดเวลา 499 00:27:56,466 --> 00:27:57,509 ‎ครับ 500 00:27:59,427 --> 00:28:01,096 ‎ต้องคอยหามุมในบ้าน 501 00:28:01,179 --> 00:28:03,348 ‎ที่ทําให้ดูเหมือนว่ามันเป็นระเบียบ 502 00:28:08,686 --> 00:28:10,063 ‎ทุกคนขอพร 503 00:28:11,272 --> 00:28:13,358 ‎ว้าว แล้วเราก็ได้อย่างที่ขอ 504 00:28:13,441 --> 00:28:15,568 ‎มีพ่อแม่กี่คนที่ถูตะเกียงใบนั้น 505 00:28:16,361 --> 00:28:17,695 ‎ภาวนาเต็มที่เลย 506 00:28:17,779 --> 00:28:20,698 ‎"ขอให้ได้ใช้เวลากับลูกเยอะๆ เถอะ" 507 00:28:27,038 --> 00:28:28,873 ‎"พรของเจ้าสมปรารถนาแล้ว" 508 00:28:32,210 --> 00:28:33,169 ‎ใช่ 509 00:28:34,045 --> 00:28:36,965 ‎แล้วพ่อแม่หลายคนก็ได้รู้ว่า ‎เหตุผลเดียวที่คุณชอบลูกๆ 510 00:28:37,966 --> 00:28:40,051 ‎ก็เพราะคุณรู้จักพวกเขาแบบพาร์ทไทม์ 511 00:28:47,016 --> 00:28:49,894 ‎เจอกันตอนเช้า ส่งออกจากบ้าน ‎พาเข้านอนตอนกลางคืน 512 00:28:49,978 --> 00:28:51,604 ‎เป็นงานที่น่ารักมากครับ 513 00:28:53,064 --> 00:28:56,818 ‎แต่รู้ตัวอีกที ทุกคนถูกขังอยู่ในบ้าน 24 ชั่วโมง 514 00:28:56,901 --> 00:28:59,362 ‎ฮามากครับ ตอนดูพ่อๆ แม่ๆ กลับตาลปัตร 515 00:28:59,446 --> 00:29:01,906 ‎ฮามาก จําได้ว่าช่วงแรกๆ ‎พ่อแม่ทุกคนออกตัวแรงมาก 516 00:29:01,990 --> 00:29:04,909 ‎"คุณต้องปิดโรงเรียนนะ 517 00:29:04,993 --> 00:29:07,704 ‎ลูกฉันจะต้องไม่ไปไหน 518 00:29:07,787 --> 00:29:09,914 ‎ฉันจะปกป้องพวกเขาทุกวิถีทาง 519 00:29:09,998 --> 00:29:14,085 ‎ฉันจะปกป้องพวกเขา ‎เหมือนไข่ในหิน ได้ยินฉันมั้ย 520 00:29:14,586 --> 00:29:18,423 ‎คุณจะต้องปิดโรงเรียน จนกว่าไวรัสจะหายไป" 521 00:29:20,759 --> 00:29:22,802 ‎เก้าเดือนต่อมา… 522 00:29:27,265 --> 00:29:29,392 ‎พ่อแม่คู่เดิมยืนโหวกเหวกอยู่หน้าประตู 523 00:29:29,476 --> 00:29:32,187 ‎"เมื่อไหร่โรงเรียนมันจะเปิดวะ 524 00:29:33,146 --> 00:29:36,816 ‎จะมาคาดหวังให้ฉันอยู่กับเด็กพวกนี้ ‎ทั้งวันได้ยังไงกัน ฉันเป็นใคร เป็นแม่มันเหรอ 525 00:29:38,151 --> 00:29:39,986 ‎เด็กๆ ต้องได้ไปโรงเรียนสิ" 526 00:29:40,069 --> 00:29:42,697 ‎ลูกๆ สะกิด "แต่แม่ครับ ‎สายพันธุ์ใหม่กำลังระบาดอยู่นะครับ" 527 00:29:42,781 --> 00:29:47,035 ‎"ฟังแม่ ทิมมี่ ถึงจุดนึงลูกจะต้อง ‎พิสูจน์ความแกร่งของตัวเองนะลูก 528 00:29:47,869 --> 00:29:51,247 ‎ว่าปอดของลูกจะรับไหวหรือเปล่า ‎เข้าใจมั้ยจ๊ะ คนเก่ง 529 00:29:51,331 --> 00:29:53,833 ‎ทีนี้ก็ออกไปได้แล้ว ‎ไปพิสูจน์ความแกร่งของลูกซะ 530 00:29:53,917 --> 00:29:56,127 ‎ถ้าไลอ้อนคิงทําได้ ลูกก็ต้องทําได้ ‎ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ 531 00:29:56,211 --> 00:29:57,670 ‎ไปเถอะ คนเก่ง ไปเถอะ" 532 00:30:05,386 --> 00:30:06,721 ‎เราขอกันถ้วนหน้า 533 00:30:12,685 --> 00:30:15,021 ‎มีคู่รักขอพรกี่คู่ครับ 534 00:30:18,399 --> 00:30:19,901 ‎ถูไปที่ตะเกียงใบนั้น 535 00:30:20,944 --> 00:30:23,071 ‎สบตากันปิ๊งปั๊ง 536 00:30:23,738 --> 00:30:25,114 ‎"น้องเอ๊ย 537 00:30:26,366 --> 00:30:29,911 ‎ขอให้พี่ถูกขังอยู่ในห้องกับน้อง ‎ทั้งวันทั้งคืนทีเถอะ 538 00:30:33,456 --> 00:30:36,918 ‎ขอให้พวกเขาขังเราไว้ ‎แล้วเขวี้ยงกุญแจทิ้งไปเลย 539 00:30:37,001 --> 00:30:38,962 ‎แล้วพี่จะจัดเต็มให้น้อง" 540 00:30:39,045 --> 00:30:41,172 ‎"เหรอคะ พี่จะจัดอะไรให้น้องเหรอคะ" 541 00:30:41,256 --> 00:30:45,593 ‎"พี่จะขอให้เราเจอหน้ากันแค่สองคน ‎ทั้งวันทั้งคืนไง" 542 00:30:45,677 --> 00:30:46,678 ‎"ทั้งวันทั้งคืน" 543 00:30:50,265 --> 00:30:52,433 ‎"พรของเจ้าสมปรารถนาแล้ว" 544 00:30:55,687 --> 00:30:57,397 ‎คู่รักหลายคู่ 545 00:30:57,480 --> 00:31:00,441 ‎ได้บทเรียนใหญ่หลวงในช่วงการระบาดใหญ่ 546 00:31:00,525 --> 00:31:03,111 ‎คู่รักหลายคู่ได้บทเรียนใหญ่หลวง ‎ในช่วงการระบาดใหญ่ครับ 547 00:31:03,945 --> 00:31:05,572 ‎หลายคนได้รู้ว่า 548 00:31:06,155 --> 00:31:08,616 ‎ความรักนั้นอาจไม่มีเงื่อนไข 549 00:31:08,700 --> 00:31:11,369 ‎แต่ "ความชอบ" มันไม่จีรัง 550 00:31:16,499 --> 00:31:19,168 ‎"แน่นอน ผมรักคุณ ที่รัก ‎แต่ผมไม่รู้ว่ายังชอบคุณอยู่อีกรึเปล่า" 551 00:31:25,508 --> 00:31:28,720 ‎ช่วงแรกสนุกกันมากครับ จําได้มั้ย ‎ใหม่ๆ เหมือนไปนอนค้างบ้านเพื่อน 552 00:31:28,803 --> 00:31:31,472 ‎"พระเจ้า แบบนี้สนุกดีจัง" 553 00:31:34,058 --> 00:31:36,019 ‎แล้วสัปดาห์ก็กลายเป็นเดือน 554 00:31:36,811 --> 00:31:38,688 ‎เดือนกลายเป็นปี 555 00:31:39,898 --> 00:31:42,150 ‎และพอถึงจุดนึง คุณจะนั่งอยู่ในบ้าน 556 00:31:43,443 --> 00:31:45,320 ‎ดวงตาเป็นประกาย 557 00:31:46,988 --> 00:31:48,156 ‎ได้ยินเสียงพวกเขา 558 00:31:48,990 --> 00:31:50,408 ‎ไอจากห้องข้างๆ 559 00:31:54,787 --> 00:31:57,373 ‎แล้วคุณก็แบบ "ใช่ 560 00:31:59,751 --> 00:32:02,045 ‎ใช่เลย พระองค์ 561 00:32:03,296 --> 00:32:05,048 ‎รับตัวเขาไปเลยเจ้าค่ะ" 562 00:32:06,591 --> 00:32:09,177 ‎"ถ้ามันถึงคราว มันก็ถึงคราวนะเจ้าคะ 563 00:32:10,261 --> 00:32:12,931 ‎ขอให้เป็นตามพระประสงค์เลยค่ะ 564 00:32:14,015 --> 00:32:16,851 ‎ลูกอยากได้ที่ทำงานกว้างๆ ค่ะ" 565 00:32:25,985 --> 00:32:27,028 ‎รู้มั้ยครับ 566 00:32:28,529 --> 00:32:32,075 ‎สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกรันทดมาก ‎เกี่ยวกับโลกที่เราอาศัยอยู่ คือ 567 00:32:33,076 --> 00:32:37,622 ‎เราไม่ค่อยจะให้เวลาอย่างเต็มที่ ‎กับการประมวลคำว่า ทำไม 568 00:32:40,208 --> 00:32:41,584 ‎เรารู้ว่าสิ่งต่างๆ เกิดขึ้น 569 00:32:42,710 --> 00:32:45,088 ‎เรารู้สึกว่าสิ่งโน้นสิ่งนี้เกิดขึ้นกับเรา 570 00:32:45,171 --> 00:32:46,798 ‎แต่บ่อยครั้ง 571 00:32:46,881 --> 00:32:49,842 ‎ที่เราไม่ได้ให้เวลาหรือมีเวลากับการ ‎ประมวลคำว่า 572 00:32:50,510 --> 00:32:51,636 ‎ทําไม 573 00:32:54,764 --> 00:32:57,141 ‎ทําไมถึงฉุนเฉียว 574 00:32:58,685 --> 00:33:00,937 ‎ทําไมถึงเอาแต่ทะเลาะกัน 575 00:33:01,813 --> 00:33:03,606 ‎ไม่เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน 576 00:33:04,232 --> 00:33:06,025 ‎เรากลายเป็นเวอร์ชั่นแย่สุดของตัวเอง 577 00:33:07,527 --> 00:33:09,654 ‎และถ้าคุณถามผมว่านั่นเป็นเพราะ… 578 00:33:11,823 --> 00:33:12,991 ‎เพราะความกลัว 579 00:33:13,908 --> 00:33:16,953 ‎มนุษย์เราจะรู้สึกสบายใจเมื่อเรา… 580 00:33:17,036 --> 00:33:18,079 ‎รู้ 581 00:33:19,122 --> 00:33:21,165 ‎จนเราลืมไปว่าชีวิตมันไม่เที่ยง 582 00:33:23,501 --> 00:33:26,546 ‎เราถูกเสี้ยมสอนทุกวี่วันว่า "เรารู้" 583 00:33:26,629 --> 00:33:29,424 ‎เราสบายใจที่ได้รู้ จนหลงไปว่าเราต้องรู้เสมอ 584 00:33:29,507 --> 00:33:31,801 ‎รถจะติดรึเปล่า คุณรู้ 585 00:33:32,593 --> 00:33:33,928 ‎อากาศจะเป็นยังไง คุณรู้ 586 00:33:34,012 --> 00:33:36,014 ‎"โอ๊ะ วันพฤหัสฝนจะตก" 587 00:33:36,097 --> 00:33:38,391 ‎เข้าใจอุบายของสิ่งนี้มั้ยครับ 588 00:33:39,017 --> 00:33:41,144 ‎ถ้าคุณมีเทคโนโลยีนี้เมื่อ 500 ปีก่อน 589 00:33:41,227 --> 00:33:43,271 ‎แล้วคุณบอกว่า "วันพฤหัสฝนจะตก" ‎คนจะแบบ… 590 00:33:51,279 --> 00:33:53,990 ‎เราเคยตัวซะจนกระทั่งลืมไปว่า 591 00:33:54,073 --> 00:33:55,324 ‎ชีวิตคือความไม่แน่นอน 592 00:33:55,408 --> 00:33:57,577 ‎เราไม่รู้ครับ การระบาดใหญ่แสดงให้เราเห็น 593 00:33:57,660 --> 00:33:58,953 ‎ทุกคนเผยตัวตนของเราทุกคน 594 00:33:59,037 --> 00:34:02,206 ‎ว่าเราจำเป็นต้องหยุดสักครู่ ‎แล้วพิจารณาว่า ทำไม 595 00:34:02,290 --> 00:34:04,375 ‎ทําไมถึงฉุนเฉียว ทำไม่เคยได้ดั่งใจสักอย่าง 596 00:34:04,459 --> 00:34:05,877 ‎มันไม่ใช่เพราะหนัง 597 00:34:05,960 --> 00:34:07,962 ‎ไม่ใช่เพราะเราออกไปปาร์ตี้ไม่ได้ 598 00:34:08,046 --> 00:34:10,423 ‎ไม่ใช่เพราะไปเดินห้างไม่ได้ ‎ไม่ใช่อะไรพวกนั้นเลย 599 00:34:10,506 --> 00:34:12,925 ‎แต่เป็นเพราะเราไม่เชื่อมต่อกันอีกแล้ว 600 00:34:13,509 --> 00:34:15,470 ‎ผมไม่เชื่อมต่อกับคุณ คุณไม่เชื่อมต่อกับผม 601 00:34:17,055 --> 00:34:17,972 ‎เราสูญเสียสิ่งนี้ไป 602 00:34:19,724 --> 00:34:20,850 ‎นึกออกมั้ยครับ 603 00:34:20,933 --> 00:34:23,227 ‎นั่นคือที่มาของความคับข้องใจ 604 00:34:24,562 --> 00:34:28,107 ‎และสิ่งที่ทําให้แย่ลงไปอีก ‎คือการที่รัฐบาลทำให้ดูเหมือนว่าพวกเขารู้ 605 00:34:28,191 --> 00:34:30,109 ‎ผมว่านั่นยิ่งทําให้ไปกันใหญ่ 606 00:34:30,193 --> 00:34:31,903 ‎พวกเขามั่นใจมาก 607 00:34:31,986 --> 00:34:34,530 ‎เลยทําให้ดูเหมือนพวกเขารู้ 608 00:34:34,614 --> 00:34:36,407 ‎เลยออกมาบอกว่า 21 วัน 609 00:34:40,328 --> 00:34:42,663 ‎ยี่สิบเอ็ดวันครับ ผมจะจำตัวเลขนี้ไปจนวันตาย 610 00:34:44,373 --> 00:34:45,625 ‎เพราะเราไม่ถามว่าทําไม 611 00:34:46,709 --> 00:34:47,585 ‎ถูกมั้ย 612 00:34:47,668 --> 00:34:51,297 ‎เราได้ยินว่าจีนสร้าง ‎โรงพยาบาล 10,000 เตียงในชั่วข้ามคืน 613 00:34:51,380 --> 00:34:53,508 ‎ไม่มีใครถาม "ทําไม" 614 00:34:54,634 --> 00:34:56,260 ‎แต่พวกเราแบบ "ก็จีนไง 615 00:34:57,720 --> 00:34:59,222 ‎ชอบสร้างนู่นสร้างนี่" 616 00:35:03,434 --> 00:35:05,645 ‎ผมยังจําได้ว่าผู้นําโลกมั่นใจกันแค่ไหน 617 00:35:06,187 --> 00:35:07,897 ‎บางคนก็ออกนอกหน้ากว่าใครเพื่อน 618 00:35:08,689 --> 00:35:10,066 ‎ถูกใจผมมากครับคนนี้ 619 00:35:10,608 --> 00:35:12,860 ‎นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ‎บอริส จอห์นสัน 620 00:35:13,569 --> 00:35:14,654 ‎ใช่ 621 00:35:14,737 --> 00:35:16,531 ‎เขาเป็นคนน่าสนใจ 622 00:35:17,615 --> 00:35:18,950 ‎เขาไปโรงพยาบาลครับ 623 00:35:19,659 --> 00:35:20,952 ‎ช่วงนั้นกำลังระบาดหนัก 624 00:35:21,536 --> 00:35:23,162 ‎เขาไล่กอดทุกคน 625 00:35:23,246 --> 00:35:25,331 ‎ตอนนั้นกำลังสดๆ ร้อนๆ เลย เขาไล่กอดทุกคน 626 00:35:25,414 --> 00:35:27,291 ‎จนนักข่าวถาม "ท่านนายกจอห์นสันคะ 627 00:35:27,375 --> 00:35:29,836 ‎มันจะเหมาะหรือคะ ‎ที่ไปกอดคนโน้นคนนี้ในช่วง…" 628 00:35:29,919 --> 00:35:33,548 ‎เขาสวน "ก่อนอื่นเลย ‎ทุกคนต้องใจเย็นๆ มันไม่ได้ระบาดขนาดนั้น 629 00:35:33,631 --> 00:35:36,300 ‎ดูหัวผมสิ ผมดูเครียดมั้ย ทุกคนต้องใจเย็นๆ 630 00:35:36,384 --> 00:35:38,511 ‎ไม่มีอะไรหรอก ทุกอย่างปกติ ผมสัมผัสคนอื่นได้ 631 00:35:38,594 --> 00:35:40,388 ‎เราไม่ปิดประเทศ ทุกอย่างเปิดหมด 632 00:35:40,471 --> 00:35:42,473 ‎ผับจะเปิดต่อไป ฟุตบอลเตะต่อไป 633 00:35:42,557 --> 00:35:44,142 ‎ขอตัวนะ ผมต้องไปก่อน…" 634 00:35:45,893 --> 00:35:47,645 ‎แล้วก็สะบัดตูด เขาไม่สน 635 00:35:48,437 --> 00:35:50,648 ‎ประธานาธิบดีอเมริกา คนนี้โวหนักกว่าอีก 636 00:35:51,315 --> 00:35:54,569 ‎ใช่ครับ โผล่มาปุ๊บก็รู้เลย โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ 637 00:35:54,652 --> 00:35:56,195 ‎พกความมั่นใจมาเต็มร้อย 638 00:35:56,279 --> 00:35:59,615 ‎ประกาศเลย "พี่น้อง เราเอาอยู่แน่นอน 639 00:36:01,117 --> 00:36:04,620 ‎ใน 21 วัน 640 00:36:06,038 --> 00:36:09,333 ‎ไวรัสจะหายไปใน 21 วัน 641 00:36:10,376 --> 00:36:12,545 ‎บางคนบอกว่า 20 ด้วยซ้ำไป" 642 00:36:16,048 --> 00:36:20,595 ‎แล้วทั้งทรัมป์และบอริสก็เชื้อลงปอดไปสวยๆ 643 00:36:20,678 --> 00:36:24,640 ‎ทั้งคู่เข้าห้องไอซียู เกือบเอาชีวิตไม่รอด ‎เหตุผลเดียวที่รอดมาได้ 644 00:36:24,724 --> 00:36:27,685 ‎ก็เพราะพวกเขาเป็นประมุขของประเทศ ‎พวกเขาได้น้ำอมฤต 645 00:36:28,895 --> 00:36:32,315 ‎แต่ต้องให้เครดิตบอริส ‎เขาออกจากรพ.เหมือนเพิ่งไปเฝ้าพระเยซู 646 00:36:33,691 --> 00:36:36,360 ‎ออกมาจากโรงพยาบาล จัดงานแถลงข่าวเลย 647 00:36:36,444 --> 00:36:37,945 ‎ปิดทุกอย่างหมด 648 00:36:38,029 --> 00:36:40,907 ‎ออกมาแทบจะไม่แต่งเนื้อแต่งตัว ‎"ทุกคน นี่ไม่ใช่เรื่องตลก 649 00:36:40,990 --> 00:36:43,034 ‎ผมเจอมากับตัว อังกฤษจะปิดประเทศ 650 00:36:43,117 --> 00:36:45,077 ‎ได้โปรด ฟุตบอลปิดไป ผับปิดไป 651 00:36:45,161 --> 00:36:47,205 ‎อย่าทำเป็นเรื่องเล่นๆ ผมเจอมากับตัว 652 00:36:47,288 --> 00:36:49,582 ‎ผมพูดจริง ไม่ใช่เรื่องสนุก อยู่ไม่ได้แล้ว ‎ต้องไปแล้ว 653 00:36:49,665 --> 00:36:52,835 ‎ได้โปรด พูดไม่ได้แล้ว ผมต้อง…" ‎แล้วก็หายวับ 654 00:36:52,919 --> 00:36:54,337 ‎หายวับ ชายคนนั้นกลัวหนักมาก 655 00:36:54,420 --> 00:36:57,173 ‎ผมแอบหวังว่าไวรัสโคโรนา ‎จะใกล้เข้ามาแล้วแบบ… 656 00:37:08,309 --> 00:37:10,478 ‎ฝ่ายทรัมป์ก็ไม่สนอะไรเลย 657 00:37:12,021 --> 00:37:14,190 ‎ชายคนนั้นจะตายเพราะความดื้อเข้าสักวัน 658 00:37:14,982 --> 00:37:16,609 ‎เขาออกมาจากโรงพยาบาล 659 00:37:16,692 --> 00:37:19,654 ‎หายใจแทบไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังจัดงานแถลงข่าว 660 00:37:19,737 --> 00:37:21,489 ‎พูดไม่ได้นะ แต่ก็แบบ… 661 00:37:34,585 --> 00:37:36,212 ‎"ถ้าผมทําได้ 662 00:37:37,213 --> 00:37:39,423 ‎คุณก็ต้องได้" 663 00:37:44,053 --> 00:37:46,013 ‎ให้ตาย 664 00:37:53,104 --> 00:37:56,023 ‎ผมไม่เข้าใจจริงๆ ‎ว่ามีคนกาให้ผู้ชายคนนั้นได้ยังไง 665 00:37:58,484 --> 00:37:59,318 ‎ไม่เข้าใจเลย 666 00:38:04,282 --> 00:38:05,533 ‎แต่ต้องบอกก่อน 667 00:38:05,616 --> 00:38:07,159 ‎ไม่ได้พูดถึงเรื่องการเมืองนะครับ 668 00:38:07,243 --> 00:38:11,205 ‎ผมเข้าใจ คนจะกาให้กับนโยบาย ‎ที่ต้องการลงคะแนนให้ 669 00:38:11,289 --> 00:38:14,292 ‎แต่ที่ไม่เข้าใจคือทําไมอยากลงคะแนนให้เขา 670 00:38:14,375 --> 00:38:17,295 ‎แล้วที่บ้าขั้นกว่าก็คือลงคะแนนให้เขา 671 00:38:17,378 --> 00:38:19,714 ‎แล้วก็มานั่งผิดหวังกับสิ่งที่เขาเป็น 672 00:38:21,549 --> 00:38:23,384 ‎แต่บ้าขั้นสุดที่เคยเห็น 673 00:38:23,467 --> 00:38:25,678 ‎คือพวกที่แบบ ‎"ฉันไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เขาทํา 674 00:38:25,761 --> 00:38:27,179 ‎ฉันไม่อยากเชื่อว่าเขาจะทำ" 675 00:38:27,263 --> 00:38:29,390 ‎"อะไรนะ คุณไม่อยากเชื่อว่าจะออกรูปนี้เหรอ" 676 00:38:29,473 --> 00:38:30,850 ‎"นั่นทรัมป์นะ คุณเชื่อมั้ยล่ะ" 677 00:38:30,933 --> 00:38:33,936 ‎"เชื่อว่าเขากําลังทํา ‎สิ่งที่เขาทํามาตลอดทั้งชีวิตเหรอ" 678 00:38:34,020 --> 00:38:35,771 ‎"นั่นสิ ไม่อยากเชื่อ ช็อกเลย" 679 00:38:35,855 --> 00:38:37,189 ‎"คุณช็อกเหรอ" 680 00:38:37,273 --> 00:38:40,735 ‎โดนัลด์ ทรัมป์เป็นมนุษย์ที่ผมช็อกน้อยที่สุด ‎เท่าที่เคยเจอมาตลอดทั้งชีวิตผม 681 00:38:41,402 --> 00:38:43,779 ‎เขาคงเส้นคงวากับการเป็นตัวเองมาก 682 00:38:44,989 --> 00:38:46,949 ‎ชายคนนั้นเป็นวายร้ายหัวโบราณ 683 00:38:47,033 --> 00:38:49,327 ‎ดูเหมือนวายร้าย พูดเหมือนวายร้าย 684 00:38:49,952 --> 00:38:52,163 ‎ยังกับออกมาจากสกูบี้-ดูก็ไม่ปาน 685 00:38:55,541 --> 00:38:57,293 ‎ทั้งหน้าตา ทั้งการแสดงออก 686 00:38:57,376 --> 00:38:59,754 ‎ถ้าให้ชี้ตัวอาชญากร เขาจะอยู่ในแถวแน่นอน 687 00:38:59,837 --> 00:39:02,006 ‎"คิดว่าใคร สกู๊บ" 688 00:39:02,089 --> 00:39:03,966 ‎"ไม่ใช่ฉันนะ บอกได้เลย" 689 00:39:04,050 --> 00:39:06,135 ‎"ฉันไม่ได้ทําอะไรนะ ฉันบริสุทธิ์" 690 00:39:06,218 --> 00:39:09,555 ‎แล้วก็หมอนี่ "ฉันบริสุทธิ์ บริสุทธิ์ผุดผ่อง 691 00:39:10,264 --> 00:39:13,684 ‎บางคนบอกว่าผุดผ่องที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลย" 692 00:39:14,727 --> 00:39:16,520 ‎สกู๊บว่า "ใช่ ฉันว่าเจ้าหมอนั่นแหละ" 693 00:39:23,402 --> 00:39:24,653 ‎ไม่เข้าใจครับ 694 00:39:25,571 --> 00:39:27,490 ‎ทําไมถึงลงคะแนน ไม่สิ จริงๆ แล้ว 695 00:39:27,573 --> 00:39:29,742 ‎ผมเข้าใจ แต่ผมซึมซาบไม่ได้ 696 00:39:30,659 --> 00:39:33,329 ‎เพราะสิ่งที่ผมรับรู้และเข้าใจคือ 697 00:39:33,412 --> 00:39:34,955 ‎ในสหรัฐอเมริกาแห่งนี้ 698 00:39:35,039 --> 00:39:38,584 ‎ถ้าคุณอยากชนะเลือกตั้ง ‎ทั้งหมดที่คุณต้องมีคือเสียงประหลาดๆ 699 00:39:39,919 --> 00:39:43,089 ‎ง่ายๆ แค่นั้นครับ ‎อยากเป็นประธานาธิบดีสหรัฐเหรอ 700 00:39:43,172 --> 00:39:44,590 ‎ทำเสียงประหลาดๆ ครับ จบเลย 701 00:39:45,466 --> 00:39:48,219 ‎ลืมเรื่องนโยบาย เรื่องแนวคิดไปซะ น่าเบื่อ 702 00:39:48,302 --> 00:39:49,845 ‎คุณออกมา "นโยบายผม…" 703 00:39:51,472 --> 00:39:53,224 ‎"เสียงธรรมดาว่ะ ไอ้ตูด" 704 00:39:55,142 --> 00:39:56,060 ‎ไม่เอา 705 00:39:56,769 --> 00:39:59,522 ‎คุณต้องออกมาด้วยเสียงที่ไม่เหมือนใคร ‎คนถึงจะรัก 706 00:40:00,439 --> 00:40:02,566 ‎คุณดูได้เลย ‎ไม่มีประธานาธิบดีอเมริกาคนไหน 707 00:40:02,650 --> 00:40:04,610 ‎ที่เสียงเหมือนชาวบ้านสักคน 708 00:40:05,319 --> 00:40:08,280 ‎คุณจะย้อนกลับไปกี่คนก็ได้ ‎แต่จะไม่เจอใครพูดเป็นธรรมชาติเลย 709 00:40:08,906 --> 00:40:11,534 ‎ลองย้อนไปสัก… เจเอฟเค 710 00:40:11,617 --> 00:40:12,785 ‎เขาพูดไม่ปกติ 711 00:40:12,868 --> 00:40:17,039 ‎เขาจะมีแบบนั้นน่ะ อย่างประมาณว่า ‎"ไม่ถามว่าประเทศทําอะไรให้คุณได้บ้าง 712 00:40:17,915 --> 00:40:21,335 ‎แต่จงถามว่าคุณทำอะไรให้ประเทศได้บ้าง" ‎นั่นไม่ปกติครับ 713 00:40:22,670 --> 00:40:24,964 ‎ผมไม่สนว่าใครจะพูดยังไง ‎นั่นคือความไม่ธรรมดา 714 00:40:25,548 --> 00:40:27,466 ‎บอกซิว่าชายคนนั้นจะสั่งอาหาร 715 00:40:27,550 --> 00:40:29,093 ‎ในแมคโดนัลด์ด้วยเสียงนั้นมั้ย 716 00:40:29,718 --> 00:40:33,305 ‎"ฉันขอหมายเลขหนึ่ง ขนาดกลาง กับมันทอด 717 00:40:34,640 --> 00:40:36,684 ‎แล้วก็ขอแม็คเฟลอร์รี่ด้วย 718 00:40:37,518 --> 00:40:39,854 ‎หมายความว่าไงเครื่องทำไอติมพังไปแล้ว" 719 00:40:42,398 --> 00:40:43,566 ‎นั่นไม่ปกติครับ 720 00:40:45,818 --> 00:40:48,404 ‎ไม่มีประธานาธิบดีอเมริกาคนไหน ‎พูดจาปกติเลย ไม่มี 721 00:40:48,487 --> 00:40:50,739 ‎บิล คลินตัน… เขาก็พูดไม่ปกติ 722 00:40:50,823 --> 00:40:54,160 ‎เขาจะทำเสียง ‎เหมือนกำลังอ่อยคนฟังอยู่ตลอดเวลา 723 00:40:54,243 --> 00:40:55,369 ‎นึกออกมั้ย 724 00:40:55,453 --> 00:40:57,913 ‎"ผมไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศ… 725 00:41:00,082 --> 00:41:01,333 ‎กับผู้หญิงคนนั้นนะ" 726 00:41:03,919 --> 00:41:05,254 ‎ทำอะไรกันไม่ทราบ 727 00:41:07,923 --> 00:41:10,301 ‎ไม่มีประธานาธิบดีอเมริกาคนไหน ‎พูดจาปกติ ไม่มีเลย 728 00:41:10,384 --> 00:41:12,261 ‎จอร์จ บุช เขาก็พูดไม่ปกติ 729 00:41:12,344 --> 00:41:14,054 ‎จะต้องกรุ้มกริ่มๆ อยู่ตลอดเวลา 730 00:41:14,138 --> 00:41:16,182 ‎"จะต้องหาตัวคนที่ทำเรื่องนี้มา 731 00:41:17,099 --> 00:41:19,602 ‎แล้วระเบิดประเทศที่ไม่เหมือนเราทิ้งซะ 732 00:41:21,103 --> 00:41:22,271 ‎หลอกฉันได้หนึ่งครั้ง…" 733 00:41:23,814 --> 00:41:25,274 ‎นั่นไม่ปกติเลย 734 00:41:25,858 --> 00:41:28,444 ‎ไม่มีประธานาธิบดีอเมริกาคนไหน ‎พูดจาปกติเลยสักคน 735 00:41:28,527 --> 00:41:30,654 ‎บารัค โอบามา นี่ก็ไม่ปกติ 736 00:41:30,738 --> 00:41:33,199 ‎จะต้องมีเสียงกระตุกเหมือนกำลังรอโหลดตลอด 737 00:41:37,077 --> 00:41:38,329 ‎"ในฐานะพลเมืองอเมริกัน 738 00:41:38,412 --> 00:41:40,748 ‎เราจะต้องพยายาม 739 00:41:40,831 --> 00:41:42,208 ‎ทำให้อินเทอร์เน็ตเร็วขึ้นอีก" 740 00:41:45,002 --> 00:41:46,128 ‎นั่นไม่ปกติครับ 741 00:41:48,130 --> 00:41:50,257 ‎โจ ไบเดนก็พูดไม่ปกติ 742 00:41:50,341 --> 00:41:51,550 ‎ล้อเล่นมั้ยครับ 743 00:41:51,634 --> 00:41:54,637 ‎พูดๆ ไปแล้วก็กลายเป็นพึมพำอะไรก็ไม่รู้ 744 00:41:55,346 --> 00:41:57,056 ‎ไม่ปกติครับ พออยู่บนเวทีก็จะแบบ… 745 00:41:57,139 --> 00:41:59,725 ‎"นั่นเป็นเหตุผลสําคัญที่สุดที่จะต้องเข้าใจ… 746 00:42:00,976 --> 00:42:04,313 ‎ความฝันของคนผิวสีชั้นดี ไม่เอาน่า 747 00:42:05,189 --> 00:42:07,942 ‎ไม่เอาน่า ขอร้อง 748 00:42:08,692 --> 00:42:09,860 ‎พูดจริงๆ 749 00:42:10,611 --> 00:42:12,029 ‎ไม่เอาน่า" 750 00:42:12,863 --> 00:42:14,114 ‎นั่นไม่ปกติครับ 751 00:42:17,034 --> 00:42:19,495 ‎ทรัมป์ จะประหลาดกว่าใครเพื่อน 752 00:42:20,204 --> 00:42:22,498 ‎ประธานาธิบดีอเมริกาคนอื่นๆ ‎เราคาดเดาได้ทุกคน 753 00:42:22,581 --> 00:42:24,166 ‎จังหวะจะโคนเป็นที่เข้าใจได้ 754 00:42:24,250 --> 00:42:26,043 ‎แต่ทรัมป์ จะเป็นอะไรที่ผิดคาดเสมอ 755 00:42:26,877 --> 00:42:28,879 ‎ระดับเสียงเขาจะมั่วไปหมด 756 00:42:28,963 --> 00:42:30,673 ‎เน้นเสียงแบบไม่มีเหตุผล 757 00:42:30,756 --> 00:42:33,217 ‎มันยากแค่ไหนรู้มั้ยครับ ที่เราต้องปรับเสียงตาม 758 00:42:33,300 --> 00:42:34,677 ‎ตอนดูเขาพูด 759 00:42:37,304 --> 00:42:40,724 ‎ผมต้องนั่งขยี้เหมือนดีเจมือหงิกตลอดเวลา 760 00:42:40,808 --> 00:42:43,102 ‎ตอนที่เขาพูด เพราะเดาไม่ได้ ‎ว่ามันจะมาตอนไหน 761 00:42:43,185 --> 00:42:45,604 ‎พอเขาขึ้นเวที "ผมคิดว่า ในฐานะอเมริกา 762 00:42:45,688 --> 00:42:49,817 ‎เราพยายามและพยายาม ‎จงพยายาม พยายามอย่างมาก 763 00:42:49,900 --> 00:42:51,193 ‎ทุกคนพยายาม 764 00:42:51,277 --> 00:42:53,195 ‎ผมรู้ดี ผมรู้ 765 00:42:54,363 --> 00:42:56,907 ‎แต่ผมรู้ และผมคิดว่า 766 00:42:57,575 --> 00:42:59,535 ‎ถ้าเราทําได้ เราก็ทําได้ 767 00:42:59,618 --> 00:43:02,955 ‎แต่เราจะไม่ทํา แต่เราจะทํา แต่ก็ไม่แน่ ‎แต่…" 768 00:43:03,831 --> 00:43:04,748 ‎อะไร 769 00:43:07,835 --> 00:43:09,086 ‎นั่นไม่ปกติครับ 770 00:43:15,634 --> 00:43:18,846 ‎ผมถึงได้หัวเราะทุกครั้ง ‎ที่มาแคนาดาแล้วได้ดูข่าว 771 00:43:20,931 --> 00:43:23,642 ‎ทุกครั้งที่ผมมาแคนาดา ‎ผมจะเปิดข่าว แล้วก็จะมีแบบ… 772 00:43:23,726 --> 00:43:26,895 ‎"เกิดข้อครหาขึ้นในแคนาดาอีกแล้วครับ 773 00:43:26,979 --> 00:43:28,981 ‎ข้อครหาอีกข้อของจัสติน ทรูโด" 774 00:43:29,064 --> 00:43:32,568 ‎เขามีข้อครหาที่น่ารักที่สุดแล้วคุณ ‎ล้อเล่นรึเปล่า 775 00:43:33,152 --> 00:43:36,488 ‎ถ้าเทียบกับประธานาธิบดีอเมริกานะครับ ‎พวกนั้นจะแบบ "เขามีข้อครหา" 776 00:43:36,572 --> 00:43:39,783 ‎"ถูกตัดสินว่ามีความผิดอะไรรึยัง ‎งั้นก็หุบปากไปเลย" 777 00:43:39,867 --> 00:43:41,910 ‎บอกว่า "เขามีข้อครหา" 778 00:43:41,994 --> 00:43:45,748 ‎ดูน่ากลัวมาก… "เขานอนค้างที่บ้านคนรวย" 779 00:43:47,791 --> 00:43:49,043 ‎น่ารักจะตาย 780 00:43:50,586 --> 00:43:53,464 ‎ข้อครหาที่ถูกใจผมที่สุดของจัสติน ทรูโด ‎ซึ่งต่างกันลิบลับ 781 00:43:53,547 --> 00:43:57,885 ‎คือครั้งที่เขาไปเดินทางไปอินเดีย 782 00:44:01,096 --> 00:44:03,766 ‎แล้วก็กลายร่างเป็นคนอินเดีย 783 00:44:09,605 --> 00:44:13,859 ‎นั่นเป็นข้อครหาที่ฉาวโฉ่ที่สุดตลอดกาล 784 00:44:17,237 --> 00:44:18,572 ‎ผมยังจําได้ตอนมันเป็นข่าว 785 00:44:19,448 --> 00:44:22,451 ‎เขาขึ้นเครื่องออกจากแคนาดา ‎ตอนนั้นสวมสูทอยู่ 786 00:44:22,534 --> 00:44:26,121 ‎โบกมือบนเครื่อง "ลาก่อนทุกคน" 787 00:44:26,205 --> 00:44:28,332 ‎ขึ้นบินไปอินเดีย ลงจอด 788 00:44:28,415 --> 00:44:32,252 ‎ประตูเปิดออก เขาโผล่ออกมา ‎และเขากลายเป็นลูกครึ่งอินเดียไปเรียบร้อย 789 00:44:34,213 --> 00:44:35,506 ‎สวมแจ็คเก็ตด้วย 790 00:44:35,589 --> 00:44:37,299 ‎แต่ที่บ้าก็คือ 791 00:44:37,383 --> 00:44:41,220 ‎ขณะที่การเดินทางดําเนินไป ‎เขายิ่งกลายเป็นคนอินเดียมากเข้าไปทุกที 792 00:44:42,054 --> 00:44:43,263 ‎ไม่เว้นแต่ละวัน 793 00:44:44,223 --> 00:44:46,767 ‎ชัดเจนว่าไม่มีใคร ‎เล่าข่าวในแคนาดาให้เขาฟังเลย 794 00:44:46,850 --> 00:44:48,143 ‎แคนาดาเองก็กําลังเข้าใจผิด 795 00:44:48,227 --> 00:44:50,729 ‎"นี่คือการดูหมิ่น ทำแบบนี้ได้ยังไง" 796 00:44:50,813 --> 00:44:53,482 ‎แต่เขาก็กำลังกลายเป็นอินเดียมากขึ้นทุกวัน 797 00:44:53,565 --> 00:44:56,026 ‎เริ่มจากข้างบนก่อน ไล่ลงไปถึงกางเกง 798 00:44:56,110 --> 00:44:58,320 ‎สุดท้ายก็แต่งเต็มยศ ‎มีผ้าโพกหัวเสร็จสรรพ 799 00:44:59,071 --> 00:45:01,824 ‎ผมชอบมากตอนที่เขาเดินเข้าที่ประชุม ‎กับบุคคลสําคัญของอินเดีย 800 00:45:01,907 --> 00:45:03,200 ‎แล้วทุกคนก็สวมสูทกันหมด 801 00:45:10,165 --> 00:45:11,375 ‎ชายคนนี้เดินเข้าที่ประชุม 802 00:45:11,458 --> 00:45:13,168 ‎เหมือนกำลังเข้าไปออดิชั่นหนังอินเดีย 803 00:45:13,252 --> 00:45:15,003 ‎ซึ่งคุณจะแบบ "อะไรวะเนี่ย" 804 00:45:17,506 --> 00:45:19,842 ‎เขาดูแขกมากซะจนผมแอบหวังว่าจะมีโมเมนต์ 805 00:45:19,925 --> 00:45:22,136 ‎ที่เขากำลังกล่าวสุนทรพจน์ 806 00:45:22,219 --> 00:45:24,596 ‎ผมหวังว่าจู่ๆ เขาจะแบบ… 807 00:45:25,931 --> 00:45:28,016 ‎"ต้องขอบอกว่าผมภูมิใจมาก 808 00:45:29,309 --> 00:45:31,437 ‎ที่งานของเรานั้นสำเร็จลุล่วง 809 00:45:32,813 --> 00:45:34,982 ‎ในฐานะชาวแคนาดาและชาวอินเดีย 810 00:45:35,983 --> 00:45:38,610 ‎เรา…" 811 00:45:45,951 --> 00:45:47,661 ‎ผมหวังว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นครับ 812 00:45:49,872 --> 00:45:51,373 ‎ผมรอดูเลย 813 00:45:55,377 --> 00:45:57,671 ‎"ข้อครหาที่ฉาวโฉ่ที่สุดตลอดกาล 814 00:45:57,754 --> 00:46:00,299 ‎เขากลายเป็นคนอินเดีย" 815 00:46:04,428 --> 00:46:06,013 ‎มันไม่แย่ขนาดนั้นมั้ง 816 00:46:07,347 --> 00:46:09,850 ‎ผมคิดว่าเขาพยายามมากเกินไป ผมพูดจากใจ 817 00:46:09,933 --> 00:46:12,102 ‎ผมคิดว่าจัสติน ทรูโดพยายามมากเกินไป 818 00:46:12,186 --> 00:46:15,731 ‎พยายามแสดงความเห็นอกเห็นใจ ‎มากเกินไป นึกออกนะครับ 819 00:46:15,814 --> 00:46:17,816 ‎ผมว่ามันไม่แย่อะไรนักหรอก แต่ผมลําเอียง 820 00:46:17,900 --> 00:46:19,610 ‎ผมรู้ผมลําเอียง ถูกต้อง 821 00:46:20,402 --> 00:46:23,655 ‎เพราะผมเองก็พลาดเหมือนทรูโด 822 00:46:26,825 --> 00:46:27,993 ‎ผมจะ… ใช่ 823 00:46:28,076 --> 00:46:29,912 ‎ผมจะสารภาพมันที่นี่คืนนี้ 824 00:46:29,995 --> 00:46:32,331 ‎ผมก็พลาดเหมือนทรูโดครับ แคนาดา 825 00:46:34,041 --> 00:46:37,669 ‎ผมพยายามจะเชื่อมต่อ ‎กับคนกลุ่มนึงมากไปเหมือนกัน และ… 826 00:46:38,295 --> 00:46:39,546 ‎ไม่ได้เป็นไปด้วยดีเลย 827 00:46:41,590 --> 00:46:45,093 ‎เรื่องของผมเกิดที่เมืองเอดินบะระ ‎สกอตแลนด์ 828 00:46:46,637 --> 00:46:50,015 ‎เมืองสวยมาก ‎ถ้ายังไม่เคยไป จงไปครับ งามจริง 829 00:46:50,682 --> 00:46:51,600 ‎ทุกสิ่งอย่าง 830 00:46:51,683 --> 00:46:53,101 ‎ประวัติศาสตร์ยาวนาน 831 00:46:53,185 --> 00:46:55,229 ‎ผู้คนน่ารักและอบอุ่น 832 00:46:55,312 --> 00:46:57,314 ‎เมืองไม่อุ่น แต่คนอุ่น 833 00:46:58,982 --> 00:47:01,485 ‎ทุกอย่างเป็นของเก่า ‎พวกเขาจะชอบบอกแบบนั้น 834 00:47:01,568 --> 00:47:03,654 ‎ไม่ว่าจะไปไหนในเอดินบะระ ‎คนเค้าจะแบบ… 835 00:47:03,737 --> 00:47:05,322 ‎"คุณว่าสะพานนั่นอายุเท่าไหร่" 836 00:47:05,405 --> 00:47:08,200 ‎"ไม่ทราบครับ" เขาบอก "สามร้อยปี" 837 00:47:08,867 --> 00:47:12,746 ‎"โอ้โห โอเค" ‎เขาว่าต่อ "ส่วนโบสถ์นั่น 500 ปี" 838 00:47:13,622 --> 00:47:16,708 ‎"นี่ลูกผม 800 ปี" 839 00:47:17,876 --> 00:47:20,295 ‎"ดูเหมือนหกขวบนะครับ" ‎"ใช่ ฝีมือคนสกอตล่ะ" 840 00:47:22,548 --> 00:47:24,967 ‎แต่พวกเขาน่ารักมาก ที่นั่นยอดเยี่ยมมาก 841 00:47:25,050 --> 00:47:27,594 ‎เราไปเทศกาลตลกที่นั่นครับ 842 00:47:27,678 --> 00:47:28,929 ‎และ… 843 00:47:29,012 --> 00:47:30,973 ‎สิ่งที่ผมทําไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็ตาม 844 00:47:31,056 --> 00:47:32,808 ‎ถ้ามีเพื่อนๆ ของผมอยู่ที่นั่นด้วย 845 00:47:32,891 --> 00:47:34,434 ‎เราจะใช้เวลาร่วมกันให้ได้มากที่สุด 846 00:47:35,018 --> 00:47:38,981 ‎และสิ่งที่เราทําคือเราจะออกไปเที่ยว ‎หรือไปหาอะไรกิน และเวลาไป 847 00:47:39,064 --> 00:47:41,149 ‎เราจะอนุญาตให้คนคนเดียวเลือกว่าจะกินอะไร 848 00:47:41,233 --> 00:47:43,527 ‎คนอื่นห้ามต่อรอง ‎ทุกคนจะได้เลือกผลัดกันทีละวัน 849 00:47:44,152 --> 00:47:45,821 ‎และถ้าวันไหนเป็นวันของผม 850 00:47:46,530 --> 00:47:49,283 ‎วันนั้นจะเป็นอาหารอินเดียเสมอ 851 00:47:49,366 --> 00:47:51,910 ‎ใช่ ผมว่ามันเป็นอาหารที่ดีที่สุดในโลก 852 00:47:51,994 --> 00:47:53,161 ‎ไม่ใกล้เคียงเลย 853 00:47:53,245 --> 00:47:56,790 ‎ไม่เห็นด้วยกับผม ไปเจอกัน ‎ที่ลานจอดรถครับ วางมวยกันได้ 854 00:47:58,625 --> 00:48:00,836 ‎ผมรักอาหารอินเดีย รักมาตลอดชีวิต 855 00:48:01,837 --> 00:48:03,880 ‎แล้วพออยู่ในเอดินบะระ ‎ถามว่า "เราจะไปไหน" 856 00:48:03,964 --> 00:48:08,010 ‎"เอาไงเทรเวอร์" ผมตอบ "อาหารอินเดีย" ‎"ทุกทีเลย" "ใช่ ทุกที" 857 00:48:08,093 --> 00:48:09,928 ‎"เหมือนเดิมตลอด" ‎"แล้วยังจะถามอีก" 858 00:48:10,012 --> 00:48:12,139 ‎"ก็รู้อยู่แล้ว หยุดถามสิ" 859 00:48:13,765 --> 00:48:15,726 ‎จากนั้นก็ต้องค้นหาว่าจะเอาร้านไหนดี 860 00:48:15,809 --> 00:48:19,187 ‎ผมจะพยายามหาร้านอินเดียแท้ๆ ‎เท่าที่จะหาได้ 861 00:48:19,271 --> 00:48:22,316 ‎หมายถึงร้านลูกอินเดียจริงๆ 862 00:48:22,399 --> 00:48:26,820 ‎นึกออกนะครับ ผมก็เลยต้องตระเวนถามไปทั่ว 863 00:48:26,903 --> 00:48:28,488 ‎ถามคนโน้นคนนี้ "คุณไปร้านไหนกัน" 864 00:48:28,572 --> 00:48:30,741 ‎ถ้าบอกว่าร้านนี้ฝรั่งแนะนำมา ผมก็จะไม่ไปที่นั่น 865 00:48:36,538 --> 00:48:39,041 ‎จนไปเจอที่ที่เป็นของแท้ 866 00:48:39,124 --> 00:48:40,959 ‎สมใจ… สมใจอยากผม 867 00:48:41,043 --> 00:48:43,128 ‎แต่ทำไมถึงต้องเป็นของแท้ 868 00:48:43,211 --> 00:48:45,297 ‎เพื่อพวกคุณจะได้เข้าใจ ‎ในตัวผมมากขึ้นอีกหน่อย 869 00:48:45,380 --> 00:48:47,257 ‎ผมโตในแอฟริกาใต้ อันนี้คุณรู้แล้ว 870 00:48:47,341 --> 00:48:50,177 ‎แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ‎คือแอฟริกาใต้ 871 00:48:50,260 --> 00:48:53,597 ‎เป็นหนึ่งในที่ที่มีประชากร ‎นอกประเทศอินเดียอยู่มากที่สุด 872 00:48:54,348 --> 00:48:58,435 ‎โอเคนะ หนึ่งในที่ที่มีประชากร ‎นอกประเทศอินเดียอยู่มากที่สุด 873 00:48:58,518 --> 00:49:00,228 ‎ผมรู้ว่าตอนนี้แคนาดาเป็นที่หนึ่งแล้ว 874 00:49:03,523 --> 00:49:04,900 ‎แต่ตอนผมเป็นเด็ก 875 00:49:04,983 --> 00:49:10,238 ‎เรามีประชากรนอกประเทศอินเดีย ‎มาอยู่มากที่สุดครับ 876 00:49:10,322 --> 00:49:11,740 ‎ซึ่งถ้าอินเดียระเบิด… 877 00:49:13,617 --> 00:49:14,701 ‎เราก็เป็นอินเดียแทน 878 00:49:16,411 --> 00:49:17,454 ‎ประมาณนั้นเลย 879 00:49:19,331 --> 00:49:22,209 ‎และผมมีบุญพอที่ได้โตมา ‎ท่ามกลางวัฒนธรรมอินเดีย 880 00:49:22,292 --> 00:49:24,419 ‎ซึ่งจริงๆ ก็คือเพื่อนรัก ‎ของผมคนนึงที่โตมาด้วยกัน 881 00:49:24,503 --> 00:49:26,713 ‎หนุ่มอินเดียตัวน้อยนามว่าธีสัน พิลเล่ต์ 882 00:49:27,506 --> 00:49:29,174 ‎และเราติดกันเป็นตังเม 883 00:49:29,257 --> 00:49:31,927 ‎คุณน่าจะไม่เข้าใจ ‎ทุกวันเราจะเล่นอยู่ข้างนอกด้วยกัน 884 00:49:32,010 --> 00:49:33,845 ‎ใช้เวลาช่วงพักด้วยกัน 885 00:49:33,929 --> 00:49:36,181 ‎ขลุกอยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน ทำทุกอย่างด้วยกัน 886 00:49:36,264 --> 00:49:37,641 ‎เพราะเรามีหลายอย่างคล้ายกัน 887 00:49:37,724 --> 00:49:39,476 ‎เรารู้จักกันตอนเริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียน 888 00:49:39,559 --> 00:49:41,978 ‎แล้วเราก็มีหลายอย่างคล้ายกัน 889 00:49:42,062 --> 00:49:44,398 ‎เขาชอบวิ่ง ผมก็ชอบวิ่ง 890 00:49:45,565 --> 00:49:46,692 ‎เลย… 891 00:49:49,111 --> 00:49:51,738 ‎ผมกับธีสันจะขลุกอยู่ด้วยกันทุกวัน 892 00:49:51,822 --> 00:49:54,700 ‎กิจกรรมของเราไม่มีอะไรมาก ‎เราเข้าเรียนทุกคาบ 893 00:49:54,783 --> 00:49:57,035 ‎แล้วก็มาเจอกัน ‎ในช่วงที่เราตั้งชื่อว่าช่วงพักเบรก 894 00:49:57,119 --> 00:49:59,121 ‎ช่วงพักเบรก ‎เราจะนั่งกินข้าวกลางวันด้วยกัน 895 00:49:59,204 --> 00:50:01,164 ‎ตรงนี้ที่เราต่างกันมาก ข้าวกลางวันของเรา 896 00:50:01,248 --> 00:50:05,043 ‎เพราะของธีสัน แม่จะทำข้าวกล่องให้ทุกวัน 897 00:50:05,127 --> 00:50:07,671 ‎ส่วนผม แม่จะให้เงินไปซื้อข้าวกลางวัน 898 00:50:07,754 --> 00:50:09,673 ‎ที่ร้านขายข้าวของโรงเรียน 899 00:50:09,756 --> 00:50:11,216 ‎หรือโรงอาหาร 900 00:50:11,299 --> 00:50:13,427 ‎ผมก็จะไปซื้ออะไรกินทุกวัน 901 00:50:13,510 --> 00:50:15,554 ‎เพราะแม่ทําอาหารไม่เป็น 902 00:50:15,637 --> 00:50:18,557 ‎ท่านเคยลองแล้วครั้งนึง ‎แต่ผมแบบ "ไม่ต้องทำอีกก็ได้ครับ 903 00:50:19,224 --> 00:50:21,977 ‎นี่มันทารุณกรรมเด็กชัดๆ ให้เงินผมก็พอ" 904 00:50:22,811 --> 00:50:24,312 ‎ผมก็จะซื้อข้าวกินเองทุกวัน 905 00:50:24,396 --> 00:50:26,815 ‎ส่วนธีสันก็กลับกัน แม่เขาจะทำข้าวกล่องให้ทุกวัน 906 00:50:26,898 --> 00:50:29,151 ‎และทุกวันจะเป็นแกงกะหรี่ 907 00:50:29,985 --> 00:50:31,236 ‎ผมรู้ครับ 908 00:50:31,319 --> 00:50:33,739 ‎เพราะทุกวัน เราจะนั่งด้วยกัน 909 00:50:33,822 --> 00:50:35,657 ‎ธีสันเปิดกล่องข้าวกลางวันใบน้อยของเขา 910 00:50:35,741 --> 00:50:38,744 ‎หยิบน้ำผลไม้กระป๋องเล็กๆ ออกมา 911 00:50:38,827 --> 00:50:42,164 ‎แกะแซนด์วิชซึ่งตัดเป็นสามเหลี่ยมชิ้นเล็กๆ 912 00:50:42,247 --> 00:50:43,665 ‎หยิบออกมา 913 00:50:43,749 --> 00:50:45,333 ‎แล้วก็อ้าขนมปังออก 914 00:50:45,417 --> 00:50:48,628 ‎ดูไส้ข้างใน แล้วก็ตะโกนสุดเสียง 915 00:50:48,712 --> 00:50:52,174 ‎"แกงกะหรี่ 916 00:50:53,508 --> 00:50:54,843 ‎บ้าจริง มามี้" 917 00:50:59,556 --> 00:51:00,432 ‎ทุกวันครับ 918 00:51:01,475 --> 00:51:04,102 ‎ทุกวันเราจะนั่งลง ‎ผมมีข้าวของผม เขามีของเขา 919 00:51:04,186 --> 00:51:06,730 ‎เขาหยิบน้ำผลไม้ออกจากกล่อง ‎แกะแซนด์วิช ดูไส้ตรงกลาง 920 00:51:06,813 --> 00:51:09,357 ‎แล้วตะโกน "แกงกะหรี่ 921 00:51:10,275 --> 00:51:11,443 ‎บ้าจริง มามี้" 922 00:51:14,029 --> 00:51:16,490 ‎ทุกวี่ทุกวันครับ 923 00:51:16,573 --> 00:51:17,783 ‎ไม่ขาดเลย 924 00:51:17,866 --> 00:51:19,743 ‎ทุกวัน เป็นแกงกะหรี่แม่แกะ 925 00:51:19,826 --> 00:51:21,244 ‎แกงกะหรี่ลูกแกะ 926 00:51:21,328 --> 00:51:23,747 ‎แกงกะหรี่มันฝรั่ง ‎แกงกะหรี่ทุกชนิดที่คุณจะจินตนาการได้ 927 00:51:23,830 --> 00:51:26,833 ‎แต่มันจะเป็นแกงกะหรี่ทุกวี่ทุกวัน 928 00:51:26,917 --> 00:51:29,127 ‎"แกงกะหรี่" นั่นคือชอตเด็ดประจำวันของผม 929 00:51:30,295 --> 00:51:33,465 ‎บางวันผมถึงกับไม่ยอมแกะข้าวของผม ‎เพราะกลัวจะพลาดชอตนั้น 930 00:51:33,548 --> 00:51:35,383 ‎ผมจะนั่งข้างๆ เขาแล้วก็รอ 931 00:51:36,092 --> 00:51:38,637 ‎พอเขาอ้าขนมปังแล้วตะโกน "แกงกะหรี่" 932 00:51:38,720 --> 00:51:41,181 ‎ผมจะขยับปากตาม "บ้าจริง มามี้" 933 00:51:43,225 --> 00:51:47,687 ‎ทำอยู่แบบนี้ทุกวัน เป็นเดือนๆ 934 00:51:47,771 --> 00:51:48,897 ‎จนในที่สุด 935 00:51:49,648 --> 00:51:50,524 ‎ในที่สุด 936 00:51:51,775 --> 00:51:53,276 ‎วันนั้นอาจเสียเพื่อนได้เลย 937 00:51:54,194 --> 00:51:57,447 ‎ผมหันไปหาธีสัน เขากำลังตะโกน "แกงกะหรี่ 938 00:51:57,531 --> 00:51:58,698 ‎บ้าจริง มามี้" 939 00:51:59,449 --> 00:52:00,742 ‎แล้วผมก็แบบ "ธีสัน 940 00:52:02,369 --> 00:52:04,412 ‎มันต้องเป็นแกงกะหรี่ทุกวันแหละ" 941 00:52:06,248 --> 00:52:07,582 ‎เขาว่า "ไงนะ" 942 00:52:08,959 --> 00:52:12,921 ‎ผมบอก "มีแต่แกงกะหรี่ทุกวันเลย 943 00:52:13,672 --> 00:52:15,674 ‎ทุกวันนายจะดูไส้ขนมปัง 944 00:52:16,341 --> 00:52:19,970 ‎เสร็จแล้วนายก็ตกใจ ‎แล้วนายก็แบบ 'แกงกะหรี่ บ้าจริง มามี้' 945 00:52:20,595 --> 00:52:22,556 ‎แต่มันเป็นแกงกะหรี่ทุกวันเลย" 946 00:52:23,515 --> 00:52:26,476 ‎เขาบอก "ฉันรู้ เทรเวอร์ ฉันรู้" 947 00:52:26,560 --> 00:52:28,937 ‎"ฉันไม่ได้ตกใจ ฉันหมดใจต่างหาก" 948 00:52:30,272 --> 00:52:33,567 ‎เพราะทุกๆ วัน ฉันมาโรงเรียน 949 00:52:33,650 --> 00:52:35,652 ‎พอถึงตอนเที่ยงฉันก็หิวข้าว 950 00:52:35,735 --> 00:52:38,154 ‎แล้วทุกวันพอเปิดกล่องข้าว ‎ฉันก็จะรู้ว่ามันคืออะไร 951 00:52:38,238 --> 00:52:40,198 ‎เพราะเมื่อคืนเรากินแกงกะหรี่กัน 952 00:52:40,282 --> 00:52:42,617 ‎แล้วตอนเช้าแม่ก็เอาแกงกะหรี่ของเมื่อคืนมากิน 953 00:52:42,701 --> 00:52:44,411 ‎เสร็จแล้วก็ยัดไส้แซนด์วิชให้ฉัน 954 00:52:44,494 --> 00:52:46,329 ‎และนั่นคือแกงกะหรี่ที่ฉันต้องกินวันนี้ 955 00:52:46,413 --> 00:52:47,998 ‎แล้วฉันก็รู้ว่าพอกลับถึงบ้านคืนนี้ 956 00:52:48,081 --> 00:52:51,209 ‎ฉันก็จะต้องกินแกงกะหรี่ ‎ที่ฉันนึกออกเลยว่ามันจะยาวไปถึงพรุ่งนี้ 957 00:52:51,293 --> 00:52:53,378 ‎ทุกวันฉันก็เลยได้กินแต่แกงกะหรี่ 958 00:52:53,461 --> 00:52:55,672 ‎มันคือแกงกะหรี่แล้วกะหรี่อีก 959 00:52:55,755 --> 00:52:58,049 ‎ถึงฉันจะลูกอินเดีย แต่มันมากไปแล้ว เพื่อน 960 00:52:59,551 --> 00:53:01,845 ‎ฉันอยากกินอย่างอื่นบ้าง 961 00:53:01,928 --> 00:53:05,098 ‎เขาว่าเครื่องเทศหลากหลาย ‎ดีกับสุขภาพ ไม่ใช่แค่กะหรี่" 962 00:53:07,642 --> 00:53:10,645 ‎ผมแบบ "แต่ธีสัน มันไม่ดีเหรอ" 963 00:53:11,396 --> 00:53:13,523 ‎ฉันไม่รู้อะไรอีกแล้ว 964 00:53:14,608 --> 00:53:16,359 ‎ฉันหน้ามืดแล้ว 965 00:53:17,944 --> 00:53:19,613 ‎เอานี่ ฉันยกให้นาย" 966 00:53:20,363 --> 00:53:22,908 ‎แล้วเขาก็เอาแซนด์วิชแกงกะหรี่ให้ผม 967 00:53:25,368 --> 00:53:26,870 ‎ผมกัดลงไป 968 00:53:29,122 --> 00:53:31,750 ‎คุณๆ ครับ ‎มันคือโมเมนต์ของการเปลี่ยนแปลงครับ 969 00:53:34,711 --> 00:53:36,588 ‎สิ่งนี้จะหล่อหลอมตัวตนของคุณไปตลอดกาล 970 00:53:38,757 --> 00:53:42,385 ‎โมเมนต์ที่กําหนดว่าคุณจะเติบโตขึ้นมาเป็นใคร 971 00:53:42,469 --> 00:53:43,887 ‎นี่คือหนึ่งในโมเมนต์เหล่านั้นครับ 972 00:53:43,970 --> 00:53:46,598 ‎ผมเอาแซนด์วิชชิ้นนั้นเข้าปาก 973 00:53:46,681 --> 00:53:49,935 ‎กัดลงไป และปากของผมก็มีชีวิตชีวา 974 00:53:50,018 --> 00:53:52,979 ‎ลิ้นของผมค้นพบจุดประสงค์ของมัน 975 00:53:53,063 --> 00:53:55,523 ‎ผมไม่รู้ว่ามันฝรั่งจะปะทุขึ้นมาแบบนั้นได้ 976 00:53:55,607 --> 00:53:58,193 ‎รสชาติกระเด้งกระดอนไปทั้งปาก 977 00:53:58,276 --> 00:54:00,111 ‎ดวงตาผมเบิกกว้าง 978 00:54:01,529 --> 00:54:06,034 ‎มันช่าง… ผมร้อง "ว้าว" ‎แล้วตะโกน "แกงกะหรี่ 979 00:54:07,077 --> 00:54:08,370 ‎ขอบคุณ มามี้" 980 00:54:11,373 --> 00:54:14,417 ‎ผมพูดว่า "ธีสัน มันน่าทึ่งมาก ‎นายกินสิ่งนี้ทุกวันเลยเหรอ" 981 00:54:14,501 --> 00:54:16,503 ‎เขาตอบ "แม่งทุกวัน" 982 00:54:17,921 --> 00:54:19,881 ‎ผมเลยบอกว่า "โอเค มาสลับกัน 983 00:54:19,965 --> 00:54:22,342 ‎ทุกวันฉันจะให้เงินนายไปซื้อของกิน 984 00:54:22,425 --> 00:54:24,761 ‎แล้วนายก็เอาแกงกะหรี่ให้ฉัน" 985 00:54:24,844 --> 00:54:26,012 ‎เราเอาจริง เราแลกกัน 986 00:54:26,096 --> 00:54:28,348 ‎ขอบอกนะครับ เมื่อกี๊คุณคิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน 987 00:54:28,431 --> 00:54:30,475 ‎เราเป็นโซลเมทกันไปแล้วครับ 988 00:54:31,559 --> 00:54:34,229 ‎ใช่ครับ เพราะเราต่างก็ได้สิ่งที่เราใฝ่ฝัน 989 00:54:34,312 --> 00:54:37,315 ‎ผมได้กินอาหารปรุงเองจากที่บ้านทุกวัน 990 00:54:37,399 --> 00:54:40,610 ‎และในฐานะลูกอินเดีย เขาได้เริ่มต้นธุรกิจ ‎ธีสันขึ้นสวรรค์ไปเลย 991 00:54:42,946 --> 00:54:44,239 ‎ทุกอย่างลงตัว 992 00:54:46,866 --> 00:54:48,618 ‎แล้วผมก็รักแกงกะหรี่ตั้งแต่นั้นมา 993 00:54:49,494 --> 00:54:52,288 ‎เอาละ กรอไปข้างหน้าหลายสิบปี ‎เอดินบะระ สกอตแลนด์ 994 00:54:52,372 --> 00:54:53,790 ‎ผมออกไปกับเพื่อนๆ 995 00:54:53,873 --> 00:54:55,458 ‎เราเลือกที่ลง ผมเลือกร้านอินเดีย 996 00:54:55,542 --> 00:54:58,837 ‎อินเดียแท้ๆ ‎ไปถึงหน้าร้าน ของแท้แน่นอน 997 00:54:58,920 --> 00:55:02,590 ‎ที่นี่อินเดียแท้ เราเดินเข้าไป ‎ร้านเปิดเพลงอินเดีย 998 00:55:02,674 --> 00:55:04,759 ‎มีคนอินเดียนั่งกินอยู่ พ่อครัวอินเดียอยู่ด้านหลัง 999 00:55:04,843 --> 00:55:06,886 ‎พนักงานเสิร์ฟอินเดีย ชุดอินเดียตกแต่งผนัง 1000 00:55:06,970 --> 00:55:09,139 ‎ผมแบบ "ต้องได้งี้สิ ฉันถึงบ้านแล้ว" 1001 00:55:10,682 --> 00:55:12,308 ‎เราเดินไปนั่งที่โต๊ะ 1002 00:55:12,392 --> 00:55:14,728 ‎แล้วทันทีที่หย่อนก้น เจ้าสตีฟเพื่อนผม 1003 00:55:14,811 --> 00:55:17,230 ‎รีบคว้าเมนู ผมก็แบบ "สตีฟๆ 1004 00:55:17,313 --> 00:55:19,649 ‎เย็นไว้ เดี๋ยวฉันสั่งให้ทุกคนเอง" 1005 00:55:19,733 --> 00:55:23,570 ‎เขาก็ประมาณว่า "ไม่เป็นไร เทรเวอร์ ‎ฉันจะสั่งเอง ขอบใจนะ" 1006 00:55:23,653 --> 00:55:25,530 ‎ผมบอก "ไม่ๆ มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้น สตีฟ" 1007 00:55:25,613 --> 00:55:27,699 ‎"ฉันแค่อยากสั่งให้พวกเราทุกคน 1008 00:55:28,324 --> 00:55:29,534 ‎โอเคนะ ตามนั้น" 1009 00:55:29,617 --> 00:55:33,329 ‎เขาแบบ "ฉันว่าไม่จําเป็นนะ 1010 00:55:33,413 --> 00:55:35,415 ‎ฉันว่าฉันจะสั่งเอง โอเคนะ" 1011 00:55:35,498 --> 00:55:37,876 ‎ผมบอก "ไม่ ไม่เลย ไม่โอเค สตีฟ 1012 00:55:38,668 --> 00:55:40,003 ‎ไม่โอเคเลย เข้าใจมั้ย" 1013 00:55:40,086 --> 00:55:42,839 ‎"เพราะนายอาจสะเหล่อพูดอะไรออกไป ‎ที่จะทำฉันขายหน้า 1014 00:55:42,922 --> 00:55:45,216 ‎เพื่อนอินเดียของฉันซะเปล่าๆ 1015 00:55:45,300 --> 00:55:47,135 ‎ฉันเลยอยากให้นายอยู่นิ่งๆ แป๊บนึง" 1016 00:55:47,218 --> 00:55:49,596 ‎เขาเลยแบบ "อะไรนะ ‎ฉันจะพูดอะไรให้นายขายหน้า 1017 00:55:49,679 --> 00:55:50,847 ‎เพื่อนอินเดียของนายนะ" 1018 00:55:50,930 --> 00:55:53,349 ‎ผมบอก "ฉันไม่รู้ ฉันแค่ไม่อยากให้มันเป็นงั้น" 1019 00:55:53,433 --> 00:55:54,893 ‎"ปล่อยให้ฉันจัดการ โอเคมั้ย" 1020 00:55:54,976 --> 00:55:56,227 ‎เขาว่า "ให้นายจัดการเหรอ 1021 00:55:56,311 --> 00:55:59,731 ‎เทรเวอร์ ฉันจะบอกให้รู้นะ ‎ฉันกินแกงกะหรี่มาหลายต่อหลายปีแล้ว" 1022 00:55:59,814 --> 00:56:03,610 ‎ผมว่า "สตีฟ นี่ไม่ใช่เวลา ‎อย่าเพิ่งเถียง โอเคมั้ย ไม่ใช่เวลา" 1023 00:56:03,693 --> 00:56:06,071 ‎เขาถาม "หมายความว่าไง ‎ทําไมฉันต้องทำนายขายหน้า" 1024 00:56:06,154 --> 00:56:08,823 ‎ผมก็แบบ "นายไม่จําเป็นต้องรู้เหตุผล ‎แค่ยังไม่ต้อง" 1025 00:56:08,907 --> 00:56:10,575 ‎"ไม่ ทําไม เพราะฉันเป็นฝรั่งเหรอ" 1026 00:56:10,658 --> 00:56:12,744 ‎ผมแบบ "นายเปิดเองนะ ไม่ใช่ฉัน 1027 00:56:13,453 --> 00:56:15,330 ‎ฉันจะไม่เปิดประเด็นเรื่องเชื้อชาติแบบนาย 1028 00:56:15,413 --> 00:56:16,748 ‎แต่ไหนๆ ก็เปิดแล้วก็ว่าต่อเลย" 1029 00:56:16,831 --> 00:56:19,584 ‎ผมพาเพื่อนฝรั่งไปร้านอาหารพื้นเมืองทีไร 1030 00:56:19,667 --> 00:56:21,586 ‎เป็นต้องพูดเห่ยๆ ให้ขายหน้าทุกที 1031 00:56:21,669 --> 00:56:23,797 ‎ทุกทีที่ไป ทุกทีเลย 1032 00:56:23,880 --> 00:56:25,840 ‎ถ้าไม่เรียกชื่ออาหารผิดๆ 1033 00:56:25,924 --> 00:56:27,383 ‎ก็ต้องสะเหล่อพูดอะไรสักอย่าง 1034 00:56:27,467 --> 00:56:29,094 ‎เช่น "ฉันขออันนั้นได้มั้ย ปาปาดัมส์น่ะ 1035 00:56:29,177 --> 00:56:31,054 ‎เค้าเรียกอะไรนะ" 1036 00:56:31,137 --> 00:56:33,139 ‎"ขออันนี้ได้มั้ย แต่ไม่เผ็ดนะ" 1037 00:56:33,223 --> 00:56:34,933 ‎"ฆ่าตัวตายซะ" 1038 00:56:35,850 --> 00:56:39,354 ‎"ขอแกงกะหรี่ แต่ไม่เผ็ดนะ" "ฆ่าตัวตายซะ" 1039 00:56:41,314 --> 00:56:43,858 ‎ขอไปได้ยังไง แกงกะหรี่ไม่เผ็ด 1040 00:56:43,942 --> 00:56:45,401 ‎นั่นคือจุดประสงค์ของเครื่องแกง 1041 00:56:46,069 --> 00:56:47,779 ‎อยากได้แกงกะหรี่แบบไม่มีเครื่องแกง 1042 00:56:48,571 --> 00:56:52,408 ‎งั้นก็ไปร้านซูชิแล้วสั่งปลาลวกมากินมั้ย 1043 00:56:55,578 --> 00:56:56,788 ‎"ไม่อยากกินเครื่องเทศอะ" 1044 00:56:56,871 --> 00:56:59,332 ‎"บรรพบุรุษนายไปทั่วโลก ฆ่าคนเพื่อเครื่องเทศ 1045 00:56:59,415 --> 00:57:00,875 ‎แล้วนายกลับไม่อยากกินเนี่ยนะ 1046 00:57:05,046 --> 00:57:07,090 ‎หุบปากแล้วกินเครื่องเทศซะ สตีฟ" 1047 00:57:08,716 --> 00:57:12,470 ‎แล้วเขาก็แบบ "เทรเวอร์ ‎ฉันไม่เข้าใจ นี่มันเรื่องอะไรกัน 1048 00:57:12,554 --> 00:57:15,223 ‎ฉันไม่ทํานายขายหน้าหรอก ฉันรู้จักแกงกะหรี่ดี" 1049 00:57:15,306 --> 00:57:17,809 ‎ผมบอก "เอาเถอะ ไม่ต้องพูดแล้ว ‎ฉันจัดการให้ 1050 00:57:17,892 --> 00:57:19,435 ‎ฉันเข้าใจเรื่องนี้มากกว่านาย" 1051 00:57:19,519 --> 00:57:21,855 ‎เขาแบบ "ว่าไงนะ ‎นายไม่ได้เป็นอินเดียมากกว่าฉันหรอก" 1052 00:57:21,938 --> 00:57:23,314 ‎ผมแบบ "โทษที ว่าไงนะ" 1053 00:57:23,398 --> 00:57:25,483 ‎"ใช่ นายไม่ได้เป็นอินเดียมากไปกว่าฉัน" 1054 00:57:25,567 --> 00:57:26,651 ‎ผมเลยแบบ… "เกิดเรื่องแล้ว" 1055 00:57:29,904 --> 00:57:31,823 ‎"มันอะไรวะ" "นั่นไงล่ะ" 1056 00:57:33,575 --> 00:57:35,034 ‎"อย่าพูดว่าฉันไม่ได้เป็นอินเดียมากกว่านาย 1057 00:57:35,118 --> 00:57:38,246 ‎หุบปากไว้ เดี๋ยวพนักงานเข้ามา…" ‎เขาแบบ "ไม่หุบโว้ย" 1058 00:57:38,329 --> 00:57:40,748 ‎"นายหุบปาก" "โอเค ก็ได้ งั้นก็สั่งไป" 1059 00:57:40,832 --> 00:57:42,125 ‎พนักงานเสิร์ฟเดินมา 1060 00:57:42,792 --> 00:57:45,545 ‎หนุ่มอินเดียรูปงามในชุดอินเดียงามหยด 1061 00:57:45,628 --> 00:57:46,713 ‎เขาก้าวเข้ามา 1062 00:57:46,796 --> 00:57:49,340 ‎และผมรู้จักสตีฟ เขาสงสัยในตัวผม 1063 00:57:49,424 --> 00:57:51,176 ‎ผมเห็นเขาจากหางตา 1064 00:57:52,177 --> 00:57:53,678 ‎และนั่นคือตอนที่ผมพลาดเหมือนทรูโด 1065 00:57:55,930 --> 00:57:57,432 ‎ผมตื่นเต้นเกินไปหน่อย 1066 00:57:59,309 --> 00:58:01,102 ‎ผมอยากให้เขาเห็นว่าพวกนี้เป็นคนของผม 1067 00:58:01,186 --> 00:58:02,854 ‎พนักงานเข้ามา ผมไม่ปล่อยให้พูดด้วยซ้ำ 1068 00:58:02,937 --> 00:58:05,523 ‎ผมโชว์เต็มที่เลย "สวัสดีตอนเย็น 1069 00:58:06,691 --> 00:58:09,486 ‎ผมจะสั่งให้ทั้งโต๊ะนะครับ 1070 00:58:13,656 --> 00:58:16,784 ‎ขอนานกระเทียมโรลสามชิ้น 1071 00:58:16,868 --> 00:58:20,413 ‎โรตีรูมาลิสามชิ้น 1072 00:58:20,497 --> 00:58:23,583 ‎แกงชีสเม็ดมะม่วงที่นึง แกงชีสถั่วลันเตาที่นึง 1073 00:58:25,084 --> 00:58:28,838 ‎เอาแกงแกะตุ๋นมาด้วย อันนี้ขาดไม่ได้เลย 1074 00:58:30,673 --> 00:58:34,594 ‎แล้วก็ขอแกงไก่เนยที่นึง ‎ให้เพื่อนคอเคเซียนของผม 1075 00:58:40,642 --> 00:58:42,519 ‎ขอซาโมซ่าสามชิ้น 1076 00:58:42,602 --> 00:58:44,896 ‎แล้วก็เอาลาสซี่มะม่วงมาล้างคอด้วยสามแก้ว 1077 00:58:45,647 --> 00:58:47,148 ‎ขอบคุณมากๆ" 1078 00:58:48,358 --> 00:58:49,484 ‎ผมจัดหนักครับ 1079 00:58:53,655 --> 00:58:54,697 ‎รู้สึกได้เลย 1080 00:58:55,823 --> 00:58:57,200 ‎ทุกคนรู้สึกได้ 1081 00:58:59,452 --> 00:59:00,870 ‎รู้สึกอะไรบางอย่าง 1082 00:59:03,665 --> 00:59:05,208 ‎เพราะทั้งโต๊ะเงียบกริบ 1083 00:59:07,544 --> 00:59:09,003 ‎พนักงานจ้องผมเขม็ง 1084 00:59:10,213 --> 00:59:14,092 ‎ทีแรกผมคิดว่าเขาปลื้ม แต่จริงๆ คือเขางง 1085 00:59:16,844 --> 00:59:19,264 ‎แล้วชายอินเดียคนนั้นก็โน้มตัวเข้ามา 1086 00:59:20,515 --> 00:59:22,392 ‎จ้องผมแบบตาไม่กะพริบ แล้วพูดขึ้นว่า 1087 00:59:24,811 --> 00:59:27,272 ‎"ขอโทษนะ ‎ช่วยทวนทั้งหมดอีกรอบได้มั้ยครับ 1088 00:59:37,073 --> 00:59:40,326 ‎ผมไม่เข้าใจที่คุณพูด สําเนียงมันแปร่งๆ ไป" 1089 00:59:42,704 --> 00:59:44,914 ‎แล้วผมก็แบบ "เวรแล้ว 1090 00:59:45,790 --> 00:59:47,625 ‎เขาเป็นคนสกอต" 1091 00:59:48,543 --> 00:59:51,087 ‎ผมนึกขึ้นได้เขาเป็นสกอต เราอยู่ในสกอตแลนด์ 1092 00:59:51,170 --> 00:59:53,756 ‎เขาเป็นสกอตแต่เป็นอินเดียด้วย ผมไม่ทันคิด 1093 00:59:53,840 --> 00:59:56,509 ‎เพราะทั้งร้านคืออินเดียเต็มๆ ‎ร้านอินเดีย ลูกค้าอินเดีย 1094 00:59:56,593 --> 00:59:58,803 ‎ชุดอินเดียบนผนัง ผู้ชายคนนั้นเป็นอินเดีย 1095 00:59:58,886 --> 01:00:01,139 ‎เคราเขาเป็นอินเดีย แต่ปากเหมือนเชร็ค 1096 01:00:01,222 --> 01:00:02,974 ‎ผมไม่ทันคิด 1097 01:00:04,892 --> 01:00:06,603 ‎แล้วตอนนี้เขาไม่เข้าใจผม 1098 01:00:06,686 --> 01:00:08,605 ‎เพราะผมเหมือนทรูโดมากไป 1099 01:00:11,149 --> 01:00:13,067 ‎ผมไม่จําเป็นต้องพยายามก็ได้ 1100 01:00:15,987 --> 01:00:17,238 ‎แต่แล้วผมก็นึกขึ้นได้ 1101 01:00:17,864 --> 01:00:19,115 ‎"หยุดไม่ได้แล้วนี่หว่า" 1102 01:00:21,492 --> 01:00:23,119 ‎นั่นถึงเหยียดผิวเลยนะ 1103 01:00:31,210 --> 01:00:32,337 ‎เอาละ 1104 01:00:33,880 --> 01:00:36,424 ‎มีชายชาวสกอตเชื้อสายอินเดียมองผมอยู่ 1105 01:00:38,217 --> 01:00:40,136 ‎ทุกคนเงียบกริบ แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า 1106 01:00:40,219 --> 01:00:44,140 ‎"ถ้าคุณไม่รังเกียจนะหนุ่ม ‎ช่วยสั่งอีกรอบ คราวนี้เอาช้าๆ 1107 01:00:45,141 --> 01:00:47,018 ‎ผมฟังคุณพูดไม่ทัน" 1108 01:00:49,646 --> 01:00:52,231 ‎"จะให้ผมสั่งใหม่ทั้งหมดเลยเหรอครับ" 1109 01:00:54,567 --> 01:00:57,862 ‎"ใช่ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมพร้อมเสมอ" 1110 01:01:02,116 --> 01:01:05,995 ‎"รู้มั้ย ผมว่าทุกคนที่โต๊ะสั่งกินเองได้นะ" 1111 01:01:06,871 --> 01:01:09,040 ‎"ไม่ต้องให้ผมคอยบอกหรอก" 1112 01:01:09,123 --> 01:01:11,376 ‎"ทุกคนแยกสั่งของตัวเองได้เลย 1113 01:01:11,459 --> 01:01:14,003 ‎ทุกคนว่าต่อเองได้เลย โอเคนะ" 1114 01:01:14,087 --> 01:01:15,672 ‎เจ้าสตีฟมาเลย "ผมก็อยากอยู่นะ 1115 01:01:15,755 --> 01:01:18,925 ‎แต่ผมกลัวว่า ‎จะทําให้คนบางคนไม่พอใจน่ะสิ ผม… 1116 01:01:20,551 --> 01:01:24,430 ‎ผมว่าเพื่อนผมตรงนี้ควรจะสั่งให้เรานะ ‎ขอร้องนะ เทรเวอร์ สั่งต่อเลย 1117 01:01:24,514 --> 01:01:26,724 ‎เอาเลย นายมีวัฒนธรรมมากกว่าฉัน" 1118 01:01:26,808 --> 01:01:29,560 ‎ผมตอบ "ไม่ล่ะ สตีฟ ได้โปรด เอาที่ชอบเลย 1119 01:01:29,644 --> 01:01:30,895 ‎อยากได้อะไรนายรู้ดีอยู่" 1120 01:01:30,978 --> 01:01:33,481 ‎เขาก็แบบ "ไม่ แล้วถ้าฉันพูดอะไร ‎สะเหล่อๆ ออกไปล่ะ" 1121 01:01:34,315 --> 01:01:37,568 ‎สิ่งที่ฉันไม่คิดอยากจะทําเลย ‎ก็คือการละเมิดวัฒนธรรมของคนอื่น เทรเวอร์" 1122 01:01:37,652 --> 01:01:41,406 ‎"นายไม่ละเมิดใครหรอก ที่นี่ใครทำอะไรก็ได้ 1123 01:01:41,489 --> 01:01:42,699 ‎เพื่อนกันทั้งนั้น โอเคมั้ย 1124 01:01:42,782 --> 01:01:44,617 ‎ผิดบ้างอะไรบ้าง ไม่มีใครติดใจหรอก 1125 01:01:44,701 --> 01:01:48,371 ‎ที่จริง ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ‎ก็ไม่มีใครติดใจอยู่แล้ว โอเคมั้ย 1126 01:01:48,454 --> 01:01:49,664 ‎สั่งเถอะ" 1127 01:01:49,747 --> 01:01:53,543 ‎เขาว่า "ไม่ ฉันก็อยากอยู่นะ ‎แต่ เทรเวอร์ โปรดไปต่อ" 1128 01:01:53,626 --> 01:01:56,003 ‎ผมบอก "ไม่ สั่งเลย สตีฟ" ‎"ไม่ ได้โปรด เทรเวอร์" 1129 01:01:56,087 --> 01:01:57,630 ‎"นายสั่งๆ ไปเถอะ 1130 01:02:02,051 --> 01:02:03,094 ‎สั่งไปเลย" 1131 01:02:04,429 --> 01:02:08,099 ‎พนักงานรีบห้าม ‎"นี่ ไม่เห็นต้องทะเลาะกันเองเลย 1132 01:02:08,808 --> 01:02:11,352 ‎ดูสิ ก็เห็นๆ อยู่ว่าเพื่อนคุณอึดอัด 1133 01:02:11,436 --> 01:02:13,896 ‎คุณก็สั่งให้เขาไปเถอะ" 1134 01:02:14,939 --> 01:02:17,275 ‎"ใช่ มันอึดอัดเต็มๆ" 1135 01:02:21,529 --> 01:02:23,322 ‎"เอาละ งั้นเราขอ… 1136 01:02:24,490 --> 01:02:26,534 ‎โรตีรูมาลิสามชิ้น… 1137 01:02:27,452 --> 01:02:29,203 ‎นานกระเทียมสาม 1138 01:02:29,287 --> 01:02:31,164 ‎แกงชีสเม็ดมะม่วงหนึ่ง แกงชีสถั่วลันเตาหนึ่ง 1139 01:02:31,247 --> 01:02:33,708 ‎แล้วก็ขอแกงแกะตุ๋น 1140 01:02:33,791 --> 01:02:38,004 ‎แล้วก็แกงไก่เนยที่นึง…" 1141 01:02:38,087 --> 01:02:39,922 ‎"ให้เพื่อนคอเคเชี่ยนของคุณเหรอ" 1142 01:02:40,006 --> 01:02:42,717 ‎"ให้ทุกคน 1143 01:02:42,800 --> 01:02:45,595 ‎ทุกคนเลือกแกงได้หลายอย่าง ‎บางอย่างก็ไม่เผ็ด 1144 01:02:45,678 --> 01:02:48,347 ‎ไม่จำเป็นต้องเผ็ด นายจะได้กินด้วย 1145 01:02:48,431 --> 01:02:49,599 ‎ไม่มีคำว่าผิด" 1146 01:02:49,682 --> 01:02:52,268 ‎"รู้จักเห็นใจคนอื่นจังเลย เทรเวอร์" 1147 01:02:52,351 --> 01:02:54,187 ‎"ใช่ นั่นแหละฉัน" 1148 01:02:55,605 --> 01:02:58,107 ‎"แล้วเรารบกวนขอ…" 1149 01:03:15,833 --> 01:03:17,126 ‎"นั่นคุณจะไม่รับเหรอ" 1150 01:03:20,463 --> 01:03:22,048 ‎"ไม่ เดี๋ยวเค้าโทรมาใหม่ได้" 1151 01:03:27,553 --> 01:03:30,765 ‎เขาก็แบบ "มันจะเก้ๆ กังๆ น่ะสิ ‎คุณรับๆ ไปเหอะ เดี๋ยวผมรอ" 1152 01:03:32,683 --> 01:03:33,601 ‎"ก็ได้" 1153 01:03:41,984 --> 01:03:43,152 ‎"ฮัลโหล 1154 01:03:49,283 --> 01:03:51,869 ‎ครับ นี่เทรเวอร์พูด ให้ช่วยอะไรครับ 1155 01:03:53,287 --> 01:03:55,915 ‎ใช่ ไม่ ก็เหมือนๆ เดิม มีอะไรมั้ย 1156 01:03:55,998 --> 01:03:57,708 ‎ตอนนี้ผมยังคุยไม่ได้ ถ้าช่วย… 1157 01:03:57,792 --> 01:04:00,878 ‎ช่วยบอกเลยได้มั้ยว่ามีอะไร ‎ผมคุยนานไม่ได้ คุณช่วย… 1158 01:04:01,712 --> 01:04:04,632 ‎ไม่ เสียงผมไม่ได้เป็นอะไร บอกมาเลย… 1159 01:04:05,842 --> 01:04:08,719 ‎ไม่ๆ ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่มีใครฉุดผม ไม่ 1160 01:04:09,428 --> 01:04:11,430 ‎ไม่ได้โดนฉุด ทุกอย่างเรียบร้อยดี 1161 01:04:11,514 --> 01:04:14,183 ‎ไม่ได้จะส่งซิกครับ บอกมาเถอะครับมีอะไร 1162 01:04:14,267 --> 01:04:15,977 ‎ไม่ งั้นค่อยคุยกัน 1163 01:04:16,060 --> 01:04:19,397 ‎ไม่ ครับ บางทีเสียงผม ‎ก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ต้องห่วง 1164 01:04:19,480 --> 01:04:21,983 ‎แค่… ไม่ ผมรู้ตัวอยู่ครับ 1165 01:04:22,066 --> 01:04:23,192 ‎ผมรู้จักเสียงผมดี 1166 01:04:23,276 --> 01:04:25,319 ‎มันก็แบบนี้มาตลอด โอเคนะครับ 1167 01:04:25,403 --> 01:04:27,238 ‎โอเคนะ ไว้ค่อยคุยกันนะครับ 1168 01:04:27,321 --> 01:04:30,116 ‎โอเค รักแม่เหมือนกันครับ บ๊ายบาย" 1169 01:04:35,830 --> 01:04:38,499 ‎เป็นมื้อที่พะอืดพะอมที่สุดในชีวิตผม 1170 01:04:41,919 --> 01:04:43,880 ‎ผมแทบไม่แตะอะไรเลย 1171 01:04:45,715 --> 01:04:48,259 ‎แค่นั่งคิดถึงชีวิตของตัวเองไป 1172 01:04:50,803 --> 01:04:52,513 ‎ในที่สุดเราก็ลุกกลับ 1173 01:04:53,848 --> 01:04:56,017 ‎สตีฟยิ้มแฉ่งปากถึงหู 1174 01:04:58,853 --> 01:05:00,229 ‎ทุกคนเดินนำหน้าผมไป 1175 01:05:00,313 --> 01:05:03,941 ‎ตอนกำลังจะพ้นจากประตูร้าน ‎พนักงานโบกมือให้เรา 1176 01:05:04,025 --> 01:05:06,694 ‎"ราตรีสวัสดิ์ครับทุกคน ‎เที่ยวให้สนุกนะครับ" 1177 01:05:06,777 --> 01:05:10,114 ‎พวกเราก็โบกมือตอบ เขาก็แบบ ‎"โทษนะ ไหนๆ ก็จะไปแล้ว เฮ้" 1178 01:05:10,197 --> 01:05:12,283 ‎"คุณใช่เทรเวอร์ โนอาห์รึเปล่า" 1179 01:05:15,161 --> 01:05:16,412 ‎"คอมเมเดียนใช่มั้ย" 1180 01:05:18,205 --> 01:05:19,999 ‎ผมก็แบบ "ครับ ทําไมเหรอ" 1181 01:05:20,082 --> 01:05:22,043 ‎เขาแบบ "ไม่หรอก เพราะ… 1182 01:05:22,126 --> 01:05:23,794 ‎ผมหลอกคุณได้ เทรเวอร์" 1183 01:05:25,671 --> 01:05:27,590 ‎ผมหลอกคุณได้ เทรเวอร์" 1184 01:05:29,634 --> 01:05:31,469 ‎ผมแบบ "เดี๋ยว ไงนะ…" 1185 01:05:31,552 --> 01:05:34,472 ‎"เดี๋ยว คุณเป็นอินเดียเหรอ" ‎เขาแบบ "ก็แหงสิ ผมอินเดีย" 1186 01:05:34,555 --> 01:05:36,724 ‎ผมก็ต้องอินเดียสิ อินเดียกันทั้งร้านนี่แหละ 1187 01:05:36,807 --> 01:05:38,059 ‎ผมหลอกคุณได้ใช่มั้ย" 1188 01:05:38,142 --> 01:05:40,394 ‎ผมตอบ "ผมไม่เข้าใจ" ‎เขาว่า "คุณไม่เข้าใจเหรอ 1189 01:05:40,478 --> 01:05:42,980 ‎ตอนคุณเข้ามา ผมพูดเลย ‎'ดู เทรเวอร์ โนอาห์มาร้านเรา' 1190 01:05:43,064 --> 01:05:45,942 ‎แล้วพอคุณเริ่มพูดติดสําเนียง ‎ผมก็เลยพูดติดสําเนียงบ้าง 1191 01:05:46,025 --> 01:05:48,569 ‎คุณดัดสำเนียงมา ผมก็ดัดสำเนียงไป 1192 01:05:48,653 --> 01:05:51,447 ‎คุณดัดสําเนียง ‎คุณเล่นมุกมา ผมก็ตามมุกคุณ 1193 01:05:51,530 --> 01:05:54,116 ‎ชอบมุกผมมั้ยล่ะ" ‎ผมตอบ "ไม่ ผมไม่ชอบมุกคุณ 1194 01:05:54,742 --> 01:05:57,995 ‎ผมคิดว่าโดนเกลียดแล้ว เข้าใจปะ" 1195 01:05:58,079 --> 01:06:02,249 ‎เขาก็แบบ "น่าทึ่งมาก คุณเหงื่อแตกพลั่กเลย ‎ไม่ใช่เพราะแกงกะหรี่ใช่มั้ย 1196 01:06:02,333 --> 01:06:04,126 ‎คุณนี่อย่างฮาเลย เทรเวอร์" 1197 01:06:04,210 --> 01:06:06,295 ‎"ฮาแป๊ะคุณสิ เพื่อนๆ หัวเราะเยาะผม" 1198 01:06:06,379 --> 01:06:09,131 ‎"ผมรู้" ‎"ผมสั่นไปหมด คุณเล่นอะไรของคุณ" 1199 01:06:09,215 --> 01:06:13,094 ‎เขาตอบ "เพราะผมมีปีติ ‎บนความระกำจิตของคนอื่น เทรเวอร์ 1200 01:06:13,886 --> 01:06:15,262 ‎เค้าเรียกว่า ชาเดนฟรอยด์" 1201 01:06:16,430 --> 01:06:17,807 ‎โย่ โทรอนโต 1202 01:06:17,890 --> 01:06:20,726 ‎พวกคุณน่าทึ่งมาก ขอบคุณมากครับที่มา 1203 01:06:22,019 --> 01:06:23,604 ‎รักทุกคนครับ ราตรีสวัสดิ์ 1204 01:06:47,044 --> 01:06:49,338 ‎รักทุกคนมากๆ ราตรีสวัสดิ์ทุกคนครับ 1205 01:07:55,738 --> 01:07:57,740 ‎คำบรรยายโดย ปาริชาติ