1 00:00:02,000 --> 00:00:07,000 Downloaded from YTS.MX 2 00:00:08,000 --> 00:00:13,000 Official YIFY movies site: YTS.MX 3 00:00:10,927 --> 00:00:12,012 หนึ่งศูนย์หนึ่ง เทคสี่ 4 00:00:12,804 --> 00:00:13,638 ขอบคุณครับ 5 00:00:15,807 --> 00:00:17,475 การสรรหาพนักงานคือทุกสิ่งทุกอย่าง 6 00:00:22,564 --> 00:00:24,441 ผมชื่อโฮเซ่ ซานเชส 7 00:00:24,524 --> 00:00:27,402 โทษที ที่ผมมาคุยด้วย เพราะผมทำงานให้อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 8 00:00:27,485 --> 00:00:31,197 ผมเป็นผู้สรรหาพนักงานใหม่ ผมกำลังหาคนไปทำงานพาร์ทไทม์ในร้าน 9 00:00:31,281 --> 00:00:34,075 งานธรรมดาๆ ทำงานอาทิตย์ละห้า สิบ หรือ 15 ชั่วโมง 10 00:00:34,159 --> 00:00:35,827 เราจ้างคนหน้าตาดี 11 00:00:37,662 --> 00:00:40,874 (ภาพยนตร์สารคดีจาก NETFLIX) 12 00:00:44,419 --> 00:00:45,795 ตอนฉันอยู่ม.ปลาย 13 00:00:45,879 --> 00:00:48,506 อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ เป็นร้านขายปลีกที่คนฮิตที่สุด 14 00:00:49,215 --> 00:00:50,675 มันเป็นร้านที่ 15 00:00:50,759 --> 00:00:53,386 เวลาเดินห้างจะต้องแวะเข้าไปทุกที 16 00:01:00,477 --> 00:01:02,020 เหมือนเป็นปรากฏการณ์ป็อปคัลเจอร์ 17 00:01:02,687 --> 00:01:04,898 มันเป็นกระแสที่คนฮิตกันระเบิดระเบ้อ 18 00:01:04,981 --> 00:01:07,484 ถ้าไม่ใส่อะเบอร์ครอมบีแปลว่าไม่เท่ 19 00:01:09,861 --> 00:01:12,155 ผมจำความรู้สึกกดดันที่อยากจะเข้าพวก 20 00:01:12,238 --> 00:01:14,532 แบบ "อยากมีอะเบอร์ครอมบีกับเขาบ้างจัง" 21 00:01:16,242 --> 00:01:17,452 ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกแบบนั้นแล้ว 22 00:01:17,535 --> 00:01:20,080 แต่สมัยนั้นน่ะ การแต่งตัวเหมือนคนอื่นเป็นเรื่องที่เท่ 23 00:01:21,206 --> 00:01:23,583 มีผู้ชายคนหนึ่ง ผมบลอนด์ ตาสีฟ้า 24 00:01:23,666 --> 00:01:26,461 กล้ามเป็นมัดๆ เหมือนรูปปั้น ที่แกะสลักออกมาจากหินแกรนิตเลย 25 00:01:26,544 --> 00:01:28,588 และเขาสวมเสื้ออะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 26 00:01:28,671 --> 00:01:31,216 - มันขายความเป็นแบรนด์ในฝัน - แบรนด์ในฝัน 27 00:01:31,299 --> 00:01:32,133 แบรนด์ในฝัน 28 00:01:32,217 --> 00:01:33,176 แบรนด์ในฝัน 29 00:01:37,097 --> 00:01:40,475 ภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ ของความเป็นวัยรุ่นอเมริกันทั้งแท่ง 30 00:01:41,267 --> 00:01:45,146 พอฉันเดินผ่านร้านอะเบอร์ครอมบีก็คิดในใจว่า "ร้านนี้มันมีอะไรพิเศษนะ" 31 00:01:45,230 --> 00:01:48,817 มีแต่คนผอมบางและผิวขาว 32 00:01:50,902 --> 00:01:51,986 สมาคมนักเรียนชาย 33 00:01:52,070 --> 00:01:53,154 โรงเรียนประจำ 34 00:01:53,238 --> 00:01:54,072 พวกวาสป์ 35 00:01:54,155 --> 00:01:55,073 ไฮโซ 36 00:01:55,156 --> 00:01:56,199 คุณหนูมีตังค์ 37 00:01:59,661 --> 00:02:01,704 ตอนที่ผมใส่เสื้อผ้าอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 38 00:02:01,788 --> 00:02:04,916 ผมรู้สึกไม่เหมือนเดิม และคิดว่าทุกอย่างอาจจะไม่เหมือนเดิมด้วย 39 00:02:06,417 --> 00:02:09,295 มีเหตุผลที่คนชอบแบรนด์นี้ 40 00:02:10,213 --> 00:02:13,383 เพราะการกีดกันเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเรา 41 00:02:25,061 --> 00:02:27,730 ผมว่าครั้งแรกที่ผมเห็นอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 42 00:02:27,814 --> 00:02:33,236 คือตอนที่เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ถือถุงที่มีรูปผู้ชายผิวขาวถอดเสื้อโชว์หุ่นแซ่บ 43 00:02:33,319 --> 00:02:34,529 เป็นสีขาวดำ 44 00:02:34,612 --> 00:02:36,698 แล้วผมก็คิดว่า "อะไรนั่นน่ะ" 45 00:02:36,781 --> 00:02:40,493 (อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์) 46 00:02:44,455 --> 00:02:46,416 อะเบอร์ครอมบีขายความฝัน 47 00:02:46,499 --> 00:02:49,419 เกือบจะเหมือนภาพที่วาดฝันไว้ เหมือนภาพในฝันของคนหนุ่มสาว 48 00:02:49,502 --> 00:02:52,797 พวกเขาทำเงินได้มหาศาลจากการขายเสื้อผ้า 49 00:02:52,881 --> 00:02:55,550 แต่กลับโฆษณาแบบไม่ใส่เสื้อ… 50 00:03:00,054 --> 00:03:01,890 ยิ่งไปถ่ายกับอะเบอร์ครอมบี 51 00:03:01,973 --> 00:03:05,268 ก็ยิ่งชินกับการถอดเสื้อโชว์ท่อนบน 52 00:03:05,351 --> 00:03:08,021 กับการไม่ได้สวมเสื้อผ้าที่จะโฆษณา 53 00:03:10,106 --> 00:03:13,943 พอเป็นผู้ใหญ่แล้วมองย้อนกลับไป ก็อาจรู้สึกช็อกอยู่เหมือนกันนะ 54 00:03:14,444 --> 00:03:16,821 แต่ตอนเป็นวัยรุ่นคิดว่ามันเจ๋งมาก 55 00:03:17,447 --> 00:03:19,866 ฉันเก็บเงินจนซื้อเสื้อได้หนึ่งตัว 56 00:03:19,949 --> 00:03:22,994 แล้วฉันก็เอามาใส่บ่อยเท่าที่จะทำได้ โดยที่ไม่ดูประหลาด 57 00:03:23,077 --> 00:03:27,081 ที่แขนมันจะเขียนว่า "อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์" ฉันก็จะแบบว่า… 58 00:03:27,957 --> 00:03:29,250 "ดูสิ ฉันเท่นะ" 59 00:03:30,210 --> 00:03:31,586 อย่างน้อยๆ เลย ที่โรงเรียนฉัน 60 00:03:31,669 --> 00:03:35,131 จะต้องมีพวกผู้หญิงที่ตัดรูปผู้ชายบนถุงกระดาษนั่น 61 00:03:35,215 --> 00:03:37,425 แล้วเอาไปติดไว้ในล็อกเกอร์ 62 00:03:37,508 --> 00:03:38,426 (สุดหล่อ) 63 00:03:38,509 --> 00:03:41,179 ฉันชอบโปสเตอร์หรือไม่ก็รูปถ่าย 64 00:03:41,262 --> 00:03:43,264 ฉันจะตัดเอามาหุ้มหนังสือทุกเล่ม 65 00:03:43,848 --> 00:03:45,892 คำว่าอะเบอร์ครอมบีจะอยู่บนสันพอดี 66 00:03:45,975 --> 00:03:47,894 ส่วนรูปก็จะอยู่บนปกทั้งสองด้าน 67 00:03:49,312 --> 00:03:51,022 เสื้อผ้าไม่มีอะไรพิเศษหรอก 68 00:03:51,105 --> 00:03:55,860 แต่ยี่ห้อที่อยู่บนเสื้อกับคำว่า อะเบอร์ครอมบีที่คาดอยู่บนหน้าอกต่างหาก 69 00:03:55,944 --> 00:03:58,112 ที่เป็นเหมือนเครื่องหมายเกียรติยศ 70 00:03:59,405 --> 00:04:04,118 เวลาพูดถึงแบรนด์นี้ ผมมักจะนึกภาพ หนุ่มๆ สมาคมนักเรียนชาย นักกีฬารักบี้ 71 00:04:04,202 --> 00:04:08,122 พวกหนุ่มๆ ผิวขาว ที่เล่นกีฬาไม่เหมือนชาวบ้านอย่างลาครอส 72 00:04:08,206 --> 00:04:11,417 มันไม่เหมือนบริษัทอื่นที่ใช้ดารามาโฆษณา 73 00:04:11,501 --> 00:04:13,920 แบบ "โอ้ ฉันอยากเป็นเหมือนแบรด พิตต์จัง" 74 00:04:14,003 --> 00:04:14,879 อย่ามโน 75 00:04:15,964 --> 00:04:18,424 แต่ถ้าหนุ่มอะเบอร์ครอมบีละก็เป็นไปได้ 76 00:04:19,008 --> 00:04:21,302 คนธรรมดาใสซื่อที่มาจากเมืองเล็กๆ 77 00:04:21,386 --> 00:04:22,929 (เป็นเอแอนด์เอฟหน้าใหม่คนต่อไป) 78 00:04:23,012 --> 00:04:25,390 คนที่ซื้อเสื้อผ้าก็คือคนที่อยู่ในโฆษณานี่แหละ 79 00:04:25,473 --> 00:04:26,557 คนนั้นน่ะ มาจากไหน 80 00:04:26,641 --> 00:04:28,810 พีเอ อามิชเคาน์ตี พีเอ 81 00:04:28,893 --> 00:04:30,770 - นิวยอร์ก นิวยอร์ก - 719 82 00:04:30,853 --> 00:04:32,563 - พิตต์สเบิร์ก - ดัลลัส เท็กซัส 83 00:04:32,647 --> 00:04:33,690 คอนเนตทิคัต 84 00:04:34,649 --> 00:04:38,778 ผมเรียนที่สแตนฟอร์ดครับ แล้วรูมเมตเมื่อตอนปีหนึ่ง 85 00:04:38,861 --> 00:04:42,824 เขามีแคตาล็อกที่รวมเอาบรรดา 86 00:04:42,907 --> 00:04:45,827 หนุ่มอะเบอร์ครอมบีที่เล่นรักบี้ พายเรือ 87 00:04:45,910 --> 00:04:50,498 แล้วบนตู้เสื้อผ้าในหอ เขาก็เอารูปหนุ่มพวกนี้มาแปะเต็มไปหมด 88 00:04:50,581 --> 00:04:52,083 ผมว่าน่าจะมี 89 00:04:52,166 --> 00:04:55,253 หนุ่มอะเบอร์ครอมบีไม่ใส่เสื้อ ถูกตัดออกมาสัก 50 คนได้ 90 00:04:55,336 --> 00:04:58,256 แปะอยู่บนตู้เสื้อผ้าเขาเต็มไปหมด 91 00:04:58,339 --> 00:05:02,427 ตอนนั้นแหละที่ผมรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่คนผิวขาวคลั่งไคล้ 92 00:05:08,474 --> 00:05:12,186 ฉันโตมาในวอชิงตัน ดี.ซี. และตอนม.หนึ่ง 93 00:05:12,270 --> 00:05:14,188 ฉันเรียนที่โรงเรียนซิดเวลล์เฟรนส์ 94 00:05:14,272 --> 00:05:16,482 ที่เดียวกับที่มาเลียกับซาช่า โอบามาเรียน 95 00:05:16,566 --> 00:05:17,567 เชลซี คลินตันก็ด้วย 96 00:05:17,650 --> 00:05:21,571 เป็นโรงเรียนเอกชนของคนชั้นสูง อยู่ในเขตตะวันตกเฉียงเหนือตอนบนของดีซี 97 00:05:21,654 --> 00:05:24,574 ตอนนั้นฉันชอบฮิปฮอปกับเพลงอาร์แอนด์บีสุดๆ 98 00:05:24,657 --> 00:05:28,286 ก็เลยชอบแบรนด์อย่างฟูบู เมคคา 99 00:05:28,369 --> 00:05:30,496 กับพวกแบรนด์แนวเออร์เบิน 100 00:05:30,580 --> 00:05:33,249 ที่เกิดขึ้นในปลายยุค 80 กับต้นยุค 90 101 00:05:33,333 --> 00:05:34,792 แล้วพอฉันไปเรียนที่ซิดเวลล์ 102 00:05:34,876 --> 00:05:37,337 ก็ได้ยินคนพูดถึงอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 103 00:05:37,420 --> 00:05:40,423 ฉันไม่รู้ว่าแบรนด์นี้มันพิเศษยังไง 104 00:05:40,506 --> 00:05:43,217 รู้แต่ว่าที่ซิดเวลล์มันคือของที่คนต้องมี 105 00:05:49,599 --> 00:05:54,896 ฉันจำได้ว่าเห็นเด็กที่รวยกว่าฉันแน่ๆ ใส่เสื้อผ้าแบรนด์นี้ 106 00:05:54,979 --> 00:05:58,649 และอยากเป็นส่วนหนึ่งของรูปลักษณ์แบบนั้น 107 00:06:05,156 --> 00:06:06,657 กางเกงยีนเอวต่ำสุดๆ 108 00:06:06,741 --> 00:06:10,370 โชว์หน้าท้อง โชว์บริเวณสะดือเป็นอะไรที่อินเทรนด์ 109 00:06:13,164 --> 00:06:15,541 ฉันว่าพวกดาราก็ใส่กันนะ สมัยนั้นน่ะ 110 00:06:15,625 --> 00:06:17,585 (โอลิเวีย ไวลด์) 111 00:06:17,668 --> 00:06:21,506 อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ ใช้คนตั้งแต่ยังเป็นแค่นายแบบนางแบบ 112 00:06:22,715 --> 00:06:23,966 เทย์เลอร์ สวิฟต์ 113 00:06:24,050 --> 00:06:25,635 เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ 114 00:06:25,718 --> 00:06:26,803 แชนนิง เททัม 115 00:06:27,804 --> 00:06:29,263 แอชตัน คุตเชอร์ 116 00:06:30,431 --> 00:06:31,349 ไฮดี คลุม 117 00:06:31,849 --> 00:06:33,142 แจนยัวรี โจนส์ 118 00:06:34,644 --> 00:06:37,772 เหมือนกับเราดูโฆษณาแบบจัดเต็ม 119 00:06:37,855 --> 00:06:39,315 ที่บอกเราว่าอะไรคือความเท่ 120 00:06:40,108 --> 00:06:44,821 สมัยนั้น ใครๆ ก็ต้องอ่านนิตยสาร เพราะยังไม่มีสื่อโซเชียล 121 00:06:47,824 --> 00:06:52,286 เอ็มทีวี งานรางวัลมิวสิกวิดีโอ กับรายการทีวีเฮาส์ออฟสไตล์ 122 00:06:52,370 --> 00:06:56,999 ทำให้คนทั่วทั้งประเทศมีโอกาสได้เห็น ในสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นในชีวิตประจำวัน 123 00:06:57,083 --> 00:06:58,835 ขอเสียงต้อนรับวง 98 ดีกรีส์สู่ทีอาร์แอล 124 00:07:01,504 --> 00:07:05,925 กระแสที่อาจเกิดขึ้นในฝั่งอีสต์หรือเวสต์โคสต์ ถูกถ่ายทอดออกเอ็มทีวี 125 00:07:06,008 --> 00:07:07,468 และผ่านช่องต่างๆ ของเอ็มทีวี 126 00:07:07,552 --> 00:07:11,347 ซึ่งมันทำให้สไตล์ถูกเผยแพร่ทั่วประเทศเร็วยิ่งขึ้น 127 00:07:11,431 --> 00:07:12,682 ในห้างก็เหมือนกัน 128 00:07:19,021 --> 00:07:20,731 วัฒนธรรมเดินห้างคือทุกสิ่งทุกอย่าง 129 00:07:20,815 --> 00:07:22,817 ไปซื้อของกับครอบครัว 130 00:07:22,900 --> 00:07:25,653 ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ 131 00:07:25,736 --> 00:07:28,823 ฉันไปเที่ยวห้างกับเพื่อนทุกสุดสัปดาห์เลยก็ว่าได้ 132 00:07:29,824 --> 00:07:31,576 ผมกับเพื่อนๆ จะแอบพ่อแม่ 133 00:07:31,659 --> 00:07:33,578 หนีไปเที่ยวห้างกันเป็นประจำ 134 00:07:33,661 --> 00:07:36,873 สะพายกระเป๋านักเรียน ใส่ชุดโรงเรียนคาทอลิกไปเดินห้างเลย 135 00:07:36,956 --> 00:07:40,001 ห้างสรรพสินค้าเป็นที่ที่คนไปเดินฆ่าเวลา 136 00:07:40,084 --> 00:07:43,087 พออายุ 16 ฉันก็รู้ตัวเลยว่าฉันอยากทำงานที่นั่น 137 00:07:54,265 --> 00:07:57,894 ลองนึกภาพเครื่องมือค้นหา ที่คุณสามารถเดินผ่านได้สิ 138 00:07:57,977 --> 00:08:01,689 หรือไม่ก็แคตาล็อกออนไลน์ที่เป็นสถานที่จริงๆ 139 00:08:02,732 --> 00:08:06,277 สมัยนั้น ต้องไปเดินห้าง ถึงจะรู้ว่าต้องแต่งตัวแบบไหน 140 00:08:07,111 --> 00:08:08,946 เท่มากเลยจ้ะ 141 00:08:09,030 --> 00:08:12,074 เมื่อมีห้างเปิดเยอะขึ้น และคนก็หันไปเดินห้างกันมากขึ้นเรื่อยๆ 142 00:08:12,158 --> 00:08:14,035 ไม่ใช่เป็นเพียงที่ที่คนไปจับจ่ายซื้อของ 143 00:08:14,118 --> 00:08:16,913 แต่ยังเป็นแหล่งที่สนองต่อ ความต้องการอันหลากหลายอยู่ในที่เดียว 144 00:08:19,749 --> 00:08:21,167 ร้านค้าเฉพาะทางจะช่วยให้คุณ 145 00:08:21,250 --> 00:08:24,045 เลือกเฉพาะเจาะจงได้ว่าอยากซื้ออะไร 146 00:08:24,128 --> 00:08:26,547 ถ้าชอบแนวพังก์ก็ไปฮอตทอปิค 147 00:08:26,631 --> 00:08:29,800 หรือถ้าอยากได้ลุคแบบนักเซิร์ฟ ก็ต้องไปแพคซัน 148 00:08:29,884 --> 00:08:32,970 ถ้าอยากได้ลุคคุณหนูผู้ดี ก็ต้องไปอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 149 00:08:33,846 --> 00:08:37,225 มีหลายแบรนด์ที่ทำแนวคุณหนู แต่ถ้าเป็นดีไซเนอร์แบรนด์ 150 00:08:37,308 --> 00:08:40,895 ต้องยกให้ราล์ฟ ลอเรน ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ นอติกา 151 00:08:41,938 --> 00:08:43,314 หนึ่งในแบรนด์แรกๆ 152 00:08:43,397 --> 00:08:47,401 ที่ผสมผสานวัฒนธรรมคนหนุ่มสาว และความดึงดูดทางเพศ 153 00:08:48,069 --> 00:08:49,612 จริงๆ แล้วก็คือคาลวิน ไคลน์ 154 00:08:49,695 --> 00:08:51,072 นั่นมันอะไรน่ะ 155 00:08:51,155 --> 00:08:52,782 - เดรสไง - ใครว่า 156 00:08:52,865 --> 00:08:53,824 คาลวิน ไคลน์ 157 00:08:53,908 --> 00:08:55,284 อย่างกับชุดชั้นใน 158 00:08:55,368 --> 00:08:58,955 สิ่งที่อะเบอร์ครอมบีทำก็คือ สร้างจุดกึ่งกลางระหว่าง 159 00:08:59,038 --> 00:09:02,708 เรื่องเพศซึ่งคาลวิน ไคลน์กำลังขาย 160 00:09:02,792 --> 00:09:07,213 กับความเป็นผู้ดีแบบอเมริกันทั้งแท่ง ที่ราล์ฟ ลอเรนพยายามขาย 161 00:09:08,506 --> 00:09:11,467 คุณอยากใส่ชุดเหมือนผู้ชายคนที่คุณคิดว่าเท่ 162 00:09:16,264 --> 00:09:18,099 ก็เลยกลายเป็นว่า 163 00:09:18,182 --> 00:09:21,102 "ฉันต้องมีทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ฉันถึงจะเท่" 164 00:09:21,936 --> 00:09:23,604 หรือกางเกงยีนส์ของเกสส์ 165 00:09:23,688 --> 00:09:24,981 พระเจ้า 166 00:09:25,064 --> 00:09:27,525 บางอย่างคือแพงจนซื้อไม่ได้เลย 167 00:09:27,608 --> 00:09:30,069 แต่อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์มันพอซื้อได้ 168 00:09:30,152 --> 00:09:32,947 มีความเป็นแบรนด์ในฝันมากพอ 169 00:09:33,030 --> 00:09:36,367 แต่ก็ไม่แพงเกินจนเอื้อมไม่ถึง 170 00:09:37,118 --> 00:09:41,414 แนวคิดหลักๆ เลยก็คือ แฟชั่นขายความเป็นส่วนหนึ่ง 171 00:09:41,497 --> 00:09:45,668 ความมั่นใจ ความเท่ เสน่ห์ทางเพศ ในหลายๆ ด้าน 172 00:09:45,751 --> 00:09:49,797 แต่สิ่งสุดท้ายที่มันพยายามขายเรา จริงๆ แล้วก็คือเสื้อผ้านี่แหละ 173 00:09:51,716 --> 00:09:55,428 จำครั้งแรกที่ไปร้านอะเบอร์ครอมบีได้ไหม 174 00:09:56,012 --> 00:09:56,887 จำได้สิ 175 00:09:56,971 --> 00:09:57,972 (โม คาซิค นักข่าว) 176 00:09:58,055 --> 00:09:59,932 ฉันจำได้ว่าพอเดินเข้าไป 177 00:10:00,016 --> 00:10:02,351 ก็สะดุ้งไปด้วยความรู้สึกที่แบบว่า 178 00:10:02,435 --> 00:10:05,021 "ตายแล้ว เหมือนเอามารวมกันไว้เลย 179 00:10:05,104 --> 00:10:11,027 เหมือนเขาเอาทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ฉันเกลียดเกี่ยวกับโรงเรียนม.ปลาย 180 00:10:11,110 --> 00:10:13,029 มาใส่ร้านไว้เลย" 181 00:10:22,955 --> 00:10:26,876 พอไปถึงหน้าร้านก็จะเห็นหนุ่มหล่อสองคน ยืนโชว์กล้ามท้องอยู่ข้างนอก 182 00:10:26,959 --> 00:10:29,253 ถ้าผ่านสองหนุ่มหล่อนั่นเข้าไป 183 00:10:29,337 --> 00:10:32,757 โดยที่ไม่รู้สึกวอกแวกหรือกลัว 184 00:10:32,840 --> 00:10:35,134 ฉันเริ่มงานช่วงประมาณวันหยุดเทศกาล 185 00:10:35,217 --> 00:10:39,096 พวกนั้นก็เลยใส่หมวกซานต้ากันด้วย หมวกซานต้า ไม่ใส่เสื้อ กับกางเกงยีนส์ 186 00:10:40,598 --> 00:10:43,267 หนึ่งในสิ่งที่อะเบอร์ครอมบีทำอย่างชาญฉลาด 187 00:10:43,351 --> 00:10:46,395 ก็คือติดบานเกล็ดสีน้ำตาลไว้ที่หน้าต่าง 188 00:10:46,479 --> 00:10:49,315 และติดรูปใหญ่ๆ ไว้หน้าประตูตรงทางเข้า 189 00:10:49,398 --> 00:10:52,818 คนก็เลยไม่เห็นสินค้าในร้าน จนกว่าจะเดินเข้าไปในร้าน 190 00:10:52,902 --> 00:10:54,487 ไม่มีเจ้าอื่นทำแบบนี้เลย 191 00:10:54,570 --> 00:10:57,031 เหมือนบังคับคุณให้เดินข้ามเขตแดนเข้าไป 192 00:11:08,084 --> 00:11:10,586 มันมีบรรยากาศที่เป็นของมันเองเลย 193 00:11:10,670 --> 00:11:14,715 คุณจะรู้ว่าร้านอยู่แถวนั้นถึงจะเพิ่งเคยมาห้าง เพราะจะเริ่มได้ยินเสียงเพลง 194 00:11:17,426 --> 00:11:21,138 เสียงดนตรีดังกระหึ่ม ซึ่งบรรดาพ่อแม่เกลียดเข้าไส้ 195 00:11:21,222 --> 00:11:23,307 เพลงไนท์คลับจังหวะตื๊ดๆ 196 00:11:23,391 --> 00:11:26,811 รูปหนุ่มเปลือยอกขนาดเบ้อเริ่ม 197 00:11:26,894 --> 00:11:31,315 การเข้าไปในร้านเหมือนเป็นการสัมผัส ประสบการณ์ ที่คนเข้าไปเที่ยวเล่นกัน 198 00:11:37,238 --> 00:11:39,907 คนมองว่านี่คือลุคแห่งความเป็นอเมริกันทั้งแท่ง 199 00:11:39,990 --> 00:11:43,035 ส่วนฉันก็มองว่าตัวเองคือสาวอเมริกันทั้งแท่ง 200 00:11:43,953 --> 00:11:45,287 ฉันก็เลยชอบลุคนี้ 201 00:11:54,088 --> 00:11:58,008 มันเป็นโคโลญจน์กลิ่นที่ มีเฉพาะที่ร้านอะเบอร์ครอมบีเท่านั้น 202 00:11:58,092 --> 00:12:02,263 คุณจะได้กลิ่นที่ดมดูก็รู้ว่า เป็นกลิ่นของอะเบอร์ครอมบี 203 00:12:02,346 --> 00:12:06,434 จะมีกลิ่นหอมสาบๆ แบบชายชาตรี ตอนที่เดินผ่านหน้าร้าน 204 00:12:07,143 --> 00:12:11,439 ผมจะเห็นพวกพนักงานเดินฉีดกลิ่นนี้ทั่วไปหมด 205 00:12:11,939 --> 00:12:15,443 ผมชอบเป็นไมเกรน ก็เลยจะลำบากหน่อย 206 00:12:15,526 --> 00:12:17,486 ผมจะรีบเข้ารีบออกเพราะไม่งั้นเดี๋ยวปวดหัว 207 00:12:17,570 --> 00:12:19,405 แต่สำหรับวัยรุ่นก็คงไม่เป็นไร 208 00:12:19,488 --> 00:12:22,241 ผมได้มาฟรีๆ เยอะเลย กลิ่นของมัน… 209 00:12:22,324 --> 00:12:25,161 โคโลญจน์ที่นั่นมันหอมเสมอแหละ 210 00:12:25,244 --> 00:12:28,372 แม่ฉันไม่ชอบร้านนี้เลย 211 00:12:28,456 --> 00:12:31,959 ฉันจำได้ว่าแม่ชอบถามว่า "ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมชอบไปซื้อของร้านนั้น" 212 00:12:32,042 --> 00:12:34,086 พนักงานคือน่ากลัวมาก พูดตามตรง 213 00:12:34,170 --> 00:12:36,005 เราเคยคุยกันที่บริษัทด้วยนะ 214 00:12:36,088 --> 00:12:38,924 หน้าที่ของพวกเขาคือการไม่สนใจใยดีลูกค้า 215 00:12:39,008 --> 00:12:42,094 จริงๆ แล้วหน้าที่ของพวกเขาคือ ทำเหมือนว่าคุณทำให้เขารำคาญ 216 00:12:44,221 --> 00:12:45,055 ขอโทษนะครับ 217 00:12:46,223 --> 00:12:47,349 ว่าไง 218 00:12:47,433 --> 00:12:50,060 ต้องมีใครที่ทำงานที่แมดทีวี เคยทำงานที่ร้านอะเบอร์ครอมบี 219 00:12:50,144 --> 00:12:51,854 หรือไม่ก็พี่น้องต้องเคยทำมาก่อน 220 00:12:51,937 --> 00:12:56,275 เพราะขยี้เรื่องวัฒนธรรมการทำงาน ที่อะเบอร์ครอมบีได้เจ็บแสบสุดๆ 221 00:12:56,358 --> 00:12:59,904 มีห้องลองชุดแค่ห้องเดียวเอง คนต่อแถวตั้งเยอะ เปิดอีกห้องได้ไหมครับ 222 00:12:59,987 --> 00:13:00,988 ไม่ได้ 223 00:13:01,071 --> 00:13:02,782 ไม่ได้แซวเกินจริงเลย 224 00:13:02,865 --> 00:13:04,366 มีกุญแจไหม 225 00:13:04,450 --> 00:13:05,576 ไม่อะ พวก 226 00:13:08,204 --> 00:13:11,373 ดัตช์น่าจะมีนะ เฮ้ ดัตช์ มีกุญแจไหม 227 00:13:11,457 --> 00:13:14,001 พวกเขาทำได้ดีมาก ในการบรรยายความรู้สึกแบบ… 228 00:13:14,084 --> 00:13:16,378 "นี่ฉันอยู่ที่ไหน ที่นี่คืออะไร" 229 00:13:16,462 --> 00:13:18,088 เฮ้ สตอร์ม มีกุญแจไหม พวก 230 00:13:19,799 --> 00:13:22,802 โอ้ อยู่ที่ฉันเอง โทษที 231 00:13:25,137 --> 00:13:28,140 ทุกชิ้นส่วนของอะเบอร์ครอมบี 232 00:13:28,891 --> 00:13:31,143 ล้วนถูกออกแบบมา 233 00:13:32,895 --> 00:13:34,104 โดยไมค์นี่แหละ 234 00:13:34,188 --> 00:13:37,691 (ไมค์ เจฟฟรีส์ อดีตซีอีโอเอแอนด์เอฟ) 235 00:13:37,775 --> 00:13:40,986 ทั้งร้าน สินค้า ทุกอย่างเลย 236 00:13:41,070 --> 00:13:42,863 เขาต้องเป็นคนอนุมัติ 237 00:13:43,906 --> 00:13:47,451 (ไมค์ เจฟฟรีส์ อดีตซีอีโอ อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์) 238 00:13:47,535 --> 00:13:50,162 (ปฏิเสธที่จะออกความเห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้) 239 00:13:50,246 --> 00:13:52,331 (ซินดี้ สมิธ-แมคลอยน์ อดีตรองผ.อ.ฝ่ายการค้า) 240 00:13:52,456 --> 00:13:55,042 ฉันอยู่ฝ่ายการค้า ขึ้นตรงกับไมค์ 241 00:13:55,626 --> 00:13:58,087 เราทำงานอยู่ด้วยกันตลอดเวลาเลย 242 00:13:58,921 --> 00:14:01,257 ผมน่าจะเป็นพนักงานคนที่สองที่เขาจ้างมา 243 00:14:01,340 --> 00:14:03,968 เขามีภารกิจเพียงหนึ่งเดียว 244 00:14:04,051 --> 00:14:06,804 นั่นก็คือการสร้างอะเบอร์ครอมบี 245 00:14:07,638 --> 00:14:10,599 ไมค์ เจฟฟรีส์เป็นคนที่ค่อนข้างเงียบ 246 00:14:10,683 --> 00:14:13,102 แม้จะอยู่ในวงการที่เต็มไปด้วยผู้คน 247 00:14:13,185 --> 00:14:16,021 แต่เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์ออกทีวี 248 00:14:16,105 --> 00:14:17,857 หรือให้สัมภาษณ์ออกสื่อเลย 249 00:14:17,940 --> 00:14:21,110 แต่ฉันคิดว่าตัวจริงเขาเป็นคนที่มีเสน่ห์มาก 250 00:14:21,986 --> 00:14:27,783 ไมเคิล เจฟฟรีส์ หนุ่มหล่อจากแคลิฟอร์เนียตอนใต้ 251 00:14:27,867 --> 00:14:31,370 หุ่นดี เฉลียวฉลาด 252 00:14:31,453 --> 00:14:34,415 ผมว่าเขามีความเป็นส่วนตัวสูง 253 00:14:34,498 --> 00:14:36,876 ไม่ใช่ขี้อาย แค่ชอบความเป็นส่วนตัว 254 00:14:37,376 --> 00:14:40,045 เขามีภารกิจเพียงหนึ่งเดียว 255 00:14:40,129 --> 00:14:42,965 นั่นคือการสร้างอะเบอร์ครอมบี 256 00:14:43,048 --> 00:14:46,552 และทำให้มันประสบความสำเร็จ 257 00:14:47,761 --> 00:14:51,098 อะไรคือแรงบันดาลใจหลักของเขาคะ 258 00:14:52,600 --> 00:14:55,102 ก็เหมือนทุกคนนั่นแหละ 259 00:14:55,185 --> 00:14:57,187 ผลตอบแทนทางการเงิน 260 00:14:59,023 --> 00:15:04,361 (ช่วงต้นทศวรรษปี 1990) 261 00:15:07,448 --> 00:15:09,450 ไมค์ เจฟฟรีส์มาที่อะเบอร์ครอมบี 262 00:15:09,533 --> 00:15:12,578 ตอนที่มันยังเป็นส่วนหนึ่งของ อาณาจักรร้านค้าปลีกของเลส เว็กซ์เนอร์ 263 00:15:12,661 --> 00:15:13,954 ในโคลัมบัส โอไฮโอ 264 00:15:14,038 --> 00:15:16,832 มันก็เลยเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลแบรนด์ลิมิเต็ด 265 00:15:17,791 --> 00:15:19,209 ตอนนั้นผมอายุ 25 ปี 266 00:15:19,293 --> 00:15:22,379 ผมไปหาทุกคนที่มีพื้นที่เปิดร้านค้าปลีกแล้วพูดว่า 267 00:15:22,463 --> 00:15:24,715 "ผมมีไอเดียจะเปิดร้านแบบนี้ ให้ผมเช่าที่ได้ไหมครับ" 268 00:15:25,925 --> 00:15:27,217 และทุกคนก็ปฏิเสธ 269 00:15:27,301 --> 00:15:30,554 ผมไม่มีเงิน ไม่มีร้าน มีแค่ไอเดียในหัว 270 00:15:30,638 --> 00:15:35,976 เลสลี่ เอช เว็กซ์เนอร์เป็นหนึ่งในตำนาน ผู้อยู่เบื้องหลังวงการค้าปลีกของอเมริกา 271 00:15:36,060 --> 00:15:39,188 เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังการวางแผนกลยุทธ์ ให้กับห้างสรรพสินค้าหลายเครือ 272 00:15:39,271 --> 00:15:41,523 ที่มีอยู่ในประเทศเราทุกวันนี้ 273 00:15:43,400 --> 00:15:46,737 คนให้ฉายาเขาว่าเป็น พ่อมดแห่งวงการห้างสรรพสินค้า 274 00:15:48,822 --> 00:15:51,450 เลส เว็กซ์เนอร์ใช้อยู่สองวิธีในการสร้างแบรนด์ 275 00:15:51,533 --> 00:15:54,662 เขาจะเอาแบรนด์ที่มีอยู่แล้ว มาทดลองทำในคอนเซปต์ใหม่ 276 00:15:54,745 --> 00:15:56,580 ที่มีอยู่ในตัวแบรนด์อยู่แล้ว 277 00:15:56,664 --> 00:15:58,582 และต่อยอดถ้าประสบความสำเร็จ 278 00:15:58,666 --> 00:16:01,043 หรือไม่เขาก็จะซื้อกิจการแบรนด์ที่กำลังจะล้ม 279 00:16:02,878 --> 00:16:05,881 อะเบอร์ครอมบีมีมาประมาณ 100 ปีแล้ว 280 00:16:06,465 --> 00:16:09,343 มันเริ่มต้นจากเป็นแบรนด์เสื้อผ้า ทำกิจกรรมนอกบ้านสำหรับผู้ชาย 281 00:16:09,426 --> 00:16:12,471 แบรนด์ที่สื่อถึงวัฒนธรรมชนชาติอเมริกา 282 00:16:14,473 --> 00:16:18,268 อี.บี. ไวท์ บรรยายหน้าต่างร้านไว้ว่า 283 00:16:18,352 --> 00:16:20,771 เป็นเหมือนภาพในฝันของชายชาตรี 284 00:16:22,106 --> 00:16:25,234 และมันเจาะจงไปที่ชายชั้นสูงผู้ชื่นชอบกีฬา 285 00:16:25,818 --> 00:16:28,570 ในการอำลาทำเนียบขาว เขานำคณะล่าสัตว์ไปเยือนแอฟริกา 286 00:16:28,654 --> 00:16:30,906 และพิสูจน์ฝีมือในฐานะนักล่าสัตว์ป่าขนาดใหญ่ 287 00:16:30,990 --> 00:16:33,575 ลูกค้ามีทั้งเท็ดดี้ โรสเวลต์ 288 00:16:34,201 --> 00:16:35,577 เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ 289 00:16:36,412 --> 00:16:38,914 (ชุดออกค่าย บริษัทเดวิด ที. อะเบอร์ครอมบี) 290 00:16:40,165 --> 00:16:41,709 มีช่วงที่ธุรกิจไปได้ไม่ดี 291 00:16:42,292 --> 00:16:45,587 บริษัทของเลส เว็กซ์เนอร์ซื้ออะเบอร์ครอมบี 292 00:16:45,671 --> 00:16:47,631 พวกเขาพยายามปรับปรุงแบรนด์ใหม่ 293 00:16:48,465 --> 00:16:52,011 มันเป็นบริษัทที่ขายครีมโกนหนวด 294 00:16:52,094 --> 00:16:55,222 หนังสือ อุปกรณ์ตกปลา และของประเภทที่ 295 00:16:55,305 --> 00:16:59,226 ผู้ชายแก่ๆ อย่างเท็ดดี้ โรสเวลต์คงอยากซื้อ 296 00:17:00,352 --> 00:17:01,562 พอเลสซื้อแบรนด์มา 297 00:17:01,645 --> 00:17:04,815 เขาก็พยายามสร้างจุดขายนี้ขึ้นมาใหม่ แต่เขาทำไม่สำเร็จ 298 00:17:04,898 --> 00:17:07,693 ซึ่งตอนนั้นแหละที่ผมว่า เขาน่าจะเอาไมค์ เจฟฟรีส์เข้ามา 299 00:17:07,776 --> 00:17:10,320 ซีอีโอที่ล้มเหลวของแอลคอตต์แอนด์แอนดรูส์ 300 00:17:10,404 --> 00:17:11,989 ซึ่งเป็นแบรนด์ของผู้หญิง 301 00:17:12,072 --> 00:17:14,366 เน้นขายเสื้อผ้าคนทำงานและนักธุรกิจหญิง 302 00:17:16,952 --> 00:17:20,706 เขาเอาไมค์ เจฟฟรีส์เข้ามาช่วย แล้วบอกว่า "มาลองกันดูอีกสักตั้ง" 303 00:17:21,790 --> 00:17:26,545 และนั่นแหละคือตอนที่ความเป็นอะเบอร์ครอมบี แบบที่เราเห็นทุกวันนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา 304 00:17:30,966 --> 00:17:37,181 เราตั้งเป้าว่าอยากเป็นแบรนด์ที่เจ๋งที่สุด ในหมู่คนรุ่นอายุ 18 ถึง 22 ปี 305 00:17:38,307 --> 00:17:43,771 ช่วงแรกที่ไมค์ไปถึง เขาใส่รองเท้าหนังหุ้มส้นกับกางเกงกากี 306 00:17:43,854 --> 00:17:46,982 จนสุดท้ายเปลี่ยนมาเป็นลุคเสื้อเชิร์ตติดกระดุม 307 00:17:47,066 --> 00:17:49,443 กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ 308 00:17:49,526 --> 00:17:51,862 เขาคิดสูตรขึ้นมาซึ่งมันได้ผล 309 00:17:52,321 --> 00:17:53,155 (สูตรของไมค์) 310 00:17:53,238 --> 00:17:57,117 เขาค้นพบวิธีเชื่อมโยงเอา ความเป็นแบรนด์เก่าแก่ของอะเบอร์ครอมบี 311 00:17:57,201 --> 00:17:59,953 ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1892 312 00:18:00,037 --> 00:18:03,248 ที่เน้นขายชนชั้นสูงที่มีอภิสิทธิ์ทางสังคม 313 00:18:03,332 --> 00:18:09,171 และผสานเข้ากับภาพลักษณ์ ที่เซ็กซี่และมีเสน่ห์เย้ายวนทางเพศ 314 00:18:09,755 --> 00:18:12,216 มันถูกออกแบบมาให้มีความพิเศษ 315 00:18:13,300 --> 00:18:17,387 เขาภูมิใจที่มันเป็นแบรนด์ที่มีความพิเศษ 316 00:18:17,471 --> 00:18:20,808 และสื่อภาพลักษณ์ของสิ่งที่เขาคิดว่าคือความเท่ 317 00:18:21,433 --> 00:18:23,227 เราทำโปสเตอร์ขึ้นมา 318 00:18:23,310 --> 00:18:26,688 และเขียนแยกว่า "นี่คืออะเบอร์ครอมบี" 319 00:18:26,772 --> 00:18:29,441 "นี่ไม่ใช่อะเบอร์ครอมบี" 320 00:18:29,525 --> 00:18:32,528 หมาของอะเบอร์ครอมบี ต้องเป็นโกลเดนรีทรีฟเวอร์ 321 00:18:32,611 --> 00:18:35,697 ส่วนพูเดิลเนี่ย ไม่ใช่อะเบอร์ครอมบี 322 00:18:35,781 --> 00:18:39,368 เด็กมหา'ลัยอะเบอร์ครอมบีต้องขับรถจีป 323 00:18:39,451 --> 00:18:41,745 ไม่ขับรถเก๋งธรรมดาๆ 324 00:18:45,290 --> 00:18:47,876 แฟชั่นเป็นอุตสาหกรรมที่ได้ชื่อว่า 325 00:18:47,960 --> 00:18:50,546 ไม่ค่อยชอบทำการวิจัยตลาดกันเท่าไร 326 00:18:50,629 --> 00:18:53,257 เป้าหมายไม่ใช่เพื่อให้ในสิ่งที่คนต้องการ 327 00:18:53,340 --> 00:18:56,051 แต่ทำให้คนร้องขอในสิ่งที่คุณนำเสนอ 328 00:18:56,552 --> 00:18:58,762 (ปี 1996) 329 00:18:59,429 --> 00:19:01,056 (ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก) 330 00:19:07,271 --> 00:19:10,315 ในปี 1996 ไมค์ เจฟฟรีส์ นำอะเบอร์ครอมบีเข้าตลาดหลักทรัพย์ 331 00:19:10,899 --> 00:19:13,735 พวกเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่ง ของอาณาจักรเลส เว็กซ์เนอร์แล้ว 332 00:19:15,404 --> 00:19:16,905 แบรนด์ติดลมบนแล้ว 333 00:19:17,990 --> 00:19:19,867 เขามักจะจัดประชุมประจำไตรมาส 334 00:19:19,950 --> 00:19:24,204 แล้วก็จะจัดงานชุมนุมรอบกองไฟกัน 335 00:19:24,288 --> 00:19:27,541 เพื่อคุยกันว่าเราทำเงินได้มากเท่าไรแล้ว 336 00:19:28,292 --> 00:19:30,002 "เงินทองไหลมาเทมา" กันเลยจ้า 337 00:19:30,627 --> 00:19:33,255 คนที่มาร่วมในยุคแรกๆ ถือหุ้นกันทั้งนั้นแหละ 338 00:19:33,755 --> 00:19:36,758 ฉันมักจะพูดเสมอว่าฉันมาถูกที่ถูกเวลา 339 00:19:37,259 --> 00:19:39,178 เปิดตัวไลน์อะเบอร์ครอมบีสำหรับเด็กด้วย 340 00:19:40,179 --> 00:19:43,390 แล้วก็มีฮอลลิสเตอร์ ที่ขายภาพชวนฝันแบบแคลิฟอร์เนีย 341 00:19:44,183 --> 00:19:49,605 อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ ผูกขาดตลาดเสื้อผ้าแนวไลฟ์สไตล์ 342 00:19:50,105 --> 00:19:53,192 และทำให้เลสลี่ เว็กซ์เนอร์ กลายเป็นเศรษฐีพันล้าน 343 00:19:53,984 --> 00:19:57,696 พวกเขาสร้างอาณาเขตที่ทำงาน ใหญ่โตเหมือนมหาวิทยาลัยเลย 344 00:19:57,779 --> 00:20:00,616 เป็นบริษัทใหญ่เจ้าแรกๆ ที่ทำแบบนี้ 345 00:20:00,699 --> 00:20:05,495 ภายใต้แนวคิดที่ว่างานคือชีวิตและชีวิตก็คืองาน 346 00:20:05,579 --> 00:20:07,247 พนักงานก็จะอยู่ทำงานกันทั้งวันทั้งคืน 347 00:20:07,331 --> 00:20:10,167 เพราะมันได้มาสนุกกับเพื่อนๆ 348 00:20:11,752 --> 00:20:13,712 ทีมฉันเรียกว่าม.เจ็ด 349 00:20:13,795 --> 00:20:15,380 เพราะมันเหมือนแบบ… 350 00:20:15,964 --> 00:20:17,299 มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ 351 00:20:18,383 --> 00:20:20,802 ไมค์มักจะจัดงานเลี้ยงมื้อเย็นที่บ้าน 352 00:20:20,886 --> 00:20:24,014 เป็นงานจัดเลี้ยงที่ใหญ่เว่อร์วังอลังการมาก 353 00:20:24,890 --> 00:20:28,018 ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง คั่วกันในงานก็เยอะ แล้วก็ปาร์ตี้กับพวกพนักงานเสิร์ฟ 354 00:20:28,101 --> 00:20:30,270 หลังจากที่เขาขึ้นบ้านไปนอนแล้วนะ 355 00:20:30,354 --> 00:20:34,066 เดวิด ลีโนสักคำว่าอะเบอร์ครอมบีไว้บนตัว 356 00:20:34,149 --> 00:20:36,944 แล้วมันก็กลายเป็นสิ่งที่ฮิตทำกัน 357 00:20:37,027 --> 00:20:41,573 เหมือนเชื้อโรคเลย แบบว่า "นี่แหละคือความเป็นอะเบอร์ครอมบี 358 00:20:41,657 --> 00:20:45,869 ถ้าไม่อยู่กับอะเบอร์ครอมบีทุกลมหายใจเข้าออก ก็อย่ามาที่นี่เลย" 359 00:20:45,953 --> 00:20:48,038 มัน… เป็นเหมือนวัฒนธรรมเลย 360 00:20:48,997 --> 00:20:50,082 มันคือชีวิตของเราจริงๆ 361 00:20:50,666 --> 00:20:52,209 แต่ไม่ใช่ชีวิตที่แย่นะ 362 00:20:52,292 --> 00:20:55,212 ได้ออกไปสังสรรค์อาทิตย์ละสาม สี่ ห้าคืน 363 00:20:55,295 --> 00:20:58,131 และจะต้องเริ่มด้วยไอริชคาร์บอมบ์สองแก้ว 364 00:20:58,632 --> 00:21:02,302 เรามักจะเริ่มปาร์ตี้แบบนี้ทุกคืน นั่นแหละคือสิ่งที่อะเบอร์ครอมบีต้องการ 365 00:21:02,386 --> 00:21:04,805 เราถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่เท่ 366 00:21:06,390 --> 00:21:09,268 ในสัปดาห์แรกที่ฉันทำงาน ที่อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 367 00:21:09,351 --> 00:21:14,648 ตัวแทนฝ่ายบุคคลบอกกับฉันว่า เอาขี้หมามาเขียนคำว่าอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 368 00:21:14,731 --> 00:21:16,942 ไว้บนหมวกเบสบอล 369 00:21:17,025 --> 00:21:18,568 เอาไปขายใบละ 40 ดอลลาร์ยังได้ 370 00:21:18,652 --> 00:21:19,653 เธอพูดประมาณว่า 371 00:21:19,736 --> 00:21:21,822 "นี่แหละคือสถานะของเราในตอนนี้ สุดยอดมากๆ" 372 00:21:24,866 --> 00:21:28,412 ไมค์ เจฟฟรีส์ใช้ความสามารถของเขาตั้งแต่ต้น 373 00:21:28,495 --> 00:21:31,748 ผนวกกับสิ่งที่เว็กซ์เนอร์มีให้เขาอยู่แล้ว 374 00:21:32,541 --> 00:21:34,418 ในการเริ่มต้นทำการตลาด 375 00:21:35,544 --> 00:21:38,422 ภาพลักษณ์และสิ่งที่สร้างบริษัทนี้ ให้เป็นรูปเป็นร่างไม่มีอีกต่อไปแล้ว 376 00:21:38,505 --> 00:21:40,299 ถ้าเป็นตอนนี้ก็ต้องผ่านอินสตาแกรม 377 00:21:40,382 --> 00:21:43,760 แต่อะเบอร์ครอมบีคงจะเป็นแนว โอนลี่แฟนส์มากกว่า เข้าใจใช่ไหม 378 00:21:44,594 --> 00:21:45,887 (ซาวาส อบัดซิดิส) 379 00:21:45,971 --> 00:21:47,889 (อดีตบ.ก.ใหญ่ เอแอนด์เอฟควอเทอร์ลี) 380 00:21:48,890 --> 00:21:52,853 ผมเป็นบรรณาธิการใหญ่ตลอดช่วงที่มีการ ตีพิมพ์นิตยสารเอแอนด์เอฟควอเทอร์ลี 381 00:21:53,854 --> 00:21:55,772 ควอเทอร์ลีย์ เดอะควอเทอร์ลี 382 00:21:55,856 --> 00:21:58,317 เอแอนด์เอฟควอเทอร์ลี แมกาล็อก 383 00:21:58,400 --> 00:22:00,861 คนเรียกกันหลายชื่อ 384 00:22:01,486 --> 00:22:02,321 (แพทริค คาโรน) 385 00:22:02,404 --> 00:22:04,323 (อดีตรองบ.ก.ใหญ่ เอแอนด์เอฟควอเทอร์ลี) 386 00:22:04,406 --> 00:22:06,575 ทีมเราเล็กอย่างไม่น่าเชื่อ 387 00:22:06,658 --> 00:22:11,621 เด็กหนุ่มผิวขาวจากตะวันออกเฉียงเหนือ มาร่วมกันทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้น 388 00:22:11,705 --> 00:22:15,709 ตอนนั้นทุกคนยังเด็กมาก ผมน่าจะอายุประมาณ 21 หรือ 22 389 00:22:15,792 --> 00:22:18,337 ผมโชคดีมากๆ ที่ได้ 390 00:22:18,420 --> 00:22:21,590 ทำงานขึ้นตรงกับผู้ทรงอิทธิพลตัวใหญ่ๆ ในวงการแฟชั่นสมัยนั้นเลย 391 00:22:21,673 --> 00:22:23,592 ทั้งๆ ที่เป็นเด็กเพิ่งจบมหาวิทยาลัย 392 00:22:24,092 --> 00:22:25,677 รู้สึกเหมือนต้องทำเองกับมือ 393 00:22:25,761 --> 00:22:29,931 มันเป็นความรู้สึกที่ซาวาส กับบรูซ เวเบอร์ส่งผ่านมาให้เรา 394 00:22:30,432 --> 00:22:33,143 ผมรู้สึกมาตลอดว่าผู้ชายก็เหมือนผู้หญิง 395 00:22:33,226 --> 00:22:34,186 (ซีบีเอสเช้านี้ 2014) 396 00:22:34,269 --> 00:22:37,981 ต้องการการชื่นชมตัวเอง และรูปลักษณ์ภายนอกของตน 397 00:22:38,065 --> 00:22:38,899 ไปเลย 398 00:22:38,982 --> 00:22:42,319 ผมว่าเราไม่อาจพร่ำพรรณนา อิทธิพลของบรูซ เวเบอร์… 399 00:22:42,819 --> 00:22:44,946 ความมีสุนทรีย์ของเขาได้เกินจริงเลย 400 00:22:45,030 --> 00:22:48,450 คือ… ไมค์เดิมพันหมดหน้าตัก 401 00:22:50,285 --> 00:22:53,538 สุนทรียภาพของอะเบอร์ครอมบี ก็คือสุนทรียภาพของบรูซ เวเบอร์ 402 00:22:54,164 --> 00:22:57,376 ภาพหมู่ที่ดูสนุกสนาน 403 00:22:57,459 --> 00:22:58,794 คนหนุ่มสาว 404 00:22:58,877 --> 00:23:00,921 เซ็กซ์ ความเป็นอเมริกัน 405 00:23:01,004 --> 00:23:04,674 หมาโกลเดนรีทรีฟเวอร์ บ้านนอกชนบท 406 00:23:05,175 --> 00:23:07,803 ผมว่าบรูซ เวเบอร์ น่าจะเป็นช่างภาพที่ค่าจ้างแพงที่สุด 407 00:23:07,886 --> 00:23:09,096 เขาดังมาก 408 00:23:09,179 --> 00:23:12,265 เขาถ่ายให้คาลวิน ไคลน์ ถ่ายให้ทุกเจ้าเลย 409 00:23:12,349 --> 00:23:15,060 และเขาก็ทำหนังสือที่สวยงามขึ้นมาหนึ่งเล่ม ชื่อแบร์พอนด์ 410 00:23:15,685 --> 00:23:18,814 ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นเลย และนั่นคือตอนที่ผมรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ 411 00:23:18,897 --> 00:23:22,275 ผู้ชายเกย์ทุกคนที่ผมรู้จักต้องมี… 412 00:23:22,359 --> 00:23:24,528 ผมก็… น่าจะมีอยู่หนึ่งเล่มตรงโน้นนะ 413 00:23:26,780 --> 00:23:30,075 อะเบอร์ครอมบีร่วมกับบรูซ เวเบอร์ จัดทำวิดีโอขึ้นมา 414 00:23:30,158 --> 00:23:32,077 (ทดสอบหน้ากล้อง 008 แบรนดอน ทรอสกี) 415 00:23:32,160 --> 00:23:34,079 แบรนดอน เทคหนึ่งครับ เริ่ม 416 00:23:35,163 --> 00:23:36,581 เรากำลังจะทำละครเพลงกัน 417 00:23:36,665 --> 00:23:37,624 (เสียงบรูซ เวเบอร์) 418 00:23:37,707 --> 00:23:39,543 และเราอยากให้คุณเต้น คุณเต้นเป็นไหม 419 00:23:39,626 --> 00:23:43,004 ผมไม่ค่อยได้เต้นสักเท่าไร แต่ผมแกล้งทำเหมือนว่าเต้นเป็น 420 00:23:43,088 --> 00:23:44,673 ซึ่งปกติก็เนียนใช้ได้อยู่นะ 421 00:23:46,716 --> 00:23:50,178 มันชัดเจนมากสำหรับใครก็ตามที่สังเกตดูดีๆ 422 00:23:50,262 --> 00:23:54,558 ว่ามีผู้ชายเกย์อยู่ในทุกกระบวนการเลย 423 00:23:54,641 --> 00:23:57,644 ผมคิดว่าความฉลาดของแบรนด์ก็คือ 424 00:23:57,727 --> 00:24:01,314 ทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมองไม่เห็นสิ่งนี้เลย 425 00:24:01,398 --> 00:24:04,359 พวกนักศึกษามหาลัยสมาคมชายล้วนแมนๆ น่ะ 426 00:24:05,402 --> 00:24:09,114 หลังเรียนจบ ผมย้ายไปซานฟรานซิสโก และทำงานที่นิตยสารเอ็กซ์วาย 427 00:24:09,197 --> 00:24:11,783 ซึ่งเป็นนิตยสารสำหรับเกย์หนุ่มๆ 428 00:24:11,867 --> 00:24:15,579 มีนักเรียนม.ปลายหลายคน ส่งรูปมาให้เราพิจารณา 429 00:24:15,662 --> 00:24:17,664 พร้อมเรียงความหรือเขียนบรรยายประสบการณ์ 430 00:24:17,747 --> 00:24:20,208 ว่าการเปิดเผยตัวตน ตอนเรียนม.ปลายมันเป็นไงบ้าง 431 00:24:20,292 --> 00:24:25,922 สมัยปลายยุค 90 ยังเป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กเกย์ในไอโอวา 432 00:24:26,006 --> 00:24:27,924 จะคิดว่าตัวเองเป็นอยู่คนเดียว 433 00:24:28,884 --> 00:24:31,553 เด็กพวกนั้นเริ่มใส่อะเบอร์ครอมบีกันมากขึ้น 434 00:24:31,636 --> 00:24:34,848 และโลกแฟชั่น ความเป็นชายชาตรีทั้งหลายแหล่ 435 00:24:34,931 --> 00:24:36,057 ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร 436 00:24:36,141 --> 00:24:38,727 ทั้งหมดนี่มันเกิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษปี 1990 437 00:24:39,644 --> 00:24:43,482 (พอได้ผ่านความยากลำบาก ทุกอย่างในชีวิตดูจะง่ายดาย) 438 00:24:43,565 --> 00:24:47,486 สำหรับหลายๆ คน พอได้ดูโฆษณาและวิดีโอพวกนั้น 439 00:24:47,569 --> 00:24:51,406 ก็จะคิดว่า "ความฝันของฉันได้ถูกถ่ายทอดออกมาแล้ว" 440 00:24:53,325 --> 00:24:59,956 สิ่งที่บรูซ เวเบอร์ทำก็คือ คืนสิ่งที่ชาวเกย์ทุกคนต้องการ 441 00:25:00,040 --> 00:25:03,293 เหมือนเป็นการลบล้างความอับอายในอดีต 442 00:25:03,376 --> 00:25:08,673 ระยะห่างจากเรื่องเซ็กซ์ หรือมุกตลกทางเพศ หรือความเป็นเกย์ 443 00:25:09,591 --> 00:25:12,302 มันเป็นเหมือนระยะห่าง 444 00:25:15,180 --> 00:25:18,433 บรูซ เวเบอร์ไม่ใช่คนแรก ที่สรรค์สร้างผลงานหนุ่มๆ บรูซ เวเบอร์ 445 00:25:18,517 --> 00:25:21,478 มันมีมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณแล้ว 446 00:25:23,396 --> 00:25:24,731 อะเบอร์ครอมบีมาหาผม 447 00:25:24,814 --> 00:25:27,859 และขอให้ผมวาดภาพ จิตรกรรมฝาผนังให้กับร้านอะเบอร์ครอมบี 448 00:25:31,071 --> 00:25:35,283 ภาพชายหนุ่มที่มีความหลงใหลในเพศเดียวกัน หน้าตาหล่อเหลา กำลังมีปฏิสัมพันธ์กัน 449 00:25:36,868 --> 00:25:41,540 ทำให้นึกถึงความเป็นนิรันดร์ และที่ทุกสิ่งคงไว้ซึ่งความดีงามตลอดกาล 450 00:25:45,544 --> 00:25:46,461 เทคหนึ่ง เริ่ม 451 00:25:50,465 --> 00:25:52,467 ผมคือคนที่โชว์รักแร้ครับ 452 00:25:54,094 --> 00:25:57,556 อะเบอร์ครอมบีค้นพบช่องทาง ในการเฟ้นหานายแบบหน้าใหม่ๆ 453 00:25:57,639 --> 00:25:59,349 อเมริกาตอนกลาง 454 00:25:59,432 --> 00:26:01,351 ผู้ชายตัวสูงใหญ่ ที่ดูแข็งแรง 455 00:26:01,434 --> 00:26:03,645 แล้วผมก็แบบ "อ้าว สูบ่ฮู้บ่ 456 00:26:03,728 --> 00:26:06,147 ข้อยมาแต่มินเนโซตาพุ่น สิมาถ่ายแบบเด้" 457 00:26:07,649 --> 00:26:11,403 เดาว่าหน้าผมคงออกแนว นายแบบที่เขาชอบเอาไปโฆษณานั่นแหละ 458 00:26:12,153 --> 00:26:13,738 ผมมาจากเนแบรสกา 459 00:26:13,822 --> 00:26:16,616 ผมเคยเป็นกัปตันทีมอเมริกันฟุตบอล แล้วก็ทีมมวยปล้ำ 460 00:26:16,700 --> 00:26:19,077 ได้เป็นเดือนมหา'ลัย อะไรประมาณนี้ 461 00:26:19,911 --> 00:26:23,081 ผมไม่ได้ใฝ่ฝันว่า อยากเป็นนายแบบอะเบอร์ครอมบีนักหรอก 462 00:26:23,790 --> 00:26:26,001 ตอนนั้นผมเมาแอ๋อยู่ในร้านเหล้า แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่ง 463 00:26:26,084 --> 00:26:29,588 ผู้หญิงสาวที่เป็นแมวมองให้อะเบอร์ครอมบี มาพูดกับผมว่า 464 00:26:30,088 --> 00:26:32,465 "พรุ่งนี้มาที่ร้านได้ไหม ลุคคุณดูดีมากเลย" 465 00:26:33,800 --> 00:26:35,302 ถ่ายรูปโพลารอยด์ไปสองสามใบ 466 00:26:35,385 --> 00:26:37,470 แล้วสามอาทิตย์ถัดมาผมก็ไปบราซิล 467 00:26:38,263 --> 00:26:41,975 นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นทะเล และได้ออกไปนอกเนแบรสกา 468 00:26:44,394 --> 00:26:48,064 พวกทีมงานก็บอกให้เป็นตัวของตัวเอง แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา 469 00:26:48,148 --> 00:26:50,358 ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ 470 00:26:50,442 --> 00:26:52,068 ปีนต้นไม้ กระโดดลงน้ำ 471 00:26:52,652 --> 00:26:55,488 สำหรับบรูซน่ะ ถ้าคุณทำอะไรเป็นธรรมชาติแล้วสะดุดตาเขา 472 00:26:56,031 --> 00:26:57,699 มีปฏิสัมพันธ์กับป่าเขาลำเนาไพร 473 00:26:57,782 --> 00:27:00,410 แบบนั้นแหละเขาถึงจะถ่ายรูปคุณ 474 00:27:00,952 --> 00:27:02,704 พวกผู้ชายก็จะขึ้นไปปีนต้นไม้ 475 00:27:02,787 --> 00:27:06,458 แล้วบอกว่า "เฮ้ บรูซ นี่ต้นไม้ไง ผมอยู่บนต้นไม้แน่ะ" 476 00:27:06,541 --> 00:27:09,836 หรือไม่ก็วิดพื้นบนขอบฟุตบาธ 477 00:27:09,919 --> 00:27:13,131 เจ้าพวกนั้นฮอร์โมนเพศชายพลุ่งพล่านมาก เพราะมีแต่พวกหุ่นล่ำๆ ทั้งนั้นเลย 478 00:27:13,214 --> 00:27:15,759 แล้วพวกผู้ชายก็จะพยายามหว่านเสน่ห์ให้สาวๆ 479 00:27:15,842 --> 00:27:18,637 ก็คือสัญชาตญาณดิบของความเป็นมนุษย์เลยแหละ 480 00:27:24,017 --> 00:27:25,310 น่าจะปีละสักสามหรือสี่ครั้งได้ 481 00:27:25,393 --> 00:27:29,981 ที่เราเอารูปของบรูซ เวเบอร์ขึ้นบนผนังในร้าน 482 00:27:31,107 --> 00:27:35,236 ตอนนั้นทุกคนจะตื่นเต้น กับการเผยภาพถ่ายของบรูซ เวเบอร์มาก 483 00:27:35,320 --> 00:27:39,908 พวกเขาเลือกใครเป็นโฉมหน้า ของอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์กันนะ 484 00:27:41,660 --> 00:27:43,787 มีแบรนด์อื่นๆ สำหรับทุกคน 485 00:27:45,121 --> 00:27:46,748 แต่นี่คืออะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 486 00:27:46,831 --> 00:27:50,460 ผมจำเป็นที่จะต้องออกไปเฟ้นหาคนเหล่านี้ 487 00:27:51,127 --> 00:27:53,588 เพื่อที่พวกเขาจะได้สร้างบรรยากาศขึ้นมา 488 00:27:54,089 --> 00:27:55,757 คิดว่าจะเป็นยังไง 489 00:27:56,341 --> 00:27:57,175 ดีอยู่แล้ว 490 00:28:02,931 --> 00:28:06,726 แต่ละสาขาจะเน้นไปที่มหาวิทยาลัยสักแห่ง 491 00:28:06,810 --> 00:28:11,981 แล้วก็จะพยายามรับ เด็กสมาคมชายล้วนที่หน้าตาดีที่สุด 492 00:28:12,065 --> 00:28:14,359 เพราะถ้าเขาป็อป 493 00:28:14,442 --> 00:28:16,986 คนอื่นๆ ก็จะมามองว่า "ไหนดูซิ ใส่เสื้อผ้าแบบไหน" 494 00:28:17,070 --> 00:28:18,363 แล้วก็อยากใส่เหมือนกัน 495 00:28:22,367 --> 00:28:27,330 เป้าหมายก็คือหาหนุ่มที่ใช่ จากสมาคมชายล้วนที่ใช่ 496 00:28:27,414 --> 00:28:30,959 มาใส่เสื้อผ้าและเป็นพรีเซนเตอร์เสื้อผ้าของเรา 497 00:28:31,042 --> 00:28:34,421 และทำให้คนอื่นๆ อยากซื้อใส่ตาม 498 00:28:34,504 --> 00:28:37,173 เหมือนการตลาดที่ใช้ ผู้มีอิทธิพลต่อความคิดยุคก่อนดิจิตัล 499 00:28:37,257 --> 00:28:38,758 ในฐานะผู้จัดการที่อะเบอร์ครอมบี 500 00:28:38,842 --> 00:28:42,011 จะได้รับการอบรมเรื่องการเฟ้นหาพนักงานใหม่ ตั้งแต่ต้นเลยก็ว่าได้ 501 00:28:42,095 --> 00:28:44,389 เป็นหน้าที่ของคุณเลย 502 00:28:44,472 --> 00:28:49,894 ไม่ใช่แค่เฟ้นหาพนักงานธรรมดาๆ แต่ต้องเฟ้นหาคนที่หน้าตาดี 503 00:28:49,978 --> 00:28:52,063 ซึ่งคนหน้าตาดีจะต้องเป็นแบบนี้ 504 00:28:52,147 --> 00:28:53,773 มีตำราที่กำหนดไว้ด้วย 505 00:28:54,607 --> 00:28:56,192 การมีรูปลักษณ์ตามแบบเอแอนด์เอฟ 506 00:28:56,276 --> 00:28:59,988 เป็นส่วนที่สำคัญยิ่งยวด ต่อประสบการณ์ในการเข้ามาซื้อของ 507 00:29:00,071 --> 00:29:02,407 ในร้านอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 508 00:29:02,490 --> 00:29:06,661 พนักงานในร้านของเรา คือแรงบันดาลใจสำหรับลูกค้า 509 00:29:06,745 --> 00:29:12,459 ควรมีทรงผมที่หวีเรียบแปล้ มีเสน่ห์ เป็นธรรมชาติ ทรงผมสไตล์คลาสสิก 510 00:29:13,084 --> 00:29:16,337 ไม่ควรมีผมทรงเดรดล็อก ทั้งผู้ชายและผู้หญิง 511 00:29:17,589 --> 00:29:19,924 ผู้ชายไม่ควรสวมสร้อยคอที่เป็นโซ่สีทอง 512 00:29:20,467 --> 00:29:24,763 ผู้หญิงอาจใส่สร้อยเงินเส้นบางๆ สั้นๆ ได้ 513 00:29:24,846 --> 00:29:30,018 ตัวแทนของแบรนด์ต้องสวมใส่ ชุดชั้นในที่เหมาะสมตลอดเวลา 514 00:29:30,977 --> 00:29:32,020 เป็นธรรมชาติ 515 00:29:32,103 --> 00:29:33,313 แบบฉบับอเมริกัน 516 00:29:33,396 --> 00:29:34,606 คลาสสิก 517 00:29:34,689 --> 00:29:36,399 รูปลักษณ์แบบเอแอนด์เอฟ 518 00:29:37,901 --> 00:29:43,281 ไม่มีแบรนด์ในห้างแบรนด์ไหน ที่สุดโต่งเท่าอะเบอร์ครอมบี 519 00:29:43,364 --> 00:29:48,870 ในเรื่องการควบคุมดูแลทุกอย่างตั้งแต่ร้าน 520 00:29:48,953 --> 00:29:52,624 ไปจนถึงคนที่ทำความสะอาดห้องสต็อก 521 00:29:52,707 --> 00:29:55,502 เจฟฟรีส์เป็นคนสุดโต่ง… 522 00:29:55,585 --> 00:29:58,254 เขาเป็นคนที่ชอบควบคุมดูแลรายละเอียดยิบย่อย 523 00:29:58,338 --> 00:30:02,884 ก็ถ้าดูร้านจะรู้สึกเลยว่ามันไร้ที่ติเลยใช่ไหมล่ะ 524 00:30:02,967 --> 00:30:06,638 คือมัน… ไมค์พิถีพิถันในทุกรายละเอียด 525 00:30:07,597 --> 00:30:10,725 คนรู้กันว่าไมค์ เจฟฟรีส์ ชอบโผล่ไปดูร้านอย่างไม่บอกกล่าว 526 00:30:10,809 --> 00:30:12,644 เขาใส่ใจเรื่องภาพลักษณ์ของร้านมาก 527 00:30:12,727 --> 00:30:15,021 และเขาต้องการไปเห็นด้วยตาตัวเอง 528 00:30:15,104 --> 00:30:17,106 หลายคนเรียกว่า "มาแบบสายฟ้าแลบ" 529 00:30:17,190 --> 00:30:19,192 สมมติว่าจะมาดูร้านวันศุกร์ 530 00:30:19,692 --> 00:30:22,529 จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส 531 00:30:22,612 --> 00:30:24,614 ทำงานกันทั้งวันทั้งคืนเลยจ้า 532 00:30:24,697 --> 00:30:28,034 ต้องดูให้แน่ใจว่าทุกอย่างเนี้ยบ ไม่มีที่ติ 533 00:30:28,117 --> 00:30:29,536 ทำความสะอาดทุกซอกมุม 534 00:30:29,619 --> 00:30:30,954 ไม่มีฝุ่นให้เห็นเลยสักเม็ด 535 00:30:31,037 --> 00:30:33,164 หัวกวางมูสต้องสะอาดเอี่ยมอ่อง 536 00:30:33,665 --> 00:30:37,460 แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ใครจะเป็นคนเข้ากะวันที่เขามาร้าน 537 00:30:37,544 --> 00:30:40,797 ถึงกับมีคนที่เก็บไว้เรียกใช้ เฉพาะตอนเจ้านายจะมาเยี่ยมร้านเลย 538 00:30:40,880 --> 00:30:45,677 เขาจะไม่ว่าเรื่อง "ยอดขายร้านนี้ยังไม่ดี ต้องทำให้ได้เท่านั้นเท่านี้" 539 00:30:45,760 --> 00:30:48,346 แต่จะพูดว่า "ต้องหาคนหน้าตาดีมาเพิ่มอีก" 540 00:30:48,847 --> 00:30:52,642 ช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่า เรามาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จแล้ว 541 00:30:52,725 --> 00:30:55,311 ก็คือตอนที่แอลเอฟโอ ออกเพลง "ซัมเมอร์เกิร์ลส์" 542 00:30:55,395 --> 00:30:56,563 เพลงแอลเอฟโอเพลงนั้น 543 00:30:56,646 --> 00:30:57,522 "ซัมเมอร์เกิร์ลส์" 544 00:30:57,605 --> 00:31:00,400 "ฉันชอบสาวที่ใส่อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์" 545 00:31:00,483 --> 00:31:02,360 "ฉันชอบสาวที่ใส่อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์" 546 00:31:02,443 --> 00:31:03,987 "ถ้าขอพรได้ก็อยากจะลองควงดู" 547 00:31:04,070 --> 00:31:06,739 "ฉันว่ามันเท่จริง…" อะไรสักอย่างเกี่ยวกับหน้าร้อน "หน้าร้อน" 548 00:31:06,823 --> 00:31:09,576 เพลงออกมาตอนหน้าร้อนพอดีเลย เราเลยว่า "มาถูกทางแล้ว" 549 00:31:18,334 --> 00:31:22,005 นั่นน่าจะเป็นสิ่งที่เจ๋งที่สุด ที่เคยเกิดขึ้นกับไมค์ เจฟฟรีส์ 550 00:31:22,505 --> 00:31:25,466 ตอนนั้นเขารู้เลยว่าเขาได้ทำในสิ่งที่ต้องการแล้ว 551 00:31:26,634 --> 00:31:29,512 ถ้าเป็นในมุมมองเรื่องความมีหัวคิดสร้างสรรค์ 552 00:31:30,054 --> 00:31:31,472 เขาเป็นอัจฉริยะจริงๆ 553 00:31:31,556 --> 00:31:33,516 เขารู้ว่าเขาทำอะไรอยู่และต้องการอะไร 554 00:31:33,600 --> 00:31:36,686 และคิดประมาณว่า "ฉันไม่สนว่าคนอื่นจะทำยังไง 555 00:31:36,769 --> 00:31:41,858 แต่ฉันจะทำในสิ่งที่ฉันคิดว่า มันสวยงาม มันเท่" อะไรแบบนี้ 556 00:31:42,567 --> 00:31:44,360 ซึ่งเขาก็ทำได้จริงๆ ทำได้ดีด้วย 557 00:31:45,653 --> 00:31:49,824 (ปี 2002) 558 00:31:50,867 --> 00:31:55,496 ครั้งแรกที่ผมได้ประสบพบเจอกับอะเบอร์ครอมบี คือตอนที่อยู่ๆ ก็ได้แคตาล็อกมา 559 00:31:55,580 --> 00:31:57,415 ไม่รู้ผมไปอยู่ในรายชื่อผู้รับของเขาได้ไง 560 00:31:57,498 --> 00:32:01,002 ผมจำได้ว่าเห็นภาพคนหนุ่มสาว ยิ้มแย้มเล่นกันอย่างเริงร่า 561 00:32:01,085 --> 00:32:03,087 แล้วผมก็เกิดความรู้สึกว่า "พอเข้ามหา'ลัย… 562 00:32:03,671 --> 00:32:07,926 อาจจะไปอยู่กับเพื่อนๆ ในสนาม แล้วควงแขนกันแบบนี้ 563 00:32:08,009 --> 00:32:09,594 กระโดดไปมา แล้วก็ 564 00:32:09,677 --> 00:32:13,306 กระโดดทับกันเป็นกอง เหมือนคนพวกนี้ที่อยู่ในแคตาล็อกบ้าง" 565 00:32:15,391 --> 00:32:17,769 ผมชื่อฟิล หยู ผมทำบล็อก 566 00:32:17,852 --> 00:32:19,187 ที่ชื่อ "แองกรี้ เอเชียน แมน" 567 00:32:20,021 --> 00:32:23,650 เพื่อพูดถึงตัวตนความเป็นเอเชียนอเมริกัน ในชุมชนของผม 568 00:32:24,692 --> 00:32:28,237 ผมจำได้ว่ามีผู้อ่านบางคน ส่งรูปมาให้ผมแล้วบอกว่า 569 00:32:28,321 --> 00:32:30,198 "เห็นของพวกนี้ที่อะเบอร์ครอมบีรึยัง" 570 00:32:30,281 --> 00:32:32,659 นั่นแหละ พวกเสื้อยืดน่ะ 571 00:32:34,994 --> 00:32:39,332 เสื้อยืดสกรีนลายเปรียบเสมือน ตัวตนของเราในสมัยนั้น 572 00:32:40,792 --> 00:32:43,711 ตอนนั้นทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็วมาก 573 00:32:43,795 --> 00:32:47,173 ธุรกิจเสื้อยืดสกรีนลาย เป็นสิ่งที่ทำขายครั้งเดียวจบ 574 00:32:47,256 --> 00:32:50,802 จึงต้องสรรค์สร้างงานศิลปะใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา 575 00:32:51,511 --> 00:32:55,223 คำคมโง่ๆ ที่เขียนบนเสื้อ และลวดลายทุกอย่างก็ออกแบบกันเองนี่แหละ 576 00:32:55,306 --> 00:32:56,599 เราไม่มีนักเขียนคำโฆษณา 577 00:32:56,683 --> 00:32:59,018 พวกเขาอยากให้เราแหวกแนว 578 00:32:59,102 --> 00:33:01,187 อยากให้เราเขียนอะไรตลกๆ 579 00:33:01,896 --> 00:33:06,109 อะไรที่เกี่ยวข้องกับช่วงวัยรุ่นตอนปลาย 20 ต้นๆ พวกนักศึกษามหา'ลัย 580 00:33:07,276 --> 00:33:09,487 มีธีมหนึ่งเป็นธีมพระพุทธเจ้า 581 00:33:09,570 --> 00:33:13,324 มีรูปพระพุทธรูปตัวเอเชียอ้วนๆ ที่คนชอบใช้กันดาษดื่น 582 00:33:13,408 --> 00:33:15,952 ฉันจำได้ว่ามีอยู่อันหนึ่งที่ฉันชอบมาก เขียนประมาณว่า 583 00:33:16,035 --> 00:33:19,122 "เวสต์เวอร์จิเนีย ในยีนพูลนี้ไม่มีไลฟ์การ์ด" 584 00:33:19,205 --> 00:33:20,331 ตอนนั้นฉันขำนะ 585 00:33:20,415 --> 00:33:24,002 แต่ตอนนี้คิดว่ามันอาจสร้างความขุ่นเคือง และทำให้เกิดปัญหาก็ได้ 586 00:33:24,085 --> 00:33:29,007 เสื้อตัวที่สองบนโต๊ะเขียนว่า "อีกหนึ่งฮวนสำหรับตอนเดินทาง" 587 00:33:29,090 --> 00:33:32,468 มีลาถือทาโก้ใส่หมวกซอมเบรโร 588 00:33:33,052 --> 00:33:34,679 ลายที่ทุกคนจำได้ดีก็คือ 589 00:33:34,762 --> 00:33:38,933 พี่น้องหว่อง โฆษณาร้านซักรีดปลอมๆ 590 00:33:39,017 --> 00:33:41,728 สโลแกนก็คือ "สองหว่องทำให้ขาวได้" 591 00:33:43,604 --> 00:33:45,398 การนิยมความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับตะวันออก 592 00:33:47,066 --> 00:33:50,653 ทุกอย่างที่มาจากความเข้าใจของคน ที่มีต่อชาวเอเชีย 593 00:33:51,446 --> 00:33:53,906 ถ้าคุณดูทีวีและหนังอเมริกัน 594 00:33:55,491 --> 00:33:58,244 ไงจ๊ะ คนสวย 595 00:33:58,327 --> 00:34:01,581 ใช้ตัวอักษรเลียนแบบอย่างไร้รสนิยม และยังแฝงการล้อเลียน 596 00:34:01,664 --> 00:34:04,542 ภาพลักษณ์ชาวเอเชียฟันเหยินตาตี่ แล้วก็… 597 00:34:05,043 --> 00:34:06,878 "สองหว่องทำให้ขาวได้" 598 00:34:08,921 --> 00:34:12,884 ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย มักจะถูกสอนให้ก้มหน้ายอมๆ เขาไป 599 00:34:12,967 --> 00:34:14,510 อย่าสร้างปัญหาโดยไม่จำเป็น 600 00:34:14,594 --> 00:34:17,430 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพราะพวกเราหลายคนเป็นลูกหลานผู้อพยพ 601 00:34:17,513 --> 00:34:18,347 แต่ผมว่า 602 00:34:19,348 --> 00:34:22,351 ตอนนั้นผมคิดนะว่า "ไม่เห็นเป็นไรเลยถ้าเราจะโกรธ" 603 00:34:25,021 --> 00:34:26,230 ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไร 604 00:34:26,314 --> 00:34:30,485 แต่พวกเด็กๆ ลูกค้าเหล่านั้น ชอบใส่เสื้อยืดพวกนี้มาก 605 00:34:30,568 --> 00:34:31,944 เราก็เลยทำออกมาเรื่อยๆ 606 00:34:32,904 --> 00:34:33,821 ต้นทุนผลิตก็ถูก 607 00:34:33,905 --> 00:34:37,158 ขายเอากำไร 85 เปอร์เซ็นต์ยังได้เลย 608 00:34:37,241 --> 00:34:38,993 ทุกครั้งที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น 609 00:34:39,077 --> 00:34:41,996 ผมจะชอบนึกภาพสถานการณ์ที่มีใครสักคน… 610 00:34:42,080 --> 00:34:44,665 คือถ้ามีใครสักคนออกมาพูดว่า 611 00:34:44,749 --> 00:34:46,417 "นี่อาจไม่ใช่ความคิดที่ดีก็ได้นะ" 612 00:34:46,501 --> 00:34:48,753 ผมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นะ แต่ผมจะพูดอะไรให้ฟัง 613 00:34:48,836 --> 00:34:51,756 สองคนในทีมหลักๆ ที่ทำ เป็นคนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย 614 00:34:52,340 --> 00:34:54,759 มันถึงได้รับการอนุมัติตั้งแต่แรก 615 00:34:54,842 --> 00:34:58,513 นี่ เดี๋ยวก่อนนะ นี่มัน… ผมรู้สึกเหมือนคนเอาระเบิดมาปาเลย 616 00:34:59,013 --> 00:35:02,016 เรื่องที่ว่า… อะไรนะ มีดีไซเนอร์ที่เป็นคนเอเชียด้วยเหรอ 617 00:35:02,100 --> 00:35:03,309 อาจจะมีอยู่จริงๆ ก็ได้ 618 00:35:03,392 --> 00:35:07,480 แล้วเหมือนกับว่าไม้กันหมาแท่งเดียวที่มี ก็คือเจ้าหนุ่มเอเชียที่นั่งหัวโด่อยู่ในห้อง 619 00:35:07,563 --> 00:35:10,566 คนที่คุณจะเข้าไปถามว่า "นายว่ามันแรงไปไหม" 620 00:35:10,650 --> 00:35:12,902 แล้วหมอนั่นจะพูดเหรอว่า "ไม่" 621 00:35:12,985 --> 00:35:16,656 เอ๊ย "ใช่" หรือเขาจะบอกว่า… หรือเขาจะโพล่งความในใจออกมาว่า 622 00:35:16,739 --> 00:35:19,200 "ผมคิดว่ามันเป็นการโจมตีตัวตนของผมนะ" 623 00:35:19,283 --> 00:35:23,037 ในบริษัทที่มีสภาพแวดล้อมน่าอึดอัด ที่ทุกคนรอบตัวเป็นคนผิวขาวน่ะเหรอ 624 00:35:23,121 --> 00:35:24,080 คุณคงจะแบบ… 625 00:35:24,163 --> 00:35:26,749 คงไม่รู้ว่ามันเป็นที่ที่ปลอดภัยพอ ที่จะพูดแบบนั้นรึเปล่า ใช่ไหม 626 00:35:28,334 --> 00:35:30,044 (ไม่ใช่คนเอเชีย แต่รู้ถ้าเห็นคำเหยียด) 627 00:35:30,128 --> 00:35:32,380 (สองหว่องไม่ทำให้ขาว สองหว่องสู้ตายโว้ย) 628 00:35:33,589 --> 00:35:35,633 สินค้าที่เหยียดเชื้อชาติอย่างโจ่งแจ้ง 629 00:35:35,716 --> 00:35:38,886 ทำให้นักเรียนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย โกรธแค้นเป็นพิเศษ 630 00:35:39,554 --> 00:35:41,055 เหมือนมันเจ็บตรงที่ 631 00:35:41,139 --> 00:35:43,683 "นี่ควรจะเป็นสิ่งที่ฉันชอบสิ มันควรจะเป็นของฉันไม่ใช่เหรอ" 632 00:35:43,766 --> 00:35:46,978 ถึงได้เห็นปฏิกิริยาแบบนี้ แพร่หลายอยู่ในหมู่นักศึกษามากขึ้นเรื่อยๆ 633 00:35:47,061 --> 00:35:48,604 กลุ่มนักศึกษาอเมริกันเชื้อสายเอเชีย 634 00:35:53,985 --> 00:35:58,573 มันจะมีคนที่อาจจะมองไม่เห็น ความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายใต้อะไรแบบนี้ 635 00:35:58,656 --> 00:36:01,450 และแค่มองว่ามันเป็นเรื่องตลกที่เกิดขึ้น 636 00:36:01,534 --> 00:36:04,036 การประท้วงปราศจากความรุนแรง และมีระเบียบเรียบร้อย 637 00:36:04,120 --> 00:36:06,205 แต่ถ้าดูที่ลานจอดรถตอนแยกย้ายกันกลับบ้าน 638 00:36:06,289 --> 00:36:07,957 คนละเรื่องกันเลยค่ะ 639 00:36:08,040 --> 00:36:09,667 (อะเบอร์ครอมบีเหยียดชาวเอเชีย) 640 00:36:10,668 --> 00:36:13,212 มาคุยเรื่องเสื้อสองหว่องกันดีกว่า 641 00:36:13,296 --> 00:36:16,299 เสื้อตัวนั้น… เป็นหนึ่งในลายที่ฉันจำได้ดี 642 00:36:16,382 --> 00:36:19,468 ไมค์เรียกคืนจากทุกร้านที่วางขาย 643 00:36:19,552 --> 00:36:21,345 แล้วเราก็เอาไปเผาทิ้ง 644 00:36:22,680 --> 00:36:26,851 เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใคร ซื้อหาสินค้าชิ้นนั้นได้อีกต่อไป 645 00:36:28,102 --> 00:36:30,021 แต่ยังเก็บ "หนึ่งฮวนสำหรับเดินทาง" ไว้ 646 00:36:30,104 --> 00:36:32,565 ทั้งๆ ที่เห็นชัดเลยว่าเป็นรูปลา 647 00:36:33,065 --> 00:36:35,318 พวกเขาต้องการสื่ออะไรแน่ๆ 648 00:36:35,401 --> 00:36:37,528 (อะเบอร์ครอมบีแสดงท่าที ต่อการประท้วงเสื้อยืด) 649 00:36:37,612 --> 00:36:39,363 น่าสงสารประชาสัมพันธ์ที่โดนสั่งให้เขียน 650 00:36:39,447 --> 00:36:44,202 แต่พวกเขาเขียนว่า "เรานึกว่าชาวเอเชียจะชอบเสื้อยืดพวกนี้ซะอีก" 651 00:36:44,702 --> 00:36:47,496 นี่คือการแถลงข่าวจากอะเบอร์ครอมบีนะ 652 00:36:47,580 --> 00:36:51,500 เรามักจะพยายามทำทุกอย่างอย่างมีไหวพริบ 653 00:36:51,584 --> 00:36:54,879 และฉันรู้ว่ามีเรื่องที่เราทำผิดพลาดไปบ้าง 654 00:36:54,962 --> 00:36:58,716 แต่เราก็รับผิดชอบในสิ่งที่เราทำผิด 655 00:36:58,799 --> 00:37:03,346 ทำให้มันถูกต้องอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ 656 00:37:03,429 --> 00:37:07,016 และเราก็เรียนรู้และก้าวต่อไป 657 00:37:07,892 --> 00:37:11,062 พอมีปัญหาขึ้นมาก็ "อย่าทำอีกนะ 658 00:37:11,145 --> 00:37:13,439 แต่ทำอะไรที่คล้ายๆ กันนี่แหละ" 659 00:37:14,106 --> 00:37:17,526 เห็นได้ชัดว่าต้องเป็นพวกเบื้องบน ที่อนุมัติการผลิตเสื้อแบบนั้น 660 00:37:17,610 --> 00:37:21,239 ใครจะรู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังเป็นยังไงบ้าง 661 00:37:23,115 --> 00:37:25,451 เหมือนพวกเขาทำงานกันอยู่ในฟองสบู่น่ะ 662 00:37:25,534 --> 00:37:29,664 ทำงานกันอยู่ในที่ที่ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง 663 00:37:29,747 --> 00:37:33,209 ในระดับลูกค้า เวลาเด็กเอเชียเห็นเสื้อ 664 00:37:33,292 --> 00:37:35,127 แล้วพูดว่า "นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย" 665 00:37:35,211 --> 00:37:37,463 หรือไม่ก็สับสนว่า "แบบนี้มันควรจะเท่เหรอวะ" 666 00:37:37,546 --> 00:37:41,342 เหมือนนี่คือภาพตัวเองแบบเดียวที่เห็น เวลามองไปที่วัฒนธรรมสมัยนิยม 667 00:37:41,425 --> 00:37:44,804 หรือนี่จะเป็นสิ่งที่ผมควรยอมรับ 668 00:37:44,887 --> 00:37:46,847 ในฐานะชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียงั้นเหรอ 669 00:37:47,723 --> 00:37:53,980 ครั้งแรกที่ผมรู้ว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์ เริ่มจะเป็นปัญหาสำหรับผม 670 00:37:54,063 --> 00:37:56,440 คือตอนที่ดูสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นแซม เรมี 671 00:37:56,524 --> 00:37:58,901 น่าจะออกฉายประมาณปี 2001 ที่มีโทบี แมไกวร์นำแสดง 672 00:37:58,985 --> 00:38:00,319 แฟลช มันเป็นอุบัติเหตุน่า 673 00:38:00,403 --> 00:38:01,529 ถ้าคุณรู้จักการ์ตูน 674 00:38:01,612 --> 00:38:04,073 เด็กที่ชอบหาเรื่องปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ คือแฟลช ทอมป์สัน 675 00:38:04,156 --> 00:38:08,286 และเขาก็เป็นนักเลงตามแบบฉบับเลย ตัวใหญ่ ผมบลอนด์ นิสัยแย่ 676 00:38:08,369 --> 00:38:11,622 และในหนังเนี่ย เขาใส่เสื้ออะเบอร์ครอมบีตั้งแต่หัวยันเท้าเลย 677 00:38:11,706 --> 00:38:13,916 ผมเห็นแล้วรู้สึกแย่มาก 678 00:38:14,000 --> 00:38:17,545 ผมคิดในใจว่า "แย่แน่ๆ" ผมรู้เลยว่ามันแย่ เข้าใจใช่ไหม 679 00:38:17,628 --> 00:38:20,047 มีอะไรบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป ก็เลย… 680 00:38:20,131 --> 00:38:22,550 ก่อนหน้านั้นคุณคิดว่าอะเบอร์ครอมบีสื่อถึงอะไรคะ 681 00:38:22,633 --> 00:38:25,761 เด็กเท่ๆ ที่จะไม่มีวันทำอะไรแบบนั้น 682 00:38:26,762 --> 00:38:31,100 (ปี 2003 อะเบอร์ครอมบีห่วยแตก) 683 00:38:31,183 --> 00:38:35,646 ในปี 2003 ฉันเป็นนักข่าวด้านวงการค้าปลีก ของเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล 684 00:38:35,730 --> 00:38:40,109 และฉันก็เดินดูร้านรวงอยู่ในนิวยอร์ก 685 00:38:40,609 --> 00:38:44,071 ฉันกับเพื่อนร่วมงาน เดินเข้าไปในร้านอเมริกันอีเกิลเอาท์ฟิตเทอร์ส 686 00:38:44,155 --> 00:38:47,033 เพื่อนร่วมงานฉันเริ่มคุยกับผู้จัดการทันที 687 00:38:47,116 --> 00:38:50,119 ถามว่า "คุณมาทำงานที่ อเมริกันอีเกิลเอาท์ฟิตเทอร์ส์ได้ยังไงเหรอคะ" 688 00:38:50,202 --> 00:38:53,706 ผู้จัดการก็ตอบว่า "ฉันเคยเป็น ผู้จัดการเขตของอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 689 00:38:53,789 --> 00:38:54,915 แล้วฉันก็ย้ายมาค่ะ 690 00:38:54,999 --> 00:38:57,710 แล้วเพื่อนร่วมงานฉันก็บอกว่า "โอ้ น่าสนใจจังนะคะ 691 00:38:57,793 --> 00:39:02,298 ออกจะเป็นวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใครหน่อยนะ การพยายามทำให้ทุกคนมีทัศนคติที่ดีกับแบรนด์น่ะ" 692 00:39:02,381 --> 00:39:07,219 และผู้จัดการคนนี้ก็เริ่มร้องไห้ 693 00:39:07,303 --> 00:39:12,391 บอกว่า "อยู่ที่นี่ฉันมีความสุขมากเลย ฉันจะจ้างใครก็ได้ที่ฉันอยากจ้าง" 694 00:39:12,475 --> 00:39:16,020 เธอบุ้ยบ้ายไปทางผู้ชายคนหนึ่ง ที่กำลังนำทางกลุ่มผู้หญิงไปห้องลองชุด 695 00:39:16,103 --> 00:39:18,564 เป็นผู้ชายคนดำผิวค่อนข้างขาว ที่ทำผมทรงเดรดล็อก 696 00:39:19,231 --> 00:39:23,694 และเพื่อนร่วมงานของฉันก็พยักหน้า ราวกับว่าเข้าใจในสิ่งที่ผู้จัดการพูด 697 00:39:24,195 --> 00:39:26,197 ต้องมีบางอย่างที่ฉันไม่เข้าใจแน่ๆ 698 00:39:27,323 --> 00:39:32,453 ฉันก็เลยเริ่มสัมภาษณ์คน ที่เคยทำงานที่อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 699 00:39:32,536 --> 00:39:34,455 และฉันก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง นั่นคือ 700 00:39:34,538 --> 00:39:38,709 คนส่วนใหญ่ได้งานเพราะหน้าตา 701 00:39:40,586 --> 00:39:44,715 และฉันก็เริ่มรู้สึกตะหงิดๆ ว่า เขาน่าจะไล่คนออกด้วยแน่ๆ 702 00:39:44,799 --> 00:39:47,510 นั่นแหละที่ฉันสะดุดใจ 703 00:39:47,593 --> 00:39:50,554 เพราะมันอาจจะไม่ถูกกฎหมายก็ได้ 704 00:39:50,638 --> 00:39:56,143 ในที่สุดฉันก็ได้คุยกับผู้จัดการคนหนึ่งที่บอกฉันว่า 705 00:39:56,227 --> 00:39:59,605 "ฟังนะ เราต้องจัดอันดับพนักงาน 706 00:39:59,688 --> 00:40:04,318 จากเท่ไปหาเฉิ่ม และถ้าไม่เท่เป็นอย่างน้อยละก็ 707 00:40:04,402 --> 00:40:07,238 ก็จะต้องเริ่มถอดออกจากตารางงาน" 708 00:40:07,321 --> 00:40:09,073 ไม่ว่ายอดขายจะดีเท่าไรก็ตาม 709 00:40:09,156 --> 00:40:14,203 สิ่งสำคัญคือพนักงานที่คุณถ่ายรูป 710 00:40:14,286 --> 00:40:17,331 และส่งไปที่สำนักงานใหญ่จะต้องดูดี 711 00:40:18,749 --> 00:40:20,292 แบบนี้มันผิดกฎหมายชัดๆ 712 00:40:21,001 --> 00:40:21,919 ใช่ไหม 713 00:40:22,002 --> 00:40:23,754 (ผิดกฎหมายหรือเปล่านะ) 714 00:40:23,838 --> 00:40:26,549 ฉันมักจะไม่ถูกจัดให้ทำงานมากสักเท่าไร 715 00:40:26,632 --> 00:40:28,384 ฉันเลยไปหาผู้จัดการคนหนึ่ง 716 00:40:28,467 --> 00:40:30,803 บอกว่า "ขอทำกะกลางวันเพิ่มอีกได้ไหมคะ" 717 00:40:30,886 --> 00:40:33,889 เขาบอกว่า "ไม่มีว่างเลย เต็มหมดเลย 718 00:40:33,973 --> 00:40:35,683 เหลือแค่กะกลางคืน" 719 00:40:35,766 --> 00:40:40,187 ฉันจำได้ว่าบอกเขาว่า "แต่ฉันไม่ชอบงานดูดฝุ่น 720 00:40:40,271 --> 00:40:42,022 ไม่ชอบงานเช็ดกระจกอะไรพวกนี้นะคะ" 721 00:40:42,106 --> 00:40:46,068 แล้วเขาก็บอกฉันว่า "แต่คาร์ลา เธอเช็ดกระจกได้สะอาดมากเลยนะ 722 00:40:46,152 --> 00:40:47,695 เธอเก่งมากจริงๆ" 723 00:40:47,778 --> 00:40:50,531 แล้วฉันก็บอกเขาว่า "ให้ฉันแลกกะกับใครก็ได้ 724 00:40:50,614 --> 00:40:53,409 มีเพื่อนบอกว่าจะยอมแลกกะสี่ชั่วโมงด้วย 725 00:40:53,492 --> 00:40:55,411 เธอโอเคที่จะทำกะกลางคืน" 726 00:40:55,494 --> 00:40:57,663 "ไม่ได้หรอก เราไม่ชอบให้พนักงานแลกกะกัน 727 00:40:57,746 --> 00:41:00,124 ถ้าได้กะไหนก็ต้องมาทำกะนั้น" 728 00:41:00,207 --> 00:41:03,502 ฉันเลยเอาไปบ่นให้เพื่อนฟังว่า "ไม่อยากเชื่อเลย มันเป็นยังไงกันเนี่ย" 729 00:41:03,586 --> 00:41:06,255 เธอบอกว่า "ฉันว่าพวกนั้น ไม่ให้กะเธอเพราะเธอเป็นคนดำ 730 00:41:06,338 --> 00:41:08,215 นอกจากเธอ ไม่มีพนักงานผิวดำคนอื่นเลย" 731 00:41:09,216 --> 00:41:11,302 พอเพื่อนฉันพูดแบบนี้ ฉันรู้สึกแบบว่า 732 00:41:11,385 --> 00:41:14,346 เออ ฉันก็รู้แหละ ลึกๆ ในใจฉันก็รู้อยู่ 733 00:41:14,430 --> 00:41:15,473 ฉันรู้ว่านั่นคือเหตุผล 734 00:41:15,556 --> 00:41:17,600 แต่ฉันอาจจะทำอะไรที่เอาชนะมันได้ก็ได้ 735 00:41:17,683 --> 00:41:22,813 เพราะนี่คือบริษัทนะ ไม่ใช่แค่คนหนึ่งคนที่มาห้ามฉัน 736 00:41:22,897 --> 00:41:25,858 หลังจากนั้น ฉันก็ไม่ถูกใส่ชื่อในตารางงานเลย 737 00:41:25,941 --> 00:41:29,570 ฉันจำได้ว่าฉันไปถามเขาว่า "เอาไงคะเนี่ย ฉันยังเป็นพนักงานที่นี่อยู่ไหม 738 00:41:29,653 --> 00:41:32,156 ฉันไม่ถูกใส่ชื่อในตารางงานมาสองเดือนแล้วนะ" 739 00:41:32,239 --> 00:41:34,742 แล้วเขาก็ว่า "ยังเป็นอยู่สิ โทรมาเรื่อยๆ ก็แล้วกัน" 740 00:41:35,367 --> 00:41:37,953 ฉันรู้เลยว่าฉันถูกไล่ออกแล้ว ฉันก็เลยเลิกสนใจ 741 00:41:38,037 --> 00:41:39,663 ไม่มีการยื่นใบลาออกอะไรทั้งนั้น 742 00:41:39,747 --> 00:41:43,501 ไม่มีใครโทรมา ฉันแค่รู้ว่า… มันจบแล้ว 743 00:41:45,377 --> 00:41:48,380 ร้านของเราอยู่ใกล้ยูซีเออร์ไวน์มาก 744 00:41:48,464 --> 00:41:52,301 ยูซีเออร์ไวน์มีฉายาว่ายูซีไอ ย่อมาจากมหา'ลัยของคนจีนและอินเดีย 745 00:41:52,384 --> 00:41:53,802 มีนักศึกษาเอเชีย 75 เปอร์เซ็นต์ 746 00:41:53,886 --> 00:41:56,722 เกาหลี อินเดีย จีน ญี่ปุ่น 747 00:41:56,805 --> 00:41:58,849 ก็เลยไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่ 748 00:41:58,933 --> 00:42:02,853 พนักงานหลายคนเป็นชาวเอเชีย 749 00:42:03,521 --> 00:42:05,523 พอหมดช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ 750 00:42:05,606 --> 00:42:09,693 เราก็ได้รับจดหมายโน้ตที่เขียนว่า 751 00:42:09,777 --> 00:42:14,323 "ถ้าคุณยังไม่ได้รับเช็คเงินเดือน แปลว่าคุณถูกปลดจากตำแหน่งงานแล้ว" 752 00:42:14,406 --> 00:42:16,784 ฉันไม่ได้อยู่ในรายชื่อด้วย 753 00:42:16,867 --> 00:42:21,539 ฉันเลยคุยกับเพื่อนๆ คนอื่น 754 00:42:21,622 --> 00:42:25,000 บอกว่า "นี่ ฉันไม่ได้อยู่ในรายชื่อ แล้วพวกเธอล่ะ" 755 00:42:25,084 --> 00:42:26,835 เพื่อนๆ ก็บอกว่า "เหมือนกันเลย" 756 00:42:26,919 --> 00:42:28,712 และฉันก็ว่า "แปลกเนอะ" 757 00:42:28,796 --> 00:42:32,007 เราเลยไปคุยกับรองผู้จัดการ ซึ่งเป็นอเมริกันเชื้อสายเอเชียเหมือนกัน 758 00:42:32,091 --> 00:42:35,719 เขาบอกว่าสาเหตุที่แท้จริงก็คือ หลังการเยี่ยมชมสาขาแบบฟ้าฝ่า 759 00:42:35,803 --> 00:42:38,931 มีคนจากบริษัทเดินดูรอบๆ ร้าน 760 00:42:39,014 --> 00:42:42,309 และเห็นว่ามีคนเอเชียอยู่ในร้านเยอะมาก 761 00:42:42,393 --> 00:42:45,062 พวกนั้นบอกว่า "คุณต้องมีพนักงานหน้าตาแบบนี้เยอะๆ" 762 00:42:45,145 --> 00:42:47,773 และชี้ไปที่โปสเตอร์อะเบอร์ครอมบี 763 00:42:47,856 --> 00:42:50,359 ซึ่งเป็นนายแบบผิวขาว 764 00:42:54,363 --> 00:42:57,992 มันเจ็บปวดนะ เพราะฉันมีประสบการณ์ที่ดี ในการทำงานที่บริษัทนี้ 765 00:42:58,075 --> 00:42:59,577 แต่การต้องมารับรู้ว่า 766 00:42:59,660 --> 00:43:01,996 "ไม่ พวกเราไม่ต้องการคุณ เพราะคุณมีหน้าตาแบบนี้" 767 00:43:02,079 --> 00:43:03,497 จริงๆ แล้วมันน่าเจ็บใจมากนะ 768 00:43:04,456 --> 00:43:06,208 แล้วฉันก็แกะโปสเตอร์ทั้งหมดออก 769 00:43:06,292 --> 00:43:09,920 เพราะฉันหน้าไม่เหมือนคนในรูป 770 00:43:10,004 --> 00:43:12,256 ฉันถึงไม่ได้ทำงานที่นั่นแล้ว 771 00:43:12,756 --> 00:43:13,841 ฉันโกรธมาก 772 00:43:13,924 --> 00:43:18,721 แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ตอนนั้นอายุแค่ 21 กัน จะทำอะไรได้ 773 00:43:18,804 --> 00:43:21,557 มันดูโจ่งแจ้งมาก 774 00:43:21,640 --> 00:43:24,518 ผมไปที่ร้าน 775 00:43:24,602 --> 00:43:26,812 คุยกับพนักงานในร้าน 776 00:43:26,895 --> 00:43:28,981 แล้วเธอก็ว่า "ขอโทษนะ เราจ้างคุณใหม่ไม่ได้" 777 00:43:29,064 --> 00:43:30,816 ผมก็ถามว่า "ทำไมไม่ได้ล่ะ" 778 00:43:31,567 --> 00:43:34,570 เธอตอบว่า "ผู้จัดการบอกว่าเราจ้างคุณไม่ได้ 779 00:43:34,653 --> 00:43:38,073 เพราะมีพนักงาน ชาวฟิลิปปินส์ในร้านเยอะเกินไปแล้ว" 780 00:43:39,783 --> 00:43:41,744 ผมนี่แบบ "พูดจริงเหรอเนี่ย" 781 00:43:41,827 --> 00:43:45,623 หน้าตาเธอดูกระอักกระอ่วนมาก แล้วเธอก็ตอบว่า "ใช่" 782 00:43:46,624 --> 00:43:48,709 ผมไม่เคยพูดเลยสักคำว่าผมเป็นคนฟิลิปปินส์ 783 00:43:48,792 --> 00:43:51,629 พนักงานทึกทักเอาเองมากกว่า 784 00:43:51,712 --> 00:43:52,921 ว่าผมเป็นคนฟิลิปปินส์ 785 00:43:53,631 --> 00:43:57,051 ผมจำได้ว่าผมเล่าให้พ่อแม่กับเพื่อนๆ ที่สนิทกันฟัง 786 00:43:57,134 --> 00:44:01,513 พอพวกเขาฟังแล้วก็เห็นด้วยกับผมว่ามันโคตรแย่ 787 00:44:01,597 --> 00:44:04,391 คนส่วนใหญ่คงไม่รู้ว่าควรทำยังไง พ่อแม่ผมก็เหมือนกัน 788 00:44:04,475 --> 00:44:06,393 จะบอกลูกว่าไงล่ะ 789 00:44:06,477 --> 00:44:11,106 ถ้ามีคนมาบอกว่า "เราจ้างคุณไม่ได้เพราะสิ่งที่คุณเป็น" 790 00:44:11,190 --> 00:44:13,567 ฉันเล่าเรื่องทุกอย่างให้แม่ฟัง 791 00:44:13,651 --> 00:44:16,528 แล้วแม่ก็บอกว่า 792 00:44:16,612 --> 00:44:19,782 "แม่ก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน ที่ลูกเคยนึกอยากทำงานที่นั่น" 793 00:44:19,865 --> 00:44:22,117 แม่บอกว่า "ลูกคงทำความสะอาดได้เรียบร้อยดี 794 00:44:22,701 --> 00:44:26,121 แต่ร้านนั้นแสดงออกอย่างชัดเจนมากในสายตาแม่ 795 00:44:26,205 --> 00:44:28,415 ว่าพวกเขาไม่ต้องการคนอย่างพวกเรา" 796 00:44:28,499 --> 00:44:31,168 แม่บอกว่า "แม่ว่าแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้แหละ 797 00:44:31,251 --> 00:44:35,839 เพราะทุกสิ่งเกี่ยวกับร้านนั้น แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเราเป็นคนนอก 798 00:44:35,923 --> 00:44:36,924 มันไม่ใช่ที่ของเรา" 799 00:44:37,841 --> 00:44:39,468 หากคุณเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าหรูๆ 800 00:44:39,551 --> 00:44:43,764 คุณจะเห็นคนขายที่ดูราวกับว่า หลุดมาจากหน้าหนังสือแฟชั่น 801 00:44:43,847 --> 00:44:47,476 ร้านค้าปลีกมองหาพนักงาน ที่มีรูปร่างหน้าตาที่ดูแล้วว่าน่าจะขายเสื้อผ้าได้ 802 00:44:47,559 --> 00:44:51,271 แต่การรักษาภาพลักษณ์แบบนี้ จะทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติหรือไม่ 803 00:44:51,355 --> 00:44:53,774 นี่คือประเด็นที่บริษัทอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 804 00:44:53,857 --> 00:44:55,025 ถูกกล่าวหา 805 00:44:55,109 --> 00:44:57,069 โจทก์ทั้งเก้าในคดีฟ้องร้องครั้งใหม่นี้ 806 00:44:57,152 --> 00:45:00,906 กล่าวว่าพวกเขาถูกไล่ออก หรือไม่ได้รับการว่าจ้างเนื่องจากขาวไม่พอ 807 00:45:00,989 --> 00:45:02,950 ถ้าฉันได้ถูกจัดให้มาเข้ากะ 808 00:45:03,033 --> 00:45:05,828 เขามักจะจัดให้ฉันมาตอนร้านปิด 809 00:45:05,911 --> 00:45:11,083 ฉันเป็นหนึ่งในตัวแทนโจทก์ ในคดีฟ้องร้องอะเบอร์ครอมบี 810 00:45:11,166 --> 00:45:13,585 ผู้ที่มาร่วมรายการในวันนี้ คือโจทก์สองคนในคดีฟ้องร้อง 811 00:45:13,669 --> 00:45:15,963 แอนโทนี่ โอคัมโพ และเจนนิเฟอร์ หลิว 812 00:45:16,046 --> 00:45:18,757 ผมเป็นหนึ่งในคนที่ฟ้องร้องอะเบอร์ครอมบี 813 00:45:19,383 --> 00:45:23,137 เราอยากเป็นตัวแทนของคนที่เคยเจอเรื่องแบบนี้ 814 00:45:23,220 --> 00:45:27,891 เป็นกระบอกเสียงให้พวกเขา และทำให้อะเบอร์ครอมบีรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ 815 00:45:27,975 --> 00:45:29,727 ความเป็นอเมริกันไม่ได้แปลว่าต้องขาว 816 00:45:29,810 --> 00:45:31,937 ผมมีเพื่อนเป็นเม็กซิกันอเมริกัน ทำงานที่มัลเดฟ 817 00:45:32,020 --> 00:45:35,441 กองทุนเพื่อการต่อสู้ทางกฎหมายและการศึกษา ของชาวเม็กซิกันอเมริกัน 818 00:45:35,524 --> 00:45:37,651 ตอนนั้นเขาทำงานให้ทอม ซาเอนซ์ 819 00:45:37,735 --> 00:45:41,447 ซึ่งทอมเนี่ยก็เคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง 820 00:45:41,530 --> 00:45:44,199 เรื่องที่คนถูกเลือกปฏิบัติที่อะเบอร์ครอมบี 821 00:45:45,993 --> 00:45:48,412 ในกรณีนี้ ผมสามารถไปห้างสรรพสินค้า 822 00:45:48,495 --> 00:45:52,708 เพื่อตรวจสอบในเรื่องที่ลูกความบอก ซึ่งผมก็ทำแบบนั้น 823 00:45:52,791 --> 00:45:55,210 ผมจะไปที่ร้านเอแอนด์เอฟ 824 00:45:55,294 --> 00:45:58,422 และดูว่าพนักงานเป็นใคร 825 00:45:58,505 --> 00:46:00,716 แล้วผมก็จะเดินไปร้านที่อยู่อีกฟาก 826 00:46:00,799 --> 00:46:03,218 เข้าไปดูในร้านค้าปลีกที่คล้ายๆ กัน 827 00:46:03,302 --> 00:46:05,179 ไม่ว่าจะเป็นร้านโอลด์เนวี 828 00:46:05,262 --> 00:46:09,266 หรือบานาน่ารีพับบลิก หรือแก็ป 829 00:46:09,349 --> 00:46:11,602 ซึ่งเห็นความแตกต่างเป็นที่น่าตกใจมาก 830 00:46:11,685 --> 00:46:13,103 ในร้านอื่นๆ 831 00:46:13,187 --> 00:46:16,774 คุณจะเห็นพนักงานที่ให้ความรู้สึก ว่าเป็นแคลิฟอร์เนียตอนใต้จริงๆ 832 00:46:16,857 --> 00:46:20,861 ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวผิวสี ที่มาทำงานร้านค้าปลีก 833 00:46:20,944 --> 00:46:22,196 แต่ที่อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 834 00:46:22,279 --> 00:46:26,241 พนักงานส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาวแทบจะทั้งนั้นเลย 835 00:46:26,325 --> 00:46:29,244 เราไม่ได้แค่จะพูดเรื่องของ คนคนเดียวที่ถูกปฏิเสธการว่าจ้าง 836 00:46:29,328 --> 00:46:32,372 ถึงแม้มันจะเลวร้ายและไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ตาม 837 00:46:32,456 --> 00:46:35,876 แต่เรากำลังพูดถึงการปฏิบัติที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ 838 00:46:35,959 --> 00:46:39,713 ในร้านค้าหลายร้อยแห่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อนักศึกษาเป็นพันๆ คน 839 00:46:41,006 --> 00:46:45,719 จริงๆ แล้วยากมากนะ ในการที่จะหาคนมาเป็นโจทก์ในการฟ้องร้อง 840 00:46:45,803 --> 00:46:48,806 ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่ค่อยมีคนผิวสี 841 00:46:48,889 --> 00:46:51,350 ได้รับการว่าจ้าง โดยอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์สักเท่าไร 842 00:46:51,433 --> 00:46:54,895 น้องสาวฉันส่งข้อความมา… โทรมาหาฉัน 843 00:46:54,978 --> 00:46:58,482 สมัยนั้นคงไม่ใช้วิธีส่งข้อความเพราะมันยังแพงอยู่ 844 00:46:58,565 --> 00:46:59,983 แต่น้องฉันโทรมาบอกว่า 845 00:47:00,067 --> 00:47:03,278 "หนูไปเจอในอินเทอร์เน็ตมาว่า อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 846 00:47:03,362 --> 00:47:05,531 กำลังโดนฟ้องร้องคดีเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติอยู่" 847 00:47:05,614 --> 00:47:09,284 แล้วก็พูดต่อว่า "พี่ก็โดนมาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ 848 00:47:10,285 --> 00:47:11,370 โทรไปเลยสิ" 849 00:47:11,453 --> 00:47:16,375 แต่ฉันคิดว่า "ไม่รู้ว่าสิ่งที่ฉันเจอมา มัน 'เลวร้ายพอ' หรือเปล่านี่สิ" 850 00:47:16,959 --> 00:47:18,919 เข้าใจใช่ไหม ไม่รู้ว่ามัน… 851 00:47:19,002 --> 00:47:21,588 ถ้าฉันบอกไป เขาจะว่า "ลืมๆ มันไปซะเถอะ" ไหมนะ 852 00:47:21,672 --> 00:47:23,632 ใจหนึ่งฉันก็คิดว่า 853 00:47:23,715 --> 00:47:25,425 "มันไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นนั้น" 854 00:47:26,051 --> 00:47:28,679 ซึ่งถ้าคุณมาดูเรื่องต่างๆ อย่างการเหยียดเชื้อชาติ 855 00:47:28,762 --> 00:47:32,516 หรือการเหยียดเพศ หรือเหยียดคนที่รักร่วมเพศ มัน… 856 00:47:32,599 --> 00:47:37,020 มันไม่จำเป็นต้อง "เลวร้าย" ขนาดนั้นก็ได้ ไม่ต้องถึงขั้นที่มีคนมาด่า… 857 00:47:37,104 --> 00:47:40,858 ไม่ต้องถึงขั้นที่มีคนมาเรียกว่า "ไอ้มืด" กลางร้านอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 858 00:47:40,941 --> 00:47:43,610 ถึงจะ "เลวร้ายพอ" 859 00:47:44,111 --> 00:47:48,615 แต่คาร์ลาคนนี้ที่ตอนนั้นอายุ 19 กลับคิดว่า "อืม ไม่รู้สิ" 860 00:47:48,699 --> 00:47:51,034 ผมไม่เคยพบเจอการเหยียดเชื้อชาติ ที่โจ่งแจ้งขนาดนี้ 861 00:47:51,118 --> 00:47:52,661 ผมโมโหมากจริงๆ 862 00:47:52,744 --> 00:47:55,038 ผมโกรธ ทำยังไงก็ไม่หายโกรธ 863 00:47:55,122 --> 00:47:57,875 พอผมได้รับเชิญให้เป็นส่วนหนึ่งของคดีฟ้องร้อง 864 00:47:57,958 --> 00:47:59,042 ผมก็คิดว่า "โอ้ โอเค 865 00:47:59,126 --> 00:48:04,131 นี่คือโอกาสที่จะประกาศถึง ความตอแหลของอะเบอร์ครอมบี 866 00:48:04,214 --> 00:48:06,800 ที่พยายามจะบอกว่าตัวเอง เป็นแบรนด์อเมริกันทั้งแท่ง 867 00:48:06,884 --> 00:48:09,970 แต่วิธีการที่พวกเขาใช้ ในการรักษาภาพลักษณ์ความเป็นอเมริกัน 868 00:48:10,053 --> 00:48:13,891 กลับหมายถึงการจ้างงานคนขาวเพิ่ม และไล่คนผิวสีออกเป็นเบือ 869 00:48:13,974 --> 00:48:17,644 เราก็แค่ถามพวกเขาถึงประสบการณ์ ในการทำงานที่อะเบอร์ครอมบี 870 00:48:17,728 --> 00:48:20,022 การพยายามสมัครงานที่อะเบอร์ครอมบี 871 00:48:20,105 --> 00:48:25,736 และเราก็เริ่มเห็นแนวโน้ม ในการเอนเอียงไปทางคนผิวขาว 872 00:48:25,819 --> 00:48:28,989 มากกว่าชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ละติน หรือเอเชีย 873 00:48:29,072 --> 00:48:31,742 หรือใครก็ตามที่ไม่มีรูปลักษณ์ตามแบบที่กำหนด 874 00:48:31,825 --> 00:48:33,076 (อดีตผจก.ร้านเอแอนด์เอฟ) 875 00:48:33,160 --> 00:48:36,371 ฉันเหลืออดกับการที่ได้ตารางเข้ากะ ที่มีชื่อที่ถูกขีดฆ่าส่งมาทุกอาทิตย์ 876 00:48:36,455 --> 00:48:37,998 เหมือนเป็นการบอกคนพวกนั้นว่า 877 00:48:38,081 --> 00:48:39,958 พวกเขาหน้าตาดีไม่พอใช่ไหม 878 00:48:40,042 --> 00:48:43,837 ฉันไม่อาจมองตาคนที่ทำงานให้ฉัน และอยากทำงานที่นั่น แล้วพูดว่า… 879 00:48:43,921 --> 00:48:47,215 เรียกว่าโกหกดีกว่า บอกพวกเขาว่า "ไม่มีชั่วโมงว่างแล้ว" 880 00:48:48,550 --> 00:48:50,719 ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว เหตุผลคือพวกเขาหน้าตาดีไม่พอ 881 00:48:51,470 --> 00:48:55,098 จาฮานพูดกับเรา ถึงเรื่องแนวทางของอะเบอร์ครอมบี 882 00:48:55,182 --> 00:48:58,101 เราไม่ได้ถูกเลือกปฏิบัติเพราะเรื่องเชื้อชาติ 883 00:48:58,185 --> 00:49:01,480 แต่เป็นเพราะเราหน้าตาไม่ดีพอ ที่จะมาทำงานหน้าร้าน 884 00:49:01,563 --> 00:49:02,814 ก็คือขี้เหร่นั่นแหละ 885 00:49:03,982 --> 00:49:08,487 มันเป็นเรื่องน่าหัวเราะนะ พอมาเจอกัน ทุกคนแบบว่า "พูดเล่นหรือเปล่าเนี่ย" 886 00:49:08,570 --> 00:49:12,449 "บ้าบอจริงๆ" ฉันว่ามันคงดีกว่าการพูดว่า 887 00:49:12,532 --> 00:49:14,785 "เราเลือกปฏิบัติกับคนพวกนี้เพราะเชื้อชาติ" 888 00:49:15,827 --> 00:49:18,622 บ้าไปแล้ว บ้าบอจริงๆ 889 00:49:20,165 --> 00:49:22,501 (อะเบอร์ครอมบียุติคดีฟ้องร้อง ด้วยข้อตกลงยอมความ) 890 00:49:22,584 --> 00:49:23,835 (พวกเขาปฏิเสธข้อกล่าวหา) 891 00:49:23,877 --> 00:49:27,255 อะเบอร์ครอมบีถูกฟ้องร้อง โดยการดำเนินคดีแบบกลุ่ม 892 00:49:27,339 --> 00:49:29,174 เพราะให้คนผิวสีกับผิวดำไปทำงานหลังร้าน 893 00:49:29,841 --> 00:49:34,096 (วิดีโอจากห้องสต็อกสินค้าในร้าน) 894 00:49:37,641 --> 00:49:40,560 อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ปฏิเสธข้อกล่าวหา 895 00:49:40,644 --> 00:49:42,104 แต่ก็เจรจายอมความ 896 00:49:42,187 --> 00:49:45,941 อะเบอร์ครอมบีรู้ดีว่า พวกเขามีเรื่องที่ต้องปิดบังอยู่เยอะมาก 897 00:49:46,024 --> 00:49:48,193 จึงรีบเสนอเงินจำนวนมาก เพื่อให้อีกฝ่ายยอมความ 898 00:49:48,860 --> 00:49:53,865 อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์จะต้องจ่ายเงิน ถึงเกือบ 50 ล้านดอลลาร์ 899 00:49:55,909 --> 00:49:57,244 และต้องเปลี่ยนแปลงบางเรื่อง 900 00:49:59,663 --> 00:50:02,541 อะเบอร์ครอมบีตกลงที่จะทำตาม คำตัดสินตามความยินยอม 901 00:50:02,624 --> 00:50:06,211 (นอกจากข้อตกลงยอมความ อะเบอร์ครอมบี ยังลงนามในคำตัดสินตามความยินยอม) 902 00:50:06,294 --> 00:50:11,299 (พวกเขาตกลงที่จะเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติ ในการหาพนักงาน การจ้างงาน และการตลาด) 903 00:50:11,383 --> 00:50:15,929 (อะเบอร์ครอมบีต้องรายงานตัวต่อ ผู้ตรวจการณ์ที่ศาลแต่งตั้งเป็นเวลาหกปี) 904 00:50:16,013 --> 00:50:19,850 (ไม่มีบทลงโทษที่ชัดเจน หากทำได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด) 905 00:50:19,933 --> 00:50:25,731 อะเบอร์ครอมบีต้องสร้างตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ความหลากหลายทางเชื้อชาติขึ้นมา 906 00:50:27,315 --> 00:50:32,571 ในแง่หนึ่งมันก็เป็นโอกาสดี ที่จะได้ทำงานให้บริษัทที่ต้องการคุณจริงๆ 907 00:50:34,239 --> 00:50:36,199 "แต่ใจจริงอยากจ้างคุณไหม" นี่เป็นอีกคำถาม 908 00:50:39,786 --> 00:50:43,540 ผมได้รับโทรศัพท์จากบริษัทจัดหางาน บอกว่า "นี่ มีตำแหน่งงานในโอไฮโอแน่ะ 909 00:50:43,623 --> 00:50:46,209 เป็นแบรนด์ที่ชื่อเอแอนด์เอฟ" ผมก็บอกว่า "ผมไม่รู้จัก" 910 00:50:46,710 --> 00:50:48,754 ผมเลยไปที่ห้างและพยายามหาดู 911 00:50:48,837 --> 00:50:52,007 ผมก็ไปเดินซื้อของ ดูรอบๆ แล้วคิดว่า "แบรนด์นี้ไม่เหมือนชาวบ้านนะ" 912 00:50:52,966 --> 00:50:55,802 (ท็อดด์ คอร์ลีย์ อดีตจนท.ความหลากหลายทางเชื้อชาติ) 913 00:50:55,886 --> 00:50:57,554 ผมเริ่มรู้แล้วว่ามันเรื่องอะไรกัน 914 00:50:57,637 --> 00:50:59,765 พวกเขาพยายามหาวิธีสร้างแบรนด์ใหม่ 915 00:50:59,848 --> 00:51:03,143 จากแนวคิดการสนับสนุนความหลากหลาย และยอมรับความแตกต่างของพนักงาน 916 00:51:03,226 --> 00:51:04,227 ตอนนั้นไม่มีใครคิดทำกัน 917 00:51:04,311 --> 00:51:07,064 ไม่มีสำนักงาน ไม่มีระเบียบการ ไม่มีผู้ควบคุมดูแล 918 00:51:07,147 --> 00:51:11,234 ผมต้องคิดเองว่าต้องทำยังไง บอกตัวเองว่า "แกขอพรพระเจ้าไง 919 00:51:11,318 --> 00:51:13,570 ขอให้ได้ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่เหรอ 920 00:51:13,653 --> 00:51:15,864 นี่พระเจ้ากำลังบอกแกอยู่ไง ว่านี่อาจเป็นโอกาสนั้น" 921 00:51:17,949 --> 00:51:20,619 ผมเลยถามว่าผมต้องขึ้นตรงกับใคร 922 00:51:20,702 --> 00:51:22,913 ซึ่งผมต้องรู้ เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับผม 923 00:51:22,996 --> 00:51:25,707 แล้วผมก็ได้รู้ว่า ผมต้องขึ้นตรงกับซีอีโอและประธานบริษัท 924 00:51:25,791 --> 00:51:28,210 (ไมค์ เจฟฟรีส์ ประธานบริษัท ซีอีโอ) 925 00:51:28,293 --> 00:51:30,337 เนื้องานมีความท้าทายอยู่ไม่น้อย 926 00:51:30,420 --> 00:51:32,672 ผมต้องหาทางแก้ปัญหาหลายเรื่อง 927 00:51:33,173 --> 00:51:35,008 หนึ่งในความท้าทายที่มีในตอนนั้นคือ 928 00:51:35,092 --> 00:51:40,055 เราจะสร้างแบรนด์ ที่มีความขัดแย้งน้อยกว่านี้ได้ยังไง 929 00:51:40,138 --> 00:51:42,349 (ก่อตั้งปี 1892 อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ นิวยอร์ก) 930 00:51:42,849 --> 00:51:45,227 (ถามมา ตอบไป) 931 00:51:45,310 --> 00:51:49,106 (บริษัทของคุณไม่ได้เลือกปฏิบัติกับคน เพราะรูปลักษณ์ภายนอกหรอกหรือ) 932 00:51:49,189 --> 00:51:52,192 เราเข้าหาผู้คนทุกวัน ด้วยความคิดยอมรับในความแตกต่าง 933 00:51:52,275 --> 00:51:53,860 และสนับสนุนความหลากหลาย 934 00:51:53,944 --> 00:51:56,404 - มาทำงานกับฉันในนิวยอร์ก - แอริโซนา 935 00:51:56,488 --> 00:51:57,531 - ฟลอริดา - เบลเยียม 936 00:51:57,614 --> 00:51:58,824 - สเปน - ฮ่องกง 937 00:51:58,907 --> 00:52:00,158 - เยอรมนี - สหราชอาณาจักร 938 00:52:04,079 --> 00:52:07,666 คนอย่างผมที่เข้าไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น 939 00:52:07,749 --> 00:52:12,629 จะเข้าใจเลยว่ามันอาจจะเป็น "ภาวะสัญลักษณ์นิยม" รูปแบบหนึ่ง 940 00:52:13,213 --> 00:52:19,261 คุณอาจจะพูดว่า "ฉันจะไม่ไปเป็นส่วนหนึ่งด้วยเด็ดขาด" 941 00:52:19,344 --> 00:52:23,598 หรือคุณอาจจะมองว่ามันคือโอกาส 942 00:52:23,682 --> 00:52:26,977 และเปิดโอกาสให้กว้างขึ้นไปอีก สำหรับคนที่เหมือนกับคุณ 943 00:52:27,060 --> 00:52:31,815 และคนอื่นๆ ที่อาจจะเข้าไม่ถึง หรือไม่ได้รับโอกาสนี้ 944 00:52:32,607 --> 00:52:35,485 ผมทำงานสรรหาพนักงานอยู่สองสามปี สร้างความสัมพันธ์ที่ดี 945 00:52:35,569 --> 00:52:38,613 กับมหาวิทยาลัยสำหรับคนผิวสีหลายแห่ง 946 00:52:39,114 --> 00:52:41,950 ในฐานะคนผิวสีน้ำตาลที่ดูเหมือนคนขาวอย่างผม 947 00:52:42,033 --> 00:52:42,868 (โฮเซ ซานเชส) 948 00:52:42,951 --> 00:52:44,578 ใส่อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ทั้งตัว 949 00:52:44,661 --> 00:52:47,873 เพราะเขากำหนดให้แต่งตัวแบบนั้น เวลาลงพื้นที่มหา'ลัย 950 00:52:47,956 --> 00:52:52,377 แรกๆ ก็โดนเขม่นอยู่บ้าง ซึ่งก็สมควรแหละ 951 00:52:52,460 --> 00:52:53,670 ตอนที่ผมเข้าไปครั้งแรก 952 00:52:55,088 --> 00:52:57,340 สัก 90 เปอร์เซ็นต์น่าจะเป็นคนขาว 953 00:52:58,008 --> 00:52:59,384 แต่พอผ่านไปห้าหกปี 954 00:52:59,467 --> 00:53:03,221 จำนวนคนผิวสีเพิ่มขึ้นไปเป็น 53 เปอร์เซ็นต์ 955 00:53:05,891 --> 00:53:10,187 ตอนที่ฉันย้ายตำแหน่งไปทำแผนก บริหารความหลากหลายในองค์กร 956 00:53:10,270 --> 00:53:16,109 ครั้งแรกที่ฉันเข้าพบพวกผู้บริหารระดับสูงของร้าน 957 00:53:16,193 --> 00:53:19,654 พวกเขาพูดเรื่องที่ว่า ต้องการให้ในร้านมีอะไรบ้าง 958 00:53:20,238 --> 00:53:25,076 เป็นการบรรยายถึงความสวยงามอย่างลื่นไหล 959 00:53:25,160 --> 00:53:27,454 ใครหน้าตาดี ใครหน้าตาไม่ดี 960 00:53:27,537 --> 00:53:29,331 หรือจมูกของคนนั้นเป็นแบบนั้นแบบนี้ 961 00:53:29,414 --> 00:53:32,417 ฉันนี่แบบว่า ไม่อยากเชื่อเลยว่าเรากำลังพูดถึงคนอื่น 962 00:53:32,500 --> 00:53:35,212 แล้ววิจารณ์รูปลักษณ์ของคนแบบนั้น 963 00:53:35,295 --> 00:53:39,341 หรือไม่มันก็จะถูกเขียนไว้ แบบที่คนถือเวลาสัมภาษณ์ 964 00:53:39,424 --> 00:53:41,426 แบบ "ไม่" กาทิ้ง… คือแบบ… 965 00:53:41,509 --> 00:53:44,387 ฉันไม่อยากเชื่อเลย เอาจริงๆ ช็อกมาก 966 00:53:45,138 --> 00:53:47,057 พวกเขาเลิกใช้คำว่า "ตัวแทนแบรนด์" 967 00:53:47,140 --> 00:53:50,810 แต่จะเรียกว่า "อิมแพคต์" แปลว่าต้องไปอยู่เบื้องหลัง 968 00:53:50,894 --> 00:53:54,314 หรือไม่ก็ "โมเดล" พวกนี้ทำงานเบื้องหน้าได้ 969 00:53:54,397 --> 00:54:00,654 ฉันคิดว่าเป็นเพราะการเรียกลูกจ้าง ที่รับเงินเดือนขั้นต่ำว่า "โมเดล" 970 00:54:00,737 --> 00:54:03,448 ทำให้อะเบอร์ครอมบีสามารถ เอาตัวรอดได้จากทุกอย่าง 971 00:54:03,531 --> 00:54:06,243 เหมือนกับบริษัทโมเดลลิ่งทั่วไป 972 00:54:06,326 --> 00:54:09,371 พวกเขาไม่เคยเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร ว่าพนักงานต้องหน้าตาดี 973 00:54:09,913 --> 00:54:15,418 หลังคำตัดสินตามความยินยอม และผมคิดว่าพวกเขาระวังที่จะไม่ใช้คำนั้น 974 00:54:15,502 --> 00:54:17,045 แต่พวกเขาแก้ปัญหาได้ 975 00:54:17,128 --> 00:54:19,756 ตอนที่ได้รับการอนุมัติ ตามคำตัดสินตามความยินยอม 976 00:54:19,839 --> 00:54:22,259 ที่จะเรียกพวกนั้นว่าโมเดล แค่นี้ก็เรียบร้อย 977 00:54:22,342 --> 00:54:25,220 ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรใดๆ ทั้งสิ้น 978 00:54:25,303 --> 00:54:28,014 แล้วถ้าคนหน้าตาขี้เหร่สมัครเป็นโมเดลล่ะ 979 00:54:28,098 --> 00:54:28,932 ก็สัมภาษณ์ไง 980 00:54:30,225 --> 00:54:33,395 ทุกคนจะได้ผ่าน กระบวนการสัมภาษณ์เหมือนกันหมด 981 00:54:34,020 --> 00:54:36,147 แต่หมายความว่าโอกาสได้งานน้อยเท่าเดิม 982 00:54:36,231 --> 00:54:38,984 - ทั้งก่อนและหลังที่จะมีคำตัดสินตามความยินยอม - ใช่ ถูกครับ 983 00:54:39,985 --> 00:54:40,819 ถูกต้องเลย 984 00:54:42,404 --> 00:54:46,199 คำตัดสินตามความยินยอมไม่ได้บังคับ ให้เปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหารเลย 985 00:54:46,283 --> 00:54:49,828 เพราะงั้นโครงสร้างคณะผู้บริหารก็ยังอยู่คงเดิม 986 00:54:49,911 --> 00:54:53,456 ตอนนั้นเจฟฟรีส์ยังถือหุ้นอยู่ เกือบสิบเปอร์เซ็นต์ของจำนวนหุ้นทั้งหมด 987 00:54:54,207 --> 00:54:56,876 ก็เลยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทั้งนั้น ไม่มีเลย 988 00:54:58,420 --> 00:55:01,006 การตัดสินใจหลายๆ อย่างลงมาจากเบื้องบน 989 00:55:02,048 --> 00:55:08,346 เราพบว่าเจฟฟรีส์กับบรูซ เวเบอร์ มีพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจอย่างมาก 990 00:55:08,430 --> 00:55:10,181 (นี่คือข้อกล่าวหาที่มีต่อบรูซ เวเบอร์) 991 00:55:10,265 --> 00:55:13,310 (เขาไม่ตอบรับคำขอของเรา ที่ขอให้พูดถึงข้อกล่าวหาเหล่านี้) 992 00:55:13,393 --> 00:55:15,895 (และเขาไม่ได้รับการแจ้งข้อหา หรือถูกพิสูจน์ว่ามีความผิด) 993 00:55:15,979 --> 00:55:18,481 บรูซ เวเบอร์ใช้ประโยชน์ จากอำนาจในมือได้มากยิ่งขึ้น 994 00:55:18,565 --> 00:55:20,817 เพราะเขามีชื่อเสียงฉาวโฉ่และเป็นคนสุดโต่ง 995 00:55:20,900 --> 00:55:22,861 เป็นที่รู้กันดีว่าบรูซน่ะ 996 00:55:22,944 --> 00:55:24,779 เขาชอบ… 997 00:55:26,156 --> 00:55:26,990 เด็กหนุ่มๆ 998 00:55:27,490 --> 00:55:30,785 เขาจะชวนไปที่บ้าน แล้วก็เล่นเกม "จับได้แค่ไหน" 999 00:55:30,869 --> 00:55:34,164 เขาจะให้เอามือเราวางบนหน้าอก 1000 00:55:35,206 --> 00:55:38,877 แล้วเขาจะวางมือเขาบนมือเรา บอกว่าให้ทำตัวตามสบาย 1001 00:55:39,544 --> 00:55:42,922 แล้วก็พูดว่า "ฉันจะเลื่อนมือเธอลงไปเรื่อยๆ 1002 00:55:43,006 --> 00:55:45,300 บอกนะว่าให้หยุดเมื่อไหร่" 1003 00:55:45,383 --> 00:55:46,593 มือผมไม่ขยับเลย 1004 00:55:47,344 --> 00:55:48,511 เขาเลยบอกว่า 1005 00:55:48,595 --> 00:55:51,014 "ไม่ ต้องเลื่อนมือเธอลงไปเรื่อยๆ แล้วพอฉัน…" 1006 00:55:51,097 --> 00:55:53,975 ผมก็บอกว่า "ไม่ครับ ไม่… แค่นี้แหละ" 1007 00:55:54,059 --> 00:55:57,562 มีอยู่คนหนึ่งที่บรูซชอบโทรหาบ่อยๆ 1008 00:55:57,645 --> 00:55:59,898 ชวนมากินข้าวเย็นที่บ้านมั่ง 1009 00:56:00,648 --> 00:56:03,485 แบบ "ฮัลโหล มาที่บ้านสิ ฉันว่าจะกินข้าวเย็น 1010 00:56:03,568 --> 00:56:05,195 เล่นกับหมา นู่นนั่นนี่" 1011 00:56:05,278 --> 00:56:08,031 เขาก็จะไป แล้ววันรุ่งขึ้นผมก็จะไม่เห็นเขามาทำงาน 1012 00:56:08,531 --> 00:56:11,284 พอผ่านมาวันที่สาม อยู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น 1013 00:56:11,368 --> 00:56:14,913 แล้วผมก็รู้เลยว่าเป็นอะไร 1014 00:56:14,996 --> 00:56:20,043 "ฮัลโหล บ็อบบี้ เดี๋ยวฉันส่งรถไปรับมากินข้าวที่บ้านนะ 1015 00:56:20,126 --> 00:56:24,672 ตอนนั้นผมคิดเลยว่าจะได้กลับบ้านไหมวะ 1016 00:56:24,756 --> 00:56:27,008 "เอ่อ คือวันนี้ผมไปไม่ได้ครับ" 1017 00:56:27,092 --> 00:56:30,053 แล้วเขาก็ว่า "ต้องมาสิ มันจะดีต่ออาชีพการงานนะ" 1018 00:56:30,136 --> 00:56:33,515 ผมก็บอกว่า "ไม่ละครับ บรูซ แต่ก็ขอบคุณมากเลยนะครับ" 1019 00:56:33,598 --> 00:56:36,434 แล้วจู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังอีก น่าจะหลังจากนั้นหนึ่งนาที 1020 00:56:36,518 --> 00:56:39,979 เอาเป็นว่าไม่ถึงสองนาที โทรศัพท์ดังอีก ผมก็แบบ "อะไรวะ" 1021 00:56:40,063 --> 00:56:42,190 ผมก็รับโทรศัพท์ แล้วเขาก็บอกว่า "นี่ บ็อบบี้ 1022 00:56:42,273 --> 00:56:45,568 น่าเสียดายที่เธอโดนตัดออกแล้ว เตรียมไฟลท์บินกลับให้เรียบร้อยแล้วนะ 1023 00:56:45,652 --> 00:56:49,739 แล้วก็กระเป๋า… เก็บกระเป๋าให้พร้อมนะ เธอต้องบินกลับคืนนี้เลย" 1024 00:56:49,823 --> 00:56:52,575 แค่นี้แหละ โดนไล่ไม่ทันตั้งตัว 1025 00:56:54,786 --> 00:56:56,287 แล้วก็มีไมเคิล เจฟฟรีส์ 1026 00:56:57,580 --> 00:57:00,917 ที่ดูเหมือนจะแค่มาสนุกเริงร่าอยู่ในกองถ่าย 1027 00:57:02,335 --> 00:57:04,712 ดูก็รู้ว่าเขาชอบเด็กหนุ่มๆ เหมือนกัน 1028 00:57:05,380 --> 00:57:08,049 แต่เขาเป็นคนแปลกมากซะจน… ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขา… 1029 00:57:08,133 --> 00:57:09,801 ไม่รู้ว่าหมอนั่นมันชอบอะไรกันแน่ 1030 00:57:10,802 --> 00:57:12,554 ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเอา 1031 00:57:13,054 --> 00:57:15,014 ขั้นตอนใหม่ๆ มาใช้ในกระบวนการอยู่เรื่อย 1032 00:57:16,182 --> 00:57:20,979 มีอยู่หนึ่งขั้นตอนที่ให้คนเข้าไปในเต็นท์ 1033 00:57:21,062 --> 00:57:22,564 ที่ปิดไม่ให้คนอื่นเข้า 1034 00:57:22,647 --> 00:57:26,401 มีแค่บรูซ เวเบอร์กับไมเคิล เจฟฟรีส์อยู่ข้างใน 1035 00:57:27,277 --> 00:57:32,449 เป็นการสัมภาษณ์เพื่อที่พวกเขาจะดูว่าถูกใจนิสัย 1036 00:57:32,532 --> 00:57:34,784 ตัวตน และความสามารถของเราไหม 1037 00:57:36,202 --> 00:57:40,874 ตอนที่เขาบริหารอะเบอร์ครอมบี เขามักจะขายเน้นกลุ่มลูกค้าผู้หญิง 1038 00:57:40,957 --> 00:57:44,461 แต่ฉันคิดว่าสิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็น 1039 00:57:44,544 --> 00:57:46,421 และมีปฏิกิริยาตอบสนอง 1040 00:57:46,504 --> 00:57:48,882 ก็คือภาพลักษณ์และรูปแบบของเพศชาย 1041 00:57:49,924 --> 00:57:52,677 ฉันไม่คิดว่าไมค์รู้ตัวด้วยซ้ำ 1042 00:57:52,760 --> 00:57:55,472 ว่าเขาก็เป็นสัญลักษณ์ของชาวเกย์ 1043 00:57:56,848 --> 00:58:00,685 เป็นที่รู้กันหรือสันนิษฐานกันว่าเขาเป็นเกย์ 1044 00:58:01,394 --> 00:58:03,938 แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่ เก็บชีวิตส่วนตัวไว้เป็นความลับ 1045 00:58:06,316 --> 00:58:08,776 ในช่วงปี 2000 ต้นๆ 1046 00:58:08,860 --> 00:58:12,030 ไมค์ เจฟฟรีส์ก็ยังไม่เปิดเผยรสนิยมทางเพศ 1047 00:58:13,573 --> 00:58:16,534 เจฟฟรีส์เคยแต่งงานแล้ว เขามีลูกชาย 1048 00:58:16,618 --> 00:58:18,620 ภรรยาของเขามักไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไร 1049 00:58:18,703 --> 00:58:21,831 ในที่สุด คู่ชีวิตของเขาที่ชื่อแมทธิว สมิธ 1050 00:58:21,915 --> 00:58:24,501 ก็เข้ามาในบริษัท 1051 00:58:24,584 --> 00:58:29,589 เกิดเรื่องภายในหลายเรื่อง ที่ไมค์ เจฟฟรีส์มีส่วนเกี่ยวข้อง 1052 00:58:29,672 --> 00:58:33,009 ที่คงไม่ค่อยให้ใครรู้ 1053 00:58:34,469 --> 00:58:38,097 เขาเป็นคนหลุดโลก หลุดโลกจริงๆ เหมือนกับว่า… 1054 00:58:38,890 --> 00:58:41,893 เขาน่าจะไปทำศัลยกรรมห่วยๆ มาหลายครั้ง 1055 00:58:42,769 --> 00:58:43,895 เขาอยากดูหนุ่ม 1056 00:58:44,729 --> 00:58:47,440 เขาก็ไม่อยากแก่เหมือนกันแหละ เรื่องธรรมดา 1057 00:58:49,526 --> 00:58:52,612 ผมทึ่งในตัวไมค์แล้วผมก็ทึ่งกับบริษัทมาก 1058 00:58:52,695 --> 00:58:59,410 ไมค์เป็นผู้ชายที่แปลก น่าอัศจรรย์ และน่าสนใจมาก 1059 00:59:00,203 --> 00:59:02,622 ผมก็เลยอยากเขียนเกี่ยวกับบริษัทนี้มาก 1060 00:59:02,705 --> 00:59:04,958 ผมอยากไปให้ถึงสำนักงานใหญ่ของพวกเขา 1061 00:59:05,041 --> 00:59:06,042 ที่เรียกกันว่าแคมปัส 1062 00:59:06,543 --> 00:59:08,044 (แคมปัสเอแอนด์เอฟ) 1063 00:59:08,127 --> 00:59:10,046 (หนึ่งในที่ที่ดีที่สุดในการเริ่มชีวิตการทำงาน) 1064 00:59:10,129 --> 00:59:13,967 แล้ววันหนึ่ง ผมก็ได้รับโทรศัพท์ จากบรรณาธิการนิตยสารเดอะนิวยอร์กไทมส์ 1065 00:59:14,050 --> 00:59:15,969 ที่ผมเขียนคอลัมน์ให้มาหลายปีแล้ว 1066 00:59:16,052 --> 00:59:19,055 แล้วเขาก็ถามว่า "อยากเขียนเรื่อง อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ไหม" 1067 00:59:20,056 --> 00:59:23,393 ผมก็บอกว่า "อยากสิครับ คุณหาทางเข้าหาพวกเขาได้ยังไง" 1068 00:59:23,476 --> 00:59:24,852 เขาก็บอกว่า "พวกนั้นเชิญเรา" 1069 00:59:25,603 --> 00:59:29,274 ผมก็ยังไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมก่อนหน้านี้ไมค์ปฏิเสธข้อเสนอ 1070 00:59:29,357 --> 00:59:32,735 ที่จะเขียนเกี่ยวกับแบรนด์ของเขา แต่อยู่ๆ ก็ให้ผมไปพบเนี่ยนะ 1071 00:59:34,821 --> 00:59:38,324 เขาพูดถึงเรื่องนี้ เขาบอกว่า "ที่นี่เป็นเขตปลอดดีว่าเรื่องมาก" 1072 00:59:38,825 --> 00:59:40,201 แต่เขาก็มีความเหมือนดีว่านะ 1073 00:59:40,285 --> 00:59:42,787 เขาเป็นคนตัดสินใจทุกเรื่อง 1074 00:59:43,538 --> 00:59:45,873 มีร้านตัวอย่างในแคมปัส 1075 00:59:45,957 --> 00:59:47,292 ผมดูเขาเดินตรวจตรา 1076 00:59:47,375 --> 00:59:51,796 และหมกมุ่นอยู่กับการดูว่า หุ่นแต่ละตัวใส่กางเกงยีนส์แล้วดูเป็นยังไง 1077 00:59:53,131 --> 00:59:54,507 การได้เดินดูร้านกับเขา 1078 00:59:54,591 --> 01:00:00,930 ทำให้ได้เห็นถึงความคิด ที่โบราณอย่างชัดเจนของเขา 1079 01:00:01,014 --> 01:00:03,016 ที่มีต่อความเป็นชายและความเป็นหญิง 1080 01:00:03,099 --> 01:00:05,977 พูดประมาณว่า "เราต้องทำให้พ่อหนุ่มนี่ ดูเหมือนผู้ชายมากกว่านี้" 1081 01:00:06,978 --> 01:00:10,189 ส่วนหุ่นเนี่ย "อย่าให้หุ่นผู้หญิงดูแมนไป" 1082 01:00:10,273 --> 01:00:11,399 นี่คือคำพูดของเขาจริงๆ 1083 01:00:12,400 --> 01:00:17,655 เขาเดินผ่านแผนกเสื้อผ้า อะเบอร์ครอมบีสำหรับเด็กผู้หญิง 1084 01:00:17,739 --> 01:00:19,782 เขาหยิบกางเกงผ้าสักหลาดขึ้นมา 1085 01:00:19,866 --> 01:00:22,785 ซึ่งเขาคงจะมองว่ามันแมนเกินไป 1086 01:00:22,869 --> 01:00:25,997 เขาพูดว่า "ออกแบบมาให้ใครใส่วะ 1087 01:00:26,080 --> 01:00:27,749 ให้ทอมถึกใส่ขี่สามล้อเหรอ" 1088 01:00:27,832 --> 01:00:32,211 คำพูดของเขามันดูจะเลย 1089 01:00:33,338 --> 01:00:36,007 จุดที่เคยเป็นข้อกังขา แต่ตอนนี้กลับชัดเจนแล้ว 1090 01:00:36,090 --> 01:00:40,345 ซึ่งก็คือความจริงที่ว่า เราไม่ได้ออกแบบเสื้อผ้าสำหรับผู้ชาย ผู้หญิง 1091 01:00:40,428 --> 01:00:41,346 วัยรุ่นชายหญิง 1092 01:00:41,429 --> 01:00:44,932 แต่เราออกแบบเสื้อผ้าสำหรับ ผู้หญิงเซ็กซี่ ผู้ชายเซ็กซี่ 1093 01:00:45,016 --> 01:00:47,810 วัยรุ่นหนุ่มสาวเซ็กซี่ 1094 01:00:47,894 --> 01:00:49,896 เซ็กซี่แบบชายจริงหญิงแท้นะ 1095 01:00:49,979 --> 01:00:51,814 ไม่ใช่ "ทอมถึก" 1096 01:00:52,315 --> 01:00:55,526 ผมอยากวิเคราะห์จิตวิทยาของเขามากเลย 1097 01:00:55,610 --> 01:00:58,529 ผมอยากรู้ให้ได้ว่า 1098 01:00:59,864 --> 01:01:00,865 คนคนนี้คือใคร 1099 01:01:01,866 --> 01:01:04,535 ผมเลยถามเขาเรื่องข้อพิพาทใหญ่ๆ 1100 01:01:04,619 --> 01:01:05,578 คดีฟ้องร้องต่างๆ 1101 01:01:06,663 --> 01:01:09,290 แล้วเขาก็เริ่มเถียงอย่างเอาเป็นเอาตาย 1102 01:01:09,374 --> 01:01:11,793 และสุดท้ายเขาหลุดปากพูดอะไรที่มัน 1103 01:01:11,876 --> 01:01:14,379 ออกจากใจจริงเกินไป 1104 01:01:16,255 --> 01:01:19,092 เขาบอกว่า "เราเลือกลูกค้าหรือเปล่า แน่นอน" 1105 01:01:19,175 --> 01:01:22,136 บอกว่า "ไม่ใช่ทุกคนที่จะใส่เสื้อผ้าของเราได้" 1106 01:01:22,220 --> 01:01:24,806 "ผมไม่อยากให้ทุกคนใส่เสื้อแบรนด์เรา" 1107 01:01:24,889 --> 01:01:27,558 เขาพูดถึงการพุ่งเป้าไปที่เด็กเท่ๆ 1108 01:01:27,642 --> 01:01:31,771 แล้วก็ใช้คำว่าเด็กเท่ๆ ที่เป็นอเมริกันทั้งแท่ง 1109 01:01:31,854 --> 01:01:35,483 เหมือนเขาจะคลั่งไคล้ภาพของ เด็กหนุ่มอเมริกันทั้งแท่งเอามากๆ 1110 01:01:35,983 --> 01:01:38,736 เขาไม่ใช่คนเดียวในวงการแฟชั่น 1111 01:01:38,820 --> 01:01:41,197 ที่มีความคิดแบบนี้ 1112 01:01:41,906 --> 01:01:45,952 แต่เขาเป็นคนเดียวที่พูดสิ่งที่คิดในใจออกมาดังๆ 1113 01:01:46,035 --> 01:01:49,455 สองวันต่อมาหลังกลับจากโอไฮโอ ผมก็ได้รับอีเมลหนึ่งฉบับ 1114 01:01:49,539 --> 01:01:53,209 ว่าพวกเขาไม่ต้องการจะมีส่วนร่วม ในการเขียนบทความเรื่องนี้แล้ว 1115 01:01:53,292 --> 01:01:56,587 ซึ่งสำหรับผมก็หมายความว่า เรื่องนี้จะไม่ได้ลงนิตยสารนิวยอร์กไทมส์แล้ว 1116 01:01:56,671 --> 01:01:58,673 และผมก็เขียนบทความลงในซาลอน 1117 01:01:59,757 --> 01:02:03,010 ตอนที่บทความออกมา มีคนให้ความสนใจไม่น้อย 1118 01:02:03,094 --> 01:02:08,349 เพราะเป็นเหมือนประวัติซีอีโอบริษัทแฟชั่น ที่เป็นคนแปลกและประสบความสำเร็จล้นหลาม 1119 01:02:08,433 --> 01:02:10,101 ดังนั้นในปี 2006 1120 01:02:10,184 --> 01:02:13,438 การออกมาพูดอย่างโจ่งแจ้งว่า "แบรนด์ของเราเลือกลูกค้า" 1121 01:02:13,521 --> 01:02:17,483 ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลกอะไรนัก ในสมัยนั้น 1122 01:02:17,567 --> 01:02:20,027 สิ่งที่ฉันคิดว่าทำให้อะเบอร์ครอมบีไม่เหมือนใคร 1123 01:02:20,111 --> 01:02:22,488 คือการที่พวกเขาไม่รู้สึกว่าต้องขอโทษใครทั้งนั้น 1124 01:02:22,572 --> 01:02:24,198 พวกเขาไปกันสุดทางจริงๆ 1125 01:02:24,282 --> 01:02:25,825 เลือกจ้างคน 1126 01:02:25,908 --> 01:02:29,412 มีภาพลักษณ์ที่กำหนดไว้ในใจ โฆษณาก็ต้องออกมาตามแบบที่กำหนดไว้ 1127 01:02:29,495 --> 01:02:31,080 ไม่มีใครคิดเลยว่า 1128 01:02:31,164 --> 01:02:34,625 เราต้องมานั่งคุยกันเรื่องความหลากหลาย และการยอมรับในความแตกต่าง 1129 01:02:34,709 --> 01:02:37,879 และต้องทำให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วมด้วย 1130 01:02:37,962 --> 01:02:39,881 พวกเขาทุ่มไปกับการเป็นแบรนด์ที่เลือกคน 1131 01:02:39,964 --> 01:02:43,217 ทุ่มไปกับการพูดว่า "เราขายไลฟ์สไตล์" 1132 01:02:43,301 --> 01:02:48,014 "เราต้องการให้ตัวแทนในร้าน หน้าเหมือนนายแบบที่อยู่ในโฆษณา" 1133 01:02:48,097 --> 01:02:51,517 "เราต้องการให้คนเชื่อมโยง ไลฟ์ไตล์แบบนี้เข้ากับแบรนด์เรา" 1134 01:02:51,601 --> 01:02:57,356 "เราจะไม่หยุดเลือกปฏิบัติในการถ่ายทอด รสนิยมและสุนทรียภาพของเราหรอก" 1135 01:02:57,690 --> 01:02:58,775 (ปี 2013) 1136 01:02:58,858 --> 01:03:01,694 (#มั่นใจในแบบที่ตัวเองเป็น #ทเวิร์ก #เซลฟี่) 1137 01:03:01,778 --> 01:03:04,697 หนึ่งในเหตุผลที่ผมไม่ใส่อะเบอร์ครอมบี 1138 01:03:04,781 --> 01:03:07,158 นอกจากราคาที่แพงหูฉี่ 1139 01:03:07,241 --> 01:03:09,076 ก็เพราะผมใส่ไม่ได้จริงๆ 1140 01:03:09,160 --> 01:03:11,162 ตอนนั้นผมเป็นเด็กเกย์ตัวอ้วน ฐานะยากจน 1141 01:03:11,245 --> 01:03:13,539 คุณสมบัติสามอย่างที่คนชอบบูลลี่ 1142 01:03:13,623 --> 01:03:17,585 คืนหนึ่ง ผมเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่ถึงดึก 1143 01:03:17,668 --> 01:03:19,629 สมัยนั้นไม่มีอะไรน่าสนุกนักหรอก 1144 01:03:19,712 --> 01:03:22,381 ส่วนมากก็อ่านข่าว ผมเห็นบทความหนึ่ง 1145 01:03:22,465 --> 01:03:24,842 เกี่ยวกับผู้ชายชื่อไมค์ เจฟฟรีส์ ผมไม่เคยได้ยินชื่อเขา 1146 01:03:24,926 --> 01:03:26,886 ผมอ่านเจอคำพูดหนึ่งที่เขียนว่า 1147 01:03:26,969 --> 01:03:31,974 "ทุกๆ โรงเรียนย่อมมีเด็กที่เท่ และเด็กที่ไม่ค่อยเท่เท่าไร 1148 01:03:32,058 --> 01:03:34,936 พูดตามตรงเลยว่าเราพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเด็กเท่ 1149 01:03:35,019 --> 01:03:37,605 เรามุ่งขายให้เด็กหน้าตาดี มีความเป็นอเมริกันทั้งแท่ง 1150 01:03:37,688 --> 01:03:39,065 และมีเพื่อนเยอะ" 1151 01:03:39,565 --> 01:03:40,566 "เราเลือกลูกค้าใช่ไหม 1152 01:03:41,317 --> 01:03:42,485 แน่นอน" 1153 01:03:42,568 --> 01:03:45,530 แล้วผมก็พบว่ามันเป็นบทความจากเมื่อเจ็ดปีก่อน 1154 01:03:45,613 --> 01:03:48,324 ผู้ชายคนนี้พูดแบบนี้เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว 1155 01:03:48,407 --> 01:03:49,742 และไม่มีใครทำอะไรเลย 1156 01:03:50,743 --> 01:03:54,121 เพราะเขาเป็นคนที่ทรงอำนาจมากๆ ใช่ไหม นั่นแหละคือปัญหา 1157 01:03:54,205 --> 01:03:56,666 เขาไม่ได้เป็นแค่ซีอีโอของบริษัทเสื้อผ้า 1158 01:03:57,333 --> 01:03:58,793 เขาคือคนที่สร้างภาพของความเท่ 1159 01:04:00,586 --> 01:04:04,215 ผมก็เลยเริ่มการรณรงค์เรียกร้อง ให้อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ออกมาขอโทษ 1160 01:04:04,298 --> 01:04:06,801 และเริ่มผลิตเสื้อผ้าสำหรับคนไซส์ใหญ่ 1161 01:04:07,802 --> 01:04:10,847 และผมก็รวบรวมรายชื่อสื่อมาได้สัก 200 ชื่อ 1162 01:04:10,930 --> 01:04:13,724 แล้วผมก็ส่งข้อมูลนี้ไปให้คนหลายร้อย 1163 01:04:14,350 --> 01:04:15,226 แล้วผมก็เข้านอน 1164 01:04:16,185 --> 01:04:18,145 บทสัมภาษณ์ตั้งแต่ปี 2006 1165 01:04:18,229 --> 01:04:20,857 ของไมค์ เจฟฟรีส์ 1166 01:04:20,940 --> 01:04:21,983 เป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้ง 1167 01:04:22,483 --> 01:04:25,653 หากคุณกำลังมองหาเสื้อผู้หญิงไซส์เอ็กซ์แอล 1168 01:04:25,736 --> 01:04:26,612 คุณคงไม่มีโชคหรอก 1169 01:04:26,696 --> 01:04:30,283 เพราะซีอีโอร้านค้าปลีกสุดอินเทรนด์ ไม่อยากขายให้คุณ 1170 01:04:30,366 --> 01:04:31,367 ผมว่าเขาทำเกินไปนะ 1171 01:04:31,450 --> 01:04:33,661 ใช่ เขาทำเกินไปเป็นล้านๆ ครั้งได้แล้วมั้ง 1172 01:04:33,744 --> 01:04:35,454 เลิกช็อปที่อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์เถอะ 1173 01:04:35,538 --> 01:04:37,498 พวกเขาใช่คำว่า "ผู้หญิงอ้วน" 1174 01:04:38,374 --> 01:04:41,377 มันปรากฏในทวิตเตอร์และเป็นกระแสทันที 1175 01:04:41,460 --> 01:04:45,715 แล้วก็เกิดแคมเปญที่คนพากันเรียกร้อง ให้ขับไล่ไมค์ เจฟฟรีส์ออกจากตำแหน่ง 1176 01:04:46,340 --> 01:04:48,092 อีบ้า แกคงจะมีประโยชน์กว่านี้ 1177 01:04:48,175 --> 01:04:50,803 ถ้าทำเสื้อผ้าให้คิม คาร์แดเชียน ยัดตูดอ้วนๆ ของนางลงไปได้ 1178 01:04:50,887 --> 01:04:53,973 ผู้ชายคนนี้ไม่เห็นหล่อเลย ไอ้แก่เอ๊ย 1179 01:04:54,056 --> 01:04:56,475 อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ เป็นหนึ่งในที่ที่เหยียดที่สุด 1180 01:04:56,559 --> 01:04:57,602 ที่ผมเคยไปมาเลย 1181 01:04:57,685 --> 01:04:59,478 ห่วยแตกทั้งสินค้าและคนที่อยู่เบื้องหลัง 1182 01:04:59,562 --> 01:05:01,647 แถมเสื้อผ้าก็แพงเว่อร์ 1183 01:05:01,731 --> 01:05:04,817 ไม่ว่าเสื้อของคุณจะใหญ่พอ ที่ฉันจะยัดนมเข้าไปได้หรือไม่ 1184 01:05:05,610 --> 01:05:07,194 ฉันจะไม่ซื้อของร้านคุณเด็ดขาด 1185 01:05:07,278 --> 01:05:10,656 เขาบอกว่าถ้าบริษัทพยายามขายลูกค้าทุกไซส์ บริษัทก็จะมีปัญหา 1186 01:05:10,740 --> 01:05:13,117 ถ้าไม่ทำให้ใครสักคนรู้สึกแปลกแยก ก็จะไม่น่าตื่นเต้น 1187 01:05:13,659 --> 01:05:15,036 ขอดูหน้าเขาอีกครั้งได้ไหมคะ 1188 01:05:17,455 --> 01:05:21,709 ถ้าคุณตัดสินคนว่าเขาเท่แค่ไหน เพียงแค่ชายตามอง 1189 01:05:21,792 --> 01:05:24,128 ถ้าคุณจ้างแต่คนที่หน้าตาดี 1190 01:05:24,211 --> 01:05:25,630 ทำไมไม่จ้างคนที่ทำงานดีแทน 1191 01:05:26,339 --> 01:05:29,133 ผมสัมภาษณ์ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เป็นตัวตั้งตัวตีให้บอยคอต 1192 01:05:29,216 --> 01:05:33,304 เธอบอกว่า "อะเบอร์ครอมบีมีอิทธิพล กับคนวัยเดียวกับเธอมากที่สุด" 1193 01:05:33,387 --> 01:05:36,807 เด็กสาวๆ คิดว่าตัวเองต้องผอมกะหร่อง 1194 01:05:36,891 --> 01:05:40,770 ส่วนหนุ่มๆ คิดว่าตัวเองต้องมีหุ่นล่ำๆ 1195 01:05:40,853 --> 01:05:44,231 แบบที่เห็นในรูปตอนเดินเข้าร้านและในโฆษณา 1196 01:05:44,857 --> 01:05:49,195 เธอบอกว่าไม่มีแบรนด์ไหนที่จะส่งอิทธิพล ต่อตัวเธอและเพื่อนๆ มากขนาดนี้ 1197 01:05:49,278 --> 01:05:51,489 ตอนม.ปลาย ผมเป็นโรคเบื่ออาหาร 1198 01:05:51,572 --> 01:05:54,909 ผมเลยรู้ว่าคำพูดแบบนั้น 1199 01:05:54,992 --> 01:05:57,828 และถ้อยคำแบบนั้นมันส่งผลร้าย ต่อจิตใจของเด็กวัยรุ่นยังไงบ้าง 1200 01:05:57,912 --> 01:06:00,790 ซึ่งนั่นคือกลุ่มคนที่พวกเขาส่งสาส์นให้ ใช่ไหม 1201 01:06:00,873 --> 01:06:02,750 นั่นคือกลุ่มผู้บริโภคของเขา 1202 01:06:02,833 --> 01:06:06,170 พวกเขาบอกคนหนุ่มสาวเหล่านี้ว่า ถ้าไม่ได้มีหน้าตาแบบนี้ 1203 01:06:06,253 --> 01:06:08,255 ถ้าไม่ใช่คนแบบนี้ 1204 01:06:08,339 --> 01:06:10,049 ก็ไม่เหมาะที่จะใส่เสื้อผ้าแบรนด์นี้ 1205 01:06:10,549 --> 01:06:15,972 ผู้คนพูดถึงเรื่องนี้และทำข่าวเรื่องนี้ อยู่นานเป็นหลายสัปดาห์ 1206 01:06:16,055 --> 01:06:18,474 และเราก็ได้รับโทรศัพท์ จากอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 1207 01:06:18,557 --> 01:06:21,686 บอกว่า "นี่ อยากมาโอไฮโอไหม 1208 01:06:21,769 --> 01:06:23,938 มาช่วยพวกเราหน่อย" 1209 01:06:24,021 --> 01:06:25,648 "ช่วยดูว่าเราจะแก้ไขปัญหานี้ได้ไหม" 1210 01:06:25,731 --> 01:06:28,234 "ดูว่าเราจะสามารถบรรลุ ข้อตกลงอะไรกันได้หรือเปล่า" 1211 01:06:28,317 --> 01:06:29,485 ก็มีผม 1212 01:06:29,568 --> 01:06:32,488 ซีอีโอของสมาคมศึกษา อาการผิดปกติที่เกี่ยวกับการรับประทานอาหาร 1213 01:06:32,571 --> 01:06:34,448 ผู้ทำแคมเปญจาก Change.org 1214 01:06:34,532 --> 01:06:37,535 และผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรม การกินอาหารผิดปกติอีกสองคน 1215 01:06:37,618 --> 01:06:42,415 ผมก็ไปคุยกับพวกเขา ไม่ใช่แค่เรื่องการกีดกันขนาดรูปร่าง 1216 01:06:42,498 --> 01:06:43,708 ทำไมการเลือกปฏิบัติถึงไม่ดี 1217 01:06:43,791 --> 01:06:48,170 ผมอธิบายให้พวกเขาฟังว่า ทำไมนี่ถึงเป็นการตัดสินใจทางธุรกิจที่โง่มาก 1218 01:06:48,254 --> 01:06:52,466 ในเมื่อ 60 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มลูกค้าคุณ ใส่เสื้อผ้าพลัสไซส์ 1219 01:06:53,009 --> 01:06:54,427 ทำไมถึงไม่โอบรับพวกเขาไว้บ้าง 1220 01:06:55,052 --> 01:06:56,595 แล้วก็มีทีมเดินเข้ามา 1221 01:06:56,679 --> 01:07:00,391 ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาร่าเริง ผิวขาวจั๊วะ 1222 01:07:01,017 --> 01:07:02,268 ยกเว้นแค่คนเดียว 1223 01:07:02,351 --> 01:07:06,564 หัวหน้าฝ่ายความหลากหลาย แน่นอนว่าเขาเป็นคนดำ 1224 01:07:06,647 --> 01:07:08,733 "เราพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเด็กเท่" 1225 01:07:09,442 --> 01:07:11,777 คุณคิดยังไงตอนที่ไมค์พูดแบบนั้น 1226 01:07:12,695 --> 01:07:13,529 เอ่อ… 1227 01:07:14,113 --> 01:07:15,865 ผมขออนุญาตไม่ตอบนะครับ 1228 01:07:15,948 --> 01:07:20,995 คุณคงเดาไม่ผิดหรอกว่า ผมรู้สึกยังไง ณ ตอนนั้น 1229 01:07:21,078 --> 01:07:22,038 คือมัน… 1230 01:07:22,121 --> 01:07:25,166 เรานั่งกันอยู่ที่โต๊ะประชุมยาวๆ 1231 01:07:25,249 --> 01:07:29,211 แล้วผมก็พูดว่า "เดี๋ยวก่อนนะ แล้วไมค์ล่ะ ไมค์ เจฟฟรีส์อยู่ไหน" 1232 01:07:29,295 --> 01:07:32,006 ไมค์ เจฟฟรีส์ ไม่มาร่วมประชุมด้วย 1233 01:07:32,965 --> 01:07:37,595 ผมเลยเอาใบคำร้อง 2,000 หน้า ออกมากองบนโต๊ะ 1234 01:07:37,678 --> 01:07:39,847 เขาเอากล่องใส่ของออกมาวาง ข้างในมีอะไรน่ะ 1235 01:07:40,347 --> 01:07:44,935 แล้วผมก็วางปึกกระดาษต่อหน้า ผู้บริหารทีละคนแบบใส่อารมณ์ 1236 01:07:45,019 --> 01:07:45,853 เล่นใหญ่มาก 1237 01:07:45,936 --> 01:07:46,937 แล้วผมก็พูดว่า 1238 01:07:48,314 --> 01:07:51,150 "ใบคำร้องแต่ละกองนี่ 1239 01:07:51,233 --> 01:07:53,778 เป็นตัวแทนของคนหลายพันคน 1240 01:07:53,861 --> 01:07:56,489 ที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณทำในฐานะแบรนด์" 1241 01:07:56,572 --> 01:07:59,408 หัวหน้าฝ่ายความหลากหลายดูจะไม่พอใจ 1242 01:07:59,492 --> 01:08:00,951 และเอาหนังสือเล่มเล็กๆ ออกมา 1243 01:08:01,035 --> 01:08:05,956 เขาพยายามอธิบายให้ผมฟังว่า บริษัทสนับสนุนเรื่องความหลากหลายมากแค่ไหน 1244 01:08:06,040 --> 01:08:08,959 และสาธยายสิ่งดีๆ ที่พวกเขาเคยทำ เพื่อสนับสนุนความหลากหลาย 1245 01:08:09,043 --> 01:08:11,045 ในร้านสาขาต่างๆ ตั้งแต่เขาเข้ามาทำงานที่นี่ 1246 01:08:11,128 --> 01:08:12,546 แล้วเขาก็ส่งหนังสือนั่นมาให้ผม 1247 01:08:12,630 --> 01:08:15,591 ผมเอามาดู แล้วก็โยนกลับไปให้เขา 1248 01:08:15,674 --> 01:08:17,635 "มันไม่มีความหมายอะไรหรอก ดูในห้องนี้สิ 1249 01:08:17,718 --> 01:08:19,303 คุณเป็นคนผิวสีคนเดียวเลยนะ" 1250 01:08:19,386 --> 01:08:23,474 ถ้าดูพวกตำแหน่งสูงๆ จะเจอแต่คนอายุมากและเป็นคนขาวซะส่วนใหญ่ 1251 01:08:23,557 --> 01:08:25,935 คนพวกนั้นเข้ามาทำงานตั้งแต่รุ่นแรกๆ 1252 01:08:26,018 --> 01:08:29,563 พวกเขาเป็นคนกำหนดว่า ใครที่มีรูปลักษณ์แบบอะเบอร์ครอมบี 1253 01:08:31,232 --> 01:08:34,276 จริงที่ในระดับพนักงานร้าน มีความหลากหลายอยู่บ้าง 1254 01:08:34,360 --> 01:08:37,655 แล้วระดับรองประธานล่ะ 1255 01:08:37,738 --> 01:08:41,951 แล้วคนที่นั่งเก้าอี้คณะผู้บริหารล่ะ 1256 01:08:42,034 --> 01:08:44,912 มันจึงกลายเป็นคำถามเรื่องระบบ 1257 01:08:44,995 --> 01:08:48,165 ซึ่งกลายเป็นคำถามที่มีความท้าทายมากขึ้นไปอีก 1258 01:08:48,249 --> 01:08:50,668 มันไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ไขได้ 1259 01:08:50,751 --> 01:08:54,463 โดยการทุ่มจ้างคนมาเพิ่มภายในหนึ่งปี 1260 01:08:54,547 --> 01:08:57,007 ผู้บริหารระดับสูงยังมีแต่คนขาวอยู่ดี 1261 01:08:57,091 --> 01:09:00,177 ปัญหาส่วนใหญ่จากคำสั่งศาล มาจากฝ่ายร้านสาขามากกว่า 1262 01:09:00,261 --> 01:09:03,514 เพราะสัดส่วนพนักงานในร้าน เป็น 90 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมด 1263 01:09:03,597 --> 01:09:05,558 เราถึงเน้นแก้ปัญหาตรงจุดนั้นซะส่วนใหญ่ 1264 01:09:06,684 --> 01:09:12,148 เหมือนมีกำแพงที่มองไม่เห็นคอยกั้นคนผิวสีอยู่ 1265 01:09:12,231 --> 01:09:16,402 พอไปที่ออฟฟิศ เห็นผู้จัดการภูมิภาคกลุ่มใหม่ 1266 01:09:16,485 --> 01:09:18,696 ก็จะดูละว่า "มีคนผิวสีบ้างไหม" 1267 01:09:18,779 --> 01:09:19,780 "โอเค ไม่มี" 1268 01:09:20,406 --> 01:09:24,118 คงเป็นการใจจืดใจดำกับเหล่าผู้จัดการผิวสี ที่ผมทำงานด้วยเป็นปีๆ 1269 01:09:24,201 --> 01:09:27,121 และรู้สึกขอบคุณพวกเขาจริงๆ 1270 01:09:27,204 --> 01:09:28,956 ถ้าอย่างน้อยๆ ผมไม่ได้พูดว่า 1271 01:09:29,915 --> 01:09:32,209 มันไม่ใช่ไม่เหยียดเชื้อชาติ 1272 01:09:33,752 --> 01:09:35,462 "มันไม่ใช่ไม่เหยียดเชื้อชาติ" เหรอ 1273 01:09:36,422 --> 01:09:40,885 ฉันคิดว่าหลักฐานที่แสดงถึงเนื้อแท้ ของความรับผิดชอบของพวกผู้บริหาร 1274 01:09:40,968 --> 01:09:43,387 ปรากฏอย่างชัดแจ้ง หลังคำตัดสินตามความยินยอมสิ้นสุดลง 1275 01:09:43,470 --> 01:09:47,933 พวกเขาพัฒนาขึ้นเยอะในระดับผิวเผิน 1276 01:09:48,017 --> 01:09:51,687 แต่ไม่ได้ใกล้เคียงระดับ ที่พวกเขาสัญญาว่าจะทำเลย 1277 01:09:51,770 --> 01:09:54,982 ซึ่งมันไม่มีข้อผูกมัดอะไรเลยด้วย นี่แหละที่เป็นปัญหาใหญ่เลย 1278 01:09:55,065 --> 01:10:00,362 (อะเบอร์ครอมบีไม่เคยถูกพบว่า ได้ละเมิดคำตัดสินตามความยินยอม) 1279 01:10:00,446 --> 01:10:02,698 (แต่ผู้ตรวจการณ์ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากศาลพบว่า) 1280 01:10:02,781 --> 01:10:04,867 (อะเบอร์ครอมบีมักทำได้ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน) 1281 01:10:04,950 --> 01:10:07,828 (รวมถึงการมองข้ามคนกลุ่มน้อย ในด้านการตลาดและการจ้างงาน) 1282 01:10:07,912 --> 01:10:09,413 เมื่อคำสั่งศาลสิ้นสุดลง 1283 01:10:09,496 --> 01:10:13,083 ก็จะเริ่มเห็นสิ่งที่เรียกว่า "ความเหนื่อยล้า" 1284 01:10:13,167 --> 01:10:14,919 ใช่ไหม คนเริ่มรู้สึกแบบ… 1285 01:10:15,794 --> 01:10:17,546 แล้วก็เริ่มเจอกับความรู้สึกต่อต้าน 1286 01:10:17,630 --> 01:10:19,256 "เราต้องทำแบบนี้จริงๆ เหรอ" 1287 01:10:19,340 --> 01:10:22,176 "เราต้องแบ่งเงินมากขนาดนี้ เพื่อไปทำเรื่องนั้นจริงๆ เหรอ" 1288 01:10:22,259 --> 01:10:23,219 แล้วสรุปว่า… 1289 01:10:24,595 --> 01:10:26,013 เรามีความมุ่งมั่นที่จะทำเรื่องนี้ 1290 01:10:26,805 --> 01:10:27,640 จริงหรือเปล่า 1291 01:10:27,723 --> 01:10:29,850 ผมเคยอยู่ตำแหน่งเดียวกับท็อดด์มาก่อน 1292 01:10:29,934 --> 01:10:32,186 เป็นตำแหน่งที่อยู่ยากมาก 1293 01:10:32,269 --> 01:10:35,564 ก็เลยมักจะโยนให้ คนที่ไม่มีความสำคัญทำซะส่วนใหญ่ 1294 01:10:35,648 --> 01:10:38,234 แล้วก็พูดว่า "โอเค แก้ไขปัญหาทั้งหมดซะ" 1295 01:10:38,817 --> 01:10:42,780 เขาถูกกำหนดให้ล้มเหลวอยู่แล้ว และผมคิดว่านั่นคือเหตุผลที่เขาลาออกในที่สุด 1296 01:10:43,864 --> 01:10:47,576 ผมมักจะระมัดระวังคำพูด เวลาผมพูดถึงประสบการณ์ของผม 1297 01:10:47,660 --> 01:10:48,911 เพราะตอนที่ผมออกมา 1298 01:10:48,994 --> 01:10:52,748 บริษัทแตกต่างจากตอนที่ผมเริ่มเข้าไปทำมาก 1299 01:10:52,831 --> 01:10:54,041 อย่างน้อย 1300 01:10:54,875 --> 01:10:56,252 ผมก็มองว่าเป็นความสำเร็จ 1301 01:10:58,337 --> 01:11:00,965 (เน็ตฟลิกซ์แอนด์ชิล ปี 2015) 1302 01:11:01,548 --> 01:11:02,383 โอเค 1303 01:11:06,262 --> 01:11:08,055 (ซาแมนธา เอลาฟ บล็อกเกอร์สายแฟชั่น) 1304 01:11:08,138 --> 01:11:09,390 ฉันชื่อซาแมนธา เอลาฟ 1305 01:11:10,266 --> 01:11:12,393 ฉันเกิดและโตในเมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมา 1306 01:11:12,977 --> 01:11:16,021 ฉันเคยไปสมัครงานที่อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 1307 01:11:16,105 --> 01:11:18,983 มีคำถามหนึ่งที่พวกเขาถาม ซึ่งพอมาคิดตอนนี้ มันก็ตลกดี 1308 01:11:19,066 --> 01:11:20,985 แต่ในฐานะคนกลุ่มน้อย มันสะดุดใจฉัน 1309 01:11:21,068 --> 01:11:23,737 คำถามก็คือ "ความหลากหลาย มีความหมายอย่างไรสำหรับคุณ" 1310 01:11:24,446 --> 01:11:26,782 ฉันเลยคิดว่า "ฉันน่าจะเข้ากับที่นี่ได้ดีเลย" 1311 01:11:27,449 --> 01:11:29,451 ตอนสัมภาษณ์ ฉันก็ใส่กางเกงยีนส์ 1312 01:11:29,535 --> 01:11:31,287 แล้วก็น่าจะใส่เสื้อสีขาว 1313 01:11:31,370 --> 01:11:34,164 และสวมผ้าพันคอสีดำตามประเพณี 1314 01:11:35,040 --> 01:11:37,001 หลังสัมภาษณ์เสร็จ เธอบอกว่าจะโทรมา 1315 01:11:37,084 --> 01:11:38,627 แล้วแจ้งวันปฐมนิเทศน์ 1316 01:11:39,712 --> 01:11:42,256 ฉันจำได้ว่าเพื่อนส่งข้อความมาถามว่า 1317 01:11:42,339 --> 01:11:44,967 "ผู้จัดการฉันโทรหาเธอหรือยังน่ะ ปฐมนิเทศน์เมื่อไหร่ " 1318 01:11:45,050 --> 01:11:48,137 ฉันตอบไปว่า "ยังไม่โทรมาเลย" แล้วเพื่อนก็บอก "เดี๋ยวถามให้นะ" 1319 01:11:49,305 --> 01:11:52,683 ทุกครั้งที่เพื่อนฉันถามผู้จัดการ ผู้จัดการมักจะมีท่าทีแปลกๆ 1320 01:11:53,684 --> 01:11:56,437 หลังจากที่เธอสัมภาษณ์ฉัน เธอก็โทรหาผู้จัดการเขตทันที 1321 01:11:56,520 --> 01:11:58,355 เพราะฉันโพกผ้าคลุมหัวสีดำ 1322 01:11:58,981 --> 01:12:01,567 ตอนนั้นพวกเขามีนโยบายไม่เอาสีดำ 1323 01:12:02,359 --> 01:12:05,779 เขาบอกเธอว่า "ไม่สำคัญหรอกว่า ผู้สมัครจะใส่สีอะไร แต่เธอทำงานที่นี่ไม่ได้" 1324 01:12:07,781 --> 01:12:11,452 ฉันไม่รู้ว่าจะคิดยังไงดี เพราะนั่นเป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้กับฉัน 1325 01:12:11,535 --> 01:12:13,871 หลังจากนั้น ฉันอยู่ที่บ้านเพื่อนแม่ 1326 01:12:13,954 --> 01:12:16,290 แล้วฉันก็เล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น 1327 01:12:16,373 --> 01:12:20,711 เธอจึงบอกฉันว่าฉันควรจะติดต่อ "แคร์" 1328 01:12:20,794 --> 01:12:24,006 สภาความสัมพันธ์อเมริกันอิสลาม 1329 01:12:24,631 --> 01:12:28,510 หลังจากที่ฉันติดต่อไป พวกเขาก็เปิดเผยเรื่องของฉันต่อสาธารณะ 1330 01:12:28,594 --> 01:12:30,262 (กำลังไต่สวนคดีจ้างงานเด็กมุสลิม) 1331 01:12:30,346 --> 01:12:33,474 พวกเขาตัดสินใจที่จะยื่นคดีฉัน ต่อคณะกรรมการว่าด้วยโอกาสในการทำงาน 1332 01:12:33,557 --> 01:12:35,976 ดูว่าจะรับไว้เป็นคดีฟ้องร้องหรือไม่ 1333 01:12:36,894 --> 01:12:40,314 ตอนนั้นแหละค่ะ ที่เริ่มจะเป็นเรื่องใหญ่ 1334 01:12:42,524 --> 01:12:43,942 คนโพสต์รูปฉันเยอะแยะไปหมด 1335 01:12:44,026 --> 01:12:46,278 และผู้คนพากันส่งข้อความมาหาฉัน 1336 01:12:46,779 --> 01:12:49,365 ยิ่งในทวิตเตอร์ยิ่งบ้าคลั่งกันใหญ่เลย 1337 01:12:50,407 --> 01:12:52,993 จนฉันมาถึงจุดที่หยุดอ่านคอมเมนต์ 1338 01:12:53,827 --> 01:12:56,038 แม้จะมีข้อความที่เป็นพลังบวกและกำลังใจ 1339 01:12:56,121 --> 01:12:58,374 แต่ก็มีคนเกลียดฉันเยอะเหมือนกัน 1340 01:13:00,334 --> 01:13:02,169 ฉันโดนขู่ฆ่าสองสามครั้ง 1341 01:13:03,587 --> 01:13:06,173 น่าจะเป็นความเกลียดชังที่มีต่อศาสนาฉันมากกว่า 1342 01:13:06,924 --> 01:13:09,593 และความเชื่อของฉัน ที่เลือกที่จะปิดบังร่างกายตัวเอง 1343 01:13:10,344 --> 01:13:13,305 แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนมุสลิมบางคนเขียนว่า 1344 01:13:14,181 --> 01:13:16,141 "ทำไมอยากทำงานที่อะเบอร์ครอมบีก็ไม่รู้" 1345 01:13:18,394 --> 01:13:21,146 และก็มีคนเขียนว่า "กลับประเทศไปเลยไป" 1346 01:13:21,230 --> 01:13:24,441 ซึ่งมันก็ตลก เพราะฉันเกิดและโต ในเมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมานี่แหละ 1347 01:13:24,525 --> 01:13:25,776 จะให้ฉันไปไหนล่ะ 1348 01:13:28,028 --> 01:13:31,990 อะเบอร์ครอมบียังคงยืนกรานตามเดิมในเรื่องนี้ 1349 01:13:32,074 --> 01:13:33,784 และคิดว่าพวกเขาเป็นฝ่ายถูก 1350 01:13:33,867 --> 01:13:37,538 เหล่าทนายของอะเบอร์ครอมบี พยายามเปรียบเทียบเรื่องนี้กับ 1351 01:13:37,621 --> 01:13:38,747 การสวมหมวกแก๊ป 1352 01:13:38,831 --> 01:13:42,459 โดยพูดว่า "เราไม่อนุญาต ให้พนักงานสวมหมวกแก๊ปด้วยซ้ำ" 1353 01:13:42,543 --> 01:13:47,339 แต่ฮิญาบกับหมวกแก๊ปมันเอามาเทียบกันไม่ได้นะ 1354 01:13:47,923 --> 01:13:51,260 ฉันจำได้ว่าหยิบโทรศัพท์มาดู แล้วก็เห็นคนกระหน่ำส่งข้อความมา 1355 01:13:52,845 --> 01:13:56,306 ศาลสูงสุดประกาศรายชื่อ 100 คดี ที่จะทำการพิจารณาคดี 1356 01:13:56,390 --> 01:13:57,891 และคดีฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น 1357 01:13:57,975 --> 01:13:59,685 นั่นเป็นเหตุการณ์ที่ค่อนข้างใหญ่เลย 1358 01:13:59,768 --> 01:14:04,022 ข้อแรก มีบริษัทที่จะยอมให้เรื่องนี้ ไปถึงชั้นศาลสูงสุดเลยเนี่ยนะ 1359 01:14:04,106 --> 01:14:05,232 นับว่าเป็นเรื่องแปลกมาก 1360 01:14:05,315 --> 01:14:08,235 บริษัทส่วนใหญ่จะอยากเจรจายอมความ 1361 01:14:08,318 --> 01:14:12,322 เพราะกลัวคนจะพูดครหากัน ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ก็ตามที 1362 01:14:12,406 --> 01:14:16,201 ข้อโต้แย้งของพวกเขาก็คือ ถ้าพวกเขาจ้างฉัน ฉันจะทำให้แบรนด์เสียหาย 1363 01:14:16,285 --> 01:14:18,370 ซึ่งจะส่งผลเสียต่อยอดขายตามไปด้วย 1364 01:14:18,454 --> 01:14:21,039 นั่นคือข้อโต้แย้งของพวกเขา ว่าฉันจะทำให้ยอดขายเสียหาย 1365 01:14:21,123 --> 01:14:22,833 เพราะรูปลักษณ์ฉันไม่ตรงตามที่กำหนดไว้ 1366 01:14:24,126 --> 01:14:28,172 วันนี้ศาลสูงสุดปฏิเสธข้อโต้แย้งนั้น ด้วยคะแนนเสียงแปดต่อหนึ่ง 1367 01:14:29,047 --> 01:14:31,717 คณะผู้พิพากษากล่าวว่าการกระทำ ของอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ 1368 01:14:31,800 --> 01:14:34,761 ถือเป็นการละเมิด รัฐบัญญัติสิทธิพลเมือง ค.ศ. 1964 1369 01:14:36,555 --> 01:14:38,932 ถ้าท่านผู้พิพากษาสกาเลีย ถึงขั้นที่บอกว่าคุณเลือกปฏิบัติ 1370 01:14:39,016 --> 01:14:40,434 แปลว่าต้องทำอะไรผิดแล้วละ 1371 01:14:41,310 --> 01:14:44,938 มีแปดท่านที่ตัดสินให้ฉันเป็นฝ่ายถูก ยกเว้นหนึ่งท่าน 1372 01:14:45,022 --> 01:14:49,485 ผู้พิพากษาเพียงท่านเดียวที่ไม่ตัดสิน ให้ฉันเป็นฝ่ายถูกเป็นคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน 1373 01:14:49,568 --> 01:14:52,070 คือฉันไม่ได้จะพูดว่า เพราะคุณเป็นอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน 1374 01:14:52,154 --> 01:14:55,741 แล้วคุณต้องเข้าข้างฉันเพราะพวกเราแตกต่างนะ 1375 01:14:55,824 --> 01:14:57,284 แต่ฉันก็แค่แปลกใจเฉยๆ 1376 01:14:58,994 --> 01:15:02,164 จนถึงทุกวันนี้ พอมีคนบอกว่า "คุณอยู่ในหนังสือวิชาประวัติศาสตร์ฉันด้วย" 1377 01:15:02,247 --> 01:15:04,041 หรือไม่ก็ "ฉันเคยอ่านเรื่องคุณด้วย" 1378 01:15:04,124 --> 01:15:07,044 "ฉันเรียนกฎหมาย เคยยกกรณีคุณมาพูดด้วย" 1379 01:15:07,127 --> 01:15:10,214 ฉันว่าตอนนั้นฉันไม่รู้หรอกว่าได้ทำอะไรลงไป 1380 01:15:13,550 --> 01:15:16,220 ดูสิ อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ สู้ไปจนถึงศาลชั้นสูงสุดเลยนะ 1381 01:15:16,303 --> 01:15:19,014 การเลือกปฏิบัติไม่ใช่แค่ความผิดพลาดเดี่ยวๆ 1382 01:15:19,097 --> 01:15:21,058 ไม่ใช่แค่ประโยคที่หลุดปากมาเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว 1383 01:15:21,141 --> 01:15:23,435 แต่มันคือทั้งแบรนด์ มันคือตัวตนของพวกเขานี่แหละ 1384 01:15:23,519 --> 01:15:27,189 ความเลือกปฏิบัติมันฝังรากลึกอยู่ทุกอณูขน 1385 01:15:28,065 --> 01:15:30,859 ตอนนั้น ชื่อเสียงของอะเบอร์ครอมบี ก็เกือบจะแย่พอๆ กัน 1386 01:15:30,943 --> 01:15:32,694 ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้า 1387 01:15:32,778 --> 01:15:35,864 หรือที่ใส่ลายโลโก้มากเกินไป หรือโลโก้มันล้าสมัย อะไรแบบนี้ 1388 01:15:35,948 --> 01:15:38,992 แต่เป็นเรื่องที่ว่า "แบรนด์นี้กำลังจะมีปัญหาแล้ว" 1389 01:15:39,076 --> 01:15:41,620 เพราะอย่างที่นักวิเคราะห์คงจะกล่าวว่า 1390 01:15:41,703 --> 01:15:45,415 เรื่องทั้งหมดนี้ทำให้ ธุรกิจการขายเสื้อผ้ามีอันต้องเป๋ไป 1391 01:15:45,499 --> 01:15:47,084 (ประชุมสายยอดประจำไตรมาส) 1392 01:15:47,167 --> 01:15:48,126 (เสียงไมค์ เจฟฟรีส์) 1393 01:15:48,210 --> 01:15:52,047 ไตรมาสที่สองดูจะมีปัญหามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1394 01:15:52,130 --> 01:15:55,008 เราไม่พอใจกับผลลัพธ์เลย 1395 01:15:55,092 --> 01:16:00,556 และกำลังพยายามอย่างหนัก เพื่อทำให้ทิศทางในไตรมาสสามและต่อๆ ไปดีขึ้น 1396 01:16:01,682 --> 01:16:03,559 (เมื่ออะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์โรยรา) 1397 01:16:03,642 --> 01:16:07,854 อะเบอร์ครอมบีกลายเป็นแบรนด์ตกกระป๋อง ภายใต้การบริหารของไมค์ เจฟฟรีส์ 1398 01:16:08,397 --> 01:16:11,441 แต่ไมค์ เจฟฟรีส์ทำเงินได้มหาศาลอยู่ดี 1399 01:16:12,317 --> 01:16:15,237 ไมค์ถูกบรรดาผู้ถือหุ้นรุมฟ้องร้อง โดยบอกว่า 1400 01:16:15,320 --> 01:16:18,991 "ทำไมถึงให้เงินเดือนตัวเอง ปีละ 40 ล้านดอลลาร์ 1401 01:16:19,074 --> 01:16:23,287 ทั้งๆ ที่มูลค่าหุ้นตกลงมา ต่ำเรี่ยดินอยู่ที่สิบเปอร์เซ็นต์ของหุ้นยอดแย่" 1402 01:16:23,370 --> 01:16:25,622 ฉันไปเจอคู่มือ 1403 01:16:25,706 --> 01:16:29,668 วิธีการปฏิบัติต่อไมค์ เจฟฟรีส์ บนเครื่องบินบริษัทมาด้วยค่ะ 1404 01:16:29,751 --> 01:16:31,295 กฎมาตรฐานบนเครื่องบิน 1405 01:16:32,296 --> 01:16:37,342 คู่มือ 47 หน้า สำหรับเครื่องบินเจ็ท ของผู้บริหารอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิทช์ 1406 01:16:37,926 --> 01:16:43,807 คงไม่เป็นการกล่าวเกินจริง ถ้าจะบอกว่ามีข้อปฏิบัติที่จุกจิกมาก 1407 01:16:43,890 --> 01:16:46,643 หากผู้โดยสารกำลังรับประทานอาหารอุณหภูมิเย็น 1408 01:16:46,727 --> 01:16:49,605 ห้ามลูกเรือทานอาหารอุณหภูมิร้อนเด็ดขาด 1409 01:16:49,688 --> 01:16:51,273 เป็นข้อปฏิบัติที่ 1410 01:16:51,356 --> 01:16:54,234 ไม่เคยเห็นว่าถูกเปิดเผยต่อสาธารณะที่ไหนเลย 1411 01:16:54,901 --> 01:16:57,696 เมื่อไมเคิลหรือแขกขออะไร 1412 01:16:57,779 --> 01:16:59,323 ให้ตอบว่า 1413 01:17:00,198 --> 01:17:01,033 "ไม่มีปัญหาครับ" 1414 01:17:01,658 --> 01:17:06,580 ควรใช้คำตอบรับนี้แทนคำว่า "ได้เลยครับ" หรือ "สักครู่นะครับ" 1415 01:17:08,081 --> 01:17:11,668 การเปลี่ยนแปลงที่เขาทำให้กับบริษัท มันก็ดีมากเลยนะ 1416 01:17:11,752 --> 01:17:16,506 ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ผมไม่คิดว่ามันยั่งยืนเลยสักนิด 1417 01:17:16,590 --> 01:17:19,468 ผมไม่รู้สึกว่าเขาวางกลยุทธ์ระยะยาวเอาไว้เลย 1418 01:17:19,551 --> 01:17:23,972 เหมือนกับแค่ทำแบบว่า "ทำให้บริษัทโตให้ได้มากที่สุด 1419 01:17:24,056 --> 01:17:25,057 แล้วดูซิว่าจะเป็นยังไง 1420 01:17:25,140 --> 01:17:28,435 คุณไม่อยากให้แบรนด์ดังชั่วข้ามคืนหรอก 1421 01:17:28,518 --> 01:17:32,147 เพราะแบรนด์ที่เกิดเร็ว มักจะดับเร็ว 1422 01:17:33,899 --> 01:17:36,193 อะเบอร์ครอมบีกำลังเผชิญสถานการณ์ขั้นวิกฤติ 1423 01:17:36,693 --> 01:17:39,237 แต่ดูเหมือนไมค์ เจฟฟรีส์ผู้เป็นซีอีโอจะยังไม่รู้ 1424 01:17:40,364 --> 01:17:43,867 ในยุคปี 2000 ธุรกิจของอะเบอร์ครอมบีเริ่มเปลี่ยนไป 1425 01:17:44,701 --> 01:17:46,620 ฉันคิดว่าเพราะลูกค้าเริ่มเปลี่ยนไป 1426 01:17:46,703 --> 01:17:48,163 (ลูกค้าวัยรุ่นน้อยลง) 1427 01:17:48,246 --> 01:17:51,583 มันเริ่มสูญเสียบารมีในหมู่วัยรุ่น 1428 01:17:51,667 --> 01:17:55,921 (นี่คือแบรนด์ค้าปลีก ที่คนเกลียดที่สุดในสหรัฐอเมริกา) 1429 01:17:56,004 --> 01:17:57,255 ไม่เท่เอาซะเลยแหละ 1430 01:17:57,339 --> 01:18:02,135 ถ้าใส่ชุดอะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์นี่ เหมือนใส่ชุดกรรมกรก่อสร้างเลย 1431 01:18:02,219 --> 01:18:05,097 ถ้าคุณทำงานก่อสร้าง คุณจะสวมรองเท้าบูทไปทำงาน 1432 01:18:05,180 --> 01:18:08,725 พอกลับบ้านก็จะถอดรองเท้าบูท ถอดเสื้อผ้าออก 1433 01:18:08,809 --> 01:18:09,810 แล้วก็ไปอาบน้ำ 1434 01:18:09,893 --> 01:18:13,230 และใส่ชุดอื่นเพื่อที่จะ ไปทำอะไรอย่างอื่นหลังจากนั้น 1435 01:18:13,313 --> 01:18:15,774 เสื้ออะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ เอาไว้ใส่แบบนั้นแหละ 1436 01:18:15,857 --> 01:18:19,569 พอถึงจุดหนึ่ง เด็กที่ได้รู้ว่า การถูกรังแกไม่ใช่เรื่องสนุกก็โตขึ้น 1437 01:18:19,653 --> 01:18:22,864 และตัดสินใจว่าไม่อยากจะใช้เงิน ในที่ที่ทำให้พวกเขารู้สึกแย่อีกต่อไป 1438 01:18:22,948 --> 01:18:25,409 อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ก็เลย… 1439 01:18:26,243 --> 01:18:28,161 สูญเสียออร่าบางอย่างไป 1440 01:18:28,245 --> 01:18:33,875 เพราะการเลือกขายลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เป็นรากฐานของความสำเร็จของพวกเขา 1441 01:18:34,876 --> 01:18:39,423 และการแบ่งแยกแบบนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องเท่อีกต่อไปแล้ว 1442 01:18:40,757 --> 01:18:42,801 มีข่าวด่วนจากทางวงการค้าปลีกค่ะ 1443 01:18:42,884 --> 01:18:46,388 ซีอีโออะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ ตัดสินใจที่จะก้าวลงจากตำแหน่ง 1444 01:18:49,099 --> 01:18:54,438 เขายังคุยโทรศัพท์กับคณะผู้บริหาร เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคมอยู่เลย 1445 01:18:55,313 --> 01:18:58,150 แล้วพอวันจันทร์ที่ 8 ธันวาคมก็ไม่มาทำงาน 1446 01:18:58,233 --> 01:18:59,234 และไม่มาทำงานอีกเลย 1447 01:18:59,317 --> 01:19:02,362 และหลายคนก็ไม่เห็นเขาอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น 1448 01:19:02,446 --> 01:19:04,990 (ไมค์ เจฟฟรีส์ลาออก พร้อมเงินเกษียณ 27 ล้านดอลลาร์) 1449 01:19:05,073 --> 01:19:08,452 ฉันว่าคนคงคิดว่าไมค์จะอยู่ยงคงกระพัน 1450 01:19:08,535 --> 01:19:10,454 คงจะนั่งและอดคิดไม่ได้ว่า 1451 01:19:10,537 --> 01:19:14,833 "ผู้คนจะทนพฤติกรรมแบบนี้ 1452 01:19:14,916 --> 01:19:17,586 คำพูดแบบนี้ การบริหารแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน" 1453 01:19:17,669 --> 01:19:19,588 คงคิดว่ามันคงเป็นอย่างนี้ตลอดไป 1454 01:19:19,671 --> 01:19:22,340 ฉันจำได้ว่า ตอนที่เขาไป… 1455 01:19:23,258 --> 01:19:25,051 ฉันนี่แบบว่า "ว้าว" 1456 01:19:25,135 --> 01:19:27,095 แบบว่า "ในที่สุดพวกเขาก็กำจัดเขาได้ซะที" 1457 01:19:27,596 --> 01:19:30,891 สุดท้ายทุกอย่างก็ต้องมีวันจบสินะ 1458 01:19:32,976 --> 01:19:33,894 (ปัจจุบัน) 1459 01:19:33,977 --> 01:19:36,980 (#โฆษณาสปอนเซอร์ #มีทู #ชีวิตคนดำมีค่า) 1460 01:19:38,273 --> 01:19:41,401 เลส เว็กซ์เนอร์พัวพันกับข่าวอื้อฉาวมาตลอด 1461 01:19:41,485 --> 01:19:43,445 ผมแค่จะไปประชุมครับ ขอบคุณ 1462 01:19:44,237 --> 01:19:47,991 เลส เว็กซ์เนอร์ประกาศว่า เขาจะลงจากตำแหน่งซีอีโอของแอลแบรนส์ 1463 01:19:49,534 --> 01:19:53,705 เขายังคงถูกจับตาดู ในฐานะที่ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจฟฟรีย์ เอ็ปสตีน 1464 01:19:53,789 --> 01:19:57,167 ผู้ต้องโทษคดีล่วงละเมิดทางเพศ และนักการเงินฉาวโฉ่ 1465 01:19:57,667 --> 01:20:00,796 เขาไม่เพียงแต่เซ็นยกทรัพย์สินทั้งหมด ให้แก่เจฟฟรีย์ เอ็ปสตีน 1466 01:20:00,879 --> 01:20:04,841 แต่เขายังให้เจฟฟรีย์เป็นตัวแทน หานางแบบให้กับวิกตอเรียส์ซีเคร็ต 1467 01:20:06,218 --> 01:20:07,969 หนึ่งในเหตุผลหลัก 1468 01:20:08,053 --> 01:20:11,765 ที่ทำให้เจฟฟรีย์ เอ็ปสตีน สามารถเอาตัวเองไปอยู่ท่ามกลาง 1469 01:20:11,848 --> 01:20:14,142 สาวสวยมากมายได้บ่อยๆ 1470 01:20:14,226 --> 01:20:17,604 ก็เพราะพวกเธอคิดว่า เขาจะทำให้พวกเธอรุ่งโรจน์หรือรุ่งริ่งก็ได้ 1471 01:20:17,687 --> 01:20:20,690 นิวยอร์กไทมส์เปิดเผยข่าวที่น่าตกใจ 1472 01:20:20,774 --> 01:20:24,402 บรูซ เวเบอร์มีความผิดฐานประพฤติผิด และล่วงละเมิดทางเพศมาเป็นเวลาหลายปี 1473 01:20:25,487 --> 01:20:28,782 บรูซ เวเบอร์จะถูกนายแบบมากมาย รุมฟ้องกันอย่างแน่นอน 1474 01:20:29,658 --> 01:20:33,328 บรูซบอกว่าผมเกร็งเกินไป ก็เลยมาสอนให้ผมฝึกหายใจ 1475 01:20:33,995 --> 01:20:35,705 ตอนนั้น ผมตัวแข็งทื่อ 1476 01:20:35,789 --> 01:20:37,624 ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไง 1477 01:20:37,707 --> 01:20:41,253 ประสบการณ์ทั้งหมด มันน่ากลัวและน่าอับอายสำหรับผม 1478 01:20:41,336 --> 01:20:43,046 (บรูซปฏิเสธข้อกล่าวหา) 1479 01:20:43,129 --> 01:20:45,715 (เขากล่าวแก่นิวยอร์กไทมส์ว่า "ผมใช้การฝึกหายใจแบบนี้) 1480 01:20:45,799 --> 01:20:48,802 (และได้ถ่ายรูปนายแบบเปลือย เป็นพันๆ คนตลอดระยะอาชีพการงาน) 1481 01:20:48,885 --> 01:20:50,679 (ไม่เคยสัมผัสใครในทางไม่เหมาะสม") 1482 01:20:50,762 --> 01:20:52,722 (หนึ่งในคดีฟ้องร้องเขาถูกยกฟ้องในปี 2020) 1483 01:20:52,806 --> 01:20:55,308 (ปี 2021 เขาเจรจายอมความ คดีล่วงละเมิดฯ สองคดี) 1484 01:20:55,392 --> 01:20:58,061 (กับอดีตนายแบบ โดยไม่เปิดเผยจำนวนเงินและไม่ยอมรับผิด) 1485 01:20:58,144 --> 01:21:05,068 (ไม่มีรายงานว่ามีนายแบบกล่าวหาไมค์ เจฟฟรีส์ ว่าประพฤติมิชอบทางเพศ) 1486 01:21:06,903 --> 01:21:12,826 การเปลี่ยนแปลงมักจะเกิดขึ้น เมื่อคนที่พูดถึงปัญหาสามารถชี้แนะ 1487 01:21:12,909 --> 01:21:16,413 ว่าบริษัทสูญเสียเงินไปอย่างง่ายๆ อย่างไรบ้าง 1488 01:21:16,496 --> 01:21:18,582 สืบเนื่องจากการกระทำในปัจจุบัน 1489 01:21:18,665 --> 01:21:20,166 เมื่อนั้นจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น 1490 01:21:20,876 --> 01:21:21,793 การวางตำแหน่งใหม่ 1491 01:21:21,877 --> 01:21:24,337 และพาให้แบรนด์ก้าวไปข้างหน้า มันไม่ได้ง่ายเสมอไป 1492 01:21:24,421 --> 01:21:27,424 บอกตามตรงว่าเรามีช่วงที่ตะกุกตะกัก อยู่หลายจุดในการเดินทาง 1493 01:21:27,507 --> 01:21:30,218 เราไม่ใช่บริษัทที่เราเคยเป็น 1494 01:21:30,302 --> 01:21:32,345 ที่สามารถลบช่องทางโซเชียลให้ขาวสะอาด 1495 01:21:32,429 --> 01:21:34,389 ลบประวัติศาสตร์ให้ขาวสะอาดได้ 1496 01:21:34,472 --> 01:21:37,934 (ไมค์ เจฟฟรีส์ไม่ได้อยู่กับบริษัทตั้งแต่ปี 2014) 1497 01:21:38,018 --> 01:21:40,645 (อะเบอร์ครอมบีกล่าวผ่านโฆษกว่าพวกเขาได้…) 1498 01:21:40,729 --> 01:21:44,399 ("วิวัฒนาการจนกลายมาเป็นที่ที่คน เป็นส่วนหนึ่ง แทนที่จะพยายาม'เข้าพวก'") 1499 01:21:44,482 --> 01:21:47,402 (แฟรน โฮโรวิทช์ ซีอีโอ กล่าวว่าคำพูดนี้ "ทำให้ไฟส่องสว่าง") 1500 01:21:47,485 --> 01:21:49,112 (และ "เสียงเพลงเบาลง" ในร้าน) 1501 01:21:49,195 --> 01:21:51,615 (เธอพุ่งเป้าไปที่การ "ฟังเสียงลูกค้าของเรา") 1502 01:21:52,365 --> 01:21:54,743 การให้คนหลากหลายพื้นเพมาเป็นตัวแทน 1503 01:21:54,826 --> 01:21:58,997 และรู้สึกมีส่วนร่วมในแบรนด์ของคุณ คือการทำธุรกิจที่ฉลาด 1504 01:21:59,080 --> 01:22:01,708 มีธุรกิจที่ฉลาดๆ แนวเลือกปฏิบัติ 1505 01:22:01,791 --> 01:22:04,669 และเลือกลูกค้าอยู่เหมือนกัน เพราะไม่ว่ายังไงก็จะต้องมี 1506 01:22:04,753 --> 01:22:07,797 คนประเภทที่อยากมองว่าตัวเองเป็นเด็กเท่ 1507 01:22:07,881 --> 01:22:10,508 แต่มันน่าทึ่งมากที่ได้เห็นว่า มีแบรนด์มากมายในสมัยนี้ 1508 01:22:10,592 --> 01:22:14,095 ให้ความสำคัญกับความคิดที่ว่า เด็กเท่สามารถเป็นใครก็ได้ ใครๆ ก็เป็นได้ 1509 01:22:15,889 --> 01:22:19,976 และพวกเขาหันไปทางอื่น ด้วยความเคารพความหลากหลายของนางแบบ 1510 01:22:20,060 --> 01:22:22,562 อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ประกาศว่า 1511 01:22:22,646 --> 01:22:26,316 จะไม่จ้างพนักงานจากหน้าตาที่สวยหล่ออีกต่อไป 1512 01:22:26,399 --> 01:22:29,986 ซึ่งคงทำให้พนักงานคนใหม่ ที่พวกเขาจ้างรู้สึกดีน่าดู 1513 01:22:31,655 --> 01:22:34,699 น่าเสียดายที่เราไม่อาจไปสู่จุดนั้นเร็วกว่านี้ 1514 01:22:37,118 --> 01:22:39,788 อะเบอร์ครอมบีแอนด์ฟิตช์ เป็นตัวอย่างให้เราเห็นข้อเสีย 1515 01:22:39,871 --> 01:22:41,331 มากกว่าที่จะเห็นความยอดเยี่ยม 1516 01:22:41,998 --> 01:22:43,541 พวกเขาไม่ได้คิดค้นความชั่วร้าย 1517 01:22:44,125 --> 01:22:45,961 พวกเขาไม่ได้คิดค้นการแบ่งชนชั้น 1518 01:22:46,044 --> 01:22:48,129 พวกเขาแค่เอามันมารวมกันไว้เฉยๆ 1519 01:22:48,213 --> 01:22:52,384 มันเป็นตัวแทนของ ส่วนที่เลวร้ายที่สุดของประวัติศาสตร์อเมริกา 1520 01:22:52,467 --> 01:22:56,096 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคา วิธีการจ้างงาน และรูปลักษณ์ 1521 01:22:56,179 --> 01:22:59,891 มันคือทุกสิ่งที่เราไม่อยากให้อเมริกาเป็น 1522 01:23:00,684 --> 01:23:02,936 เราทุกคนชอบคิดว่าเราเติบโตเกินกว่านั้นแล้ว 1523 01:23:03,019 --> 01:23:04,896 เราดีขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย 1524 01:23:06,439 --> 01:23:10,402 แต่ไม่รู้มันบ่งบอกว่าเราเป็นคนยังไง ที่ปล่อยให้แบรนด์นี้ดังอยู่ได้ตั้งนาน 1525 01:23:10,485 --> 01:23:11,319 อาจเป็นเพราะ… 1526 01:23:12,487 --> 01:23:14,781 ตอนนั้นเราอยากเป็นที่ชื่นชอบจริงๆ 1527 01:23:15,448 --> 01:23:20,870 เราถูกแสงของตัวเองบังตาไว้ 1528 01:23:20,954 --> 01:23:23,540 เหมือนแบบว่า "ตัวเรานี้ช่างดี ช่างรุ่งเรืองซะเหลือเกิน" 1529 01:23:23,623 --> 01:23:26,334 แต่ตอนนั้นยังไม่มีสื่อโซเชียลไง 1530 01:23:26,418 --> 01:23:29,963 ตอนนั้นก็อาจมีคนเท่ากับตอนนี้ 1531 01:23:30,046 --> 01:23:32,674 ที่เกลียดการกระทำของเรา คนที่รู้สึกแย่เพราะเรา 1532 01:23:32,757 --> 01:23:35,885 คนที่ไม่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง คนที่ไม่รู้สึกเชื่อมโยงถึงใคร 1533 01:23:35,969 --> 01:23:38,596 แต่พวกเขาไม่มีเวทีที่จะสามารถพูดออกมาได้ 1534 01:23:38,680 --> 01:23:40,390 แต่ตอนนี้มีแล้ว เพราะงั้นก็อาจจะ… 1535 01:23:40,473 --> 01:23:43,476 นี่อาจไม่ใช่กระแสการตื่นรู้ของคนในสังคม 1536 01:23:43,560 --> 01:23:45,478 แต่เป็นเพราะตอนนี้เราได้ยินเสียงของทุกคน 1537 01:23:45,562 --> 01:23:47,605 และเราต้องสนใจฟัง 1538 01:23:50,275 --> 01:23:55,238 ผมว่ามันมีขีดจำกัดอยู่ว่า แบรนด์สามารถทำได้แค่ไหน 1539 01:23:55,321 --> 01:23:58,575 เพราะสุดท้ายแล้ว ก็ต้องพยายามขายสินค้าให้ได้ ถูกไหม 1540 01:23:58,658 --> 01:24:01,578 คุณจะสามารถขายความหลากหลาย และการเป็นส่วนหนึ่งได้ไหม 1541 01:24:01,661 --> 01:24:05,165 ในเมื่อจริงๆ แล้วคุณแค่พยายามขายเสื้อคอวี 1542 01:24:05,999 --> 01:24:08,001 ผมหวังว่าบริษัทต่างๆ จะเข้าใจว่า 1543 01:24:08,084 --> 01:24:11,379 พวกเขามีบทบาทสำคัญในการกำหนดวัฒนธรรม 1544 01:24:11,463 --> 01:24:12,922 บทสนทนา 1545 01:24:13,006 --> 01:24:17,177 กำหนดว่าใครที่ควรจะมีคุณค่าในสังคม 1546 01:24:17,260 --> 01:24:20,680 เรื่องราวของอะเบอร์ครอมบี จริงๆ แล้วก็คือตัวอย่างของระบบเส็งเคร็ง 1547 01:24:20,764 --> 01:24:22,932 ซึ่งเคยเป็นวัฒนธรรมของเรา… 1548 01:24:24,934 --> 01:24:26,227 เมื่อสิบปีก่อนนี้เอง 1549 01:24:26,311 --> 01:24:31,900 มันเป็นวัฒนธรรมที่นำเอา 1550 01:24:31,983 --> 01:24:37,530 ทุกวิสัยทัศน์ในโลกของชาวอเมริกันผิวขาว ที่มีบรรพบุรุษเป็นโปรเตสแตนท์มาใช้ 1551 01:24:37,614 --> 01:24:43,953 มันเป็นวัฒนธรรมที่นิยามความงาม ว่าคือความผอม ขาว และเยาว์วัย 1552 01:24:44,037 --> 01:24:50,335 และเป็นวัฒนธรรมที่ยินดีที่จะกีดกันผู้คน 1553 01:24:52,003 --> 01:24:53,505 ตอนนี้เราแก้ปัญหาได้หรือยังคะ 1554 01:24:55,256 --> 01:24:56,341 ยังหรอกค่ะ 1555 01:26:18,339 --> 01:26:21,259 คำบรรยายโดย เพียงพัชร์ น้ำทิพย์