1 00:00:09,043 --> 00:00:11,483 ‎นี่คือดาวเคราะห์ของเรา 2 00:00:11,563 --> 00:00:12,963 ‎ดาวเคราะห์โลก 3 00:00:13,043 --> 00:00:15,363 ‎ดาวเคราะห์ที่ฉันยืนอยู่ 4 00:00:16,043 --> 00:00:18,283 ‎ถ้าไม่ได้กำลังบิน 5 00:00:18,363 --> 00:00:20,283 ‎หรือตกจากตึกสูง 6 00:00:20,363 --> 00:00:22,243 ‎คุณก็น่าจะยืนอยู่บนโลก 7 00:00:22,323 --> 00:00:26,723 ‎นี่คือเรื่องราวอันน่าทึ่ง ‎ว่ามนุษยชาติเปลี่ยนแปลงโลก 8 00:00:26,803 --> 00:00:29,723 ‎จากการที่มีแต่ธรรมชาติไร้สาระ 9 00:00:29,803 --> 00:00:32,443 ‎มาเป็นของทันสมัยอย่างนี้ได้อย่างไร 10 00:00:32,523 --> 00:00:36,043 ‎ซึ่งทำโดยใช้เพียงแค่สองมือคู่นี้ 11 00:00:37,003 --> 00:00:38,483 ‎ความคิดจินตนาการ 12 00:00:38,563 --> 00:00:41,763 ‎เครื่องมือ กระแสไฟฟ้า และอินเทอร์เน็ต 13 00:00:42,723 --> 00:00:45,723 ‎นี่คือการเดินทางที่จะพาฉันไปทุกมุมโลก 14 00:00:45,803 --> 00:00:48,603 ‎ตามที่เงินและข้อจำกัดช่วงโควิดจะอำนวย 15 00:00:49,283 --> 00:00:53,003 ‎ใกล้ชิดกับความสำเร็จ ‎ที่น่าตื่นตาของสปีชีส์เรา 16 00:00:53,083 --> 00:00:54,083 ‎(โรงละครไลเซียม) 17 00:00:54,163 --> 00:00:56,003 ‎และฉันจะได้ถามคำถาม… 18 00:00:56,563 --> 00:00:57,643 ‎คุณเป็นใครคะ 19 00:00:57,723 --> 00:01:00,483 ‎นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ คนปราดเปรื่อง 20 00:01:00,563 --> 00:01:04,123 ‎ที่จะช่วยฉันไขความลับของอารยธรรมมนุษย์ 21 00:01:04,203 --> 00:01:07,683 ‎ทำไมคนถึงบอกว่าการสร้างพีระมิดเป็นปริศนา 22 00:01:07,763 --> 00:01:11,283 ‎ทั้งๆ ที่มันเป็นแค่อิฐก่อทรงสามเหลี่ยม 23 00:01:12,803 --> 00:01:15,323 ‎นี่ไม่ใช่แค่เรื่องดาวเคราะห์ของเรา 24 00:01:15,403 --> 00:01:19,043 ‎แต่เป็นเรื่องโลกของเราด้วย ‎หรือทั้งสองอย่าง 25 00:01:19,123 --> 00:01:21,123 ‎เดินทางกับฉัน ฟิโลมีนา คังค์ 26 00:01:21,203 --> 00:01:24,443 ‎เพื่อสำรวจโลกที่เราร่วมกันสร้างขึ้น 27 00:01:24,523 --> 00:01:27,643 ‎ในรายการ มองโลกผ่านคังค์ 28 00:01:35,963 --> 00:01:38,963 ‎(มองโลกผ่านคังค์) 29 00:01:42,363 --> 00:01:44,443 ‎(ตอนแรก: ปฐมกาล) 30 00:01:44,523 --> 00:01:47,803 ‎โลกใบนี้ไม่มีอารยธรรมมาหลายพันล้านปี 31 00:01:47,883 --> 00:01:51,683 ‎มีแค่พืช สัตว์และก๊าซที่ล่องลอยในอากาศ 32 00:01:51,763 --> 00:01:54,603 ‎คงเป็นภาพที่สวยดี แต่ก็น่าเบื่อด้วย 33 00:01:55,443 --> 00:01:58,443 ‎จนสิ่งมีชีวิตหนึ่งเข้ามาพลิกโฉมทุกสิ่ง 34 00:01:58,523 --> 00:01:59,963 ‎มนุษย์ 35 00:02:00,643 --> 00:02:02,603 ‎มนุษย์ยุคแรกคล้ายเรามั้ย 36 00:02:02,683 --> 00:02:05,883 ‎มีเนื้อเหมือนอย่างเราๆ มั้ยคะ 37 00:02:05,963 --> 00:02:07,443 ‎คือว่า 38 00:02:07,523 --> 00:02:10,123 ‎เรียกกันอย่างเนื้อวัว เนื้อหมูมั้ย 39 00:02:10,203 --> 00:02:12,163 ‎เท่าที่ทราบ พวกเขาเหมือนเรา 40 00:02:12,243 --> 00:02:13,763 ‎(ดร. พอล บาห์น นักโบราณคดี) 41 00:02:13,843 --> 00:02:17,123 ‎แม้จะพบแค่โครงกระดูก ‎แต่กระดูกพวกเขาเหมือนเรา 42 00:02:17,203 --> 00:02:20,443 ‎เราสันนิษฐานว่ากระดูกมีเนื้อและหนังหุ้ม 43 00:02:20,523 --> 00:02:23,683 ‎คล้ายกับเรา แต่ไม่รู้ว่ามีชื่อเฉพาะ 44 00:02:23,763 --> 00:02:24,683 ‎ที่ใช้เรียกมั้ย 45 00:02:24,763 --> 00:02:26,323 ‎เรียกเนื้อเฉยๆ เหรอคะ 46 00:02:26,403 --> 00:02:28,123 ‎น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ 47 00:02:28,203 --> 00:02:30,563 ‎แต่คิดชื่อเฉพาะ 48 00:02:30,643 --> 00:02:32,203 ‎มาเรียกเนื้อมนุษย์น่าจะยาก 49 00:02:34,283 --> 00:02:35,163 ‎"เคื้อ" 50 00:02:37,243 --> 00:02:39,203 ‎เราชอบคิดว่ามนุษย์ยุคแรกโง่ 51 00:02:39,283 --> 00:02:41,683 ‎เพราะคิ้วดกหนาและส่งเสียงฮึ่มๆ 52 00:02:41,763 --> 00:02:44,643 ‎แต่แท้จริงแล้ว พวกเขาเป็นนักประดิษฐ์ 53 00:02:45,883 --> 00:02:47,843 ‎เป็นพวกแรกที่ใช้เครื่องมือ 54 00:02:47,923 --> 00:02:51,363 ‎ซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ลืมเลือนไปแล้ว 55 00:02:51,443 --> 00:02:54,403 ‎เราถึงต้องการความช่วยเหลือจากคนแท้ๆ 56 00:02:56,643 --> 00:03:00,963 ‎มนุษย์ยุคแรกสร้างเครื่องมือ ‎ขณะเดินสี่ขาได้ยังไงคะ 57 00:03:01,043 --> 00:03:04,763 ‎เราไม่คิดว่าพวกเขาเดินสี่ขานานนัก 58 00:03:04,843 --> 00:03:06,883 ‎ค่อนข้างมั่นใจว่าเดินตัวตรง 59 00:03:06,963 --> 00:03:09,003 ‎มาอย่างน้อยๆ สองล้านปี 60 00:03:09,083 --> 00:03:12,203 ‎ก็คือใช้ขาหน้าสร้างเครื่องมือ 61 00:03:12,283 --> 00:03:13,843 ‎หรือขาหลังคะ 62 00:03:13,923 --> 00:03:15,843 ‎มนุษย์น่าจะไม่ถนัด 63 00:03:15,923 --> 00:03:17,203 ‎ใช้เท้าสร้างสรรค์อะไร 64 00:03:17,283 --> 00:03:20,443 ‎ดังนั้น ก็คงใช้ขาหน้าสร้างเครื่องมือแหละ 65 00:03:20,523 --> 00:03:23,443 ‎นั่นสินะ หรือก็คือใช้ขาคู่แรกใช่มั้ยคะ 66 00:03:23,523 --> 00:03:26,803 ‎ใช่ คิดว่าต้องใช้ขาคู่แรกสร้างเครื่องมือ 67 00:03:26,883 --> 00:03:29,963 ‎ที่ทุกวันนี้เราเรียกว่ามือกับแขน 68 00:03:31,043 --> 00:03:33,723 ‎สิ่งหนึ่งที่มนุษย์คิดค้นคือไฟ 69 00:03:33,803 --> 00:03:36,443 ‎ให้มองเห็นยามกลางคืน ให้ความอบอุ่น 70 00:03:36,523 --> 00:03:40,163 ‎และยืดชีวิตน่าเบื่อให้ยาวขึ้นอย่างน่าเศร้า 71 00:03:40,243 --> 00:03:43,763 ‎แต่พวกเขาต้องคิดค้นสิ่งอื่น ‎มาฆ่าเวลายามบ่ายด้วย 72 00:03:43,843 --> 00:03:45,883 ‎สิ่งที่ว่านั้นคือศิลปะ 73 00:03:48,923 --> 00:03:53,523 ‎ฉันไม่ได้หลงทางเข้าถ้ำ ‎หรือเป็นมนุษย์หมาป่าหรอกนะ 74 00:03:54,363 --> 00:03:58,683 ‎แต่เพราะโปรดิวเซอร์รายการขอให้เข้ามา 75 00:03:58,763 --> 00:04:00,403 ‎ดูงานศิลปะบนผนังถ้ำ 76 00:04:01,683 --> 00:04:04,003 ‎ภาพเขียนผนังถ้ำอย่างนี้ 77 00:04:04,083 --> 00:04:07,963 ‎คือหลักฐานชิ้นแรกๆ ‎ที่แสดงถึงอารยธรรมบนโลก 78 00:04:10,043 --> 00:04:11,603 ‎ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ 79 00:04:12,723 --> 00:04:17,323 ‎ศิลปินยุคแรกๆ ‎เริ่มต้นด้วยการวาดสิ่งใกล้ตัว 80 00:04:17,403 --> 00:04:18,763 ‎เช่นฝ่ามือตัวเอง 81 00:04:18,843 --> 00:04:21,122 ‎ก่อนจะขยับไปเล่าเรื่องราว 82 00:04:21,203 --> 00:04:24,923 ‎แรกๆ ก็ยังน่าเบื่อ เช่นเล่าว่าวัวยืนนิ่งๆ 83 00:04:25,483 --> 00:04:29,243 ‎แต่ไม่นาน ก็เริ่มสร้างสรรค์ฉากต่อสู้แบบนี้ 84 00:04:29,323 --> 00:04:32,243 ‎คนปะทะวัวแบบภาพสองมิติ 85 00:04:32,323 --> 00:04:34,603 ‎สำหรับมนุษย์ถ้ำ เรื่องนี้สนุก 86 00:04:34,683 --> 00:04:36,683 ‎ไม่แพ้ เร็ว แรงทะลุนรก เจ็ด 87 00:04:38,043 --> 00:04:41,123 ‎มีภาพเขียนไหน ‎เอาไปดัดแปลงเป็นหนังแล้วบ้าง 88 00:04:41,203 --> 00:04:44,403 ‎แต่คงขอลิขสิทธิ์ไม่ได้ใช่ไหมคะ 89 00:04:44,483 --> 00:04:47,203 ‎ภาพยนตร์ได้รับความนิยมทีหลัง 90 00:04:47,283 --> 00:04:48,923 ‎การเสื่อมของภาพวาดผนัง 91 00:04:49,003 --> 00:04:51,123 ‎ไม่มีภาพเขียนที่ทำให้คนแบบว่า 92 00:04:51,203 --> 00:04:53,403 ‎"พระเจ้า เรื่องนี้สุดยอด 93 00:04:53,483 --> 00:04:56,563 ‎ต้องให้สตีเวน สปีลเบิร์กเอาไปสร้าง" เหรอ 94 00:04:56,643 --> 00:04:59,483 ‎คงยากที่จะสร้างหนังชั่วโมงครึ่ง 95 00:04:59,563 --> 00:05:01,923 ‎จากภาพบนผนังถ้ำสั้นๆ 96 00:05:02,003 --> 00:05:05,443 ‎บางคนเชื่อว่าภาพโหดร้ายพวกนี้เป็นพิธีกรรม 97 00:05:05,523 --> 00:05:08,643 ‎เพื่อความโชคดีในการต่อสู้ที่จะมาถึง 98 00:05:08,723 --> 00:05:11,323 ‎ไม่รู้ทำไมมนุษย์ถึงทำสงครามกับวัว 99 00:05:11,403 --> 00:05:13,403 ‎น่าเศร้า คงไม่มีวันรู้ด้วย 100 00:05:13,483 --> 00:05:17,643 ‎เราคงไม่มีวันรู้ ‎ชื่อศิลปินหรือวัวอีกต่างหาก 101 00:05:17,723 --> 00:05:21,043 ‎เพราะคนที่วาดภาพนี้น่าจะเสียชีวิตไปแล้ว 102 00:05:22,363 --> 00:05:25,563 ‎การต้องล่าสัตว์ทุกวันลำบากจริงๆ 103 00:05:25,643 --> 00:05:29,403 ‎จนกระทั่งมีคนเสนอไอเดียการกินพืช 104 00:05:29,483 --> 00:05:32,963 ‎ที่ไม่ต้องเปลืองแรงจับ เพราะวิ่งหนีไม่ได้ 105 00:05:34,403 --> 00:05:39,323 ‎ความเกียจคร้านนี้ ‎คือสาเหตุการคิดค้นการปลูกพืช 106 00:05:39,403 --> 00:05:42,683 ‎เป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่และเป็นอันตราย 107 00:05:42,763 --> 00:05:45,403 ‎เพราะคุณอาจเผลอล้มใส่อุปกรณ์ต่างๆ 108 00:05:45,483 --> 00:05:46,923 ‎ที่กองอยู่บนพื้นได้ 109 00:05:47,923 --> 00:05:51,163 ‎ชาวไร่ชาวนายุคแรก ‎ปลูกข้าวสาลี หัดทำขนมปัง 110 00:05:51,803 --> 00:05:54,843 ‎ทั้งยังปลูกข้าวบาร์เลย์ ถั่วนานาชนิด 111 00:05:54,923 --> 00:05:56,883 ‎เพื่อทำเบอร์เกอร์วีแกน 112 00:05:56,963 --> 00:05:58,603 ‎มากินกับขนมปัง 113 00:05:58,683 --> 00:06:00,963 ‎แต่โชคดีที่ไม่ต้องทำถึงขั้นนั้น 114 00:06:02,003 --> 00:06:04,803 ‎พวกเขายังคิดค้นสิ่งนี้ รั้วรอบ 115 00:06:04,883 --> 00:06:07,683 ‎เครื่องจักรไม้สุดไฮเทคที่ใช้กักสัตว์ 116 00:06:08,843 --> 00:06:12,403 ‎มนุษย์ลิดรอนเสรีภาพ ‎แกะ ไก่ และแพะอย่างรวดเร็ว 117 00:06:12,483 --> 00:06:15,403 ‎รวมถึงศัตรูตัวฉกาจ พวกวัว 118 00:06:15,483 --> 00:06:17,563 ‎ฟาร์มเป็นเหมือนสวนสัตว์ 119 00:06:17,643 --> 00:06:21,203 ‎ยกเว้นแต่ว่าที่สวนสัตว์ ‎คุณจิ้มเลือกสัตว์ที่ถูกใจ 120 00:06:21,283 --> 00:06:22,523 ‎เอามาฆ่ากินไม่ได้ 121 00:06:22,603 --> 00:06:25,683 ‎นอกจากสวนสัตว์นั้นมีปัญหาการเงิน 122 00:06:25,763 --> 00:06:27,523 ‎และเจ้าของหมดหวังแล้ว 123 00:06:28,163 --> 00:06:32,123 ‎ตัวไหนกินหรือขี่ไม่ได้ ‎มนุษย์ก็เปลี่ยนเป็นสัตว์เลี้ยง 124 00:06:32,203 --> 00:06:33,523 ‎ถ้าหากพวกมันน่ารัก 125 00:06:33,603 --> 00:06:36,843 ‎มนุษย์ยุคแรกเลี้ยงหมาเพื่อเป็นเพื่อนคู่กาย 126 00:06:38,083 --> 00:06:40,563 ‎และเลี้ยงแมวไว้ทำอะไรก็ไม่รู้ 127 00:06:41,283 --> 00:06:46,043 ‎นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ‎ที่ชีวิตมนุษย์สะดวกสบาย 128 00:06:46,123 --> 00:06:48,083 ‎ได้อาศัยอยู่ตามบ้านเรือน 129 00:06:48,163 --> 00:06:51,123 ‎ที่ไม่นานก็แผ่ขยายเป็นเมือง 130 00:06:51,203 --> 00:06:53,243 ‎เหลือเชื่อฉันเดินผ่านซาก 131 00:06:53,323 --> 00:06:56,003 ‎ของเมืองแรก เปล่าเลย 132 00:06:56,083 --> 00:06:59,963 ‎ซากนั่นอยู่อิรัก ‎ที่ห่างไปหลายไมล์และอันตราย 133 00:07:00,043 --> 00:07:02,563 ‎แต่ซากเมืองแห่งแรกหน้าตาคล้ายกัน 134 00:07:02,643 --> 00:07:04,363 ‎ดูไม่รู้หรอกว่าฉันไม่ได้ไป 135 00:07:04,443 --> 00:07:06,563 ‎ถ้าฉันไม่ได้เผลอหลุดปาก 136 00:07:08,003 --> 00:07:11,003 ‎ทุกวันนี้ มันเป็นแค่เศษอิฐและฝุ่น 137 00:07:11,083 --> 00:07:14,963 ‎แต่ถ้าใช้คอมพิวเตอร์จำลองสภาพสมัยรุ่งเรือง 138 00:07:15,043 --> 00:07:18,643 ‎ผลที่ออกมานั้น ตื่นตาตื่นใจที่สุด 139 00:07:18,723 --> 00:07:21,243 ‎อารยธรรมถือกำเนิดแล้ว 140 00:07:22,083 --> 00:07:24,083 ‎ใครเป็นคนคิดค้นอารยธรรมคะ 141 00:07:24,683 --> 00:07:27,003 ‎อารยธรรมไม่ใช่สิ่งที่… 142 00:07:27,083 --> 00:07:28,883 ‎(ศ. จิม อัล-คาลิลิ อาจารย์พีอีเอส) 143 00:07:28,963 --> 00:07:31,603 ‎ถูกคิดค้นขึ้นหรือเกิดขึ้นกะทันหัน 144 00:07:31,683 --> 00:07:36,203 ‎อารยธรรมที่เราพูดถึง ‎คือเมื่อมนุษย์เริ่มการเกษตร 145 00:07:36,283 --> 00:07:40,363 ‎เริ่มสร้างเมือง 146 00:07:40,443 --> 00:07:42,523 ‎บัญญัติกฎหมาย 147 00:07:42,603 --> 00:07:45,123 ‎ซึ่งค่อยๆ เกิดขึ้น 148 00:07:45,203 --> 00:07:47,923 ‎ในที่ต่างๆ ทั่วโลก ไม่ได้จู่ๆ คิดขึ้น 149 00:07:48,003 --> 00:07:53,403 ‎ไม่ใช่ฝีมือคนนิรนามแค่คนเดียวเหรอคะ 150 00:07:53,483 --> 00:07:54,523 ‎ไม่ใช่ 151 00:07:55,203 --> 00:07:58,163 ‎เพราะเราไม่ควรยอมเขาถ้าเป็นอย่างนั้น 152 00:07:58,243 --> 00:07:59,683 ‎หมายถึงเราไม่ควร… 153 00:07:59,763 --> 00:08:03,763 ‎ถ้าเป็นชายนิรนามคนหนึ่งน่ะ 154 00:08:03,843 --> 00:08:06,163 ‎มันค่อนข้างน่าสงสัย ถูกมั้ย 155 00:08:06,763 --> 00:08:09,763 ‎อารยธรรมคิดค้นขึ้นที่เมโสโปเตเมีย 156 00:08:09,843 --> 00:08:12,323 ‎โดยคนหรือกลุ่มคนไม่ทราบชื่อ 157 00:08:12,403 --> 00:08:15,483 ‎แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร พวกเขาล้ำสมัยมาก 158 00:08:15,563 --> 00:08:20,083 ‎คนเมโสโปเตเมียมีอะไรเหมือนกับเราบ้างมั้ยคะ 159 00:08:20,723 --> 00:08:22,323 ‎- มีสิ ‎- เช่นอะไร 160 00:08:23,123 --> 00:08:27,483 ‎อาวุธ, อัญมณี, โบสถ์วิหาร, สัตว์ 161 00:08:27,563 --> 00:08:31,723 ‎เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงมือเท้า ขนคิ้ว 162 00:08:31,803 --> 00:08:33,643 ‎- มีสิ มี ‎- เหรอคะ 163 00:08:34,203 --> 00:08:39,003 ‎มีอวัยวะ, รูทวาร, 164 00:08:39,082 --> 00:08:40,363 ‎รยางค์ที่ใช้งาน, 165 00:08:40,443 --> 00:08:43,003 ‎อวัยวะภายนอกและภายใน 166 00:08:43,082 --> 00:08:45,602 ‎แสดงว่ามีรูทวารเท่ากับเราถูกมั้ย 167 00:08:45,683 --> 00:08:48,962 ‎ข้อมูลวิทยาศาสตร์เท่าที่ยืนยันตอนนี้คือใช่ 168 00:08:50,163 --> 00:08:53,163 ‎และแอปสุดเลิศที่สุดแอปหนึ่ง 169 00:08:53,243 --> 00:08:56,163 ‎คือสิ่งที่เรายังใช้กันในปัจจุบัน 170 00:08:56,243 --> 00:08:57,243 ‎วงกลม 171 00:08:58,043 --> 00:09:01,043 ‎คุณอาจจะคิดว่าวงล้อเป็นสิ่งที่ซับซ้อน 172 00:09:01,123 --> 00:09:04,203 ‎แต่วิธีการทำงานของมันนั้นเรียบง่าย 173 00:09:05,723 --> 00:09:11,483 ‎วงกลมตรงนี้ หมุนรอบปุ่มนูนตรงกลาง 174 00:09:11,563 --> 00:09:17,043 ‎รอบนอกวงล้อจะกดอัดไปกับพื้น 175 00:09:17,123 --> 00:09:22,883 ‎แรงดันจะผลักให้พื้นโลกห่างออกจากคุณ 176 00:09:22,963 --> 00:09:26,363 ‎ทำให้ดูคล้ายกับคุณเคลื่อนที่ไปข้างหน้า 177 00:09:26,443 --> 00:09:29,323 ‎ซึ่งก็น่าทึ่งมาก เพราะเคลื่อนไปจริงๆ 178 00:09:30,243 --> 00:09:31,123 ‎(เมโสโปเตเมีย) 179 00:09:31,203 --> 00:09:33,403 ‎วงล้อช่วยให้คนเดินทางค้าขาย 180 00:09:33,483 --> 00:09:36,923 ‎แต่ก่อนอื่น ก็ต้องนับทรัพย์สินของตนก่อน 181 00:09:37,003 --> 00:09:40,643 ‎ซึ่งนำไปสู่ ‎การประดิษฐ์คณิตศาสตร์ที่น่าเศร้า 182 00:09:40,723 --> 00:09:42,363 ‎พูดถึงคณิตและตัวเลข 183 00:09:42,443 --> 00:09:45,723 ‎ตัวเลขยุคโบราณมีค่าน้อยกว่ายุคปัจจุบัน 184 00:09:45,803 --> 00:09:48,403 ‎หรือมีค่าเท่ากันแต่มีมากกว่าคะ 185 00:09:49,283 --> 00:09:53,483 ‎ตัวเลขมีค่าเท่าเดิมกับที่เป็นในยุคโบราณ 186 00:09:53,563 --> 00:09:55,763 ‎ผู้คนยังต้องนับสิ่งต่างๆ 187 00:09:55,843 --> 00:09:58,723 ‎แล้วตัวเลขสมัยนั้นเหมือนสมัยนี้มั้ย 188 00:09:58,803 --> 00:10:01,403 ‎หนึ่งถึงเจ็ดร้อย 189 00:10:01,483 --> 00:10:04,123 ‎และสูงสุดแค่เจ็ดร้อย 190 00:10:04,203 --> 00:10:05,843 ‎เจ็ดร้อยไม่ใช่เลขสูงสุด 191 00:10:05,923 --> 00:10:08,163 ‎คุณจะนับถึงเลขไหนก็ได้ 192 00:10:08,243 --> 00:10:10,643 ‎ไม่ค่ะ ฉันเจอมาในยูทูบ 193 00:10:10,723 --> 00:10:13,483 ‎พอถึงเจ็ดร้อย เลขจะวนซ้ำ 194 00:10:13,563 --> 00:10:16,523 ‎แค่เปลี่ยนชื่อ หลอกให้เชื่อว่ายังเพิ่ม 195 00:10:17,243 --> 00:10:18,763 ‎ฉันส่งคลิปให้ดูมั้ย 196 00:10:19,403 --> 00:10:23,043 ‎เมื่อมีเลขเพิ่มขึ้น ‎แต่ไม่เพิ่มเกินเจ็ดร้อย 197 00:10:23,123 --> 00:10:25,483 ‎ผู้คนต้องการเครื่องช่วยนับ 198 00:10:26,363 --> 00:10:28,003 ‎ดังนั้นจึงเกิดสิ่งนี้ 199 00:10:28,083 --> 00:10:30,323 ‎นี่คือลูกคิด 200 00:10:31,203 --> 00:10:35,523 ‎พอใช้ลูกคิด ‎บรรพบุรุษสามารถคำนวณทรัพย์สิน 201 00:10:36,083 --> 00:10:39,363 ‎และอีกไม่นาน ก็คิดค้นเงินขึ้นมา 202 00:10:40,043 --> 00:10:41,883 ‎ในรูปของเงินสด 203 00:10:41,963 --> 00:10:45,363 ‎คนโบราณคิดค้นหน่วยเงิน ‎เพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้น 204 00:10:45,443 --> 00:10:48,483 ‎แต่เมื่อทำเช่นนั้น ก็คิดค้นทุนนิยมด้วย 205 00:10:48,563 --> 00:10:50,203 ‎ที่จะคร่าชีวิตทุกคน 206 00:10:50,283 --> 00:10:53,483 ‎โทษที นั่นไม่ใช่คำถาม ‎แค่อ่านเจอในทวิตเตอร์ 207 00:10:54,243 --> 00:10:56,003 ‎หลังปราบตัวเลขสำเร็จ 208 00:10:56,083 --> 00:10:59,523 ‎มนุษยชาติหันไปหา ‎สิ่งที่น่าเบื่อเสียยิ่งกว่า 209 00:10:59,603 --> 00:11:01,843 ‎ด้วยการประดิษฐ์การเขียน 210 00:11:02,883 --> 00:11:06,483 ‎การประดิษฐ์การเขียน ‎คือพัฒนาการสำคัญมั้ยคะ 211 00:11:06,563 --> 00:11:09,763 ‎หรือเป็นแค่ความสำเร็จวูบวาบ ‎แบบเพลงแรปเมทัล 212 00:11:10,483 --> 00:11:12,403 ‎ผมคิดว่าพอมีการเขียน 213 00:11:12,483 --> 00:11:15,803 ‎เกิดขึ้นมาบนโลกนี้ มันก็ไม่อาจหยุดได้อีก 214 00:11:15,883 --> 00:11:18,403 ‎ยิ่งใหญ่กว่าเพลงแรปเมทัลว่างั้น 215 00:11:18,483 --> 00:11:19,723 ‎- ใหญ่กว่า ‎- ค่ะ 216 00:11:19,803 --> 00:11:21,283 ‎เพลงแนวเอซิดแจ๊สล่ะ 217 00:11:23,283 --> 00:11:25,403 ‎ก็ยังให้การเขียนเหนือกว่า 218 00:11:25,483 --> 00:11:27,323 ‎ไม่ คุณคิดยังไงกับเอซิดแจ๊ส 219 00:11:27,403 --> 00:11:28,603 ‎นี่คืออะไร 220 00:11:28,683 --> 00:11:30,403 ‎แบบจำลอง ไม่ใช่ของจริง 221 00:11:30,483 --> 00:11:34,963 ‎จำลองแผ่นดินเหนียวเมโสโปเตเมีย 222 00:11:35,043 --> 00:11:36,523 ‎และอักษรลิ่ม 223 00:11:36,603 --> 00:11:39,963 ‎การเขียนครั้งแรกในโลก ‎เขียนบนแผ่นดินเหนียว 224 00:11:40,043 --> 00:11:43,563 ‎ดูแล้วเป็นหนังสือที่หน้าปกไม่ผ่าน 225 00:11:43,643 --> 00:11:45,723 ‎คงเปิดตามปกติไม่ได้ด้วยซ้ำ 226 00:11:45,803 --> 00:11:48,603 ‎คุณเป็นพวกตัดสินจากหน้าปกเหรอ 227 00:11:48,683 --> 00:11:50,163 ‎ถูกต้องเลย 228 00:11:50,243 --> 00:11:52,683 ‎เป็นมุมมองที่ตื้นเขินและน่าเศร้า 229 00:11:52,763 --> 00:11:57,203 ‎ถ้ามีคนตะโกนอ่านดังๆ ‎จะถือเป็นหนังสือเสียงเล่มแรกมั้ย 230 00:12:02,403 --> 00:12:03,363 ‎ไม่ 231 00:12:05,363 --> 00:12:07,003 ‎การเขียนเปลี่ยนโลก 232 00:12:07,083 --> 00:12:09,083 ‎จู่ๆ ความคิดก็ไม่ได้หายวับ 233 00:12:09,163 --> 00:12:11,843 ‎แค่เพราะอยู่ในหัวคนและตายไปพร้อมกัน 234 00:12:13,043 --> 00:12:16,483 ‎แต่เราสามารถเขียนความคิดลงไป 235 00:12:16,563 --> 00:12:18,683 ‎รอคอยให้คนอื่นมา 236 00:12:18,763 --> 00:12:21,443 ‎นำความคิดเข้าสมองตัวเอง 237 00:12:21,523 --> 00:12:24,603 ‎ด้วยการนำเข้าแบบไร้สายผ่านสายตา 238 00:12:25,763 --> 00:12:29,843 ‎น่าทึ่งมาก ถึงจะประดิษฐ์มานับพันๆ ปี 239 00:12:29,923 --> 00:12:31,843 ‎แต่การเขียนยังไม่สูญพันธุ์ 240 00:12:31,923 --> 00:12:35,563 ‎ภายใต้คลิปวิดีโอที่เราดูออนไลน์ 241 00:12:35,643 --> 00:12:38,443 ‎และตรงนี้คุณจะได้เห็นอีกภาษา 242 00:12:38,523 --> 00:12:41,083 ‎ที่ยังคงอยู่มาถึงปัจจุบัน อีโมจิ 243 00:12:41,163 --> 00:12:43,843 ‎หรือที่ชาวอียิปต์โบราณเรียก 244 00:12:43,923 --> 00:12:46,163 ‎ไฮโรกลิฟิกส์ 245 00:12:46,243 --> 00:12:50,003 ‎เพื่อเล่าเรื่องราวผ่านทางตัวอักษรนี้ 246 00:12:50,083 --> 00:12:52,403 ‎เนื้อเรื่องสอดคล้องกว่าการ์ตูนมาร์เวล 247 00:12:52,483 --> 00:12:56,483 ‎แต่แทนที่จะใช้ในที่ที่คนเป็นๆ หาอ่านง่ายๆ 248 00:12:56,563 --> 00:13:00,563 ‎การ์ตูนอียิปต์เหล่านี้วาดอยู่บนผนังสุสาน 249 00:13:00,643 --> 00:13:02,803 ‎เพื่อสร้างความบันเทิงให้คนตาย 250 00:13:02,883 --> 00:13:06,523 ‎ซึ่งสุสานพวกนี้ก็ตั้งอยู่ ‎ใต้สิ่งก่อสร้างชื่อดัง 251 00:13:06,603 --> 00:13:10,163 ‎และไร้ประโยชน์ที่สุดในประวัติศาสตร์ 252 00:13:10,243 --> 00:13:11,683 ‎ฉันหมายถึงพีระมิด 253 00:13:12,323 --> 00:13:14,763 ‎เวลามองพีระมิด ยากนะที่จะไม่คิด 254 00:13:14,843 --> 00:13:17,843 ‎ว่ามันเป็นแค่สามเหลี่ยมใหญ่ๆ 255 00:13:17,923 --> 00:13:19,723 ‎ที่ฐานเป็นสี่เหลี่ยม 256 00:13:19,803 --> 00:13:21,003 ‎คงมีคำแทนรูปทรงนี้ 257 00:13:21,083 --> 00:13:23,443 ‎แต่ไม่มีใครรู้เลย 258 00:13:23,523 --> 00:13:26,683 ‎เป็นหนึ่งในปริศนาของพีระมิด 259 00:13:26,763 --> 00:13:28,923 ‎ทำไมพีระมิดถึงหน้าตาแบบนี้ 260 00:13:29,003 --> 00:13:31,923 ‎เพื่อกันไม่ให้คนไร้บ้านขึ้นไปนอนเหรอ 261 00:13:32,003 --> 00:13:34,883 ‎อียิปต์โบราณคงไม่มีคนไร้บ้าน 262 00:13:34,963 --> 00:13:36,443 ‎- เหรอคะ ‎- ไม่มี 263 00:13:36,523 --> 00:13:39,723 ‎ทุกคนคอยดูแลและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 264 00:13:39,803 --> 00:13:43,643 ‎ค่ะ คงดีเวลาเจอฝนด้วยมั้ง น้ำไม่ขัง 265 00:13:43,723 --> 00:13:46,443 ‎ชาวอียิปต์สร้างพีระมิดยังไงคะ 266 00:13:46,523 --> 00:13:48,803 ‎เริ่มจากข้างบนลงล่าง 267 00:13:48,883 --> 00:13:50,763 ‎หรือจากล่างขึ้นบน 268 00:13:50,843 --> 00:13:52,603 ‎ต้องเริ่มจากล่างขึ้นบน 269 00:13:52,683 --> 00:13:55,603 ‎ไม่มีทางสร้างจากบนลงล่างได้เด็ดขาด 270 00:14:00,083 --> 00:14:02,323 ‎ชาวอียิปต์เชื่อว่าสิ่งสำคัญที่สุด 271 00:14:02,403 --> 00:14:04,403 ‎ในชีวิตคือการตาย 272 00:14:04,483 --> 00:14:08,363 ‎และยิ่งเป็นคนสำคัญ พิธีศพยิ่งต้องซับซ้อน 273 00:14:08,443 --> 00:14:11,523 ‎กษัตริย์อียิปต์เรียกว่าฟาโรห์ 274 00:14:11,603 --> 00:14:12,563 ‎เมื่อสวรรคต 275 00:14:12,643 --> 00:14:15,403 ‎ฟาโรห์จะกลายเป็นมัมมี่เหมือนในสกูบี้ดู 276 00:14:16,323 --> 00:14:20,923 ‎คนอียิปต์หมกมุ่นกับคนตายใช่มั้ย 277 00:14:21,003 --> 00:14:24,923 ‎แต่ตอนนี้ก็ตายกันหมดแล้ว ‎คุณว่าเขายังคิดแบบเดิมรึเปล่า 278 00:14:25,003 --> 00:14:28,323 ‎คนอียิปต์โบราณไม่ได้หมกมุ่นกับคนตาย 279 00:14:28,403 --> 00:14:30,643 ‎แต่หมกมุ่นกับชีวิตต่างหาก 280 00:14:30,723 --> 00:14:32,883 ‎อยากมีชีวิตและได้เครื่องรับประกัน 281 00:14:32,963 --> 00:14:35,003 ‎ว่าเมื่อตายแล้วจะได้กลับมามีชีวิต 282 00:14:35,083 --> 00:14:36,883 ‎ถึงได้มีการทำมัมมี่ 283 00:14:36,963 --> 00:14:39,683 ‎แล้วมัมมี่ทำยังไง 284 00:14:39,763 --> 00:14:41,643 ‎เล่าขั้นตอนให้ฟังหน่อย 285 00:14:41,723 --> 00:14:46,163 ‎วางศพผู้เสียชีวิตบนโต๊ะ 286 00:14:46,243 --> 00:14:49,723 ‎ทำความสะอาด และเริ่มด้วยการนำสมองออก 287 00:14:49,803 --> 00:14:53,963 ‎ผ่ากลางลำตัว 288 00:14:54,043 --> 00:14:56,163 ‎และนำอวัยวะที่น่าจะเน่าออก 289 00:14:56,243 --> 00:14:59,203 ‎พอกด้วยเกลือให้แห้ง 290 00:14:59,283 --> 00:15:02,963 ‎พันด้วยผ้าพันแผล แล้วก็ได้ออกมาเป็นมัมมี่ 291 00:15:03,043 --> 00:15:04,723 ‎อารมณ์แบบเข้าสปา 292 00:15:04,803 --> 00:15:06,963 ‎อย่างกวินเน็ธ พัลโทรว์สินะ 293 00:15:07,843 --> 00:15:10,883 ‎มัมมี่เคยปั่นจักรยานมั้ย 294 00:15:10,963 --> 00:15:12,483 ‎เท่าที่ทราบก็ไม่เคย 295 00:15:12,563 --> 00:15:14,843 ‎ชาวอียิปต์โบราณไม่มีจักรยาน 296 00:15:14,923 --> 00:15:16,883 ‎- นั่นสินะ ‎- ถนนก็ไม่มี 297 00:15:16,963 --> 00:15:20,123 ‎เลยไม่มีทางมีจักรยานเพราะจะขี่ไม่ได้ 298 00:15:20,203 --> 00:15:21,563 ‎นี่ถามไปทำไมนะ 299 00:15:22,203 --> 00:15:24,243 ‎นึกเรื่องอื่นไม่ออกแล้ว 300 00:15:26,963 --> 00:15:31,043 ‎ฟาโรห์แห่งอียิปต์ทิ้งวิหารและสุสานไว้ ‎เป็นมรดกโลก 301 00:15:31,123 --> 00:15:35,523 ‎แต่ข้ามน้ำข้ามทะเลไป เราจะเจอ ‎จักรวรรดิที่น่าประทับใจอีกแห่ง 302 00:15:35,603 --> 00:15:38,363 ‎กรีซ ประเทศนะ ไม่ใช่ละครเพลง 303 00:15:38,443 --> 00:15:41,043 ‎คือแหล่งกำเนิดอารยธรรม 304 00:15:41,683 --> 00:15:44,843 ‎ชาวกรีกโบราณคิดค้นหลายอย่างที่เรายังใช้ 305 00:15:44,923 --> 00:15:46,683 ‎เช่นยาและมะกอก 306 00:15:46,763 --> 00:15:51,163 ‎และหลายสิ่งที่สูญพันธุ์แล้ว ‎เช่นประชาธิปไตยและเสากรีก 307 00:15:52,043 --> 00:15:54,283 ‎นอกจากซากที่น่าประทับใจ 308 00:15:54,363 --> 00:15:58,883 ‎ชาวกรีกยังพัฒนาวัฒนธรรมในรูปแบบโยเกิร์ต 309 00:15:58,963 --> 00:16:01,963 ‎และโรงละครชวนง่วงทุกรูปแบบ 310 00:16:02,043 --> 00:16:04,203 ‎ชาวกรีกชอบโศกนาฏกรรม 311 00:16:04,283 --> 00:16:06,723 ‎โศกนาฏกรรมจะมีเรื่องเศร้า 312 00:16:06,803 --> 00:16:09,283 ‎เช่นคนตาย หรือฆ่าตัวตาย 313 00:16:09,363 --> 00:16:13,003 ‎แต่โศกนาฏกรรมกรีกโบราณ ‎เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว 314 00:16:13,083 --> 00:16:16,083 ‎สิ่งที่เกิดขึ้นยังเศร้ารึเปล่า 315 00:16:16,163 --> 00:16:17,163 ‎ก็ยังเศร้า 316 00:16:17,243 --> 00:16:19,563 ‎โศกนาฏกรรมเล่าถึงเรื่องราวของมนุษย์… 317 00:16:19,643 --> 00:16:22,523 ‎(ดร. ลินด์เซย์ คู ‎อ. อาวุโสด้านภาษาและวรรณกรรมกรีกโบราณ) 318 00:16:22,603 --> 00:16:24,323 ‎ที่เราสามารถเข้าใจความรู้สึก 319 00:16:24,403 --> 00:16:25,883 ‎เรื่องมันนานมากๆ 320 00:16:25,963 --> 00:16:27,763 ‎ทำไมฉันถึงควรใส่ใจ 321 00:16:27,843 --> 00:16:32,643 ‎โศกนาฏกรรมคือเรื่องราวที่มนุษย์พบเจอ 322 00:16:32,723 --> 00:16:35,443 ‎ต่อให้เผอิญเพิ่งรู้วันนี้เองว่า 323 00:16:35,523 --> 00:16:37,363 ‎คุณฆ่าพ่อและแต่งกับแม่ 324 00:16:37,443 --> 00:16:41,123 ‎คุณก็คงช็อกอย่างอีดิปัส 325 00:16:41,203 --> 00:16:45,643 ‎ฉันเป็นคนเย็นชามั้ง ฉันไม่สนคนกรีกโบราณ 326 00:16:46,323 --> 00:16:47,763 ‎น่าเสียดาย 327 00:16:47,843 --> 00:16:50,203 ‎- คุณล่ะ ‎- ฉันสนมากทีเดียว 328 00:16:50,283 --> 00:16:51,563 ‎มันคืองานของฉัน 329 00:16:52,243 --> 00:16:55,963 ‎พอล เพื่อนฉัน ‎แต่งเรื่องผู้ชายที่มีมันฝรั่ง 330 00:16:56,043 --> 00:16:59,123 ‎คาอยู่ในตัวหลังทำตามคำแนะนำผิดๆ 331 00:16:59,203 --> 00:17:01,283 ‎และแต่งในรูปแบบลิเมอริก 332 00:17:01,363 --> 00:17:04,443 ‎ไม่มีใครตาย แต่ฟังแล้วแสลงหู 333 00:17:04,523 --> 00:17:06,363 ‎อันนี้เป็นโศกนาฏกรรมมั้ย 334 00:17:06,443 --> 00:17:10,483 ‎หรือว่าต้องให้มันฝรั่งงอกแล้วฆ่าเขาตายก่อน 335 00:17:11,443 --> 00:17:13,923 ‎ฟังแล้วดูเป็นเหตุการณ์ที่โชคร้าย 336 00:17:14,003 --> 00:17:17,162 ‎แต่ไม่มั่นใจว่ามีลักษณะเหนือกาลเวลา 337 00:17:17,243 --> 00:17:19,003 ‎พอจะทำให้เป็นโศกนาฏกรรม 338 00:17:19,083 --> 00:17:21,243 ‎พอลบอกว่าเกิดขึ้นจริงด้วย 339 00:17:21,323 --> 00:17:23,483 ‎เห็นว่าเขาสนุกกับมันมาก 340 00:17:23,563 --> 00:17:25,003 ‎เขาสมควรได้ลาหยุด 341 00:17:27,003 --> 00:17:30,843 ‎ชาวกรีกสร้างละครสำหรับคนโง่ด้วย 342 00:17:30,923 --> 00:17:32,642 ‎ที่เรียกว่ากีฬา 343 00:17:32,723 --> 00:17:35,803 ‎พวกเขาริเริ่มโอลิมปิกโดยไม่ชวนประเทศอื่น 344 00:17:35,883 --> 00:17:37,603 ‎กรีกจะได้เป็นผู้ชนะ 345 00:17:38,643 --> 00:17:42,643 ‎ผู้เข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกยุคแรก ‎จะเปลือยทั้งตัว 346 00:17:42,723 --> 00:17:45,923 ‎ส่วนหนึ่งเพราะค่านิยมด้านร่างกายที่แข็งแรง 347 00:17:46,003 --> 00:17:48,643 ‎แต่หลักๆ แล้วเพราะว่าไม่มีผ้ายืด 348 00:17:48,723 --> 00:17:53,443 ‎ได้ยินว่ายุคแรกๆ ทุกคนแก้ผ้าแข่งโอลิมปิก 349 00:17:53,523 --> 00:17:56,323 ‎พวกเขาไม่สวมเสื้อผ้า 350 00:17:56,403 --> 00:18:02,363 ‎และมีบันทึกถึงภาพที่กระตุ้นกำหนัดด้วย 351 00:18:02,443 --> 00:18:05,203 ‎ตอนแข่งมวยปล้ำก็ต้องแกว่งไปมา 352 00:18:05,283 --> 00:18:07,843 ‎พวกเขาคงเห็นรูก้นคนแข่งด้วยสิ 353 00:18:07,923 --> 00:18:10,923 ‎เซนเซอร์สักนิดให้คนที่นั่งดูไม่ได้เหรอ 354 00:18:11,003 --> 00:18:12,363 ‎หาอะไรมาหุ้มไว้น่ะ 355 00:18:13,163 --> 00:18:16,283 ‎หรือขอให้คนดูปิดตาตอนมีคนโก้งโค้ง 356 00:18:18,843 --> 00:18:20,603 ‎มันคงจะไม่ได้ผล 357 00:18:20,683 --> 00:18:22,843 ‎แต่ก็จะเห็นรูก้นนะ 358 00:18:23,683 --> 00:18:25,603 ‎บางกรณีก็คงเห็น 359 00:18:25,683 --> 00:18:28,643 ‎ซูสไม่ว่าอะไรเหรอ 360 00:18:30,803 --> 00:18:34,523 ‎แต่มวยปล้ำชื่อดังที่สุดที่ชาวกรีกคิดค้น 361 00:18:34,603 --> 00:18:36,163 ‎คือการปลุกปล้ำความคิด 362 00:18:36,243 --> 00:18:40,083 ‎ปรัชญาคือการคิดเกี่ยวกับการคิด 363 00:18:40,163 --> 00:18:42,603 ‎ซึ่งฟังดูเปลืองเวลาและก็ใช่ 364 00:18:43,163 --> 00:18:45,923 ‎ถึงนักปรัชญาอาจจะอ้างว่าเวลาที่เสียไป 365 00:18:46,003 --> 00:18:48,003 ‎ไม่มีมาแต่แรกก็ตาม 366 00:18:48,083 --> 00:18:50,043 ‎ตอนนั้นคุณอาจเลิกคุย 367 00:18:50,123 --> 00:18:51,723 ‎แล้วแกะถุงบิสกิตแทน 368 00:18:53,923 --> 00:18:57,323 ‎นี่คือบรรดานักปรัชญากรีกโบราณ ‎ไม่ใช่ตัวจริงนะ 369 00:18:57,403 --> 00:18:59,483 ‎เป็นผงไปหมดแล้ว 370 00:18:59,563 --> 00:19:01,243 ‎อาจจะเหลือฟันถ้าโชคดี 371 00:19:01,323 --> 00:19:04,243 ‎นี่เป็นแบบจำลองจากหิน 372 00:19:05,163 --> 00:19:09,443 ‎นักปรัชญากรีกคิดค้น ‎ทฤษฎีล้ำๆ เกี่ยวกับชีวิตบนโลก 373 00:19:09,523 --> 00:19:11,963 ‎เราถึงยังจดจำชื่อได้ 374 00:19:12,043 --> 00:19:15,243 ‎ถึงแม้จะไม่มีผลงานใหม่เป็นชาติ 375 00:19:15,323 --> 00:19:16,883 ‎โสกราตีส 376 00:19:16,963 --> 00:19:18,483 ‎พีทาโกรัส 377 00:19:18,563 --> 00:19:19,843 ‎คนนี้ 378 00:19:19,923 --> 00:19:20,803 ‎เขาน่ะ 379 00:19:21,963 --> 00:19:23,603 ‎นี่ก็เพลโต 380 00:19:23,683 --> 00:19:26,683 ‎อย่างที่เห็น แม้จะตายมาเป็นร้อยๆ ปี 381 00:19:26,763 --> 00:19:28,523 ‎เขาก็ยังไม่หยุดคิด 382 00:19:28,603 --> 00:19:30,923 ‎พัฒนาทฤษฎีฉลาดๆ ในหัว 383 00:19:31,003 --> 00:19:33,523 ‎ถ้าเราเอาไมค์จ่อสมองเขา 384 00:19:33,603 --> 00:19:36,283 ‎และฟังได้ก็ดีสิ แต่ทำไม่ได้ 385 00:19:36,363 --> 00:19:37,803 ‎ต่อให้ได้ก็เป็นภาษากรีก 386 00:19:37,883 --> 00:19:39,923 ‎ซึ่งทีมโปรดักชันเราพูดไม่ได้ 387 00:19:41,283 --> 00:19:43,923 ‎เพลโตส่งต่อความรู้มายังลูกศิษย์ 388 00:19:44,003 --> 00:19:47,323 ‎ซึ่งกลายมาเป็นนักคิดผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง 389 00:19:47,923 --> 00:19:49,083 ‎แอริสตอเติล 390 00:19:49,163 --> 00:19:52,123 ‎แอริสตอเติลพูดเรื่องฉลาดๆ ไว้เยอะสินะ 391 00:19:52,203 --> 00:19:55,883 ‎โควตโปรดฉันคือ "จงเต้นเหมือนไม่มีใครมอง" 392 00:19:55,963 --> 00:19:59,443 ‎อันนี้จริงมาก ประยุกต์ใช้ได้หมด 393 00:20:00,603 --> 00:20:04,563 ‎บางครั้งฉันไม่มีความมั่นใจ 394 00:20:04,643 --> 00:20:07,443 ‎ถึงแม้จะวางท่าเป็นคนมั่นๆ 395 00:20:07,523 --> 00:20:09,763 ‎แต่เวลาที่เจอผู้เชี่ยวชาญ 396 00:20:10,643 --> 00:20:15,043 ‎ก็อดกังวลไม่ได้ว่าฉันดูเป็นคนไร้สมอง 397 00:20:15,563 --> 00:20:19,043 ‎แล้วพอคิดว่า "จงเต้นเหมือนไม่มีใครมอง" 398 00:20:19,123 --> 00:20:20,683 ‎มันก็ช่วยได้เยอะเลย 399 00:20:20,763 --> 00:20:21,963 ‎เป็นเหมือนของขวัญ 400 00:20:22,683 --> 00:20:25,043 ‎ทำไมแอริสตอเติลคิดอย่างนั้นคะ 401 00:20:26,683 --> 00:20:30,163 ‎ไม่ทราบมาก่อนว่าแอริสตอเติลพูด 402 00:20:30,243 --> 00:20:33,043 ‎เรื่องเต้นเหมือนไม่มีใครมอง 403 00:20:33,123 --> 00:20:35,323 ‎ฉันว่าเขาไม่ได้พูด 404 00:20:35,403 --> 00:20:36,763 ‎เขาพูดไม่ใช่เหรอ 405 00:20:36,843 --> 00:20:39,883 ‎ถ้าพูด ฉันก็ไม่เคยทราบ และไม่ทราบสาเหตุ 406 00:20:39,963 --> 00:20:41,563 ‎แต่คิดว่าไม่ใช่นะ 407 00:20:42,723 --> 00:20:45,523 ‎ถามว่ามีคำพูดคล้ายๆ กัน 408 00:20:47,163 --> 00:20:50,003 ‎เรื่องความมั่นใจในตัวเองมั้ย 409 00:20:52,363 --> 00:20:53,843 ‎ฉันว่าก็ไม่มี 410 00:20:53,923 --> 00:20:54,763 ‎อ้อ 411 00:20:57,283 --> 00:20:58,203 ‎โอเค 412 00:21:00,363 --> 00:21:03,563 ‎ผู้เชี่ยวชาญอาจแย้งเรื่องสิ่งที่พูด 413 00:21:03,643 --> 00:21:07,123 ‎แต่ไม่ต้องสงสัย ‎นักบุกเบิกกรีกเปลี่ยนวิธีคิดเรา 414 00:21:07,963 --> 00:21:10,923 ‎นักปรัชญาเคยคิดเรื่องใหญ่หลวง 415 00:21:11,003 --> 00:21:12,243 ‎จนสมองแตกมั้ย 416 00:21:13,123 --> 00:21:14,283 ‎เท่าที่รู้ก็ไม่ 417 00:21:14,363 --> 00:21:16,723 ‎รู้รึเปล่าสมองคนมีแต่ท่อ 418 00:21:16,803 --> 00:21:18,723 ‎- นักปรัชญา… ‎- ไม่รู้ 419 00:21:19,363 --> 00:21:20,963 ‎- ไม่รู้เหรอ ‎- ไม่รู้ 420 00:21:21,043 --> 00:21:22,683 ‎สมองคนเรามีแต่ท่อ 421 00:21:22,763 --> 00:21:26,723 ‎นักปรัชญาเกิดความคิด 422 00:21:26,803 --> 00:21:31,603 ‎และพยายามผลักดันมันผ่านท่อต่างๆ 423 00:21:31,683 --> 00:21:34,763 ‎เวลามีความคิดใหญ่ๆ เราสมควรต้องแตกมัน 424 00:21:34,843 --> 00:21:37,763 ‎เป็นความคิดเล็กๆ ขนาดเท่าถั่ว 425 00:21:37,843 --> 00:21:40,763 ‎แล้วส่งต่อไปเร็วๆ 426 00:21:40,843 --> 00:21:43,843 ‎หรือกัดฟันยัดมันผ่านท่อจิตใจ 427 00:21:43,923 --> 00:21:45,323 ‎เป็นก้อนใหญ่ 428 00:21:45,403 --> 00:21:48,083 ‎กัดฟันแล้วภาวนาให้รอด 429 00:21:48,763 --> 00:21:52,003 ‎เป็นวิธีอธิบาย 430 00:21:52,083 --> 00:21:56,243 ‎แนวคิดสองแนวในวงปรัชญาที่น่าสนใจ 431 00:21:56,323 --> 00:21:59,643 ‎ทางหนึ่งเน้นการวิเคราะห์ 432 00:21:59,723 --> 00:22:04,843 ‎ตัดแบ่งปัญหาให้กลายเป็นส่วนย่อยๆ 433 00:22:04,923 --> 00:22:09,243 ‎- เท่าถั่ว ‎- อีกอันคือแนวสังเคราะห์ 434 00:22:09,323 --> 00:22:12,763 ‎ที่เน้นการมองภาพรวม 435 00:22:12,843 --> 00:22:16,923 ‎ดังนั้น การเปรียบของคุณ 436 00:22:17,003 --> 00:22:19,923 ‎เป็นวิธีนำเสนอที่น่าสนใจ 437 00:22:20,003 --> 00:22:23,443 ‎ถึงปรัชญาปัจจุบันที่แบ่งเป็นสองแขนง 438 00:22:24,043 --> 00:22:24,963 ‎ดีใช่มั้ย 439 00:22:25,043 --> 00:22:26,443 ‎- ยอดเยี่ยม ‎- แจ๋ว 440 00:22:28,323 --> 00:22:31,763 ‎ระหว่างนั้น อารยธรรมกรีกโบราณ ‎เผยแพร่ไปทั่วโลก 441 00:22:31,843 --> 00:22:34,643 ‎ด้วยฝีมือของผู้นี้ อเล็กซานเดอร์มหาราช 442 00:22:35,163 --> 00:22:38,643 ‎อเล็กซานเดอร์มหาราช ‎เป็นกษัตริย์ตอนอายุ 20 443 00:22:38,723 --> 00:22:41,883 ‎ยกทัพตีเมืองไปทั่วแดนตะวันออกกลาง 444 00:22:41,963 --> 00:22:46,283 ‎ครองจักรวรรดิที่ลากยาวจากกรีกไปจรดอินเดีย 445 00:22:46,363 --> 00:22:48,203 ‎ตอนมีอายุ 30 446 00:22:48,283 --> 00:22:49,963 ‎ผมเขาเป็นยังไงเหรอ 447 00:22:51,003 --> 00:22:51,883 ‎ฉันไม่ทราบ 448 00:22:54,403 --> 00:22:58,043 ‎อเล็กซานเดอร์ไม่ใช่ ‎คนดังที่มีจักรวรรดิคนเดียว 449 00:22:58,123 --> 00:23:02,403 ‎จิ๋นซีฮ่องเต้ก็รวมดินแดนแผ่นดินจีน 450 00:23:02,483 --> 00:23:05,403 ‎เป็นตัวการ์ตูนแรกที่มีจักรวรรดิของตน 451 00:23:05,483 --> 00:23:07,243 ‎และสร้างกำแพงเมืองจีน 452 00:23:07,963 --> 00:23:12,443 ‎ว่ากันว่ากำแพงเมืองจีนคือสิ่งก่อสร้างเดียว 453 00:23:12,523 --> 00:23:14,323 ‎ที่ได้ยินจากอวกาศ 454 00:23:14,403 --> 00:23:16,003 ‎(จอห์น แมน นักประวัติศาสตร์) 455 00:23:16,083 --> 00:23:17,763 ‎คุณไม่ได้ยินหรอกนะ 456 00:23:17,843 --> 00:23:20,763 ‎เขาว่ากันว่าเห็นได้จากอวกาศ 457 00:23:20,843 --> 00:23:22,483 ‎แต่ไม่จริง 458 00:23:23,123 --> 00:23:24,843 ‎- คนจีนลอง… ‎- ไม่เห็นเหรอ 459 00:23:24,923 --> 00:23:28,923 ‎นักบินอวกาศชาวจีนลองแล้ว แต่มองไม่เห็น 460 00:23:29,003 --> 00:23:30,803 ‎- มองไม่เห็น ‎- ไม่เห็น 461 00:23:30,883 --> 00:23:33,323 ‎เป็นกำแพงล่องหน แบบสนามพลัง 462 00:23:33,403 --> 00:23:35,923 ‎ล่องหนแค่เวลามองจากอวกาศ 463 00:23:36,003 --> 00:23:38,043 ‎แต่อยู่บนพื้นโลกมองเห็น 464 00:23:38,123 --> 00:23:39,683 ‎พิลึกมาก ว่าไหมคะ 465 00:23:39,763 --> 00:23:41,883 ‎เป็นปริศนาหลักอีกเรื่องมั้ย 466 00:23:41,963 --> 00:23:44,203 ‎เรารู้รึเปล่าว่าจีนมีหลังคามั้ย 467 00:23:45,283 --> 00:23:47,003 ‎มีหลังคาเมืองจีนรึเปล่า 468 00:23:47,083 --> 00:23:48,843 ‎ไม่มีหลังคาเมืองจีน 469 00:23:50,003 --> 00:23:53,523 ‎จักรวรรดิจีนมีความคิดสร้างสรรค์ 470 00:23:53,603 --> 00:23:55,603 ‎และความคิดปรัชญาล้นปรี่ 471 00:23:55,683 --> 00:23:58,723 ‎อย่างที่ปรากฏในเอกสารเมื่อหลายร้อยปี 472 00:23:58,803 --> 00:24:02,083 ‎ก่อนหน้าการปล่อยเพลงชาติเบลเยียมแนวเทคโน 473 00:24:02,163 --> 00:24:03,763 ‎"พัมป์อัปเดอะแจม" 474 00:24:39,483 --> 00:24:42,723 ‎ชาวกรีกและจีนมีจักรวรรดิของตัวเอง 475 00:24:42,803 --> 00:24:44,763 ‎แต่คำว่า "จักรวรรดิ" 476 00:24:44,843 --> 00:24:47,923 ‎ทำให้นึกถึงสตาร์ วอร์ส 477 00:24:48,003 --> 00:24:48,963 ‎หรือโรม 478 00:24:49,043 --> 00:24:51,323 ‎นี่คือประวัติศาสตร์ ก็ต้องโรม 479 00:24:51,403 --> 00:24:55,763 ‎จักรวรรดิที่ผงาดขึ้น ‎โดยมีจูเลียส ซีซาร์ปกครอง 480 00:24:55,843 --> 00:24:58,483 ‎โรมันชื่อฉาวจนโปลันสกีมารับไม้ต่อ 481 00:24:59,283 --> 00:25:03,203 ‎หนึ่งในเหตุผลที่เรายังรู้จักชาวโรมัน 482 00:25:03,283 --> 00:25:04,683 ‎คือวิกิพีเดีย 483 00:25:05,243 --> 00:25:08,203 ‎และที่วิกิพีเดียรู้เรื่องชาวโรมันเยอะ 484 00:25:08,283 --> 00:25:10,203 ‎เป็นเพราะปอมเปอี 485 00:25:12,483 --> 00:25:15,683 ‎ปอมเปอีทันสมัยมาก มีภูเขาไฟส่วนตัว 486 00:25:15,763 --> 00:25:17,843 ‎ซึ่งละตินคือ "ภูเขาพิโรธ" 487 00:25:18,683 --> 00:25:21,923 ‎มนุษย์กับภูเขาไฟอยู่กันอย่างสงบสุขหลายปี 488 00:25:22,003 --> 00:25:26,243 ‎จนกระทั่งวันหนึ่งที่ผิดใจ และภูเขาไฟเลือก 489 00:25:26,323 --> 00:25:28,803 ‎กลบฝังปอมเปอีด้วยเถ้าถ่านหนาๆ 490 00:25:29,843 --> 00:25:32,763 ‎ทุกคนแข็งค้างกับที่ 491 00:25:32,843 --> 00:25:36,323 ‎ราวกับมีคนมาหยุดเวลา 492 00:25:36,403 --> 00:25:38,523 ‎ปล่อยฝุ่นผงปลิวว่อน 493 00:25:38,603 --> 00:25:41,123 ‎ซึ่งมีฤทธิ์ถึงตาย แต่ถ้ามองในแง่ดี 494 00:25:41,203 --> 00:25:43,803 ‎นักโบราณคดีได้ขุมทรัพย์แหล่งข้อมูล 495 00:25:43,883 --> 00:25:45,643 ‎เรื่องการใช้ชีวิตยุคนั้น 496 00:25:45,723 --> 00:25:49,843 ‎เพราะมีภูเขาไฟ เรารู้ว่าชาวโรมันมีผิวสีเทา 497 00:25:49,923 --> 00:25:53,043 ‎ศีรษะล้านเลี่ยน ใช้เวลานอนกับพื้น 498 00:25:53,123 --> 00:25:55,483 ‎ภายในบ้านฝุ่นเขรอะ 499 00:25:56,003 --> 00:26:00,563 ‎แต่มันยังรักษาสภาพชีวิตที่ล้ำสมัยอีกด้วย 500 00:26:00,643 --> 00:26:04,723 ‎มีเครื่องอำนวยความสะดวก ‎เช่นระบบประปาในบ้าน การลงลิ้น 501 00:26:04,803 --> 00:26:08,043 ‎จักรวรรดิโรมันล้ำสมัยมาก 502 00:26:08,123 --> 00:26:10,403 ‎ผู้คนเห็นชาวโรมันคิดค้นหลายสิ่ง 503 00:26:10,483 --> 00:26:15,003 ‎แต่บางทีก็แค่ปรับปรุงสิ่งที่ชาติอื่นทำไว้ 504 00:26:15,083 --> 00:26:19,203 ‎ฉันจะพูดชื่อให้คุณบอกว่าชาวโรมันคิดค้น 505 00:26:19,283 --> 00:26:20,363 ‎หรือปรับปรุงนะ 506 00:26:20,443 --> 00:26:21,883 ‎คิดค้นหรือปรับปรุง 507 00:26:22,643 --> 00:26:23,643 ‎ทดสอบผมเลย 508 00:26:23,723 --> 00:26:26,323 ‎- ระบบความร้อนใต้พื้น ‎- คิดค้น 509 00:26:26,883 --> 00:26:27,883 ‎ปิ๊งป่อง 510 00:26:27,963 --> 00:26:30,443 ‎- ปฏิทิน ‎- ปรับปรุง 511 00:26:31,763 --> 00:26:32,643 ‎คุณเอ๋อ 512 00:26:33,643 --> 00:26:35,723 ‎ห้ามตอบข้อถัดไป 513 00:26:35,803 --> 00:26:36,803 ‎ถนน 514 00:26:36,883 --> 00:26:39,363 ‎ไม่ใช่ คนเปอร์เซียสร้างถนน 515 00:26:39,443 --> 00:26:42,043 ‎คนอื่นๆ อีกหลายชาติก็รู้จักถนน 516 00:26:42,123 --> 00:26:44,043 ‎คุณเอ๋อไง ตอบข้อนี้ไม่ได้ 517 00:26:44,123 --> 00:26:46,043 ‎- จริงด้วย ‎- คอนกรีต 518 00:26:46,123 --> 00:26:48,003 ‎- คิดค้น ‎- ปิ๊งป่อง 519 00:26:48,083 --> 00:26:49,003 ‎ตัวอักษร 520 00:26:49,683 --> 00:26:51,723 ‎ไม่ได้คิดค้นแน่นอน 521 00:26:51,803 --> 00:26:53,683 ‎และคงไม่ได้ปรับปรุงด้วย 522 00:26:53,763 --> 00:26:55,603 ‎- ออกแนว… ‎- เลือกสักทาง 523 00:26:55,683 --> 00:26:56,923 ‎- ต้องเลือกเหรอ ‎- ค่ะ 524 00:26:59,043 --> 00:27:01,723 ‎- ปรับปรุงก็ไม่ถูก… ‎- ปิ๊งป่อง 525 00:27:01,803 --> 00:27:04,363 ‎- ฟอกสีก้น ‎- อะไรนะ 526 00:27:04,443 --> 00:27:05,723 ‎ฟอกสีก้น 527 00:27:06,523 --> 00:27:07,643 ‎ฟอกสีก้น… 528 00:27:10,323 --> 00:27:13,483 ‎- นึกไม่ออกเลยว่าทางไหน ‎- ลองเดาดู 529 00:27:13,563 --> 00:27:15,803 ‎- คืออะไรยังไม่รู้ ‎- ฟอกสีก้น 530 00:27:15,883 --> 00:27:18,243 ‎- จริงเหรอ ‎- ใช่ ให้ขาวขึ้น 531 00:27:18,843 --> 00:27:20,123 ‎บ้านผมไม่เห็นจะมี 532 00:27:20,203 --> 00:27:22,883 ‎แต่ไม่รู้จริงๆ ว่าจะทางไหน ขอผ่าน 533 00:27:22,963 --> 00:27:25,283 ‎คิดค้น ปรับปรุง ผ่านไม่ได้ 534 00:27:28,283 --> 00:27:29,563 ‎- ฟอกสีเหรอ ‎- ใช่ 535 00:27:30,523 --> 00:27:31,963 ‎ฟอกสีรูก้น 536 00:27:35,643 --> 00:27:37,683 ‎เอาละ งั้นคิดค้น แต่ว่า… 537 00:27:39,683 --> 00:27:42,203 ‎แค่ไม่กี่แสนปีก่อนนี้เอง 538 00:27:42,283 --> 00:27:45,123 ‎มนุษย์อาศัยในถ้ำอย่างสัตว์ 539 00:27:45,203 --> 00:27:49,523 ‎แต่หลังมีการประดิษฐ์เทคโนโลยี ‎และพัฒนาวัฒนธรรม 540 00:27:49,603 --> 00:27:52,043 ‎เราอาศัยในเมืองอย่างคน 541 00:27:52,123 --> 00:27:53,923 ‎พอมาดูโรมันโบราณ 542 00:27:54,003 --> 00:27:57,283 ‎เราคงพอจะยกโทษให้บรรพบุรุษที่กระหยิ่มใจ 543 00:27:57,363 --> 00:27:58,763 ‎เหมือนเจมส์ คอร์เดน 544 00:27:59,403 --> 00:28:01,163 ‎แต่จักรวรรดิโรมันไม่รู้เลย 545 00:28:01,243 --> 00:28:04,723 ‎มันจะได้เจอกับ ‎เรื่องท้าทายสุดหิน คนรักสันติ 546 00:28:04,803 --> 00:28:06,563 ‎พระเยซูคริสต์ 547 00:28:06,643 --> 00:28:08,363 ‎ฉายา "บุตรแห่งพระเจ้า" 548 00:28:09,163 --> 00:28:12,683 ‎ตอนต่อไป เราจะดูการเผยแผ่ศาสนา 549 00:28:12,763 --> 00:28:16,483 ‎ที่คล้ายๆ กับมีม ‎แต่มาพร้อมเสื้อผ้าและวิถีชีวิต 550 00:28:16,563 --> 00:28:19,403 ‎และสุดยอดหนังสือสองเล่มในประวัติศาสตร์ 551 00:28:19,483 --> 00:28:21,483 ‎คัมภีร์ไบเบิลและอัลกุรอาน 552 00:28:21,563 --> 00:28:24,963 ‎และตอบคำถามเสียทีว่า เล่มไหนเจ๋งสุด 553 00:28:47,043 --> 00:28:49,963 ‎คำบรรยายโดย พรพรรณ มุกนพรัตน์