1 00:00:06,444 --> 00:00:12,700 ‪(ตำนานของเฮอร์คิวลีส) 2 00:00:19,790 --> 00:00:21,417 ‪- ดื่มครับ ‪- ดื่มครับ 3 00:00:24,503 --> 00:00:26,797 ‪เฮอร์คิวลีสเป็นเชฟแอฟริกันอเมริกัน ‪ที่ถูกจับมาเป็นทาส 4 00:00:26,881 --> 00:00:28,299 ‪ของประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน 5 00:00:28,382 --> 00:00:31,927 ‪ช่วงที่ที่บ้านของประธานาธิบดี ‪อยู่ในฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย 6 00:00:32,011 --> 00:00:34,388 ‪และเขาเป็นเชฟที่ประสบความสำเร็จมาก 7 00:00:35,514 --> 00:00:38,100 ‪คนมากมายที่กินอาหารที่บ้านของวอชิงตัน 8 00:00:38,184 --> 00:00:42,396 ‪ยกย่องอาหารของเขาในงานเขียน ‪บันทึกประจำวันและจดหมาย 9 00:00:42,938 --> 00:00:45,191 {\an8}‪อาหารของเขาอร่อยมากจนเขาทำเงินได้ทุกปี ‪จากการขายของเหลือ 10 00:00:45,274 --> 00:00:47,234 {\an8}‪(เอเดรียน มิลเลอร์ ‪นักประวัติศาสตร์อาหาร) 11 00:00:47,943 --> 00:00:50,446 ‪และเขาจะใช้เงินนั้นซื้อเสื้อผ้า 12 00:00:50,529 --> 00:00:53,282 ‪มีเรื่องเล่าว่าหลังจากเขาเลิกงาน 13 00:00:53,365 --> 00:00:57,328 ‪เขาจะแต่งตัวหรู ‪ถือไม้เท้าทองคำ เดินไปทั่วเมือง 14 00:00:57,411 --> 00:00:59,497 ‪เขาเป็นคนที่ไม่เหมือนใครจริงๆ 15 00:01:00,414 --> 00:01:03,793 ‪วอชิงตันแน่ใจได้ยังไงว่า ‪เฮอร์คิวลีสจะเป็นทาสต่อไป 16 00:01:03,876 --> 00:01:07,630 ‪ตอนที่วอชิงตันเรียกตัวเฮอร์คิวลีส ‪จากเมาต์เวอร์นอนไปฟิลาเดลเฟีย 17 00:01:07,713 --> 00:01:08,923 ‪มีปัญหาอยู่หนึ่งข้อ 18 00:01:09,507 --> 00:01:14,428 ‪กฎหมายของรัฐบอกว่าถ้าคนที่เป็นทาส ‪อยู่บนแผ่นดินเพนซิลเวเนียนานกว่าหกเดือน 19 00:01:14,512 --> 00:01:16,055 ‪ถือว่าพวกเขาเป็นอิสระโดยอัตโนมัติ 20 00:01:17,681 --> 00:01:20,851 ‪ดังนั้นวอชิงตันจะต้อนคนที่เป็นทาสในฟิลาเดลเฟีย 21 00:01:20,935 --> 00:01:23,020 ‪แล้วพากลับไปเมาต์เวอร์นอน 22 00:01:23,104 --> 00:01:26,816 ‪เพื่อนับระยะเวลาใหม่ ‪แล้วค่อยพากลับไปฟิลาเดลเฟีย 23 00:01:28,025 --> 00:01:30,903 ‪วอชิงตันกลัวว่าเฮอร์คิวลีสจะหนีไปเหรอ 24 00:01:31,487 --> 00:01:34,490 ‪มีสัญญาณบอกว่าในช่วงปลายวาระที่สองของเขา 25 00:01:34,573 --> 00:01:37,952 ‪เขาเริ่มสงสัยว่าเฮอร์คิวลีสอาจจะพยายามหนีไป 26 00:01:39,120 --> 00:01:41,080 ‪วอชิงตันสงสัยมาก 27 00:01:41,163 --> 00:01:43,958 ‪จนเขาส่งเฮอร์คิวลีสกลับไปเมาต์เวอร์นอน 28 00:01:44,041 --> 00:01:46,710 ‪ไม่ได้ส่งกลับไปเข้าครัว แต่ให้ไปทำงานในไร่ 29 00:01:47,962 --> 00:01:50,589 ‪ตอนนี้เชฟระดับโลกคนนี้กลายเป็นคนใช้แรงงาน 30 00:01:51,465 --> 00:01:53,259 ‪แล้ววันหนึ่ง เขาก็หายตัวไป 31 00:01:56,220 --> 00:01:58,889 ‪(ผลงานซีรีส์สารคดีจาก NETFLIX) 32 00:02:44,560 --> 00:02:47,479 ‪(สองพ่อครัวของบิดาผู้ก่อตั้ง) 33 00:03:26,101 --> 00:03:28,938 ‪(ฟิลาเดลเฟีย) 34 00:03:29,021 --> 00:03:30,898 ‪ฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย 35 00:03:32,650 --> 00:03:36,487 ‪ผมเชื่อมโยงเมืองฟิลาเดลเฟีย ‪กับแนวคิดเรื่องอิสรภาพเสมอ 36 00:03:37,613 --> 00:03:40,824 ‪ชาวนิกายเควกเกอร์เป็นผู้นำการเลิกทาสที่นี่ 37 00:03:40,908 --> 00:03:44,245 ‪และเพนซิลเวเนียเป็นรัฐแรกในสหภาพ ‪ที่ประกาศว่าระบบทาสผิดกฎหมาย 38 00:03:48,207 --> 00:03:51,001 ‪แต่การเลิกทาสเป็นกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป 39 00:03:51,085 --> 00:03:54,046 ‪และสมัยที่ฟิลาเดลเฟีย ‪ยังเป็นเมืองหลวงของประเทศ 40 00:03:54,129 --> 00:03:57,383 ‪เชฟสองคนที่ทำอาหารชั้นดีที่สุดในประเทศ 41 00:03:57,466 --> 00:04:00,010 ‪ยังตกเป็นทาสของบิดาผู้ก่อตั้ง 42 00:04:00,678 --> 00:04:03,097 ‪เฮอร์คิวลีสรับใช้จอร์จ วอชิงตัน 43 00:04:03,180 --> 00:04:06,392 ‪และผู้ชายชื่อเจมส์ เฮมมิงส์ ‪ทำอาหารให้โทมัส เจฟเฟอร์สัน 44 00:04:06,976 --> 00:04:09,895 ‪แม้ว่าจะไม่มีภาพถ่ายของผู้ชายเหล่านี้ 45 00:04:09,979 --> 00:04:13,232 ‪มรดกตกทอดของพวกเขายังคงอยู่ถึงแคลิฟอร์เนีย 46 00:04:13,315 --> 00:04:15,901 {\an8}‪(ลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย) 47 00:04:15,985 --> 00:04:18,445 ‪(แฮตเชต ฮอลล์) 48 00:04:25,536 --> 00:04:30,916 ‪ผมพบกับไบรอัน ดันสมัวร์และมาร์ติน เดรลัก ‪ที่ร้านแฮตเชต ฮอลล์ 49 00:04:31,000 --> 00:04:35,004 ‪เชฟสองคนที่กำลังฟื้นฟู ‪วิธีการทำอาหารของเฮอร์คิวลีสและเฮมมิงส์ 50 00:04:36,714 --> 00:04:41,176 ‪ชายผู้ตกเป็นทาสทั้งสองคนช่ำชอง ‪การทำอาหารเลิศหรูบนกองไฟ 51 00:04:41,260 --> 00:04:42,928 ‪วิธีที่เรียกกันว่า การทำอาหารบนเตา 52 00:04:47,975 --> 00:04:50,477 ‪สิ่งที่ยากที่สุดคือการสุมไฟไว้ 53 00:04:50,561 --> 00:04:53,355 ‪และไม่ตายเสียก่อน 54 00:04:53,439 --> 00:04:56,025 ‪เพราะต้องยืนอยู่หน้ากองไฟ ‪และละลายจากความร้อน 55 00:04:57,401 --> 00:05:00,321 ‪ตั้งแต่เปิดร้านมา ‪เราทำอาหารไปแล้วเป็นพันจาน 56 00:05:01,030 --> 00:05:04,491 ‪สำหรับเรา ผมคิดว่าสิ่งสำคัญกว่า ‪คือเทคนิคและการท้าทายตัวเอง 57 00:05:04,575 --> 00:05:07,828 ‪และมันยังเป็นสะพานเชื่อม 58 00:05:07,911 --> 00:05:10,539 ‪ที่ช่วยให้เราเล่าเรื่องที่เราพยายามเล่าได้ 59 00:05:12,082 --> 00:05:17,004 ‪ส่วนหนึ่งของวิธีที่พวกคุณ ‪นำประวัติศาสตร์มาสู่การทำอาหาร 60 00:05:17,087 --> 00:05:18,589 ‪คือการทำอาหารค่ำพวกนี้ 61 00:05:19,214 --> 00:05:22,217 ‪เฮอร์คิวลีสกับเฮมมิงส์… 62 00:05:22,801 --> 00:05:24,678 ‪เล่าหน่อยสิครับว่าพวกเขาคือใคร 63 00:05:24,762 --> 00:05:27,222 ‪และพูดถึงมื้อค่ำนี้ด้วย 64 00:05:27,890 --> 00:05:31,268 ‪พวกเขาเป็นเชฟคนดังสองคนแรก ‪ของอเมริกาก็ว่าได้ 65 00:05:31,352 --> 00:05:35,689 ‪พวกเขาตกเป็นทาสของจอร์จ วอชิงตัน ‪และโทมัส เจฟเฟอร์สัน 66 00:05:36,523 --> 00:05:38,650 {\an8}‪เจมส์ เฮมมิงส์เดินทางไปฝรั่งเศส ‪กับโทมัส เจฟเฟอร์สันด้วย 67 00:05:38,734 --> 00:05:41,236 {\an8}‪(มาร์ติน เดรลัก ‪เชฟร้านแฮตเชต ฮอลล์) 68 00:05:41,320 --> 00:05:42,946 {\an8}‪หัดทำอาหารอย่างมืออาชีพ 69 00:05:43,030 --> 00:05:48,952 ‪เหมือนเรื่องราวของทาสส่วนใหญ่ ‪พวกเขาสูญหายไป ไม่ก็ไม่เคยถูกบันทึกไว้ 70 00:05:49,036 --> 00:05:51,246 ‪การได้เล่าเรื่องราวของพวกเขา 71 00:05:51,330 --> 00:05:53,665 ‪เป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ‪ในการทำอาหารพวกนี้ 72 00:05:55,501 --> 00:05:56,960 ‪ผมกำลังดูเมนูอยู่ 73 00:05:57,044 --> 00:05:58,879 ‪นี่ใช้รูปของใครครับ 74 00:05:58,962 --> 00:06:00,631 ‪นานมากที่ไม่มีใครรู้ 75 00:06:00,714 --> 00:06:03,133 ‪ว่านั่นเป็นเจมส์ เฮมมิงส์หรือเฮอร์คิวลีส ซีซาร์ 76 00:06:03,217 --> 00:06:07,137 ‪แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็รู้ว่าไม่ใช่ทั้งสองคน 77 00:06:07,846 --> 00:06:11,517 ‪แต่รูปมันสวยมาก 78 00:06:11,600 --> 00:06:14,728 ‪จนเราเลือกรูปอื่นมาทำเป็นโลโก้ร้านไม่ได้แล้ว 79 00:06:15,437 --> 00:06:18,273 ‪เราได้แรงบันดาลใจ ‪จากประวัติศาสตร์อาหารอเมริกา 80 00:06:18,357 --> 00:06:19,441 {\an8}‪เราพยายามเรียนรู้ระหว่างทำ 81 00:06:19,525 --> 00:06:21,527 {\an8}‪(ไบรอัน ดันสมัวร์ ‪เชฟและเจ้าของร้าน - แฮตเชต ฮอลล์) 82 00:06:21,610 --> 00:06:24,363 {\an8}‪และสอนผู้คนระหว่างที่ทำไปด้วย 83 00:06:24,947 --> 00:06:27,408 ‪ได้แล้วครับ นี่เนื้อลูกวัวราดมะกอก 84 00:06:27,491 --> 00:06:29,493 ‪- ขอบคุณครับ ‪- ยินดีครับ กินให้อร่อย 85 00:06:29,576 --> 00:06:30,411 ‪ดูดีมาก 86 00:06:30,494 --> 00:06:32,788 ‪เล่าเรื่องราวของจานนี้ให้ฟังหน่อยสิครับ 87 00:06:32,871 --> 00:06:36,792 ‪ผมคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเฮอร์คิวลีสคือ 88 00:06:36,875 --> 00:06:39,545 ‪เขาเป็นเชฟชื่อดังที่สุดคนหนึ่งในยุคนั้น 89 00:06:39,628 --> 00:06:42,339 ‪แต่เราหาอาหารที่เขาเคยทำไม่เจอเลย 90 00:06:42,423 --> 00:06:44,258 ‪แล้วก็มีมาร์ธา วอชิงตัน 91 00:06:44,341 --> 00:06:48,095 ‪ที่มีสูตรอาหารเยอะแยะมากมาย 92 00:06:48,804 --> 00:06:50,222 ‪- มันไม่สมเหตุสมผล ‪- ใช่ 93 00:06:50,305 --> 00:06:51,890 ‪คนมากมายจึงมีทฤษฎีว่า 94 00:06:51,974 --> 00:06:55,269 ‪อาหารหลายอย่างที่ยกย่องว่า ‪มาร์ธา วอชิงตันเป็นคนคิด 95 00:06:55,352 --> 00:06:57,646 ‪ที่จริงแล้วเป็นอาหารของเฮอร์คิวลีส 96 00:06:57,729 --> 00:07:02,985 ‪ดังนั้นแต่เดิม จานนี้คือเนื้อลูกวัวทุบ 97 00:07:03,068 --> 00:07:05,112 ‪คลุกเนื้อปู 98 00:07:05,195 --> 00:07:08,157 ‪แล้วเอาไปอบในซอสครีมเหล้าเชอร์รี 99 00:07:08,240 --> 00:07:11,285 ‪สูตรของเราทำเป็นตับอ่อนลูกวัวทั้งชิ้น 100 00:07:11,368 --> 00:07:14,621 ‪เสิร์ฟกับซอสครีมเหล้าเชอร์รี่ 101 00:07:14,705 --> 00:07:16,540 ‪และน้ำซุปเห็ดนิดหน่อย 102 00:07:16,623 --> 00:07:18,917 ‪เราใช้ปูดันเจเนสส์ 103 00:07:23,505 --> 00:07:24,339 ‪โอ้โฮ 104 00:07:25,340 --> 00:07:26,592 ‪นุ่มมากเลย 105 00:07:27,509 --> 00:07:28,385 ‪อร่อยมาก 106 00:07:29,553 --> 00:07:32,473 ‪สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับอาหารจานนี้คือ 107 00:07:33,098 --> 00:07:37,811 ‪เฮอร์คิวลีสขึ้นชื่อด้านอาหารฝรั่งเศส 108 00:07:37,895 --> 00:07:39,938 ‪แต่ไม่ใช้เทคนิคแบบฝรั่งเศสเสมอไป 109 00:07:40,022 --> 00:07:42,941 ‪เขามักทำอาหารแนวอังกฤษมากกว่า 110 00:07:43,025 --> 00:07:45,611 ‪ในขณะที่เจมส์ เฮมมิงส์นั้นตรงกันข้ามเลย 111 00:07:45,694 --> 00:07:49,281 ‪เขาทำอาหารฝรั่งเศส ‪หลังจากไปฝึกงานที่ฝรั่งเศส 112 00:07:56,330 --> 00:07:57,206 ‪ว้าว 113 00:07:57,289 --> 00:07:58,373 ‪ยังกับของขวัญเลย 114 00:07:59,416 --> 00:08:00,250 ‪ใช่เลย 115 00:08:00,334 --> 00:08:02,085 ‪จานนี้คืออะไรครับ 116 00:08:02,586 --> 00:08:04,755 ‪จานนี้เป็นเนื้อกระต่ายเคี่ยว 117 00:08:04,838 --> 00:08:08,967 ‪และแคร์รอทอบในไม้ ‪ราดบนปลายข้าวมิดแลนด์อบ 118 00:08:09,635 --> 00:08:12,346 ‪ราดด้วยไวน์มาเดรากับซอสเบอร์มาเยร์ 119 00:08:12,930 --> 00:08:15,974 ‪ถือเป็นการคารวะเจมส์ เฮมมิงส์ 120 00:08:18,143 --> 00:08:20,771 ‪ตัวซอสเป็นการระลึกถึงเฮมมิงส์ 121 00:08:20,854 --> 00:08:25,108 ‪เราใช้ความรู้เรื่องเตาสตู ‪ที่เขานำกลับมาจากฝรั่งเศส 122 00:08:25,192 --> 00:08:27,236 ‪การราดเนยลงบนซอสได้ 123 00:08:27,319 --> 00:08:30,531 ‪และการจัดการครีมและซอสเนยที่ละเอียดอ่อน 124 00:08:34,535 --> 00:08:35,786 ‪ผมชอบมาก 125 00:08:35,869 --> 00:08:38,497 ‪เมื่อเฮมมิงส์กลับมาจากฝรั่งเศส 126 00:08:38,580 --> 00:08:41,208 ‪เขาใช้เตาสตูทำอาหาร 127 00:08:41,291 --> 00:08:44,211 ‪เตาสตูที่เฮมมิงส์นำกลับมาจากฝรั่งเศส 128 00:08:44,294 --> 00:08:48,507 ‪เป็นจุดเปลี่ยนมาสู่เตาที่เราใช้กันตอนนี้ 129 00:08:48,590 --> 00:08:49,716 ‪- ครับ ‪- มันเหมือน… 130 00:08:49,800 --> 00:08:53,470 ‪ถ้าพวกเขาไม่ได้เอากลับมา พวกเราก็คงแย่ 131 00:08:53,554 --> 00:08:55,639 ‪เราไม่มีเตาของจริงใช้ที่ร้านอาหาร 132 00:08:55,722 --> 00:08:57,724 ‪แต่เราจำลองขึ้นมา 133 00:08:57,808 --> 00:09:01,311 ‪มันคือการกันอาหารที่ทำอยู่ ‪ไม่ให้โดนความร้อนสูงโดยตรง 134 00:09:04,106 --> 00:09:08,360 ‪เสียงตอบรับต่ออาหารพวกนี้เป็นไงบ้างครับ 135 00:09:08,443 --> 00:09:13,156 ‪ผมคิดว่าทุกคนที่เคยมากินตอบรับกันดีนะ 136 00:09:13,240 --> 00:09:17,452 ‪บางคนที่อ่านเจอ แต่ไม่เคยมา 137 00:09:17,536 --> 00:09:18,870 ‪ก็คิดว่าไม่ดีเท่าไหร่ 138 00:09:18,954 --> 00:09:22,416 ‪มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน 139 00:09:22,499 --> 00:09:26,003 ‪คนมากมายไม่อยากได้ยินคนอื่นพูดเรื่องนี้ 140 00:09:26,670 --> 00:09:28,422 ‪คุณคิดว่าเพราะอะไรครับ 141 00:09:28,505 --> 00:09:30,048 ‪คนอเมริกันก็เหมือนนกกระจอกเทศ 142 00:09:30,132 --> 00:09:34,386 ‪มุดหัวลงดิน ทำเป็นว่าทุกอย่างปกติดี 143 00:09:35,095 --> 00:09:37,931 ‪พวกเราที่นั่งกันอยู่ตรงนี้ไม่ได้ทำอะไรผิด 144 00:09:39,099 --> 00:09:41,935 ‪เรากำลังก้าวหน้าไปและผู้คนก็แค่ต้องรู้ 145 00:09:42,019 --> 00:09:46,189 ‪ผู้คนต้องรู้ข้อเท็จจริง แล้วค่อยเก็บไปคิดเอาเอง 146 00:09:57,367 --> 00:10:01,246 ‪ก่อนอื่นนะ จานปิดท้ายของเราดูซับซ้อนมาก 147 00:10:02,581 --> 00:10:03,915 ‪แต่มันคืออะไรล่ะ 148 00:10:03,999 --> 00:10:07,878 ‪มันเป็นรูปแบบหนึ่งของอาหารอย่างสองอย่าง ‪ที่เรารู้ว่าเจมส์ เฮมมิงส์เป็นคนทำ 149 00:10:07,961 --> 00:10:09,671 ‪นี่คือไข่หิมะ 150 00:10:09,755 --> 00:10:13,508 ‪มันคือเคร็มอองเกลสหรือคัสตาร์ดไอศกรีม 151 00:10:13,592 --> 00:10:15,844 ‪ทำจากไข่ขาวลวก 152 00:10:15,927 --> 00:10:18,180 ‪- เป็นจานที่สวยงาม ‪- สวยจริงๆ ครับ 153 00:10:18,263 --> 00:10:19,264 ‪ครับ 154 00:10:24,645 --> 00:10:26,521 ‪- เยี่ยม ‪- ล็อตนี้เด็ดที่สุดเลยนะ 155 00:10:28,231 --> 00:10:29,274 ‪ว้าว 156 00:10:29,358 --> 00:10:30,567 ‪คัสตาร์ดเย็นๆ 157 00:10:31,276 --> 00:10:32,444 ‪ไม่หวานเกินไป 158 00:10:32,986 --> 00:10:35,656 ‪- ผมชอบเนื้อสัมผัสของทับทิม ‪- ใช่ 159 00:10:36,490 --> 00:10:37,949 ‪มีความสุขมากที่ได้กิน 160 00:10:43,789 --> 00:10:48,335 ‪เชฟสองคนนี้มีมรดกตกทอดอะไร 161 00:10:48,418 --> 00:10:53,173 {\an8}‪ที่กระตุ้นให้คุณอยากสานต่อ ‪ผลงานของเขาต่อไปครับ 162 00:10:53,256 --> 00:10:55,801 ‪(หนังสือสัญญาปลดปล่อยทาส ‪วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1796) 163 00:10:55,884 --> 00:10:58,261 {\an8}‪ผมคงบอกชื่อเชฟคนดำคนอื่นได้แค่ไม่กี่คน 164 00:10:58,345 --> 00:11:02,474 ‪ยิ่งคนที่มีอิทธิพลต่อวิถีการกินของเรา ‪ยิ่งไม่ต้องพูดถึง 165 00:11:02,557 --> 00:11:07,104 ‪ดังนั้น ในฐานะคนดำคนหนึ่ง ‪การได้เล่าเรื่องราวของพวกเขาจึงสำคัญ 166 00:11:07,187 --> 00:11:11,775 ‪เถียงไม่ได้เลยว่าสองคนนั้นเป็นเชฟที่สำคัญที่สุด ‪ในประวัติศาสตร์อเมริกา 167 00:11:11,900 --> 00:11:13,485 ‪แต่กลับไม่เคยได้ชื่อเสียงบ้างเลย 168 00:11:13,568 --> 00:11:17,322 ‪สำหรับคนที่สนใจและเป็นเชฟด้วย 169 00:11:17,406 --> 00:11:22,994 ‪เรารู้สึกว่าเป็นหน้าที่ของเรา ‪ตอนนี้เราทุ่มสุดตัวแล้ว ต้องทำต่อไป 170 00:11:30,252 --> 00:11:31,128 ‪(มอนติเชลโล) 171 00:11:31,211 --> 00:11:35,382 ‪ทั้งเฮอร์คิวลีสและเจมส์ เฮมมิงส์ ‪ถูกใช้แรงงานทาสที่ไร่ในรัฐเวอร์จิเนีย 172 00:11:36,007 --> 00:11:40,095 {\an8}‪ความหมกมุ่นกับต้นกำเนิดของผม ‪พาผมไปยังเขาบลูริดจ์ของรัฐ 173 00:11:40,178 --> 00:11:44,808 {\an8}‪ที่ที่โทมัส เจฟเฟอร์สันสร้างบ้านของเขา ‪บนพื้นที่กว้างใหญ่ที่เขาตั้งชื่อว่า มอนติเชลโล 174 00:11:45,559 --> 00:11:49,354 ‪เจมส์ เฮมมิงส์มามอนติเชลโล ‪ตอนอายุเก้าขวบกับครอบครัว 175 00:11:49,438 --> 00:11:52,607 ‪พร้อมกับแซลลี่ เฮมมิงส์ น้องสาวของเขา 176 00:11:52,691 --> 00:11:55,986 ‪ผู้ที่ต่อมามีลูกกับเจฟเฟอร์สันถึงหกคน 177 00:11:56,069 --> 00:11:58,447 ‪มอนติเชลโลเป็นไร่ที่ใหญ่มาก 178 00:11:58,530 --> 00:12:02,576 {\an8}‪เจฟเฟอร์สันมีทาสทั้งหมด 607 คน ‪ในช่วงชีวิตของเขา 179 00:12:02,659 --> 00:12:05,495 {\an8}‪และทาส 400 คนในนั้นทำงานที่ไร่นี้ 180 00:12:06,788 --> 00:12:10,542 ‪เราพอจะรู้ไหมว่าทาสกินอะไร 181 00:12:10,625 --> 00:12:13,378 ‪รู้ค่ะ เจฟเฟอร์สันเป็นคนที่จดบันทึกละเอียดมาก 182 00:12:13,462 --> 00:12:17,507 ‪เรามีเอกสารกว่า 65,000 ชิ้น ‪ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับชุมชนทาสนี้ 183 00:12:17,591 --> 00:12:18,467 ‪โอ้โฮ 184 00:12:18,550 --> 00:12:22,888 ‪เรารู้ว่าเจฟเฟอร์สันเจียดส่วนแบ่งเพียงเล็กน้อย ‪ให้กับชุมชนทาส 185 00:12:22,971 --> 00:12:27,309 ‪ทาสจึงต้องปลูกผัก วางกับดักล่าสัตว์ ‪เพื่อให้มีอาหารกินเพียงพอ 186 00:12:28,435 --> 00:12:30,645 ‪เจมส์ เฮมมิงส์มาที่นี่ตั้งแต่เด็กเลยเหรอครับ 187 00:12:30,729 --> 00:12:34,065 ‪ใช่ค่ะ เจมส์ เฮมมิงส์มาที่นี่ ‪เพราะเป็นมรดกตกทอดมา 188 00:12:34,149 --> 00:12:35,901 ‪เขาเป็นพี่ชายของแซลลี่ เฮมมิงส์ 189 00:12:35,984 --> 00:12:38,278 ‪พวกเขาจึงมาที่นี่เป็นครอบครัว 190 00:12:38,361 --> 00:12:40,697 ‪พร้อมกับสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ด้วย 191 00:12:40,781 --> 00:12:43,283 ‪เพื่อเริ่มทำงานที่เจฟเฟอร์สันสั่งไว้ 192 00:12:44,326 --> 00:12:46,286 ‪ในช่วงไหนของชีวิตเฮมมิงส์ 193 00:12:46,369 --> 00:12:49,831 ‪ที่เจฟเฟอร์สันตัดสินใจว่า ‪เขาเหมาะกับงานครัวครับ 194 00:12:49,915 --> 00:12:51,833 ‪ตอนแรกเจมส์เป็นคนรับใช้ส่วนตัว 195 00:12:51,917 --> 00:12:55,462 ‪และเจฟเฟอร์สันก็เริ่มเห็นคุณสมบัติในตัวเขา 196 00:12:56,254 --> 00:12:57,672 ‪ที่น่าจะเหมาะกับงานในครัว 197 00:12:58,256 --> 00:13:01,510 ‪ดังนั้น เมื่อเจฟเฟอร์สันรับหน้าที่ ‪เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในฝรั่งเศส 198 00:13:01,593 --> 00:13:03,804 ‪เขาพาเฮมมิงส์ในวัย 19 ปีไปด้วย 199 00:13:03,887 --> 00:13:06,306 ‪และให้เขาฝึกศิลปะการทำอาหารฝรั่งเศส 200 00:13:07,682 --> 00:13:10,602 ‪เจฟเฟอร์สันค่อนข้างมีชื่อเสียงมาก 201 00:13:10,685 --> 00:13:13,814 ‪ว่าเป็นนักกินหรือคนสนใจอาหาร ‪คนแรกๆ ของประเทศ 202 00:13:13,897 --> 00:13:16,316 ‪เจฟเฟอร์สันเป็นคนที่มีความคิดทะเยอทะยาน 203 00:13:16,399 --> 00:13:18,151 ‪ถึงความหมายของการเป็นคนอเมริกัน 204 00:13:18,235 --> 00:13:21,571 ‪เขาทำแบบนั้นในสถาปัตยกรรม ‪ในงานออกแบบของเขา 205 00:13:21,655 --> 00:13:23,532 ‪โดยเฉพาะกับอาหาร 206 00:13:23,615 --> 00:13:25,951 ‪ถ้าคุณมาที่มอนติเชลโล 207 00:13:26,034 --> 00:13:30,247 ‪คุณจะได้กินอาหารที่กล่าวกันว่า ‪เป็นครึ่งเวอร์จิเนียกับฝรั่งเศส 208 00:13:30,330 --> 00:13:32,374 ‪ชาวเวอร์จิเนียส่วนใหญ่ไม่เคยไปฝรั่งเศส 209 00:13:32,457 --> 00:13:35,919 ‪พวกเขาไม่เคยกินซอสที่รสชาติละเอียดอ่อนแบบนี้ 210 00:13:36,002 --> 00:13:38,547 ‪และอาหารรสเลิศที่เสิร์ฟที่มอนติเชลโล 211 00:13:40,257 --> 00:13:42,175 ‪งั้นเมื่อเจมส์ เฮมมิงส์กลับมาจากปารีส 212 00:13:42,259 --> 00:13:44,553 ‪เขาทำข้อตกลงอะไรกับเจฟเฟอร์สันครับ 213 00:13:44,636 --> 00:13:48,098 ‪เมื่อพวกเขากลับมาจากปารีส ‪ก็ไปฟิลาเดลเฟีย 214 00:13:48,181 --> 00:13:51,685 ‪เจมส์ทำงานเป็นเชฟที่บ้านของเจฟเฟอร์สัน 215 00:13:51,768 --> 00:13:54,396 ‪ฟิลาเดลเฟียมีประชากรคนดำที่เป็นอิสระมากมาย 216 00:13:55,146 --> 00:13:57,899 ‪และในที่สุดเจมส์ก็ตัดสินใจว่า ‪เขาต้องการเป็นอิสระ 217 00:13:57,983 --> 00:13:59,484 ‪เขาจึงต่อรองกับเจฟเฟอร์สัน 218 00:13:59,568 --> 00:14:03,864 ‪คำตอบของเจฟเฟอร์สันคือ ‪"ฉันหมดเงินไปมากมาย 219 00:14:03,947 --> 00:14:07,576 ‪เพื่อฝึกแกให้ทำอาหารที่ฉันอยากเสิร์ฟที่บ้าน 220 00:14:07,659 --> 00:14:11,329 ‪ทางเดียวที่แกจะได้อิสรภาพ ‪คือแกต้องฝึกคนอื่นมาแทน" 221 00:14:11,413 --> 00:14:13,456 ‪ท้ายที่สุด คนนั้นก็คือน้องชายของเจมส์ 222 00:14:13,540 --> 00:14:16,960 ‪และกุญแจสู่อิสรภาพของเขาคือ ‪เขาต้องกลับมามอนติเชลโล 223 00:14:17,043 --> 00:14:19,379 ‪ฝึกน้องชายให้ทำงานในครัวแทนเขา 224 00:14:19,462 --> 00:14:20,964 ‪ก่อนที่เขาจะได้อิสรภาพนั้น 225 00:14:25,886 --> 00:14:30,140 ‪ผมแปลกใจที่ครัวที่เจมส์ เฮมมิงส์ ‪ฝึกปีเตอร์ น้องชายของเขา 226 00:14:30,223 --> 00:14:32,017 ‪ยังใช้งานได้อยู่ 227 00:14:32,767 --> 00:14:36,521 ‪และที่นี่เองที่เขาทำอาหารมากมายให้เป็นที่นิยม ‪ทั้งเฟรนช์ฟรายส์ 228 00:14:36,605 --> 00:14:39,941 ‪ไอศกรีม และมักกะโรนีอบชีส ‪เมนูโปรดของประเทศเรา 229 00:14:42,986 --> 00:14:44,821 ‪ก่อนที่เราจะพูดถึงมักกะโรนีอบชีส 230 00:14:44,905 --> 00:14:47,866 ‪ช่วยอธิบายเรื่องห้องครัวให้หน่อยได้ไหม 231 00:14:47,949 --> 00:14:50,744 ‪ว่าทำงานกันยังไงในศตวรรษที่ 18 232 00:14:50,827 --> 00:14:57,250 {\an8}‪ในครัวนี้เตาไฟเป็นฉากหลัก 233 00:14:57,334 --> 00:15:00,503 ‪เป็นจุดที่ต้องจุดไฟไว้ตลอดเวลา 234 00:15:00,587 --> 00:15:02,339 ‪จะได้อบอาหาร 235 00:15:02,964 --> 00:15:05,216 ‪ย่างเนื้อข้างหน้านี้เลย 236 00:15:05,300 --> 00:15:07,385 ‪มันคือหัวใจของห้องครัว 237 00:15:10,597 --> 00:15:14,684 ‪แล้วก็มีเตาอิฐที่เรียกว่าเตาสตู 238 00:15:14,768 --> 00:15:21,483 ‪ทำขึ้นมาเพื่อใช้ทำครีม ซอส ทอดอาหาร ‪ที่ละเอียดอ่อนโดยเฉพาะ 239 00:15:24,986 --> 00:15:26,154 ‪วันนี้เราจะทำอะไร 240 00:15:26,237 --> 00:15:30,659 ‪เราจะทำพายมักกะโรนี ‪สมัยนั้นเรียกกันว่าอย่างนั้น 241 00:15:32,786 --> 00:15:34,913 ‪แน่นอน เราเรียกกันว่ามักกะโรนีอบชีส 242 00:15:34,996 --> 00:15:40,627 ‪อาหารจานอร่อยมาตรฐาน ‪ที่เราทุกคนชื่นชอบมีประวัติเก่าแก่มาก 243 00:15:48,468 --> 00:15:50,011 ‪คุณกำลังต้มเส้นอยู่ 244 00:15:50,095 --> 00:15:54,474 ‪ใช่ และในสูตรนี้ ต้องต้มให้สุก 245 00:15:54,557 --> 00:15:58,478 ‪ให้เส้นนิ่ม และต้มในน้ำนมครึ่งนึง ‪น้ำเปล่าครึ่งนึง 246 00:15:58,561 --> 00:16:04,234 ‪ซึ่งเป็นส่วนผสมที่น่าสนใจและได้ผลมาก 247 00:16:08,905 --> 00:16:10,949 ‪เห็นได้ว่ามันเริ่มกลิ่นเหมือนมักกะโรนีอบชีสแล้ว 248 00:16:11,032 --> 00:16:13,952 ‪- ใช่เลยครับ ‪- เพราะมีนมอยู่ในเส้น 249 00:16:21,084 --> 00:16:24,254 ‪มักกะโรนีหนึ่งชั้น 250 00:16:24,337 --> 00:16:26,506 ‪ต้องทาเนยเป็นชั้นๆ 251 00:16:26,589 --> 00:16:29,592 ‪แน่นอน ใช้เนยเท่าไหร่ก็ไม่มากไป 252 00:16:29,676 --> 00:16:34,055 ‪แล้วมักกะโรนีอบชีสเป็นอาหารที่แพร่หลาย ‪จากห้องครัวนี้ได้ยังไงครับ 253 00:16:34,889 --> 00:16:38,810 ‪มันน่าจะเริ่มต้นในครัวนี้จากเจมส์ 254 00:16:38,893 --> 00:16:40,061 ‪เขาถ่ายทอดวิชาไว้ 255 00:16:40,145 --> 00:16:43,565 ‪แล้วส่งต่อกันไปผ่านเชฟหลายรุ่น ‪ที่เคยทำงานที่นี่ 256 00:16:43,648 --> 00:16:49,404 ‪เรารู้ว่าเจฟเฟอร์สัน ‪ซื้อเส้นมักกะโรนีดิบไว้หลายกิโลกรัม 257 00:16:49,487 --> 00:16:52,282 ‪หกเดือนก่อนเขาตายในปี 1826 258 00:16:52,365 --> 00:16:57,037 ‪ดังนั้นมันคงเป็นอาหารจานโปรดของที่นี่ 259 00:16:57,120 --> 00:17:03,543 ‪บางครั้งก็สืบได้ยากว่า ‪สไตล์การทำอาหารเติบโตได้ยังไง 260 00:17:03,626 --> 00:17:07,714 ‪แต่เจมส์น่าจะเรียนรู้ที่ฝรั่งเศส 261 00:17:09,049 --> 00:17:10,133 ‪หอมมากครับ 262 00:17:11,051 --> 00:17:14,304 ‪เราจะเอาไปใส่เตาอบแบบดัตช์ 263 00:17:15,180 --> 00:17:18,058 ‪วางไว้บนกองอิฐแข็งๆ ร้อนๆ 264 00:17:24,189 --> 00:17:25,190 ‪มักกะโรนี 265 00:17:29,402 --> 00:17:31,696 ‪แล้วปิดฝาไว้ 266 00:17:33,281 --> 00:17:35,200 ‪จากนั้นก็เติม… 267 00:17:38,369 --> 00:17:40,121 ‪- ถ่านหิน ‪- โอเค 268 00:17:40,205 --> 00:17:44,667 ‪ไว้บนกระทะเพื่อให้ความร้อน 269 00:17:46,086 --> 00:17:48,254 ‪อบให้ทั่ว 270 00:17:52,425 --> 00:17:55,804 ‪สมัยนั้นการทำอาหารแบบเปิดโล่งหน้าเตา ‪อันตรายขนาดไหนครับ 271 00:17:55,887 --> 00:17:57,055 ‪ค่อนข้างอันตรายเลยละ 272 00:17:57,138 --> 00:18:01,267 ‪รู้จักสำนวน "ถ้าไม่ชอบความร้อน ‪ก็ออกไปจากครัว" ไหม 273 00:18:01,351 --> 00:18:03,937 ‪- ครับ ‪- ตามนั้นเลย มันร้อนตลอด 274 00:18:04,020 --> 00:18:06,147 ‪แน่นอนว่าความอันตรายมาจากไฟไหม้ 275 00:18:06,231 --> 00:18:09,067 ‪ผู้หญิงใส่ชุดยาวๆ 276 00:18:09,150 --> 00:18:13,696 ‪การถูกเผาจากเสื้อผ้าที่ติดไฟ ‪อาจเป็นปัญหาได้มากทีเดียว 277 00:18:25,416 --> 00:18:27,293 ‪- เอาละ คิดว่าพร้อมหรือยัง ‪- เอาเลย 278 00:18:27,377 --> 00:18:31,714 ‪- เอาเลยครับ ‪- โอเค ไหน ตะขอเกี่ยวหม้อของเรา 279 00:18:32,215 --> 00:18:37,178 ‪เราจะยกขึ้นมา 280 00:18:38,054 --> 00:18:39,472 ‪ร้อนฉ่าเลย 281 00:18:39,556 --> 00:18:40,723 ‪ดูดีมาก 282 00:18:48,815 --> 00:18:50,191 ‪- หวัดดีค่ะ ‪- หวัดดีครับเกล 283 00:18:50,275 --> 00:18:52,485 ‪ดูนั่นสิ ดูดีมาก 284 00:18:52,569 --> 00:18:54,195 ‪- ดูดีมาก ‪- ใส่เนยอีก 285 00:18:54,279 --> 00:18:55,822 ‪เรากำลังทำมักกะโรนีอบชีสกันอยู่ 286 00:18:55,905 --> 00:18:58,741 ‪ผมเข้าใจว่าคุณเป็นทายาทตระกูลเฮมมิงส์ 287 00:18:58,825 --> 00:19:00,243 ‪ใช่ค่ะ 288 00:19:00,326 --> 00:19:03,705 {\an8}‪ฉันสืบเชื้อสายจากทั้งครอบครัวเฮมมิงส์ 289 00:19:03,788 --> 00:19:06,541 {\an8}‪เจมส์ เฮมมิงส์คงเป็นลุงทวดของฉัน 290 00:19:06,624 --> 00:19:09,669 ‪ปีเตอร์ น้องชายของเขาเป็นปู่ทวดของฉัน 291 00:19:09,752 --> 00:19:13,006 ‪ดังนั้นฉันจึงรู้สึกผูกพัน ‪กับมักกะโรนีอบชีสนี้เป็นพิเศษ 292 00:19:13,089 --> 00:19:15,466 ‪ก็สมควรครับ 293 00:19:15,550 --> 00:19:17,927 ‪คุณคงโตมากับการกินมักกะโรนีอบชีส 294 00:19:18,011 --> 00:19:19,220 ‪ทุกคนแหละ ใช่ไหมคะ 295 00:19:19,304 --> 00:19:20,722 ‪- ครับ เราโตมากับมัน ‪- ใช่ 296 00:19:20,805 --> 00:19:23,474 ‪แล้วรู้สึกยังไงบ้างครับเมื่อคุณรู้ว่า 297 00:19:23,558 --> 00:19:26,936 ‪คุณเป็นทายาทของคนหรือครอบครัว 298 00:19:27,020 --> 00:19:28,938 ‪ที่ช่วยทำให้อาหารจานนี้เป็นที่นิยมในสหรัฐฯ 299 00:19:29,022 --> 00:19:31,900 ‪ก่อนอื่นเลย ฉันไม่ได้รู้ตั้งแต่เด็ก 300 00:19:31,983 --> 00:19:34,485 ‪ฉันเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ 301 00:19:34,569 --> 00:19:37,405 ‪ตอนนี้เมื่อรู้แล้ว ฉันก็สงสัยว่าค่าลิขสิทธิ์อยู่ไหน 302 00:19:39,073 --> 00:19:39,908 ‪ขอบคุณค่ะ 303 00:19:39,991 --> 00:19:42,076 ‪ที่จริงเราก็สงสัยกันทุกคน 304 00:19:43,036 --> 00:19:47,498 ‪นอกจากเรื่องนั้น มันถือเป็นเกียรติมากค่ะ 305 00:19:47,582 --> 00:19:50,251 ‪ฉันโชคดีที่ได้รู้เรื่องราวนั้น 306 00:19:50,835 --> 00:19:55,673 ‪แต่คนดำชาวอเมริกันทุกคนมีเรื่องเหล่านั้น ‪อยู่เบื้องหลัง 307 00:19:55,757 --> 00:19:57,550 ‪พวกเขาแค่ยังไม่รู้ 308 00:19:57,634 --> 00:19:59,219 ‪ฉันจึงรู้สึกเป็นเกียรติ ฉันรู้สึกพิเศษ 309 00:19:59,302 --> 00:20:01,471 ‪และอดใจรอกินมักกะโรนีอบชีสนี้ไม่ไหวแล้ว 310 00:20:02,180 --> 00:20:06,142 ‪- ส่งจานแบ่งให้หน่อยค่ะ ‪- น่ากินจัง 311 00:20:06,267 --> 00:20:09,562 ‪- ตายแล้ว ‪- เราต้องตามใจปากละ 312 00:20:09,646 --> 00:20:11,064 ‪ตื่นเต้นจัง 313 00:20:14,734 --> 00:20:16,194 ‪กลิ่นหอมจัง 314 00:20:16,277 --> 00:20:17,612 ‪น่ากินนะ 315 00:20:23,451 --> 00:20:25,078 ‪เข้มข้นมาก 316 00:20:25,161 --> 00:20:25,995 ‪โอ้โฮ 317 00:20:27,455 --> 00:20:28,665 ‪เนื้อเนียนด้วย 318 00:20:28,748 --> 00:20:31,542 ‪สูตรนี้อายุเท่าไหร่คะ เลนี่ 319 00:20:31,626 --> 00:20:32,794 ‪สองร้อยปี 320 00:20:33,336 --> 00:20:34,462 ‪อาจจะเก่ากว่านั้น 321 00:20:35,046 --> 00:20:37,006 ‪ว้าว รู้ไหมว่าผมชอบอะไร 322 00:20:37,090 --> 00:20:38,967 ‪เพราะคุณต้มในน้ำนม 323 00:20:39,050 --> 00:20:42,470 ‪มันเลยมีเนื้อเนียน เส้นมีความเนียนนุ่ม 324 00:20:42,553 --> 00:20:44,973 ‪ต่อไปผมต้องทำมักกะโรนีอบชีสแบบนี้แล้ว 325 00:20:45,056 --> 00:20:49,352 ‪ฉันก็เริ่มทำวิธีนี้แล้ว ฉันชอบมากจริงๆ 326 00:20:50,478 --> 00:20:53,356 ‪เกลครับ คิดว่าบรรพบุรุษของคุณจะคิดยังไง 327 00:20:53,439 --> 00:20:56,567 ‪ที่อาหารจานนี้ดังขึ้นมา 328 00:20:56,651 --> 00:20:57,568 ‪พระเจ้า 329 00:20:58,528 --> 00:21:01,698 ‪จะบอกให้ว่าฉันคิดยังไง 330 00:21:01,781 --> 00:21:04,450 ‪ฉันค่อนข้างตกใจนะ 331 00:21:04,534 --> 00:21:09,664 ‪ที่บรรพบุรุษของฉัน ‪ช่วยคิดค้นเมนูนี้ขึ้นมาในสหรัฐฯ 332 00:21:09,747 --> 00:21:11,624 ‪ซึ่งกลายเป็นอาหารสำคัญของอเมริกา 333 00:21:12,750 --> 00:21:15,503 ‪ฉันภูมิใจในความแข็งแกร่งของพวกเขา 334 00:21:15,586 --> 00:21:19,173 ‪ความมุ่งมั่น อุปนิสัยของพวกเขา 335 00:21:19,716 --> 00:21:21,843 ‪ฉันคิดว่าไม่มีใครจินตนาการได้หรอก 336 00:21:21,926 --> 00:21:25,179 ‪ว่าการมีชีวิตอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นเป็นยังไง 337 00:21:25,263 --> 00:21:28,725 ‪การรู้ว่าคุณไม่มีวันได้เป็นอิสระ 338 00:21:29,434 --> 00:21:32,937 ‪แต่พวกเขารอดชีวิตมาได้ และทำมากกว่านั้นด้วย 339 00:21:34,522 --> 00:21:36,774 ‪เพราะฉันยืนอยู่ตรงนี้ในวันนี้ 340 00:21:36,858 --> 00:21:38,901 ‪เรายืนอยู่ที่นี้ในวันนี้ 341 00:21:38,985 --> 00:21:42,030 ‪ฉันตื้นตันกับเรื่องนี้มาก เพราะพวกเขา 342 00:21:42,113 --> 00:21:43,781 ‪เพราะความแข็งแกร่งของพวกเขา 343 00:21:43,865 --> 00:21:45,158 ‪เราสานต่อสิ่งที่พวกเขาทำไว้ 344 00:21:45,241 --> 00:21:47,410 ‪อร่อยจัง ฉันชอบมักกะโรนีอบชีส 345 00:21:47,493 --> 00:21:48,870 ‪เราใช้มันเป็นสัญลักษณ์ได้ 346 00:21:48,953 --> 00:21:51,122 ‪แต่มาคิดกันว่าคนเหล่านั้นเป็นใครกันแน่ 347 00:21:51,205 --> 00:21:53,833 ‪ความเข้มแข็ง ตัวตน ความอดทนของพวกเขา 348 00:21:53,916 --> 00:21:55,752 ‪ดังนั้นใช่ค่ะ ฉันภูมิใจมาก 349 00:21:57,378 --> 00:22:00,340 ‪ไม่ใช่เพราะว่าฉันเป็นทายาทของพวกเขานะ 350 00:22:00,423 --> 00:22:03,843 ‪แต่เพราะพวกเขาเป็นตัวแทนของสิ่งที่ดีที่สุด 351 00:22:03,926 --> 00:22:05,595 ‪ของสหรัฐอเมริกา 352 00:22:09,932 --> 00:22:11,184 ‪เมื่อจากมอนติเชลโลมา 353 00:22:11,267 --> 00:22:13,603 ‪ผมครุ่นคิดว่ามันเป็นยังไง 354 00:22:13,686 --> 00:22:16,564 ‪ที่เจมส์ เฮมมิงส์ต้องฝึกน้องชายของเขาเอง 355 00:22:16,647 --> 00:22:18,149 ‪เพื่อแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพของเขา 356 00:22:18,983 --> 00:22:21,903 {\an8}‪และชีวิตเขาเป็นยังไงหลังจากนั้น 357 00:22:23,279 --> 00:22:24,989 ‪เกิดอะไรขึ้นกับเฮมมิงส์ครับ 358 00:22:25,823 --> 00:22:29,911 ‪เฮมมิงส์ไม่ได้สอนแค่ปีเตอร์ น้องชายตัวเอง ‪แต่สอนคนอื่น 359 00:22:29,994 --> 00:22:32,163 {\an8}‪ที่มอนติเชลโลให้ทำอาหารด้วย 360 00:22:32,246 --> 00:22:34,040 {\an8}‪จากนั้นเขาก็เป็นอิสระ 361 00:22:36,876 --> 00:22:38,961 ‪เขาไปฟิลาเดลเฟีย 362 00:22:39,045 --> 00:22:41,297 ‪ในที่สุดเขาก็ไปบัลติมอร์ 363 00:22:43,091 --> 00:22:45,134 ‪เกิดอะไรขึ้นกับเขาที่บัลติมอร์ 364 00:22:45,218 --> 00:22:49,889 ‪เขาเป็นคนจัดเลี้ยงอาหารไม่ก็เป็นเจ้าของร้าน ‪ในบัลติมอร์ อยู่ที่นั่นสักพัก 365 00:22:49,972 --> 00:22:53,518 ‪สุดท้ายเจฟเฟอร์สันก็ได้ข่าวว่าเขาเสียชีวิต 366 00:22:53,601 --> 00:22:55,228 ‪เขาดื่มเหล้าจนตาย 367 00:22:57,647 --> 00:23:01,609 ‪นักประวัติศาสตร์บางคนถกกันว่า ‪เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ 368 00:23:01,692 --> 00:23:05,154 ‪ว่ามันเป็นการฆ่าตัวตาย ‪หรือแค่บังเอิญดื่มเหล้าหนักจนตาย 369 00:23:05,238 --> 00:23:07,115 ‪แต่สุดท้ายเขาก็ตายไป 370 00:23:10,284 --> 00:23:13,663 ‪ผมเชื่อว่าเขาคงได้เป็น ‪เชฟทำเนียบขาวของเจฟเฟอร์สัน 371 00:23:13,746 --> 00:23:17,834 ‪ถ้าเขามีชีวิตอยู่ต่ออีกสองสามเดือน ‪ผมว่าเจฟเฟอร์สันคงเรียกตัวเขา 372 00:23:17,917 --> 00:23:20,128 ‪เขาลงทุนในตัวเฮมมิงส์ไปมาก 373 00:23:20,211 --> 00:23:23,256 ‪เขาเคารพความสามารถ ‪และรักอาหารของเฮมมิงส์จริงๆ 374 00:23:24,507 --> 00:23:27,593 ‪แน่นอน นี่คือแฮมเวอร์จิเนีย 375 00:23:27,677 --> 00:23:32,181 ‪นี่เป็นอาหารที่เชฟทาสน่าจะเสิร์ฟ ‪ให้เจฟเฟอร์สันและวอชิงตันไหมครับ 376 00:23:32,849 --> 00:23:37,478 ‪แน่นอนครับ แฮมเวอร์จิเนียดังมากในยุคนั้น ‪เหมือนกับตอนนี้ 377 00:23:37,562 --> 00:23:40,815 ‪เมื่อประธานาธิบดีต้อนรับแขก ‪พวกเขาอยากนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด 378 00:23:40,898 --> 00:23:43,192 ‪จากรัฐบ้านเกิดของตัวเอง 379 00:23:43,276 --> 00:23:45,403 ‪และแฮมเวอร์จิเนียก็มีชื่อเสียง 380 00:23:45,987 --> 00:23:48,072 ‪นอกจากแฮมเวอร์จิเนียแล้ว 381 00:23:48,156 --> 00:23:51,534 ‪คุณอาจได้กินเนื้อ ปลา อาหารจานอื่นที่ขึ้นชื่ออีก 382 00:23:51,617 --> 00:23:54,745 ‪แต่แน่นอนว่าแฮมเวอร์จิเนียเป็นอาหารขึ้นชื่อที่สุด 383 00:23:54,829 --> 00:23:56,330 ‪ลองกันเลยไหมครับ 384 00:23:56,414 --> 00:23:57,874 ‪- แน่นอน ‪- เอาเลยครับ 385 00:24:09,719 --> 00:24:10,553 ‪ดี 386 00:24:10,636 --> 00:24:12,930 ‪- ดีใช่ไหม ‪- มันต้องอย่างนี้ 387 00:24:13,431 --> 00:24:16,726 ‪เฮอร์คิวลีสเป็นเชฟที่เป็นทาสของวอชิงตัน 388 00:24:16,809 --> 00:24:18,227 ‪เกิดอะไรขึ้นกับเขา 389 00:24:19,228 --> 00:24:22,356 ‪มีสัญญาณบอกว่าในช่วงปลายวาระที่สองของเขา 390 00:24:22,440 --> 00:24:26,360 ‪วอชิงตันเริ่มสงสัยว่า ‪เฮอร์คิวลีสอาจพยายามหนีไป 391 00:24:26,444 --> 00:24:28,905 ‪ที่จริงแล้ว เขาส่งเฮอร์คิวลีส ‪กลับไปเมาต์เวอร์นอน 392 00:24:28,988 --> 00:24:33,367 ‪มีบันทึกว่าเขากลับไปใช้แรงงาน ‪ในไร่ที่เมาต์เวอร์นอน 393 00:24:33,451 --> 00:24:34,785 ‪เฮอร์คิวลีสอยากเป็นอิสระ 394 00:24:34,869 --> 00:24:38,122 ‪เขาจึงรอจนถึงวันเกิดครบ 65 ปีของวอชิงตัน 395 00:24:38,206 --> 00:24:40,208 ‪มีวางแผนงานฉลองครั้งยิ่งใหญ่ 396 00:24:40,291 --> 00:24:43,169 ‪และระหว่างที่งานกำลังดำเนินไป ‪เฮอร์คิวลีสก็หายตัวไป 397 00:24:43,252 --> 00:24:47,173 ‪วอชิงตันที่อารมณ์รุนแรงก็หัวเสียมาก 398 00:24:47,256 --> 00:24:48,883 ‪เขาเขียนจดหมายไปหาคนรู้จัก 399 00:24:48,966 --> 00:24:51,677 ‪เขาพยายามสืบหาว่าเฮอร์คิวลีสอยู่ไหน 400 00:24:51,761 --> 00:24:54,639 ‪เป็นปีหลังจากเฮอร์คิวลีสหายตัวไป 401 00:24:54,722 --> 00:24:56,390 ‪พวกเขาไม่เคยตามหาเขาเจอ 402 00:24:56,474 --> 00:25:00,686 ‪จนกระทั่งปี 1801 ปีเดียวกับที่เฮมมิงส์ตาย 403 00:25:00,770 --> 00:25:04,982 ‪นายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์ก ‪เห็นเฮอร์คิวลีสที่นิวยอร์ก 404 00:25:05,066 --> 00:25:07,109 ‪เขาเคยทำงานกับวอชิงตัน 405 00:25:07,193 --> 00:25:11,531 ‪เขาแจ้งมาร์ธา วอชิงตันว่าเฮอร์คิวลีสอยู่ไหน 406 00:25:11,614 --> 00:25:12,949 ‪เพราะตอนนั้นวอชิงตันเสียไปแล้ว 407 00:25:13,032 --> 00:25:15,159 ‪แต่นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้ข่าวเฮอร์คิวลีส 408 00:25:16,577 --> 00:25:19,038 ‪เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฮอร์คิวลีส 409 00:25:19,121 --> 00:25:21,582 ‪แต่มีหลักฐานไม่นานมานี้บ่งบอกว่า 410 00:25:21,666 --> 00:25:23,209 ‪เขาอาจจะอยู่ในนิวยอร์กเหรอครับ 411 00:25:23,292 --> 00:25:28,381 ‪ครับ เพราะมีนักลำดับวงศ์ตระกูลและคนอื่นๆ ‪ที่ทุ่มเทค้นคว้าอย่างหนัก 412 00:25:28,464 --> 00:25:31,092 ‪เราจึงรู้ว่าเฮอร์คิวลีสอยู่ในนิวยอร์ก 413 00:25:31,175 --> 00:25:36,013 ‪เขาใช้นามสกุลของนายทาสคนก่อนวอชิงตัน 414 00:25:36,097 --> 00:25:37,431 ‪ผู้ชายชื่อจอห์น โพซีย์ 415 00:25:37,515 --> 00:25:39,433 ‪เขาเรียกตัวเองว่าเฮอร์คิวลีส โพซีย์ 416 00:25:39,517 --> 00:25:42,520 ‪เรารู้ว่าเขาอยู่หลายที่ในนิวยอร์ก 417 00:25:42,603 --> 00:25:45,815 ‪และมีข้อมูลว่าเป็นกุ๊กและคนงาน 418 00:25:45,898 --> 00:25:50,069 ‪เขาตายด้วยโรคปอดติดเชื้อ ‪เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 1812 419 00:25:50,152 --> 00:25:52,989 ‪โรคที่สมัยนี้เราเรียกว่าวัณโรค 420 00:25:53,072 --> 00:25:57,243 ‪เชื่อกันว่าศพของเขาฝังอยู่สักที่ในนิวยอร์ก 421 00:25:57,326 --> 00:25:58,953 ‪เราไม่รู้แน่ชัดว่าที่ไหน 422 00:25:59,036 --> 00:26:01,497 ‪แต่เขาใช้ช่วงบั้นปลายชีวิตในนิวยอร์ก 423 00:26:02,039 --> 00:26:04,125 ‪เขายังอยู่กับเราที่ไหนสักที่ 424 00:26:04,208 --> 00:26:08,004 ‪เขายังอยู่ที่นี่กับเรา ผมว่ามันเป็นอุปมาที่ดี ‪สำหรับชีวิตของเขานะ 425 00:26:08,087 --> 00:26:10,673 ‪และคนทำอาหารชาวแอฟริกันอเมริกัน ‪ที่น่านับถือพวกนี้ 426 00:26:10,756 --> 00:26:13,342 ‪เพราะในหลายแง่มุม ‪พวกเขายังอยู่แต่ไม่มีใครสังเกต 427 00:26:13,426 --> 00:26:16,429 ‪ไม่เป็นที่ยอมรับหรือจดจำเต็มที่ 428 00:26:16,512 --> 00:26:19,265 ‪ความพยายามส่วนหนึ่งของเราที่นี่ 429 00:26:19,348 --> 00:26:22,226 ‪คือแสดงให้เห็น ‪ถึงผลงานที่พวกเขามอบให้อาหารอเมริกัน 430 00:26:22,310 --> 00:26:26,439 ‪ให้เห็นว่าพวกเขาวางรากฐาน ‪อาหารอเมริกันไว้มากแค่ไหน 431 00:26:33,613 --> 00:26:34,447 ‪(วอลสตรีท) 432 00:26:34,530 --> 00:26:36,824 ‪เฮอร์คิวลีสไม่ได้เป็นเชฟในตำนานเพียงคนเดียว 433 00:26:36,907 --> 00:26:39,744 ‪ที่ผลงานสูญหายไปในเงามืดของนครนิวยอร์ก 434 00:26:41,454 --> 00:26:44,999 ‪เมื่อผมขุดคุ้ยลึกลงไปในประวัติศาสตร์อาหาร ‪ของนิวยอร์ก 435 00:26:45,082 --> 00:26:47,710 ‪ผมค้นพบว่าย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 18 436 00:26:47,793 --> 00:26:49,670 ‪หอยนางรมเป็นสินค้าขายดีที่สุดในเมือง 437 00:26:50,880 --> 00:26:54,425 ‪และเป็นเพราะคนดำที่เป็นอิสระ ‪ชื่อโทมัส ดาวนิ่ง 438 00:26:54,508 --> 00:26:57,970 ‪ผู้สร้างอาณาจักรในใจกลางย่านวอลสตรีท 439 00:26:58,054 --> 00:27:01,140 ‪และเป็นที่รู้จักในนามราชาหอยนางรมของเมือง 440 00:27:04,560 --> 00:27:06,062 {\an8}‪"สูตรสตูหอยนางรมนิวยอร์ก 441 00:27:06,145 --> 00:27:08,606 {\an8}‪ประมาณปี 1826 โดยโทมัส ดาวนิ่ง" 442 00:27:09,899 --> 00:27:15,196 ‪เชฟโอมาร์ เทต เพื่อนของผมได้ทุ่มเทฝีมือ ‪และศิลปะให้กับโทมัส ดาวนิ่ง 443 00:27:15,279 --> 00:27:18,115 ‪และผู้ประกอบการคนดำคนอื่นๆ ‪จากรัฐในตอนกลางของประเทศ 444 00:27:20,534 --> 00:27:23,663 ‪"ทำจากหอยนางรมที่งมหาเอง ‪มากที่สุดเท่าที่จะถือได้ 445 00:27:23,746 --> 00:27:25,539 ‪เกลือทะเล มะนาวและแร่ธาตุ 446 00:27:25,623 --> 00:27:27,917 ‪สูงยิ่งกว่ารองเท้าที่ใช้เดินเก็บหอย 447 00:27:29,251 --> 00:27:31,087 ‪เวลาทำ ใช้เวลานาน 448 00:27:34,090 --> 00:27:35,925 ‪เติมครีมและเคี่ยวให้ข้น 449 00:27:36,008 --> 00:27:39,136 ‪เคี่ยวจนเหลือเพียงซุปสีน้ำตาล ‪เข้มข้นและเพียงพอ 450 00:27:39,220 --> 00:27:41,722 ‪เคี่ยวจนไม่เป็นสีขาวอีกต่อไป 451 00:27:41,806 --> 00:27:43,391 ‪เคี่ยวจนมันลดความทรมานของคุณ 452 00:27:43,474 --> 00:27:46,268 ‪เคี่ยวจนทำให้ลืมเวลา ‪ที่คุณเจอภรรยาเป็นครั้งสุดท้าย 453 00:27:46,352 --> 00:27:47,853 ‪รวมทั้งลูกและแม่ด้วย 454 00:27:47,937 --> 00:27:49,980 ‪ค่อยๆ เคี่ยวช้าๆ ใจเย็น 455 00:27:53,651 --> 00:27:54,485 ‪เคล็ดลับมืออาชีพ 456 00:27:55,069 --> 00:27:56,278 ‪คอยดูให้ดีๆ 457 00:27:56,362 --> 00:27:58,197 ‪ครีมจะทะลักล้นออกมา 458 00:27:58,280 --> 00:28:00,324 ‪เสิร์ฟร้อนๆ ทันที" 459 00:28:04,578 --> 00:28:09,792 ‪ราวสิบปีที่ผ่านมา ‪คุณทำอาหารในร้านอาหารดีๆ มากมาย 460 00:28:09,917 --> 00:28:11,293 ‪ทั้งในนิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย 461 00:28:11,877 --> 00:28:14,880 ‪แล้วคุณมีพันธกิจอะไรในฐานะเชฟครับ 462 00:28:14,964 --> 00:28:17,383 ‪ผมตั้งตัวเองว่า ‪เป็นคนทำอาหารอนุรักษ์มรดกคนดำ 463 00:28:17,466 --> 00:28:20,386 ‪และผมพยายามนิยามว่ามันคืออะไร 464 00:28:20,469 --> 00:28:23,514 ‪ในฐานะคนแอฟริกันอเมริกัน ‪เราจะนำเสนออาหารอะไรได้บ้าง 465 00:28:23,597 --> 00:28:28,978 ‪ผมคิดว่าบ่อยครั้งเมื่อคนมองวิถีการกินของคนดำ 466 00:28:29,061 --> 00:28:32,565 ‪ในฐานะเชฟ คนคิดไปเองว่า ‪"คนจะทำอาหารภาคใต้ ไก่ทอดแน่เลย" 467 00:28:32,648 --> 00:28:34,608 ‪แต่มีเรื่องราวอีกมากมายให้เล่า 468 00:28:36,360 --> 00:28:41,991 ‪เรื่องหนึ่งที่คุณศึกษาคือโทมัส ดาวนิ่ง 469 00:28:45,828 --> 00:28:48,664 ‪โทมัส ดาวนิ่งเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่สร้าง 470 00:28:48,748 --> 00:28:51,709 ‪ร้านหอยนางรมที่ดีที่สุดร้านหนึ่ง ‪ในย่านวอลสตรีทของนิวยอร์ก 471 00:28:51,792 --> 00:28:53,669 ‪ในศตวรรษที่ 19 จนถึงช่วงกลางศตวรรษ 472 00:28:53,753 --> 00:28:58,090 ‪ในยุคที่คนแอฟริกันอเมริกันส่วนใหญ่ยังเป็นทาสอยู่ 473 00:29:00,050 --> 00:29:04,138 ‪มันเป็นเรื่องราวมหัศจรรย์ที่น้อยคนรู้ 474 00:29:04,221 --> 00:29:08,225 ‪ในฐานะเมืองที่เต็มไปด้วยหอยนางรม ‪มีหอยนางรมกองอยู่บนถนน 475 00:29:08,309 --> 00:29:10,352 ‪เปลือกหอยนางรมอยู่ตามทางเดิน 476 00:29:10,436 --> 00:29:15,316 ‪เราใช้เปลือกหอยนางรม ‪ทำเป็นปูนที่โบกตามตึกด้วย 477 00:29:15,399 --> 00:29:16,233 ‪ใช่ 478 00:29:16,317 --> 00:29:19,320 ‪นี่คือสภาพแวดล้อมที่ดาวนิ่งอยู่ใช่ไหม 479 00:29:19,403 --> 00:29:22,031 ‪ใช่ แต่เขาเริ่มจากการเก็บหอยเอง 480 00:29:22,114 --> 00:29:25,451 ‪แล้วก็ขายเป็นรายตัว 481 00:29:25,534 --> 00:29:27,203 ‪แล้วสานต่อจากตรงนั้น 482 00:29:28,037 --> 00:29:29,789 ‪ผู้คนขายหอยนางรมกันข้างนอก 483 00:29:30,331 --> 00:29:34,794 ‪งั้นก็เทียบได้กับรถเข็นขายฮอตด็อกในสมัยนั้น 484 00:29:34,877 --> 00:29:36,337 ‪ใช่เลยครับ 485 00:29:36,420 --> 00:29:37,588 ‪ผมอ่านว่าในสมัยนั้น 486 00:29:38,631 --> 00:29:42,176 ‪โดยเฉลี่ยแล้ว ‪ชาวนิวยอร์กกินหอยนางรมปีละ 600 ตัว 487 00:29:42,885 --> 00:29:46,931 ‪สมัยนั้นราคาตัวละครึ่งเซ็นต์ได้มั้ง 488 00:29:47,014 --> 00:29:48,224 ‪กินดีอยู่ดีจริงๆ 489 00:29:48,307 --> 00:29:49,225 ‪งั้น 490 00:29:49,850 --> 00:29:53,938 ‪เรามาสำรวจผลงานอาหารของคุณกันไหมครับ 491 00:29:57,066 --> 00:29:58,943 ‪โดยเฉพาะจานนี้ 492 00:29:59,652 --> 00:30:03,906 ‪เพราะโทมัส ดาวนิ่งโดดเด่นและพิเศษมาก ‪สำหรับเรื่องราวของนิวยอร์ก 493 00:30:03,989 --> 00:30:07,451 ‪ผมอยากนำสิ่งที่เฉพาะเจาะจงและโดดเด่น ‪เป็นนิวยอร์กมาไว้ด้วยกัน 494 00:30:07,535 --> 00:30:10,454 ‪ดังนั้นจานนี้จึงมีหอยนางรมสองแบบ 495 00:30:10,538 --> 00:30:13,249 ‪สตูหอยนางรมกินกันมากในศตวรรษที่ 19 496 00:30:13,332 --> 00:30:17,253 ‪ในซุปมีทั้งครีม ใบไทม์ 497 00:30:17,336 --> 00:30:18,546 ‪อย่างละนิดอย่างละหน่อย… 498 00:30:18,629 --> 00:30:20,923 ‪ครับ ครีม ใบไทม์ พริกไทยดำ 499 00:30:21,006 --> 00:30:23,175 ‪ไขมันหอยนางรม ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่พิเศษมาก 500 00:30:23,259 --> 00:30:27,555 ‪มันคือหอยนางรมที่ตุ๋นที่อุณหภูมิ 140 องศา ‪นานหลายชั่วโมง 501 00:30:27,638 --> 00:30:32,059 ‪ผสมกันจนรสชาติทั้งหมดซึมเข้าไปในน้ำมัน 502 00:30:32,142 --> 00:30:36,397 ‪เป็นรสชาติหอยนางรมบริสุทธิ์ล้วนๆ ‪แล้วผมก็เอาไปใช้ต้มผักต่อไป 503 00:30:36,480 --> 00:30:39,900 ‪ผักมีทั้งกระเทียม หัวหอม ขึ้นฉ่าย 504 00:30:39,984 --> 00:30:43,070 ‪เหมือนเป็นรสชาติหอยนางรมหลายชั้น 505 00:30:43,153 --> 00:30:44,154 ‪หอยนางรมซ้อนหอยนางรม 506 00:30:44,238 --> 00:30:45,614 ‪เอาละนะ 507 00:30:45,698 --> 00:30:46,949 ‪มากินกันให้อร่อยครับ 508 00:30:47,032 --> 00:30:48,158 ‪เชิญเลย 509 00:30:49,159 --> 00:30:50,035 ‪ชนกัน 510 00:30:54,206 --> 00:30:55,082 ‪โอ้โฮ 511 00:30:55,165 --> 00:30:56,292 ‪คิดว่าไง 512 00:30:56,375 --> 00:30:57,918 ‪อร่อยมาก 513 00:30:58,002 --> 00:31:02,298 ‪ผมรับรสไขมันหอยนางรมที่เข้มข้นได้เลย 514 00:31:02,381 --> 00:31:06,802 ‪มันทำให้ซุปมีรสชาติเข้มข้นและซับซ้อนมาก 515 00:31:06,886 --> 00:31:08,512 ‪ผมพอใจกับจานนี้มาก 516 00:31:08,596 --> 00:31:09,638 ‪ใช่ไหม 517 00:31:09,722 --> 00:31:13,434 ‪นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้นั่งลงแล้วกินกับคนอื่น 518 00:31:13,517 --> 00:31:15,269 ‪เลยตื่นเต้นพอๆ กับคุณ 519 00:31:20,941 --> 00:31:22,276 ‪ผมชอบที่ใส่แอปเปิล 520 00:31:22,943 --> 00:31:24,570 ‪กินแล้วสดชื่นมาก 521 00:31:25,237 --> 00:31:26,280 ‪อร่อยมาก 522 00:31:26,363 --> 00:31:27,197 ‪ดีจริงๆ 523 00:31:28,240 --> 00:31:31,452 ‪รสชาติเหมือนหินปูน สมุนไพรและแอปเปิล 524 00:31:32,411 --> 00:31:35,289 ‪มาคุยกันเรื่องโทมัส ‪ในฐานะเจ้าของร้านอาหารกันหน่อย 525 00:31:35,372 --> 00:31:37,583 ‪เพราะเท่าที่ผมเข้าใจ 526 00:31:37,666 --> 00:31:40,252 ‪แน่นอนว่าสมัยนั้นมีร้านหอยนางรมมากมาย 527 00:31:40,336 --> 00:31:43,881 ‪แต่ร้านของเขาเป็นที่ที่ 528 00:31:43,964 --> 00:31:47,968 ‪นายธนาคาร ทนายความ ‪นักการเมืองพากันมากิน 529 00:31:48,052 --> 00:31:50,971 ‪ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ผมคิดว่า 530 00:31:51,055 --> 00:31:53,682 ‪โทมัส ดาวนิ่งเดินเข้าไปในบาร์ถูกๆ แล้วคิดว่า 531 00:31:53,766 --> 00:31:55,809 ‪"เราต้องมีเลาจ์ค็อกเทล" นึกออกไหม 532 00:31:57,394 --> 00:31:59,480 ‪เรื่องราวนี้ค่อนข้างน่าทึ่ง 533 00:31:59,563 --> 00:32:03,567 ‪เพราะที่ชั้นใต้ดินของร้านสุดหรูนี้ 534 00:32:03,651 --> 00:32:06,779 ‪โทมัส ดาวนิ่งกับจอร์จ ลูกชายของเขา 535 00:32:06,862 --> 00:32:10,157 ‪ช่วยซ่อนคนที่หนีจากการเป็นทาส 536 00:32:10,240 --> 00:32:12,242 ‪(รางวัล 100 ดอลลาร์ - เด็กนิโกรหลบหนี ‪โรเบิร์ต พอร์เตอร์ อายุ 19) 537 00:32:12,326 --> 00:32:13,160 ‪ครับ 538 00:32:13,243 --> 00:32:18,540 ‪และสำหรับผม การทำสองอย่างนี้พร้อมกัน ‪ทำให้ดาวนิ่งเป็นตำนาน 539 00:32:18,624 --> 00:32:20,042 ‪- เขาเป็นยอดมนุษย์ ‪- ถูกต้อง 540 00:32:20,125 --> 00:32:21,752 ‪ผมชอบเรื่องราวส่วนนั้นของเขา 541 00:32:21,835 --> 00:32:25,798 ‪เขาสามารถเดินทาง ‪ระหว่างสองโลกได้โดยไม่สะดุดเลย 542 00:32:25,881 --> 00:32:28,550 ‪ถึงขนาดที่ว่าเมื่อเขาตาย 543 00:32:28,634 --> 00:32:30,928 ‪หอการค้าปิดทำการหนึ่งวัน 544 00:32:31,011 --> 00:32:32,179 ‪ใช่ 545 00:32:32,262 --> 00:32:35,224 ‪มีข่าวลือ… ว่ามีคนร่วมงานศพเขาถึงพันคน 546 00:32:35,307 --> 00:32:36,892 ‪สุดยอดเลย 547 00:32:36,976 --> 00:32:41,271 ‪แต่ทำไมคุณถึงรู้สึกว่ามันสำคัญนัก ‪ที่ต้องรักษาผลงานและมรดกของเขาไว้ 548 00:32:41,897 --> 00:32:44,024 ‪ผมไม่เคยกินหอยนางรมเลยจนอายุ 22 549 00:32:44,108 --> 00:32:44,942 ‪โอ้โฮ 550 00:32:45,025 --> 00:32:48,487 ‪และผมได้กินเพียง ‪เพราะว่าผมทำงานเป็นเชฟมืออาชีพ 551 00:32:48,570 --> 00:32:51,156 ‪และเริ่มทำงานที่ร้านอาหารหรูในฟิลาเดลเฟีย 552 00:32:51,240 --> 00:32:54,368 ‪เราเสิร์ฟแต่คนขาว 553 00:32:54,451 --> 00:32:57,454 ‪สำหรับผม หอยนางรมเลยดูเป็น ‪สิ่งที่มีแต่คนขาวกิน 554 00:32:57,538 --> 00:33:01,291 ‪สำหรับผม มันเป็นการทวงคืน 555 00:33:01,375 --> 00:33:05,004 ‪เพราะมันเป็นทั้งประวัติศาสตร์ของเรา 556 00:33:05,087 --> 00:33:08,465 ‪และรายละเอียดปลีกย่อย ‪ก็เป็นประวัติศาสตร์ของเราด้วย 557 00:33:08,549 --> 00:33:12,219 ‪โทมัส ดาวนิ่งมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนั้น ‪เต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์เลย 558 00:33:15,597 --> 00:33:18,726 ‪แต่โทมัส ดาวนิ่งคงขึ้นสู่แถวหน้าไม่ได้ 559 00:33:18,809 --> 00:33:21,729 ‪ถ้าไม่มีคนงานเก็บหอยนางรมผิวดำ ‪ที่สนับสนุนเขา 560 00:33:22,479 --> 00:33:26,275 {\an8}‪พวกเขาสร้างชุมชนที่ริมน้ำของเกาะสแตเทน 561 00:33:26,358 --> 00:33:28,318 {\an8}‪และตั้งชื่อชุมชนว่า "แซนดี้กราวด์) 562 00:33:31,321 --> 00:33:36,243 ‪บอกได้ไหมครับว่าทำไมแซนดี้กราวด์ ‪ถึงมีความพิเศษทางประวัติศาสตร์ 563 00:33:38,078 --> 00:33:43,459 {\an8}‪แซนดี้ กราวด์เป็นชุมชนชาวแอฟริกันอเมริกัน ‪ที่เก่าแก่ที่สุดที่มีคนอยู่ตลอด 564 00:33:43,542 --> 00:33:45,169 {\an8}‪ในสหรัฐอเมริกา 565 00:33:45,252 --> 00:33:49,923 ‪คนผิวดำที่เป็นอิสระมาตั้งรกรากที่นี่ ‪และยังมีทายาทอยู่ในชุมชนนี้ 566 00:33:54,344 --> 00:33:57,222 ‪นิวยอร์กเป็นแหล่งหอยนางรมของโลก 567 00:33:57,306 --> 00:33:59,558 ‪และชุมชนจัดหาหอยนางรมนี้ 568 00:33:59,641 --> 00:34:02,561 ‪เติบโตจนมีมากถึง 180 ครอบครัว 569 00:34:03,103 --> 00:34:05,355 ‪โบสถ์สองแห่ง โรงเรียนสองแห่ง 570 00:34:05,439 --> 00:34:09,276 ‪ณ ตรงนี้ที่ชายฝั่งทิศใต้ของเกาะสแตเทน 571 00:34:10,194 --> 00:34:14,448 ‪พวกเขาสามารถหาหอยนางรมได้มาก 572 00:34:15,616 --> 00:34:17,826 ‪จนหาเลี้ยงครอบครัวได้ 573 00:34:20,329 --> 00:34:23,832 ‪การเติบโตในแซนดี้กราวด์ทำให้ฉันมีความมั่นใจ 574 00:34:23,916 --> 00:34:26,418 ‪ที่จะก้าวออกไปทุกที่ที่ฉันอยากไป 575 00:34:26,502 --> 00:34:30,923 ‪ดังนั้นชุมชนหอยนางรมนั้น 576 00:34:31,006 --> 00:34:34,218 ‪ที่มีแต่ผู้คนที่หน้าตาเหมือนฉัน 577 00:34:34,301 --> 00:34:37,763 ‪ช่วยให้ฉันรู้ว่าฉันจะเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น 578 00:34:39,681 --> 00:34:42,684 ‪นั่นเป็นส่วนสำคัญที่ตกทอดมาถึงเราเช่นกัน 579 00:34:43,268 --> 00:34:44,144 ‪ผมคิดว่า 580 00:34:45,020 --> 00:34:49,483 ‪บ่อยครั้งเมื่อเราพูดถึงบรรพบุรุษ ‪และประวัติศาสตร์ของเรา 581 00:34:49,566 --> 00:34:53,695 ‪เรามักจะพูดถึงในแง่ที่ทำให้รู้สึกราวกับว่า 582 00:34:53,779 --> 00:34:56,240 ‪เราถูกลบเลือนไปหมดแล้ว 583 00:34:56,323 --> 00:34:59,618 ‪และสิ่งที่จริงยิ่งกว่าคือสิ่งที่คุณพูดมานั้น 584 00:34:59,701 --> 00:35:01,870 ‪มรดกตกทอดจากพวกเขายังอยู่กับเรา 585 00:35:01,954 --> 00:35:07,167 ‪แซนดี้กราวนด์ได้ขึ้นทะเบียน ‪เป็นโบราณสถานของรัฐและชาติ 586 00:35:07,251 --> 00:35:11,421 ‪ดังนั้นจึงมีบันทึกสำหรับคนที่อยากค้นหาเสมอ 587 00:35:12,297 --> 00:35:15,801 ‪ชุมชนเปลี่ยนไป แต่ประวัติศาสตร์ยังเหมือนเดิม 588 00:35:20,180 --> 00:35:25,185 {\an8}‪(เขตบรุกลิน เมืองนิวยอร์ก) 589 00:35:29,523 --> 00:35:31,525 ‪เมื่อผมคิดถึงนครนิวยอร์ก 590 00:35:31,608 --> 00:35:33,068 ‪ผมคิดถึงความทะเยอทะยาน 591 00:35:35,154 --> 00:35:39,449 ‪จิตวิญญาณของโทมัส ดาวนิ่ง ‪และพ่อค้าหอยนางรมผิวดำยังคงอยู่ 592 00:35:39,533 --> 00:35:41,118 ‪ในใจกลางบรุกลิน 593 00:35:42,202 --> 00:35:44,204 ‪ในย่านเบดสตาย "ไม่ตายก็ต้องสู้" 594 00:35:55,424 --> 00:35:58,510 ‪(มาเธอร์ชักเกอร์) 595 00:35:58,594 --> 00:36:00,554 ‪- ว่าไงครับ ‪- มาเธอร์ชักเกอร์ 596 00:36:00,637 --> 00:36:01,513 ‪มาเธอร์ชักเกอร์ 597 00:36:01,597 --> 00:36:02,639 ‪ลองหอยนางรมไหม 598 00:36:02,723 --> 00:36:03,724 ‪- เอาสิ ‪- เอานะ 599 00:36:03,807 --> 00:36:05,267 ‪ฉันไม่เคยกินหอยนางรม 600 00:36:05,809 --> 00:36:06,643 ‪ได้แล้ว 601 00:36:07,352 --> 00:36:09,104 ‪- เชิญครับ ‪- ขอบคุณ 602 00:36:10,230 --> 00:36:11,106 ‪เป็นไง 603 00:36:12,649 --> 00:36:13,859 ‪- สดมาก ‪- อร่อยนะ 604 00:36:15,569 --> 00:36:16,486 ‪ฉันชอบนะ 605 00:36:17,112 --> 00:36:20,824 ‪เบน ฮาร์นีย์เป็นที่รู้จักกันดี ‪ว่าเป็น "พ่อค้าขายหอยตัวจริง" 606 00:36:20,908 --> 00:36:23,619 ‪และรถเข็นหอยนางรมของเขาก็มีมานาน 607 00:36:23,702 --> 00:36:26,205 ‪ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของเรื่องราวของโทมัส ดาวนิ่ง 608 00:36:26,830 --> 00:36:28,999 ‪ว่าไง อยากลองหอยนางรมไหม 609 00:36:30,000 --> 00:36:31,543 ‪ได้ ผมอยากลองหอยนางรม 610 00:36:31,627 --> 00:36:33,754 ‪- ได้เลย มันต้องแบบนี้ ‪- หอยนางรมตัวเล็กๆ 611 00:36:33,837 --> 00:36:35,672 ‪หอยนางรมกระตุ้นอารมณ์ดีนะ 612 00:36:35,756 --> 00:36:38,008 ‪- ลือกันว่างั้นนี่ จริงไหม ‪- ใช่ จริงหรือเปล่า 613 00:36:38,091 --> 00:36:39,343 ‪ใครๆ ก็บอกว่าอย่างนั้น 614 00:36:39,426 --> 00:36:42,095 ‪- เรามีเพื่อนคนดำขายหอยนางรม ‪- จริงไหม 615 00:36:42,179 --> 00:36:43,013 ‪นั่นแหละ 616 00:36:43,096 --> 00:36:46,767 ‪จะบอกให้นะ ‪ผมจะกินหอยนางรมเป็นครั้งแรกเลย 617 00:36:46,850 --> 00:36:48,560 ‪หวังว่าจะกลืนลง 618 00:36:48,644 --> 00:36:49,603 ‪ไม่ต้องห่วงหรอก 619 00:36:49,686 --> 00:36:51,688 ‪มีคนดำขายหอยนางรมด้วยแฮะ 620 00:36:51,772 --> 00:36:55,442 ‪- ขอให้กินลงแล้วกัน เราทำอาหารเก่งนะ ‪- เราต้องทำให้ดีอยู่แล้ว 621 00:36:55,525 --> 00:36:58,445 ‪- ใส่ปากเข้าไปเลย ‪- กระดกเลย 622 00:36:58,528 --> 00:36:59,780 ‪ซัดเข้าไปเลย 623 00:36:59,863 --> 00:37:03,033 ‪- คุณทำผมกลัวเลย ขอบอก ‪- ไม่มีอะไรต้องกลัว 624 00:37:03,116 --> 00:37:04,201 ‪- พร้อมนะ ‪- พร้อม นายล่ะ 625 00:37:04,284 --> 00:37:06,662 ‪เราทำเพื่อบรุกลินเพราะเราอยู่ในบรุกลิน 626 00:37:06,745 --> 00:37:09,790 ‪- ต้องอย่างนั้น ‪- หนึ่ง สอง สาม กิน 627 00:37:13,293 --> 00:37:15,629 ‪กลิ่นเหมือนธรรมชาติ เหมือนทะเล 628 00:37:15,712 --> 00:37:16,630 ‪โดนเลย 629 00:37:18,715 --> 00:37:23,929 ‪มีกี่คนที่คุณแนะนำให้กินหอยนางรมเป็นครั้งแรก 630 00:37:24,012 --> 00:37:29,017 ‪ทุกคนเลย ผู้ชาย ผู้หญิง เด็กๆ 631 00:37:29,101 --> 00:37:31,436 {\an8}‪เป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุดอย่างหนึ่ง 632 00:37:31,520 --> 00:37:33,939 {\an8}‪การทักใครสักคนแล้วถามว่า ‪"อยากกินหอยนางรมไหม" 633 00:37:34,022 --> 00:37:35,565 ‪พวกเขาก็ตอบว่า "แหวะ หอยนางรมเหรอ" 634 00:37:35,649 --> 00:37:38,068 ‪ผมก็ถามว่า "เคยกินหอยนางรมหรือยัง" 635 00:37:38,151 --> 00:37:41,238 ‪พวกเขาก็ตอบว่า "ไม่เคย แต่ไม่ชอบ" 636 00:37:41,321 --> 00:37:43,865 ‪"งั้นรู้ได้ยังไงว่าชอบถ้าไม่เคยลอง 637 00:37:43,949 --> 00:37:45,826 ‪เล่าเรื่องชื่อให้ฟังหน่อยสิครับ 638 00:37:45,909 --> 00:37:48,870 ‪คุณมีชื่อที่เท่มาก เดอะเรียลมาเธอร์ชักเกอร์ 639 00:37:48,954 --> 00:37:52,207 ‪ผมมักจะตระเวนไปตามที่ต่างๆ ‪คนก็พูดเสมอว่า 640 00:37:52,291 --> 00:37:54,167 ‪"คุณเป็นพ่อค้าขายหอยเหรอ" 641 00:37:54,251 --> 00:37:55,877 ‪มันเป็นมุกประจำน่ะ 642 00:37:55,961 --> 00:37:57,504 ‪แต่หลังจากนั้นสักพัก ผมก็คิดว่า 643 00:37:57,587 --> 00:38:01,717 ‪"เออ มันก็เข้าดีนะ ฟังดูเรียบง่ายดี" 644 00:38:01,800 --> 00:38:03,260 ‪ผมเป็นพ่อค้ืาขายหอย! 645 00:38:03,343 --> 00:38:05,804 ‪- ใช่ เป็นชื่อที่เด่นดี ‪- ใช่ไหม 646 00:38:05,887 --> 00:38:08,015 ‪เจ๋ง งั้นเราชิมกันเลยไหมครับ 647 00:38:08,098 --> 00:38:09,266 ‪- เอาเลย ‪- โอเค 648 00:38:09,349 --> 00:38:10,267 ‪อือ 649 00:38:10,350 --> 00:38:12,436 ‪คุณมีพิธีการอะไรไหม ชนกันหน่อย 650 00:38:12,519 --> 00:38:13,937 ‪- ได้ ชนกัน ‪- เจ๋ง 651 00:38:14,021 --> 00:38:15,272 ‪ชนหน่อย ขอบใจ 652 00:38:22,654 --> 00:38:24,364 ‪- เป็นไง ‪- ชอบมาก 653 00:38:25,490 --> 00:38:26,408 ‪กลืนไปเลย 654 00:38:28,452 --> 00:38:29,494 ‪ลื่นคอดี 655 00:38:30,078 --> 00:38:32,247 ‪เอาละ ผมจะกินกับซอสมินโญเนตละ 656 00:38:39,046 --> 00:38:40,380 ‪- อร่อยมาก ‪- ใช่ไหมล่ะ 657 00:38:41,340 --> 00:38:43,216 ‪มันกรุบๆ หน่อย 658 00:38:43,300 --> 00:38:45,218 ‪มีอะไรให้เคี้ยวได้จริงๆ 659 00:38:45,302 --> 00:38:47,304 ‪ใช่ เนื้อเด้งดี 660 00:38:47,387 --> 00:38:52,726 ‪ทำไมการเริ่มทำธุรกิจรถเข็นขายหอยนางรม ‪ที่เบดสตายถึงสำคัญกับคุณครับ 661 00:38:52,809 --> 00:38:56,772 ‪ผมมาจากที่นี่และตอนนี้ ย่านนี้ก็ดังขึ้นมา 662 00:38:56,855 --> 00:39:00,442 ‪มันกลายเป็นที่เท่ๆ ที่ต้องมา 663 00:39:00,525 --> 00:39:04,905 ‪ดังนั้นสำหรับผม การนำหอยนางรม ‪มาแนะนำในย่านที่ผมโตมา 664 00:39:04,988 --> 00:39:06,698 ‪และให้ผู้คนที่ผมโตมาด้วยกันได้ลอง 665 00:39:06,782 --> 00:39:09,659 ‪เป็นสิ่งที่สำคัญมาก 666 00:39:09,743 --> 00:39:12,704 ‪เพราะหอยนางรมมักถือว่าเป็นอาหารคนรวย 667 00:39:12,788 --> 00:39:16,750 ‪คนของเราคุ้นเคยกับปู 668 00:39:16,833 --> 00:39:18,585 ‪คุ้นเคยกับกุ้ง 669 00:39:18,668 --> 00:39:22,339 ‪คุ้นเคยกับล็อบสเตอร์ คลั่งกันมากเลย 670 00:39:22,422 --> 00:39:26,593 ‪แต่พอเป็นหอยนางรม กลับกลายเป็นว่า ‪"แหวะ เราไม่กินนะ" 671 00:39:26,676 --> 00:39:30,472 ‪ผมเลยคิดว่าทำไมล่ะ เราทำได้ทุกอย่าง ‪ไม่มีอะไรที่เราไม่ทำ 672 00:39:30,555 --> 00:39:33,934 ‪ไม่มีอะไรที่ไม่ใช่แนวเรา 673 00:39:41,942 --> 00:39:43,527 ‪ผมยังทึ่งอยู่เสมอ 674 00:39:43,610 --> 00:39:48,156 ‪กับพลังความคิดสร้างสรรค์ ‪และความมุ่งมั่นของคนอเมริกันผิวดำ 675 00:39:48,240 --> 00:39:54,413 ‪ในศตวรรษที่ 19 แทบไม่มีที่ไหน ‪มีโอกาสให้เรามากไปกว่าฟิลาเดลเฟีย 676 00:39:55,705 --> 00:40:00,544 ‪เราเป็นอิสระที่นี่ราว 80 ปี ‪ก่อนที่จะมีการประกาศเลิกทาส 677 00:40:01,169 --> 00:40:02,379 {\an8}‪(เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิเวเนีย) 678 00:40:02,504 --> 00:40:06,550 {\an8}‪และฟิลาเดลเฟียมีมรดกผู้ประกอบการผิวดำ ‪อันยาวนาน 679 00:40:06,633 --> 00:40:10,095 ‪ทั้งคนถือหม้อเร่ขายสตูพริกไทยอันขึ้นชื่อ ‪ไปตามถนน 680 00:40:10,178 --> 00:40:13,056 ‪จนถึงครอบครัวชั้นนำที่ทำบริการจัดเลี้ยง 681 00:40:16,476 --> 00:40:20,689 ‪เราอยู่ในฟิลาเดลเฟีย คุณมีต้นตระกูลอยู่ที่นี่ 682 00:40:20,772 --> 00:40:22,524 {\an8}‪เล่าเรื่องครอบครัวของคุณได้ไหมครับ 683 00:40:22,607 --> 00:40:27,279 {\an8}‪ใช่ค่ะ ฉันสืบเชื้อสายจากครอบครัวคนดำที่ยิ่งใหญ่ ‪ที่รับจัดเลี้ยงอาหารในฟิลาเดลเฟีย 684 00:40:27,362 --> 00:40:29,573 ‪ฉันไม่เคยรู้เลยก่อนที่จะศึกษาอย่างจริงจัง 685 00:40:29,656 --> 00:40:32,784 ‪ว่าคนแอฟริกันอเมริกันเริ่มต้น ‪ธุรกิจรับจัดเลี้ยงอาหาร 686 00:40:32,868 --> 00:40:34,911 ‪เป็นผู้ประกอบการที่ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 18 687 00:40:34,995 --> 00:40:39,207 ‪ครอบครัวของฉันเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกกลุ่มแรก 688 00:40:39,291 --> 00:40:42,711 ‪นี่เป็นรูปแรกๆ ของครอบครัวที่ฉันเห็นแล้วแบบว่า 689 00:40:42,794 --> 00:40:45,422 ‪- "เดี๋ยวนะ คนเราเคยแต่งตัวแบบนี้เหรอ" ‪- ครับ 690 00:40:45,505 --> 00:40:47,591 ‪"ทำไมเราไม่รู้มากกว่านี้ ‪เรื่องของเธอเป็นยังไง 691 00:40:47,674 --> 00:40:49,843 ‪เธอมาจากไหน พวกเขาทำอะไรกัน" 692 00:40:49,926 --> 00:40:51,052 ‪ฉันชอบรูปนี้มาก 693 00:40:51,136 --> 00:40:52,804 ‪- เธอดูดีมาก ‪- มันบอกอะไรมากมาย 694 00:40:52,888 --> 00:40:53,722 ‪ใช่ค่ะ 695 00:40:53,805 --> 00:40:57,100 ‪นี่ปู่ทวดของฉัน อัลเบิร์ต ดูเทรลล์ 696 00:40:57,184 --> 00:40:58,560 ‪- หล่อมากครับ ‪- ใช่ 697 00:40:59,603 --> 00:41:01,480 ‪ฉันชอบมาก เป็นภาพในครัวที่ดี 698 00:41:01,563 --> 00:41:06,401 ‪ทำให้ได้เห็นพนักงาน ‪ได้เห็นว่าครัวสมัยนั้นเป็นยังไง 699 00:41:06,485 --> 00:41:09,154 ‪ดูขนาดสิ เป็นครัวที่ใหญ่มาก 700 00:41:09,237 --> 00:41:12,449 ‪- ใช่ค่ะ ‪- พวกเขาเป็นระเบียบมาก 701 00:41:12,532 --> 00:41:14,618 ‪- ทุกคนใส่เครื่องแบบแล้วดูดีมาก ‪- ใช่ 702 00:41:15,452 --> 00:41:16,286 ‪ชอบจัง 703 00:41:17,537 --> 00:41:19,623 ‪คุณเจอรูปนี้ได้ยังไงครับ 704 00:41:19,706 --> 00:41:23,793 ‪ตอนแรกพ่อฉันส่งรูปที่พ่อเจอมา 705 00:41:23,877 --> 00:41:26,087 ‪รูปครอบครัวใส่ชุดเฟอร์และขับรถหรู 706 00:41:26,171 --> 00:41:27,506 ‪พ่อบอกว่า ปรากฎว่า 707 00:41:27,589 --> 00:41:31,676 ‪พ่อแม่ของย่าฉันมีธุรกิจจัดเลี้ยงอาหาร ‪ที่ประสบความสำเร็จมาก 708 00:41:31,760 --> 00:41:34,804 ‪ฉันคิดว่า "ดีจังเลย" นึกว่ามันก็จบแค่นั้น 709 00:41:34,888 --> 00:41:38,975 ‪พอปีที่แล้ว ญาติฝั่งพ่อฉันเสียชีวิต 710 00:41:39,059 --> 00:41:43,063 ‪เขาอยู่ในบ้านที่เคยทำธุรกิจจัดเลี้ยงนั้น 711 00:41:43,146 --> 00:41:45,232 ‪เขาเล่าให้ฉันฟังว่า เคยลงไปในห้องใต้ดิน 712 00:41:45,315 --> 00:41:47,442 ‪และเห็นอุปกรณ์จัดเลี้ยงต่างๆ 713 00:41:48,235 --> 00:41:49,945 ‪ฉันก็บอกว่า "เดี๋ยวนะ 714 00:41:50,028 --> 00:41:51,571 ‪บ้านนี้ยังเป็นของครอบครัว 715 00:41:51,655 --> 00:41:54,199 ‪และยังมีอุปกรณ์จัดเลี้ยงอยู่เพียบเลยเหรอ 716 00:41:54,282 --> 00:41:57,118 ‪คำถามแรกที่ฉันถามเขาคือ "มีเมนูไหม 717 00:41:57,202 --> 00:41:59,538 ‪เพราะเป็นนักกินและอยู่ในวงการอาหาร 718 00:41:59,621 --> 00:42:03,166 ‪ฉันคิดว่า ฉันต้องได้เมนูนั้นมา ‪เพื่อสร้างประสบการณ์นั้นขึ้นมาอีกครั้ง 719 00:42:03,250 --> 00:42:05,460 ‪แตงฮันนี่ดิวมีอยู่ในหลายเมนู 720 00:42:05,544 --> 00:42:09,339 ‪น้ำซุปเบลล์วิวอยู่ในเมนูมากมายที่พวกเขาทำไว้ 721 00:42:09,422 --> 00:42:12,133 ‪แฮมและผักจากเวอร์จิเนีย ได้อิทธิพลทางใต้ด้วย 722 00:42:12,217 --> 00:42:14,678 ‪ไส้กรอกแฟรงก์เฟอร์เตอร์กับกะหล่ำปลีดอง ‪ฉันคิดว่าน่าสนใจดี 723 00:42:14,761 --> 00:42:17,180 ‪ใช่ ได้รับอิทธิพลจากเยอรมนีด้วย 724 00:42:17,264 --> 00:42:18,181 ‪ค่ะ 725 00:42:18,265 --> 00:42:22,018 ‪มีหลากหลายทั้งอาหารเรียบง่าย ‪จนถึงสุดหรู มีไข่ปลาคาเวียร์ 726 00:42:22,102 --> 00:42:25,981 ‪เนื้อฟิเลต์มิยอง พริกยัดไส้ เจ๋งมากเลยค่ะ 727 00:42:26,064 --> 00:42:27,857 ‪ผมทึ่งกับเมนูมาก 728 00:42:27,941 --> 00:42:33,113 ‪ว่ามันเป็นเรื่องราวของอเมริกันโดยแท้จริง 729 00:42:33,822 --> 00:42:35,490 ‪ธุรกิจนี้ใหญ่ขนาดไหนครับ 730 00:42:35,574 --> 00:42:36,866 ‪พวกเขาประสบความสำเร็จมาก 731 00:42:36,950 --> 00:42:39,327 ‪มีเขียนไว้ว่าเป็นธุรกิจที่ได้กำไรมากมาย 732 00:42:39,411 --> 00:42:41,204 ‪เป็นที่รู้จักไปทั่วฟิลาเดลเฟีย 733 00:42:41,288 --> 00:42:44,833 ‪เราอยู่แถวหน้า เราเป็นผู้สร้างกระแส ‪เราทำงานหนัก 734 00:42:44,916 --> 00:42:47,377 ‪สิ่งที่เรารู้จักว่าเป็นการจัดเลี้ยงอาหารในทุกวันนี้ 735 00:42:47,460 --> 00:42:49,879 ‪เป็นเพราะครอบครัวของฉัน ‪และครอบครัวอื่นๆ สมัยนั้น 736 00:42:49,963 --> 00:42:53,258 ‪การรู้ว่าเราเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน ‪เป็นเจ้าของกิจการ 737 00:42:54,301 --> 00:42:57,012 ‪เริ่มวงการนี้ เป็นสิ่งที่เจ๋งมาก 738 00:43:00,640 --> 00:43:03,852 ‪เพื่อฉลองประวัติศาสตร์นั้น ‪ในเมืองฟิลาเดลเฟีย 739 00:43:03,935 --> 00:43:06,605 ‪โอมาร์ เทต เพื่อนของผม ‪ชาวฟิลาเดลเฟียแต่กำเนิด 740 00:43:06,688 --> 00:43:10,442 ‪จัดอาหารเลี้ยงที่ได้แรงบันดาลใจ ‪จากประวัติศาสตร์อาหารคนดำของฟิลาเดลเฟีย 741 00:43:11,443 --> 00:43:14,613 ‪เรามีทั้งเชฟ นักประวัติศาสตร์ 742 00:43:14,696 --> 00:43:17,574 ‪และทายาทคนอื่นๆ ‪ของตระกูลดูเทรลล์มาร่วมด้วย 743 00:43:18,908 --> 00:43:19,743 ‪ยินดีต้อนรับครับทุกคน 744 00:43:20,285 --> 00:43:21,661 ‪- ขอบคุณค่ะ ‪- ขอบคุณครับ 745 00:43:21,745 --> 00:43:25,874 ‪ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมกิน ‪มื้อสุดพิเศษที่เราเตรียมไว้ 746 00:43:26,583 --> 00:43:30,211 ‪มันพิเศษมากสำหรับผม ‪เพราะผมโตที่ฟิลาเดลเฟีย 747 00:43:30,295 --> 00:43:33,548 ‪และฟิลาเดลเฟียมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน 748 00:43:33,632 --> 00:43:34,883 ‪สิ่งเหล่านี้สำคัญมาก 749 00:43:34,966 --> 00:43:37,385 ‪มันไม่จำเป็นต้องสูญหายไป ‪มันจะไม่สูญหายไป 750 00:43:37,469 --> 00:43:39,846 ‪- ขอบคุณที่มาครับ ‪- ต้องขอบคุณคุณต่างหาก 751 00:43:40,555 --> 00:43:43,183 ‪จานแรกที่เราจะกินกันคือซุปเบลล์วิว 752 00:43:43,266 --> 00:43:46,895 ‪ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมเรียนรู้ ‪จากการอ่านเมนูของดูเทรลล์ 753 00:43:46,978 --> 00:43:48,605 ‪ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน 754 00:43:49,189 --> 00:43:51,608 ‪แต่มันน่าจะมีมานานหลายศตวรรษแล้ว 755 00:43:51,691 --> 00:43:55,695 ‪เป็นน้ำซุปที่ผสมซุปไก่กับซุปหอย 756 00:43:55,779 --> 00:43:57,864 ‪ใส่วิปครีมกับพาร์สลีย์ 757 00:43:57,947 --> 00:44:00,075 ‪ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ให้พวกคุณชิม 758 00:44:00,158 --> 00:44:00,992 ‪โอ้โฮ 759 00:44:01,076 --> 00:44:02,243 ‪อร่อยมาก 760 00:44:02,327 --> 00:44:03,745 ‪- ว้าว ‪- พระเจ้า 761 00:44:04,329 --> 00:44:06,164 ‪- เยี่ยมมาก ‪- เข้มข้นดีจัง 762 00:44:06,247 --> 00:44:09,668 ‪- เนื้อสัมผัส น้ำหนักของมันอร่อยมาก ‪- มันทำให้มันดูมีเนื้อหนังมากขึ้น 763 00:44:10,335 --> 00:44:13,797 ‪มันเบามาก แต่ก็มีความเข้มข้นด้วย 764 00:44:13,880 --> 00:44:15,674 ‪- มีรสชาติมาก ‪- จริงค่ะ 765 00:44:15,757 --> 00:44:19,511 {\an8}‪ใช่ รสชาติเหมือนเนย แต่ไม่มีความมัน 766 00:44:19,594 --> 00:44:20,720 {\an8}‪ใช่ ไม่หนักเท่า 767 00:44:21,221 --> 00:44:22,806 ‪- เด็ด ‪- ใช่ 768 00:44:22,889 --> 00:44:24,766 ‪เป็นคำที่อธิบายได้ดีนะ "เด็ด" 769 00:44:25,392 --> 00:44:27,811 ‪เราก็ไม่เคยลองชิมซุปเบลล์วิว ‪หรือเคยได้ยินมาก่อน 770 00:44:27,894 --> 00:44:33,400 ‪มันเป็นอาหารที่พวกเขาเสิร์ฟ ‪ตามงานเลี้ยงและมื้อค่ำชั้นสูงเสมอ 771 00:44:33,483 --> 00:44:36,820 ‪ผมอยากรู้จังว่ามีสักกี่คนที่เคยลองซุปเบลล์วิว 772 00:44:36,903 --> 00:44:39,489 ‪เพราะถ้าคุณพบเมนูพวกนี้ 773 00:44:39,572 --> 00:44:41,700 ‪และไม่เคยมีใครที่โต๊ะนี้เคยกินมาก่อน 774 00:44:41,783 --> 00:44:43,535 ‪- คุณก็ไม่เคยได้ยิน ‪- ใช่ 775 00:44:43,618 --> 00:44:45,704 ‪คุณอาจจะเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่ง 776 00:44:45,787 --> 00:44:48,915 ‪ที่ขาดหายไปหลายทศวรรษ 777 00:44:48,998 --> 00:44:52,961 ‪ครับ ผมหวังว่าอย่างนั้นนะ ผมคิดว่ามันสำคัญมาก 778 00:44:53,044 --> 00:44:55,171 ‪ประวัติศาสตร์ของเรามากมายช่างมืดมน 779 00:44:55,255 --> 00:44:57,424 ‪ไม่ก็เราเห็นว่ามันมืดมน 780 00:44:57,507 --> 00:45:00,468 ‪แต่ก็มีความงามซ่อนอยู่มากมาย 781 00:45:00,552 --> 00:45:03,680 ‪ผมรู้สึกว่าเมนูและอาหาร ‪เป็นการปะติดปะต่อเรื่องราว 782 00:45:03,763 --> 00:45:05,515 ‪ที่ถูกซ่อนอยู่ในช่วงประวัติศาสตร์ 783 00:45:05,598 --> 00:45:06,433 ‪แน่นอนที่สุด 784 00:45:06,516 --> 00:45:09,728 ‪- คุณทำได้ดีมาก ‪- ใช่ค่ะ คุณทำได้ยอดเยี่ยมจริงๆ 785 00:45:09,811 --> 00:45:13,356 ‪พวกคุณรู้สึกยังไงบ้างที่ได้ลิ้มรสส่วนหนึ่ง ‪ของประวัติศาสตร์นี้ด้วย 786 00:45:14,023 --> 00:45:14,941 ‪รู้สึกดีมาก 787 00:45:15,024 --> 00:45:18,820 ‪มันเจ๋งมากที่ได้พบกับเชฟที่มีความสามารถ ‪ฟื้นฟูอาหารพวกนี้ได้ 788 00:45:18,903 --> 00:45:22,532 ‪ครอบครัวของเราถ่อมตัวมาก ‪ไม่เคยพูดเรื่องนี้กันเลย 789 00:45:22,615 --> 00:45:24,743 ‪มันเลยเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจสำหรับเราด้วย 790 00:45:24,826 --> 00:45:27,078 ‪จนอเล็กซ์ไปสำรวจบ้านในสวนของเรา 791 00:45:27,162 --> 00:45:28,913 ‪- ใช่ นั่นมัน… ‪- แล้วทำความสะอาดมัน 792 00:45:28,997 --> 00:45:30,707 ‪ผมรู้สึกเหมือนเป็นอินเดียน่า โจนส์เลย 793 00:45:32,375 --> 00:45:35,336 ‪ผมลงไปที่ห้องใต้ดินแล้วคุ้ยข้าวของ 794 00:45:35,420 --> 00:45:36,796 ‪สกปรกมอมแมมไปหมด 795 00:45:36,880 --> 00:45:39,299 {\an8}‪เจอหยากไย่เกาะ ต้องแกะออกแล้วก็เห็นจาน 796 00:45:39,382 --> 00:45:42,761 {\an8}‪ผมคิดว่า อะไรกันเนี่ย ‪มีหลายเรื่องที่พวกเขาไม่ได้บอกผม 797 00:45:42,844 --> 00:45:48,933 ‪คุณแพตตี้ครับ เรากำลังพูดถึง ‪ประวัติศาสตร์ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 798 00:45:49,017 --> 00:45:50,769 ‪และตระกูลดูเทรลล์ 799 00:45:50,852 --> 00:45:55,857 ‪แต่ความสัมพันธ์ของเรากับการจัดเลี้ยงอาหาร ‪ย้อนกลับไปเกือบ 100 ปีก่อนหน้านั้น 800 00:45:55,940 --> 00:45:59,778 {\an8}‪แน่นอนค่ะ โรเบิร์ต โบเกิลได้ชื่อว่า ‪เป็นบิดาของการจัดเลี้ยงอาหาร 801 00:45:59,861 --> 00:46:04,115 {\an8}‪และก่อนหน้าเขาก็ไม่เคยมีอาชีพนี้เลย 802 00:46:04,199 --> 00:46:06,910 ‪คำว่า "รับจัดเลี้ยง" ก็ไม่เป็นที่รู้จัก 803 00:46:06,993 --> 00:46:11,122 ‪โรเบิร์ต โบเกิลบริการชุมชนคนดำด้วย 804 00:46:11,206 --> 00:46:15,710 ‪แต่ก็เป็นคนรับจัดเลี้ยง ‪ที่สังคมคนขาวเรียกใช้เช่นกัน 805 00:46:18,379 --> 00:46:22,884 ‪จานต่อไปเราจะกินแฮมเวอร์จิเนียกับผักใบเขียว 806 00:46:22,967 --> 00:46:26,846 ‪อาหารอุ่นใจคลาสสิก แค่เคี่ยวกับแฮม 807 00:46:26,930 --> 00:46:29,474 ‪ผักและผักที่มีกลิ่นหอมอย่างหัวหอม 808 00:46:29,557 --> 00:46:31,392 ‪กระเทียม น้ำส้มสายชูนิดหน่อย 809 00:46:31,476 --> 00:46:34,854 ‪และเรามีสลัดปูกับขนมปังกรอบด้วย 810 00:46:34,938 --> 00:46:36,147 ‪จานพิเศษอีกอย่าง 811 00:46:36,231 --> 00:46:39,442 ‪ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ‪ตระกูลดูเทรลล์เป็นพิเศษ 812 00:46:39,526 --> 00:46:43,363 ‪แต่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์บริการจัดเลี้ยง ‪ของฟิลาเดลเฟียโดยรวม 813 00:46:44,072 --> 00:46:45,990 ‪คุณต้องลองทุกอย่าง อย่างละชิ้น 814 00:46:48,785 --> 00:46:49,661 ‪อือ… 815 00:46:54,541 --> 00:46:55,959 ‪- โอมาร์ อร่อยมากค่ะ ‪- ว้าว 816 00:46:57,627 --> 00:47:00,755 ‪มีผักคะน้า ผักกาดเขียวและผักฟันสิงโต 817 00:47:00,839 --> 00:47:02,423 ‪- เด็ด ‪- และหัวไชเท้าด้วย 818 00:47:02,507 --> 00:47:04,467 ‪- เอาละนะ ‪- ร้องเสียงเดียวกันเลย 819 00:47:08,179 --> 00:47:10,014 ‪- อร่อยมากครับเชฟ ‪- ว้าว 820 00:47:11,474 --> 00:47:12,809 ‪โอมาร์ สำเร็จอีกแล้ว 821 00:47:14,352 --> 00:47:18,022 ‪คุณเป็นคนชอบอาหาร รู้สึกยังไง ‪ที่ได้เชื่อมโยงกับมรดกนี้ครับ 822 00:47:18,106 --> 00:47:19,274 ‪ถือว่าเป็นเกียรติครับ 823 00:47:19,357 --> 00:47:22,652 ‪ผมอยากให้หลานผมได้ดูเมนูพวกนี้แล้วคิดว่า 824 00:47:22,735 --> 00:47:24,362 ‪"ทุกวันนี้ยังทำเมนูพวกนี้อยู่" 825 00:47:24,445 --> 00:47:26,114 ‪มันมีความสำคัญต่อผมมาก 826 00:47:26,197 --> 00:47:29,909 ‪มันคือครอบครัว เป็นประเพณี ‪เป็นประวัติศาสตร์คนดำ 827 00:47:29,993 --> 00:47:31,327 ‪มันคือฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็น… 828 00:47:31,411 --> 00:47:33,329 ‪- ประวัติศาสตร์อเมริกา ‪- ประวัติศาสตร์อเมริกา 829 00:47:33,413 --> 00:47:37,667 ‪และสิ่งนี้เกิดขึ้นตั้งหลายปี ‪ก่อนการแบ่งแยกเชื้อชาติจะจบลง 830 00:47:37,750 --> 00:47:38,877 ‪พวกเขาทำอะไรไว้มากมาย 831 00:47:38,960 --> 00:47:42,255 ‪ผมดูรถที่พวกเขาขับตอนนั้น ‪คิดว่ามันเป็นไปได้ยังไง 832 00:47:42,338 --> 00:47:44,841 ‪- ฉันก็คิดเหมือนกัน ‪- ไม่เคยเห็นอย่างนั้นเลย 833 00:47:44,924 --> 00:47:46,217 ‪- ใช่ ‪- แต่งตัวหรู 834 00:47:46,301 --> 00:47:49,262 ‪ผมอึ้งไปเลย ถือเป็นเกียรติมาก ‪ที่ได้สืบเชื้อสายนี้ 835 00:47:49,345 --> 00:47:51,472 ‪ฉันก็คิดเหมือนกันตอนที่พ่อส่งรูปมา 836 00:47:51,556 --> 00:47:54,642 ‪เสื้อโค้ตขนสัตว์ ขับรถหรู ‪ฉันคิดว่า "คนดำเคยมีชีวิตอย่างนี้เหรอ" 837 00:47:54,726 --> 00:47:55,727 ‪เคยมีแน่นอน 838 00:47:55,810 --> 00:47:58,438 ‪คนดำที่เป็นอิสระมากมายหลายรุ่น 839 00:47:58,521 --> 00:48:01,107 ‪เป็นผู้ประกอบการหลายรุ่น 840 00:48:01,190 --> 00:48:03,318 ‪เราสร้างเศรษฐกิจของเราเอง 841 00:48:03,401 --> 00:48:09,324 ‪และเรามีครอบครัวอย่างตระกูลดูเทรลล์ ‪ที่สืบทอดประเพณีนั้น 842 00:48:09,407 --> 00:48:14,120 ‪เลี้ยงดูชุมชนของเรา ‪และเป็นตัวอย่างของการพึ่งพาตัวเอง 843 00:48:14,203 --> 00:48:18,917 ‪เป็นอิสระ เป็นผู้ประกอบการ ‪และสร้างรายได้ในชุมชนของเรา 844 00:48:19,000 --> 00:48:21,252 ‪เป็นอิทธิพลที่แรงกล้าจริงๆ 845 00:48:24,547 --> 00:48:25,798 ‪สำหรับอาหารจานหลัก 846 00:48:25,882 --> 00:48:28,468 ‪เรามีสตูพริกไทย 847 00:48:28,551 --> 00:48:32,472 ‪สตูพริกไทยเป็นอาหารที่นิยมกันมากที่สุด ‪ในฟิลาเดลเฟีย 848 00:48:32,555 --> 00:48:36,768 ‪ในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 ‪และต่อมาในศตวรรษที่ 20 ด้วย 849 00:48:36,851 --> 00:48:42,690 ‪มีภาพวาดของผู้หญิง ‪กำลังขายสตูพริกไทยให้คนขายของ 850 00:48:42,774 --> 00:48:45,568 {\an8}‪มันขายกันตามข้างถนน 851 00:48:45,652 --> 00:48:49,530 {\an8}‪ส่วนใหญ่คนขายเป็นผู้หญิงผิวสีที่เป็นอิสระ ‪ทั่วทั้งถนนมาร์เก็ต 852 00:48:49,614 --> 00:48:51,824 {\an8}‪ผมตื่นเต้นมากที่ได้แบ่งปันกับพวกคุณ 853 00:48:51,908 --> 00:48:54,243 ‪และทำให้อาหารจานนี้กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง 854 00:48:55,411 --> 00:48:56,955 ‪ค่ะ น่ากินจังเลย 855 00:48:57,038 --> 00:48:58,289 ‪โอมาร์ อร่อยมาก 856 00:49:01,125 --> 00:49:02,585 ‪คุณใช้อะไร หางวัวเหรอ 857 00:49:03,795 --> 00:49:04,879 ‪ใช่ครับ หางวัว 858 00:49:06,130 --> 00:49:07,548 ‪อร่อยมาก! 859 00:49:07,632 --> 00:49:08,549 ‪จริงๆ นะ 860 00:49:09,384 --> 00:49:12,595 ‪มันมีรสเครื่องเทศแต่ไม่เผ็ด ‪นี่รสของอะไรครับ 861 00:49:12,679 --> 00:49:16,015 ‪มันมีความเชื่อมโยงกับหมู่เกาะเวสต์อินดีส 862 00:49:16,099 --> 00:49:17,600 ‪เลยมีพริกสก็อตช์บอนเน็ตอยู่ในนั้น 863 00:49:17,684 --> 00:49:22,063 ‪อันนี้เป็นซอสมะเขือเทศ ‪ใส่พริกพริกสก็อตบอนเน็ต ปาปริก้า 864 00:49:22,146 --> 00:49:24,524 ‪กระเทียม หัวหอม ใบไทม์ 865 00:49:24,607 --> 00:49:27,860 ‪แต่สำหรับผม ‪สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าเครื่องเทศทั้งหลาย 866 00:49:27,944 --> 00:49:29,988 ‪คือเวลาที่เดินไป 867 00:49:30,071 --> 00:49:35,159 ‪คุณต้องใจเย็นและดูแลทุกขั้นตอนการทำสตูนี้ 868 00:49:35,243 --> 00:49:39,080 ‪ผมชอบจานนี้เพราะมันซับซ้อนมาก 869 00:49:39,163 --> 00:49:42,500 ‪ทั้งเครื่องเทศ เนื้อสัมผัสของข้าวและเนื้อสัตว์ 870 00:49:42,583 --> 00:49:46,629 ‪รสชาติไม่แรงมาก แต่มีรสชาติเพียบ ‪เป็นจานที่อร่อยมากครับ 871 00:49:46,713 --> 00:49:49,549 ‪บอกตามตรงนะ ตอนที่ผมทำเมนูนี้ 872 00:49:49,632 --> 00:49:51,217 ‪ผมไม่ได้ใช้สูตรเท่าไหร่ 873 00:49:51,300 --> 00:49:53,594 ‪มีสูตรสำหรับสตูพริกไทย 874 00:49:54,846 --> 00:49:57,849 ‪แต่ผมทำตามความรู้สึก ‪ถึงความผูกพันกับบรรพบุรุษมากกว่า 875 00:49:58,433 --> 00:49:59,767 ‪ผมรู้สึกว่าผมมีความเชื่อมโยงโดยตรง 876 00:49:59,851 --> 00:50:02,645 ‪กับวิธีที่ชาวแอฟริกันอเมริกันปลดเปลื้องตัวเอง ‪ให้เป็นอิสระในอดีต 877 00:50:02,729 --> 00:50:03,771 ‪คือการทำผ่านงานฝีมือ 878 00:50:03,855 --> 00:50:06,107 ‪เพราะอาหารพวกนี้ 879 00:50:06,190 --> 00:50:11,571 ‪เราได้บอกความจริงโดยไม่ต้องละอายใจ ‪เพราะใครๆ ก็อยากกิน 880 00:50:13,656 --> 00:50:17,201 ‪ผมรู้สึกเสมอมาว่ามีพลังที่เชื่อมโยงกับอาหาร 881 00:50:17,285 --> 00:50:19,829 ‪มีความดีงามในการร่วมใช้เวลาด้วยกัน 882 00:50:20,663 --> 00:50:24,584 ‪และอิสรภาพที่พบได้ ‪ในการแลกเปลี่ยนความรู้สึกและความคิด 883 00:50:25,960 --> 00:50:29,630 ‪เมื่อขบวนการเลิกทาส ‪ช่วงต้นศตวรรษที่ 18 เติบโตขึ้น 884 00:50:29,714 --> 00:50:33,092 ‪และขบวนการอันเดอร์กราวด์เรลโร้ด ‪พาผู้คนมาสู่ฟิลาเดลเฟียมากขึ้น 885 00:50:33,885 --> 00:50:38,598 ‪ชุมชนคนดำที่เป็นอิสระก็มองหาช่องทาง ‪เพิ่มพูนโอกาสของพวกเขา 886 00:50:39,557 --> 00:50:43,269 ‪และบางคนก็เล็งไปยังดินแดน 887 00:50:44,187 --> 00:50:46,647 ‪ที่จะเป็นที่รู้จักกันในชื่อเท็กซัส 888 00:51:13,007 --> 00:51:14,926 ‪คำบรรยายโดย พยุงศักดิ์ แก่นจันทร์