1 00:00:02,000 --> 00:00:07,000 Downloaded from YTS.MX 2 00:00:06,506 --> 00:00:11,886 ‎(ผลงานภาพยนตร์สารคดีจาก NETFLIX) 3 00:00:08,000 --> 00:00:13,000 Official YIFY movies site: YTS.MX 4 00:00:18,893 --> 00:00:21,813 ‎เราลองคิดภาพตัวเองกำลังขับรถขึ้นเขาก็ได้ 5 00:00:21,896 --> 00:00:25,316 ‎บนถนนคดเคี้ยวไปมา 6 00:00:25,400 --> 00:00:29,529 ‎เครื่องยนต์ทรงพลังที่แล่นเร็วเกินไป 7 00:00:30,196 --> 00:00:32,531 ‎เรากำลังขับโดยไม่มีไฟหน้ารถ 8 00:00:32,615 --> 00:00:35,118 ‎ผ่านหน้าผาหลายจุดที่เราอาจร่วงลงไปได้ทุกเมื่อ 9 00:00:36,536 --> 00:00:38,621 ‎แน่นอนว่าเราอยากเปิดไฟหน้ารถ 10 00:00:38,705 --> 00:00:41,166 ‎ซึ่งนั่นเองคือสิ่งที่วิทยาศาสตร์ ‎พยายามทำตลอดเวลา 11 00:00:41,249 --> 00:00:44,878 ‎มอบไฟหน้ารถให้เราเพื่อให้เราเห็นว่า ‎จะเจอความเสี่ยงแบบไหน 12 00:00:47,130 --> 00:00:49,924 ‎การค้นพบล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์ 13 00:00:50,008 --> 00:00:52,886 ‎ผู้ศึกษาความเป็นไปของโลก 14 00:00:52,969 --> 00:00:55,346 ‎สำคัญใหญ่หลวงที่สุดอย่างแน่นอน 15 00:00:55,430 --> 00:00:56,431 ‎ต่อเราทุกคน 16 00:00:57,098 --> 00:00:59,726 ‎สิ่งที่พวกเขาค้นพบชวนน่าเป็นห่วงจริงๆ 17 00:01:00,477 --> 00:01:03,480 ‎แต่ว่า เรายังมีความหวัง 18 00:01:03,563 --> 00:01:06,775 ‎เพราะพวกเขาแสดงให้เห็นว่าเรามีวิธีแก้ไขได้ 19 00:01:08,902 --> 00:01:11,362 ‎หนึ่งในผู้ที่อุทิศชีวิตตน 20 00:01:11,446 --> 00:01:14,199 ‎ศึกษาปัญหาสำคัญของโลกเหล่านั้น 21 00:01:14,282 --> 00:01:15,658 ‎เป็นชาวสวีเดน 22 00:01:17,118 --> 00:01:18,745 ‎โยฮัน ร็อกสตรอม 23 00:01:20,038 --> 00:01:22,999 ‎สิ่งที่เขาและเพื่อนร่วมอาชีพทั่วโลกค้นพบ 24 00:01:23,083 --> 00:01:27,504 ‎อาจเป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ‎ที่สำคัญที่สุดแห่งยุคสมัยเรา 25 00:01:28,713 --> 00:01:30,882 ‎โยฮันมอบความหวังแก่เรา 26 00:01:31,508 --> 00:01:34,511 ‎ความหวังว่าวิกฤตินี้มีทางออก 27 00:01:35,095 --> 00:01:37,472 ‎และเมื่อพวกคุณได้ยินเช่นกัน 28 00:01:37,555 --> 00:01:41,017 ‎คุณคงไม่มีวันมองโลกนี้แบบเดิมอีกเลย 29 00:01:41,810 --> 00:01:43,436 ‎นี่ไม่ใช่เรื่องของดาวเคราะห์ดวงนี้ 30 00:01:43,520 --> 00:01:46,481 ‎นี่เป็นเรื่องของเรา อนาคตของเรา 31 00:01:46,564 --> 00:01:48,566 ‎เรายังมีโอกาส 32 00:01:49,067 --> 00:01:53,655 ‎หน้าต่างยังเปิดรับให้มนุษยชาติมีอนาคต 33 00:01:54,364 --> 00:01:57,492 ‎ผมคิดว่านี่คือความงามของปัจจุบันที่เราอยู่นี้ 34 00:02:10,380 --> 00:02:12,966 ‎ความเข้าใจของเรา ‎เกี่ยวกับความเป็นไปของโลก 35 00:02:13,049 --> 00:02:14,425 ‎ก้าวหน้าอยู่เสมอ 36 00:02:15,760 --> 00:02:18,263 ‎ตอนนี้เราเข้าใจได้ชัดเจนยิ่งกว่าเดิมว่า 37 00:02:18,346 --> 00:02:20,723 ‎ความซับซ้อนน่าพิศวงของชีวิต 38 00:02:20,807 --> 00:02:23,977 ‎คือสิ่งจำเป็นที่สุดในการอยู่รอดของเรา 39 00:02:25,979 --> 00:02:30,733 ‎แต่ความหลากหลายทางชีวภาพกำลัง ‎ล่มสลาย และสภาพอากาศกำลังเปลี่ยนแปลง 40 00:02:31,317 --> 00:02:35,530 ‎โยฮัน ร็อกสตรอมสนใจสิ่งที่ ‎ทำให้โลกของเรายังมั่นคงอยู่ได้ 41 00:02:37,657 --> 00:02:40,451 ‎เพราะวิทยาศาสตร์ เราจึงเป็นคนรุ่นแรก 42 00:02:40,535 --> 00:02:43,204 ‎ที่ได้รู้ว่าเราอาจกำลังบ่อนทำลาย 43 00:02:43,288 --> 00:02:46,457 ‎เสถียรภาพและศักยภาพของดาวเคราะห์โลก 44 00:02:46,541 --> 00:02:49,043 ‎เพื่อส่งเสริมการพัฒนาของมนุษย์ตามที่เรารู้จัก 45 00:02:49,627 --> 00:02:51,045 ‎เรารู้ข้อมูลนี้จากแกนน้ำแข็ง 46 00:02:51,129 --> 00:02:54,340 ‎และผมคิดว่านี่คือกราฟที่สำคัญที่สุด ‎ซึ่งเรามีในปัจจุบัน 47 00:02:54,424 --> 00:02:56,467 ‎กราฟนี้เปิดเผยความจริงที่น่าแปลกใจ 48 00:02:57,135 --> 00:02:59,762 ‎มันแสดงให้เห็นความแปรปรวนของอุณหภูมิโลก 49 00:02:59,846 --> 00:03:02,432 ‎ในช่วง 100,000 ปีที่ผ่านมา 50 00:03:02,515 --> 00:03:05,393 ‎ตั้งแต่มีมนุษย์ยุคใหม่ปรากฏขึ้นครั้งแรก 51 00:03:05,476 --> 00:03:09,314 ‎เราโดดไปมาระหว่าง ‎บวกและลบสิบองศาเซลเซียสในหนึ่งทศวรรษ 52 00:03:09,397 --> 00:03:13,234 ‎พูดง่ายๆ ก็คือเป็นช่วงทุกข์ยากของเรา 53 00:03:13,318 --> 00:03:16,487 ‎สิ่งสำคัญคืออุณหภูมิเพิ่งจะคงที่ 54 00:03:16,571 --> 00:03:18,615 ‎เมื่อ 10,000 ปีก่อน 55 00:03:18,698 --> 00:03:20,450 ‎(ยุคสมัย: หนึ่งพันปีก่อนปัจจุบัน) 56 00:03:20,533 --> 00:03:23,536 ‎เราเห็นได้จากกราฟนี้ว่ามันน่าทึ่งมาก 57 00:03:23,620 --> 00:03:27,248 ‎เรียกได้ว่าแทบจะเป็นยุค ‎ธารน้ำแข็งละลายที่เสถียรอย่างอัศจรรย์ 58 00:03:27,916 --> 00:03:30,585 ‎นักธรณีวิทยาตั้งชื่อพิเศษ 59 00:03:30,668 --> 00:03:32,212 ‎ให้ช่วงเวลาที่อุณหภูมิคงที่นี้ 60 00:03:32,837 --> 00:03:35,089 ‎โดยเรียกมันว่าสมัยโฮโลซีน 61 00:03:35,965 --> 00:03:37,842 ‎สมัยโฮโลซีนน่าทึ่งมาก 62 00:03:37,926 --> 00:03:41,679 ‎นี่คือยุคที่เกิดความอบอุ่นโดยที่โลกมีอุณหภูมิเฉลี่ย 63 00:03:41,763 --> 00:03:44,474 ‎อยู่ระหว่างบวกและลบหนึ่งองศาเซลเซียส 64 00:03:44,557 --> 00:03:46,017 ‎ตลอดทั้งยุค 65 00:03:47,185 --> 00:03:48,353 ‎บวกและลบหนึ่ง 66 00:03:48,436 --> 00:03:50,730 ‎บวกและลบหนึ่งองศาเซลเซียส 67 00:03:50,813 --> 00:03:54,776 ‎นี่คือสิ่งที่สร้างโลกสมัยใหม่อย่างที่เรารู้จัก 68 00:03:55,652 --> 00:03:59,989 ‎อุณหภูมิคงที่ของสมัยโฮโลซีน ‎ทำให้เรามีดาวเคราะห์ที่มีเสถียรภาพ 69 00:04:00,907 --> 00:04:03,159 ‎ระดับน้ำทะเลคงที่ 70 00:04:04,244 --> 00:04:05,370 ‎เป็นครั้งแรกที่ 71 00:04:05,453 --> 00:04:08,623 ‎เรามีฤดูกาลและสภาพอากาศซึ่งคาดเดาได้ 72 00:04:11,167 --> 00:04:14,045 ‎ความสม่ำเสมอนี้คือปฐมบท 73 00:04:14,128 --> 00:04:17,423 ‎เป็นครั้งแรกที่เกิดอารยธรรมขึ้นได้ 74 00:04:17,507 --> 00:04:20,885 ‎ซึ่งมนุษยชาติก็ไม่รีรอที่จะหาประโยชน์ 75 00:04:21,886 --> 00:04:24,806 ‎เราเพาะปลูกข้าว ข้าวสาลี 76 00:04:24,889 --> 00:04:27,892 ‎เทฟฟ์ ข้าวโพด ข้าวฟ่าง 77 00:04:27,976 --> 00:04:31,062 ‎ตามทวีปต่างๆ ในเวลาใกล้เคียงกัน 78 00:04:31,145 --> 00:04:32,105 ‎และนั่นเอง 79 00:04:32,188 --> 00:04:34,148 ‎คือหนทางสร้างอารยธรรมแบบที่เรารู้จัก 80 00:04:34,232 --> 00:04:38,152 ‎ระยะที่น้ำแข็งละลายนี้ทำให้เราสามารถ 81 00:04:38,236 --> 00:04:40,989 ‎พัฒนาอารยธรรมสมัยใหม่ในแบบที่เรารู้จัก 82 00:04:41,072 --> 00:04:44,993 ‎สมัยโฮโลซีนเป็นสภาวะเดียวของโลก ‎ที่เรารู้แน่นอนว่า 83 00:04:45,076 --> 00:04:48,371 ‎สามารถส่งเสริมโลกสมัยใหม่ที่เรารู้จัก 84 00:04:50,123 --> 00:04:52,208 ‎ตั้งแต่อรุณรุ่งของอารยธรรม 85 00:04:52,292 --> 00:04:55,795 ‎เราก็พึ่งพิงสภาพคงที่เช่นนี้ของโลก 86 00:04:56,462 --> 00:04:59,507 ‎ดาวเคราะห์ที่มีพืดน้ำแข็งถาวรสองแห่ง 87 00:05:00,133 --> 00:05:01,718 ‎มีแม่น้ำอุดมสมบูรณ์ 88 00:05:02,302 --> 00:05:04,887 ‎มีป่าปกคลุม 89 00:05:04,971 --> 00:05:06,514 ‎สภาพอากาศที่คาดเดาได้ 90 00:05:07,348 --> 00:05:09,726 ‎และความอุดมสมบูรณ์ของชีวิต 91 00:05:10,518 --> 00:05:12,061 ‎ตลอดสมัยโฮโลซีน 92 00:05:12,145 --> 00:05:15,565 ‎ดาวเคราะห์มั่นคงแห่งนี้มอบอาหารให้เรากิน 93 00:05:15,648 --> 00:05:19,110 ‎มอบน้ำให้เราดื่ม ‎และมอบอากาศสะอาดให้เราหายใจ 94 00:05:19,193 --> 00:05:22,864 ‎แต่เราทิ้งสมัยโฮโลซีนไว้เบื้องหลังเสียอย่างนั้น 95 00:05:22,947 --> 00:05:25,742 ‎จำนวนมนุษย์ที่เพิ่มขึ้นทบทวีบนดาวเคราะห์โลก 96 00:05:25,825 --> 00:05:27,076 ‎ตอนนี้มาถึงขั้นที่ว่า 97 00:05:27,160 --> 00:05:29,871 ‎เราสร้างสมัยทางธรณีวิทยาของเราเองแล้ว 98 00:05:31,372 --> 00:05:35,501 ‎ไม่นานมานี้นักวิทยาศาสตร์ ‎ประกาศว่าสมัยโฮโลซีนสิ้นสุดลงแล้ว 99 00:05:35,585 --> 00:05:38,338 ‎และตอนนี้เราอยู่ในสมัยแอนโทรโปซีน 100 00:05:38,421 --> 00:05:40,048 ‎ยุคของมนุษย์ 101 00:05:40,131 --> 00:05:43,760 ‎เพราะตอนนี้เราคือตัวหลัก ‎ผู้ขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลง 102 00:05:43,843 --> 00:05:44,969 ‎บนดาวเคราะห์โลก 103 00:05:46,220 --> 00:05:49,432 ‎เราเปลี่ยนผืนดินของโลกครึ่งหนึ่งที่อยู่อาศัยได้ 104 00:05:49,515 --> 00:05:52,060 ‎เพื่อปลูกพืชผลและเลี้ยงปศุสัตว์ 105 00:05:53,811 --> 00:05:58,816 ‎เราเคลื่อนย้ายตะกอนและหินมากกว่า ‎กระบวนการธรรมชาติทั้งหมดของโลกรวมกัน 106 00:05:59,359 --> 00:06:03,112 ‎มหาสมุทรกว่าครึ่งเป็นแหล่งประมง 107 00:06:03,196 --> 00:06:07,200 ‎มนุษย์เก้าในสิบหายใจอากาศปนเปื้อน 108 00:06:07,950 --> 00:06:09,786 ‎และในชั่วชีวิตคนหนึ่ง 109 00:06:09,869 --> 00:06:13,664 ‎เราทำให้โลกอุ่นขึ้นมากกว่าหนึ่งองศา 110 00:06:14,540 --> 00:06:18,419 ‎ผมคงบอกได้ว่าบางที ‎ข้อความเร่งด่วนที่สุดถึงมนุษยชาติ 111 00:06:18,503 --> 00:06:19,629 ‎คือสิ่งต่อไปนี้ 112 00:06:19,712 --> 00:06:22,423 ‎ในเวลาเพียง 50 ปี 113 00:06:23,007 --> 00:06:25,635 ‎เราจัดการผลักดันตัวเอง 114 00:06:25,718 --> 00:06:27,678 ‎พ้นสภาพ 115 00:06:27,762 --> 00:06:30,723 ‎ที่เราเคยอยู่มานานเป็น 10,000 ปี 116 00:06:30,807 --> 00:06:35,937 ‎เรากำลังหมิ่นเหม่จะทำให้ ‎ดาวเคราะห์นี้แปรปรวนหรือเปล่า 117 00:06:38,815 --> 00:06:41,734 ‎เป็นสถานการณ์ที่ชวนสับสนว้าวุ่นใจ 118 00:06:41,818 --> 00:06:44,237 ‎เป็นครั้งแรกที่เราต้องพิจารณาอย่างจริงจัง 119 00:06:44,320 --> 00:06:47,740 ‎ความเสี่ยงที่เราจะทำให้ทั้งโลกขาดเสถียรภาพ 120 00:06:47,824 --> 00:06:50,451 ‎(สถาบันพ็อทสดัม ‎เพื่อการวิจัยผลกระทบของสภาพอากาศ) 121 00:06:50,535 --> 00:06:54,288 ‎โยฮันมุ่งมั่นที่จะเข้าใจภาพรวม 122 00:06:54,872 --> 00:06:57,875 ‎โดยพิจารณาจากองค์ความรู้ทั่วโลก 123 00:06:59,210 --> 00:07:02,964 ‎เพื่อศึกษาว่าอะไรทำให้ดาวเคราะห์นี้มั่นคงอยู่ได้ 124 00:07:03,589 --> 00:07:07,093 ‎อะไรคือระบบที่กำหนดสภาวะของโลก 125 00:07:07,176 --> 00:07:09,679 ‎และมันมีห้าอย่างหรือสามสิบอย่างล่ะ 126 00:07:09,762 --> 00:07:11,514 ‎ตอนเริ่มต้นเราไม่รู้เลย 127 00:07:11,597 --> 00:07:14,851 ‎เราแค่ถามคำถามปลายเปิด 128 00:07:14,934 --> 00:07:19,439 ‎"เราจะระบุได้ไหม ‎ระบบที่กำหนดสภาวะของโลก" 129 00:07:19,522 --> 00:07:21,649 ‎ระบบเหล่านี้ประคองโลก 130 00:07:21,732 --> 00:07:25,111 ‎ให้อยู่ในสภาวะคงที่มาตลอดสมัยโฮโลซีน 131 00:07:25,194 --> 00:07:29,824 ‎เมื่อเรามีจำนวนมากขึ้น ระบบเหล่านี้จึงเสี่ยง 132 00:07:29,907 --> 00:07:31,492 ‎ที่จะเริ่มพังทลาย 133 00:07:31,576 --> 00:07:34,537 ‎เสี่ยงที่เราจะล้ำเส้นขีดจำกัด ‎ความปลอดภัยของโลก 134 00:07:34,620 --> 00:07:38,082 ‎และทำลายเสถียรภาพที่เราพึ่งพาอาศัยอยู่ 135 00:07:38,166 --> 00:07:40,710 ‎ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าเราควร 136 00:07:40,793 --> 00:07:43,796 ‎สืบเสาะประเด็นการกำหนดขีดจำกัด ‎ความปลอดภัยของโลก 137 00:07:43,880 --> 00:07:47,925 ‎และเราระบุเชิงปริมาณได้ไหมว่าตรงไหน 138 00:07:48,426 --> 00:07:52,555 ‎ซึ่งถ้าเรารุกล้ำเข้าไป ‎จะกระตุ้นให้เกิดความแปรปรวน 139 00:07:52,638 --> 00:07:54,682 ‎และนั่นคือขีดความสามารถที่โลกรองรับได้ 140 00:07:58,603 --> 00:08:02,106 ‎ถ้านักวิทยาศาสตร์กำหนด ‎ขีดความปลอดภัยของโลกได้ 141 00:08:02,190 --> 00:08:04,734 ‎พวกเขามอบหนทางด้วยได้ไหม 142 00:08:04,817 --> 00:08:07,570 ‎ที่จะนำเราพ้นวิกฤติในปัจจุบัน 143 00:08:07,653 --> 00:08:10,615 ‎ที่จะแสดงให้เราเห็นวิธีเลี่ยงหายนะ 144 00:08:10,698 --> 00:08:14,577 ‎และวิธีปกป้องอนาคตรุ่งเรืองของเราบนโลก 145 00:08:19,457 --> 00:08:23,127 ‎ขอบเขตแรกที่เห็นชัดที่สุดนั้น พวกเราทุกคนรู้จักดี 146 00:08:23,794 --> 00:08:25,880 ‎เมื่ออุณหภูมิของโลกปัจจุบัน 147 00:08:25,963 --> 00:08:28,841 ‎สูงกว่าที่เคยเป็นมาตลอด ‎นับแต่รุ่งอรุณของอารยธรรม 148 00:08:28,925 --> 00:08:31,594 ‎นั่นคืออันตรายของการที่เราล้ำเส้น 149 00:08:31,677 --> 00:08:33,596 ‎ขีดความสามารถของสภาพอากาศที่โลกรับได้ 150 00:08:35,056 --> 00:08:37,892 ‎บางทีหลักฐานที่น่ากลัวที่สุดของเรื่องนี้คือ 151 00:08:38,726 --> 00:08:41,520 ‎การเปลี่ยนแปลงของน้ำแข็งบนโลก 152 00:08:43,688 --> 00:08:47,318 ‎ในฐานะชาวสวีเดน โยฮัน ‎รู้สึกได้ถึงสิ่งนี้ชัดเจนกว่าคนส่วนใหญ่ 153 00:08:48,986 --> 00:08:51,864 ‎ในฐานะเด็กชาวสวีเดน ‎ก็เหมือนเด็กในสวีเดนทุกคน 154 00:08:51,948 --> 00:08:55,451 ‎เราเรียนมาว่ายอดเขาทางทิศใต้ ‎ของภูเขาเคพเนไคเซอร์ 155 00:08:55,535 --> 00:08:57,078 ‎คือยอดเขาสูงสุดในประเทศนี้ 156 00:08:57,161 --> 00:08:58,454 ‎และมันเป็นบางอย่างที่ 157 00:08:58,538 --> 00:09:01,958 ‎ถูกปลูกฝังมาในตัวตนพลเมืองสวีเดน 158 00:09:02,500 --> 00:09:05,002 ‎ดังนั้น แน่นอนว่า 159 00:09:05,086 --> 00:09:06,921 ‎มันน่าเศร้า 160 00:09:07,004 --> 00:09:11,342 ‎เมื่อเรารู้ว่าสิ่งที่รู้มาจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป 161 00:09:12,802 --> 00:09:17,098 ‎ยอดเขาทางใต้ของภูเขาเคพเนไคเซอร์ ‎เพิ่งสูญเสียตำแหน่งเดิม 162 00:09:17,181 --> 00:09:19,225 ‎ในฐานะยอดเขาที่สูงที่สุดในสวีเดน 163 00:09:22,562 --> 00:09:24,814 ‎ธารน้ำแข็งที่เป็นจุดสูงสุดของภูเขานี้ 164 00:09:24,897 --> 00:09:28,526 ‎ทรุดตัวลงอย่างมากด้วยอัตราครึ่งเมตรต่อปี 165 00:09:28,609 --> 00:09:30,695 ‎มาตลอด 50 ปีที่ผ่านมา 166 00:09:33,489 --> 00:09:36,242 ‎สถานการณ์ที่ภูเขาเคพเนไคเซอร์ 167 00:09:36,325 --> 00:09:40,329 ‎โดยตัวมันเองไม่ได้จะทำลายเสถียรภาพของโลก 168 00:09:40,913 --> 00:09:44,792 ‎แต่การมีพืดน้ำแข็งถาวรสองแห่ง 169 00:09:44,875 --> 00:09:47,670 ‎ที่อาร์กติกและแอนตาร์กติกา 170 00:09:47,753 --> 00:09:52,174 ‎เป็นเงื่อนไขสำคัญมาก ‎ที่ทำให้โลกคงอยู่ในสภาพนี้ 171 00:09:52,258 --> 00:09:55,261 ‎ซึ่งทำให้เราสามารถพัฒนา ‎อารยธรรมต่างๆ แบบที่เรารู้จัก 172 00:09:55,344 --> 00:09:59,390 ‎เราถึงได้กังวลใจอย่างมาก 173 00:09:59,473 --> 00:10:01,976 ‎ที่เห็นธารน้ำแข็งละลาย 174 00:10:02,059 --> 00:10:06,022 ‎โดยไม่เกี่ยงว่าเป็นธารน้ำแข็งเล็กๆ ‎ที่เคพเนไคเซอร์ 175 00:10:06,105 --> 00:10:08,357 ‎หรือเรากำลังพูดถึงที่กรีนแลนด์ 176 00:10:08,441 --> 00:10:11,402 ‎เพราะทั้งหมดประกอบเข้าด้วยกัน 177 00:10:11,485 --> 00:10:15,573 ‎ทำให้ดาวเคราะห์นี้เย็นลงอย่างน่าทึ่ง 178 00:10:15,656 --> 00:10:18,909 ‎ปรากฏการณ์ทำความเย็นนี้คือหัวใจสำคัญ 179 00:10:18,993 --> 00:10:21,746 ‎ของการรักษาอุณหภูมิของโลก ‎ให้คงที่มาตลอดสมัยโฮโลซีน 180 00:10:21,829 --> 00:10:26,125 ‎น้ำแข็งบนโลกสะท้อน ‎พลังงานของดวงอาทิตย์กลับคืนสู่อวกาศ 181 00:10:26,208 --> 00:10:27,877 ‎ในปริมาณที่พอเหมาะ 182 00:10:29,754 --> 00:10:34,592 ‎พื้นผิวสีขาวถาวรแบบที่เราเห็นได้รอบตัวตอนนี้ 183 00:10:34,675 --> 00:10:39,805 ‎สะท้อนความร้อนกลับคืนดวงอาทิตย์ 90 ถึง 95% 184 00:10:42,975 --> 00:10:45,936 ‎เมื่อพืดน้ำแข็งเหล่านี้เริ่มละลาย 185 00:10:46,020 --> 00:10:48,314 ‎ไม่ใช่แค่มันมีขนาดหดลงเท่านั้น 186 00:10:48,397 --> 00:10:51,817 ‎เขตน้ำซึมยังมีสีเข้มมากและดูดซับความร้อน 187 00:10:51,901 --> 00:10:55,071 ‎แต่การที่พื้นผิวน้ำแข็งละลาย 188 00:10:55,154 --> 00:11:00,284 ‎จนเปลี่ยนสีผืนโลกอย่างเห็นได้ชัดขนาดนี้ ‎ก็มาถึงประเด็นสำคัญที่ว่า 189 00:11:00,368 --> 00:11:04,246 ‎แผ่นน้ำแข็งเปลี่ยนจากการเป็นตัวทำความเย็น 190 00:11:04,330 --> 00:11:06,582 ‎มาเป็นตัวทำความร้อน 191 00:11:06,666 --> 00:11:11,003 ‎และนี่เองคือจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่สุด 192 00:11:11,087 --> 00:11:12,672 ‎ในกลไกของโลก 193 00:11:12,755 --> 00:11:14,548 ‎จุดเปลี่ยนคือจุดที่ 194 00:11:14,632 --> 00:11:17,760 ‎การเปลี่ยนแปลงนั้นฟื้นกลับคืนไม่ได้ 195 00:11:18,219 --> 00:11:21,430 ‎เหมือนรถไฟที่จอดอยู่บนทางลาด 196 00:11:21,514 --> 00:11:23,474 ‎และเริ่มขยับ 197 00:11:24,308 --> 00:11:26,519 ‎เราเบรกรถไฟคันนั้นไม่ได้แล้ว 198 00:11:27,728 --> 00:11:29,897 ‎และรถไฟจะเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ 199 00:11:29,980 --> 00:11:33,275 ‎เร็วขึ้นและเร็วขึ้น ‎จนถึงจุดหนึ่งเราก็เสียการควบคุม 200 00:11:36,654 --> 00:11:38,948 ‎เราเบรกไม่อยู่แล้ว 201 00:11:39,031 --> 00:11:42,284 ‎เราป้องกันพืดน้ำแข็ง ‎ที่กรีนแลนด์ละลายไม่ได้แล้ว 202 00:11:42,868 --> 00:11:45,037 ‎ครั้งแรกที่ผมมาที่นี่ ผมอายุ 20 203 00:11:45,121 --> 00:11:47,415 ‎มันเหมือนความฝัน 204 00:11:47,498 --> 00:11:50,167 ‎(เจสัน บ็อกซ์ หน่วยสำรวจธรณีวิทยา ‎เดนมาร์กและกรีนแลนด์) 205 00:11:50,292 --> 00:11:53,754 ‎เพราะผมเห็นภูมิประเทศที่ผมเคยเห็นแค่ในตำรา 206 00:11:55,631 --> 00:11:58,884 ‎เจสันคือหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากทั่วโลก 207 00:11:58,968 --> 00:12:01,053 ‎ที่เก็บข้อมูลและหลักฐานต่างๆ 208 00:12:01,137 --> 00:12:03,431 ‎ซึ่งโยฮันใช้อ้างอิงในงานวิจัย 209 00:12:04,306 --> 00:12:07,435 ‎หิมะตกทั่วกรีนแลนด์นับพันปีได้สะสม 210 00:12:07,518 --> 00:12:08,894 ‎จนเกิดเป็นโดมน้ำแข็งแบบนี้ 211 00:12:08,978 --> 00:12:12,231 ‎หนาสามกิโลเมตรเศษ ‎และบนยอดเขาในชั้นบรรยากาศนั้น 212 00:12:12,314 --> 00:12:13,941 ‎ก็หนาวมาก 213 00:12:16,152 --> 00:12:18,779 ‎เมื่อมันละลาย พื้นผิวของพืดน้ำแข็ง 214 00:12:18,863 --> 00:12:21,115 ‎ลดระดับลงอยู่ในอากาศที่อบอุ่นกว่าเดิม 215 00:12:21,198 --> 00:12:22,992 ‎ซึ่งยิ่งทำให้มันละลายเร็วขึ้น 216 00:12:24,702 --> 00:12:26,954 ‎ยิ่งพืดน้ำแข็งละลาย สภาพอากาศ 217 00:12:27,037 --> 00:12:30,082 ‎ก็ยิ่งจำเป็นต้องเย็นลงเพื่อพลิกฟื้นสภาพเดิม 218 00:12:31,250 --> 00:12:35,296 ‎แต่ภูมิอากาศปัจจุบัน ‎ร้อนเกินไปเสียแล้วสำหรับกรีนแลนด์ 219 00:12:35,921 --> 00:12:40,134 ‎ดังนั้นในภูมิอากาศที่เป็นอยู่นี้ ‎กรีนแลนด์อยู่ในสภาพที่เลยเกณฑ์ปลอดภัย 220 00:12:40,217 --> 00:12:46,307 ‎ตอนนี้น้ำแข็งที่นั่น ‎ทลาย 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที 221 00:12:47,016 --> 00:12:49,143 ‎นั่นคืออัตราเฉลี่ยของการพังทลาย 222 00:12:49,226 --> 00:12:52,897 ‎ทีนี้ อัตราการพังทลายนี้มีแต่จะดำเนินต่อไป 223 00:12:52,980 --> 00:12:55,316 ‎เมื่อภูมิอากาศร้อนขึ้น 224 00:12:55,900 --> 00:12:57,860 ‎กรีนแลนด์จะหายไปใช่ไหม 225 00:12:58,986 --> 00:13:00,362 ‎จากที่เห็นก็ใช่ 226 00:13:05,534 --> 00:13:09,413 ‎ถ้าเราไม่สามารถทำให้ ‎ภูมิอากาศโลกเย็นลงอย่างชัดเจน 227 00:13:10,164 --> 00:13:14,251 ‎พืดน้ำแข็งในกรีนแลนด์ ‎ก็จะละลายไปเรื่อยๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้ 228 00:13:17,213 --> 00:13:21,175 ‎เรื่องสำคัญตรงนี้มันอยู่ที่ลักษณะของจุดเปลี่ยน 229 00:13:21,258 --> 00:13:25,179 ‎เมื่อเรากดปุ่มเริ่มแล้ว เราหยุดมันไม่ได้ 230 00:13:25,262 --> 00:13:27,973 ‎เราไม่ได้เป็นผู้คุม สายเกินไป ‎ไม่ใช่เราจะพูดได้ว่า 231 00:13:28,057 --> 00:13:31,769 ‎"อุ๊ย ตอนนี้ฉันรู้ละว่าไม่ได้อยาก ‎ทำให้แผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ละลาย 232 00:13:31,852 --> 00:13:33,395 ‎กลับเป็นเหมือนเดิมเถอะ" 233 00:13:33,479 --> 00:13:34,814 ‎เพราะงั้น มันสายไปแล้ว 234 00:13:35,356 --> 00:13:39,527 ‎เมื่อคุณก้าวข้ามจุดเปลี่ยนนี้ ‎คุณก็ก้าวสู่จุดที่ไม่มีวันหวนคืน 235 00:13:39,610 --> 00:13:42,696 ‎คุณกระทำย่ำยีโลก 236 00:13:42,780 --> 00:13:45,825 ‎จนพังทลายแบบเยียวยาไม่ได้ 237 00:13:45,908 --> 00:13:48,869 ‎จากเดิมที่อยู่ในสภาพซึ่ง 238 00:13:48,953 --> 00:13:50,996 ‎เกื้อหนุนมนุษย์อย่างเราได้ 239 00:13:52,122 --> 00:13:54,333 ‎การหลอมละลายของพืดน้ำแข็งในกรีนแลนด์ 240 00:13:54,416 --> 00:13:58,587 ‎จะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นเจ็ดเมตร 241 00:13:59,129 --> 00:14:03,467 ‎นึกภาพโลกที่ระดับน้ำทะเลไม่คงที่สิ 242 00:14:03,551 --> 00:14:04,844 ‎สถานที่ที่กำลังเปลี่ยนแปลง 243 00:14:05,344 --> 00:14:08,097 ‎เมืองต่างๆ เมืองชายฝั่งหลายร้อยแห่ง 244 00:14:08,180 --> 00:14:10,808 ‎กำลังเสี่ยงโดนน้ำทะเลท่วม 245 00:14:11,809 --> 00:14:14,478 ‎ความคงที่ของระดับน้ำทะเลคือปัจจัยสำคัญ 246 00:14:14,562 --> 00:14:17,481 ‎ต่อวิวัฒนาการของอารยธรรม 247 00:14:18,983 --> 00:14:23,737 ‎เรากำลังเผชิญอนาคตแร้นแค้น ‎แบบในหนังแมดแม็กซ์ 248 00:14:27,032 --> 00:14:31,036 ‎แต่กรีนแลนด์เป็นแค่พืดน้ำแข็งที่ขั้วโลกด้านหนึ่ง 249 00:14:31,120 --> 00:14:34,164 ‎ซึ่งเล็กแคระไปเลยเมื่อเทียบกับคู่แฝดทางใต้ 250 00:14:36,750 --> 00:14:38,210 ‎เมื่อไม่กี่ปีก่อน 251 00:14:39,044 --> 00:14:42,548 ‎เราเคยคิดกันว่าแอนตาร์กติกา 252 00:14:42,631 --> 00:14:44,133 ‎มีกลไกที่ยากจะเปลี่ยนแปลงได้ 253 00:14:44,216 --> 00:14:49,638 ‎คิดว่าพืดน้ำแข็งของที่นี่ไม่โดนผลกระทบ ‎จากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงมากนัก 254 00:14:49,722 --> 00:14:52,057 ‎แต่วันนี้ เราไม่คิดแบบนั้นอีกแล้ว 255 00:14:52,141 --> 00:14:56,395 ‎ปัจจุบันเราเห็นมวลน้ำแข็ง ‎สูญเสียไปอย่างรวดเร็ว 256 00:14:56,478 --> 00:14:59,481 ‎เห็นการพังทลายของน้ำแข็งในแอนตาร์กติกา 257 00:15:03,903 --> 00:15:06,989 ‎ภาวะนี้ในแอนตาร์กติกาตะวันตก ‎จะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นกว่าห้าเมตร 258 00:15:09,033 --> 00:15:10,701 ‎ในกรณีที่มันละลายจมลงก้นทะเลไปหมด 259 00:15:10,784 --> 00:15:13,787 ‎ส่วนในแอนตาร์กติกาตะวันออก ‎จะทำให้น้ำทะเลสูงขึ้นสิบเท่า 260 00:15:13,871 --> 00:15:17,291 ‎ซึ่งเท่ากับระดับน้ำทะเล ‎อาจสูงได้มากกว่า 50 เมตร 261 00:15:17,374 --> 00:15:19,793 ‎ริคาร์ดาเป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของโยฮัน 262 00:15:19,877 --> 00:15:23,297 ‎เธอศึกษาว่าจุดเปลี่ยนมีปฏิสัมพันธ์กันได้อย่างไร 263 00:15:23,380 --> 00:15:26,383 ‎ประเด็นสำคัญที่จะพูดตรงนี้คือ 264 00:15:26,467 --> 00:15:28,928 ‎ทุกอย่างในกลไกของโลกสัมพันธ์กัน 265 00:15:29,511 --> 00:15:32,181 ‎ถ้ากลไกส่วนหนึ่งของภูมิอากาศ 266 00:15:32,264 --> 00:15:34,808 ‎ก้าวข้ามจุดเปลี่ยน 267 00:15:34,892 --> 00:15:36,810 ‎มันก็เป็นไปได้มากที่อาจทำให้ 268 00:15:36,894 --> 00:15:40,522 ‎กลไกส่วนอื่นๆ ก้าวสู่เกณฑ์วิกฤติเช่นกัน 269 00:15:40,606 --> 00:15:45,027 ‎คุณคิดถึงภาพโดมิโน่ก็ได้ 270 00:15:45,110 --> 00:15:46,779 ‎ถ้าคุณพลิกอันหนึ่งทับอีกอัน 271 00:15:46,862 --> 00:15:49,198 ‎มันก็อาจนำไปสู่การพังทลายเป็นทอดๆ 272 00:15:49,281 --> 00:15:52,284 ‎สิ่งที่ชัดเจนคือในภาวะโลกร้อนที่เป็นอยู่ตอนนี้ 273 00:15:52,368 --> 00:15:54,078 ‎มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 274 00:15:54,161 --> 00:15:57,039 ‎ที่เราจะข้ามจุดเปลี่ยนต่างๆ ในกลไกของโลก 275 00:16:00,376 --> 00:16:04,463 ‎เมื่อเราข้ามจุดเปลี่ยน ‎การเปลี่ยนแปลงนั้นก็ไม่อาจหวนคืน 276 00:16:04,546 --> 00:16:07,508 ‎ซึ่งหมายความว่าโลกจะเปลี่ยน ‎จากการเป็นมิตรต่อเรา 277 00:16:07,591 --> 00:16:11,720 ‎ที่ให้ความชุ่มชื้น ลดความตึงเครียด 278 00:16:11,804 --> 00:16:13,722 ‎ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ 279 00:16:13,806 --> 00:16:17,059 ‎สะท้อนความร้อน ดูดซับแรงกระแทก 280 00:16:17,142 --> 00:16:20,771 ‎และพลิกผันไปสู่จุดที่โลก ‎อาจร้อนขึ้นเรื่อยๆ จากภายใน 281 00:16:20,854 --> 00:16:22,398 ‎และกลายเป็นศัตรูของเรา 282 00:16:23,983 --> 00:16:28,112 ‎แน่นอนว่าภูมิอากาศร้อนขึ้นจากก๊าซเรือนกระจก 283 00:16:28,195 --> 00:16:30,990 ‎การที่เราปล่อยก๊าซเหล่านี้นั่นเอง 284 00:16:31,073 --> 00:16:33,534 ‎ที่ทำให้โลกพบจุดเปลี่ยน 285 00:16:34,368 --> 00:16:36,912 ‎นานก่อนที่มนุษย์จะปรากฏ 286 00:16:36,996 --> 00:16:41,500 ‎อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเป็นไปตามความเข้มข้น 287 00:16:41,583 --> 00:16:44,545 ‎ของคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ 288 00:16:45,254 --> 00:16:46,588 ‎ในช่วงสมัยโฮโลซีน 289 00:16:46,672 --> 00:16:49,341 ‎ความเข้มข้นนี้ยังค่อนข้างคงที่ 290 00:16:49,425 --> 00:16:50,300 ‎(ยุค: ปี) 291 00:16:50,342 --> 00:16:53,429 ‎แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเพราะปฏิวัติอุตสาหกรรม 292 00:16:53,512 --> 00:16:58,267 ‎ในปี 1988 เราปล่อยก๊าซเรือนกระจก ‎ที่ 350 ส่วนต่อล้านส่วน 293 00:16:58,350 --> 00:17:01,395 ‎เข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก 294 00:17:01,478 --> 00:17:04,565 ‎ตอนนั้นเองที่เราข้ามขีดความปลอดภัย 295 00:17:04,647 --> 00:17:08,609 ‎นับแต่นั้นมา เราก็หมิ่นเหม่ ‎ที่จะกระตุ้นการเปลี่ยนแปลง 296 00:17:08,694 --> 00:17:11,363 ‎ซึ่งนำไปสู่ปรากฏการณ์โลกร้อนแบบกู่ไม่กลับ 297 00:17:11,446 --> 00:17:14,032 ‎เมื่อเราก้าวข้าม 350 ส่วนต่อล้านส่วน 298 00:17:14,116 --> 00:17:16,785 ‎ความเข้มข้นของ ‎คาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ 299 00:17:16,868 --> 00:17:20,079 ‎เราก็ก้าวสู่เขตอันตราย 300 00:17:20,164 --> 00:17:25,127 ‎ดังนั้น 350 ส่วนต่อล้านส่วน ‎คือขีดความปลอดภัยแรกของโยฮัน 301 00:17:25,210 --> 00:17:27,755 ‎ซึ่งเราก้าวพ้นมาไกลแล้ว 302 00:17:28,255 --> 00:17:32,885 ‎ตอนนี้ เรามาถึงจุดที่ความเข้มข้น ‎ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 303 00:17:32,968 --> 00:17:37,222 ‎ในชั้นบรรยากาศอยู่ที่ ‎ประมาณ 415 ส่วนต่อล้านส่วน 304 00:17:37,765 --> 00:17:40,267 ‎เราเริ่มเห็นผลกระทบของ 305 00:17:40,350 --> 00:17:43,353 ‎การอยู่กลางเขตอันตรายพ้น ‎ขีดความปลอดภัยของภูมิอากาศ 306 00:17:43,437 --> 00:17:45,981 ‎ในสภาพที่เกิดภัยแล้งถี่ขึ้น 307 00:17:46,065 --> 00:17:47,941 ‎เกิดคลื่นความร้อน น้ำท่วม 308 00:17:48,025 --> 00:17:50,778 ‎และน้ำแข็งละลายเร็วขึ้น 309 00:17:50,861 --> 00:17:56,033 ‎ชั้นดินเยือกแข็งละลายเร็วขึ้น เกิดไฟป่าบ่อยขึ้น 310 00:17:57,034 --> 00:17:59,828 ‎ก้าวไปสู่เกณฑ์ที่สอง 311 00:17:59,912 --> 00:18:05,667 ‎เรากำลังเข้าใกล้ภาวะคาร์บอนไดออกไซด์ ‎เข้มข้น 450 ส่วนต่อล้านส่วนอย่างรวดเร็ว 312 00:18:06,335 --> 00:18:08,337 ‎และวิทยาศาสตร์กำหนดเขตอันตราย 313 00:18:08,420 --> 00:18:11,507 ‎เกินที่โลกจะรับไหวด้วยช่วงความไม่แน่นอน 314 00:18:11,590 --> 00:18:14,927 ‎ปัจจุบัน เราประเมินว่า ‎ช่วงความไม่แน่นอนในทางวิทยาศาสตร์ 315 00:18:15,010 --> 00:18:17,554 ‎อยู่ระหว่าง 350 หน่วยต่อล้านหน่วย 316 00:18:17,638 --> 00:18:19,389 ‎ซึ่งคือขีดจำกัด 317 00:18:19,473 --> 00:18:22,309 ‎ระหว่างเขตปลอดภัยและระยะเข้าเขตอันตราย 318 00:18:22,392 --> 00:18:24,645 ‎ซึ่งอยู่ที่ 450 หน่วยต่อล้านหน่วย 319 00:18:24,728 --> 00:18:28,482 ‎เมื่อถึงตรงนั้นคุณก็จะออกจากเขตอันตราย ‎และเข้าสู่เขตที่มีความเสี่ยงสูงมาก 320 00:18:29,191 --> 00:18:31,401 ‎ถ้าเราเข้าไปในเขตที่มีความเสี่ยงสูง 321 00:18:31,485 --> 00:18:35,697 ‎ในกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ‎นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ไม่มีวันแก้ไขได้ 322 00:18:35,781 --> 00:18:38,075 ‎ซึ่งนี่เป็นการประเมินแบบกลางๆ 323 00:18:38,158 --> 00:18:42,371 ‎โดยดูจากที่สัญญาณ ‎บ่งบอกจุดเปลี่ยนอยู่รอบตัวเราในตอนนี้ 324 00:18:42,454 --> 00:18:45,999 ‎พูดง่ายๆ คือขีดความปลอดภัย ‎ของภูมิอากาศโลก 325 00:18:46,083 --> 00:18:48,460 ‎คืออุณหภูมิที่อุ่นขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส 326 00:18:48,544 --> 00:18:51,171 ‎ซึ่งมีหลักฐานมากมาย 327 00:18:51,255 --> 00:18:54,800 ‎บอกว่าเราจะเสี่ยงภัยมากๆ ถ้าเราปล่อยให้ 328 00:18:54,883 --> 00:18:56,593 ‎โลกอุ่นขึ้นเกิน 1.5 329 00:18:57,094 --> 00:19:00,305 ‎ตอนนี้เราอยู่ที่ 1.1 ‎เรากำลังก้าวไปสู่ 1.5 อย่างรวดเร็ว 330 00:19:00,389 --> 00:19:03,851 ‎และโอกาสเดียวที่เราจะคงอยู่ในเขตปลอดภัย 331 00:19:03,934 --> 00:19:07,271 ‎ของภูมิอากาศโลกก็คือ อย่างที่รู้น่ะ 332 00:19:07,354 --> 00:19:11,066 ‎เราต้องเป็นเศรษฐกิจสังคมโลกที่ปลอด ‎เชื้อเพลิงฟอสซิลภายใน 30 ปี 333 00:19:14,153 --> 00:19:18,323 ‎แม้สื่อทุกหัวจะพาดข่าวเรื่อง ‎เป้าหมายของอุณหภูมิโลกที่ว่านี้ 334 00:19:18,407 --> 00:19:22,744 ‎โยฮันรู้ดีว่านี่เป็นแค่ส่วนเดียว ‎ของภาพรวมที่ใหญ่กว่านั้น 335 00:19:22,828 --> 00:19:27,291 ‎เพราะเสถียรภาพของโลกเรา ‎อาศัยหลายอย่างมากกว่าแค่ภูมิอากาศ 336 00:19:27,916 --> 00:19:32,421 ‎เราอ้างอิงงานวิจัยและหลักฐานเพิ่มเติม 337 00:19:32,504 --> 00:19:38,051 ‎เพื่อสรุปว่ายังมี ‎ขีดความสามารถอีกสี่อย่างของผืนพิภพ 338 00:19:38,635 --> 00:19:41,263 ‎ขีดความสามารถที่ทำให้โลกคงอยู่ได้ 339 00:19:42,514 --> 00:19:45,392 ‎หนึ่งในนั้นคือองค์ประกอบของผืนดิน 340 00:19:45,475 --> 00:19:48,770 ‎องค์ประกอบของชีวนิเวศบนโลก ‎เป็นยังไงน่ะเหรอ 341 00:19:49,813 --> 00:19:53,233 ‎ป่าฝนทั้งสามแบบ ป่าเขตอบอุ่น 342 00:19:53,317 --> 00:19:54,943 ‎ป่าเขตหนาว 343 00:19:55,027 --> 00:19:56,361 ‎ทุ่งหญ้า 344 00:19:57,279 --> 00:19:58,655 ‎พื้นที่ชุ่มน้ำ 345 00:20:01,241 --> 00:20:02,910 ‎สองคือความหลากหลายทางชีวภาพ 346 00:20:02,993 --> 00:20:06,955 ‎ซึ่งรวมทุกเผ่าพันธุ์ในน้ำและบนบก 347 00:20:10,209 --> 00:20:13,420 ‎ขีดความสามารถอย่างที่สามคือ ‎หลอดเลือดหรือวัฏจักรของน้ำ 348 00:20:13,503 --> 00:20:14,630 ‎(น้ำสะอาด) 349 00:20:14,713 --> 00:20:17,007 ‎และขีดความสามารถสุดท้าย การใช้ธาตุอาหาร 350 00:20:17,090 --> 00:20:18,008 ‎(ธาตุอาหาร) 351 00:20:18,091 --> 00:20:21,053 ‎ซึ่งเป็นพื้นฐานให้โลก ‎เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตนั่นคือ 352 00:20:21,136 --> 00:20:23,222 ‎วัฏจักรไนโตรเจนและฟอสฟอรัส 353 00:20:24,223 --> 00:20:29,019 ‎ขีดความสามารถแรกของผืนพิภพคือ ‎องค์ประกอบของที่อยู่อาศัยบนโลก 354 00:20:29,102 --> 00:20:33,815 ‎ซึ่งเกี่ยวกับการที่เราแปรเปลี่ยน ‎ที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ 355 00:20:35,192 --> 00:20:38,153 ‎เรากำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่อย่างรวดเร็ว 356 00:20:38,237 --> 00:20:41,740 ‎ภายในป่าธรรมชาติผืนใหญ่ที่สุด ‎ที่ยังเหลืออยู่บนโลก 357 00:20:43,200 --> 00:20:44,368 ‎ป่าแอมะซอน 358 00:20:47,204 --> 00:20:49,206 ‎คาร์ลอส โนเบรศึกษาความสำคัญ 359 00:20:49,289 --> 00:20:53,835 ‎ของป่าฝนแห่งนี้ที่มีต่อเสถียรภาพของโลก ‎มานานหลายทศวรรษ 360 00:20:53,919 --> 00:20:56,463 ‎เขาคือคนแรกที่ส่งเสียงเตือนภัย 361 00:20:57,422 --> 00:20:59,383 ‎(สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยเซาเปาโล) 362 00:20:59,466 --> 00:21:02,511 ‎ผมเคยเห็นแอมะซอน ‎ในปี 1971-1972 สมัยยังไม่ถูกรบกวน 363 00:21:05,430 --> 00:21:06,932 ‎ผมเคยเห็นป่าแห่งนี้ 364 00:21:08,267 --> 00:21:09,393 ‎และแม่น้ำ 365 00:21:10,602 --> 00:21:13,605 ‎ผมว่ายน้ำในรีอูเนกรูกับปิรัญญ่า 366 00:21:13,689 --> 00:21:15,816 ‎โดยไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นกับผม 367 00:21:15,899 --> 00:21:19,987 ‎หลังจากนั้น ก็มีการถาง ‎ผืนปารกครึ้มกว้างใหญ่ของแอมะซอน 368 00:21:20,070 --> 00:21:22,531 ‎เพื่อเลี้ยงสัตว์และปลูกถั่วเหลือง 369 00:21:22,614 --> 00:21:25,826 ‎คาร์ลอสค้นพบว่ามันกำลังเร่งเราเข้าใกล้ 370 00:21:25,909 --> 00:21:29,913 ‎การเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจย้อนคืน ‎ในพื้นที่ส่วนมากที่เหลืออยู่ 371 00:21:30,414 --> 00:21:35,585 ‎ในปี 1998 เราเริ่มทำการทดลอง ‎ทางวิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุด 372 00:21:35,669 --> 00:21:37,671 ‎เท่าที่เคยทำมาในป่าฝนเขตร้อน 373 00:21:40,257 --> 00:21:42,634 ‎มีการสร้างหอคอยหลายแห่งในป่าฝนแห่งนี้ 374 00:21:42,718 --> 00:21:45,387 ‎เพื่อศึกษาว่ามันสร้างสภาพอากาศ ‎ของตนเองอย่างไร 375 00:21:46,221 --> 00:21:50,976 ‎ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ‎ส่วนใหญ่ของป่าฝนแห่งนี้กำลังแห้งผาก 376 00:21:53,061 --> 00:21:56,481 ‎ในแอมะซอน ปกติฤดูแล้ง ‎ยาวนานเต็มที่ก็สามเดือน 377 00:21:56,565 --> 00:21:59,651 ‎แต่เมื่อโลกร้อนขึ้น 378 00:21:59,735 --> 00:22:03,530 ‎และมีป่าน้อยลงเพราะการกระทำของมนุษย์ 379 00:22:03,613 --> 00:22:05,699 ‎โดยเฉพาะการเลี้ยงสัตว์และปลูกถั่วเหลือง 380 00:22:06,325 --> 00:22:11,580 ‎ฤดูแล้งจึงยาวนานกว่าเดิมหกวัน 381 00:22:11,663 --> 00:22:14,750 ‎ต่อหนึ่งทศวรรษนับจากปี 1980 382 00:22:15,542 --> 00:22:18,253 ‎เมื่อผืนป่าลดจำนวนและถูกแบ่งย่อย 383 00:22:18,337 --> 00:22:20,547 ‎ศักยภาพของป่าในการไหลเวียนน้ำ 384 00:22:20,630 --> 00:22:24,259 ‎และก่อเกิดน้ำฝนในฤดูแล้งจึงลดน้อยลง 385 00:22:25,469 --> 00:22:28,764 ‎ถ้าฤดูแล้งยาวนานเกินสี่เดือน 386 00:22:28,847 --> 00:22:32,559 ‎ไม้ในป่าจะตายและกลายเป็นทุ่งหญ้า 387 00:22:32,642 --> 00:22:35,520 ‎เราเรียกกระบวนการนี้ว่า ‎กระบวนการแปรป่าฝนเป็นสะวันนา 388 00:22:36,313 --> 00:22:40,442 ‎มีหลายสัญญาณบ่งชี้ว่า ‎หลายส่วนของแอมะซอนเปลี่ยนไปแล้ว 389 00:22:41,693 --> 00:22:45,072 ‎ถ้าอัตราการตัดไม้ทำลายป่าสูงเกิน 20-25%  390 00:22:45,739 --> 00:22:48,867 ‎โดยที่โลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ อย่างนี้ 391 00:22:48,950 --> 00:22:53,789 ‎เราน่าจะเข้าสู่กระบวนการแปรป่าฝน ‎เป็นสะวันนาแบบที่ไม่อาจฟื้นคืนได้ 392 00:22:53,872 --> 00:22:58,877 ‎ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อป่าแอมะซอน 50-60% 393 00:23:00,128 --> 00:23:05,175 ‎เราสูญเสียป่าฝนแอมะซอนไปแล้วเกือบ 20% 394 00:23:06,259 --> 00:23:08,637 ‎เราอาจกำลังเปลี่ยนแอะมะซอน 395 00:23:08,720 --> 00:23:12,307 ‎จากมิตรของโลกเป็นศัตรูของโลก 396 00:23:13,100 --> 00:23:16,686 ‎เพราะเมื่อป่ากลายเป็นสะวันนา ‎ต้นไม้มากมายล้มตาย 397 00:23:16,770 --> 00:23:19,398 ‎และก๊าซคาร์บอนถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ 398 00:23:19,981 --> 00:23:23,276 ‎คาร์ลอสคำนวณว่าแอมะซอนอาจจะ 399 00:23:23,360 --> 00:23:27,155 ‎ปล่อยก๊าซคาร์บอน 200 พันล้านตัน ‎ตลอด 30 ปีข้างหน้า 400 00:23:27,239 --> 00:23:31,034 ‎ซึ่งเทียบเท่าปริมาณคาร์บอน ‎ที่ถูกปล่อยออกมาทั่วโลก 401 00:23:31,118 --> 00:23:33,453 ‎ตลอดช่วงห้าปีที่ผ่านมา 402 00:23:33,537 --> 00:23:37,499 ‎เราใกล้จะถึงจุดเปลี่ยนนั้นเต็มที 403 00:23:38,291 --> 00:23:42,003 ‎เรากังวลไหมที่จะสู้กับวิกฤติภูมิอากาศ 404 00:23:42,087 --> 00:23:47,384 ‎เรากังวลไหมที่มีการกักเก็บคาร์บอนในป่า 405 00:23:47,968 --> 00:23:49,719 ‎หรือ "ฉันไม่สน"  406 00:23:53,390 --> 00:23:56,935 ‎มีเหตุผลให้ต้องกังวลมากๆ ณ จุดนี้ 407 00:23:57,018 --> 00:24:00,564 ‎เรายังขยายพื้นที่การเกษตร ‎เข้าสู่ระบบนิเวศธรรมชาติ 408 00:24:00,647 --> 00:24:03,024 ‎เรายังตัดไม้ในป่าฝน 409 00:24:03,108 --> 00:24:05,235 ‎ในระดับที่ทำให้ทั้งระบบเสี่ยงเป็นอันตราย 410 00:24:07,612 --> 00:24:09,990 ‎ซึ่งไม่ใช่แค่ป่าฝน 411 00:24:10,073 --> 00:24:15,996 ‎ต้นไม้ทุกชนิดมีค่าประเมินมิได้ ‎ในการรักษาเสถียรภาพของโลก 412 00:24:16,913 --> 00:24:21,710 ‎มันสำคัญมากถึงขนาดที่ว่า ‎การสูญเสียพื้นที่ป่าทั่วโลกแค่ 25% 413 00:24:21,793 --> 00:24:25,255 ‎ก็เสี่ยงที่จะกระตุ้นจุดเปลี่ยนให้เกิดภัยพิบัติได้แล้ว 414 00:24:26,173 --> 00:24:29,843 ‎แต่นี่เราถางป่าไปแล้วเกือบ 40% 415 00:24:29,926 --> 00:24:33,638 ‎เราเข้าสู่เขตอันตรายเต็มตัว ‎ในขีดความสามารถนี้ของโลก 416 00:24:39,019 --> 00:24:44,191 ‎ผลกระทบใหญ่หลวงประการที่สองเมื่อป่าลดลง ‎คือการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ 417 00:24:45,442 --> 00:24:46,610 ‎สูญเสียธรรมชาติ 418 00:24:47,444 --> 00:24:51,323 ‎ความหลากหลายทางชีวภาพ ‎คือขีดความสามารถของผืนพิภพอย่างที่สอง 419 00:24:51,907 --> 00:24:55,744 ‎เพราะมันประคองเราให้เติบโตบนโลกนี้ได้ 420 00:24:56,369 --> 00:24:58,622 ‎แต่เราไม่ดูแลมันให้ดี 421 00:24:58,705 --> 00:25:01,583 ‎ธรรมชาติถูกทำลายในอัตราส่วนและในระดับที่ 422 00:25:01,666 --> 00:25:04,377 ‎(ดร. แอนน์ ลารีกอเดอรี ‎องค์กรระหว่างรัฐด้านระบบนิเวศ) 423 00:25:04,461 --> 00:25:06,254 ‎ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ 424 00:25:07,589 --> 00:25:10,800 ‎แอนน์ ลารีกอเดอรีเป็นนักนิเวศวิทยา 425 00:25:10,884 --> 00:25:13,803 ‎ที่ตื่นตัวกับหลักฐานต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก 426 00:25:13,887 --> 00:25:16,014 ‎ทุกแห่งทั่วโลก 427 00:25:16,097 --> 00:25:17,933 ‎ธรรมชาติกำลังเสื่อมโทรม 428 00:25:19,267 --> 00:25:23,188 ‎พืชและสัตว์นับล้านเผ่าพันธุ์ 429 00:25:23,271 --> 00:25:25,482 ‎จากทั้งหมดที่ประเมินว่า 430 00:25:25,565 --> 00:25:29,694 ‎มีแปดล้านเผ่าพันธุ์กำลังหมิ่นเหม่จะสูญพันธุ์ 431 00:25:31,238 --> 00:25:34,616 ‎ถ้าเราปล่อยให้มีแนวโน้มแง่ลบเช่นนี้ต่อไป 432 00:25:34,699 --> 00:25:38,703 ‎เราอาจมุ่งไปสู่การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ครั้งที่หก 433 00:25:41,206 --> 00:25:43,333 ‎ในเวลาแค่ 50 ปี 434 00:25:43,416 --> 00:25:49,214 ‎มนุษย์กำจัดประชากรสัตว์ป่าทั่วโลก ‎ไปมากถึง 68% 435 00:25:49,297 --> 00:25:53,426 ‎ชัดเจนว่าเรากำลังเผชิญ ‎วิกฤติความหลากหลายทางชีวภาพ 436 00:25:54,010 --> 00:25:56,429 ‎การสูญเสียโครงสร้างของชีวิต 437 00:25:56,513 --> 00:26:01,309 ‎หรือความหลากหลายทางชีวภาพนี้ ‎เป็นภัยคุกคามชีวิตเราเอง 438 00:26:10,235 --> 00:26:13,530 ‎เมื่อความหลากหลายทางชีวภาพ ‎มีแนวโน้มเลวร้ายเช่นปัจจุบัน 439 00:26:13,613 --> 00:26:17,409 ‎เราจะไม่มีอาหารพอป้อนชาวโลก 440 00:26:17,492 --> 00:26:21,329 ‎ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องการธรรมชาติที่สมบูรณ์ 441 00:26:27,544 --> 00:26:30,338 ‎สำหรับโยฮัน เรื่องราวที่เกิดขึ้นใกล้บ้าน 442 00:26:30,422 --> 00:26:32,340 ‎กระทบใจเขาอย่างมาก 443 00:26:32,424 --> 00:26:38,179 ‎ผมอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ว่า ‎นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษกำลังจะมาที่สวีเดน 444 00:26:38,263 --> 00:26:42,892 ‎เพื่อขโมยราชินีบัมเบิลบีขนสั้น 445 00:26:43,852 --> 00:26:46,146 ‎เหมือนกับว่าพวกเขาลักลอบกระทำในยามวิกาล 446 00:26:46,229 --> 00:26:49,441 ‎ขโมยราชินีบัมเบิลบีนับร้อยตัว 447 00:26:49,524 --> 00:26:51,359 ‎กลับไปที่อังกฤษ 448 00:26:51,443 --> 00:26:54,362 ‎เพื่อกอบกู้สิ่งที่พวกเขาเองเป็นผู้ทำลาย 449 00:26:56,573 --> 00:26:59,784 ‎ในยุโรป บัมเบิลบีขนสั้น 450 00:26:59,868 --> 00:27:02,287 ‎คือนักผสมเกสรพืชพันธุ์ธัญญาหารรายสำคัญ 451 00:27:02,370 --> 00:27:07,500 ‎แต่ในช่วงปี 1990 ‎มันถูกจัดเป็นสัตว์สูญพันธุ์ในอังกฤษ 452 00:27:10,003 --> 00:27:11,504 ‎ตอนนี้กลายเป็นว่าเรามี 453 00:27:11,588 --> 00:27:14,591 ‎ประเทศหนึ่งซึ่งรู้สึกเป็นหน้าที่ ‎ที่ต้องไปอีกประเทศหนึ่ง 454 00:27:14,674 --> 00:27:17,302 ‎และขโมยนักผสมเกสรของคนอื่นกลับบ้านตัวเอง 455 00:27:17,385 --> 00:27:19,471 ‎เพื่อจะได้มีระบบนิเวศที่ใช้งานได้ 456 00:27:19,554 --> 00:27:22,682 ‎ซึ่งโดยส่วนตัวผม 457 00:27:22,766 --> 00:27:26,728 ‎ตอนนั้นเองที่ผมตระหนักว่า 458 00:27:27,812 --> 00:27:29,147 ‎นี่คือเรื่องร้ายแรง 459 00:27:30,857 --> 00:27:34,110 ‎พันธุ์พืชผลทั่วโลกประมาณ 70% 460 00:27:34,194 --> 00:27:37,656 ‎อาศัยการผสมเกสรของแมลงบางชนิด 461 00:27:38,698 --> 00:27:42,243 ‎แต่การขยายเกษตรกรรมเชิงเดี่ยว ‎ที่เน้นผลผลิตต่อไร่กำลังนำไปสู่ 462 00:27:42,327 --> 00:27:44,871 ‎ภาวะขาดแคลนแมลงเหล่านี้อย่างรุนแรง 463 00:27:46,122 --> 00:27:49,459 ‎ที่ตลกคือวิธีที่ทั่วโลกผลิตอาหาร 464 00:27:49,542 --> 00:27:50,835 ‎หลักๆ แล้วกลับเป็น 465 00:27:50,919 --> 00:27:55,006 ‎การกำจัดสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ‎ต่อการผลิตอาหารของเราเอง 466 00:27:58,176 --> 00:28:01,346 ‎นอกจากมันพิสูจน์สมมติฐานหนึ่ง 467 00:28:01,429 --> 00:28:05,433 ‎ในงานวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพ ‎ที่ว่าความหลากหลายทางชีวภาพไม่ใช่สิ่งที่ 468 00:28:05,517 --> 00:28:08,687 ‎เราต้องปกป้องแค่เพราะมันมีคุณประโยชน์ 469 00:28:08,770 --> 00:28:13,608 ‎หรือด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดีบางอย่าง ‎ที่เผ่าพันธุ์หนึ่งหรือมนุษย์ 470 00:28:13,692 --> 00:28:15,652 ‎มีต่อเผ่าพันธุ์อื่นเช่นพืชและสัตว์ 471 00:28:15,735 --> 00:28:20,323 ‎เปล่าเลย แต่เพราะมันคือกล่องเครื่องมือ ‎ทำให้สังคมเราอยู่รอดต่างหาก 472 00:28:21,533 --> 00:28:25,495 ‎มันคือชิ้นส่วนสำคัญของปริศนา 473 00:28:25,578 --> 00:28:28,873 ‎ที่ทำให้เรามีอาหารกิน ‎มีอากาศสะอาด มีน้ำสะอาด 474 00:28:28,957 --> 00:28:33,128 ‎ทำให้มีการขับคาร์บอน ‎ทำให้ธาตุอาหารหมุนเวียน 475 00:28:36,131 --> 00:28:38,967 ‎นักวิทยาศาสตร์พยายามคำนวณผลประโยชน์ 476 00:28:39,050 --> 00:28:42,011 ‎ที่แมลงต่างๆ มอบให้เรา ‎โดยพิจารณากิจวัตรประจำวัน 477 00:28:42,095 --> 00:28:44,347 ‎ของพวกมันที่อยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก 478 00:28:44,431 --> 00:28:47,767 ‎แต่ละเผ่าพันธุ์มีหน้าที่แตกต่าง ‎อย่างแทบแยกไม่ออก 479 00:28:48,435 --> 00:28:52,439 ‎แต่คุณค่าของพวกมัน ‎โดยมากมิอาจคำนวณได้จนกระทั่งจู่ๆ 480 00:28:55,066 --> 00:28:55,942 ‎พวกมันหายสาบสูญ 481 00:28:58,069 --> 00:29:02,115 ‎โลกที่ไม่มีแมลงไม่ใช่โลกที่จะอยู่รอดได้ 482 00:29:05,577 --> 00:29:09,748 ‎และแน่นอนว่าสัตว์ที่ลดจำนวนลงไม่ได้มีแค่แมลง 483 00:29:10,707 --> 00:29:15,044 ‎สัตว์ป่าลดจำนวนลงทุกที ‎เมื่อเราขยายพื้นที่เกษตรกรรม 484 00:29:15,128 --> 00:29:18,006 ‎ไปทั่วผืนดินบนโลกที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ 485 00:29:18,506 --> 00:29:21,259 ‎ทุกวันนี้ ในบรรดานกทั้งหมดบนโลก 486 00:29:21,342 --> 00:29:24,095 ‎เป็นนกป่าแค่ 30% 487 00:29:25,180 --> 00:29:27,390 ‎และในบรรดาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหมดบนโลก 488 00:29:27,474 --> 00:29:32,020 ‎ตอนนี้มีสัตว์ป่าเพียง 4% เมื่อคิดตามน้ำหนัก 489 00:29:33,104 --> 00:29:36,274 ‎แล้วขีดความปลอดภัยสำหรับ ‎ความหลากหลายทางชีวภาพอยู่ตรงไหน 490 00:29:36,941 --> 00:29:38,943 ‎มีโลกธรรมชาติอีกมากเท่าไหร่ 491 00:29:39,027 --> 00:29:43,281 ‎ที่เราสูญเสียได้ก่อนที่สังคมมนุษย์จะล่มสลาย 492 00:29:43,948 --> 00:29:46,284 ‎มีจุดเปลี่ยนหลากหลายมาก 493 00:29:46,367 --> 00:29:48,119 ‎ในโลกธรรมชาติ 494 00:29:48,203 --> 00:29:51,456 ‎ซึ่งมันยากจะแปลเป็นรูปธรรมว่าตรงไหนคือ 495 00:29:51,539 --> 00:29:54,542 ‎ขีดจำกัดของโลกเมื่อเป็นเรื่อง ‎ความหลากหลายทางธรรมชาติ 496 00:29:54,626 --> 00:29:56,961 ‎เพราะชีวิตซับซ้อนมาก 497 00:29:58,505 --> 00:30:02,509 ‎คงยากจะระบุขีดความปลอดภัย ‎อย่างหนึ่งอย่างใดจากการสูญเสียธรรมชาติ 498 00:30:02,592 --> 00:30:04,677 ‎เพราะธรรมชาติมีความซับซ้อน 499 00:30:05,178 --> 00:30:06,679 ‎แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจน 500 00:30:06,763 --> 00:30:09,682 ‎เราข้ามขีดจำกัดนั้นมาไกลมากแล้ว 501 00:30:11,184 --> 00:30:13,478 ‎เราเข้ามาอยู่ลึกในเขตสีแดง 502 00:30:13,561 --> 00:30:16,231 ‎เราอยู่ในจุดที่อันตรายมาก 503 00:30:16,314 --> 00:30:21,319 ‎เมื่อนี่หมายถึงการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์บนโลก ‎และระบบนิเวศบนโลกถูกทำลาย 504 00:30:21,402 --> 00:30:24,280 ‎เราจึงต้องหยุดการสูญเสีย ‎ความหลากหลายทางธรรมชาติ 505 00:30:24,864 --> 00:30:26,950 ‎ให้เร็วที่สุดเท่าที่เราเคยทำได้ 506 00:30:30,078 --> 00:30:33,790 ‎ตอนนี้คือการตั้งเป้าหมายเป็นช่วงเวลา 507 00:30:33,873 --> 00:30:37,460 ‎สำหรับปี 2021 ปี 2022 508 00:30:37,544 --> 00:30:40,255 ‎ผมหมายถึงให้ตั้งเป้าหมาย ‎ในช่วงต้นทศวรรษนี้เลย 509 00:30:40,338 --> 00:30:43,800 ‎ว่าเราต้องไม่สูญเสียธรรมชาติอีก 510 00:30:46,427 --> 00:30:52,225 ‎จากนี้ไป เรายอมให้โลกร้อนขึ้นสูงสุด ‎ได้แค่ 1.5 องศาเซลเซียส 511 00:30:52,308 --> 00:30:54,519 ‎ซึ่งเท่ากับการไม่สูญเสียธรรมชาติอีกเลย 512 00:30:57,772 --> 00:31:02,443 ‎ขีดความปลอดภัยของโลกอย่างที่สาม ‎เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดของโลก 513 00:31:03,152 --> 00:31:06,614 ‎เพราะน้ำสะอาดคือพื้นฐานสำคัญอีกอย่าง 514 00:31:06,698 --> 00:31:08,658 ‎ที่สังคมพึ่งพาอาศัย 515 00:31:09,158 --> 00:31:12,161 ‎คุณรู้ไหมว่าคุณกับผมต้องการน้ำสะอาด 516 00:31:12,245 --> 00:31:15,123 ‎ประมาณสัก 3,000 ลิตร 517 00:31:15,206 --> 00:31:19,002 ‎ต่อคนต่อวันเพื่อให้เรามีชีวิตอยู่รอดน่ะ 518 00:31:19,586 --> 00:31:24,007 ‎คุณคงบอกว่า "พระเจ้า สามพันลิตรเหรอ ‎น้ำสามตันเชียวนะ เป็นไปได้ยังไง" 519 00:31:24,090 --> 00:31:28,720 ‎ครับ เราต้องการน้ำแค่ 50 ลิตร ‎สำหรับสุขอนามัยและดื่ม 520 00:31:29,804 --> 00:31:32,891 ‎ประชากรในประเทศร่ำรวย ‎ใช้น้ำอีกประมาณร้อยลิตร 521 00:31:32,974 --> 00:31:35,351 ‎สำหรับซักล้าง และความจำเป็นต่างๆ ในบ้าน 522 00:31:35,435 --> 00:31:38,980 ‎ส่วนอุตสาหกรรมต้องการอีก ‎สัก 150 ก็รวมได้ประมาณ 300 ลิตร 523 00:31:39,063 --> 00:31:43,651 ‎แต่ที่เหลือ 2,500 ลิตรหรือราวๆ นั้น ‎มีไว้สำหรับอาหาร 524 00:31:44,360 --> 00:31:48,948 ‎เราต้องการน้ำสะอาดจำนวนนั้น ‎เพื่อผลิตทุกสิ่งที่อยู่บนจาน 525 00:31:49,032 --> 00:31:50,867 ‎ที่เรากินเป็นอาหาร 526 00:31:53,494 --> 00:31:57,290 ‎น้ำสะอาดมีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับโยฮัน 527 00:31:57,373 --> 00:31:59,626 ‎น้ำคือหัวข้อวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของเขา 528 00:31:59,709 --> 00:32:04,297 ‎และเวลาทำวิจัยหลายปี ‎ในภูมิภาคกึ่งแห้งแล้งของแอฟริกา 529 00:32:05,256 --> 00:32:08,968 ‎ผมน่ะ ใช้เวลาตั้งแต่อาทิตย์ขึ้นจนอาทิตย์ตก 530 00:32:09,052 --> 00:32:11,638 ‎เดินไปทั่ว เหงื่อแตกเหมือนอาบน้ำ 531 00:32:11,721 --> 00:32:13,932 ‎เพื่อเก็บข้อมูล 532 00:32:14,015 --> 00:32:15,975 ‎ขุดหน้าตัดของดิน 533 00:32:16,059 --> 00:32:19,187 ‎เก็บตัวอย่างดิน วัดความชื้นในดิน 534 00:32:19,938 --> 00:32:22,774 ‎เก็บข้อมูลความเร็วลมและปริมาณน้ำฝน 535 00:32:24,233 --> 00:32:27,987 ‎ผมเคยวัดพื้นที่ใบต่อพื้นที่ปลูกมาแล้ว ‎คุณนึกดูเถอะ คุณคงนึกไม่ออกว่า 536 00:32:28,071 --> 00:32:32,867 ‎นักวิทยาศาสตร์ต้องระวังแค่ไหนในการวัด 537 00:32:32,951 --> 00:32:36,120 ‎ขนาดของใบไม้ทั้งหมด ‎ภายในหนึ่งตารางมิลลิเมตร 538 00:32:38,206 --> 00:32:42,627 ‎เขาต้องการรายละเอียดเหล่านี้ ‎เพื่อตอบคำถามที่ใหญ่กว่านั้นมาก 539 00:32:43,127 --> 00:32:46,506 ‎เราต้องการน้ำมากแค่ไหนถึงจะพอป้อนชาวโลก 540 00:32:47,256 --> 00:32:50,426 ‎คำตอบคร่าวๆ ของผม ‎สมัยผมทำวิทยานิพนธ์ปริญญาโทก็คือ 541 00:32:50,510 --> 00:32:52,929 ‎"ครับ ดูเหมือนจะมีปริมาณน้ำมากพอ" 542 00:32:53,471 --> 00:32:55,181 ‎แต่เหรียญย่อมมีสองด้าน 543 00:32:55,848 --> 00:32:59,185 ‎การใช้น้ำสะอาดมีเกณฑ์กลางไหม 544 00:32:59,268 --> 00:33:02,063 ‎ที่เมื่อเกินเกณฑ์แล้วระบบจะเริ่มพังทลาย 545 00:33:03,523 --> 00:33:06,109 ‎ที่จริงเราตรวจสอบที่ลุ่มน้ำทุกแห่งในโลกแล้ว 546 00:33:06,192 --> 00:33:07,735 ‎จากนั้นเราก็ 547 00:33:07,819 --> 00:33:10,905 ‎กำหนดปริมาณขั้นต่ำ 548 00:33:10,989 --> 00:33:14,242 ‎ของน้ำไหลผ่านซึ่งที่ลุ่มน้ำนั้นควรมี 549 00:33:14,325 --> 00:33:18,204 ‎เพื่อรักษาความชุ่มชื้นโดยรอบ 550 00:33:18,287 --> 00:33:21,124 ‎ซึ่งทำให้ระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์ 551 00:33:21,207 --> 00:33:24,669 ‎มีแหล่งน้ำสะอาดเพียงพอ ‎มีที่ลุ่มน้ำที่มีน้ำไหลผ่านเพียงพอ 552 00:33:25,628 --> 00:33:29,424 ‎ปริมาตรของน้ำจากแม่น้ำแต่ละแห่ง ‎ที่เรานำมาใช้ในปัจจุบัน 553 00:33:29,507 --> 00:33:33,386 ‎ทำให้เห็นสาเหตุที่แม่น้ำหลายแห่งใกล้แห้งเหือด 554 00:33:36,097 --> 00:33:42,061 ‎เท่าที่การประเมินของเราบอกในตอนนี้ ‎ปริมาณน้ำสะอาดทั่วโลกของเรา 555 00:33:42,145 --> 00:33:44,397 ‎ยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย 556 00:33:44,480 --> 00:33:46,983 ‎แต่เรากำลังมุ่งหน้าสู่เขตอันตรายอย่างรวดเร็ว 557 00:33:52,739 --> 00:33:54,991 ‎ขีดความปลอดภัยของผืนพิภพอย่างสุดท้าย 558 00:33:55,074 --> 00:33:59,454 ‎เกี่ยวกับการหมุนเวียนของธาตุอาหาร ‎ไนโตรเจน และฟอสฟอรัส 559 00:34:00,038 --> 00:34:03,708 ‎ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของสรรพชีวิต 560 00:34:03,791 --> 00:34:06,627 ‎และส่วนประกอบสำคัญของปุ๋ย 561 00:34:07,170 --> 00:34:12,007 ‎โยฮันสังเกตเห็นจากประสบการณ์ตัวเองว่า ‎เมื่อใช้ธาตุอาหารเกินขนาดส่งผลกระทบยังไง 562 00:34:13,760 --> 00:34:18,389 ‎เขามีวัยเด็กในฤดูร้อน ‎บนเกาะแห่งหนึ่งกลางทะเลบอลติก 563 00:34:19,223 --> 00:34:20,558 ‎เราชอบตกปลามาก 564 00:34:20,641 --> 00:34:24,645 ‎ส่วนใหญ่ ผมมาตกปลากับเพื่อนสนิทที่นี่ อันเดอร์ส 565 00:34:24,728 --> 00:34:28,315 ‎แล้วก็น้องชายของผม นิคคลอส และ... 566 00:34:28,399 --> 00:34:30,525 ‎ส่วนใหญ่ก็จะมีเราสามคน 567 00:34:30,610 --> 00:34:33,905 ‎ที่บอกพ่อแม่ผมได้แทบจะเต็มปากเต็มคำว่า 568 00:34:33,987 --> 00:34:35,864 ‎"มื้อเย็นนี้อยากได้ปลาสักหน่อยไหมฮะ" 569 00:34:35,947 --> 00:34:39,118 ‎แล้วเราก็จะกลับบ้าน ‎พร้อมปลาที่จับมาได้เป็นเรื่องปกติ 570 00:34:39,202 --> 00:34:41,913 ‎ครั้งหนึ่งที่เราออกไปผจญภัย 571 00:34:42,789 --> 00:34:46,751 ‎ไกลออกไปสักสองไมล์ทะเลกลางทะเลบอลติก 572 00:34:47,418 --> 00:34:50,963 ‎แถวนั้นเราจะตกปลาคอดได้ด้วยมือเปล่า 573 00:34:52,255 --> 00:34:55,426 ‎ตอนนั้นผมเก่งที่สุดเรื่องล้างทำความสะอาดปลา 574 00:34:55,510 --> 00:34:58,304 ‎ผ่านไปสักชั่วโมง ผมก็ต้องเลิกตกปลา 575 00:34:58,387 --> 00:35:01,766 ‎เพราะเราได้ปลาคอดมากซะจน ‎ทางเดียวที่จะเอาปลากลับบ้านได้ 576 00:35:01,849 --> 00:35:05,686 ‎คือเราจะต้องแล่ปลาบนเรือเลย 577 00:35:06,479 --> 00:35:09,607 ‎ถ้าทำแบบนั้นเราจะเห็นนกนางนวลมารุมล้อมเรา 578 00:35:09,690 --> 00:35:12,693 ‎เพราะมันมีเยอะมากน่ะ 579 00:35:12,777 --> 00:35:16,364 ‎ตับไตไส้พุงปลา และชิ้นส่วนของปลาที่ผมแล่ไว้ 580 00:35:16,447 --> 00:35:18,241 ‎เต็มลำเรือ 581 00:35:21,119 --> 00:35:25,832 ‎มันคือเรื่องน่าตื่นเต้นมากๆ สำหรับเด็กคนหนึ่ง 582 00:35:27,708 --> 00:35:31,838 ‎หลายสิบปีต่อมา ปัจจุบัน ‎สถานการณ์เปลี่ยนไปสิ้นเชิง 583 00:35:31,921 --> 00:35:36,467 ‎เราไม่เห็นใครคิดจะออกไปจับปลาคอด 584 00:35:36,551 --> 00:35:39,303 ‎เพราะมันว่างเปล่าจริงๆ 585 00:35:40,930 --> 00:35:46,894 ‎สภาพทั่วไปดูเหมือนเดิมนะ ‎จากที่เป็นในทศวรรษ 1970 และ 1980  586 00:35:46,978 --> 00:35:49,564 ‎เมื่อเรามองดูจากเบื้องบน 587 00:35:49,647 --> 00:35:53,568 ‎แต่เมื่อเราพิจารณาที่นี่จากเบื้องล่าง ‎บางอย่างแตกต่างสิ้นเชิง 588 00:35:55,194 --> 00:35:59,365 ‎สมัยโยฮันเป็นเด็ก ทะเลบอลติก ‎มีสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ 589 00:35:59,448 --> 00:36:02,577 ‎ควบคุมโดยปลานักล่าอย่างปลาคอด 590 00:36:03,119 --> 00:36:06,038 ‎แต่ขณะที่การประมงเกินขนาด ‎ทำให้ปลาลดลงจำนวนมาก 591 00:36:06,122 --> 00:36:09,834 ‎ปุ๋ยที่โดนน้ำชะล้างจากทุ่งรอบๆ 592 00:36:09,917 --> 00:36:12,587 ‎ได้ไหลลงทะเลบอลติกจนทำให้เกิดหายนะ 593 00:36:12,670 --> 00:36:15,923 ‎ปัจจุบันมันคือทะเลที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก 594 00:36:18,551 --> 00:36:24,140 ‎เมื่อเรามีทะเลหลายแห่งทั่วโลก ‎ที่มีสภาพเทียบเท่าบอลติก 595 00:36:24,223 --> 00:36:27,185 ‎นั่นแหละสาเหตุที่ทำให้เรากังวลอย่างยิ่ง 596 00:36:27,268 --> 00:36:29,854 ‎เพราะมันเป็นสัญญาณ 597 00:36:29,937 --> 00:36:32,690 ‎บอกว่าทั้งโลก 598 00:36:32,773 --> 00:36:36,736 ‎ค่อยๆ สูญเสียศักยภาพในการเยียวยาตัวเอง ‎และค่อยๆ อ่อนแอลงเรื่อยๆ 599 00:36:39,238 --> 00:36:44,577 ‎เอเลน่า เบนเนตต์คือ ‎ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผลกระทบของปุ๋ย 600 00:36:44,660 --> 00:36:48,497 ‎เราเอาไนโตรเจนจากอากาศ ‎และแปรรูปมันทางเคมี 601 00:36:48,581 --> 00:36:52,084 ‎ให้อยู่ในรูปแบบซึ่งพืชเอาไปใช้ได้ 602 00:36:52,168 --> 00:36:55,087 ‎หรือในกรณีของฟอสฟอรัส เราขุดมันออกจากดิน 603 00:36:55,171 --> 00:36:56,130 ‎เราสกัดแร่ธาตุออกมา 604 00:36:57,256 --> 00:37:01,510 ‎เราพัฒนาวิถีทางเคมีเหล่านี้ ‎หรือวิธีสกัดแร่ฟอสฟอรัส 605 00:37:01,594 --> 00:37:03,804 ‎จนมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมมาก 606 00:37:03,888 --> 00:37:07,391 ‎และให้ผลผลิตเพิ่มหลักๆ สองเท่า สามเท่า 607 00:37:07,475 --> 00:37:08,935 ‎หรือแม้แต่สี่เท่า 608 00:37:09,018 --> 00:37:12,939 ‎ในการผลิตอาหารทั่วโลก 609 00:37:14,315 --> 00:37:17,109 ‎เป็นวิธีทรงคุณค่าในการ ‎ป้อนอาหารชาวโลกที่เพิ่มขึ้น 610 00:37:17,693 --> 00:37:21,322 ‎แต่เราติดนิสัยใส่ปุ๋ยเกินขนาด 611 00:37:21,405 --> 00:37:23,407 ‎มากกว่าที่พืชผลเอาไปใช้ได้จริง 612 00:37:23,491 --> 00:37:26,244 ‎ธาตุอาหารที่ไม่ได้ใช้เลยถูกชะล้างลงแม่น้ำ 613 00:37:26,327 --> 00:37:28,537 ‎ทำให้แม่น้ำได้รับปุ๋ยมากเกินไปเช่นกัน 614 00:37:28,621 --> 00:37:31,332 ‎เราเรียกกระบวนการนี้ว่า ‎"ปรากฏการณ์ยูโทรฟิเคชัน" 615 00:37:32,124 --> 00:37:35,086 ‎เราได้เห็นสาหร่ายเติบโตสะพรั่ง 616 00:37:35,169 --> 00:37:40,591 ‎มันดูเหมือนคราบสีเขียวอมฟ้าบนผิวทะเลสาบ 617 00:37:40,675 --> 00:37:42,551 ‎มักจะเหม็นมาก 618 00:37:42,635 --> 00:37:46,555 ‎เพราะเรากำลังดมกลิ่นสาหร่ายเน่า 619 00:37:47,348 --> 00:37:50,643 ‎เมื่อมันกำลังย่อยสลาย มันก็ใช้ออกซิเจน 620 00:37:51,227 --> 00:37:54,563 ‎ออกซิเจนในน้ำที่ลดลง ‎เปลี่ยนองค์ประกอบทางเคมี 621 00:37:54,647 --> 00:37:59,777 ‎ของตะกอนก้นทะเลสาบ ‎ทำให้มีการปล่อยก๊าซฟอสฟอรัสมากขึ้น 622 00:37:59,860 --> 00:38:03,489 ‎ต่อมาไม่นานเมื่อคุณเจอปัญหาปรากฏการณ์ ‎ยูโทรฟิเคชัน ก็เหมือนทะเลสาบบอกว่า 623 00:38:03,572 --> 00:38:06,117 ‎"ดีเลย เราจะทำให้มันแย่ลง" 624 00:38:06,200 --> 00:38:09,620 ‎แล้วมันก็สร้างวงจรตอบรับเชิงบวก 625 00:38:09,704 --> 00:38:12,873 ‎ซึ่งก็คือผลิตก๊าซฟอสฟอรัสมากขึ้นเรื่อยๆ 626 00:38:12,957 --> 00:38:16,669 ‎ลงทะเลสาบนี้ซึ่งโดยตัวมันเอง ‎ก็ทำให้มันอยู่รอดในภาวะนั้น 627 00:38:17,962 --> 00:38:20,256 ‎เรายังมีปัญหาเดียวกันนี้ 628 00:38:20,339 --> 00:38:23,009 ‎จากปรากฏการณ์ยูโทรฟิเคชันในทะเล 629 00:38:23,092 --> 00:38:25,428 ‎ซึ่งเราได้สิ่งที่เรียกว่าเขตมรณะ 630 00:38:25,511 --> 00:38:27,179 ‎จากธาตุอาหารตัวเดียวกัน 631 00:38:27,263 --> 00:38:30,308 ‎และตอนนี้เรามีเขตมรณะแบบนี้ 632 00:38:30,391 --> 00:38:33,644 ‎หลายร้อยแห่งทั่วโลก 633 00:38:36,355 --> 00:38:40,568 ‎ปรากฏการณ์ยูโทรฟิเคชันในทะเล ‎อาจเป็นตัวการสำคัญหนึ่ง 634 00:38:40,651 --> 00:38:44,947 ‎ทำให้เกิดเหตุการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ ‎ของโลกหนึ่งในห้าครั้งก่อนหน้านี้ 635 00:38:45,573 --> 00:38:46,741 ‎ปัจจุบัน 636 00:38:46,824 --> 00:38:49,201 ‎เขตมรณะบางแห่งขยายพื้นที่ 637 00:38:49,285 --> 00:38:52,496 ‎ปกคลุมเป็นบริเวณหลายหมื่นตารางกิโลเมตรแล้ว 638 00:38:58,127 --> 00:39:01,255 ‎การที่เราใช้ฟอสฟอรัสและไนโตรเจนมากเกินไป 639 00:39:01,339 --> 00:39:03,924 ‎คือหนึ่งในผลกระทบร้ายแรงที่สุด ‎แต่มีคนรับรู้น้อยที่สุด 640 00:39:04,008 --> 00:39:05,634 ‎ที่เกิดขึ้นบนผืนพิภพ 641 00:39:05,718 --> 00:39:09,013 ‎เราเข้าสู่เขตอันตรายลึกมากแล้ว 642 00:39:09,638 --> 00:39:12,725 ‎เราก้าวข้ามขีดความปลอดภัย ‎ของการใช้ธาตุอาหารมาไกล 643 00:39:12,808 --> 00:39:15,394 ‎เราไม่ได้คิดถึงเรื่องแบบนี้บ่อยนัก 644 00:39:15,478 --> 00:39:21,317 ‎ฉันคิดว่าเราจำเป็นต้องคำนึงถึง ‎ขีดจำกัดนี้จริงจังมากกว่าที่เป็นอยู่ 645 00:39:23,652 --> 00:39:26,280 ‎ธาตุอาหาร น้ำ ป่าไม้ 646 00:39:26,364 --> 00:39:28,741 ‎ความหลากหลายทางชีวภาพ และภูมิอากาศ 647 00:39:28,824 --> 00:39:31,410 ‎ห้าองค์ประกอบสำคัญของโลกเรา 648 00:39:31,494 --> 00:39:33,204 ‎ที่ควบคุมเสถียรภาพ 649 00:39:33,287 --> 00:39:35,623 ‎และค้ำจุนการอยู่รอดของเราเอง 650 00:39:39,377 --> 00:39:44,006 ‎แต่โยฮันกับเพื่อนร่วมวิชาชีพรู้ว่า ‎นี่ยังไม่ใช่ภาพรวมทั้งหมด 651 00:39:45,341 --> 00:39:48,386 ‎พวกเขายังไม่ได้อธิบายถึง ‎ปัญหาหนึ่งที่มีคนรู้น้อยมาก 652 00:39:48,469 --> 00:39:50,638 ‎ซึ่งกำลังเกิดขึ้นในมหาสมุทร 653 00:39:55,351 --> 00:40:00,189 ‎ผลกระทบของปัญหานี้อาจทำลาย ‎เสถียรภาพของโลกมากกว่าเรื่องอื่น 654 00:40:02,149 --> 00:40:05,653 ‎เมื่อเราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ‎สู่ชั้นบรรยากาศ 655 00:40:05,736 --> 00:40:09,573 ‎จำนวนหนึ่งในสามนั้นจะจมลงทะเล 656 00:40:09,657 --> 00:40:12,410 ‎เทอร์รี่ ฮิวส์ร่วมงานใกล้ชิด 657 00:40:12,493 --> 00:40:14,370 ‎กับโยฮันมานานหลายปี 658 00:40:15,121 --> 00:40:17,706 ‎ซึ่งทำให้เคมีของทะเลเปลี่ยนไป 659 00:40:17,790 --> 00:40:19,959 ‎มันเปลี่ยนค่าพีเอช 660 00:40:20,042 --> 00:40:23,379 ‎และทำให้น้ำทะเลมีค่าความเป็นด่างน้อยลง ‎หรือเป็นกรดมากขึ้น 661 00:40:23,462 --> 00:40:26,132 ‎นี่คือที่มาของชื่อ "ปรากฏการณ์ทะเลกรด" 662 00:40:27,007 --> 00:40:29,844 ‎เมื่อก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ละลายในน้ำทะเล 663 00:40:29,927 --> 00:40:32,054 ‎มันก็สร้างกรดคาร์บอนิก 664 00:40:32,638 --> 00:40:34,640 ‎น้ำทะเลบริเวณที่เย็นกว่ายิ่งเป็นกรดง่าย 665 00:40:36,475 --> 00:40:38,394 ‎หลายสิบปีที่ผ่านมา 666 00:40:38,477 --> 00:40:42,481 ‎มหาสมุทรของโลกกลายเป็นกรดมากขึ้น 26% 667 00:40:43,399 --> 00:40:46,444 ‎และตราบใดที่ความเข้มข้น ‎ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 668 00:40:46,527 --> 00:40:48,696 ‎ในชั้นบรรยากาศยังคงสูง 669 00:40:48,779 --> 00:40:51,365 ‎มหาสมุทรจะกลายเป็นกรดต่อไป 670 00:40:52,825 --> 00:40:57,288 ‎กรดทำปฏิกิริยากับสารเคมีต่างๆ ในน้ำ ‎เรียกว่าคาร์บอเนตไอออน 671 00:40:57,371 --> 00:40:59,373 ‎ซึ่งทำให้สารเคมีต่างๆ ลดความเข้มข้น 672 00:40:59,999 --> 00:41:03,335 ‎มันส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตหลายกลุ่มมาก 673 00:41:03,419 --> 00:41:05,129 ‎โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่ต้องการ 674 00:41:05,212 --> 00:41:07,423 ‎คาร์บอเนตให้กระดูกเจริญเติบโต 675 00:41:07,506 --> 00:41:10,718 ‎เช่น มอลลัสกา หอยนางรม หอยแมลงภู่ 676 00:41:12,094 --> 00:41:15,598 ‎ปรากฏการณ์ทะเลกรดมีประวัติที่น่ากลัว 677 00:41:18,100 --> 00:41:20,978 ‎ค่าความเป็นกรดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ทั่วโลก 678 00:41:21,770 --> 00:41:25,483 ‎ค่าพีเอชของทะเลที่เปลี่ยนไปอาจทำให้เกิด ‎การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ได้จริงๆ 679 00:41:25,566 --> 00:41:29,570 ‎เราเคยเห็นปรากฏการณ์นี้ซ้ำๆ ‎ในบันทึกทางธรณีวิทยา 680 00:41:29,653 --> 00:41:31,363 ‎ดังนั้น การที่เราทำให้ 681 00:41:31,447 --> 00:41:36,035 ‎ภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนไป ‎เท่ากับเรากำลังเล่นกับไฟ 682 00:41:36,118 --> 00:41:39,747 ‎ในรูปของผลที่ไม่คาดคิด 683 00:41:39,830 --> 00:41:43,292 ‎จากการก้าวผ่านขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก 684 00:41:43,375 --> 00:41:45,252 ‎สู่อาณาเขตที่เรายังไม่เคยไปถึง 685 00:41:46,337 --> 00:41:50,424 ‎เรายังอยู่ในเขตปลอดภัย ‎สำหรับปรากฏการณ์ทะเลกรด 686 00:41:50,508 --> 00:41:52,968 ‎แต่เรากำลังขยับเข้าสู่เขตอันตราย 687 00:41:53,052 --> 00:41:57,264 ‎และความเป็นไปได้ที่จะเกิด ‎การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ขั้นหายนะ 688 00:42:00,476 --> 00:42:02,686 ‎ในบรรดาความซับซ้อนทั้งหมดของโลก 689 00:42:02,770 --> 00:42:06,899 ‎โยฮันกับเพื่อนร่วมอาชีพค้นพบว่ามีเก้าระบบ 690 00:42:06,982 --> 00:42:08,776 ‎ที่รักษาเสถียรภาพของโลกเรา 691 00:42:09,860 --> 00:42:11,695 ‎แต่พวกเขายังไม่รู้ว่า 692 00:42:11,779 --> 00:42:14,198 ‎ขีดจำกัดความปลอดภัย ‎ของระบบสองในเก้านั้นอยู่ตรงไหน 693 00:42:14,740 --> 00:42:18,953 ‎ขอบเขตแรกคือสารปนเปื้อนหลากหลายชนิด ‎ที่มนุษย์สร้างขึ้น 694 00:42:19,620 --> 00:42:23,290 ‎เราเรียกมันว่า "สสารหรือ ‎สิ่งมีชีวิตสังเคราะห์" ซึ่งรวมทุกอย่าง 695 00:42:23,374 --> 00:42:27,461 ‎ตั้งแต่ขยะนิวเคลียร์ สารพ็อพหรือ ‎สารเคมีอินทรีย์ที่มีฤทธิ์คงตัว 696 00:42:27,545 --> 00:42:30,047 ‎ไปจนถึงปริมาณดูดซึมของโลหะหนัก 697 00:42:30,130 --> 00:42:32,174 ‎และไมโครพลาสติก 698 00:42:33,634 --> 00:42:37,596 ‎มนุษย์สร้างวัตถุใหม่ๆ นับแสนชนิด 699 00:42:37,680 --> 00:42:42,726 ‎และทุกชนิดนั้นสามารถสร้างหายนะแก่สิ่งแวดล้อม 700 00:42:44,270 --> 00:42:47,439 ‎แต่ขอบเขตนี้ยังไม่มีตัวชี้วัดเชิงปริมาณ 701 00:42:47,523 --> 00:42:49,942 ‎เราไม่รู้ผลกระทบระยะยาว 702 00:42:50,025 --> 00:42:54,071 ‎หรือผลกระทบสะสมของสารปนเปื้อนเหล่านี้เลย 703 00:42:54,154 --> 00:42:58,117 ‎แต่ส่วนใหญ่มีศักยภาพ ‎สร้างความเปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก 704 00:42:58,200 --> 00:43:00,369 ‎ถ้าไม่มีการควบคุมบ้าง 705 00:43:03,956 --> 00:43:08,460 ‎มีสารปนเปื้อนรูปแบบหนึ่ง ‎ที่ส่งผลกระทบระดับโลกไปแล้ว 706 00:43:08,544 --> 00:43:11,755 ‎ผลกระทบรุนแรงมาก จนเรากำหนด ‎ขีดความปลอดภัยให้มันโดยเฉพาะ 707 00:43:12,506 --> 00:43:17,303 ‎แอโรซอลคืออนุภาคต่างๆ ในชั้นบรรยากาศ 708 00:43:17,386 --> 00:43:20,055 ‎มันคือสิ่งที่เราเรียกอนุภาคปนเปื้อนในอากาศ 709 00:43:20,139 --> 00:43:21,098 ‎(แอโรซอล) 710 00:43:21,181 --> 00:43:26,478 ‎ปริมาณ 75% ของแอโรซอลปนเปื้อน ‎มาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล 711 00:43:28,022 --> 00:43:30,858 ‎เรามองเห็นมันเป็นหมอกจางๆ บนฟ้า 712 00:43:30,941 --> 00:43:35,904 ‎เพราะมันตัดแสงแดด ‎และกระจายแสงเหมือนกระจก 713 00:43:35,988 --> 00:43:38,782 ‎ซึ่งทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "ภาวะโลกมืด" 714 00:43:39,450 --> 00:43:41,660 ‎วีระปาทานใช้เวลาชั่วชีวิต 715 00:43:41,744 --> 00:43:44,663 ‎ศึกษาอากาศรอบตัวและเบื้องบน 716 00:43:44,747 --> 00:43:48,042 ‎อีกทางที่แอโรซอลกระทบภูมิอากาศโลก 717 00:43:48,626 --> 00:43:52,713 ‎เพราะเราไปปิดกั้นแสงแดด ‎ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญ 718 00:43:52,796 --> 00:43:58,761 ‎เพิ่มอุณหภูมิให้แก่โลก ‎แอโรซอลเหล่านี้ทำให้โลกเย็นลง 719 00:43:58,844 --> 00:44:04,308 ‎เมื่อคุณได้ยินนักภูมิอากาศวิทยาศาสตร์ ‎อย่างผมบอกว่าแอโรซอลทำให้โลกเย็นลง 720 00:44:04,391 --> 00:44:07,686 ‎และครอบทับภาวะโลกร้อน ‎คุณอาจคิดว่า "ก็ดีแล้วนี่" 721 00:44:07,770 --> 00:44:10,356 ‎แต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่ 722 00:44:11,440 --> 00:44:13,484 ‎เพราะการครอบทับภาวะโลกร้อนแบบนี้ 723 00:44:13,567 --> 00:44:18,280 ‎ทำให้เราแค่ไม่เห็นความร้ายกาจ ‎ของก๊าซเรือนกระจกเต็มตา 724 00:44:19,615 --> 00:44:23,035 ‎ปรากฏการณ์ทำความเย็น ‎จากแอโรซอลแบบนี้ครอบทับ 725 00:44:23,118 --> 00:44:26,455 ‎ภาวะโลกร้อนประมาณ 40% 726 00:44:27,498 --> 00:44:29,875 ‎ซึ่งแลกมาด้วยราคาแสนแพง 727 00:44:29,958 --> 00:44:34,421 ‎มลพิษทางอากาศทำให้คนตาย ‎มากกว่าเจ็ดล้านคนต่อปี 728 00:44:34,505 --> 00:44:38,550 ‎และโดยเฉลี่ยทำให้อายุขัยของแต่ละคน 729 00:44:38,634 --> 00:44:40,219 ‎ลดลงไปสามปี 730 00:44:44,640 --> 00:44:49,937 ‎โดยที่เรายังไม่รู้ขีดความปลอดภัย ‎ของมลพิษทางอากาศที่โลกรองรับได้ 731 00:44:53,357 --> 00:44:58,529 ‎เมื่อดูเฉพาะคนตายเจ็ดล้านห้าแสนคน 732 00:44:58,612 --> 00:45:02,408 ‎จากอนุภาคเหล่านี้ ผมคงบอกได้ว่าเราก้าวข้าม 733 00:45:02,491 --> 00:45:05,244 ‎ขีดความปลอดภัยของแอโรซอลมาไกลแล้ว 734 00:45:06,662 --> 00:45:10,582 ‎สุดท้าย พรมแดนแห่งที่เก้าคือชั้นโอโซน 735 00:45:11,291 --> 00:45:15,003 ‎มันคือพรมแดนเดียวที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากพวก 736 00:45:15,087 --> 00:45:17,589 ‎เพราะเรากำลังมุ่งไปถูกทาง 737 00:45:19,383 --> 00:45:23,053 ‎โอโซนสกัดอันตราย 738 00:45:23,137 --> 00:45:27,182 ‎ของรังสีอัลตราไวโอเล็ตซึ่งส่งผลกระทบโดยตรง 739 00:45:27,266 --> 00:45:31,895 ‎ต่อดีเอ็นเอของเรา ‎และทำให้เกิดโรคร้าย เช่น มะเร็งผิวหนัง 740 00:45:32,396 --> 00:45:36,567 ‎นี่เองคือสาเหตุที่ว่าทำไมเมื่อมีการค้นพบ 741 00:45:36,650 --> 00:45:39,695 ‎รูโหว่ในชั้นโอโซน ‎แถบแอนตาร์กติกาในทศวรรษ 1980 742 00:45:40,821 --> 00:45:42,698 ‎ทั้งโลกถึงได้ตื่นตระหนก 743 00:45:44,408 --> 00:45:46,452 ‎การค้นพบรูโหว่ในชั้นโอโซน 744 00:45:46,535 --> 00:45:50,372 ‎ซึ่งเกิดจากการปล่อยสารเคมีปนเปื้อน ‎เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ 745 00:45:50,456 --> 00:45:53,792 ‎ชักชวนให้หลายชาติทยอยเลิกใช้สารเคมีเหล่านั้น 746 00:45:55,127 --> 00:45:58,589 ‎มันยอดเยี่ยมมากที่ข้อมูลเตือนภัยทางวิทยาศาสตร์ 747 00:45:58,672 --> 00:46:02,217 ‎แปลเป็นการปฏิบัติงานของรัฐ 748 00:46:02,301 --> 00:46:05,387 ‎นี่คือตัวอย่างแรกและตัวอย่างเดียว 749 00:46:05,471 --> 00:46:08,807 ‎ที่เราสามารถบริหารจัดการโลกได้จริง 750 00:46:08,891 --> 00:46:11,852 ‎ที่จริงเราสามารถย้อนกลับสู่พื้นที่ปลอดภัย 751 00:46:11,935 --> 00:46:15,397 ‎ในขีดจำกัดของโลกที่เราเคยรุกล้ำ 752 00:46:15,481 --> 00:46:17,524 ‎เข้าสู่เขตอันตรายร้ายแรงไปแล้ว 753 00:46:17,608 --> 00:46:20,694 ‎เราเคยย้อนกลับสู่พื้นที่ปลอดภัยได้แล้วจริงๆ 754 00:46:22,571 --> 00:46:25,365 ‎วิเศษมากที่ได้เห็นสิ่งนี้ 755 00:46:25,449 --> 00:46:28,869 ‎นักวิทยาศาสตร์ส่งเสียงเตือนและทั่วโลกปฏิบัติ 756 00:46:29,787 --> 00:46:32,164 ‎เพราะโยฮันกับเพื่อนร่วมอาชีพของเขา 757 00:46:32,247 --> 00:46:35,667 ‎ตอนนี้เราถึงรู้ว่าโลกมีพรมแดนเก้าแห่ง 758 00:46:35,751 --> 00:46:38,170 ‎และรู้ขีดความปลอดภัยในพรมแดนนั้น 759 00:46:39,254 --> 00:46:43,050 ‎เมื่อรวมกับชั้นโอโซน อย่างน้อยตอนนี้เราก็ 760 00:46:43,133 --> 00:46:47,596 ‎อยู่ในเขตปลอดภัยของ ‎ปรากฏการณ์ทะเลกรดและการใช้น้ำสะอาด 761 00:46:48,222 --> 00:46:51,767 ‎เรายังไม่รู้ว่าเราเข้าใกล้ ‎เขตอันตรายแค่ไหนแล้ว 762 00:46:51,850 --> 00:46:56,772 ‎สำหรับมลพิษทางอากาศ ‎หรือสสารปนเปื้อนใหม่อื่นๆ 763 00:46:57,815 --> 00:47:00,651 ‎แต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ เราก้าวข้าม 764 00:47:00,734 --> 00:47:03,487 ‎ขีดความปลอดภัยในพรมแดนอย่างน้อยสี่แห่ง 765 00:47:03,570 --> 00:47:08,033 ‎ภูมิอากาศ ป่าไม้ ธาตุอาหาร ‎และความหลากหลายทางชีวภาพ 766 00:47:08,116 --> 00:47:11,870 ‎ตอนนี้เรากำลังก้าวข้ามจุดเปลี่ยน ‎ที่โลกไม่อาจเยียวยาตัวเองได้อีกแล้ว 767 00:47:12,996 --> 00:47:16,959 ‎และเราหมิ่นเหม่จนน่ากลัว ‎ที่จะเปลี่ยนโลกเข้าสู่สภาพ 768 00:47:17,042 --> 00:47:20,671 ‎ที่ไม่สามารถค้ำจุนอารยธรรมของเราเอง 769 00:47:21,964 --> 00:47:26,385 ‎สิ่งที่เราเห็นในโลกปัจจุบัน ‎คือหลักฐานว่าระบบต่างๆ มีขีดจำกัดที่โลกรับได้ 770 00:47:26,468 --> 00:47:29,179 ‎เราเห็นหลักฐานชัดเจน 771 00:47:29,263 --> 00:47:31,223 ‎เพราะสภาพอากาศเกินขีดความปลอดภัย 772 00:47:31,306 --> 00:47:33,183 ‎เพราะเราสูญเสียความหลากหลาย 773 00:47:33,267 --> 00:47:34,726 ‎ทางชีวภาพในระดับที่อันตรายมาก 774 00:47:34,810 --> 00:47:38,730 ‎เราเริ่มเห็นภัยแล้งเพิ่มขึ้นหลายที่ ‎เห็นผลกระทบต่อป่าฝน 775 00:47:38,814 --> 00:47:42,150 ‎เห็นไฟไหม้ป่าในออสเตรเลียและในแอมะซอน 776 00:47:42,776 --> 00:47:46,530 ‎เราเห็นน้ำแข็งละลายในอัตรารวดเร็ว ‎เห็นระบบแนวปะการังพังทลาย 777 00:47:50,951 --> 00:47:54,788 ‎สำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นประจักษ์พยาน ‎เห็นความเปลี่ยนแปลงบนโลกเหล่านี้ 778 00:47:54,872 --> 00:47:57,749 ‎ความสูญเสียเป็นมากกว่าแค่ตัวเลข 779 00:47:58,917 --> 00:48:02,880 ‎เทอร์รี่ ฮิวส์ใช้เวลาทั้งชีวิตศึกษาแนวปะการัง 780 00:48:03,547 --> 00:48:06,425 ‎ปะการังที่ซีดขาวแสดงว่าป่วยหนัก 781 00:48:06,925 --> 00:48:10,387 ‎ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว ‎เกิดขึ้นเมื่อน้ำทะเลรอบๆ อุ่นเกินไป 782 00:48:10,470 --> 00:48:14,308 ‎ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยและรุนแรงขึ้น 783 00:48:14,391 --> 00:48:16,810 ‎ซึ่งเป็นผลจากสภาวะโลกร้อน 784 00:48:17,811 --> 00:48:21,064 ‎ในสภาพที่อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างมาก เราได้เห็น 785 00:48:21,148 --> 00:48:24,109 ‎ปรากฏการณ์ฟอกขาวหลายครั้งในหลายสิบปีมานี้ 786 00:48:24,192 --> 00:48:26,069 ‎พวกมันตายได้เร็วมาก 787 00:48:26,153 --> 00:48:27,279 ‎สีขาวหมายถึงพวกมันสุก 788 00:48:29,948 --> 00:48:34,786 ‎ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของปรากฏการณ์ฟอกขาว 789 00:48:34,870 --> 00:48:37,497 ‎รุนแรงกว่าพายุหมุนเขตร้อนระดับห้าถึงสิบเท่า 790 00:48:37,581 --> 00:48:42,252 ‎ดังนั้น ปรากฏการณ์นี้ส่งผลกระทบ ‎ใหญ่หลวงอย่างที่ประเมินไม่ได้ 791 00:48:42,336 --> 00:48:46,214 ‎แถมยังเกิดขึ้นถี่มาก 792 00:48:47,883 --> 00:48:50,302 ‎เทอร์รี่ศึกษาเกรตแบร์ริเออร์รีฟ 793 00:48:50,385 --> 00:48:52,679 ‎พืดปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก 794 00:48:54,973 --> 00:48:58,310 ‎ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว ‎เคยเกิดขึ้นเฉพาะที่และหายาก 795 00:48:58,393 --> 00:49:00,479 ‎แต่ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา 796 00:49:00,562 --> 00:49:04,399 ‎คลื่นความร้อนในทะเล ‎ก่อให้เกิดการฟอกขาวเป็นวงกว้าง 797 00:49:06,068 --> 00:49:08,737 ‎ปรากฏการณ์ฟอกขาวครั้งใหญ่ที่สุดสามในห้าครั้ง 798 00:49:08,820 --> 00:49:11,490 ‎เกิดขึ้นในช่วงห้าปีที่ผ่านมานี้เอง 799 00:49:15,953 --> 00:49:17,871 ‎เราเป็นห่วงเรื่องความถี่หรือระยะห่าง 800 00:49:17,996 --> 00:49:21,333 ‎ของปรากฏการณ์แต่ละครั้ง 801 00:49:21,416 --> 00:49:24,002 ‎เราเคยเห็นมาแล้ว ‎ปรากฏการณ์ฟอกขาวที่เกิดขึ้นติดๆ กัน 802 00:49:24,086 --> 00:49:26,338 ‎เป็นครั้งแรกที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟ 803 00:49:26,421 --> 00:49:30,258 ‎ในฤดูร้อนปี 2016 และ 2017 804 00:49:32,052 --> 00:49:36,139 ‎การเว้นระยะของปรากฏการณ์ ‎เป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อให้ปะการังฟื้นตัว 805 00:49:36,848 --> 00:49:40,435 ‎ปะการังครึ่งหนึ่งในแนวนี้ตายแล้ว 806 00:49:44,731 --> 00:49:48,110 ‎งานของเทอร์รี่ต้องทำการสำรวจทางอากาศ 807 00:49:48,193 --> 00:49:51,488 ‎เพื่อบันทึกขอบเขต ‎ปรากฏการณ์ฟอกขาวแต่ละครั้ง 808 00:49:52,155 --> 00:49:54,074 ‎เมื่อเราทำการสำรวจทางอากาศ 809 00:49:54,157 --> 00:49:56,535 ‎เราจะบินให้ช้าที่สุด 810 00:49:56,618 --> 00:50:01,456 ‎ต่ำที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อจะได้เห็น ‎ปะการังแต่ละส่วน และทำการประเมินได้ว่า 811 00:50:01,540 --> 00:50:04,584 ‎มีจำนวนมากเท่าไหร่ที่ถูกฟอกขาว ‎หรือเท่าไหร่ที่ไม่โดน 812 00:50:05,210 --> 00:50:06,712 ‎ปะการังเป็นสีขาวหมด 813 00:50:07,713 --> 00:50:08,964 ‎ใช่ แย่เลย 814 00:50:09,548 --> 00:50:13,010 ‎คุณเห็นแนวปะการังสีขาว ‎ได้จากที่ไกลหลายกิโลเมตร 815 00:50:13,093 --> 00:50:17,472 ‎เพราะมันเหมือนเรืองแสง ‎มีปะการังสีขาวจำนวนมากในแนวนี้นั่นเอง 816 00:50:18,390 --> 00:50:22,352 ‎ผมเจอยอดสุดของแนวที่กว้างมากและขาวโพลน 817 00:50:23,770 --> 00:50:27,024 ‎เราทำการสำรวจแบบนี้มาห้าครั้งแล้ว 818 00:50:27,107 --> 00:50:28,734 ‎ผมเป็นคนนำอยู่สามครั้ง 819 00:50:28,817 --> 00:50:33,447 ‎สามครั้งสุดท้ายสำรวจในปี 2016 ‎ปี 2017 และปี 2020 820 00:50:33,530 --> 00:50:37,743 ‎มันเป็นงานที่ผมหวังว่าจะไม่มีวันต้องทำ 821 00:50:38,744 --> 00:50:41,997 ‎เพราะมันเป็นงานที่ปะทะกับความเลวร้ายเต็มๆ 822 00:50:48,253 --> 00:50:49,129 ‎ขอโทษครับ 823 00:50:51,214 --> 00:50:52,883 ‎เรากำลังมุ่งหน้าสู่อนาคต 824 00:50:52,966 --> 00:50:55,594 ‎ซึ่งมีเกรตแบร์ริเออร์รีฟ 825 00:50:55,677 --> 00:50:57,304 ‎เป็นสุสานปะการัง 826 00:51:00,057 --> 00:51:02,559 ‎นักสร้างแบบจำลองสภาพอากาศบอกเรา 827 00:51:02,642 --> 00:51:04,186 ‎นักชีววิทยาว่า 828 00:51:04,269 --> 00:51:07,230 ‎การปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามปกตินี้ 829 00:51:07,314 --> 00:51:09,941 ‎จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ฟอกขาวติดกัน 830 00:51:10,025 --> 00:51:13,111 ‎ทุกฤดูร้อนภายในสิ้นศตวรรษนี้ 831 00:51:13,945 --> 00:51:16,782 ‎ปรากฏการณ์ฟอกขาว ‎คือจุดเปลี่ยนที่ไม่อาจฟื้นคืนได้ 832 00:51:19,117 --> 00:51:21,620 ‎นักวิทยาศาสตร์และนักนิเวศวิทยาเช่นผม 833 00:51:21,703 --> 00:51:25,749 ‎คุยกันมาหลายสิบปีเรื่องภาวะโลกร้อน 834 00:51:26,249 --> 00:51:31,379 ‎มันน่าหงุดหงิดมากที่ไม่มีใครฟังเรา 835 00:51:35,634 --> 00:51:36,676 ‎ผมโกรธ 836 00:51:37,928 --> 00:51:40,514 ‎ผมไม่ได้เศร้า ผมโกรธ 837 00:51:41,223 --> 00:51:44,267 ‎มีเหตุผลสมควรแก่การหงุดหงิดครับ 838 00:51:45,727 --> 00:51:47,813 ‎เพราะวิทยาศาสตร์บอกไว้ชัดเจน 839 00:51:47,896 --> 00:51:50,565 ‎และบอกไว้มานาน 30 ปีแล้ว แต่ว่า 840 00:51:50,649 --> 00:51:52,484 ‎เราก็ยังไม่เคลื่อนไปในทิศทางที่ถูกต้อง 841 00:51:55,779 --> 00:51:57,114 ‎ฉันอยากให้คุณตื่นตระหนก 842 00:51:57,989 --> 00:52:00,742 ‎ฉันอยากให้คุณกลัวแบบที่ฉันกลัวอยู่ทุกวัน 843 00:52:01,243 --> 00:52:02,911 ‎แล้วฉันก็อยากให้คุณลงมือทำ 844 00:52:02,994 --> 00:52:06,623 ‎ฉันอยากให้คุณทำแบบที่คุณทำหากเจอเหตุวิกฤติ 845 00:52:07,874 --> 00:52:11,586 ‎ฉันอยากให้คุณทำเหมือนบ้านคุณกำลังลุกเป็นไฟ 846 00:52:12,420 --> 00:52:13,505 ‎เพราะมันเป็นอย่างนั้น 847 00:52:14,339 --> 00:52:16,633 ‎ไฟป่าในออสเตรเลีย ‎ลุกลามรุนแรงนานหลายเดือน 848 00:52:16,716 --> 00:52:19,052 ‎ทำลายพื้นที่จำนวนมาก ‎ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ 849 00:52:19,136 --> 00:52:23,140 ‎ปี 2020 ออสเตรเลียทุกข์ทน ‎ฝ่าฤดูร้อนที่เหมือนมาจากนรก 850 00:52:23,223 --> 00:52:24,891 ‎และทางออกเดียวของเราตอนนี้คือ 851 00:52:24,975 --> 00:52:28,061 ‎หนทางเสี่ยงเจอไม้ล้มและเปลวไฟ 852 00:52:30,438 --> 00:52:34,401 ‎ประกอบกับอากาศที่ร้อนเป็นประวัติการณ์ ‎และภัยแล้งรุนแรงนานหลายเดือน 853 00:52:34,484 --> 00:52:37,612 ‎ผืนดินเกือบ 130 ล้านไร่ถูกเผาวอดวาย 854 00:52:41,449 --> 00:52:44,786 ‎ผู้คนกลัวว่านี่จะกลายเป็นชีวิตปกติแบบใหม่ 855 00:52:46,496 --> 00:52:49,708 ‎แต่วิทยาศาสตร์บอกว่าจะไม่มีชีวิตปกติอีกแล้ว 856 00:52:53,128 --> 00:52:56,965 ‎แดเนียล เทเคราทำการศึกษา ‎นกกระตั้วดำขนวาว 857 00:52:57,048 --> 00:52:59,634 ‎หนึ่งในนกที่เชื่องที่สุดในออสเตรเลีย 858 00:53:04,181 --> 00:53:07,726 ‎นกกระตั้วดำขนวาวยอมให้มนุษย์ใกล้ชิดสนิทสนม 859 00:53:07,809 --> 00:53:11,688 ‎มันจะเรียนรู้จักคุณ ‎และจดจำว่าคุณไปแถวไหนเป็นประจำ 860 00:53:11,771 --> 00:53:14,316 ‎ฉันว่ามันตั้งใจทำความรู้จักเรา 861 00:53:14,399 --> 00:53:16,943 ‎คุณจะเข้าไปหามันได้ นั่งใต้ต้นไม้ 862 00:53:17,027 --> 00:53:19,738 ‎ที่พวกมันกำลังหาอาหาร ‎ คุณจะได้ทำความรู้จักนกแต่ละตัว 863 00:53:21,615 --> 00:53:23,533 ‎ทันทีที่คิดว่าปลอดภัยจะทำได้ 864 00:53:23,617 --> 00:53:26,995 ‎แดเนียลก็กลับเข้าหนึ่งในพื้นที่วิจัยหลักของเธอ 865 00:53:27,078 --> 00:53:30,582 ‎บนเกาะจิงโจ้นอกฝั่งเซาท์ออสเตรเลีย 866 00:53:38,298 --> 00:53:41,718 ‎เดือนกุมภาพันธ์แล้ว ‎เป็นฤดูกาลทำรังของนกกระตั้ว 867 00:53:54,898 --> 00:53:58,151 ‎ไม่มีร่องรอยของสัตว์ป่าสักตัว 868 00:54:01,821 --> 00:54:03,156 ‎ไม่มีอะไรเหลือแล้ว 869 00:54:06,576 --> 00:54:07,786 ‎มันดูเหมือน 870 00:54:08,453 --> 00:54:09,913 ‎การสังหารหมู่ที่สุด 871 00:54:09,996 --> 00:54:12,999 ‎มันแทบจะเหมือนว่าฉันกำลังมองสถานที่แปลกหน้า 872 00:54:13,083 --> 00:54:16,294 ‎แทบจะเหมือนไม่มีทางใช่ที่เดิม 873 00:54:16,878 --> 00:54:19,047 ‎เพราะมันแปลกตาสุดๆ 874 00:54:22,509 --> 00:54:25,136 ‎ใช่ ฉันใช้เวลาสี่ปีที่ผ่านมา 875 00:54:25,220 --> 00:54:28,431 ‎ทำงานอยู่ตรงนี้เลย ดังนั้นนี่จึงเป็น... 876 00:54:30,267 --> 00:54:33,895 ‎ใช่ นี่จึงเป็นเรื่องที่ทำใจยาก จุดนี้เคยเป็น... 877 00:54:35,438 --> 00:54:37,899 ‎แหล่งที่มีกิจกรรมเอะอะวุ่นวายทุกเย็น 878 00:54:38,733 --> 00:54:41,069 ‎ตรงนี้น่าจะได้เห็นลูกนก 879 00:54:42,904 --> 00:54:45,407 ‎น่าเศร้ามากค่ะ 880 00:54:46,992 --> 00:54:48,034 ‎พระเจ้า 881 00:54:57,419 --> 00:54:58,712 ‎ฉันรู้จักรังนี้ 882 00:54:59,963 --> 00:55:00,797 ‎รู้จักดีมาก 883 00:55:02,090 --> 00:55:04,301 ‎มันแย่สุดๆ ที่ได้เห็นอะไรแบบนี้ 884 00:55:06,428 --> 00:55:09,139 ‎และที่หลงเหลือมีแค่ 885 00:55:09,222 --> 00:55:12,934 ‎ปลอกเหล็กไหม้กองอยู่บนพื้น 886 00:55:15,353 --> 00:55:17,689 ‎คือปลอกเหล็กนี้น่ะ 887 00:55:17,772 --> 00:55:20,358 ‎เราเอามาใส่ไว้ที่ต้นไม้ซึ่งมีนกทำรัง 888 00:55:20,442 --> 00:55:21,943 ‎เพื่อปกป้องนกจากพวกพอสซั่ม 889 00:55:22,694 --> 00:55:25,488 ‎ไม่ให้ไปล่าลูกนก 890 00:55:26,072 --> 00:55:29,492 ‎และการได้เห็นปลอกเหล็กนี้อยู่รอบตัวฉัน 891 00:55:30,618 --> 00:55:32,203 ‎มีแต่ปลอกอยู่บนพื้น 892 00:55:34,247 --> 00:55:36,750 ‎ของพวกนี้ไม่พอจะช่วยพวกมันน่ะ 893 00:55:40,253 --> 00:55:43,381 ‎นี่คือหายนะของระบบนิเวศ แน่นอนที่สุด 894 00:55:44,591 --> 00:55:48,053 ‎ไฟป่าในปี 2020 นับเป็นครั้งรุนแรงที่สุด 895 00:55:48,136 --> 00:55:50,138 ‎ในประวัติศาสตร์ของออสเตรเลีย 896 00:55:50,221 --> 00:55:52,849 ‎นักภูมิอากาศวิทยาพูดกันในประเด็นเหล่านี้ 897 00:55:52,932 --> 00:55:53,892 ‎มานานแล้ว 898 00:55:53,975 --> 00:55:56,269 ‎(ดร. แดเนียล เทเครา ‎มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์) 899 00:55:56,353 --> 00:55:59,022 ‎เราคาดด้วยว่าอาจเกิดเรื่องแบบนี้ 900 00:55:59,105 --> 00:56:02,901 ‎แต่ฉันคิดว่าไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ 901 00:56:03,568 --> 00:56:05,070 ‎หรือรุนแรงขนาดนี้ 902 00:56:06,571 --> 00:56:08,073 ‎นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่า 903 00:56:08,156 --> 00:56:12,994 ‎ไฟป่าครั้งนี้สังหารและทำให้สัตว์ ‎สามพันล้านตัวย้ายถิ่นฐาน 904 00:56:13,495 --> 00:56:16,414 ‎สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 1.43 ล้านตัว 905 00:56:16,498 --> 00:56:19,501 ‎สัตว์เลื้อยคลาน 2.46 พันล้านตัว 906 00:56:19,584 --> 00:56:21,711 ‎นก 180 ล้านตัว 907 00:56:22,253 --> 00:56:23,963 ‎และกบ 51 ล้านตัว 908 00:56:27,133 --> 00:56:30,095 ‎เป็นตัวเลขที่มหาศาลมาก 909 00:56:30,804 --> 00:56:32,722 ‎ส่งผลตามมาหลายอย่างมาก 910 00:56:34,724 --> 00:56:36,351 ‎ฉันไม่รู้จะทำความเข้าใจเรื่องนี้ยังไง 911 00:56:37,477 --> 00:56:40,480 ‎นี่ไม่ใช่สิ่งที่นักอนุรักษ์ ‎สิ่งแวดล้อมอย่างเราควรเจอ 912 00:56:45,318 --> 00:56:47,362 ‎ฉันคิดว่านี่คือสัญญาณเตือนภัย 913 00:56:49,280 --> 00:56:52,200 ‎ฤดูไฟป่าของออสเตรเลียครั้งนี้ ‎ทำให้เราเห็นชัดเจนว่าตอนนี้แหละ 914 00:56:52,283 --> 00:56:54,035 ‎มันส่งผลกระทบเราในปัจจุบัน 915 00:56:54,119 --> 00:56:57,122 ‎และมันจะส่งผลเสียหลายอย่างไปอีกนาน 916 00:57:00,125 --> 00:57:01,459 ‎มันจะไปไหนได้ 917 00:57:04,504 --> 00:57:10,927 ‎ไฟป่าและปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว ‎เกิดจากการรุกล้ำขีดความปลอดภัยของภูมิอากาศ 918 00:57:13,346 --> 00:57:18,768 ‎แต่หายนะของธรรมชาติต่างหาก ‎ที่เป็นตัวการแท้จริงทำให้เกิด 919 00:57:18,852 --> 00:57:23,106 ‎ผลกระทบวงกว้างที่สุดเท่าที่เคยมีมา ‎ซึ่งทำให้โลกขาดเสถียรภาพ 920 00:57:24,065 --> 00:57:26,192 ‎โรคระบาดโควิด-19 921 00:57:26,276 --> 00:57:29,487 ‎มันกระทบชีวิตของคุณพอๆ กับที่กระทบชีวิตของผม 922 00:57:30,280 --> 00:57:33,450 ‎โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อโลกทั้งใบ 923 00:57:33,533 --> 00:57:36,369 ‎โดยที่เราไม่สามารถรับมือได้ 924 00:57:36,453 --> 00:57:38,663 ‎บริการด้านสาธารณสุขรับรองไม่ไหว 925 00:57:39,497 --> 00:57:42,500 ‎และทำให้เศรษฐกิจทรุดไปทั่วโลก 926 00:57:45,044 --> 00:57:47,964 ‎(ขอต้อนรับสู่ถนนคาร์นาบี) 927 00:57:48,047 --> 00:57:49,299 ‎แม้หลายคนประหลาดใจ 928 00:57:49,382 --> 00:57:54,095 ‎แต่องค์การอนามัยโลก ‎เคยเตือนไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดขึ้น 929 00:57:54,179 --> 00:57:55,889 ‎อยู่ที่ว่าเมื่อไหร่ 930 00:57:55,972 --> 00:57:57,849 ‎(ดร. มาเรีย นีรา องค์การอนามัยโลก) 931 00:57:57,932 --> 00:58:01,644 ‎เราทำลายธรรมชาติ ‎เราทำลายระบบนิเวศของเราเอง 932 00:58:03,062 --> 00:58:08,276 ‎เราทำการเกษตรเชิงรุกอย่างหนักหน่วงมาตลอด 933 00:58:08,359 --> 00:58:12,864 ‎เราตัดไม้ทำลายป่า ‎อย่างดุเดือดเหลือเชื่อมาตลอด 934 00:58:14,157 --> 00:58:18,745 ‎และยิ่งเราใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีมลพิษสูง 935 00:58:18,828 --> 00:58:21,873 ‎มีประชากรหนาแน่นมาก 936 00:58:21,956 --> 00:58:25,502 ‎ฉันคิดว่าองค์ประกอบทั้งหลายนี้ช่วยกันสร้าง 937 00:58:25,585 --> 00:58:29,589 ‎สภาวะที่เหมาะสมให้ไวรัสตัวใหม่ ‎ไม่ว่าจะชนิดไหนแพร่กระจาย 938 00:58:31,841 --> 00:58:35,970 ‎เกิดโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน ‎และแพร่ระบาดในสังคมมนุษย์ 939 00:58:36,054 --> 00:58:38,515 ‎เมื่อธรรมชาติอ่อนแอจนไม่อาจเยียวยาตัวเอง 940 00:58:39,516 --> 00:58:43,311 ‎โรคระบาดไม่ได้เกิดจาก ‎ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แน่นอน 941 00:58:43,811 --> 00:58:46,189 ‎ในแง่การแพร่กระจายของโรค 942 00:58:46,272 --> 00:58:49,609 ‎มันจะเกิดขึ้นเฉพาะกับบางเผ่าพันธุ์ ‎ภายใต้สภาวะบางอย่าง 943 00:58:49,692 --> 00:58:54,113 ‎และเมื่อเรารุกล้ำสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง 944 00:58:54,197 --> 00:58:58,243 ‎ดังนั้น สำหรับสุขภาพของมนุษย์ ‎สุขภาพของสัตว์ และสุขภาวะของสิ่งแวดล้อม 945 00:58:58,326 --> 00:59:00,078 ‎ทั้งสามอย่างเชื่อมโยงกันแนบแน่น 946 00:59:01,996 --> 00:59:04,374 ‎การได้สัมผัสธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดี 947 00:59:04,457 --> 00:59:07,168 ‎ถ้าเราไม่ทำลายธรรมชาติ 948 00:59:07,252 --> 00:59:09,295 ‎ถ้าเราไม่ทำลายระบบนิเวศ 949 00:59:09,379 --> 00:59:12,090 ‎ซึ่งเผ่าพันธุ์อื่นอาศัยอยู่ได้ 950 00:59:15,009 --> 00:59:16,594 ‎โควิด-19 951 00:59:16,678 --> 00:59:20,223 ‎ผมว่ามันทำให้เราเข้าใจ 952 00:59:20,306 --> 00:59:21,891 ‎เป็นครั้งแรกเลยนะว่า 953 00:59:21,975 --> 00:59:25,853 ‎"พระเจ้า ความผิดปกติสักอย่าง ‎ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้ 954 00:59:25,937 --> 00:59:28,606 ‎จู่ๆ ก็กระทบเศรษฐกิจโลกโดยรวม 955 00:59:28,690 --> 00:59:31,317 ‎และสามารถเปลี่ยนชีวิตของฉันในทันที" 956 00:59:36,155 --> 00:59:38,700 ‎การปรากฏตัวของโควิด-19 คือ 957 00:59:38,783 --> 00:59:41,911 ‎คำเตือนชัดเจนว่าโลกเราย่ำแย่แล้ว 958 00:59:42,495 --> 00:59:45,123 ‎แต่มันก็มอบโอกาสให้เราด้วย 959 00:59:45,206 --> 00:59:47,917 ‎ให้เรากรุยเส้นทางใหม่สู่อนาคตอีกครั้ง 960 00:59:48,710 --> 00:59:52,088 ‎ตอนนี้โยฮันกับเพื่อนร่วมอาชีพของเขา ‎เปิดไฟหน้ารถแล้ว 961 00:59:52,171 --> 00:59:54,382 ‎เราได้เห็นขีดความสามารถของโลกชัดเจน 962 00:59:54,465 --> 00:59:58,094 ‎เราได้เห็นเส้นทางย้อนกลับสู่พื้นที่ปลอดภัย 963 00:59:58,177 --> 01:00:00,221 ‎สู่อนาคตที่ธรรมชาติเยียวยาตัวเองได้มากขึ้น 964 01:00:01,055 --> 01:00:02,390 ‎อนาคตที่เราสร้างขึ้นได้ 965 01:00:04,350 --> 01:00:08,104 ‎เราไม่พูดถึงอีกแล้วว่า ‎จะพัฒนาเศรษฐกิจตรงนี้ให้เติบโต 966 01:00:08,187 --> 01:00:11,983 ‎แล้วค่อยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางนี้ 967 01:00:12,066 --> 01:00:16,154 ‎ไม่แล้ว ตอนนี้สำคัญที่ ‎ภาพแบบจำลองการเติบโตทั่วโลก 968 01:00:16,237 --> 01:00:17,739 ‎ที่เน้นความยั่งยืน 969 01:00:17,822 --> 01:00:21,576 ‎และยึดแนวทางของโลกนี้ ‎เป็นหลักในทุกอย่างที่จะทำ 970 01:00:23,286 --> 01:00:27,874 ‎สิ่งสำคัญสุดเฉพาะหน้าคือ ‎ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือศูนย์ 971 01:00:27,957 --> 01:00:32,253 ‎และรักษาเสถียรภาพ ‎ของอุณหภูมิโลกให้ต่ำไว้เท่าที่ทำได้ 972 01:00:33,087 --> 01:00:35,632 ‎หน้าต่างยังเปิดรับเรา 973 01:00:35,715 --> 01:00:38,343 ‎ให้สามารถเลี่ยงอุณหภูมิโลกเพิ่มเกินสององศา 974 01:00:39,510 --> 01:00:42,388 ‎หน้าต่างเปิดรับอุณหภูมิ 1.5 แล้วด้วยซ้ำ 975 01:00:43,181 --> 01:00:45,099 ‎แต่หน้าต่างบานนี้... 976 01:00:45,183 --> 01:00:46,976 ‎แค่แง้มเล็กน้อย 977 01:00:47,852 --> 01:00:50,396 ‎นับแต่เริ่มการปฏิวัติอุตสาหกรรม 978 01:00:50,480 --> 01:00:56,527 ‎เราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ‎ไปแล้ว 2,400 พันล้านตัน 979 01:00:57,111 --> 01:00:59,489 ‎เพื่อรักษาอุณหภูมิให้ต่ำที่ 1.5 องศา 980 01:00:59,572 --> 01:01:04,035 ‎เราต้องปล่อยก๊าซนี้น้อยลง 300 พันล้านตัน 981 01:01:04,118 --> 01:01:08,706 ‎ถ้าเรายังคงปล่อยก๊าซนี้ที่ 40 พันล้านตันต่อปี 982 01:01:08,790 --> 01:01:12,585 ‎งบของเราจะหมดภายในเจ็ดปี 983 01:01:13,378 --> 01:01:15,296 ‎แน่นอนว่าเราหยุดไม่ได้ชั่วข้ามคืนหรอก 984 01:01:15,922 --> 01:01:19,592 ‎การใช้พลังงานทั้งหมดในโลกนี้ 985 01:01:19,676 --> 01:01:22,011 ‎ดังนั้นทางปกติเดียวที่จะทำเรื่องนี้คือ 986 01:01:22,095 --> 01:01:27,100 ‎ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก ‎ตั้งแต่ตอนนี้เพราะวิทยาศาสตร์แนะนำชัดเจน 987 01:01:27,183 --> 01:01:30,853 ‎ตอนนี้คือโอกาสสุดท้าย ‎ที่เราจะลดการปล่อยก๊าซนี้ได้ 988 01:01:31,604 --> 01:01:33,940 ‎อะไรคือวิธีที่เร็วที่สุดที่จะลดปริมาณก๊าซ 989 01:01:34,023 --> 01:01:36,609 ‎ที่เราจะทำได้ล่ะ 990 01:01:37,193 --> 01:01:41,823 ‎ไม่มีงานวิจัยไหนเสนอว่าเราจะ ‎ทำได้เร็วกว่าหกหรือเจ็ดเปอร์เซ็นต์ต่อปี 991 01:01:42,490 --> 01:01:46,744 ‎เพราะแค่หกหรือเจ็ดเปอร์เซ็นต์ต่อปี ‎ก็ลดปริมาณก๊าซได้ครึ่งหนึ่งแล้วในสิบปี 992 01:01:48,037 --> 01:01:50,915 ‎การลดปริมาณก๊าซได้ครึ่งหนึ่งทุกสิบปี 993 01:01:50,998 --> 01:01:53,543 ‎เป็นอัตราเปลี่ยนแปลงแบบยกกำลัง 994 01:01:54,043 --> 01:01:56,254 ‎ทุกคนช่วยกันทำได้ 995 01:01:56,337 --> 01:01:58,631 ‎ผมหมายถึงคุณกับผมต่างคนต่างก็ทำสิ่งนี้ได้ 996 01:01:58,715 --> 01:02:02,009 ‎เราบอกได้เลยว่า ‎"เอาละ นับจากนี้ไป ฉันกับครอบครัว 997 01:02:02,093 --> 01:02:04,971 ‎จะพยายามลดการปล่อยก๊าซ ‎เรือนกระจกครึ่งหนึ่งต่อสิบปี" 998 01:02:05,054 --> 01:02:08,099 ‎ซึ่งหมายความว่าเราจะปลอดเชื้อเพลิงฟอสซิล 999 01:02:08,850 --> 01:02:11,310 ‎ในหนึ่งชั่วอายุคนหรือในเวลา 30 ปี 1000 01:02:11,394 --> 01:02:14,564 ‎บริษัทก็ทำได้ ประเทศก็ทำได้ ทั้งโลก 1001 01:02:14,647 --> 01:02:16,774 ‎ก็ทำได้และต้องทำ 1002 01:02:18,818 --> 01:02:21,529 ‎แน่นอนว่าการค่อยๆ ลดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล 1003 01:02:21,612 --> 01:02:24,657 ‎จะพาเราถอยกลับสู่พื้นที่ปลอดภัย 1004 01:02:24,741 --> 01:02:27,160 ‎ในขอบเขตสภาพอากาศที่โลกรองรับได้ 1005 01:02:27,910 --> 01:02:31,164 ‎มันจะช่วยลดมลพิษทางอากาศได้อย่างมากด้วย 1006 01:02:31,247 --> 01:02:34,000 ‎และชะลอปรากฏการณ์ทะเลกรด 1007 01:02:34,083 --> 01:02:37,712 ‎รวมถึงลดปัญหาเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ 1008 01:02:38,546 --> 01:02:40,673 ‎แต่การงดปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังไม่พอ 1009 01:02:41,716 --> 01:02:44,385 ‎เราต้องลดปริมาณคาร์บอน 1010 01:02:44,469 --> 01:02:47,221 ‎ที่ทำให้โลกร้อนเกินขนาดอยู่ตอนนี้ 1011 01:02:47,305 --> 01:02:50,266 ‎และมีวิธีหนึ่งที่ได้ผลมาก 1012 01:02:51,350 --> 01:02:53,102 ‎ปลูกต้นไม้เพิ่ม 1013 01:02:56,773 --> 01:02:59,484 ‎การที่คนทั่วโลกพยายามปลูกต้นไม้หลายพันล้านต้น 1014 01:02:59,567 --> 01:03:02,361 ‎อาจเป็นวิธีที่ได้ผลคุ้มค่าที่สุด 1015 01:03:02,445 --> 01:03:04,655 ‎และประสบความสำเร็จที่สุดวิธีหนึ่ง 1016 01:03:04,739 --> 01:03:06,449 ‎ในการแก้วิกฤติสภาพอากาศ 1017 01:03:07,784 --> 01:03:10,077 ‎การปลูกต้นไม้เพิ่มยังสำคัญมาก 1018 01:03:10,161 --> 01:03:13,331 ‎เพื่อทดแทนคาร์บอนที่เรายังปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ 1019 01:03:13,414 --> 01:03:16,375 ‎ระหว่างที่เราพยายาม ‎ลดการปล่อยก๊าซให้เหลือศูนย์ 1020 01:03:16,459 --> 01:03:17,960 ‎เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ 1021 01:03:18,795 --> 01:03:21,339 ‎แน่นอนว่า การดูดซับคาร์บอน 1022 01:03:21,422 --> 01:03:24,717 ‎เป็นแค่ประโยชน์ข้อเดียวของต้นไม้ 1023 01:03:26,093 --> 01:03:30,389 ‎ชีค เอ็มโบร่วมงานกับโยฮันมานานหลายปี 1024 01:03:30,473 --> 01:03:32,975 ‎เขารณรงค์ให้คนปลูกต้นไม้ 1025 01:03:33,059 --> 01:03:39,315 ‎ต้นไม้ป้องกันดินสึกกร่อน 1026 01:03:40,525 --> 01:03:46,739 ‎ถ้าไม่มีต้นไม้ ฝนก็จะตกน้อยลง 1027 01:03:48,324 --> 01:03:50,618 ‎ถ้าเราปลูกต้นไม้ในไร่นา 1028 01:03:51,118 --> 01:03:53,162 ‎มันจะเพิ่มปุ๋ยให้ดิน 1029 01:03:53,246 --> 01:03:54,580 ‎และกำลังการผลิตก็จะเพิ่มขึ้น 1030 01:03:56,999 --> 01:03:59,126 ‎เราอยากนำต้นไม้กลับคืนที่เดิม 1031 01:03:59,210 --> 01:04:02,463 ‎นั่นคือศูนย์กลางการพัฒนาที่ยั่งยืน 1032 01:04:02,964 --> 01:04:05,424 ‎งานของเราคือทุกที่ที่ต้นไม้เติบโตได้ 1033 01:04:05,508 --> 01:04:06,509 ‎เราจะปลูกหนึ่งต้น 1034 01:04:08,553 --> 01:04:12,640 ‎การปลูกต้นไม้และฟื้นฟูโลกธรรมชาติย่อมจะต้อง 1035 01:04:12,723 --> 01:04:16,644 ‎มีประโยชน์ใหญ่หลวงต่อ ‎ความหลากหลายทางชีวภาพของโลก 1036 01:04:16,727 --> 01:04:20,189 ‎แต่มันจะช่วยทำให้ ‎สภาพอากาศของเรามีเสถียรภาพด้วย 1037 01:04:20,273 --> 01:04:23,234 ‎ทำให้เรามีน้ำสะอาดใช้ต่อเนื่อง ‎และมีประโยชน์มหาศาล 1038 01:04:23,317 --> 01:04:26,279 ‎ในการผลิตอาหารและคุณประโยชน์อื่นๆ 1039 01:04:26,362 --> 01:04:28,406 ‎ซึ่งธรรมชาติมอบให้เราฟรีๆ 1040 01:04:32,827 --> 01:04:37,164 ‎ลองนึกดูสิว่า เป็นครั้งแรก ‎นับแต่เริ่มมีมนุษย์ปรากฏ 1041 01:04:37,248 --> 01:04:40,084 ‎เราจะสามารถตื่นขึ้นมาบนโลก 1042 01:04:40,167 --> 01:04:43,546 ‎ที่มีสัตว์ป่าเพิ่มขึ้นจากตอนที่เราเข้านอน 1043 01:04:47,466 --> 01:04:51,470 ‎อีกการสร้างความเปลี่ยนแปลง ‎ที่แทบจะง่ายจนเหลือเชื่อ 1044 01:04:51,554 --> 01:04:55,308 ‎แต่กลับเป็นหัวใจสำคัญ ‎ในการไม่รุกล้ำขีดจำกัดต่างๆ ของโลก 1045 01:04:55,391 --> 01:04:57,560 ‎ผมก็ทำได้ คุณก็ทำได้ 1046 01:04:57,643 --> 01:04:59,979 ‎ที่จริงคือทุกคนที่มีเสรีภาพทำได้ 1047 01:05:00,062 --> 01:05:02,273 ‎จงเลือกอาหารที่เรากิน 1048 01:05:07,778 --> 01:05:11,115 ‎ปัจจุบัน เรื่องน่าตื่นเต้นคือ ‎การกินอาหารมังสวิรัติแบบยืดหยุ่นขึ้น 1049 01:05:11,198 --> 01:05:14,660 ‎กินเนื้อแดงน้อยลง กินโปรตีนจากพืชมากขึ้น 1050 01:05:14,744 --> 01:05:17,830 ‎กินผลไม้และถั่วมากขึ้น กินแป้งน้อยลง 1051 01:05:18,331 --> 01:05:20,499 ‎ถ้าคุณกินอาหารแนวนี้ 1052 01:05:21,042 --> 01:05:23,586 ‎และสมมติว่าทุกคนกินอาหารเพื่อสุขภาพ 1053 01:05:23,669 --> 01:05:27,214 ‎เราก็อาจกลับเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยได้จริงๆ 1054 01:05:27,298 --> 01:05:30,301 ‎ไม่ใช่แค่เรื่องสภาพอากาศ ‎แต่เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพด้วย 1055 01:05:30,384 --> 01:05:33,596 ‎การใช้ผืนดิน ใช้น้ำ ‎ใช้ไนโตรเจนและฟอสฟอรัสด้วย 1056 01:05:33,679 --> 01:05:36,432 ‎น่าตื่นเต้นมากที่การกินอาหารเพื่อสุขภาพ 1057 01:05:36,515 --> 01:05:41,479 ‎อาจเป็นวิธีสำคัญที่สุด ‎เพียงวิธีเดียวที่ช่วยโลกไว้ได้ 1058 01:05:47,026 --> 01:05:49,987 ‎อีกการสร้างความเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่สำคัญ 1059 01:05:50,071 --> 01:05:52,907 ‎มันจะพาเรากลับสู่เขตปลอดภัย 1060 01:05:52,990 --> 01:05:55,159 ‎อยู่ในขีดความสามารถที่โลกรองรับได้ 1061 01:05:55,242 --> 01:05:58,162 ‎นึกภาพโลกที่ไม่มีขยะสิ 1062 01:05:58,245 --> 01:06:00,206 ‎โลกที่ไม่มีอะไรจะให้ทิ้ง 1063 01:06:04,669 --> 01:06:07,672 ‎ขยะของเราเกิดขึ้นจากการออกแบบ 1064 01:06:07,755 --> 01:06:09,090 ‎เมื่อเราสร้างผลิตภัณฑ์ 1065 01:06:09,173 --> 01:06:12,760 ‎เราแทบจะไม่ได้สร้าง ‎เพื่อจะใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบ 1066 01:06:13,344 --> 01:06:17,139 ‎ถ้าเราเปลี่ยนระบบการผลิต ‎แบบเส้นตรงเป็นวงกลมล่ะ 1067 01:06:17,223 --> 01:06:19,976 ‎นั่นคือการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อที่วัตถุดิบเหล่านั้น 1068 01:06:20,059 --> 01:06:21,686 ‎สามารถใช้เป็นประโยชน์ได้ทุกชิ้น 1069 01:06:21,769 --> 01:06:24,397 ‎เราอาจใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้ไม่สิ้นสุด 1070 01:06:24,981 --> 01:06:28,985 ‎จึงมีหลักฐานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ‎ให้เห็นว่าเศรษฐกิจหมุนเวียน 1071 01:06:29,068 --> 01:06:32,863 ‎คือรากฐานสำคัญที่เราจะมีโอกาส 1072 01:06:32,947 --> 01:06:35,282 ‎มอบชีวิตที่ดี 1073 01:06:35,366 --> 01:06:38,703 ‎แก่พลเมืองโลกทุกคน 1074 01:06:40,913 --> 01:06:45,126 ‎การลดขยะจะนำเราเข้าใกล้เขตปลอดภัย ‎ทั้งเรื่องสภาพอากาศ 1075 01:06:45,209 --> 01:06:48,379 ‎ความหลากหลายทางชีวภาพ ‎และโดยเฉพาะธาตุอาหาร 1076 01:06:48,462 --> 01:06:51,465 ‎สสารใหม่ และมลพิษทางอากาศ 1077 01:06:55,136 --> 01:06:58,973 ‎ขีดจำกัดที่โลกรองรับได้ ‎ทำให้เราเห็นทางข้างหน้าชัดเจน 1078 01:06:59,056 --> 01:07:02,560 ‎ทำได้ง่ายๆ เช่นการเลือกใช้พลังงานหมุนเวียน 1079 01:07:02,643 --> 01:07:05,187 ‎กินอาหารเพื่อสุขภาพ ปลูกต้นไม้ 1080 01:07:05,271 --> 01:07:07,023 ‎ลดการใช้ขยะ 1081 01:07:07,106 --> 01:07:10,568 ‎เมื่อประกอบรวมกัน ‎สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนอนาคตของโลกได้ 1082 01:07:11,485 --> 01:07:14,739 ‎และความวิเศษอยู่ที่การสร้างความเปลี่ยนแปลงนี้ 1083 01:07:14,822 --> 01:07:18,409 ‎จะปรับปรุงชีวิตของเราตอนนี้ให้ดีขึ้นด้วย 1084 01:07:20,286 --> 01:07:23,039 ‎ต่อให้คุณไม่ห่วงใยโลกนี้เลย 1085 01:07:23,122 --> 01:07:25,624 ‎และต่อให้คุณไม่สนใจ ‎ความเท่าเทียมบนโลกนี้สักเท่าไหร่ 1086 01:07:25,708 --> 01:07:28,794 ‎เห็นแก่ตัวและสนใจแค่ตัวเอง 1087 01:07:28,878 --> 01:07:32,048 ‎ครอบครัวของคุณและชีวิตของคุณมากกว่า 1088 01:07:32,715 --> 01:07:36,427 ‎ซึ่งผมคิดว่ามันก็น่านับถือมาก 1089 01:07:36,510 --> 01:07:39,638 ‎ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ‎ผู้ดิ้นรนกับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน 1090 01:07:40,139 --> 01:07:43,309 ‎แต่ถึงอย่างไร คุณก็คงอยากกลับสู่พื้นที่ปลอดภัย 1091 01:07:44,727 --> 01:07:48,773 ‎ทุกคนจะได้ประโยชน์ทันทีกับการมีอากาศสะอาด 1092 01:07:48,856 --> 01:07:51,817 ‎ทำให้อายุขัยยาวนานขึ้นและมีสุขภาพดีมากขึ้น 1093 01:07:51,901 --> 01:07:53,652 ‎เด็กๆ ของคุณจะแข็งแรงขึ้น 1094 01:07:54,862 --> 01:07:57,281 ‎การกลับเข้ามาในขีดจำกัดที่โลกรองรับได้ 1095 01:07:57,364 --> 01:08:00,076 ‎ยังหมายความว่าคุณน่าจะได้ใช้ชีวิต 1096 01:08:00,159 --> 01:08:04,705 ‎ในสังคมที่มีตลาดมั่นคง มีงานมั่นคง 1097 01:08:04,789 --> 01:08:09,251 ‎ซึ่งจะลดความเสี่ยงสร้างความขัดแย้ง ‎และเกิดความไม่มั่นคงในสังคมที่คุณอาศัยอยู่ 1098 01:08:09,335 --> 01:08:10,461 ‎ดังนั้น ทุกคน 1099 01:08:11,170 --> 01:08:14,757 ‎อยากอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยมากกว่าเขตอันตราย 1100 01:08:14,840 --> 01:08:16,550 ‎ที่ทุกอย่างผันผวน 1101 01:08:19,761 --> 01:08:22,098 ‎สิ่งที่เราจะทำระหว่างปี 2020 ถึง 2030 1102 01:08:22,180 --> 01:08:24,600 ‎ผมได้ข้อสรุปจากหลักฐานที่เรามีในวันนี้ว่า 1103 01:08:24,683 --> 01:08:27,685 ‎มันจะเป็นทศวรรษแห่งการตัดสิน ‎อนาคตมนุษยชาติบนโลกนี้ 1104 01:08:29,354 --> 01:08:31,273 ‎อนาคตไม่ได้ถูกกำหนดไว้ 1105 01:08:31,357 --> 01:08:33,024 ‎อนาคตอยู่ในมือเรา 1106 01:08:33,109 --> 01:08:36,278 ‎สิ่งที่เกิดขึ้นในร้อยปีข้างหน้า 1107 01:08:36,362 --> 01:08:39,948 ‎จะขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำในทศวรรษนี้เอง 1108 01:08:41,075 --> 01:08:43,953 ‎เป็นยุคสมัยที่น่าทึ่ง 1109 01:08:44,036 --> 01:08:46,831 ‎แต่ก็มาพร้อมภาระที่ยิ่งใหญ่ 1110 01:08:46,913 --> 01:08:48,749 ‎ที่เราจะต้องเด็ดขาด 1111 01:08:50,084 --> 01:08:52,502 ‎เราไม่มีเวลาให้เสียแล้ว 1112 01:08:54,171 --> 01:08:57,216 ‎เราจะทำยังไงถ้าพรุ่งนี้เช้ามีรายงานข่าวว่า 1113 01:08:57,299 --> 01:08:59,718 ‎ดาวเคราะห์น้อยกำลังเคลื่อนมาที่โลก 1114 01:08:59,801 --> 01:09:03,596 ‎ผมแน่ใจว่าเราคงผละจากทุกสิ่ง 1115 01:09:03,680 --> 01:09:07,143 ‎และหันมาสนใจจะแก้ปัญหานี้ 1116 01:09:07,810 --> 01:09:09,937 ‎ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตาม 1117 01:09:11,104 --> 01:09:13,107 ‎วิทยาศาสตร์บอกเราชัดเจนแล้วว่า 1118 01:09:13,189 --> 01:09:15,526 ‎วิกฤติของโลกที่เรากำลังเผชิญอยู่นั้น 1119 01:09:15,609 --> 01:09:18,654 ‎ต้องการให้ทุกคนตอบโต้ในแบบเดียวกัน 1120 01:09:18,737 --> 01:09:20,281 ‎ผมคงบอกได้ว่าเมื่อนั้นเราจะไม่มี 1121 01:09:20,363 --> 01:09:22,575 ‎ปัญหาสิ่งแวดล้อมบนโลกอีกต่อไป 1122 01:09:22,658 --> 01:09:24,326 ‎การทำลายสมดุลของโลกน่ะ... 1123 01:09:24,410 --> 01:09:29,747 ‎อันตรายจากการทำลายสมดุลของโลก ‎คือเรื่องความมั่นคงและเสถียรภาพ 1124 01:09:29,832 --> 01:09:32,585 ‎สำหรับทุกสังคมบนโลกนี้ 1125 01:09:32,667 --> 01:09:35,379 ‎ดังนั้น นี่คืองานเร่งด่วนของคณะมนตรีความมั่นคง 1126 01:09:35,462 --> 01:09:37,715 ‎ผมคิดว่าเราควรจัดขีดความสามารถของโลก 1127 01:09:37,798 --> 01:09:40,009 ‎เป็นหัวใจสำคัญใน 1128 01:09:40,091 --> 01:09:44,889 ‎ระดับการกำกับดูแล ‎เชิงยุทธวิธีสูงสุดที่เรามีในโลก 1129 01:09:44,971 --> 01:09:47,140 ‎ซึ่งก็คือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 1130 01:09:48,725 --> 01:09:53,772 ‎การรับมือในระดับโลกเช่นนี้ ‎เป็นสิ่งที่ทำได้ในปัจจุบันแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน 1131 01:09:55,441 --> 01:09:58,444 ‎ตอนนี้มีเรื่องใหญ่กว่านั้นเกิดขึ้น 1132 01:09:58,527 --> 01:10:01,572 ‎ซึ่งก็คือการที่มนุษย์เราเป็นเผ่าพันธุ์ 1133 01:10:01,655 --> 01:10:04,408 ‎ที่ควบคุมโลกนี้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด 1134 01:10:04,491 --> 01:10:07,203 ‎ในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาตลอดเวลาเนิ่นนาน 1135 01:10:07,286 --> 01:10:09,371 ‎กว่าสี่พันล้านปี 1136 01:10:13,876 --> 01:10:17,755 ‎โลกธรรมชาติโดนประเมินอย่างต่อเนื่อง 1137 01:10:17,838 --> 01:10:20,591 ‎โดนสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่อง 1138 01:10:20,674 --> 01:10:23,928 ‎กระบวนการเทคโนโลยีดิจิตอล ‎และการเชื่อมโยงทุกมิติ 1139 01:10:24,011 --> 01:10:27,806 ‎ในโลกวิทยาศาสตร์และในโลกการสังเกต 1140 01:10:27,890 --> 01:10:31,769 ‎ณ ปัจจุบันหมายความว่า ‎ทั้งโลกเราครอบคลุมด้วยความรู้ 1141 01:10:32,311 --> 01:10:34,355 ‎หากตอนนี้เรากำลังเข้าสู่ 1142 01:10:34,939 --> 01:10:38,567 ‎สมัยทางธรณีวิทยาใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน 1143 01:10:38,651 --> 01:10:41,278 ‎ซึ่งไม่ได้ถูกกำหนดแค่ในเชิงธรณีฟิสิกส์ 1144 01:10:41,362 --> 01:10:44,073 ‎แต่ถูกกำหนดโดยความจริงนี้ด้วยที่ว่า 1145 01:10:44,156 --> 01:10:46,533 ‎คนทั้งโลกมีจิตสำนึกใหม่ล่ะ 1146 01:10:55,417 --> 01:10:59,255 ‎เพราะงานของนักวิทยาศาสตร์ ‎อย่างโยฮัน ร็อกสตรอม 1147 01:10:59,338 --> 01:11:04,510 ‎ตอนนี้เราถึงมีศักยภาพที่จะรับมือ ‎เพราะความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ปัญญาของชาวโลก 1148 01:11:05,135 --> 01:11:08,514 ‎กำลังคิดและทำโดยมีเป้าหมายเป็นหนึ่งเดียวกัน 1149 01:11:08,597 --> 01:11:13,185 ‎เพื่อดูแลโลกของเราให้ฟื้นตัวได้ ‎และแข็งแรงตลอดไป 1150 01:11:13,811 --> 01:11:15,187 ‎เป็นบ้านที่สมบูรณ์แบบ 1151 01:13:03,921 --> 01:13:08,300 ‎คำบรรยายโดย กิตติพล เอี่ยมกมล