1 00:00:06,027 --> 00:00:07,987 ‎(ผลงานซีรีส์สารคดีจาก NETFLIX) 2 00:00:11,782 --> 00:00:15,995 ‎ฉันรู้ว่าเราไม่มีสิทธิ์พูดแบบนี้แล้ว ‎ศิลปะอาจเป็นอะไรก็ได้ ใครๆ ก็เป็นศิลปิน 3 00:00:16,077 --> 00:00:17,830 ‎ผู้คนไปขึ้นศาล 4 00:00:17,913 --> 00:00:21,083 ‎"ฉันไม่สามารถทำเค้กให้คู่รักเกย์ได้ ‎เค้กแต่งงานน่ะ 5 00:00:21,167 --> 00:00:22,543 ‎เพราะเค้กคือศิลปะของฉัน" 6 00:00:23,044 --> 00:00:25,296 ‎นอกจากแง่มุมทางการเมือง 7 00:00:25,379 --> 00:00:27,298 ‎ที่น่าตำหนิแล้ว ก็ยังมีแง่มุมแบบ… 8 00:00:27,381 --> 00:00:31,260 ‎ฉันมีอะไรจะบอกคุณ คุณนักทำขนม ‎ถ้าคุณกินมันได้ มันก็ไม่ใช่ศิลปะ 9 00:00:32,052 --> 00:00:37,099 ‎โอเคไหม ดังนั้นถ้าคุณพูดได้ว่า "ฉันจะกินนั่น ‎และดื่มกาแฟหนึ่งแก้ว" นั่นไม่ใช่ศิลปะ 10 00:00:37,183 --> 00:00:38,392 ‎มันคือของว่าง 11 00:01:17,515 --> 00:01:18,516 ‎- ว่าไง ‎- หวัดดีครับ 12 00:01:18,599 --> 00:01:20,476 ‎ช่วยพูดถึงงานเขียนปัจจุบันของคุณได้ไหม 13 00:01:20,559 --> 00:01:24,063 ‎พูดถึงงานเขียนปัจจุบันของฉันได้ไหมเหรอ ‎ขอเบอร์หน่อย แล้วจะโทรหา 14 00:01:26,232 --> 00:01:28,734 ‎เราจะเรียนรู้อารมณ์ขันได้ยังไง 15 00:01:28,818 --> 00:01:33,114 ‎จะมีอารมณ์ขันได้ยังไงเหรอ ‎แบบเดียวกับที่คุณจะมีความสูงได้ไงละ 16 00:01:33,989 --> 00:01:34,949 ‎ใช่ 17 00:01:35,032 --> 00:01:38,160 ‎คุณคิดยังไงกับการที่มีคน ‎เอารูปถ่ายลงอินสตาแกรม 18 00:01:38,244 --> 00:01:41,831 ‎ฉันอยู่ข้างนอกแล้วผู้ชายคนหนึ่งบอกว่า ‎"ผมเห็นมันในอินสตาแกรมเลยแวะมา" 19 00:01:41,914 --> 00:01:43,374 ‎ใครเอามันไปลงอินสตาแกรม 20 00:01:43,457 --> 00:01:45,000 ‎ไม่ ผมรู้ ไม่อยากเชื่อเลย 21 00:01:45,084 --> 00:01:47,419 ‎เป็นความคิดที่ไม่ดีนะว่าไหม 22 00:01:58,389 --> 00:02:01,517 ‎ฉันจำครั้งแรกที่คิดว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์ได้ 23 00:02:02,309 --> 00:02:04,103 ‎ฉันเล่นเชลโชตอนเด็กๆ 24 00:02:04,770 --> 00:02:09,149 ‎และเรามีวงออร์เคสตราของโรงเรียน ‎ทุกโรงเรียนมีวงออร์เคสตรา 25 00:02:10,109 --> 00:02:12,695 ‎โรงเรียนรัฐบาลนี้… ‎โรงเรียนรัฐบาลทุกแห่งมีวงออร์เคสตรา 26 00:02:14,029 --> 00:02:15,948 ‎และพวกเขาให้คุณยืมเชลโล 27 00:02:16,574 --> 00:02:19,160 ‎ตอนอายุช่วงหนึ่ง ฉันจำไม่ได้ว่าอายุเท่าไหร่ 28 00:02:19,243 --> 00:02:22,663 ‎โรงเรียนเอาเชลโลพวกนี้คืน 29 00:02:22,746 --> 00:02:27,501 ‎และถ้าคุณอยากเล่นต่อ คุณต้องซื้อเชลโล 30 00:02:27,585 --> 00:02:32,131 ‎ฉันจำได้ดีว่าฉันเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อแม่ 31 00:02:32,214 --> 00:02:34,967 ‎"เราต้องคืนเชลโลและเราต้องซื้อเชลโล" 32 00:02:35,509 --> 00:02:38,679 ‎และฉันจำได้ว่าเรา ‎อาศัยอยู่ในบ้านเล่นระดับหลังเล็ก ๆ 33 00:02:38,762 --> 00:02:42,141 ‎มีบันไดสี่ขั้น แล้วก็เป็นห้องครัว 34 00:02:42,224 --> 00:02:45,352 ‎และฉันนั่งอยู่บนขั้นบันไดและฟังพ่อแม่คุยกัน 35 00:02:45,436 --> 00:02:48,856 ‎และฉันได้ยินพ่อกับแม่พยายามหาวิธีจ่ายค่าเชลโล 36 00:02:48,939 --> 00:02:51,192 ‎ฉันเลยเข้าไปในครัว 37 00:02:51,275 --> 00:02:53,861 ‎ซึ่งฉันไม่ควรรู้ว่าพวกเขาคุยเรื่องนี้กันอยู่ 38 00:02:53,944 --> 00:02:56,780 ‎และฉันพูดว่า "ไม่ต้องซื้อเชลโลให้หนูหรอก 39 00:02:57,907 --> 00:02:59,658 ‎หนูเล่นไม่เก่ง ไม่เก่งจริงๆ 40 00:02:59,742 --> 00:03:02,912 ‎ไม่คุ้มหรอก ไม่คุ้มที่จะจ่ายเงินให้หนูเรื่องนี้" 41 00:03:02,995 --> 00:03:08,083 ‎และแม่ฉันพูดว่า "รู้ไหม นั่นเป็นเพราะ ‎ลูกซ้อมไม่มากพอต่างหาก 42 00:03:08,918 --> 00:03:10,878 ‎ถ้าลูกซ้อมมากกว่านี้ ลูกจะเก่ง" 43 00:03:11,378 --> 00:03:14,673 ‎และฉันบอกว่า ‎"ไม่ ถ้าหนูซ้อมมากขึ้น หนูจะเล่นดีขึ้น 44 00:03:14,757 --> 00:03:16,175 ‎แต่หนูจะไม่มีวันเก่ง" 45 00:03:16,258 --> 00:03:20,179 ‎แต่ฉันชอบเล่นมันนะ เป็นสิ่งเดียว ‎ที่ฉันจำได้ว่าทำได้ไม่ดีแต่ฉันชอบ 46 00:03:21,472 --> 00:03:24,433 ‎เพราะเวลาวงออร์เคสตราเล่นทั้งวง ‎คุณไม่ได้ยินหรอกว่าฉันแย่แค่ไหน 47 00:03:24,516 --> 00:03:26,852 ‎มันเป็นประสบการณ์ที่งดงาม 48 00:03:26,936 --> 00:03:29,021 ‎และเลนนาร์ด เบิร์นสไตน์ ‎เป็นไอดอลวัยเด็กของฉัน 49 00:03:42,034 --> 00:03:45,246 ‎เลนนาร์ด เบิร์นสไตน์มีรายการทีวีตอนฉันยังเด็ก 50 00:03:45,329 --> 00:03:46,747 ‎ชื่อว่าคอนเสิร์ตของคนหนุ่มสาว 51 00:03:46,830 --> 00:03:48,415 ‎และมันเป็นวันอาทิตย์ 52 00:03:48,499 --> 00:03:51,543 ‎และฉันจะรอดูเลนนาร์ด เบิร์นสไตน์ทุกวันอาทิตย์ 53 00:03:51,627 --> 00:03:52,753 ‎ฉันชอบเขามาก 54 00:03:53,337 --> 00:03:54,880 ‎เด็กจริงๆ ไปดูคอนเสิร์ตพวกนี้ 55 00:03:54,964 --> 00:03:56,924 ‎ไม่ใช่ฉัน แต่ฉันจะเห็นเด็กๆ เข้าไป 56 00:03:57,007 --> 00:03:59,885 ‎น่าจะประมาณสองปี ‎กว่าฉันจะรู้ว่าพวกเขาเป็นเด็กจริงๆ 57 00:03:59,969 --> 00:04:03,138 ‎แบบ "พวกนี้เป็นเด็กจริงๆ เหรอ" ‎ฉันคิดว่าพวกเขาเป็นนักแสดง 58 00:04:03,222 --> 00:04:07,226 ‎โอเค ทีนี้คุณคิดว่าดนตรีคืออะไร 59 00:04:07,810 --> 00:04:09,103 ‎ดนตรีคือตัวโน้ต 60 00:04:09,687 --> 00:04:13,190 ‎ตัวโน้ตและเสียงที่งดงามรวมกันในแบบที่ 61 00:04:13,274 --> 00:04:16,610 ‎เรามีความสุขเมื่อได้ฟัง มันเป็นแค่นั้นแหละ 62 00:04:16,694 --> 00:04:18,821 ‎เขาจะอธิบายสิ่งต่างๆ ทางทีวี 63 00:04:18,903 --> 00:04:23,450 ‎และเขาก็ดูเหมือนภาพที่เด็กๆ นึกถึง ‎วาทยากรวงออร์เคสตราเป๊ะเลย 64 00:04:23,534 --> 00:04:24,952 ‎อันนี้ก็ช่วยได้มากเหมือนกัน 65 00:04:30,874 --> 00:04:34,169 ‎"นี่คือสิ่งที่ทำได้ด้วยเครื่องดนตรีชิ้นนี้ 66 00:04:34,253 --> 00:04:36,338 ‎และนี่ไม่ใช่คุณ ฟราน 67 00:04:36,880 --> 00:04:40,301 ‎คุณทำแบบนี้ไม่ได้" ไม่สำคัญหรอก ‎ว่าฉันจะซ้อมหนักแค่ไหน ฉันรู้ดี 68 00:04:40,384 --> 00:04:42,261 ‎โอเคไหม ก็แค่นั้นแหละ 69 00:04:43,137 --> 00:04:44,513 ‎ฉันรู้ว่าพรสวรรค์คืออะไร 70 00:04:44,596 --> 00:04:49,268 ‎เพราะฉันรู้ดีว่าตัวฉันไม่มีมัน ในสิ่งนี้ 71 00:04:49,351 --> 00:04:52,604 ‎ตอนเด็กๆ มีอยู่ช่วงหนึ่ง ‎ฉันอยากเป็นศิลปินและฉันคิดว่า 72 00:04:52,688 --> 00:04:54,356 ‎"ทำไมเธอถึงตัดสินใจที่จะไม่เป็น" 73 00:04:54,857 --> 00:04:59,361 ‎แล้วฉันก็คิดว่า "เธอตัดสินใจที่จะไม่เป็นศิลปิน ‎มันมีความสุขมากเกินไป ฟราน " 74 00:05:00,446 --> 00:05:03,282 ‎เพราะฉันมีความสุขที่ได้วาดรูป 75 00:05:03,365 --> 00:05:09,997 ‎มันเหมือนการตัดสินที่รุนแรงว่าฉันเป็นของคนอื่น 76 00:05:10,080 --> 00:05:11,290 ‎ฉันโหดร้ายกับตัวเองมาก 77 00:05:11,373 --> 00:05:15,836 ‎เหมือนเวลาคนพูดว่า "ทำไมคนยิว ‎ถึงไม่ได้รับอนุญาตให้กินเบคอน 78 00:05:15,919 --> 00:05:17,880 ‎และฉันพูดเสมอว่า "อร่อยเกินไป 79 00:05:19,673 --> 00:05:20,883 ‎มันอร่อยเกินไป" 80 00:05:20,966 --> 00:05:24,636 ‎ณ จุดหนึ่ง มีบางคนพูดว่า "นี่มันอร่อยมาก ไม่" 81 00:05:24,720 --> 00:05:28,599 ‎ดังนั้น ณ จุดหนึ่ง ฉันคงคิด ในแบบที่ไม่มีสติ 82 00:05:28,682 --> 00:05:31,310 ‎"การวาดรูป มีความสุขเกินไป ไม่" 83 00:05:32,061 --> 00:05:35,731 ‎คุณคิดว่าอารมณ์ขันของคุณมาจากไหน ‎มันเป็นธรรมชาติหรือการฝึกฝน 84 00:05:36,231 --> 00:05:40,194 ‎ฉันว่าธรรมชาติ เพราะมัน ‎ไม่ได้มีการฝึกฝนขนาดนั้น รับรองได้ 85 00:05:40,694 --> 00:05:43,447 ‎อันที่จริงมันถูกลงโทษต่างหาก 86 00:05:43,530 --> 00:05:46,617 ‎ตอนเป็นเด็ก ฉันเป็นผู้หญิง ‎บางทีคุณอาจไม่เคยรู้ประสบการณ์นี้ 87 00:05:46,700 --> 00:05:51,121 ‎และแม่ฉันพูดกับฉัน ตอนฉันอายุประมาณ 12 88 00:05:51,205 --> 00:05:55,584 ‎"อย่าตลกกับเด็กผู้ชาย ผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงตลก" 89 00:05:56,251 --> 00:05:57,878 ‎น่าเสียดายที่แม่คิดผิด 90 00:05:59,129 --> 00:06:02,299 ‎แต่สิ่งเดียวที่ฉันเคยชนะตอนม.สาม 91 00:06:02,383 --> 00:06:05,719 ‎คือฉันได้รางวัลไหวพริบดี ‎และฉันไม่กล้าเอารางวัลกลับบ้าน 92 00:06:05,803 --> 00:06:08,847 ‎คุณเรียนโรงเรียนอะไร ‎ถึงมีการให้รางวัลไหวพริบดีด้วย 93 00:06:08,931 --> 00:06:10,808 ‎มันคือโรงเรียนมัธยมต้นมอร์ริสทาวน์ 94 00:06:10,891 --> 00:06:13,227 ‎ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันเรียนจบ 95 00:06:13,852 --> 00:06:16,480 ‎- มีคนที่ไหวพริบดีที่สุดในชั้นเรียนเหรอ ‎- ใช่ ไหวพริบดี 96 00:06:16,563 --> 00:06:18,440 ‎แข่งกันไม่โหดเท่าไหร่น่ะ 97 00:06:19,608 --> 00:06:21,693 ‎ฉันไม่ได้ต้องแข่งกับออสการ์ ไวลด์ 98 00:06:23,862 --> 00:06:27,699 ‎ฉันจำได้ว่าตอนฉันยังเด็ก เด็กมาก ‎อายุ 12 หรือ 13 แถวๆ นั้น 99 00:06:27,783 --> 00:06:30,661 ‎ฉันอยู่ที่บ้านของพ่อกับแม่ที่ฉันอาศัยอยู่ 100 00:06:30,744 --> 00:06:34,957 ‎ฉันจำได้ว่านอนอยู่บนสนามหญ้า ‎มองขึ้นไปบนฟ้า คิดว่า 101 00:06:35,040 --> 00:06:36,834 ‎"ฉันจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง" 102 00:06:37,334 --> 00:06:40,295 ‎ฉันไม่อยากให้คุณคิดว่าฉันมีวัยเด็ก ‎แบบนิยายของชาลส์ ดิกคินส์ ไม่เลย 103 00:06:40,379 --> 00:06:41,797 ‎แต่มันไม่เหมาะกับฉัน 104 00:06:42,297 --> 00:06:44,425 ‎ไม่ใช่ว่าที่นั่นไม่ดีนะ 105 00:06:44,508 --> 00:06:48,429 ‎มันก็แค่ "ไม่ ที่นี่ไม่เหมาะกับฉัน" 106 00:06:49,847 --> 00:06:54,309 ‎คุณคิดว่าทำไมคนหนุ่มสาวจำนวนมาก ‎ยังคงมานิวยอร์ก ที่นี่มีอะไร 107 00:06:55,394 --> 00:06:57,729 ‎นิวยอร์กไง นั่นแหละคือสิ่งที่มันมี 108 00:06:59,148 --> 00:07:00,441 ‎ที่นี่ไม่มีอะไรดีกว่า 109 00:07:01,358 --> 00:07:02,443 ‎ต้องมองแบบนั้น 110 00:07:02,526 --> 00:07:05,070 ‎ที่ที่พวกเขาจากมาคือสิ่งที่ที่นี่ไม่มี 111 00:07:05,612 --> 00:07:06,530 ‎พวกเขาเลยมาที่นี่ 112 00:07:06,613 --> 00:07:07,906 ‎เหตุผลหนึ่ง 113 00:07:07,990 --> 00:07:11,618 ‎ที่คนรุ่นเรามานิวยอร์ก ‎ถ้าคุณเป็นเกย์ก็เพราะคุณเป็นเกย์ 114 00:07:12,119 --> 00:07:13,745 ‎ตอนนี้คุณเป็นเกย์ที่ไหนก็ได้ 115 00:07:13,829 --> 00:07:15,330 ‎โอเคไหม 116 00:07:15,414 --> 00:07:19,543 ‎แต่เรามาที่นี่เพราะคุณอยู่ที่เหล่านั้นไม่ได้ 117 00:07:20,502 --> 00:07:23,046 ‎และนั่นทำให้เกิด 118 00:07:23,130 --> 00:07:29,720 ‎กลุ่มรักร่วมเพศที่โกรธแค้นที่หนาแน่นมาก ‎ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเมืองเสมอ 119 00:07:30,429 --> 00:07:35,976 ‎ไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่เมืองมี ‎ประชากรรักร่วมเพศโกรธแค้นที่หนาแน่นอีกแล้ว 120 00:07:36,810 --> 00:07:39,229 ‎และเมื่อถึงจุดหนึ่ง ‎ก็มีพวกรักร่วมเพศที่มีความสุขมาก 121 00:07:39,313 --> 00:07:41,648 ‎เมื่อคุณพบว่าที่นี่สนุกมาก! 122 00:07:42,774 --> 00:07:48,572 ‎หลายคนที่ฉันรู้จักที่มานิวยอร์ก ‎จากที่อื่นนอกจากนิวยอร์ก… 123 00:07:49,698 --> 00:07:52,951 ‎หลายคนประสบความสำเร็จมาก 124 00:07:53,535 --> 00:07:55,746 ‎มากกว่าคนที่เกิดในนิวยอร์ก 125 00:07:55,829 --> 00:07:59,917 ‎และฉันคิดว่านั่นเป็นเพราะ ‎คนที่เกิดในนิวยอร์กเข้าใจว่ามันยากแค่ไหน 126 00:08:00,000 --> 00:08:03,128 ‎แต่ถ้าคุณไม่รู้ว่ามันยากแค่ไหน คุณก็แค่มา 127 00:08:03,212 --> 00:08:06,173 ‎อย่างฉันเนี่ย เขียนบทกวีตอนเด็ก ๆ 128 00:08:06,256 --> 00:08:08,091 ‎ฉันเดินเข้าไปในสำนักงานในโกรฟเพลส 129 00:08:08,175 --> 00:08:13,805 ‎ซึ่งเป็นสื่อที่คนนับถือมาก มีความแตกต่างมาก 130 00:08:14,765 --> 00:08:16,350 ‎พร้อมหนังสือบทกวีที่ฉันเขียนไว้ 131 00:08:16,850 --> 00:08:19,269 ‎และฉันเดินเข้าไปเท้าเปล่า ฉันอยากบอกให้รู้ 132 00:08:19,353 --> 00:08:20,938 ‎ฉันเดินเท้าเปล่าไปทั่วนิวยอร์ก 133 00:08:21,021 --> 00:08:25,067 ‎สิ่งที่น่าทึ่งสำหรับฉันคือฉันมีชีวิตอยู่ ‎ได้เดินเท้าเปล่าในนิวยอร์ก 134 00:08:25,150 --> 00:08:29,905 ‎แล้วฉันก็เดินเข้าไป และวางต้นฉบับ ‎บนโต๊ะของพนักงานต้อนรับ 135 00:08:30,697 --> 00:08:32,907 ‎และพูดว่า "ฉันเป็นกวี" 136 00:08:33,534 --> 00:08:35,493 ‎คือแบบ "ฉันเป็นกวี" เอาจริงดิ 137 00:08:36,911 --> 00:08:40,791 ‎"สวัสดีจอห์น ดอนน์" "ฉันเป็นกวี" 138 00:08:41,500 --> 00:08:44,962 ‎"และฉันอยากส่งต้นฉบับนี้" เธอบอกว่า "โอเค" 139 00:08:45,796 --> 00:08:50,592 ‎แล้วฉันก็ทิ้งมันไว้ที่นั่น แล้วฉันก็เฝ้ารอทุกวัน 140 00:08:50,676 --> 00:08:52,803 ‎รอรับจดหมายที่บอกว่า 141 00:08:52,886 --> 00:08:56,306 ‎"เราดีใจเหลือเกินที่ได้ค้นพบว่าคุณคือสุดยอดกวี" 142 00:08:56,390 --> 00:09:00,227 ‎สุดท้ายจดหมายก็มาจริงๆ เขียนว่า ‎"อย่างไรก็ขอบคุณ" 143 00:09:01,311 --> 00:09:04,773 ‎แต่หลังจากหนังสือเล่มแรกของฉันออกมา ‎หนึ่งในสิ่งแรกๆ ที่ฉันคิดก็คือ 144 00:09:04,856 --> 00:09:07,067 ‎"ขอบคุณพระเจ้าที่พวกเขาไม่ตีพิมพ์เล่มนั้น" 145 00:09:07,150 --> 00:09:10,988 ‎เพราะแน่นอน ฉันเป็นกวีที่ห่วยแตก ‎และพวกเขาคงต้องพิมพ์มันซ้ำ 146 00:09:11,071 --> 00:09:13,907 ‎ดังนั้นฉันโชคดีมากที่ถูกปฏิเสธ 147 00:09:13,991 --> 00:09:19,246 ‎ตามที่เขาว่ากันว่าคุณถูกไล่ออกจากม.ปลาย ‎และไปอยู่นิวยอร์ก 148 00:09:19,329 --> 00:09:22,583 ‎คุณเอาตัวรอดมาได้ยังไง ‎คุณทำมาหากินอะไรตอนไปนิวยอร์ก 149 00:09:22,666 --> 00:09:24,084 ‎มันไม่เคยดูน่ากลัวสำหรับฉัน 150 00:09:24,167 --> 00:09:29,464 ‎อย่างน้อยฉันก็ไม่คิดว่าจะทำอะไรไม่ได้ 151 00:09:29,548 --> 00:09:30,841 ‎(ฟราน เลโบวิตซ์ ‎นักเขียน/นักเขียนเรื่องขบขัน) 152 00:09:30,924 --> 00:09:34,219 ‎ซึ่งน่าทึ่งมากเมื่อดูจาก ‎ความล้มเหลวสมัยฉันเรียนหนังสือ 153 00:09:34,303 --> 00:09:37,014 ‎ซึ่งเป็นอาชีพเดียวของฉันก่อนหน้านั้น 154 00:09:37,097 --> 00:09:41,226 ‎คุณไม่สามารถล้มเหลวทางการศึกษา ‎ได้มากไปกว่าการโดนไล่ออกจากม.ปลายแล้ว 155 00:09:41,310 --> 00:09:44,354 ‎ฉันเลยไม่เคยมีช่วงชีวิตที่ประสบความสำเร็จ ‎ที่พยุงฉันขึ้นมา 156 00:09:45,147 --> 00:09:46,690 ‎แต่ฉันไม่ได้คิดถึงมัน 157 00:09:46,773 --> 00:09:50,694 ‎ฉันไปนิวยอร์กเพื่อเป็นนักเขียน แค่นั้นเลย 158 00:09:51,987 --> 00:09:54,156 ‎ตอนเด็กๆ ฉันรักการเขียนหนังสือ 159 00:09:54,823 --> 00:09:59,202 ‎ฉันรักการเขียนหนังสือ ‎จนได้งานเขียนเพื่อเงินเป็นครั้งแรก 160 00:09:59,703 --> 00:10:01,163 ‎จากนั้นฉันเกลียดการเขียนหนังสือ 161 00:10:01,663 --> 00:10:02,664 ‎ฉันรู้จัก… 162 00:10:04,291 --> 00:10:09,838 ‎เรียกว่าเป็นนักเขียนที่ดีจริงๆ ‎คนเดียวในชีวิตฉันที่รักการเขียน 163 00:10:11,048 --> 00:10:15,802 ‎มีคนเดียวที่รักการเขียน คนที่รักการเขียน ‎ส่วนใหญ่เป็นนักเขียนที่ห่วยแตก 164 00:10:15,886 --> 00:10:19,222 ‎แน่นอนว่าพวกเขาชอบเขียน ‎ฉันก็ชอบร้องเพลง แต่ฉันเป็นนักร้องที่ห่วยแตก 165 00:10:19,306 --> 00:10:22,643 ‎ดังนั้นถ้าคุณชอบทำอะไรที่คุณทำได้ไม่ดีเลย ‎ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก 166 00:10:22,726 --> 00:10:23,935 ‎ประเด็นอยู่ตรงนี้ 167 00:10:24,019 --> 00:10:27,689 ‎คุณสามารถทำอะไรหลายอย่างที่คุณไม่เก่งได้ 168 00:10:27,773 --> 00:10:33,612 ‎และมันไม่ผิดเลยที่จะทำอะไร ‎ที่ไม่ชำนาญ หรือทำได้แย่ หรือเลวร้าย 169 00:10:33,695 --> 00:10:35,113 ‎แต่จงเก็บมันไว้กับตัว 170 00:10:35,197 --> 00:10:36,323 ‎อย่าเอาไปแบ่งปันใคร 171 00:10:36,948 --> 00:10:42,371 ‎ฉันคิดว่าคนเรามีหน้าที่ต้องแสดงให้โลกเห็นสิ่งที่… 172 00:10:43,747 --> 00:10:45,874 ‎ไม่ยิ่งใหญ่ คนส่วนใหญ่ทำแบบนั้นไม่ได้ 173 00:10:45,957 --> 00:10:48,460 ‎แต่ดีกว่าสิ่งที่คนส่วนใหญ่แสดงให้โลกเห็น 174 00:10:48,543 --> 00:10:51,338 ‎เดี๋ยวนี้ผู้คนแสดงทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆ 175 00:10:54,007 --> 00:10:56,218 ‎ในทางศีลธรรมก็ไม่มีอะไรผิดหรอก 176 00:10:57,344 --> 00:11:00,514 ‎แต่ฉันสงสัยว่าคนพวกนี้ที่… 177 00:11:00,597 --> 00:11:02,933 ‎คนที่ทำแบบนี้มาตลอด คนที่อายุน้อย 178 00:11:03,016 --> 00:11:04,851 ‎คนที่อยู่ในโลกนี้มาตลอด 179 00:11:05,811 --> 00:11:08,271 ‎ฉันอยากรู้ว่าพวกเขาจะตัดสินอะไรยังไง 180 00:11:09,439 --> 00:11:15,070 ‎นึกออกไหม และเพราะโดยพื้นฐานแล้ว ‎การสร้างความแตกต่างคืออาชีพของฉัน 181 00:11:15,153 --> 00:11:16,738 ‎และการตัดสินคืออาชีพของฉัน 182 00:11:17,239 --> 00:11:21,034 ‎ฉันคิดว่าไม่มีคนรุ่นใหม่ที่เป็นแบบฉัน 183 00:11:21,952 --> 00:11:23,787 ‎พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นเหมือนฉัน 184 00:11:23,870 --> 00:11:27,290 ‎ไม่ใช่ว่าชีวิตฉันโรยด้วยกลีบกุหลาบนะ ‎ไม่ใช่ว่าคนรักฉันในแบบที่ฉันเป็น 185 00:11:27,374 --> 00:11:29,710 ‎แต่พวกเขา… 186 00:11:30,836 --> 00:11:34,297 ‎พวกเขาวิจารณ์กันแบบบ้าคลั่งมาก 187 00:11:34,381 --> 00:11:37,217 ‎แบบว่า "ฉันเกลียดทรงผมคุณ คุณสมควรตาย" 188 00:11:37,300 --> 00:11:42,139 ‎นึกออกไหม หรือไม่ก็ยกย่องคนอื่นมากเกินไป 189 00:11:42,681 --> 00:11:45,892 ‎"เยี่ยมมาก คุณเยี่ยมมาก ‎ทำต่อไปนะ คุณเยี่ยมมาก" 190 00:11:46,518 --> 00:11:48,854 ‎ซึ่งถ้าเป็นฉันจะพูดว่า 191 00:11:49,438 --> 00:11:52,566 ‎"ทรงผมคุณเหรอ ไม่ควรมีใครถูกฆ่า ‎เพราะทรงผมของคุณ 192 00:11:52,649 --> 00:11:56,027 ‎แต่งานเขียนของคุณ หยุดเถอะ ‎อย่าทำต่อ คุณไม่เก่ง" 193 00:11:57,237 --> 00:12:01,199 ‎ฉันเคยถามคุณ เพราะคุณมักจะ ‎แสดงออกว่าคุณชอบเขียนหนังสือมากแค่ไหน 194 00:12:01,283 --> 00:12:03,368 ‎ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่นักเขียนมักจะพูด 195 00:12:03,910 --> 00:12:04,745 ‎(โทนี มอร์ริสัน) 196 00:12:04,828 --> 00:12:09,291 ‎ฉันถามว่าทำไมคุณถึงชอบเขียนหนังสือ คุณบอกว่า ‎"เพราะไม่อย่างนั้น ชีวิตฉันจะติดหนึบ" 197 00:12:11,334 --> 00:12:17,841 ‎ต้องขอบอกว่าหลังจากที่ฉันเขียนหนังสือ ‎เล่มแรกเสร็จ เรื่องดวงตาสีฟ้าสุดฟ้า 198 00:12:17,924 --> 00:12:23,513 ‎มีช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกที่ลึกซึ้งมากและฉัน… 199 00:12:23,597 --> 00:12:29,478 ‎ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ฉันคาดเดาความรู้สึกนั้นได้ ‎เมื่อฉันเขียนนิยายจบ 200 00:12:30,937 --> 00:12:33,315 ‎และเมื่อเขียนฉบับปรุบปรุงล่าสุดเสร็จ 201 00:12:33,398 --> 00:12:36,693 ‎เลือกแล้วเลือกอีกอยู่อย่างนั้น 202 00:12:36,777 --> 00:12:39,863 ‎ดูให้แน่ใจว่าเป็นคำนี้นะ ไม่ใช่คำนั้น 203 00:12:40,697 --> 00:12:41,782 ‎แต่มันเป็นเรื่องจริง 204 00:12:41,865 --> 00:12:46,953 ‎"ชีวิตติดหนึบ" อาจจะแรง ‎ไปหน่อยนะฟราน แต่มัน… 205 00:12:47,037 --> 00:12:48,997 ‎ฉันยกคำพูดคุณมานะ เป๊ะๆ เลย 206 00:12:51,208 --> 00:12:56,046 ‎สิ่งสำคัญที่นักเขียนต้องการ หรือจิตรกร ‎หรือศิลปินประเภทอื่นๆ คือพรสวรรค์ 207 00:12:56,129 --> 00:13:00,258 ‎และสิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับพรสวรรค์ ‎ก็คือมันเป็นสิ่งหนึ่ง 208 00:13:00,342 --> 00:13:01,718 ‎เป็นสิ่งเดียวที่ฉันคิดออกเลยละ 209 00:13:01,802 --> 00:13:07,015 ‎ที่ถูกแจกจ่ายไปให้ประชากรทั่วโลกแบบสุ่มจริงๆ 210 00:13:07,098 --> 00:13:11,144 ‎มันไม่เกี่ยวกับอะไรทั้งนั้น คุณซื้อมันไม่ได้ 211 00:13:11,228 --> 00:13:14,314 ‎คุณเรียนมันไม่ได้ คุณสืบทอดมันจากใครไม่ได้ 212 00:13:14,815 --> 00:13:17,234 ‎ไม่ได้ มันไม่ใช่กรรมพันธุ์ โอเคไหม 213 00:13:17,317 --> 00:13:21,988 ‎มันโปรยปรายไปเหมือนทรายทั่วโลก ‎และมันอาจเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ 214 00:13:22,072 --> 00:13:24,825 ‎แน่นอนว่ามีหลายที่ที่คุณอาจมีพรสวรรค์นี้ 215 00:13:24,908 --> 00:13:26,660 ‎แต่คุณไม่สามารถแสดงมันออกมาได้ 216 00:13:26,743 --> 00:13:29,246 ‎มีที่แบบนั้นเยอะมาก แต่… 217 00:13:30,580 --> 00:13:33,834 ‎และมันอาจเป็นเหตุผลที่คนเรามักจะ 218 00:13:33,917 --> 00:13:36,419 ‎โดยเฉพาะในประเทศนี้ 219 00:13:36,503 --> 00:13:41,174 ‎ที่มองหาคำอธิบายความสำเร็จของหนังสือหรือ… 220 00:13:41,258 --> 00:13:43,552 ‎ที่ว่า "ความสำเร็จ" ‎ฉันไม่ได้หมายถึงด้านการค้านะ 221 00:13:43,635 --> 00:13:44,719 ‎นอกเหนือจากพรสวรรค์ 222 00:13:45,804 --> 00:13:47,889 ‎เพราะมันทำให้คนโกรธ 223 00:13:49,683 --> 00:13:51,810 ‎อีดิธ วอร์ทันรวยแค่ไหนตอนเริ่มทำอาชีพนี้ 224 00:13:51,893 --> 00:13:54,271 ‎รวยมาก อีดิธ วอร์ทันรวยมาก 225 00:13:54,354 --> 00:13:56,982 ‎เธอรวยมหาศาล โอเคไหม 226 00:13:57,065 --> 00:14:00,569 ‎สิ่งสำคัญที่ทำให้อีดิธ วอร์ทัน ‎เป็นนักเขียนที่ยอดเยี่ยมคือพรสวรรค์ 227 00:14:01,069 --> 00:14:05,532 ‎แต่ข้อได้เปรียบของความร่ำรวย ‎และชนชั้นของเธอคือเหตุผลที่เรามีหนังสือเล่มนี้ 228 00:14:05,615 --> 00:14:07,033 ‎ซึ่งน่าประทับใจมาก 229 00:14:07,117 --> 00:14:11,746 ‎แต่มันหายากมากที่คนในชนชั้นนั้นจะเขียนหนังสือ 230 00:14:11,830 --> 00:14:15,125 ‎ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่เขียนถึงชนชั้นนั้น ‎จึงอยู่ข้างนอก 231 00:14:15,208 --> 00:14:17,794 ‎นั่นมัน… สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ 232 00:14:17,878 --> 00:14:20,297 ‎มีผู้หญิงรวยๆ อีกมากมาย 233 00:14:20,380 --> 00:14:23,717 ‎ในยุคของอีดิธ วอร์ทัน ‎และพวกเขาไม่ได้เขียนหนังสือพวกนี้ 234 00:14:23,800 --> 00:14:27,387 ‎ดังนั้นในเมื่อมีผู้หญิงรวยๆ อยู่ตลอด ‎ก็เป็นเรื่องดีที่จะมีแบบนี้สักคน 235 00:14:27,470 --> 00:14:32,601 ‎มีจดหมายฉบับหนึ่งที่ผมกำลังจะอ่าน ‎จากนิวยอร์กไทมส์ วันที่ 31 กรกฎาคม 236 00:14:33,226 --> 00:14:35,061 ‎ในบทความนี้ที่ผมอ่านเมื่อคืนก่อน 237 00:14:35,145 --> 00:14:39,524 ‎"ผู้บริหารในกระทรวงศึกษาธิการของเมือง ‎ยกเลิกการสอบทักษะการอ่าน 238 00:14:39,608 --> 00:14:42,694 ‎ที่ใช้ข้อความเรื่องเอจออฟอินโนเซนส์ ‎ของเอดิธ วอร์ทัน" 239 00:14:44,070 --> 00:14:47,490 ‎และข้อความที่เป็นปัญหาเริ่มต้นว่า ‎เครื่องหมายคำพูดเปิด 240 00:14:47,574 --> 00:14:53,788 ‎"เป็นที่เห็นพ้องกันโดยทั่วไปในนิวยอร์กว่า ‎เคาน์เตสโอเลนสกา 'สูญเสียความงามไป'" 241 00:14:55,665 --> 00:15:00,128 ‎คำร้องเรียนคือ เครื่องหมายคำพูดเปิด ‎"เด็กผู้หญิงคนใดที่สอบ" เครื่องหมายคำพูดปิด 242 00:15:00,712 --> 00:15:03,340 ‎จะประสบกับการพูดถึง ‎การสูญเสียความงามของคุณซึ่งเป็นการ 243 00:15:03,423 --> 00:15:05,425 ‎เครื่องหมายคำพูดเปิด "สะกิดต่อม" 244 00:15:06,718 --> 00:15:07,636 ‎เครื่องหมายคำพูดปิด 245 00:15:07,719 --> 00:15:11,806 ‎นี่ยังไม่พูดถึงพวกเคาน์เตส ที่อาจจะ… 246 00:15:12,432 --> 00:15:15,977 ‎ฉันคอยดูแลไม่ให้เคาน์เตสคนไหนโกรธอยู่เสมอ 247 00:15:17,812 --> 00:15:19,314 ‎นี่มันบ้าชัด ๆ 248 00:15:20,315 --> 00:15:22,734 ‎โอเคไหม แต่ฉันดีใจมากนะ 249 00:15:22,817 --> 00:15:27,656 ‎จะว่าไปนี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้พวกเขา ‎อ่านอีดิธ วอร์ทันได้ ดังนั้น… 250 00:15:31,576 --> 00:15:32,702 ‎(สตีวี วันเดอร์) (มาร์วิน เกย์) 251 00:15:32,786 --> 00:15:37,040 ‎ศิลปิน ถ้าเขาเป็นศิลปินจริงๆ ‎เขาสนใจแค่เรื่องเดียว 252 00:15:37,123 --> 00:15:40,585 ‎และนั่นคือการปลุกความคิดคน 253 00:15:41,211 --> 00:15:44,631 ‎เพื่อให้มนุษย์เพศชายและหญิงตระหนักรู้ 254 00:15:44,714 --> 00:15:49,386 ‎ว่ามีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เราเห็นบนพื้นผิว 255 00:15:49,469 --> 00:15:51,763 ‎(รีเมมเบอร์มาร์วินเกย์ ‎กำกับโดย อาร์. โอลิเวียร์) 256 00:15:51,846 --> 00:15:55,225 ‎มันจึงสะท้อนอยู่ในเพลงของศิลปินตัวจริงเสมอ 257 00:15:55,308 --> 00:15:57,060 ‎หรือผลงานของเขา ภาพวาดของเขา 258 00:16:13,743 --> 00:16:16,204 ‎เราจะไปที่ต้นเพลงเดี๋ยวนี้เลย ไปที่ต้นเพลง 259 00:16:16,287 --> 00:16:17,330 ‎ต้นเพลง 260 00:16:19,082 --> 00:16:20,583 ‎นี่คือคอร์ดวนซ้ำ 261 00:16:25,255 --> 00:16:28,383 ‎เราจะเล่นแบบนี้สี่่ชุด 262 00:16:30,010 --> 00:16:30,844 ‎ชอบว่ะ 263 00:16:43,064 --> 00:16:45,442 ‎ฉันเข้าใจว่าหลายๆ อย่างสร้างขึ้นมายังไง 264 00:16:45,525 --> 00:16:50,363 ‎ไม่ใช่ว่าฉันทำได้ แต่ฉันรู้ว่า ‎คุณวาดภาพยังไง คุณวาดรูปยังไง 265 00:16:50,447 --> 00:16:52,699 ‎แต่ฉันไม่รู้ว่าคุณแต่งเพลงยังไง 266 00:16:52,782 --> 00:16:54,784 ‎เอาละทุกคน เล่นให้ฉันรอบหนึ่ง 267 00:16:57,454 --> 00:17:00,915 ‎ฉันรู้ว่าคุณเขียนเนื้อเพลงยังไง ‎แต่ไม่รู้ว่าแต่งดนตรียังไง 268 00:17:00,999 --> 00:17:03,960 ‎และฉันนึกได้ว่าบางครั้งฉันก็ดูหนัง 269 00:17:04,043 --> 00:17:09,132 ‎ที่มีคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ของนักดนตรีดังๆ 270 00:17:09,758 --> 00:17:12,260 ‎และมีกล้องเต็มไปหมดที่ถ่ายอยู่ตรงนั้น 271 00:17:12,342 --> 00:17:14,721 ‎และคุณจะเห็นใบหน้าของผู้คน 272 00:17:14,803 --> 00:17:19,475 ‎และเวลาฉันเห็นภาพแบบนี้ ‎ฉันมักจะสนใจคนดูมาก 273 00:17:19,559 --> 00:17:20,935 ‎และฉันเห็นสิ่งนี้ และฉัน… 274 00:17:21,019 --> 00:17:25,148 ‎คุณเห็นว่าผู้คนมีความสุข ‎และซาบซึ้งกับดนตรีนี้มากแค่ไหน 275 00:17:25,732 --> 00:17:28,443 ‎โดยเฉพาะเพลงยอดนิยมในวัยเยาว์ของพวกเขา 276 00:17:28,526 --> 00:17:31,488 ‎ไม่สำคัญว่าเพลงยอดนิยมในวัยเด็กของพวกเขา 277 00:17:31,571 --> 00:17:36,826 ‎จะเป็นแฟรงก์ ซินาตราหรือบิลลี โจเอล ‎หรือเดวิด โบอี หรือคิวทิป 278 00:17:36,910 --> 00:17:39,954 ‎นี่คือ "จำตอนที่เราไปเดตกันครั้งแรกไม่ได้เหรอ 279 00:17:40,038 --> 00:17:41,456 ‎เพลงนี้ไง จำได้ไหม" 280 00:17:41,539 --> 00:17:43,792 ‎เรื่องนี้สำคัญกับผู้คนมาก 281 00:17:44,584 --> 00:17:47,253 ‎และพวกเขารักคนที่มอบสิ่งนี้ให้กับพวกเขา 282 00:17:47,337 --> 00:17:49,380 ‎และเรื่องทั้งหมดก็เป็นปริศนาสำหรับพวกเขา 283 00:17:49,464 --> 00:17:53,510 ‎ไม่มีใครได้รับความรักเหมือนนักดนตรี 284 00:17:53,593 --> 00:17:56,471 ‎ไม่มีศิลปะ… นักดนตรีเป็นที่รักของผู้คน 285 00:17:56,554 --> 00:17:58,139 ‎เป็นที่รักมาก 286 00:17:58,223 --> 00:18:03,770 ‎เพราะพวกเขามอบความสามารถ ‎ในการแสดงอารมณ์และความทรงจำให้กับคนฟัง 287 00:18:03,853 --> 00:18:05,772 ‎ศิลปะรูปแบบอื่นทำแบบนั้นไม่ได้ 288 00:18:05,855 --> 00:18:08,066 ‎ฉันคิดจริงๆ ว่านักดนตรี… 289 00:18:08,149 --> 00:18:10,485 ‎น่าจะมีนักดนตรีและพ่อครัวนี่แหละ 290 00:18:10,568 --> 00:18:13,780 ‎ที่ทำให้ชีวิตมนุษย์มีความสุขที่สุด 291 00:18:13,863 --> 00:18:19,661 ‎และเพลงโมทาวน์เป็นที่นิยมมากสมัยฉันเป็นวัยรุ่น 292 00:18:19,744 --> 00:18:22,497 ‎เวลาฉันได้ยินมันทีไร ฉันจะมีความสุขขึ้นทันที 293 00:18:23,039 --> 00:18:25,041 ‎มันทำให้ฉันมีความสุขมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย 294 00:18:25,125 --> 00:18:27,127 ‎นี่เป็นเรื่องจริงที่ไม่มีเหตุผลเลย 295 00:18:27,627 --> 00:18:31,548 ‎แล้วฉันคิดว่าโมทาวน์ ‎เป็นเพลงที่เจ๋งที่สุดในโลกรึเปล่า 296 00:18:31,631 --> 00:18:33,007 ‎ฉันไม่คิด 297 00:18:33,091 --> 00:18:36,928 ‎แต่ถ้าคุณถามฉันว่า "วินาทีที่คุณได้ยินเพลงนี้ ‎คุณมีความสุขขึ้นไหม" ฉันมีความสุขขึ้น 298 00:18:37,512 --> 00:18:40,765 ‎นั่นเป็นสิ่งสำคัญมากที่ต้องทำเพื่อมนุษย์ 299 00:18:40,849 --> 00:18:44,644 ‎ดนตรีทำให้คนมีความสุขมากขึ้น ‎และไม่เป็นอันตรายต่อพวกเขา 300 00:18:44,727 --> 00:18:46,646 ‎สิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นอันตราย 301 00:18:47,772 --> 00:18:49,023 ‎ดังนั้นมันพิเศษมาก 302 00:18:49,107 --> 00:18:51,442 ‎มันเหมือนยาเสพติดที่ไม่ทำให้คุณตาย 303 00:18:52,360 --> 00:18:58,241 ‎มีหลายอย่างที่ต้องพูดถึง ‎การได้สัมผัสกับศิลปินคนอื่นๆ 304 00:18:58,324 --> 00:18:59,200 ‎ได้ใช้เวลาร่วมกัน 305 00:18:59,284 --> 00:19:00,869 ‎การใช้เวลาร่วมกันเป็นเรื่องสำคัญ 306 00:19:00,952 --> 00:19:01,911 ‎มีร้านแม็กซ์และ… 307 00:19:01,995 --> 00:19:04,747 ‎ร้านแม็กซ์และอีกหลายล้านแห่ง ‎และอีกหลายล้านแห่งก่อนหน้านั้น 308 00:19:04,831 --> 00:19:08,543 ‎นั่นคือนิวยอร์ก นั่นคือปารีส ‎เป็นคนละช่วงเวลา คนละเมืองกัน 309 00:19:09,836 --> 00:19:11,045 ‎แต่มันสำคัญมาก 310 00:19:11,129 --> 00:19:14,215 ‎และฉันจำตอนที่ไมเคิล บลูมเบิร์ก ‎ออกกฎหมายการสูบบุหรี่นั่นได้ 311 00:19:15,383 --> 00:19:17,802 ‎และฉันก็ยังจะคุยกับเขา 312 00:19:17,886 --> 00:19:24,100 ‎ฉันถามว่า "คุณรู้ไหมว่า ‎ศิลปินที่นั่งเล่นในบาร์และร้านอาหาร 313 00:19:24,184 --> 00:19:26,811 ‎พูดคุย และดื่มเหล้า และสูบบุหรี่เรียกว่าอะไร" 314 00:19:26,895 --> 00:19:30,064 ‎เขาพูดว่า "อะไร" ฉันบอก ‎"มันเรียกว่าประวัติศาสตร์ศิลปะ" 315 00:19:30,148 --> 00:19:34,485 ‎คิดดูนะ ถ้าปิกาโซต้องลุกขึ้น ‎ออกไปสูบบุหรี่ข้างนอก 316 00:19:35,445 --> 00:19:36,988 ‎เขาอาจพลาดอะไรบางอย่างไป 317 00:19:37,071 --> 00:19:41,868 ‎คุณจะบอกว่านักกีฬาที่เก่ง ‎เทียบเท่ากับศิลปินที่เก่งไหม 318 00:19:44,078 --> 00:19:46,831 ‎ฉันจะบอกว่านักกีฬาที่เก่ง ‎เทียบเท่ากับนักเต้นที่เก่ง 319 00:19:48,166 --> 00:19:49,626 ‎แต่ไม่เท่ากับนักเขียนที่เก่ง 320 00:19:51,377 --> 00:19:52,253 ‎ผมไม่เห็นด้วย 321 00:19:52,837 --> 00:19:54,214 ‎ฉันรู้ แหม ตกใจจัง 322 00:19:56,174 --> 00:19:57,508 ‎ฉันอึ้งสุดๆ เลยเนี่ย 323 00:19:57,592 --> 00:19:59,219 ‎ผมจะบอกว่า สำหรับผม… 324 00:19:59,302 --> 00:20:02,430 ‎คนเดียวที่ไม่เห็นด้วยกับฉัน ‎มากพอๆ กับคุณคือญาติฉัน 325 00:20:02,513 --> 00:20:09,020 ‎ผมไม่… ไมเคิล จอร์แดนเทียบเท่ากับซินาตรา 326 00:20:09,103 --> 00:20:10,438 ‎ไมเคิลแองเจโล… 327 00:20:12,649 --> 00:20:15,068 ‎เคาท์ เบซี ดุค เอลลิงตัน 328 00:20:15,735 --> 00:20:18,238 ‎เขาอยู่ในระดับนั้น และคุณ… สำหรับผมนะ! 329 00:20:18,321 --> 00:20:22,325 ‎เขาอาจอยู่ในระดับนั้นในกีฬาของเขา ‎ฉันไม่ได้บอกว่าไม่อยู่ ฉันไม่รู้ 330 00:20:22,408 --> 00:20:25,328 ‎ทุกคนบอกว่าเขาเป็นนักบาสที่เก่งที่สุด ‎ฉันเชื่อคุณ 331 00:20:25,411 --> 00:20:27,789 ‎ฉันจะไม่เถียงกับคุณเรื่องนั้น 332 00:20:27,872 --> 00:20:30,917 ‎แต่มันไม่ใช่ว่าเขาแค่เก่ง… แต่เป็นคนที่… คือแบบ 333 00:20:31,417 --> 00:20:37,757 ‎ไม่ว่าคุณจะทำงานในสาขาไหน ‎เมื่อคุณไปถึงระดับนั้น มันเหมือนเป็นพวกขั้นเทพ 334 00:20:37,840 --> 00:20:40,843 ‎แน่นอน ฉันเห็นด้วย พวกเขาอยู่ในระดับสูงสุด 335 00:20:40,927 --> 00:20:45,848 ‎แต่ 40 ปีหลังจากที่เขาตาย ‎จะไม่มีใครฟังบันทึกของไมเคิล จอร์แดน 336 00:20:45,932 --> 00:20:47,725 ‎เหมือนที่คุณฟังเพลงของดุค เอลลิงตันได้ 337 00:20:47,809 --> 00:20:50,645 ‎คุณมีดุค เอลลิงตันได้เสมอ เพราะมันมี… 338 00:20:50,728 --> 00:20:52,981 ‎ไม่ใช่แค่บันทึกในแง่ของแผ่นเสียงนะ 339 00:20:53,064 --> 00:20:54,565 ‎มันมีบันทึกการทำงานของเขา 340 00:20:54,649 --> 00:20:58,736 ‎งานก็เหมือนกัน ‎ไมเคิล จอร์แดนไม่ได้เล่นบาสเกตบอลต่อ 341 00:20:58,820 --> 00:21:00,488 ‎เขาไม่ได้ทิ้งบันทึกที่ถาวรไว้ 342 00:21:00,571 --> 00:21:03,032 ‎คุณดูการแข่งบาสเกตบอลเก่าๆ ‎ของไมเคิล จอร์แดนไหม 343 00:21:03,116 --> 00:21:04,033 ‎ก็ดูได้นะ 344 00:21:04,117 --> 00:21:05,076 ‎ฉันรู้ว่าดูได้ 345 00:21:05,159 --> 00:21:08,371 ‎โอเคไหม ฉันรู้ว่าคุณอาจจะดู แต่คุณดูไหม 346 00:21:08,997 --> 00:21:11,416 ‎ความตื่นเต้นมันอยู่ตรงที่เกมจบยังไงไม่ใช่เหรอ 347 00:21:11,916 --> 00:21:13,042 ‎- ใช่ แต่… ‎- คุณรู้ผลแล้ว 348 00:21:13,126 --> 00:21:14,002 ‎แต่หลังจาก… 349 00:21:14,502 --> 00:21:17,630 ‎ปิกาโซยังวาดรูปอยู่รึเปล่า ‎เขายังวาดรูปอยู่รึเปล่า 350 00:21:17,714 --> 00:21:20,717 ‎เปล่า แต่รูปที่เรามีเป็นรูปเดียวกับที่เขาวาด 351 00:21:21,801 --> 00:21:24,095 ‎- หมายความว่าไง ‎- ไม่มีอะไรน่าสงสัยเลย 352 00:21:24,178 --> 00:21:28,266 ‎คุณจะไม่พูดว่า "มันออกมาได้ยังไง ‎นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ดูรูปของปิกาโซ 353 00:21:28,349 --> 00:21:31,519 ‎แต่เหตุผลหนึ่งที่คุณดูการแข่งบาส ‎ก็เพื่อดูว่าใครจะชนะไม่ใช่เหรอ 354 00:21:31,602 --> 00:21:35,231 ‎ถ้าคุณรู้แล้วว่าใครชนะ ‎ไมเคิล จอร์แดนชนะไปแล้ว คุณดูซ้ำอีกครั้งไหม 355 00:21:35,315 --> 00:21:38,776 ‎ดูสิ คุณจะคิดว่า "เขาทำแบบนั้นได้ยังไงวะ" 356 00:21:38,860 --> 00:21:41,821 ‎โอเค นั่นคงเป็นวิธีการดูการแข่งบาสแบบหนึ่ง 357 00:22:09,682 --> 00:22:11,517 ‎ไปต่อกันที่ภาพวาดสตรีแห่งอัลเจียร์ส 358 00:22:11,601 --> 00:22:13,603 ‎สตรีแห่งอัลเจียร์สของปิกาโซ ภาพวาดสุดวิเศษ 359 00:22:13,686 --> 00:22:16,981 ‎เปิดที่เท่าไหร่ดี ‎เปิดที่ 100 ล้านดอลลาร์ 100 ล้าน 360 00:22:17,065 --> 00:22:18,441 ‎หนึ่งร้อยห้าล้าน 361 00:22:18,524 --> 00:22:24,530 ‎ปิกาโซผู้ยิ่งใหญ่ ภาพเปลือย ใบไม้สีเขียว ‎และรูปปั้นครึ่งตัว จากปี 1932 เริ่มที่ 58 ล้าน 362 00:22:24,614 --> 00:22:29,035 ‎ทำไมล่ะ 129 ล้าน ‎ใครจะให้ผม 130 บ้าง หมายเลข 47 อาจจะสู้ 363 00:22:29,118 --> 00:22:31,996 ‎ที่ 92 ล้านดอลลาร์… 93 ล้าน 364 00:22:32,080 --> 00:22:35,583 ‎รอเดี๋ยว 147 เห็นไหมครับ 147 365 00:22:35,666 --> 00:22:38,419 ‎เก้าสิบสามล้าน กับคุณคนนี้ 366 00:22:38,503 --> 00:22:41,047 ‎ไม่ต้องรอ 147 ผมจะขายให้คุณเลย 367 00:22:41,130 --> 00:22:46,636 ‎เก้าสิบห้าล้านดอลลาร์ ‎โอกาสสุดท้ายที่ 95… 95 ล้าน 368 00:22:48,554 --> 00:22:52,558 ‎เป็นการประมูลที่กล้าหาญมาก ขอบคุณมากครับ ‎อยู่ที่ 160 ล้านดอลลาร์ครับทุกท่าน 369 00:22:52,642 --> 00:22:57,480 ‎ขอเตือนนะครับ สตรีแห่งอัลเจียร์สของปิกาโซ ‎ขายที่นี่ ที่คริสตี้ 370 00:22:57,563 --> 00:22:59,440 ‎หนึ่งร้อยหกสิบล้านดอลลาร์ 371 00:23:00,274 --> 00:23:01,275 ‎เป็นของคุณแล้ว ขาย 372 00:23:02,944 --> 00:23:06,906 ‎คุณคิดว่าในแง่ของวัฒนธรรมของเราตอนนี้ ‎ศิลปะรูปแบบไหน 373 00:23:06,989 --> 00:23:11,035 ‎ที่… พูดยังไงดี ขาดแคลนมากที่สุดในตอนนี้ 374 00:23:11,869 --> 00:23:13,579 ‎- หมายถึงแบบไหนแย่ที่สุดใช่ไหม ‎- ใช่ 375 00:23:13,663 --> 00:23:14,497 ‎ใช่นะ 376 00:23:17,417 --> 00:23:18,584 ‎ใช่ 377 00:23:18,668 --> 00:23:21,170 ‎- การแข่งขันมันสูง ‎- ใช่ มันยาก 378 00:23:23,339 --> 00:23:26,134 ‎อะไรมีโอกาสใช้เล่ห์กลได้มากที่สุดล่ะ 379 00:23:26,217 --> 00:23:32,014 ‎ฉันขอตอบว่าทัศนศิลป์ หรือที่เราเรียกว่าทัศนศิลป์ 380 00:23:32,807 --> 00:23:37,103 ‎และแน่นอน หนึ่งในไม่กี่อย่าง… ‎ฉันไม่ใช่คนเดียวที่คิดแบบนั้น 381 00:23:37,186 --> 00:23:40,064 ‎ฉันคิดว่าเรื่องนี้มีคนเห็นด้วยเยอะมาก 382 00:23:40,148 --> 00:23:41,441 ‎มันค่อนข้างขี้โกงน่ะ 383 00:23:42,066 --> 00:23:43,234 ‎ใช่ 384 00:23:44,235 --> 00:23:45,528 ‎- เห็นด้วยไหม ‎- ผมเห็นด้วย 385 00:23:45,611 --> 00:23:50,324 ‎แต่ผมเอาแต่คิดถึงราคา ‎และความพิเศษ ใช่ ความขี้โกง 386 00:23:50,408 --> 00:23:52,869 ‎- นั่นคือสิ่งที่เราได้ยิน ราคา ‎- ราคา 387 00:23:52,952 --> 00:23:59,041 ‎ถ้าคุณไปงานประมูล ‎เวลารูปของปิกาโซออกมา เงียบกริบ 388 00:24:00,251 --> 00:24:03,087 ‎แต่พอค้อนทุบราคาปุ๊บ คนปรบมือ 389 00:24:03,838 --> 00:24:07,383 ‎โอเคไหม เราอยู่ในโลกที่พวกเขา ‎ปรบมือให้ราคา ไม่ใช่ปิกาโซ 390 00:24:07,467 --> 00:24:08,509 ‎ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว 391 00:24:13,014 --> 00:24:14,640 ‎โอเคไหม ฉันหมายถึง… 392 00:24:14,724 --> 00:24:18,102 ‎พวกเขาปรบมือให้ราคา พวกเขาควรปรบมือ ‎ตอนที่รูปของปิกาโซออกมาสิ 393 00:24:18,186 --> 00:24:20,271 ‎- ผมรู้ ‎- เขาวาดรูปเก่งไม่ใช่เหรอ 394 00:24:22,899 --> 00:24:24,859 ‎ไม่ใช่ "คุณซื้อเก่งไม่ใช่เหรอ" 395 00:24:40,625 --> 00:24:41,709 ‎ว้าว! 396 00:24:56,516 --> 00:24:59,101 ‎ฉันไปคลับแจ๊สบ่อยมากตอนรุ่นๆ 397 00:24:59,185 --> 00:25:01,646 ‎สมัยที่มีนักดนตรีแจ๊สเก่งๆ หลายคน 398 00:25:02,146 --> 00:25:06,651 ‎ฉันน่าจะเห็นนักดนตรีแจ๊สเก่งๆ ‎มีชีวิตอยู่ครบทุกคนในชีวิตฉัน 399 00:25:06,734 --> 00:25:08,945 ‎- หลายครั้งด้วย ‎- คุณชอบใคร 400 00:25:09,028 --> 00:25:11,364 ‎- ฉันว่ามิงกัสนะ ‎- ชาร์ลี มิงกัสเหรอ 401 00:25:11,447 --> 00:25:12,823 ‎ฉันรู้จักเขาค่อนข้างดี 402 00:25:12,907 --> 00:25:14,075 ‎เอาปืนมาทำอะไร 403 00:25:15,368 --> 00:25:19,121 ‎มีคนปล้นผม พวกมันบุกเข้ามา ‎และเอาทุกอย่างไปวันที่ผมย้ายมาวันแรก 404 00:25:24,210 --> 00:25:25,127 ‎ใครปล้นคุณ 405 00:25:27,463 --> 00:25:29,549 ‎มิตรหรือศัตรูไม่รู้ ผมไม่รู้ 406 00:25:30,132 --> 00:25:33,511 ‎ต้องเป็นเพื่อนแหละ ‎เพราะมันตรงไปที่กล่องอัญมณีของผมเลย 407 00:25:34,720 --> 00:25:38,724 ‎ต้องเป็นคนที่รู้จักผม ‎ใครสักคน ไม่ใช่เพื่อน แต่เป็นคนใกล้ชิด 408 00:25:41,310 --> 00:25:42,812 ‎เขาเคยยิงเท้าตัวเอง 409 00:25:42,895 --> 00:25:46,482 ‎เพราะภรรยาของเขา ‎ซึ่งตอนนั้นเป็นแฟนของเขา เลิกกับเขา 410 00:25:46,566 --> 00:25:48,109 ‎เขาเลยยิงเท้าตัวเอง 411 00:25:48,192 --> 00:25:50,945 ‎แล้วเดินเลือดไหล ‎ขึ้นบันไดไปบนอะพาร์ตเมนต์ของเธอ 412 00:25:51,028 --> 00:25:52,446 ‎เพื่อให้เห็นว่าเธอทำอะไรกับเขา 413 00:25:52,947 --> 00:25:55,157 ‎จงใจยิงเท้าตัวเอง 414 00:25:56,492 --> 00:26:01,122 ‎ฉันเป็นเพื่อนกับชาลส์ ‎เพราะภรรยาของเขาเป็นเจ้าของนิตยสาร… 415 00:26:01,205 --> 00:26:03,499 ‎หนังสือพิมพ์ พวกเขาเรียกว่าหนังสือพิมพ์ใต้ดิน 416 00:26:03,583 --> 00:26:06,877 ‎เป็นเจ้าของนิตยสารฉบับแรกในแบบที่ 417 00:26:06,961 --> 00:26:10,381 ‎เป็นหนังสือพิมพ์พับสี่ทบที่ฉันทำงานให้ตอนอายุ 19 418 00:26:10,464 --> 00:26:12,592 ‎เธอเป็นเจ้าของมัน ฉันเลยรู้จักเขา 419 00:26:12,675 --> 00:26:13,926 ‎สอง สาม สี่ 420 00:26:24,604 --> 00:26:27,857 ‎เขาเป็นคนอารมณ์ร้อนมาก อารมณ์ร้อนสุดๆ 421 00:26:27,940 --> 00:26:31,235 ‎เขาเคยโกรธฉันครั้งหนึ่ง ‎ตอนอยู่ระหว่างการแสดงที่แวนการ์ด 422 00:26:31,319 --> 00:26:34,530 ‎พอเขาเห็นฉัน เขากระโดดลงมาจากเวที ‎วิ่งขึ้นบันได… 423 00:26:34,614 --> 00:26:38,159 ‎และเขาอ้วนนะ เขาไม่ใช่ผู้ชายแนวนักกีฬา 424 00:26:38,242 --> 00:26:42,455 ‎และฉันคิดว่าเขาแก่แล้ว น่าจะอายุ 40 ปลายๆ 425 00:26:42,580 --> 00:26:46,208 ‎แต่ฉันยังเด็กอยู่ ประมาณ 19 แต่วิ่งไม่เก่งเลย 426 00:26:46,292 --> 00:26:50,838 ‎และเขาวิ่งตามฉัน ตะโกนใส่ฉัน ‎ไปตามเซเวนท์อะเวนิว 427 00:26:50,921 --> 00:26:52,548 ‎จนเกือบถึงถนนคานาล 428 00:26:52,632 --> 00:26:56,510 ‎จนในที่สุดฉันวิ่งต่อไม่ไหวแล้ว ‎และฉันล้มลงไปบนถนน 429 00:26:57,011 --> 00:26:59,764 ‎แล้วเขาก็… ซึ่งเขาควรเล่นดนตรีอยู่นะ 430 00:26:59,847 --> 00:27:02,433 ‎คนที่เหลือในวงอยู่บนเวทีที่แวนการ์ด 431 00:27:02,516 --> 00:27:04,477 ‎ซึ่งตอนนี้อยู่ห่างออกไป 20 ช่วงตึก 432 00:27:04,560 --> 00:27:07,188 ‎ฉันล้มลงแบบนี้ แล้วเขาก็ล้มลง 433 00:27:07,271 --> 00:27:10,483 ‎แล้วเขาก็นั่งลงและมองฉัน ‎เขาพูดว่า "อยากไปกินข้าวไหม" 434 00:27:12,526 --> 00:27:13,736 ‎ฉันเลยชี้ให้เขาเห็นว่า 435 00:27:13,819 --> 00:27:18,115 ‎"คุณอยู่ระหว่างการแสดงนะ และคนมาดูคุณ" 436 00:27:18,199 --> 00:27:23,287 ‎เขาเป็นนักกินชื่อดังขนาดที่ว่า ‎การเดินผ่านไชน่าทาวน์กับเขา 437 00:27:23,371 --> 00:27:26,582 ‎จะมีเชฟออกมาจากชั้นใต้ดินเพื่อปรบมือให้เขา 438 00:27:27,124 --> 00:27:29,418 ‎สิ่งนี้ทำให้แม่ฉันรักเขา 439 00:27:29,502 --> 00:27:31,295 ‎เขามาที่บ้านพ่อแม่ฉันในวันขอบคุณพระเจ้า 440 00:27:31,379 --> 00:27:32,254 ‎- จริงเหรอ ‎- จริง 441 00:27:32,338 --> 00:27:34,674 ‎แม่ฉันรักเขา เขากินเก่งมาก 442 00:27:36,175 --> 00:27:38,552 ‎แม่บอกว่า "อีตาชาลส์นั่นกินเก่งจริงๆ" 443 00:27:38,636 --> 00:27:40,554 ‎เขาไม่ได้แค่เติมอาหารหลายจานนะ 444 00:27:40,638 --> 00:27:43,265 ‎แต่หลังจากนั้น เขายังเข้าไปในครัว ‎และกินไก่งวงจนหมด 445 00:27:44,892 --> 00:27:48,396 ‎คนส่วนใหญ่มองว่าเขาเป็นอัจฉริยะด้านดนตรี ‎แม่ฉันมองว่าเขาเป็นคนกินเก่ง 446 00:27:49,814 --> 00:27:52,108 ‎- ฉันเคยกินมื้อเช้ากับดุค เอลลิงตัน ‎- ครับ 447 00:27:52,191 --> 00:27:54,860 ‎- กับชาลส์ และ… ‎- ที่ไหนครับเนี่ย 448 00:27:54,944 --> 00:27:57,488 ‎ร้านรูเบนส์ ซึ่งเคยเป็นร้านอาหารที่เปิดทั้งคืน 449 00:27:57,571 --> 00:28:00,241 ‎ซึ่งเคยตั้งอยู่บนถนนสาย 58 และฟิฟท์อะเวนิว 450 00:28:00,324 --> 00:28:05,746 ‎และดุค เอลลิงตันเป็นคนเดียว ‎ที่ฉันเห็นชาลส์ มิงกัสยอมเชื่อฟัง 451 00:28:06,664 --> 00:28:11,377 ‎สมัยที่ชาลส์หนุ่มๆ เขาเล่นในวง ‎ของดุค เอลลิงตัน และถูกไล่ออก 452 00:28:12,128 --> 00:28:16,590 ‎และชาลส์เป็นคนที่จองหองมาก 453 00:28:17,508 --> 00:28:19,510 ‎เขาไม่อยากให้ใครพูดกับเขา 454 00:28:19,593 --> 00:28:22,054 ‎เขาดูถูกคนส่วนใหญ่ 455 00:28:22,138 --> 00:28:25,891 ‎และคนเดียวที่ฉันเห็นเขา ‎ยอมเชื่อฟังคือดุค เอลลิงตัน 456 00:28:25,975 --> 00:28:29,353 ‎เขาเคารพดุค เอลลิงตันมาก ‎จนแทบไม่กล้ามองหน้าเขา 457 00:28:29,854 --> 00:28:32,982 ‎และดุค เอลลิงตันตะโกนใส่เขา "ชาลส์!" 458 00:28:33,065 --> 00:28:37,111 ‎"ขอโทษครับ ดุค" เหมือนเป็นคนละคนเลย 459 00:28:37,194 --> 00:28:39,947 ‎เหมือนแบบ "เกิดอะไรขึ้นกับชาลส์" ‎นึกออกไหม 460 00:28:40,030 --> 00:28:42,366 ‎ดูเหมือนว่าทุกคนจะมีคนแบบนั้นในชีวิต 461 00:28:42,450 --> 00:28:47,496 ‎ไม่ว่าพวกเขาจะจองหองแค่ไหน ‎หรือยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม 462 00:28:48,831 --> 00:28:51,834 ‎ในความคิดของฉัน ‎ชาลส์เป็นศิลปินที่ยอดเยี่ยมมาก 463 00:28:51,917 --> 00:28:54,754 ‎แต่ในความคิดของชาลส์ ดุค เอลลิงตันสำคัญกว่า 464 00:29:09,894 --> 00:29:13,939 ‎ถ้าคุณชื่นชมผลงานของใครสักคน ‎คุณซึมซับมันเข้าไปจำนวนหนึ่ง 465 00:29:14,815 --> 00:29:18,444 ‎ตอนนี้มันกำลังมาถึงจุดที่นักแต่งเพลงร่วมสมัย… 466 00:29:18,527 --> 00:29:20,029 ‎(ดุค เอลลิงตัน) (ลีโอนาร์ด เบิร์นสไตน์) 467 00:29:20,112 --> 00:29:24,784 ‎และคนที่ควรจะเป็นนักแต่งเพลงแจ๊สสมัยใหม่ 468 00:29:25,743 --> 00:29:28,078 ‎พวกเขาจบมาจากโรงเรียนดนตรีเดียวกัน 469 00:29:28,162 --> 00:29:28,996 ‎ใช่เลย 470 00:29:29,079 --> 00:29:32,333 ‎และมันยากมากที่จะหาว่า ‎ขอบเขตที่รับได้อยู่ตรงไหน 471 00:29:32,416 --> 00:29:35,169 ‎แต่แน่นอนว่าคุณเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกเรื่องนั้น 472 00:29:35,252 --> 00:29:37,129 ‎แต่ผมไม่ได้จบมาจากโรงเรียนดนตรี 473 00:29:37,213 --> 00:29:42,009 ‎ใช่ แต่คุณเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรก ‎ที่แต่งเพลงที่เรียกว่าซิมโฟนิกแจ๊ส 474 00:29:42,092 --> 00:29:45,054 ‎ผมมีโรงเรียนดนตรีอยู่ในแคปิตอลเธียร์เตอร์ 475 00:29:45,137 --> 00:29:46,639 ‎ใช่แล้ว ใช่เลย 476 00:29:46,722 --> 00:29:48,682 ‎ฟังเพลงซิมโฟนีก่อนดูหนัง 477 00:29:48,766 --> 00:29:50,976 ‎บางทีนั่นอาจเป็นสิ่งที่เราแตกต่างกันจริงๆ 478 00:29:51,060 --> 00:29:54,730 ‎ตรงที่คุณแต่งเพลงซิมโฟนิกแจ๊ส ‎ส่วนผมแต่งเพลงแจ๊สซิมโฟนี 479 00:29:56,232 --> 00:29:57,900 ‎- รักคุณนะพวก ‎- อะไรแบบนั้น 480 00:30:10,371 --> 00:30:11,997 ‎เห็นกระดุมข้อมือคาลเดอร์ของฉันไหม 481 00:30:12,540 --> 00:30:16,710 ‎แซนดี้ โรเวอร์ให้ฉันยืม ‎เธอเป็นหลานของอเล็กซานเดอร์ คาลเดอร์ 482 00:30:16,794 --> 00:30:18,838 ‎เขาทำกระดุมนี่ด้วยมือของเขาเอง 483 00:30:18,921 --> 00:30:23,801 ‎ไม่ได้ออกแบบลายเส้นของกระดุมข้อมือ ‎เหมือนที่ศิลปินทำกันสมัยนี้ เขาทำมันขึ้นมาเลย 484 00:30:23,884 --> 00:30:27,179 ‎เขาคงทำไว้ใช้เองนั่นแหละ คาลเดอร์น่ะ 485 00:30:27,263 --> 00:30:31,058 ‎เขาไม่ได้ทำให้ฟราน ‎เขาทำเครื่องประดับเยอะมาก 486 00:30:31,141 --> 00:30:34,144 ‎มีการแสดงที่เดอะเม็ต ‎แสดงเครื่องประดับของคาลเดอร์เท่านั้น 487 00:30:34,228 --> 00:30:35,563 ‎และมันวิเศษมาก 488 00:30:35,646 --> 00:30:38,607 ‎และมีชีวประวัติของคาลเดอร์ที่น่าทึ่งมาก 489 00:30:38,691 --> 00:30:41,610 ‎น้องสาวของเขา ตอนเขาอายุเจ็ดขวบ 490 00:30:41,694 --> 00:30:45,114 ‎ให้คีมอันหนึ่งกับเขา ‎ในวันคริสต์มาสและเขาเขียนถึงเรื่องนี้ 491 00:30:45,197 --> 00:30:48,826 ‎"นี่คือคริสต์มาสที่ดีที่สุดในชีวิตผม ‎ผมได้คีมมาหนึ่งอัน!" 492 00:30:48,909 --> 00:30:51,203 ‎และเขาใช้มันทำสิ่งเหล่านี้ 493 00:30:51,287 --> 00:30:54,540 ‎และฉันคิดว่ากระดุมนี้อาจทำด้วยคีมอันเดียวกัน 494 00:30:54,623 --> 00:30:57,084 ‎ฉันคิดว่ามันน่าทึ่งมาก 495 00:30:58,127 --> 00:31:00,296 ‎คำบรรยายโดย กมลรัตน์ ชุติเชาวน์กุล