1 00:00:08,258 --> 00:00:12,598 ‎บางทีในจุดหนึ่งของอาชีพการงาน ‎ฉันสามารถแสดงเป็นตัวละคร 2 00:00:12,679 --> 00:00:16,429 ‎และสร้างสถานการณ์ ‎ที่เชื่อมโยงกับชีวิตของฉันได้ 3 00:00:16,516 --> 00:00:18,016 ‎ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด 4 00:00:19,686 --> 00:00:22,056 ‎แต่ฉันต้องเขียนมันจากสิ่งที่ฉันเคยเผชิญ 5 00:00:22,564 --> 00:00:24,864 ‎ดูว่ามีทางไหนที่จะแสดงตัวตนของฉันได้ 6 00:00:24,941 --> 00:00:27,441 ‎และทำให้เพลงมีความซื่อตรง ‎และจริงใจอย่างแท้จริง 7 00:00:28,111 --> 00:00:32,241 ‎ดังนั้น ตราบใดที่ฉันมีเรื่องราว ฉันจะเล่ามัน 8 00:00:33,658 --> 00:00:36,488 ‎ดัว ลิปาเป็นนักร้อง ‎และนักแต่งเพลงจากลอนดอน 9 00:00:36,578 --> 00:00:39,788 ‎ผู้ซึ่งเริ่มทำงานด้านดนตรีตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น 10 00:00:39,873 --> 00:00:44,133 ‎ในปี 2018 เธอได้รับรางวัลบริตอะวอร์ด ‎สาขาศิลปินหญิงเดี่ยวยอดเยี่ยม 11 00:00:44,210 --> 00:00:47,300 ‎และปีถัดมา เธอได้รับรางวัลแกรมมี่ ‎สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม 12 00:00:47,380 --> 00:00:49,090 ‎และอัลบั้มเปิดตัวมียอดขายระดับแพลทินัม 13 00:00:49,466 --> 00:00:51,586 ‎สำหรับอัลบั้มที่สอง ฟิวเจอร์ นอสตัลเจีย 14 00:00:51,676 --> 00:00:54,506 ‎เธอได้เชิญคนที่เคยทำงานร่วมกันก่อนหน้านั้น 15 00:00:54,596 --> 00:00:57,716 ‎มาช่วยสร้างชุดเพลงที่ย้อนให้เห็นถึงที่มาของเธอ 16 00:00:57,807 --> 00:01:00,437 ‎และมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายที่เธอหวังไว้ 17 00:01:00,518 --> 00:01:03,188 ‎แต่สำหรับเพลง "เลิฟ อะเกน" ‎แรงบันดาลใจเริ่มต้น 18 00:01:03,271 --> 00:01:05,361 ‎มาจากความรู้สึกของเธอในตอนนั้น 19 00:01:08,151 --> 00:01:11,201 ‎ผมริชชิเกช เฮียร์เวย์ ‎นี่คือ ซอง เอ็กซโพลเดอร์ 20 00:01:11,946 --> 00:01:13,656 ‎ผลงานซีรีส์สารคดีจาก NETFLIX 21 00:01:23,500 --> 00:01:25,420 ‎- โอเค กล้องเดิน ‎- เหรอคะ 22 00:01:25,502 --> 00:01:27,092 ‎- ครับ เริ่มได้เลย ‎- เอาเลย 23 00:01:27,170 --> 00:01:28,170 ‎โอเค 24 00:01:28,254 --> 00:01:31,514 ‎ช่วยเล่าถึงวันที่คุณเริ่มทำเพลงนี้หน่อยได้ไหมครับ 25 00:01:31,591 --> 00:01:35,101 ‎ฉันถูกรุมเร้าด้วยปัญหาส่วนตัวที่โคตรเฮงซวย 26 00:01:35,178 --> 00:01:37,098 ‎ไม่รู้ว่าฉันพูดคำนี้ได้ไหม 27 00:01:37,722 --> 00:01:39,522 ‎ฉันกำลังเจอปัญหาส่วนตัวที่โคตรเฮงซวย 28 00:01:40,558 --> 00:01:43,058 ‎ฉันไปทำงานสายแล้วก็เจอเรื่องห่วยๆ 29 00:01:43,144 --> 00:01:45,984 ‎แล้วเมื่อฉันเข้าไปในสตูดิโอฉันก็พูดว่า "โอเค 30 00:01:46,731 --> 00:01:49,901 ‎บางทีบางอย่างก็ต้องจบ 31 00:01:49,984 --> 00:01:54,494 ‎และฉันต้องแสดงพลังบวกใหม่ๆ ในชีวิต" 32 00:01:54,572 --> 00:01:56,372 ‎ฟังดูเหมือนฉันกำลังบอกรหัสลับอยู่รึเปล่า 33 00:01:56,449 --> 00:01:59,869 ‎เพราะแน่นอนว่าฉันพูดถึงความสัมพันธ์ ‎ฉันพูดถึงความรัก 34 00:02:01,871 --> 00:02:06,041 ‎ฉันอยู่ในช่วงที่มีความสัมพันธ์ระยะยาวกับ… 35 00:02:08,336 --> 00:02:10,376 ‎คนที่ฉันคิดว่าไม่ค่อยซื่อสัตย์กับฉัน 36 00:02:10,964 --> 00:02:14,594 ‎และฉันคิดว่า "ฉันต้องออกจากเรื่องนี้ ‎และนี่ไม่ค่อย… 37 00:02:15,718 --> 00:02:16,888 ‎ดีต่อฉัน" 38 00:02:16,970 --> 00:02:20,390 ‎ฉันมองตัวเองเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งแบบนั้น 39 00:02:21,141 --> 00:02:24,061 ‎แต่มีหลายช่วงเวลาที่ ‎ฉันพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพ… 40 00:02:24,144 --> 00:02:26,104 ‎ที่แม้แต่ฉันยังจำตัวเองไม่ได้ 41 00:02:27,313 --> 00:02:30,023 ‎เมื่อคุณคบกับใครสักคน ‎จนมีความสัมพันธ์ที่สนิทชิดเชื้อ 42 00:02:30,108 --> 00:02:32,398 ‎และอยู่ด้วยกันมานานจนมันพัง 43 00:02:32,485 --> 00:02:36,155 ‎มันเหมือนกับว่าไม่มีทางแล้ว ‎ที่คุณจะหาหรือมีโอกาส 44 00:02:36,239 --> 00:02:38,369 ‎ที่จะพูดได้ว่า "ฉันมีความรักอีกครั้ง" 45 00:02:38,449 --> 00:02:41,829 ‎และดัวรู้สึกเหมือนสูญเสียพลังไป 46 00:02:41,911 --> 00:02:45,711 ‎คอฟฟี่เป็นนักแต่งเพลงผู้น่าทึ่ง ‎ที่ฉันได้ร่วมงานด้วย 47 00:02:45,790 --> 00:02:48,210 ‎ตั้งแต่ที่ฉันเริ่มแต่งเพลงอย่างจริงจัง 48 00:02:49,127 --> 00:02:55,087 ‎คอฟฟี่เป็นดั่งแสงนำทางจิตวิญญาณของฉัน ‎เราอยู่เคียงข้างกันเสมอ 49 00:02:55,175 --> 00:02:59,135 ‎โดยเฉพาะเมื่อมีเรื่องรักๆ ใคร่ ๆ ‎เข้ามาเกี่ยวข้อง 50 00:02:59,762 --> 00:03:01,012 ‎เธอเหมือนคนในครอบครัวผม 51 00:03:01,097 --> 00:03:04,057 ‎เธอผ่านอะไรมามากมาย ‎ในมุมที่เป็นเรื่องส่วนตัว 52 00:03:04,142 --> 00:03:05,892 ‎และเธออยากแสดงความรู้สึกออกมา 53 00:03:06,895 --> 00:03:10,975 ‎คอฟฟี่บอกว่า "เราน่าจะเริ่ม ‎เขียนมันลงไปในเพลง" 54 00:03:11,065 --> 00:03:14,315 ‎- มันพรั่งพรูออกมาอยู่ในห้อง ‎- ใช่ 55 00:03:18,156 --> 00:03:21,656 ‎ผมเข้าไปที่นั่นแต่เช้า ‎และเรายังไม่มีความคืบหน้าเลย 56 00:03:21,743 --> 00:03:24,833 ‎ในช่วงสองสามวันสุดท้าย ผมคิดว่า ‎"เราต้องได้อะไรเจ๋งๆ แล้วล่ะ" 57 00:03:25,997 --> 00:03:30,917 ‎คอซเป็นผู้ชายที่ฉันอยากให้ ‎อยู่ในสตูดิโอด้วยมากที่สุด 58 00:03:31,002 --> 00:03:34,632 ‎ฉันรู้สึกว่าเรามักมีความเห็นที่ตรงกัน ‎ว่าเพลงควรจะเป็นยังไง 59 00:03:34,714 --> 00:03:38,514 ‎แล้วเราก็จะมีท่อนแยกสองรอบ ซึ่งฉันชอบมาก 60 00:03:38,593 --> 00:03:41,553 ‎เราคุยกันว่าจะหาเพลงเก่าๆ มาใส่ 61 00:03:45,391 --> 00:03:47,851 ‎จามิโรไคว ปรินซ์ บลอนดี้ 62 00:03:50,730 --> 00:03:51,770 ‎(มิกซ์เทป) 63 00:03:53,816 --> 00:03:57,106 ‎สิ่งที่มีอิทธิพลต่อฉันในวัยเด็กส่วนใหญ่ ‎ก็คือเพลงและดนตรี 64 00:03:57,195 --> 00:03:58,605 ‎ที่พ่อแม่ของฉันฟัง 65 00:04:00,323 --> 00:04:03,623 ‎ฉันอยากเล่นกับความรู้สึกนั้นและสร้างบางสิ่ง 66 00:04:03,701 --> 00:04:05,411 ‎ด้วยตัวแปรที่แปลกใหม่ทันสมัย 67 00:04:06,454 --> 00:04:08,674 ‎ฉันคิดว่า "ฉันจะทำเพลง 68 00:04:08,748 --> 00:04:12,288 ‎ที่สร้างจากความทรงจำเหล่านั้น ‎และทำให้ผู้คนรู้สึก 69 00:04:12,377 --> 00:04:16,257 ‎แบบเดียวกับฉันทุกครั้งที่ฟังเพลง ‎'คอสมิค เกิร์ล' ของจามิโรไควได้รึเปล่านะ" 70 00:04:18,841 --> 00:04:20,891 ‎ผมเริ่มโดยใช้เสียงสังเคราะห์อะนาล็อก 71 00:04:20,969 --> 00:04:22,849 ‎และได้เป็นชุดคอร์ดนี้มา 72 00:04:22,929 --> 00:04:24,469 ‎มันยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่นัก 73 00:04:26,224 --> 00:04:29,734 ‎และจากนั้นก็เพิ่มเสียงกีตาร์ริฟฟ์ ‎และเสียงกลองเข้าไปตลอดทั้งเพลง 74 00:04:31,521 --> 00:04:34,901 ‎มันเป็นดนตรีเริ่มแรกของเรา ‎และเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง 75 00:04:41,948 --> 00:04:43,488 ‎จากนั้นก็เพิ่มเสียงกีตาร์โปร่ง 76 00:04:51,708 --> 00:04:52,708 ‎โอเค 77 00:04:57,046 --> 00:04:59,966 ‎ทุกครั้งที่ฉันทำงานกับเชลซี ‎เพลงจะเริ่มจากกีตาร์เสมอ 78 00:05:00,049 --> 00:05:02,089 ‎และเชลซีเป็นคนตลกมาก เธอจะพูดว่า 79 00:05:02,176 --> 00:05:05,306 ‎"มาเพื่อน มาทำเพลงนี้ ‎แล้วไปดื่มเหล้าสักจอกที่ผับ" 80 00:05:05,388 --> 00:05:07,808 ‎แต่เป็นสำเนียงของชาวลิเวอร์พูล 81 00:05:07,890 --> 00:05:09,770 ‎ฉันจะตีเขาเมื่อ… 82 00:05:09,851 --> 00:05:12,311 ‎สำหรับฉัน ถ้ามีโอกาสได้ดื่ม 83 00:05:12,395 --> 00:05:14,475 ‎ฉันจะแบบว่า "มาเถอะ ไปพักกัน" 84 00:05:14,564 --> 00:05:15,774 ‎ฟังดูไม่ดีเลยนะ 85 00:05:15,857 --> 00:05:16,977 ‎ฉันเดินเข้าไปในห้อง 86 00:05:17,066 --> 00:05:19,936 ‎พวกเขากำลังหารือกัน ‎เรื่องกีตาร์แล้วก็แบบว่า… 87 00:05:20,028 --> 00:05:22,908 ‎พ่อคุณเอ๋ย ฉันว่าฉันมีความรัก 88 00:05:22,989 --> 00:05:28,159 ‎แต่พ่อคุณเอ๋ย เธอทำให้ฉันมีความรักอีกครั้ง 89 00:05:28,244 --> 00:05:30,204 ‎ผมจำไม่ได้ว่าทำไมเราถึงพูดมันออกมา 90 00:05:30,288 --> 00:05:33,708 ‎แต่ผมรู้ว่าดัว… 91 00:05:33,791 --> 00:05:36,671 ‎เธอแย้งว่า "เราจะไม่ใช้ 'พ่อคุณเอ๋ย'" 92 00:05:36,753 --> 00:05:40,133 ‎ฉันบอกไปว่า "เราต้องเอา ‎'พ่อคุณเอ๋ย' ออก ใช้มันไม่ได้" 93 00:05:40,214 --> 00:05:44,184 ‎เธอบอกว่า "ไม่ เพื่อนเอ๋ย ไม่ได้ ‎มันต้องเป็น 'ให้ตายสิ'" 94 00:05:44,260 --> 00:05:45,430 ‎แต่ให้ตายสิ 95 00:05:45,511 --> 00:05:46,391 ‎ดีกว่าเยอะเลย 96 00:05:46,471 --> 00:05:48,431 ‎เธอทำให้ฉันมีความรักอีกครั้ง 97 00:05:48,514 --> 00:05:50,854 ‎ฉันว่าอย่างนี้แหละ แล้วฉันก็ชอบท่อนใหม่ด้วย 98 00:05:50,933 --> 00:05:53,103 ‎ความเคารพและความรักที่ฉันมีให้กับดัว 99 00:05:53,186 --> 00:05:56,146 ‎มาจากความจริงที่ว่าเธอเป็นเจ้าแม่ 100 00:05:57,857 --> 00:05:59,227 ‎เอาละ เริ่มกันเลย 101 00:05:59,317 --> 00:06:00,777 ‎เธอคุมได้โดยสมบูรณ์ 102 00:06:01,611 --> 00:06:02,991 ‎เธอเอาอยู่ทุกสถานการณ์ 103 00:06:03,946 --> 00:06:05,616 ‎โดยส่วนตัวแล้วฉันชอบพลังงานนั้น 104 00:06:05,698 --> 00:06:08,788 ‎เมื่อคุณถูกรายล้อมไปด้วย ‎คนที่คุณรู้สึกสบายใจที่จะอยู่ด้วย 105 00:06:08,868 --> 00:06:12,708 ‎คนที่ฉันสามารถพูดตรงๆ ได้ ‎และคุยเรื่องส่วนตัวมากๆ กับฉัน 106 00:06:13,664 --> 00:06:18,714 ‎และฉันรู้ว่ามันจะไม่เล็ดลอดออกไป ‎นอกกำแพงห้อง เว้นแต่ในรูปแบบของเพลง 107 00:06:18,795 --> 00:06:21,875 ‎จู่ๆ มันก็ไปที่โน้ตเอกลางและจากนั้นก็กลับมา 108 00:06:21,964 --> 00:06:23,554 ‎ดัวเป็นคนซื่อสัตย์ 109 00:06:23,633 --> 00:06:26,803 ‎พูดได้เลยว่า เธอร้องเพลงออกมาจากหัวใจ 110 00:06:26,886 --> 00:06:28,426 ‎ท่อนเพลงน่าสับสน แต่ฉันชอบมาก 111 00:06:28,513 --> 00:06:31,643 ‎"เธอทำให้ฉันตกหลุมรักอีกครั้ง" ‎แบบว่าทุกคนรู้สึกได้เลย 112 00:06:31,724 --> 00:06:33,274 ‎ว่าคุณเคยอกหักมา 113 00:06:33,935 --> 00:06:36,145 ‎คุณคิดว่า "ฉันจะไม่ทางรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว" 114 00:06:36,229 --> 00:06:38,979 ‎เราเริ่มเปิดเพลงและคำพูด ‎ที่กลั่นออกมาก็คือเนื้อเพลง 115 00:06:40,149 --> 00:06:42,279 ‎มันพูดถึงการที่ "คุณทำให้ฉันมีความรักอีกครั้ง 116 00:06:42,860 --> 00:06:45,360 ‎ในช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกเหมือนเป็นตัวเองไม่ได้" 117 00:06:47,198 --> 00:06:49,408 ‎ฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังเขียนเรื่องของตัวเอง 118 00:06:49,492 --> 00:06:53,122 ‎หรือกำลังเขียนเรื่องของคนอื่น ‎แต่มันมีความน่าดึงดูด 119 00:06:53,204 --> 00:06:55,794 ‎ฉันคิดว่าถ้าฉันเขียนเรื่องนี้ มันก็อาจเกิดขึ้น 120 00:06:57,041 --> 00:07:00,211 ‎แต่ในตอนเริ่มต้น เรามีเนื้อร้องท่อนเดียว 121 00:07:00,294 --> 00:07:04,884 ‎ไม่เคยคิดว่าฉันจะหาทางแก้ไขได้ 122 00:07:04,966 --> 00:07:08,466 ‎ไม่นึกเลยว่าฉันจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นดังขนาดนี้ 123 00:07:09,470 --> 00:07:12,680 ‎ไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันไม่มีอะไรค้างคาใจอีกแล้ว 124 00:07:12,765 --> 00:07:13,925 ‎จากนั้นมันก็ถึงท่อนที่ว่า.. 125 00:07:14,016 --> 00:07:16,476 ‎ไม่อยากเชื่อว่าในที่สุด ฉันก็ได้เจอใครสักคน 126 00:07:34,579 --> 00:07:36,909 ‎ฉันรู้ทันทีว่าฉันต้องการมีเพลงนี้ในอัลบั้ม 127 00:07:36,998 --> 00:07:38,538 ‎แต่มันไม่ได้อยู่ใน… 128 00:07:39,417 --> 00:07:41,537 ‎รูปแบบเพลงดั้งเดิมที่เรารู้จัก 129 00:07:41,627 --> 00:07:43,377 ‎ที่มีท่อนธรรมดา ก่อนฮุก 130 00:07:44,088 --> 00:07:47,128 ‎ท่อนฮุก ธรรมดา ก่อนฮุก ฮุก ‎ท่อนแยก ฮุก เข้าใจไหมคะ 131 00:07:47,633 --> 00:07:50,303 ‎มันปนกันไปหมด แต่มันให้ความรู้สึกดีในตอนนั้น 132 00:07:50,386 --> 00:07:53,756 ‎ฉันคิดว่า "มันอาจไม่จำเป็น ‎ต้องเป็นรูปแบบนั้นก็ได้ ช่างมันเถอะ " 133 00:07:54,891 --> 00:07:57,771 ‎ในตอนนั้นผมอ่านหนังสือสตูดิโอ 54 134 00:07:57,852 --> 00:07:59,902 ‎ผมนึกย้อนกลับไปเห็นภาพดอนน่า ซัมเมอร์ 135 00:07:59,979 --> 00:08:02,359 ‎ที่มีการแสดงเล่นใหญ่ก่อนเริ่มเพลง 136 00:08:02,440 --> 00:08:04,690 ‎มันค่อนข้างสร้างอารมณ์และจากนั้นก็มีเสียง… 137 00:08:05,610 --> 00:08:07,240 ‎แล้วจากนั้นก็เข้าเพลง 138 00:08:07,320 --> 00:08:12,580 ‎โชคดีที่เพื่อนบ้านของผม ‎เป็นนักไวโอลินที่น่าทึ่งและเป็นคนดีทีเดียว 139 00:08:13,159 --> 00:08:14,159 ‎ดรูว์ จูเรคก้า 140 00:08:19,749 --> 00:08:21,709 ‎คอซส่งดนตรีที่เป็นเสียงไวโอลินมา 141 00:08:22,293 --> 00:08:24,673 ‎ฉันแบบว่า "พระเจ้า มันเร้าใจสุดๆ ‎ฉันชอบมาก" 142 00:08:27,590 --> 00:08:32,600 ‎เสียงไวโอลินให้ความมีชีวิตชีวา ‎และความสง่างามกับเพลง 143 00:08:32,678 --> 00:08:35,348 ‎ในช่วงที่คุณกำลังจะเข้าสู่เพลงที่มีความเป็นฟังก์ 144 00:08:35,431 --> 00:08:36,601 ‎มันแทบจะคาดไม่ถึง 145 00:08:37,391 --> 00:08:40,271 ‎มันให้ความรู้สึกว่าอัลบั้มมีความยิ่งใหญ่ 146 00:08:40,853 --> 00:08:43,563 ‎ฉันก็แบบ "โอเค มันสมบูรณ์แบบ มันสนุกมาก" 147 00:08:46,400 --> 00:08:50,280 ‎แต่มันยังต้องปรับอีกนิดหน่อย ‎ซึ่งฉันบอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร 148 00:08:50,363 --> 00:08:52,453 ‎- มันค่อนข้างยากทีเดียว ‎- ใช่ 149 00:08:52,532 --> 00:08:54,492 ‎คืนหนึ่ง เราอยู่กันที่สตูดิโอ 150 00:08:54,575 --> 00:08:58,115 ‎และคอฟฟี่ก็เริ่มทำเสียงไปกับกีตาร์แบบ… 151 00:09:02,833 --> 00:09:05,383 ‎ฉับก็แบบ "นี่มันแนวสตาร์วอส์หรืออะไร" 152 00:09:08,965 --> 00:09:13,425 ‎(อัล โบว์ลลี่กับลูว์ สโตน ‎และวงเดอะมอนซีกเนอร์) 153 00:09:14,011 --> 00:09:17,931 ‎มันคือเพลงทรัมเป็ตในปี 1930 โดยอัล โบว์ลลี่ 154 00:09:18,724 --> 00:09:20,274 ‎เพลงแซมเปิ้ล คลาสสิก 155 00:09:20,351 --> 00:09:21,311 ‎คลาสสิก 156 00:09:21,394 --> 00:09:23,854 ‎มันฟังดูหลอนนิดหน่อย นั่นคือสิ่งที่ฉันชอบ 157 00:09:23,938 --> 00:09:26,688 ‎น่าขนลุกนิดๆ ค่อนข้างน่ากลัว… 158 00:09:26,774 --> 00:09:28,944 ‎ฉันชอบมาก ฉันบอกไปว่า ‎"เราควรใส่มันลงไป" 159 00:09:29,026 --> 00:09:31,566 ‎ฉันก็แบบว่า "โอ้ มันเหมาะเหม็ง" 160 00:09:31,654 --> 00:09:35,584 ‎มันก็ดีที่จะพูดว่า "งั้นเราเอา ‎เพลงแซมเปิ้ลนี้ใส่ลงในเพลงด้วย" 161 00:09:36,158 --> 00:09:38,488 ‎แต่เพลงมันคนละคีย์เลย 162 00:09:38,578 --> 00:09:40,868 ‎ดังนั้นเมื่อคุณใส่เพลงลงไปเฉยๆ มันจะใช้ไม่ได้ 163 00:09:40,955 --> 00:09:42,825 ‎เพราะเสียงจะเพี้ยนไปหมด 164 00:09:43,708 --> 00:09:47,088 ‎การทำให้มันใช้ได้ ‎เมื่อใส่ลงไปในเพลงนั้นเป็นดั่งฝันร้าย 165 00:09:47,169 --> 00:09:50,169 ‎ผมต้องลองปรับในทุกระดับเสียง ‎เพื่อแก้ไขจุดต่างๆ 166 00:09:50,256 --> 00:09:52,126 ‎ผมเครียดมาก 167 00:09:52,216 --> 00:09:53,796 ‎ผมนี่แบบ "ให้ตายสิ" 168 00:09:55,136 --> 00:09:56,386 ‎แต่ในที่สุดผมก็ทำสำเร็จ 169 00:10:02,226 --> 00:10:04,896 ‎ที่จริงแล้วเพลงแซมเปิ้ลนี้ถูกใช้ในปี 1997 170 00:10:07,315 --> 00:10:09,395 ‎โดยไวท์ ทาวน์ ในเพลง "ยัวร์ วูแมน" 171 00:10:14,280 --> 00:10:17,070 ‎มันเป็นเพลงแซมเปิ้ลที่ยอดเยี่ยม ‎มันทำให้ผมรู้สึกถึงเพลงสองยุค 172 00:10:18,367 --> 00:10:22,827 ‎แบบยุค 20 ยุค 30 ที่เย้ายวน ‎ศิลปะอาร์ตเดโค อะไรแบบนั้น 173 00:10:22,913 --> 00:10:26,003 ‎แล้วก็เหมือนอารมณ์คนเตร็ดเตร่ในยุค 90 174 00:10:26,792 --> 00:10:29,922 ‎ฉันชอบที่ดนตรีสร้างสรรค์สิ่งใหม่อยู่ตลอด 175 00:10:30,004 --> 00:10:34,184 ‎จากนั้นเพลงก็เสร็จ ‎แต่ผมว่าเราใช้เวลาอยู่พอสมควรเลย 176 00:10:34,258 --> 00:10:36,338 ‎ในการปรับโครงสร้างของมันให้ถูกต้อง 177 00:10:36,427 --> 00:10:39,217 ‎โดยเฉพาะเพลงนี้ที่ไม่ชัดเจน 178 00:10:39,305 --> 00:10:42,015 ‎เราเปลี่ยนการจัดวางต่างๆ ของเพลง ‎ไปจนถึงขั้นสุดท้าย 179 00:10:42,683 --> 00:10:44,773 ‎วางนี่ไว้ตรงนี้ วางนั่นไว้ตรงนั้น 180 00:10:44,852 --> 00:10:47,102 ‎มันยากเพราะมันแปลก มันเป็นหนึ่งใน… 181 00:10:47,188 --> 00:10:49,768 ‎ท่อนที่ค่อนข้างคลุมเครือ 182 00:10:49,857 --> 00:10:53,277 ‎- เราไม่รู้จริงๆ ว่าจะ… ‎- ตอนที่เราเขียนมัน มันเป็นแค่ท่อนต่างๆ 183 00:10:53,361 --> 00:10:55,241 ‎- ฉันแบบว่า "ไม่รู้สิ" ‎- ฉันก็แบบ… 184 00:10:55,321 --> 00:10:57,281 ‎ไม่รู้ทำไมฉันถึงมีความคิดบ้าๆ นี้ขึ้น 185 00:10:57,365 --> 00:11:01,575 ‎ฉันพูดไปว่า "บางทีเราน่าจะ ‎เปลี่ยนโครงสร้างเพลงไปเลยและ…" 186 00:11:01,661 --> 00:11:03,501 ‎ไม่อยากเชื่อเลย ไม่อยากเชื่อเลย 187 00:11:03,579 --> 00:11:05,959 ‎ฉันว่า "ทำไมใช้ท่อนนี้เป็นท่อนฮุก" 188 00:11:06,040 --> 00:11:08,750 ‎ฉันคิดว่า "นี่จะดีมาก มันจะต้องน่าทึ่งมาก " 189 00:11:08,834 --> 00:11:12,384 ‎มีหลายเวอร์ชั่นมากที่เธอจะแบบว่า ‎"เอามันไปเก็บซะ" 190 00:11:12,463 --> 00:11:14,723 ‎ฉันมั่นใจมากว่ามันจะออกมาดี 191 00:11:14,799 --> 00:11:16,509 ‎ฉันแบบว่า "ให้ฉันใช้มันเถอะ" 192 00:11:16,592 --> 00:11:19,682 ‎หลังจากนั้นสามวันฉันก็โทรหาพวกเขา ‎"นี่มันต้องไม่ดีแน่" 193 00:11:20,638 --> 00:11:24,348 ‎(ท่อนธรรมดาช่วงที่สอง) 194 00:11:40,700 --> 00:11:44,290 ‎ในอัลบั้มแรก ฉันรู้สึกว่าสิ่งที่ง่ายที่สุดสำหรับฉัน 195 00:11:44,370 --> 00:11:47,580 ‎คือการแต่งเพลงจากความรู้สึกเศร้า 196 00:11:47,665 --> 00:11:49,245 ‎หรือสิ่งที่ทำให้ฉันอารมณ์เสีย 197 00:11:49,333 --> 00:11:50,463 ‎หงุดหงิด 198 00:11:50,543 --> 00:11:52,593 ‎หงุดหงิดชิบหายเลยเพื่อน 199 00:11:53,087 --> 00:11:57,007 ‎ดังนั้นตอนที่ฉันเริ่มแต่งเพลง ‎ฉันก็แบบ "ฉันแต่งเพลงอกหักได้" 200 00:11:58,509 --> 00:12:02,139 ‎แต่ฉันไม่อยากแต่งแต่เพลงบัลลาดหรือเพลงช้า 201 00:12:02,221 --> 00:12:04,681 ‎หรือเพลงเศร้าหรืออะไรแบบนั้น ฉันชอบการเต้น 202 00:12:13,858 --> 00:12:16,028 ‎มันเหมือนการผสานสองอย่างเข้าด้วยกัน 203 00:12:16,110 --> 00:12:17,820 ‎ฉันคิดว่า "มันคือเพลงเต้นทั้งน้ำตา" 204 00:12:22,825 --> 00:12:24,655 ‎แนวคิดอัลบั้มเดอะ ฟิวเจอร์ นอสตัลเจีย 205 00:12:25,536 --> 00:12:28,366 ‎เธออยากให้มันเหมือน ‎การนำโลกสองใบมารวมกัน 206 00:12:28,456 --> 00:12:30,496 ‎ค่อนข้างเศร้าแต่ในขณะเดียวกันก็มีความหวัง 207 00:12:32,042 --> 00:12:34,842 ‎ฉันคิดว่ามันมาจากการถูกเลี้ยงดูของฉัน 208 00:12:34,920 --> 00:12:37,130 ‎และความรู้สึกเหมือนฉันเป็นส่วนหนึ่งของสองที่ 209 00:12:37,214 --> 00:12:39,054 ‎แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็ไม่เข้ากับที่ไหนเลย 210 00:12:39,759 --> 00:12:42,389 ‎เราย้ายบ้านบ่อยมาก ‎ฉันเกิดและโตที่ลอนดอน 211 00:12:42,470 --> 00:12:46,390 ‎ฉันย้ายไปโคโซโวตอนอายุ 11 ขวบ ‎และกลับมาที่ลอนดอนตอนอายุ 15 212 00:12:46,474 --> 00:12:48,604 ‎แต่ฉันรู้สึกซาบซึ้งมากที่มีสองสัญชาติ 213 00:12:49,560 --> 00:12:53,900 ‎นี่อาจเป็นเหตุผลที่ฉันหลงไหล ‎ในการตัดกันของสองอารมณ์และความเป็นคู่ 214 00:12:55,357 --> 00:12:58,607 ‎ทำเพลงสุขปนเศร้าหรือเพลงเต้นทั้งน้ำตา 215 00:12:59,069 --> 00:13:03,909 ‎ฉันทำผลงานได้ดีที่สุดเมื่อเล่นกับ ‎สองอารมณ์ในเวลาเดียวกัน 216 00:13:05,451 --> 00:13:07,871 ‎คุณอัดเสียงที่ไหนครับ 217 00:13:07,953 --> 00:13:11,123 ‎ฉันอัดเสียงที่แร็กสตูดิโอในลอนดอน 218 00:13:11,207 --> 00:13:12,877 ‎งั้นเราจะเริ่ม… 219 00:13:12,958 --> 00:13:14,958 ‎ที่จุดเริ่มต้น 220 00:13:15,044 --> 00:13:18,554 ‎ฉันไปที่นั่นกับลอร์น่า ผู้ควบคุมการร้องของฉัน 221 00:13:18,631 --> 00:13:21,131 ‎- ฉันเพิ่งได้ทำนอง… ‎- ราชินีแมรี่ ป็อปปิน 222 00:13:21,217 --> 00:13:22,177 ‎ราชินีแมรี่ ป็อปปินส์ 223 00:13:22,259 --> 00:13:25,679 ‎เธอช่วยให้ฉันเห็นภาพความรู้สึก 224 00:13:25,763 --> 00:13:29,023 ‎มันมีบางช่วงที่เศร้า แต่เธอบอกว่า ‎"ร้องมันด้วยรอยยิ้ม" 225 00:13:33,395 --> 00:13:34,305 ‎ใช่แล้ว 226 00:13:36,023 --> 00:13:40,073 ‎(เสียงร้อง) 227 00:13:50,621 --> 00:13:53,251 ‎- คุณรู้สึกถึงรอยยิ้มในเสียงของคุณไหม ‎ - ฉันรู้สึกถึงรอยยิ้ม 228 00:13:53,332 --> 00:13:55,462 ‎เพราะคำว่า "ให้ตายสิ" ‎ถูกร้องแบบ "ให้ตายสิ" 229 00:14:00,714 --> 00:14:01,554 ‎ใช่ ดีมากเลย… 230 00:14:01,632 --> 00:14:03,932 ‎การยิ้มช่วยให้คุณไปถึงจุดนั้น 231 00:14:07,221 --> 00:14:09,141 ‎ดัวมีน้ำเสียงน่าทึ่งที่สุด 232 00:14:11,475 --> 00:14:13,345 ‎มันทำให้จำได้ทันทีเลย 233 00:14:18,315 --> 00:14:19,775 ‎มันมีความนุ่มลึก 234 00:14:19,859 --> 00:14:22,029 ‎ผมชอบเมื่อขึ้นเสียงสูงด้วย มันแตะจุดสูงสุด 235 00:14:25,739 --> 00:14:28,029 ‎มันไม่ได้ดีจนเกินไป ‎มันไม่ใช่เสียงป็อบที่สมบูรณ์แบบ 236 00:14:28,117 --> 00:14:29,577 ‎แต่มันเป็นเสียงป็อบที่สมบูรณ์แบบ 237 00:14:36,792 --> 00:14:39,712 ‎เสียงพูดของฉัน แม้แต่ในวิดีโอตอนที่เป็นเด็ก 238 00:14:40,170 --> 00:14:42,550 ‎มันเหมือนฉันสูบบุหรี่มาทั้งชีวิต 239 00:14:43,132 --> 00:14:44,432 ‎ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเลย 240 00:14:44,508 --> 00:14:47,048 ‎- ลูกชื่ออะไร ‎- ดัว ลิปา 241 00:14:50,681 --> 00:14:52,811 ‎ตอนฉันอายุประมาณเก้าขวบ 242 00:14:52,892 --> 00:14:55,062 ‎ฉันจะไปโรงเรียนการละครทุกวันเสาร์ 243 00:14:56,562 --> 00:14:59,822 ‎ครูสอนร้องเพลงของฉันบอกว่า ‎"ว้าว เสียงเธอทุ้มมาก" 244 00:15:03,235 --> 00:15:07,235 ‎ตอนเป็นเด็ก บางครั้งเราก็ถูกแกล้งหรือถูกล้อ 245 00:15:07,323 --> 00:15:09,333 ‎ว่า "เสียงผู้ชาย" หรืออะไรก็ตาม 246 00:15:09,408 --> 00:15:12,198 ‎แต่นั่นไม่เป็นไรและมันทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น 247 00:15:14,622 --> 00:15:18,422 ‎(เสียงพื้นหลัง) 248 00:15:23,589 --> 00:15:25,469 ‎นั่นคือสามทหารเสือ 249 00:15:25,549 --> 00:15:28,589 ‎คุณจะได้ยินเสียงของเชลซี ‎และเสียงของคอฟฟี่นิดหน่อย 250 00:15:31,013 --> 00:15:33,183 ‎มันออกมาดีเสมอเมื่อเพิ่มเสียงพื้นหลังลงไป 251 00:15:39,521 --> 00:15:40,651 ‎- พระเจ้าช่วย ‎- ใช่ 252 00:15:40,731 --> 00:15:42,521 ‎มันทำให้เพลงมีความพิเศษ 253 00:15:47,571 --> 00:15:50,531 ‎มันมีเนื้อเพลงที่ว่า "ฉันจมอยู่กับความไม่เชื่อ" 254 00:15:52,242 --> 00:15:56,332 ‎ฉันจมอยู่กับความไม่เชื่อ ‎เพราะเธอเป็นคนเดียวที่ฉันต้องการ 255 00:15:56,413 --> 00:15:59,003 ‎ฉันรู้สึกได้ถึงหลายอารมณ์ในท่อนนี้ 256 00:15:59,083 --> 00:16:01,253 ‎ที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังกัดกินอะไรอยู่ 257 00:16:01,335 --> 00:16:02,875 ‎มันทำให้ฉันเห็นภาพเลย 258 00:16:02,962 --> 00:16:06,342 ‎มันเหมือนกินขนมปังกรอบของสิ่งทั้งมวล ‎แล้วฉันแบบ "มันอร่อยมาก 259 00:16:06,423 --> 00:16:08,803 ‎แล้วฉันสัมผัสได้ถึงทุกสิ่งและทุกอารมณ์จริงๆ " 260 00:16:08,884 --> 00:16:11,144 ‎และร่างกายฉันก็สั่นสะท้าน 261 00:16:12,262 --> 00:16:14,312 ‎บรรยายช่วงเวลาก่อนขึ้นเวทีได้เลยว่า 262 00:16:14,890 --> 00:16:16,100 ‎มันเกือบจะเป็นแบบนั้น 263 00:16:16,684 --> 00:16:19,274 ‎เพราะคุณตื่นเต้นมากและอยากออกไปใจจะขาด 264 00:16:19,353 --> 00:16:23,693 ‎และคุณรู้สึกกังวลมากซะจนจะเป็นลม 265 00:16:24,525 --> 00:16:27,945 ‎มันสนุกมากและอะดรีนาลีนพุ่งพล่าน 266 00:16:49,508 --> 00:16:53,218 ‎คอฟฟี่และเชลซี ‎สงสัยในการตัดสินใจของฉันเรื่องนี้ 267 00:16:53,303 --> 00:16:57,023 ‎จำไม่ได้แล้วว่าใครต่อต้านท่อนนี้ 268 00:16:58,308 --> 00:16:59,228 ‎แต่… 269 00:17:00,269 --> 00:17:02,939 ‎ใช่ครับ ดัวยืนยันหนักมากเพื่อท่อนนี้ 270 00:17:03,022 --> 00:17:04,482 ‎ฉันก็แบบ "ฉันขอโทษจริงๆ " 271 00:17:04,565 --> 00:17:06,565 ‎"ไม่ว่าคุณจะชอบมันหรือเกลียดมัน 272 00:17:06,650 --> 00:17:09,990 ‎แต่นี่คือท่อนที่ฉันต้องเก็บไว้ ‎เพราะฉันรู้สึกอย่างนั้น" 273 00:17:10,070 --> 00:17:13,530 ‎เมื่อดัวได้ยินสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกแบบนั้น 274 00:17:14,241 --> 00:17:15,281 ‎เธอจะเลือกมัน 275 00:17:15,909 --> 00:17:17,949 ‎(ท่อนแยก) 276 00:17:18,537 --> 00:17:21,417 ‎ในช่วงท้ายของท่อนแยก ‎เราเพิ่มสองจังหวะพิเศษ 277 00:17:22,082 --> 00:17:25,382 ‎เราอยากสร้างช่วง ‎ที่คุณสามารถดึงพลังออกมา… 278 00:17:27,629 --> 00:17:29,799 ‎และจากนั้นก็ประโคม ‎เสียงไวโอลินกลับเข้ามา… 279 00:17:33,510 --> 00:17:36,220 ‎และระเบิดความเร้าใจอีกครั้ง 280 00:17:41,018 --> 00:17:42,638 ‎ความเร้าใจสำคัญที่สุด ที่รัก 281 00:17:44,229 --> 00:17:46,609 ‎หนึ่งในสิ่งที่เจ๋งที่สุดเมื่อได้ทำงานกับดัว 282 00:17:46,690 --> 00:17:48,230 ‎คือคุณทำมันได้ 283 00:17:49,902 --> 00:17:52,702 ‎มันคืออัลบั้มเพลงป็อป ‎ที่มีความมุ่งมั่นทางศิลปะโดยแท้ 284 00:17:59,078 --> 00:18:00,578 ‎ช่วยพูดถึงเสียงร้องนี้หน่อยครับ 285 00:18:00,662 --> 00:18:05,002 ‎เธอทำให้ฉันมีความรักอีกครั้ง 286 00:18:05,084 --> 00:18:08,804 ‎เธอทำให้ฉันมีความรักอีกครั้ง 287 00:18:09,296 --> 00:18:13,336 ‎เธอทำให้ฉันมีความรักอีกครั้ง 288 00:18:14,843 --> 00:18:17,393 ‎สิ่งสุดท้ายที่ฉันทำในเพลงนี้คือแอด ลิปส์ 289 00:18:17,471 --> 00:18:23,391 ‎อีกครั้งและอีกครั้งอีกครั้งและอีกครั้งและอีกครั้ง 290 00:18:23,936 --> 00:18:26,896 ‎บางครั้งฉันก็กังวล ‎เพราะฉันแบบ "ฉันจะร้องเพี้ยน" 291 00:18:26,980 --> 00:18:29,190 ‎ฉันกลัวที่จะเปล่งเสียงออกไป 292 00:18:29,274 --> 00:18:31,694 ‎แต่เมื่อฉันอยู่ในห้องอัด ฉันสวมหูฟังไว้ 293 00:18:31,777 --> 00:18:34,607 ‎คุณจะได้ยินเสียงสะท้อน ‎มันเหมือนในห้องน้ำโรงเรียนเลย 294 00:18:34,696 --> 00:18:37,066 ‎คุณจะแบบ "ว้าว ในนี้ดีงามมาก ‎สำหรับเพลงอะคูสติก" 295 00:18:37,157 --> 00:18:39,237 ‎ไม่ว่าจะร้องอะไรก็เพราะไปหมด 296 00:18:39,326 --> 00:18:44,666 ‎เธอทำให้ฉันมีความรักอีกครั้ง 297 00:18:44,748 --> 00:18:48,248 ‎การได้เขียนเพลงนี้ ‎คุณคิดว่ามันตอบโจทย์ชีวิตของคุณรึเปล่า 298 00:18:48,335 --> 00:18:50,335 ‎นอกเหนือจากบริบทของดนตรี 299 00:18:54,007 --> 00:18:56,797 ‎การที่ฉันได้เข้าไปที่สตูดิโอในภาวะอ่อนแอ 300 00:18:56,885 --> 00:19:00,385 ‎และเปิดใจเกี่ยวกับประสบการณ์นั้นมันยากอยู่แล้ว 301 00:19:02,099 --> 00:19:04,769 ‎แต่ฉันรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งในตัวฉัน 302 00:19:04,852 --> 00:19:08,692 ‎ที่ฉันสามารถใช้ดนตรีในแง่ที่ช่วยทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น 303 00:19:09,940 --> 00:19:13,940 ‎นี่เป็นช่วงชีวิตที่ฉันเคยคิดว่า ‎ฉันจะหลุดออกมาไม่ได้ 304 00:19:15,362 --> 00:19:19,072 ‎ฉันรู้สึกว่าตลอดกระบวนการทำเพลงนี้ 305 00:19:19,158 --> 00:19:22,578 ‎ฉันผ่านบทเรียนต่างๆ มากมายในชีวิต 306 00:19:22,661 --> 00:19:24,081 ‎ฉันได้รู้จักตัวเองขึ้นเยอะ 307 00:19:26,331 --> 00:19:29,291 ‎สำหรับฉัน มันสำคัญที่ได้เขียนมันลงบนกระดาษ 308 00:19:29,376 --> 00:19:31,626 ‎และบอกตัวเองในสิ่งที่ฉันอยากได้ยิน 309 00:19:32,546 --> 00:19:36,216 ‎หาท่าเต้นในตัวฉัน ‎ในตอนที่ฉันคิดว่าจะเต้นไม่ได้อีก 310 00:19:40,596 --> 00:19:42,426 ‎มันคือการได้ค้นพบว่า… 311 00:19:43,307 --> 00:19:46,227 ‎ผู้คน สิ่งต่างๆ ช่วงเวลาต่างๆ ในชีวิตคุณ 312 00:19:46,310 --> 00:19:47,770 ‎นั้นเติมเต็มคุณด้วย… 313 00:19:47,853 --> 00:19:50,813 ‎ความภูมิใจ ความแข็งแกร่ง ‎และความมั่นใจที่จะบอกว่า "ฉันทำได้" 314 00:19:52,858 --> 00:19:54,478 ‎และในที่สุดฉันก็มีความรักอีกครั้ง 315 00:19:56,028 --> 00:19:58,738 ‎มันคือความสุข ความตื่นเต้น ‎ความกระชุ่มกระชวย 316 00:20:13,837 --> 00:20:17,967 ‎"เลิฟ อะเกน" เป็นเครื่องยืนยัน ‎ถึงความแข็งแกร่งและความร้อนแรง 317 00:20:18,050 --> 00:20:21,800 ‎ที่ฉันรู้สึกว่าฉันต้องการค้นพบมันอีกครั้ง 318 00:20:22,471 --> 00:20:24,311 ‎เพราะฉะนั้น ฉันจึงรู้สึกซาบซึ้งมาก 319 00:20:26,725 --> 00:20:30,685 ‎และนี่คือเพลง "เลิฟ อะเกน" ‎โดย ดัว ลิปา แบบเต็มเพลง 320 00:25:13,470 --> 00:25:18,480 ‎คำบรรยายโดย เบญจพร กวินทร์