1 00:00:02,000 --> 00:00:07,000 Downloaded from YTS.MX 2 00:00:08,000 --> 00:00:13,000 Official YIFY movies site: YTS.MX 3 00:00:19,978 --> 00:00:24,774 ‎("สิ่งที่ยิ่งใหญ่ย่อมนำคำสาป ‎เข้ามาสู่ชีวิตคนเป็นด้วย") 4 00:00:24,858 --> 00:00:27,861 ‎(โซโฟเคลส) 5 00:00:31,156 --> 00:00:34,200 ‎ครับ เชิญเลย ลองดูว่านั่งสบายไหม 6 00:00:37,579 --> 00:00:38,413 ‎โอเคนะ 7 00:00:38,663 --> 00:00:39,497 ‎ครับ 8 00:00:43,043 --> 00:00:44,419 ‎เทคหนึ่ง ทำเครื่องหมาย 9 00:00:46,880 --> 00:00:48,590 ‎อยากเริ่มด้วยการแนะนำตัวเองไหม 10 00:00:50,467 --> 00:00:53,344 ‎สวัสดีชาวโลก ฉันเบลีย์ เทคสาม 11 00:00:53,970 --> 00:00:56,056 ‎- โอเคนะครับ ‎- ส่วนนี้แหละที่แย่ที่สุด 12 00:00:57,515 --> 00:00:58,391 ‎ผมไม่ชอบเลย 13 00:00:59,768 --> 00:01:02,228 ‎ผมทำงานที่เฟซบุ๊กในปี 2011 และ 2012 14 00:01:02,395 --> 00:01:05,190 ‎ฉันคือหนึ่งในพนักงานยุคแรกๆ ของอินสตาแกรม 15 00:01:05,273 --> 00:01:08,443 ‎ผมทำงานที่กูเกิล ยูทูบ 16 00:01:08,860 --> 00:01:11,696 ‎แอปเปิ้ล กูเกิล ทวิตเตอร์ ปาล์ม 17 00:01:12,530 --> 00:01:15,617 ‎ผมช่วยก่อตั้งมอซิลลา แล็บส์ ‎จากนั้นก็ย้ายไปอยู่ฝั่งไฟร์ฟอกซ์ 18 00:01:15,742 --> 00:01:17,994 ‎เราถ่ายหรือยัง ทุกคน... 19 00:01:18,078 --> 00:01:18,912 ‎เยี่ยม 20 00:01:21,206 --> 00:01:26,169 ‎ผมทำงานที่ทวิตเตอร์ ตำแหน่งสุดท้ายของผม ‎คือรองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรม 21 00:01:27,462 --> 00:01:28,838 ‎ผมคือประธานของพินเทอเรสต์ 22 00:01:29,339 --> 00:01:32,717 ‎ก่อนหน้านั้นผมเป็นผู้อำนวยการ ‎แผนกการสร้างรายได้ 23 00:01:32,801 --> 00:01:34,260 ‎อยู่ที่เฟซบุ๊กเป็นเวลาห้าปี 24 00:01:34,344 --> 00:01:37,764 ‎ผมดูแลแพลตฟอร์มนักพัฒนา ‎ให้กับทวิตเตอร์อยู่หลายปี 25 00:01:38,056 --> 00:01:40,225 ‎ก่อนจะขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภค 26 00:01:40,308 --> 00:01:44,270 ‎ผมคือผู้ร่วมคิดค้นกูเกิลไดรฟ์ จีเมลแชท 27 00:01:44,354 --> 00:01:46,689 ‎เฟซบุ๊กเพจ และปุ่ม "ไลก์" ของเฟซบุ๊ก 28 00:01:47,440 --> 00:01:50,777 ‎ครับ เพราะแบบนี้แหละผมถึงต้องหารือกับทนาย 29 00:01:50,860 --> 00:01:52,779 ‎เป็นเวลานานถึงแปดเดือน 30 00:01:54,030 --> 00:01:55,198 ‎ผมสติแตกไปเลย 31 00:01:58,409 --> 00:02:02,914 ‎ตอนที่ผมอยู่ที่นั่น ลึกๆ ผมรู้สึกอยู่เสมอ ‎ว่ามันคือขุมพลังเพื่อความดีงาม 32 00:02:03,373 --> 00:02:05,375 ‎ผมไม่แน่ใจว่าผมยังรู้สึกแบบนั้นไหม 33 00:02:05,458 --> 00:02:10,588 ‎ผมออกจากกูเกิลเดือนมิถุนายน ปี 2017 ‎เพราะกังวลในประเด็นจริยธรรม 34 00:02:10,672 --> 00:02:14,134 ‎และไม่ใช่แค่กับกูเกิล แต่เป็นกับทั้งวงการนี้ 35 00:02:14,217 --> 00:02:15,385 ‎ผมกังวลมากๆ 36 00:02:16,719 --> 00:02:17,679 ‎มากๆ เลย 37 00:02:19,097 --> 00:02:21,808 ‎ทุกวันนี้มันง่ายมากที่เราจะลืมข้อเท็จจริง 38 00:02:21,891 --> 00:02:27,814 ‎ว่าเครื่องมือเหล่านี้ ‎มันได้สร้างความมหัศจรรย์แก่โลก 39 00:02:27,897 --> 00:02:31,943 ‎มันพาครอบครัวที่พลัดพรากมาเจอกัน ‎มันช่วยหาผู้บริจาคอวัยวะ 40 00:02:32,026 --> 00:02:35,613 ‎มันมีความเปลี่ยนแปลง ‎อย่างเป็นระบบและเปี่ยมความหมาย 41 00:02:35,697 --> 00:02:37,866 ‎เกิดขึ้นทั่วโลก 42 00:02:37,949 --> 00:02:40,201 ‎เพราะแพลตฟอร์มเหล่านี้ นั่นคือข้อดีของมัน 43 00:02:40,827 --> 00:02:44,539 ‎แต่เรามองด้านตรงข้ามของเหรียญ ‎อย่างใสซื่อเกินไป 44 00:02:45,540 --> 00:02:48,585 ‎ครับ สิ่งเหล่านี้ พอเราปล่อยมันแล้ว ‎เราก็หมดสิทธิ์จะควบคุมมันได้อีก 45 00:02:48,668 --> 00:02:52,005 ‎และพวกมันก็ถูกใช้ไปในทางที่เราไม่ได้คิดไว้ 46 00:02:52,088 --> 00:02:56,509 ‎ผมเชื่อลึกๆ ว่าไม่มีใคร ‎ตั้งใจจะให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น 47 00:02:56,801 --> 00:02:59,554 ‎ผู้ร้ายไม่ได้มีคนเดียว ไม่ค่ะ ไม่ใช่แน่นอน 48 00:03:01,639 --> 00:03:03,600 ‎งั้นปัญหาคืออะไรครับ 49 00:03:09,230 --> 00:03:11,065 ‎มันมีปัญหาไหม และปัญหาคืออะไร 50 00:03:18,406 --> 00:03:20,158 ‎จะให้ตอบสั้นๆ มันก็ยาก... 51 00:03:20,241 --> 00:03:22,118 ‎ผมจะพยายามสรุปปัญหาต่างๆ ให้ฟัง 52 00:03:22,577 --> 00:03:23,453 ‎ปัญหาคืออะไร 53 00:03:28,208 --> 00:03:32,253 ‎(ผลงานภาพยนตร์สารคดีจาก NETFLIX) 54 00:03:33,588 --> 00:03:35,340 ‎แม้จะเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์ 55 00:03:35,423 --> 00:03:37,675 ‎แต่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ก็ยังโตขึ้นเรื่อยๆ 56 00:03:37,759 --> 00:03:40,929 ‎วงการเทคโนโลยีกำลังต้องเจอกับ ‎การตรวจสอบในอีกระดับ 57 00:03:41,012 --> 00:03:43,806 ‎และการศึกษาล่าสุดก็เปิดเผยว่า 58 00:03:43,890 --> 00:03:46,142 ‎การใช้โซเชียลมีเดียเกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต 59 00:03:46,226 --> 00:03:48,478 ‎มาว่ากันถึงงานวิจัยล่าสุด... 60 00:03:49,187 --> 00:03:51,397 ‎โดยปราศจากความคุ้มครองใดๆ 61 00:03:51,481 --> 00:03:54,108 ‎มีชาวอเมริกาหลายสิบล้านคนที่เสพติด 62 00:03:54,192 --> 00:03:56,319 ‎อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างเกินเยียวยา 63 00:03:56,402 --> 00:03:59,364 ‎การที่เราสามารถเลือกรายล้อมตัวเอง ‎ด้วยคนที่เห็นตรงกับเรา... 64 00:03:59,447 --> 00:04:00,698 ‎(เพื่อนของคุณแท็กคุณในภาพ) 65 00:04:00,782 --> 00:04:02,742 ‎เพราะเทคโนโลยีของเราก็ทำให้มันแย่ลงอีก 66 00:04:02,825 --> 00:04:04,577 ‎ข่าวปลอมนั้นล้ำหน้ามากขึ้น 67 00:04:04,661 --> 00:04:06,788 ‎และเป็นภัยต่อหลายสังคมทั่วโลก 68 00:04:06,871 --> 00:04:10,333 ‎เราไม่ได้คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ‎ตอนที่เราสร้างทวิตเตอร์เมื่อ 12 ปีก่อน 69 00:04:10,416 --> 00:04:12,502 ‎ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าพวกเขาไม่มีเหตุผลให้เชื่อ 70 00:04:12,585 --> 00:04:14,754 ‎ว่าการโจมตีทางไซเบอร์ของรัสเซียจะหยุดลง 71 00:04:14,837 --> 00:04:18,132 ‎ยูทูบถูกบีบให้ต้องจริงจัง ‎กับการชำระเนื้อหาในเว็บไซต์ 72 00:04:18,341 --> 00:04:21,552 ‎ติ๊กต็อก ถ้าคุณไปคุยกับเด็กวัยไม่ถึง 15 73 00:04:21,886 --> 00:04:23,805 ‎มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะลบแอปนี้... 74 00:04:24,097 --> 00:04:26,349 ‎นี่ ไอส์ล่า ช่วยจัดโต๊ะหน่อยสิ 75 00:04:26,432 --> 00:04:27,517 ‎คำถามสำคัญก็คือ 76 00:04:27,600 --> 00:04:29,978 ‎โซเชียลมีเดียทำให้เด็กเกิดภาวะซึมเศร้าหรือไม่ 77 00:04:30,061 --> 00:04:32,105 ‎ไอส์ล่า ช่วยจัดโต๊ะทีได้ไหม 78 00:04:32,188 --> 00:04:35,316 ‎วิธีการเสริมความงามเหล่านี้ ‎กลายเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น 79 00:04:35,400 --> 00:04:37,902 ‎แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ‎ได้ตั้งชื่อให้กับกลุ่มอาการใหม่นี้ 80 00:04:37,986 --> 00:04:40,822 ‎โรคเกลียดรูปลักษณ์ตัวเองสแนปแชท ‎เพื่อใช้เรียกคนไข้วัยรุ่น 81 00:04:40,905 --> 00:04:43,741 ‎ที่อยากศัลยกรรมให้ตัวเอง ‎ดูเหมือนรูปเซลฟีที่ปรับแต่งแล้ว 82 00:04:43,825 --> 00:04:45,702 ‎หนูยังไม่เข้าใจว่าแม่ซื้อมันให้เธอทำไม 83 00:04:45,994 --> 00:04:47,203 ‎แล้วจะให้แม่ทำยังไงล่ะ 84 00:04:47,620 --> 00:04:49,664 ‎เพื่อนร่วมชั้นของเธอมีมันกันทุกคน 85 00:04:50,164 --> 00:04:51,165 ‎เธออายุแค่ 11 เอง 86 00:04:51,457 --> 00:04:52,959 ‎แคส ไม่มีใครบังคับให้เธอใช้ 87 00:04:53,042 --> 00:04:54,919 ‎ถ้าไม่อยากเชื่อมต่อกับโลก มันก็แล้วแต่เธอ 88 00:04:55,169 --> 00:04:59,340 ‎ไม่มีมือถือฉันก็เชื่อมต่อได้ โอเคนะ ‎ตอนนี้ฉันใช้อินเทอร์เน็ตอยู่ 89 00:04:59,424 --> 00:05:03,094 ‎แถมนั่นมันก็ไม่ใช่การเชื่อมต่อของจริง ‎มันมีแต่เรื่องประสาท... 90 00:05:03,177 --> 00:05:06,180 ‎ทุนนิยมสอดแนมได้เปลี่ยนโฉมหน้าการเมือง ‎และวัฒนธรรมของพวกเรา 91 00:05:06,597 --> 00:05:08,308 ‎ในแบบที่คนส่วนมากไม่รับรู้ 92 00:05:08,391 --> 00:05:10,101 ‎พวกไอซิสปลุกปั่นสาวกผ่านเน็ต 93 00:05:10,184 --> 00:05:12,812 ‎และตอนนี้กลุ่มผู้นิยมผิวขาวสุดโต่ง ‎ก็กำลังทำแบบเดียวกัน 94 00:05:12,895 --> 00:05:14,147 ‎เมื่อเร็วๆ นี้ที่อินเดีย 95 00:05:14,230 --> 00:05:17,442 ‎ม็อบจากเน็ตได้รุมประชาทัณฑ์ ‎และสังหารคน 12 ชีวิตซึ่งรวมถึงห้าคน... 96 00:05:17,525 --> 00:05:20,361 ‎มันไม่ใช่แค่ข่าวลวง ‎แต่เป็นข่าวลวงที่นำมาซึ่งผลลัพธ์ 97 00:05:20,445 --> 00:05:24,240 ‎เราจะรับมือกับโรคระบาด ‎ในยุคสมัยของข่าวลือได้ยังไง 98 00:05:24,324 --> 00:05:27,118 ‎ถ้ากินอาหารจีน เราจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาไหม 99 00:05:27,535 --> 00:05:32,540 ‎เราได้ก้าวจากยุคสารสนเทศมาสู่ยุคข่าวปลอม 100 00:05:32,623 --> 00:05:34,667 ‎ประชาธิปไตยของเรากำลังถูกโจมตี 101 00:05:34,751 --> 00:05:39,005 ‎ที่ผมบอกก็คือ "ผมคิดว่าเครื่องมือ ‎ที่ถูกสร้างขึ้นในวันนี้ 102 00:05:39,088 --> 00:05:41,632 ‎กำลังเริ่มกัดกร่อนสายใยทางสังคม ‎ที่พาสังคมเราขับเคลื่อน" 103 00:06:00,151 --> 00:06:03,446 ‎เอซากล่าวต้อนรับ เราจะเล่นวิดีโอ 104 00:06:04,197 --> 00:06:07,241 ‎จากนั้นก็ "สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ‎เชิญพบกับทริสทัน แฮร์ริส" 105 00:06:07,408 --> 00:06:08,826 ‎- ครับ ‎- ดี 106 00:06:08,951 --> 00:06:12,038 ‎แล้วผมก็ขึ้นมา และ... 107 00:06:12,121 --> 00:06:13,748 ‎(ฮิวเมน แผนใหม่สำหรับเทคโนโลยี) 108 00:06:13,831 --> 00:06:15,708 ‎ผมจะพูดว่า "ขอบคุณที่มานะครับ" 109 00:06:17,919 --> 00:06:21,798 ‎ทีนี้ วันนี้ผมอยากจะพูดเรื่อง ‎แผนการใหม่สำหรับเทคโนโลยี 110 00:06:22,131 --> 00:06:25,468 ‎และสาเหตุที่เราอยากทำแบบนั้น ‎ก็เพราะถ้าคุณถามใครๆ ว่า 111 00:06:25,551 --> 00:06:27,595 ‎"ปัญหาของวงการเทคโนโลยีทุกวันนี้คืออะไร" 112 00:06:28,304 --> 00:06:31,599 ‎มันจะมีเสียงก่นด่าผสมปนเปกับข่าวอื้อฉาว 113 00:06:31,724 --> 00:06:33,893 ‎"พวกนั้นขโมยข้อมูลเรา" ‎มีปัญหาเสพติดเทคโนโลยี 114 00:06:33,976 --> 00:06:35,978 ‎มีข่าวปลอม มีปัญหาการแบ่งขั้ว 115 00:06:36,062 --> 00:06:37,397 ‎มีการแทรกแซงการเลือกตั้ง 116 00:06:38,189 --> 00:06:41,484 ‎แต่ภายใต้ปัญหาพวกนี้ มันมีอะไร 117 00:06:41,692 --> 00:06:44,654 ‎ที่ทำให้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นพร้อมกันหรือเปล่า 118 00:06:46,447 --> 00:06:48,324 ‎- ผมพูดเป็นไง ‎- ดีมากเลย 119 00:06:50,827 --> 00:06:52,703 ‎ผมตั้งใจว่า ผมอยากให้ผู้คนเห็น... 120 00:06:53,037 --> 00:06:55,206 ‎ว่าในแวดวงเทคโนโลยีมันมีปัญหาเกิดขึ้น 121 00:06:55,289 --> 00:07:00,211 ‎มันไม่มีชื่อเรียก และมันมีแหล่งที่มาเดียว... 122 00:07:05,091 --> 00:07:09,387 ‎เวลามองไปรอบตัว ‎เราจะรู้สึกเหมือนโลกมันผิดเพี้ยนไปแล้ว 123 00:07:12,765 --> 00:07:14,809 ‎เราจะอดถามตัวเองไม่ได้ว่านี่มันปกติเหรอ 124 00:07:16,102 --> 00:07:18,771 ‎หรือว่าเราตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของอะไร 125 00:07:22,316 --> 00:07:25,153 ‎(ทริสทัน แฮร์ริส ‎อดีตนักจริยธรรมการออกแบบที่กูเกิล) 126 00:07:25,236 --> 00:07:27,905 ‎(ผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์ฮิวเมน เทคโนโลยี) 127 00:07:27,989 --> 00:07:30,491 ‎ผมหวังว่าจะมีคนเข้าใจกลไกของเรื่องนี้มากขึ้น 128 00:07:30,575 --> 00:07:34,036 ‎เพราะมันไม่ควรเป็นเรื่องที่รู้กัน ‎แค่เฉพาะในวงการเทคโนโลยี 129 00:07:34,120 --> 00:07:35,913 ‎มันควรเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ 130 00:07:47,383 --> 00:07:48,301 ‎- สวัสดีค่ะ ‎- ไงครับ 131 00:07:48,843 --> 00:07:50,678 ‎- ผมทริสทัน ดีใจที่ได้พบ ‎- ทริสทันใช่ไหม 132 00:07:50,761 --> 00:07:51,721 ‎- ครับ ‎- เยี่ยมเลยค่ะ 133 00:07:53,181 --> 00:07:55,933 ‎ทริสทัน แฮร์ริส ‎คืออดีตนักจริยธรรมการออกแบบของกูเกิล 134 00:07:56,017 --> 00:07:59,353 ‎และถูกขนานนามว่าเป็น ‎คนที่มีมโนธรรมที่สุดในซิลิคอนแวลลีย์ 135 00:07:59,437 --> 00:08:00,730 ‎เขาเรียกร้องให้วงการเทคโนโลยี 136 00:08:00,813 --> 00:08:04,192 ‎เพิ่มสิ่งที่เขาเรียกว่า "จริยธรรมการออกแบบ" ‎เข้าไปในผลิตภัณฑ์ของตน 137 00:08:04,275 --> 00:08:06,986 ‎คนในแวดวงเทคโนโลยีที่พูดความจริงนั้นหายาก 138 00:08:07,236 --> 00:08:10,114 ‎แต่ทริสทันเห็นว่ามันต้องมีคนที่ทำแบบนั้น 139 00:08:11,324 --> 00:08:12,408 ‎ตอนผมอยู่ที่กูเกิล 140 00:08:12,783 --> 00:08:15,661 ‎ผมอยู่ทีมจีเมลและตอนนั้นผมก็เหนื่อยเต็มที 141 00:08:16,120 --> 00:08:18,372 ‎กับการหารือกันไม่หยุดหย่อนเกี่ยวกับ... 142 00:08:19,457 --> 00:08:23,169 ‎หน้าตาของกล่องข้อความขาเข้า ‎และสีที่มันควรจะเป็น 143 00:08:23,419 --> 00:08:25,963 ‎และโดยส่วนตัวแล้ว ผมเป็นคนเสพติดอีเมล 144 00:08:26,297 --> 00:08:27,632 ‎และผมว่ามันน่าสนใจมาก 145 00:08:27,715 --> 00:08:31,385 ‎ที่ในทีมจีเมลไม่มีใครคิดหาวิธี ‎ทำให้คนเสพติดมันน้อยลงเลย 146 00:08:31,969 --> 00:08:34,222 ‎ผมคิดว่า "ไม่มีคนอื่นที่คิดเรื่องนี้บ้างเหรอ 147 00:08:34,597 --> 00:08:36,224 ‎ผมไม่เคยได้ยินใครพูดเรื่องนี้" 148 00:08:36,849 --> 00:08:41,437 ‎และผมก็รู้สึกขมขื่นแบบนี้ ‎กับวงการเทคโนโลยีทั้งหมด 149 00:08:41,521 --> 00:08:42,813 ‎มันเหมือนเรากำลังหลงทาง 150 00:08:46,943 --> 00:08:49,820 ‎ผมพยายามอย่างหนักเพื่อหาคำตอบว่า 151 00:08:49,904 --> 00:08:52,490 ‎เราจะเปลี่ยนแปลงมันจากข้างในได้ยังไง 152 00:08:55,201 --> 00:08:59,497 ‎และตอนนั้นเองที่ผมตัดสินใจทำสื่อนำเสนอ ‎เพื่อเรียกร้องให้มีการทำอะไรสักอย่าง 153 00:09:00,998 --> 00:09:04,377 ‎ทุกวันพอถึงบ้าน ผมจะทำมันคืนละสองชั่วโมง 154 00:09:06,170 --> 00:09:11,884 ‎เนื้อหาของมันมีอยู่ว่า ‎การที่นักออกแบบผิวขาวอายุ 20 ถึง 35 155 00:09:12,426 --> 00:09:15,263 ‎จำนวน 50 คนในแคลฟอร์เนีย ‎ได้ตัดสินใจเรื่องบางอย่าง 156 00:09:15,888 --> 00:09:19,725 ‎และส่งผลกระทบต่อผู้คนสองพันล้าน ‎เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน 157 00:09:21,018 --> 00:09:24,355 ‎แค่นักออกแบบที่กูเกิลบอกว่า ‎"นี่คือวิธีการทำงานของระบบแจ้งเตือน 158 00:09:24,522 --> 00:09:28,067 ‎ที่คุณจะตื่นมาเจอบนหน้าจอในตอนเช้า" 159 00:09:28,484 --> 00:09:30,361 ‎อาจไม่ได้ทำให้คนสองพันล้านต้องการมัน 160 00:09:31,112 --> 00:09:35,032 ‎และในฐานะกูเกิล เรามีหน้าที่ทางศีลธรรม ‎ที่จะต้องแก้ไขปัญหานี้ 161 00:09:36,075 --> 00:09:37,743 ‎ผมส่งสื่อนำเสนอตัวนี้ 162 00:09:37,827 --> 00:09:41,622 ‎ไปให้เพื่อนร่วมงานที่สนิทด้วยในกูเกิล ‎ราวๆ 15 ถึง 20 คน 163 00:09:41,872 --> 00:09:44,542 ‎ผมกังวลเรื่องมันมาก ‎ผมไม่รู้ว่าผลตอบรับจะเป็นยังไง 164 00:09:46,460 --> 00:09:47,837 ‎วันต่อมาพอผมไปทำงาน 165 00:09:48,129 --> 00:09:50,464 ‎ผมเห็นสื่อนำเสนอตัวนี้บนหน้าจอส่วนใหญ่ 166 00:09:50,548 --> 00:09:52,049 ‎(ฟังทางนี้) 167 00:09:52,133 --> 00:09:54,552 ‎ภายในวันนั้นมีผู้คนดูมันพร้อมกันถึง 400 คน 168 00:09:54,635 --> 00:09:56,053 ‎และจำนวนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 169 00:09:56,137 --> 00:09:57,680 ‎ผมได้รับอีเมลจากทั่วบริษัท 170 00:09:58,180 --> 00:10:00,141 ‎พนักงานในทุกแผนกบอกว่า 171 00:10:00,349 --> 00:10:02,852 ‎"ผมเห็นด้วยเต็มร้อย ‎ผมเห็นว่ามันทำอะไรกับลูกผม 172 00:10:02,935 --> 00:10:06,522 ‎ผมเห็นว่ามันทำอะไรกับคนรอบตัวผม ‎เราต้องทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้" 173 00:10:07,481 --> 00:10:10,318 ‎ผมรู้สึกเหมือนผมได้เปิดฉากการปฏิวัติ ‎หรืออะไรทำนองนั้นเลย 174 00:10:11,861 --> 00:10:15,197 ‎ต่อมาผมมารู้ว่าแลร์รี่ เพจ ‎ได้รับแจ้งเกี่ยวกับสื่อนำเสนอตัวนี้ 175 00:10:15,281 --> 00:10:16,824 ‎ในที่ประชุมสามครั้งของวันนั้น 176 00:10:18,075 --> 00:10:20,369 ‎และมันก็ทำให้เกิดช่วงเวลาสำคัญทางวัฒนธรรม 177 00:10:20,870 --> 00:10:23,205 ‎ซึ่งกูเกิลจำเป็นจะต้องใส่ใจ 178 00:10:26,000 --> 00:10:28,794 ‎แล้วจากนั้น ก็สูญ 179 00:10:34,300 --> 00:10:36,135 ‎ทุกคนในปี 2006... 180 00:10:37,345 --> 00:10:38,888 ‎รวมถึงเราทุกคนที่เฟซบุ๊ก 181 00:10:39,305 --> 00:10:43,392 ‎ต่างก็ชื่นชมกูเกิลและสิ่งที่กูเกิลได้สร้างขึ้น 182 00:10:43,476 --> 00:10:47,271 ‎อันได้แก่การบริการ ‎ที่เป็นประโยชน์อย่างน่าเหลือเชื่อ 183 00:10:47,480 --> 00:10:51,067 ‎ซึ่งเท่าที่เราบอกได้ ‎มันได้สร้างประโยชน์มากมายแก่โลก 184 00:10:51,525 --> 00:10:54,695 ‎และได้สร้างบ่อเงินบ่อทองคู่ขนานนี้ขึ้นมา 185 00:10:55,696 --> 00:11:00,034 ‎พวกเราอิจฉาเรื่องนั้น ‎เรามองว่ามันงามสง่า... 186 00:11:00,826 --> 00:11:02,161 ‎และสมบูรณ์แบบเหลือเกิน 187 00:11:02,953 --> 00:11:04,872 ‎เฟซบุ๊กเพิ่งก่อตั้งมาได้ราวสองปี 188 00:11:05,873 --> 00:11:08,250 ‎และผมก็ถูกจ้างมาเพื่อตีให้แตกว่า 189 00:11:08,459 --> 00:11:10,586 ‎บริษัทควรมีโมเดลทางธุรกิจยังไง 190 00:11:10,920 --> 00:11:13,214 ‎ผมเป็นผอ. แผนกการสร้างรายได้ งานคือ... 191 00:11:13,506 --> 00:11:16,634 ‎"คุณคือคนที่ต้องคิดให้ออกว่า ‎จะหารายได้จากเจ้านี่ยังไง" 192 00:11:17,301 --> 00:11:19,804 ‎ที่นั่นมีหลายคนที่ทำงานหลายอย่าง 193 00:11:19,887 --> 00:11:25,476 ‎แต่ชัดเจนว่า ‎ผมคือหนึ่งในคนที่มีหน้าที่ชี้บอกทิศทาง... 194 00:11:26,769 --> 00:11:28,437 ‎แรกที่สุด เราต้องทำเงิน... 195 00:11:29,313 --> 00:11:33,651 ‎และผมคิดว่าโมเดลธุรกิจโฆษณา ‎ดูจะเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมที่สุด 196 00:11:43,077 --> 00:11:44,453 ‎แม่ส่งวิดีโออะไรมาให้เราเนี่ย 197 00:11:44,537 --> 00:11:47,873 ‎จากรายการทอล์กโชว์น่ะ แต่มันดีมากเลย ‎ผู้ชายคนนั้นเป็นอัจฉริยะ 198 00:11:47,957 --> 00:11:50,584 ‎เขาพูดเรื่องลบโซเชียลมีเดียทิ้งและนายก็ควรทำ 199 00:11:50,668 --> 00:11:52,503 ‎ฉันน่าจะบล็อกอีเมลแม่ซะ 200 00:11:52,962 --> 00:11:55,923 ‎พูดตรงๆ นะ ฉันฟังแม่พูดไม่เข้าใจด้วยซ้ำ ‎แม่อาการหนักกว่าฉันอีก 201 00:11:56,173 --> 00:11:58,592 ‎- ไม่หรอก แม่ใช้แค่ดูสูตรอาหาร ‎- ใช่ และทำงาน 202 00:11:58,676 --> 00:12:00,511 ‎- ใช้ดูวิดีโอออกกำลัง ‎- และเช็คดูเรา 203 00:12:00,594 --> 00:12:02,638 ‎กับทุกคนที่แม่เคยเจอมาในชีวิต 204 00:12:04,932 --> 00:12:07,893 ‎ถ้าคุณเลื่อนดูฟีดข่าวโซเชียลมีเดียของคุณ 205 00:12:07,977 --> 00:12:11,564 ‎ระหว่างที่รับชมเราไปด้วย ‎คุณควรจะรีบวางมือถือลงและฟังเรา 206 00:12:11,814 --> 00:12:14,817 ‎เพราะแขกคนต่อไปของเรา ‎คือผู้เขียนสุดยอดหนังสือ 207 00:12:14,900 --> 00:12:17,903 ‎ที่บอกเราว่ามันทำชีวิตเราพังได้มากแค่ไหน 208 00:12:18,195 --> 00:12:19,447 ‎โปรดต้อนรับผู้แต่งหนังสือ 209 00:12:19,530 --> 00:12:23,993 ‎สิบเหตุผลให้คุณลบบัญชีโซเชียลมีเดียเดี๋ยวนี้ 210 00:12:24,535 --> 00:12:25,786 ‎จารอน เลเนียร์ 211 00:12:27,997 --> 00:12:31,834 ‎บริษัทอย่างกูเกิลและเฟซบุ๊กเป็นบริษัทที่มั่งคั่ง 212 00:12:31,917 --> 00:12:33,544 ‎และประสบความสำเร็จอย่างที่สุด 213 00:12:34,295 --> 00:12:36,672 ‎พวกเขามีพนักงานค่อนข้างน้อย 214 00:12:36,922 --> 00:12:40,468 ‎พวกเขาแค่มีคอมพิวเตอร์เครื่องยักษ์ ‎ที่ช่วยพวกเขาในการหาเงิน 215 00:12:41,510 --> 00:12:45,306 ‎ทีนี้คนจ่ายเงินให้พวกเขาเพื่ออะไร ‎นั่นคือคำถามสำคัญ 216 00:12:47,308 --> 00:12:49,977 ‎ผมลงทุนกับเทคโนโลยีมาเป็นเวลา 35 ปี 217 00:12:51,020 --> 00:12:54,356 ‎ช่วง 50 ปีแรกของซิลิคอนแวลลีย์ ‎อุตสาหกรรมนี้ได้สร้างผลิตภัณฑ์ 218 00:12:54,440 --> 00:12:58,402 ‎ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ แล้วขายมันให้ลูกค้า ‎นี่เป็นธุรกิจเรียบง่ายที่ดี 219 00:12:58,611 --> 00:13:01,447 ‎แต่ในช่วงสิบปีให้หลัง ‎บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ของซิลิคอนแวลลีย์ 220 00:13:01,530 --> 00:13:03,866 ‎กลับทำธุรกิจขายผู้ใช้งาน 221 00:13:03,949 --> 00:13:05,910 ‎มาพูดตอนนี้มันออกจะซ้ำซากด้วยซ้ำ 222 00:13:05,993 --> 00:13:09,205 ‎แต่เราไม่ได้เป็นผู้จ่ายเงิน ‎สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อีกแล้ว 223 00:13:09,288 --> 00:13:12,166 ‎ผู้ลงโฆษณาต่างหากที่จ่ายแทนเรา 224 00:13:12,416 --> 00:13:14,084 ‎ผู้ลงโฆษณาคือลูกค้า 225 00:13:14,710 --> 00:13:16,086 ‎ส่วนเราคือสิ่งที่ถูกขาย 226 00:13:16,170 --> 00:13:17,421 ‎สำนวนโบราณบอกว่า 227 00:13:17,713 --> 00:13:21,592 ‎"ถ้าคุณไม่ได้จ่ายเงินซื้อสินค้า ‎งั้นคุณก็จะเป็นสินค้าเสียเอง" 228 00:13:21,675 --> 00:13:23,302 ‎(คุณเป็นสินค้า) 229 00:13:23,385 --> 00:13:27,223 ‎คนมากมายที่คิดว่า "กูเกิลเป็นแค่กล่องค้นหา 230 00:13:27,306 --> 00:13:29,642 ‎ส่วนเฟซบุ๊กก็เป็นที่ที่เอาไว้ดูว่า ‎เพื่อนๆ เราทำอะไรอยู่ 231 00:13:29,809 --> 00:13:31,101 ‎และดูรูปพวกเขา" 232 00:13:31,185 --> 00:13:35,481 ‎แต่ที่พวกเขาไม่ตระหนักก็คือ ‎ของพวกนี้แข่งขันกันเพื่อดึงความสนใจเรา 233 00:13:36,524 --> 00:13:41,028 ‎ทั้งเฟซบุ๊ก สแนปแชท ทวิตเตอร์ ‎อินสตาแกรม ยูทูบ 234 00:13:41,195 --> 00:13:45,449 ‎บริษัทจำพวกนี้ โมเดลธุรกิจของพวกเขา ‎คือการดึงผู้คนให้ติดอยู่กับหน้าจอ 235 00:13:46,283 --> 00:13:49,578 ‎เรามาคิดกันดีกว่าว่าเราจะใช้วิธีการไหน ‎เพื่อดึงความสนใจคนคนนี้ 236 00:13:49,662 --> 00:13:50,746 ‎ให้ได้มากที่สุด 237 00:13:51,455 --> 00:13:53,165 ‎เราทำให้คุณใช้เวลากับมันได้เท่าไร 238 00:13:54,124 --> 00:13:56,669 ‎เราทำให้คุณมอบชีวิตคุณให้กับเราได้มากแค่ไหน 239 00:13:58,712 --> 00:14:01,090 ‎เมื่อไหรที่คุณคิดถึงการทำงานของบริษัทพวกนี้ 240 00:14:01,173 --> 00:14:02,258 ‎มันก็จะเริ่มสมเหตุสมผล 241 00:14:03,050 --> 00:14:06,095 ‎ในอินเทอร์เน็ตมีบริการมากมายที่เราคิดว่ามันฟรี 242 00:14:06,262 --> 00:14:09,473 ‎แต่มันไม่ฟรี ‎ผู้ลงโฆษณาเป็นคนจ่ายเงินให้พวกเขา 243 00:14:09,682 --> 00:14:11,559 ‎แล้วผู้ลงโฆษณาจะจ่ายให้บริษัทพวกนั้นทำไม 244 00:14:11,725 --> 00:14:14,687 ‎พวกเขาจ่ายเพื่อแลกกับ ‎การเอาโฆษณามาแสดงให้เราดู 245 00:14:14,770 --> 00:14:18,357 ‎เราคือสินค้า ความสนใจของเรา ‎คือสินค้าที่ถูกขายให้ผู้ลงโฆษณา 246 00:14:18,816 --> 00:14:20,317 ‎เรื่องนั้นมันออกจะง่าย 247 00:14:20,734 --> 00:14:23,654 ‎ความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่ค่อยเป็นค่อยไป 248 00:14:23,737 --> 00:14:26,282 ‎ในพฤติกรรมและการรับรู้ของคุณนั่นแหละคือสินค้า 249 00:14:26,365 --> 00:14:27,575 ‎(ความเปลี่ยนแปลง) ‎(พฤติกรรมและการรับรู้) 250 00:14:27,658 --> 00:14:30,244 ‎และนั่นก็คือสินค้า เป็นสินค้าเดียวที่เป็นไปได้ 251 00:14:30,327 --> 00:14:33,706 ‎ไม่มีอะไรอีกแล้วที่พอให้เรียกว่าเป็นสินค้าได้ 252 00:14:34,164 --> 00:14:36,584 ‎นั่นเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาจะหาเงินจากมันได้ 253 00:14:37,668 --> 00:14:39,086 ‎การเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณ 254 00:14:39,336 --> 00:14:41,714 ‎ความคิดของคุณ สิ่งที่คุณเป็น 255 00:14:42,631 --> 00:14:45,301 ‎มันเป็นความเปลี่ยนแปลงทีละนิด มันเล็กน้อย 256 00:14:45,384 --> 00:14:48,846 ‎ถ้าคุณสามารถเดินไปบอกใครสักคนว่า ‎"เอาเงินมาให้ผมสิบล้านดอลลาร์สิ 257 00:14:49,054 --> 00:14:54,310 ‎แล้วผมจะทำให้คนหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของโลก ‎เปลี่ยนแปลงไปในทางที่คุณต้องการ..." 258 00:14:54,894 --> 00:14:58,355 ‎มันทั้งโลกนะ แบบนั้นมันคงมหัศจรรย์ ‎และมันก็คงจะคุ้มค่าเงินมหาศาล 259 00:14:59,315 --> 00:15:00,149 ‎โอเค 260 00:15:00,691 --> 00:15:04,403 ‎นี่คือสิ่งที่ทุกธุรกิจใฝ่ฝันถึงมาตลอด 261 00:15:04,653 --> 00:15:10,784 ‎การลงโฆษณาที่รับประกันได้ว่า ‎มันจะประสบความสำเร็จ 262 00:15:11,327 --> 00:15:14,455 ‎นั่นคือธุรกิจของพวกเขา ‎พวกเขาขายความแน่นอน 263 00:15:14,997 --> 00:15:17,625 ‎เพื่อให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจนั้น 264 00:15:17,791 --> 00:15:19,585 ‎คุณต้องมีการคาดการณ์ชั้นเลิศ 265 00:15:19,668 --> 00:15:20,544 ‎(การคาดการณ์ชั้นเลิศ) 266 00:15:20,628 --> 00:15:24,131 ‎การคาดการณ์ชั้นเลิศ ‎เริ่มต้นด้วยเงื่อนไขจำเป็นเดียว 267 00:15:25,215 --> 00:15:26,926 ‎คุณต้องมีข้อมูลจำนวนมาก 268 00:15:27,009 --> 00:15:29,053 ‎(ข้อมูล) 269 00:15:29,136 --> 00:15:31,263 ‎มีหลายคนที่เรียกมันว่าทุนนิยมสอดแนม 270 00:15:31,639 --> 00:15:34,350 ‎ลัทธิทุนนิยมที่ค้ากำไร ‎จากการแกะรอยที่ที่ทุกๆ คนไป 271 00:15:34,433 --> 00:15:38,062 ‎อย่างไม่มีที่สิ้นสุดโดยบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ 272 00:15:38,145 --> 00:15:40,356 ‎ซึ่งมีโมเดลธุรกิจเป็นการรับประกันว่า 273 00:15:40,439 --> 00:15:42,566 ‎ผู้ลงโฆษณาจะประสบความสำเร็จ 274 00:15:43,150 --> 00:15:45,486 ‎นี่คือตลาดรูปแบบใหม่ 275 00:15:45,653 --> 00:15:48,072 ‎เป็นตลาดแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน 276 00:15:48,822 --> 00:15:55,371 ‎และเป็นตลาดที่ขายเฉพาะอนาคตของมนุษย์ 277 00:15:56,288 --> 00:16:01,669 ‎เหมือนกับที่มีตลาดซึ่งขายอนาคตของหมูสามชั้น ‎หรือขายอนาคตของน้ำมัน 278 00:16:02,127 --> 00:16:07,341 ‎ตอนนี้เรามีตลาดที่ขายอนาคตของมนุษย์ ‎ในระดับใหญ่ 279 00:16:08,175 --> 00:16:13,347 ‎และตลาดพวกนั้นทำเงินได้เป็นล้านล้านดอลลาร์ 280 00:16:14,014 --> 00:16:19,061 ‎ส่งผลให้บริษัทอินเทอร์เน็ตทั้งหลาย ‎กลายเป็นบริษัทที่ร่ำรวยที่สุด 281 00:16:19,353 --> 00:16:22,356 ‎ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ 282 00:16:27,444 --> 00:16:31,073 ‎สิ่งที่ผมอยากให้คนรู้ก็คือ ‎ทุกอย่างที่พวกเขาทำออนไลน์ 283 00:16:31,156 --> 00:16:34,326 ‎ล้วนถูกจับจ้อง ถูกตามรอย ถูกประเมิน 284 00:16:35,035 --> 00:16:39,623 ‎ทุกๆ การกระทำที่เราทำ ‎ล้วนถูกจับตาดูด้วยความระมัดระวังและบันทึกไว้ 285 00:16:39,707 --> 00:16:43,836 ‎ภาพใดบ้างที่คุณหยุดมองและคุณมองมันนานแค่ไหน 286 00:16:43,919 --> 00:16:45,629 ‎นั่นแหละสำคัญ คุณมองมันนานแค่ไหน 287 00:16:45,879 --> 00:16:47,548 ‎(นาวิยา อาร์ ระยะเวลามีส่วนร่วม) 288 00:16:47,631 --> 00:16:50,426 ‎(ไรอัน เอ็ม ระยะเวลามีส่วนร่วม) ‎(เร็น เอฟ ระยะเวลามีส่วนร่วม) 289 00:16:50,509 --> 00:16:53,512 ‎พวกเขารู้ว่าตอนไหนที่ใครเหงา ‎พวกเขารู้ว่าตอนไหนที่ใครซึมเศร้า 290 00:16:53,595 --> 00:16:56,849 ‎พวกเขารู้ว่าตอนไหนใครกำลังดูรูปของอดีตคู่รัก 291 00:16:56,932 --> 00:17:00,060 ‎พวกเขารู้ว่าคุณทำอะไรตอนดึกๆ ‎พวกเขารู้ทุกอย่าง 292 00:17:01,270 --> 00:17:03,230 ‎คุณเป็นพวกชอบเก็บตัวหรือชอบสังคม 293 00:17:03,313 --> 00:17:06,442 ‎หรือคุณมีอาการทางประสาทชนิดใด ‎คุณเป็นคนประเภทไหน 294 00:17:08,193 --> 00:17:11,572 ‎พวกเขามีข้อมูลเกี่ยวกับเรามากยิ่งกว่า 295 00:17:11,697 --> 00:17:14,324 ‎ที่ใครจะเคยคาดคิดในประวัติศาสตร์มนุษย์ 296 00:17:14,950 --> 00:17:16,368 ‎มันไม่เคยมีมาก่อน 297 00:17:18,579 --> 00:17:22,499 ‎และข้อมูลทั้งหมดนี้ที่เราถ่ายเทออกไปตลอดเวลา 298 00:17:22,875 --> 00:17:26,754 ‎จะถูกนำป้อนเข้าสู่ระบบ ‎ซึ่งแทบจะไม่มีมนุษย์ควบคุมดูแลอยู่ 299 00:17:27,463 --> 00:17:30,507 ‎และทำให้มันคาดการณ์ ‎ได้แม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆ และเรื่อยๆ 300 00:17:30,966 --> 00:17:33,135 ‎ว่าเราจะทำอะไรและเราเป็นใคร 301 00:17:34,887 --> 00:17:36,346 ‎(แนะนำสำหรับคุณ) 302 00:17:36,430 --> 00:17:39,308 ‎คนจำนวนมากเข้าใจผิดว่า ‎สิ่งที่ถูกขายไปคือข้อมูลของเรา 303 00:17:40,476 --> 00:17:43,270 ‎การยกข้อมูลให้ฟรีๆ ‎ไม่สร้างประโยชน์ทางธุรกิจให้กับเฟซบุ๊ก 304 00:17:45,522 --> 00:17:46,940 ‎พวกเขาทำอะไรกับข้อมูลพวกนั้น 305 00:17:51,070 --> 00:17:54,364 ‎พวกเขาสร้างโมเดล ‎ที่คาดเดาการกระทำของเรา 306 00:17:54,656 --> 00:17:57,618 ‎และใครก็ตามที่มีโมเดลที่ดีที่สุดคือผู้ชนะ 307 00:18:02,706 --> 00:18:04,041 ‎เลื่อนหน้าจอช้าลง 308 00:18:04,124 --> 00:18:07,002 ‎ใกล้หมดระยะการใช้งานโดยเฉลี่ยแล้ว ‎ลดการป้อนโฆษณา 309 00:18:07,086 --> 00:18:08,420 ‎ดึงเพื่อนกับครอบครัวกลับมา 310 00:18:09,671 --> 00:18:11,340 ‎ที่อีกฟากหนึ่งของหน้าจอ 311 00:18:11,423 --> 00:18:15,469 ‎มันเหมือนพวกเขามีโมเดลหุ่นฟาง ‎ที่เป็นตัวแทนของพวกเราอยู่ 312 00:18:16,845 --> 00:18:18,180 ‎ทุกๆ อย่างที่เราทำ 313 00:18:18,263 --> 00:18:19,473 ‎ทุกคลิกที่เรากด 314 00:18:19,556 --> 00:18:21,350 ‎ทุกวิดีโอที่เราดู ทุกไลก์ของเรา 315 00:18:21,725 --> 00:18:25,354 ‎มันจะถูกดึงกลับไป ‎เพื่อสร้างโมเดลที่เที่ยงตรงมากขึ้นเรื่อยๆ 316 00:18:25,896 --> 00:18:27,481 ‎โมเดลนั้น พอคุณได้มันแล้ว 317 00:18:27,564 --> 00:18:29,858 ‎คุณจะสามารถคาดเดาสิ่งที่คนคนนั้นทำ 318 00:18:30,109 --> 00:18:31,777 ‎เอาละ ขอทดสอบหน่อย 319 00:18:32,569 --> 00:18:33,487 ‎คุณจะไปที่ไหน 320 00:18:33,570 --> 00:18:36,115 ‎ผมสามารถทำนายได้ว่าวิดีโอแบบไหน ‎ที่จะทำให้คุณดูต่อ 321 00:18:36,198 --> 00:18:39,159 ‎ผมสามารถทำนายได้ว่า ‎อารมณ์แบบไหนที่กระตุ้นคุณได้ 322 00:18:39,243 --> 00:18:40,410 ‎ใช่ สมบูรณ์แบบ 323 00:18:41,578 --> 00:18:43,163 ‎คลิปหลุดสุดโป๊ะแห่งปี 324 00:18:43,747 --> 00:18:44,665 ‎(คลิปหลุดสุดโป๊ะ) 325 00:18:48,627 --> 00:18:51,088 ‎- ยอดเยี่ยม ได้ผล ‎- ตามด้วยวิดีโออีกตัว 326 00:18:51,171 --> 00:18:54,049 ‎งดงามมาก ทีนี้ก็ใส่โฆษณา ‎รองเท้าผ้าใบสั้นๆ เข้าไปก่อนมันเริ่ม 327 00:18:56,510 --> 00:18:59,263 ‎ที่บริษัทเทคโนโลยีพวกนี้ ‎พวกเขามีเป้าหมายหลักสามอย่าง 328 00:18:59,513 --> 00:19:03,517 ‎เป้าหมายด้านการมีส่วนร่วมเพื่อเพิ่มการใช้งาน ‎เพื่อให้คุณเลื่อนหน้าจอต่อ 329 00:19:04,393 --> 00:19:05,936 ‎เป้าหมายด้านการเติบโต 330 00:19:06,019 --> 00:19:08,647 ‎เพื่อคอยดึงคุณกลับมา ‎และทำให้คุณชวนเพื่อนมามากที่สุด 331 00:19:08,730 --> 00:19:10,315 ‎แล้วให้พวกเขาชวนเพื่อนมาเพิ่ม 332 00:19:11,358 --> 00:19:14,987 ‎จากนั้นก็เป็นเป้าหมายด้านการโฆษณา ‎เพื่อให้แน่ใจว่าขณะที่สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น 333 00:19:15,070 --> 00:19:17,406 ‎เรากำลังทำเงินเท่าที่จะมากได้จากการโฆษณา 334 00:19:19,324 --> 00:19:21,994 ‎เป้าหมายเหล่านี้ขับเคลื่อนด้วยอัลกอริทึม 335 00:19:22,077 --> 00:19:24,454 ‎ซึ่งมีหน้าที่คิดว่าจะเอาอะไรให้คุณดู 336 00:19:24,538 --> 00:19:25,747 ‎เพื่อเพิ่มตัวเลขเหล่านั้น 337 00:19:26,623 --> 00:19:29,918 ‎ที่เฟซบุ๊ก เราคุยกันถึงแนวคิดที่จะทำให้เรา 338 00:19:30,002 --> 00:19:34,006 ‎หมุนปรับมันได้ตามใจชอบอยู่บ่อยๆ 339 00:19:34,673 --> 00:19:38,594 ‎และเราก็คุยกันด้วยว่าจะให้มาร์คถือตัวหมุนนั้น 340 00:19:41,305 --> 00:19:44,474 ‎"นี่ วันนี้ผมต้องการผู้ใช้งานในเกาหลีเพิ่ม" 341 00:19:45,684 --> 00:19:46,518 ‎หมุนปรับเลย 342 00:19:47,436 --> 00:19:48,770 ‎"เพิ่มโฆษณาสักนิด" 343 00:19:49,980 --> 00:19:51,607 ‎"เพิ่มการสร้างรายได้อีกหน่อย" 344 00:19:53,108 --> 00:19:55,444 ‎และเรามี... 345 00:19:55,527 --> 00:19:59,239 ‎ไม่สิ บริษัทเหล่านี้ทั้งหมด ‎ต่างก็มีความแม่นยำในระดับดังกล่าว 346 00:19:59,990 --> 00:20:02,409 ‎- พวก... ‎- ฉันไม่รู้ว่าฉันโดนกรรมการปรับได้ไง 347 00:20:02,492 --> 00:20:05,537 ‎- กรรมการคนนั้นห่วยแตก ‎- แต่นายพุ่งสุดตัวเลยนะ... 348 00:20:05,871 --> 00:20:07,956 ‎- นั่นรีเบกก้า ไปคุยกับเธอสิ ‎- ฉันเห็นแล้วน่า 349 00:20:08,040 --> 00:20:10,834 ‎- พวก ไปคุยกับเธอเร็ว ‎- ฉันว่าจะทำอยู่ 350 00:20:10,918 --> 00:20:14,171 ‎ปฏิทินของเขาบอกว่าตอนนี้เขาพักอยู่ ‎เราน่าจะถ่ายทอดสดนะ 351 00:20:15,422 --> 00:20:16,298 ‎ให้ฉันสะกิดไหม 352 00:20:17,132 --> 00:20:18,008 ‎อือ สะกิดเลย 353 00:20:21,720 --> 00:20:24,181 ‎"ไทเลอร์เพื่อนคุณเพิ่งเข้าร่วม ‎โบกมือทักทายเขาสิ" 354 00:20:26,016 --> 00:20:26,850 ‎เร็วเข้าพวก 355 00:20:27,434 --> 00:20:28,769 ‎กดโบกมือหน่อย 356 00:20:29,394 --> 00:20:31,313 ‎นายไม่กล้า ไปคุยกับเธอเถอะน่า 357 00:20:31,730 --> 00:20:34,900 ‎(ไทเลอร์เพื่อนคุณเพิ่งเข้าร่วม ‎โบกมือทักทายเขาสิ) 358 00:20:36,902 --> 00:20:37,986 ‎(การเชื่อมต่อเครือข่าย) 359 00:20:38,070 --> 00:20:40,447 ‎ลิงก์ใหม่ เอาละ ได้เรื่องแล้ว 360 00:20:40,948 --> 00:20:46,078 ‎ตามด้วยโพสต์ของผู้ใช้งาน ‎หมายเลข 079044238820 รีเบกก้า 361 00:20:46,161 --> 00:20:49,790 ‎ความคิดดี พิกัดจีพีเอสบอกว่า ‎ตอนนี้พวกเขาอยู่ใกล้กัน 362 00:20:52,167 --> 00:20:55,837 ‎(รีเบกก้า จี) ‎(เจอคู่ชีวิตแล้ว แฮชแท็กคู่ซี้ หม่ำๆ เพื่อนแท้) 363 00:20:55,921 --> 00:20:57,172 ‎เขาพร้อมรับโฆษณาแล้ว 364 00:20:57,631 --> 00:20:58,465 ‎ได้เวลาประมูล 365 00:20:58,715 --> 00:21:00,050 ‎(ตัวอย่างโฆษณา) ‎(แว็กซ์ผมดีปเฟด) 366 00:21:00,133 --> 00:21:02,803 ‎ขาย ส่งแว็กซ์ผมดีปเฟดออกไป 367 00:21:03,387 --> 00:21:07,933 ‎มีผู้ประมูลที่สนใจ 468 ราย เราขายเบน ‎ที่ 3.262 เซ็นต์ต่อหนึ่งการมีส่วนร่วม 368 00:21:17,109 --> 00:21:21,530 ‎เราได้สร้างโลกที่ซึ่งการเชื่อมต่อในโลกออนไลน์ ‎กลายเป็นเรื่องสำคัญที่สุด 369 00:21:22,072 --> 00:21:23,907 ‎โดยเฉพาะกับคนรุ่นเยาว์ 370 00:21:23,991 --> 00:21:28,662 ‎และในโลกใบนั้น ทุกครั้งที่คนสองคนเชื่อมต่อกัน 371 00:21:29,162 --> 00:21:33,083 ‎ทางเดียวที่มันจะทำเงิน ‎คือต้องผ่านบุคคลที่สามที่ปิดบังตัว 372 00:21:33,333 --> 00:21:35,585 ‎ที่จ่ายเงินเพื่อชักใยสองคนนั้น 373 00:21:36,128 --> 00:21:39,381 ‎เราทำให้ทั่วทั้งโลกเกิดคนรุ่นที่ถูกเลี้ยงดู 374 00:21:39,464 --> 00:21:44,011 ‎ภายในบริบทที่ว่าความหมายของการสื่อสาร 375 00:21:44,094 --> 00:21:47,431 ‎ความหมายของวัฒนธรรมคือการชักใย 376 00:21:47,514 --> 00:21:49,725 ‎เราตั้งความเจ้าเล่ห์และหลอกลวง 377 00:21:49,808 --> 00:21:52,185 ‎เอาไว้ที่แกนกลางของทุกสิ่งที่เราทำ 378 00:21:56,356 --> 00:22:01,445 ‎("เทคโนโลยีใดๆ ที่ก้าวหน้าเพียงพอ ‎มิอาจจำแนกจากเวทมนตร์ได้") 379 00:22:01,528 --> 00:22:05,657 ‎(อาเธอร์ ซี คลาร์ก) 380 00:22:05,741 --> 00:22:07,242 ‎- หันไปที่อีก... ‎- โอเค 381 00:22:07,326 --> 00:22:09,369 ‎- ผมต้องหันไปทางไหนถึงจะดี ‎- นั่นดีแล้ว 382 00:22:09,453 --> 00:22:10,412 ‎- นี่เหรอ ‎- ครับ 383 00:22:10,704 --> 00:22:13,707 ‎ถ้าผมทำแบบนี้ ‎ภาพในกล้องมันจะออกมายังไง... 384 00:22:13,790 --> 00:22:15,042 ‎- เราสามารถ... ‎- แบบนี้ 385 00:22:15,542 --> 00:22:16,835 ‎- อะไรน่ะ ‎- ครับ 386 00:22:16,918 --> 00:22:18,462 ‎- ทำอีกทีได้ไหม ‎- ได้สิครับ 387 00:22:19,046 --> 00:22:20,255 ‎ไม่ มันอาจจะไม่... 388 00:22:21,256 --> 00:22:22,090 ‎ครับ 389 00:22:22,466 --> 00:22:23,884 ‎ไอ้นี่มันไม่ค่อย... 390 00:22:31,016 --> 00:22:32,517 ‎คริสอ้าปากค้างอยู่ตรงนี้แล้ว 391 00:22:34,728 --> 00:22:35,562 ‎เจ๋งไหมล่ะ 392 00:22:35,645 --> 00:22:37,773 ‎(มายากล) 393 00:22:37,856 --> 00:22:40,609 ‎ผมเริ่มหัดมายากลตอนอายุได้สักห้าขวบ 394 00:22:41,151 --> 00:22:45,781 ‎และผมก็สามารถหลอกผู้ใหญ่ ‎ผู้ใหญ่เต็มวัยอย่างพวกดอกเตอร์ 395 00:22:55,040 --> 00:22:57,709 ‎นักมายากลก็เหมือนนักประสาทวิทยา 396 00:22:57,793 --> 00:22:58,960 ‎และนักจิตวิทยารุ่นแรก 397 00:22:59,044 --> 00:23:02,005 ‎พวกเขาเป็นพวกแรกที่เข้าใจว่า 398 00:23:02,089 --> 00:23:03,382 ‎จิตใจของคนทำงานยังไง 399 00:23:04,216 --> 00:23:07,344 ‎พวกเขาทดสอบอะไรหลายอย่าง ‎กับผู้คนต่อหน้าต่อตา 400 00:23:09,137 --> 00:23:11,139 ‎นักมายากลนั้นจะเข้าใจบางอย่าง 401 00:23:11,223 --> 00:23:14,017 ‎บางส่วนของจิตใจคุณที่คุณไม่ล่วงรู้ 402 00:23:14,101 --> 00:23:15,769 ‎นั่นคือสิ่งที่ทำให้มายากลได้ผล 403 00:23:16,269 --> 00:23:20,399 ‎จะหมอ จะทนาย จะเป็นคนที่รู้วิธี ‎สร้างเครื่องบิน 747 หรือจรวดนิวเคลียร์ 404 00:23:20,732 --> 00:23:24,361 ‎พวกเขาไม่รู้นักหรอกว่า ‎จิตใจของตัวเองเปราะบางยังไง 405 00:23:24,444 --> 00:23:26,113 ‎มันเป็นหลักการที่ต่างออกไป 406 00:23:26,571 --> 00:23:28,990 ‎และมันก็เป็นหลักการที่ประยุกต์ใช้ ‎ได้กับมนุษย์ทุกคน 407 00:23:29,074 --> 00:23:30,909 ‎(มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด) 408 00:23:30,992 --> 00:23:34,079 ‎จากแง่มุมดังกล่าว ‎คุณจะเกิดความเข้าใจที่ต่างออกไป 409 00:23:34,162 --> 00:23:35,247 ‎ว่าเทคโนโลยีทำอะไร 410 00:23:36,873 --> 00:23:40,836 ‎สมัยผมอยู่ที่ห้องวิจัยเทคโนโลยีการชักจูง ‎ที่สแตนฟอร์ด นี่คือสิ่งที่เราเรียนกัน 411 00:23:41,628 --> 00:23:43,463 ‎เราจะใช้ทุกอย่างที่เรารู้ 412 00:23:43,547 --> 00:23:45,632 ‎เกี่ยวกับจิตวิทยาการจูงใจคน 413 00:23:45,966 --> 00:23:48,176 ‎มาสร้างเป็นเทคโนโลยีได้ยังไง 414 00:23:48,468 --> 00:23:50,887 ‎เอาละ พวกคุณที่ฟังอยู่ส่วนใหญ่ ‎ต่างก็เป็นอัจฉริยะอยู่แล้ว 415 00:23:50,971 --> 00:23:55,851 ‎ผมเชื่ออย่างนั้น แต่เป้าหมายผมคือการทำให้คุณ ‎เป็นอัจฉริยะด้านการเปลี่ยนพฤติกรรม 416 00:23:56,852 --> 00:24:01,231 ‎คนสำคัญของซิลิคอนแวลลีย์จำนวนมาก ‎มาเรียนวิชานั้น 417 00:24:01,440 --> 00:24:05,485 ‎พวกที่มีบทบาทสำคัญ ‎ในการพัฒนาเฟซบุ๊ก อูเบอร์และบริษัทอื่นๆ 418 00:24:05,569 --> 00:24:08,989 ‎พวกเขามาศึกษาว่าจะสร้างเทคโนโลยียังไง ‎ให้ชักจูงคนได้มากขึ้น 419 00:24:09,614 --> 00:24:10,782 ‎ทริสทันคือหนึ่งในนั้น 420 00:24:12,284 --> 00:24:14,619 ‎เทคโนโลยีการชักจูงคืองานออกแบบ 421 00:24:14,786 --> 00:24:16,580 ‎ซึ่งตั้งใจให้นำมาใช้งานจริงได้ 422 00:24:16,663 --> 00:24:18,874 ‎เมื่อเราต้องการจะปรับเปลี่ยน ‎พฤติกรรมคนบางคน 423 00:24:18,957 --> 00:24:20,542 ‎เราต้องการให้พวกเขาทำแบบนี้ 424 00:24:20,625 --> 00:24:23,336 ‎เราต้องการให้พวกเขาใช้นิ้วทำแบบนี้ 425 00:24:23,420 --> 00:24:26,256 ‎พอลากลงจะเป็นการรีเฟรช ‎แล้วด้านบนก็จะเป็นเรื่องใหม่ 426 00:24:26,339 --> 00:24:28,508 ‎ลากลงแล้วรีเฟรชอีกก็ใหม่อีก ทุกๆ ครั้งที่ทำเลย 427 00:24:28,592 --> 00:24:33,430 ‎ซึ่งในทางจิตวิทยาแล้ว เราเรียกมันว่า ‎การเสริมแรงทางบวกเป็นระยะ 428 00:24:33,805 --> 00:24:37,142 ‎เราไม่รู้ว่าเราจะได้เมื่อไหร่ ‎หรือเราจะได้อะไรไหม 429 00:24:37,225 --> 00:24:39,811 ‎มันจึงทำงานเหมือนตู้สล็อตในเวกัส 430 00:24:40,145 --> 00:24:42,230 ‎แค่คุณใช้สินค้าอย่างมีสติมันไม่พอ 431 00:24:42,314 --> 00:24:44,024 ‎ผมอยากจะเจาะลึกลงไปในก้านสมองคุณ 432 00:24:44,107 --> 00:24:47,360 ‎และปลูกนิสัยที่คุณไม่ตระหนักเอาไว้ข้างใน 433 00:24:47,819 --> 00:24:50,864 ‎เพื่อป้อนคำสั่งคุณในระดับที่ลึกลงไป 434 00:24:50,947 --> 00:24:51,990 ‎คุณจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ 435 00:24:52,532 --> 00:24:53,742 ‎ชายชื่อเจมส์... 436 00:24:53,825 --> 00:24:56,286 ‎ทุกครั้งที่คุณเห็นมันบนเคาน์เตอร์ 437 00:24:56,369 --> 00:24:59,789 ‎และคุณมองดูมัน คุณจะรู้ว่าถ้าคุณเอื้อมมือเข้าไป 438 00:24:59,873 --> 00:25:01,333 ‎คุณอาจจะได้อะไรจากมัน 439 00:25:01,416 --> 00:25:04,002 ‎คุณจึงเล่นตู้สล็อตนั้นเพื่อดูว่าคุณจะได้อะไร ‎ถูกไหมครับ 440 00:25:04,294 --> 00:25:06,046 ‎มันคือเทคนิคการออกแบบ ไม่ใช่บังเอิญ 441 00:25:06,129 --> 00:25:11,134 ‎เขานำทองคำก้อนไปให้นายทหาร ‎ในกองทัพที่ซานฟรานซิสโก 442 00:25:12,219 --> 00:25:15,388 ‎อย่าลืมเชียว ‎ประชากรของซานฟรานซิสโกมีแค่... 443 00:25:15,472 --> 00:25:17,432 ‎อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือการแท็กรูป 444 00:25:19,726 --> 00:25:23,730 ‎ถ้าคุณได้รับอีเมลบอกว่า ‎เพื่อนของคุณแท็กคุณในรูปภาพ 445 00:25:24,147 --> 00:25:28,568 ‎แน่นอนว่าคุณจะต้องคลิกอีเมลนั้นและดูรูป 446 00:25:29,152 --> 00:25:31,821 ‎มันไม่ใช่อะไรที่คุณสามารถเลือกที่จะเมินเฉย 447 00:25:32,364 --> 00:25:36,117 ‎นี่คือนิสัยที่ฝังรากลึกของมนุษย์ ‎ซึ่งพวกเขาใช้ประโยชน์ 448 00:25:36,409 --> 00:25:38,078 ‎สิ่งที่คุณควรถามตัวเองก็คือ 449 00:25:38,161 --> 00:25:40,288 ‎"ทำไมอีเมลฉบับนั้นไม่ใส่รูปเข้ามาด้วยเสียเลย 450 00:25:40,372 --> 00:25:42,123 ‎แบบนั้นมันจะดูรูปง่ายกว่า" 451 00:25:42,791 --> 00:25:45,919 ‎ตอนที่เฟซบุ๊กเจอฟีเจอร์นั้น ‎พวกเขาแค่เอามันมาขยายใหญ่ 452 00:25:46,002 --> 00:25:48,505 ‎เพราะพวกเขาคิดว่า ‎"นี่จะเป็นวิธีสร้างกิจกรรมที่ดี 453 00:25:48,588 --> 00:25:51,091 ‎เรามาทำให้คนแท็กกันในรูปภาพทั้งวันดีกว่า" 454 00:25:56,263 --> 00:25:58,890 ‎(เบน ดับเบิลยู) ‎(อย่างน้อยเราคนหนึ่งก็ดูดี) 455 00:25:59,349 --> 00:26:00,183 ‎เขาแสดงความเห็น 456 00:26:00,559 --> 00:26:01,393 ‎วิเศษ 457 00:26:01,935 --> 00:26:04,396 ‎โอเค รีเบกก้าได้รับและเธอกำลังตอบ 458 00:26:04,771 --> 00:26:07,065 ‎มาทำให้เบนรู้เรื่องนั้นดีกว่า ‎เราจะได้ไม่เสียเขาไป 459 00:26:07,649 --> 00:26:08,733 ‎เปิดจุดไข่ปลา 460 00:26:09,234 --> 00:26:13,613 ‎(อย่างน้อยเราคนหนึ่งก็ดูดี) ‎(...) 461 00:26:19,578 --> 00:26:20,745 ‎เยี่ยม เธอโพสต์แล้ว 462 00:26:21,454 --> 00:26:24,249 ‎เขากำลังพิมพ์ใต้ความเห็นเธอ ‎เรื่องความเห็นเขาในโพสต์เธอ 463 00:26:25,041 --> 00:26:26,084 ‎เดี๋ยวก่อน เขาหยุดพิมพ์ 464 00:26:27,002 --> 00:26:27,836 ‎ใช้ระบบเติมคำศัพท์ 465 00:26:28,420 --> 00:26:30,005 ‎อีโมจิ เขาชอบอีโมจิ 466 00:26:31,381 --> 00:26:33,758 ‎(เติมข้อความ) ‎(การมีส่วนร่วม) 467 00:26:33,842 --> 00:26:34,676 ‎เขาเลือกอีโมจิไฟ 468 00:26:35,427 --> 00:26:36,595 ‎อุตส่าห์เชียร์มะเขือยาว 469 00:26:38,597 --> 00:26:42,475 ‎มันจะมีหลักการและแผนก ‎ที่เรียกว่า "โกรทแฮกกิ้ง" อยู่ 470 00:26:42,809 --> 00:26:47,147 ‎พวกทีมวิศวกรจะมีหน้าที่แฮกจิตวิทยามนุษย์ 471 00:26:47,230 --> 00:26:48,565 ‎เพื่อให้แอปเติบโตยิ่งขึ้น 472 00:26:48,648 --> 00:26:50,900 ‎พวกเขาจะได้ผู้ใช้งานเพิ่ม ได้การมีส่วนร่วมเพิ่ม 473 00:26:51,067 --> 00:26:52,861 ‎พวกเขาสามารถทำให้คุณเชิญคนมาเพิ่ม 474 00:26:52,944 --> 00:26:55,655 ‎หลังจากการทดสอบ การทวนซ้ำและอะไรพวกนั้น 475 00:26:56,072 --> 00:26:57,532 ‎เรื่องใหญ่ที่สุดที่เราพบคืออะไร 476 00:26:57,991 --> 00:27:00,577 ‎พาบุคคลไปหาเพื่อนเจ็ดคนให้ได้ในสิบวัน 477 00:27:01,953 --> 00:27:02,787 ‎นั่นแหละครับ 478 00:27:02,871 --> 00:27:05,498 ‎ชามัธเป็นหัวหน้าฝ่ายการเติบโต ‎ของเฟซบุ๊กยุคแรกๆ 479 00:27:05,582 --> 00:27:08,251 ‎และเขาเป็นที่รู้จักดีในวงการเทคโนโลยี 480 00:27:08,335 --> 00:27:11,004 ‎ในเรื่องการบุกเบิก ‎กลยุทธ์กระตุ้นการเติบโตมากมาย 481 00:27:11,087 --> 00:27:14,841 ‎ซึ่งถูกใช้กระตุ้นให้เฟซบุ๊ก ‎เติบโตเร็วจนน่าเหลือเชื่อ 482 00:27:14,966 --> 00:27:18,553 ‎และกลยุทธ์การเติบโตพวกนั้นก็กลายเป็น ‎คู่มือกลยุทธ์พื้นฐานที่ซิลิคอนแวลลีย์ 483 00:27:18,637 --> 00:27:21,389 ‎มันถูกใช้ที่อูเบอร์และที่บริษัทอื่นๆ อีกเป็นโขยง 484 00:27:21,473 --> 00:27:27,062 ‎หนึ่งในสิ่งที่เขาบุกเบิก ‎คือการใช้หลักการทดสอบแบบสองตัวแปร 485 00:27:27,145 --> 00:27:28,563 ‎ในการปรับเปลี่ยนฟีเจอร์เล็กๆ 486 00:27:29,022 --> 00:27:30,940 ‎บริษัทอย่างกูเกิลและเฟซบุ๊ก 487 00:27:31,024 --> 00:27:34,569 ‎จะหมั่นแนะนำการทดลองเล็กๆ มากมาย 488 00:27:34,653 --> 00:27:36,905 ‎ที่พวกเขาทำอยู่ตลอดเวลากับผู้ใช้งาน 489 00:27:37,030 --> 00:27:39,866 ‎แล้วในชั่วเวลาหนึ่ง ‎ด้วยการทดลองที่ต่อเนื่องเหล่านี้ 490 00:27:39,949 --> 00:27:43,036 ‎เราก็จะพัฒนาวิธีการที่เหมาะสมที่สุด 491 00:27:43,119 --> 00:27:45,288 ‎ที่จะทำให้ผู้ใช้งานทำอย่างที่เราต้องการขึ้นมาได้ 492 00:27:45,372 --> 00:27:46,790 ‎มันคือการควบคุมชักใย 493 00:27:47,332 --> 00:27:49,042 ‎คุณทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นหนูทดลอง 494 00:27:49,834 --> 00:27:51,920 ‎คุณเป็นหนูทดลอง เราทุกคนเป็นหนูทดลอง 495 00:27:52,545 --> 00:27:55,548 ‎และเราก็ไม่ใช่หนูทดลอง ‎สำหรับพัฒนายารักษาโรคมะเร็ง 496 00:27:55,632 --> 00:27:58,134 ‎พวกเขาไม่ได้คิดจะทำประโยชน์แก่เรา 497 00:27:58,218 --> 00:28:01,680 ‎จริงไหม เราเป็นแค่ซอมบี้ไร้สมอง ‎และพวกเขาก็ต้องการให้เราดูโฆษณาเพิ่ม 498 00:28:01,763 --> 00:28:02,889 ‎พวกเขาจะได้ทำเงินเพิ่ม 499 00:28:03,556 --> 00:28:08,228 ‎เฟซบุ๊กได้ทำสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า ‎"การทดลองการแพร่ระบาดระดับใหญ่" 500 00:28:08,311 --> 00:28:09,145 ‎โอเค 501 00:28:09,229 --> 00:28:12,857 ‎เราจะใช้การบอกเป็นนัยที่ซ่อนเร้นอยู่ ‎ในหน้าเพจเฟซบุ๊ก 502 00:28:13,400 --> 00:28:17,570 ‎เพื่อให้คนไปลงคะแนนเสียง ‎ในการเลือกตั้งกลางเทอมมากขึ้นได้ยังไง 503 00:28:18,113 --> 00:28:20,824 ‎และพวกเขาพบว่าพวกเขาสามารถทำแบบนั้นได้ 504 00:28:21,116 --> 00:28:23,993 ‎ข้อสรุปหนึ่งที่พวกเขาได้ก็คือตอนนี้เรารู้แล้วว่า 505 00:28:24,744 --> 00:28:28,915 ‎เราสามารถสร้างผลกระทบ ‎ต่อพฤติกรรมในโลกจริงและความรู้สึกได้ 506 00:28:28,998 --> 00:28:32,877 ‎โดยที่ไม่ทำให้ผู้ใช้งานตระหนักด้วยซ้ำ 507 00:28:33,503 --> 00:28:37,298 ‎พวกเขาไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย 508 00:28:38,049 --> 00:28:41,970 ‎เราหันกลไกของเอไอเหล่านี้กลับมาที่ตัวเอง 509 00:28:42,053 --> 00:28:46,224 ‎เพื่อใช้หลักวิศวกรรมผันกลับ ‎หาว่าอะไรที่เรียกการตอบสนองของเรา 510 00:28:46,850 --> 00:28:49,561 ‎มันคล้ายๆ กับคุณไปแหย่เซลล์ประสาทของแมงมุม 511 00:28:49,644 --> 00:28:51,187 ‎เพื่อดูว่าอะไรทำให้ขามันตอบสนอง 512 00:28:51,938 --> 00:28:53,940 ‎มันจึงเหมือนกับการทดลองเรือนจำ 513 00:28:54,023 --> 00:28:56,735 ‎ซึ่งเรากวาดต้อนผู้คนเข้าสู่ผังข้อมูลขนาดใหญ่ 514 00:28:56,818 --> 00:29:00,572 ‎และเราก็เก็บเกี่ยวเม็ดเงินกับข้อมูล ‎จากกิจกรรมทั้งหมดของพวกเขา 515 00:29:00,655 --> 00:29:01,489 ‎เพื่อนำมาหากำไร 516 00:29:01,573 --> 00:29:03,032 ‎และเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้น 517 00:29:03,867 --> 00:29:07,912 ‎เราต้องการจะหาคำตอบในเชิงจิตวิทยา ‎ว่าเราจะบงการคุณให้เร็วที่สุดได้ยังไง 518 00:29:07,996 --> 00:29:09,539 ‎จากนั้นก็กระตุ้นโดพามีนให้คุณ 519 00:29:10,165 --> 00:29:12,208 ‎ที่เฟซบุ๊ก เราทำแบบนั้นอย่างชาญฉลาด 520 00:29:12,625 --> 00:29:14,627 ‎อินสตาแกรมทำแบบนั้น วอตส์แอปป์ทำแบบนั้น 521 00:29:15,003 --> 00:29:17,380 ‎สแนปแชททำแบบนั้น ทวิตเตอร์ก็ทำแบบนั้น 522 00:29:17,672 --> 00:29:19,424 ‎นั่นเป็นอะไรที่... 523 00:29:19,507 --> 00:29:22,427 ‎มีแต่แฮกเกอร์อย่างผมจะคิดขึ้นมาได้ 524 00:29:22,510 --> 00:29:27,140 ‎เพราะนั่นคุณกำลังใช้ประโยชน์ ‎จากจุดอ่อนของจิตใจมนุษย์ 525 00:29:27,223 --> 00:29:28,725 ‎(ฌอน พาร์คเกอร์ อดีตประธานเฟซบุ๊ก) 526 00:29:28,808 --> 00:29:33,438 ‎ผมคิดว่าเรา นักคิดค้น นักประดิษฐ์... 527 00:29:33,980 --> 00:29:37,317 ‎แบบผม แบบมาร์ค แบบ... 528 00:29:37,400 --> 00:29:39,903 ‎เควิน ซิสตรอมที่อินสตาแกรม คนเหล่านี้... 529 00:29:41,154 --> 00:29:46,451 ‎เข้าใจเรื่องพวกนี้ดี แต่เราก็ยังทำมันอยู่ดี 530 00:29:50,580 --> 00:29:53,750 ‎ไม่มีใครรู้สึกแย่ตอนที่โลกเริ่มมีจักรยาน 531 00:29:55,043 --> 00:29:58,004 ‎จริงไหม แบบว่าถ้าทุกคนเริ่มขี่จักรยานไปเที่ยว 532 00:29:58,087 --> 00:30:00,757 ‎จะไม่มีใครพูดว่า ‎"พระเจ้าช่วย เราทำลายสังคม 533 00:30:01,007 --> 00:30:03,051 ‎จักรยานมันส่งผลกระทบต่อคน 534 00:30:03,134 --> 00:30:04,928 ‎มันดึงพ่อแม่ให้ห่างออกไปจากลูกๆ 535 00:30:05,386 --> 00:30:08,723 ‎มันทำลายสายใยประชาธิปไตย ‎คนแยกความจริงไม่ออกอีกต่อไป" 536 00:30:08,807 --> 00:30:11,184 ‎เราไม่พูดอะไรแบบนั้นกับจักรยาน 537 00:30:12,769 --> 00:30:16,147 ‎ถ้าอะไรสักอย่างเป็นแค่เครื่องมือ ‎มันจะตั้งอยู่ตรงนั้น 538 00:30:16,731 --> 00:30:18,525 ‎รอคอยอย่างอดทน 539 00:30:19,317 --> 00:30:22,612 ‎แต่ถ้ามันไม่ใช่เครื่องมือ ‎มันจะเริ่มเรียกร้องสิ่งต่างๆ จากคุณ 540 00:30:22,904 --> 00:30:26,533 ‎มันล่อลวงคุณ ปั่นหัวคุณ ‎มันต้องการบางอย่างจากคุณ 541 00:30:26,950 --> 00:30:30,495 ‎และเราก็ย้ายจากการมีสภาพแวดล้อม ‎ทางเทคโนโลยีสำหรับใช้เป็นเครื่องมือ 542 00:30:31,037 --> 00:30:34,249 ‎ไปเป็นสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยี ‎เพื่อการควบคุมและเสพติด 543 00:30:34,582 --> 00:30:35,625 ‎นั่นคือสิ่งที่เปลี่ยนไป 544 00:30:35,792 --> 00:30:39,295 ‎โซเชียลมีเดียไม่ใช่เครื่องมือที่รอให้เราไปใช้ 545 00:30:39,504 --> 00:30:43,466 ‎มันมีเป้าหมายของมัน ‎และมีวิธีการของตนเองสำหรับไปให้ถึงเป้าหมาย 546 00:30:43,550 --> 00:30:45,552 ‎ด้วยการใช้สภาพจิตใจคุณเล่นงานคุณเอง 547 00:30:49,055 --> 00:30:52,517 ‎("มีเพียงสองอุตสาหกรรม ‎ที่เรียกลูกค้าของตนว่า'ผู้ใช้'") 548 00:30:52,600 --> 00:30:55,562 ‎("นั่นคือยาเสพติดกับซอฟต์แวร์") 549 00:30:55,645 --> 00:30:57,480 ‎(เอ็ดเวิร์ด ทัฟต์) 550 00:30:57,605 --> 00:31:02,193 ‎ย้อนกลับไปไม่กี่ปีก่อน ‎ผมคือประธานของพินเทอเรสต์ 551 00:31:03,194 --> 00:31:08,366 ‎ผมกลับมาบ้าน แต่ถึงอยู่บ้าน ‎ผมก็ยังไม่ห่างจากจอมือถือ 552 00:31:08,449 --> 00:31:12,036 ‎แม้ผมจะมีลูกเล็กๆ สองคน ‎ที่ต้องการความรักความเอาใจใส่จากผม 553 00:31:12,412 --> 00:31:15,748 ‎ผมอยู่ในครัว แล้วก็พิมพ์บางอย่างในอีเมล 554 00:31:15,832 --> 00:31:17,458 ‎บางทีก็ดูพินเทอเรสต์ 555 00:31:18,167 --> 00:31:19,627 ‎ผมคิดว่า "ให้ตาย ตลกเป็นบ้า 556 00:31:19,711 --> 00:31:22,046 ‎ตอนกลางวันผมไปทำงาน 557 00:31:22,130 --> 00:31:26,426 ‎และสร้างบางอย่างขึ้นมา ‎แล้วจากนั้นผมก็ตกเป็นเหยื่อของมัน" 558 00:31:26,509 --> 00:31:29,762 ‎และผมก็ไม่ ในบางจังหวะ ผมห้ามตัวเองไม่ได้ 559 00:31:32,307 --> 00:31:36,102 ‎แอปที่ผมติดที่สุดคือทวิตเตอร์ 560 00:31:36,728 --> 00:31:37,729 ‎ก่อนหน้าคือเรดดิต 561 00:31:38,187 --> 00:31:42,859 ‎ผมถึงกับต้องเขียนซอฟต์แวร์ขึ้นมา ‎เพื่อให้ตัวเองเลิกเสพติดการอ่านเรดดิต 562 00:31:45,403 --> 00:31:47,739 ‎ที่ผมติดที่สุดน่าจะเป็นอีเมล 563 00:31:47,864 --> 00:31:49,866 ‎จริงๆ นะ ผมเรักมัน 564 00:31:52,577 --> 00:31:54,954 ‎มันน่าสนใจมากที่ทั้งที่เรารู้ว่า 565 00:31:55,038 --> 00:31:58,166 ‎มีอะไรเกิดขึ้นหลังม่านบ้าง 566 00:31:58,249 --> 00:32:01,628 ‎แต่กลับยังคุมการใช้งานไม่ได้ 567 00:32:01,711 --> 00:32:03,046 ‎มันน่ากลัวอยู่หน่อยๆ 568 00:32:03,630 --> 00:32:07,050 ‎แม้จะรู้ว่าลูกเล่นพวกนี้ทำงานยังไง ‎ผมก็ยังหวั่นไหวกับมัน 569 00:32:07,133 --> 00:32:09,886 ‎ผมยังคงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ‎แล้วเวลา 20 นาทีก็จะหายไป 570 00:32:12,931 --> 00:32:15,725 ‎คุณจะเช็คโทรศัพท์ก่อนฉี่ทุกเช้า 571 00:32:15,850 --> 00:32:17,310 ‎หรือจะเช็คระหว่างฉี่ในตอนเช้า 572 00:32:17,560 --> 00:32:19,187 ‎มันมีแค่สองทางเลือกเท่านั้น 573 00:32:19,771 --> 00:32:23,274 ‎ผมลองตั้งใจมั่น มุ่งมั่นเต็มเปี่ยม... 574 00:32:23,358 --> 00:32:26,903 ‎"ผมจะวางโทรศัพท์ ‎ผมจะทิ้งโทรศัพท์ไว้ในรถตอนที่ผมกลับบ้าน" 575 00:32:26,986 --> 00:32:30,573 ‎ผมบอกตัวเองแบบนั้นเป็นพันหน เป็นพันๆ วัน 576 00:32:30,657 --> 00:32:32,617 ‎"ผมจะไม่หยิบมันเข้าห้องนอน" 577 00:32:32,700 --> 00:32:34,535 ‎จากนั้นพอถึงสามทุ่ม 578 00:32:34,619 --> 00:32:37,121 ‎"เอาละ ผมจะเอามือถือเข้ามาในห้องนอน" 579 00:32:37,956 --> 00:32:39,290 ‎มันคล้ายๆ กับว่า... 580 00:32:39,374 --> 00:32:41,125 ‎ความมุ่งมั่นคือความตั้งใจแรก 581 00:32:41,209 --> 00:32:44,295 ‎แต่จากนั้นความตั้งใจที่สองมันแรงกว่า 582 00:32:44,379 --> 00:32:45,880 ‎เราขอแนะนำเดอะคิทเช่นเซฟ 583 00:32:45,964 --> 00:32:49,801 ‎เดอะคิทเช่นเซฟคือบรรจุภัณฑ์ ‎แบบตั้งเวลาล็อคที่จะปฏิวัติวงการ 584 00:32:49,884 --> 00:32:51,511 ‎เพื่อช่วยให้คุณต่อสู้กับสิ่งล่อใจ 585 00:32:51,761 --> 00:32:56,724 ‎ที่เดวิดต้องทำก็คือใส่สิ่งที่ล่อใจเขา ‎ลงไปในเดอะคิทเช่นเซฟ 586 00:32:57,392 --> 00:33:00,561 ‎จากนั้น เขาต้องหมุนปุ่มลูกบิดเพื่อตั้งเวลา 587 00:33:01,479 --> 00:33:04,232 ‎และท้ายที่สุดก็กดปุ่มซะเพื่อให้ล็อคทำงาน 588 00:33:04,315 --> 00:33:05,525 ‎เดอะคิทเช่นเซฟคือ... 589 00:33:05,608 --> 00:33:06,776 ‎เรามีมันใช่ไหม 590 00:33:06,859 --> 00:33:08,569 ‎วิดีโอเกม บัตรเครดิตและโทรศัพท์มือถือ 591 00:33:08,653 --> 00:33:09,570 ‎อือ เรามี 592 00:33:09,737 --> 00:33:11,072 ‎พอล็อคเดอะคิทเช่นเซฟแล้ว 593 00:33:11,155 --> 00:33:13,866 ‎เราจะเปิดมันอีกไม่ได้ ‎จนกว่าเวลาที่ตั้งไว้จะเป็นศูนย์ 594 00:33:13,950 --> 00:33:17,537 ‎ประเด็นก็คือโซเชียลมีเดียเป็นยาเสพติด 595 00:33:17,620 --> 00:33:20,873 ‎เรามีความจำเป็นทางชีววิทยาพื้นฐาน 596 00:33:20,957 --> 00:33:22,959 ‎ที่ต้องเชื่อมต่อกับคนอื่น 597 00:33:23,167 --> 00:33:28,131 ‎วิธีนั้นจะทำให้เกิดการหลั่งสารโดพามีน ‎เป็นการตอบแทน 598 00:33:28,297 --> 00:33:32,552 ‎วิวัฒนาการหลายล้านปีอยู่เบื้องหลังระบบดังกล่าว 599 00:33:32,635 --> 00:33:35,722 ‎ที่นำเรามารวมกัน มาอยู่รวมเป็นชุมชน 600 00:33:35,805 --> 00:33:37,932 ‎หาคู่และแพร่ขยายเผ่าพันธุ์ 601 00:33:38,099 --> 00:33:41,728 ‎ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่แน่นอนว่า ‎พาหนะอย่างโซเชียลมีเดีย 602 00:33:41,936 --> 00:33:45,523 ‎ซึ่งช่วยปรับการเชื่อมต่อระหว่างผู้คนให้เหมาะสม 603 00:33:45,773 --> 00:33:48,568 ‎จะมีแนวโน้มที่ทำให้คนเสพติดมัน 604 00:33:52,780 --> 00:33:54,115 ‎พ่อคะ หยุดนะ 605 00:33:55,450 --> 00:33:58,369 ‎หนูมีสนิปเป็นพันต้องส่งก่อนกินมื้อเย็น 606 00:33:58,703 --> 00:33:59,537 ‎สนิปเหรอ 607 00:33:59,620 --> 00:34:00,913 ‎ฉันไม่รู้ว่าสนิปคืออะไร 608 00:34:01,164 --> 00:34:03,124 ‎- กลิ่นหอมจังเลยที่รัก ‎- ขอบคุณ 609 00:34:03,291 --> 00:34:05,877 ‎แม่คิดว่าคืนนี้เราน่าจะใช้ประสาททั้งห้า 610 00:34:05,960 --> 00:34:07,462 ‎เพื่อทานมื้อเย็นของเราให้อร่อย 611 00:34:07,795 --> 00:34:11,382 ‎แม่เลยตัดสินใจว่าคืนนี้ ‎เราจะต้องไม่มีโทรศัพท์บนโต๊ะกินข้าว 612 00:34:11,466 --> 00:34:13,301 ‎เอาละ เอามาให้แม่ 613 00:34:13,801 --> 00:34:14,677 ‎- เอาจริงอะ ‎- ค่ะ 614 00:34:15,928 --> 00:34:18,056 ‎- ก็ได้ ‎- ขอบคุณ เบนล่ะ 615 00:34:18,139 --> 00:34:19,891 ‎- โอเค ‎- คุณแม่จอมโจรโทรศัพท์ 616 00:34:21,100 --> 00:34:22,226 ‎- ได้แล้ว ‎- แม่ 617 00:34:22,602 --> 00:34:26,147 ‎มันจะอยู่อย่างปลอดภัยในนี้ ‎จนกว่าเราจะทานมื้อเย็นเสร็จ... 618 00:34:27,023 --> 00:34:31,235 ‎และทุกคนจะได้ผ่อนคลาย โอเคไหม 619 00:34:47,418 --> 00:34:48,920 ‎- ขอดูได้ไหมว่าใคร ‎- ไม่ 620 00:34:54,759 --> 00:34:57,053 ‎ฉันจะไปเอาส้อมอีกคัน 621 00:34:58,304 --> 00:34:59,138 ‎ขอบใจจ้ะ 622 00:35:04,727 --> 00:35:06,521 ‎ลูกรัก ลูกเปิดมันไม่ได้หรอก 623 00:35:06,771 --> 00:35:09,273 ‎แม่ตั้งเวลาล็อคไว้หนึ่งชั่วโมง เพราะงั้นวางซะ 624 00:35:11,192 --> 00:35:13,194 ‎ทีนี้เราคุยอะไรกันดี 625 00:35:13,444 --> 00:35:17,907 ‎เราน่าจะคุยเรื่องพวกบ้าสายกลางสุดโต่ง ‎ที่ผมขับรถผ่านวันนี้นะ 626 00:35:17,990 --> 00:35:18,825 ‎- นี่แฟรงก์ ‎- อะไร 627 00:35:18,908 --> 00:35:20,785 ‎ฉันไม่อยากคุยเรื่องการเมือง 628 00:35:20,868 --> 00:35:23,496 ‎- พวกกลางสุดโต่งมันทำไมเหรอ ‎- ดูสิ เขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำ 629 00:35:23,621 --> 00:35:24,622 ‎มันแล้วแต่ว่าลูกถามใคร 630 00:35:24,705 --> 00:35:26,624 ‎มันเหมือนถามว่า "โฆษณาชวนเชื่อผิดยังไง" 631 00:35:28,876 --> 00:35:29,710 ‎ไอส์ล่า 632 00:35:32,797 --> 00:35:33,756 ‎พระเจ้าช่วย 633 00:35:37,135 --> 00:35:38,553 ‎- อยากให้ผมไป... ‎- ค่ะ 634 00:35:41,973 --> 00:35:43,933 ‎ฉันเป็นห่วงลูกๆ ของฉัน 635 00:35:44,016 --> 00:35:46,394 ‎และถ้าคุณมีลูก ฉันก็ห่วงลูกๆ ของคุณด้วย 636 00:35:46,978 --> 00:35:50,189 ‎ทั้งที่ฉันมีความรู้และประสบการณ์ทั้งหลายแหล่ 637 00:35:50,273 --> 00:35:52,108 ‎แต่ฉันก็ยังต้องทะเลาะกับลูกๆ 638 00:35:52,191 --> 00:35:54,443 ‎เพื่อคุมเวลาเล่นมือถือ ‎กับคอมพิวเตอร์ของพวกเขา 639 00:35:54,527 --> 00:35:58,197 ‎ฉันจะพูดกับลูกชายว่า ‎"ลูกเล่นโทรศัพท์กี่ชั่วโมงแล้ว" 640 00:35:58,281 --> 00:36:01,075 ‎เขาจะตอบว่า ‎"เพิ่งครึ่งชั่วโมง ไม่เกินครึ่งชั่วโมงแน่" 641 00:36:01,159 --> 00:36:04,871 ‎ผมว่าน่าจะชั่วโมงกว่าๆ ชั่วโมงครึ่ง 642 00:36:04,954 --> 00:36:06,789 ‎สองสัปดาห์ก่อนฉันดูรายงานการใช้ของเขา 643 00:36:06,873 --> 00:36:08,708 ‎- ทั้งหมดคือสามชั่วโมง 45 นาที ‎- นั่น... 644 00:36:11,377 --> 00:36:13,671 ‎ฉันไม่คิดว่านั่น นั่นคือเฉลี่ยต่อวันเหรอ 645 00:36:13,838 --> 00:36:15,506 ‎- เออ ‎- ผมไปเอามันมาเลยดีไหม 646 00:36:15,590 --> 00:36:19,177 ‎ไม่มีวันไหนเลยที่ฉันไม่ต้องเตือนลูกๆ 647 00:36:19,260 --> 00:36:21,512 ‎เรื่องสมดุลของความสุขกับความเจ็บปวด 648 00:36:21,846 --> 00:36:26,267 ‎เรื่องภาวะขาดโดพามีน ‎เรื่องความเสี่ยงที่จะเสพติด 649 00:36:26,350 --> 00:36:27,310 ‎- เอาละ ‎- มาดูกัน 650 00:36:27,935 --> 00:36:29,604 ‎สองชั่วโมง 50 นาทีต่อวัน 651 00:36:29,770 --> 00:36:31,564 ‎- ไหนดูซิ ‎- วันนี้ฉันใช้มือถือเยอะ 652 00:36:31,647 --> 00:36:33,191 ‎- ช่วงเจ็ดวันมานี้ ‎- น่าจะเพราะงั้น 653 00:36:33,316 --> 00:36:37,028 ‎อินสตาแกรม หกชั่วโมง 13 นาที ‎โอเค งั้นอินสตาแกรมของฉันหนักกว่า 654 00:36:39,572 --> 00:36:43,201 ‎จอฉันร้าวไปหมดเลย ขอบใจนะแคส 655 00:36:44,410 --> 00:36:45,536 ‎"ขอบใจนะแคส" คืออะไร 656 00:36:45,745 --> 00:36:48,664 ‎ก็เธอทำให้แม่สติแตกเรื่องโทรศัพท์ ‎ทั้งที่มันไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด 657 00:36:48,998 --> 00:36:51,167 ‎เราไม่ต้องใช้โทรศัพท์เพื่อทานมื้อเย็น 658 00:36:51,250 --> 00:36:53,711 ‎ฉันเข้าใจที่เธอจะพูด ‎มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ใช่เลย 659 00:36:56,088 --> 00:36:58,049 ‎ถ้าไม่ใช่ ก็ลองไม่ใช้มันสักอาทิตย์หนึ่งสิ 660 00:37:01,135 --> 00:37:01,969 ‎ใช่ 661 00:37:02,261 --> 00:37:06,349 ‎ใช่ ถ้าลูกไม่ใช้มันสักหนึ่งสัปดาห์ได้ 662 00:37:07,725 --> 00:37:09,185 ‎แม่จะเปลี่ยนจอใหม่ให้ 663 00:37:11,062 --> 00:37:12,438 ‎- เริ่มเลยเหรอ ‎- เริ่มเลย 664 00:37:15,274 --> 00:37:16,859 ‎โอเค ผมตกลง 665 00:37:16,943 --> 00:37:18,611 ‎โอเค ลูกต้องวางมันไว้ตรงนี้ 666 00:37:19,862 --> 00:37:21,113 ‎ได้ครับ ผมจะเสียบปลั๊กมันไว้ 667 00:37:22,531 --> 00:37:25,076 ‎ผมจะจับเวลาไว้ ผมถอยออกมาแล้ว 668 00:37:25,159 --> 00:37:25,993 ‎โอเค 669 00:37:27,828 --> 00:37:29,413 ‎- เริ่มนับถอยหลัง ‎- หนึ่งสัปดาห์ 670 00:37:29,497 --> 00:37:30,331 ‎ให้ตาย... 671 00:37:31,499 --> 00:37:32,458 ‎คิดว่าเขาทำได้ไหม 672 00:37:33,000 --> 00:37:34,085 ‎ไม่รู้สิ มาดูกัน 673 00:37:35,002 --> 00:37:36,128 ‎ลูกกินไปเถอะ 674 00:37:44,220 --> 00:37:45,263 ‎เป็นมื้อเย็นครอบครัวที่ดี 675 00:37:47,723 --> 00:37:50,017 ‎สินค้าเทคโนโลยีพวกนี้ไม่ได้ออกแบบโดย 676 00:37:50,142 --> 00:37:53,688 ‎นักจิตวิทยาเด็กที่พยายามปกป้องและดูแลเด็กๆ 677 00:37:53,854 --> 00:37:56,148 ‎พวกเขาออกแบบมันเพื่อสร้างอัลกอริทึม 678 00:37:56,232 --> 00:37:58,734 ‎ที่แนะนำวิดีโอต่อไปให้คุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ 679 00:37:58,818 --> 00:38:02,071 ‎หรือทำให้คุณถ่ายรูปโดยใช้ฟิลเตอร์ของมัน ‎ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 680 00:38:03,072 --> 00:38:05,324 ‎(สองไลก์) 681 00:38:13,291 --> 00:38:15,126 ‎(แน่ใจหรือไม่ว่าต้องการลบ) ‎(ไม่) 682 00:38:15,209 --> 00:38:16,210 ‎(ใช่) 683 00:38:16,752 --> 00:38:20,256 ‎มันไม่เพียงดึงความสนใจของพวกเขาเท่านั้น 684 00:38:21,173 --> 00:38:26,304 ‎แต่โซเชียลมีเดียได้เริ่มเจาะลึกเข้าไปเรื่อยๆ ‎ในก้านสมองของพวกเขา 685 00:38:26,387 --> 00:38:29,765 ‎และเข้ายึดอัตลักษณ์ ‎กับความรู้สึกว่าตัวเองมีค่าของเด็กๆ 686 00:38:29,849 --> 00:38:31,851 ‎(ทำให้ฉันสวยสิ) 687 00:38:42,069 --> 00:38:43,112 ‎(ลิลี่ ที) ‎(น่ารัก!) 688 00:38:43,195 --> 00:38:44,822 ‎(โซเฟีย เอ็ม) ‎(ต๊าย สวยเลิศ) 689 00:38:44,905 --> 00:38:46,490 ‎(โอลิเวีย บี) ‎(เธอดูดีมากเลย) 690 00:38:46,574 --> 00:38:48,200 ‎(เอวา อาร์) ‎(ทำให้หูใหญ่กว่านี้ได้ไหม) 691 00:38:48,284 --> 00:38:49,118 ‎(ฮ่าๆ) 692 00:38:52,496 --> 00:38:56,250 ‎การวิวัฒน์ทำให้เราสนใจ ‎ว่าคนในเผ่าของเรานั้น... 693 00:38:56,751 --> 00:38:59,128 ‎คิดกับเราดีหรือไม่ เนื่องจากมันสำคัญ 694 00:38:59,837 --> 00:39:04,550 ‎แต่เราวิวัฒน์มาเพื่อรับรู้ ‎สิ่งที่คน 10,000 คนคิดกับเราหรือเปล่า 695 00:39:04,842 --> 00:39:05,885 ‎เราไม่ได้วิวัฒน์มา 696 00:39:05,968 --> 00:39:10,348 ‎เพื่อรับรู้ว่าสังคมยอมรับเราหรือไม่ ‎ในทุกๆ ห้านาที 697 00:39:10,431 --> 00:39:13,142 ‎เราไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้เจออะไรแบบนั้น 698 00:39:15,394 --> 00:39:19,982 ‎เราจัดแสดงชีวิตโดยยึดความเข้าใจ ‎เรื่องความสมบูรณ์แบบตามที่รับรู้ 699 00:39:20,733 --> 00:39:23,527 ‎เพราะเราจะได้รางวัลตอบแทน ‎เป็นสัญญาณระยะสั้น 700 00:39:23,611 --> 00:39:25,154 ‎หัวใจ ยอดไลก์ การชูหัวแม่โป้ง 701 00:39:25,237 --> 00:39:28,199 ‎เรานำมันมาปะปนกับคุณค่า ‎เรานำมันมาปะปนกับความจริง 702 00:39:29,825 --> 00:39:33,120 ‎ทั้งที่จริงๆ แล้วมันคือ ‎ความเป็นที่นิยมปลอมๆ ที่เปราะบาง 703 00:39:33,913 --> 00:39:37,458 ‎มันมีระยะสั้น และยอมรับเถอะครับ ‎ว่ามันทำให้คุณรู้สึก 704 00:39:37,541 --> 00:39:39,919 ‎ว่างเปล่าและไร้ความหมายมากขึ้นก่อนทำ 705 00:39:41,295 --> 00:39:43,381 ‎เพราะมันจะผลักคุณเข้าไปสู่วงจรอุบาทว์ 706 00:39:43,464 --> 00:39:46,842 ‎ที่คุณจะคิดว่า "ฉันต้องทำอะไรต่อ ‎เพราะฉันต้องการมันกลับมา" 707 00:39:48,260 --> 00:39:50,846 ‎ทีนี้ลองคิดว่ามีคนสองพันล้านที่รู้สึกแบบนั้น 708 00:39:50,930 --> 00:39:54,308 ‎แล้วลองคิดว่าคนเรามีปฏิกิริยา ‎ต่อการรับรู้ของคนอื่นยังไง 709 00:39:54,850 --> 00:39:56,435 ‎มัน มันเลวร้ายมาก 710 00:39:56,977 --> 00:39:58,229 ‎มันเลวร้ายมากจริงๆ 711 00:40:00,856 --> 00:40:05,069 ‎วัยรุ่นอเมริกันมีปัญหาเรื่องโรคซึมเศร้า ‎และความหวาดวิตก 712 00:40:05,152 --> 00:40:06,529 ‎เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล 713 00:40:06,612 --> 00:40:10,741 ‎โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงระหว่างปี 2011 และ 2013 714 00:40:11,033 --> 00:40:15,371 ‎จำนวนเด็กสาววัยรุ่น ‎จาก 100,000 คนของประเทศนี้ 715 00:40:15,454 --> 00:40:17,123 ‎ที่ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทุกปี 716 00:40:17,206 --> 00:40:19,708 ‎เนื่องจากการกรีดข้อมือตัวเอง ‎หรือไม่ก็ทำร้ายตัวเอง 717 00:40:20,000 --> 00:40:23,629 ‎มันเป็นตัวเลขที่คงที่ ‎จนกระทั่งถึงช่วงปี 2010 และ 2011 718 00:40:24,004 --> 00:40:25,840 ‎แล้วจากนั้นมันก็พุ่งสูงขึ้น 719 00:40:28,759 --> 00:40:32,263 ‎สำหรับเด็กผู้หญิงวัยโตกว่า ‎มันขึ้นไปถึง 62 เปอร์เซ็นต์ 720 00:40:32,346 --> 00:40:33,931 ‎(ยอดคนไข้ในจากการทำร้ายตัวเอง) 721 00:40:34,014 --> 00:40:38,310 ‎ส่วนเด็กก่อนวัยสาว มันขึ้นไป 189 เปอร์เซ็นต์ ‎ซึ่งนั่นคือเกือบจะสามเท่า 722 00:40:40,312 --> 00:40:43,107 ‎ที่น่ากลัวยิ่งกว่า ‎คือเราเห็นรูปแบบเดียวกันกับการฆ่าตัวตาย 723 00:40:43,190 --> 00:40:44,900 ‎(อัตราการฆ่าตัวตายต่อเด็กสาวล้านคน) 724 00:40:44,984 --> 00:40:47,570 ‎กับเด็กสาววัยโตกว่า ช่วง 15 ถึง 19 ปี 725 00:40:47,653 --> 00:40:51,449 ‎ตัวเลขมันเพิ่มขึ้น 70 เปอร์เซ็นต์ ‎เมื่อเทียบกับในสิบปีแรกของศตวรรษนี้ 726 00:40:52,158 --> 00:40:55,077 ‎ส่วนเด็กวัยก่อนสาว ซึ่งก่อนหน้านี้มีอัตราที่ต่ำมาก 727 00:40:55,161 --> 00:40:57,663 ‎ก็ขึ้นมาถึง 151 เปอร์เซ็นต์ 728 00:40:58,831 --> 00:41:01,709 ‎และรูปแบบนั้นชี้มาที่โซเชียลมีเดีย 729 00:41:01,792 --> 00:41:03,961 ‎(โซเชียลมีเดียใช้งานบนมือถือได้) ‎(ปี 2009) 730 00:41:04,044 --> 00:41:07,298 ‎คนเจนแซด เด็กที่เกิดหลังปี 1996 เป็นต้นมา 731 00:41:07,423 --> 00:41:10,342 ‎เด็กพวกนั้นเป็นคนรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ 732 00:41:10,426 --> 00:41:12,636 ‎ที่ได้ใช้โซเชียลมีเดียในชั้นมัธยมต้น 733 00:41:15,973 --> 00:41:17,099 ‎พวกเขาใช้เวลาว่างยังไง 734 00:41:19,727 --> 00:41:22,480 ‎พวกเขากลับจากโรงเรียน พอถึงบ้านก็จับอุปกรณ์ 735 00:41:24,315 --> 00:41:29,195 ‎คนรุ่นนี้วิตกกังวลมากกว่า ‎เปราะบางมากกว่า ซึมเศร้ามากกว่า 736 00:41:30,613 --> 00:41:33,282 ‎พวกเขาพร้อมรับความเสี่ยงน้อยลงมาก 737 00:41:34,325 --> 00:41:37,161 ‎อัตราการสอบผ่านใบขับขี่ของพวกเขาตกลง 738 00:41:38,996 --> 00:41:41,081 ‎จำนวนของคนที่เคยออกไปเดท 739 00:41:41,165 --> 00:41:44,126 ‎หรือมีความสัมพันธ์ในเชิงความรัก ‎ตกลงอย่างรวดเร็ว 740 00:41:47,505 --> 00:41:49,715 ‎นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในคนรุ่นนี้ 741 00:41:53,177 --> 00:41:57,014 ‎และอย่าลืมว่า ในทุกๆ กรณีเหล่านี้ ‎ทุกครั้งที่มีการเข้าโรงพยาบาล 742 00:41:57,389 --> 00:42:00,267 ‎มันจะมีครอบครัวที่เกิดแผลใจและหวาดผวา 743 00:42:00,351 --> 00:42:02,353 ‎"พระเจ้า เกิดอะไรขึ้นกับลูกของเรา" 744 00:42:19,411 --> 00:42:20,955 ‎มันชัดเจนมากสำหรับผม 745 00:42:22,873 --> 00:42:28,128 ‎บริการเหล่านี้กำลังฆ่าผู้คน ‎และทำให้ผู้คนฆ่าตัวตาย 746 00:42:29,213 --> 00:42:33,300 ‎ผมไม่รู้จักพ่อแม่คนไหนที่บอกว่า ‎"ใช่ ฉันอยากให้ลูกๆ ฉันโตมา 747 00:42:33,384 --> 00:42:36,637 ‎ภายใต้การควบคุมของนักออกแบบเทคโนโลยี 748 00:42:36,971 --> 00:42:39,515 ‎ถูกควบคุมความสนใจ ‎ถูกทำให้ไม่สามารถทำการบ้านได้ 749 00:42:39,598 --> 00:42:42,351 ‎ถูกทำให้เปรียบเทียบตัวเอง ‎กับมาตรฐานความงามจอมปลอม 750 00:42:42,643 --> 00:42:44,436 ‎ไม่มีใครต้องการแบบนั้น 751 00:42:45,104 --> 00:42:46,063 ‎ไม่มีเลย 752 00:42:46,522 --> 00:42:48,482 ‎เราเคยมีการปกป้องพวกนี้ 753 00:42:48,566 --> 00:42:50,943 ‎เวลาที่เด็กๆ ดูการ์ตูนตอนเช้าวันเสาร์ 754 00:42:51,026 --> 00:42:52,778 ‎เราห่วงเรื่องการปกป้องเด็กๆ 755 00:42:52,861 --> 00:42:56,574 ‎เราอาจจะพูดว่า "คุณจะเอาเจ้านี่ ‎มาโฆษณาให้เด็กวัยนี้แบบนี้ไม่ได้" 756 00:42:57,366 --> 00:42:58,784 ‎แต่ทีนี้คุณมียูทูบสำหรับเด็ก 757 00:42:58,867 --> 00:43:02,371 ‎และตัวมันก็ใช้หลักเศรษฐกิจ ‎แห่งการกระตุ้นความสนใจทุกส่วน 758 00:43:02,538 --> 00:43:04,915 ‎และตอนนี้พวกเด็กๆ ก็ล้วนเข้าถึงยูทูบสำหรับเด็ก 759 00:43:04,999 --> 00:43:07,251 ‎การปกป้องและข้อบังคับเหล่านี้หายไปหมด 760 00:43:10,296 --> 00:43:17,261 ‎(ช่วงเวลาที่ไม่ใช้โทรศัพท์) 761 00:43:18,304 --> 00:43:22,141 ‎เรากำลังฝึกฝนและปรับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ทั้งรุ่น 762 00:43:23,434 --> 00:43:28,856 ‎เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกไม่สบายใจ หรือเหงา ‎หรือไม่แน่ใจ หรือหวาดกลัว 763 00:43:29,231 --> 00:43:31,775 ‎เรามีเครื่องบรรเทาดิจิทัลให้ตัวเอง 764 00:43:32,484 --> 00:43:36,488 ‎ซึ่งมันจะลดทอดทักษะ ‎ในการรับมือสิ่งเหล่านั้นของเรา 765 00:43:53,964 --> 00:43:56,884 ‎โฟโตชอปไม่ได้มีวิศวกรนับพัน ‎อยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของหน้าจอ 766 00:43:57,009 --> 00:43:58,969 ‎และคอยใช้การแจ้งเตือน คอยใช้เพื่อนของคุณ 767 00:43:59,053 --> 00:44:02,431 ‎ใช้เอไอคาดเดาว่าอะไรที่จะทำให้คุณเสพติด ‎หรือทำให้คุณติดเบ็ด 768 00:44:02,514 --> 00:44:04,516 ‎หรือปั่นหัวคุณ หรืออนุญาตให้ผู้ลงโฆษณา 769 00:44:04,600 --> 00:44:08,395 ‎ทดสอบตัวแปรข้อความหรือสี 60,000 ชุด... 770 00:44:08,604 --> 00:44:10,648 ‎เพื่อหาว่าอะไรจะคุมความคิดคุณได้ดีที่สุด 771 00:44:11,148 --> 00:44:14,985 ‎นี่คืออำนาจและอิทธิพลสายพันธุ์ใหม่ 772 00:44:16,070 --> 00:44:18,864 ‎ผมอยากบอกอีกครั้งว่าวิธีการที่ใช้ 773 00:44:19,239 --> 00:44:22,868 ‎เพื่อเล่นกับความสามารถในการเสพติด ‎หรือรับอิทธิพลของผู้คน 774 00:44:22,951 --> 00:44:25,204 ‎ในคราวนี้มันอาจต่างออกไป ‎พวกมันอาจจะต่างกัน 775 00:44:25,287 --> 00:44:28,749 ‎มันแตกต่างตอนที่หนังสือพิมพ์เข้ามา ‎และแท่นพิมพ์เข้ามา 776 00:44:28,832 --> 00:44:31,835 ‎และมันก็แตกต่างตอนที่โทรทัศน์เข้ามา 777 00:44:31,919 --> 00:44:34,004 ‎คุณมีช่องหลักสามช่อง และ... 778 00:44:34,463 --> 00:44:36,423 ‎- ในตอนนั้น ‎- ในตอนนั้น นั่นคือที่ผมกำลังบอก 779 00:44:36,507 --> 00:44:38,384 ‎แต่ที่ผมอยากบอกคือมันมีคำว่าระดับใหม่อยู่ 780 00:44:38,467 --> 00:44:42,054 ‎และไอ้ระดับใหม่นั่นมันก็เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้ง 781 00:44:42,137 --> 00:44:45,099 ‎นี่แค่ระดับใหม่ล่าสุดที่เราเจอเท่านั้น 782 00:44:45,349 --> 00:44:48,727 ‎มันมีคำพูดที่ว่า "เราจะปรับตัวเข้ากับมันได้ 783 00:44:48,811 --> 00:44:51,188 ‎เราจะเรียนรู้วิธีใช้ชีวิตกับอุปกรณ์เหล่านี้ 784 00:44:51,271 --> 00:44:53,273 ‎เหมือนที่เราเคยเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตกับอย่างอื่น" 785 00:44:53,816 --> 00:44:56,568 ‎แต่ที่พวกเขาพลาดไปก็คือ ‎เมื่อก่อนบางอย่างมันก็ยังไม่มี 786 00:44:57,444 --> 00:45:00,322 ‎เรื่องที่อาจอันตรายที่สุดก็คือความจริงที่ว่า 787 00:45:00,406 --> 00:45:04,410 ‎มันขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเป็นเท่าตัว 788 00:45:04,910 --> 00:45:05,911 ‎(การประมวลผล) 789 00:45:05,994 --> 00:45:09,081 ‎ถ้าพูดแบบคร่าวๆ จากยุค 1960 จนทุกวันนี้ 790 00:45:09,873 --> 00:45:12,960 ‎ความสามารถในการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ ‎เพิ่มขึ้นเป็นล้านล้านเท่า 791 00:45:13,794 --> 00:45:18,340 ‎ไม่มีอะไรอีกแล้วที่เราพัฒนาได้ใกล้เคียง ‎ในระดับดังกล่าว 792 00:45:18,424 --> 00:45:21,927 ‎อย่างรถก็เร็วขึ้นแค่สองเท่า 793 00:45:22,261 --> 00:45:25,013 ‎และสิ่งอื่นๆ มันก็ดูขี้ประติ๋ว 794 00:45:25,347 --> 00:45:27,182 ‎และที่อาจจะสำคัญที่สุดก็คือ 795 00:45:27,266 --> 00:45:31,353 ‎มนุษย์เรา จิตใจของเรา ‎สมองของเรามันไม่ได้พัฒนาสักนิด 796 00:45:31,854 --> 00:45:35,232 ‎(ช่วงเวลาที่ไม่ใช้โทรศัพท์) 797 00:45:37,401 --> 00:45:41,488 ‎มนุษย์เรานั้นในระดับจิตใจและร่างกาย ‎และในระดับกายภาพ 798 00:45:41,947 --> 00:45:43,866 ‎ไม่มีทางจะเปลี่ยนแปลงแบบสุดขั้ว 799 00:45:56,837 --> 00:46:00,924 ‎ในอนาคตเราอาจสามารถใช้การตัดต่อพันธุกรรม ‎เพื่อพัฒนามนุษย์สายพันธุ์ใหม่ได้ 800 00:46:01,008 --> 00:46:05,095 ‎แต่ถ้าพูดโดยอิงความเป็นจริง ‎เราอาศัยอยู่ในฮาร์ดแวร์ สมองของเรา 801 00:46:05,304 --> 00:46:06,930 ‎ซึ่งมีอายุเป็นหลายล้านปี 802 00:46:07,306 --> 00:46:10,559 ‎แต่แล้วก็มีหน้าจอนี้ และที่อีกฝั่งของจอ 803 00:46:10,642 --> 00:46:13,479 ‎ก็มีวิศวกรเป็นพันๆ กับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 804 00:46:13,645 --> 00:46:15,856 ‎ซึ่งมีเป้าหมายที่แตกต่างจากเป้าหมายของคุณ 805 00:46:16,148 --> 00:46:19,651 ‎แล้วใครจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น ใครจะชนะ 806 00:46:25,699 --> 00:46:26,617 ‎เราแพ้เขาได้ยังไง 807 00:46:27,159 --> 00:46:29,620 ‎- ฉันไม่รู้ ‎- เขาอยู่ไหน นี่มันไม่ปกติ 808 00:46:29,912 --> 00:46:32,080 ‎เนื้อหาของเพื่อนและครอบครัวทำเขาเบื่อเหรอ 809 00:46:32,164 --> 00:46:34,082 ‎- คงงั้นมั้ง ‎- อาจเพราะโฆษณา 810 00:46:34,166 --> 00:46:37,878 ‎ไม่ บางอย่างมันไม่ถูกต้อง ‎เปลี่ยนไปใช้โหมดกู้ชีพเถอะ 811 00:46:39,713 --> 00:46:44,051 ‎เวลาที่คุณคิดถึงเอไอ นึกออกไหม ‎เอไอมันจะมาทำลายล้างโลก 812 00:46:44,134 --> 00:46:47,346 ‎คุณเห็นหนังเรื่องคนเหล็ก ‎คุณเห็นอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ 813 00:46:47,638 --> 00:46:48,680 ‎ฉันจะกลับมา 814 00:46:48,764 --> 00:46:52,434 ‎คุณเห็นหุ่นโดรนและคุณก็คิดว่า ‎"อ้อ เราจะฆ่ามนุษย์ด้วยเอไอ" 815 00:46:53,644 --> 00:46:59,441 ‎แต่สิ่งที่คนมองไม่เห็นก็คือ ‎โลกทุกวันนี้มันขับเคลื่อนด้วยเอไอแล้ว 816 00:46:59,900 --> 00:47:03,028 ‎แม้แต่การพูดถึง "เอไอ" ก็เป็นแค่อุปมา 817 00:47:03,320 --> 00:47:09,451 ‎ที่บริษัทอย่างกูเกิล พวกเขามีห้องขนาดมหึมา 818 00:47:10,327 --> 00:47:12,746 ‎บางห้องอยู่ใต้ดิน บางห้องอยู่ใต้น้ำ 819 00:47:13,080 --> 00:47:14,456 ‎ในนั้นมีแต่คอมพิวเตอร์ 820 00:47:14,581 --> 00:47:17,668 ‎คอมพิวเตอร์จำนวนนับไม่ถ้วน ‎เรียงรายไปไกลสุดลูกหูลูกตา 821 00:47:18,460 --> 00:47:20,504 ‎พวกมันเชื่อมต่อกันหมดในระดับลึก 822 00:47:20,587 --> 00:47:22,923 ‎และกำลังขับเคลื่อนโปรแกรม ‎ที่ซับซ้อนอย่างถึงที่สุด 823 00:47:23,006 --> 00:47:25,884 ‎พร้อมส่งข้อมูลไปมาระหว่างเครื่องตลอดเวลา 824 00:47:26,802 --> 00:47:28,595 ‎พวกเขาจะสั่งให้โปรแกรมต่างๆ 825 00:47:28,679 --> 00:47:30,806 ‎และสินค้าหลายตัวทำงานด้วยเครื่องจักรพวกนั้น 826 00:47:31,348 --> 00:47:33,684 ‎เรานิยามพวกมันบางเครื่อง ‎ว่าเป็นอัลกอริทึมง่ายๆ 827 00:47:33,767 --> 00:47:35,227 ‎แต่บางเครื่องก็เป็นอัลกอริทึม 828 00:47:35,310 --> 00:47:37,354 ‎ที่มีความซับซ้อนซึ่งเราเรียกว่าปัญญาประดิษฐ์ 829 00:47:40,148 --> 00:47:43,777 ‎ฉันอยากจะบอกว่าอัลกอริทึม ‎คือความเห็นที่ฝังไว้ในรหัส... 830 00:47:45,070 --> 00:47:47,656 ‎และอัลกอริทึมก็ไม่ได้เป็นภววิสัย 831 00:47:48,365 --> 00:47:51,577 ‎อัลกอริทึมถูกนำมาปรับใช้ ‎ตามเป้าหมายความสำเร็จ 832 00:47:52,327 --> 00:47:53,370 ‎ถ้าคุณพอนึกออก 833 00:47:53,453 --> 00:47:56,957 ‎ถ้าวิสาหกิจการพาณิชย์สร้างอัลกอริทึม 834 00:47:57,207 --> 00:47:59,167 ‎ตามเป้าหมายความสำเร็จของพวกเขา 835 00:47:59,835 --> 00:48:01,211 ‎มันคือผลประโยชน์ทางพาณิชย์ 836 00:48:01,587 --> 00:48:02,671 ‎เป็นผลกำไรปกติ 837 00:48:03,130 --> 00:48:07,050 ‎พอคุณป้อนเป้าหมายให้คอมพิวเตอร์ ‎"ผมต้องการผลลัพธ์นี้" 838 00:48:07,467 --> 00:48:10,262 ‎คอมพิวเตอร์ก็จะเรียนรู้วิธีที่จะทำแบบนั้น 839 00:48:10,345 --> 00:48:12,472 ‎นั่นคือที่มาของคำว่า ‎"การเรียนรู้ของเครื่องยนต์" 840 00:48:12,848 --> 00:48:14,850 ‎และในทุกๆ วันมันก็จะเลือกโพสต์ที่ใช่ 841 00:48:14,933 --> 00:48:16,977 ‎มาเรียงตามลำดับที่ใช่ได้ดีขึ้นทีละนิด 842 00:48:17,060 --> 00:48:19,438 ‎เพื่อให้คุณใช้เวลาไปกับสินค้านั้นๆ นานขึ้นเรื่อยๆ 843 00:48:19,521 --> 00:48:22,232 ‎และไม่มีใครเข้าใจว่าพวกมันทำอะไร 844 00:48:22,316 --> 00:48:23,609 ‎เพื่อทำให้เป้าหมายนั้นสำเร็จ 845 00:48:24,151 --> 00:48:28,238 ‎อัลกอริทึมมีความคิดของตัวเอง ‎ถึงแม้ว่ามนุษย์จะเป็นผู้เขียนมัน 846 00:48:28,906 --> 00:48:30,490 ‎มันถูกเขียนขึ้นมาในลักษณะที่ว่า 847 00:48:30,949 --> 00:48:34,703 ‎พอคุณสร้างเครื่องจักรขึ้นมา ‎มันจะเปลี่ยนแปลงตัวมันเอง 848 00:48:35,120 --> 00:48:37,873 ‎มีคนแค่หยิบมือที่บริษัทพวกนี้ 849 00:48:37,956 --> 00:48:40,083 ‎ที่เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์และบริษัทอื่นๆ ... 850 00:48:40,250 --> 00:48:43,629 ‎มีคนแค่หยิบมือที่เข้าใจว่า ‎ระบบพวกนั้นมันทำงานยังไง 851 00:48:44,004 --> 00:48:46,715 ‎และแม้แต่พวกเขาก็อาจไม่เข้าใจเต็มร้อย 852 00:48:46,798 --> 00:48:49,384 ‎ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเนื้อหาชิ้นนั้นๆ 853 00:48:49,968 --> 00:48:55,474 ‎ดังนั้นมนุษย์เราจึงแทบควบคุมระบบไม่ได้อีกแล้ว 854 00:48:55,891 --> 00:48:59,436 ‎เพราะพวกมันเป็นฝ่ายควบคุมข้อมูลที่เราเห็น 855 00:48:59,686 --> 00:49:01,897 ‎พวกมันควบคุมเราได้มากกว่าที่เราควบคุมมัน 856 00:49:03,815 --> 00:49:07,027 ‎โยงเขาเข้ากับคนที่คล้ายคลึงกัน ‎ในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่เขาอยู่ 857 00:49:07,402 --> 00:49:09,404 ‎คู่เหมือนที่มีสภาพจิตเดียวกัน 858 00:49:09,488 --> 00:49:13,700 ‎มีคน 13,694 คนในภูมิภาคของเขา ‎ที่ทำพฤติกรรมเดียวกัน 859 00:49:13,784 --> 00:49:16,370 ‎- อะไรเป็นกระแสในหมู่พวกเขา ‎- เราต้องใช้อะไรดีๆ 860 00:49:16,453 --> 00:49:17,704 ‎สำหรับการกู้ชีพที่เหมาะสม 861 00:49:17,788 --> 00:49:19,373 ‎เพราะโพสต์ทั่วๆ ไปมันไม่ได้ผล 862 00:49:20,040 --> 00:49:21,875 ‎แม่สาวสวยที่โรงเรียนก็ช่วยไม่ได้ 863 00:49:22,084 --> 00:49:25,253 ‎ผลวิเคราะห์ของฉันบอกว่าเนื้อหาเชิงการเมือง ‎เกี่ยวกับพวกกลางสุดโต่ง 864 00:49:25,337 --> 00:49:28,256 ‎มีโอกาสสร้างการมีส่วนร่วมระยะยาว ‎ได้ 62.3 เปอร์เซ็นต์ 865 00:49:28,465 --> 00:49:29,299 ‎ก็ไม่เลว 866 00:49:30,342 --> 00:49:31,760 ‎แต่ดีไม่พอที่จะเป็นตัวเปิด 867 00:49:32,386 --> 00:49:35,305 ‎โอเค เราลองแจ้งเตือนเขา ‎เรื่องรูปภาพที่ถูกแท็กแล้ว 868 00:49:35,389 --> 00:49:38,850 ‎ส่งคำเชิญแล้ว แจ้งกิจกรรมล่าสุดแล้ว ‎เราส่งข้อความจากรีเบกก้าให้แล้วด้วย 869 00:49:39,101 --> 00:49:42,437 ‎แล้วถ้าเป็นผู้ใช้ 01265923010 ล่ะ 870 00:49:42,896 --> 00:49:44,648 ‎ใช่ เบนชอบโพสต์ของเธอทุกโพสต์ 871 00:49:44,731 --> 00:49:47,567 ‎ตั้งหลายเดือน เขากดชอบทุกโพสต์ ‎แต่แล้วก็เลิกสนใจ 872 00:49:47,859 --> 00:49:50,445 ‎ฉันคำนวณโอกาสกู้ชีพได้ 92.3 เปอร์เซ็นต์ 873 00:49:50,529 --> 00:49:51,905 ‎ถ้าเกิดเราแจ้งเตือนเรื่องแอนา 874 00:49:53,907 --> 00:49:55,993 ‎(ความสัมพันธ์ใหม่) 875 00:49:56,535 --> 00:49:57,494 ‎และเพื่อนใหม่ของเธอ 876 00:49:58,495 --> 00:50:04,001 ‎(ช่วงเวลาที่ไม่ใช้โทรศัพท์) 877 00:50:24,354 --> 00:50:25,897 ‎(แฟนเก่าคุณมีความสัมพันธ์ครั้งใหม่) 878 00:50:25,981 --> 00:50:27,024 ‎ต้องล้อกันเล่นแน่ๆ 879 00:50:35,657 --> 00:50:36,491 ‎โอเค 880 00:50:37,576 --> 00:50:38,785 ‎(แอนาและลูอิซกำลังคบกัน) 881 00:50:38,869 --> 00:50:39,703 ‎อะไรเนี่ย 882 00:50:41,788 --> 00:50:42,789 ‎เปรี้ยง เรากลับมาแล้ว 883 00:50:42,873 --> 00:50:44,374 ‎กลับมาปั๊มเงินกันเถอะพรรคพวก 884 00:50:44,458 --> 00:50:46,334 ‎ใช่ และเชื่อมต่อเขากับโลกทั้งใบ 885 00:50:46,418 --> 00:50:48,670 ‎ฉันจะพาเขาเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดที่เขาอาจจะชอบ 886 00:50:49,755 --> 00:50:53,717 ‎นี่ พวกนายเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่า ‎ฟีดข่าวมันไม่ดีสำหรับเบน 887 00:50:57,220 --> 00:50:58,055 ‎- ไม่ ‎- ไม่ 888 00:51:17,532 --> 00:51:19,076 ‎ฉันร่ายมนตร์ใส่เธอ 889 00:51:25,040 --> 00:51:26,374 ‎เพราะเธอเป็นของฉัน 890 00:51:34,508 --> 00:51:36,593 ‎จงหยุดสิ่งที่เธอทำอยู่เดี๋ยวนี้ 891 00:51:41,181 --> 00:51:42,265 ‎ฉันไม่ได้โกหก 892 00:51:42,349 --> 00:51:44,893 ‎(การทดสอบสองตัวแปร) ‎(พวกกลางสุดโต่ง) 893 00:51:44,976 --> 00:51:46,686 ‎ไม่ ฉันไม่ได้โกหก 894 00:51:49,981 --> 00:51:51,817 ‎เธอก็รู้ว่าฉันทนมันไม่ได้ 895 00:51:53,026 --> 00:51:54,611 ‎เธอมันจอมเจ้าชู้ 896 00:51:55,612 --> 00:51:57,239 ‎เธอรู้ดีกว่านั้น พ่อหวานใจ 897 00:51:58,782 --> 00:52:02,077 ‎ฉันทนมันไม่ได้เพราะเธอทำให้ฉันเป็นนังโง่ 898 00:52:03,286 --> 00:52:04,121 ‎ใช่แล้ว 899 00:52:06,456 --> 00:52:08,375 ‎ฉันร่ายมนตร์ใส่เธอ 900 00:52:12,379 --> 00:52:14,840 ‎เพราะเธอเป็นของฉัน 901 00:52:18,718 --> 00:52:19,845 ‎เธอเป็นของฉัน... 902 00:52:20,929 --> 00:52:24,057 ‎ลองคิดว่าคุณกำลังเล่นเฟซบุ๊ก... 903 00:52:24,933 --> 00:52:29,312 ‎และคุณก็กำลังแข่งขันกับปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ 904 00:52:29,396 --> 00:52:31,231 ‎ที่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณ 905 00:52:31,523 --> 00:52:34,568 ‎คาดเดาก้าวต่อไปของคุณออก ‎ขณะที่คุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย 906 00:52:34,651 --> 00:52:37,154 ‎ยกเว้นแต่ในนั้นมีวิดีโอแมวเหมียว ‎กับแจ้งเตือนวันเกิด 907 00:52:37,821 --> 00:52:39,573 ‎มันไม่ใช่การต่อสู้ที่ยุติธรรม 908 00:52:41,575 --> 00:52:43,869 ‎เบนน้อยจอมจุ้น ได้เวลาไปกันแล้ว 909 00:52:51,126 --> 00:52:51,960 ‎เบน 910 00:53:02,679 --> 00:53:03,513 ‎เบน 911 00:53:05,182 --> 00:53:06,016 ‎มาเถอะ 912 00:53:07,225 --> 00:53:08,894 ‎ต้องไปโรงเรียนแล้ว ไปเร็ว 913 00:53:13,231 --> 00:53:16,735 ‎(ศูนย์ฮิวเมน เทคโนโลยี) 914 00:53:31,374 --> 00:53:33,543 ‎- วันนี้รู้สึกเป็นไงบ้าง ‎- ผมกังวล 915 00:53:33,627 --> 00:53:34,628 ‎- เหรอ ‎- ใช่ 916 00:53:37,130 --> 00:53:38,882 ‎เราต่างสอดส่องเฝ้าระวังช่วงเวลา 917 00:53:39,132 --> 00:53:42,969 ‎ที่เทคโนโลยีอาจจะเอาชนะพละกำลัง ‎และภูมิปัญญาของมนุษย์ได้ 918 00:53:43,053 --> 00:53:47,098 ‎มันจะข้ามภาวะเอกฐาน จะมาทำงานแทนเรา ‎จะฉลาดกว่ามนุษย์เมื่อไหร่ 919 00:53:48,141 --> 00:53:50,101 ‎แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นนานโข... 920 00:53:50,977 --> 00:53:55,273 ‎เทคโนโลยีก็ได้ก้าวข้าม ‎และพิชิตจุดอ่อนของมนุษย์ไปแล้ว 921 00:53:57,651 --> 00:54:01,655 ‎จุดที่ถูกข้ามคือรากของการเสพติด 922 00:54:02,113 --> 00:54:04,741 ‎การแบ่งขั้ว การสร้างแนวคิดสุดโต่ง ‎การสร้างความรุนแรง 923 00:54:04,824 --> 00:54:06,368 ‎การสร้างความหยิ่งยะโส ทั้งหมดนั้น 924 00:54:07,827 --> 00:54:09,913 ‎นี่คือธรรมชาติมนุษย์ที่ไม่อาจต้านทาน 925 00:54:10,622 --> 00:54:13,333 ‎และนี่คือการรุกฆาตมวลมนุษยชาติ 926 00:54:30,558 --> 00:54:31,434 ‎ขอโทษที 927 00:54:41,736 --> 00:54:44,656 ‎หนึ่งในวิธีที่ผมใช้ทำให้คนเข้าใจ 928 00:54:45,198 --> 00:54:49,828 ‎ว่าฟีดข่าวจากที่อย่างเช่นเฟซบุ๊ก ‎มันผิดปกติขนาดไหน 929 00:54:49,911 --> 00:54:51,454 ‎คือการยกตัวอย่างวิกิพีเดีย 930 00:54:51,538 --> 00:54:52,872 ‎(แท็บใหม่) 931 00:54:52,956 --> 00:54:56,209 ‎เวลาที่คุณเข้าเว็บไซต์นั้น ‎คุณจะเห็นเหมือนกับที่คนอื่นๆ เห็น 932 00:54:56,543 --> 00:54:59,963 ‎มันเป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งในเน็ตที่เรามีร่วมกัน 933 00:55:00,380 --> 00:55:03,425 ‎ทีนี้ลองจินตนาการถึงวินาทีที่วิกิพีเดียบอกว่า 934 00:55:03,508 --> 00:55:07,012 ‎"เราจะทำให้คำอธิบายของแต่ละบุคคลเปลี่ยนไป 935 00:55:07,262 --> 00:55:09,264 ‎แล้วจะมีคนจ่ายค่าจ้างให้กับเรา" 936 00:55:09,556 --> 00:55:13,435 ‎ทีนี้วิกิพีเดียก็จะสอดแนมคุณ ‎วิกิพีเดียจะทำการคำนวณ 937 00:55:13,518 --> 00:55:17,188 ‎"ถ้าจะเปลี่ยนคนคนนี้ไปสักนิด ‎เพื่อผลประโยชน์ทางพาณิชย์ 938 00:55:17,272 --> 00:55:19,899 ‎ฉันต้องทำยังไงนะ" จริงไหม 939 00:55:19,983 --> 00:55:21,818 ‎แล้วจากนั้นหน้าเนื้อหาก็จะเปลี่ยนไป 940 00:55:22,444 --> 00:55:23,570 ‎คุณนึกออกไหม 941 00:55:23,653 --> 00:55:24,738 ‎คุณควรจะนึกออกนะ 942 00:55:24,821 --> 00:55:26,823 ‎เพราะนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเฟซบุ๊ก 943 00:55:26,906 --> 00:55:28,992 ‎นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับหน้าฟีดของยูทูบคุณ 944 00:55:29,284 --> 00:55:31,786 ‎เวลาคุณเข้ากูเกิลและพิมพ์ว่า "ภาวะโลกร้อน" 945 00:55:31,870 --> 00:55:34,998 ‎คุณจะเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่าง ‎ขึ้นอยู่กับบริเวณที่คุณอาศัยอยู่ 946 00:55:35,081 --> 00:55:36,082 ‎(ภาวะโลกร้อน) 947 00:55:36,166 --> 00:55:38,460 ‎ในบางเมือง คุณจะเห็นระบบเติมข้อความให้ว่า 948 00:55:38,543 --> 00:55:40,462 ‎"ภาวะโลกร้อนคือเรื่องลวงโลก" 949 00:55:40,545 --> 00:55:41,838 ‎ในบางกรณี คุณก็จะเห็น 950 00:55:41,921 --> 00:55:44,758 ‎"ภาวะโลกร้อนทำให้ธรรมชาติพังทลาย" 951 00:55:44,924 --> 00:55:48,094 ‎และกลไกนั้นมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ‎ความจริงเรื่องภาวะโลกร้อน 952 00:55:48,303 --> 00:55:50,805 ‎แต่มันขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้กูเกิลค้นหาจากที่ไหน 953 00:55:51,014 --> 00:55:53,600 ‎รวมถึงเรื่องต่างๆ ที่กูเกิลรู้ ‎เกี่ยวกับความสนใจของคุณ 954 00:55:54,851 --> 00:55:57,854 ‎แม้แต่เพื่อนสองคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน 955 00:55:58,104 --> 00:56:00,273 ‎คนที่มีเพื่อนเกือบจะชุดเดียวกันหมด 956 00:56:00,398 --> 00:56:02,650 ‎พวกเขาคิดว่า "ถ้าฉันเปิดหน้าฟีดข่าวในเฟซบุ๊ก 957 00:56:02,901 --> 00:56:06,738 ‎ฉันน่าจะเจอการอัปเดตชุดเดียวกัน" ‎แต่มันไม่ใช่เลย 958 00:56:06,821 --> 00:56:08,448 ‎พวกเขาจะเห็นโลกที่ต่างกันสิ้นเชิง 959 00:56:08,531 --> 00:56:10,575 ‎เพราะพวกมันอิงการคำนวณของคอมพิวเตอร์ 960 00:56:10,658 --> 00:56:11,743 ‎ว่าอะไรเหมาะกับใคร 961 00:56:12,118 --> 00:56:14,245 ‎(ออกอากาศ) 962 00:56:14,329 --> 00:56:18,416 ‎วิธีที่จะมองเรื่องนี้ก็คือ ‎ให้คิดถึงทรูแมนโชว์ของคน 2.7 พันล้านคน 963 00:56:18,500 --> 00:56:21,294 ‎ทุกๆ คนล้วนมีความเป็นจริงและข้อเท็จจริง... 964 00:56:22,670 --> 00:56:23,505 ‎ของตนเอง 965 00:56:23,755 --> 00:56:27,008 ‎คุณคิดว่าทำไมทรูแมนถึงเพิ่งจะค้นพบ 966 00:56:27,092 --> 00:56:30,095 ‎ว่าจริงๆ แล้วโลกที่เขาอยู่มันคืออะไร 967 00:56:31,137 --> 00:56:33,848 ‎เรายอมรับความจริงของโลกเท่าที่มันถูกนำเสนอ 968 00:56:34,224 --> 00:56:35,141 ‎ง่ายๆ แค่นั้น 969 00:56:35,225 --> 00:56:36,393 ‎(ออกอากาศ) 970 00:56:36,476 --> 00:56:41,064 ‎เมื่อเวลาผ่านไป ‎คุณจะเข้าใจผิดว่าทุกคนเห็นตรงกันกับคุณ 971 00:56:41,189 --> 00:56:44,067 ‎เพราะทุกคนในฟีดข่าวของคุณคิดเหมือนกับคุณ 972 00:56:44,567 --> 00:56:49,072 ‎และเมื่อคุณอยู่ในภาวะนั้น คุณจะถูกชักจูงง่ายมาก 973 00:56:49,155 --> 00:56:51,533 ‎แบบเดียวกับที่นักมายากลชักจูงคุณ 974 00:56:51,866 --> 00:56:55,120 ‎นักมายากลโชว์ไพ่กลให้คุณดู ‎และบอกว่า "เลือกไพ่สิ ใบไหนก็ได้" 975 00:56:55,495 --> 00:56:57,914 ‎สิ่งที่คุณไม่รู้ก็คือพวกเขาน่ะเตรียมแผนไว้หมดแล้ว 976 00:56:58,456 --> 00:57:00,583 ‎แล้วคุณก็จะเลือกไพ่ใบที่เขาอยากให้เลือก 977 00:57:00,667 --> 00:57:03,169 ‎และนั่นคือการทำงานของเฟซบุ๊ก ‎เฟซบุ๊กนั่งอยู่นั่นและพูดว่า 978 00:57:03,253 --> 00:57:06,131 ‎"เฮ่ คุณเลือกเพื่อนของคุณ ‎คุณเลือกลิงก์ที่คุณจะติดตาม" 979 00:57:06,297 --> 00:57:08,716 ‎แต่นั่นมันขี้โม้ทั้งเพ ก็เหมือนกับนักมายากล 980 00:57:08,800 --> 00:57:10,885 ‎เฟซบุ๊กเป็นคนคุมฟีดข่าวของคุณ 981 00:57:11,386 --> 00:57:14,514 ‎พวกเราทุกคนล้วนทำงาน ‎บนชุดข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน 982 00:57:14,597 --> 00:57:16,474 ‎ซึ่งพอมันเป็นอย่างนั้น 983 00:57:16,558 --> 00:57:20,770 ‎คุณจะไม่อาจรับมือหรือบริโภคข้อมูล 984 00:57:20,854 --> 00:57:23,690 ‎ที่ขัดแย้งกับมุมมองโลกที่คุณสร้างขึ้น 985 00:57:23,773 --> 00:57:28,027 ‎นั่นจึงแปลว่าเราไม่ใช่ปัจเจกที่สร้างสรรค์ ‎และปราศจากอคติ 986 00:57:28,778 --> 00:57:32,449 ‎ลืมตาขึ้น อย่าเชื่อคำลวง ลืมตา... 987 00:57:32,532 --> 00:57:34,284 ‎ทีนี้พอคุณมองไปที่อีกฝั่งหนึ่ง 988 00:57:35,410 --> 00:57:38,746 ‎คุณจะเริ่มคิดว่า "ทำไมคนพวกนี้มันโง่จัง 989 00:57:38,830 --> 00:57:42,125 ‎ลองดูข้อมูลพวกนี้ที่ฉันเห็นมาตลอดสิ 990 00:57:42,208 --> 00:57:44,294 ‎ทำไมพวกเขาถึงมองไม่เห็นข้อมูลเดียวกันนี้" 991 00:57:44,711 --> 00:57:47,297 ‎คำตอบก็คือ "พวกเขาไม่ได้เห็น ‎ข้อมูลชุดเดียวกับคุณ" 992 00:57:47,380 --> 00:57:50,800 ‎ลืมตาขึ้น อย่าเชื่อคำลวง 993 00:57:52,093 --> 00:57:53,470 ‎พวกริพับลิกันเป็นยังไง 994 00:57:53,761 --> 00:57:55,472 ‎พวกที่ไม่รู้อะไรเลย 995 00:57:55,555 --> 00:57:58,933 ‎พรรคเดโมแครตเป็นองค์กรอาชญากรรม ‎ไม่ใช่พรรคการเมือง 996 00:57:59,017 --> 00:58:03,188 ‎ผลการศึกษาผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน ‎จำนวน 10,000 คนครั้งใหม่ของสำนักวิจัยพิว 997 00:58:03,271 --> 00:58:05,315 ‎พบว่าเราแตกแยกกันกว่าที่เคยเป็น 998 00:58:05,398 --> 00:58:09,152 ‎เพราะการแบ่งขั้วทางการเมือง ‎และส่วนบุคคลที่สูงที่สุดใน 20 ปี 999 00:58:11,821 --> 00:58:14,199 ‎มากกว่าหนึ่งในสามของชาวริพับลิกันบอกว่า 1000 00:58:14,282 --> 00:58:16,618 ‎พรรคเดโมแครตเป็นภัยต่อประเทศ 1001 00:58:16,910 --> 00:58:20,121 ‎และมากกว่าหนึ่งในสี่ของเดโมแครต ‎ก็คิดแบบเดียวกันกับริพับลิกัน 1002 00:58:20,663 --> 00:58:22,499 ‎หลายๆ ปัญหาที่เราถกเถียงกัน 1003 00:58:22,582 --> 00:58:24,417 ‎อย่างเรื่องการแบ่งขั้วทางการเมือง 1004 00:58:24,501 --> 00:58:27,879 ‎มีให้เห็นมากมายในช่องทีวีเคเบิล 1005 00:58:28,338 --> 00:58:31,007 ‎พวกสื่อก็มีปัญหาเดียวกันนี้ 1006 00:58:31,090 --> 00:58:33,343 ‎เพราะโมเดลธุรกิจของพวกเขาทั้งหมด 1007 00:58:33,426 --> 00:58:35,762 ‎คือการขายความสนใจของเราให้กับผู้ลงโฆษณา 1008 00:58:35,845 --> 00:58:38,890 ‎และอินเทอร์เน็ตก็เป็นวิธีใหม่ ‎ที่ทำแบบนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า 1009 00:58:40,225 --> 00:58:43,811 ‎ที่ยูทูบ ผมดูแลระบบแนะนำวิดีโอของยูทูบ 1010 00:58:44,229 --> 00:58:47,148 ‎ผมกังวลว่าอัลกอริทึมที่ผมคิดค้น 1011 00:58:47,232 --> 00:58:50,151 ‎มันกำลังเพิ่มความแตกแยกให้สังคม 1012 00:58:50,485 --> 00:58:53,112 ‎แต่ถ้าตัดสินจากระยะเวลารับชม 1013 00:58:53,196 --> 00:58:57,450 ‎ความแตกแยกที่ว่ามีประสิทธิภาพที่สุด ‎ในการทำให้คนออนไลน์ 1014 00:58:58,785 --> 00:59:00,870 ‎ที่อาจารย์พวกนี้สอนเรื่องเหล่านี้ 1015 00:59:00,954 --> 00:59:02,163 ‎เป็นเพราะมีคนจ้างเท่านั้น 1016 00:59:02,372 --> 00:59:03,957 ‎- มันไร้สาระสิ้นดี ‎- ไง เบนจี้ 1017 00:59:04,916 --> 00:59:06,292 ‎วันนี้ไม่ซ้อมฟุตบอลหรือไง 1018 00:59:06,376 --> 00:59:08,628 ‎ซ้อมสิ ฉันแค่ไล่ดูข่าวที่ยังไม่ได้ดู 1019 00:59:08,962 --> 00:59:11,506 ‎ลองไปค้นคว้าสิ ‎อะไรที่ต่างจากที่กลุ่มสายกลางสุดโต่ง... 1020 00:59:11,589 --> 00:59:14,092 ‎ไอ้ที่นายดูอยู่มันไม่น่าจะเรียกว่าข่าวได้นะ 1021 00:59:15,552 --> 00:59:18,388 ‎เธอชอบพูดว่าทุกอย่างมันวุ่นวายไปหมด ‎พวกเขาก็ด้วย 1022 00:59:19,430 --> 00:59:21,140 ‎แต่นั่นมันโฆษณาชวนเชื่อ 1023 00:59:21,224 --> 00:59:24,060 ‎ไม่มีอะไรจริง มีแต่อะไรที่เข้าเค้า 1024 00:59:24,769 --> 00:59:26,938 ‎เบน ฉันพูดจริงนะ สิ่งที่นายดูมันไม่ดีกับนาย 1025 00:59:27,021 --> 00:59:28,189 ‎นายควรไปซ้อมฟุตบอล 1026 00:59:35,154 --> 00:59:37,490 ‎ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าก็เพราะห่วง 1027 00:59:37,574 --> 00:59:41,077 ‎ผมห่วงว่าคุณจะถูกชักจูง ‎ซึ่งมันไม่โอเคเลย เอาละ 1028 00:59:41,160 --> 00:59:43,121 ‎ผู้คนคิดว่าอัลกอริทึมถูกออกแบบมา 1029 00:59:43,204 --> 00:59:46,666 ‎ให้มอบสิ่งที่ตรงความต้องการของพวกเขา ‎แต่มันไม่ใช่ 1030 00:59:46,916 --> 00:59:52,589 ‎จริงๆ แล้วอัลกอริทึมจะพยายามหา ‎รูกระต่ายที่ทรงอำนาจมากๆ 1031 00:59:52,672 --> 00:59:55,883 ‎มันจะหารูกระต่ายที่ใกล้เคียง ‎กับความสนใจของคุณที่สุด 1032 00:59:56,301 --> 00:59:59,262 ‎จากนั้นพอคุณเริ่มดูวิดีโอตัวหนึ่ง 1033 00:59:59,846 --> 01:00:02,223 ‎มันก็จะแนะนำให้คุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า 1034 01:00:02,682 --> 01:00:04,517 ‎ไม่มีใครต้องการให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้น 1035 01:00:05,059 --> 01:00:07,895 ‎เพียงแต่นี่คือสิ่งที่ระบบแนะนำทำ 1036 01:00:07,979 --> 01:00:10,565 ‎แบบเดียวกับที่ไครี่ เออร์วิ่ง ‎นักบาสเก็ตบอลชื่อดัง 1037 01:00:11,482 --> 01:00:14,235 ‎ได้ประกาศว่าเขาเชื่อเรื่องโลกแบน ‎แล้วเขาก็ขอโทษทีหลัง 1038 01:00:14,319 --> 01:00:15,862 ‎และโทษรูกระต่ายของยูทูบ 1039 01:00:16,654 --> 01:00:18,656 ‎นึกออกไหม เวลาที่คุณคลิกยูทูบ 1040 01:00:18,740 --> 01:00:21,200 ‎เราก็จะพลัดหลงไปในรูกระต่าย 1041 01:00:21,618 --> 01:00:23,369 ‎ต่อมาพอเขาไปพูดที่วิทยุแห่งชาติว่า 1042 01:00:23,453 --> 01:00:26,039 ‎"ผมขอโทษที่เชื่อเรื่องนี้ ‎ผมไม่อยากทำให้ใครหลงผิดเลย" 1043 01:00:26,247 --> 01:00:28,291 ‎พวกนักเรียนในชั้นเรียนก็มาให้สัมภาษณ์ว่า 1044 01:00:28,374 --> 01:00:29,667 ‎"พวกโลกกลมเล่นเขาแล้ว" 1045 01:00:31,210 --> 01:00:33,963 ‎ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดเรื่องโลกแบน 1046 01:00:34,047 --> 01:00:37,634 ‎ถูกแนะนำเป็นร้อยล้านครั้งโดยอัลกอริทึม 1047 01:00:37,717 --> 01:00:43,890 ‎มันง่ายที่เราจะคิดว่าคงมีแค่คนโง่ไม่กี่คนที่จะเชื่อ 1048 01:00:43,973 --> 01:00:46,893 ‎แต่อัลกอริทึมมันฉลาดขึ้นทุกวันๆ 1049 01:00:46,976 --> 01:00:50,188 ‎วันนี้มันโน้มน้าวให้คนเชื่อว่าโลกแบน 1050 01:00:50,271 --> 01:00:53,816 ‎แต่พรุ่งนี้มันอาจจะโน้มน้าวคุณ ‎ด้วยเรื่องที่ไม่เป็นความจริง 1051 01:00:54,317 --> 01:00:57,820 ‎ในวันที่เจ็ด พฤศจิกายน ‎แฮชแท็ก "พิซซ่าเกท" ได้ถือกำเนิดขึ้น 1052 01:00:58,237 --> 01:00:59,197 ‎พิซซ่าเกท... 1053 01:01:00,782 --> 01:01:01,658 ‎ให้ตายสิ 1054 01:01:03,159 --> 01:01:06,913 ‎ฉันยังไม่แน่ใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ‎ว่าเรื่องนี้มันมีที่มาจากไหน 1055 01:01:06,996 --> 01:01:12,085 ‎แต่ไอเดียก็คือการสั่งพิซซ่า ‎มีความหมายถึงการซื้อบริการมนุษย์ 1056 01:01:12,460 --> 01:01:15,046 ‎พอกลุ่มมันใหญ่ขึ้นในเฟซบุ๊ก 1057 01:01:15,129 --> 01:01:19,967 ‎ระบบแนะนำของเฟซบุ๊ก ‎ก็เริ่มแนะนำมันให้กับผู้ใช้ทั่วไป 1058 01:01:20,051 --> 01:01:21,761 ‎ให้พวกเขามาเข้ากลุ่มพิซซ่าเกท 1059 01:01:22,011 --> 01:01:27,392 ‎ถ้าเกิดผู้ใช้คนนั้นอยู่ลัทธิต่อต้านวัคซีน ‎หรือเชื่อเรื่องสารพิษล้างสมอง 1060 01:01:27,475 --> 01:01:30,645 ‎หรือทำให้อัลกอริทึมของเฟซบุ๊กรู้ 1061 01:01:30,728 --> 01:01:33,064 ‎ว่าพวกเขามีแนวโน้มจะเชื่อทฤษฎีสมคบคิด 1062 01:01:33,481 --> 01:01:36,776 ‎ระบบแนะนำของเฟซบุ๊ก ‎ก็จะยกกลุ่มพิซซ่าเกทมาเสิร์ฟ 1063 01:01:37,068 --> 01:01:40,947 ‎เรื่องนี้มาถึงบทสรุปเมื่อชายคนหนึ่งถือปืนมา 1064 01:01:41,155 --> 01:01:44,450 ‎เพื่อปลดปล่อยเด็กๆ ที่ถูกขังไว้ในห้องใต้ถุน 1065 01:01:44,701 --> 01:01:46,786 ‎ของร้านพิซซ่าที่ไม่ได้มีห้องใต้ถุน 1066 01:01:47,120 --> 01:01:49,789 ‎- คุณเข้าไปทำอะไรในนั้น ‎- ดูให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรในนั้น 1067 01:01:50,581 --> 01:01:52,208 ‎- หมายถึงอะไร ‎- การค้าบริการเด็ก 1068 01:01:52,417 --> 01:01:53,793 ‎- เรื่องอะไรนะ ‎- การค้าเด็ก 1069 01:01:53,876 --> 01:01:55,420 ‎พิซซ่าเกท เขาพูดถึงพิซซ่าเกท 1070 01:01:55,962 --> 01:02:00,216 ‎นี่คือตัวอย่างของทฤษฎีสมคบคิด 1071 01:02:00,299 --> 01:02:03,594 ‎ที่ลุกลามไปทั่วเครือข่ายโซเชียล 1072 01:02:03,761 --> 01:02:06,097 ‎ระบบแนะนำของเครือข่ายโซเชียลต่างๆ 1073 01:02:06,180 --> 01:02:07,974 ‎ตั้งใจประเคนข่าวพวกนี้ให้กับ 1074 01:02:08,057 --> 01:02:10,476 ‎ผู้คนที่ทั้งชีวิตไม่เคยค้นหา ‎คำว่า "พิซซ่าเกท"  มาก่อน 1075 01:02:10,727 --> 01:02:12,395 ‎(พิซซ่าเกท เมนูร้อนของเดโมแครตใคร่เด็ก) 1076 01:02:12,478 --> 01:02:14,439 ‎มีงานวิจัยอยู่ ของเอ็มไอที 1077 01:02:14,522 --> 01:02:19,444 ‎บอกว่าข่าวปลอมในทวิตเตอร์ ‎แพร่กระจายเร็วกว่าข่าวจริงหกเท่า 1078 01:02:19,902 --> 01:02:21,404 ‎แล้วโลกที่ข่าวปลอม 1079 01:02:21,946 --> 01:02:24,741 ‎ไปไวกว่าข่าวจริงหกเท่ามันจะหน้าตาเป็นยังไง 1080 01:02:25,283 --> 01:02:27,410 ‎คุณลองจินตนาการว่าสิ่งนี้มันเหมือนกับ... 1081 01:02:27,702 --> 01:02:31,581 ‎มันทำให้คานพฤติกรรมมนุษย์เอียง 1082 01:02:31,789 --> 01:02:34,459 ‎มันสร้างพฤติกรรมบางอย่างได้ยากกว่า ‎และบางอย่างก็ง่ายกว่า 1083 01:02:34,792 --> 01:02:37,420 ‎และคุณก็มีอิสระที่จะเดินขึ้นทางลาด 1084 01:02:37,587 --> 01:02:38,796 ‎แต่มีคนส่วนน้อยที่ทำ 1085 01:02:38,880 --> 01:02:43,092 ‎และที่ระดับสังคม คุณแค่ต้องเอียงคานนี้ 1086 01:02:43,176 --> 01:02:45,970 ‎และเปลี่ยนความคิดกับพฤติกรรม ‎ของคนหลายพันล้านซะ 1087 01:02:46,053 --> 01:02:51,934 ‎เราสร้างระบบที่โน้มเอียงเข้าหาข้อมูลปลอมขึ้น 1088 01:02:52,643 --> 01:02:54,145 ‎ไม่ใช่เพราะเราต้องการ 1089 01:02:54,562 --> 01:02:58,816 ‎แต่เพราะข้อมูลปลอมทำเงินให้กับบริษัท 1090 01:02:59,400 --> 01:03:01,319 ‎ได้มากกว่าความจริง ความจริงมันน่าเบื่อ 1091 01:03:01,986 --> 01:03:04,489 ‎นี่คือโมเดลธุรกิจแบบใช้ข่าวปลอมหากำไร 1092 01:03:04,906 --> 01:03:08,159 ‎ยิ่งคุณยอมให้ข้อความที่ไร้การควบคุมไปถึงผู้ใช้ 1093 01:03:08,701 --> 01:03:11,287 ‎ในราคาที่ดีที่สุด คุณก็จะยิ่งได้เงิน 1094 01:03:11,662 --> 01:03:13,414 ‎เพราะภาวะโลกร้อนเหรอ ใช่ 1095 01:03:13,748 --> 01:03:16,751 ‎มันเป็นเรื่องลวงโลก จริงๆ นะ ‎นั่นแหละประเด็น 1096 01:03:16,834 --> 01:03:20,046 ‎ยิ่งพวกเขาพูดถึงมัน เราก็ยิ่งแตกแยกกัน 1097 01:03:20,129 --> 01:03:22,423 ‎พวกเขามีอำนาจแค่ไหน ก็ควบคุมเราได้เท่านั้น 1098 01:03:22,507 --> 01:03:25,468 ‎ในหน้าฟีดข่าวของเฟซบุ๊ก ‎มีโพสต์พวกนี้เป็นล้านล้าน 1099 01:03:26,761 --> 01:03:29,180 ‎พวกเขาไม่มีทางรู้ว่าอะไรจริงอะไรใช่... 1100 01:03:29,972 --> 01:03:33,392 ‎เพราะงั้นเรื่องที่เราคุยกันนี้มันจึงสำคัญมาก 1101 01:03:33,810 --> 01:03:37,104 ‎ไม่ใช่แค่โควิด 19 ที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว 1102 01:03:37,271 --> 01:03:40,191 ‎แต่ข่าวปลอมเกี่ยวกับไวรัสในเน็ตก็เช่นกัน 1103 01:03:40,274 --> 01:03:43,694 ‎ความเข้าใจที่ว่าการดื่มน้ำให้เยอะ ‎ช่วยชะล้างไวรัสโคโรนาจากร่างกายได้ 1104 01:03:43,778 --> 01:03:47,490 ‎คือหนึ่งในความเชื่อเกี่ยวกับไวรัส ‎ที่แพร่ระบาดในโซเชียลมีเดีย 1105 01:03:47,698 --> 01:03:50,701 ‎รัฐบาลวางแผนเรื่องนี้ขึ้นมา สร้างไวรัส 1106 01:03:50,785 --> 01:03:53,454 ‎และทำแบบจำลอง ‎เพื่อดูปฏิกิริยาของนานาประเทศ 1107 01:03:53,663 --> 01:03:55,581 ‎ไวรัสโคโรนาเป็นเรื่องลวงโลก 1108 01:03:56,165 --> 01:03:57,959 ‎ซาร์ส ไวรัสโคโรนา 1109 01:03:58,376 --> 01:04:01,045 ‎ดูวันที่ผลิตสิ ปี 2018 1110 01:04:01,212 --> 01:04:03,881 ‎ผมคิดว่ารัฐบาลอเมริกาเป็นคนเริ่มเรื่องบ้าบอนี่ 1111 01:04:04,215 --> 01:04:07,093 ‎ไม่มีใครป่วย ไม่มีใครป่วยเลย 1112 01:04:07,426 --> 01:04:09,095 ‎ไม่มีใครเคยเจอคนป่วยสักคน 1113 01:04:09,512 --> 01:04:13,015 ‎บางทีรัฐบาลอาจใช้ไวรัสโคโรนาเป็นข้ออ้าง 1114 01:04:13,099 --> 01:04:15,977 ‎เพื่อให้ทุกคนอยู่แต่ในบ้าน ‎เพราะมีบางอย่างกำลังเกิดขึ้น 1115 01:04:16,060 --> 01:04:17,895 ‎ไวรัสโคโรนาไม่ได้ฆ่าใคร 1116 01:04:18,104 --> 01:04:20,940 ‎แต่เป็นกัมมันตรังสีห้าจีที่พวกเขาปล่อยต่างหาก 1117 01:04:21,023 --> 01:04:22,525 ‎(เสาสัญญาณห้าจีถูกโค่นและเผา) 1118 01:04:22,608 --> 01:04:24,569 ‎เราถูกปูพรมด้วยข่าวลือ 1119 01:04:25,403 --> 01:04:28,531 ‎ผู้คนพากันระเบิดเสาสัญญาณโทรศัพท์ของจริง 1120 01:04:28,906 --> 01:04:32,201 ‎เราเห็นรัสเซียและจีนแพร่ข่าวลือ ‎และทฤษฎีสมคบคิด 1121 01:04:32,285 --> 01:04:35,246 ‎เมื่อเช้านี้ ความหวาดผวา ‎และการประท้วงในยูเครน... 1122 01:04:35,329 --> 01:04:38,916 ‎ผู้คนไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง ‎และตอนนี้มันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย 1123 01:04:40,001 --> 01:04:42,712 ‎แหล่งที่เผยแพร่ข่าวปลอมเรื่องไวรัสโคโรนา 1124 01:04:42,962 --> 01:04:45,798 ‎มียอดการมีส่วนร่วมสะสม 52 ล้านแล้ว 1125 01:04:46,090 --> 01:04:50,094 ‎คุณบอกว่าซิลเวอร์ไนเตรทใช้ได้ผล 1126 01:04:50,177 --> 01:04:54,140 ‎มันยังไม่ได้ถูกทดสอบกับ ‎ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์นี้ แต่... 1127 01:04:54,223 --> 01:04:57,226 ‎สิ่งที่เราเห็นจากเรื่องโควิดคือสิ่งที่เกิดขึ้น 1128 01:04:57,310 --> 01:05:00,104 ‎ในระบบนิเวศข้อมูลข่าวสารในเวอร์ชันสุดโต่ง 1129 01:05:00,187 --> 01:05:01,022 ‎(วิทเมอร์จงเจริญ) 1130 01:05:01,105 --> 01:05:04,817 ‎โซเชียลมีเดียจะขยายข่าวซุบซิบ ‎และคำบอกเล่าที่ทบทวีคูณ 1131 01:05:05,109 --> 01:05:06,903 ‎ไปถึงจุดที่เราไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง 1132 01:05:07,028 --> 01:05:08,613 ‎ไม่ว่าเราจะกังวลเรื่องอะไร 1133 01:05:26,130 --> 01:05:27,131 ‎นายยังอยู่ในทีมไหม 1134 01:05:30,468 --> 01:05:34,430 ‎โอเค ฉันว่าจะไปหาขนมกินก่อนซ้อม ‎อยากไปด้วยกันไหม 1135 01:05:37,642 --> 01:05:38,476 ‎ช่างมันเถอะ 1136 01:05:45,066 --> 01:05:47,401 ‎ตอนนี้คนเก้าในสิบคนกำลังไม่พอใจ 1137 01:05:47,610 --> 01:05:50,696 ‎ถ้าคิดดีๆ กระแสกลางสุดโต่ง ‎ก็เหมือนการเคลื่อนไหวอื่นในประวัติศาสตร์ 1138 01:05:50,821 --> 01:05:54,367 ‎เรากำลังยืนหยัดต่อสู้กับเสียงรบกวนพวกนี้ 1139 01:05:54,575 --> 01:05:57,036 ‎คุณคือประชาชนของผม ผมเชื่อใจคุณ 1140 01:05:59,246 --> 01:06:02,583 ‎- ฉลาดมากที่ใช้เนื้อหากลุ่มกลางสุดโต่ง ‎- เขาชอบมันสุดๆ 1141 01:06:02,750 --> 01:06:03,626 ‎เริ่มการประมูล 1142 01:06:04,627 --> 01:06:08,547 ‎ผู้ประมูล 843 ราย เขาขายให้กับ ‎บริษัทผลิตอาวุธในราคา 4.35 เซ็นต์ 1143 01:06:08,631 --> 01:06:10,591 ‎เรามาโปรโมทกิจกรรมพวกนี้ดีกว่า 1144 01:06:10,883 --> 01:06:13,511 ‎ปลายสัปดาห์นี้จะมีการเดินขบวน ‎ในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของเขา 1145 01:06:13,761 --> 01:06:15,179 ‎ฉันมีวล็อกเกอร์คนใหม่แล้ว 1146 01:06:17,890 --> 01:06:22,979 ‎และพูดตรงๆ นะ ผมพร้อมจะแลกทุกอย่าง 1147 01:06:23,062 --> 01:06:24,939 ‎ผมหมายถึงทุกๆ อย่าง 1148 01:06:32,154 --> 01:06:33,114 ‎- กดติดตาม ‎- เบน 1149 01:06:33,197 --> 01:06:35,908 ‎และกลับมาดูผมอีก เพราะเชื่อผมเถอะ... 1150 01:06:36,659 --> 01:06:38,869 ‎ผมจะมีเรื่องใหญ่มาฝาก 1151 01:06:38,953 --> 01:06:40,162 ‎เรื่องใหญ่สุดๆ 1152 01:06:40,788 --> 01:06:45,292 ‎ปัญหาหนึ่งของเฟซบุ๊กก็คือ ‎ในฐานะเครื่องมือสำหรับชักจูงแล้ว 1153 01:06:45,793 --> 01:06:47,920 ‎มันอาจเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการสร้างมา 1154 01:06:48,129 --> 01:06:52,508 ‎ทีนี้ลองคิดว่าเครื่องมือนี้ตกไปอยู่ ‎ในมือของเผด็จการหรือพวกลัทธิอำนาจนิยมสิ 1155 01:06:53,718 --> 01:06:57,430 ‎ถ้าคุณต้องการควบคุมคนในประเทศ 1156 01:06:57,722 --> 01:07:01,308 ‎ไม่มีเครื่องมือใดจะมีประสิทธิภาพ ‎ได้เท่ากับเฟซบุ๊ก 1157 01:07:04,937 --> 01:07:07,398 ‎นัยยะที่น่าวิตกมากที่สุด 1158 01:07:07,481 --> 01:07:10,985 ‎ของการที่รัฐบาลและผู้ก่อความรุนแรง ‎ใช้โซเชียลมีเดียเป็นอาวุธ 1159 01:07:11,610 --> 01:07:13,612 ‎คือมันจะนำไปสู่ความรุนแรงจริงในโลกออฟไลน์ 1160 01:07:13,696 --> 01:07:15,072 ‎ฉันคิดว่าตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุด 1161 01:07:15,156 --> 01:07:17,658 ‎ซึ่งเป็นที่สนใจของสื่อก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นที่พม่า 1162 01:07:17,742 --> 01:07:19,160 ‎(สำนักประธานาธิบดีพม่า) 1163 01:07:19,243 --> 01:07:21,203 ‎ในพม่า เวลาที่คนคิดถึงอินเทอร์เน็ต 1164 01:07:21,287 --> 01:07:22,788 ‎สิ่งที่พวกเขาคิดถึงก็คือเฟซบุ๊ก 1165 01:07:23,080 --> 01:07:25,916 ‎และเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ก็คือ ‎เวลาที่คนซื้อโทรศัพท์มือถือ 1166 01:07:26,000 --> 01:07:29,920 ‎ร้านขายโทรศัพท์จะดาวน์โหลดเฟซบุ๊ก ‎มาติดตั้งไว้ให้ล่วงหน้า 1167 01:07:30,004 --> 01:07:31,505 ‎รวมทั้งเปิดบัญชีไว้ให้ด้วย 1168 01:07:31,589 --> 01:07:34,884 ‎และเมื่อคนได้รับโทรศัพท์ สิ่งแรกที่พวกเขาเปิด 1169 01:07:34,967 --> 01:07:37,219 ‎และเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาเปิดเป็นก็คือเฟซบุ๊ก 1170 01:07:38,262 --> 01:07:41,891 ‎การสืบสวนที่น่าตกใจล่าสุดเปิดเผยว่า ‎เฟซบุ๊กกำลังมีปัญหา 1171 01:07:41,974 --> 01:07:43,809 ‎กับการรับมือประทุษวาจาในพม่า 1172 01:07:43,893 --> 01:07:46,020 ‎(หยุดฆ่าคนมุสลิม) 1173 01:07:46,103 --> 01:07:49,190 ‎เฟซบุ๊กได้มอบวิธีใหม่ในการควบคุม ‎ความเห็นประชาชน 1174 01:07:49,273 --> 01:07:51,776 ‎ให้แก่กองทัพและผู้ก่อความรุนแรงอื่นๆ 1175 01:07:51,859 --> 01:07:55,529 ‎และยังช่วยกระตุ้นให้มีการใช้ความรุนแรง ‎กับกลุ่มมุสลิมโรฮิงญา 1176 01:07:55,613 --> 01:07:57,740 ‎ซึ่งรวมไปถึงการสังหารหมู่ 1177 01:07:58,115 --> 01:07:59,867 ‎การเผาทำลายหมู่บ้าน 1178 01:07:59,950 --> 01:08:03,704 ‎การข่มขืนหมู่และอาชญากรรมร้ายแรง ‎ต่อมนุษยชาติรูปแบบอื่นๆ 1179 01:08:03,788 --> 01:08:08,209 ‎ซึ่งทำให้ชาวมุสลิมโรฮิงญา 700,000 คน ‎ต้องหนีออกนอกประเทศ 1180 01:08:11,170 --> 01:08:16,550 ‎ไม่ใช่ว่าโลกนี้ไม่เคยมีนักโฆษณาชวนเชื่อ ‎ที่เปี่ยมด้วยแรงจูงใจ 1181 01:08:16,634 --> 01:08:19,762 ‎เพียงแต่แพลตฟอร์มนี้มันเอื้อให้ 1182 01:08:19,845 --> 01:08:23,557 ‎การเผยแพร่ข้อมูลชักจูงใจที่ง่ายดาย ‎โดยไม่ต้องใช้ทุนมาก 1183 01:08:23,808 --> 01:08:25,309 ‎กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ 1184 01:08:25,559 --> 01:08:27,394 ‎ถ้าผมอยากจะคุมผลการเลือกตั้ง 1185 01:08:27,895 --> 01:08:30,564 ‎ผมสามารถเข้าไปที่กลุ่มทฤษฎีชวนเชื่อในเฟซบุ๊ก 1186 01:08:30,648 --> 01:08:32,233 ‎แล้วหาคนมาร้อยคน 1187 01:08:32,316 --> 01:08:34,443 ‎ที่เชื่อว่าโลกมันแบน 1188 01:08:34,860 --> 01:08:37,530 ‎และคิดว่าเรื่องที่เราไปดวงจันทร์มาแล้ว ‎เป็นแค่ทฤษฎีสมคบคิด 1189 01:08:37,863 --> 01:08:41,450 ‎และผมก็จะบอกเฟซบุ๊กว่า ‎"หาผู้ใช้แบบนี้มาให้ผมพันคนสิ" 1190 01:08:42,118 --> 01:08:46,080 ‎เฟซบุ๊กจะส่งผู้ใช้ลักษณะนี้หลายพันคน ‎มาให้ผมด้วยความยินดี 1191 01:08:46,163 --> 01:08:49,250 ‎และผมก็จะป้อนทฤษฎีสมคบคิดให้พวกเขาเพิ่ม 1192 01:08:51,168 --> 01:08:52,837 ‎ขายที่ 3.4 เซ็นต์ต่อหนึ่งการมีส่วนร่วม 1193 01:08:53,379 --> 01:08:54,713 ‎โปรโมทวิดีโอฝ่ายกลางตัวใหม่ 1194 01:08:55,005 --> 01:08:56,048 ‎เตรียมยิงโฆษณาตัวอื่น 1195 01:08:58,634 --> 01:09:02,138 ‎อัลกอริทึมและนักการเมืองที่จูงใจคนเก่งๆ ‎ได้กลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญ 1196 01:09:02,221 --> 01:09:04,056 ‎ในการหาวิธีกระตุ้นเรา 1197 01:09:04,140 --> 01:09:08,352 ‎พวกเขาเก่งในการสร้างข่าวปลอม ‎ซึ่งเราจะรับไว้เหมือนเป็นความจริง 1198 01:09:08,435 --> 01:09:10,688 ‎และทำให้เราสับสนจนเชื่อคำลวงเหล่านั้น 1199 01:09:10,896 --> 01:09:12,606 ‎เราคล้ายจะควบคุมสิ่งที่เราเป็น 1200 01:09:12,690 --> 01:09:14,275 ‎และสิ่งที่เราเชื่อได้น้อยลงทุกที 1201 01:09:31,458 --> 01:09:32,668 ‎พวกเขาจะได้เลือกข้าง 1202 01:09:32,751 --> 01:09:34,879 ‎มันมีคำโกหกตรงนั้นตรงนี้เต็มไปหมด 1203 01:09:34,962 --> 01:09:39,967 ‎พวกเขาจะได้รักษาอำนาจไว้ ‎พวกเขาจะได้ควบคุมทุกอย่าง 1204 01:09:40,050 --> 01:09:46,348 ‎พวกเขาควบคุมความคิดเรา ‎เพื่อที่จะเก็บความลับของตัวเองไว้ 1205 01:09:46,473 --> 01:09:48,517 ‎(ซีดีซียอมรับว่าปิดบังเรื่องวัคซีนและออทิสติก) 1206 01:09:48,601 --> 01:09:50,895 ‎ลองจินตนาการถึงโลกที่ไม่มีใครเชื่อเรื่องจริงดูสิ 1207 01:09:50,978 --> 01:09:52,897 ‎(พิสูจน์แล้วว่าวัคซีนไม่ได้เหมาะกับ ‎ยีนส์ของเราทุกคน) 1208 01:09:52,980 --> 01:09:54,899 ‎ทุกคนเชื่อว่ารัฐบาลโกหกพวกเขา 1209 01:09:56,317 --> 01:09:57,943 ‎ทุกอย่างคือทฤษฎีสมคบคิด 1210 01:09:58,527 --> 01:10:00,696 ‎"ฉันไม่ควรไว้ใจใคร ฉันเกลียดอีกฝ่าย" 1211 01:10:01,405 --> 01:10:02,698 ‎เรากำลังมุ่งไปสู่จุดนั้น 1212 01:10:02,781 --> 01:10:06,035 ‎การเมืองยุโรปยังคงสั่นคลอน 1213 01:10:06,243 --> 01:10:08,412 ‎คราวนี้ที่อิตาลีและสเปน 1214 01:10:08,495 --> 01:10:11,999 ‎โดยรวมแล้ว พันธมิตรสายกลางเก่าแก่ ‎ของยุโรปสูญเสียเสียงข้างมาก 1215 01:10:12,082 --> 01:10:15,002 ‎ขณะที่พรรคประชานิยมซ้ายสุดโต่ง ‎และขวาสุดโต่งได้คะแนนเสียง 1216 01:10:17,588 --> 01:10:19,048 ‎(สายกลาง) 1217 01:10:19,757 --> 01:10:20,591 ‎ถอยไป 1218 01:10:21,675 --> 01:10:22,509 ‎โอเค ไปกัน 1219 01:10:28,390 --> 01:10:31,268 ‎บัญชีเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายในการเผยแพร่ 1220 01:10:31,352 --> 01:10:33,896 ‎ความขัดแย้งทางการเมืองในฮ่องกงโดยเฉพาะ 1221 01:10:38,609 --> 01:10:39,610 ‎เอาละ เบน 1222 01:10:42,613 --> 01:10:44,907 ‎การที่แหล่งข้อมูลทั้งหมดของประเทศ 1223 01:10:45,115 --> 01:10:48,410 ‎คือเฟซบุ๊กและโซเชียลมีเดียมันทำให้เกิดอะไรขึ้น 1224 01:10:48,953 --> 01:10:50,871 ‎ประชาธิปไตยพังทลายเร็วมาก 1225 01:10:50,955 --> 01:10:51,830 ‎แค่หกเดือน 1226 01:10:51,914 --> 01:10:53,791 ‎หลังเหตุจลาจลดังกล่าวในชิคาโก 1227 01:10:53,874 --> 01:10:57,044 ‎ก็เกิดเหตุความรุนแรง ‎ระหว่างผู้ประท้วงและผู้สนับสนุน... 1228 01:10:58,045 --> 01:11:01,548 ‎ประชาธิปไตยกำลังเผชิญวิกฤตศรัทธา 1229 01:11:01,715 --> 01:11:04,343 ‎สิ่งที่เราเห็นอยู่ตอนนี้คือ ‎การโจมตีประชาธิปไตยในระดับโลก 1230 01:11:04,426 --> 01:11:05,427 ‎(สายกลางสุดโต่ง) 1231 01:11:05,511 --> 01:11:07,930 ‎ประเทศส่วนใหญ่ที่ตกเป็นเป้าคือประเทศ... 1232 01:11:08,013 --> 01:11:09,723 ‎ที่มีการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย 1233 01:11:10,808 --> 01:11:12,393 ‎เรื่องนี้เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง 1234 01:11:12,601 --> 01:11:15,562 ‎โดยตัวแสดงที่เป็นรัฐ ‎โดยคนที่มีเงินเป็นร้อยๆ ล้านที่พูดว่า 1235 01:11:15,646 --> 01:11:18,524 ‎"ฉันอยากทำลายเสถียรภาพของเคนยา ‎เสถียรภาพของแคเมอรูน 1236 01:11:18,607 --> 01:11:20,651 ‎อ้อ แองโกลาเหรอ ใช้เงินแค่นี้ก็พอ" 1237 01:11:20,734 --> 01:11:23,362 ‎การเลือกตั้งพิเศษในบราซิล ‎มีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 1238 01:11:23,445 --> 01:11:26,073 ‎ด้วยการใช้โซเชียลมีเดียในการหาเสียง 1239 01:11:31,036 --> 01:11:33,956 ‎พวกเราในวงการเทคโนโลยีได้สร้างเครื่องมือ 1240 01:11:34,039 --> 01:11:37,418 ‎ที่ทำลายเสถียรภาพและกัดกร่อนสายใยสังคม 1241 01:11:37,668 --> 01:11:39,920 ‎ในทุกที่ทุกประเทศอย่างพร้อมเพรียงกัน 1242 01:11:40,337 --> 01:11:44,133 ‎ไม่ว่าจะที่เยอรมัน สเปน ฝรั่งเศส ‎บราซิล ออสเตรเลีย 1243 01:11:44,591 --> 01:11:46,927 ‎ประเทศที่พัฒนาถึงขีดสุดแล้วบางแห่ง 1244 01:11:47,428 --> 01:11:49,096 ‎กำลังพากันล่มสลาย 1245 01:11:49,305 --> 01:11:50,556 ‎แล้วพวกเขามีอะไรเหมือนกัน 1246 01:11:51,974 --> 01:11:52,975 ‎เมื่อคุณรู้แบบนี้แล้ว 1247 01:11:53,058 --> 01:11:55,978 ‎คุณเชื่อหรือเปล่าว่าเฟซบุ๊ก ‎ส่งผลกระทบต่อผลการเลือกตั้งปี 2016 1248 01:11:56,854 --> 01:11:58,188 ‎อ้อ เรื่องนั้นมันตอบยาก 1249 01:11:58,897 --> 01:11:59,773 ‎คุณรู้ไหม คือ... 1250 01:12:01,275 --> 01:12:04,653 ‎ในความเป็นจริงแล้ว ‎เรื่องนี้มีปัจจัยที่แตกต่างกันหลายอย่าง 1251 01:12:04,737 --> 01:12:07,865 ‎ตัวแทนจากเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์และกูเกิล ‎กลับมาที่แคปตอล ฮิลล์ 1252 01:12:07,948 --> 01:12:09,450 ‎เพื่อให้การในวันที่สอง 1253 01:12:09,533 --> 01:12:12,578 ‎ถึงเรื่องการแทรกแซงการเลือกตั้ง ‎ในปี 2016 ของรัสเซีย 1254 01:12:12,661 --> 01:12:17,291 ‎การชักจูงของบุคคลที่สามไม่ใช่การแฮก 1255 01:12:18,500 --> 01:12:21,295 ‎จริงไหม รัสเซียไม่ได้แฮกเฟซบุ๊ก 1256 01:12:21,545 --> 01:12:24,965 ‎สิ่งที่พวกเขาทำคือการใช้อุปกรณ์ที่เฟซบุ๊กสร้างขึ้น 1257 01:12:25,049 --> 01:12:27,426 ‎สำหรับผู้ลงโฆษณาที่ถูกกฎหมาย ‎และผู้ใช้งานที่ถูกกฎหมาย 1258 01:12:27,926 --> 01:12:30,179 ‎และพวกเขาก็ประยุกต์มันเพื่อจุดมุ่งหมายที่ชั่วร้าย 1259 01:12:32,014 --> 01:12:33,891 ‎มันเหมือนสงครามที่สู้รบด้วยรีโมท 1260 01:12:34,475 --> 01:12:36,477 ‎ประเทศหนึ่งสามารถชักจูงประเทศหนึ่ง 1261 01:12:36,685 --> 01:12:38,937 ‎โดยไม่ต้องรุกรานพรมแดนที่เป็นรูปธรรม 1262 01:12:39,605 --> 01:12:40,981 ‎ที่เราเห็นคือภาพความรุนแรง 1263 01:12:41,065 --> 01:12:43,317 ‎สิ่งที่ถูกผลักไปมานั้นคือถังขยะ... 1264 01:12:43,400 --> 01:12:45,736 ‎ประเด็นไม่ได้อยู่ที่คุณอยากลงคะแนนให้ใคร 1265 01:12:46,362 --> 01:12:50,574 ‎แต่อยู่ที่การสร้างความวุ่นวาย ‎และทำให้สังคมแตกแยกต่างหาก 1266 01:12:50,657 --> 01:12:53,035 ‎เหตุเกิดที่ฮันติงตันบีช ขบวน... 1267 01:12:53,118 --> 01:12:54,453 ‎มันอยู่ที่การสร้างคนสองฝ่าย 1268 01:12:55,120 --> 01:12:56,413 ‎ที่ไม่อาจรับฟังกันได้อีก 1269 01:12:56,497 --> 01:12:58,123 ‎คนที่ไม่อยากรับฟังกันอีก 1270 01:12:58,207 --> 01:12:59,166 ‎คนที่ไม่ไว้วางใจกันอีก 1271 01:13:00,125 --> 01:13:02,669 ‎นี่คือเมืองที่ความเกลียดชังถูกควักออกมา 1272 01:13:02,961 --> 01:13:05,089 ‎และแปรสภาพเป็นความรุนแรงระหว่างชาติพันธุ์ 1273 01:13:05,547 --> 01:13:07,925 ‎(เวอร์จิเนียตึงเครียด ‎มีผู้เสียชีวิตสามรายในวันนองเลือด) 1274 01:13:19,937 --> 01:13:20,771 ‎เบน 1275 01:13:21,605 --> 01:13:22,439 ‎แคสซานดร้า 1276 01:13:23,190 --> 01:13:24,024 ‎- แคส ‎- เบน 1277 01:13:24,108 --> 01:13:25,484 ‎มานี่ มานี่ซะ 1278 01:13:27,486 --> 01:13:31,156 ‎ยกมือ ยกมือขึ้น คุกเข่าลงไป คุกเข่า 1279 01:13:36,120 --> 01:13:37,204 ‎- ใจเย็น... ‎- เบน 1280 01:13:37,287 --> 01:13:38,414 ‎นี่ ชูมือขึ้น 1281 01:13:39,623 --> 01:13:41,291 ‎หันไป คุกเข่าลง 1282 01:13:56,807 --> 01:13:59,643 ‎เราต้องการระบบที่จะขายตัวเอง ‎ให้ผู้ที่ประมูลด้วยราคาสูงสุดไหม 1283 01:14:01,437 --> 01:14:05,149 ‎ระบบที่ทำให้ประชาธิปไตยเป็นสินค้า ‎ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงความคิดใครก็ได้ 1284 01:14:05,482 --> 01:14:08,694 ‎แล้วเลือกคำลวงให้กับคนกลุ่มนั้น ‎เพื่อสร้างสงครามทางวัฒนธรรมขึ้นมา 1285 01:14:09,236 --> 01:14:10,112 ‎เราต้องการไหม 1286 01:14:14,783 --> 01:14:16,201 ‎เราคือประเทศของประชาชน... 1287 01:14:17,161 --> 01:14:18,620 ‎ที่ไม่หันหน้าพูดคุยกันอีกต่อไป 1288 01:14:19,872 --> 01:14:23,000 ‎เราคือประเทศของประชาชน ‎ที่พร้อมตัดเพื่อนตัดฝูง 1289 01:14:23,083 --> 01:14:25,043 ‎เพียงเพราะคนที่พวกเขากาบัตรเลือก 1290 01:14:25,878 --> 01:14:28,422 ‎เราคือประเทศของประชาชนที่โดดเดี่ยวตัวเอง 1291 01:14:28,505 --> 01:14:30,507 ‎และดูแต่ช่องที่บอกเราว่าเราคิดถูกแล้ว 1292 01:14:32,509 --> 01:14:36,763 ‎สารของผมในวันนี้คือลัทธิเผ่าพันธุ์นิยม ‎กำลังทำลายเรา 1293 01:14:37,389 --> 01:14:39,099 ‎มันฉีกประเทศของเราเป็นเสี่ยงๆ 1294 01:14:40,267 --> 01:14:42,769 ‎และผู้ใหญ่ที่มีสติดีก็ไม่อาจทำอะไรได้ 1295 01:14:43,353 --> 01:14:45,314 ‎ถ้าเราทุกเชื่อในความเป็นจริงของตนเท่านั้น 1296 01:14:45,397 --> 01:14:49,401 ‎มันก็ไม่ต้องมีการประนีประนอม ‎ไม่ต้องมีการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน 1297 01:14:49,485 --> 01:14:51,487 ‎อันที่จริงผู้คนไม่จำเป็นต้องมีปฏิกิริยาต่อกันเลย 1298 01:14:52,321 --> 01:14:56,617 ‎เราจำเป็นต้องมีความเข้าใจร่วม ‎ต่อความเป็นจริง 1299 01:14:57,409 --> 01:14:58,494 ‎ไม่งั้นเราก็ไม่ใช่ประเทศ 1300 01:14:58,619 --> 01:14:59,495 ‎(คุณซักเคอร์เบิร์ก) 1301 01:14:59,578 --> 01:15:02,998 ‎ในระยะยาว ทางออกของเราก็คือ ‎การสร้างปัญญาประดิษฐ์เพิ่ม 1302 01:15:03,081 --> 01:15:08,003 ‎เพื่อหารูปแบบของการใช้บริการ ‎ในแบบที่คนจริงๆ ไม่น่าจะทำ 1303 01:15:08,212 --> 01:15:11,840 ‎เรายอมให้นักเทคโนโลยีโทษว่าสิ่งนี้คือปัญหา 1304 01:15:11,924 --> 01:15:13,884 ‎ที่พวกเขาจำเป็นต้องแก้ไข 1305 01:15:15,135 --> 01:15:16,470 ‎มันเป็นคำโกหก 1306 01:15:17,679 --> 01:15:20,724 ‎ผู้คนพูดถึงเอไอเหมือนกับว่ามันรู้ความจริง 1307 01:15:21,683 --> 01:15:23,685 ‎เอไอแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ 1308 01:15:24,269 --> 01:15:27,189 ‎เอไอแก้ปัญหาเรื่องข่าวปลอมไม่ได้ 1309 01:15:28,649 --> 01:15:30,651 ‎กูเกิลไม่มีโอกาสที่จะบอกว่า 1310 01:15:31,109 --> 01:15:34,154 ‎"นี่เป็นทฤษฎีสมคบคิด หรือนี่คือความจริง" 1311 01:15:34,696 --> 01:15:36,240 ‎เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าอะไรจริง 1312 01:15:36,823 --> 01:15:40,410 ‎พวกเขาไม่มีตัวแทนความจริงที่ดีไปกว่าการคลิก 1313 01:15:41,870 --> 01:15:45,040 ‎ถ้าเราตกลงกันไม่ได้ว่าอะไรจริง 1314 01:15:45,207 --> 01:15:47,584 ‎หรือว่ามันมีความจริงอยู่ 1315 01:15:48,293 --> 01:15:49,127 ‎เราก็เจ๊ง 1316 01:15:49,753 --> 01:15:52,089 ‎นี่คือปัญหาที่อยู่ใต้ปัญหาอื่นๆ 1317 01:15:52,172 --> 01:15:54,424 ‎เพราะถ้าเราตกลงกันไม่ได้ว่าอะไรจริง 1318 01:15:55,092 --> 01:15:57,803 ‎เราก็หาทางออกจากปัญหาอื่นๆ ของเราไม่ได้ 1319 01:16:05,435 --> 01:16:07,729 ‎เราควรเสนอให้เขาติดตามชมรมฟุตบอลโลกแบน 1320 01:16:07,813 --> 01:16:10,107 ‎เลิกโชว์อัปเดตเรื่องกีฬาให้เขา ‎เขาไม่สนใจมันแล้ว 1321 01:16:39,970 --> 01:16:42,764 ‎คนจำนวนมากในซิลิคอนแวลลีย์ ‎เห็นพ้องกับทฤษฎีที่ว่า 1322 01:16:42,848 --> 01:16:44,766 ‎เรากำลังสร้างสุดยอดสมองระดับโลก 1323 01:16:45,309 --> 01:16:48,020 ‎และผู้ใช้ของเราเป็นแค่เซลล์ประสาทเล็กๆ ‎ที่สามารถทดแทนได้ 1324 01:16:48,103 --> 01:16:49,563 ‎ไม่มีเซลล์ไหนที่สำคัญ 1325 01:16:50,230 --> 01:16:53,150 ‎และมันก็สะกดให้คนเรายอมรับบทบาทพิลึกๆ 1326 01:16:53,233 --> 01:16:56,069 ‎ซึ่งคุณนั้นเป็นแค่องค์ประกอบคอมพิวเตอร์ชิ้นเล็กๆ 1327 01:16:56,153 --> 01:16:58,905 ‎ที่เราตั้งโปรแกรมผ่านการควบคุมพฤติกรรม 1328 01:16:58,989 --> 01:17:02,159 ‎เพื่อรับใช้สมองลูกใหญ่ลูกนี้ ‎และคุณก็ไม่ได้สำคัญอะไร 1329 01:17:02,451 --> 01:17:04,911 ‎คุณไม่ได้รับค่าจ้าง คุณไม่ได้รับการยอมรับ 1330 01:17:04,995 --> 01:17:06,455 ‎คุณไม่สามารถตัดสินใจอะไรเอง 1331 01:17:06,538 --> 01:17:09,416 ‎เราจะแอบชักจูงคุณ เพราะคุณเป็นแค่จุดต่อเชื่อม 1332 01:17:09,499 --> 01:17:12,336 ‎ฉะนั้นเราต้องตั้งโปรแกรมคุณ ‎เพราะนั่นคือสิ่งที่คุณทำกับจุดต่อเชื่อม 1333 01:17:20,093 --> 01:17:20,927 ‎ให้ตายสิ 1334 01:17:21,928 --> 01:17:25,140 ‎เวลาที่คุณคิดถึงเทคโนโลยี ‎และการมีอยู่ของมันในฐานะภัยคุกคามมนุษย์ 1335 01:17:25,349 --> 01:17:27,768 ‎มันเป็นคำพูดที่ฟังดูใหญ่โตและ... 1336 01:17:29,603 --> 01:17:33,982 ‎มันง่ายดายมากที่ในหัวคุณจะคิดว่า ‎"โอเค นี่ฉันกับโทรศัพท์... 1337 01:17:35,609 --> 01:17:36,985 ‎ฉันเลื่อน ฉันคลิก ฉันใช้มัน 1338 01:17:37,319 --> 01:17:38,987 ‎แล้วไหนล่ะภัยคุกคามมนุษย์ 1339 01:17:40,280 --> 01:17:41,615 ‎โอเค มันมีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 1340 01:17:41,698 --> 01:17:43,617 ‎อยู่ที่อีกฝั่งของหน้าจอและชี้มาที่สมองฉัน 1341 01:17:44,534 --> 01:17:47,537 ‎บอกให้ฉันดูวิดีโอเพิ่มอีกตัว ‎แต่ไหนล่ะภัยคุกคามมนุษย์" 1342 01:17:54,252 --> 01:17:59,341 ‎เทคโนโลยีมันไม่ใช่ภัยคุกคามมนุษย์ 1343 01:18:02,636 --> 01:18:04,346 ‎(สมาชิกวุฒิสภาไต่สวนเรื่อง ‎เทคโนโลยีการชักจูง) 1344 01:18:04,429 --> 01:18:08,850 ‎แต่ความสามารถของเทคโนโลยี ‎ทำให้สังคมเสื่อมทราม 1345 01:18:09,559 --> 01:18:13,522 ‎และสังคมที่เสื่อมทรามคือภัยคุกคามมนุษย์ 1346 01:18:13,605 --> 01:18:15,899 ‎(วุฒิสภาสหรัฐฯ) 1347 01:18:18,819 --> 01:18:23,115 ‎ถ้าเทคโนโลยีทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย 1348 01:18:23,198 --> 01:18:24,783 ‎ความรุนแรง ความหยาบคาย 1349 01:18:24,866 --> 01:18:26,368 ‎ความไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน 1350 01:18:27,285 --> 01:18:30,414 ‎ความโดดเดี่ยว ความแปลกแยก ‎ความแบ่งฝักฝ่ายที่เพิ่มขึ้น 1351 01:18:30,706 --> 01:18:33,333 ‎การแทรกแซงการเลือกตั้ง ประชานิยม 1352 01:18:33,917 --> 01:18:36,795 ‎ความไขว้เขวและไร้สมรรถภาพ ‎ที่จะมองให้เห็นปัญหาจริงๆ ... 1353 01:18:37,963 --> 01:18:39,256 ‎นั่นก็คือสังคม 1354 01:18:40,340 --> 01:18:46,388 ‎และตอนนี้สังคมมันก็ไม่สามารถเยียวยาตัวเอง 1355 01:18:46,471 --> 01:18:48,515 ‎และกำลังเสื่อมถอยไปสู่ความวุ่นวาย 1356 01:18:51,977 --> 01:18:55,021 ‎เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อทุกคน ‎ต่อให้คุณไม่ใช้ผลิตภัณฑ์พวกนี้ 1357 01:18:55,522 --> 01:18:57,524 ‎ของเหล่านี้กลายเป็นแฟรงเกนไสตน์ดิจิทัล 1358 01:18:57,607 --> 01:19:00,068 ‎ซึ่งกำลังเปลี่ยนโลกไปตามภาพที่มันวางไว้ 1359 01:19:00,152 --> 01:19:01,862 ‎ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพจิตเด็ก 1360 01:19:01,945 --> 01:19:04,489 ‎หรือการเมืองและวาทกรรมการเมืองของเรา 1361 01:19:04,740 --> 01:19:07,492 ‎โดยไม่ต้องรับผิดชอบ ‎เรื่องที่มันเข้าควบคุมการถกเถียงสาธารณะ 1362 01:19:07,576 --> 01:19:10,287 ‎- ทีนี้กลับมาที่... ‎- แล้วคุณคิดว่าใครต้องรับผิดชอบ 1363 01:19:10,662 --> 01:19:13,582 ‎ผมคิดว่าเราต้องให้แพลตฟอร์มเป็นผู้รับผิดชอบ 1364 01:19:13,665 --> 01:19:15,584 ‎เพราะเมื่อมันควบคุมโฆษณาการเลือกตั้ง 1365 01:19:15,667 --> 01:19:17,794 ‎มันย่อมมีหน้าที่ปกป้องการเลือกตั้ง 1366 01:19:17,878 --> 01:19:20,380 ‎เมื่อมันเข้าควบคุมสุขภาพจิตเด็ก ‎หรือการ์ตูนเช้าวันเสาร์ 1367 01:19:20,464 --> 01:19:22,382 ‎มันก็ต้องปกป้องการ์ตูนเช้าวันเสาร์ 1368 01:19:23,717 --> 01:19:27,929 ‎การแข่งขันเพื่อดึงความสนใจผู้คนมันไม่หายไป 1369 01:19:28,555 --> 01:19:31,850 ‎เทคโนโลยีของเราจะยิ่งประสาน ‎เข้ากับชีวิตเรามากขึ้น ไม่มีน้อยลง 1370 01:19:32,017 --> 01:19:34,895 ‎เอไอจะคำนวณได้ดีขึ้นว่า ‎อะไรที่ทำให้เราอยู่ติดกับหน้าจอได้ 1371 01:19:34,978 --> 01:19:37,105 ‎ไม่ใช่คำนวณได้แย่ลง 1372 01:19:38,940 --> 01:19:42,027 ‎ผมอายุ 62 แล้ว 1373 01:19:42,110 --> 01:19:44,571 ‎ผมแก่ลงทุกๆ นาทีที่เรากำลังคุยกันอยู่นี้ 1374 01:19:45,238 --> 01:19:47,365 ‎แต่ผมจะบอกคุณว่า... 1375 01:19:48,909 --> 01:19:52,370 ‎ผมขอตายเสียจะดีกว่าและผมจะขอบคุณที่ตายด้วย 1376 01:19:52,454 --> 01:19:54,122 ‎จะได้ไม่ต้องเห็นเรื่องเลวร้ายนี้เกิดขึ้น 1377 01:19:54,790 --> 01:19:59,586 ‎เพราะผมคิดว่าเรื่องนี้ทำผมกลัวแทบตาย 1378 01:20:01,129 --> 01:20:03,048 ‎คุณคิดเหมือนกันกับผมไหม 1379 01:20:03,423 --> 01:20:06,760 ‎หรือว่าผมตื่นตูมกับสถานการณ์ ‎ที่ผมยังเข้าใจไม่ดีพอนี้เกินไป 1380 01:20:09,930 --> 01:20:11,056 ‎คุณกังวลกับอะไรที่สุด 1381 01:20:15,519 --> 01:20:18,480 ‎ผมคิดว่าความเป็นไปได้ในระยะสั้นที่สุดก็... 1382 01:20:19,523 --> 01:20:20,398 ‎สงครามกลางเมือง 1383 01:20:24,444 --> 01:20:29,908 ‎ถ้าเราคงสภาพการณ์ปัจจุบัน ‎ต่อไปอีกสัก 20 ปี... 1384 01:20:31,117 --> 01:20:34,579 ‎เราอาจจะทำลายอารยธรรมของเรา ‎ด้วยความไม่รู้ที่จงใจ 1385 01:20:34,663 --> 01:20:37,958 ‎เราคงไม่อาจรับมือกับภาวะโลกร้อนได้ 1386 01:20:38,041 --> 01:20:42,087 ‎เราคงบ่อนทำลายประชาธิปไตยโลก 1387 01:20:42,170 --> 01:20:45,924 ‎มันคงตกสู่หล่มของความล้มเหลว ‎ของรัฐอัตตาธิปไตย 1388 01:20:46,216 --> 01:20:48,426 ‎เราคงทำลายเศรษฐกิจโลก 1389 01:20:49,177 --> 01:20:52,097 ‎เราอาจอยู่ไม่รอด 1390 01:20:52,347 --> 01:20:54,808 ‎ผมมองมันเป็นภัยคุกคามมนุษย์จริงๆ 1391 01:21:02,524 --> 01:21:04,693 ‎นี่จะเป็นคนรุ่นสุดท้ายที่รู้ว่า 1392 01:21:05,068 --> 01:21:08,488 ‎โลกเคยเป็นยังไงก่อนภาพมายา ‎จะเข้ามาแทนที่หรือเปล่า 1393 01:21:11,074 --> 01:21:13,994 ‎คุณจะตื่นจากเมทริกซ์ได้ยังไง ‎ถ้าคุณไม่รู้ตัวว่าอยู่ในเมทริกซ์ 1394 01:21:17,747 --> 01:21:23,253 ‎("มันคือยูโทเปียหรือการหลงลืม ‎นั่นจะเป็นการแข่งวิ่งผลัด") 1395 01:21:23,336 --> 01:21:27,299 ‎("ที่ดำเนินไปจนถึงช่วงเวลาสุดท้าย..." ‎บักมินสเตอร์ ฟุลเลอร์) 1396 01:21:27,424 --> 01:21:30,552 ‎หลายๆ อย่างที่เราพูดมันฟังเหมือนเป็น... 1397 01:21:31,511 --> 01:21:33,597 ‎หายนะจากมุมเราฝ่ายเดียว 1398 01:21:33,763 --> 01:21:36,808 ‎แบบ "พระเจ้าช่วย เทคโนโลยีทำลายโลก 1399 01:21:36,892 --> 01:21:38,059 ‎และมันทำลายเด็กๆ" 1400 01:21:38,143 --> 01:21:39,269 ‎และมันแบบ ใช่เหรอ 1401 01:21:40,228 --> 01:21:45,567 ‎ที่เราสับสนก็เพราะมันเป็นทั้งยูโทเปีย ‎และดิสโทเปียในเวลาเดียวกัน 1402 01:21:45,942 --> 01:21:50,447 ‎แบบว่าผมสามารถกดปุ่มในโทรศัพท์ ‎แล้วรถก็มาใน 30 วินาที 1403 01:21:50,530 --> 01:21:52,532 ‎ทีนี้ผมก็สามารถไปที่ที่ต้องไปได้ 1404 01:21:52,991 --> 01:21:55,660 ‎นั่นคือเวทมนตร์ มันมหัศจรรย์ 1405 01:21:56,244 --> 01:21:57,662 ‎ตอนที่เราสร้างปุ่ม "ไลก์" ขึ้นมา 1406 01:21:57,746 --> 01:22:01,249 ‎ความตั้งใจของเราคือ "เราจะส่งต่อ ‎พลังบวกและความรักในโลกได้ไหม" 1407 01:22:01,499 --> 01:22:05,003 ‎ความคิดที่ว่าพอข้ามมาถึงวันนี้แล้ว ‎เด็กวัยรุ่นจะรู้สึกหดหู่ 1408 01:22:05,086 --> 01:22:06,379 ‎เวลาที่ได้ยอดไลก์ไม่พอ 1409 01:22:06,463 --> 01:22:08,632 ‎หรือมันจะนำไปสู่การแบ่งขั้วทางการเมือง 1410 01:22:08,715 --> 01:22:09,883 ‎ไม่ได้อยู่ในหัวเราเลย 1411 01:22:10,091 --> 01:22:12,135 ‎ผมไม่คิดว่าคนพวกนี้ตั้งใจจะเป็นวายร้าย 1412 01:22:13,511 --> 01:22:15,513 ‎ปัญหามันอยู่ที่โมเดลธุรกิจ 1413 01:22:15,847 --> 01:22:20,226 ‎คุณสามารถยุติการให้บริการ ‎และทำลายอะไรก็ตามแต่ 1414 01:22:20,310 --> 01:22:24,064 ‎อย่างมูลค่าผู้ถือหุ้นสองหมื่นล้าน ‎แล้วโดนฟ้อง และ... 1415 01:22:24,606 --> 01:22:27,108 ‎แต่ในทางปฏิบัติ คุณนำยักษ์กลับเข้าตะเกียงไม่ได้ 1416 01:22:27,400 --> 01:22:29,986 ‎คุณปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ ได้ แต่ในท้ายที่สุด 1417 01:22:30,487 --> 01:22:34,032 ‎คุณยังต้องเพิ่มยอดรายได้และการใช้งาน ‎ในทุกๆ ไตรมาส 1418 01:22:34,658 --> 01:22:37,369 ‎ยิ่งมันใหญ่ขึ้นเท่าไร จะให้ทุกคนเปลี่ยนมันก็ยาก 1419 01:22:38,495 --> 01:22:43,458 ‎สิ่งที่ผมเห็นคือกลุ่มคนที่ติดกับดักของโมเดลธุรกิจ 1420 01:22:43,541 --> 01:22:46,169 ‎สิ่งจูงใจในรูปตัวเงินและแรงกดดันของผู้ถือหุ้น 1421 01:22:46,378 --> 01:22:48,922 ‎มันทำให้พวกเขาแทบจะทำอะไรอื่นไม่ได้เลย 1422 01:22:49,172 --> 01:22:50,924 ‎เราคงต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่ปัญหา 1423 01:22:51,007 --> 01:22:52,968 ‎ถ้าบริษัทจะพุ่งเป้าไปที่การหาเงิน 1424 01:22:53,259 --> 01:22:56,721 ‎ปัญหาจะเกิดก็ต่อเมื่อมันไม่มีกฎ ‎ไม่มีระเบียบ และไม่มีการแข่งขัน 1425 01:22:56,888 --> 01:23:00,684 ‎และบริษัทนั้นก็วางตัวประหนึ่งว่า ‎ตนเป็นรัฐบาลโดยพฤตินัย 1426 01:23:01,142 --> 01:23:03,353 ‎และพูดว่า "เราตั้งกฎให้ตัวเองได้" 1427 01:23:03,436 --> 01:23:05,605 ‎มันเป็นเรื่องโกหก เป็นเรื่องที่บ้าบอมาก 1428 01:23:06,064 --> 01:23:09,150 ‎สิ่งจูงใจในรูปตัวเงินควบคุมโลก 1429 01:23:09,234 --> 01:23:15,573 ‎วิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้ ‎จึงต้องปรับสิ่งจูงใจในรูปตัวเงิน 1430 01:23:16,116 --> 01:23:18,785 ‎บริษัทเหล่านี้ไม่มีเหตุผล ‎ทางด้านงบประมาณให้ต้องเปลี่ยน 1431 01:23:19,119 --> 01:23:20,996 ‎ผมถึงคิดว่าเราต้องการระเบียบข้อบังคับ 1432 01:23:21,413 --> 01:23:24,165 ‎บริษัทโทรศัพท์มีข้อมูลที่อ่อนไหว ‎ของคุณเป็นจำนวนมาก 1433 01:23:24,374 --> 01:23:27,252 ‎และเราก็มีกฎหมายหลายข้อ ‎เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ทำเรื่องไม่ดี 1434 01:23:27,627 --> 01:23:31,506 ‎แต่เราแทบไม่มีกฎหมายควบคุม ‎ในเรื่องความเป็นส่วนตัวดิจิทัล 1435 01:23:31,715 --> 01:23:34,300 ‎เราควรเก็บภาษีการรวบรวมข้อมูล ‎และประมวลผล 1436 01:23:34,509 --> 01:23:37,554 ‎แบบเดียวกับที่เรียกเก็บค่าน้ำประปาของคุณ 1437 01:23:37,637 --> 01:23:39,723 ‎ด้วยการจับตาดูปริมาตรน้ำที่คุณใช้ 1438 01:23:40,015 --> 01:23:43,226 ‎คุณต้องเก็บภาษีสินทรัพย์ข้อมูลที่บริษัทเหล่านี้มี 1439 01:23:43,309 --> 01:23:45,145 ‎ทีนี้พวกเขาก็มีเหตุผลด้านงบประมาณ 1440 01:23:45,311 --> 01:23:47,731 ‎ให้เลิกเก็บข้อมูลทั้งหมดในโลก 1441 01:23:48,106 --> 01:23:50,650 ‎กฎหมายยังตามของพวกนี้ไม่ทัน 1442 01:23:50,817 --> 01:23:55,864 ‎แต่ที่ผมรู้ก็คือในสถานการณ์ปัจจุบัน ‎เขาไม่ได้สนใจเรื่องการปกป้องผู้ใช้ 1443 01:23:55,947 --> 01:23:58,700 ‎แต่เป็นการปกป้องสิทธิความชอบธรรม 1444 01:23:58,783 --> 01:24:01,453 ‎ของบริษัทยักษ์ใหญ่แสนมั่งคั่งพวกนี้ 1445 01:24:02,245 --> 01:24:05,832 ‎เราต้องยอมจำนนให้กับคนที่รวยที่สุด ‎และทรงอิทธิพลที่สุดงั้นเหรอ 1446 01:24:05,915 --> 01:24:07,417 ‎หรือเราจะพูดว่า 1447 01:24:07,959 --> 01:24:12,047 ‎"รู้ไหม ในบางเวลา ผลประโยชน์ของชาติ 1448 01:24:12,130 --> 01:24:15,592 ‎ในบางเวลา ผลประโยชน์ของประชาชน ‎ของผู้ใช้งาน 1449 01:24:15,675 --> 01:24:17,177 ‎ก็มีความสำคัญมากกว่า 1450 01:24:18,011 --> 01:24:21,014 ‎ผลกำไรของคนที่เป็นมหาเศรษฐีอยู่แล้ว" 1451 01:24:21,890 --> 01:24:26,311 ‎ตลาดเหล่านี้บ่อนเซาะประชาธิปไตย ‎และบ่อนเซาะเสรีภาพ 1452 01:24:26,686 --> 01:24:28,396 ‎มันควรถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย 1453 01:24:29,147 --> 01:24:31,608 ‎นี่ไม่ใช่ข้อเสนอที่สุดโต่ง 1454 01:24:31,900 --> 01:24:33,902 ‎มีบางตลาดที่เรานับว่าผิดกฎหมาย 1455 01:24:34,277 --> 01:24:36,654 ‎เรานับการค้าอวัยวะมนุษย์ว่าผิดกฎหมาย 1456 01:24:37,155 --> 01:24:39,532 ‎เรานับการค้าทาสว่าผิดกฎหมาย 1457 01:24:39,949 --> 01:24:44,037 ‎เพราะพวกมันส่งผลลัพธ์ ‎ที่เป็นภัยร้ายแรงอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ 1458 01:24:44,621 --> 01:24:45,830 ‎เราอาศัยอยู่ในโลก 1459 01:24:45,914 --> 01:24:50,001 ‎ที่ต้นไม้ตายมีมูลค่าทางการเงิน ‎มากกว่าต้นไม้ที่ยังมีชีวิต 1460 01:24:50,210 --> 01:24:53,755 ‎โลกที่ปลาวาฬตายมีมูลค่ามากกว่าเป็น 1461 01:24:53,922 --> 01:24:56,341 ‎และตราบใดที่เศรษฐกิจทำงานในรูปแบบนั้น 1462 01:24:56,424 --> 01:24:58,218 ‎และบริษัทยังขาดกฎหมายควบคุม 1463 01:24:58,343 --> 01:25:00,678 ‎พวกเขาก็ยังจะตัดไม้ทำลายป่า 1464 01:25:00,762 --> 01:25:01,763 ‎ฆ่าปลาวาฬ 1465 01:25:01,846 --> 01:25:06,101 ‎ขุดเจาะเหมืองและสูบน้ำมันขึ้นจากดินกันต่อไป 1466 01:25:06,184 --> 01:25:08,394 ‎ถึงแม้จะรู้ว่านั่นเป็นการทำลายโลก 1467 01:25:08,478 --> 01:25:12,023 ‎และส่งต่อโลกที่เลวร้ายยิ่งกว่าให้แก่คนรุ่นหลัง 1468 01:25:12,232 --> 01:25:13,858 ‎นี่คือการคิดในระยะสั้น 1469 01:25:13,942 --> 01:25:16,611 ‎ซึ่งอิงจากลัทธิมุ่งเน้นผลกำไร 1470 01:25:16,778 --> 01:25:20,156 ‎ราวกับว่าการที่แต่ละบริษัทคำนึงถึง ‎เพียงประโยชน์ส่วนตัว 1471 01:25:20,240 --> 01:25:21,950 ‎จะทำให้ได้ผลลัพธ์การผลิตที่ดีที่สุด 1472 01:25:22,242 --> 01:25:24,494 ‎เรื่องนี้ส่งผลกับสภาพแวดล้อมมานานแล้ว 1473 01:25:24,702 --> 01:25:27,288 ‎สิ่งที่น่ากลัวและอาจเป็นฟางเส้นสุดท้าย 1474 01:25:27,372 --> 01:25:29,207 ‎ที่จะทำให้เราตื่นรู้ในระดับอารยธรรม 1475 01:25:29,290 --> 01:25:31,709 ‎ว่าทฤษฎีนี้มันบกพร่องมาตั้งแต่แรกยังไง 1476 01:25:31,793 --> 01:25:35,004 ‎ก็คือการตระหนักว่าตอนนี้ ‎เราเป็นต้นไม้และปลาวาฬ 1477 01:25:35,088 --> 01:25:36,923 ‎ความสนใจเรากลายเป็นเหมืองให้ขุดเจาะ 1478 01:25:37,132 --> 01:25:39,134 ‎เราจะทำให้บริษัทได้ผลประโยชน์มากขึ้น 1479 01:25:39,217 --> 01:25:41,594 ‎ถ้าเราใช้เวลาไปกับการจ้องหน้าจอ 1480 01:25:41,678 --> 01:25:42,971 ‎และมองดูโฆษณา 1481 01:25:43,054 --> 01:25:45,723 ‎มากกว่าเอาเวลาเหล่านั้นมาใช้ชีวิตอย่างรุ่มรวย 1482 01:25:45,974 --> 01:25:47,559 ‎และเราก็เห็นผลลัพธ์ของเรื่องนั้น 1483 01:25:47,642 --> 01:25:50,687 ‎เราเห็นบริษัทกำลังใช้ปัญญาประดิษฐ์ทรงพลัง 1484 01:25:50,770 --> 01:25:53,648 ‎มาเอาชนะสติปัญญาเรา ‎และหาวิธีดึงเอาความสนใจเรา 1485 01:25:53,731 --> 01:25:55,358 ‎ไปไว้ยังสิ่งที่พวกเขาอยากให้เราดู 1486 01:25:55,441 --> 01:25:57,277 ‎มากกว่าสิ่งที่สอดคล้องกับเป้าหมาย 1487 01:25:57,360 --> 01:25:59,237 ‎และคุณค่าและชีวิตของเรามากที่สุด 1488 01:26:02,991 --> 01:26:04,450 ‎(สตีฟ จอบส์ ผู้บรรยายหลักวันนี้) 1489 01:26:05,368 --> 01:26:06,911 ‎สำหรับผม คอมพิวเตอร์ก็คือ... 1490 01:26:06,995 --> 01:26:10,290 ‎มันคืออุปกรณ์ที่น่าทึ่งที่สุดที่เราเคยคิดค้นขึ้น 1491 01:26:11,124 --> 01:26:13,877 ‎และมันเทียบเท่าได้กับจักรยาน ‎สำหรับความคิดของเรา 1492 01:26:15,628 --> 01:26:20,091 ‎ไอเดียเรื่องเทคโนโลยีที่มีมนุษยธรรม ‎ซิลิคอนแวลลีย์เริ่มต้นมาจากตรงนั้น 1493 01:26:21,050 --> 01:26:25,722 ‎และเราก็ได้หลงลืมมันไป ‎เพราะทำแบบนั้นมันลงตัวกว่า 1494 01:26:25,805 --> 01:26:27,265 ‎ถึงแม้ว่ามันจะไม่ถูกต้อง 1495 01:26:27,557 --> 01:26:29,726 ‎อินเทอร์เน็ตเป็นที่ที่แปลกประหลาด 1496 01:26:29,976 --> 01:26:31,394 ‎มันคือการทดลอง 1497 01:26:31,477 --> 01:26:34,731 ‎มีเรื่องสร้างสรรค์เกิดขึ้นในอินเทอร์เน็ต ‎และแน่นอนว่ามันก็ยังเป็นอยู่ 1498 01:26:34,814 --> 01:26:38,359 ‎แต่มันก็เป็นเหมือนกับห้างขนาดใหญ่ 1499 01:26:38,693 --> 01:26:44,157 ‎ฉันรู้สึกว่า "พระเจ้า ‎มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นสิ" 1500 01:26:46,743 --> 01:26:47,994 ‎ฉันคงเป็นพวกมองโลกในแง่ดี 1501 01:26:48,494 --> 01:26:52,040 ‎เพราะฉันคิดว่าเราสามารถเปลี่ยน ‎วิธีการและหน้าตาของโซเชียลมีเดียได้ 1502 01:26:54,292 --> 01:26:57,921 ‎วิธีการทำงานของเทคโนโลยี ‎มันไม่ใช่กฎฟิสิกส์ มันไม่ได้ตายตัว 1503 01:26:58,004 --> 01:27:02,050 ‎มันคือตัวเลือกที่มนุษย์อย่างผมได้เลือก 1504 01:27:03,009 --> 01:27:05,678 ‎และมนุษย์ก็สามารถเปลี่ยนเทคโนโลยีพวกนั้น 1505 01:27:06,971 --> 01:27:09,974 ‎คำถามสำหรับตอนนี้ก็คือ ‎เราพร้อมจะยอมรับหรือไม่ 1506 01:27:10,475 --> 01:27:15,188 ‎ว่าผลลัพธ์เลวร้ายเหล่านั้น ‎คือผลผลิตโดยตรงจากงานของเรา 1507 01:27:21,152 --> 01:27:24,614 ‎เราเป็นคนสร้างสิ่งเหล่านี้ ‎เราจึงมีหน้าที่ที่ต้องเปลี่ยนมัน 1508 01:27:37,210 --> 01:27:42,298 ‎โมเดลการรีดเอาความสนใจ ‎ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากนำมาใช้กับมนุษย์ 1509 01:27:46,094 --> 01:27:48,137 ‎มีแค่ฉันหรือว่า... 1510 01:27:49,847 --> 01:27:50,682 ‎ไอ้น่าสมเพช 1511 01:27:51,516 --> 01:27:53,226 ‎สายใยของสังคมที่มีสุขภาพดี 1512 01:27:53,309 --> 01:27:56,145 ‎จะเกิดขึ้นถ้าเราโละโมเดลธุรกิจ ‎ที่บ่อนเซาะมันออกไป 1513 01:28:04,696 --> 01:28:07,782 ‎เราสามารถเรียกร้องให้มีการออกแบบ ‎ผลิตภัณฑ์อย่างมีมนุษยธรรมได้ 1514 01:28:09,409 --> 01:28:13,121 ‎เราเรียกร้องให้พวกเขาเลิกมองเรา ‎เป็นแหล่งทรัพยากรให้ขูดรีดได้ 1515 01:28:15,164 --> 01:28:18,334 ‎ด้วยความตั้งใจที่ว่า ‎"เราจะทำให้โลกดีขึ้นได้ยังไง" 1516 01:28:20,461 --> 01:28:23,798 ‎จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา สิ่งที่ดีกว่า 1517 01:28:23,881 --> 01:28:26,342 ‎จะเกิดขึ้นเมื่อมีคนออกมาพูดว่า 1518 01:28:26,551 --> 01:28:28,177 ‎"นี่มันงี่เง่า เราทำได้ดีกว่านี้" 1519 01:28:29,178 --> 01:28:32,557 ‎เช่นนักวิจารณ์ที่ขับเคลื่อนการพัฒนา 1520 01:28:33,141 --> 01:28:35,560 ‎ผู้วิจารณ์ที่มองโลกในแง่ดีอย่างแท้จริง 1521 01:28:38,313 --> 01:28:39,147 ‎สวัสดี 1522 01:28:46,195 --> 01:28:47,697 ‎ฟังดูบ้าใช่ไหมล่ะครับ 1523 01:28:47,780 --> 01:28:51,534 ‎ระบบพื้นฐานของเจ้าสิ่งนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมา... 1524 01:28:52,994 --> 01:28:54,704 ‎ให้มุ่งหน้าไปในทิศทางที่ดี 1525 01:28:55,246 --> 01:28:56,873 ‎ทั้งระบบเลย 1526 01:28:56,956 --> 01:29:00,626 ‎มันเลยคงฟังดูบ้าที่จะบอกว่า ‎เราต้องเปลี่ยนแปลงเรื่องนั้น 1527 01:29:01,169 --> 01:29:02,670 ‎แต่นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ 1528 01:29:04,380 --> 01:29:05,381 ‎คิดว่าเราจะทำได้ไหม 1529 01:29:07,383 --> 01:29:08,217 ‎ต้องได้ครับ 1530 01:29:21,314 --> 01:29:24,859 ‎คุณดูจะมองโลกในแง่ดีมาก 1531 01:29:26,194 --> 01:29:27,195 ‎มันฟังดูแบบนั้นเหรอ 1532 01:29:27,487 --> 01:29:30,114 ‎ครับ คือผมไม่คิดว่าคุณยังพูดแบบนั้นได้ 1533 01:29:30,198 --> 01:29:33,159 ‎เพราะผมเอาแต่บอกว่า "จริงๆ นะ ‎ผมรู้สึกเหมือนเรากำลังพุ่งลงเหว 1534 01:29:33,493 --> 01:29:35,328 ‎ผมรู้สึกว่าเรากำลังพุ่งแบบติดจรวด 1535 01:29:35,411 --> 01:29:37,288 ‎และจะพ้นเคราะห์ได้ก็คงต้องพึ่งปาฏิหาริย์" 1536 01:29:37,914 --> 01:29:40,166 ‎และปาฏิหาริย์นั้นก็คือเจตจำนงร่วม 1537 01:29:41,000 --> 01:29:44,379 ‎ฉันมองโลกในแง่ดีว่าเราจะหาทางออกได้ 1538 01:29:44,670 --> 01:29:46,923 ‎แต่ฉันคิดว่ามันคงต้องใช้เวลานาน 1539 01:29:47,131 --> 01:29:50,385 ‎เพราะไม่ใช่ทุกคนที่มองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา 1540 01:29:50,468 --> 01:29:55,890 ‎ฉันคิดว่าความล้มเหลวสำคัญ ‎ในด้านเทคโนโลยีทุกวันนี้ 1541 01:29:55,973 --> 01:29:58,643 ‎คือความล้มเหลวในแง่การเป็นผู้นำ 1542 01:29:58,726 --> 01:30:01,979 ‎ให้ผู้คนออกมาพูดคุยกันแบบเปิดอก 1543 01:30:02,063 --> 01:30:05,983 ‎ไม่ใช่แค่เรื่องอะไรที่ใช้ได้ดี ‎แต่รวมถึงอะไรที่ยังไม่สมบูรณ์แบบ 1544 01:30:06,192 --> 01:30:08,277 ‎เพื่อที่จะได้มีใครเข้ามาและสร้างสิ่งใหม่ 1545 01:30:08,444 --> 01:30:10,321 ‎ถึงท้ายที่สุดแล้ว 1546 01:30:10,405 --> 01:30:14,617 ‎เครื่องจักรนี้มันจะไม่ย้อนกลับ ‎เว้นแต่สาธารณชนจะร่วมกันกดดัน 1547 01:30:14,700 --> 01:30:18,121 ‎ด้วยการพูดคุยกันและแสดงความคิดเห็น 1548 01:30:18,413 --> 01:30:20,790 ‎และในบางกรณีก็ผ่านเทคโนโลยีพวกนี้ 1549 01:30:21,165 --> 01:30:24,252 ‎เราถึงจะเริ่มเปลี่ยนกระแสได้ ‎เราถึงจะเริ่มเปลี่ยนบทสนทนาได้ 1550 01:30:24,335 --> 01:30:27,004 ‎มันอาจฟังดูแปลกๆ ‎แต่มันคือโลกของผม สังคมของผม 1551 01:30:27,088 --> 01:30:29,632 ‎ผมไม่เกลียดพวกเขา ‎ผมไม่ได้คิดร้ายกับกูเกิลหรือเฟซบุ๊ก 1552 01:30:29,715 --> 01:30:32,343 ‎ผมแค่อยากปฏิรูปเพื่อไม่ให้พวกเขาทำลายโลก ‎นึกออกไหม 1553 01:30:33,010 --> 01:30:35,513 ‎ผมลบการติดตั้งแอปนับสิบในโทรศัพท์ 1554 01:30:35,596 --> 01:30:37,723 ‎ที่ผมรู้สึกว่ามันผลาญเวลาของผม 1555 01:30:37,807 --> 01:30:40,685 ‎แอปโซเชียลมีเดียทั้งหมด แอปข่าวทั้งหมด 1556 01:30:40,768 --> 01:30:42,520 ‎และผมก็ปิดการแจ้งเตือน 1557 01:30:42,603 --> 01:30:45,815 ‎แอปอะไรก็ตามที่จะมาสั่นขาผมด้วยข้อมูล 1558 01:30:45,898 --> 01:30:48,943 ‎ที่ผิดกาลเทศะและไม่ได้สำคัญกับผมตอนนั้น 1559 01:30:49,026 --> 01:30:51,279 ‎เป็นเหตุผลเดียวกันที่ผมไม่เก็บคุกกี้ไว้ในกระเป๋า 1560 01:30:51,362 --> 01:30:53,197 ‎ลดจำนวนการแจ้งเตือนที่ได้รับ 1561 01:30:53,281 --> 01:30:54,449 ‎ปิดการแจ้งเตือน 1562 01:30:54,532 --> 01:30:55,950 ‎ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด 1563 01:30:56,033 --> 01:30:58,536 ‎ผมไม่ใช้กูเกิลอีกแล้ว ผมใช้ควอนท์ 1564 01:30:58,619 --> 01:31:01,497 ‎มันไม่เก็บประวัติการค้นหา 1565 01:31:01,664 --> 01:31:04,459 ‎อย่าไปรับวิดีโอที่แนะนำมาให้คุณในยูทูบ 1566 01:31:04,542 --> 01:31:07,003 ‎ให้เลือกเสมอ นี่เป็นวิธีสู้อีกวิธี 1567 01:31:07,086 --> 01:31:12,133 ‎โครมมีส่วนขยายเป็นร้อย ‎ที่ช่วยถอดการแนะนำออกให้ 1568 01:31:12,216 --> 01:31:15,136 ‎ผมชอบจังที่คุณแนะนำวิธียกเลิกสิ่งที่คุณคิดค้นขึ้น 1569 01:31:15,720 --> 01:31:16,554 ‎ครับ 1570 01:31:16,929 --> 01:31:21,642 ‎ก่อนจะแชร์ ให้เช็คข้อเท็จจริง ‎พิจารณาแหล่งที่มา และค้นกูเกิลเพิ่มเติม 1571 01:31:21,726 --> 01:31:25,104 ‎ถ้าเกิดมันดูเหมือนอะไรที่ออกแบบมา ‎เพื่อปลุกปั่นอารมณ์ของคุณ 1572 01:31:25,188 --> 01:31:26,397 ‎มันก็อาจจะใช่ 1573 01:31:26,689 --> 01:31:29,025 ‎โดยเนื้อแท้ คุณลงคะแนนเสียงด้วยการคลิก 1574 01:31:29,108 --> 01:31:30,359 ‎ถ้าคุณคลิกโพสต์คลิกเบต 1575 01:31:30,443 --> 01:31:33,779 ‎คุณก็ได้สร้างสิ่งจูงใจในรูปตัวเงิน ‎ซึ่งหล่อเลี้ยงระบบที่มีอยู่ให้คงทนถาวร 1576 01:31:33,863 --> 01:31:36,949 ‎คุณต้องรับข้อมูลที่แตกต่างหลากหลาย 1577 01:31:37,033 --> 01:31:37,909 ‎ในชีวิตของคุณ 1578 01:31:37,992 --> 01:31:40,995 ‎ฉันติดตามคนที่ไม่เห็นด้วยในทวิตเตอร์ 1579 01:31:41,078 --> 01:31:44,207 ‎เพราะฉันอยากจะเห็นมุมมองที่แตกต่าง 1580 01:31:44,665 --> 01:31:46,584 ‎ลองสังเกตว่าหลายคนในวงการเทคโนโลยี 1581 01:31:46,667 --> 01:31:48,753 ‎ไม่ได้ให้ลูกๆ ใช้เครื่องมือเหล่านี้ 1582 01:31:49,128 --> 01:31:50,880 ‎ลูกๆ ผมไม่ใช้โซเชียลมีเดียเลย 1583 01:31:51,964 --> 01:31:53,424 ‎นั่นเป็นกฎหรือว่าเป็น... 1584 01:31:53,633 --> 01:31:54,467 ‎เป็นกฎครับ 1585 01:31:55,092 --> 01:31:57,845 ‎เราคลั่งไคล้มัน 1586 01:31:57,929 --> 01:31:58,888 ‎เราบ้าคลั่ง 1587 01:31:59,305 --> 01:32:05,436 ‎และเราจะไม่ยอมให้ลูกๆ ได้เล่นโทรศัพท์ 1588 01:32:05,686 --> 01:32:08,105 ‎ผมคิดค้นกฎง่ายๆ ขึ้นมาสามข้อ 1589 01:32:08,648 --> 01:32:12,235 ‎ซึ่งช่วยให้ชีวิตคนในบ้านผมง่ายขึ้น ‎และมีผลวิจัยออกมาแล้วว่ามันถูกต้อง 1590 01:32:12,693 --> 01:32:15,571 ‎ข้อแรกคือห้ามมีโทรศัพท์ในห้องนอน 1591 01:32:15,655 --> 01:32:17,281 ‎ตามเวลาที่กำหนด ทุกๆ คืน 1592 01:32:17,365 --> 01:32:20,409 ‎ไม่ว่าจะเป็นกี่โมง ครึ่งชั่วโมงก่อนนอน ‎อุปกรณ์ทุกชิ้นต้องออกไป 1593 01:32:20,743 --> 01:32:23,913 ‎กฎข้อสองคือห้ามใช้โซเชียลมีเดีย ‎จนกว่าจะถึงชั้นมัธยมปลาย 1594 01:32:24,121 --> 01:32:26,374 ‎โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าควรเป็นตอนอายุ 16 1595 01:32:26,582 --> 01:32:28,960 ‎แค่มัธยมต้นก็ยากพอแล้ว ‎เอาออกไปจนกว่าจะมัธยมปลาย 1596 01:32:29,043 --> 01:32:32,964 ‎และกฎข้อที่สามก็คือ ‎ตกลงเรื่องระยะเวลาการใช้งานกับลูก 1597 01:32:33,047 --> 01:32:34,757 ‎ถ้าคุณไปถามพวกเขาว่า 1598 01:32:34,840 --> 01:32:37,927 ‎"ลูกอยากใช้เวลากับโทรศัพท์กี่ชั่วโมงต่อวัน 1599 01:32:38,010 --> 01:32:39,470 ‎ลูกคิดว่าเท่าไรถึงจะเหมาะสม" 1600 01:32:39,720 --> 01:32:41,597 ‎ส่วนใหญ่คำตอบของพวกเขาจะมีเหตุผล 1601 01:32:42,056 --> 01:32:44,642 ‎ฟังนะ ผมรู้ดีว่า 1602 01:32:44,725 --> 01:32:48,312 ‎ผมทำให้ทุกคนลบบัญชีโซเชียลมีเดียทิ้งไม่ได้ 1603 01:32:48,646 --> 01:32:50,147 ‎แต่ผมคงทำให้คนจำนวนหนึ่งลบได้ 1604 01:32:50,523 --> 01:32:54,402 ‎และแค่ทำให้คนจำนวนหนึ่ง ‎ลบบัญชีทิ้งได้มันก็สำคัญมากแล้ว 1605 01:32:54,485 --> 01:32:58,239 ‎เพราะว่านั่นคือการสร้างพื้นที่สนทนา 1606 01:32:58,489 --> 01:33:00,908 ‎เพราะผมอยากให้ในสังคมนี้ 1607 01:33:00,992 --> 01:33:04,912 ‎มีคนที่เป็นอิสระจากระบบชักจูง ‎มากพอให้เกิดการเจรจาทางสังคม 1608 01:33:05,288 --> 01:33:07,540 ‎ซึ่งไม่ถูกระบบชักจูงกำกับ 1609 01:33:07,623 --> 01:33:10,126 ‎เพราะงั้นทำสิ ออกมาจากระบบ 1610 01:33:10,293 --> 01:33:12,503 ‎ใช่ ลบเลย ทิ้งของโง่ๆ นั่นซะ 1611 01:33:13,546 --> 01:33:16,507 ‎โลกมันสวยงามขนาดนี้ ‎ดูสิ ข้างนอกมันวิเศษจะตาย 1612 01:33:18,467 --> 01:33:19,969 ‎(ติดตามเราทางโซเชียลมีเดีย) 1613 01:33:20,052 --> 01:33:21,887 ‎(ล้อเล่นน่า) 1614 01:33:21,971 --> 01:33:27,476 ‎(มาร่วมพูดคุยถึงวิธีแก้ไขที่ ‎TheSocialDilemma.com) 1615 01:33:32,064 --> 01:33:34,609 ‎(คำบรรยายโดย: วรพล ถาวรวรานนท์)