1 00:00:02,000 --> 00:00:07,000 Downloaded from YTS.MX 2 00:00:08,000 --> 00:00:13,000 Official YIFY movies site: YTS.MX 3 00:00:32,574 --> 00:00:35,285 คุณคงคิดว่าจะเอาที่ถ่ายไว้ มาตัดต่อตามใจ 4 00:00:35,368 --> 00:00:37,370 แล้วมันจะออกมาเป็นอย่างที่คุณ ต้องการสินะ 5 00:00:38,997 --> 00:00:39,873 แต่ผิดแล้ว 6 00:00:39,956 --> 00:00:42,333 เพราะผมจะคอยนั่งเฝ้าตั้งแต่ต้นจนจบ 7 00:00:45,587 --> 00:00:49,007 และแย่หน่อยนะ ที่คุณจะต้องมารับมือกับผม 8 00:00:57,098 --> 00:00:58,266 อดใจรอไม่ไหวแล้วสิ 9 00:00:59,225 --> 00:01:01,061 - เปิดไฟได้ เริ่มเลย - โอเค 10 00:01:09,861 --> 00:01:12,906 ไม่มีหัวข้อไหน ที่ผมจะพูดถึงแล้วมีความสุข 11 00:01:12,989 --> 00:01:15,241 มากไปกว่าเรื่องของเดวิด ฟอสเตอร์ 12 00:01:15,825 --> 00:01:19,370 มีหลายสิ่งหลายอย่างของเขา ที่ผมอยากให้ทั้งโลกรู้ 13 00:01:19,454 --> 00:01:21,247 เพราะถ้าพวกเขารู้สิ่งที่ผมรู้ 14 00:01:21,331 --> 00:01:23,374 ก็คงจะมีภาพเขาในจินตนาการ ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก 15 00:01:27,462 --> 00:01:28,296 เริ่มเลย 16 00:01:28,379 --> 00:01:31,925 เดวิดคือหนึ่งในโปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลงที่ยิ่งใหญ่สุดตลอดกาล 17 00:01:32,008 --> 00:01:33,968 คุณคงจะเคยได้ยินชื่อ บาร์บรา สไตรแซนด์ 18 00:01:35,428 --> 00:01:37,347 หรือว่าไมเคิล แจ็กสัน มั้งนะ 19 00:01:38,515 --> 00:01:41,392 เดวิด ฟอสเตอร์ คือคนแรกที่เชื่อในตัวผม 20 00:01:42,185 --> 00:01:45,438 เป็นความมั่นใจในยามที่ผมขาด แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ 21 00:01:45,522 --> 00:01:47,190 คือเราจะร้องได้ อย่างที่ไม่เคยนึกฝันมาก่อน 22 00:01:49,025 --> 00:01:49,901 (สตีวี วันเดอร์) 23 00:01:49,984 --> 00:01:51,111 ผมคงต้องรับสายนี้ 24 00:01:51,194 --> 00:01:53,780 ว่าไงสตีฟ สบายดีไหมเพื่อน 25 00:01:54,906 --> 00:01:57,867 เขาเป็นคนตลก เป็นนักสร้างความบันเทิง 26 00:01:57,951 --> 00:02:01,079 เป็นนักดนตรี และนักแต่งเพลงมากพรสวรรค์ 27 00:02:01,162 --> 00:02:04,165 ทันทีที่เข้ามาในห้อง เขาก็กลายเป็นเจ้าแห่งวงการบันเทิง 28 00:02:05,250 --> 00:02:07,627 เขาทำเหมือนว่ามันง่าย และนั่นแหละที่ยาก 29 00:02:07,710 --> 00:02:10,964 ในประวัติศาสตร์วงการดนตรี คงมีแค่เขากับควินซี่ โจนส์ที่ทำได้ 30 00:02:11,589 --> 00:02:13,591 ตอนนั้นแหละ ที่เราต้องเผชิญหน้ากับพระเจ้า 31 00:02:14,801 --> 00:02:18,429 คุณต้องรู้ว่าศิลปินคนนั้น มีศักยภาพแค่ไหน 32 00:02:18,888 --> 00:02:20,974 คุณต้องขุดค้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ผลงานที่ดีที่สุด 33 00:02:21,391 --> 00:02:25,145 ฉันเป็นคนเฮฮาและทำงานด้วยง่ายสุดๆ เวลาอยู่ในห้องอัด 34 00:02:25,645 --> 00:02:26,521 เขาไม่เป็นแบบนั้น 35 00:02:27,689 --> 00:02:31,693 เวลาเขาแต่งเพลงให้ใคร เขาจะพูดด้วยภาษาของคนคนนั้น 36 00:02:32,443 --> 00:02:35,363 มีใครอยู่เบื้องหลังเพลงฮิต มากเท่ากับเขาอีกไหม 37 00:02:35,446 --> 00:02:37,198 ฉันก็ไม่รู้นะ แต่มีไม่เยอะหรอก 38 00:02:39,284 --> 00:02:42,245 เดวิด ฟอสเตอร์ ชีวิต ตำนาน ปริศนา 39 00:02:42,328 --> 00:02:43,913 ฉันคือหนึ่งในคนที่โชคดี 40 00:02:43,997 --> 00:02:47,458 ที่ได้มีความสัมพันธ์ ที่ลึกซึ้งและใกล้ชิดกับเขา 41 00:02:47,542 --> 00:02:52,881 ฉันว่าฉันคือคนนั้นในชีวิตเขา ที่สามารถเคาะประตูใจเขาได้ ก๊อกๆ 42 00:03:16,446 --> 00:03:21,367 นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ผมมานิวยอร์ก 43 00:03:21,451 --> 00:03:25,413 แล้วผมไม่พูดกับตัวเองว่า "เวรเอ๊ย นิวยอร์ก ไม่อยากมาเลยว่ะ" 44 00:03:34,172 --> 00:03:37,926 นิวยอร์กมันก้าวหน้านำลอสแอนเจลิส ไปเร็วกว่าสักสิบเท่า 45 00:03:38,009 --> 00:03:39,344 และผมไม่ชอบเลย 46 00:03:41,554 --> 00:03:44,307 เป็นเพราะผมกลัวที่แคบๆ ทึบๆ และตึกสูงๆ 47 00:03:46,476 --> 00:03:49,604 นิวยอร์กมันบดขยี้ผม และผมไม่ชอบพลังงานแบบนั้น 48 00:03:49,687 --> 00:03:53,733 ผมไม่ชอบความรู้สึกหน่วงๆ ที่กดทับ เวลาที่เดินไปรอบๆ 49 00:03:55,109 --> 00:04:00,031 และผมออกจากพื้นที่ปลอดภัยมาไกลมาก เข้าสู่โลกแห่งบรอดเวย์ที่ผมไม่รู้จัก 50 00:04:00,114 --> 00:04:03,201 ผมว่าเรามีโอกาสโดนฟ้าผ่าตาย 51 00:04:03,284 --> 00:04:04,911 มากกว่าที่จะสร้าง ละครบรอดเวย์ดังๆ ได้ 52 00:04:04,994 --> 00:04:06,037 (เข้าชิงรางวัลโทนี 12 สาขา รวมถึงละครเพลงยอดเยี่ยม) 53 00:04:06,120 --> 00:04:08,206 บนหลังเปียโนคุณ มีที่ให้รางวัลโทนีด้วยเหรอ 54 00:04:08,289 --> 00:04:10,750 - ผมเห็นตรงนั้นน่ะ - มีสิ 55 00:04:10,833 --> 00:04:12,835 ไม่มีใครอยากได้สี่รางวัลใหญ่ มากไปกว่าผมหรอก 56 00:04:12,919 --> 00:04:15,588 เอมมี แกรมมี ออสการ์ โทนี 57 00:04:17,090 --> 00:04:18,633 ผมได้รางวัลลูกโลกทองคำแล้ว 58 00:04:18,716 --> 00:04:21,511 เอมมีก็ได้แล้ว แกรมมีก็ได้แล้ว ก็ยังขาดอะไรไปนิดหน่อย 59 00:04:24,013 --> 00:04:27,141 วงการบรอดเวย์มักจะมีแนวคิดว่า "พิสูจน์ตัวเองสิ" 60 00:04:27,225 --> 00:04:30,144 ก็เลยมีความรู้สึกว่า เดวิดต้องไปพิสูจน์ตัวเองมาก่อน 61 00:04:30,228 --> 00:04:33,147 แต่ฉันคงต้องขอพูดเพิ่มเติมว่า เดวิด เราพร้อมแล้ว 62 00:04:33,773 --> 00:04:35,108 เราพร้อมรับคุณแล้ว 63 00:04:35,191 --> 00:04:38,361 ใช้พรสวรรค์นั้นกับเรา แล้วก็เล่าเรื่องของคุณ 64 00:04:39,529 --> 00:04:42,573 นิวยอร์กมีชีวิตในแบบของมันเอง เหมือนกับที่แอลเอก็เป็นในแบบของมัน 65 00:04:43,950 --> 00:04:48,413 เขาทำมาแล้วหลายอย่าง ทำเพลงป็อป ทำเพลงรายการวิทยุ หนัง รายการทีวี 66 00:04:49,038 --> 00:04:50,623 ฉันคิดว่าข้อแตกต่างของบรอดเวย์ก็คือ 67 00:04:50,707 --> 00:04:52,166 คุณต้องทำงานกับคนมากหน้าหลายตา 68 00:04:52,250 --> 00:04:55,586 ไม่ใช่แค่เข้าห้องอัด แล้วสร้างผลงานขึ้นมาเอง 69 00:04:56,337 --> 00:04:58,047 มีทั้งผู้กำกับ ทั้งนักออกแบบท่าเต้น 70 00:04:58,131 --> 00:05:03,136 มีคนเข้ามาร่วมวงเยอะแยะมากมาย และนั่นคงเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา 71 00:05:04,095 --> 00:05:07,432 สิ่งที่ทุกคนคิดกับเรื่องที่เดวิด จะเข้ามาในวงการบรอดเวย์ก็คือ 72 00:05:07,515 --> 00:05:10,810 ทำไมมาช้านักล่ะ เดวิด 73 00:05:11,269 --> 00:05:13,146 มาได้แล้ว มาสิ 74 00:05:14,063 --> 00:05:14,939 ถึงเวลาแล้ว 75 00:05:25,575 --> 00:05:28,286 เส้นทางที่ผมเดินผ่านมาแล้ว ยาวไกลกว่าหนทางที่รอผมอยู่ข้างหน้า 76 00:05:33,291 --> 00:05:35,084 (ซอยแอสคอต) 77 00:05:35,168 --> 00:05:38,087 ผมมาโตที่บ้านเลขที่ 3915 ซอยแอสคอต 78 00:05:44,927 --> 00:05:46,763 ชานเมืองวิกตอเรีย บริติชโคลัมเบีย 79 00:05:46,846 --> 00:05:48,765 กลิ่นหญ้าที่เพิ่งตัดใหม่ๆ 80 00:05:48,848 --> 00:05:52,393 ทุกคนวิ่งเล่นริมถนน ทุกคนออกมาเล่นข้างนอกในหน้าร้อน 81 00:05:53,186 --> 00:05:54,812 ที่นั่นมีแต่ความทรงจำดีๆ 82 00:06:05,448 --> 00:06:07,158 ผมมีพี่น้องผู้หญิงหกคน 83 00:06:07,241 --> 00:06:10,578 โชคร้ายที่คนหนึ่งจากไปแล้ว ตอนนี้ผมเลยเหลือพี่น้องอยู่ห้าคน 84 00:06:11,621 --> 00:06:12,997 เราทุกคนสนิทกันมาก 85 00:06:13,081 --> 00:06:15,124 เราเคารพและชื่นชมกันและกัน 86 00:06:15,792 --> 00:06:18,002 เขารักพี่น้อง เราก็รักเขา 87 00:06:20,546 --> 00:06:24,425 พ่อผมเป็นพนักงานบริษัท แม่ผมเป็นแม่บ้าน 88 00:06:25,802 --> 00:06:27,595 เราไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้ยากจน 89 00:06:28,971 --> 00:06:32,266 ผมมีวัยเด็กที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ 90 00:06:40,191 --> 00:06:43,361 เช้าๆ แม่ก็จะทำขนมปังปิ้ง ให้พวกพี่ๆ น้องๆ 91 00:06:43,444 --> 00:06:45,404 ก่อนที่พวกเธอจะไปโรงเรียน 92 00:06:45,488 --> 00:06:47,740 แล้วแม่ก็จะทอดเบคอนกับไข่ให้ผม 93 00:06:47,824 --> 00:06:50,952 ถ้าคุณเป็นพี่น้องของผม คุณจะไม่โกรธได้ยังไง 94 00:06:54,831 --> 00:06:58,000 ถ้าคุณสัมภาษณ์ใครก็ตาม ที่รู้จักเดวิด ก็จะรู้จักแม่ของเรา 95 00:06:58,459 --> 00:07:02,296 เพราะเขาพาแม่ไปทุกที่ และเขาชอบให้มีแม่อยู่ด้วย 96 00:07:03,339 --> 00:07:05,758 ผมจำได้ดี ตอนที่แม่ผมปัดฝุ่นเปียโน 97 00:07:06,759 --> 00:07:08,845 ผมน่าจะสามขวบ หรือสี่ห้าขวบ หรือเท่าไรนี่แหละ 98 00:07:08,928 --> 00:07:10,555 ตอนนั้นผมตะโกนว่า "นั่นตัวโน้ตมี" 99 00:07:10,638 --> 00:07:13,349 แม่ถามว่า "ลูกพูดเรื่องอะไร" แล้วผมก็ตอบว่า "แม่กดโน้ตมี" 100 00:07:13,975 --> 00:07:16,686 แล้วฉันก็คิดว่า "เด็กคนนี้มันไม่ปกติ" 101 00:07:16,769 --> 00:07:19,689 ฉันเลยโทรหาพ่อเขาที่ทำงานอยู่ และเล่าให้พ่อเขาฟัง 102 00:07:19,772 --> 00:07:23,526 แล้วพ่อเขาก็ตื่นเต้นมาก จนรีบบึ่งกลับมาบ้าน 103 00:07:24,902 --> 00:07:28,823 แล้วพ่อของเขาก็อึ้งไปเลย 104 00:07:29,365 --> 00:07:30,908 เขาตื่นเต้นมาก 105 00:07:32,243 --> 00:07:34,996 พ่อกลับมาบ้านแล้วบอกว่า "เด็กคนนี้มีหูที่แยกแยะโน้ตได้" 106 00:07:39,876 --> 00:07:43,588 มันคงจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า เราควรจะเล่นดนตรี 107 00:07:47,675 --> 00:07:50,052 ในปี 63 ผมน่าจะอายุ 13 หรือ 14 108 00:07:50,136 --> 00:07:53,931 มีโครงการให้เราได้ไปเรียนดนตรี ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน 109 00:07:54,015 --> 00:07:55,892 ผมเข้าโครงการสองปีติดเลย 110 00:07:55,975 --> 00:07:57,852 และผมก็ได้เล่นเครื่องดนตรีทุกชิ้น 111 00:07:57,935 --> 00:08:02,273 แคลริเน็ต ฟลูต แบริโทน ทรัมเป็ต ทรอมโบน บาสซูน 112 00:08:03,483 --> 00:08:06,986 ซึ่งต่อมามันเป็นประโยชน์กับผม ในการแต่งเพลงให้วงออร์เคสตรา 113 00:08:07,069 --> 00:08:10,323 เพราะผมเข้าใจการทำงาน ของเครื่องดนตรีทุกชิ้น 114 00:08:11,407 --> 00:08:13,701 แต่จากนั้นเรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น 115 00:08:13,784 --> 00:08:16,996 ผมฟังวิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องเล็ก ของผมอยู่ แล้วก็ได้ยินเพลงนี้ 116 00:08:22,168 --> 00:08:23,211 เดอะบีเทิลส์ 117 00:08:23,294 --> 00:08:28,049 ตอนนั้นผมอายุ 13 แล้วผมก็ไม่อยากเชื่อ ในเสียงที่ผมได้ยินอยู่เลย 118 00:08:28,132 --> 00:08:29,926 มันเปลี่ยนชีวิตผมไปเลย 119 00:08:30,009 --> 00:08:34,555 แล้วผมก็พูดขึ้นมาว่า "นี่แหละที่ฉันอยากทำ นี่แหละ" 120 00:08:35,556 --> 00:08:39,018 สมัยวัยรุ่น เดวิดเคยเล่น ในวงของรอนนี่ ฮอว์กินส์ 121 00:08:40,436 --> 00:08:44,357 เขาไล่เดวิดออกเพราะเขารู้ว่า เดวิดรักชีวิตร็อกแอนด์โรล 122 00:08:45,775 --> 00:08:50,530 และเขาบอกว่า "เดวิด นายเป็นอัจฉริยะ ส่วนฉันมันเป็นสายร็อกสามคอร์ด 123 00:08:51,030 --> 00:08:53,908 ฉันต้องไล่นายออกเพื่อให้นาย ได้ค้นพบความเป็นอัจฉริยะของตัวเอง" 124 00:08:55,451 --> 00:09:00,456 พ่อกับแม่ผม ตอนผมอายุ 16 พวกท่านใช้เงินเก็บทั้งชีวิต 125 00:09:02,667 --> 00:09:04,794 เงินเก็บทั้งชีวิต 126 00:09:05,503 --> 00:09:07,046 จำนวน 1,700 ดอลลาร์ 127 00:09:07,630 --> 00:09:10,925 มาซื้อเปียโน และเครื่องขยายเสียงให้ผม 128 00:09:11,008 --> 00:09:14,178 แต่การผลาญเงินเก็บทั้งหมดเพื่อลูก มันเป็นเรื่องที่บ้ามากๆ 129 00:09:22,103 --> 00:09:24,564 ผมคิดจริงๆ ว่าผมจะเอาดีได้ ในวงการดนตรี 130 00:09:26,732 --> 00:09:29,819 เรารวมวงกันแล้วย้ายไปอยู่อังกฤษ 131 00:09:32,822 --> 00:09:36,951 เราหลงคิดฝันไปซะยิ่งใหญ่ว่าเรา จะเข้ากับที่นี่ได้และกลายเป็นดาวดัง 132 00:09:44,458 --> 00:09:46,544 ตอนนั้นวงดังๆ ของโลกก็มีพิงก์ฟลอยด์ 133 00:09:46,627 --> 00:09:49,380 เดอะดอร์ส แล้วก็ดีปเพอร์เพิล 134 00:09:50,673 --> 00:09:54,760 แต่เราเป็นวงแต่งตัวเนี้ยบๆ เล่นดนตรีเต้นรำเห่ยๆ 135 00:09:55,553 --> 00:09:58,347 เราไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังทำอะไร 136 00:09:59,390 --> 00:10:01,350 สุดท้ายตัวแทนก็หางานมาให้เราได้ 137 00:10:01,434 --> 00:10:03,102 เป็นวงแบ็กอัปให้ชัค แบร์รี 138 00:10:13,487 --> 00:10:15,114 ผมฝึกมาในสายคลาสสิก 139 00:10:15,197 --> 00:10:17,241 และตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้จัก ร็อกแอนด์โรลมากนัก 140 00:10:17,825 --> 00:10:20,661 ผมก็เลยเล่นเพลงของเขาได้ไม่ดีเลย 141 00:10:23,623 --> 00:10:26,626 ชัคเป็นคนเฮงซวย ไม่รู้จะพูดยังไงให้ดีกว่านี้แล้ว 142 00:10:26,709 --> 00:10:28,252 เขาจะสะพายกีตาร์เดินออกมา 143 00:10:28,336 --> 00:10:29,879 แล้วก็สาดคอร์ดดังๆ ทั้งที่สายเพี้ยน 144 00:10:29,962 --> 00:10:32,465 เขาไม่สนใจเลยว่าคนข้างหลังเขา กำลังทำอะไรกันอยู่ 145 00:10:33,424 --> 00:10:35,343 ผมเองก็เล่นเพลงของเขาไม่ถูก 146 00:10:35,426 --> 00:10:38,429 ก็เลยยิ่งเข้ากันไม่ได้ สุดท้ายก็จบด้วยหายนะ 147 00:10:39,472 --> 00:10:41,098 สมาชิกในวงส่วนใหญ่ลาออก 148 00:10:41,557 --> 00:10:43,893 พวกเขาตื่นจากฝันและอยากจะกลับบ้าน 149 00:10:43,976 --> 00:10:47,605 ส่วนผมพูดว่า "ฉันไม่กลับหรอก ฉันจะอยู่ต่อ ฉันมาเพื่อสร้างชื่อ" 150 00:10:51,108 --> 00:10:52,818 ผมอยู่ที่นั่นต่อราวๆ หนึ่งปี 151 00:10:53,986 --> 00:10:56,989 และแน่นอนว่าช่วงเวลานั้น 152 00:10:57,073 --> 00:10:59,116 คือช่วงเวลาที่เหงาที่สุดในชีวิตผม 153 00:11:00,242 --> 00:11:02,161 ผมไปคัดตัวทุกงาน 154 00:11:02,495 --> 00:11:06,165 ลอนดอนโหดร้ายกับผมมาก มันเป็นชีวิตสุดโศกของแท้ 155 00:11:06,248 --> 00:11:07,541 หลังจากทำแบบนั้นอยู่หนึ่งปี 156 00:11:07,625 --> 00:11:12,213 ผมก็ยอมแพ้ พ่อแม่ก็ส่งเงิน 60 ดอลลาร์ มาให้เป็นค่าตั๋วเครื่องบินกลับ 157 00:11:18,636 --> 00:11:21,931 ตอนอายุ 13 ผมหาเงินได้มากกว่าพ่อ 158 00:11:22,014 --> 00:11:23,599 และผมก็อยู่บนเส้นทางสายดนตรี 159 00:11:23,682 --> 00:11:26,727 ผมรู้ว่าโลกภายนอกกว้างใหญ่ และผมเป็นส่วนหนึ่งของมันได้ 160 00:11:27,561 --> 00:11:30,731 คืนหนึ่ง ผมกลับถึงบ้านตอนตีห้าครึ่ง 161 00:11:31,982 --> 00:11:32,983 พ่อผมยังไม่นอน 162 00:11:33,526 --> 00:11:37,279 พ่อบอกให้ผมนั่ง แล้วก็พูดว่า "ไอ้วงการดนตรีนี่น่ะ… 163 00:11:38,239 --> 00:11:39,490 แกชอบมันจริงๆ เหรอ" 164 00:11:40,366 --> 00:11:41,784 ผมก็ตอบว่า "ครับ ชอบครับ" 165 00:11:41,867 --> 00:11:45,329 พ่อถาม "แกว่าแกมีโอกาส จะเกิดได้ในวงการดนตรีไหม" 166 00:11:45,413 --> 00:11:47,248 ผมบอก "ครับ ผมมี" 167 00:11:48,499 --> 00:11:52,128 จากนั้นพ่อก็พูดว่า "งั้นก็โอเค ราตรีสวัสดิ์" 168 00:11:52,920 --> 00:11:54,672 และนั่นคือครั้งเดียว 169 00:11:55,464 --> 00:11:59,718 ที่ผมได้คุยกับพ่อแบบตัวต่อตัว 170 00:11:59,802 --> 00:12:01,804 แล้วอีกสองเดือนต่อมา พ่อผมก็เสียชีวิต 171 00:12:03,514 --> 00:12:06,142 ผมตื่นมาเตรียมตัวไปโรงเรียน แล้วรถก็ไม่อยู่แล้ว 172 00:12:06,517 --> 00:12:08,769 แม่ผมบอกว่าพ่อหัวใจวาย 173 00:12:09,895 --> 00:12:11,480 พ่อนอนโรงพยาบาลอยู่ 11 วัน 174 00:12:11,564 --> 00:12:13,441 ก่อนที่พ่อจะหัวใจวายอีกรอบ แล้วก็เสียชีวิต 175 00:12:13,524 --> 00:12:15,401 ผมได้ไปเยี่ยมพ่อแค่ครั้งเดียว 176 00:12:15,985 --> 00:12:18,737 ผมควรไปเยี่ยมเขาทุกวัน พลาดมหันต์เลย 177 00:12:18,821 --> 00:12:20,948 ลองคิดดูสิว่าถ้าผมทำให้พ่อเปิดใจได้ 178 00:12:21,031 --> 00:12:25,119 และได้คุยเปิดอกกับพ่อสักสิบวัน มันคงจะวิเศษมากเลย 179 00:12:27,163 --> 00:12:29,874 การตายของพ่อ มีผลกระทบกับเดวิดมากๆ เลย 180 00:12:29,957 --> 00:12:33,294 เขาเพิ่งจะอายุ 18 ส่วนพ่อก็เพิ่งจะ 54 181 00:12:33,669 --> 00:12:35,212 และในเวลาเดียวกัน ใจเขาก็กำลังขัดแย้ง 182 00:12:35,296 --> 00:12:38,924 เพราะเขาเพิ่งจะเริ่มต้น อาชีพนักดนตรี 183 00:12:40,009 --> 00:12:41,260 ตอนที่พ่อผมเสีย 184 00:12:41,343 --> 00:12:45,014 บ้านเรามีเด็กผู้หญิงสามคน แล้วก็ผมอีกคนหนึ่ง 185 00:12:46,056 --> 00:12:47,766 บ้านเราวุ่นไปหมด 186 00:12:48,184 --> 00:12:51,687 แม่ผมที่อายุ 47 ปี ต้องเลี้ยงเด็กผู้หญิงสามคน 187 00:12:52,062 --> 00:12:53,689 แม่ไม่รู้จะรับมือเรื่องนั้นยังไง 188 00:12:54,648 --> 00:12:58,569 ผมควรก้าวเข้าไปจัดการเรื่องนั้น 189 00:12:58,819 --> 00:13:01,489 ทำให้บ้านมีระเบียบ แต่ผมก็ไม่ทำ 190 00:13:02,156 --> 00:13:06,452 ที่ผมทำคือเลือกทางที่เห็นแก่ตัว หนีไปและไม่ยอมจัดการเรื่องวุ่นวาย 191 00:13:08,579 --> 00:13:12,500 ผมเลือกหน้าที่การงาน แทนที่จะช่วยแม่กับน้องสาวสามคน 192 00:13:14,168 --> 00:13:15,878 พอผมอายุ 25 193 00:13:15,961 --> 00:13:17,880 ผมหาเงินได้มากพอ ที่จะส่งกลับมาให้แม่ 194 00:13:17,963 --> 00:13:22,593 ซื้อรถให้ จ่ายค่าบ้านให้ อะไรทำนองนั้น 195 00:13:31,685 --> 00:13:35,481 ผมกับว่าที่ภรรยาผม บีเจ ย้ายมาอยู่ลอสแอนเจลิส 196 00:13:37,316 --> 00:13:39,026 ปีนั้นปี 1972 197 00:13:39,401 --> 00:13:41,111 นั่นคือปีที่เราทำวงสกายลาร์กด้วยกัน 198 00:13:49,078 --> 00:13:50,454 ผมเคยอยู่ที่ลอนดอน 199 00:13:50,538 --> 00:13:52,998 ผมเคยอยู่ที่โทรอนโต ผมเคยอยู่ที่แวนคูเวอร์ 200 00:13:53,082 --> 00:13:55,251 ผมเคยอยู่ที่เอดมันตัน ผมเคยอยู่ที่วิกตอเรีย 201 00:13:55,334 --> 00:13:57,044 ไม่มีที่ไหนที่รู้สึกใช่เลย 202 00:13:57,127 --> 00:14:00,798 แต่ทันทีที่ผมมาถึงลอสแอนเจลิส ทุกอย่างก็ลงล็อก 203 00:14:06,428 --> 00:14:08,806 ผมอยากเป็นนักดนตรีในห้องอัดมาก 204 00:14:11,517 --> 00:14:13,352 ผมรู้ว่าที่นี่คือที่ของผม 205 00:14:16,438 --> 00:14:18,774 เพื่อนของเรา แบร์รี เดอ วอร์ซอน เป็นคนค้นพบเรา 206 00:14:18,857 --> 00:14:21,986 เขาตั้งใจพาเรามาที่นี่ เพื่อเซ็นสัญญาบันทึกเสียง 207 00:14:22,069 --> 00:14:24,947 และอัดเพลงหนึ่งอัลบั้ม แล้วเราก็ได้ทำตามนั้น 208 00:14:26,824 --> 00:14:29,326 เพลงหนึ่งในอัลบั้มนั้น ก็คือเพลง "ไวลด์ฟลาวเวอร์" 209 00:14:32,746 --> 00:14:35,457 เพลงนั้นเริ่มถูกเปิดตามวิทยุ 210 00:14:35,541 --> 00:14:37,251 จากนั้นมันก็เริ่มดังไปทั่วประเทศ 211 00:14:37,334 --> 00:14:38,460 แล้วก็กลายเป็นเพลงฮิตสุดๆ 212 00:14:39,545 --> 00:14:40,754 นั่นคือรสชาติความสำเร็จครั้งแรก 213 00:14:41,547 --> 00:14:44,341 มันทำให้น้ำลายผมสอ ผมอยากลิ้มรสมันอีก 214 00:14:52,349 --> 00:14:54,393 ผมเริ่มได้งานเป็นนักเปียโนงานซ้อม 215 00:14:55,269 --> 00:14:58,063 ในที่สุดผมก็ได้เล่นให้ "เดอะร็อกกี้ฮอร์เรอร์โชว์" 216 00:14:59,982 --> 00:15:02,985 (เดอะร็อกกี้ฮอร์เรอร์พิกเจอร์โชว์) 217 00:15:03,485 --> 00:15:05,529 ทุกคืนพอเรามองออกไปที่ผู้ชม 218 00:15:05,613 --> 00:15:07,656 เราจะเห็นพวกดาราหนัง 219 00:15:09,992 --> 00:15:13,203 พวกเขาต่างมาดูทิม เคอร์รี ใน "เดอะร็อกกี้ฮอร์เรอร์โชว์" 220 00:15:13,287 --> 00:15:15,289 ผมเล่นอยู่ในวง ต่อมาก็ได้เป็นผู้กำกับดนตรี 221 00:15:17,833 --> 00:15:21,795 ผมได้พบนักดนตรีคนอื่นๆ ที่ล้วนแต่ทุกข์ใจ 222 00:15:21,879 --> 00:15:26,342 ที่เป็นได้แค่มือปืนห้องอัด ผ่านทางนักดนตรีในวง 223 00:15:26,425 --> 00:15:28,761 (เดอะร็อกกี้ฮอร์เรอร์โชว์) 224 00:15:32,514 --> 00:15:34,600 แล้วผมก็ได้พบกับมือกลอง ชื่อจิม เคลต์เนอร์ 225 00:15:35,142 --> 00:15:38,520 เขาเป็นมือกลอง ที่สนิทกับเดอะบีเทิลส์ 226 00:15:39,146 --> 00:15:41,106 ก็จะมีนักดนตรีหลายคนมาแจม 227 00:15:41,774 --> 00:15:45,653 เปียโนที่นั่นหันหน้าติดกำแพง ผมเลยไม่เห็นนักดนตรีคนอื่นๆ 228 00:15:46,445 --> 00:15:48,113 ผมก็เลยต้องเล่นไปเรื่อย 229 00:15:48,197 --> 00:15:50,282 เล่นไปโยกไปในคืนวันอาทิตย์ตอนตีสาม 230 00:15:50,366 --> 00:15:52,952 แล้วจอห์น เลนนอนก็จะโผล่มา โจ ค็อกเกอร์ก็ด้วย 231 00:15:53,035 --> 00:15:54,620 จากนั้นเสียงกลองก็จะเงียบไป 232 00:15:54,703 --> 00:15:56,789 แล้วสุดท้ายก็เหลือผมเดี่ยวเปียโน 233 00:15:56,872 --> 00:15:58,499 ผมก็จะเล่นต่อไปเรื่อยๆ 234 00:15:58,582 --> 00:16:01,794 แล้วจากนั้นเบสก็จะกลับมา กลองก็จะกลับมา 235 00:16:01,877 --> 00:16:03,420 ผมก็นึกว่าเขาคงปล่อยให้ผมเล่นโชว์ 236 00:16:03,504 --> 00:16:05,297 แต่อันที่จริงพวกเขาไปเล่นยากัน 237 00:16:05,381 --> 00:16:07,091 คนอื่นๆ ในวงมักพูดว่า 238 00:16:07,174 --> 00:16:10,511 "ไอ้เด็กนี่เล่นดนตรีทั้งคืน โดยไม่เล่นยาได้ยังไงวะ" 239 00:16:10,594 --> 00:16:13,138 ผมไม่รู้หรอก ผมก็แค่อยากเล่นดนตรี 240 00:16:14,765 --> 00:16:19,436 ฉันเจอเดวิดครั้งแรก ตอนอัดเพลงในยุค 70 241 00:16:20,145 --> 00:16:23,983 ผมแทบไม่ได้ทำงานห้องอัดเลย ผมเป็นนักเปียโนหนึ่งในสองหรือสามคน 242 00:16:24,900 --> 00:16:26,610 ผมจำตอนเดินเข้าไปในห้องอัดได้ 243 00:16:28,028 --> 00:16:31,115 เธอมีสร้อยเพชรยาวเป็นหลาพันรอบแขน 244 00:16:31,865 --> 00:16:35,494 เธอมีมือที่สวยที่สุด เธอเป็นผู้หญิงที่สวยและสง่างามมาก 245 00:16:37,246 --> 00:16:40,082 ผมจำได้ว่าเหมือนเธอ ล่องลอยอยู่ในห้องอัด 246 00:16:42,251 --> 00:16:44,962 เราเล่นตามเธอไป แล้วพอถึงกลางเพลง เธอก็บอกว่า "หยุด 247 00:16:45,045 --> 00:16:47,506 มันไม่ถูกต้อง แบบนี้ฉันร้องไม่ได้ หยุด" 248 00:16:47,589 --> 00:16:51,093 ฉันกำลังร้องเพลงอยู่ แต่ท่อนเปิดมันไม่ถูกต้อง 249 00:16:51,802 --> 00:16:53,178 มีอะไรผิดพลาดสักอย่าง 250 00:16:53,262 --> 00:16:55,514 เธอบอกว่า "พักเที่ยงกัน" 251 00:16:55,597 --> 00:16:57,391 ผมน่ะเป็นพวกชอบฉวยโอกาส 252 00:16:57,474 --> 00:17:00,936 ผมนั่งอยู่ที่เปียโนไฟฟ้าตรงมุมห้อง อยู่ตรงมุมห้องโน่นเลย 253 00:17:01,020 --> 00:17:03,355 ภาวนาว่าไมโครโฟนจะเปิดอยู่ 254 00:17:03,439 --> 00:17:05,524 เพราะเธอกินมื้อเที่ยงอยู่ ในห้องบันทึกเสียง 255 00:17:05,649 --> 00:17:08,819 แล้วฉันก็ได้ยินคนเล่นเปียโน เป็นทำนองสั้นๆ 256 00:17:08,902 --> 00:17:11,822 จากนั้นมันก็เหมือนในหนังเลย 257 00:17:12,406 --> 00:17:14,742 เธอเดินผ่านประตูเข้ามา 258 00:17:14,825 --> 00:17:18,245 แล้วเธอก็พูดว่า "มาร์ตี้" เธอเรียกผู้จัดการ "ฟังนี่สิ" 259 00:17:18,328 --> 00:17:20,289 ฉันพูดว่า "เมื่อกี้คุณเล่นเปียโนเหรอ 260 00:17:20,372 --> 00:17:21,999 ฉันชอบนะ ฉันชอบแบบนั้น" 261 00:17:22,082 --> 00:17:23,333 มันได้ผล 262 00:17:23,667 --> 00:17:25,753 "เราเอาตามที่หมอนี่ เล่นเลยก็แล้วกัน" 263 00:17:25,836 --> 00:17:27,337 "เราจะทำแบบนั้น" 264 00:17:27,421 --> 00:17:29,298 คนคนนั้นก็คือเดวิด ฟอสเตอร์ 265 00:17:29,381 --> 00:17:32,634 และถ้าวันนี้คุณฟังเพลงนั้น นั่นฝีมือผมกับเธอเองแหละ 266 00:17:34,261 --> 00:17:37,723 จากนั้นสิบปีให้หลัง "บาร์บรากำลังทำอัลบั้มบรอดเวย์ 267 00:17:38,348 --> 00:17:41,935 มันมีเพลงที่ชื่อว่า "ซัมแวร์" เธออยากให้คุณโปรดิวซ์ให้" 268 00:17:42,019 --> 00:17:43,228 ผมบอกเลย "ผมเอาด้วย" 269 00:17:44,229 --> 00:17:45,564 บาร์บราบอกผมว่า 270 00:17:45,647 --> 00:17:51,028 "เดวิด ฉันอยากให้เพลงนี้ ไม่เหมือนกับเสียงใดๆ เลยบนโลก 271 00:17:52,029 --> 00:17:57,117 แต่ฉันไม่อยากให้คุณใช้วงออร์เคสตรา คุณต้องใช้แค่ซินธีไซเซอร์" 272 00:18:06,502 --> 00:18:09,213 เดวิดกับฉันผ่านอะไรกันมามาก 273 00:18:10,547 --> 00:18:12,424 คลื่นความถี่ของเราตรงกัน 274 00:18:12,508 --> 00:18:14,968 เราเห็นพ้องต้องกัน มากกว่าที่เห็นต่าง 275 00:18:17,471 --> 00:18:19,765 เพลงนี้ใช้เวลาหนึ่งเดือน 276 00:18:21,100 --> 00:18:22,684 เรามิกซ์เสียงเสร็จเรียบร้อย 277 00:18:24,311 --> 00:18:26,605 ก็ไม่อยากโม้หรอก ผมทำได้เยี่ยมเลย 278 00:18:28,315 --> 00:18:30,192 ผมเลยโทรไปบอกเธอว่า "เสร็จเรียบร้อย" 279 00:18:30,275 --> 00:18:31,944 เธอบอกว่า "ฉันอยากฟังคืนนี้เลย" 280 00:18:32,027 --> 00:18:33,904 ผมบอก "โอเค งั้นผมจะขับไปเปิดให้คุณฟัง" 281 00:18:34,571 --> 00:18:37,574 ผมขับไปบ้านเธอที่มาลิบู เธอกำลังมีปาร์ตี้ 282 00:18:38,367 --> 00:18:39,576 ผมเคาะประตู 283 00:18:40,744 --> 00:18:42,079 แล้วประตูก็เปิดออก 284 00:18:42,746 --> 00:18:45,249 เอลิซาเบธ เทย์เลอร์ กับคลินต์ อีสต์วูดเป็นคนมาเปิด 285 00:18:46,291 --> 00:18:48,752 แล้วเอลิซาเบธก็พูดกับผมว่า "สวัสดี มีอะไรให้ช่วยไหม" 286 00:18:49,461 --> 00:18:53,298 ผมบอก "คุณคือเอลิซาเบธ เทย์เลอร์" เธอตอบ "ใช่ ถูกแล้ว" 287 00:18:53,382 --> 00:18:54,800 ผมไม่รู้ว่าพูดอะไรออกไปบ้าง 288 00:18:54,883 --> 00:18:56,093 แต่นั่นมันปาร์ตี้ฮอลลีวูด 289 00:18:56,218 --> 00:18:57,594 มันแบบว่า ไม่ว่าจะหันไปทางไหน 290 00:18:57,678 --> 00:18:59,471 เราจะเห็นดัสติน ฮอฟฟ์แมน กับคนนั้น กับคนนี้ 291 00:18:59,555 --> 00:19:00,889 จากนั้นบาร์บราก็เดินลงมา เธอบอกว่า 292 00:19:00,973 --> 00:19:03,392 "อ๋อ คุณเอาเพลงที่มิกซ์แล้ว มาให้ฉันฟังสินะ วิเศษเลย" 293 00:19:05,018 --> 00:19:07,604 เธอเอนตัวลงแบบนี้ทั้งชุดราตรี… 294 00:19:28,375 --> 00:19:32,421 แล้วเธอก็บอกว่า "ฉันชอบ ชอบมากเลย" 295 00:19:33,463 --> 00:19:34,840 เธอชอบมาก 296 00:19:37,593 --> 00:19:44,433 เราใช้โน้ตชุดเดียวกันนี้ มาเป็นเวลา 700 ปี 297 00:19:45,517 --> 00:19:47,352 ด้วยเสียงประสานและจังหวะ 298 00:19:48,687 --> 00:19:52,774 คุณเลือกเอาเลย นั่นแหละจะสื่อถึงตัวตนของคุณ 299 00:19:54,109 --> 00:19:57,279 คุณต้องเป็นทั้งพี่เลี้ยง ต้องเป็นทั้งจิตแพทย์ 300 00:19:57,362 --> 00:20:00,824 คุณต้องเป็นแม่ เป็นคนดูแลเด็ก เป็นทุกๆ อย่าง 301 00:20:00,908 --> 00:20:02,659 คุณต้องมีห้องอัด ต้องมีเบื้องหลัง 302 00:20:02,743 --> 00:20:04,453 คุณต้องหาเพลงเหล่านั้นให้เจอ 303 00:20:04,536 --> 00:20:07,664 นั่นแหละคือพลังอำนาจ คือบทเพลง 304 00:20:08,290 --> 00:20:11,001 ในเพลงอื่นๆ ของฉันที่เขาไม่ได้แต่ง 305 00:20:11,084 --> 00:20:13,212 ชุดโน้ตติดหูที่ทำให้เพลงฮิต ก็เป็นฝีมือเขา 306 00:20:13,295 --> 00:20:17,049 ในเพลง "แดตส์วอตเฟรนส์อาร์ฟอร์" เขามาเล่นคีย์บอร์ดที่ห้องอัด 307 00:20:17,132 --> 00:20:19,509 แล้วเขาก็คิดท่อน… 308 00:20:37,402 --> 00:20:38,904 มันเพี้ยนต่ำนิดหนึ่ง 309 00:20:40,113 --> 00:20:42,658 คุณลากเสียงลงตรงคำว่า "สตาร์" ถ้าคุณรักษาระดับเสียงได้ก็เป็นอันจบ 310 00:20:42,741 --> 00:20:47,663 เดวิดมีวิธีโน้มน้าวศิลปิน ให้ทำอย่างที่เขาต้องการ 311 00:20:48,330 --> 00:20:49,790 ฟังดูดีแล้ว 312 00:20:49,873 --> 00:20:51,250 และมันก็ชาญฉลาดมาก 313 00:20:51,333 --> 00:20:55,337 เขาจะใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง 314 00:20:55,420 --> 00:20:58,048 เขาจะชมนักร้อง แล้วก็บอกว่า "เอาใหม่อีกรอบ" 315 00:21:00,509 --> 00:21:04,096 วิธีที่เดวิดใช้ผลักดันพวกศิลปิน และกดดันพวกเขาแทบบ้าน่ะนะ 316 00:21:04,179 --> 00:21:06,223 "คุณทำได้ในสามเทก 317 00:21:06,306 --> 00:21:08,475 รู้ไหมว่าซินาตรา อัดเพลง "มายเวย์" กี่เทก 318 00:21:09,893 --> 00:21:10,978 เทกเดียว" 319 00:21:14,064 --> 00:21:16,233 เดวิดเป็นพวกคลั่งความสมบูรณ์แบบ 320 00:21:16,942 --> 00:21:18,068 ฉันก็ด้วย 321 00:21:18,151 --> 00:21:21,363 ถ้าเราไม่ยินดี ที่จะมีความสัมพันธ์กัน 322 00:21:21,446 --> 00:21:25,367 และยอมรับคำว่า "เอาใหม่ ขออีกรอบ ขออีกที" 323 00:21:25,450 --> 00:21:27,494 แล้วก็ "คุณมีของ คุณทำได้" 324 00:21:27,577 --> 00:21:29,121 เราจะพูดกับตัวเองว่า 325 00:21:29,204 --> 00:21:32,666 "ฉันให้คุณไปตั้ง 29 เทกแล้วนะ ยังจะเอาอีกจริงๆ เหรอ" 326 00:21:32,749 --> 00:21:33,875 แต่รู้อะไรไหม 327 00:21:34,376 --> 00:21:36,920 เทกที่ 30 ที่เราร้อง 328 00:21:37,004 --> 00:21:38,213 เขาจะพูดว่า "โป๊ะเชะ" 329 00:21:39,423 --> 00:21:41,967 ผมโปรดิวซ์อัลบั้ม "ดรีมเกิร์ลส" ฉบับดั้งเดิม ในปี 1981 330 00:21:42,050 --> 00:21:43,844 คิดว่าใช่นะ 331 00:21:43,927 --> 00:21:45,220 เรามีเจนนิเฟอร์ ฮอลลิเดย์ 332 00:21:45,929 --> 00:21:47,472 เธอมาที่สตูดิโอ 333 00:21:47,556 --> 00:21:50,392 เธอเดินเข้ามาในชุดเสื้อคลุมขนสัตว์ สองแขนอุ้มหมาไว้ข้างละตัว 334 00:21:51,810 --> 00:21:53,979 แล้วเธอก็เดินไปที่ไมค์ 335 00:21:54,062 --> 00:21:56,773 และผมก็บอกว่า "โอเค เจนนิเฟอร์ ลองดูว่าจะออกมาเป็นยังไง" 336 00:22:05,574 --> 00:22:09,119 เธอร้องสุดขั้วปอดเหมือนกับในโชว์ 337 00:22:10,078 --> 00:22:11,747 แต่เราวุ่นกันอยู่ในห้องบันทึกเสียง 338 00:22:11,830 --> 00:22:12,706 เรายังไม่พร้อม 339 00:22:12,789 --> 00:22:15,125 เราแค่อยากซ้อมทั้งเพลง เพื่อจะได้ปรับระดับเสียง 340 00:22:31,224 --> 00:22:34,186 พอจบเพลง ผมบอกว่า "เยี่ยม เจนนิเฟอร์ มันยอดมาก 341 00:22:34,269 --> 00:22:36,396 เราพร้อมแล้ว เราได้ระดับเสียงแล้ว อัดจริงกันเลย" 342 00:22:36,980 --> 00:22:40,358 เธอสวมเสื้อคลุม อุ้มหมาทั้งสองตัว แล้วเธอก็พูดว่า 343 00:22:41,234 --> 00:22:44,154 "ฉันจะร้องแค่ครั้งเดียว" แล้วก็เดินออกไป 344 00:22:54,414 --> 00:22:58,585 ผมคิดว่าช่วงดังระเบิดลำดับต่อไปของผม คือกับวงเอิร์ธวินด์แอนด์ไฟร์ 345 00:23:01,755 --> 00:23:03,965 ผมเป็นนักดนตรีห้องอัดมาสามปี 346 00:23:05,300 --> 00:23:07,552 ผมอัดเพลงให้เดอะฟิฟท์ไดเมนชั่น 347 00:23:07,636 --> 00:23:09,096 และดอลลี่ พาร์ตัน 348 00:23:09,179 --> 00:23:11,973 ในฐานะนักเปียโน ผมจับจ้องโปรดิวเซอร์ 349 00:23:12,057 --> 00:23:14,017 ที่อยู่อีกฟากของกระจกไม่วางตา 350 00:23:14,101 --> 00:23:15,435 เพราะผมอยากทำงานนั้น 351 00:23:15,519 --> 00:23:17,270 ผมอยากทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ 352 00:23:17,938 --> 00:23:19,898 ผมได้เข้าพบแบร์รี กอร์ดี้ 353 00:23:19,981 --> 00:23:21,691 ผู้ก่อตั้งโมทาวน์เรคอดส์ 354 00:23:21,775 --> 00:23:23,443 ผมประสาทกินเลย 355 00:23:23,527 --> 00:23:27,114 แล้วผมก็เดินจากโซฟา ไปที่เปียโนในห้องทำงานของเขา 356 00:23:27,197 --> 00:23:29,866 และในสิบก้าวนั้น ผมก็ปั้นมันขึ้นมา 357 00:23:29,950 --> 00:23:33,078 พอนั่งลงที่เปียโน นี่คือสิ่งที่ออกมา 358 00:23:40,585 --> 00:23:43,547 ตอนนั้นล่ะที่ผมพบเอิร์ธวินด์แอนด์ไฟร์ และผมเล่นมันให้มอริซ ไวท์ฟัง 359 00:23:43,630 --> 00:23:45,590 แล้วเขาก็บอกว่า "ผมอยากอัดเพลงนี้" 360 00:23:45,674 --> 00:23:47,843 ผมถาม "เมื่อไหร่" เขาบอก "คืนนี้" 361 00:23:48,552 --> 00:23:51,304 ทำเพลงอย่างบ้าคลั่ง สามอัลบั้มกับพวกเขา 362 00:23:51,388 --> 00:23:53,223 และมันก็ช่วยเสริมแรงส่งผม เข้าสู่ยุค 80 363 00:23:58,645 --> 00:24:01,523 มันจะมีอารมณ์หนึ่งในงานของเดวิด 364 00:24:01,606 --> 00:24:05,527 มันยิ่งใหญ่ มันประณีตบรรจง 365 00:24:06,403 --> 00:24:08,822 มันให้ความรู้สึก สมบูรณ์เต็มอิ่มกับเรา 366 00:24:13,493 --> 00:24:16,788 เขาได้เปลี่ยนโฉมหน้าของดนตรีไป 367 00:24:16,872 --> 00:24:18,707 นักเปียโนที่เก่งที่สุด ที่ผมเคยเล่นด้วย 368 00:24:18,790 --> 00:24:20,041 และผมเคยเล่นกับเฮอร์บี้มาแล้ว 369 00:24:21,042 --> 00:24:24,588 แรงในการกดลิ่มของเขาไม่มีใครเหมือน 370 00:24:25,463 --> 00:24:28,675 เวลามันกระหึ่ม มันกระหึ่มจริง 371 00:24:30,218 --> 00:24:33,180 ตอนที่ควินซี่ โจนส์โปรดิวซ์ เพลง "วีอาร์เดอะเวิลด์" ในปี 1985 372 00:24:33,263 --> 00:24:34,973 เพื่อช่วยบรรเทา ปัญหาขาดแคลนอาหารในแอฟริกา 373 00:24:35,724 --> 00:24:37,559 เขาโทรหาผมและบอกว่า "นี่ เดวิด 374 00:24:37,642 --> 00:24:41,062 นายน่าจะทำแบบเดียวกันที่แคนาดา โดยใช้ดารานักร้องชาวแคนาดานะ" 375 00:24:42,898 --> 00:24:44,608 ผมเลยโทรหาไบรอัน อดัมส์ 376 00:24:44,691 --> 00:24:47,861 แล้วเราก็ร่วมกันแต่งเพลง "เทียส์อาร์นอตอีนัฟ" ขึ้นมา 377 00:24:55,744 --> 00:24:58,496 เรารวบรวมสุดยอดศิลปิน ชาวแคนาดามากลุ่มใหญ่ 378 00:24:58,580 --> 00:25:00,332 เพื่อการบันทึกเสียงครั้งยิ่งใหญ่ ในวันเดียว 379 00:25:01,041 --> 00:25:06,129 โจนี มิตเชลล์, นีล ยัง, กอร์ดอน ไลท์ฟุต, เลิฟเวอร์บอย แล้วก็ไบรอันเอง 380 00:25:06,213 --> 00:25:08,298 เพลงนั้นกลายเป็นเพลงฮิตอันดับหนึ่ง 381 00:25:08,381 --> 00:25:10,759 และระดมทุนเพื่อการกุศลได้หลายล้าน 382 00:25:15,347 --> 00:25:16,765 เอาเลย นีล ผมขอฟังหน่อย 383 00:25:25,649 --> 00:25:27,567 เพี้ยนต่ำตรงคำว่า "อินโนเซนซ์" แต่นอกนั้นดีแล้ว 384 00:25:27,651 --> 00:25:30,028 เราจะเอาอีกรอบ อีกรอบนะ 385 00:25:30,570 --> 00:25:31,947 เสียงผมเป็นแบบนั้นเอง 386 00:25:37,369 --> 00:25:40,956 ผมไม่คิดว่าผมจะชอบ เดวิด ฟอสเตอร์สมัยหนุ่มๆ เท่าไร 387 00:25:41,039 --> 00:25:46,753 เพราะตอนนั้นผมยโส หุนหัน และผมชอบทำเป็นรู้ไปทุกอย่าง 388 00:25:46,836 --> 00:25:49,631 โดยเฉพาะถ้านึกถึงตอนที่ผม โปรดิวซ์ให้วงชิคาโก 389 00:25:49,714 --> 00:25:51,883 เอาลูกนั้นออก พวกนายเข้าช้าไปอยู่เรื่อย 390 00:25:51,967 --> 00:25:52,968 ตรงที่ไล่โน้ตลงน่ะ 391 00:25:53,051 --> 00:25:55,345 พวกนายเล่นไม่ตรงจังหวะ ฉันก็เลยจะตัดออก 392 00:26:01,434 --> 00:26:02,519 โรเบิร์ต 393 00:26:02,978 --> 00:26:04,646 - จิมมี่ - ลี 394 00:26:07,148 --> 00:26:09,359 เดี๋ยวนะๆ ผมจำเป็นต้องถามก่อน 395 00:26:09,442 --> 00:26:13,280 นี่เราจะคุยกันเรื่องชิคาโก หรือคุยกันเรื่องเดวิด ฟอสเตอร์ 396 00:26:13,363 --> 00:26:15,115 ทำไมเราไม่ให้เขาสัมภาษณ์ไปเล่า 397 00:26:15,198 --> 00:26:16,408 ใช่ ทำงานคุณเถอะ ทำงานคุณ 398 00:26:16,491 --> 00:26:17,951 - ขอบคุณ - เราเอาด้วย 399 00:26:19,035 --> 00:26:22,080 ตอนนั้นเราอยู่ตรงจุด หัวเลี้ยวหัวต่อของอาชีพ 400 00:26:23,081 --> 00:26:25,709 เราออกมาจากโคลัมเบียเรคอดส์ 401 00:26:25,792 --> 00:26:27,043 และพวกเขาก็บอกใครๆ ว่า 402 00:26:27,127 --> 00:26:30,422 ไอ้พวกนี้มันไม่มีน้ำยาพอให้เสียเงินด้วยแล้ว 403 00:26:30,505 --> 00:26:34,009 เราเคยประสบความสำเร็จมากๆ มาก่อน 404 00:26:34,801 --> 00:26:37,804 เออร์วิง เอซอฟมาหาเรา และถามว่าเราจะว่าอะไรไหม 405 00:26:37,887 --> 00:26:40,265 ถ้าเขาจะให้เดวิด ฟอสเตอร์ โปรดิวซ์ให้เรา 406 00:26:40,598 --> 00:26:43,184 ตอนนั้นเราพร้อมจะร่วมงานกับทุกคน 407 00:26:43,268 --> 00:26:46,021 เพื่อให้เรา ได้เริ่มทำผลงานได้อีกครั้ง 408 00:26:47,188 --> 00:26:51,359 เดวิด ฟอสเตอร์เข้ามาในจังหวะที่ ชิคาโกต้องการคนแบบเขาพอดี 409 00:26:51,443 --> 00:26:52,819 วงเรากำลังโกลาหลไปหมด 410 00:26:52,902 --> 00:26:54,696 ตอนนั้นไม่มีใครพูดคุยกันเลย 411 00:26:56,364 --> 00:26:58,033 พวกเขากำลังหลงทาง 412 00:26:58,116 --> 00:27:00,118 และผมเป็นแฟนตัวยงของชิคาโก 413 00:27:00,201 --> 00:27:02,287 ตั้งแต่ก่อนจะมีโอกาส ได้ร่วมงานกับพวกเขา 414 00:27:02,370 --> 00:27:04,289 ผมจำลูกลิกทุกลูกได้ 415 00:27:05,540 --> 00:27:06,666 ครั้งแรกที่เจอเขา 416 00:27:06,750 --> 00:27:09,002 เรามีเพลงเป็นโหล ที่อยากเล่นให้เขาฟัง 417 00:27:09,085 --> 00:27:12,672 และเราคิดว่ามันจะเป็นเพลง ในอัลบั้มต่อไปที่เขาจะบันทึกเสียงให้ 418 00:27:13,673 --> 00:27:16,217 เขาเข้ามา ฟังทุกเพลง 419 00:27:16,301 --> 00:27:18,094 แล้วพูดว่า "มันงั้นๆ ไปหมดเลย" 420 00:27:18,178 --> 00:27:19,721 ผมทำได้แน่ รับประกันเลย 421 00:27:19,804 --> 00:27:21,723 ผมมีหน้าที่ที่ต้องบอกกับชิคาโกว่า 422 00:27:21,806 --> 00:27:24,768 เพลงที่พวกเขาแต่งไว้สำหรับอัลบั้ม "ชิคาโก 16" มันห่วยมาก 423 00:27:24,851 --> 00:27:26,311 และพวกเขาต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด 424 00:27:26,394 --> 00:27:28,063 แต่ถ้าจะให้จดจ่อ กับเพลงสี่เพลงในคราวเดียว 425 00:27:28,146 --> 00:27:30,231 มันก็ออกจะหนักไปหน่อย 426 00:27:30,315 --> 00:27:33,860 เขายังหนุ่มอยู่มาก แล้วเขาก็ทำให้โลกของเรากลับตาลปัตร 427 00:27:33,943 --> 00:27:36,321 ทำไมไม่ให้เวลาผมฟังสักเดี๋ยวล่ะ 428 00:27:36,404 --> 00:27:38,198 เพราะโทษที ผมไปคุยโทรศัพท์มา 429 00:27:38,281 --> 00:27:39,532 เขาน่าเกรงขาม 430 00:27:39,616 --> 00:27:42,994 เวลาเขาเข้ามาในห้องอัด เรากลัวเขากันหมด 431 00:27:43,078 --> 00:27:44,204 ผมนี่หงอไปเลย 432 00:27:45,747 --> 00:27:48,333 อยู่ดีๆ เพลงของเราก็ดีไม่พอเนี่ยนะ 433 00:27:48,416 --> 00:27:52,212 เราจะคิดว่า "ให้ตาย นี่เราหมดน้ำยาแล้วเหรอ" 434 00:27:52,295 --> 00:27:53,922 ตอนผมเข้าไปแล้วพวกเขาเล่นเพลงให้ฟัง 435 00:27:54,005 --> 00:27:56,841 ผมพูดไปว่า "นี่ไม่ใช่พวกคุณที่ผมรู้จักเลย 436 00:27:56,925 --> 00:27:59,511 นี่มันห่วยแตก พวกคุณเป็นอะไรไป" 437 00:27:59,594 --> 00:28:03,932 เขาวิจารณ์ออกลำโพงมานิดหน่อย หลังจากเราเล่นจบเทก 438 00:28:04,015 --> 00:28:07,143 "คือว่ามันไม่ใช่ ท่อนเบสมันไม่ใช่เลย" 439 00:28:08,228 --> 00:28:11,231 ผมเลยวางเบส เดินเข้าไปในห้องบันทึกเสียง 440 00:28:11,314 --> 00:28:15,610 แล้วพูดว่า "อย่าพูดแบบนั้นกับฉันอีกนะ" 441 00:28:16,486 --> 00:28:19,572 ตรงท่อนนั้นเปลี่ยนเป็นโน้ตหกนะ โอเคนะ ขอล่ะ 442 00:28:19,656 --> 00:28:23,284 โปรดิวเซอร์ทุกคน ที่เราร่วมงานด้วยจนถึงตอนนั้น 443 00:28:23,368 --> 00:28:25,078 ปล่อยให้เราเป็นชิคาโก 444 00:28:25,161 --> 00:28:28,373 เดวิดนั้นทำเพลง 445 00:28:28,456 --> 00:28:32,836 ตามภาพที่เขาคิดว่าชิคาโกควรเป็น 446 00:28:33,378 --> 00:28:36,131 เราต้องการคนที่เข้ามาคุมเรือ และเขาคือคนคนนั้น 447 00:28:36,214 --> 00:28:39,217 บางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่ชอบ 448 00:28:41,678 --> 00:28:45,223 เดวิดคุมเราทุกกระเบียดนิ้ว เราเองก็ไม่ชินกับอะไรแบบนั้น 449 00:28:47,809 --> 00:28:51,771 เขาอยากมีส่วนร่วม ในการแต่งเพลงและบรรเลง 450 00:29:02,449 --> 00:29:05,368 เราเข้าใจว่าเราต้องไว้ใจหมอนี่ 451 00:29:05,452 --> 00:29:06,578 เราต้องการสิ่งนี้ 452 00:29:07,412 --> 00:29:09,789 และเขาก็เร็วมาก เขาไวสุดๆ 453 00:29:10,832 --> 00:29:14,711 เพลงต้องการท่อนบริดจ์ โอเค เสร็จ 454 00:29:14,794 --> 00:29:17,088 ผมนั่งอยู่ตรงนั้นแล้วก็พูดว่า "แม่เจ้าโว้ย" 455 00:29:20,925 --> 00:29:24,888 ผมเข้าไปแบบแรงเต็มสูบ แรงเป็นไฟพะเนียงเลย 456 00:29:24,971 --> 00:29:26,139 มันคือเผด็จการของแท้ 457 00:29:26,222 --> 00:29:27,140 คุณทำนี่นะ คุณทำนั่นนะ 458 00:29:27,223 --> 00:29:29,017 ผมจะเป็นมือเบสให้ ผมจะเล่นเปียโนให้ 459 00:29:29,100 --> 00:29:30,518 ผมจะร่วมแต่งเพลงด้วยทุกเพลง 460 00:29:30,602 --> 00:29:32,979 เราจะทำแบบนี้กัน คุณต้องอัดเพลงนี้ 461 00:29:33,062 --> 00:29:34,606 และแน่นอน เราประสบความสำเร็จล้นหลาม 462 00:29:40,195 --> 00:29:41,696 ช่วงที่อยู่กับชิคาโก 463 00:29:41,780 --> 00:29:45,658 ผมเป็นแค่มือปืนรับจ้าง ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหา 464 00:29:45,742 --> 00:29:47,494 ผมได้เห็นด้านที่อัปลักษณ์ 465 00:29:47,577 --> 00:29:50,622 นั่นคือเทคนิคการโปรดิวซ์ ที่เกรี้ยวกราดของเดวิด 466 00:29:51,498 --> 00:29:54,834 ผมพยายามคิดว่าเพลงชั้นเลิศ ของชิคาโกเป็นยังไง 467 00:29:54,918 --> 00:29:57,295 แย่หน่อยสำหรับพวกเขา ที่มันไม่ค่อยมีเสียงเครื่องเป่าเลย 468 00:29:58,171 --> 00:29:59,464 เราไม่มีอะไรให้ทำ 469 00:29:59,881 --> 00:30:05,136 ในมิวสิกวิดีโอ ผมจะเล่นคีย์บอร์ด ลีเล่นกีตาร์ 470 00:30:05,220 --> 00:30:07,430 แล้วเราจะต้องไปยังไงต่อล่ะ 471 00:30:07,514 --> 00:30:09,265 ในเมื่อมันไม่มีเครื่องเป่าให้เล่น 472 00:30:09,349 --> 00:30:12,685 รู้ตัวอีกทีเราก็โดนไล่ให้ไปเล่น ซินธีไซเซอร์ 473 00:30:12,769 --> 00:30:14,437 ทั้งในมิวสิกวิดีโอและบนเวที 474 00:30:15,605 --> 00:30:18,274 ตอนนั้นผมเซ็งอยู่พักใหญ่ 475 00:30:18,358 --> 00:30:21,069 เราเอาอัตตายัดใส่กระเป๋า แล้วฝังไว้หลังบ้าน 476 00:30:21,152 --> 00:30:22,529 แล้วก็ทำเพลงออกมา 477 00:30:23,530 --> 00:30:25,031 ผมยังไม่พร้อมจะทำอย่างนั้น 478 00:30:25,114 --> 00:30:27,700 ท่าทีของผมไม่เป็นผู้ใหญ่ ผมเป็นมือคีย์บอร์ด 479 00:30:27,784 --> 00:30:30,495 มันหมายความว่ายังไงที่ว่า ผมเล่นคีย์บอร์ดในเพลงพวกนี้ไม่ได้ 480 00:30:30,578 --> 00:30:31,621 เราคิดว่าเรารู้ดีกว่า 481 00:30:32,163 --> 00:30:34,374 มีปัญหาอื่นผุดขึ้นมาอีก 482 00:30:34,457 --> 00:30:38,253 นั่นคือความสัมพันธ์ ของปีเตอร์กับเดวิด 483 00:30:39,254 --> 00:30:41,297 ผมกับปีเตอร์ เซเทราต่อกันติดทันที 484 00:30:41,381 --> 00:30:44,342 เราแต่งเพลงกันได้เข้าขา และผูกพันกันเป็นพี่น้อง 485 00:30:44,425 --> 00:30:46,803 ปีเตอร์กับผมกลายเป็นคนแต่งเพลงของวง 486 00:30:47,679 --> 00:30:50,640 ผมจะฟังเขา และเขาเองก็จะฟังผม 487 00:30:50,723 --> 00:30:52,517 นั่นไม่ใช่สิ่ง ที่จะเกิดขึ้นบ่อยๆ กับเขา 488 00:30:52,600 --> 00:30:54,978 เขาให้โอกาสผมได้พูดโดยผ่านมือของเขา 489 00:30:55,061 --> 00:30:57,522 เขาจะเล่นอะไรสักอย่าง เมื่อกี้อะไรน่ะ มันเยี่ยมเลยนะ 490 00:31:18,251 --> 00:31:20,962 เราแต่งเพลงเยี่ยมๆ ด้วยกันเพียบเลย 491 00:31:21,045 --> 00:31:22,672 เรามีเพลงฮิตอันดับหนึ่ง ต่อกันหลายเพลง 492 00:31:26,718 --> 00:31:29,637 คนบอกว่า "คุณเปลี่ยนพวกเขา ให้กลายเป็นวงบัลลาด" 493 00:31:29,721 --> 00:31:32,599 แต่คนฟังต่างหากที่เลือกฟัง เพลงบัลลาดพวกนั้นจนกลายเป็นเพลงฮิต 494 00:31:32,682 --> 00:31:34,893 และบังเอิญว่าผม เป็นคนร้องเพลงพวกนั้น 495 00:31:34,976 --> 00:31:37,312 และแน่นอน พอถ่ายมิวสิกวิดีโอคนร้องก็เด่นสุด 496 00:31:37,395 --> 00:31:38,938 ทั้งหมดนั้นมีส่วนทำให้เกิดปัญหา 497 00:31:40,064 --> 00:31:42,650 ผมตระหนักว่ามีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น 498 00:31:42,734 --> 00:31:46,779 ตอนที่ค่ายวอร์เนอร์พาเราไปทานมื้อเย็น กับผู้บริหารระดับสูง 499 00:31:47,405 --> 00:31:51,826 เพื่อไปรับแผ่นเสียงทองคำแผ่นแรก และอีกหลายแผ่นจากเพลงอัลบั้มนั้น 500 00:31:51,910 --> 00:31:54,037 แต่ลึกๆ ในใจ ผมยังคิดว่า 501 00:31:54,120 --> 00:31:55,830 ก็ดี แต่นี่ไม่ใช่ชิคาโก 502 00:31:56,164 --> 00:31:57,415 ปาเข้าไปเก้าครั้งแต่เราก็ทำได้ 503 00:31:57,498 --> 00:32:00,126 ทีนี้เราต้องคิดกันว่า จะเอาลูกนี้ไว้ไหม 504 00:32:00,710 --> 00:32:03,880 พอนึกย้อนกลับไปแล้วผมก็เข้าใจได้ ว่าทำไมคนในวงถึงโกรธ 505 00:32:03,963 --> 00:32:08,343 แต่ขณะเดียวกัน ยอดขายของพวกเขา ขยับจากห้าหมื่นชุดไปเป็นเจ็ดล้านชุด 506 00:32:08,885 --> 00:32:12,221 เรารู้ว่าเพลงมันดี หูเราก็รับรู้ได้ 507 00:32:12,513 --> 00:32:16,100 เดวิดมาเพื่อพาเรากลับมาขึ้นชาร์ต และนั่นคือสิ่งที่เขาหมายมั่นปั้นมือ 508 00:32:16,309 --> 00:32:18,019 ทุกอย่างที่เขาทำมันถูกต้อง 509 00:32:18,102 --> 00:32:19,395 ผมไม่ได้อยากจะเดินออกมา 510 00:32:20,146 --> 00:32:21,272 มันตึงเครียดมาก 511 00:32:21,898 --> 00:32:24,192 ณ ตอนนั้นเดวิดกับผม คุมเรื่องการแต่งเพลงอย่างเบ็ดเสร็จ 512 00:32:26,194 --> 00:32:28,613 มันเป็นจุดตกต่ำสำหรับทุกคนจริงๆ 513 00:32:29,405 --> 00:32:31,824 เราอยากจะสนุก เราอยากจะเป็นวง 514 00:32:31,908 --> 00:32:33,409 เราอยู่กันเป็นวงมาตลอด 515 00:32:33,493 --> 00:32:37,580 และเราก็ไม่มีที่ให้กับ คนที่ไม่ต้องการจะเล่นเป็นทีม 516 00:32:37,664 --> 00:32:38,831 (นักร้องนำออกจากวงชิคาโก) 517 00:32:38,915 --> 00:32:42,627 เขาเริ่มฟังคนอื่นเหมือนฟังมือกลอง คนใหม่ จะว่าอย่างนั้นก็ได้ 518 00:32:42,710 --> 00:32:47,006 และเดวิดก็คือฟางเส้นสุดท้าย ที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยน 519 00:32:47,090 --> 00:32:49,342 และทำให้เขาคิดว่า "เออ ฉันจะเป็นศิลปินเดี่ยว" 520 00:32:50,385 --> 00:32:51,386 ก็เลย… 521 00:32:52,220 --> 00:32:53,888 (มือเบสชิคาโกออกจากวง) 522 00:32:53,972 --> 00:32:55,598 เพลงของเราขึ้นชาร์ต อันดับหนึ่งติดต่อกัน 523 00:32:55,682 --> 00:32:59,060 และประสบความสำเร็จต่อเนื่องมาถึง งานเดี่ยวของผมกับเพลง "กลอรี่ออฟเลิฟ" 524 00:33:00,103 --> 00:33:03,064 เพลงประกอบหนังเรื่อง "เดอะคาราเต้คิด" เราได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ 525 00:33:04,983 --> 00:33:07,568 ถ้าปีเตอร์ไม่อยากแยกตัวออกไปฉายเดี่ยว 526 00:33:07,652 --> 00:33:10,029 และอยู่ในวงต่อ มันคงจะยอดมาก 527 00:33:10,113 --> 00:33:11,781 แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น 528 00:33:11,864 --> 00:33:14,867 (เพลงบัลลาดชิคาโกขึ้นอันดับหนึ่งทั่วโลก) 529 00:33:18,538 --> 00:33:20,623 เรามีช่วงที่ประสบความสำเร็จต่อเนื่อง 530 00:33:22,417 --> 00:33:24,836 ใช่ ผมเข้ามาแบบเร่าร้อน ใช่ ผมเข้ามาแบบยโส 531 00:33:24,919 --> 00:33:26,212 ใช่ ผมเข้ามาแบบอวดเบ่ง 532 00:33:26,295 --> 00:33:29,215 ผมเข้าใจดีว่าทำไมพวกเขา ไม่ชอบใจในสิ่งที่เกิดขึ้น 533 00:33:29,298 --> 00:33:31,426 และผมก็รู้ดี ผมเข้าใจ 534 00:33:33,511 --> 00:33:34,887 แต่พวกเขายังโกรธไม่หาย 535 00:33:34,971 --> 00:33:38,307 และตอนนี้พวกเขาก็ยังหากินได้ เพราะอัลบั้มเหล่านั้น 536 00:33:45,189 --> 00:33:48,151 นาตาลี โคล เสียงเธอดุจแพรไหม 537 00:33:49,110 --> 00:33:50,695 เธอเป็นมนุษย์ที่งดงาม 538 00:33:51,320 --> 00:33:53,072 ผมโชคดีที่มีโอกาสได้นำเสียงของเธอ 539 00:33:53,156 --> 00:33:55,116 มารวมกับเสียงพ่อของเธอ ในเพลง "อันฟอร์เก็ตเทเบิล" 540 00:33:58,453 --> 00:34:00,204 เธอมอบโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตให้ผม 541 00:34:01,664 --> 00:34:04,333 มันอาจเป็นใครก็ได้ แต่เธอเลือกผม 542 00:34:04,876 --> 00:34:08,087 อัลบั้ม "อันฟอร์เก็ตเทเบิล" เกิดขึ้นจากความรักในดนตรี 543 00:34:09,922 --> 00:34:12,383 มันบริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมา 544 00:34:13,968 --> 00:34:16,304 มันเป็นอัลบั้มที่ทำขึ้นจากหัวใจ 545 00:34:17,305 --> 00:34:20,099 เรานำคณิตศาสตร์ และเวทมนตร์คาถามาใช้นิดหน่อย 546 00:34:20,183 --> 00:34:23,436 เรานำเสียงร้องเดิมที่อัดไว้แล้วมาใช้ ในการอัดแทร็กใหม่ 547 00:34:23,519 --> 00:34:25,730 นาตาลีร้อง แนทร้อง 548 00:34:45,708 --> 00:34:47,376 พอเธอได้ฟัง เธอก็พรั่งพรูออกมาเลย 549 00:34:47,460 --> 00:34:50,588 เธอพูดว่า "เหมือนกับพ่อ มายืนร้องข้ามไหล่ฉันเลย" 550 00:35:10,566 --> 00:35:12,401 เมื่อคืนผมอยู่กับโทนี่ แบรกซ์ตัน 551 00:35:12,485 --> 00:35:14,904 และเราก็รำลึกถึงช่วงเวลาที่เรามีร่วมกัน 552 00:35:14,987 --> 00:35:17,406 ผมคิดว่าเราได้สร้าง หนึ่งในเพลงที่เยี่ยมยอดที่สุดขึ้นมา 553 00:35:17,490 --> 00:35:18,825 "อันเบรกมายฮาร์ต" 554 00:35:18,908 --> 00:35:20,493 ไดแอน วอร์เรนเป็นคนแต่ง ผมเป็นคนโปรดิวซ์ 555 00:35:28,417 --> 00:35:29,585 ตอนที่เปลี่ยนคีย์ 556 00:35:29,669 --> 00:35:31,712 ไม่มีอะไรดีไปกว่านั้นในโลกเพลงป็อปแล้ว 557 00:35:32,922 --> 00:35:36,008 การเรียบเรียงทั้งเพลง แล้วก็เสียงร้องทั้งหมด 558 00:35:36,092 --> 00:35:37,593 มันคือความสมบูรณ์แบบแท้ๆ 559 00:35:43,975 --> 00:35:46,936 ทุกครั้งที่เดวิดหยิบจับอะไร มันจะยกระดับขึ้นไปอีกขั้น 560 00:35:49,564 --> 00:35:51,691 ชีวิตผมคงจะเรียบง่ายกว่านี้มาก 561 00:35:51,774 --> 00:35:54,277 และชีวิตลูกๆ ผมก็คงจะเรียบง่าย และสบายยิ่งกว่านี้ 562 00:35:54,360 --> 00:35:56,654 ถ้าผมไม่ได้แต่งงานใหม่หลายครั้ง 563 00:35:58,156 --> 00:36:00,491 ไม่มีใครกลัวประวัติเรื่องนี้ไปมากกว่าตัวพ่อเอง 564 00:36:00,575 --> 00:36:02,618 เรื่องผู้หญิงเป็นจุดอ่อนของเขามาตลอด 565 00:36:02,702 --> 00:36:04,203 เขามีผู้หญิงหลายคน 566 00:36:04,287 --> 00:36:07,039 มันตลกดีที่เขามีแต่ลูกสาวกับพี่น้องที่เป็นผู้หญิง 567 00:36:07,123 --> 00:36:08,833 และเขาเองก็สนิทกับแม่ของเขามากด้วย 568 00:36:08,916 --> 00:36:11,252 เขาใกล้ชิดกับผู้หญิงทุกคนในครอบครัวของเขา 569 00:36:11,335 --> 00:36:15,756 เขามีพี่สาวสามคนที่คอยโอ๋เขา มีน้องสาวอีกสามที่ชื่นชมเขา 570 00:36:15,840 --> 00:36:19,468 ฉันว่าพ่อคงไม่ได้ตั้งใจจะแต่งงานถึงห้าครั้งหรอก 571 00:36:19,552 --> 00:36:21,804 ฉะนั้นใช่ค่ะ ผู้หญิง 572 00:36:21,888 --> 00:36:24,932 ถ้าผมนั่งอยู่ต่อหน้านักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ 573 00:36:25,016 --> 00:36:26,350 เขาคงบอกว่าผมเป็นพวกหนีปัญหา 574 00:36:26,434 --> 00:36:29,520 เวลาเจอเรื่องยาก หรือแย่ ผมจะหนี 575 00:36:31,063 --> 00:36:35,735 การอยู่ในครอบครัวผสมเป็นเรื่องยากมาก 576 00:36:37,570 --> 00:36:39,864 คุณปู่มอรี่ไม่เคยมีรูปถ่าย 577 00:36:39,947 --> 00:36:41,908 - ทำไมคะ - เพราะเขาเป็นคนถือกล้องตลอด 578 00:36:41,991 --> 00:36:43,618 ฉันอายุสามขวบตอนที่พ่อแม่เลิกกัน 579 00:36:44,660 --> 00:36:49,624 แล้วพ่อก็ย้ายไปอยู่กับแฟนใหม่ ที่พ่อทิ้งแม่ไปหาทันที 580 00:36:50,833 --> 00:36:53,085 พ่อไปอยู่ในบ้านของเธอกับลูกๆ เธอ 581 00:36:56,881 --> 00:37:00,635 ถ้าไปคุยด้วย คุณจะสัมผัสได้ว่า ลูกๆ ผมทุกคนมีรอยแผลเป็น 582 00:37:01,344 --> 00:37:04,513 พวกเธอส่วนใหญ่จะเล่าว่า ผมหย่ากับแม่ของพวกเธอ 583 00:37:04,597 --> 00:37:06,307 ตอนที่พวกเธออายุห้าหรือหกขวบ 584 00:37:06,390 --> 00:37:09,560 ผมทำงานตลอดเวลา ตลอดเวลาเลยจริงๆ 585 00:37:09,644 --> 00:37:12,063 นอนในห้องอัดคราวละสองถึงสามวัน 586 00:37:12,146 --> 00:37:13,689 ฉะนั้นคุณจะเห็นรอยแผลเป็นมากมาย 587 00:37:16,108 --> 00:37:19,862 ฉันกับพ่อต้องคอยคิดแผนหนีเอาตัวรอด 588 00:37:19,946 --> 00:37:22,531 เหมือนกับที่คนอื่นคิดวางแผนมื้อเย็น 589 00:37:23,324 --> 00:37:25,034 เวลาเกิดปัญหาขึ้น 590 00:37:25,117 --> 00:37:31,499 สัญชาตญาณแรกของพ่อคือหลีกเลี่ยง หลบหนี และบ่ายเบี่ยง 591 00:37:32,833 --> 00:37:34,377 พ่อฉันอยู่ที่แอลเอ 592 00:37:35,378 --> 00:37:38,506 ส่วนเรายากจนข้นแค้น เราจนมาก 593 00:37:39,548 --> 00:37:42,510 พ่อฉันส่งค่าเลี้ยงดูมาให้ แต่เราก็มีอยู่แค่นั้น 594 00:37:43,261 --> 00:37:47,265 แล้วช่วงหน้าร้อน ฉันก็จะได้ไปเจอพ่อ 595 00:37:47,348 --> 00:37:50,518 เขาอยู่ที่มาลิบู มันเหมือนพระราชวังเลย 596 00:37:50,810 --> 00:37:52,687 แล้วฉันก็คิดว่า "เดี๋ยวนะ" 597 00:37:53,229 --> 00:37:56,274 มันเหมือนกับว่า "นี่ มันมีสิ่งใหม่ ที่สดใสกว่าอยู่ตรงนั้นนะ" 598 00:37:56,732 --> 00:37:59,777 ในหัวผม ผมคิดว่าอีกฝั่งหนึ่งมันย่อมดีกว่าเสมอ 599 00:38:00,486 --> 00:38:01,612 อะไรแบบนั้น 600 00:38:02,571 --> 00:38:06,075 ตรงนี้ไปไม่รอด เพราะงั้นตรงนั้น มันน่าจะดีกับผมมากกว่า 601 00:38:07,910 --> 00:38:10,288 เขามีชีวิตอย่างราชา 602 00:38:14,750 --> 00:38:17,837 คฤหาสน์ที่มาลิบูที่ฉันไม่ได้อยู่ด้วย 603 00:38:17,920 --> 00:38:21,090 ไปจนถึงย่านที่ฉันอยู่ในโทรอนโต 604 00:38:21,173 --> 00:38:24,719 ไปจนถึงครอบครัวของฉัน ที่ไม่เหมือนคนอื่นทั่วไป 605 00:38:26,345 --> 00:38:29,473 ฉันมีพี่น้องสิบคน ทั้งที่ฉันเป็นลูกคนเดียว 606 00:38:30,182 --> 00:38:31,600 นั่นมันเฮงซวยมาก 607 00:38:32,518 --> 00:38:35,396 คุณคงพอนึกภาพออกว่าการมีลูกกับผู้หญิงสามคน 608 00:38:35,479 --> 00:38:37,606 มันลำบากสำหรับทุกคนแค่ไหน 609 00:38:41,569 --> 00:38:44,613 การหนีของผมเป็นปฏิกิริยาตอบสนองฉับพลัน 610 00:38:44,697 --> 00:38:47,700 ผมไปเฉยๆ ไปต่อดื้อเลยๆ 611 00:38:50,619 --> 00:38:53,831 และมันก็มีผลตามมาเสมอ 612 00:38:55,624 --> 00:38:58,711 ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดของผม คือตอนที่ผมทิ้งรีเบกก้า 613 00:38:59,295 --> 00:39:04,175 ลองนึกถึงการทิ้งครอบครัวไป ตอนที่เรามีลูกกันสามคนวัยห้าขวบ สี่ขวบ 614 00:39:04,258 --> 00:39:05,760 และจอร์แดนก็เพิ่งเจ็ดเดือนดูสิ 615 00:39:08,429 --> 00:39:10,931 ผมทำสิ่งที่โง่มากๆ 616 00:39:12,475 --> 00:39:13,851 ผมคงต้องพูดว่าผมเสียใจ 617 00:39:13,934 --> 00:39:16,395 ผมเสียใจที่ผมทำมันพังเละเทะ 618 00:39:19,106 --> 00:39:21,317 ฉันจำได้ว่าฉันร้องไห้หลายครั้ง 619 00:39:21,400 --> 00:39:24,612 โดยที่รู้สึกว่า "พระเจ้า พ่อไม่รักฉัน" 620 00:39:24,695 --> 00:39:26,113 มันเป็นความรู้สึกที่เลวร้าย 621 00:39:27,823 --> 00:39:29,992 สถานการณ์ที่พ่อทำให้เกิดขึ้น 622 00:39:30,076 --> 00:39:31,952 คือพ่อไม่ยอมอยู่กับลูกๆ ของตัวเอง 623 00:39:33,120 --> 00:39:34,789 พ่อไปอยู่กับลูกๆ คนอื่น 624 00:39:35,122 --> 00:39:37,083 มันเต็มไปด้วยความตึงเครียด 625 00:39:37,750 --> 00:39:40,294 เราโตขึ้นเร็วกว่าที่ควรจะเป็น 626 00:39:40,378 --> 00:39:42,421 ถ้าคุณไม่มีความสัมพันธ์แบบนั้นกับพ่อแม่ 627 00:39:44,298 --> 00:39:49,345 ฉันเชื่อว่าฉันคือคนที่ซวย เพราะความทะเยอทะยานของพ่อ 628 00:39:52,556 --> 00:39:55,351 ตั้งแต่จำความได้ ฉันก็อยู่ในห้องอัดกับพ่อแล้ว 629 00:39:57,853 --> 00:40:01,065 ทั้งที่เห็นศีรษะด้านหลังของพ่อ ในห้องอัดมาเป็นเวลาหลายปี 630 00:40:01,148 --> 00:40:03,025 ฉันไม่เคยรู้สึกว่าพ่อไม่อยู่ด้วยเลย 631 00:40:04,443 --> 00:40:07,696 ฉันมีความเคารพให้พ่อกับสิ่งที่พ่อทำเสมอมา 632 00:40:09,949 --> 00:40:13,619 ฉันไม่เคยโกรธ ฉันแค่ยอมรับมัน 633 00:40:15,996 --> 00:40:19,083 ถ้าฉันอยากเจอพ่อ ฉันต้องไปที่ห้องอัด 634 00:40:22,920 --> 00:40:26,757 ฉันรักพ่อ ฉันรักพ่อมากๆ 635 00:40:27,967 --> 00:40:32,721 เวลาที่พ่อหันมาสนใจเรา มันวิเศษมาก 636 00:40:36,308 --> 00:40:39,019 มันไม่เคยจะง่ายเลย ในฐานะลูกมันไม่ง่าย 637 00:40:41,188 --> 00:40:42,440 ไม่รู้สิคะ ถ้าฉันต้องเลือก 638 00:40:42,565 --> 00:40:45,818 ว่าจะสนิทกับพ่อแม่ในฐานะลูกหรือฐานะผู้ใหญ่ดี 639 00:40:45,901 --> 00:40:47,236 ฉันคงจะเลือกฐานะผู้ใหญ่ 640 00:40:47,319 --> 00:40:50,448 พ่อเป็นคนที่คอยรับฟัง และ… 641 00:40:50,531 --> 00:40:52,575 เป็นเหมือนเพื่อนในหลายๆ แง่ 642 00:40:56,120 --> 00:41:00,499 ตอนนี้ผมอยากจะบอกให้รู้ว่า ลูกสาวของผมทั้งห้าคนอยู่ที่นี่ 643 00:41:00,583 --> 00:41:04,295 พวกเธอมาจากฟลอริดา ซูริค เอดมันตัน แนชวิลล์ และแอลเอ 644 00:41:04,879 --> 00:41:06,422 ขอบใจนะสาวๆ 645 00:41:06,505 --> 00:41:08,466 ผมมีลูกสาวที่แสนวิเศษห้าคน 646 00:41:08,549 --> 00:41:10,843 พวกเธอมุ่งมั่นและประสบความสำเร็จ 647 00:41:10,926 --> 00:41:12,136 ผมว่าผมทำบางอย่างถูกแล้วล่ะ 648 00:41:12,219 --> 00:41:15,055 - เวลาโทรหา พ่อไม่เคยไม่รับสาย - ไม่เลย 649 00:41:15,139 --> 00:41:17,766 เวลาที่พ่ออยู่ในห้องอัด ไม่ว่าจะเวลาไหน วันไหน… 650 00:41:17,850 --> 00:41:19,477 หรือไม่ว่าพ่อจะอัดเพลงให้มาดอนนาหรือใคร 651 00:41:19,560 --> 00:41:21,395 - พ่อจะพูดว่า "แป๊บ มาดอนนา" - ไม่เคยเลยสักครั้ง 652 00:41:21,479 --> 00:41:24,273 - ที่คนรับสายแทนจะบอกว่าพ่อไม่ว่าง - ใช่ ไม่เคยเลย 653 00:41:24,356 --> 00:41:26,484 ฉันคิดว่าบางทีพ่อก็คิดว่าพ่อไม่ใช่พ่อที่ดี 654 00:41:26,567 --> 00:41:29,445 และเรื่องนั้นทำให้เสียความรู้สึก เพราะพ่อเป็นพ่อที่ดีมาก 655 00:41:30,696 --> 00:41:33,782 สิ่งที่ผมอยากจะบอกพวกเธอก็คือ "พ่อทำดีที่สุดแล้ว 656 00:41:33,866 --> 00:41:35,367 พ่อควรทำได้ดีกว่านี้ 657 00:41:35,451 --> 00:41:37,119 ตอนนี้พ่อกำลังพยายามทำให้ดีที่สุด 658 00:41:37,203 --> 00:41:39,330 จงพึ่งตัวเองให้ได้ แล้วก้าวต่อไป" 659 00:41:41,499 --> 00:41:44,460 มันยากนะ ถ้าจะให้ผมไปนั่งกับลูกๆ 660 00:41:44,543 --> 00:41:47,004 แล้วให้พูดประมาณว่า "พ่อรักลูกนะ 661 00:41:47,421 --> 00:41:49,882 พ่อรักลูก และพ่อก็เป็นห่วงลูกมาก" 662 00:41:49,965 --> 00:41:52,927 ผมคงไม่มีวันพูดแบบนั้นกับลูกๆ 663 00:41:53,928 --> 00:41:56,013 การจะบอกว่า "พ่อรักลูก" มันไม่ได้ยากกับผมเลยสักนิด 664 00:41:56,096 --> 00:41:57,723 มันแอบขี้โกงนิดๆ นะ 665 00:41:57,806 --> 00:42:00,392 ไอ้การจบการสนทนากับลูก ด้วยคำว่า "รักนะ" กับ "รักเหมือนกัน" น่ะ 666 00:42:01,060 --> 00:42:03,187 คำว่า "รักนะ" กับ "พ่อรักลูก" มันต่างกันเยอะอยู่ 667 00:42:03,270 --> 00:42:05,689 - แล้วคุณพูดว่าไง - "รักนะ" 668 00:42:08,776 --> 00:42:12,279 ฉันรู้ว่าพ่อรักฉันในแบบที่พ่อจะรักได้ 669 00:42:12,571 --> 00:42:16,200 ครั้งแรกที่เพลงของฉันติดชาร์ตอันดับหนึ่ง 670 00:42:16,283 --> 00:42:22,039 พ่อบอกว่า "รู้ไหม เอมี่ สิ่งที่ยากกว่าการทำเพลงฮิตอันดับหนึ่ง 671 00:42:22,122 --> 00:42:23,749 มีแค่เรื่องเดียวเท่านั้น" 672 00:42:23,832 --> 00:42:26,043 ฉันถามว่า "อะไรคะ" พ่อตอบ "ทำให้ได้สองเพลง 673 00:42:26,126 --> 00:42:28,295 ได้เพลงที่สองเมื่อไหร่ ให้โทรหาพ่อ" 674 00:42:30,214 --> 00:42:31,590 ฉันหวังว่าเอรินจะไม่ถือสา 675 00:42:32,299 --> 00:42:35,261 วันหนึ่งเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เธอโทรมาหาฉัน 676 00:42:35,344 --> 00:42:38,597 เธอกำลังประสาทเสียและเสียใจเรื่องพ่อ 677 00:42:40,766 --> 00:42:43,018 มันเป็นเพราะบทสนทนาระหว่างพวกเขา 678 00:42:43,102 --> 00:42:45,896 เกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ 679 00:42:46,355 --> 00:42:48,899 เขาไม่ให้เกียรติความรู้สึกเธอเลย 680 00:42:51,819 --> 00:42:54,196 เขาเสียใจ แต่เขาพูดไม่ได้ว่า 681 00:42:54,280 --> 00:42:58,409 "รู้อะไรไหม มันเลวร้ายมาก พ่อรู้สึกแย่ พ่อเสียใจ" 682 00:42:58,492 --> 00:42:59,702 เขาพูดอะไรแบบนั้นไม่ได้ 683 00:42:59,785 --> 00:43:03,289 ฉันพูดว่า "รู้ไหม คุณไม่อยากปั้นปึ่ง กับเธอไปอีกหลายสัปดาห์หรอก 684 00:43:03,372 --> 00:43:05,457 คุณต้องคลี่คลายมันในคืนนี้" 685 00:43:05,541 --> 00:43:09,628 แล้วเขาก็มองฉันด้วยสายตาแข็งขืนแล้วพูดว่า 686 00:43:09,712 --> 00:43:11,630 "งั้นยัยนั่นก็ควรเป็นคนลงมือเอง" 687 00:43:11,714 --> 00:43:16,051 และฉันก็รู้สึกแบบว่า "เฮ้ย นั่นลูกสาวคุณนะ" 688 00:43:16,135 --> 00:43:18,304 แบบว่า "คุณไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก" 689 00:43:19,513 --> 00:43:21,348 คืนนั้นฉันให้เขาคุยโทรศัพท์กับเอริน 690 00:43:21,432 --> 00:43:22,558 แล้วพวกเขาก็ปรับความเข้าใจกัน 691 00:43:22,641 --> 00:43:24,768 พวกเขาต้องปรับความเข้าใจกันหลายเรื่อง ที่สั่งสมมาหลายปี 692 00:43:26,854 --> 00:43:29,023 ฉันรู้ดีว่าเขารักลูกมากแค่ไหน 693 00:43:30,441 --> 00:43:33,819 ฉันพยายามทำให้เขาตั้งใจ 694 00:43:33,902 --> 00:43:35,821 กับสิ่งต่างๆ ที่เขาทำมากขึ้น 695 00:43:35,904 --> 00:43:39,617 รวมทั้งเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับลูกๆ 696 00:43:39,700 --> 00:43:41,952 เพราะเขารู้ดีว่ามันเป็นสิ่งที่ควรทำ 697 00:43:42,036 --> 00:43:44,955 และเพราะเขาเองก็ห่วงใย เขาห่วงใยจริงๆ 698 00:43:45,039 --> 00:43:48,083 และเขาก็สนใจอยากจะรู้จริงๆ ว่า 699 00:43:48,167 --> 00:43:51,837 ซาร่าเป็นคนยังไง เอรินเป็นยังไง จอร์แดนกับเอมี่ก็ด้วย 700 00:43:51,920 --> 00:43:53,797 รวมไปถึงอัลลิสันด้วย 701 00:43:54,381 --> 00:43:58,636 อัลลิสันคือลูกสาวที่ผมมีกับแฟน ตอนที่ผมอายุ 19 หรือ 20 นี่แหละ 702 00:44:00,012 --> 00:44:01,889 เรายกเด็กให้คนรับไปอุปการะ 703 00:44:02,973 --> 00:44:05,351 ผมรู้ว่าวันหนึ่งเธอจะมาตามหาผม 704 00:44:05,434 --> 00:44:06,560 และเธอก็ทำจริงๆ 705 00:44:06,644 --> 00:44:10,189 เธอน่าจะอายุสัก 30 ตอนที่เจอผมในอินเทอร์เน็ต 706 00:44:11,565 --> 00:44:12,983 เธอฉลาดมากๆ 707 00:44:13,484 --> 00:44:17,196 แต่ผมรู้สึกกับเธอแตกต่างจาก ลูกๆ ที่ผมเลี้ยงขึ้นมาเอง 708 00:44:20,824 --> 00:44:23,911 และผมคิดจริงๆ ว่าเธอ น่าจะต้องการอะไรจากผมมากกว่านี้ 709 00:44:23,994 --> 00:44:25,746 แต่ผมให้ไม่ได้ มันล้นเกินกำลัง 710 00:44:33,128 --> 00:44:35,255 ผมเจอเควิน คอสต์เนอร์ที่แวนคูเวอร์ 711 00:44:35,339 --> 00:44:37,007 เขากำลังจะทำหนังเรื่อง "เดอะบอดี้การ์ด" 712 00:44:37,091 --> 00:44:38,717 และถามผมว่าอยากทำเพลงประกอบไหม 713 00:44:41,595 --> 00:44:42,888 ควินซี่บอกผมว่า 714 00:44:42,971 --> 00:44:46,433 "นายกำลังจะได้ทำงาน ที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาย" 715 00:44:48,018 --> 00:44:49,269 เขาพูดถูกเผง 716 00:44:52,064 --> 00:44:55,025 เริ่มที่ตัวหนังเรื่อง "เดอะบอดี้การ์ด" เอง 717 00:44:56,485 --> 00:45:00,697 ตอนผมได้ดูตัวอย่างหนังครั้งแรก ตอนช่วงคริสต์มาส 718 00:45:00,781 --> 00:45:02,741 ผมว่าหนังมันอ่อนไป 719 00:45:02,825 --> 00:45:06,870 ผมคิดว่าวอร์เนอร์บราเธอส์ยึดติดมากเกินไป 720 00:45:06,954 --> 00:45:09,331 กับการทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังทริลเลอร์เร้าใจ 721 00:45:09,415 --> 00:45:11,792 และหนังเรื่องนี้ก็แทบจะไม่ได้ 722 00:45:11,875 --> 00:45:15,671 แสดงความเจิดจรัสของวิตนีย์ออกมาเลย 723 00:45:18,132 --> 00:45:19,716 โอเค ฉันลุกแล้วนี่ไง 724 00:45:19,800 --> 00:45:21,552 มันเป็นหนังเรื่องแรกของวิตนีย์ 725 00:45:21,635 --> 00:45:24,930 เธอยังใหม่กับการเป็นนักแสดง 726 00:45:25,389 --> 00:45:30,477 เราต้องรู้สึกได้ถึงเคมี ระหว่างเควิน คอสต์เนอร์กับวิตนีย์ 727 00:45:31,270 --> 00:45:33,313 คุณดูไม่เหมือนบอดี้การ์ดเลย 728 00:45:34,022 --> 00:45:35,315 คุณคิดไว้ว่าจะเป็นยังไงล่ะ 729 00:45:35,399 --> 00:45:40,404 แน่นอน ประธานค่ายเพลง ย่อมอยากให้มีเพลงในหนังมากขึ้น 730 00:45:40,487 --> 00:45:44,741 แต่คุณต้องทำให้วิตนีย์เฉิดฉายให้ได้ก่อน 731 00:45:44,825 --> 00:45:46,493 เพราะบทมันไม่ส่งเลย 732 00:45:47,911 --> 00:45:52,040 ผมเลยเขียนจดหมายไปถึงผู้กำกับและเควิน 733 00:45:52,124 --> 00:45:54,001 บอกไปตามนั้นเลย 734 00:45:54,084 --> 00:45:56,170 ถ้าคุณไม่เพิ่มเพลงเข้าไป 735 00:45:56,253 --> 00:46:00,174 ถ้าไม่ให้วิตนีย์แสดงให้มากขึ้น 736 00:46:00,257 --> 00:46:03,093 หนังของคุณไม่มีทางเป็นหนังดี 737 00:46:05,012 --> 00:46:09,516 เควิน คอสต์เนอร์เก็บเอาจดหมายฉบับนี้ ไปคิดจริงจัง 738 00:46:10,350 --> 00:46:16,857 เขารับหน้าที่สำคัญในการทำงาน กับเดวิด ฟอสเตอร์ในเรื่องนี้ 739 00:46:22,529 --> 00:46:26,867 แล้วก็มีการเพิ่มจำนวนเพลงในหนังขึ้นเยอะมาก 740 00:46:28,744 --> 00:46:33,457 เดวิดกับลินดา ทอมป์สัน ภรรยาเขาตอนนั้น แต่งเพลง "ไอแฮฟนอตทิง" ขึ้น 741 00:46:45,219 --> 00:46:47,179 แต่เป้าหมายสำคัญ 742 00:46:47,262 --> 00:46:53,435 คือเพลงแบบไหนที่จะสะท้อน แก่นสารสำคัญของหนัง 743 00:46:53,519 --> 00:46:56,688 เคมีของดารานำ และส่งผลกระทบต่ออารมณ์ 744 00:46:56,772 --> 00:47:00,984 จนทำให้มันเป็นมากกว่าหนังทริลเลอร์ธรรมดาได้ 745 00:47:01,068 --> 00:47:03,487 ตอนแรกพวกเขาจะใช้เพลง "วอตบีคัมส์ออฟเดอะโบรกเคนฮาร์ตเท็ด" 746 00:47:03,570 --> 00:47:07,074 "วอตบีคัมส์ออฟเดอะโบร…" เป็นท่อนฮุกที่ดีมาก 747 00:47:07,157 --> 00:47:09,159 แต่นอกจากตรงนั้นแล้ว เพลงมันก็ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร 748 00:47:21,255 --> 00:47:23,006 ผมทำเดโมเพลงนั้น 749 00:47:23,090 --> 00:47:26,051 วิตนีย์ไม่ชอบเดโม ผมเองก็ไม่ชอบเดโม 750 00:47:26,134 --> 00:47:29,388 และวิตนีย์พูดว่า "เอาจริงเหรอ เดวิด ฉันไม่อินกับเพลงนี้เลย" 751 00:47:29,471 --> 00:47:34,393 แล้วก็โชคดีที่พอล ยังพาเพลงนี้ฮิตติดชาร์ต 752 00:47:34,476 --> 00:47:38,021 ผมเลยวิ่งไปบอกเควิน คอสต์เนอร์ว่า "เราทำเพลงนี้ไม่ได้" 753 00:47:38,480 --> 00:47:40,816 ผมแกล้งทำท่าผิดหวัง 754 00:47:40,899 --> 00:47:42,734 เขาเลยบอกว่า "โอเค เดี๋ยวผมหาเพลงอื่นมา" 755 00:47:43,819 --> 00:47:44,903 ขอบคุณ 756 00:48:07,509 --> 00:48:09,428 ผมส่งคนไปที่ร้านขายแผ่นเสียง 757 00:48:09,511 --> 00:48:12,347 บอกให้ไปซื้อเพลง "ไอวิลออลเวส์เลิฟยู" ของดอลลี่ พาร์ตันมา 758 00:48:12,431 --> 00:48:13,473 พวกเขากลับมาบอกผมว่า 759 00:48:13,557 --> 00:48:16,977 "ที่ร้านไม่มีเวอร์ชั่นของดอลลี่ แต่มีเวอร์ชั่นลินดา รอนสตัดต์" 760 00:48:24,318 --> 00:48:26,862 ผมรู้จักดอลลี่ พาร์ตัน เลยโทรไปหาและผมก็ตื่นเต้นมากๆ 761 00:48:26,945 --> 00:48:28,614 ผมพูดว่า "รู้ไหม ดอลลี่ 762 00:48:28,697 --> 00:48:30,907 เราจะทำเพลง "ไอวิลออลเวส์เลิฟยู" ของคุณ 763 00:48:30,991 --> 00:48:32,701 เธอบอกว่า "อ้อ เยี่ยมเลย" 764 00:48:32,784 --> 00:48:35,078 เธอบอกว่า "ฉันนึกเสียงวิตนีย์ออก ตอนร้องท่อน… 765 00:48:35,162 --> 00:48:38,290 แอนด์ไอวิชยูจอยแอนด์แฮปพิเนส" 766 00:48:38,373 --> 00:48:43,170 ผมถามว่า "นั่นเนื้อร้องท่อนไหนน่ะ ในเพลงไม่เห็นมีเลยนี่นา 767 00:48:43,253 --> 00:48:46,632 เวอร์ชั่นของลินดา รอนสตัดต์ มีท่อนหลักแค่สองท่อน" 768 00:48:46,715 --> 00:48:48,050 เธอบอกว่า "คุณพูดอะไรน่ะ 769 00:48:48,133 --> 00:48:49,885 ท่อนที่สามน่ะสำคัญที่สุด 770 00:48:50,010 --> 00:48:52,387 มันเป็นท่อนที่สรุปเพลงนี้ 771 00:48:52,471 --> 00:48:54,806 และความรู้สึกทั้งหมดที่ฉันอยากจะสื่อ" 772 00:49:15,869 --> 00:49:21,166 ผมรู้ทันทีว่าจะทำให้เพลงนี้ให้เป็นเพลงที่ดี สำหรับวิตนีย์ ฮิวสตันยังไง 773 00:49:22,918 --> 00:49:27,047 ผมนึกภาพออกด้วยซ้ำว่าถ้าวิตนีย์ร้องเพลงนี้สดๆ 774 00:49:27,130 --> 00:49:31,551 ผู้ชมต้องลุกขึ้นมาปรบมือให้ชนิดที่นั่งไม่ติดแน่ 775 00:49:31,635 --> 00:49:35,013 ฉากที่ 86 เทกที่หนึ่ง เดินกล้อง มาร์กฟิล์ม 776 00:49:35,097 --> 00:49:40,977 เควินบอกว่า "ฟังนะ ผมอยากให้เพลง เริ่มด้วยท่อนอะแคปเปลลา" 777 00:49:41,061 --> 00:49:42,979 ผมไม่อยากให้ท่อนแรกเป็นอะแคปเปลลา 778 00:49:43,063 --> 00:49:45,774 แล้วเควินก็บอกว่า "ไม่ได้ ผมอยากให้ท่อนแรกไม่มีเสียงดนตรี" 779 00:49:45,857 --> 00:49:49,736 ผมก็บอก "ขอเถอะ เควิน โอเค ถ้าเป็นในหนังก็อาจจะได้ 780 00:49:49,820 --> 00:49:51,988 แต่พอผมเอากลับไปทำในสตูดิโอ ผมจะใส่เสียงดนตรีเข้าไป" 781 00:49:52,072 --> 00:49:57,244 หลังจากอัดหมดทั้งเพลงรอบแรก เดวิดส่งเพลงมาให้ผมฟัง 782 00:49:57,327 --> 00:49:58,787 และมันทำให้ผมขนลุก 783 00:49:58,870 --> 00:50:01,415 เขาชอบที่ผมมิกซ์ไว้คร่าวๆ ผมบอกไปว่า "เอาอันนี้ไปใช้ไม่ได้นะ" 784 00:50:01,498 --> 00:50:06,670 และในเรื่องนี้ เราเห็นไม่ตรงกัน 785 00:50:06,753 --> 00:50:08,672 "ผมรู้จักวิตนีย์ ผมรู้ว่าเธอต้องการอะไร" 786 00:50:08,755 --> 00:50:10,966 แน่นอน ไม่มีใครรู้จักวิตนีย์ดีเท่าไคลฟ์ 787 00:50:11,049 --> 00:50:17,389 แล้วเขาก็พูดคำหยาบคายซ้ำเรื่อยๆ ในการคุยกันครั้งนี้ 788 00:50:17,472 --> 00:50:19,015 อย่างที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน 789 00:50:19,099 --> 00:50:24,104 แล้วเขาพูดว่า "เดวิด" เสียงเขาเย็นมาก 790 00:50:24,187 --> 00:50:27,566 "ผมว่าเราควรวางสายก่อนที่เราคนใดคนหนึ่ง จะพูดอะไรให้เสียใจทีหลัง" 791 00:50:27,983 --> 00:50:30,068 คนทั้งค่ายวอร์เนอร์โทรมาหาผม 792 00:50:30,152 --> 00:50:32,112 ผมต้องตัดสินใจ 793 00:50:32,195 --> 00:50:36,950 และผมเลือกเวอร์ชั่นแรก 794 00:51:16,573 --> 00:51:18,450 ใครมันจะคิดว่าวิทยุจะเปิดเพลงแบบนี้ 795 00:51:19,826 --> 00:51:22,078 ผมอยู่ในห้องบอลรูมข้างๆ แม่ของเธอ 796 00:51:22,162 --> 00:51:25,540 แล้ววิตนีย์ก็ขึ้นเวทีมาในชุดสวย แล้วก็ร้องว่า 797 00:51:25,624 --> 00:51:27,876 "อิฟ ไอ…" 798 00:51:27,959 --> 00:51:29,669 แล้วแม่เธอก็หันมาพูดกับผมว่า 799 00:51:31,463 --> 00:51:33,924 "รู้ใช่ไหมว่าที่คุณเห็นอยู่มันคือความยิ่งใหญ่" 800 00:51:34,007 --> 00:51:35,217 จากนั้นเครื่องสายก็เข้ามา 801 00:51:47,187 --> 00:51:51,274 เดวิดเป็นคนเรียบเรียงเพลงนี้ 802 00:51:51,691 --> 00:51:53,735 เราทั้งสามคนชอบมัน 803 00:51:56,863 --> 00:52:01,993 ผมตัวสั่นและขนลุกไปทั้งตัว 804 00:52:02,077 --> 00:52:03,328 ผมปลาบปลื้มสุดๆ 805 00:52:03,411 --> 00:52:04,329 รอเดี๋ยวนะ 806 00:52:12,963 --> 00:52:17,217 อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ "เดอะบอดี้การ์ด" ของวิตนีย์ ฮิวสตัน 807 00:52:17,300 --> 00:52:20,679 อัลบั้มอันดับหนึ่งแห่งปีคือ "ไอวิลออลเวส์เลิฟยู" 808 00:52:20,762 --> 00:52:22,472 รางวัลบันทึกเสียงแห่งปี นี่แหละ 809 00:52:22,556 --> 00:52:24,224 - นี่แหละรางวัลใหญ่ - นี่แหละรางวัลใหญ่ 810 00:52:24,307 --> 00:52:26,184 มันพิเศษมาก จริงๆ นะ 811 00:52:26,268 --> 00:52:30,146 ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เขาโทรมาขอโทษผม 812 00:52:30,230 --> 00:52:32,148 เขาบอกว่า "ทุกคนโทรมากันใหญ่ 813 00:52:32,232 --> 00:52:35,402 บอกว่ามันเป็นเพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุด ที่พวกเขาเคยได้ยินมา 814 00:52:35,485 --> 00:52:38,113 สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ วิตนีย์ ฮิวสตัน 815 00:52:39,739 --> 00:52:44,286 มันช่วยให้ความสัมพันธ์ ของเดวิดกับผมเหนียวแน่นขึ้น 816 00:52:44,369 --> 00:52:46,329 ขอต้อนรับกลับสู่วิตนีย์ ฮิวสตันโชว์ 817 00:52:46,413 --> 00:52:48,373 ฉันว่าฉันรออยู่บนเวทีเลยดีไหม 818 00:52:49,165 --> 00:52:51,293 มันกลายเป็นงานที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม 819 00:52:51,376 --> 00:52:53,628 อัลบั้มชุดนั้นขายได้ 45 ล้านชุด 820 00:52:53,712 --> 00:52:58,049 โปรดิวเซอร์ของ "บอดี้การ์ด" เดวิด ฟอสเตอร์ และไคลฟ์ด้วย รักคุณนะ ขอบคุณมาก 821 00:52:58,133 --> 00:53:02,345 มันช่วยค้ำจุนผมมาตลอด 20 ปี 822 00:53:12,731 --> 00:53:16,610 โดยส่วนใหญ่แล้ว ชีวิตผมมันจะไปเร็ว 100 ไมล์ต่อชั่วโมง 823 00:53:16,693 --> 00:53:19,654 แต่แล้วมันก็จะมีเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น 824 00:53:19,738 --> 00:53:25,994 ที่ทำให้คุณต้องทรุดและหยุดชะงักนิ่งสนิท 825 00:53:27,829 --> 00:53:30,498 ตอนนั้นผมอยู่ในห้องอัดที่ฮอลลีวูด กับไมเคิล โบลตัน 826 00:53:30,582 --> 00:53:33,209 เขาตื๊อผมอยู่นั่น เขาบอกว่า "อยู่ต่ออีกเถอะ ต่ออีกๆ" 827 00:53:34,210 --> 00:53:37,213 ผมอยากจะกลับตั้งแต่เที่ยงคืน แต่สุดท้ายก็อยู่จนตีสอง 828 00:53:39,257 --> 00:53:43,470 บ้านผมอยู่ที่มาลิบู ผมกำลังขับกลับบ้าน มันเป็นคืนฤดูร้อนที่สดใส 829 00:53:46,431 --> 00:53:50,018 ผมขึ้นไปถึงยอดเนินเขา ตอนนั้นตีสองครึ่ง 830 00:53:51,937 --> 00:53:55,398 แล้วผมก็เจอสิ่งนี้กลางถนน 831 00:53:58,109 --> 00:53:59,319 ชูแขนขึ้นแบบนี้ 832 00:54:01,071 --> 00:54:05,158 ผมใช้เวลาคิดหนึ่งวินาที กว่าจะรู้ว่ามีคนอยู่กลางถนน 833 00:54:06,368 --> 00:54:08,703 แล้วก็อีกหนึ่งวินาที ในการคิดว่าจะเหยียบเบรก 834 00:54:09,913 --> 00:54:11,456 แล้วพอถึงวินาทีที่สาม… 835 00:54:19,422 --> 00:54:22,717 จากนั้นก็เหลือแค่ความเงียบงัน 836 00:54:23,551 --> 00:54:25,011 ผมโทร 911 837 00:54:25,095 --> 00:54:26,596 ที่นี่ 911 มีเหตุฉุกเฉินอะไรคะ 838 00:54:26,680 --> 00:54:28,807 "ผมเพิ่งฆ่าคนไป ผม ผมคิดว่าผม… 839 00:54:28,890 --> 00:54:30,558 ผมเพิ่งฆ่าคน รีบมาที่นี่เร็วเข้า" 840 00:54:30,642 --> 00:54:31,559 ผมดื่มมานิดหน่อยก่อนขับ 841 00:54:31,643 --> 00:54:33,478 ผมเพิ่งจะชนคน ผมคิดว่าผมคงฆ่าเขาแล้ว 842 00:54:33,561 --> 00:54:35,313 โอเค เราจะไปช่วยคุณนะ 843 00:54:35,397 --> 00:54:37,148 - คุณอยู่ไหน - แถวๆ ซิคามอร์ 844 00:54:37,232 --> 00:54:39,693 - คุณต้องมานะ ได้โปรด - อยู่กับฉันก่อนนะคะ 845 00:54:39,776 --> 00:54:41,277 ฉันจะถือสายคุยกับคุณก่อนนะ 846 00:54:41,361 --> 00:54:42,946 โอเค แต่คุณต้องมา คุณต้องรีบมาที่นี่ 847 00:54:43,029 --> 00:54:44,572 มาเร็วๆ นะครับ 848 00:54:44,656 --> 00:54:48,827 ผมวิ่งลงไปบนถนน เห็นร่างคนนอนคู้เหมือนทารกในครรภ์ 849 00:54:48,910 --> 00:54:50,662 แล้วก็มีเลือดท่วมเลย 850 00:54:50,745 --> 00:54:53,248 เลือดไหลจากหู จากจมูก จากปาก 851 00:54:53,707 --> 00:54:55,917 ผมทำร่างเขายับเยินไปหมด 852 00:54:56,001 --> 00:55:01,339 จู่ๆ ผมก็เห็นมือเขาขยับนิดหนึ่ง 853 00:55:01,423 --> 00:55:03,258 ผมคิดว่า "พระเจ้าช่วย เขายังไม่ตาย" 854 00:55:06,678 --> 00:55:08,513 รถพยาบาลกำลังมา 855 00:55:10,932 --> 00:55:13,476 เฮลิคอปเตอร์ลงจอด มันวุ่นวายไปหมด 856 00:55:16,187 --> 00:55:19,190 พวกเขาเอาถุงใส่ศพออกมา เพราะคิดว่าชายคนนั้นตายแล้ว 857 00:55:23,653 --> 00:55:26,990 ตอนนั้นตีห้า บนตัวเขาน่าจะมีบัตรประชาชนอยู่ 858 00:55:27,073 --> 00:55:29,325 แล้วพวกเขาก็พูดว่า "รู้ไหมว่าคุณชนใครเข้า" 859 00:55:29,409 --> 00:55:31,161 นั่นเบน เวรีน 860 00:55:31,244 --> 00:55:34,289 - เบน เวรีน - เจ้าแห่งละครเพลง 861 00:55:34,372 --> 00:55:36,374 ผู้ชนะรางวัลโทนี จากละครบรอดเวย์เรื่อง "ปิ๊ปปิ้น" 862 00:55:36,458 --> 00:55:39,669 ร่วมแสดงเรื่อง "จีซัสไครสต์ซูเปอร์สตาร์" และ "แฮร์" 863 00:55:39,753 --> 00:55:42,130 และ "เจลลี่ส์ลาสต์แจม" และแสดงนำเรื่อง "ไกรนด์" 864 00:55:42,213 --> 00:55:45,717 รวมถึงฝากผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยม ในหนังเรื่อง "ออลแดตแจ๊ส" ของบ็อบ ฟอสซี 865 00:55:45,800 --> 00:55:47,427 เบน เวรีน 866 00:55:48,428 --> 00:55:49,387 (โปรดิวเซอร์เพลงดังขับชนเวรีน) 867 00:55:49,471 --> 00:55:53,433 ทุกๆ 60 วินาที ผมจะเห็นภาพตอนปะทะ แบบนั้น ทุกๆ นาที 868 00:55:55,560 --> 00:55:57,312 ร่างผมแหลกไปทั้งร่าง 869 00:55:57,395 --> 00:56:00,815 ผมไปถึงโรงพยาบาล ทุกคนบอกว่าผมคงรอดยาก 870 00:56:00,899 --> 00:56:04,986 ผมต้องเจาะคอ ร่างกายซีกขวาเป็นอัมพาตสนิท 871 00:56:05,070 --> 00:56:09,532 กระดูกต้นขาซ้ายหัก ม้ามแตก ผมเละไม่มีชิ้นดี 872 00:56:10,575 --> 00:56:15,622 ผมคิดว่า "ผมติดคุกแน่ ผมฆ่าคน ผมต้องติดคุก" 873 00:56:16,831 --> 00:56:19,834 หลังจากนั้นสามเดือนพอดี เขาโทรมาหาผม 874 00:56:19,918 --> 00:56:23,129 เขาไม่ได้บอกว่าเขาเป็นใคร "ฮัลโหล" 875 00:56:23,213 --> 00:56:27,050 "เพื่อน นั่นต้องเป็น ผลงานสุดเปรี้ยงตลอดกาลของคุณแน่" 876 00:56:27,133 --> 00:56:28,218 เบนโทรมา 877 00:56:28,301 --> 00:56:31,429 แล้วผมก็ได้รู้ว่าเขารอดชีวิต 878 00:56:33,139 --> 00:56:36,726 ตอนพาเขาบินไปที่ยูซีแอลเอ เจ้าหน้าที่สแกนร่างกายเขาทั้งตัว 879 00:56:36,810 --> 00:56:40,605 แล้วก็พบภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง 880 00:56:40,688 --> 00:56:42,398 เลือดออกในสมองเขาเยอะมาก 881 00:56:42,482 --> 00:56:46,861 เขาถึงได้ทำอะไรบ้าๆ อย่างไปยืนกลางถนน 882 00:56:46,945 --> 00:56:50,365 หมอบอกว่าเขาน่าจะตายตอนเจ็ดโมงเช้า ด้วยอาการเลือดออกในสมอง 883 00:56:51,533 --> 00:56:53,576 ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตผม 884 00:56:53,660 --> 00:56:58,998 กลับกลายเป็นเหตุการณ์พิสดาร ที่ช่วยชีวิตเขาไว้ซะอย่างนั้น 885 00:57:08,341 --> 00:57:11,594 เป้าหมายของผม เวลาเข้าห้องอัดกับนักร้องก็คือ 886 00:57:12,095 --> 00:57:13,805 ผมเชื่อมั่นอยู่ในใจ 887 00:57:13,888 --> 00:57:17,559 ว่าผมจะดึงเอาเสียงร้องที่ดีกว่า ออกมาจากนักร้องคนนี้ได้ 888 00:57:17,642 --> 00:57:21,479 ในแบบที่เขาหรือเธอไม่เคยร้องได้ และจะไม่มีวันร้องได้อีก 889 00:57:24,149 --> 00:57:27,193 มีคนบอกผมว่าที่แคนาดามีนักร้องสาวอยู่คนหนึ่ง 890 00:57:28,027 --> 00:57:29,320 เธอดังอยู่แล้วในควิเบก 891 00:57:29,404 --> 00:57:32,407 เพราะงั้นคงพูดว่าผม "ค้นพบเธอ" ไม่ได้ 892 00:57:33,741 --> 00:57:36,953 ผมบินไปมอนทรีออล ขับรถฝ่าฝนไป 100 ไมล์ 893 00:57:37,912 --> 00:57:41,499 ฉันกำลังแสดงอยู่ในเต็นท์ สภาพอากาศแย่มาก 894 00:57:41,583 --> 00:57:44,752 แต่ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เดวิด ฟอสเตอร์จะมา 895 00:57:44,836 --> 00:57:46,296 เพื่อฟังฉันร้องเพลงในคืนนั้น 896 00:57:47,505 --> 00:57:50,842 ฉันกำลังจะได้พบกับหนึ่งในโปรดิวเซอร์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล 897 00:57:52,886 --> 00:57:54,012 คืนนี้เหรอ 898 00:57:55,096 --> 00:57:59,726 เขามาดูโชว์ แล้วเราก็ได้เจอกันหลังจบโชว์ 899 00:57:59,809 --> 00:58:01,352 ตอนที่ผมได้ยินเธอร้อง… 900 00:58:04,939 --> 00:58:10,445 มันเหมือนกับเวลาที่คุณดูหนัง แล้วทุกอย่างมันก็… 901 00:58:18,578 --> 00:58:21,331 ตัวเธอ และเสียงร้องของเธอ 902 00:58:21,831 --> 00:58:25,293 มันเป็นปรากฏการณ์ที่น่าทึ่ง จนผมต้องร้องว่า "พระเจ้า 903 00:58:25,376 --> 00:58:29,756 คนเป็นล้านๆ จะต้องรักผู้หญิงคนนี้" 904 00:58:31,090 --> 00:58:32,425 แล้วก็เป็นจริง 905 00:58:33,009 --> 00:58:35,053 คุณช่างโดดเด่นจริงๆ 906 00:58:35,136 --> 00:58:37,263 เขาบอกว่าเขาสนใจที่จะ 907 00:58:37,347 --> 00:58:41,809 โปรดิวซ์บางเพลงให้กับ อัลบั้มเพลงภาษาอังกฤษชุดแรกของฉัน 908 00:58:41,893 --> 00:58:45,271 ฉันบอกกับตัวเองว่า "ไม่มีทางหรอก 909 00:58:45,355 --> 00:58:47,941 ไว้มันเกิดขึ้นจริงแล้วฉันถึงจะเชื่อ" 910 00:58:59,869 --> 00:59:03,206 - พระเจ้า คุณร้องดีมากเลย - จริงเหรอ 911 00:59:03,831 --> 00:59:08,002 ฉันไม่อยากเชื่อว่าเดวิดจะมาโปรดิวซ์เพลง ให้กับนักร้องไม่มีชื่อเสียง 912 00:59:08,086 --> 00:59:10,505 อัลบั้มเพลงภาษาอังกฤษชุดแรก ฉันเชื่อไม่ลงเลย 913 00:59:48,543 --> 00:59:49,711 มันยากมาก 914 00:59:50,253 --> 00:59:51,379 ฉันเขินไปหมด 915 00:59:52,755 --> 00:59:54,465 ฉันอยากให้เดวิดประทับใจ 916 00:59:56,634 --> 00:59:59,846 ให้เขาเห็นว่าโอกาสที่เขาหยิบยื่นให้ฉัน 917 00:59:59,929 --> 01:00:01,472 มันจะไม่สูญเปล่า 918 01:00:02,390 --> 01:00:04,183 ฉันจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง 919 01:00:05,101 --> 01:00:09,063 ผมคิดโน้ตที่ยากชนิดไม่มีใครร้องได้ มาให้เซลีนร้อง 920 01:00:09,147 --> 01:00:14,235 ทั้งดัง ทั้งสูง ทั้งลากยาว บ้าบอเหลือเชื่อ 921 01:00:29,834 --> 01:00:32,337 เรื่องที่น่าสะพรึงคือเธอร้องแค่เทกเดียว 922 01:00:32,420 --> 01:00:35,006 แล้วมันก็เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ 923 01:00:35,590 --> 01:00:37,675 จากนั้นผมก็ให้เธอร้องอีกเจ็ดรอบ 924 01:00:38,051 --> 01:00:42,055 ก็คือ เขาชื่อเดวิด ฟอสเตอร์ และเขาคือคนที่ถูกไปเสียทุกอย่าง 925 01:00:42,138 --> 01:00:44,098 เพราะงั้นเขาจึงเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ 926 01:00:44,182 --> 01:00:47,143 และมันเป็นเรื่องจริง มันยอดมากๆ 927 01:00:47,226 --> 01:00:50,688 เท่าที่ผมจำได้ ผมอำเธอเล่นว่า 928 01:00:50,772 --> 01:00:53,900 "ถ้าคุณร้องโน้ตตัวนั้น ให้นานเท่าที่ผมต้องการไม่ได้ 929 01:00:53,983 --> 01:00:56,235 วิตนีย์ ฮิวสตันอยู่ที่ห้องอัดซี 930 01:00:56,319 --> 01:00:58,655 ผมจะไปตามเธอมาช่วยลากโน้ตตัวนั้นให้" 931 01:00:58,738 --> 01:00:59,614 แค่ล้อเล่น 932 01:00:59,697 --> 01:01:01,491 วันนั้นเป็นวันหนึ่งที่เธอเกลียดผมจริงๆ 933 01:01:01,574 --> 01:01:02,450 ผมรู้ดี 934 01:01:03,284 --> 01:01:05,995 พอคุณเริ่มทำงานกับเขา คุณจะไม่ได้นั่ง 935 01:01:07,330 --> 01:01:10,291 เดวิดรู้ดีว่าเขาต้องการอะไร 936 01:01:11,668 --> 01:01:15,254 เขารู้ว่าอยากได้อะไร และเขาจะเคี่ยวเข็ญคุณ 937 01:01:18,216 --> 01:01:20,343 เขาดึงสิ่งที่ดีที่สุดในตัวคุณออกมา 938 01:01:21,219 --> 01:01:25,390 เราแค่ต้องโดดลงเรือไปกับเขา แล้วก็เชื่อใจเขา 939 01:01:25,473 --> 01:01:28,184 ต้องเชื่อ ไม่เชื่อก็ไปซะ 940 01:01:57,213 --> 01:02:03,010 หลายเพลงของฉันผ่านการโปรดิวซ์ หรือแต่งขึ้นโดยเพื่อนที่แสนดีคนนี้ 941 01:02:04,637 --> 01:02:08,141 สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ เดวิด ฟอสเตอร์ค่ะ 942 01:02:21,320 --> 01:02:23,406 ฉันอยากใช้โอกาสในคืนนี้ 943 01:02:23,489 --> 01:02:26,117 ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่คุณทำให้กับฉัน 944 01:02:29,036 --> 01:02:33,332 ให้กับชีวิต กับอาชีพการงาน คุณคือคนแรกที่ยื่นมือมาหาฉัน 945 01:02:33,416 --> 01:02:34,876 คุณอยู่เคียงข้างฉัน 946 01:02:34,959 --> 01:02:37,879 และการที่คุณมายืนอยู่บนเวทีนี้กับฉัน 947 01:02:37,962 --> 01:02:39,255 มันทำให้ฉันยิ่งกว่าดีใจ 948 01:02:47,722 --> 01:02:50,808 เดวิดเป็นคนมีระดับ เขาทำแต่เพลงมีระดับ 949 01:02:53,311 --> 01:02:55,897 คุณอาจจะได้เพลงที่ยิ่งใหญ่มากๆ 950 01:02:55,980 --> 01:02:58,483 ซึ่งจะทำให้คุณอยู่ได้ไปทั้งชีวิต 951 01:02:59,650 --> 01:03:01,152 ทำให้คุณเลี้ยงตัวเองได้ 952 01:03:04,113 --> 01:03:07,074 เดวิดต้องการเพลงที่จะคงอยู่ไปตลอดกาล 953 01:03:27,845 --> 01:03:29,764 เมื่อสองปีก่อน ผมพูดไว้ว่า 954 01:03:29,889 --> 01:03:32,099 ผมจะไม่ทำเพลงอีกแล้ว ซึ่งผมก็ทำอีก 955 01:03:32,183 --> 01:03:33,684 แต่นอกจากเพลงของไมเคิล บูเบลแล้ว 956 01:03:33,768 --> 01:03:34,769 ผมทำตามคำพูด 957 01:03:34,852 --> 01:03:36,646 นั่นเป็นเพลงชุดเดียวที่ผมทำตลอดสองปี 958 01:03:36,979 --> 01:03:38,231 เขาไม่รู้วันหยุดด้วยซ้ำ 959 01:03:38,314 --> 01:03:39,232 เดวิด นี่อีสเตอร์นะ 960 01:03:39,315 --> 01:03:41,734 เขาก็บอกว่า "อะไรนะ ผมไม่สน วันนี้เราทำงาน" 961 01:03:41,818 --> 01:03:43,569 สำหรับคนที่ไม่คิดจะทำเพลงอีกแล้ว 962 01:03:43,653 --> 01:03:46,113 ผมก็ยังคงงานยุ่งอยู่ดี 963 01:03:46,197 --> 01:03:47,323 - มันบ้ามาก - คุณงานยุ่งสุดๆ 964 01:03:52,787 --> 01:03:56,207 ผมเชื่อว่าในโลกดนตรีมีพื้นที่ว่างอยู่เต็มไปหมด 965 01:03:56,290 --> 01:03:59,085 ช่องว่างสำหรับไมเคิล บูเบลนั้นเปิดกว้าง 966 01:03:59,168 --> 01:04:01,254 คนอื่นที่ทำเพลงแนวนั้นตายไปหมดแล้ว 967 01:04:02,421 --> 01:04:05,258 มีคนบอกผมว่าลูกสาวของนายกรัฐมนตรี กำลังจะแต่งงาน 968 01:04:05,341 --> 01:04:07,385 และพวกเขาเป็นเพื่อนกับเดวิด ฟอสเตอร์ 969 01:04:07,468 --> 01:04:10,179 และเดวิดผู้ยิ่งใหญ่ก็จะมาที่งานแต่ง 970 01:04:10,847 --> 01:04:13,224 ไบรอัน มัลโรนี อดีตนายกรัฐมนตรีแคนาดา 971 01:04:13,307 --> 01:04:14,976 จัดงานแต่งงานให้กับลูกสาว 972 01:04:15,059 --> 01:04:17,311 เขาบอกว่า "คุณต้องมาฟังเจ้าหนุ่ม ที่มาร้องเพลงในงานแต่งเรา 973 01:04:17,395 --> 01:04:18,980 เขาสุดยอดมาก" 974 01:04:19,063 --> 01:04:22,400 ตอนที่เราไปถึงงานแต่ง ผมบอกเดวิด 975 01:04:22,483 --> 01:04:25,945 "เดวิด ผมอยากให้คุณได้ฟัง เจ้าหนุ่มที่จะมาร้องเพลงที่นี่" 976 01:04:26,028 --> 01:04:27,530 ผมบอก "อ๋อ ครับ ดีจัง" 977 01:04:27,613 --> 01:04:29,657 และเขาก็บอกว่า "มาหน้าเวทีสิ เขาจะร้องแล้ว" 978 01:04:29,740 --> 01:04:34,787 ฟอสเตอร์บอกผมว่า "ท่านนายกฯ ฟังนะ ผมเลี้ยงชีพด้วยงานนี้ 979 01:04:34,871 --> 01:04:35,997 ผมเบื่องานนี้แล้ว" 980 01:04:36,080 --> 01:04:38,374 หมอนี่เดินออกมา เขาหล่อมาก 981 01:04:38,457 --> 01:04:39,625 แล้วเขาก็… 982 01:04:44,672 --> 01:04:46,340 ทุกความสนใจมาอยู่ที่เขา 983 01:04:50,803 --> 01:04:52,597 มันเหมือนในหนัง ทุกอย่างหายไปหมด 984 01:04:52,680 --> 01:04:58,853 เสียงอึกทึกในงานแต่ง เสียงจานชาม เสียงโฉ่งฉ่าง เสียงพูดคุย 985 01:04:58,936 --> 01:05:02,064 สิ่งเดียวที่ผมเห็นคือไมเคิล บูเบล 986 01:05:06,694 --> 01:05:07,695 ผมมองไป 987 01:05:07,778 --> 01:05:09,947 ผมเห็นไบรอัน มัลโรนีผู้ทรงเกียรติ 988 01:05:10,031 --> 01:05:14,952 เขาเอาแขนคล้องคอเดวิดไว้ และเหมือนจะพูดว่า "ดูเจ้าเด็กนี่สิ เดวิด" 989 01:05:15,286 --> 01:05:18,581 และผมบอกว่า "ผมกำลังจะช่วยคุณครั้งมโหฬาร" 990 01:05:19,749 --> 01:05:23,794 เสียงเขาเหมือนลูกผสม ระหว่างแฟรงก์ ซินาตรากับบ็อบบี้ ดาริน 991 01:05:23,878 --> 01:05:25,463 เขาเป็นนักร้องบัลลาด 992 01:05:25,546 --> 01:05:28,007 เขาร้องเพลงเร็วก็ได้ 993 01:05:28,090 --> 01:05:29,800 - เขาน่ะ… - ใช่เลย 994 01:05:29,884 --> 01:05:30,885 เขาเป็นคนพิเศษ 995 01:05:33,429 --> 01:05:36,057 ผมรู้ทันทีเลยว่าหมอนี่มีอะไรพิเศษ 996 01:05:36,140 --> 01:05:37,558 และคืนนั้นผมบอกเขาว่า 997 01:05:37,642 --> 01:05:41,687 "ฉันจะพานายไปลอสแอนเจลิส นี่ 5,000 ดอลลาร์ จ่ายค่านั่นนี่ให้เรียบร้อย 998 01:05:41,771 --> 01:05:43,898 นายไปอยู่เกสต์เฮาส์ฉัน 999 01:05:43,981 --> 01:05:45,733 และห้ามกลับจนกว่าจะทำเพลงเสร็จ" 1000 01:05:46,192 --> 01:05:50,279 เดวิดเดินมาหาผม เขาบอกว่า "นี่ไมค์ นายมีแนวทางของตัวเอง 1001 01:05:51,364 --> 01:05:54,450 อยากไปแอลเอไหม เราน่าจะทำเพลงด้วยกันได้" 1002 01:05:54,533 --> 01:05:58,162 จำได้ว่าคืนนั้นผมกลับบ้าน โทรหาปู่ 1003 01:05:58,245 --> 01:05:59,830 ผมกระโดดโลดเต้นตรงโถงบ้าน 1004 01:05:59,914 --> 01:06:03,501 เพราะผมได้พบหนึ่งในคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 1005 01:06:03,584 --> 01:06:04,919 และเขาชอบผม 1006 01:06:05,002 --> 01:06:07,463 วันนี้มันน่าตื่นเต้นมากเพราะเราจะอัดเครื่องสาย 1007 01:06:07,546 --> 01:06:10,758 ซึ่งไมเคิลไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย และผมต้องไปทำงานแล้ว 1008 01:06:11,342 --> 01:06:13,052 ครั้งแรกที่เราทำงานด้วยกัน 1009 01:06:13,135 --> 01:06:15,513 ผมเป็นแค่เด็ก ที่ไม่อยากเชื่อว่าได้ไปอยู่ตรงนั้นจริงๆ 1010 01:06:15,596 --> 01:06:17,598 ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเขา 1011 01:06:18,766 --> 01:06:20,601 ในทางดนตรี เรื่องนี้สำคัญกับผมมาก 1012 01:06:21,560 --> 01:06:24,188 ทุกวันที่ผมกลับบ้านพร้อมกับเดโม 1013 01:06:24,271 --> 01:06:28,484 เพลงมันดียิ่งกว่าที่ผมเคยได้ฟังมาก่อนมาก 1014 01:06:55,219 --> 01:06:56,679 เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับธุรกิจ 1015 01:06:57,680 --> 01:06:59,765 ความสัมพันธ์ของเราไม่มีธุรกิจมาเกี่ยว 1016 01:06:59,849 --> 01:07:01,183 มันเป็นเรื่องส่วนตัวล้วนๆ 1017 01:07:07,440 --> 01:07:09,900 ผมต้อนเขาจนมุม และบอกว่า "ฟังนะ 1018 01:07:09,984 --> 01:07:12,445 ผมคิดว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันพิเศษ 1019 01:07:12,528 --> 01:07:15,448 พาผมไปวอร์เนอร์บราเธอส์ ให้ผมได้นำเสนอตัวเอง 1020 01:07:15,531 --> 01:07:18,159 ถ้าพวกเขาไม่เซ็นสัญญากับผม ผมจะไม่รบกวนคุณอีก" 1021 01:07:19,160 --> 01:07:24,498 สี่วันต่อมา เขาโทรมาและบอกผมตามนี้ 1022 01:07:25,499 --> 01:07:28,669 "มาดูกันว่าไอ้เบื๊อกวัย 25 มันรู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจดนตรีบ้าง" 1023 01:07:33,007 --> 01:07:34,717 ประธานของวอร์เนอร์บราเธอส์ ทอม วอลลีย์ 1024 01:07:34,800 --> 01:07:35,968 มองผมแล้วพูดว่า 1025 01:07:36,052 --> 01:07:39,221 "สวัสดีไมเคิล ทำไมเราต้องเซ็นสัญญากับคุณ เรามีซินาตราอยู่กับค่ายรีพรีสแล้ว" 1026 01:07:39,305 --> 01:07:42,224 และผมบอกว่า "ด้วยความเคารพ คุณวอลลีย์ 1027 01:07:42,308 --> 01:07:43,225 ซินาตราตายไปแล้ว" 1028 01:07:46,103 --> 01:07:48,522 ผมบอกว่า "ให้โอกาสผม ผมจะทุ่มเททำงานให้คุณเต็มที่ 1029 01:07:48,606 --> 01:07:49,440 ผมรักดนตรีแนวนี้ 1030 01:07:49,523 --> 01:07:52,443 และไม่มีเหตุผลอะไรที่เราไม่ควร ต่ออายุให้เพลงแนวนี้" 1031 01:07:54,320 --> 01:07:56,530 ผมมันเป็นใคร ผมเป็นแค่เด็กอายุ 25 1032 01:07:57,490 --> 01:08:00,868 เดวิดเอาอนาคตของเขามาวางเดิมพัน 1033 01:08:01,619 --> 01:08:04,163 หลังจากนั้นไม่กี่วัน มีโทรศัพท์มาหาผม 1034 01:08:04,246 --> 01:08:08,417 เดวิด ฟอสเตอร์บอกว่า "นี่ไมค์ เพื่อนยาก" ผมบอก "ไง เดวิด" 1035 01:08:08,501 --> 01:08:11,212 เขาบอก "ขอต้อนรับสู่ ครอบครัววอร์เนอร์บราเธอส์ 1036 01:08:11,295 --> 01:08:12,588 นายปลอดภัยหายห่วง" 1037 01:08:15,299 --> 01:08:18,094 ผู้ชนะรางวัลนี้ได้แก่ไมเคิล บูเบล 1038 01:08:19,887 --> 01:08:22,598 รางวัลจูโนปีนี้เป็นของไมเคิล บูเบล 1039 01:08:23,057 --> 01:08:24,934 ไมเคิล บูเบลครับ ไมเคิล ขึ้นมาเลย 1040 01:08:25,017 --> 01:08:26,769 ไมเคิล บูเบล 1041 01:08:26,852 --> 01:08:28,562 โปรดต้อนรับ ไมเคิล บูเบล 1042 01:08:32,108 --> 01:08:32,983 (ไมเคิล บูเบล วันไนต์โอนลี่) 1043 01:08:44,245 --> 01:08:47,748 ความจริงก็คือ เขาคือสมบัติประจำชาติของแคนาดา 1044 01:08:47,832 --> 01:08:50,876 เขารู้ว่าเขาต้องการอะไร เขารู้ว่าเขาเป็นใคร 1045 01:08:50,960 --> 01:08:53,629 และผมคิดว่าเราทำงานกันได้เข้าขาดีมาก 1046 01:08:55,089 --> 01:08:56,298 ผมไม่คิดว่ามันจะจบเร็วๆ นี้ 1047 01:08:58,634 --> 01:09:03,472 การได้ใช้เวลา 17 ถึง 18 ปีที่ผ่านมากับเขา มันสุดยอดจริงๆ 1048 01:09:05,057 --> 01:09:06,058 เรากลายมาเป็น… 1049 01:09:07,101 --> 01:09:08,561 เหมือนกับ พี่น้อง 1050 01:09:09,812 --> 01:09:12,648 เรามีความเกี่ยวพันกันทางอารมณ์และความภักดี 1051 01:09:13,649 --> 01:09:15,985 เพราะผมรักเขาน่ะ 1052 01:09:23,784 --> 01:09:25,744 - เดวิด ฟอสเตอร์สุดเจ๋ง - โอเค 1053 01:09:27,538 --> 01:09:30,207 มันคือถนนแห่งความฝันที่แตกสลาย 1054 01:09:30,291 --> 01:09:34,628 ผมพูดกับทุกคนว่าการทำเพลง สำหรับเรามันง่ายระดับอนุบาล 1055 01:09:34,712 --> 01:09:37,256 เมื่อเทียบกับความท้าทาย ที่เราต้องเอาชนะในบรอดเวย์ 1056 01:09:37,339 --> 01:09:39,508 ทุกวันจันทร์ พุธและศุกร์ 1057 01:09:39,592 --> 01:09:43,220 พอผมตื่น ผมจะคิดว่าตัวเองสุดยอดที่สุดในโลกแล้ว 1058 01:09:43,304 --> 01:09:45,806 ในวันอังคาร พฤหัสบดีและเสาร์ 1059 01:09:45,890 --> 01:09:48,642 ผมคิดว่าผมห่วยและไม่เคยทำอะไรสำเร็จเลย 1060 01:09:48,726 --> 01:09:52,104 ผมต้องเริ่มทำอะไรสักอย่าง ผมมันของเก๊ ผมมันตัวปลอม 1061 01:09:52,188 --> 01:09:54,315 ส่วนวันอาทิตย์ผมจะไม่คิดอะไรทั้งนั้น 1062 01:09:54,398 --> 01:09:56,192 นั่นคือความจริง 1063 01:09:56,275 --> 01:09:58,485 ไอเดียแรกก็คือฉากเปิด 1064 01:09:58,569 --> 01:10:01,697 มันอาจจะเริ่มด้วยฉากเปล่าๆ จากนั้นเด็กสองคน… 1065 01:10:01,780 --> 01:10:04,658 การไม่ได้คุมทุกอย่างมันยากมากสำหรับผม 1066 01:10:04,742 --> 01:10:07,161 ความสำเร็จส่วนใหญ่ของผมเกิดขึ้น 1067 01:10:07,244 --> 01:10:09,955 ตอนที่ผมได้คุมทุกอย่างและทำงานคนเดียว 1068 01:10:10,039 --> 01:10:13,167 ฉะนั้นแน่นอน ผมไปบรอดเวย์พร้อมกับนิสัยแบบนี้ 1069 01:10:13,250 --> 01:10:15,252 อย่ามายุ่งกับผม ให้ผมทำเรื่องของผม 1070 01:10:15,336 --> 01:10:18,505 แต่บรอดเวย์เป็นการทำงานร่วมกัน ที่ต่างออกไปมากๆ 1071 01:10:18,589 --> 01:10:19,673 มันคือการผจญภัย 1072 01:10:19,757 --> 01:10:20,758 คุณต้องเริ่มตั้งแต่ต้น 1073 01:10:20,841 --> 01:10:23,510 ต้องเริ่มวางอิฐเป็นรากฐานแล้วไปต่อจากจุดนั้น 1074 01:10:24,136 --> 01:10:26,305 แต่งเพลง ขยำมันทิ้ง แต่งอีกเพลง ขยำมันทิ้งอีก 1075 01:10:26,388 --> 01:10:29,808 เขียน 30 เพลง ขยำมันทิ้งทั้งหมด เริ่มใหม่อีกครั้ง บทใหม่ 1076 01:10:29,892 --> 01:10:33,854 รู้ไหมว่าเดวิด ฟอสเตอร์ไม่เคยทำอะไร เขาไม่เคยตีกรอบจำกัดตัวเอง 1077 01:10:33,938 --> 01:10:37,274 ถ้าเขาได้ยินเสียงนักร้องบรอดเวย์ในหัว เขาก็จะทำเลย 1078 01:10:37,358 --> 01:10:38,984 ฉันกล้าพูดว่า 1079 01:10:39,068 --> 01:10:41,612 คนจะได้เห็นด้านใหม่ของเดวิด ฟอสเตอร์ 1080 01:10:41,695 --> 01:10:45,157 เขียนอีกสิบเพลง บทใหม่ฉบับที่สาม บทใหม่ฉบับที่สี่ มีเรื่องราวใหม่ 1081 01:10:45,241 --> 01:10:46,700 ตอนนี้เธอไปฮอลลีวูดแล้ว 1082 01:10:46,784 --> 01:10:49,620 และมันก็ มันบ้าคลั่ง 1083 01:10:49,703 --> 01:10:52,581 ผมพูดเสมอว่า "เราเหลือฤดูร้อนอีกกี่ครั้ง" 1084 01:10:53,165 --> 01:10:55,376 ด้วยวัย 68 ถ้าผมโชคดี 1085 01:10:55,459 --> 01:10:58,545 ผมอาจจะเหลือฤดูร้อนอีก 15 ครั้ง ซึ่งนั่นไม่ได้มากเลย 1086 01:10:58,629 --> 01:11:00,589 เป็นตัวเลขที่เห็นชัดว่าไม่มาก 1087 01:11:02,132 --> 01:11:05,010 แต่ผมจะไม่ยอมไปไหน จนกว่าจะได้สร้างผลงานในบรอดเวย์ 1088 01:11:14,687 --> 01:11:20,859 เราแต่งเพลงให้กับ เด็กผู้หญิงตัวน้อยที่เดินทางเข้าป่าใหญ่ 1089 01:11:20,943 --> 01:11:23,237 ฉันเลยพูดว่า "เรามาแต่งบทภาวนาเล็กๆ น้อยๆ กันเถอะ" 1090 01:11:24,113 --> 01:11:27,783 เราอยากให้เซลีนมาพากย์เสียงเป็นแม่ ในหนังเรื่องนี้ 1091 01:11:30,202 --> 01:11:32,496 และเธอตอบตกลง 1092 01:11:32,579 --> 01:11:34,915 เพลงนี้ชื่อ "อะมาเธอส์เพรเยอร์" เป็นเพลงที่งดงามมาก 1093 01:11:34,999 --> 01:11:37,459 และผู้ดูแลด้านดนตรีของหนังก็บอกว่า 1094 01:11:37,543 --> 01:11:39,211 "คุณควรทำให้เพลงนั้นกลายเป็นเพลงสำคัญ" 1095 01:11:39,295 --> 01:11:43,757 ฉันบอกว่า "เดวิด เราต้องทำอะไรสักอย่าง ให้เพลงนี้มันมีคนฟัง" 1096 01:11:43,841 --> 01:11:46,385 ฉันไม่รู้ว่าเราได้โบเชลลีมาได้ยังไง 1097 01:11:46,468 --> 01:11:49,430 แต่ฉันจำได้ว่าฉันอยู่กับเดวิดที่นิวยอร์ก 1098 01:11:49,513 --> 01:11:52,891 และโบเชลลีก็มาร้องเพลง แล้วฉันก็คิดว่า "ว้าว" 1099 01:11:58,981 --> 01:12:01,191 ยังไม่มีท่อนคอรัส ไม่มีเลย 1100 01:12:01,275 --> 01:12:04,737 อันเดรียกับผมทำเพลงด้วยกัน ตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา 1101 01:12:04,820 --> 01:12:06,447 อันเดรีย โบเชลลี 1102 01:12:27,968 --> 01:12:33,474 อันเดรีย โบเชลลีคือหนึ่งในคนที่มี เสียงที่น่าประทับใจที่สุดตลอดกาล 1103 01:12:33,557 --> 01:12:35,768 เขาเป็นศิลปินที่มหัศจรรย์มาก 1104 01:12:35,851 --> 01:12:39,521 ช่างเป็นเกียรติของฉันจริงๆ ที่พวกเขาเลือกให้ฉันร้อง 1105 01:12:39,605 --> 01:12:41,231 หนึ่งในเพลงที่งดงามที่สุด 1106 01:12:43,609 --> 01:12:47,529 ผมเลยแต่งท่อนบีกับท่อนเวิร์สที่เพิ่มเข้ามา 1107 01:12:47,613 --> 01:12:49,031 อัดเสียงเซลีนเสร็จ 1108 01:12:49,615 --> 01:12:51,950 แล้วผมก็พาโบเชลลีมานิวยอร์ก 1109 01:12:52,034 --> 01:12:53,952 อัดเสียงร้องเขาคู่กับเสียงเซลีน 1110 01:12:54,036 --> 01:12:56,163 และผมว่าเราได้สร้างมนตร์วิเศษขึ้นมา 1111 01:13:09,635 --> 01:13:13,138 เพลงนี้ไม่ใช่เพลงฮิต แต่มันเป็นช่วงเวลา 1112 01:13:13,514 --> 01:13:19,228 นี่คือเพลงที่จะคงอยู่ตลอดไป และนั่นคือสิ่งที่เดวิดถนัด 1113 01:13:19,311 --> 01:13:20,771 นั่นคือจุดแข็งของเขา 1114 01:13:22,648 --> 01:13:27,111 ผมไม่ได้จินตนาการไว้เลยว่ามันจะออกมาแบบนั้น 1115 01:13:27,194 --> 01:13:31,865 ด้วยการเรียบเรียงของเดวิด และเสียงร้องขั้นสุดยอดของเซลีน 1116 01:13:33,367 --> 01:13:35,119 มันเป็นเพลงชั้นเลิศอย่างไม่ต้องสงสัย 1117 01:13:35,202 --> 01:13:38,122 และเพลงชั้นเลิศก็ต้องการส่วนผสมครบทุกอย่าง 1118 01:13:38,205 --> 01:13:42,126 มันต้องการคนเรียบเรียงชั้นเลิศ และนักร้องชั้นเลิศ 1119 01:13:42,209 --> 01:13:46,088 ถ้าจะให้เพลงเป็นผลงานชิ้นเอก มันจะขาดอะไรไปไม่ได้ 1120 01:14:20,205 --> 01:14:23,208 จากหนังเรื่องนี้ ที่ทำให้วอร์เนอร์บราเธอส์ขายหน้า 1121 01:14:23,292 --> 01:14:24,626 และทำให้พวกเขาสูญเงินไปเยอะ 1122 01:14:24,710 --> 01:14:29,339 เราได้เพลงที่มีชีวิตเป็นของตัวเอง และยังมีคนฟังจนถึงทุกวันนี้ 1123 01:14:30,007 --> 01:14:34,470 มันกลายมาเป็นวัฒนธรรมป็อปของเรา 1124 01:14:36,638 --> 01:14:38,182 ตอนนั้นเป็นงานประกาศรางวัลแกรมมี 1125 01:14:38,265 --> 01:14:40,267 โบเชลลีไม่สามารถมาร่วมซ้อมได้ 1126 01:14:40,350 --> 01:14:43,103 ผมเลยต้องหาคนมาร้องท่อนของเขา 1127 01:14:43,187 --> 01:14:45,189 ในเพลง "เดอะเพรเยอร์" เพื่อซ้อมกับเซลีน 1128 01:14:46,940 --> 01:14:50,444 ผมโทรหาเพื่อนผม เซท ริกส์ ซึ่งเป็นครูสอนร้องเพลงชั้นยอด 1129 01:14:50,527 --> 01:14:54,448 เสียงกลางๆ เสียงต่ำๆ เสียงกลางๆ เสียงสูง 1130 01:14:54,531 --> 01:14:55,782 ผมบอกว่า "เซท นายพอจะมีใคร 1131 01:14:55,866 --> 01:14:58,452 ที่เสียงเหมือนอันเดรีย โบเชลลีไหม" 1132 01:14:58,577 --> 01:15:02,039 เขาบอก "มีสิ ฉันมีคนที่เสียงเหมือนเขา สักห้าหรือสิบคนได้" 1133 01:15:02,122 --> 01:15:03,790 เขาส่งเทปมาให้ผม 1134 01:15:03,874 --> 01:15:09,213 สามคนแรก พวกเขาแย่มาก เข้าขั้นเลวร้ายเลย 1135 01:15:09,296 --> 01:15:10,923 พอถึงคนที่สี่ 1136 01:15:11,006 --> 01:15:13,342 เขาคือจอช โกรแบนในวัย 17 1137 01:15:13,425 --> 01:15:14,426 ฟังนะ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ 1138 01:15:14,510 --> 01:15:17,888 ที่ผ่านมาหลายๆ คนก็พูดแต่เรื่องดีๆ กันทั้งนั้น 1139 01:15:18,555 --> 01:15:21,350 และฉันคิดว่าที่นายควรทำ คือไม่จำเป็นต้องพูดให้มันดีนัก 1140 01:15:21,433 --> 01:15:22,726 เข้าใจแล้วครับ 1141 01:15:25,145 --> 01:15:27,940 ผมเป็นแฟนซอนด์ไฮม์ ผมเป็นแฟนแอนดรูว์ ลอยด์ เวบเบอร์ 1142 01:15:28,023 --> 01:15:29,399 ผมจะปิดประตูแล้วร้องตาม 1143 01:15:29,483 --> 01:15:31,610 เพลงจาก "เลส์มิเซราบล์" แบบเต็มพลังเสียงในห้องนอน 1144 01:15:33,570 --> 01:15:35,989 ผมโทรหาเซทและบอกว่า "ฉันอยากได้เบอร์เขา" 1145 01:15:36,073 --> 01:15:37,824 สายแรกที่ผมได้รับจากเดวิด 1146 01:15:37,908 --> 01:15:40,494 "นายมีอะไรต้องทำตอนบ่ายสาม วันนั้นกับวันนี้ไหม" 1147 01:15:40,994 --> 01:15:43,789 ผมบอก "มีเรียนครับ" 1148 01:15:43,872 --> 01:15:44,873 "งั้นเลิกเร็วหน่อย 1149 01:15:44,957 --> 01:15:47,042 เพราะนายต้องมาที่ชไรน์ออดิทอเรียม 1150 01:15:47,125 --> 01:15:49,086 ฉันเขียนเพลงชื่อ "เดอะเพรเยอร์" 1151 01:15:49,169 --> 01:15:50,671 มันถูกเสนอชื่อเข้าชิงแกรมมี 1152 01:15:50,754 --> 01:15:53,632 อันเดรียตกเครื่องที่เยอรมนี เขาขึ้นเครื่องบินมาไม่ทัน 1153 01:15:53,715 --> 01:15:56,385 ฉันเลยอยากให้นายมาร้องคู่กับเซลีน จนกว่าเขาจะมาถึง" 1154 01:15:56,468 --> 01:15:58,095 และเขาก็บอกว่า "ผมทำไม่ได้ครับ" 1155 01:15:58,178 --> 01:16:02,266 ตอนนี้แหละที่ความซื่อมันเล่นงานผม 1156 01:16:02,349 --> 01:16:04,518 ผมถามว่า "ทำไมล่ะ" เขาบอกว่า "ผมเป็นนักร้องแบริโทน 1157 01:16:04,601 --> 01:16:06,103 ผมแตะโน้ตสูงๆ พวกนั้นไม่ถึง" 1158 01:16:06,186 --> 01:16:07,854 ตอนเขาว่าอยากให้ผม ไปร้องเพลง "เดอะเพรเยอร์" 1159 01:16:07,938 --> 01:16:11,066 ผมฟังเพลงนั้น ผมมีซีดีอยู่ ผมก็ว่าผมทำไม่ได้ 1160 01:16:11,149 --> 01:16:14,611 ผมจะต้องใส่กางเกงรัดติ้วแค่ไหน 1161 01:16:14,695 --> 01:16:16,655 ถึงจะร้องเพลงนี้ให้กับคุณได้ 1162 01:16:16,738 --> 01:16:21,368 "นอกจากนายจะทำได้แล้ว นายยังต้องทำเพราะฉันไม่มีทางเลือก 1163 01:16:21,451 --> 01:16:24,830 ไม่มีใครอื่นนอกจากนาย และเรามาถึงนาทีสุดท้ายแล้ว" 1164 01:16:24,913 --> 01:16:27,082 "ขอบคุณ แต่ผมต้องทำการบ้านให้เสร็จ 1165 01:16:27,165 --> 01:16:28,792 ขอบคุณมากครับ ผมรักคุณ ขอบคุณมาก" 1166 01:16:28,875 --> 01:16:31,795 แล้วผมก็วางสาย ผมบอกพ่อแม่ 1167 01:16:31,878 --> 01:16:34,423 "ใครโทรมาเหรอ" "อ๋อ เดวิด ฟอสเตอร์น่ะ" 1168 01:16:34,506 --> 01:16:37,634 "อ้าว เขาโทรหาลูกเหรอ" "ครับ ใช่ เขาโทรหาผม 1169 01:16:37,718 --> 01:16:39,011 มันบ้ามาก ผมไม่อยากจะเชื่อเลย 1170 01:16:39,094 --> 01:16:41,388 เขาขอให้ผมไปร้อง "เดอะเพรเยอร์" เคยฟังใช่ไหม 1171 01:16:41,471 --> 01:16:42,389 เสียงมันสูงปรี๊ด 1172 01:16:42,472 --> 01:16:44,683 ผมไม่อยากทำตัวเองขายหน้า ผมทำไม่ได้ 1173 01:16:44,766 --> 01:16:46,560 ไม่ได้แน่ ใช่ไหมล่ะ เนอะ" 1174 01:16:46,643 --> 01:16:49,688 แล้วพ่อแม่ก็มองผมหน้านิ่งสายตาเหม่อ แล้วก็กะพริบตาปริบๆ 1175 01:16:49,771 --> 01:16:52,232 จากนั้นก็พูดว่า "อือ แต่ลูกปฏิเสธไปเหรอ" 1176 01:16:52,316 --> 01:16:53,483 "ครับๆ ผมปฏิเสธ" 1177 01:16:53,567 --> 01:16:54,693 โชคดีที่เขาโทรกลับมา 1178 01:16:54,776 --> 01:16:58,238 "ฉันว่านายไม่เข้าใจที่ฉันพูด ฉันไม่ได้ขอร้อง ฉันกำลังสั่ง 1179 01:16:58,322 --> 01:17:00,657 ไสก้นของนายมาที่ชไรน์ออดิทอเรียม ตอนบ่ายสาม 1180 01:17:00,741 --> 01:17:01,783 นายทำได้ดีแน่ๆ " 1181 01:17:04,578 --> 01:17:06,580 เขามาในเช้าวันรุ่งขึ้น ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า 1182 01:17:06,663 --> 01:17:08,457 พ่อแม่ขับรถมาส่งเขา 1183 01:17:08,540 --> 01:17:10,167 ผมไปที่นั่นกับพ่อผม 1184 01:17:10,250 --> 01:17:12,252 ผมเดินรอบๆ เวที มองไปรอบๆ 1185 01:17:12,336 --> 01:17:13,712 เห็นทั้งแอโรสมิธ เห็นทั้งมาดอนนา 1186 01:17:16,006 --> 01:17:18,342 ผมเดินไปรอบๆ แล้วเซลีนก็เดินเข้ามา 1187 01:17:18,425 --> 01:17:20,636 "อ๋อ นี่จอช เขาจะร้องคู่กับคุณ" 1188 01:17:20,719 --> 01:17:23,388 ผมแบบ "สวัสดีครับ" และเธอก็… 1189 01:17:23,930 --> 01:17:26,933 "อ๋อ โอเคค่ะ โอเค ดีค่ะ โอเค เยี่ยม" 1190 01:17:27,017 --> 01:17:29,102 เธอเข้าใจ เธอเข้าใจในทันที 1191 01:17:29,186 --> 01:17:31,605 "อ๋อ เดวิด อ๋อๆ 1192 01:17:31,688 --> 01:17:34,149 เดวิดกำลังมอบโอกาสให้เด็กคนนี้ เข้าใจแล้ว" 1193 01:17:36,860 --> 01:17:40,614 คุณดูในยูทูบก็ได้ แจ็ค พ่อของเขาถ่ายวิดีโอไว้ 1194 01:17:40,697 --> 01:17:44,618 และผมต้องยกความชอบให้เซลีน เธอดูแลเขาดีมากๆ 1195 01:17:47,120 --> 01:17:50,082 เธอเข้าใจในทันที ไม่มีงงเลยสักนิด 1196 01:17:50,165 --> 01:17:51,375 เรื่องนี้พิเศษสำหรับเขา 1197 01:17:52,584 --> 01:17:54,169 ตอนนี้เธอเป็นมืออาชีพแล้ว 1198 01:17:54,252 --> 01:17:57,339 เธอไม่ใช่เด็กสาววัย 19 ที่ผมเจอที่ควิเบก 1199 01:17:57,422 --> 01:17:58,757 และเขาก็ตื่นเต้นมาก 1200 01:17:58,840 --> 01:18:00,217 ผมถือไอ้นี่ไว้ แล้วก็… 1201 01:18:03,720 --> 01:18:06,640 แล้วเธอก็ทำแบบนี้ เธอคว้ามือผม 1202 01:18:06,723 --> 01:18:09,976 เราเดินไปข้างหน้า และเธอก็กุมมือผมไว้ 1203 01:18:31,790 --> 01:18:33,041 ทุกคนรักเขา 1204 01:18:33,125 --> 01:18:34,918 โรซี่ โอดอนเนลล์เป็นพิธีกร 1205 01:18:35,001 --> 01:18:36,962 เธอนั่งดูโชว์แล้วก็บอกว่า 1206 01:18:37,045 --> 01:18:38,588 "นี่ เจ้าหนูโอเปร่า มานี่ซิ" 1207 01:18:40,340 --> 01:18:41,925 แบบว่าเขาเพิ่งเรียนมัธยมปลาย 1208 01:18:42,426 --> 01:18:44,302 เขาเดินตรงไป เธอบอกว่า "ฉันชอบเสียงเธอ 1209 01:18:44,386 --> 01:18:45,262 มาออกรายการฉันสิ" 1210 01:18:46,680 --> 01:18:48,056 นั่งเลยจ้ะ 1211 01:18:49,975 --> 01:18:54,479 เดวิดหาโอกาสมาให้ผมได้เป็นตัวของตัวเอง 1212 01:19:08,952 --> 01:19:12,622 ข้ามไปที่ช่วงเวลาในห้องอัดของเรา หลายร้อยชั่วโมง 1213 01:19:12,706 --> 01:19:13,707 ความเข้าขากันแบบนั้น 1214 01:19:13,790 --> 01:19:16,585 เป็นสิ่งที่คู่ศิลปินกับโปรดิวเซอร์ชั้นยอดมีกันทุกคน 1215 01:19:37,147 --> 01:19:40,859 ผมมองหาจอช โกรแบนคนใหม่ และผมก็บอกจอชไปต่อหน้าแบบนั้น 1216 01:19:40,942 --> 01:19:43,570 ผมอยากเจอจอช โกรแบนวัย 17 อีกคน 1217 01:19:43,653 --> 01:19:44,654 แต่มันไม่มีอีกแล้ว 1218 01:20:00,796 --> 01:20:02,130 ผมพยายามโน้มน้าววอร์เนอร์บราเธอส์ 1219 01:20:02,214 --> 01:20:06,384 เพราะพวกเขาไม่แน่ใจกับเจ้าหนู "โอเปร่า" 1220 01:20:06,468 --> 01:20:08,512 ผมบอกว่า "ถ้าออกอัลบั้มนี้ตอนนี้ 1221 01:20:08,595 --> 01:20:11,640 คนจะอยากฟังเพลงของจอช โกรแบน 1222 01:20:11,723 --> 01:20:13,642 เจ้าเด็กวัย 18 คนนี้มากขึ้นอีก" 1223 01:20:14,768 --> 01:20:19,022 ถ้าปล่อยเพลงให้ถูกเวลา มันจะขายได้ 50,000 ชุดในสัปดาห์แรก 1224 01:20:19,105 --> 01:20:22,692 พวกเขาทำได้ และมันขายได้ 50,000 ชุดในสัปดาห์แรก 1225 01:20:22,776 --> 01:20:24,903 และดาวดวงใหม่ก็ถือกำเนิด 1226 01:20:26,988 --> 01:20:30,158 - ราตรีสวัสดิ์ทุกคน - ขอบคุณครับทุกคน ขอบคุณ เดวิด 1227 01:20:35,038 --> 01:20:36,665 มาร์กจุดเอและจุดซี 1228 01:20:37,707 --> 01:20:40,836 คนจำนวนมากน่าจะรู้จักผมจากรายการเรียลลิตี้ 1229 01:20:40,919 --> 01:20:43,713 และจากการที่ผมแต่งงานหลายครั้ง มากกว่าจากเพลงของผม 1230 01:20:44,756 --> 01:20:47,676 มาวิเคราะห์กัน เพราะผมเคยแต่งงานกับลินดา 1231 01:20:47,759 --> 01:20:51,179 ซึ่งเคยแต่งงานกับบรูซ เจนเนอร์ ที่ต่อมาแต่งงานกับคริส คาร์ดาเชียน 1232 01:20:51,263 --> 01:20:54,599 และมีพวกเด็กๆ ตระกูลเจนเนอร์ และตระกูลคาร์ดาเชียน 1233 01:20:54,683 --> 01:20:56,476 แล้วจากนั้นผมก็แต่งงานกับโยลันดา ฮาดิด 1234 01:20:56,560 --> 01:20:58,103 ซึ่งเป็นแม่ของจีจี้และเบลล่า 1235 01:20:58,186 --> 01:20:59,855 ต่อมาผมก็แต่งงานกับรีเบกก้า แล้วก็บีเจ 1236 01:20:59,938 --> 01:21:01,565 และเราก็มีลูกสาวของเราเอง 1237 01:21:01,648 --> 01:21:04,442 มันเลยซับซ้อนมากๆ 1238 01:21:04,526 --> 01:21:05,443 (ตามติดตระกูลฟอสเตอร์) 1239 01:21:14,578 --> 01:21:16,913 จริงๆ เรื่องผมกับรายการเรียลลิตี้เนี่ย 1240 01:21:16,997 --> 01:21:19,207 โอกาสแรกของผมคือ "เดอะพรินเซสออฟมาลิบู" 1241 01:21:19,749 --> 01:21:22,210 สองคนนี้คือลูกเลี้ยงของผม โบรดี้และแบรนดอน เจนเนอร์ 1242 01:21:22,294 --> 01:21:24,838 และเด็กพวกนี้ก็ไม่ไปจากบ้านสักที 1243 01:21:26,840 --> 01:21:30,385 แบรนดอนกับโบรดี้ ลูกเลี้ยงผม และสเปนเซอร์ แพรตต์ 1244 01:21:30,468 --> 01:21:32,262 เริ่มถือกล้องเดินตามเรา 1245 01:21:32,345 --> 01:21:34,681 ไม่ว่าเราจะไปไหน เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมอยู่ในห้องอัด 1246 01:21:34,764 --> 01:21:37,267 และผมก็ถามว่า "พวกเธอทำอะไร" "เรากำลังทำรายการเรียลลิตี้" 1247 01:21:37,350 --> 01:21:40,562 ผมบอกว่า "ถ้ารายการของพวกเธอ ได้ออกทีวีจริงๆ นะ 1248 01:21:40,645 --> 01:21:42,355 ฉันจะยอมไปสักเลย" 1249 01:21:42,439 --> 01:21:44,649 แล้วก็นั่นแหละ พวกเขาขายมันให้ฟ็อกซ์ 1250 01:21:44,733 --> 01:21:45,692 ผมเลยได้รอยสักนี้มา 1251 01:21:45,775 --> 01:21:47,819 แบรนดอน เรื่องนี้มันต้องจบได้แล้ว 1252 01:21:47,903 --> 01:21:50,447 สเปนเซอร์ โบรดี้กับสเปนเซอร์ 1253 01:21:50,530 --> 01:21:54,618 โบรดี้ เธอทำอะไรอยู่ นี่มันอะไร 1254 01:21:54,701 --> 01:21:57,495 ฟังนะ คุณต้องหยุดเรื่องนี้ มันเลยเถิดแล้ว 1255 01:21:59,414 --> 01:22:04,044 เวลาที่คุณตั้งกล้องไว้ในบ้าน คุณจะคิดว่า "ฉันจะแสดงออกมาแบบนี้" 1256 01:22:04,127 --> 01:22:06,254 คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณเป็นใคร จริงไหม 1257 01:22:06,338 --> 01:22:08,882 คุณไม่รู้ว่าพวกเขาจะมองคุณยังไง คุณไม่รู้ว่าพวกเขาจะนำเสนอไปทางไหน 1258 01:22:08,965 --> 01:22:10,926 การที่ผมออกรายการ "เดอะพรินเซสออฟมาลิบู" มันงี่เง่า 1259 01:22:11,009 --> 01:22:12,510 มันงี่เง่าสุดๆ 1260 01:22:12,594 --> 01:22:18,308 แต่ผมคิดว่าหน้าที่การงานผมมั่นคงมาก ทั้งในแง่คุณภาพและความสำเร็จ 1261 01:22:18,391 --> 01:22:21,144 จนไม่มีอะไรมาทำให้ผมสะทกสะท้านได้ 1262 01:22:21,978 --> 01:22:25,231 เอามานี่ อย่ามาแตะต้อง… 1263 01:22:25,315 --> 01:22:26,858 สตีวี่ วันเดอร์จะไม่อยากทำงานกับผม 1264 01:22:26,942 --> 01:22:29,486 เพราะเขาเห็นผมใน "เดอะพรินเซสออฟมาลิบู" หรือเปล่า 1265 01:22:30,070 --> 01:22:33,406 ไม่ เพราะงั้นก็ไม่มีอะไรเสียหาย ถึงมันจะเป็นรายการที่บ้าสุดๆ 1266 01:22:33,490 --> 01:22:36,326 แล้วเราก็เกิดก่อนรายการไหนๆ มันมีมาก่อนรายการคาร์ดาเชียน 1267 01:22:36,409 --> 01:22:38,662 พวกเราถึงว่าล้ำกระแส 1268 01:22:38,745 --> 01:22:39,913 สุดท้ายแล้ว 1269 01:22:39,996 --> 01:22:44,459 ยังไงพ่อฉันก็มีคุณสมบัติของคนที่จะเป็นดารา 1270 01:22:44,542 --> 01:22:45,961 พ่อตลก พ่อหล่อ 1271 01:22:46,044 --> 01:22:49,130 เขาไม่เกร็งเมื่ออยู่ต่อหน้าคน พ่อได้รับความสนใจในทุกที่ที่ไป 1272 01:22:49,214 --> 01:22:52,384 ซีซั่นใหม่ของ "เดอะเรียลเฮาส์ไวฟ์ออฟเบเวอร์ลีฮิลส์" 1273 01:22:52,467 --> 01:22:54,052 เริ่มฉายแล้ว และในตอนเมื่อคืนนี้… 1274 01:22:54,135 --> 01:22:57,389 เราขอให้พ่ออย่าไปร่วมรายการ "เดอะเรียลเฮาส์ไวฟ์" 1275 01:22:57,472 --> 01:22:59,724 พ่ออยากให้โยลันดามีงานทำ 1276 01:22:59,808 --> 01:23:03,520 "เดอะเรียลเฮาส์ไวฟ์ออฟเบเวอร์ลีฮิลส์" นี่คนละเรื่องกันเลย 1277 01:23:03,603 --> 01:23:06,189 โยลันดา ภรรยาผมในตอนนั้น อยากไปออกรายการนี้ 1278 01:23:06,272 --> 01:23:08,483 ผมไม่อยากเป็นคนปฏิเสธเธอ 1279 01:23:08,566 --> 01:23:12,779 พ่อต้องออกรายการนั้นด้วยนิดหน่อย ถ้าอยากให้เธอได้งานนี้ 1280 01:23:12,862 --> 01:23:14,614 พ่อคงจะรู้สึกว่า 1281 01:23:14,698 --> 01:23:17,242 พ่อน่าจะเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ในนั้น 1282 01:23:17,325 --> 01:23:19,869 งานนี้มาหลัง "พรินเซสออฟมาลิบู" ด้วย 1283 01:23:19,953 --> 01:23:21,496 เพราะงั้นนี่เลยไม่ใช่ครั้งแรกของพ่อ 1284 01:23:21,579 --> 01:23:24,791 พ่อรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้บ้าง เวลาที่ถ่ายรายการเรียลลิตี้ 1285 01:23:25,417 --> 01:23:27,752 ไปที่ข่าวรักล่มล่าสุดของฮอลลีวูด 1286 01:23:27,836 --> 01:23:30,755 เดวิด ฟอสเตอร์กับโยลันดา ภรรยาดารารายการเรียลลิตี้ 1287 01:23:30,839 --> 01:23:31,715 ได้เลิกรากันแล้ว 1288 01:23:31,798 --> 01:23:35,593 โยลันดาผู้ต้องต่อสู้กับโรคไลม์ มาเป็นเวลาสามปี… 1289 01:23:35,677 --> 01:23:37,387 ผมจะทิ้งผู้หญิงป่วยไปได้ยังไง 1290 01:23:37,470 --> 01:23:41,016 ประเด็นสำคัญก็คือนั่นไม่ใช่เหตุผลที่ผมเลิก 1291 01:23:41,099 --> 01:23:43,560 มันเกิดขึ้นเพราะหลายสาเหตุ ซึ่งผมไม่มีวันจะเปิดเผย 1292 01:23:43,643 --> 01:23:45,687 แต่มันไม่เกี่ยวอะไรกับที่เธอป่วย 1293 01:23:47,981 --> 01:23:49,816 คนยังพูดกับผมจนถึงวันนี้ว่า 1294 01:23:50,859 --> 01:23:52,068 "ผมรู้จักคุณ 1295 01:23:52,152 --> 01:23:55,530 คุณออกรายการ "เดอะเรียลเฮาส์ไวฟ์ออฟเบเวอร์ลีฮิลส์"" 1296 01:23:55,613 --> 01:23:59,909 และที่ผมอยากบอกก็คือ "เฮ้ย ผมได้แกรมมีตั้ง 16 ครั้งนะโว้ย 1297 01:23:59,993 --> 01:24:02,328 ผมขายแผ่นเสียงได้ตั้งห้าร้อยล้าน ช่างหัวรายการนั่นเถอะ" 1298 01:24:19,596 --> 01:24:21,431 อ้าว มีคนเพิ่งเข้ามาในห้อง 1299 01:24:23,725 --> 01:24:25,894 เรื่องหนึ่งที่ผมรับประกันได้ก็คือ 1300 01:24:25,977 --> 01:24:29,147 แคธรีน แม็คฟีกับเดวิด ฟอสเตอร์ จะไม่ไปออกรายการเรียลลิตี้ 1301 01:24:29,230 --> 01:24:30,815 ผมยืนยันได้เลย 1302 01:24:30,899 --> 01:24:33,359 แคธรีน แม็คฟีกับเดวิด ฟอสเตอร์กำลังคบกัน 1303 01:24:33,443 --> 01:24:34,861 และพวกเขาไม่สนว่าใครจะรู้ 1304 01:24:34,944 --> 01:24:36,321 ทั้งคู่ได้ร่วมฉลอง… 1305 01:24:36,404 --> 01:24:38,948 ฉันคงโกหกเรื่องความสัมพันธ์ ของพวกเขาได้ไม่เนียน 1306 01:24:39,032 --> 01:24:40,158 ถ้าเกิดฉันไม่พอใจ 1307 01:24:40,241 --> 01:24:42,786 ความจริงก็คือ ฉันชอบที่ทั้งคู่คบหากัน 1308 01:24:42,869 --> 01:24:46,372 ช่องว่างระหว่างวัยที่ห่างถึง 34 ปี กลายเป็นประเด็นร้อน 1309 01:24:46,456 --> 01:24:49,459 แต่ทั้งคู่สนใจกับชีวิตคู่ในอนาคตมากกว่า 1310 01:24:53,713 --> 01:24:57,092 แคธรีน แม็คฟีไม่จำเป็นต้องมีเดวิด ฟอสเตอร์ 1311 01:24:57,175 --> 01:25:01,679 เธอมีพรสวรรค์ ประสบความสำเร็จมาก มีรายได้ของเธอเอง 1312 01:25:01,763 --> 01:25:07,602 เธอไม่ต้องการเขา แต่เธออยู่กับเขาเพราะรักเขาล้วนๆ 1313 01:25:07,685 --> 01:25:09,729 สองคนนั้นเข้ากันได้ดีมากๆ 1314 01:25:11,481 --> 01:25:16,069 มันอาจจะดูแปลกๆ ที่เราสนับสนุนให้พ่อ 1315 01:25:16,152 --> 01:25:19,531 คบกับคนที่เด็กกว่าเราด้วยซ้ำ เพราะเธอเด็กกว่าฉันสองปี 1316 01:25:19,823 --> 01:25:22,117 พวกเธออาจจะโกรธผมเพราะเรื่องนี้ได้ 1317 01:25:22,200 --> 01:25:24,577 "เอาจริงเหรอ พ่อทำอะไรเนี่ย เธออายุรุ่นลูกพ่อเลยนะ ขอล่ะ" 1318 01:25:24,661 --> 01:25:27,038 แต่ลูกผมกับเธอไม่มีปัญหากัน 1319 01:25:27,747 --> 01:25:31,960 เรื่องนั้นไม่สำคัญอะไรกับเรา เราแค่อยากให้พ่อเรามีความสุข 1320 01:25:32,043 --> 01:25:33,253 ตอนนี้พวกเขาอาศัยอยู่กับฉัน 1321 01:25:33,336 --> 01:25:34,921 และฉันได้ยินเสียงพวกเขาดังข้ามตึกมา 1322 01:25:35,004 --> 01:25:37,632 พวกเขาขำคิกคักกันอยู่บนเตียงตอนห้าทุ่มครึ่ง 1323 01:25:38,967 --> 01:25:41,803 เราเลือกที่จะมีชีวิตคู่ที่วิเศษด้วยกันได้ 1324 01:25:41,886 --> 01:25:45,640 แต่เราไม่สามารถแค่ดีดนิ้วแล้วพูดว่า 1325 01:25:45,723 --> 01:25:47,016 เราจะมีความสุขตราบชั่วนิรันดร์ 1326 01:25:47,100 --> 01:25:50,937 คนรุ่นฉันเปิดกว้างต่อการสื่อสารและเข้าใจ 1327 01:25:51,020 --> 01:25:52,897 ว่าทำไมคุณถึงทำอย่างนั้น 1328 01:25:52,981 --> 01:25:56,359 คุณยึดติดอยู่กับเรื่องที่ไม่ลงตัว และคุณก็หาทางทำให้มันลงตัว 1329 01:25:56,442 --> 01:25:58,736 และฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับเขา 1330 01:26:00,363 --> 01:26:01,322 และบางทีมันก็น่าหงุดหงิด 1331 01:26:01,406 --> 01:26:05,451 เพราะเราต้องมานั่งคุยกัน เรื่อง "ความรู้สึก" กันตลอดทั้งบ่าย 1332 01:26:05,535 --> 01:26:08,037 และมันเป็นสิ่งที่ผมสื่อสาร ผ่านเปียโนได้ดีกว่า 1333 01:26:08,121 --> 01:26:10,665 เราพยายามจะเห็นใจกันและกัน 1334 01:26:11,833 --> 01:26:15,295 เราเลยมานั่งคุยกันยืดยาวอย่างที่เขาไม่ชอบ 1335 01:26:16,880 --> 01:26:18,923 ผมพูดเสมอว่า "ผมไม่อยากขุดลึกเกินไป 1336 01:26:19,007 --> 01:26:21,342 เพราะกลัวว่าผมอาจจะพบอะไรบางอย่าง" 1337 01:26:21,426 --> 01:26:23,261 เพราะแบบนี้ผมเลยไม่เคยไปบำบัด 1338 01:26:23,344 --> 01:26:25,221 เพราะไม่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในนั้น 1339 01:26:25,305 --> 01:26:27,223 ตั้งแต่รู้จักเขา ฉันได้ยินเขาพูดอะไรแบบ… 1340 01:26:27,307 --> 01:26:29,058 ฉันเรียกมันว่า "สโลแกนเดวิด" 1341 01:26:29,142 --> 01:26:30,560 เช่น "ไม่เอา ผมไม่ไปพบจิตแพทย์ 1342 01:26:30,643 --> 01:26:32,228 เพราะผมกลัวว่าผมจะเจออะไร" 1343 01:26:32,312 --> 01:26:34,480 ฉันแบบ "คุณไม่เคย คุณก็แค่พูดไปอย่างนั้น 1344 01:26:34,564 --> 01:26:36,900 มันก็เหมือนกับสโลแกน เป็นแค่หัวข้อสนทนาตอนมื้อเย็น" 1345 01:26:36,983 --> 01:26:38,568 เขาแค่ไม่อยากจะพูดเรื่องนั้น 1346 01:26:39,736 --> 01:26:43,489 มันยากจะให้เขาหยุดพักหายใจและใช้ความรู้สึก 1347 01:26:44,240 --> 01:26:45,408 เขาไม่อยากทำแบบนั้น 1348 01:26:47,035 --> 01:26:48,661 มันมีบางช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่า 1349 01:26:48,745 --> 01:26:52,123 พระเจ้า ชายคนนี้มีความรู้สึกไหม เขาเห็นอกเห็นใจเป็นหรือเปล่า 1350 01:26:52,207 --> 01:26:55,418 เขากลบเกลื่อนความรู้สึกได้เก่งมาก 1351 01:26:56,586 --> 01:26:59,756 เขาอยากให้ทุกอย่างโอเคตลอดเวลา 1352 01:26:59,839 --> 01:27:00,798 และถ้ามันไม่โอเค… 1353 01:27:04,177 --> 01:27:05,428 เขาก็ไป 1354 01:27:06,679 --> 01:27:09,515 ผมว่าผมพูดถูกเผงเลย ที่บอกว่าผมเป็นพวกหนีปัญหา 1355 01:27:09,599 --> 01:27:10,892 คุณเหนื่อยกับการวิ่งหนีหรือยัง 1356 01:27:10,975 --> 01:27:13,102 ผมไม่เหนื่อยกับการวิ่งหนี ไม่ 1357 01:27:14,604 --> 01:27:16,814 ไม่เลย แต่ผมมีความสุขกับจุดที่ผมอยู่ตอนนี้ 1358 01:27:16,898 --> 01:27:22,320 ตอนนี้ผมโชคดีมากเพราะแคตโตขึ้นมาก 1359 01:27:22,403 --> 01:27:26,658 จนเราคุยหาสาเหตุกันได้เวลาเรามีปัญหากัน 1360 01:27:26,741 --> 01:27:28,117 ผมเลยจะไม่วิ่งหนี 1361 01:27:29,953 --> 01:27:31,037 ฉันพูดกับเขาไปแบบนี้ 1362 01:27:31,120 --> 01:27:33,873 "ถ้าเราไม่ปรับความเข้าใจกัน เราจะไปกันไม่รอด 1363 01:27:35,500 --> 01:27:39,921 อย่างน้อยฉันก็อยากให้คุณ ลองทำความเข้าใจความรู้สึกฉันบ้าง" 1364 01:27:40,463 --> 01:27:43,841 และเขาก็บอกว่า "งั้นคุณก็ไปเลยเถอะ" 1365 01:27:46,344 --> 01:27:49,222 แล้วฉันก็บอกว่า "ไม่ๆ ฉันรู้ว่าคุณจะทำแบบนี้ 1366 01:27:49,347 --> 01:27:50,556 อย่ามาเล่นเกมนี้กับฉัน" 1367 01:27:52,517 --> 01:27:56,229 ผมพูดได้ว่าทุกคนที่บอกว่าผมเป็นคนเฮงซวย เพราะสิ่งที่ผมทำไป 1368 01:27:56,312 --> 01:27:57,647 ผมคิดว่าพวกเขาพูดถูก 1369 01:28:00,149 --> 01:28:02,277 ผมทำเรื่องเฮงซวยไว้เยอะ 1370 01:28:02,360 --> 01:28:04,904 แต่ผมก็ไม่ใช่ไอ้เดนมนุษย์เลือดเย็น 1371 01:28:04,988 --> 01:28:09,701 ผู้ชายคนที่เพื่อนฝูงและครอบครัวรู้จักและรัก 1372 01:28:09,784 --> 01:28:12,328 คือคนที่เปี่ยมด้วยน้ำใจ 1373 01:28:12,412 --> 01:28:14,455 มันก็ดีมากเลยที่เราได้ไปเที่ยวที่เจ๋งๆ 1374 01:28:14,539 --> 01:28:16,374 กับเพื่อนคนรวยของคุณอะไรแบบนั้น 1375 01:28:16,457 --> 01:28:18,918 แต่ฉันบอกเขาเลยว่า "คนพวกนั้นไม่รู้จักคุณจริงๆ " 1376 01:28:19,752 --> 01:28:21,379 แล้วเขาก็ไม่พอใจเอาซะเลย 1377 01:28:23,047 --> 01:28:26,259 ฉันคิดว่าเราทั้งคู่ต้องรู้จักเปราะบางให้เป็น 1378 01:28:26,342 --> 01:28:28,428 เราทั้งคู่ต้องร้องขอสิ่งที่เราต้องการ 1379 01:28:47,238 --> 01:28:49,866 เธอเป็นคนเข้าใจโลก คุณเห็นเปียโนข้างหลังใช่ไหม 1380 01:28:49,949 --> 01:28:54,871 ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเราส่วนหนึ่ง เกิดขึ้นตอนที่เธอนั่งอยู่หลังผม 1381 01:28:54,954 --> 01:28:56,331 ผมเป็นคนเล่น และเธอก็ร้อง 1382 01:29:04,047 --> 01:29:06,591 เธอสุดยอดเป็นพันแง่มุมเลย 1383 01:29:06,674 --> 01:29:10,219 เธอสวย เธอฉลาด เธอเป็นคนแน่วแน่ 1384 01:29:10,303 --> 01:29:14,307 และเธอก็เป็นผู้ใหญ่กว่าอายุ ถือว่าครบเครื่องเลยทีเดียว 1385 01:29:18,895 --> 01:29:21,647 คุณเลือกแต่งงานกับหญิงสาว 1386 01:29:21,731 --> 01:29:24,233 ฉันอยากอยู่กับคุณอย่างมีความสุขจริงๆ และฉันอยากจะรู้ว่า… 1387 01:29:24,317 --> 01:29:26,736 ฉันหมกมุ่นกับการทำความรู้จักเขา 1388 01:29:30,740 --> 01:29:31,824 มันอาจไม่เป็นไปตามแบบแผน 1389 01:29:31,908 --> 01:29:34,118 แต่มันคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับฉัน 1390 01:29:35,286 --> 01:29:38,623 มันจะเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งที่สุดที่เราเคยมี 1391 01:29:39,332 --> 01:29:43,086 ความสัมพันธ์ที่เราไม่วิ่งหนีจากเรื่องที่ไม่ลงตัว 1392 01:29:44,087 --> 01:29:48,216 ฉันรู้ว่าเราตัดสินใจถูกนับตั้งแต่เราได้แต่งงานกัน 1393 01:29:48,299 --> 01:29:50,009 ฉันรู้จักตัวตนของเขา 1394 01:29:50,885 --> 01:29:53,971 ฉันวิเคราะห์ตัวตนเขามาสักระยะแล้ว 1395 01:29:54,055 --> 01:29:57,225 เดี๋ยวคงรู้กัน ฉันจะพยายามต่อไป 1396 01:29:59,227 --> 01:30:03,940 มันเป็นการจับคู่ที่แปลก แต่เรารักกัน และมันก็ดีกับเรา 1397 01:30:13,282 --> 01:30:15,243 เราจะบินไปเกาะลาไนวันที่ 25 1398 01:30:15,326 --> 01:30:17,620 แต่ผมไม่รู้ว่าเราจะลงที่เมาวีหรือจะลงที่โฮโนลูลู 1399 01:30:17,703 --> 01:30:20,039 เขามีแต่เดินหน้าไปเรื่อยๆ เขาไปหาเรื่องใหม่ตลอด 1400 01:30:20,123 --> 01:30:24,210 สัมภาษณ์ ออกทัวร์ พบปะผู้คน 1401 01:30:24,502 --> 01:30:27,004 เขาอาจไปโผล่ที่เอเชียเมื่อไหร่ก็ได้ 1402 01:30:27,088 --> 01:30:29,382 เขาเป็นคนบันเทิงอันดับหนึ่ง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 1403 01:30:29,465 --> 01:30:33,427 ผมชื่อเดวิด ฟอสเตอร์ ดีใจที่ได้เจอทุกคนนะ 1404 01:30:34,762 --> 01:30:36,806 พอพูดชื่อเดวิด ฟอสเตอร์ ผู้คนก็จะกรี๊ดกร๊าด 1405 01:30:36,889 --> 01:30:38,391 ทุกคนร้องเพลงของเขา 1406 01:30:39,267 --> 01:30:41,144 ใช่ มันต้องให้ได้อย่างนี้สิ 1407 01:30:42,603 --> 01:30:45,523 "เอเชียส์ก็อตทาเลนต์" คุณต้องอยู่สิงคโปร์ในวันที่สี่ 1408 01:30:45,606 --> 01:30:47,275 - เดือน… - เดือนธันวาคม 1409 01:30:47,358 --> 01:30:50,194 - ได้ แล้วจบเมื่อไหร่ - คุณจะกลับมาแอลเอวันที่ 15 1410 01:30:50,903 --> 01:30:55,241 ผมเริ่มไปเอเชียช่วงปลายยุค 80 และผมก็เริ่มมีผู้ติดตาม 1411 01:30:57,326 --> 01:30:59,370 ยิ่งเป็นคนหลงตัวเองอยู่แล้ว เจอแบบนั้นใครจะไม่ไปล่ะ 1412 01:30:59,453 --> 01:31:01,581 - เอาล่ะนะ เดวิด - เขากำลังขึ้นเวที 1413 01:31:01,664 --> 01:31:04,959 "ฮิตแมน" หนึ่งเดียวคนนี้ เดวิด ฟอสเตอร์ 1414 01:31:06,669 --> 01:31:10,131 สวัสดียามเย็นทุกท่าน ขอต้อนรับกลับสู่แมนดะเลย์เบย์ 1415 01:31:10,214 --> 01:31:12,592 เขาบอกว่าเขาวางมือแล้ว 1416 01:31:12,675 --> 01:31:16,971 จากนั้นไม่กี่เดือน เขาจะบอกว่า "ผมต้องทำงานๆ ผมต้องทำ" 1417 01:31:19,724 --> 01:31:21,809 ผมคิดไว้เสมอว่าจะออกจากวงการดนตรี 1418 01:31:21,893 --> 01:31:23,311 ก่อนที่มันจะทิ้งผม 1419 01:31:24,061 --> 01:31:26,272 ผมรู้ว่าที่ไหนเป็นของผม และที่ไหนไม่ใช่ 1420 01:31:27,273 --> 01:31:28,733 ดูที่ที่เราอยู่นี่สิ โอเคนะ 1421 01:31:29,400 --> 01:31:34,071 ตลอด 45 ปีที่ผ่านมา ผมอยู่ในห้อง ที่เหมือนเรือดำน้ำแบบนี้เป็นส่วนใหญ่ 1422 01:31:34,155 --> 01:31:38,159 ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีแสงไฟ ไม่มีวิตามินดี 1423 01:31:38,242 --> 01:31:42,205 เรือดำน้ำชัดๆ ผมใช้ชีวิตในที่แบบนี้มาเยอะ ผมไม่อยากทำแบบนั้นอีกแล้ว 1424 01:31:42,288 --> 01:31:43,789 ผมพูดถึงตัวเองแบบนี้เสมอ 1425 01:31:43,873 --> 01:31:46,083 ผมรู้ว่าที่ไหนคือที่ของผม ที่ไหนไม่ใช่ 1426 01:31:46,167 --> 01:31:48,336 และผมไม่เหมาะกับห้องที่มีเลดี้กาก้า 1427 01:31:48,419 --> 01:31:50,838 บ้าน่า ผมได้ฟังเพลง "แชลโลว์" แล้ว 1428 01:31:50,922 --> 01:31:53,633 นี่คือสิ่งที่เดวิด ฟอสเตอร์ น่าจะทำกับเพลง "แชลโลว์" 1429 01:31:53,716 --> 01:31:54,967 แน่นอน คุณควรอยู่ในห้องนั้น 1430 01:31:55,051 --> 01:31:56,719 ใช่ ผมคงจะตอบตกลง 1431 01:31:56,802 --> 01:31:59,055 ถ้าผมได้ยินเพลงนั้น แบรดลีย์ คูเปอร์และกาก้า 1432 01:31:59,138 --> 01:32:00,765 "อะสตาร์อีสบอร์น" ผมคงรับงาน 1433 01:32:01,891 --> 01:32:03,100 ใจหนึ่งคือผมไม่อยากอยู่ 1434 01:32:03,184 --> 01:32:05,228 อีกใจหนึ่งคือผมไม่มีอะไรจะพูดจะเสริม 1435 01:32:06,103 --> 01:32:09,440 ถ้าพูดได้ อีกใจหนึ่งก็คือ ผมคงต้องบอกว่าผมเบื่อกับตัวเอง 1436 01:32:10,816 --> 01:32:14,904 ผมเบื่อกับตัวเองและสิ่งที่ผมทำได้ที่นี่จริงๆ 1437 01:32:15,238 --> 01:32:18,741 ผมไม่รักอะไรพวกนี้ ผมรักการอยู่ข้างนอกนั่น 1438 01:32:19,951 --> 01:32:22,536 การแสดงสดมันดีสำหรับผม และผมจะบอกให้ว่าทำไม 1439 01:32:22,620 --> 01:32:23,913 ผมเป็นคนทำเพลง 1440 01:32:23,996 --> 01:32:25,790 จากนั้นศิลปินคือผู้มีอภิสิทธิ์ที่จะออกไป 1441 01:32:25,873 --> 01:32:27,708 และสนุกกับสิ่งที่เราร่วมกันสร้างขึ้น 1442 01:32:27,792 --> 01:32:30,503 และมองดูสีหน้าผู้ชมขณะร้องเพลง 1443 01:32:30,878 --> 01:32:32,630 ผมไม่เคยได้ตื่นเต้นแบบนั้น 1444 01:32:32,713 --> 01:32:34,715 ทีนี้พอผมได้ออกไปเล่นสด 1445 01:32:34,799 --> 01:32:37,760 ผมได้ดูสีหน้าของพวกเขาที่มีต่อเพลงที่ผมสร้างขึ้น 1446 01:32:37,843 --> 01:32:40,012 ถึงผมจะไม่ได้ร้อง แต่ผมก็เป็นคนสร้างมันขึ้นมา 1447 01:32:41,806 --> 01:32:44,058 ผมพยายามจะทำให้ยอดเยี่ยมในทุกๆ วัน 1448 01:32:44,141 --> 01:32:45,851 ผมเรียนรู้เรื่องนั้นมาจากควินซี่ โจนส์ 1449 01:32:45,935 --> 01:32:48,312 ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนตอนที่ผมส่งอัลบั้มให้กับเขา 1450 01:32:48,396 --> 01:32:50,898 "ฟังดูนะครับ แต่อย่าฟังเพลงที่ห้า เสียงมันยังเพี้ยนๆ อยู่ 1451 01:32:50,982 --> 01:32:53,484 แล้วก็อย่าฟังเพลงที่สอง เพราะมันไม่ดีเท่าไร 1452 01:32:53,567 --> 01:32:56,737 เพลงที่เจ็ดด้วย ข้ามไปเลย มีเพลงที่สี่นี่แหละที่ดีจริงๆ " 1453 01:32:56,821 --> 01:32:59,198 เขาบอกว่า "เอามาเถอะน่า" แล้วก็… 1454 01:33:00,408 --> 01:33:01,909 ตรงนั้นเขียนว่ายังไง 1455 01:33:02,952 --> 01:33:05,705 "โปรดิวซ์โดยเดวิด ฟอส…" "ใช่ โปรดิวซ์โดยเดวิด ฟอสเตอร์" 1456 01:33:05,788 --> 01:33:08,082 เขาบอกว่า "คุณเอาของที่มีชื่อตัวเองปะหน้ามาให้ผม 1457 01:33:08,165 --> 01:33:09,625 แล้วยังจะมีข้ออ้างนั่นนี่อีกเหรอ" 1458 01:33:09,709 --> 01:33:14,964 และนับจากวันนั้นก็ไม่มีวันไหน ที่ผมจะไม่พยายามทำให้ยอดเยี่ยม 1459 01:33:15,047 --> 01:33:17,216 เพราะ "ดี" คือศัตรูของ "ยอดเยี่ยม" 1460 01:33:18,092 --> 01:33:20,011 ความรัก ความไว้ใจและความเคารพ 1461 01:33:20,094 --> 01:33:23,806 ดนตรีของคุณมันจะไม่มากหรือน้อยไปกว่า ตัวตนของคุณในฐานะมนุษย์ 1462 01:33:23,889 --> 01:33:24,932 นั่นแหละที่สำคัญ 1463 01:33:27,268 --> 01:33:29,729 เพราะงั้นคุณต้องเป็นมนุษย์ที่ดีให้ได้ก่อน 1464 01:33:29,812 --> 01:33:31,522 ก่อนที่จะเป็นนักดนตรีที่ดี 1465 01:33:33,774 --> 01:33:36,068 ความสำเร็จ เพลงฮิต 1466 01:33:38,362 --> 01:33:41,532 ชื่อเสียง เงินทอง อำนาจ 1467 01:33:42,533 --> 01:33:45,369 ทั้งหมดนั้นเหมือนเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนเขา 1468 01:33:45,453 --> 01:33:49,415 แต่พอผมมีโอกาสได้รู้จักเขา ผมได้เห็นคนที่ต่างไปเหมือนเป็นคนละคน 1469 01:33:50,791 --> 01:33:53,544 ผมคิดมาตลอดว่าหมอนี่คือชายที่มีอัตตาคับพอง 1470 01:33:53,627 --> 01:33:58,507 แต่จำนวนของผู้คนที่เขาช่วยเหลือ มันน่าเหลือเชื่อมากๆ 1471 01:33:58,591 --> 01:34:02,553 ผมได้รับสายจากแม่ เมื่อ 30 ปีก่อน 1472 01:34:04,013 --> 01:34:06,307 แม่บอกว่า "ที่ยูซีแอลเอมีแม่หนูอยู่คนหนึ่ง 1473 01:34:06,390 --> 01:34:07,767 ไปหาเธอหน่อยสิ" 1474 01:34:07,850 --> 01:34:10,644 เธอมีสายต่อระโยงระยาง เธออายุห้าขวบ 1475 01:34:10,728 --> 01:34:13,105 เธอต้องปลูกถ่ายตับ 1476 01:34:13,189 --> 01:34:14,648 ผมถามเธอไปว่า 1477 01:34:14,732 --> 01:34:16,525 "เธออยากได้อะไรมากที่สุดในโลก" 1478 01:34:16,609 --> 01:34:18,652 นึกว่าเธอจะตอบว่าเธออยากไปดิสนีย์แลนด์ 1479 01:34:18,736 --> 01:34:21,489 หรืออยากจะเจอคนดังในยุคสมัยนั้น 1480 01:34:21,572 --> 01:34:24,492 แต่เธอบอกว่า "หนูอยากเจอพี่สาว" 1481 01:34:25,201 --> 01:34:28,454 ผมซื้อตั๋วเครื่องบินพาพี่สาวของเธอมา 1482 01:34:28,537 --> 01:34:32,583 และในวินาทีที่สองพี่น้องสบตากัน 1483 01:34:32,666 --> 01:34:34,710 มันฝังเข้าไปในสมองผม 1484 01:34:34,794 --> 01:34:39,465 และวินาทีนั้นแหละที่ผมคิดว่า "นี่คือสิ่งที่ผมต้องทำ" 1485 01:34:39,548 --> 01:34:42,968 พวกเราช่วยเหลือครอบครัวของเด็กๆ ที่ต้องปลูกถ่ายอวัยวะ 1486 01:34:43,052 --> 01:34:44,637 เราออกค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด 1487 01:34:44,720 --> 01:34:49,558 และเราคือแสงสว่างเพียงจุดเดียว ในวันที่เลวร้ายที่สุดของครอบครัวหนึ่ง 1488 01:34:51,435 --> 01:34:55,356 แม้แต่ครอบครัวที่พอมีฐานะ ก็ยังไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่าย 1489 01:34:55,439 --> 01:34:57,566 ที่จำเป็นในการพยายามดูแลสองครอบครัว 1490 01:34:57,650 --> 01:35:00,653 ไปได้หลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือบางครั้งก็หลายปี 1491 01:35:00,736 --> 01:35:01,862 และเราก็จ่ายให้หมด 1492 01:35:01,946 --> 01:35:03,823 มันเป็นงานที่ยาก 1493 01:35:04,532 --> 01:35:10,121 คืนนี้ฉันมาที่นี่เพื่อแสดงความชื่นชม เชิดชูเกียรติ 1494 01:35:10,204 --> 01:35:15,126 และฉลองให้กับผู้ทรงเกียรติ ของมูลนิธิเดวิด ฟอสเตอร์ประจำค่ำคืนนี้ 1495 01:35:16,085 --> 01:35:18,337 คืนนี้ เราระดมทุนได้… 1496 01:35:18,421 --> 01:35:23,300 สิบล้านสองแสนเหรียญ 1497 01:35:23,968 --> 01:35:26,887 เบื้องหลังชายคนนี้มีหัวใจอยู่แน่นอน 1498 01:35:26,971 --> 01:35:29,265 เขาจริงจังมากเรื่องการสร้างความแตกต่าง 1499 01:35:29,348 --> 01:35:32,435 และพาครอบครัวของเด็กๆ ที่กำลังสู้เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ 1500 01:35:32,518 --> 01:35:33,727 ให้ได้กลับมาอยู่ร่วมกัน 1501 01:35:34,520 --> 01:35:37,523 ทุกคนโทรหาเขา "ทำบุญกับเราสิ ทำบุญกับเรา" 1502 01:35:38,232 --> 01:35:40,734 ไม่ใช่แค่กับมูลนิธิของเดวิดเอง แต่กับทุกๆ มูลนิธิ 1503 01:35:41,277 --> 01:35:43,696 คำแรกที่ออกมาจากปากเขาคือ "ได้" 1504 01:35:43,779 --> 01:35:47,366 เขาไม่เคยกลัวที่จะดึงเพื่อนคนดังมาร่วมด้วย 1505 01:35:51,203 --> 01:35:53,831 เขายินดีช่วยเหลือทุกมูลนิธิ และเขาก็ทำตลอดมา 1506 01:36:00,045 --> 01:36:01,714 เมื่อเร็วๆ นี้เพื่อนคนหนึ่งบอกผม 1507 01:36:01,797 --> 01:36:04,884 เขาบอกว่า "นายตัดสินใจ เรื่องอสังหาริมทรัพย์ได้แย่มากนะ 1508 01:36:04,967 --> 01:36:08,929 ดูจากที่นายไม่เคยขึ้นลิฟต์มา 30 กว่าปีแล้ว 1509 01:36:10,681 --> 01:36:13,100 สำหรับคนที่ชอบควบคุมทุกอย่าง มันคงน่ารำคาญน่าดู" 1510 01:36:15,853 --> 01:36:18,814 และผู้คนคิดว่ามันเป็นมุกตลกอะไรสักอย่าง 1511 01:36:18,898 --> 01:36:20,524 จะกดปุ่มให้มันมาชั้นนี้ยังไง 1512 01:36:20,608 --> 01:36:23,402 ผมเคยเจอคนที่พูดว่า "ครับ ผมก็ไม่ชอบลิฟต์เหมือนกัน" 1513 01:36:23,486 --> 01:36:24,528 ก็ใช่ แต่คุณก็ยังใช้มันนี่ 1514 01:36:24,612 --> 01:36:26,030 พระเจ้าช่วย 1515 01:36:26,113 --> 01:36:28,282 มันควบคุมชีวิตผม 1516 01:36:28,365 --> 01:36:32,536 มันเป็นอะไรที่ผมพยายามจะแก้ไข 1517 01:36:32,620 --> 01:36:37,166 แต่ก็แก้ไม่ได้ และคงไม่มีวันแก้ได้ 1518 01:36:39,668 --> 01:36:41,170 พระเจ้าช่วย 1519 01:36:50,888 --> 01:36:54,767 ครั้งหนึ่งผมเคยคำนวณว่า ผมเดินขึ้นลงบันไดไปแล้วกี่ขั้น 1520 01:36:54,850 --> 01:36:56,685 - สิบวินาที - ไม่ ผมทำไม่ได้ 1521 01:36:56,769 --> 01:37:00,481 ผลก็คือผมขึ้นลงบันไดมามากกว่าสามล้านขั้นแล้ว 1522 01:37:03,275 --> 01:37:05,778 สิบชั้น ง่ายกว่านี้มีไหมเนี่ย 1523 01:37:11,700 --> 01:37:13,285 ระยะหลังผมวิตกเรื่องสุขภาพ 1524 01:37:13,369 --> 01:37:15,287 และปฏิกิริยาของผมก็ไม่ใช่เมินเฉยไม่สนใจ 1525 01:37:16,205 --> 01:37:18,791 ปฏิกิริยาของผมคือ "ซวยแล้ว" 1526 01:37:21,293 --> 01:37:23,837 ไม่นานมานี้ผมเจอเนื้องอกในปอด 1527 01:37:23,921 --> 01:37:27,758 โชคดีที่มันไม่อันตราย แต่ผมต้องผ่าตัดสามครั้ง 1528 01:37:31,262 --> 01:37:35,474 แล้วลิ้นหัวใจผมมันก็ผิดปกติ จำเป็นต้องผ่าตัดเปลี่ยน 1529 01:37:35,558 --> 01:37:37,643 ซึ่งต้องใช้เวลาผ่าตัดถึงห้าชั่วโมง 1530 01:37:40,229 --> 01:37:42,523 ผมคิดว่าทุกคนกลัวตาย จริงไหม 1531 01:37:42,606 --> 01:37:46,610 มันเป็นสิ่งเดียวที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ 1532 01:37:46,694 --> 01:37:49,488 และมันก็เป็นสิ่งที่ทุกคนเตรียมใจรับไว้น้อยที่สุด 1533 01:37:51,740 --> 01:37:55,703 ผมยังไม่อยากไป ง่ายๆ แค่นี้แหละ มันมีแค่นี้เลย 1534 01:37:57,121 --> 01:37:59,873 พ่อฉันพูดเสมอว่า "ถ้าพ่อกลายเป็นผัก อย่าได้ถอดปลั๊กออกเด็ดขาด" 1535 01:37:59,957 --> 01:38:01,834 ห้ามเลย พ่อบอกว่ารับปากพ่อมา ว่าลูกจะไม่ถอดปลั๊ก 1536 01:38:01,917 --> 01:38:03,377 ปล่อยให้พ่อนอนต่อไป เราแบบ… 1537 01:38:03,460 --> 01:38:05,045 - เขาเป็นคน… - เขาต้องอยากถูกแช่แข็งแน่ 1538 01:38:05,129 --> 01:38:07,172 เขาต้องอยากถูกแช่แข็งเอาไว้แน่นอน 1539 01:38:07,256 --> 01:38:09,425 เขาจะได้กลับมา พ่อชอบใช้ชีวิต 1540 01:38:14,430 --> 01:38:17,308 - ไง ที่รัก - ไง 1541 01:38:17,391 --> 01:38:19,351 ยินดีต้อนรับสู่รายการเรียลลิตี้ของผม 1542 01:38:19,435 --> 01:38:22,980 คุณเพิ่งพูดเรื่องที่เรา มีความสัมพันธ์กันทางเฟซไทม์หรือเปล่า 1543 01:38:23,063 --> 01:38:24,523 ผมไม่ได้พูดเรื่องนั้นเลย 1544 01:38:24,607 --> 01:38:26,317 ถึงเราจะมีความสัมพันธ์ทางเฟซไทม์ก็เถอะ 1545 01:38:26,400 --> 01:38:27,651 ฉันจะดีขึ้น ฉันสัญญา 1546 01:38:27,735 --> 01:38:29,653 ถึงโรงแรมแล้วจะโทรหา โอเคนะ 1547 01:38:29,737 --> 01:38:30,821 - โอเค - รักนะ 1548 01:38:30,904 --> 01:38:32,323 บาย รักนะคะ 1549 01:38:34,491 --> 01:38:36,493 ผมไม่อยากตายคาห้องอัดแน่นอน 1550 01:38:36,577 --> 01:38:39,580 แบบนั้นมันคงตลกร้ายไปหน่อย 1551 01:38:39,663 --> 01:38:41,457 วันที่ผมตาย ผมไม่อยากทำงาน 1552 01:38:41,540 --> 01:38:45,085 ผมอยากอยู่บนเรือที่ไหนสักแห่ง นอนอาบแดด 1553 01:38:46,211 --> 01:38:49,632 แล้วก็มีแก้วไวน์เล็กๆ วางอยู่ข้างๆ 1554 01:38:49,715 --> 01:38:51,675 หลับไปแล้วไม่ต้องตื่นอีก 1555 01:38:53,385 --> 01:38:59,183 ฉันไม่เคยเจอใครที่จริงจังกับ… 1556 01:39:00,225 --> 01:39:02,227 การมีอายุยืนมากเท่าเขา 1557 01:39:03,604 --> 01:39:08,942 เขาหมกมุ่นกับการมีชีวิตบนโลกมากกว่าใคร 1558 01:39:10,986 --> 01:39:12,738 เขานั่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้ 1559 01:39:12,821 --> 01:39:16,075 เขาไม่สามารถวางมือจากวงการได้ 1560 01:39:16,158 --> 01:39:22,998 ฉันคิดว่าเขากำลังค้นหา ความสมบูรณ์แบบบางอย่าง 1561 01:39:23,082 --> 01:39:28,379 ที่จะทำให้เขาเลิกรู้สึกว่า ต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลาสักที 1562 01:39:29,588 --> 01:39:33,133 เขาเข้าใจถ่องแท้ว่าจะนำเสนอสิ่งต่างๆ ยังไง 1563 01:39:33,217 --> 01:39:35,010 เพื่อให้มันส่งอิทธิพลต่อผู้คน 1564 01:39:35,094 --> 01:39:37,930 เขาไม่อายที่จะวางท่าใหญ่โต หวือหวา และห้าวเป้ง 1565 01:39:38,055 --> 01:39:39,932 เขาใช้ชีวิตเต็มที่สุดๆ 1566 01:39:40,766 --> 01:39:42,476 ผลงานที่เขาฝากไว้จะคงอยู่ต่อไป 1567 01:39:42,559 --> 01:39:45,437 ถึงเขาอาจจะไม่คิดแบบนั้น เพราะตอนนี้เขายังยิ่งใหญ่อยู่ 1568 01:39:46,063 --> 01:39:51,068 และเขาก็ยังไม่รู้วิธีที่จะพูดว่า "ไม่" นั่นอาจจะเป็นข่าวดี 1569 01:39:51,151 --> 01:39:53,195 อาจไม่ดีกับเขา แต่ดีกับเราทุกคน 1570 01:39:53,862 --> 01:39:57,241 เขาคู่ควรกับเกียรติยศ ชื่อเสียงที่เขาฝากไว้ 1571 01:39:57,324 --> 01:40:02,204 ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นศิลปินที่โชคดีเหลือเกิน ที่มีโอกาสได้ทำงานกับเขา 1572 01:40:02,287 --> 01:40:05,582 เพลงยิ่งใหญ่เหล่านั้น จะไม่มีวันหายไปไหน ไม่มีวัน 1573 01:40:06,250 --> 01:40:10,129 เดวิดบอกว่าผมเป็นนักร้องที่ดีที่สุดในโลก 1574 01:40:10,212 --> 01:40:13,132 ผมก็พูดอย่างนั้นกับเขาได้เหมือนกัน 1575 01:40:13,215 --> 01:40:15,467 เขาเป็นโปรดิวเซอร์ที่เก่งที่สุดในโลก 1576 01:40:16,593 --> 01:40:20,764 ถ้าคุณลองดูจำนวน ของคนที่เขาทำงานด้วยแล้วประสบความสำเร็จ 1577 01:40:20,848 --> 01:40:22,516 เท่านั้นก็พอเป็นมรดกให้ฝากไว้ได้แล้ว 1578 01:40:22,599 --> 01:40:25,644 จำนวนของศิลปินที่เขาร่วมงานด้วย 1579 01:40:25,728 --> 01:40:28,772 ร่วมทำเพลงให้และประสบความสำเร็จล้นหลาม 1580 01:40:28,856 --> 01:40:31,316 และผมก็โชคดีที่ได้เป็นส่วนเล็กๆ ในนั้น 1581 01:40:35,070 --> 01:40:40,534 เขาเป็นมนุษย์ที่ซับซ้อน มีเอกลักษณ์ และน่าทึ่งมากๆ 1582 01:40:40,617 --> 01:40:44,747 มีหลายด้านในตัวเขาที่ผมคงไม่มีวันได้รู้จัก 1583 01:40:44,830 --> 01:40:49,042 และเขาก็มีหลายด้านที่ผมอยากให้โลกได้รู้จัก 1584 01:40:50,043 --> 01:40:54,339 เดวิด ฟอสเตอร์คือหนึ่งในโปรดิวเซอร์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล 1585 01:40:54,423 --> 01:40:56,508 โดยไม่มีข้อโต้แย้ง 1586 01:40:56,592 --> 01:41:02,306 เดวิดได้รับการเสนอชื่อ ชิงรางวัลแกรมมี 47 ครั้ง 1587 01:41:03,724 --> 01:41:10,272 คุณต้องระวังให้ดีเวลาทำงานกับ คนที่ประสบความสำเร็จมามาก 1588 01:41:11,023 --> 01:41:13,942 ว่าจะไปเหมาว่าเขาเป็นอย่างนั้น เหมาว่าเขาเป็นอย่างนี้ 1589 01:41:14,026 --> 01:41:17,738 ไปพูดแบบว่า "อ๋อ นั่นคือสิ่งที่เขาทำได้สินะ" 1590 01:41:19,114 --> 01:41:21,658 ฉันพูดได้ว่าเวลาเราอยู่ด้วยกัน เราเฮฮากันมาก 1591 01:41:21,742 --> 01:41:25,621 แต่ฉันก็ต้องทนกับเขาด้วย เพราะเขาย้ำเตือนฉันอยู่บ่อยๆ 1592 01:41:25,704 --> 01:41:26,955 ว่าเขาแสนจะปราดเปรื่อง 1593 01:41:27,039 --> 01:41:28,749 แล้วรู้อะไรไหม นั่นเรื่องจริง 1594 01:41:30,417 --> 01:41:33,545 ผมพูดได้แค่ว่าเดวิดน่ะใช้ชีวิตสุดทาง 1595 01:41:34,129 --> 01:41:37,216 เราเกิดมาชีวิตเดียว ฉะนั้นต้องเดินหน้าไปเรื่อยๆ 1596 01:41:37,299 --> 01:41:42,262 สู้กับเรื่องนี้ต่อไป เรียนรู้เรื่องนั้นเรื่องนี้ และเติบโตขึ้น 1597 01:41:43,388 --> 01:41:45,349 ถ้าโมทซาร์ทเคยพูดจริงๆ ว่า 1598 01:41:45,432 --> 01:41:48,727 เขาไม่เคยคิดว่าเขาได้สร้างผลงานที่สมบูรณ์แบบ 1599 01:41:48,811 --> 01:41:51,230 แล้วพวกเราที่เหลือจะมีโอกาสทำได้สักแค่ไหน 1600 01:41:51,313 --> 01:41:55,359 ความกระหายในความสำเร็จขับเคลื่อนผม 1601 01:41:56,235 --> 01:42:01,365 ผมพร้อมจะล้มลุกคลุกคลาน เพื่อสร้างละครเพลงบรอดเวย์ดังๆ 1602 01:42:01,448 --> 01:42:05,077 มันอาจเกิดหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่จะไม่มีใครพูดได้ว่าผมไม่พยายาม 1603 01:42:05,160 --> 01:42:11,458 (เข้าชิงรางวัลโทนี 11 สาขา ละครเพลงยอดเยี่ยม) 1604 01:42:15,212 --> 01:42:21,134 (ปัจจุบันเดวิด ฟอสเตอร์กำลังพัฒนา ละครเพลงบรอดเวย์สามเรื่อง) 1605 01:42:25,722 --> 01:42:29,643 ฟังนะ คุณเข้ามาในชีวิตผม ขุดคุ้ยจนลึก และผมไม่ชอบเลย 1606 01:42:29,726 --> 01:42:31,562 ผมว่าถึงเวลาที่มันจะจบแล้วล่ะ 1607 01:46:38,517 --> 01:46:40,519 คำบรรยายโดย: วรพล ถาวรวรานนท์