1 00:00:07,507 --> 00:00:08,800 ‪ในปี 1983 2 00:00:08,883 --> 00:00:12,387 ‪ได้เกิดประวัติศาสตร์ทางทีวีขึ้นมา ‪เมื่อไมเคิล แจ็กสันทำแบบนี้ 3 00:00:12,887 --> 00:00:15,515 ‪มันกินเวลาแค่ 2,5 วินาที 4 00:00:15,598 --> 00:00:19,060 ‪แต่มันกลับทิ้งหมุดหมายวัฒนธรรมไว้อย่างถาวร 5 00:00:19,144 --> 00:00:22,772 ‪แต่เมื่อสามทศวรรษก่อน ‪ที่โรงละครอะพอลโลในฮาร์เลม 6 00:00:22,856 --> 00:00:25,358 ‪บิล เบลีย์ก็เคยเต้นท่าเดียวกันมาแล้ว 7 00:00:25,984 --> 00:00:27,277 ‪มันเป็นเรื่องปกติมาก 8 00:00:27,360 --> 00:00:30,363 ‪ท่าเต้นของมาดอนน่าในเอ็มวี ‪เพลง "โว้ก" ปี 1990 ของเธอ 9 00:00:30,447 --> 00:00:33,283 ‪ทำให้ทุกคนในทุกปาร์ตี้ต้องโพสท่าตาม 10 00:00:33,366 --> 00:00:36,411 ‪แต่ท่าโว้กอยู่ใน ‪วัฒนธรรมใต้ดินมานานหลายปีแล้ว 11 00:00:36,494 --> 00:00:40,248 ‪หลังจากไมลี่ย์ ไซรัสส่ายก้น ‪ในงานวีเอ็มเอเมื่อปี 2013 12 00:00:40,331 --> 00:00:43,084 ‪ทเวิร์กก็ถูกบัญญัติในพจนานุกรมออกซ์ฟอร์ด 13 00:00:43,168 --> 00:00:46,337 ‪แต่แร็ปเปอร์บิ๊กฟรีเดีย ‪เคยโยกบั้นท้ายในวิดีโอของเธอ 14 00:00:46,421 --> 00:00:49,174 ‪มาตั้งแต่สมัยที่ไมลี่ย์ยังคิดว่าเด็กผู้ชายเป็นเหา 15 00:00:49,257 --> 00:00:53,303 ‪วิดีโอนี้ทำให้เกิด ‪ท่าเต้นยอดนิยมที่สุดท่าหนึ่งในปี 2019 16 00:00:53,386 --> 00:00:56,681 ‪และช่วยให้ชาร์ลี ดีเมลิโอ ‪กลายเป็นดาวดังในติ๊กต็อก 17 00:00:56,765 --> 00:01:01,311 {\an8}‪แต่วัยรุ่นอีกคนหนึ่ง จาเลอาห์ ฮาร์มอน ‪เป็นผู้คิดค้นท่าเรเนเกดที่แท้จริง 18 00:01:01,394 --> 00:01:03,313 ‪และโพสต์วิดีโอนี้หลายสัปดาห์ก่อนหน้า 19 00:01:03,396 --> 00:01:06,941 ‪และแต่ละท่วงท่าในท่าเต้นนั้น ‪มีประวัติย้อนไปไกลกว่านั้นอีก 20 00:01:07,025 --> 00:01:10,111 ‪มีพื้นฐานจากการเต้นฮิปฮอป ‪สไตล์แอฟริกันที่มีอายุหลายทศวรรษ 21 00:01:10,612 --> 00:01:13,198 ‪หลักๆ การเต้นรำสังสรรค์คือการคิดแบบกลุ่ม 22 00:01:13,281 --> 00:01:17,452 ‪เราช่วยกันคิดว่า ‪อยากขยับตัวแบบไหนและลองเต้นดู 23 00:01:17,535 --> 00:01:20,371 ‪และสมัยนี้มันก็เกิดขึ้นมารวดเร็วกว่าแต่ก่อน 24 00:01:20,455 --> 00:01:21,915 ‪ท่าเต้นที่ฮอตที่สุดคืออะไร 25 00:01:21,998 --> 00:01:24,000 ‪มันมี "อัป" ของคาร์ดิ บี 26 00:01:24,084 --> 00:01:26,961 ‪พระเจ้า ฉันกับคริส ‪เป็นคนคิดท่านั่นแล้วมันก็กลายเป็นไวรัล 27 00:01:27,045 --> 00:01:29,255 ‪- นี้ไง ‪- "คอร์เว็ตต์ คอร์เว็ตต์" 28 00:01:29,339 --> 00:01:31,007 ‪"ลาฟฟี่ ทาฟฟี่" 29 00:01:31,091 --> 00:01:34,260 ‪เราเต้นเพลง "โอลด์ทาวน์โร้ด" ‪ตั้งนานก่อนที่มันจะดัง 30 00:01:34,344 --> 00:01:35,845 ‪- ใช่ ‪- ท่านี้ด้วย 31 00:01:35,929 --> 00:01:36,846 ‪ดูสบายๆ น่าสนุก 32 00:01:36,930 --> 00:01:39,516 ‪- "ล็อกอิต ล็อกอิต" ‪- "ฮิตเดอะควีน" 33 00:01:39,599 --> 00:01:41,684 ‪- เคาะกำแพง ‪- เหมือนเขย่า ปรบมือ 34 00:01:41,768 --> 00:01:43,061 ‪มันเหมือน "จูจูออน" 35 00:01:43,144 --> 00:01:46,022 ‪พูดง่ายๆ คือทุกเพลงฮิตในช่วงสองปีหลังนี้ 36 00:01:46,106 --> 00:01:47,440 ‪จะมีชาเลนจ์เต้นเสมอ 37 00:01:47,524 --> 00:01:51,069 ‪ท่าเต้นทั้งหมดนี้มีคนเต้นหลายล้านคน 38 00:01:51,152 --> 00:01:54,447 ‪แต่กระแสท่าเต้นแต่ละครั้งทำเงินได้มากมหาศาล 39 00:01:54,531 --> 00:01:56,991 ‪ท่ามกลางวิดีโอเต้นของชาร์ลี ดีเมลิโอ 40 00:01:57,075 --> 00:02:01,079 ‪คุณจะเห็นเธอผ่อนคลาย ‪ในชุดนอนสุดพิเศษของดังกิ้น 41 00:02:01,162 --> 00:02:03,414 ‪และโพสท่ากับสินค้าดังกิ้นชิ้นอื่น 42 00:02:03,498 --> 00:02:08,878 ‪ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆ แบรนด์ที่อยาก ‪จะเข้าถึงผู้ติดตามกว่า 117 ล้านคนของเธอ 43 00:02:08,962 --> 00:02:12,549 ‪โดยยอมจ่ายประมาณเลขหกหลักต่อโพสต์ 44 00:02:12,632 --> 00:02:16,052 ‪และเกมฟอร์ตไนต์ก็ขายท่าเต้นจริงๆ 45 00:02:16,136 --> 00:02:18,680 ‪ผู้คนยอมจ่ายเงิน ‪ไม่กี่ดอลลาร์เพื่อส่วนเสริมแบบนี้ 46 00:02:18,763 --> 00:02:21,641 ‪จนทำให้บริษัทมีกำไรเพิ่ม ‪หลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี 47 00:02:21,724 --> 00:02:24,060 ‪มันมีความเหลื่อมล้ำที่ชัดเจนมาก 48 00:02:24,144 --> 00:02:28,273 ‪ระหว่างผู้ทำเงินรายใหญ่ ‪ที่ทำเงินจากเทรนด์การเต้น 49 00:02:28,356 --> 00:02:29,482 ‪กับคนอื่นๆ 50 00:02:30,233 --> 00:02:32,110 ‪แล้วอะไรทำให้การเต้นกลายเป็นกระแสล่ะ 51 00:02:33,111 --> 00:02:35,405 ‪และใครควรได้กำไรจากมัน 52 00:02:36,865 --> 00:02:40,743 ‪ผู้หญิงบางคนที่ไร้พันธะ ‪พบว่าการเต้นชาร์ลสตันเป็นการผ่อนคลาย 53 00:02:40,827 --> 00:02:43,872 ‪จากนี้ไปการเต้นรำ ‪และความสนุกจะเป็นสิ่งเดียวกัน 54 00:02:43,955 --> 00:02:44,956 ‪สำหรับทั้งชายและหญิง 55 00:02:45,665 --> 00:02:49,043 ‪อัลกอร์กับฉันจะเต้นมากาเรนากัน 56 00:02:49,127 --> 00:02:52,338 ‪ใครๆ ก็เต้นโซลจาบอย เต้นซูเปอร์แมน 57 00:02:52,422 --> 00:02:55,425 ‪พวกเขาเลือกสไตล์ของตัวเองและใส่ไม่มียั้ง 58 00:03:04,267 --> 00:03:09,230 ‪(เต้นหยุดโลก) 59 00:03:10,190 --> 00:03:14,402 ‪มนุษย์เป็นสัตว์ที่อ่อนแอมาก เราไม่ได้ว่องไวนัก 60 00:03:14,485 --> 00:03:17,655 ‪เราไม่ค่อยแข็งแรง และผิวของเราก็นุ่มมาก 61 00:03:18,239 --> 00:03:21,618 ‪สำหรับนักล่าแล้ว ‪เราดูเหมือนเหยื่ออันโอชะทีเดียว 62 00:03:21,701 --> 00:03:25,705 ‪ดังนั้นตามทฤษฎีวิวัฒนาการหนึ่ง ‪เราได้เรียนรู้กลยุทธขึ้นมา 63 00:03:26,247 --> 00:03:28,791 ‪ด้วยการยืนด้วยกันและขยับตัวไปพร้อมกัน 64 00:03:28,875 --> 00:03:33,546 ‪เราทำให้ตัวเองดูเหมือนสัตว์ร้าย ‪ที่ตัวใหญ่กว่ามากและไล่นักล่าไปได้ 65 00:03:33,630 --> 00:03:34,672 ‪พูดอีกอย่างก็คือ 66 00:03:34,756 --> 00:03:37,717 ‪เราอาจเริ่มเต้นพร้อมกันเพื่อความอยู่รอด 67 00:03:37,800 --> 00:03:39,594 ‪มันฝังลึกอยู่ในตัวเรา 68 00:03:39,677 --> 00:03:42,722 ‪ถ้ามีคนสองคนนั่งเก้าอี้โยกข้างกัน 69 00:03:42,805 --> 00:03:46,100 ‪พวกเขาจะเริ่มขยับตัวไปพร้อมกันโดยไม่รู้ตัว 70 00:03:46,601 --> 00:03:50,480 ‪และเมื่อเราขยับตัวพร้อมกัน ‪ร่างกายเราก็จะหลั่งเอ็นดอร์ฟินออกมา 71 00:03:50,563 --> 00:03:54,567 ‪ซึ่งกระตุ้นให้เรา ‪เต้นมากขึ้นอีกเพื่อจะขู่ให้ศัตรูกลัว 72 00:03:54,651 --> 00:04:00,281 ‪เพื่อสักการะเทพ เพื่อฉลอง ‪เพื่อไว้อาลัย และเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ในชุมชน 73 00:04:00,782 --> 00:04:03,284 ‪แต่การที่คนแปลกหน้า ‪มาขยับตัวไปพร้อมกันน่ะเหรอ 74 00:04:03,368 --> 00:04:05,203 ‪นั่นเป็นปรากฏการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน 75 00:04:05,286 --> 00:04:08,122 ‪กระแสท่าเต้นมีวงจรชีวิตที่น่าทึ่ง 76 00:04:08,206 --> 00:04:10,458 ‪ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายสัดหลายส่วน 77 00:04:10,541 --> 00:04:13,169 ‪(ขั้นที่หนึ่ง) 78 00:04:14,462 --> 00:04:16,965 ‪มันมักจะมีสังคมที่เป็นต้นกำเนิด 79 00:04:17,048 --> 00:04:19,759 ‪คิดขึ้นมาว่า "เฮ่ ถ้าเราเต้นท่านี้ล่ะ" 80 00:04:19,842 --> 00:04:24,013 ‪แล้วท่าเต้นนั้นก็ถูกแชร์ออกไป ‪ส่วนมากจะในพื้นที่ท้องถิ่น 81 00:04:24,097 --> 00:04:27,392 ‪ในกรณีของกระแสท่าเต้น ‪ครั้งแรกของโลกที่ยังถกเถียงกันนั้น 82 00:04:27,475 --> 00:04:30,103 ‪น่าจะเกิดขึ้นที่หมู่บ้านบนเขาในออสเตรีย 83 00:04:30,812 --> 00:04:33,064 ‪"วอลต์เซน" ในภาษาเยอรมันแปลว่า "หมุน" 84 00:04:33,147 --> 00:04:37,318 ‪เป็นการจับคู่หมุนและขยับตัว ‪พร้อมกันเป็นวงกลมไปรอบๆ ห้อง 85 00:04:37,819 --> 00:04:41,823 ‪มันแตกต่างมากจากการเต้นรำ ‪ที่เป็นที่นิยมในราชสำนักยุโรป 86 00:04:41,906 --> 00:04:45,743 ‪ซึ่งเป็นท่าเต้นที่มีรายละเอียด ยาก และเข้มงวด 87 00:04:45,827 --> 00:04:49,747 ‪ไล่ตั้งแต่ต้องมองไปที่ไหน ไปจนถึงสีหน้า 88 00:04:49,831 --> 00:04:52,667 ‪ผู้ชายกับผู้หญิงจะแตะตัวกัน ‪โดยเว้นระยะหนึ่งช่วงแขน 89 00:04:52,750 --> 00:04:56,671 ‪แต่วอลซ์จะแนบชิดกว่า ‪ผ่อนคลายกว่า และเร็วกว่า 90 00:04:56,754 --> 00:04:59,424 ‪บางครั้งผู้หญิงจะยกกระโปรงขึ้นเล็กน้อย 91 00:04:59,507 --> 00:05:02,135 ‪เผยข้อเท้าให้ชวนวาบหวิวด้วย 92 00:05:02,719 --> 00:05:06,222 ‪แต่การเต้นที่น่าทึ่งแบบนี้ ‪ก็ไม่อาจกลายเป็นกระแสได้ 93 00:05:06,306 --> 00:05:08,266 ‪เว้นแต่มันจะหาทางเผยแพร่ออกไป 94 00:05:10,768 --> 00:05:14,897 ‪มีทฤษฎีหนึ่งอ้างว่า ‪คุณต้องขอบคุณนโปเลียน โบนาปาร์ต 95 00:05:14,981 --> 00:05:18,192 ‪ซึ่งนำกองทัพรุกรานทั่วยุโรปในช่วงต้นปี 1800 96 00:05:18,276 --> 00:05:19,819 ‪พร้อมกับนำพาวอลซ์ไปด้วย 97 00:05:19,902 --> 00:05:22,155 ‪นโปเลียนไม่เคยรุกรานอังกฤษ 98 00:05:22,238 --> 00:05:23,614 ‪แต่วอลซ์รุกราน 99 00:05:23,698 --> 00:05:27,827 ‪แล้วมันก็ออกเรือข้าม ‪มหาสมุทรแอตแลนติกไปยังสหรัฐอเมริกา 100 00:05:28,328 --> 00:05:30,705 ‪แต่นั่นเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของเรื่องราว 101 00:05:31,205 --> 00:05:34,417 ‪แล้วมันจะมีส่วนที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ 102 00:05:34,500 --> 00:05:36,544 ‪นั่นคือจะมีคนที่เกลียดชังมัน 103 00:05:36,627 --> 00:05:38,504 ‪(ขั้นที่สาม) 104 00:05:40,381 --> 00:05:44,802 ‪หนังสือสอนมารยาทหญิง ‪ในอเมริกาฉบับปี 1840 ได้กล่าวถึงวอลซ์ว่า 105 00:05:44,886 --> 00:05:48,139 {\an8}‪"มันมีบางสิ่งในความชิดใกล้ของคน 106 00:05:48,222 --> 00:05:50,308 {\an8}‪ทัศนคติ และการเคลื่อนไหว 107 00:05:50,391 --> 00:05:53,186 {\an8}‪ซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับความอ่อนช้อยของสตรี" 108 00:05:53,269 --> 00:05:56,189 {\an8}‪บ้างก็เตือนว่ามัน ‪สามารถกระตุ้น "อารมณ์รุนแรง" 109 00:05:56,272 --> 00:05:58,441 {\an8}‪"ความปั่นป่วน" "อาการกระสับกระส่าย" 110 00:05:58,524 --> 00:06:02,111 ‪และ "ทำลายคนหนุ่มสาว ‪ยิ่งกว่าความชั่วร้ายทั้งหลาย 111 00:06:02,195 --> 00:06:04,489 ‪ซึ่งระบุในคำเทศนา 112 00:06:04,572 --> 00:06:05,406 ‪แต่... 113 00:06:05,490 --> 00:06:08,826 ‪แต่คนเราปฏิเสธการเต้นรำ ผู้คนต้องเต้น 114 00:06:08,910 --> 00:06:10,995 ‪นำเราไปสู่ขั้นตอนสุดท้าย 115 00:06:11,746 --> 00:06:16,167 ‪กระแสการเต้นวอลซ์ ‪คงอยู่นานเกือบๆ สองศตวรรษ 116 00:06:16,751 --> 00:06:19,462 ‪สร้างอาชีพให้นักแต่งเพลงบางคนอย่าง 117 00:06:19,545 --> 00:06:20,797 ‪โยฮัน สเตราส์ 118 00:06:20,880 --> 00:06:23,800 ‪กับเพลงวอลซ์ยอดฮิตของเขา "เดอะบลูดานูบ" 119 00:06:23,883 --> 00:06:28,554 ‪ซึ่งน่าจะมีคนโยกย้ายไปตามเพลงวอลซ์เพลงนี้ 120 00:06:28,638 --> 00:06:30,098 ‪มากกว่าเพลงไหนๆ 121 00:06:31,140 --> 00:06:34,435 ‪แต่ในปัจจุบันวอลซ์คงจะกลับมาเป็นกระแสได้ยาก 122 00:06:34,936 --> 00:06:39,315 ‪ส่วนใหญ่ก็เพราะว่ามันล้นกรอบมือถือ 123 00:06:39,399 --> 00:06:41,025 ‪มุกตลกที่คนชอบล้อการเต้นในติ๊กต็อก 124 00:06:41,109 --> 00:06:44,112 ‪ก็คือมันดูเหมือนคุณกำลังกำกับสัญญาณจราจร 125 00:06:44,195 --> 00:06:49,534 ‪เพราะมันมักจะใช้ร่างกายส่วนบน ‪และมีการเคลื่อนไหวที่เป็นเหลี่ยมมุม 126 00:06:49,617 --> 00:06:53,746 ‪ดังนั้นพวกเขาก็จะอยู่ในกรอบ ‪และมีศูนย์กลางความสนใจก็คือใบหน้าคุณ 127 00:06:53,830 --> 00:06:55,248 ‪ถ้าคุณถามชาร์ลี ดีเมลิโอ 128 00:06:55,331 --> 00:06:58,167 ‪เธอจะบอกว่าการแสดงสีหน้า ‪คือกุญแจสำคัญอันดับหนึ่ง 129 00:06:58,251 --> 00:06:59,377 ‪ในการสร้างคลิปที่ดี 130 00:06:59,460 --> 00:07:02,171 ‪คนชอบสีหน้าที่ดูเหมือนการ์ตูนแบบนั้น 131 00:07:02,255 --> 00:07:07,176 ‪ดาวติ๊กต็อกรู้วิธีทำหน้ายู่ 132 00:07:07,260 --> 00:07:10,179 ‪กัดลิ้นแบบเจ้าเล่ห์ และหน้า "ไม่ดีกว่า" 133 00:07:10,263 --> 00:07:12,723 ‪ขณะที่เต้นท่าทางอันว่องไวไปด้วย 134 00:07:12,807 --> 00:07:16,686 ‪และวงจรชีวิตของ ‪กระแสท่าเต้นก็เร่งความเร็วขึ้นด้วย 135 00:07:16,769 --> 00:07:18,729 ‪ก่อนอื่น คุณต้องคิดค้นท่าเต้น 136 00:07:18,813 --> 00:07:21,983 ‪วันนึงฉันเกิดเบื่อๆ ขึ้นมาตอนนั่งรถเมล์กลับบ้าน 137 00:07:22,066 --> 00:07:25,278 ‪แล้วก็แบบ "เพลงนี้เจ๋งดีนะ ‪คิดท่าเต้นให้มันดีกว่า" 138 00:07:25,361 --> 00:07:27,280 ‪แล้วคุณก็แชร์ให้คนอื่นดู 139 00:07:27,363 --> 00:07:31,075 ‪คุณอาจจะโพสต์ลงใน ‪ดั๊บสแมช คู่แข่งของติ๊กต็อก 140 00:07:31,159 --> 00:07:32,452 ‪ดั๊บสแมชมาก่อน 141 00:07:32,535 --> 00:07:34,912 ‪ฉันว่าครีเอเตอร์ผิวดำเล่นดั๊บสแมชกันหมดนะคะ 142 00:07:34,996 --> 00:07:38,416 ‪แล้วพอคุณโพสต์ลงไป เพื่อนคุณก็เริ่มทำตาม 143 00:07:38,499 --> 00:07:41,461 ‪ซึ่งมันรู้สึกดีมาก แล้วก็น่าทึ่งมากที่ 144 00:07:41,544 --> 00:07:43,421 ‪เพื่อนของเพื่อนคุณก็เริ่มเต้นตาม 145 00:07:43,504 --> 00:07:45,506 ‪แล้วก็คนนึงไปโพสต์ลงติ๊กต็อก 146 00:07:45,590 --> 00:07:48,759 ‪แล้วจู่ๆ ดาวติ๊กต็อกก็มาเต้นท่าที่คุณคิด 147 00:07:48,843 --> 00:07:50,344 ‪คุณยังแทบไม่อยากจะเชื่อเลย 148 00:07:50,428 --> 00:07:53,264 ‪แล้วก่อนที่คุณจะทันรู้ตัว ‪ก็มีคนหลายพันคนเต้นตาม 149 00:07:53,347 --> 00:07:55,766 ‪ท่าเต้นฉันกลายเป็นไวรัลไปแล้ว! 150 00:07:55,850 --> 00:07:58,895 ‪อินฟลูเอนเซอร์รายใหญ่คนอื่นๆ ‪ก็โดดเข้ามาในกระแสนี้ 151 00:07:58,978 --> 00:08:03,399 ‪และตอนนี้ก็มียูทูเบอร์ทำคลิปสอนเต้นท่านั้นๆ 152 00:08:03,483 --> 00:08:07,069 ‪ขณะเดียวกัน ยอดผู้ติดตาม ‪ของดาวติ๊กต็อกคนนั้นก็พุ่งกระฉูด 153 00:08:07,153 --> 00:08:09,614 ‪และผู้ติดตามจำนวนมากแบบนั้นคืออำนาจ 154 00:08:09,697 --> 00:08:13,242 ‪เพราะตอนนี้ ค่ายเพลง ‪อาจจะอยากปั้นพวกเขาเป็นป๊อปสตาร์คนใหม่ 155 00:08:13,326 --> 00:08:17,038 ‪และรายการทีวีระดับประเทศ ‪ก็เชิญพวกเขามาโปรโมตเพลง 156 00:08:17,121 --> 00:08:21,209 ‪และแขกรับเชิญของเราวันนี้ แอดดิสัน เรครับ 157 00:08:21,709 --> 00:08:27,548 ‪และมาสาธิตท่าเต้นสนุกๆ ‪ที่เป็นกระแสในติ๊กต็อก รวมทั้งท่าคุณด้วย 158 00:08:27,632 --> 00:08:30,176 ‪ตอนที่ท่าเต้นของฉัน ‪ได้ออกรายการของจิมมี แฟลลอน 159 00:08:30,676 --> 00:08:32,845 ‪ฉันเห็นแอดดิสัน เรเต้นมัน ฉันนี่แบบ 160 00:08:32,929 --> 00:08:35,848 ‪ฉันช็อกมากเลย ประมาณแบบ "พระเจ้าช่วย" 161 00:08:35,932 --> 00:08:38,518 {\an8}‪ผมคิด "ว้าว ท่าเต้นของฉัน ‪ได้ออกทีวีไปทั่วประเทศ" 162 00:08:38,601 --> 00:08:41,145 ‪แล้วคนมากมายก็ได้เห็นท่าเต้นผม 163 00:08:41,229 --> 00:08:45,107 ‪แต่ส่วนที่แย่ก็คือ ‪พวกเขาไม่รู้ว่ามันเป็นท่าของผมกับมายา 164 00:08:45,191 --> 00:08:49,028 ‪ช่วงนั้นในรายการของ ‪จิมมี แฟลลอนปี 2021 ไม่ได้ให้เครดิตคนคิด 165 00:08:49,111 --> 00:08:53,199 ‪ท่าเต้นทั้งหมดนั่นเลย ซึ่งส่วนมากเป็นวัยรุ่นผิวดำ 166 00:08:53,282 --> 00:08:55,910 ‪พอฉันตั้งสติได้ก็เริ่มคิดว่า 167 00:08:55,993 --> 00:08:59,205 ‪"ให้ตายสิ ฉันอยากให้ฉัน ‪เป็นคนเต้นท่าเต้นตัวเองจัง" 168 00:08:59,288 --> 00:09:04,001 ‪และความรู้สึกนั้นก็มีมายาวนาน ‪พอๆ กับกระแสท่าเต้นนั้นเอง 169 00:09:04,085 --> 00:09:05,503 ‪เพราะหลังจากที่วอลซ์ฮิต 170 00:09:05,586 --> 00:09:08,214 ‪กระแสท่าเต้นส่วนมากก็ไม่ได้มาจากยุโรป 171 00:09:08,297 --> 00:09:11,509 ‪พวกมันถือกำเนิดในชุมชนชาวแอฟริกันอเมริกัน 172 00:09:11,592 --> 00:09:15,429 ‪ตอนที่ชาวแอฟริกันอเมริกัน ‪ถูกจับเป็นทาสและนำตัวมาอเมริกา 173 00:09:15,513 --> 00:09:17,098 ‪กลองกลายเป็นของต้องห้าม 174 00:09:17,181 --> 00:09:20,977 ‪เราเลยเรียนรู้วิธีรักษาจังหวะด้วยร่างกายแทน 175 00:09:23,437 --> 00:09:26,399 ‪เป็นจังหวะจูบาพื้นฐานนั่นเอง 176 00:09:26,482 --> 00:09:27,900 ‪หลังจากเลิกทาส 177 00:09:27,984 --> 00:09:30,528 ‪มันก็กลายเป็นรากฐานของท่าชาร์ลสตัน 178 00:09:30,611 --> 00:09:34,907 ‪ซึ่งตั้งชื่อตามเมืองทางใต้ ‪ที่ชาวอเมริกันผิวดำคิดค้นท่าเต้นนี้ขึ้น 179 00:09:34,991 --> 00:09:36,951 ‪ในช่วงปีแรกที่ได้รับอิสรภาพ 180 00:09:37,034 --> 00:09:39,620 ‪มันกลายเป็นท่าเต้นที่ทำให้คนได้แสดงออก 181 00:09:39,704 --> 00:09:43,249 ‪ถึงความมีชีวิตชีวา ‪และจินตนาการถึงสิ่งอื่น อย่างเช่น 182 00:09:43,332 --> 00:09:47,169 ‪"ถ้าฉันได้อยู่ในเมืองใหญ่ ‪ที่ไม่ใช่เซาท์แคโรไลนา ฉันจะขยับตัวยังไง " 183 00:09:50,840 --> 00:09:52,717 ‪แล้วมันก็แพร่หลายออกไป 184 00:09:52,800 --> 00:09:56,804 ‪หลายคนเชื่อว่าเป็นเพราะ ‪วงแตรวงเด็กกำพร้าที่ออกทัวร์ 185 00:09:56,887 --> 00:09:59,557 ‪และเต้นชาร์ลสตันไปด้วยระหว่างแสดง 186 00:10:00,474 --> 00:10:03,436 ‪เมื่อชาวแอฟริกันอเมริกัน ‪หลายล้านคนอพยพขึ้นเหนือ 187 00:10:03,519 --> 00:10:05,313 ‪พวกเขาก็นำท่าเต้นนี้ติดตัวไปด้วย 188 00:10:05,396 --> 00:10:09,483 ‪และมาถึงนิวยอร์กซิตี ‪ในตอนที่ไนต์คลับถือกำเนิดพอดี 189 00:10:09,567 --> 00:10:12,612 ‪ท่าเต้นนั้นก็เลยเป็นที่นิยม ‪ในหมู่วัยรุ่นผิวขาวยุคใหม่ 190 00:10:12,695 --> 00:10:14,989 ‪และเป็นที่เกลียดชังของผู้ปกครอง 191 00:10:15,072 --> 00:10:17,074 ‪หลายเมืองสั่งห้ามเต้นท่านี้ 192 00:10:17,158 --> 00:10:20,745 ‪แพทย์เตือนว่า "โรคเข่าชาร์ลสตัน" ‪อาจทำให้อายุขัยสั้นลงได้ 193 00:10:20,828 --> 00:10:24,332 ‪เตือนว่าเด็กๆ ที่เต้นชาร์ลสตัน ‪จะทำให้ "ร่างกายเสื่อม" 194 00:10:24,415 --> 00:10:28,044 ‪"หัวใจทำงานหนัก" ‪และ "มีอาการผิดปกติอีกมากมาย" 195 00:10:28,127 --> 00:10:30,504 ‪แต่ก็ไม่อาจหยุดท่าเต้นชาร์ลสตันได้ 196 00:10:30,588 --> 00:10:33,299 ‪ท่าเต้นนี้ได้เปิดตัวที่บรอดเวย์ในปี 1923 197 00:10:33,382 --> 00:10:36,302 ‪ในผลงานของทีมคนดำล้วนเรื่องแรกๆ 198 00:10:36,844 --> 00:10:39,722 {\an8}‪แล้วนักเต้นอเมริกัน โจเซฟีน เบเกอร์ 199 00:10:39,805 --> 00:10:43,225 {\an8}‪ซึ่งถือเป็นบียอนเซ่ในยุคนั้น ‪ก็เผยแพร่มันไปทั่วยุโรป 200 00:10:43,309 --> 00:10:46,646 {\an8}‪ผู้ชมหลั่งไหลอยากมาชมเธอเต้นชาร์ลสตัน 201 00:10:46,729 --> 00:10:51,317 ‪ท่าเต้นชาร์ลสตัน ‪เป็นกระแสแห่งยุค 20 ใครๆ ก็เต้นท่านี้ 202 00:10:51,400 --> 00:10:53,110 ‪มันมีความคาดหวัง 203 00:10:53,194 --> 00:10:55,237 ‪ท่าทีที่แสดงออกให้เห็น ผมจะทำให้ดู 204 00:10:55,321 --> 00:10:59,075 ‪ความมีชีวิตชีวาของอนาคตที่น่าตื่นเต้น 205 00:10:59,158 --> 00:11:02,745 ‪ท่าเต้นชาร์ลสตันเป็นทางหนึ่ง ‪ที่ทำให้เรานึกถึงความรุ่งโรจน์ของยุค 20  206 00:11:02,828 --> 00:11:05,414 ‪สไตล์ พลัง คนในสมัยนั้น 207 00:11:05,498 --> 00:11:07,750 ‪แต่การหลงลืมต้นกำเนิดของท่าเต้นนี้ 208 00:11:07,833 --> 00:11:10,920 ‪ก็จะทำให้เราหลงลืม ‪ประวัติศาสตร์ของยุคนั้นไปด้วย 209 00:11:12,380 --> 00:11:15,049 ‪และขั้นตอนทั้งหมดก็ซับซ้อนขึ้นทันที 210 00:11:15,132 --> 00:11:17,927 ‪เมื่อมีคนเพียงคนเดียว ‪ได้เครดิตจากกระแสท่าเต้น 211 00:11:18,010 --> 00:11:21,013 ‪เพราะเป็นผู้เผยแพร่ไปสู่คนหลายล้าน 212 00:11:21,847 --> 00:11:24,100 ‪สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ‪นี่คือชับบี้ เชกเกอร์! 213 00:11:25,101 --> 00:11:27,353 ‪สิ่งที่ผมชอบที่สุดในคลิปนี้คือผู้ชม 214 00:11:27,436 --> 00:11:29,271 ‪ทุกคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ 215 00:11:29,355 --> 00:11:32,316 ‪และปรบมือผิดจังหวะ 216 00:11:32,400 --> 00:11:35,903 ‪แล้วก็มองกันล่อกแล่กๆ ‪เหมือนกับว่าไม่มั่นใจ 217 00:11:35,986 --> 00:11:38,447 ‪ว่าควรจะชอบมันดี หรือว่าควรจะเต้นตามดีไหม 218 00:11:38,531 --> 00:11:40,366 ‪พิธีกรรายการนั้น ดิ๊ก คลาร์ก 219 00:11:40,449 --> 00:11:42,952 ‪ได้ขอให้ชับบี้ เชกเกอร์อัดเพลงนั้น 220 00:11:43,035 --> 00:11:46,539 ‪เพลงต้นฉบับของแฮงค์ บัลลาด ‪และเดอะมิดไนต์เตอร์ 221 00:11:46,622 --> 00:11:48,666 ‪เคยติดชาร์ตเพลงอาร์แอนด์บีเมื่อสองสามปีก่อน 222 00:11:48,749 --> 00:11:52,962 ‪แต่เพลงเวอร์ชันของเชกเกอร์ ‪กลับได้อันดับหนึ่งในอเมริกาถึงสองครั้ง 223 00:11:53,045 --> 00:11:54,880 ‪และยังติดชาร์ตไปทั่วโลก 224 00:11:55,297 --> 00:12:00,553 ‪ไม่กี่ปีก่อนหน้านั้น ‪ท่าสะบัดเอวของเอลวิสอื้อฉาวไปทั่วประเทศ 225 00:12:00,636 --> 00:12:04,390 ‪ในขณะที่สองสามปีต่อมา ‪วัฒนธรรมวัยรุ่นก็แหวกขนบไปสุดขั้ว 226 00:12:04,890 --> 00:12:07,017 ‪ท่าเต้นทวิสต์คือการเต้นสำหรับช่วงเวลานั้น 227 00:12:07,101 --> 00:12:10,813 ‪มันเซ็กซี่พอจะทำให้ ‪เหล่าผู้ปกครองหัวเสียแต่ไม่มากจนเกินไป 228 00:12:10,896 --> 00:12:13,357 ‪คุณผสมท่าทวิสต์กับท่าชาร์ลสตันได้ 229 00:12:13,441 --> 00:12:15,860 ‪หรือไม่ก็ผสมทวิสต์กับเค้กวอล์ก 230 00:12:15,943 --> 00:12:17,737 ‪มันไม่ได้อยู่โดดๆ 231 00:12:17,820 --> 00:12:20,698 ‪แต่นั่นเป็นเคล็ดลับความสำเร็จของมัน 232 00:12:20,781 --> 00:12:21,907 ‪มันเต้นได้ง่ายมาก 233 00:12:21,991 --> 00:12:25,119 ‪คุณแทบไม่ต้อง ‪เรียนรู้อะไรเลยเพื่อจะเต้นท่าทวิสต์ 234 00:12:25,202 --> 00:12:29,915 ‪ชับบี้ เชกเกอร์คิดค้นท่าเต้น ‪ที่เต้นตามได้ง่าย เช่น ท่าเดอะฟลาย 235 00:12:29,999 --> 00:12:31,041 ‪โพนี่ไทม์ 236 00:12:31,125 --> 00:12:35,254 ‪เล็ตส์ทวิสต์อะเกน ‪และในปี 1962 ลิมโบ้ร็อก 237 00:12:35,921 --> 00:12:37,214 ‪บรรดาค่ายเพลงก็ตามกระแส 238 00:12:37,715 --> 00:12:42,595 ‪กระแสท่าเต้นทำให้เพลงขายได้ ‪บ้างก็พยายามสอนท่าเต้นใหม่ๆ ให้ผู้คน 239 00:12:42,678 --> 00:12:44,972 ‪แต่การจะเต้นตามรูปภาพก็ยากเกินไป 240 00:12:45,055 --> 00:12:46,307 ‪พวกเขาก็เลยทำแบบ... 241 00:12:46,390 --> 00:12:47,475 ‪โยฮัน สเตราส์... 242 00:12:47,558 --> 00:12:49,602 ‪เคยทำเมื่อสองศตวรรษก่อน 243 00:12:49,685 --> 00:12:53,439 ‪เกาะกระแสท่าเต้นที่โด่งดังอยู่แล้ว 244 00:12:53,522 --> 00:12:57,067 ‪เพลง "ดูยูเลิฟมี" ของวง ‪เดอะคอนทัวร์สใส่สองท่าลงไปในท่อนฮุก 245 00:12:57,151 --> 00:13:00,237 {\an8}‪ฉันเต้นท่าแมชโปเตโต้ได้ ‪ฉันเต้นท่าแมชโปเตโต้ได้ 246 00:13:00,321 --> 00:13:03,199 {\an8}‪เต้นท่าทวิสต์ก็เป็น เต้นท่าทวิสต์ก็เป็น 247 00:13:05,034 --> 00:13:07,828 ‪จากนั้นกระแสท่าเต้นก็เริ่มเข้าสู่แนวฟังก์มากขึ้น 248 00:13:07,912 --> 00:13:11,207 ‪โซลเทรนเปิดตัวในปี 1971 249 00:13:11,290 --> 00:13:12,750 ‪มันเหมือนคนละโลกเลย 250 00:13:12,833 --> 00:13:17,171 ‪นักเต้นแต่ละคน ‪เต้นท่าที่ดูคล้ายๆ กับท่าที่เคยมีมาก่อน 251 00:13:17,254 --> 00:13:19,131 ‪แต่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง 252 00:13:19,799 --> 00:13:24,595 ‪โซลเทรนเป็นรายการแรก ‪ของอเมริกาที่สร้างโดยคนดำเพื่อคนดำ 253 00:13:25,638 --> 00:13:28,474 ‪มันทำให้คุณอยากร่วมวงด้วย 254 00:13:28,557 --> 00:13:30,643 ‪อยากเต้นตามด้วย 255 00:13:32,228 --> 00:13:34,605 ‪ผมไม่เต้นท่านั้นดีกว่า มันเกินเหตุไปหน่อย 256 00:13:34,688 --> 00:13:38,359 ‪และกลายเป็นรายการทีวี ‪ที่ฉายมายาวนานที่สุดในอเมริกา 257 00:13:38,442 --> 00:13:40,486 ‪ทำให้เกิดท่าฟังกี้ชิกเก้น 258 00:13:40,569 --> 00:13:44,907 ‪ป๊อปปิ้ง หุ่นยนต์ และแน่นอนโซลเทรนไลน์ 259 00:13:45,825 --> 00:13:48,494 ‪แต่ในขณะที่ท่าเต้นพวกนี้ช่วยให้ขายเพลงได้ 260 00:13:48,577 --> 00:13:51,413 ‪มันกลับไม่ได้มีคุณค่าในตัวมันเอง 261 00:13:51,497 --> 00:13:54,208 ‪เพราะมันไม่สามารถจดลิขสิทธิ์ได้ 262 00:13:55,584 --> 00:13:57,628 ‪หนึ่งในคดีลิขสิทธิ์อันโด่งดัง 263 00:13:57,711 --> 00:14:00,965 ‪เคยมีคนพยายามจดลิขสิทธิ์สมุดโทรศัพท์ 264 00:14:01,048 --> 00:14:04,802 ‪และสำนักงานลิขสิทธิ์ก็บอกว่า ‪"ไม่ คุณจดลิขสิทธิ์สมุดโทรศัพท์ไม่ได้" 265 00:14:04,885 --> 00:14:09,098 ‪แต่มันระบุในการพิพากษาครั้งนั้นว่า ‪อะไรก็ตามที่สร้างสรรค์กว่าสมุดโทรศัพท์ 266 00:14:09,181 --> 00:14:11,392 ‪พึงมีสิทธิ์ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ 267 00:14:11,475 --> 00:14:12,685 ‪แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น 268 00:14:13,352 --> 00:14:17,356 ‪สำนักงานลิขสิทธิ์ ‪ของอเมริการะบุว่าท่าเต้นต้องเป็น 269 00:14:17,439 --> 00:14:18,899 ‪"ผลงานออกแบบท่าเต้น" 270 00:14:19,733 --> 00:14:23,571 ‪ซึ่งโดยทั่วไปจะมี ‪องค์ประกอบเหล่านี้อย่างน้อยหนึ่งอย่าง 271 00:14:24,613 --> 00:14:25,906 ‪"การเคลื่อนไหวตามจังหวะ 272 00:14:26,407 --> 00:14:29,952 {\an8}‪เรียงเป็นลำดับที่เชื่อมโยงกันและสื่อความหมาย 273 00:14:30,953 --> 00:14:33,622 ‪ที่บอกเล่าเรื่องให้ผู้ชมเข้าใจ 274 00:14:33,706 --> 00:14:37,418 ‪โดยบุคคลที่มีฝีมือและดำเนินไปพร้อมเสียงดนตรี" 275 00:14:38,294 --> 00:14:41,088 ‪แน่นอนว่าบัลเลต์ตรงตามนี้ ‪บัลเลต์แทบทุกการแสดงเป็นแบบนี้ 276 00:14:41,171 --> 00:14:43,257 ‪เปรียบเทียบกับท่าเต้นอย่างชาร์ลสตัน 277 00:14:43,340 --> 00:14:47,428 ‪ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสังคมของมือสมัครเล่น 278 00:14:47,511 --> 00:14:48,929 ‪ที่เต้นเพื่อความสนุกสนานส่วนตัว 279 00:14:49,430 --> 00:14:53,851 ‪ดังนั้นสำนักงานลิขสิทธิ์ ‪จึงไม่ยินยอมที่จะจดลิขสิทธิ์ 280 00:14:53,934 --> 00:14:55,811 ‪สิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นการเต้นรำสังสรรค์ 281 00:14:55,895 --> 00:14:59,565 ‪ที่จริงแล้วสำนักงาน ‪ลิขสิทธิ์อเมริการะบุเจาะจงว่า 282 00:14:59,648 --> 00:15:04,445 ‪"การเต้นรำสังสรรค์และกิจวัตรง่ายๆ ‪ไม่สามารถจดลิขสิทธิ์ผลงานได้" 283 00:15:04,528 --> 00:15:08,282 ‪ยกตัวอย่างเช่น ลีลาศ แอโรบิก สวิง 284 00:15:09,074 --> 00:15:13,203 ‪แต่แนวทางเหล่านี้ถูกกำหนดขึ้นก่อนยุคเอ็มทีวี 285 00:15:13,829 --> 00:15:19,043 ‪มิวสิกวิดีโอเพลง "บีทอิต" ปี 1983 ‪ ของไมเคิล แจ็กสันเป็นศิลปะแนวใหม่ 286 00:15:19,543 --> 00:15:22,046 ‪อันที่จริงวิดีโอนี้ ‪ได้รับการประกาศว่าเป็นครั้งแรกที่ 287 00:15:22,129 --> 00:15:26,967 ‪มีการจับคู่เพลงป๊อปกับ ‪ท่าเต้นที่ท้าทายและเป็นต้นฉบับของเพลงนั้น 288 00:15:27,051 --> 00:15:31,972 ‪มันเป็นช่วงเริ่มต้นของยุคใหม่ ‪ที่ผู้คนจะศึกษาท่าเต้นซ้ำๆ ได้ 289 00:15:32,056 --> 00:15:34,016 ‪อย่างเช่นท่าแฮมเมอร์ของเอ็มซีแฮมเมอร์ 290 00:15:35,476 --> 00:15:36,477 ‪หยุด! ถึงทีแฮมเมอร์! 291 00:15:36,560 --> 00:15:38,479 ‪ท่าเต้นฮัมป์ตี้ของเดอะดิจิทัลอันเดอร์กราวน์ 292 00:15:38,562 --> 00:15:41,231 ‪มาเต้นฮัมป์ตี้ฮัมป์ มาเร็วมาเต้นฮัมป์ตี้ฮัมป์ 293 00:15:41,315 --> 00:15:43,651 ‪โว้กในแบบของมาดอนน่า 294 00:15:43,734 --> 00:15:45,069 ‪(โว้ก) 295 00:15:45,152 --> 00:15:46,904 ‪และแน่นอนท่าเต้นมากาเรนา 296 00:15:46,987 --> 00:15:48,072 ‪เฮ่ มากาเรนา 297 00:15:49,448 --> 00:15:50,616 ‪จากนั้นเมื่อมียูทูบ 298 00:15:50,699 --> 00:15:53,702 ‪ท่าเต้นก็ท่องไปทั่วโลกได้ง่ายกว่าที่เคย 299 00:15:53,786 --> 00:15:55,788 ‪หลายคนเต้นท่าชิกเก้นนู้ดเดิลซุป 300 00:15:55,871 --> 00:15:57,414 ‪โยกตามท่าพาสสินโญ 301 00:15:57,498 --> 00:16:00,793 ‪และสอนวิธีเต้นท่าดั๊กกี้ในช่วงยุค 2000 302 00:16:00,876 --> 00:16:04,713 ‪แล้ว "คังนัมสไตล์" ของไซก็มาถล่มยูทูบ 303 00:16:06,799 --> 00:16:10,886 ‪ถล่มของจริงเลย ‪เพราะมียอดผู้ชมวิดีโอมากกว่าที่ระบบตั้งไว้ 304 00:16:10,970 --> 00:16:13,931 ‪จนพวกเขาต้องปรับขีดจำกัดเสียใหม่ 305 00:16:15,140 --> 00:16:17,810 ‪จากนั้นก็ตามมาด้วยแอปโซเชียลมีเดียต่างๆ 306 00:16:17,893 --> 00:16:21,855 ‪อย่างดั๊บสแมชและติ๊กต็อก ‪ที่กระแสท่าเต้นยิ่งฮิตกว่าที่เคยมีมา 307 00:16:21,939 --> 00:16:25,025 ‪ที่จริงพวกเขาเรียกมันว่า "ชาเลนจ์เต้น" 308 00:16:25,109 --> 00:16:29,780 ‪และกระแสเต้นที่ดังที่สุด ‪ไม่ได้มาจากนักดนตรีที่อยากเพิ่มยอดขายอีกแล้ว 309 00:16:29,863 --> 00:16:32,825 ‪แต่มาจากแฟนๆ ที่นำเอาเพลงของศิลปินสักคน 310 00:16:32,908 --> 00:16:36,537 ‪มาหาชื่อเสียงและเงินทอง ‪จากการเต้นประกอบเพลงนั้น 311 00:16:37,162 --> 00:16:41,208 ‪และการเต้นแบบนี้ ‪ก็แสดงต่อหน้าผู้ชมในลักษณะหนึ่ง 312 00:16:41,291 --> 00:16:43,293 ‪โดยคนที่มีฝีมือพอตัว 313 00:16:43,377 --> 00:16:45,587 ‪แต่มันก็ยังไม่ชัดเจนว่าการเต้นแบบนี้ 314 00:16:45,671 --> 00:16:48,173 ‪จดลิขสิทธิ์ได้หรือไม่ 315 00:16:48,257 --> 00:16:50,926 ‪ที่จริงมีคดีความเล็กๆ ‪ เกี่ยวกับการออกแบบท่าเต้น 316 00:16:51,010 --> 00:16:53,512 ‪เจ้าของผลงานท่าเต้นในฟอร์ตไนต์ 317 00:16:53,595 --> 00:16:57,850 ‪ฟ้องร้องว่าเกมนี้หากำไร ‪จากผลงานของพวกเขาอย่างไม่เป็นธรรม 318 00:16:57,933 --> 00:17:02,104 ‪รวมถึงอัลฟองโซ่ รีเบโร่ ‪ซึ่งคุณอาจจะรู้จักในนามคาร์ลตัน 319 00:17:02,187 --> 00:17:04,732 ‪แต่ศาลแคลิฟอร์เนีย ‪ตัดสินว่าพวกเขาต้องจดลิขสิทธิ์ 320 00:17:04,815 --> 00:17:06,608 ‪กับสำนักงานลิขสิทธิ์ก่อน 321 00:17:06,692 --> 00:17:08,777 ‪และในคดีของอัลฟองโซ่ 322 00:17:08,861 --> 00:17:12,406 ‪สำนักงานลิขสิทธิ์บอกว่า ‪มันเป็น "ท่าทางธรรมดาทั่วไป" 323 00:17:12,489 --> 00:17:14,283 ‪มันจึงไม่ผ่านเกณฑ์ 324 00:17:14,366 --> 00:17:15,743 ‪นั่นมันย้อนแย้งสิ้นดีเลย 325 00:17:15,826 --> 00:17:18,871 ‪ฟอร์ตไนต์เนี่ย ‪ถ้าคุณไปแตะต้องผลงานของพวกเขานะ 326 00:17:18,954 --> 00:17:21,665 ‪ทางนั้นก็จะส่งทนายความเป็นสิบ ‪มาฟ้องคุณในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ 327 00:17:21,749 --> 00:17:23,167 ‪ขู่จะยึดบ้านคุณ 328 00:17:23,250 --> 00:17:25,836 ‪แม้แต่ท่าเต้นชาร์ลส์ตันก็อยู่ในฟอร์ตไนต์ด้วย 329 00:17:25,919 --> 00:17:29,423 ‪ผมอยากจะพูดไปเลยว่า ‪ฟอร์ตไนต์ควรละอายใจที่ทำแบบนี้ 330 00:17:29,506 --> 00:17:30,466 ‪แต่พวกเขาไม่ละอาย 331 00:17:30,549 --> 00:17:33,010 ‪แต่ความจริงที่ว่าท่าเต้นส่วนมากไม่มีลิขสิทธิ์นั้น 332 00:17:33,093 --> 00:17:35,971 ‪ก็เป็นพลังขับเคลื่อนการสร้างสรรค์เช่นกัน 333 00:17:36,055 --> 00:17:39,683 ‪หากผู้คนพุ่งเป้าไปที่การฟ้องร้อง ‪เรื่องลิขสิทธิ์ท่าเต้นมากจนเกินไป 334 00:17:39,767 --> 00:17:43,228 ‪ก็จะต้องมีบางอย่างสูญหายไปแน่นอน 335 00:17:43,312 --> 00:17:45,689 ‪และคุณจะสูญเสียการฝึกซ้อมที่สร้างสรรค์ 336 00:17:45,773 --> 00:17:49,777 ‪และจะไม่มีการตีความใหม่สิ่งที่ส่งต่อมาเป็นทอดๆ 337 00:17:49,860 --> 00:17:52,237 ‪พร้อมกับเพิ่มสไตล์ตัวเองลงไป 338 00:17:52,321 --> 00:17:55,908 ‪มันจะสูญเสีย ‪ความเป็นสังคมของการเต้นสังสรรค์ 339 00:17:56,492 --> 00:17:59,578 ‪และผู้คิดค้นท่าเต้น ‪ที่ฮิตเป็นกระแสทุกวันนี้หลายๆ คน 340 00:17:59,661 --> 00:18:03,832 ‪ก็ไม่ได้อยากให้คนที่เต้นตามมาจ่ายเงินให้ 341 00:18:03,916 --> 00:18:05,334 ‪พวกเขาแค่อยากได้รับเครดิต 342 00:18:05,417 --> 00:18:08,170 ‪มีโอกาสหารายได้จากโฆษณามากมายสำหรับคนที่ 343 00:18:08,253 --> 00:18:09,797 ‪เต้นจนเป็นไวรัล 344 00:18:09,880 --> 00:18:14,301 ‪ดังนั้นการไม่ได้รับเครดิต ‪จึงเป็นการทำลายผู้สร้างผลงานเหล่านี้จริงๆ 345 00:18:14,384 --> 00:18:18,555 ‪ในฤดูร้อนปี 2021 ‪คนผิวดำผู้คิดค้นท่าเต้นในติ๊กต็อกก็ประท้วง 346 00:18:18,639 --> 00:18:22,351 ‪จึงไม่อาจมองข้ามได้เลยว่า ‪วัฒนธรรมการเต้นในปัจจุบันนี้ 347 00:18:22,434 --> 00:18:24,561 ‪พึ่งพาความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขามากแค่ไหน 348 00:18:24,645 --> 00:18:28,398 ‪ถ้าพวกเขารู้ตัวว่า ‪ไม่ได้คิดท่านั้นเอง ก็ให้เครดิตสิ 349 00:18:28,482 --> 00:18:30,901 ‪มันไม่ได้ยากขนาดนั้นเลย ไม่เลย 350 00:18:31,568 --> 00:18:33,028 ‪แต่อย่างน้อยที่สุด 351 00:18:33,112 --> 00:18:37,074 ‪วัฒนธรรมการให้เครดิต ‪ก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงแล้ว 352 00:18:37,157 --> 00:18:41,370 ‪ตอนนี้ถ้าคุณเป็น ‪อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังและเต้นท่าของคนอื่น 353 00:18:41,453 --> 00:18:44,164 ‪ก็จะมีความคาดหวังว่าคุณจะ 354 00:18:44,748 --> 00:18:49,336 ‪ลงเครดิตท่าเต้นเอาไว้ ‪และแท็กเจ้าของผลงานตัวจริง 355 00:18:49,419 --> 00:18:52,005 ‪แม้แต่ฟอร์ตไนต์ก็เริ่มแท็กและให้เครดิต 356 00:18:52,089 --> 00:18:54,883 ‪กับผู้คิดค้นท่าเต้นใหม่ล่าสุดแล้ว 357 00:18:54,967 --> 00:18:57,678 ‪ส่วนช่วงในรายการ ‪ของจิมมี แฟลลอนกับแอดดิสัน เรนั้น 358 00:18:57,761 --> 00:19:00,639 ‪ก็จุดกระแสโดนถล่มในทันที ‪และหลังจากนั้น... 359 00:19:00,722 --> 00:19:02,307 ‪ผมนั่งอยู่บนรถ 360 00:19:02,391 --> 00:19:06,061 ‪กำลังจะไปรับยายผม ‪ไปทำอะไรสักอย่างแล้วผมก็ได้รับข้อความ 361 00:19:06,145 --> 00:19:08,689 ‪ฉันกระโดดขึ้นลง พูดว่า "แม่ดูสิ!" 362 00:19:08,772 --> 00:19:11,275 ‪ฉันตื่นเต้นมาก แบบว่า "พระเจ้าช่วย" 363 00:19:11,358 --> 00:19:12,651 ‪ฉันมีความสุขมากค่ะ 364 00:19:12,734 --> 00:19:13,777 ‪ผมต้องฝันไปแน่ๆ 365 00:19:13,861 --> 00:19:17,281 ‪ไม่มีทางที่ผมจะได้ไปออก ‪รายการทีวีระดับประเทศ 366 00:19:17,364 --> 00:19:19,575 ‪แล้วเต้นท่าเต้นของตัวเองให้ทุกคนดูหรอก 367 00:19:19,658 --> 00:19:22,369 ‪มันคล้ายกับเป็นช่วงขอโทษ 368 00:19:22,452 --> 00:19:26,623 {\an8}‪และผู้คิดค้นดั้งเดิม ‪ก็ได้เต้นท่าเต้นของตัวเองให้อเมริกาชม 369 00:19:26,707 --> 00:19:28,876 {\an8}‪หลังจากที่ฉันได้ออกรายการจิมมี แฟลลอน 370 00:19:28,959 --> 00:19:32,171 {\an8}‪ฉันก็ได้รับโอกาสมากมายเลยค่ะ 371 00:19:32,254 --> 00:19:35,090 {\an8}‪มีโฆษณาเข้ามา มีผู้ติดตามเพิ่ม 372 00:19:35,174 --> 00:19:39,428 ‪แร็ปเปอร์ชื่อดังสองคน ‪พาฉันไปถ่ายมิวสิกวิดีโอที่แอลเอ 373 00:19:39,511 --> 00:19:41,305 ‪นั่นคืองานที่ฉันทำมาถึงตอนนี้ค่ะ 374 00:19:41,388 --> 00:19:45,893 ‪ผมมั่นใจว่ามันเป็นเพราะ ‪ผมได้ไปออกรายการจิมมี แฟลลอน 375 00:19:45,976 --> 00:19:50,063 ‪ฉันหวังว่าจะโด่งดังมากๆ ฉันจะต้องดังให้ได้ 376 00:19:50,731 --> 00:19:51,732 ‪อย่างตอนนี้ไง 377 00:19:56,820 --> 00:19:59,573 ‪การเต้นคือโอกาสที่จะฝัน 378 00:20:00,240 --> 00:20:02,868 ‪และความฝันนี้ก็เป็นสิ่งที่ชาวแอฟริกันอเมริกัน 379 00:20:02,951 --> 00:20:06,079 ‪มันอาจไม่เคยเกิดขึ้นจริง ‪ในประวัติศาสตร์ของเรา 380 00:20:07,456 --> 00:20:12,127 ‪ชาวแอฟริกันอเมริกันถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าสังคม 381 00:20:12,211 --> 00:20:15,047 ‪แต่ในการเต้นนั้น มันเกิดสิ่งอื่นได้ 382 00:20:16,131 --> 00:20:18,592 ‪ในการเต้น เราสามารถแสดงความโกรธแค้นได้ 383 00:20:18,675 --> 00:20:20,510 ‪เราแสดงความปรารถนาได้ 384 00:20:21,470 --> 00:20:24,473 ‪เราสามารถแสดงความทึ่งต่ออนาคต 385 00:20:24,556 --> 00:20:27,100 ‪อย่างเช่นว่า อีก 50 ปีต่อจากนี้จะเป็นยังไงได้ 386 00:20:27,184 --> 00:20:30,938 ‪รู้แล้ว ผมจะเอาความทึ่งนั้น ‪มาใส่ในท่าเต้น ผมจะเต้นเป็นหุ่นยนต์ 387 00:20:31,021 --> 00:20:34,733 ‪มันจะช่วยให้ผมจินตนาการ ‪ถึงความเป็นไปได้ในอนาคต 388 00:20:37,069 --> 00:20:41,240 ‪ท่าเต้นโว้กถือกำเนิดในยุค 1980 ‪ตอนที่ชุมชนเควียร์ผิวสีในฮาร์เลม 389 00:20:41,323 --> 00:20:46,745 ‪จินตนาการถึงโลกที่พวกเขาสามารถเป็นนางแบบ ‪หรือเชื้อพระวงศ์ หรืออะไรก็ตามที่อยากเป็น 390 00:20:47,246 --> 00:20:50,123 ‪มูนวอล์กแตกหน่อมาจากการเต้นแท็ป 391 00:20:50,207 --> 00:20:53,794 ‪การตอบโต้อย่างสร้างสรรค์ ‪ต่อการถูกห้ามตีกลองในยุคค้าทาส 392 00:20:54,419 --> 00:20:59,800 ‪และท่าเต้นทเวิร์กก็มีรากเหง้าของ ‪ท่าเต้นมากมายแถบแอฟริกาตะวันตก 393 00:20:59,883 --> 00:21:03,053 ‪ซึ่งมักจะเต้นในพิธีเฉลิมฉลองชีวิต 394 00:21:04,388 --> 00:21:07,808 ‪เมื่อท่าเต้นไม่ได้ถูกให้เครดิต เราก็ยิ่งลืมง่ายว่า 395 00:21:07,891 --> 00:21:12,938 ‪มันคือมรดกทางประวัติศาสตร์ ‪ที่ถูกส่งผ่านและขัดเกลาจากรุ่นสู่รุ่น 396 00:21:14,147 --> 00:21:16,275 ‪และเป็นตัวแทนของแต่ละรุ่นในทางกลับกัน 397 00:21:17,067 --> 00:21:21,321 ‪แรกเริ่มนั้นบรรพบุรุษเราอาจขยับตัว ‪พร้อมกันเพื่อแสร้งว่าเราแข็งแกร่งกว่า 398 00:21:21,405 --> 00:21:22,698 ‪แต่การศึกษาพบว่า 399 00:21:22,781 --> 00:21:25,951 ‪ที่จริงการเต้นทำให้เราเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น 400 00:21:26,034 --> 00:21:29,538 ‪อดทนมากขึ้น มีน้ำใจมากขึ้น และลดอคติลง 401 00:21:30,205 --> 00:21:34,543 ‪มันสร้างสิ่งที่นักวิจัยเรียกว่า ‪"การไม่แบ่งเขาแบ่งเรา" 402 00:21:34,626 --> 00:21:38,297 ‪คนอื่นจะรู้สึกเหมือนเป็นเราอีกคน 403 00:21:38,964 --> 00:21:40,382 ‪การเต้นคือชีวิตใช่ไหมล่ะครับ 404 00:21:41,216 --> 00:21:42,426 ‪มันคือชีวิตในตัวมันเอง 405 00:21:42,509 --> 00:21:46,013 ‪ผมเต้นเพราะมันทำให้ผมรู้สึกเป็นอิสระที่สุด 406 00:21:46,096 --> 00:21:48,515 ‪เป็นวิธีพูดของผม เป็นวิธีที่ผมสื่อสาร 407 00:21:48,598 --> 00:21:49,808 ‪มันคือสิ่งที่ทำให้ฉันเป็นมนุษย์ 408 00:21:49,891 --> 00:21:55,105 ‪ผมเชื่อว่ามันเป็นรูปแบบ ‪การสื่อสารที่เปราะบางที่สุด 409 00:21:55,188 --> 00:21:59,026 ‪ดังนั้นการเต้นไม่ใช่แค่การหาคู่รัก 410 00:21:59,109 --> 00:22:02,612 ‪หรือการอวดสิ่งที่คุณรู้อยู่แล้ว 411 00:22:02,696 --> 00:22:07,159 ‪การเต้นยังเปิดโอกาส ‪ให้เราได้แบ่งปันว่าเราอยากเป็นใคร 412 00:22:41,151 --> 00:22:46,156 ‪คำบรรยายโดย นันทพร อนุชิตดัสกร