1 00:00:07,717 --> 00:00:08,801 น้ำแตก 2 00:00:09,469 --> 00:00:10,636 หลั่ง 3 00:00:10,720 --> 00:00:11,971 ถึงจุดสุดยอด 4 00:00:12,638 --> 00:00:14,599 ทันทีที่เราเรียนรู้ว่าเซ็กซ์คืออะไร 5 00:00:14,682 --> 00:00:16,893 เราก็รู้ว่าจุดสุดยอดคือเป้าหมาย 6 00:00:17,810 --> 00:00:19,771 แต่ก็ขึ้นอยู่กับร่างกายที่คุณเกิดมา 7 00:00:19,854 --> 00:00:22,857 เป็นไปได้ว่าคุณจะได้รับสารที่แตกต่างกันมาก 8 00:00:24,108 --> 00:00:26,527 ทีวีและภาพยนตร์บอกเราว่า จุดสุดยอดของผู้ชายนั้นถึงง่าย 9 00:00:27,153 --> 00:00:28,446 บางครั้งก็ง่ายเกินไป 10 00:00:35,411 --> 00:00:36,871 แต่จุดสุดยอดของผู้หญิง... 11 00:00:37,580 --> 00:00:38,790 มันแสนจะซับซ้อน 12 00:00:38,873 --> 00:00:40,958 ทุกคนรู้จักส่วนของร่างกายที่ไวต่อการกระตุ้นดี 13 00:00:41,042 --> 00:00:42,794 มีหนึ่ง สอง สาม... 14 00:00:43,544 --> 00:00:45,505 - สี่... - ถึงจุดสุดยอดด้วยตัวเอง 15 00:00:45,588 --> 00:00:47,882 - การหลั่งของผู้หญิง - เมื่อกี้ดีหรือไม่ดี 16 00:00:48,382 --> 00:00:51,636 แม้ว่าผู้หญิงจะมีโอกาสมากมาย ที่จะสุขสมอารมณ์หมาย 17 00:00:51,719 --> 00:00:54,806 งานวิจัยสหรัฐฯ ชิ้นหนึ่งพบว่า ครึ่งหนึ่งบอกว่าพวกเธอแกล้งทำ 18 00:00:54,889 --> 00:00:56,599 (รายงานการแกล้งถึงจุดสุดยอดของผู้หญิง) 19 00:00:56,682 --> 00:01:00,520 และในการวิจัยคนอเมริกัน กว่า 50,000 คน ในปี 2017 20 00:01:00,603 --> 00:01:04,732 ผู้ชายทั้งแท่ง 95 เปอร์เซ็นต์บอกว่า พวกเขาถึงจุดสุดยอดระหว่างมีเซ็กซ์เป็นประจำ 21 00:01:04,816 --> 00:01:07,318 เปรียบเทียบกับผู้หญิงแท้ๆ 65 เปอร์เซ็นต์ 22 00:01:07,401 --> 00:01:08,778 (ความถี่ในการถึงจุดสุดยอด ของชายและหญิงในสหรัฐฯ) 23 00:01:08,861 --> 00:01:13,032 แต่สำหรับผู้หญิงที่เป็นเกย์ ตัวเลขนั้นคือ 86 เปอร์เซ็นต์ 24 00:01:13,991 --> 00:01:17,745 ทำไมการถึงจุดสุดยอดของผู้หญิง ถึงยากขึ้นเมื่อมีผู้ชายมาเกี่ยวข้อง 25 00:01:18,329 --> 00:01:21,415 แล้วทำไมพวกเราหลายๆ คนถึงยังคงสับสน 26 00:01:21,999 --> 00:01:24,585 สัปดาห์นี้คือสัปดาห์แห่งการตระหนักถึง ปุ่มกระสันนานาชาติ 27 00:01:24,669 --> 00:01:27,421 แม้ผมจะดูปฏิทินแล้วหาไม่เจอก็ตาม 28 00:01:27,505 --> 00:01:31,092 การช่วยตัวเอง คือส่วนหนึ่งของเรื่องทางเพศของมนุษย์ 29 00:01:31,175 --> 00:01:35,429 ผู้หญิงต้องรับผิดชอบ เรื่องความสุขทางเพศของตัวเอง 30 00:01:36,013 --> 00:01:37,515 มันเรียกว่านิ้วมือและหัวแม่มือ 31 00:01:38,057 --> 00:01:39,350 มันเยี่ยมมาก 32 00:01:39,433 --> 00:01:41,686 ฉันไม่เคยรู้เลยว่ามันจะวิเศษอย่างนั้นจริงๆ 33 00:01:41,769 --> 00:01:43,980 บางทีมันเกิดขึ้นเร็วมาก 34 00:01:44,063 --> 00:01:47,900 จนคนเราไม่รู้ว่าการสัมผัสกันนั้นรู้สึกดีมาก 35 00:01:47,984 --> 00:01:54,240 (จุดสุดยอดของผู้หญิง) 36 00:01:54,991 --> 00:01:56,534 นี่คือสมองของคุณ 37 00:01:57,994 --> 00:02:00,037 และนี่คือสมองของคุณที่ถึงจุดสุดยอด 38 00:02:01,247 --> 00:02:03,040 สิ่งเดียวที่คล้ายกัน... 39 00:02:03,124 --> 00:02:04,041 (กิจกรรมสมองขณะถึงจุดสุดยอด) 40 00:02:04,125 --> 00:02:05,251 คือการชัก 41 00:02:05,334 --> 00:02:08,254 มีการส่งออกซิเจน และสารอาหารไปทั่วสมองเพิ่มขึ้น... 42 00:02:08,337 --> 00:02:10,006 (แบร์รี่ โคมีซารัค นักประสาทวิทยาด้านพฤติกรรม) 43 00:02:10,089 --> 00:02:13,801 ...ดังนั้นการถึงจุดสุดยอด จะว่าไป ก็ต้องดีต่อระบบประสาท 44 00:02:13,885 --> 00:02:16,429 มันคือการออกกำลังกายสำหรับสมอง ไม่มีทางแย่หรอก 45 00:02:16,846 --> 00:02:20,266 ระหว่างถึงจุดสุดยอด สมองของชายและหญิงค่อนข้างเหมือนกันมาก 46 00:02:20,349 --> 00:02:24,478 สิ่งที่แตกต่างกันมากที่สุดที่เราเห็น คือหลังถึงจุดสุดยอด 47 00:02:24,645 --> 00:02:28,149 สมองของผู้ชายได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่า ระยะดื้อ 48 00:02:28,232 --> 00:02:30,860 ซึ่งจะไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นอวัยวะเพศอีก 49 00:02:31,485 --> 00:02:33,029 แต่ผู้หญิงจะไม่เป็นแบบนั้น 50 00:02:33,112 --> 00:02:37,742 สมองตอบสนองเท่าเดิม อาจตอบสนองมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ 51 00:02:37,825 --> 00:02:39,160 หลังถึงจุดสุดยอดครั้งแรก 52 00:02:39,744 --> 00:02:42,580 นั่นคือเหตุผลที่ผู้หญิง ถึงจุดสุดยอดหลายครั้งติดต่อกันได้ 53 00:02:43,706 --> 00:02:45,958 อีกเรื่องที่เราเรียนรู้จากการสแกนสมอง 54 00:02:46,042 --> 00:02:50,630 นั่นคือสมองสองส่วนที่การถึงจุดสุดยอดกระตุ้น เชื่อมโยงกับความเจ็บปวดด้วย... 55 00:02:51,047 --> 00:02:54,508 มีการเชื่อมโยงระดับพื้นฐาน ระหว่างความเจ็บปวดและความสุข 56 00:02:54,592 --> 00:02:55,968 ที่เราไม่เข้าใจ 57 00:02:56,052 --> 00:02:58,763 เราไม่มีแนวคิดสำหรับเรื่องนั้น 58 00:03:00,139 --> 00:03:02,141 งั้นจริงๆ แล้วมันรู้สึกยังไงกันแน่ 59 00:03:03,267 --> 00:03:06,771 จุดสุดยอดครั้งแรกของฉัน ฉันจำได้แม่นว่าเหมือนกินน้ำตาล 60 00:03:06,854 --> 00:03:09,774 มันเหมือนกับฉันกำลังกินขนมหวาน มันเต็มปากฉัน 61 00:03:09,857 --> 00:03:11,651 แม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นในปากฉันเลยก็ตาม 62 00:03:12,693 --> 00:03:14,987 มันเริ่มที่ปลายนิ้วและกระหม่อม 63 00:03:15,071 --> 00:03:17,907 และด้านนอกของผิวหนัง จากนั้นก็เข้าไปข้างใน 64 00:03:17,990 --> 00:03:19,617 เหมือนจังหวะกลอง 65 00:03:19,700 --> 00:03:22,870 นึกภาพเวลาที่คุณหลับตาและมันเป็นสีดำ แต่ก็มีทุกสีออกไหม 66 00:03:22,954 --> 00:03:25,081 ในตอนนั้นแหละ มันจะสว่างขึ้นสุดๆ 67 00:03:25,164 --> 00:03:27,625 สีน้ำเงินเข้ม... 68 00:03:27,708 --> 00:03:29,085 เขียว... 69 00:03:29,168 --> 00:03:30,628 ก่อนที่รถไฟเหาะตีลังกาจะแล่นลง 70 00:03:30,711 --> 00:03:32,421 และคุณรู้สึกเหมือนตัวลอยขึ้นมา 71 00:03:32,505 --> 00:03:34,465 มันคือรถไฟเหาะตีลังกาสีส้ม 72 00:03:34,548 --> 00:03:36,133 แต่แทนที่มันจะดิ่งลงไป 73 00:03:36,217 --> 00:03:39,929 คุณกลับไถลลงไปในน้ำอุ่น 74 00:03:40,513 --> 00:03:42,556 บางครั้งก็เหมือนภาพของน้ำตก 75 00:03:43,015 --> 00:03:44,850 ฉันคิดว่าตัวฉันคือน้ำตกค่ะ 76 00:03:44,934 --> 00:03:48,312 น้ำไหลเข้ามาในตัวฉันและไหลออกไป 77 00:03:48,980 --> 00:03:51,232 น้ำหยดติ๋งๆ ๆ ไปเจอลำธาร 78 00:03:51,315 --> 00:03:54,235 แล้วพอถึงจุดสุดยอดครั้งใหญ่ ฉันก็กลายเป็นมหาสมุทร 79 00:03:54,318 --> 00:03:56,153 และฉันกำลังขี่คลื่นอยู่ 80 00:03:56,237 --> 00:04:00,157 ฉันหลับตาและมองเห็นพระแม่มารีผู้บริสุทธิ์ 81 00:04:00,241 --> 00:04:02,743 พระองค์ยืนอ้าแขนอยู่ 82 00:04:02,827 --> 00:04:04,704 พระองค์ดูยินดีกับฉันมาก 83 00:04:05,871 --> 00:04:07,665 จังหวะก่อนที่เครื่องบินจะขึ้น 84 00:04:07,748 --> 00:04:08,874 คุณอยู่บนรันเวย์ 85 00:04:08,958 --> 00:04:10,584 คุณจะรู้สึกไร้น้ำหนักอยู่ครู่หนึ่ง 86 00:04:10,668 --> 00:04:12,586 มันคือความรู้สึกหายใจไม่ออก 87 00:04:12,670 --> 00:04:13,921 ในอกฉัน 88 00:04:14,005 --> 00:04:15,006 ที่รู้สึกเหมือน 89 00:04:15,381 --> 00:04:17,049 วิญญาณกำลังจะออกจากร่าง 90 00:04:17,133 --> 00:04:18,759 ไร้น้ำหนักตามด้วยอิสรภาพ 91 00:04:20,845 --> 00:04:24,807 แต่ผู้หญิงมักจะมีความสุขทางเพศ โดยไม่ถึงจุดสุดยอด 92 00:04:25,766 --> 00:04:28,769 และจากการศึกษา ทั้งผู้หญิงฝรั่งเศสและอเมริกัน 93 00:04:28,853 --> 00:04:35,026 ประมาณ 16 ถึง 21 เปอร์เซ็นต์ เคยถึงจุดสุดยอดน้อยมากหรือไม่เคยถึงเลย 94 00:04:35,276 --> 00:04:37,403 ตอนแรกฉันคิดว่า จุดสุดยอดของผู้หญิงไม่มีจริง... 95 00:04:37,486 --> 00:04:38,738 (เรมี่ แคสซีเมียร์ นักแสดงตลก) 96 00:04:38,821 --> 00:04:44,327 ฉันคิดว่าถ้าไม่ใช่เรื่องโกหก ผู้หญิงก็ต้องโชคดีมากที่ถึงได้ 97 00:04:44,410 --> 00:04:48,122 ไม่มีการพูดถึงการที่ผู้หญิงถึงจุดสุดยอด ในวิชาสุขศึกษา 98 00:04:48,205 --> 00:04:50,624 ฉันคิดแค่ว่า "อ๋อ ผู้ชายหลั่ง จากนั้นคุณก็มีลูก" 99 00:04:50,708 --> 00:04:52,877 แล้วตอนที่ฉันรู้ว่าน้องสาวฉันถึงจุดสุดยอดได้ 100 00:04:52,960 --> 00:04:55,338 ฉันถึงได้คิด "อ้าวเหรอ" 101 00:04:55,921 --> 00:04:57,798 แล้วเรมี่ก็เริ่มทำพอดแคสต์ 102 00:04:57,882 --> 00:04:59,008 (ถึงได้ไง) 103 00:04:59,091 --> 00:05:01,886 (ตอนที่หนึ่ง: ถึงอย่างมืออาชีพ) 104 00:05:01,969 --> 00:05:06,265 นี่คือพอดแคสต์ใหม่ของฉัน เกี่ยวกับเรื่องจริงที่ฉันไม่เคยถึงจุดสุดยอดเลย 105 00:05:06,349 --> 00:05:08,059 และฉันเคืองมาก 106 00:05:08,768 --> 00:05:11,187 เรมี่ใช้พอดแคสต์เป็นเวที 107 00:05:11,270 --> 00:05:13,647 ไม่ใช่แค่เพื่อหาทางถึงจุดสุดยอดให้ได้ 108 00:05:13,731 --> 00:05:15,274 แต่เพื่อให้รู้สึกเดียวดายน้อยลงด้วย 109 00:05:15,358 --> 00:05:16,776 ทันทีที่ฉันเริ่มทำพอดแคสต์ 110 00:05:16,859 --> 00:05:18,444 คนก็เริ่มมาคุยกับฉันเยอะมาก 111 00:05:18,527 --> 00:05:22,615 ฉันก็เหมือนกัน เพื่อนฉันก็ด้วย เพื่อนซี้ คนในครอบครัวฉัน 112 00:05:22,698 --> 00:05:24,492 นั่นคือจุดสำคัญของพอดแคสต์จริงๆ 113 00:05:24,575 --> 00:05:27,244 เหมือนฉันบอกว่า "สวัสดี ฉันอยู่นี่ แถวนี้มีใครอยู่อีกไหม 114 00:05:27,328 --> 00:05:29,705 เรื่องแย่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ คือเราถึงจุดสุดยอดกันหมด 115 00:05:30,289 --> 00:05:31,123 ลุยกันเถอะ" 116 00:05:31,207 --> 00:05:34,585 เหตุผลหนึ่งที่เป็นไปได้ ที่ผู้หญิงจำนวนมากไม่เคยถึงจุดสุดยอด 117 00:05:34,668 --> 00:05:37,755 เพราะผู้หญิงไม่เคยถูกสอน ว่าจะถึงจุดสุดยอดยังไง 118 00:05:37,838 --> 00:05:39,840 วิชาเพศศึกษา ถ้าคุณเคยเรียน 119 00:05:39,924 --> 00:05:42,593 ค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้มากกว่า... 120 00:05:42,676 --> 00:05:44,428 ผู้หญิงเริ่มมีประจำเดือน 121 00:05:44,512 --> 00:05:47,848 มันเกิดขึ้นทุกครั้งที่ไข่ที่ไม่ถูกผสมพันธุ์สลายไป 122 00:05:47,932 --> 00:05:50,142 ซิฟิลิส หนองในแท้ กามโรค 123 00:05:50,684 --> 00:05:54,271 และถ้าคุณเคยเห็นผู้หญิงถึงจุดสุดยอดในหนัง มันมักจะเป็นแบบนี้ 124 00:05:55,773 --> 00:05:57,733 แต่มันไม่ใช่แบบนั้นสำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ 125 00:05:58,776 --> 00:06:02,530 แค่ราวๆ 18 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ถึงจุดสุดยอดได้ด้วยการสอดใส่เพียงอย่างเดียว 126 00:06:02,613 --> 00:06:03,697 (ถึงจุดสุดยอดจากการสอดใส่อย่างเดียว) 127 00:06:03,781 --> 00:06:06,450 ที่เหลือต้องกระตุ้นปุ่มกระสันด้วย 128 00:06:07,576 --> 00:06:09,078 แต่ในประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ 129 00:06:09,161 --> 00:06:11,122 วิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับปุ่มกระสัน 130 00:06:11,205 --> 00:06:14,583 และสุขภาพโดยทั่วไปของผู้หญิง ส่วนมากถูกเขียนขึ้นโดยผู้ชาย 131 00:06:14,667 --> 00:06:15,709 ซึ่งช่วยให้อธิบายได้ว่า 132 00:06:15,793 --> 00:06:18,671 ทำไมอีกความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับจุดสุดยอดของผู้หญิงเมื่อไม่นานมานี้ 133 00:06:18,754 --> 00:06:20,423 ถึงคงอยู่ยาวนานเหลือเกิน... 134 00:06:21,173 --> 00:06:24,135 ความเชื่อที่ว่ามันมีอยู่สองแบบ ทางช่องคลอดและทางปุ่มกระสัน 135 00:06:24,218 --> 00:06:25,594 (ประเภทจุดสุดยอดของผู้หญิง) 136 00:06:25,678 --> 00:06:28,472 และทุกอย่างเริ่มต้นจากชายคนนี้ 137 00:06:28,556 --> 00:06:29,765 (ฟรอยด์) 138 00:06:30,349 --> 00:06:33,018 ในบทความสามชิ้นของเขา เกี่ยวกับทฤษฎีเรื่องเพศ 139 00:06:33,102 --> 00:06:36,188 ฟรอยด์เขียนว่าในช่วงวัยแรกรุ่น ศูนย์กลางการการเร้าอารมณ์ของผู้หญิง 140 00:06:36,272 --> 00:06:39,400 ควรจะย้ายจากปุ่มกระสันไปที่ช่องคลอด 141 00:06:39,483 --> 00:06:41,652 ผู้หญิงอาจถึงจุดสุดยอดที่ปุ่มกระสันได้... 142 00:06:41,735 --> 00:06:42,653 (ลิซ่า ไดมอนด์ อาจารย์สาขาจิตวิทยา) 143 00:06:42,736 --> 00:06:44,989 ...แต่จุดสุดยอดของคนที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น คือในช่องคลอด 144 00:06:45,614 --> 00:06:46,532 ฟรอยด์ยังเชื่ออีกว่า 145 00:06:46,615 --> 00:06:49,660 ความผิดปกติทางจิตบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิง 146 00:06:49,743 --> 00:06:51,537 เช่น โรคประสาทและฮิสทีเรีย 147 00:06:51,704 --> 00:06:55,082 มาจากความพึงพอใจ กับการกระตุ้นปุ่มกระสันในวัยผู้ใหญ่ 148 00:06:55,166 --> 00:07:00,296 คุณจะเห็นว่าผู้ชายควบคุมวาทกรรม เรื่องฮิสทีเรียของผู้หญิงในศตวรรษที่ 19... 149 00:07:00,379 --> 00:07:01,839 (มิเรล์ มิลเลอร์ ยัง อาจารย์วิชาสิทธิสตรีศึกษา) 150 00:07:01,922 --> 00:07:04,800 ...ผู้หญิงจึงถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค 151 00:07:04,884 --> 00:07:07,595 เวลาที่พบว่าพวกเธอมีความต้องการมากเกินไป 152 00:07:07,678 --> 00:07:12,308 ผู้หญิงถูกทารุณกรรมโดยหมอ ที่ขริบปุ่มกระสันของพวกเธอ 153 00:07:12,766 --> 00:07:15,394 นั่นคือการผ่าตัดเอาปุ่มกระสันออก 154 00:07:15,478 --> 00:07:17,396 และปัจจุบันก็ยังคงมีอยู่ 155 00:07:17,480 --> 00:07:20,816 ด้วยเหตุผลทางศาสนาและวัฒนธรรม เพื่อควบคุมกิจกรรมทางเพศของผู้หญิง 156 00:07:21,108 --> 00:07:24,737 เด็กผู้หญิงและผู้หญิง อย่างน้อย 200 ล้านคนทั่วโลก 157 00:07:24,820 --> 00:07:27,865 เคยผ่านการทำสุหนัตหญิงบางรูปแบบมา 158 00:07:28,240 --> 00:07:30,951 ความสุขเป็นเรื่องของสิทธิพิเศษ 159 00:07:31,494 --> 00:07:34,413 ไม่ใช่ทุกคนที่มีสิทธิ์มีความสุขในอดีต 160 00:07:35,206 --> 00:07:37,166 และแม้จะมีหลายช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ 161 00:07:37,249 --> 00:07:39,251 ที่ความสุขทางเพศของผู้หญิงได้รับการยอมรับ 162 00:07:40,002 --> 00:07:42,296 ในตำราอย่างเช่นกามสูตร 163 00:07:42,379 --> 00:07:45,257 และนิยายอีโรติกของราชวงศ์หมิง เช่นเรื่องนางบัวทอง ... 164 00:07:46,008 --> 00:07:47,885 แม้แต่เนื้อเพลงบลูส์รักร่วมเพศช่วงยุค 1920 165 00:07:47,968 --> 00:07:50,387 ยังพูดถึงผู้หญิงหาความสุข ในแบบของตัวเองอย่างชัดเจน... 166 00:07:50,471 --> 00:07:51,555 (มา เรนีย์ ปี 1929) 167 00:07:51,639 --> 00:07:54,016 เช่นเพลง "พรูฟ อิต ออน มี บลูส์" ของมา เรนีย์ 168 00:07:54,099 --> 00:07:58,437 เมื่อคืนฉันออกไปเที่ยว กับกลุ่มเพื่อนของฉัน 169 00:07:58,521 --> 00:08:01,732 พวกเขาคงเป็นผู้หญิง เพราะฉันไม่ชอบผู้ชาย 170 00:08:02,191 --> 00:08:05,069 สิ่งเหล่านั้นมักจะเป็นข้อยกเว้น ไม่ใช่กฎ 171 00:08:05,736 --> 00:08:07,988 แต่ความเชื่อมโยง ระหว่างปุ่มกระสันและจุดสุดยอด 172 00:08:08,072 --> 00:08:09,573 เป็นที่รู้จักมานานแล้ว 173 00:08:09,990 --> 00:08:13,118 เมื่ออัลเฟรด คินซีย์ มาสเตอร์สและจอห์นสัน และเชียร์ ไฮต์ 174 00:08:13,202 --> 00:08:16,288 ตีพิมพ์งานวิจัยยุคบุกเบิกของพวกเขา เกี่ยวกับเรื่องเพศของผู้หญิง 175 00:08:16,372 --> 00:08:17,540 ข้อมูลชัดเจนมาก 176 00:08:17,623 --> 00:08:19,250 (ไม่สามารถปลุกเร้าขั้นสุด หากปุ่มกระสันไม่ถูกกระตุ้นมากพอ) 177 00:08:19,333 --> 00:08:21,252 (ปุ่มกระสัน... คือศูนย์กลางจุดเร้าของผู้หญิง) 178 00:08:21,335 --> 00:08:22,586 (การกระตุ้นปุ่มกระสันเป็นเรื่องจำเป็น) 179 00:08:22,670 --> 00:08:24,880 แต่หลังจากปี 1998 180 00:08:24,964 --> 00:08:27,883 จากการผ่าศพผู้หญิงสิบศพเพื่อวิเคราะห์ 181 00:08:27,967 --> 00:08:30,427 เฮเลน โอ คอนเนลล์ แพทย์ทางเดินปัสสาวะชาวออสเตรเลียและทีม 182 00:08:30,511 --> 00:08:33,681 จึงค้นพบว่าปุ่มกระสันมีพลังมากกว่าที่เรารู้มาก 183 00:08:33,764 --> 00:08:35,057 (ครอบคลุมมากว่าที่แผนภาพตัวอย่างชี้ให้เห็น) 184 00:08:35,140 --> 00:08:36,308 นี่ไม่ใช่ปุ่มกระสัน 185 00:08:36,976 --> 00:08:38,352 นี่ต่างหาก ปุ่มกระสัน 186 00:08:39,186 --> 00:08:42,606 ปุ่มกระสันที่คุณเห็นอยู่ด้านนอก คือยอดภูเขาน้ำแข็ง 187 00:08:42,690 --> 00:08:46,360 ปุ่มกระสันทั้งหมดแผ่ขยายไปด้านหลัง ขึ้นไปหลายนิ้วรอบช่องคลอด 188 00:08:46,443 --> 00:08:48,320 และมันเต็มไปด้วยปลายประสาท 189 00:08:49,113 --> 00:08:54,285 เดี๋ยวนี้เรารู้แล้วว่า การถึงจุดสุดยอดทางช่องคลอดไม่มีจริงหรอก 190 00:08:54,368 --> 00:08:56,996 จุดสุดยอดทั้งหมดคือจุดสุดยอดทางปุ่มกระสัน 191 00:08:57,788 --> 00:09:00,624 จุดสุดยอดทั้งหมดคือจุดสุดยอดทางปุ่มกระสัน 192 00:09:00,708 --> 00:09:03,586 แต่ก็มีรายงานว่าผู้หญิงบางคนถึงจุดสุดยอด 193 00:09:03,669 --> 00:09:07,172 เพียงแค่หน้าอกถูกสัมผัส หรือแค่คิดเรื่องวาบหวามได้ 194 00:09:07,256 --> 00:09:09,466 ผู้หญิงบางคนถึงจุดสุดยอดขณะหลับ 195 00:09:10,050 --> 00:09:11,927 ปุ่มกระสันไม่ได้ไขปริศนาเหล่านี้ 196 00:09:12,011 --> 00:09:15,306 แต่มันช่วยให้เรา เข้าใจปริศนาอันโด่งดังข้อหนึ่งได้ดีขึ้น 197 00:09:15,389 --> 00:09:16,974 (จีสปอต) 198 00:09:17,057 --> 00:09:18,559 แต่มันเกือบจะมีชื่ออื่นแล้ว 199 00:09:18,642 --> 00:09:20,603 เพื่อนร่วมงานบางคนพูดว่า "รู้ไหม เบเวอร์ลี 200 00:09:20,686 --> 00:09:22,688 เธอควรเรียกมันว่าวิปเปิลจั๊กกะจี๋ 201 00:09:23,022 --> 00:09:25,608 และฉันบอก "ไม่มีทางเรียกว่า วิปเปิลจั๊กกะจี๋เด็ดขาด" 202 00:09:25,691 --> 00:09:28,360 เราจึงตั้งชื่อมันตาม ดร.เอินสต์ เกรเฟนเบิร์ก 203 00:09:28,944 --> 00:09:30,988 เกรเฟนเบิร์เป็นแพทย์ยิวชาวเยอรมัน 204 00:09:31,071 --> 00:09:33,907 ซึ่งคนส่วนใหญ่จดจำได้ว่าเขาคิดค้น ห่วงคุมกำเนิดยุคใหม่เป็นคนแรก 205 00:09:34,450 --> 00:09:39,955 และในปี 1982 ผลงานของเขาขยายขึ้นไป สู่ผนังภายในของช่องคลอด 206 00:09:40,039 --> 00:09:40,873 (นั่นคือ "จีสปอต") 207 00:09:40,956 --> 00:09:42,333 ซึ่งหันไปทางหน้าท้อง 208 00:09:42,416 --> 00:09:44,126 มีผู้หญิงหลายคนมาหาฉัน 209 00:09:44,209 --> 00:09:47,129 เพราะมีการขับของเหลวออกมาจากท่อปัสสาวะ 210 00:09:47,713 --> 00:09:50,257 จากการออกรายการทอล์กโชว์ยอดฮิต อย่างโดนาฮิว 211 00:09:50,341 --> 00:09:52,176 จุดเกรเฟนเบิร์กคือบริเวณที่ไวต่อสิ่งเร้า 212 00:09:52,259 --> 00:09:54,595 ที่เราค้นพบในผนังด้านหน้าของช่องคลอด มันตั้งอยู่ตรงบริเวณนี้เลยค่ะ 213 00:09:57,097 --> 00:10:00,434 ดร.วิปเปิลยังให้ความรู้ผู้คน เกี่ยวกับการหลั่งของผู้หญิงอีกด้วย 214 00:10:00,517 --> 00:10:03,228 ฉันว่าเรื่องนี้จำเป็นต้องบ่งชี้ ของเหลวออกมาจากท่อปัสสาวะ 215 00:10:03,812 --> 00:10:06,732 ว่ากันว่าของเหลวที่ปล่อยออกมา มีความแตกต่างทางเคมีจากปัสสาวะ 216 00:10:07,232 --> 00:10:08,233 (ปัสสาวะ: ยูเรียและครีอะตินีนสูง) 217 00:10:08,317 --> 00:10:09,151 และ... 218 00:10:09,234 --> 00:10:14,114 ดูเหมือนนมพร่องมันเนยไหลออกมาหนึ่งช้อนชา 219 00:10:14,365 --> 00:10:17,284 สิ่งที่ผู้หญิงหลั่งออกมานั้น ยังคงเป็นประเด็นโต้เถียงกัน... 220 00:10:17,368 --> 00:10:18,786 (การปัสสาวะออกมาโดยไม่ตั้งใจ) 221 00:10:18,869 --> 00:10:21,038 เช่นเดียวกับเรื่องที่ว่าจีสปอตมีอยู่จริงหรือไม่ 222 00:10:21,121 --> 00:10:22,247 (จีสปอตอยู่ในหมวดเดียวกับนางฟ้าและยูนิคอร์น) 223 00:10:22,706 --> 00:10:24,958 เพราะเมื่อนักวิจัยคนอื่นๆ ไปหามัน... 224 00:10:25,042 --> 00:10:26,085 (จีสปอตไม่มีอยู่จริง) 225 00:10:26,168 --> 00:10:28,295 ...บางคนก็หาไม่เจอและบางคนก็ไม่แน่ใจ 226 00:10:28,379 --> 00:10:29,755 (อาจเป็นสิ่งที่เรียกว่า "จีสปอต") 227 00:10:29,838 --> 00:10:33,550 ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์หลายคนคิดว่า กายวิภาคของความสุขทางเพศของผู้หญิง 228 00:10:33,634 --> 00:10:37,304 เป็นระบบที่เกี่ยวข้องกับปุ่มกระสัน ท่อปัสสาวะ และช่องคลอด 229 00:10:37,388 --> 00:10:41,141 และรูปร่างและการเชื่อมต่อของระบบนั้น ก็แตกต่างกันไปในผู้หญิงแต่ละคน 230 00:10:41,684 --> 00:10:43,811 ไม่ได้มีปุ่มวิเศษที่เหมาะสำหรับทุกคน 231 00:10:43,894 --> 00:10:44,728 (จีสปอต) 232 00:10:45,020 --> 00:10:47,106 แต่ผู้หญิงหลายคนได้รับสาร 233 00:10:47,189 --> 00:10:49,316 จากนิตยสารผู้หญิงและแม้แต่ข่าว... 234 00:10:49,608 --> 00:10:51,443 ว่าพวกเธอควรหาจีสปอตของตัวเองให้เจอ 235 00:10:51,527 --> 00:10:53,737 จีสปอต 236 00:10:53,821 --> 00:10:56,824 หรือจุดใหม่อื่นๆ ที่ถูกค้นพบแล้วถูกค้นพบอีก 237 00:10:56,907 --> 00:10:57,741 (เอสปอต ยูสปอต พีสปอต) ยูสปอตเหรอ 238 00:10:58,742 --> 00:10:59,993 ยูสปอตและเอสปอต 239 00:11:00,077 --> 00:11:02,705 สารที่แม้แต่ ดร.วิปเปิลก็ยังไม่ชอบ 240 00:11:02,788 --> 00:11:05,249 เวลาที่คุณค้นหาเป้าหมายบางอย่าง 241 00:11:05,332 --> 00:11:07,543 คุณมักจะพลาดความสุขระหว่างทาง 242 00:11:07,793 --> 00:11:11,213 แต่ไม่เหมือนผู้ชาย ซึ่งหลักฐานของจุดสุดยอดชัดเจนมาก 243 00:11:11,296 --> 00:11:12,965 มันไม่ชัดเจนสำหรับผู้หญิงหลายๆ คน 244 00:11:14,174 --> 00:11:16,885 ย้อนกลับไปในปี 1976 เดอะ ไฮต์ รีพอร์ตได้วิเคราะห์ 245 00:11:16,969 --> 00:11:19,638 ประสบการณ์ทางเพศของผู้หญิงกว่า 3,000 คน 246 00:11:20,889 --> 00:11:24,935 บางคนพูดถึงความตื่นเต้นที่ตัวเองรู้สึก และสงสัยว่า "นี่คือจุดสุดยอดหรือเปล่า" 247 00:11:26,687 --> 00:11:28,147 มันไม่ใช่คำถามที่โง่เลย 248 00:11:28,689 --> 00:11:29,857 นักวิทย์ฯ ไม่เห็นพ้องกันด้วยซ้ำ 249 00:11:29,940 --> 00:11:33,402 ว่าจุดสุดยอดของผู้หญิงทุกคน แสดงออกแบบเดียวกันหรือเปล่า 250 00:11:33,485 --> 00:11:36,530 เรารู้ว่าพวกเธอมักลงความเห็นว่า มันคือมดลูกหดเกร็งโดยไม่ได้ตั้งใจ 251 00:11:36,613 --> 00:11:39,742 และมีความเข้าใจว่า กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานก็เกี่ยวข้องด้วย 252 00:11:39,825 --> 00:11:42,077 แต่มดลูกหดเกร็งคืออะไรกันแน่ 253 00:11:42,161 --> 00:11:43,245 เราไม่รู้จริงๆ 254 00:11:43,954 --> 00:11:45,497 มันยากมาก 255 00:11:45,581 --> 00:11:50,335 ที่จะประเมินว่ากล้ามเนื้ออะไรที่หดเกร็ง ระหว่างถึงจุดสุดยอด 256 00:11:50,419 --> 00:11:52,629 เป็นการตอบสนองที่เหยียดหยามกันมากที่สุด 257 00:11:52,713 --> 00:11:56,258 ก็เพราะว่ามันไม่ได้รับความสนใจ 258 00:11:56,341 --> 00:11:59,178 จากสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติสักเท่าไหร่ 259 00:11:59,261 --> 00:12:03,682 ในการระบุว่าสุดยอดอภิมหากล้ามเนื้ออะไร 260 00:12:03,766 --> 00:12:05,642 ที่เกี่ยวข้องในการถึงจุดสุดยอด 261 00:12:06,226 --> 00:12:08,270 วิทยาศาสตร์ยังเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริง 262 00:12:08,353 --> 00:12:12,107 ที่ผู้หญิงแปดถึง 20 เปอร์เซ็นต์ พบว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้นเจ็บปวดมาช้านาน 263 00:12:12,191 --> 00:12:13,484 เป็นเวลานานกว่าศตวรรษ 264 00:12:13,567 --> 00:12:17,571 ความเจ็บปวดทางเพศของผู้หญิงถูกวินิจฉัยว่าเป็น ช่องคลอดหดเกร็งและความเจ็บปวดขณะร่วมเพศ 265 00:12:17,654 --> 00:12:19,740 และมักจะรักษาทางด้านจิตวิทยา 266 00:12:19,823 --> 00:12:23,994 จนกระทั่งปี 2013 เมื่อมันถูกจัดประเภทใหม่ เป็นอาการปวดสาเหตุจากจิตใจ 267 00:12:24,620 --> 00:12:26,413 จากการที่วิทยาศาสตร์ยังคงไม่ค่อยรู้ 268 00:12:26,497 --> 00:12:29,416 เกี่ยวกับประสบการณ์ เรื่องเซ็กซ์และจุดสุดยอดของผู้หญิง 269 00:12:29,500 --> 00:12:33,086 ผู้หญิงและผู้ชายหลายๆ คนจึงเรียนรู้มัน จากวิธีการนำเสนอ 270 00:12:33,170 --> 00:12:36,298 ในสิ่งต่างๆ เช่น ทีวี หนัง และหนังโป๊ 271 00:12:36,381 --> 00:12:39,510 ฉันเริ่มดูตอนประมาณป.หก 272 00:12:39,593 --> 00:12:42,846 และไม่ใช่เพราะฉันอยากจะค้นหามันหรืออะไร 273 00:12:42,930 --> 00:12:45,974 แต่เป็นเพราะเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งของเรา เราไปบ้านเขา ประมาณว่า 274 00:12:46,058 --> 00:12:47,810 "เฮ้ย พวกแกอยาดกูหนังโป๊รึเปล่า" 275 00:12:47,893 --> 00:12:51,104 และผู้หญิงทุกคนก็ "ฉันตั้งใจดูอยู่ 276 00:12:51,188 --> 00:12:53,148 โอเค นั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ 277 00:12:53,232 --> 00:12:54,441 นั่นคือสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง" 278 00:12:54,525 --> 00:12:57,027 การเรียนรู้ว่าอะไรเป็นที่คาดหวังระหว่างมีเซ็กซ์ 279 00:12:57,110 --> 00:12:58,320 และอะไรต้องห้าม 280 00:12:58,403 --> 00:13:01,657 คือสิ่งที่นักสังคมวิทยาเรียกว่าบทเซ็กซ์สังคม 281 00:13:02,241 --> 00:13:03,700 (บทเซ็กซ์สังคม) 282 00:13:03,784 --> 00:13:07,579 ในวัฒนธรรมตะวันตก บทเซ็กซ์สังคมที่เป็นที่นิยมนั้นประกอบด้วย... 283 00:13:07,663 --> 00:13:09,957 กระแทกสามครั้ง แล้วผู้หญิงก็เหมือนเคลิบเคลิ้มสุดๆ 284 00:13:10,332 --> 00:13:13,585 ผู้ชายไม่แตะต้องอะไรเลย เขากระแทกอย่างเดียว 285 00:13:13,669 --> 00:13:15,462 และผู้หญิงก็กรีดร้อง 286 00:13:15,546 --> 00:13:19,091 ถ้าผู้ชายไม่เสร็จ เซ็กซ์ถือว่าล้มเหลว 287 00:13:19,174 --> 00:13:23,011 ถ้าผู้หญิงไม่เสร็จ ถือว่าปกติและเป็นความผิดของเธอเอง 288 00:13:23,595 --> 00:13:26,974 ส่วนใหญ่บทเหล่านี้ไม่ดีต่อจุดสุดยอดของผู้หญิงเลย 289 00:13:27,057 --> 00:13:28,517 งานวิจัยหลายทศวรรษชี้ให้เห็นว่า... 290 00:13:28,600 --> 00:13:29,434 (พอลลา อิงแลนด์ อาจารย์ด้านสังคมวิทยา) 291 00:13:29,518 --> 00:13:33,730 ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดน้อยกว่าผู้ชาย เวลามีเซ็กซ์กับเพศตรงข้าม 292 00:13:33,814 --> 00:13:37,192 และนั่นคือเรื่องจริงในชีวิตแต่งงาน เรื่องจริงในการเดต 293 00:13:37,776 --> 00:13:41,405 และเมื่อ ดร.พอลลา อิงแลนด์ สำรวจนักศึกษากว่า 4,000 คน 294 00:13:41,488 --> 00:13:42,948 เธอพบสิ่งเดียวกัน 295 00:13:43,031 --> 00:13:47,244 ผู้หญิงบอกว่าถึงจุดสุดยอดน้อยกว่าผู้ชาย ระหว่างมีเซ็กซ์ชั่วคราวอย่างชัดเจน 296 00:13:48,871 --> 00:13:50,956 แต่ผู้ชายพวกนี้ส่วนใหญ่อาจไม่รู้ 297 00:13:51,540 --> 00:13:53,709 หลายคนบอกว่า คู่นอนหญิงของพวกเขาถึงจุดสุดยอด 298 00:13:53,792 --> 00:13:56,628 บ่อยเป็นสองเท่าของที่ผู้หญิงที่ถูกสำรวจบอก 299 00:13:57,337 --> 00:14:01,341 ผู้หญิงจะพูดประมาณว่า "ฉันรู้สึกเหมือนฉันไม่มีสิทธิ์ 300 00:14:01,425 --> 00:14:02,801 จะเรียกร้องมันด้วยซ้ำ 301 00:14:02,885 --> 00:14:05,971 หรือพูดว่าฉันต้องการอะไร หรือมันน่าอายเกินไป" 302 00:14:06,054 --> 00:14:08,473 เราไม่ได้ถูกสอนมาว่า ผู้หญิงรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร 303 00:14:08,557 --> 00:14:10,309 เราถูกสอนว่าผู้ชายคือฝ่ายที่เซ็กซี่ 304 00:14:10,392 --> 00:14:12,311 และพวกเขาจะเป็นฝ่ายทำอะไรๆ ให้คุณ 305 00:14:12,394 --> 00:14:16,481 แทนที่จะยินยอมอย่างกระตือรือร้น ประมาณว่า "เยี่ยม มาทำแบบนี้กัน" 306 00:14:17,149 --> 00:14:19,943 การที่ผู้หญิงเรียกร้องสิ่งที่ตัวเองต้องการ เพื่อให้ถึงจุดสุดยอด 307 00:14:20,027 --> 00:14:21,612 ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของบท 308 00:14:21,695 --> 00:14:24,114 เพราะสุดท้ายแล้วมันคือผู้ที่อยู่หลังกล้องต่างหาก 309 00:14:24,197 --> 00:14:26,325 ที่ตัดสินว่าจะพรรณาจุดสุดยอดของผู้หญิงยังไง 310 00:14:26,783 --> 00:14:31,538 และในตะวันตก ผู้กำกับมักจะเอนไปทาง ผิวขาวและผู้ชายมานานแล้ว 311 00:14:31,622 --> 00:14:36,919 ผู้หญิงผิวสีถูกคาดหวังว่า จะต้องถึงจุดสุดยอดแบบเกินจริงในหนังโป๊ 312 00:14:37,002 --> 00:14:41,715 และนั่นเป็นเพราะ มุมมองนี้ที่มีมายาวนานเหลือเกิน 313 00:14:41,798 --> 00:14:44,384 ว่าผู้หญิงผิวสีมีความต้องการทางเพศสูง 314 00:14:44,468 --> 00:14:47,971 พวกเขาจึงถูกคาดหวังว่า ต้องพ่นน้ำไปทั่วห้อง หรือเล่นใหญ่ 315 00:14:48,889 --> 00:14:52,059 และในขณะที่หนังโป๊เลสเบียน ได้รับความนิยมสูงสุดในพอร์นฮับ 316 00:14:52,142 --> 00:14:54,186 ซึ่งเป็นเว็บโป๊ที่แพร่หลายที่สุดในโลก 317 00:14:54,269 --> 00:14:57,022 แต่ผู้ชมส่วนใหญ่กลับเป็นผู้ชาย 318 00:14:58,774 --> 00:15:00,734 แต่จริงๆ แล้วเซ็กซ์ของเลสเบียน... 319 00:15:01,360 --> 00:15:05,030 พวกเธอมีโอกาสถึงจุดสุดยอด มากกว่าผู้หญิงที่มีเซ็กซ์กับผู้ชาย 320 00:15:05,113 --> 00:15:06,949 มีการสื่อสารกันมากกว่ามาก 321 00:15:07,032 --> 00:15:08,700 มีการผลัดกันมากกว่า 322 00:15:09,493 --> 00:15:13,413 ชาวเกย์โตมากับบท ที่บอกว่าเซ็กซ์ควรเป็นยังไงน้อยกว่า 323 00:15:13,497 --> 00:15:16,833 ฉันคิดว่าคู่รักเพศตรงข้ามหลายๆ คู่บรรลุผลแล้ว 324 00:15:16,917 --> 00:15:21,088 ที่จะพูดว่า "นี่ อะไรคือปกติ หรืออะไรดูเหมือนจะปกติ 325 00:15:21,171 --> 00:15:22,673 ยกเรื่องนั้นออกไปเถอะ 326 00:15:22,756 --> 00:15:25,300 และมาคิดหากันว่า อะไรที่เหมาะสำหรับคู่รักอย่างเรา" 327 00:15:25,384 --> 00:15:27,970 แต่คู่รักเพศเดียวกันต้องเริ่มจากตรงนั้นเลย 328 00:15:28,053 --> 00:15:30,681 พวกเขาต้องปฏิเสธสิ่งที่ปกติ 329 00:15:30,764 --> 00:15:32,933 เพราะสิ่งที่ปกติตามแบบสังคม 330 00:15:33,016 --> 00:15:34,267 คือการเป็นคู่รักเพศตรงข้าม 331 00:15:34,351 --> 00:15:36,561 สำหรับคนที่ชอบเพศตรงข้าม การสื่อสารแบบนั้น 332 00:15:36,645 --> 00:15:38,146 มักจะง่ายกว่าในความสัมพันธ์... 333 00:15:38,230 --> 00:15:39,147 (เพศสัมพันธ์ถาวรในความสัมพันธ์) 334 00:15:39,231 --> 00:15:41,650 ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ในการงานวิจัยของ ดร.อิงแลนด์ 335 00:15:41,733 --> 00:15:44,653 กล่าวว่าผู้หญิงที่มีแฟนหนุ่ม เมื่อเทียบกับการควงกันครั้งแรก... 336 00:15:45,696 --> 00:15:47,739 มักถึงจุดสุดยอดมากกว่าหกเท่า 337 00:15:49,157 --> 00:15:50,784 และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด 338 00:15:50,867 --> 00:15:54,621 มีอีกสิ่งหนึ่งที่งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า เพิ่มความถี่ของจุดสุดยอดผู้หญิงได้ 339 00:15:54,705 --> 00:15:58,208 โดยไม่คำนึงถึงอายุ เชื้อชาติ และเพศสภาพ 340 00:15:59,292 --> 00:16:00,502 การช่วยตัวเอง 341 00:16:01,253 --> 00:16:03,088 ช่วงแรกๆ ที่ทำพอดแคสต์ พวกเขาบอกว่า 342 00:16:03,171 --> 00:16:05,048 "โอเค ได้ทำรายการตรวจสอบหรือยัง 343 00:16:05,132 --> 00:16:07,426 อย่างเช่น คุณไม่ถึงเหรอ นี่เลย 344 00:16:07,509 --> 00:16:09,428 ทำเองได้ไหม คุณช่วยตัวเองหรือเปล่า" 345 00:16:09,511 --> 00:16:11,596 จุดสุดยอดคือเหตุการทางพัฒนาการ 346 00:16:11,680 --> 00:16:14,057 หนึ่งในอุปสรรคที่ผู้หญิงจำนวนมากเผชิญ 347 00:16:14,141 --> 00:16:16,435 ก็คือพวกเธอไม่ได้รับการกระตุ้น 348 00:16:16,518 --> 00:16:19,438 ให้สำรวจว่าอะไรที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดี 349 00:16:19,521 --> 00:16:21,523 โดยส่วนตัวเมื่อช่วยตัวเอง 350 00:16:21,606 --> 00:16:24,067 พวกเธอก็เลยไม่รู้ด้วยว่า อะไรที่ทำให้พวกเธอรู้สึกดี 351 00:16:24,151 --> 00:16:25,861 เมื่อมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอน 352 00:16:25,944 --> 00:16:26,862 (พฤติกรรมทางเพศในสหรัฐฯ) 353 00:16:26,945 --> 00:16:28,280 ในการสำรวจปี 2010 354 00:16:28,363 --> 00:16:32,534 เด็กผู้หญิงเกือบสองเท่าของเด็กผู้ชาย บอกว่าไม่เคยช่วยตัวเอง 355 00:16:32,617 --> 00:16:33,952 (เด็กในสหรัฐฯ ที่ไม่เคยช่วยตัวเอง) 356 00:16:34,036 --> 00:16:36,121 และในยุคของฟรอยด์และฮิสทีเรีย... 357 00:16:36,204 --> 00:16:37,289 (ทศวรรษที่ 1800 ถึงต้น 1900) 358 00:16:37,372 --> 00:16:39,458 ทัศนคติต่อการช่วยตัวเองเป็นเรื่องที่แย่มาก 359 00:16:39,541 --> 00:16:41,501 (วิทยานิพนธ์เรื่องโรคที่เกิดจากการช่วยตัวเอง) 360 00:16:41,585 --> 00:16:45,547 ...การช่วยตัวเองในเด็กๆ ถูกลงโทษ และถูกมองว่าชั่วร้าย 361 00:16:45,630 --> 00:16:48,425 ทฤษฎีหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ถกเถียง ของบรรดานักประวัติศาสตร์ 362 00:16:48,508 --> 00:16:50,635 ก็คือผู้หญิงบางคนไปรับการนวดเชิงกราน 363 00:16:50,719 --> 00:16:55,265 เพื่อให้เกิดอาการโรคกลับฉับพลันทางฮีสทีเรีย หรือจุดสุดยอด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรักษา 364 00:16:55,348 --> 00:16:59,644 แต่เวลาที่พวกเขาช่วยตัวเองให้ผู้หญิงพวกนี้ กลับต้องใช้ความพยายามอย่างมาก 365 00:16:59,728 --> 00:17:02,230 ดังนั้น ด้วยพัฒนาการของไฟฟ้า 366 00:17:02,314 --> 00:17:05,525 พวกเขาจึงช่วยประดิษฐ์ไวเบรเตอร์ขึ้นมา 367 00:17:06,359 --> 00:17:08,528 ซึ่งช่วยให้งานของพวกเขาง่ายขึ้นมาก 368 00:17:09,362 --> 00:17:13,450 ตั้งแต่ยุค 70 เมื่อร้านค้าปลีกเพื่อสตรี ขายมันในร้านเล็กๆ ไม่กี่ร้าน 369 00:17:13,533 --> 00:17:16,244 ธุรกิจเซ็กซ์ทอยก็เฟื่องฟูมาก 370 00:17:16,703 --> 00:17:21,333 ในปี 2017 มูลค่าโดยประมาณของมัน สูงกว่า 15 พันล้านดอลลาร์ 371 00:17:22,501 --> 00:17:25,420 สินค้าหลายๆ ชิ้น หน้าตาไม่เหมือนอวัยวะของร่างกายอีกต่อไปแล้ว 372 00:17:25,504 --> 00:17:28,548 แต่ออกแบบมาหลากหลายแนวทาง เพื่อความสุขของผู้หญิง 373 00:17:30,967 --> 00:17:35,806 ดังนั้นวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2/22 คือวันที่พิเศษมาก 374 00:17:35,889 --> 00:17:38,433 ฉันวางผ้าเช็ดตัวไว้บนเตียงนี้ 375 00:17:38,517 --> 00:17:40,393 ฉันมีสารหล่อลื่น มีของเล่น 376 00:17:40,477 --> 00:17:43,230 จากนั้นฉันก็ลงมือ และฉันจะไม่โกหกคุณเลย 377 00:17:43,313 --> 00:17:48,110 ภายใน 30 วินาที ฉันแบบว่า "ฉันรู้สึกบางอย่าง" 378 00:17:48,193 --> 00:17:49,694 จากนั้นฉันก็หลั่ง 379 00:17:49,778 --> 00:17:52,322 ฉันคิดว่าถึงจุดสุดยอดหกครั้งได้ 380 00:17:52,405 --> 00:17:57,369 ฉันมักจะมองหาความสมหวังเรื่องเพศ ในตัวคนอื่นๆ เสมอ 381 00:17:57,452 --> 00:18:00,789 มันไม่ใช่ว่า... คุณช่วยตัวเอง เพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดี 382 00:18:00,872 --> 00:18:02,624 และตอนนี้ฉันเข้าใจมันแล้ว 383 00:18:02,707 --> 00:18:04,876 ดังนั้นฉันช่วยตัวเองได้ 384 00:18:04,960 --> 00:18:08,463 ถึงจุดสุดยอดเจ๋งๆ สองสามครั้ง ใช้ชีวิตต่อไป ทำงานให้เสร็จ 385 00:18:08,547 --> 00:18:10,298 ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นชะนีตัวแม่