1 00:00:09,635 --> 00:00:13,139 มีบางอย่างในดีเอ็นเอของเรา ซึ่งผมอธิบายไม่ได้ 2 00:00:13,639 --> 00:00:18,770 มันผลักดันให้เรา สร้างสัญลักษณ์บนร่างกายของเรา 3 00:00:18,853 --> 00:00:21,773 ในแบบที่แตกต่างจากคนอื่นๆ รอบตัวเรา 4 00:00:22,356 --> 00:00:25,318 ลิงทุกตัวอยากดูแตกต่างจากตัวที่อยู่ข้างมัน 5 00:00:25,401 --> 00:00:27,737 สมัยนี้สามารถสักได้ทุกแห่ง 6 00:00:27,820 --> 00:00:28,905 บนหัวเข่าครับ 7 00:00:28,988 --> 00:00:30,531 - ส่วนใหญ่บนแขนฉัน - ข้อเท้าค่ะ 8 00:00:30,865 --> 00:00:35,286 บนตัวนักกีฬา ดาราหนัง และแม้แต่ผู้ปกครองที่มาจากการเลือกตั้ง 9 00:00:36,204 --> 00:00:40,124 ในปี 2015 คนอเมริกันเกือบหนึ่งในสาม มีรอยสักอย่างน้อยคนละหนึ่งรอย 10 00:00:40,708 --> 00:00:43,211 โดยที่สามปีก่อนหน้านั้น เพิ่งมีแค่หนึ่งในห้า 11 00:00:43,961 --> 00:00:46,506 ปัจจุบันมีงานเกี่ยวกับการสักทั่วโลก 12 00:00:46,589 --> 00:00:50,301 รวมทั้งในบราซิล อินเดีย และอียิปต์ 13 00:00:50,384 --> 00:00:54,097 แต่ย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีก่อน รอยสักมีให้เห็นน้อยมากอย่างไม่น่าเชื่อ 14 00:00:54,597 --> 00:00:57,475 และในหลายๆ แห่งบนโลก ก็ยังคงเป็นอย่างนั้น 15 00:00:58,184 --> 00:01:01,229 ในประเทศจีน รอยสักห้ามปรากฏบนจอโทรทัศน์ 16 00:01:01,312 --> 00:01:02,647 (จีนสั่งห้ามวัฒนธรรมฮิปฮอป และรอยสักบนจอทีวี) 17 00:01:02,730 --> 00:01:06,109 ในญี่ปุ่น รอยสักมักถูกห้าม ในสระว่ายน้ำสาธารณะและสปา 18 00:01:07,443 --> 00:01:09,070 และในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 19 00:01:09,153 --> 00:01:11,864 คุณต้องลบรอยสักหากคุณอยากเข้ากองทัพ 20 00:01:12,740 --> 00:01:15,910 แต่มนุษย์สร้างสัญลักษณ์บนร่างกาย ตั้งแต่อารยธรรมยุคแรกๆ แล้ว 21 00:01:16,619 --> 00:01:18,746 ผมคิดว่าไม่ได้มีเหตุการณ์ครั้งแรกครั้งเดียว... 22 00:01:18,830 --> 00:01:20,289 (ลาร์ส ครูทัก นักมานุษยวิทยารอยสัก) 23 00:01:20,373 --> 00:01:23,709 ...หรือสถานที่แห่งเดียวที่พัฒนารอยสักขึ้นมา จากนั้นก็แพร่หลายไปทั่วโลก 24 00:01:23,793 --> 00:01:26,671 ผมคิดว่ามันคือการคิดค้นอย่างอิสระ ในหลายๆ แห่งมากกว่า 25 00:01:26,754 --> 00:01:32,301 เรามีแรงผลักดันจากธรรมชาตินี้ ให้ทำสัญลักษณ์เหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนชีวิต 26 00:01:33,219 --> 00:01:35,763 วัฒนธรรมโบราณของมนุษย์ที่ไม่น่าจะเคยพบกัน 27 00:01:35,847 --> 00:01:38,182 ได้พัฒนาวัฒนธรรมการสักของตัวเองขึ้นมา 28 00:01:38,266 --> 00:01:40,726 มีรอยสัก 61 รอยบนตัวเอิตซี ดิ ไอซ์แมน 29 00:01:40,810 --> 00:01:43,813 มัมมี่แช่แข็งอายุ 5,000 ปี ที่ถูกพบในเทือกเขาแอลป์ อิตาลี... 30 00:01:43,896 --> 00:01:45,064 (ประมาณ 3300 ปีก่อนคริสตกาล) 31 00:01:45,148 --> 00:01:50,027 ถ้าเราทำแบบนี้กันมาตลอดอยู่แล้ว ทำไมอยู่ๆ เดี๋ยวนี้จึงคนมากมายเริ่มสักกัน 32 00:01:50,111 --> 00:01:53,489 ฉันเกิดมาหน้าตาแบบนี้ และฉันเปลี่ยนมันไม่ได้ 33 00:01:53,573 --> 00:01:55,158 แหม ไม่จริงหรอกค่ะ 34 00:01:55,241 --> 00:01:59,412 รอยสักไม่ใช่แผลเป็นตลอดกาลที่พ่อแม่เตือนเรา 35 00:01:59,495 --> 00:02:02,707 รอยสักบนร่างของอาโป อานี ชี้ให้เห็นว่าเขามีสถานะสูงศักดิ์ 36 00:02:02,790 --> 00:02:04,834 มันเคยมีแต่นักโทษ นักแสดง นักบิด และกะลาสี 37 00:02:04,917 --> 00:02:08,796 ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์แล้ว ที่รอยสักคือสัญลักษณ์ของความทรหด 38 00:02:08,880 --> 00:02:12,967 สวยจัง รอยนั้นก็สวย และฉันคิด "อยากสักบ้างจัง" 39 00:02:13,050 --> 00:02:16,929 มันคือส่วนหนึ่งของผม นี่คือภายในของผมที่ปรากฏภายนอก 40 00:02:17,013 --> 00:02:22,602 (ไขประเด็น รอยสัก) 41 00:02:22,685 --> 00:02:25,021 ฉันสักรูปตากับยายไว้บนแขนค่ะ 42 00:02:25,104 --> 00:02:28,191 อันนี้คือตึกที่โด่งดังในเซาธ์ มินนีแอโพลิส 43 00:02:28,274 --> 00:02:31,235 จักรยานคันนี้สักเพื่อปู่ทวดของผม 44 00:02:31,944 --> 00:02:33,821 รอยสักส่วนใหญ่ที่คุณเห็นในวันนี้ 45 00:02:33,905 --> 00:02:35,781 มาจากแบบแผนการสักจำนวนหนึ่ง 46 00:02:35,865 --> 00:02:36,741 (เผ่าพื้นเมือง) 47 00:02:36,824 --> 00:02:40,286 ผมสักหลังอายุครบ 24 ปีไม่กี่เดือน 48 00:02:40,369 --> 00:02:42,413 มีลายหัวหอกตรงนี้ 49 00:02:42,496 --> 00:02:43,956 แล้วก็ลายฟันฉลาม 50 00:02:44,790 --> 00:02:48,127 และตรงนี้เป็นลายกระดองเต่า 51 00:02:48,211 --> 00:02:49,837 กระดองเต่าใช้เป็นโล่ป้องกัน 52 00:02:50,713 --> 00:02:52,506 นั่นคือรอยสักนักรบ 53 00:02:52,590 --> 00:02:55,384 หลายร้อยปีก่อน ชาวฮาวายพื้นเมืองสักรูปเหล่านั้น 54 00:02:55,468 --> 00:02:57,178 เพื่อบันทึกความสำเร็จในการรบ 55 00:02:57,929 --> 00:02:59,222 การสักแพร่หลายออกไป 56 00:02:59,305 --> 00:03:03,517 ในชุมชนพื้นเมืองทั่วโลกมาหลายพันปี 57 00:03:03,601 --> 00:03:05,353 ธรรมเนียมถูกส่งต่อกันไปหลายรุ่น 58 00:03:05,436 --> 00:03:09,607 และใช้เป็นสัญลักษณ์ของการบรรลุนิติภาวะ การเป็นสมาชิกกลุ่ม และพลังทางจิตวิญญาณ 59 00:03:09,690 --> 00:03:11,901 เครื่องมือชิ้นแรกที่ใช้ในการสักนั้นธรรมดามาก 60 00:03:11,984 --> 00:03:13,903 เช่น หนามหรือเศษกระดูก 61 00:03:14,362 --> 00:03:17,615 ลวดลายในยุคโบราณ มักจะเป็นรูปทรงเรขาคณิตง่ายๆ 62 00:03:18,241 --> 00:03:20,409 สัญลักษณ์ต่างๆ มักได้แรงบันดาลใจจากสิ่งแวดล้อม 63 00:03:20,493 --> 00:03:23,913 ต้นไม้และสัตว์ คลื่นและภูเขา พระอาทิตย์และดวงดาว 64 00:03:24,830 --> 00:03:28,125 ถ้าคุณมาจากเกาะหนึ่ง ก็จะมีพืชแบบหนึ่งขึ้นอยู่ที่นั่น 65 00:03:28,459 --> 00:03:31,671 ซึ่งอาจเป็นเหมือนที่ตั้งสำคัญของลวดลายนั้นๆ 66 00:03:31,754 --> 00:03:33,422 มันก็คือที่อยู่นั่นแหละครับ 67 00:03:33,506 --> 00:03:36,342 คนจะได้จำได้ "อ๋อ ใช่ ลวดลายนั้น... 68 00:03:36,425 --> 00:03:39,720 มาจากด้านนี้ของป่า ฟากนี้ของเกาะ" และพวกเขาจะรู้ว่า ต้องเข้าหาชายคนนั้นหรือหญิงคนนั้นยังไง 69 00:03:43,182 --> 00:03:44,642 ในแบบที่เป็นการให้เกียรติ 70 00:03:44,725 --> 00:03:50,439 ธรรมเนียมเหล่านี้ถูกส่งต่อโดย วีรบุรุษแห่งวัฒนธรรม วีรบุรุษผู้เป็นบรรพบุรุษ 71 00:03:50,648 --> 00:03:52,525 นั่นคือต้นกำเนิดของมัน 72 00:03:52,608 --> 00:03:55,778 และทุกครั้งที่พิธีการสักเกิดขึ้นซ้ำ 73 00:03:55,861 --> 00:03:58,823 คุณกำลังเรียกทุกคนจากอดีต 74 00:03:58,906 --> 00:04:03,077 มันจึงเป็นช่วงเวลาที่ทรงพลังอย่างยิ่ง เวลาที่น้ำหมึก... 75 00:04:03,494 --> 00:04:05,079 กระทบผิวหนัง 76 00:04:05,746 --> 00:04:08,249 มันมีจังหวะ แทบจะเหมือนจังหวะกลอง 77 00:04:11,085 --> 00:04:14,046 และมันให้ความรู้สึก เหมือนการปลุกบรรพบุรุษขึ้นมา 78 00:04:15,798 --> 00:04:18,676 อีกคนมาเข้าร่วมเพื่อขึงผิวหนังให้ตึง 79 00:04:18,759 --> 00:04:21,095 พวกเขาทำขี้เขม่าดำมาเอง พวกเขาทำน้ำหมึกมาเอง 80 00:04:21,178 --> 00:04:24,807 ป่าจึงเป็นอีกส่วนประกอบในนั้น 81 00:04:26,142 --> 00:04:27,810 การสักคือพิธีกรรมที่เจ็บปวด 82 00:04:27,893 --> 00:04:30,938 ที่เมื่อทำเสร็จแล้ว จะกำหนดสถานะคุณในสังคมของคุณ 83 00:04:31,480 --> 00:04:35,109 นี่คือเรื่องจริงอย่างยิ่ง ในวัฒนธรรมของเกาะแปซิฟิกอย่างซามัว 84 00:04:35,192 --> 00:04:38,112 ในการสักของซามัว ลวดลายเรียบง่าย ที่เป็นสัญลักษณ์ของสัตว์ 85 00:04:38,195 --> 00:04:40,948 เช่น โกโกหรือนกนางนวล และตะขาบ 86 00:04:41,032 --> 00:04:43,576 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง ที่เป็นหนึ่งเดียวของชุมชน 87 00:04:43,659 --> 00:04:47,580 ถูกทำให้เป็นลวดลาย และสักลงไปตามแผ่นหลังด้านล่างและขา 88 00:04:48,331 --> 00:04:52,168 ธรรมเนียมการสักของเกาะแปซิฟิก พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายชั่วอายุคน 89 00:04:52,251 --> 00:04:54,253 จนกระทั่งนักสำรวจชาวยุโรปมาถึง 90 00:04:54,920 --> 00:04:58,090 ไม่พบเห็นการสักในยุโรปมากนัก ในช่วงกว่าพันปีที่ผ่านมา 91 00:04:58,215 --> 00:05:00,176 เช่นเดียวกับศาสนายิวและอิสลาม ศาสนาคริสต์ 92 00:05:00,259 --> 00:05:02,762 มองว่าการสักคือการดูหมิ่นร่างกาย... 93 00:05:02,845 --> 00:05:04,096 (และห้ามทำสัญลักษณ์ใดบนตัว) 94 00:05:04,180 --> 00:05:06,515 ดังนั้นเมื่อกัปตันเจมส์ คุก นักสำรวจชาวอังกฤษ 95 00:05:06,599 --> 00:05:09,935 จอดเรือบนเกาะตาฮิติในเขตแปซิฟิกในปี 1769 96 00:05:10,019 --> 00:05:12,980 เขาและคนของเขาจึงบันทึก ธรรมเนียมการสักของชาวพื้นเมืองไว้ 97 00:05:13,689 --> 00:05:14,815 คุกเขียนไว้ว่า 98 00:05:14,899 --> 00:05:18,652 "ทั้งสองเพศทาสีบนร่างกาย หรือแททเทา ตามภาษาของพวกเขา" 99 00:05:18,736 --> 00:05:19,570 (13 กรกฎาคม 1769) 100 00:05:19,653 --> 00:05:23,491 คำว่าแททเทาซึ่งเป็นภาษาตาฮิติ ปัจจุบันกลายเป็นคำที่ใช้ทั่วโลก 101 00:05:24,658 --> 00:05:27,953 แต่เกือบจะทันทีที่ชาวยุโรปค้นพบการสักในแปซิฟิก 102 00:05:28,037 --> 00:05:29,455 พวกเขาก็เริ่มลบล้างมัน 103 00:05:29,538 --> 00:05:33,209 กลุ่มผู้ล่าอาณานิคมและหมอสอนศาสนา ที่ติดตามการเดินทาง เช่นของคุก 104 00:05:33,292 --> 00:05:36,420 เข้ายึดครองเกาะ และสั่งห้ามการสักตามธรรมเนียมเดิม 105 00:05:37,171 --> 00:05:39,590 ทันทีที่คุณลบล้างการสักจากผู้คนได้ 106 00:05:39,673 --> 00:05:45,179 ก็จะทำให้กำราบพวกเขา ให้ยอมรับอุดมคติตะวันตกได้ง่ายขึ้นมาก 107 00:05:45,262 --> 00:05:49,433 และทำลายรูปแบบพื้นเมือง ของอำนาจและความเชื่อท้องถิ่นได้ 108 00:05:49,517 --> 00:05:51,394 ลัทธิล่าอาณานิคมและโบสถ์ 109 00:05:51,477 --> 00:05:54,730 ลบประวัติศาสตร์ของพวกเขา บรรพบุรุษของพวกเขา 110 00:05:54,814 --> 00:05:57,358 เพื่อให้พวกเขาหายไปจากแผนที่ 111 00:05:57,441 --> 00:05:59,819 และเพื่อให้พวกเขาเกิดวิกฤตอัตลักษณ์ 112 00:05:59,902 --> 00:06:01,570 และมันทำให้พวกเขากลมกลืนได้ง่ายขึ้น 113 00:06:01,946 --> 00:06:04,281 ธรรมเนียมการสักแบบนี้ ไม่เคยถูกลบเลือนอย่างแท้จริง 114 00:06:04,365 --> 00:06:07,326 และการออกแบบดั้งเดิมหลายลวดลาย มีคนนอกบันทึกไว้ 115 00:06:07,743 --> 00:06:10,413 เช่น นักมานุษยวิทยา และนักเดินทางที่มาเที่ยวเกาะ 116 00:06:10,496 --> 00:06:11,705 (ฟิลิปปินส์ ปี 1896) 117 00:06:11,789 --> 00:06:14,125 และปัจจุบัน ช่างสักก็ใช้ผลงานเก่าแก่หลายร้อยปีเหล่านี้ 118 00:06:14,208 --> 00:06:17,336 เป็นตัวอย่างการออกแบบรอยสักแบบชนเผ่า อย่างที่คุณเห็นในทุกวันนี้ 119 00:06:18,754 --> 00:06:20,423 (แบบแผนญี่ปุ่น) 120 00:06:20,506 --> 00:06:21,841 ลายโปรดของผมคือ 121 00:06:22,049 --> 00:06:23,342 ลายนี้ครับ 122 00:06:24,760 --> 00:06:26,303 มันคือเก้าอี้ 123 00:06:26,387 --> 00:06:28,222 ครั้งแรกที่ผมเริ่มสัก 124 00:06:28,305 --> 00:06:29,640 มันเป็นเรื่องของความทรหด 125 00:06:29,723 --> 00:06:34,228 และมันมีภาพลักษณ์ของ "ผมแกร่งและผมทนได้" 126 00:06:34,311 --> 00:06:37,064 เป็นการเอาชนะอะไรบางอย่าง เอาชนะความเจ็บปวด 127 00:06:37,398 --> 00:06:41,318 แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรแล้ว 128 00:06:41,402 --> 00:06:44,697 เก้าอี้ตัวนั้นคือการสักแบบร่วมสมัยแน่นอน 129 00:06:44,780 --> 00:06:46,407 แต่ดูแขนอีกข้างสิ 130 00:06:46,490 --> 00:06:49,452 คลื่นเหล่านั้นและแรงลม เป็นเวลานานมาก 131 00:06:49,535 --> 00:06:52,413 ที่คุณจะเห็นลวดลายนั้น บนตัวอาชญากรชาวญี่ปุ่นเท่านั้น 132 00:06:52,496 --> 00:06:53,456 (นักพนันชาวญี่ปุ่น ปี 1946) 133 00:06:53,539 --> 00:06:56,876 จริงๆ แล้วรอยสักถูกใช้เป็นการลงโทษอาชญากร ในญี่ปุ่นมาหลายศตวรรษ 134 00:06:57,126 --> 00:06:59,003 โดยมักจะสักบนแขนหรือใบหน้า 135 00:06:59,086 --> 00:07:02,298 แต่การสักเพื่อลงโทษหมดไป ในปลายศตวรรษที่ 17 136 00:07:02,381 --> 00:07:04,633 น่าจะเป็นเพราะความเฟื่องฟู ของการสักเพื่อการตกแต่ง 137 00:07:04,717 --> 00:07:06,886 ซึ่งอาชญากรใช้มันปกปิดตำหนิของพวกเขาได้ 138 00:07:07,303 --> 00:07:10,222 แต่การสักเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น อย่างแท้จริงในปี 1827 139 00:07:10,306 --> 00:07:13,058 เมื่อช่างพิมพ์ภาพพิมพ์แกะไม้ อูตากาวะ คูนิโยชิ 140 00:07:13,142 --> 00:07:16,812 ทำลายพิมพ์ออกมาเป็นชุด อ้างอิงจากหนังสือยอดนิยมเรื่องซูอิโกเด็น 141 00:07:16,896 --> 00:07:20,858 เรื่องราวของคนนอกกฎหมายในตำนาน ซึ่งบางคนมีรอยสักทั้งตัว 142 00:07:20,941 --> 00:07:22,985 ภาพพิมพ์ของเขาน่าสนใจมาก 143 00:07:23,068 --> 00:07:26,322 แทบจะในทันที คนในสมัยเอโดะ หรือโตเกียวยุคปัจจุบัน 144 00:07:26,405 --> 00:07:28,282 พากันไปสักลายวีรบุรุษเหล่านั้น... 145 00:07:28,365 --> 00:07:29,241 (ประมาณปี 1890) 146 00:07:29,325 --> 00:07:30,242 (โฮริโยชิที่สาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการสักชาวญี่ปุ่น) 147 00:07:30,326 --> 00:07:31,911 รอยสักคือสัญลักษณ์ของอำนาจ 148 00:07:31,994 --> 00:07:38,417 คุณสักรูปวีรบุรุษไว้บนแผ่นหลังของคุณ เพื่อที่จะมีบุคลิกเหมือนเขา 149 00:07:38,959 --> 00:07:41,545 และรอยสักที่คูนิโยชิ สร้างแรงบันดาลใจนั้นยิ่งใหญ่มาก 150 00:07:41,879 --> 00:07:45,174 มักจะปกคลุมทั้งแผ่นหลัง โดยเป็นภาพของคนคนเดียว 151 00:07:45,257 --> 00:07:46,091 (ประมาณปี 1890) 152 00:07:46,175 --> 00:07:51,597 ก่อนจะมีผลงานของเขา รอยสักเป็นแค่ภาพปะติดปะต่อกัน 153 00:07:51,680 --> 00:07:58,479 เขาทำให้ร่างกายทั้งร่างเป็นผืนผ้าใบ โดยใช้ลวดลายเดียว 154 00:07:59,480 --> 00:08:02,816 ปัจจุบันรอยสักแนวนี้เป็นที่รู้จักในชื่อว่า แบบแผนญี่ปุ่นหรืออิเรซูมิ 155 00:08:03,776 --> 00:08:05,986 งานอิเรซูมิหนึ่งชิ้นอาจต้องใช้เวลาเป็นปี 156 00:08:07,279 --> 00:08:11,825 มันโดดเด่นด้วยสีสันที่สดใส และรูปภาพขนาดใหญ่ของตำนานและปีศาจ 157 00:08:11,909 --> 00:08:13,077 วาดด้วยหน้าตาที่เกินจริง 158 00:08:13,160 --> 00:08:16,455 และรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ เช่น ก้อนเมฆและคลื่น 159 00:08:18,082 --> 00:08:21,669 รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดให้การสัก เป็นเรื่องผิดกฎหมายในศตวรรษที่ 19 160 00:08:21,752 --> 00:08:23,879 ช่วงแรกอิเรซูมิจึงแพร่หลายไปยังผู้คน 161 00:08:23,963 --> 00:08:26,048 ที่ต้องการบ่งบอกว่าตัวเองเป็นคนอันตราย 162 00:08:26,632 --> 00:08:29,218 อำนาจและความกลัวคือเรื่องเดียวกัน 163 00:08:29,301 --> 00:08:32,137 คุณไม่กลัวความอ่อนแอ 164 00:08:32,221 --> 00:08:37,810 คนอ่อนแอจะไม่เผชิญหน้า กับบุคคลมีชื่อเสียงและตำนาน 165 00:08:37,893 --> 00:08:41,605 การสักในญี่ปุ่นทุกวันนี้ถูกกฎหมายแล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเกี่ยวข้องกับ 166 00:08:41,689 --> 00:08:45,025 เรื่องผิดกฎหมายที่พัฒนาควบคู่มากับมัน เป็นเวลาหลายชั่วอายุคน 167 00:08:45,109 --> 00:08:49,530 และงานศิลปะได้กลายเป็นทัศนสัญลักษณ์ ของแก๊งมาเฟียญี่ปุ่นหรือยากูซ่า 168 00:08:49,613 --> 00:08:50,698 ในมุมอื่นๆ ของโลก 169 00:08:50,781 --> 00:08:54,702 แบบแผนญี่ปุ่นเติบโตขึ้นจนเป็นที่นิยม อย่างกว้างขวางและเป็นสไตล์ที่มีอิทธิพล 170 00:08:54,785 --> 00:08:57,746 มันเป็นการเล่นกับเส้นโครงร่างและรูปร่าง 171 00:08:57,830 --> 00:09:01,542 มันก็เลยน่าสนใจเสมอและเป็นอะไรที่แปลกดี 172 00:09:01,625 --> 00:09:04,420 ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่คนมักจะทำกัน โดยเฉพาะกับการสัก 173 00:09:04,503 --> 00:09:06,797 คุณจะเลือกอะไรที่เป็นต่างชาติและแปลก 174 00:09:06,880 --> 00:09:08,382 และคุณทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของคุณ 175 00:09:08,757 --> 00:09:11,719 และนั่นคือเหตุผล ที่เรายังคงได้เห็นลม คลื่น และปลาโคอิ 176 00:09:11,802 --> 00:09:14,805 ที่เริ่มต้นมาจากภาพพิมพ์แกะไม้ เมื่อกว่าศตวรรษที่แล้ว 177 00:09:14,888 --> 00:09:15,889 (แบบแผนอเมริกัน) 178 00:09:15,973 --> 00:09:17,349 เราเพิ่งแต่งงานกัน 179 00:09:17,433 --> 00:09:19,977 ใช่ เรามีลายสักคู่กัน ลายคลาสสิก ลายหัวใจ 180 00:09:20,060 --> 00:09:23,772 ของผมสักว่า "ชื่อเธอ" และของเธอสักว่า "ชื่อเขา" 181 00:09:23,856 --> 00:09:26,775 หัวใจและธงคือลายสักคลาสสิกของอเมริกัน 182 00:09:26,859 --> 00:09:29,820 แต่เดิมทีคนที่สักลายนี้คือกะลาสี 183 00:09:29,903 --> 00:09:31,447 สวรรค์ช่วยกะลาสี 184 00:09:31,530 --> 00:09:34,992 พระเจ้า ดีจริงที่ได้เป็นกะลาสี ในค่ำคืนเช่นนี้ 185 00:09:35,075 --> 00:09:37,328 บอกว่าค่ำคืนเช่นนี้ 186 00:09:37,828 --> 00:09:39,955 (ซี.ดับเบิลยู. เอลดริดจ์ ช่างสักแบบแผนอเมริกัน) 187 00:09:40,039 --> 00:09:43,292 ...กะลาสีมีรอยสัก ตั้งแต่พวกเขาขึ้นเรือออกสู่ทะเล 188 00:09:43,375 --> 00:09:45,669 ซึ่งย้อนกลับไปหลายศตวรรษแล้ว 189 00:09:46,253 --> 00:09:48,756 รอยสักของกะลาสีโดยทั่วไปจะมีตัวย่อ 190 00:09:48,839 --> 00:09:51,133 สัญลักษณ์ทางทะเล และสัญลักษณ์ของความรักชาติ 191 00:09:52,009 --> 00:09:54,845 ตัวเลือกของลวดลาย จะถูกเรียงไว้ในแผ่นกระดาษที่เรียกว่าแฟลช 192 00:09:55,137 --> 00:09:56,513 และเลือกจากกำแพง 193 00:09:57,473 --> 00:10:00,809 เช่นเดี่ยวกับรอยสักชนเผ่า มันบ่งบอกตัวตนของคุณว่าเป็นกะลาสี 194 00:10:00,893 --> 00:10:03,103 เช่นเดียวกับความสำเร็จของคุณในทะเล 195 00:10:03,187 --> 00:10:04,521 เช่น นกนางแอ่น 196 00:10:05,356 --> 00:10:08,734 กะลาสีจะได้นกนางแอ่นหนึ่งตัว ทุกๆ การเดินเรือ 5,000 ไมล์ 197 00:10:08,817 --> 00:10:12,196 ซึ่งในสมัยนั้นเป็นเรื่องยากและอันตรายอย่างยิ่ง 198 00:10:12,696 --> 00:10:15,532 ดังนั้นกะลาสีที่มีนกนางแอ่นหนึ่งหรือสองตัว จึงน่าทึ่งมาก 199 00:10:16,158 --> 00:10:19,203 และคุณอาจเคยเห็นลายนี้ รอยสักลายเรือใบ 200 00:10:19,286 --> 00:10:20,913 เดิมทีจะได้มา 201 00:10:20,996 --> 00:10:23,916 ด้วยการเดินทางผ่านแหลมฮอร์น ชายฝั่งตอนใต้ชิลี 202 00:10:24,333 --> 00:10:27,169 กะลาสีมีธรรมเนียมการสะสม สัญลักษณ์การเดินทางมายาวนาน 203 00:10:27,252 --> 00:10:29,380 เพื่ออวดสถานที่แปลกๆ ที่พวกเขาเคยไปเยือน 204 00:10:29,463 --> 00:10:32,841 นี่คือปาเลสไตน์ ผมอยู่ที่ปาเลสไตน์ตั้งแต่ปี 1937 ถึง 1939 205 00:10:32,925 --> 00:10:36,261 และผมเดินทางลงไปอียิปต์ ผมก็สักที่นั่นมาลายหนึ่ง 206 00:10:36,345 --> 00:10:38,597 อันนี้คือตอนที่ผมอยู่ที่ไอร์แลนด์ในปี 1936 207 00:10:38,847 --> 00:10:40,766 รอยสักแนวนี้แพร่หลายในหมู่กะลาสี 208 00:10:40,849 --> 00:10:43,894 เมื่อมีการนำเครื่องสักมาใช้ในปี 1891 209 00:10:43,977 --> 00:10:46,397 และคุณสามารถสักได้เร็วขึ้นมาก 210 00:10:46,480 --> 00:10:52,194 มันเป็นการเริ่มต้นนวัตกรรมที่สำคัญมาก ในวงการสักเลยทีเดียว 211 00:10:52,277 --> 00:10:55,114 โดยเฉพาะคนที่สักทั้งตัว 212 00:10:55,197 --> 00:10:57,074 ที่มีความต้องการอย่างมาก 213 00:10:57,157 --> 00:10:59,785 ที่จะเป็นที่สนใจจากรอยสักในคณะละครสัตว์ 214 00:11:00,953 --> 00:11:05,374 ตัวอย่างของความประหลาดสุดขั้ว ที่คุณจะได้เห็นในราคาย่อมเยาว์ 215 00:11:05,999 --> 00:11:10,337 ช่างสักที่น่าตื่นเต้นเปลี่ยนกะลาสี และนักแสดงละครสัตว์เป็นผืนผ้าใบ 216 00:11:10,421 --> 00:11:13,257 ปกคลุมเรือนร่างด้วยการจัดเรียง เหมือนวอลล์เปเปอร์ลายซับซ้อน 217 00:11:13,340 --> 00:11:16,093 ผมคิดว่าละครสัตว์มีผลกระทบอย่างมาก 218 00:11:16,176 --> 00:11:20,180 ต่อการเผยแพร่ศิลปะการสักไปทั่วประเทศ 219 00:11:20,264 --> 00:11:25,310 มีช่างสักยุคเก่าหลายคน ที่รุ่งเรืองในต้นทศวรรษที่ 1900 220 00:11:25,394 --> 00:11:31,608 ที่บอกว่าพวกเขาหันมาสนใจการสัก เพราะได้เห็นนักแสดงละครย่อย 221 00:11:31,692 --> 00:11:34,445 มันเหมือนนำเอาโลกที่แตกต่าง 222 00:11:34,528 --> 00:11:36,864 มาสู่เมืองเล็กๆ ในตะวันตกตอนกลาง 223 00:11:37,906 --> 00:11:40,909 แนวที่พวกเขาเผยแพร่ ตอนนี้เป็นที่รู้จักในชื่อแบบแผนอเมริกัน... 224 00:11:42,619 --> 00:11:47,374 สัญลักษณ์ที่มีเส้นขอบหนา สีสันสดใส และลงเงาดำ 225 00:11:47,458 --> 00:11:49,793 สัญลักษณ์ที่กะลาสีสักกัน ย้อนไปหลายศตวรรษ 226 00:11:49,877 --> 00:11:52,463 เช่น รูปหัวใจ นกนางแอ่น และสมอ 227 00:11:52,963 --> 00:11:54,798 คือลายสักที่เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน 228 00:11:56,258 --> 00:11:58,927 พ่อแม่ผมไม่รู้เรื่องที่ผมสักเลยครับ 229 00:11:59,428 --> 00:12:02,765 ไอเดียเรื่องการสัก คงทำให้พวกท่านตกใจหนักมาก 230 00:12:02,848 --> 00:12:06,769 ซึ่งตลกดีเพราะผมสนใจเรื่องสักมาตลอดครับ 231 00:12:06,852 --> 00:12:09,521 แต่ผมเดาว่าพวกท่านคงไม่ยอมรับส่วนนั้นของผม 232 00:12:09,605 --> 00:12:13,817 ผมเลยไม่อยากให้พวกท่านช็อก ด้วยการบอกให้พวกท่านรู้ 233 00:12:14,359 --> 00:12:16,737 เช่นเดียวกับในญี่ปุ่น กลุ่มอาชญากรทั่วโลก 234 00:12:16,820 --> 00:12:19,281 เข้าใจว่าการสักมีชื่อเสียงในทางที่แย่มายาวนาน 235 00:12:19,364 --> 00:12:22,785 เพราะเป็นวิธีประกาศตัวเอง ว่าเป็นบุคคลอันตรายและแปลกแยกจากสังคม 236 00:12:23,494 --> 00:12:24,787 การสักรุ่งเรืองมากในคุก 237 00:12:24,870 --> 00:12:27,748 ที่ที่นักโทษสักตัวเองโดยใช้วัสดุเฉพาะหน้า 238 00:12:27,831 --> 00:12:29,833 เช่น สายกีตาร์และขี้เขม่าดำ 239 00:12:30,167 --> 00:12:31,960 ชิ้นนี้ทำมาจากวอล์กแมน 240 00:12:32,044 --> 00:12:33,712 และใช้โดยช่างสักที่เป็นนักโทษ 241 00:12:33,796 --> 00:12:36,423 เพื่อสักรอยสักแบบในคุก 242 00:12:36,507 --> 00:12:39,802 รอยสักในคุกจึงมักจะเป็นเส้นบางและไม่มีสี 243 00:12:39,885 --> 00:12:42,095 ซึ่งได้กลายเป็นแนวที่มีเอกลักษณ์ 244 00:12:42,179 --> 00:12:45,808 รอยสักเป็นเหมือนสัญลักษณ์ ในวัฒนธรรมแก๊งและนักบิด... 245 00:12:45,891 --> 00:12:47,059 โลกนอกกฎหมายของอาชญากร 246 00:12:47,142 --> 00:12:49,937 และรอยสักเป็นอย่างนั้นอยู่นานมาก 247 00:12:50,020 --> 00:12:52,397 (ธรรมเนียมการสัก เป็นเรื่องทั่วไปในหมู่อาชญากร) 248 00:12:56,527 --> 00:12:59,196 ฉันว่ามันคงดู "ว้าว มันฮิตระเบิดระเบ้อ 249 00:12:59,279 --> 00:13:01,073 และมีคนสักเยอะมาก" 250 00:13:01,156 --> 00:13:03,534 ซึ่งเป็นเรื่องจริง คนส่วนใหญ่ก็สักกัน 251 00:13:04,993 --> 00:13:07,496 แต่ฉันคิดว่ามันมีหลายปัจจัยซ้อนกันอยู่... 252 00:13:07,579 --> 00:13:09,373 (สเตฟานี ทาเมซ ช่างสักชาวอเมริกัน) 253 00:13:10,123 --> 00:13:13,210 ในช่วงปี 1970 ภาพลักษณ์ของการสักเริ่มพลิกผัน 254 00:13:13,293 --> 00:13:15,254 มีการเผยแพร่ภาพรอยสักในหน้ากระดาษมัน 255 00:13:15,337 --> 00:13:17,673 ในนิตยสารอเมริกันทรงอิทธิพล เช่น ไลฟ์ 256 00:13:17,756 --> 00:13:19,132 ซึ่งในปี 1972 257 00:13:19,216 --> 00:13:23,011 มีการประกาศว่าศิลปะการสักแบบโบราณ ได้กลับมาเป็นแฟชั่น 258 00:13:23,804 --> 00:13:25,848 ร้านสักขยายจากแฟลชของกะลาสี 259 00:13:25,931 --> 00:13:30,018 และเริ่มมีการรับสักแบบตามสั่ง ทำให้คนสร้างสรรค์ลายสักของตัวเองได้ 260 00:13:30,102 --> 00:13:33,021 การสักไม่ได้เป็นการตีตราว่า คุณเป็นคนแบบไหนอีกต่อไป 261 00:13:33,105 --> 00:13:35,607 และมันทำให้ได้ลูกค้าแนวใหม่มา 262 00:13:35,691 --> 00:13:37,776 เชื่อไหม ผู้หญิงมาสักเยอะมาก 263 00:13:37,860 --> 00:13:40,863 ซึ่งนั่นคือประชากรครึ่งหนึ่งบนโลกนี้เลยนะ 264 00:13:40,946 --> 00:13:45,868 ฉันเลยคิดว่าการมาของพวกเขาเป็นเพราะ อยากเพิ่มอำนาจให้กับร่างกายของตัวเอง 265 00:13:45,951 --> 00:13:48,203 และเป็นการดึงดูดเข้าหางานศิลปะด้วยเช่นกัน 266 00:13:48,287 --> 00:13:53,292 ทำให้คนกลุ่มอื่นๆ มาสักกัน 267 00:13:53,375 --> 00:13:56,795 มันคือชิ้นส่วนสำคัญมาตลอด และแน่นอนว่าหนึ่งในสิ่งที่ลึกซึ้งที่สุด 268 00:13:56,879 --> 00:14:00,007 ที่ริเริ่มทุกอย่างก็คือการได้มองเห็นมัน 269 00:14:00,090 --> 00:14:01,258 (เปิดตัวเอ็มทีวี ปี 1981) 270 00:14:01,341 --> 00:14:04,177 ...และความชัดเจนของการสักปะทุในปี 1981 271 00:14:04,261 --> 00:14:05,387 เอ็มทีวีมาครับ 272 00:14:05,470 --> 00:14:07,139 ทุกท่านครับ ร็อกแอน์โรลครับ 273 00:14:08,765 --> 00:14:11,476 มันเจ๋งมากครับ 274 00:14:12,060 --> 00:14:15,606 ผมจำได้เลยตอนที่เอ็มทีวีอยู่บนจอทีวี 275 00:14:16,356 --> 00:14:18,358 มันทำให้ผมตะลึงเลย 276 00:14:18,442 --> 00:14:21,653 ผมจะนั่งอยู่หน้าจอกับสมุดจดเล่มเล็กๆ 277 00:14:21,737 --> 00:14:24,281 และทำเครื่องหมายถูกอันเล็กๆ ในสมุดจด 278 00:14:24,364 --> 00:14:29,244 ทุกครั้งที่มีคนมีรอยสักอยู่ในเอ็มทีวี 279 00:14:29,328 --> 00:14:31,371 และให้ตายเถอะ พอหมดชั่วโมง 280 00:14:31,455 --> 00:14:34,207 มีเครื่องหมายถูกตั้ง 40 50 อันแน่ะ 281 00:14:34,291 --> 00:14:38,921 ผมเชื่อว่ามันมีผลกระทบที่เหลือเชื่อจริงๆ 282 00:14:39,004 --> 00:14:41,882 กับไอเดียที่ว่าใครสักบ้าง 283 00:14:42,466 --> 00:14:44,217 ("เวลคัม ทู เดอะ จังเกิล" กันส์แอนด์โรสเซส ปี 1987) 284 00:14:46,595 --> 00:14:48,013 ฉันจำวิดีโอตัวนี้ได้แม่นมาก 285 00:14:51,558 --> 00:14:53,060 ฉันคิดยังไงกับมันเหรอ 286 00:14:53,268 --> 00:14:55,312 สิ่งนั้นมันสรุปทุกอย่างหมดแล้ว 287 00:14:55,395 --> 00:14:56,480 ใช่ไหมล่ะ 288 00:14:56,563 --> 00:14:59,942 เหมือนกับมันคือข้อสรุปของความเจ๋งในตอนนั้น 289 00:15:00,025 --> 00:15:03,236 และการเห็นรอยสัก และเขาใส่เสื้อเกี่ยวกับการสัก... 290 00:15:03,320 --> 00:15:04,237 (เสื้องานสัก) 291 00:15:04,321 --> 00:15:07,532 มันเจ๋งโคตร มันแบบว่า ยิ่งใหญ่อะไรเบอร์นี้ 292 00:15:07,616 --> 00:15:08,867 มันรวมทุกอย่างไว้ด้วยกันเลย 293 00:15:10,410 --> 00:15:13,330 ผู้คนเริ่มรวบรวมและผสมแบบแผนการสักทั่วโลก 294 00:15:13,413 --> 00:15:15,374 ในแบบใหม่เอี่ยมและเป็นส่วนตัว 295 00:15:16,291 --> 00:15:17,417 และพวกเขาเริ่มรวมเอา 296 00:15:17,501 --> 00:15:20,712 สไตล์เส้นบางดำและเทาที่มีต้นกำเนิดในคุก 297 00:15:21,463 --> 00:15:24,841 เพิ่มตัวหนังสือและแนวสัจนิยมลงไป ในพจนานุกรมของการสัก 298 00:15:24,925 --> 00:15:28,804 และนี่คืออดัม เลอวีน 299 00:15:28,887 --> 00:15:30,305 เพื่อนฉันเป็นคนสักให้เขาเอง 300 00:15:30,389 --> 00:15:31,223 (อดัม เลอวีน นักดนตรี) 301 00:15:31,306 --> 00:15:32,975 นี่คือดอกซากุระและแถบสายลม... 302 00:15:33,058 --> 00:15:33,976 (แบบแผนญี่ปุ่น) 303 00:15:34,059 --> 00:15:37,187 ...และเขาก็สักแบบแผนอเมริกัน เป็นคำว่า "แม่" อยู่ตรงกลางด้วย 304 00:15:37,270 --> 00:15:38,647 แล้วก็สักตัวอักษร 305 00:15:38,730 --> 00:15:42,901 เป็นการรวมกันที่สนุก ของความงามเหล่านี้ที่มาผสมผสานกัน 306 00:15:42,985 --> 00:15:45,404 นี่คือตัวอย่างหนึ่งของแนวต่างๆ หลายแนว 307 00:15:45,487 --> 00:15:47,364 มีรูปลักษณ์คลาสสิกอยู่ในนี้ด้วย เป็นส่วนตัวมาก... 308 00:15:47,447 --> 00:15:48,490 (วิซ คาลิฟา แรปเปอร์) 309 00:15:48,573 --> 00:15:49,449 (ลูกเต๋า บทสวด ปีก) 310 00:15:49,533 --> 00:15:51,910 ...นั่นคือความแตกต่าง ระหว่างอเมริกันและญี่ปุ่น 311 00:15:51,994 --> 00:15:54,705 แบบญี่ปุ่นมักจะสักหัวข้อสำคัญหัวข้อเดียว 312 00:15:54,788 --> 00:15:59,292 และพวกเขาจะสร้างทุกอย่าง พวกองค์ประกอบต่างๆ เป็นพื้นหลัง 313 00:15:59,376 --> 00:16:01,253 เช่น ลม น้ำ ไฟทั่วๆ ไป... 314 00:16:01,336 --> 00:16:06,049 รอยสักอเมริกันมีองค์ประกอบ ที่เชื่อมโยงกับความทรงจำอย่างเหนียวแน่น 315 00:16:06,133 --> 00:16:09,803 ต่างจากญี่ปุ่นมาก 316 00:16:09,886 --> 00:16:16,059 ซึ่งใช้ตำนานมาบอกเล่าเรื่องราว 317 00:16:16,143 --> 00:16:18,687 แบบแผนอเมริกันคือการที่คุณรวบรวมทุกอย่าง 318 00:16:18,770 --> 00:16:20,022 และนี่ก็เป็นอีกรูปแบบของมัน 319 00:16:20,105 --> 00:16:23,692 และลักษณะร่วมทั่วไปก็คือ มันเป็นสีดำและเทาทั้งหมด 320 00:16:24,776 --> 00:16:28,155 เดี๋ยวนี้รอยสักทุกแนวในโลก อยู่แค่ปลายนิ้วของเรา 321 00:16:28,238 --> 00:16:29,823 ตั้งแต่การเปิดตัวของอินสตาแกรม 322 00:16:29,906 --> 00:16:31,742 จำนวนคนอเมริกันที่สักเพิ่มเกือบสองเท่า... 323 00:16:31,825 --> 00:16:32,743 (คนอเมริกันที่มีรอยสัก) 324 00:16:33,452 --> 00:16:37,039 และช่างสักก็สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และเพิ่มความเป็นไปได้ของรอยสัก 325 00:16:38,373 --> 00:16:41,084 แต่ในขณะที่จำนวนคนที่มีรอยสักพุ่งสูงขึ้น 326 00:16:41,168 --> 00:16:43,462 จำนวนคนที่เสียใจจากการสักก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน 327 00:16:43,545 --> 00:16:46,465 โจบอกว่าอยากให้ร้านสัก จ่ายให้เขา 2,200 เหรียญ 328 00:16:46,548 --> 00:16:50,510 เขาบอกว่ามันคือราคา ที่เขาต้องใช้ผ่าตัดเลเซอร์เพื่อลบคำนี้ 329 00:16:50,594 --> 00:16:53,764 ปัจจุบันการลบรอยสักเป็นธุรกิจระดับโลก มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ 330 00:16:53,847 --> 00:16:54,806 และยังคงเติบโต... 331 00:16:54,890 --> 00:16:55,807 (ตลาดลบรอยสักทั่วโลก) 332 00:16:55,891 --> 00:16:58,477 โดยมีอินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ นำเป็นจ่าฝูง 333 00:16:59,519 --> 00:17:00,854 ผมสักจากในคุก 334 00:17:00,937 --> 00:17:04,191 เพราะผมรู้สึกว่า ผมจะได้รับการนับถือมากขึ้นเยอะ 335 00:17:04,274 --> 00:17:09,071 หรือแก๊งคู่ปรับอาจเห็นมันและกลัวมัน 336 00:17:09,154 --> 00:17:13,158 มันเป็นเรื่องของการนับถือกันในวิถีชีวิตแก๊ง 337 00:17:13,241 --> 00:17:16,828 ผมอยากลบมันออกไปเลย ไม่ใช่แค่สักอย่างอื่นทับ 338 00:17:16,912 --> 00:17:17,996 (คุณเคยคิดจะลบรอยสักหรือไม่) 339 00:17:18,080 --> 00:17:20,624 แต่คนส่วนใหญ่ที่มีรอยสักไม่ได้อยากลบมันออก 340 00:17:20,707 --> 00:17:21,541 (ไม่ 78 เปอร์เซ็นต์) 341 00:17:21,625 --> 00:17:24,628 และการวิจัยชี้ให้เห็นว่า การสักช่วยเพิ่มภาพลักษณ์แห่งตนได้ 342 00:17:25,087 --> 00:17:28,006 ผู้คนพูดถึงความมั่นใจในตัวเองที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก 343 00:17:28,090 --> 00:17:30,675 และรอยสักทำให้รู้สึกดีขึ้นเกี่ยวกับร่างกายตัวเอง 344 00:17:30,759 --> 00:17:33,136 โดยอธิบายว่ามันเป็นเหมือนการสร้างตัวตน 345 00:17:36,681 --> 00:17:42,312 มันคือส่วนหนึ่งของการเริ่มต้น จะเรียกอย่างนั้นก็ได้ ของการมีรอยสักคือ... 346 00:17:43,063 --> 00:17:45,524 การเต็มใจเผชิญกับความเจ็บปวด 347 00:17:45,607 --> 00:17:49,236 มีข้อผูกมัดต่อตัวเองว่า คุณจะต้องสวมใส่ภาพลักษณ์นั้น 348 00:17:49,528 --> 00:17:52,447 นั่นคือส่วนหนึ่งของมนตร์วิเศษของการสัก 349 00:17:52,531 --> 00:17:56,743 มันทำให้ฉันควบคุมร่างกายฉันได้ มันทำให้ฉันเป็นเจ้าของมัน 350 00:17:56,827 --> 00:17:58,537 มันเหมือนการส่งสารเล็กๆ น้อยๆ 351 00:17:58,620 --> 00:18:00,497 เป็นการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณ 352 00:18:00,580 --> 00:18:03,166 ซึ่งคุณอาจไม่ได้พูดมันออกมาดังๆ ด้วยซ้ำ 353 00:18:03,250 --> 00:18:07,045 ทุกคนอยากเป็นคนที่ กล้าแสดงออกมากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ 354 00:18:07,129 --> 00:18:09,589 และรอยสักเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงมันที่เยี่ยมมาก 355 00:18:09,673 --> 00:18:11,675 ฉันรักรอยสักค่ะ ฉันคิดว่ารอยสักเจ๋งมาก 356 00:18:11,758 --> 00:18:14,553 และเป็นการแสดงออกของชีวิตมนุษย์ที่วิเศษสุดๆ