1 00:00:06,674 --> 00:00:11,345 ห้าสิบปีก่อน นักดาราศาสตร์ ได้รับสัญญาณวิทยุนี้จากอวกาศอันไกลโพ้น 2 00:00:11,679 --> 00:00:13,723 สัญญาณนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ อย่างสม่ำเสมอ 3 00:00:13,806 --> 00:00:15,933 มันรักษาจังหวะแม่นยำกว่านาฬิกาอะตอมซะอีก 4 00:00:17,477 --> 00:00:19,645 ชู่ ชู่ มันจะเป็นอะไรได้ 5 00:00:19,729 --> 00:00:20,897 มันไม่ใช่ธรรมชาติแน่ 6 00:00:20,980 --> 00:00:23,024 พวกเขาคิดว่าอาจเป็นสัญญาณจากมนุษย์ต่างดาว 7 00:00:23,107 --> 00:00:27,612 พวกเขาจึงตั้งชื่อเล่นให้สัญญาณนี้ว่าเอลจีเอ็ม-1 ย่อมาจาก "เจ้าจิ๋วตัวเขียว" 8 00:00:28,029 --> 00:00:32,158 ปรากฏว่ามันคือพัลซาร์... คลื่นวิทยุจากดาวนิวตรอน 9 00:00:32,241 --> 00:00:35,119 แหลกสลายไปเมื่อ 5.5 ล้านปีที่แล้ว 10 00:00:35,953 --> 00:00:39,582 พวกเราหลายๆ คน จัดว่ามนุษย์ต่างดาวอยู่ประเภทเดียวกับผี 11 00:00:39,665 --> 00:00:42,919 หรือสัตว์ประหลาดล็อกเนสส์ ตัวเอกในนิยายวิทยาศาสตร์ 12 00:00:43,002 --> 00:00:47,048 หรือไม่ก็เป็นเรื่องของพวกบ้า ตัวประหลาด และนักสมคบคิด 13 00:00:47,131 --> 00:00:49,550 ผมโดนยกตัวขึ้นจากพื้นทันที 14 00:00:49,634 --> 00:00:52,178 ถึงระดับความสูงประมาณที่พวกมันลอยอยู่จากพื้น 15 00:00:52,261 --> 00:00:56,516 นั่นคือครั้งแรกที่ผมเห็นเจ้าสิ่งนี้ดิ่งตรงลงมา เหมือนลิฟต์เลยครับ 16 00:00:56,599 --> 00:01:00,144 นี่คือศูนย์กลางสำหรับการกระจายข้อมูล 17 00:01:00,228 --> 00:01:02,939 ที่ส่งถึงฉันทางกระแสจิตจากคนนอกโลกค่ะ 18 00:01:03,022 --> 00:01:07,693 แต่ครั้งแล้วครั้งเล่า นักวิทยาศาสตร์ผู้จริงจัง คิดว่าพวกเขาพบหลักฐาน 19 00:01:07,777 --> 00:01:10,113 ของชีวิตนอกโลก 20 00:01:10,196 --> 00:01:12,156 นี่คือคลองบนดาวอังคารจริงหรือเปล่า 21 00:01:12,240 --> 00:01:14,951 ขั้วของดาวเป็นน้ำแข็งหรือเปล่า 22 00:01:15,785 --> 00:01:18,246 เมื่อเร็วๆ นี้ ในปี 2016 23 00:01:18,329 --> 00:01:20,123 นักดาราศาสตร์เสนอว่า 24 00:01:20,206 --> 00:01:22,875 รูปทรงสลัวๆ ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน จากดาวดวงหนึ่ง 25 00:01:22,959 --> 00:01:25,545 อาจเป็นหลักฐานของโครงสร้างขนาดยักษ์ 26 00:01:25,628 --> 00:01:27,672 ที่สร้างโดยอารยธรรมล้ำสมัย 27 00:01:27,755 --> 00:01:29,382 เพื่อใช้ประโยชน์จากพลังของดวงดาว 28 00:01:29,924 --> 00:01:31,926 ปรากฏว่ามันคือฝุ่น 29 00:01:32,510 --> 00:01:35,012 นักวิทยาศาสตร์รู้สึกมั่นใจ ว่าต้องมีสิ่งชีวิตอยู่นอกโลก... 30 00:01:35,096 --> 00:01:36,430 (เซธ โชสแต็ก นักดาราศาสตร์) 31 00:01:36,514 --> 00:01:38,266 ไม่ใช่เพราะเราพบมัน เราไม่เคยพบมัน 32 00:01:38,599 --> 00:01:41,853 สาเหตุที่เราคิดว่ามีพวกมันอยู่นั้นก็เพราะถ้าไม่มี 33 00:01:42,061 --> 00:01:43,938 งั้นโลกก็ต้องเป็นสิ่งมหัศจรรย์แล้ว 34 00:01:44,605 --> 00:01:46,649 สำหรับนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ศึกษาจักรวาล 35 00:01:46,732 --> 00:01:48,401 การค้นหามนุษย์ต่างดาวนั้นไม่ได้บ้า... 36 00:01:48,484 --> 00:01:49,569 (นาซา) 37 00:01:49,652 --> 00:01:51,654 ...สิ่งที่บ้าคือเราหาพวกมันไม่พบ 38 00:01:51,737 --> 00:01:55,867 ในจักรวาลอันแสนกว้างใหญ่ ทุกคนอยู่ที่ไหนกัน 39 00:01:56,242 --> 00:01:58,786 (ผลงานภาพยตร์สารคดีชุดของ NETFLIX) 40 00:01:59,745 --> 00:02:01,080 ยูเอฟโอ 41 00:02:01,164 --> 00:02:02,874 เสียงแตรรถเตือนทั่วโลก 42 00:02:02,999 --> 00:02:05,001 พระเจ้า ดูนั่นสิ 43 00:02:06,669 --> 00:02:10,006 ความแตกแยกของเราจะหายไปเร็วแค่ไหน 44 00:02:10,089 --> 00:02:13,718 ถ้าเราเผชิญหน้ากับการคุกคาม ของมนุษย์ต่างดาวจากนอกโลก 45 00:02:13,801 --> 00:02:16,220 ข้างนอกนั่นมีอารยธรรมอื่นอีกเป็นล้าน 46 00:02:16,304 --> 00:02:17,889 พวกมันดูอัปลักษณ์สุดๆ 47 00:02:17,972 --> 00:02:20,266 และพวกมันฉลาดกว่าเรามาก 48 00:02:21,851 --> 00:02:28,107 (ไขประเด็น ชีวิตนอกโลก) 49 00:02:28,232 --> 00:02:31,235 ถังขยะหายไป จากทางเดินเท้าในเมืองเป็นจำนวนมาก 50 00:02:31,319 --> 00:02:34,906 ถังขยะถูกขโมยสร้างความรำคาญ ให้ชาวบ้านมายาวนาน 51 00:02:34,989 --> 00:02:37,283 คุณอาจเคยเห็นข่าวท้องถิ่นรายงานเรื่องนี้ 52 00:02:38,284 --> 00:02:42,747 นิตยสารนิวยอร์กเกอร์เคยตีพิมพ์การ์ตูน เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ในปี 1950 53 00:02:42,830 --> 00:02:45,541 โดยกล่าวโทษมนุษย์ต่างดาวตัวป่วน 54 00:02:45,625 --> 00:02:49,629 มุกตลกงี่เง่านั้นทำให้เกิด หนึ่งในความเข้าใจที่ลึกซึ้งที่สุด 55 00:02:49,712 --> 00:02:51,589 ในประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ยุคใหม่ 56 00:02:52,215 --> 00:02:55,092 เพราะนักฟิสิกส์ เอนริโก เฟอร์มี เห็นการ์ตูนเรื่องนั้น 57 00:02:55,176 --> 00:02:58,429 และว่ากันว่าเขาโพล่งออกมา "ทุกคนอยู่ไหน" 58 00:02:58,721 --> 00:03:01,474 การที่เราไม่เคยพบหลักฐานใดๆ ของมนุษย์ต่างดาวเลย 59 00:03:01,557 --> 00:03:03,976 เป็นที่รู้จักในชื่อข้อขัดแย้งของเฟอร์มี 60 00:03:04,477 --> 00:03:08,648 มีดาวฤกษ์อยู่ทั้งหมดประมาณสิบยกกำลัง 22 ดวง 61 00:03:08,898 --> 00:03:13,277 นั่นเท่ากับมีดาวฤกษ์ ประมาณ 10,000 ดวงในทรายทุกเมล็ดบนโลก 62 00:03:13,527 --> 00:03:15,613 การคาดการณ์ทางวิทยาศาสตร์เชิงอนุรักษ์ระบุว่า 63 00:03:15,863 --> 00:03:19,158 ห้าเปอร์เซ็นต์ของดาวฤกษ์เหล่านั้น คล้ายกับดวงอาทิตย์ของเรา 64 00:03:19,242 --> 00:03:23,955 ซึ่งหมายความว่ามีดวงอาทิตย์อยู่ ห้าร้อยล้านล้านล้านดวงในจักรวาล 65 00:03:24,789 --> 00:03:28,584 นักวิทยาศาสตร์หลายคน มั่นใจย่ิงกว่าเดิมว่ามนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริง 66 00:03:28,668 --> 00:03:32,838 เพราะการค้นพบที่เปลี่ยนเกมบางอย่าง เมื่อสองสามทศวรรษที่ผ่านมา 67 00:03:32,922 --> 00:03:34,548 (นาซาไม่ได้ให้ทุนค้นหา... จะให้เร็วๆ นี้ไหม) 68 00:03:34,632 --> 00:03:39,303 ไม่มีใครกล้าพูดอย่างมั่นใจว่ามีดาวดวงอื่น นอกระบบสุริยะของเราหรือเปล่า 69 00:03:39,387 --> 00:03:40,638 จนกระทั่งทศวรรษที่ 1990 70 00:03:40,721 --> 00:03:45,601 ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์คิดว่า ดาวฤกษ์ หนึ่งในห้าดวงที่เหมือนดวงอาทิตย์มีดาวเคราะห์ 71 00:03:45,685 --> 00:03:46,894 คล้ายโลกของเรา 72 00:03:47,561 --> 00:03:50,022 เวลามีคนถามฉันว่า โอกาสที่จะมีสิ่งมีชีวิตนอกโลกมีแค่ไหน 73 00:03:50,106 --> 00:03:51,983 ฉันตอบว่า "100 เปอร์เซ็นต์" เสมอค่ะ 74 00:03:52,775 --> 00:03:54,860 เพราะมีดาวฤกษ์ และดาวเคราะห์อยู่มากเหลือเกิน 75 00:03:54,944 --> 00:03:57,530 เราคิดว่าดาวฤกษ์ทุกดวงมีดาวเคราะห์อยู่ 76 00:03:57,780 --> 00:04:01,450 เรายังพบชีวิตบนโลกในสภาพแวดล้อม 77 00:04:01,534 --> 00:04:03,077 ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะพบด้วย 78 00:04:03,786 --> 00:04:06,247 เราพบชีวิตอยู่ลึกลงไปใต้ผิวดินของดาวเคราะห์ 79 00:04:06,330 --> 00:04:08,165 ลึกหลายไมล์ ลึกประมาณเหมืองทอง 80 00:04:08,249 --> 00:04:10,209 เราพบชีวิตอยู่ใกล้หลุมปล่องภูเขาไฟ 81 00:04:10,293 --> 00:04:12,044 เราพบชีวิตบนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 82 00:04:12,128 --> 00:04:14,422 เราพบชีวิตในที่ที่ไม่เอื้ออำนวยที่สุด 83 00:04:14,964 --> 00:04:18,301 นั่นทำให้เรามีความหวัง ในการค้นหาสิ่งมีชีวิตที่อื่นมากจริงๆ 84 00:04:18,384 --> 00:04:20,511 เพราะเราคาดหวังไม่ได้ว่าดาวเคราะห์ทุกดวง 85 00:04:20,594 --> 00:04:22,847 จะมีสภาพเดียวกับโลก 86 00:04:22,930 --> 00:04:27,059 การประเมินว่ามีดาวเคราะห์เหมือนโลกกี่ดวง ที่สิ่งมีชีวิตจะเติบโตได้นั้นมีหลากหลายวิธี 87 00:04:27,351 --> 00:04:30,396 เอาเป็นว่าแม้จะมี ความมั่นใจทางวิทยาศาสตร์ใหม่นี้ 88 00:04:30,479 --> 00:04:32,440 ก็ยังมีแค่ทุกๆ หนึ่งในพัน 89 00:04:32,690 --> 00:04:35,609 นั่นแปลว่าทรายเมล็ดที่สิบทุกเมล็ดบนโลก 90 00:04:35,693 --> 00:04:38,029 เป็นตัวแทนดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ 91 00:04:38,446 --> 00:04:43,242 และถ้าทุกๆ หนึ่งในพันของดาวเคราะห์เหล่านั้น พัฒนาสิ่งมีชีวิตที่มีภูมิปัญญาได้ 92 00:04:43,326 --> 00:04:47,621 เท่ากับมีอารยธรรมมนุษย์ต่างดาวที่มีภูมิปัญญา อยู่ในจักรวาลถึงหนึ่งพันล้านล้านอารยธรรม 93 00:04:47,705 --> 00:04:50,207 หนึ่งหมื่นอารยธรรมเฉพาะในกาแล็กซีของเรา 94 00:04:50,958 --> 00:04:55,087 ชีวิตนอกโลกยังมีเวลาคอยเข้าข้างมันด้วย 95 00:04:55,838 --> 00:04:58,466 โลกมีอายุแค่ประมาณ หนึ่งในสามของจักรวาลเท่านั้น 96 00:04:58,549 --> 00:04:59,800 จึงมีเวลามากมาย 97 00:04:59,884 --> 00:05:00,760 (พอล เดวีส์ นักฟิสิกส์) 98 00:05:00,843 --> 00:05:01,927 ให้สิ่งมีชีวิตได้วิวัฒนาการ 99 00:05:02,011 --> 00:05:03,971 สู่อารยธรรมล้ำสมัย 100 00:05:04,055 --> 00:05:07,099 และให้อารยธรรมเหล่านี้ แพร่กระจายไปทั่วกาแล็กซีด้วย 101 00:05:07,266 --> 00:05:10,102 ด้วยเวลาทั้งหมดนั้นและพื้นที่ว่างทั้งหมดนั้น 102 00:05:10,186 --> 00:05:11,854 การคำนวณดูเหมือนจะชัดเจน 103 00:05:11,937 --> 00:05:16,859 เราควรพบมนุษย์ต่างดาวแล้ว หรือพวกมันควรจะพบเราแล้ว 104 00:05:17,526 --> 00:05:18,486 (จานบิน) 105 00:05:18,569 --> 00:05:23,532 มีคำอธิบายหนึ่งที่เป็นที่นิยมว่าทำไม เราถึงยังไม่พบหลักฐานของมนุษย์ต่างดาว 106 00:05:23,616 --> 00:05:24,867 เราพบมันแล้ว 107 00:05:24,950 --> 00:05:27,286 เพียงแต่รัฐบาลปกปิดเรื่องนี้ไว้ 108 00:05:27,536 --> 00:05:32,124 ผมเชื่อว่าจานบินที่สายการบินมากประสบการณ์ และนักบินกองทัพอากาศเห็น 109 00:05:32,208 --> 00:05:33,584 คือวัตถุจากดาวดวงอื่น 110 00:05:34,460 --> 00:05:36,670 นักวิจารณ์ของเรายังคงกล่าวหาอย่างต่อเนื่อง 111 00:05:36,754 --> 00:05:39,382 ว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯ ปิดบังข้อมูล 112 00:05:39,465 --> 00:05:41,759 จากสาธารณะเกี่ยวกับประเด็นนี้ 113 00:05:41,842 --> 00:05:44,220 เรื่องนี้ไม่จริงเลยครับ 114 00:05:44,470 --> 00:05:49,225 มีบางอย่างปรากฏเป็นครั้งคราว ที่ทำให้ทฤษฎีนี้มีชีวิตใหม่ 115 00:05:49,558 --> 00:05:54,522 อย่างเช่นที่มีการเปิดเผยในปี 2017 ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ใช้เงินหลายล้าน 116 00:05:54,605 --> 00:05:57,149 กับโครงการลับ เพื่อตรวจสอบความจริง 117 00:05:57,233 --> 00:05:58,442 ในการเห็นยูเอฟโอ 118 00:06:00,069 --> 00:06:02,822 แต่อย่างที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนจะบอกคุณ 119 00:06:02,905 --> 00:06:05,533 การพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับยูเอฟโอไม่เหมือน 120 00:06:05,991 --> 00:06:08,452 การค้นหาชีวิตนอกโลก 121 00:06:09,161 --> 00:06:12,873 คำว่ายูเอฟโอคือวัตถุบินกำหนดเอกลักษณ์ไม่ได้ 122 00:06:13,165 --> 00:06:14,500 มันกำหนดเอกลักษณ์ไม่ได้ 123 00:06:14,792 --> 00:06:18,129 ดังนั้นจากนิยาม เราต้องปล่อยให้มันเปิดกว้างไว้ 124 00:06:18,212 --> 00:06:22,800 มันไม่ได้หมายความว่ามันถูกกำหนดไว้แล้ว ว่าเป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว 125 00:06:23,050 --> 00:06:25,678 นักวิทยาศาสตร์มีทฤษฎีที่โปรดปรานของตัวเอง 126 00:06:25,761 --> 00:06:28,097 ว่าทำไมเราถึงยังไม่พบมนุษย์ต่างดาว 127 00:06:28,722 --> 00:06:31,267 เป็นไปได้ว่าพวกมันมาที่นี่แล้ว 128 00:06:31,642 --> 00:06:33,436 ไม่ชอบสิ่งที่เจอ เลยไปต่อ 129 00:06:33,727 --> 00:06:37,106 ลองนึกถึงช่วงเวลาที่มีมดบุกรุกเข้ามาในบ้านคุณ 130 00:06:37,440 --> 00:06:38,732 มันเกิดขึ้นได้ค่ะ 131 00:06:38,816 --> 00:06:41,318 ทีนี้สุมมติว่าคุณอยากคุยกับมดพวกนั้น 132 00:06:41,402 --> 00:06:42,820 บอก "โทษที ช่วยออกไปได้ไหม" 133 00:06:43,112 --> 00:06:44,321 คุณจะทำแบบนั้นได้ยังไง 134 00:06:44,405 --> 00:06:46,657 ฉันชอบทฤษฎีนั้นที่ตอนนี้เราโง่มาก 135 00:06:46,740 --> 00:06:49,326 เราไม่อยู่ในระดับที่แม้พวกมันจะอยากคุยกับเรา 136 00:06:49,410 --> 00:06:53,622 สิ่งมีชีวิตมีภูมิปัญญาที่อยู่นอกโลกพวกนี้ จะสามารถสื่อสารกับเราได้ค่ะ 137 00:06:53,706 --> 00:06:56,083 เป็นไปได้ว่าพวกมันมีอะไรให้ทำที่ดีกว่า 138 00:06:56,167 --> 00:06:58,169 การร่อนเร่ไปทั่วกาแล็กซี 139 00:06:58,252 --> 00:06:59,253 มันเห็นดาวเราแล้ว 140 00:06:59,336 --> 00:07:01,255 มันแค่ไม่อยากยุ่งกับเรา 141 00:07:01,338 --> 00:07:03,632 จนกว่าเราจะไปถึงจุดที่ 142 00:07:03,716 --> 00:07:05,759 มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีหรือสังคม 143 00:07:05,843 --> 00:07:08,637 ที่เราพร้อมที่จะให้พวกมันมีปฏิสัมพันธ์ด้วย 144 00:07:08,721 --> 00:07:11,223 กาแล็กซีอาจตกเป็นอาณานิคมไปแล้วก็ได้ 145 00:07:11,307 --> 00:07:12,850 อาจตกเป็นอาณานิคมอย่างหนัก 146 00:07:12,933 --> 00:07:14,602 เพียงแต่ไม่ใช่ที่ที่เราอยู่ 147 00:07:14,685 --> 00:07:17,062 พูดง่ายๆ ก็คือ การที่เราดูเหมือนจะอยู่ตามลำพัง 148 00:07:17,146 --> 00:07:19,690 อาจเป็นเพราะเราอยู่ในบริเวณที่ซบเซา 149 00:07:20,274 --> 00:07:23,944 แต่จำเป็นต้องจำไว้ว่าตอนที่เฟอร์มีคำนวณโอกาส 150 00:07:24,028 --> 00:07:25,571 ของการมีมนุษย์ต่างดาวอยู่นอกโลก 151 00:07:25,654 --> 00:07:28,199 มันเป็นแค่การคาดเดาอย่างมีหลักการ 152 00:07:28,657 --> 00:07:30,367 เพราะมีดาวฤกษ์และดาวเคราะห์มากมาย 153 00:07:30,451 --> 00:07:33,370 เขาจึงพนันว่าอย่างน้อย ต้องมีบางดวงที่จะเกิดสิ่งมีชีวิตขึ้น 154 00:07:33,454 --> 00:07:35,831 ซึ่งจะวิวัฒนาการและแพร่กระจายออกไป 155 00:07:36,123 --> 00:07:40,669 ปัญหาของการพนันนี้คือ มีหลายสิ่งเกี่ยวกับชีวิตที่เราไม่รู้ 156 00:07:41,462 --> 00:07:44,548 ทฤษฎีตัวกรองอันยิ่งใหญ่ ช่วยให้เราคิดถึงสิ่งที่เราไม่รู้ 157 00:07:44,632 --> 00:07:47,927 สมมุติว่าวิวัฒนาการของชีวิต คือเครื่องกีดขวางเป็นชุด 158 00:07:48,093 --> 00:07:50,804 ขั้นแรก โมเลกุลเริ่มแบ่งตัว 159 00:07:50,888 --> 00:07:53,933 ซึ่งพัฒนาไปเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว จากนั้นก็เป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ 160 00:07:54,016 --> 00:07:56,644 จากนั้นก็เป็นสัตว์ที่มีสมองขนาดใหญ่ ที่ใช้เครื่องมือได้ 161 00:07:56,727 --> 00:08:00,272 จากนั้นก็เป็นสัตว์ที่ฉลาดกว่า ที่สร้างสรรค์เครื่องมือที่ดีกว่า นั่นคือพวกเรา 162 00:08:00,397 --> 00:08:03,692 และสุดท้าย สัตว์ที่สามารถ หาทางยึดอาณานิคมกาแล็กซีได้ 163 00:08:04,443 --> 00:08:06,570 จากขนาดและอายุของจักรวาล 164 00:08:06,654 --> 00:08:10,533 ดูเหมือนว่ามนุษย์ต่างดาวจำนวนมาก น่าจะเอาชนะเราในขั้นสุดท้ายนั้นได้ 165 00:08:10,616 --> 00:08:13,953 เว้นแต่ว่าหนึ่งในขั้นตอนเหล่านั้น จะยากกว่าที่เราคิดมาก 166 00:08:14,370 --> 00:08:15,829 ความคิดดูเหมือนว่า 167 00:08:16,205 --> 00:08:18,958 ถ้ามีสภาพที่เหมาะสม ชีวิตก็จะเกิดขึ้นอย่างยินดี 168 00:08:19,208 --> 00:08:21,502 แต่ความจริงคือไม่มีใครรู้อะไรเลย 169 00:08:21,585 --> 00:08:23,212 เราไม่รู้เลยว่า 170 00:08:23,295 --> 00:08:25,130 สิ่งไม่มีชีวิตเปลี่ยนเป็นมีชีวิตได้ยังไง 171 00:08:25,381 --> 00:08:27,424 เรารู้ว่าชีวิตสร้างโครงสร้างตัวเองยังไง 172 00:08:27,758 --> 00:08:30,553 แต่ช่องว่างของเราอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ 173 00:08:30,636 --> 00:08:34,557 เรารู้ว่าอุปสรรคใหญ่คืออะไร ในวิวัฒนาการของชีวิต 174 00:08:34,640 --> 00:08:37,476 แค่ไม่รู้ว่าพวกมันจะผ่านไปได้ยากแค่ไหน 175 00:08:38,269 --> 00:08:42,481 ถ้ามีตัวอย่างของชีวิตอีกชนิด มันก็จะช่วยให้เราเข้าใจชีวิตได้ดีขึ้น 176 00:08:42,565 --> 00:08:43,691 แต่ถึงตอนนี้ 177 00:08:43,774 --> 00:08:45,609 ก็ยังไม่มีมนุษย์ต่างดาวติดต่อเรามา 178 00:08:46,193 --> 00:08:49,446 ดังนั้น ขึ้นอยู่กับเราแล้วที่ต้องหาพวกมัน 179 00:08:49,989 --> 00:08:53,742 ฟังเสียงของดวงอาทิตย์และดวงดาวให้ดี 180 00:08:54,535 --> 00:08:58,163 ฉันทำงานอยู่ที่สถาบันเซติ เอสอีทีไอ... 181 00:08:58,247 --> 00:09:01,125 ย่อมาจาก การค้นหาสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากต่างดาว 182 00:09:01,542 --> 00:09:05,087 แต่ความจริงเราไม่รู้ว่า จะค้นหาสิ่งมีชีวิตโดยตรงยังไง 183 00:09:05,421 --> 00:09:08,132 เวลาที่นักวิทยาศาสตร์ ค้นหามนุษย์ต่างดาวผู้มีปัญญา 184 00:09:08,215 --> 00:09:10,718 พวกเขามองหาสิ่งที่เรียกว่า สัญญาณของเทคโนโลยี 185 00:09:10,801 --> 00:09:13,137 หลักฐานของเทคโนโลยีมนุษย์ต่างดาว 186 00:09:13,470 --> 00:09:16,223 เราต้องการพบสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากต่างดาว 187 00:09:16,307 --> 00:09:18,767 ด้วยการค้นหาบางอย่างที่เป็นวิศวกรรม 188 00:09:18,851 --> 00:09:20,269 บางอย่างที่ประดิษฐ์ขึ้นมา 189 00:09:20,352 --> 00:09:21,895 บางอย่างที่ธรรมชาติสร้างเองไม่ได้ 190 00:09:21,979 --> 00:09:23,897 ถ้าฉันพบเทคโนโลยี 191 00:09:24,148 --> 00:09:26,817 ฉันก็จะเชื่อว่าอย่างน้อยในบางเวลา 192 00:09:27,276 --> 00:09:31,071 มีนักสร้างเทคโนโลยีที่ทรงภูมิปัญญาอยู่จริง 193 00:09:31,989 --> 00:09:35,826 จากระยะใกล้ โลกมีสัญญาณของเทคโนโลยี ในรูปแบบของแสงไฟในเมือง 194 00:09:36,076 --> 00:09:39,872 จากระยะไกล มนุษย์ต่างดาวอาจสังเกตเห็น ดาวเทียมและสถานีอวกาศ 195 00:09:39,955 --> 00:09:41,081 โคจรอยู่รอบดาวของเรา 196 00:09:41,165 --> 00:09:43,626 จากระยะไกลกว่านั้น พวกมันอาจจับสัญญาณวิทยุ 197 00:09:43,709 --> 00:09:45,377 หรือบังเอิญพบยานสันจรตรวจสอบ 198 00:09:45,461 --> 00:09:47,171 ที่พุ่งไปในอวกาศระหว่างดวงดาว 199 00:09:47,296 --> 00:09:48,130 (ข้อมูลมนุษย์บนยาน) 200 00:09:48,255 --> 00:09:50,883 บางทีสิ่งที่เราคิดว่าเป็นสัญญาณของเทคโนโลยี 201 00:09:50,966 --> 00:09:54,345 กลับเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่นพัลซาร์นั้น 202 00:09:54,428 --> 00:09:58,349 แต่เพราะสัญญาณวิทยุ ยังคงเป็นเบาะแสที่มีความหวังมากที่สุดของเรา 203 00:09:58,432 --> 00:10:02,186 นักวิทยาศาสตร์จึงฟังเสียงของท้องฟ้ามาก 204 00:10:02,269 --> 00:10:03,771 ถ้าเคยดูเรื่องอุบัติการณ์สัมผัสห้วงอวกาศ 205 00:10:03,854 --> 00:10:07,358 จะเห็นโจดี้ ฟอสเตอร์ นั่งอยู่บนฝากระโปรงรถและใส่หูฟัง 206 00:10:07,441 --> 00:10:08,442 มันตลกนิดๆ ค่ะ 207 00:10:08,525 --> 00:10:13,322 เพราะความจริง คอมพิวเตอร์ที่อยู่ใน 208 00:10:13,405 --> 00:10:14,615 ห้องควบคุมการสังเกตการณ์ 209 00:10:14,698 --> 00:10:17,034 ทำการประมวลสัญญาณอยู่ 210 00:10:17,117 --> 00:10:22,206 มันวิเคราะห์สมมูล ของสารานุกรมบริตานิกาทุกวินาที 211 00:10:22,289 --> 00:10:24,124 จิลล์ ทาร์เตอร์น่าจะรู้ 212 00:10:24,208 --> 00:10:26,794 ตัวละครของโจดี้ ฟอสเตอร์อ้างอิงมาจากเธอ 213 00:10:27,920 --> 00:10:29,421 แม่เจ้า! 214 00:10:29,505 --> 00:10:32,216 เธอพูดว่า "แม่เจ้า!" 215 00:10:32,299 --> 00:10:35,052 เราหวังว่าสักวันจะมีช่วงเวลาแบบนั้นค่ะ 216 00:10:35,386 --> 00:10:38,764 แต่นั่นเป็นเพียงหนึ่งในวิธีการค้นหาชีวิตนอกโลก 217 00:10:39,098 --> 00:10:41,433 ยังมีสัญญาณของชีวิตอีกด้วย 218 00:10:41,684 --> 00:10:45,187 สัญญาณของชีวิตคือตัวบ่งชี้ว่า 219 00:10:45,270 --> 00:10:46,980 มีสิ่งมีชีวิตอยู่หรือครั้งหนึ่งเคยมีอยู่ 220 00:10:47,064 --> 00:10:48,440 ในสภาพแวดล้อมใดๆ ก็ตาม 221 00:10:48,524 --> 00:10:51,527 ถ้ามนุษย์ต่างดาวมาที่โลก เพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตหลังจากเราจากไปนานแล้ว พวกเขาอาจพบสัญญาณของชีวิต ในรูปแบบของฟอสซิล 222 00:10:54,697 --> 00:10:57,032 และหลักฐานทางเคมีของกระบวนการแห่งชีวิต 223 00:10:57,116 --> 00:10:58,701 ประโยคที่ฉันชอบพูดกับลูกๆ 224 00:10:58,784 --> 00:10:59,952 คือทุกชีวิตต้องอึ 225 00:11:00,035 --> 00:11:03,664 ดังนั้นเรารู้ว่าทุกชีวิตรับพลังงานเข้ามา และปล่อยของเสียออก 226 00:11:04,039 --> 00:11:06,709 ถ้ามนุษย์ต่างดาวเฝ้าสังเกตเราอยู่ไกลๆ 227 00:11:06,792 --> 00:11:09,878 พวกเขาจะเห็นสัญญาณของชีวิตในรูปแบบของน้ำ 228 00:11:09,962 --> 00:11:12,548 และก๊าซต่างๆ ในชั้นบรรยากาศของเรา 229 00:11:12,631 --> 00:11:14,425 ออกซิเจนเกิดปฏิกิริยาง่ายมาก 230 00:11:14,508 --> 00:11:18,011 จนมันอยู่ได้แค่ในชั้นบรรยากาศของเรา ถ้ามันถูกผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง 231 00:11:18,095 --> 00:11:21,014 ถ้าไม่มีชีวิต ชั้นบรรยากาศของโลกก็จะไม่มีออกซิเจน 232 00:11:21,098 --> 00:11:24,184 เราจึงพยายามค้นหาก๊าซต่างๆ ที่ไม่ควรมีอยู่ 233 00:11:24,268 --> 00:11:27,938 ที่อาจจะเกิดจากสิ่งมีชีวิต และเราเรียกมันว่าก๊าซสัญญาณของชีวิต 234 00:11:28,355 --> 00:11:31,442 แต่การค้นหาสัญญาณของชีวิต บนดาวเคราะห์ดวงอื่นนั้นยากมาก 235 00:11:31,525 --> 00:11:34,319 เรามองไม่เห็นดาวเคราะห์ นอกระบบสุริยะของเราด้วยซ้ำ 236 00:11:34,611 --> 00:11:37,197 ดาวฤกษ์สว่างกว่าดาวเคราะห์มากเหลือเกิน 237 00:11:37,281 --> 00:11:39,908 มันเหมือนการพยายามมองดูหิ่งห้อยในแสงสว่าง 238 00:11:40,033 --> 00:11:43,454 ปัจจุบันเรามีเทคนิคค้นหาดาวเคราะห์ ที่เรียกว่าเทคนิคการเคลื่อนผ่าน 239 00:11:43,537 --> 00:11:47,332 เมื่อดาวเคราะห์เคลื่อนผ่านหน้าดาวฤกษ์ของมัน แสงดาวจะสว่างน้อยลงเล็กน้อย 240 00:11:47,416 --> 00:11:50,294 แสงที่ลดลงนี้เป็นเบาะแสให้นักวิทยาศาสตร์ 241 00:11:50,377 --> 00:11:52,880 ว่าดาวเคราะห์อาจมีสิ่งมีชีวิตบนนั้นหรือไม่ 242 00:11:52,963 --> 00:11:55,090 เช่นระยะห่างจากดาวฤกษ์ของมัน 243 00:11:55,424 --> 00:11:58,469 เราเรียก "เขตอาศัยได้" ระยะห่างจากดาวฤกษ์ 244 00:11:58,552 --> 00:12:02,306 ที่ซึ่งดาวเคราะห์ ซึ่งได้รับความร้อนจากดาวฤกษ์ ไม่ร้อนเกินไป 245 00:12:02,389 --> 00:12:04,975 ไม่เย็นเกินไป แต่พอเหมาะสำหรับสิ่งมีชีวิต 246 00:12:05,559 --> 00:12:08,896 นักวิจัยสามารถคาดคะเน สิ่งที่น่าทึ่งบางอย่างเกี่ยวกับดาวเคราะห์ได้ 247 00:12:08,979 --> 00:12:10,522 จากรูปแบบของแสงเหล่านี้ 248 00:12:10,606 --> 00:12:12,775 นักวิทยาศาสตร์คิดว่า พวกเขาค้นพบ "ซูเปอร์เอิร์ธ" 249 00:12:12,858 --> 00:12:14,359 ซึ่งมีแรงโน้มถ่วงมากกว่ามาก 250 00:12:15,152 --> 00:12:19,406 ระบบดาวเคราะห์ที่มีดาวเคราะห์เจ็ดดวง ถูกยัดลงไปใน "เขตอาศัยได้" 251 00:12:19,865 --> 00:12:22,451 และแม้แต่ดาวเคราะห์ที่อาจมีพืชผักสีแดง 252 00:12:22,534 --> 00:12:24,661 จากความยาวคลื่นแสงต่างๆ ที่มันได้รับ 253 00:12:26,371 --> 00:12:31,376 ตอนนี้เรารู้จักดาวเคราะห์กว่า 3,500 ดวง นอกระบบสุริยะของเราแล้ว 254 00:12:31,460 --> 00:12:34,338 ส่วนใหญ่เพิ่งถูกค้นพบในช่วงห้าปีที่ผ่านมา และเครื่องมือก็ดีขึ้นเรื่อยๆ 255 00:12:38,050 --> 00:12:40,719 กล้องโทรทรรศน์อวกาศยุคใหม่ 256 00:12:40,803 --> 00:12:43,388 จะสามารถมองเห็นกาแล็กซีได้ไกลขึ้น 257 00:12:43,472 --> 00:12:45,432 ดาวเทียมที่ปล่อยเมื่อเร็วๆ นี้ 258 00:12:45,641 --> 00:12:48,352 จะสำรวจทั่วทั้งท้องฟ้า เพื่อหาดาวเคราะห์ที่เป็นไปได้ 259 00:12:48,435 --> 00:12:50,395 ไม่ใช่แค่ส่วนเล็กๆ 260 00:12:50,646 --> 00:12:53,482 และนักดาราศาสตร์กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ 261 00:12:53,565 --> 00:12:56,693 ที่จะทำให้พวกเขามองเห็น ดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลได้โดยตรง 262 00:12:57,319 --> 00:12:59,112 เส้นแบ่งระหว่างสิ่งที่ถูกมองว่า 263 00:12:59,655 --> 00:13:00,948 บ้าสุดๆ กับสิ่งที่เป็นแนวทางหลัก 264 00:13:02,658 --> 00:13:04,368 ยังคงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด 265 00:13:04,451 --> 00:13:07,830 สำหรับวิธีการใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นทั้งหลาย ในการค้นหาชีวิตในห่้วงอวกาศลึก 266 00:13:07,913 --> 00:13:08,747 (นาซา) 267 00:13:08,831 --> 00:13:12,292 นักวิทยาศาสตร์ยังค้นหา ใกล้บ้านมากขึ้นมากอีกด้วย 268 00:13:13,293 --> 00:13:15,128 - เราลงจอดแล้ว - รับทราบ 269 00:13:15,212 --> 00:13:18,841 ในทศวรรษที่ 1970 เราส่งยานลงจอดไปดาวอังคารสองลำ 270 00:13:18,924 --> 00:13:20,884 เพื่อทดสอบดิน เพื่อหาหลักฐานของชีวิต 271 00:13:21,426 --> 00:13:24,596 ครั้งแรกและครั้งเดียวที่เราพยายาม 272 00:13:24,680 --> 00:13:27,391 หนึ่งในการทดลองกลับมาเป็นลบ 273 00:13:27,474 --> 00:13:31,395 แต่อีกการทดลองกลับมาเป็นบวก ในส่วนของหลักฐานของกระบวนการ 274 00:13:31,478 --> 00:13:34,481 ที่เราโยงความเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิต 275 00:13:34,565 --> 00:13:36,525 พอบางการทดลองกลับมาเป็นบวก 276 00:13:36,608 --> 00:13:39,027 และการทดลองอื่นเป็นลบ มันขัดแย้งกันค่ะ 277 00:13:39,111 --> 00:13:41,071 เพราะมันไม่ชัดเจน 278 00:13:41,154 --> 00:13:43,824 ก็เลยพูดยากว่าเราพบสิ่งมีชีวิตจริงหรือเปล่า 279 00:13:44,491 --> 00:13:45,868 ความขัดแย้งอาจหมายถึง 280 00:13:45,951 --> 00:13:47,953 มีปฏิกิริยาทางเคมีที่ไม่รู้จักเกิดขึ้น 281 00:13:48,036 --> 00:13:51,540 ที่ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตบริโภคพลังงานเท่านั้นเอง 282 00:13:52,457 --> 00:13:56,670 แต่ตั้งแต่ยุค 70 เราก็ได้เรียนรู้ว่า ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะต่อการดำรงชีวิต 283 00:13:56,753 --> 00:14:01,008 ใช้พลังงานแตกต่างกันไป และทิ้งร่องรอย ที่แตกต่างบนสภาพแวดล้อมของมัน 284 00:14:01,091 --> 00:14:02,801 การทดลองที่ถูกออกแบบมา 285 00:14:02,885 --> 00:14:05,220 ออกแบบโดยอ้างอิงจาก สิ่งมีชีวิตที่เรารู้จักในสมัยนั้น 286 00:14:05,304 --> 00:14:08,056 ซึ่งเป็นมุมมองของชีวิตบนโลกที่จำกัดมาก 287 00:14:08,140 --> 00:14:09,558 เราต้องกลับไป 288 00:14:09,641 --> 00:14:11,894 ที่ดาวอังคารและทำการทดลองอีกรอบ 289 00:14:12,311 --> 00:14:13,437 (นาซา ดาวอังคาร 2020) 290 00:14:13,520 --> 00:14:16,064 ภารกิจดาวอังคาร 2020 คือความพยายามครั้งต่อไปของเรา 291 00:14:16,648 --> 00:14:18,233 ไม่เหมือนกับการทดลองไวกิ้ง 292 00:14:18,317 --> 00:14:21,361 มันไม่ได้จะทดสอบหาสิ่งมีชีวิตในปัจจุบัน 293 00:14:21,445 --> 00:14:26,742 แต่มันจะมองหาสัญญาณที่ครั้งหนึ่งเคยมี สิ่งมีชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมบนดาวอังคารนั้นๆ 294 00:14:27,242 --> 00:14:30,162 ภารกิจนี้ยังดำเนินการหาสัญญาณของชีวิต... 295 00:14:30,245 --> 00:14:33,206 ในทะเลที่เป็นน้ำแข็ง ของดวงจันทร์ยูโรปาของดาวพฤหัสบดีด้วย 296 00:14:33,665 --> 00:14:35,792 ในการค้นหาสิ่งมีชีวิตที่มีภูมิปัญญา 297 00:14:35,876 --> 00:14:40,505 นักวิทยาศาสตร์พยายามขยายความคิด และการค้นหาของพวกเขาคล้ายๆ กัน 298 00:14:40,589 --> 00:14:43,425 ตัวอย่างเดียวของสิ่งมีชีวิตที่มีภูมิปัญญาที่เรามี 299 00:14:43,508 --> 00:14:44,676 ก็คือตัวเรานี่แหละ 300 00:14:44,760 --> 00:14:45,844 รู้ไหม 301 00:14:46,386 --> 00:14:50,057 ในสตาร์ เทรค ผมคิดว่า เป็นหมอที่อยู่บนยาน โบนส์น่ะ 302 00:14:50,140 --> 00:14:53,769 ที่พูดเป็นพักๆ ว่า "มันคือสิ่งมีชีวิต จิม แต่ไม่ใช่แบบที่เรารู้จัก" 303 00:14:53,852 --> 00:14:55,771 อันที่จริง นี่คือการอ้างอิงที่ผิดเป็นประจำ 304 00:14:55,854 --> 00:14:59,399 ประโยคนี้อยู่ในเนื้อเพลง "สตาร์ เทรคกิง" ของเดอะ เฟิร์ม 305 00:14:59,483 --> 00:15:01,026 และไม่เคยถูกเอ่ยถึงในรายการเลย 306 00:15:01,151 --> 00:15:03,362 มันคือสิ่งมีชีวิต จิม แต่ไม่ใช่แบบที่เรารู้จัก 307 00:15:03,820 --> 00:15:06,823 แต่สป็อคพูดอะไรบางอย่างที่คล้ายกัน... 308 00:15:06,907 --> 00:15:09,242 ในซีซั่นหนึ่ง ตอนที่ 29 309 00:15:09,326 --> 00:15:10,869 มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เรารู้จักหรือเข้าใจ 310 00:15:12,037 --> 00:15:14,331 แต่ชัดเจนว่ามันมีชีวิต มีอยู่จริง 311 00:15:14,623 --> 00:15:16,792 ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีของเรา 312 00:15:16,875 --> 00:15:18,126 ทำให้เราเกิดไอเดียใหม่ 313 00:15:18,210 --> 00:15:21,171 ว่ามนุษย์ต่างดาวทรงภูมิปัญญาน่าจะเป็นยังไง 314 00:15:21,588 --> 00:15:22,673 สิ่งหนึ่งที่เราทำ 315 00:15:22,756 --> 00:15:24,049 ในศตวรรษนี้ 316 00:15:24,132 --> 00:15:26,426 และแน่นอน ในครึ่งแรกของศตวรรษ ดูเหมือนว่า 317 00:15:26,510 --> 00:15:29,096 จะเป็นการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่ทำได้มากกว่า 318 00:15:29,179 --> 00:15:31,390 การเล่นหมากรุกเก่ง 319 00:15:31,473 --> 00:15:34,351 มนุษย์คือจุดอ้างอิงภูมิปัญญาที่ดีที่สุดที่เรารู้จัก 320 00:15:34,434 --> 00:15:36,853 เป็นมาตรฐานดีเยี่ยมที่น่าเลียนแบบอะไรเช่นนี้ 321 00:15:36,937 --> 00:15:39,940 เราคิดว่ามนุษย์ต่างดาวเป็นชีววิทยานุ่มๆ เละๆ 322 00:15:40,190 --> 00:15:42,859 ในขณะที่จริงๆ แล้ว ภูมิปัญญาส่วนใหญ่ในจักรวาล 323 00:15:42,943 --> 00:15:45,112 น่าจะเป็นภูมิปัญญาสังเคราะห์มากกว่า 324 00:15:45,445 --> 00:15:51,034 ข้อดีข้อหนึ่งในแง่ของการช่วยเราคิด เกี่ยวกับสิ่งที่เราไม่รู้ 325 00:15:52,285 --> 00:15:53,453 คือการอ่านนิยายวิทยาศาสตร์ 326 00:15:53,537 --> 00:15:56,123 จริงๆ แล้วหนังเรื่องผู้มาเยือน คือหนังเรื่องโปรดของฉัน 327 00:15:56,206 --> 00:15:57,332 เพราะแนวคิด 328 00:15:57,416 --> 00:15:59,751 ที่ว่ามนุษย์ต่างดาวอาจแตกต่าง 329 00:15:59,835 --> 00:16:01,169 จากมนุษย์ผู้มีปัญญา 330 00:16:01,253 --> 00:16:03,088 ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นแบบนั้น 331 00:16:05,298 --> 00:16:09,553 นิยายวิทยาศาสตร์มีอิทธิพล ต่อโครงการอวกาศของเรามาตั้งแต่แรกแล้ว 332 00:16:09,636 --> 00:16:13,056 บันทึกชาวอังคาร อภิมหาสงครามวันล้างโลก นักวิทยาศาสตร์อาวุโสของเราหลายคน 333 00:16:13,140 --> 00:16:16,059 ได้แรงบันดาลใจมาจากนิยายรุ่นแรกๆ พวกนั้น 334 00:16:16,143 --> 00:16:18,687 และพวกเขาสร้างความจริงทางวิทยาศาตร์ 335 00:16:18,770 --> 00:16:20,897 ด้วยการสำรวจดาวอังคารที่เรามีในทุกวันนี้ขึ้นมา 336 00:16:22,566 --> 00:16:24,401 มันคือการค้นหาหลายชั่วอายุคน 337 00:16:25,569 --> 00:16:26,611 ตอนนี้เราเพิ่งจะเริ่มต้น 338 00:16:26,695 --> 00:16:30,032 เราเพิ่งจะหว่านเมล็ดพันธุ์ เพื่อความพยายามอันยาวนาน 339 00:16:33,910 --> 00:16:37,122 ลองนึกถึงปริมาณของมหาสมุทรทั้งหมดของโลก 340 00:16:39,249 --> 00:16:42,544 และสมมุติว่านั่นคือปริมาณอวกาศที่ต้องค้นหา 341 00:16:42,836 --> 00:16:45,589 ที่เราอาจพบสัญญาณได้ 342 00:16:45,922 --> 00:16:48,717 ในเวลา 50 ปี เราสำรวจมหาสมุทรนั้นมาแค่ไหนแล้ว 343 00:16:50,177 --> 00:16:52,095 น่าผิดหวังมากค่ะ 344 00:16:52,179 --> 00:16:54,014 แค่หนึ่งแก้วเท่านั้นเอง 345 00:16:55,182 --> 00:16:59,686 ไม่ว่าเราจะพบชีวิตนอกโลกหรือไม่ หรือได้รู้ว่ามีแค่เราอยู่ตามลำพัง 346 00:16:59,770 --> 00:17:02,397 มันก็จะบอกเรา เกี่ยวกับความเจริญของเราได้มาก 347 00:17:02,981 --> 00:17:05,150 และบอกได้ว่าอนาคตอาจเป็นอย่างไร 348 00:17:06,860 --> 00:17:09,237 คิดย้อนกลับไปที่ทฤษฎีตัวกรองอันยิ่งใหญ่นั้น 349 00:17:09,654 --> 00:17:12,365 อาจเป็นไปได้ว่าชีวิตไม่ค่อยได้เกิดขึ้น 350 00:17:12,449 --> 00:17:17,704 หรือจักรวาลอาจเต็มไปด้วยชีวิตก็ได้ แต่ไม่มีชีวิตไหนที่ฉลาดเท่าเรา 351 00:17:18,038 --> 00:17:18,997 นั่นคือข่าวดี 352 00:17:19,623 --> 00:17:22,209 สำหรับอนาคตของอารยธรรมของเรา 353 00:17:22,542 --> 00:17:25,337 มันแปลว่าเราอาจเป็น ดาวเคราะห์ดวงเดียวในกาแล็กซี 354 00:17:25,420 --> 00:17:27,297 ที่มีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา 355 00:17:27,380 --> 00:17:29,591 และไม่มีเหตุผลที่เราจะไม่ประสบความสำเร็จ 356 00:17:29,674 --> 00:17:32,636 ไปอีกพันปีหรือล้านปีในอนาคต 357 00:17:33,261 --> 00:17:36,598 หรือบางที ขั้นตอนที่ยากที่สุดอาจรอเราอยู่ 358 00:17:36,681 --> 00:17:40,435 และความท้าทายบางอย่างที่เราไม่รู้ อาจรอมนุษยชาติอยู่ 359 00:17:40,519 --> 00:17:43,313 ถ้าชีวิตบนโลกมันปกติทั่วไป และเราก็ปกติทั่วไป 360 00:17:44,022 --> 00:17:46,775 แต่สิ่งที่ปกติทั่วไปคือคุณมีชีวิตรอดได้ไม่นานเท่าไร 361 00:17:46,858 --> 00:17:48,777 อนาคตของเราก็คงไม่ดีเท่าไรนัก 362 00:17:49,361 --> 00:17:51,029 สิ่งสำคัญในการค้นหา 363 00:17:51,113 --> 00:17:52,364 สิ่งมีชีวิตที่อื่นในจักรวาล 364 00:17:52,447 --> 00:17:54,825 เหมือนเป็นการค้นหาเพื่อให้เราเข้าใจตัวเอง 365 00:17:55,450 --> 00:17:58,912 มันจำเป็นที่จะต้องเข้าใจว่าเรา ในฐานะดาวเคราะห์ มาที่นี่ได้ยังไง 366 00:17:58,995 --> 00:18:02,666 และเรามีค่าแค่ไหน หรือไม่มีค่าแค่ไหน 367 00:18:02,958 --> 00:18:07,212 และสำหรับมนุษย์ มันคือการเข้าใจว่า ก้าวสำคัญก้าวต่อไปสำหรับเราคืออะไร