1 00:00:07,216 --> 00:00:08,843 ผมมักจะสงสัยอยู่เสมอ 2 00:00:08,926 --> 00:00:12,638 ทำไมเราต้องได้ยินทุกคืนด้วยว่า ตลาดหุ้นทำอะไรอยู่ 3 00:00:13,222 --> 00:00:15,433 ตอนนี้มีหุ้น 70 ตัวทำลายสถิติปิดสูงสุด 4 00:00:15,516 --> 00:00:16,768 พุ่งสูงทะลุเพดาน... 5 00:00:16,851 --> 00:00:18,853 ไอพีโอที่ได้ทำลายสถิติ... 6 00:00:18,936 --> 00:00:20,146 นักลงทุนได้ผลประโยชน์.... 7 00:00:20,772 --> 00:00:22,398 เวลาที่ตลาดหุ้นเฟื่องฟู 8 00:00:22,482 --> 00:00:25,151 เราจะถูกทำให้เชื่อว่าเศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู 9 00:00:25,735 --> 00:00:30,198 และในอเมริกา ตลาดหุ้นรุ่งเรืองอยู่นานเกือบ 40 ปี 10 00:00:30,281 --> 00:00:32,408 ถ้าตลาดหุ้นแย่ ความมั่งคั่งก็จะแย่ตาม 11 00:00:32,492 --> 00:00:34,327 และเศรษฐกิจของอเมริกาก็จะแย่ไปด้วย 12 00:00:34,410 --> 00:00:38,206 สิ่งที่ตลาดกำลังบอกเราคือ เราอยู่บนถนนสู่ความมั่งคั่ง 13 00:00:38,289 --> 00:00:41,834 ตลาดหุ้นพุ่งสูงและเกิดประโยชน์ต่อทุกคน... 14 00:00:41,918 --> 00:00:45,296 ตลาดหุ้นมีมูลค่าเกือบสามล้านล้านดอลลาร์ 15 00:00:45,379 --> 00:00:46,506 ตั้งแต่การเลือกตั้ง 16 00:00:47,048 --> 00:00:51,010 แต่ถ้าคุณบวกสินค้าและบริการทุกชนิด ที่ขายและซื้อในสหรัฐฯ เข้าไป 17 00:00:51,094 --> 00:00:56,140 เศรษฐกิจจริงๆ ตัวเลขนั้น ไม่ได้เติบโตเร็วอย่างที่มันเคยเป็น 18 00:00:56,224 --> 00:00:58,643 ค่าแรงแทบไม่ขยับมาหลายสิบปี 19 00:00:58,726 --> 00:01:01,395 และความมั่งคั่งสุทธิ ของครอบครัวอเมริกันโดยเฉลี่ย 20 00:01:01,479 --> 00:01:03,856 ก็ยังไม่ฟื้นตัวตั้งแต่เศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ 21 00:01:04,190 --> 00:01:07,026 ถ้าอย่างนั้นตลาดหุ้นวัดอะไรได้กันแน่ 22 00:01:09,278 --> 00:01:10,780 (ผลงานภาพยนตร์สารคดีชุดของ NETFLIX) 23 00:01:10,863 --> 00:01:12,490 มาตรวัดความมั่งคั่งของอเมริกาคือตลาดหุ้น ดูที่ดาวนะคะ ตอนนี้ขึ้นไปถึง... 24 00:01:14,283 --> 00:01:16,160 ในที่สุดแนสแด็กก็พุ่งถึง 5,000 25 00:01:16,244 --> 00:01:17,870 นักลงทุนพากันน้ำลายไหล... 26 00:01:17,954 --> 00:01:19,330 เงินปันผล! 27 00:01:19,413 --> 00:01:20,581 การตื่นทองรูปแบบใหม่... 28 00:01:22,041 --> 00:01:24,877 เราทุกคนกำลังดู การขยายเศรษฐกิจระดับโลกนี้... 29 00:01:24,961 --> 00:01:26,504 ตอนนี้เราอยู่ใน ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์... 30 00:01:26,587 --> 00:01:27,755 หุ้นที่ซื้อคืน... 31 00:01:27,839 --> 00:01:30,800 มันคือหลักปรัชญาโรคจิตโดยพื้นฐาน 32 00:01:31,884 --> 00:01:37,431 (ไขประเด็น ตลาดหุ้น) 33 00:01:40,351 --> 00:01:42,645 เพื่อให้เข้าใจว่าตลาดหุ้นคือมาตรวัดอะไร 34 00:01:42,728 --> 00:01:46,524 การนึกภาพธุรกิจง่ายๆ จะช่วยได้ อย่างเช่นซุ้มขายน้ำมะนาว 35 00:01:46,607 --> 00:01:50,278 - จิลล์ทำได้เยี่ยมมาก - แต่ฉันคิดใหญ่กว่านั้น 36 00:01:50,862 --> 00:01:53,781 ฉันพยายามจะกู้เงิน แต่ธนาคารบอกว่ามันเสี่ยงเกินไป 37 00:01:54,198 --> 00:01:56,242 นักลงทุนรวยๆ ไม่ซื้อหรอก 38 00:01:57,034 --> 00:01:58,035 จิลล์มีอีกทางเลือก 39 00:01:58,119 --> 00:01:59,453 (หุ้นสามัญบริษัทซุ้มขายน้ำมะนาว) 40 00:01:59,537 --> 00:02:02,081 เธอจะเสนอขายหลักทรัพย์ ให้กับใครก็ได้ที่ต้องการ 41 00:02:02,165 --> 00:02:04,041 เปิดโอกาสให้ลงทุนในธุรกิจของเธอ 42 00:02:04,125 --> 00:02:07,753 มีสิ่งที่เรียกว่าการเสนอขายหุ้นใหม่ แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือไอพีโอ 43 00:02:07,837 --> 00:02:11,090 นักลงทุนจ่ายเงินจำนวนหนึ่ง เช่น หนึ่งดอลลาร์ เพื่อเป็นเจ้าของส่วนเล็กๆ 44 00:02:11,174 --> 00:02:12,717 หรือมีหุ้นในธุรกิจของจิลล์ 45 00:02:13,342 --> 00:02:14,886 จิลล์ขายหุ้นไปจำนวนหนึ่ง 46 00:02:15,678 --> 00:02:17,889 แล้วฉันก็ขยายอาณาจักรน้ำมะนาวได้! 47 00:02:17,972 --> 00:02:21,851 ใช่แล้ว จิลล์สามารถเอาเงินก้อนนั้น ไปเปิดซุ้มขายน้ำมะนาวใหม่ได้ 48 00:02:21,934 --> 00:02:24,145 ซึ่งแปลว่าได้กำไรมากขึ้น 49 00:02:24,228 --> 00:02:27,398 จิลล์สามารถเอากำไรเหล่านั้นไปพัฒนาสินค้าใหม่ 50 00:02:27,481 --> 00:02:30,526 เธอยังสามารถคืนเงินก้อนนั้น ให้กับนักลงทุนของเธอได้ด้วย 51 00:02:30,860 --> 00:02:32,320 สิ่งนี้เรียกว่าเงินปันผล 52 00:02:32,403 --> 00:02:36,324 เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ แต่มันช่วยให้คนตื่นเต้น 53 00:02:36,407 --> 00:02:39,702 กับบริษัทของเธอ และอยากซื้อหุ้นของเธอมากขึ้น 54 00:02:39,785 --> 00:02:43,664 เช่นแซม เขาป่วยในวันขายไอพีโอ แต่เขาคิด... 55 00:02:43,748 --> 00:02:46,542 จิลล์เป็นผู้หญิงที่ฉลาดที่สุดในโลก 56 00:02:46,626 --> 00:02:48,878 และผมรู้ว่าซุ้มขายน้ำมะนาวนี้ 57 00:02:48,961 --> 00:02:50,338 จะต้องยิ่งใหญ่ 58 00:02:50,421 --> 00:02:54,717 เขาจึงเสนอขอซื้อหุ้นบางส่วน จากหนึ่งในนักลงทุนกลุ่มเดิม 59 00:02:54,800 --> 00:02:56,552 เป็นสองเท่าที่เธอจ่ายให้พวกเขา 60 00:02:56,636 --> 00:02:58,596 - เขาคิดว่า.... - ถ้าจิลล์ทำแบบนี้ได้เรื่อยๆ 61 00:02:58,679 --> 00:03:01,224 อีกหน่อยผมก็จะขายหุ้นพวกนี้ได้มากขึ้นอีก 62 00:03:01,307 --> 00:03:04,393 นั่นคือตลาดหุ้น มันคือการที่คนซื้อและขาย 63 00:03:04,477 --> 00:03:05,728 ส่วนเล็กๆ ของบริษัท 64 00:03:05,811 --> 00:03:09,232 โดยที่พวกเขาคิดว่า ส่วนเหล่านั้นจะมีมูลค่าแค่ไหนในอนาคต 65 00:03:09,774 --> 00:03:11,025 เว้นแต่ว่าในชีวิตจริง 66 00:03:11,108 --> 00:03:14,403 มันเกิดขึ้นเป็นพันๆ ครั้งต่อวินาที ทั่วโลก 67 00:03:14,987 --> 00:03:16,572 มีตลาดหุ้นอยู่ทุกหนทุกแห่ง 68 00:03:16,656 --> 00:03:21,786 แต่ตลาดหุ้นนิวยอร์กใหญ่มาก มันมีมาตั้งแต่ปี 1792 69 00:03:21,869 --> 00:03:25,790 เมื่อนายหน้าซื้อขายหุ้น 24 คน สวมกางเกงสามส่วนอย่างดีและหมวกทรงสูง 70 00:03:25,873 --> 00:03:29,377 และมารวมตัวกันใต้ต้นบัตตันวูด บนวอลสตรีตในนครนิวยอร์ก 71 00:03:29,460 --> 00:03:31,837 ปัจจุบัน มันคือที่ที่หุ้น ในบริษัทเก่าแก่ขนาดใหญ่ 72 00:03:31,921 --> 00:03:37,051 เช่นไอบีเอ็มและจีอีซื้อขายกัน แนสแด็กคือน้องชายคนเล็กที่เจ๋งกว่า 73 00:03:37,176 --> 00:03:40,721 มันเกิดในปี 1971 และไม่มีสถานที่เป็นรูปธรรม 74 00:03:40,805 --> 00:03:42,807 การซื้อขายทั้งหมดเกิดขึ้นด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 75 00:03:42,890 --> 00:03:45,935 นั่นคือที่ที่คุณจะพบบริษัทเทคโนโลยี เช่นแอปเปิลและเฟซบุ๊ก 76 00:03:46,686 --> 00:03:49,814 ดังนั้น ในอเมริกา ถ้าคุณอยากรู้ว่าตลาดหุ้นเป็นยังไง 77 00:03:49,897 --> 00:03:52,650 คุณต้องอยากรู้ว่าตลาดหุ้นทั้งสองนี้เป็นยังไง 78 00:03:52,733 --> 00:03:54,735 นั่นคือจุดที่อินเด็กซ์เข้ามา 79 00:03:54,986 --> 00:03:59,824 มันเอามูลค่าหุ้นทั้งหมดมา และเปลี่ยนมัน ให้เป็นตัวเลขจำนวนเดียว 80 00:03:59,907 --> 00:04:04,537 เอสแอนด์พี 500 ติดตาม 500 บริษัท ที่ใหญ่ที่สุดของทั้งสองตลาด 81 00:04:04,620 --> 00:04:06,914 ในขณะที่ดาวมีความพิเศษกว่ามาก 82 00:04:06,998 --> 00:04:13,296 มันติดตามแค่ 30 บริษัทที่มันคิดว่าสำคัญที่่สุด ในปี 2015 มันถีบเอทีแอนด์ทีออกไป 83 00:04:13,379 --> 00:04:14,922 และเอาแอปเปิลเข้ามาแทน 84 00:04:15,006 --> 00:04:19,969 ดาวและเอสแอนด์พีคือดัชนีอเมริกันที่ใหญ่ แต่ประเทศอื่นๆ ก็มีดัชนีของพวกเขาเอง 85 00:04:20,052 --> 00:04:21,595 เพื่อประเมินตลาดหุ้นของตัวเอง 86 00:04:21,679 --> 00:04:23,014 ดัชนีหุ้นเยอรมัน แด็กซ์... 87 00:04:23,097 --> 00:04:25,141 ดัชนีฟุตซี 100 ของลอนดอน... 88 00:04:25,224 --> 00:04:26,600 ดัชนีนิคเคอิ... 89 00:04:26,684 --> 00:04:28,227 ดัชนีเซี่ยงไฮ้... 90 00:04:28,311 --> 00:04:31,772 ปัจจุบัน หลายๆ บริษัท ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นมหาชน 91 00:04:32,064 --> 00:04:33,983 แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป 92 00:04:34,358 --> 00:04:38,904 ชายคนหนึ่ง และแทบจะเป็นผู้ชายเสมอ ที่ชอบเป็นใหญ่คนเดียว 93 00:04:38,988 --> 00:04:41,574 บริษัทใหญ่ๆ ในช่วงยุค 1900 ส่วนใหญ่ในสมัยนั้น 94 00:04:41,657 --> 00:04:43,743 (ลินน์ สเตาท์ ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายองค์กร) 95 00:04:43,826 --> 00:04:46,078 มีผู้ถือหุ้นคนเดียว เช่น แอนดรูว์ คาร์เนกี 96 00:04:46,162 --> 00:04:48,164 (แอนดรูว์ คาร์เนกี เหล็ก) 97 00:04:48,289 --> 00:04:49,415 แวนเดอร์บิลต์ 98 00:04:49,498 --> 00:04:51,709 (คอร์เนเลียส แวนเดอร์บิลต์ ทางรถไฟ) 99 00:04:52,418 --> 00:04:53,544 ร็อกเกอะเฟลเลอร์ 100 00:04:53,627 --> 00:04:56,088 (จอห์น ดี ร็อกเกอะเฟลเลอร์ น้ำมัน) 101 00:04:56,172 --> 00:04:59,675 พวกเขาดำเนินการ ควบคุมบริษัทเหล่านี้เข้มงวดมากจริงๆ 102 00:04:59,759 --> 00:05:04,096 สิ่งนี้เริ่มจะเปลี่ยนไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 103 00:05:04,180 --> 00:05:08,267 เราเริ่มเห็นการเพิ่มขึ้นของบริษัท อย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส 104 00:05:08,351 --> 00:05:10,728 และเจเนอรัลอิเล็กทริก และอาร์ซีเอ 105 00:05:10,811 --> 00:05:13,230 บริษัทต่างๆ ค้นพบสิ่งที่จิลล์ค้นพบ 106 00:05:13,314 --> 00:05:18,027 ว่าถ้าคุณยอมให้ประชาชนมาซื้อหุ้น คุณก็จะเติบโตเร็วขึ้นมาก 107 00:05:18,110 --> 00:05:20,196 ผู้ถือหุ้นต้องการทำเงิน 108 00:05:20,279 --> 00:05:22,531 ดังนั้นถ้าผู้บริหารตัดสินใจไม่ดี 109 00:05:22,990 --> 00:05:26,369 พวกเขาจะเริ่มขายหุ้นทิ้ง ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นตก 110 00:05:26,702 --> 00:05:29,914 ในทางตรงข้ามก็จริงเช่นกัน ความเป็นไปได้ของเงินปันผลในอนาคต 111 00:05:30,373 --> 00:05:33,209 กระตุ้นให้คนมาลงทุนกับไอเดียใหม่ๆ ที่เสี่ยง 112 00:05:33,292 --> 00:05:35,920 นั่นคือแนวคิดทั้งหมดของตลาดหุ้น ในฐานะพลังเพื่อสิ่งที่ดี 113 00:05:36,003 --> 00:05:38,297 มันกระตุ้นให้บริษัทตัดสินใจอย่างดี 114 00:05:38,381 --> 00:05:41,175 บริษัทจะได้มีเงินมากขึ้นเพื่อคืนให้กับผู้ถือหุ้น 115 00:05:41,258 --> 00:05:45,304 และมีเงินมากขึ้นในการพัฒนาและสร้างสรรค์งาน และนั่นคือสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน 116 00:05:45,679 --> 00:05:50,684 ภายในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 บริษัทมหาชนอเมริกัน 117 00:05:50,935 --> 00:05:55,189 พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นหนึ่งในองค์กร ที่มีประสิทธิภาพที่สุด และทรงพลัง 118 00:05:55,272 --> 00:05:58,192 และให้ประโยชน์มากที่สุดในโลก 119 00:05:58,275 --> 00:06:00,694 รู้สึกได้ถึงความเฟื่องฟูที่เพิ่มขึ้น 120 00:06:00,778 --> 00:06:04,073 และบริษัทโทรศัพท์ คือผู้มีส่วนร่วมที่น่าชื่นชมยินดี 121 00:06:04,156 --> 00:06:07,660 ในทศวรรษหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง ตลาดหุ้นช่วยสร้างสมัยรุ่งเรือง 122 00:06:07,743 --> 00:06:09,829 ของความมั่งคั่งร่วมกันของอเมริกา 123 00:06:09,912 --> 00:06:12,748 ยุคใหม่เริ่มแล้ว ทำให้ระบบเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น 124 00:06:12,832 --> 00:06:15,501 เพิ่มความคล่องตัวของเงินทุน เพื่อการเงินของธุรกิจ 125 00:06:15,584 --> 00:06:19,922 บริษัทควรจะเป็นสื่อกลาง 126 00:06:20,005 --> 00:06:24,385 ในการจัดหาโอกาสในการลงทุนจริงๆ ไม่ใช่เพื่อคนที่รวยมากๆ เท่านั้น 127 00:06:24,468 --> 00:06:29,432 แต่เพื่อคนอเมริกันทั่วไป มันสร้างผลกำไรที่เหนือกว่าให้กับนักลงทุน 128 00:06:29,515 --> 00:06:31,058 คุณไม่คิดว่าเราควรลงทุนเหรอ 129 00:06:31,142 --> 00:06:34,103 งานที่ปลอดภัย รายได้ดีหลายล้านงาน 130 00:06:34,186 --> 00:06:38,649 มันสร้างผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยที่มีคนซื้อทั่วโลก 131 00:06:38,732 --> 00:06:43,654 ผู้บริหารและกรรมการบริษัทมองตัวเอง เป็นเหมือนพ่อบ้านหรือผู้จัดการทรัพย์์สิน 132 00:06:43,904 --> 00:06:47,408 ของสถาบันมหาชนขนาดใหญ่ ที่ควรให้บริการ 133 00:06:47,491 --> 00:06:50,911 ไม่ใช่แค่ผู้ถือหุ้น แต่รวมถึงผู้ถือพันธบัตรด้วย 134 00:06:50,995 --> 00:06:55,207 ผู้ผลิตสินค้า พนักงาน ชุมชน 135 00:06:55,374 --> 00:06:59,503 บิวอิคก์จัดสถานที่สุดโปรด ให้กับคาวบอยและหนูน้อย 136 00:06:59,587 --> 00:07:02,548 และผู้จัดการทั่วไปของบิวอิคก์ ไอวาน ไวลส์ก็แวะไป 137 00:07:02,631 --> 00:07:03,757 บริษัทดูปองต์... 138 00:07:03,841 --> 00:07:07,219 เคมียุคใหม่และอุตสาหกรรมยุคใหม่ร่วมมือกัน 139 00:07:07,303 --> 00:07:09,972 ในการรับใช้อเมริกายุคใหม่ของเรา 140 00:07:10,055 --> 00:07:14,018 บริษัทมหาชนเหล่านี้ช่วยสร้างชนชั้นกลางอเมริกัน 141 00:07:14,101 --> 00:07:15,853 และสำหรับคนที่รู้ว่าควรเล่นยังไง 142 00:07:16,437 --> 00:07:18,772 การซื้อขายหุ้นอาจสร้างความมั่งคั่งให้พวกเขาได้ 143 00:07:19,273 --> 00:07:20,107 เช่นชายคนนี้ 144 00:07:20,191 --> 00:07:22,693 ฉันทำงานอยู่บนทางรถไฟ... 145 00:07:22,776 --> 00:07:26,113 เพลงโฟล์กเป็นเพียงงานอดิเรกของเขา ส่วนใหญ่แล้วเขาเป็นนักลงทุนพันล้าน 146 00:07:26,197 --> 00:07:27,239 วอร์เรน บัฟเฟตต์ 147 00:07:27,323 --> 00:07:29,325 ยักษ์ใหญ่แห่งวอลสตรีต 148 00:07:29,408 --> 00:07:30,576 นักลงทุนที่โด่งดังที่สุดของอเมริกา 149 00:07:30,659 --> 00:07:33,078 นักลงทุน วอร์เรน บัฟเฟตต์มีมูลค่า 84 พันล้าน 150 00:07:33,162 --> 00:07:36,582 บัฟเฟตต์โด่งดังเรื่องสไตล์การลงทุนที่ไม่ธรรมดา 151 00:07:36,665 --> 00:07:37,917 (นักเศรษฐศาสตร์ชนะรางวัลโนเบล) 152 00:07:38,000 --> 00:07:40,377 การลงทุนตามมูลค่า วิเคราะห์บริษัทอย่างรอบคอบ 153 00:07:40,461 --> 00:07:43,756 ดูงบแสดงฐานะการเงินของพวกเขา ดูธุรกิจของพวกเขา 154 00:07:43,839 --> 00:07:47,593 แต่ถ้าคุณไม่มีเวลาทำแบบนั้น นี่คือเคล็ดลับจากเขา 155 00:07:47,801 --> 00:07:52,014 ซื้อกองทุนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ราคาต่ำ 156 00:07:52,097 --> 00:07:54,475 กองทุนดัชนีเอาเงินเล็กน้อยของคุณ 157 00:07:54,558 --> 00:07:56,268 ไปลงในทุกบริษัทในดัชนี 158 00:07:56,352 --> 00:07:59,647 จริงๆ แล้ว คุณกำลังตั้งเป้าที่จะไปยังตลาดหุ้น 159 00:07:59,772 --> 00:08:03,317 อีกทางเลือกก็คือ มอบเงินของคุณให้กับนักลงทุนมืออาชีพ 160 00:08:03,400 --> 00:08:06,111 ผู้ซึ่งพยายามจะเอาชนะตลาดหุ้นเพื่อค่าตอบแทน 161 00:08:06,612 --> 00:08:10,115 บัฟเฟตต์เคยท้าพนันกองทุนบริหารความเสี่ยง หนึ่งล้านดอลลาร์ว่าในช่วงสิบปีนี้ 162 00:08:10,199 --> 00:08:12,284 กองทุนดัชนีจะทำเงินได้มากกว่า 163 00:08:12,368 --> 00:08:13,786 (ชนะพนันกองทุนบริหารความเสี่ยง หนึ่งล้านดอลลาร์) 164 00:08:13,953 --> 00:08:17,873 และเขาชนะ การเลือกหุ้นเป็นเกมที่ยาก แต่มีกลยุทธ์ยอดนิยมอยู่หนึ่งกลยุทธ์ 165 00:08:17,957 --> 00:08:19,959 ชายคนนี้ชื่อจอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ 166 00:08:20,042 --> 00:08:22,336 คุณคงจำเขาได้จากหนวดในตำนาน 167 00:08:22,419 --> 00:08:25,256 เขาคิดกลยุทธ์นั้นได้ เคนส์คือผู้ชนะรางวัลโนเบล 168 00:08:25,339 --> 00:08:29,093 และนักเศรษฐศาสตร์คนหนึ่ง ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในศตวรรษที่ 20 169 00:08:29,176 --> 00:08:31,720 และเขาสังเกตเห็น ว่าหนังสือพิมพ์จะทำสิ่งหนึ่งอยู่ประจำ 170 00:08:31,845 --> 00:08:34,181 หนังสือพิมพ์จะมีหน้าเต็มอยู่หน้าหนึ่ง 171 00:08:34,265 --> 00:08:37,685 ที่เอาไว้ลงรูปคนหน้าตาดี 172 00:08:37,768 --> 00:08:43,399 และคุณต้องเลือกคนที่หน้าตาดีที่สุดหกคน และจัดลำดับให้พวกเขา 173 00:08:43,566 --> 00:08:45,818 และส่งจดหมายไปที่หนังสือพิมพ์ 174 00:08:46,026 --> 00:08:49,530 ทางหนังสือพิมพ์จะจัดอันดับทุกคน อ้างอิงจากคะแนนเสียงที่ได้ 175 00:08:50,114 --> 00:08:53,617 และผู้ชนะคือคนที่ตัวเลือกของเขาตรงกับฝูงชน 176 00:08:53,742 --> 00:08:58,080 ลองนึกถึงการประกวดนั้นดูสิ ผมจะเลือกคนที่ผมคิดว่า 177 00:08:58,163 --> 00:09:01,959 หน้าตาดีที่สุดเหรอ ไม่ ผมควรเลือกคนที่คนอื่นคิดว่า 178 00:09:02,126 --> 00:09:03,419 หน้าตาดีที่สุด 179 00:09:03,502 --> 00:09:05,588 นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น 180 00:09:06,005 --> 00:09:09,758 มันไม่ใช่มูลค่าที่แท้จริงของบริษัทที่กระตุ้นมูลค่าหุ้น 181 00:09:10,092 --> 00:09:14,138 แต่เป็นเรื่องราวยอดนิยมที่สุด ที่คนเชื่อเกี่ยวกับบริษัทเหล่านั้น 182 00:09:14,430 --> 00:09:17,057 บางครั้งเรื่องราวก็สนับสนุนด้วยความจริง 183 00:09:17,474 --> 00:09:20,394 หุ้นชิโปเลดิ่งลงมากกว่าหนึ่งในสาม 184 00:09:20,477 --> 00:09:22,521 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น หลังเกิดโรคระบาดหลายครั้ง 185 00:09:22,646 --> 00:09:26,191 รวมถึงอีโคไล ซาลโมเนลลา และโนโรไวรัส ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้ 186 00:09:26,275 --> 00:09:30,904 ข่าวฉาวที่เกิดขึ้นสั่นสะเทือนโฟล์กสวาเกน ส่งผลให้หุ้นร่วงอย่างรวดเร็ว 187 00:09:30,988 --> 00:09:33,449 แต่บางครั้ง เรื่องเหล่านี้ก็เป็นแค่โฆษณาชวนเชื่อ 188 00:09:33,532 --> 00:09:37,119 บริษัทอินเทอร์เน็ตคือการลงทุน ที่ร้อนแรงที่สุดและทำกำไรมากที่สุด 189 00:09:37,286 --> 00:09:38,329 ในยุคนี้ 190 00:09:38,412 --> 00:09:40,956 พวกมันกระตุ้นมูลค่า จนสูงพุ่งออกนอกโลก 191 00:09:41,040 --> 00:09:43,250 ไลคอส เอ็กไซต์ ยาฮู... 192 00:09:43,375 --> 00:09:46,128 หุ้นอินเทอร์เน็ตเหล่านั้นพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 193 00:09:46,211 --> 00:09:48,547 เรื่องเล่าในช่วงปี 1990 คือ 194 00:09:48,631 --> 00:09:50,799 บริษัทอินเทอร์เน็ตกำลังจะเป็นใหญ่ 195 00:09:50,883 --> 00:09:53,344 บริษัทเหล่านี้ไม่ควรพยายามสร้างกำไร 196 00:09:53,427 --> 00:09:55,512 นั่นเป็นเรื่องราวที่ดีซึ่งก็ถูกส่วนหนึ่ง 197 00:09:55,596 --> 00:09:58,223 เรามีบริษัทอย่างแอมะซอน กูเกิล 198 00:09:58,307 --> 00:10:02,186 ปัญหาคือไม่มีใครมีวิธีที่จะปรับเรื่องราว 199 00:10:02,269 --> 00:10:03,729 ว่าตลาดควรสูงแค่ไหน 200 00:10:03,812 --> 00:10:05,356 มันจะเฟื่องฟูไม่รู้จบเลยหรือ 201 00:10:05,439 --> 00:10:07,650 เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงตลอดไปแล้วหรือเปล่า 202 00:10:07,733 --> 00:10:11,570 คุณรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เวลาที่ทุกคนพูดถึงเรื่องแบบนี้ 203 00:10:11,654 --> 00:10:14,114 มันคือฟองสบู่ มันเหมือนสโนว์บอลเอฟเฟ็กต์ 204 00:10:14,281 --> 00:10:17,701 มันสูงขึ้นเรื่อยๆ มันจะสูงขึ้นตลอดไปไม่ได้ 205 00:10:17,785 --> 00:10:21,288 ด็อตคอมฮันนีมูน กำลังจะปิดตัวในหลายส่วนของโลก 206 00:10:21,372 --> 00:10:23,666 ด็อตคอมกำลังจะระเบิดตูม 207 00:10:23,832 --> 00:10:26,210 ช่างเทคนิค 300,000 คนตกงานแล้ว เป็นอะไรที่น่าใจหายมาก 208 00:10:28,754 --> 00:10:31,507 หุ้นตกอย่างที่ไม่เคยเห็นในตลาดสหรัฐฯ มาก่อน 209 00:10:31,590 --> 00:10:34,301 จนผู้ค้าและนักลงทุนหวาดผวา 210 00:10:34,385 --> 00:10:36,303 เวลาที่ฟองสบู่ตลาดหุ้นแตก 211 00:10:36,387 --> 00:10:39,932 ไม่ได้มีแค่นักลงทุนที่เจ็บ แต่มันทำให้เศรษฐกิจเสียหายทั้งหมด 212 00:10:40,015 --> 00:10:42,976 คนนับล้านอาจตกงาน บริษัทเจ๊ง 213 00:10:43,060 --> 00:10:44,895 และเงินชดเชยจะถูกถล่มเละ 214 00:10:44,978 --> 00:10:48,774 แต่ถึงแม้ตลาดหุ้นจะดี นักลงทุนทำเงินได้ 215 00:10:48,857 --> 00:10:50,359 ก็อาจทำร้ายเศรษฐกิจได้เหมือนกัน 216 00:10:50,442 --> 00:10:51,819 (ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน 1973) 217 00:10:51,902 --> 00:10:54,071 เรากำลังเข้าสู่ภาวะ ขาดแคลนพลังงานอย่างรุนแรง 218 00:10:54,154 --> 00:10:55,406 ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง 219 00:10:55,489 --> 00:10:59,034 ผู้ใช้รถยนต์เริ่มมาเข้าแถวรอก่อนเช้ามืด โดยหวังว่าจะได้น้ำมันมากพอ 220 00:10:59,118 --> 00:11:00,244 ที่พวกเขาจะใช้ได้ทั้งวัน 221 00:11:00,327 --> 00:11:02,413 คุณโมโหไหมที่ราคาสูงขึ้นแบบนั้น 222 00:11:02,496 --> 00:11:05,040 ฉันรู้สึกท้อแท้และสะอิดสะเอียดกับเรื่องทั้งหมดค่ะ 223 00:11:05,124 --> 00:11:08,919 มันมีความรู้สึกกังวลว่าบางอย่างผิดปกติ 224 00:11:09,002 --> 00:11:10,587 ในเศรษฐกิจอเมริกา 225 00:11:10,671 --> 00:11:16,135 และสุดท้าย คำตอบก็อยู่ที่ วิธีการที่บริษัทมหาชนขนาดใหญ่ของเรา 226 00:11:16,218 --> 00:11:17,845 ปฏิบัติและดำเนินการ 227 00:11:17,928 --> 00:11:20,472 พบกับผู้ที่ให้คำตอบนั้น มิลตัน ฟรีดแมน 228 00:11:20,556 --> 00:11:24,017 นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง เขาได้รับเชิญ ไปออกรายการพูดคุยยอดนิยม 229 00:11:24,101 --> 00:11:25,894 เพื่ออธิบายหลักปรัชญาของเขา 230 00:11:25,978 --> 00:11:29,189 คุณเคยมีช่วงเวลาที่สงสัยในระบบทุนนิยมไหมครับ 231 00:11:29,690 --> 00:11:32,067 แล้วความโลภคือความคิดที่ดี ที่ควรขับเคลื่อนต่อไปไหม 232 00:11:32,151 --> 00:11:35,696 บอกผมทีสิ มีสังคมไหนที่คุณรู้จัก ที่ไม่ขับเคลื่อนด้วยความโลภบ้าง 233 00:11:35,779 --> 00:11:38,031 จำวงล้อนี้ได้ไหมคะ ฟรีดแมนไม่ชอบเลย 234 00:11:38,115 --> 00:11:41,577 เขาคิดว่าควรมีแค่ซี่ล้อเดียว ผู้ถือหุ้น 235 00:11:41,660 --> 00:11:43,871 ช่วงปี 1970 เขาตีพิมพ์ งานแสดงข้อคิดเห็นที่เป็นที่นิยมมาก 236 00:11:43,954 --> 00:11:45,956 (ความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจ คือการเพิ่มผลกำไร) 237 00:11:46,039 --> 00:11:48,625 บทความโด่งดังที่อยู่ในนิวยอร์กไทมส์ 238 00:11:49,209 --> 00:11:54,673 ในนั้นเขาบอกว่า เพราะบริษัท มีผู้ถือหุ้นของพวกเขาเป็นเจ้าของ 239 00:11:54,757 --> 00:11:58,552 ข้อผูกมัดเดียวของธุรกิจจึงเป็นการสร้างกำไร 240 00:11:58,635 --> 00:12:00,679 ตัวละครของกอร์ดอน เก็กโก้ ในหนังเรื่องวอลสตรีต 241 00:12:00,763 --> 00:12:02,806 เป็นตัวอย่างหลักปรัชญาของฟรีดแมนที่ชัดเจน 242 00:12:02,890 --> 00:12:06,935 คุณเป็นเจ้าของบริษัท ใช่แล้ว คุณคือผู้ถือหุ้น 243 00:12:07,019 --> 00:12:10,689 และพวกคุณทุกคนกำลังมีปัญหา เพราะผู้บริหารพวกนี้ 244 00:12:10,773 --> 00:12:14,818 ความโลภ ไม่มีคำไหนจะดีกว่านี้แล้ว คือสิ่งที่ดี 245 00:12:16,069 --> 00:12:18,322 และบริษัทต่างๆ รับฟังคำแนะนำของเขา 246 00:12:18,405 --> 00:12:23,994 พวกเขาเริ่มผูกรายได้ของผู้บริหารระดัับสูง กับประสิทธิภาพต่อมูลค่าหุ้น 247 00:12:24,077 --> 00:12:27,790 ถ้า 80 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ของซีอีโอ 248 00:12:27,873 --> 00:12:30,876 ตั้งอยู่บนสิ่งที่มูลค่าหุ้นจะเป็นในปีถัดไป 249 00:12:30,959 --> 00:12:35,631 เขาหรือเธอย่อมจะพยายามเต็มที่ ที่จะทำให้มูลค่าหุ้นสูงขึ้น 250 00:12:36,298 --> 00:12:42,930 แม้ว่าผลที่ตามมาอาจเป็นอันตราย 251 00:12:43,013 --> 00:12:46,642 ต่อพนักงาน ลูกค้า สังคม สิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ตัวบริษัทเองในระยะยาวก็ตาม 252 00:12:46,725 --> 00:12:50,229 ซีอีโอลงเงินไปกับ สิ่งที่จะเพิ่มมูลค่าหุ้น 253 00:12:50,312 --> 00:12:54,525 ในระยะสั้น เช่นการลดต้นทุน หรือการซื้อหุ้นของตัวเองคืนมาส่วนหนึ่ง 254 00:12:54,608 --> 00:12:57,861 เพื่อลดอุปทานและเพิ่มมูลค่าขึ้นปลอมๆ 255 00:12:57,945 --> 00:13:03,492 ระหว่างปี 2007 ถึง 2016 นั่นคือวิธีที่บริษัทต่างๆ ในเอสแอนด์พี 500 256 00:13:03,575 --> 00:13:05,828 ใช้จ่ายผลกำไรมากกว่าครึ่งหนึ่ง 257 00:13:05,911 --> 00:13:09,289 อีก 39 เปอร์เซ็นต์ใช้ไปกับการปันผลให้ผู้ถือหุ้น 258 00:13:09,373 --> 00:13:13,001 ซึ่งทำให้มีเงินเหลือไม่มาก ในการเพิ่มค่าจ้างหรือขยายกิจการ 259 00:13:13,085 --> 00:13:15,504 หรือพัฒนาสินค้า สิ่งต่างๆ ที่ดี 260 00:13:15,587 --> 00:13:17,422 ต่อเศรษฐกิจในระยะยาว 261 00:13:18,382 --> 00:13:20,551 ถ้าคุณมองในระยะยาว จากนี้ไป 100 ปี 262 00:13:20,634 --> 00:13:21,760 (อดีตซีอีโอ วอซอเปเปอร์) 263 00:13:21,844 --> 00:13:24,555 ผมยังอยากเป็นบริษัท อาจจะทำอะไรที่แตกต่าง 264 00:13:24,638 --> 00:13:27,182 แต่ผมก็ยังอยากอยู่ตรงนี้ ดังนั้นตัวเลือกที่คุณเลือก 265 00:13:27,266 --> 00:13:32,145 ในแง่ของการลงทุน และผู้คน และเงินทุนมันต่างจาก 266 00:13:32,229 --> 00:13:36,275 การที่ถ้าคุณอยากลงทุน และสร้างผลกำไรภายใน 24 เดือน 267 00:13:36,358 --> 00:13:39,695 ในปี 2012 บริษัทวอซอเปเปอร์ลงทุน 268 00:13:39,778 --> 00:13:43,448 เพื่อเปลี่ยนจากการเป็นโรงงาน ผลิตกระดาษสำหรับพิมพ์ดีดและเขียน 269 00:13:43,532 --> 00:13:44,992 มาผลิตกระดาษทิชชู่แทน 270 00:13:45,075 --> 00:13:48,495 แต่แล้วกองทุนบริหารความเสี่ยง ได้กว้านซื้อหุ้นจำนวนหนึ่งและผลักดันให้บริษัท 271 00:13:48,579 --> 00:13:50,038 ลดต้นทุนแทน 272 00:13:50,122 --> 00:13:52,165 คำโต้แย้งของพวกเขาคือเราไม่อยากทำแบบนั้น 273 00:13:52,249 --> 00:13:53,876 สิ่งที่ผมอยากเห็นคุณทำมากกว่าคือเพิ่มเงินปันผล 274 00:13:53,959 --> 00:13:55,127 (กำไรเป็นเงินปันผล) 275 00:13:55,210 --> 00:13:56,587 ในฐานะผู้บริหาร เราไม่เห็นด้วย 276 00:13:56,670 --> 00:13:57,754 (อดีตช่างเครื่อง) 277 00:13:57,838 --> 00:13:59,256 เราเสนอให้ลดค่าแรง 278 00:13:59,339 --> 00:14:01,049 เพียงเพื่อเผื่อว่าจะเกิดอะไรขึ้น 279 00:14:01,133 --> 00:14:05,470 วอซอเปเปอร์กล่าวว่าบริษัทวางแผน ที่จะปิดโรงงานโบรคอว์ภายใน 31 มีนาคม... 280 00:14:05,554 --> 00:14:07,973 ทำให้คน 450 คนต้องตกงาน 281 00:14:08,056 --> 00:14:11,393 ข่าวนี้สร้างความเสียหายอย่างมาก ไม่ใช่แค่กับคนงานที่ต้องตกงานเท่านั้น 282 00:14:11,476 --> 00:14:14,897 แต่กับชุมชนโบรคอว์ที่บริษัทกระดาษก่อตั้งขึ้นด้วย 283 00:14:14,980 --> 00:14:19,526 วันที่เจ็ด ธันวาคม และผมจะไม่มีวันลืมเลย มันคือวันที่เกิดเหตุเพิร์ลฮาร์เบอร์ 284 00:14:19,610 --> 00:14:22,112 นั่นคือวันที่ผมฝังพ่อผม 285 00:14:22,529 --> 00:14:24,281 และเป็นวันที่ผมตกงานด้วย 286 00:14:24,364 --> 00:14:28,035 วันต่อมา ผมไปทำงาน แต่มันกลายเป็นโรงพยาบาลบ้าไปแล้ว 287 00:14:28,160 --> 00:14:30,662 ผู้คนร้องไห้ 288 00:14:30,746 --> 00:14:31,830 ทำไมน่ะเหรอ 289 00:14:35,375 --> 00:14:36,293 มันคือภาวะช็อก 290 00:14:36,376 --> 00:14:41,465 สิ่งที่ผมกังวลคือเราค่อยๆ มองสิทธิ ของผู้ถือหุ้นในระยะสั้น 291 00:14:41,548 --> 00:14:43,300 มากขึ้นเรื่อยๆ 292 00:14:43,383 --> 00:14:48,013 เทียบกับการมองความรับผิดชอบ ของผู้ถือหุ้นในระยะยาวกว่า 293 00:14:48,513 --> 00:14:53,268 นี่คือกระแสที่เคยเกิดขึ้นอยู่ช่วงหนึ่งและมันยิ่ง 294 00:14:53,352 --> 00:14:55,145 ทรงพลังและสำคัญมากขึ้น 295 00:14:55,228 --> 00:15:00,776 มันคุกคามศักยภาพ ของบริษัทเราอย่างจริงจังในการทำ 296 00:15:00,859 --> 00:15:04,696 โครงการต่างๆ ให้สำเร็จ ซึ่งจะพาบริษัทไปสู่ความยั่งยืนระยะยาว 297 00:15:04,780 --> 00:15:05,906 และการเติบโตทางเศรษฐกิจ 298 00:15:06,615 --> 00:15:10,118 การไล่คนงานออก การปิดโรงงาน การกดค่าแรงต่ำๆ 299 00:15:10,494 --> 00:15:13,205 นี่คือสิ่งที่ไม่ดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมเลย 300 00:15:13,288 --> 00:15:16,708 แต่อาจดีต่อผลกำไรระยะสั้นของบริษัท 301 00:15:16,792 --> 00:15:19,419 และนั่นคือสิ่งที่ตลาดหุ้นชื่นชอบ 302 00:15:19,503 --> 00:15:21,672 ตลาดหุ้นเริ่มต้นได้น่าประทับใจ... 303 00:15:21,755 --> 00:15:22,965 วันนี้สร้างสถิติใหม่อีกครั้ง... 304 00:15:23,048 --> 00:15:24,758 เป็นวันแห่งความสำเร็จในวอลสตรีต 305 00:15:24,841 --> 00:15:27,886 เศรษฐกิจสหรัฐฯ เร่งเดินหน้าเต็มที่ ราคาในวอลสตรีตก็เช่นกัน 306 00:15:27,970 --> 00:15:29,471 นี่คือวันสำคัญในวอลสตรีต... 307 00:15:29,554 --> 00:15:32,599 เอสแอนด์พี 500 วิ่งเข้าสู่จุดสูงสุดใหม่ 308 00:15:32,683 --> 00:15:36,853 และเมื่อตลาดหุ้นเติบโต ค่าจ้างของซีอีโอก็โตตามไปด้วย 309 00:15:38,188 --> 00:15:42,234 ในปี 1973 ซีอีโอทั่วไปทำเงินได้ มากกว่าคนงานทั่วไป 310 00:15:42,317 --> 00:15:48,073 ถึง 22 เท่า ภายในปี 2016 มากกว่าถึง 271 เท่า 311 00:15:48,615 --> 00:15:52,953 และเมื่อตลาดหุ้นใหญ่ขึ้น คนอเมริกันก็ได้รับผลประโยชน์น้อยลง 312 00:15:53,370 --> 00:15:57,165 หุ้นที่คนอเมริกันลงทุนในตลาดหุ้นอยู่ในจุดต่ำสุด 313 00:15:57,249 --> 00:16:00,002 ในรอบ 20 ปี เนื่องจากชนชั้นกลางลดลง 314 00:16:00,502 --> 00:16:04,631 จึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อหุ้นในสหรัฐฯ สูงขึ้น 315 00:16:04,881 --> 00:16:08,385 ความไม่เสมอภาคก็สูงขึ้นด้วย แต่มันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้ 316 00:16:09,553 --> 00:16:12,014 ตลาดหุ้นเปิดโอกาสให้ทุกคนตัดสินใจ 317 00:16:12,097 --> 00:16:16,476 ว่าบริษัทไหนควรค่าที่จะประสบความสำเร็จ ความคิดไหนที่คุ้มค่าต่อการเสี่ยง 318 00:16:16,560 --> 00:16:19,604 มีบางอย่างเกี่ยวกับการเอาเกมให้คนเล่น 319 00:16:19,688 --> 00:16:23,233 คุณมองดูประเทศที่ประสบความสำเร็จ และทุกประเทศมีตลาดหุ้น 320 00:16:23,316 --> 00:16:25,652 และประเทศที่พยายามจะปิดมัน 321 00:16:25,736 --> 00:16:28,405 ก็เริ่มเปลี่ยนใจและกำลังก่อตั้งมัน 322 00:16:28,488 --> 00:16:31,950 ผู้ถือหุ้นสามารถมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของบริษัทได้ 323 00:16:32,034 --> 00:16:33,618 ซึ่งบริษัทต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของพวกเขา 324 00:16:33,702 --> 00:16:37,456 พวกเราส่วนใหญ่คิดถึงอนาคตในระยะยาว 325 00:16:37,539 --> 00:16:42,169 เราใส่ใจบ้านใกล้เรือนเคียงของเรา และลูกของเรา และหลานของเรา 326 00:16:42,252 --> 00:16:47,591 เรามีค่านิยมและศีลธรรม และอยากให้บริษัทของเราทำเงิน 327 00:16:47,674 --> 00:16:50,135 ด้วยการทำสิ่งที่ดีต่อโลก 328 00:16:50,218 --> 00:16:53,764 และไม่ทำสิ่งที่อันตรายต่อผู้คนและทำลายมัน 329 00:16:53,889 --> 00:16:56,433 นั่นคือสิ่งที่ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ต้องการจริงๆ