1 00:00:08,051 --> 00:00:09,844 ทุกคนอยากดูดี 2 00:00:10,595 --> 00:00:12,138 และในหลายๆ แห่งบนโลกนี้ 3 00:00:13,014 --> 00:00:15,391 นั่นหมายถึงความผอม แต่มีปัญหาอยู่หนึ่งอย่าง 4 00:00:17,101 --> 00:00:18,478 เรากินแคลอรี่เข้าไปมากขึ้น 5 00:00:19,562 --> 00:00:22,106 อัตราโรคอ้วนทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น 6 00:00:22,648 --> 00:00:27,528 และมันกระตุ้นสิ่งที่ตอนนี้คืออุตสาหกรรม การลดน้ำหนัก 66 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ 7 00:00:28,154 --> 00:00:31,783 จากหนังสือขายดี อาหารแช่แข็ง โปรแกรมสมาชิก 8 00:00:31,866 --> 00:00:32,950 อาหารเสริมผง และยา 9 00:00:33,034 --> 00:00:35,661 ทุกอย่างอ้างว่ามีเคล็ดลับช่วยลดน้ำหนักได้ 10 00:00:36,454 --> 00:00:38,289 แต่เรายังไม่พบเคล็ดลับเลย 11 00:00:38,873 --> 00:00:42,794 งานวิจัยหลายสิบชิ้นพบว่า คนส่วนใหญ่ลดน้ำหนักลงได้แค่เล็กน้อย 12 00:00:43,377 --> 00:00:44,796 และมักเพิ่มกลับมาเหมือนเดิม 13 00:00:46,005 --> 00:00:48,007 แล้วทำไมพวกเรามากมาย ยังลดน้ำหนักอยู่อีก 14 00:00:49,175 --> 00:00:50,676 แล้วทำไมการลดน้ำหนักถึงล้มเหลว 15 00:00:51,010 --> 00:00:54,388 (ผลงานภาพยนตร์สารคดีชุดของ NETFLIX) 16 00:00:55,139 --> 00:00:58,267 ทุกอย่างที่คุณต้องการ เพื่อการเปลี่ยนแปลงอันงดงามอยู่ในกระป๋องใบนี้ 17 00:00:59,143 --> 00:01:01,604 เราได้รับข้อมูลผิดๆ เยอะมาก 18 00:01:01,687 --> 00:01:03,981 ส่วนใหญ่โดยพวกที่จ้องจะเอากำไร 19 00:01:04,524 --> 00:01:06,984 เมื่อพูดถึงการลดน้ำหนัก คุณต้องอยู่กับความเป็นจริง 20 00:01:07,068 --> 00:01:09,987 ไม่จำเป็นต้องมีความสับสนเลยจริงๆ 21 00:01:10,530 --> 00:01:15,076 เป็นวันที่ดีมาก เมื่อในที่สุดตาชั่งก็ร้องบอกว่า “สำเร็จแล้ว!” 22 00:01:15,952 --> 00:01:22,834 (เหตุผลที่การลดน้ำหนักล้มเหลว) 23 00:01:23,918 --> 00:01:26,087 (ความพยายามในการลดน้ำหนักตลอดช่วงชีวิต) 24 00:01:26,170 --> 00:01:29,924 ชาวอเมริกันบอกว่า พวกเขาลดน้ำหนักเฉลี่ยห้าครั้งตลอดช่วงชีวิต 25 00:01:30,591 --> 00:01:32,260 สำหรับผู้หญิง เจ็ดครั้ง 26 00:01:33,177 --> 00:01:35,054 และมีวิธีการลดน้ำหนักให้เลือกมากมาย 27 00:01:35,304 --> 00:01:36,931 มีวิธีใหม่ๆ ออกมาตลอดเวลา 28 00:01:37,014 --> 00:01:40,184 อ้างว่าเป็นการวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุดล้ำสมัย 29 00:01:40,768 --> 00:01:41,853 แต่ส่วนใหญ่แล้ว 30 00:01:42,186 --> 00:01:44,939 มันก็แค่การลดน้ำหนักแบบเดิม ที่กลับมาแล้วกลับมาอีก 31 00:01:45,398 --> 00:01:48,317 และบ่อยครั้งวิทยาศาสตร์ไม่ได้สนับสนุน คำกล่าวอ้างของพวกเขา 32 00:01:49,569 --> 00:01:54,031 ยกตัวอย่างเช่น คีโตเจนิค ไดเอ็ต และสูตรอาหารแอตกินส์ ไดเอ็ตอ้างว่า 33 00:01:54,115 --> 00:01:58,870 เมื่อลดแป้ง ผู้ลดน้ำหนักสามารถ กินแคลอรี่ได้มากขึ้นและน้ำหนักก็ยังลดอยู่ 34 00:01:58,953 --> 00:02:01,706 การวิจัยพบว่า ไม่ใช่อย่างนั้น 35 00:02:02,039 --> 00:02:06,836 แล้วพาลีโอ ไดเอ็ตล่ะ จริงๆ แล้วบรรพบุรุษ ยุคดึกดำบรรพ์ของเราไม่ได้กินแบบนั้นเลย 36 00:02:06,919 --> 00:02:09,005 มีหลักฐานมากมายว่าพวกเขากินธัญพืช 37 00:02:09,839 --> 00:02:13,342 มีการลดน้ำหนักที่อ้างอิงจากร่างกายคุณ เช่น การกินตามหมู่เลือด 38 00:02:13,426 --> 00:02:17,388 เพียงแต่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่แม่นยำสนับสนุนเรื่องนี้เช่นกัน 39 00:02:17,471 --> 00:02:20,391 วิทยาศาสตร์ปฏิเสธแนวคิด ในการดีท็อกซ์มานานแล้ว 40 00:02:20,474 --> 00:02:23,269 เพราะร่างกายของเราได้พัฒนา จนทำหน้าที่ได้อย่างดี 41 00:02:23,352 --> 00:02:26,105 ในการขจัดสิ่งอันตรายทั้งหมดจากตัวเราได้เอง 42 00:02:26,189 --> 00:02:30,151 อาหารเสริม โดยเฉพาะในรูปแบบของยา แทบไม่มีการควบคุมเลย 43 00:02:30,359 --> 00:02:33,237 ผู้ผลิตจึงไม่ต้องพิสูจน์ว่ามันมีประสิทธิภาพหรือไม่ 44 00:02:33,321 --> 00:02:35,281 แล้วก็มีอาหารไขมันต่ำ 45 00:02:35,364 --> 00:02:39,660 แต่แค่เพราะคุณเห็นคำว่า "ไขมันต่ำ" บนฉลาก ไม่ได้แปลว่ามันดีต่อสุขภาพ 46 00:02:39,744 --> 00:02:42,455 มันอาจเต็มไปด้วยน้ำตาลและแคลอรีก็ได้ 47 00:02:44,999 --> 00:02:47,919 แต่เมื่อพูดถึงอาหารไขมันต่ำและคาร์บต่ำแล้ว 48 00:02:48,002 --> 00:02:49,629 มีความขัดแย้งมากมายเหลือเกิน 49 00:02:49,712 --> 00:02:52,173 สมาชิกใหม่ กฎใหม่ และศัตรูคนใหม่ 50 00:02:53,633 --> 00:02:54,467 ไขมัน 51 00:02:54,550 --> 00:02:57,553 ไขมันคือศัตรูของสุขภาพเราใช่ไหมคะ ปรากฏว่าไม่ใช่ค่ะ 52 00:02:57,637 --> 00:03:00,097 คาร์บคือมิตรของคุณ พวกมันไม่ใช่ศัตรู 53 00:03:00,681 --> 00:03:02,350 - น้ำตาลคือศัตรูหมายเลขหนึ่ง - ครับ 54 00:03:02,433 --> 00:03:04,060 และคาร์บคือตัวร้าย 55 00:03:04,143 --> 00:03:06,145 ในปี 2018 ดร. คริสโตเฟอร์ การ์ดเนอร์ 56 00:03:06,229 --> 00:03:08,981 และทีมที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สร้างงานวิจัยขึ้นหนึ่งชิ้น 57 00:03:09,065 --> 00:03:11,317 เราพยายามจะศึกษาอาหารยอดนิยมสองแบบ 58 00:03:11,400 --> 00:03:13,152 ไขมันต่ำและคาร์บต่ำ 59 00:03:13,236 --> 00:03:15,071 เราไม่ได้ขอให้ใครคำนวณ 60 00:03:15,154 --> 00:03:18,324 ว่าต้องกินอาหารจำกัดกี่แคลอรีเพื่อลดน้ำหนัก 61 00:03:18,407 --> 00:03:22,078 เราเน้นแค่การหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง 62 00:03:22,161 --> 00:03:23,829 หรือคาร์โบไฮเดรตสูงในแต่ละกลุ่ม 63 00:03:23,913 --> 00:03:26,999 แต่ก็เน้นการไม่หิวด้วย 64 00:03:27,291 --> 00:03:31,796 พวกเขาคัดเลือกอาสาสมัครมา 609 คน ที่ต้องลดน้ำหนัก 15 ถึง 100 ปอนด์ 65 00:03:32,255 --> 00:03:33,589 และสุ่มมอบหมายให้พวกเขา 66 00:03:33,673 --> 00:03:36,717 กินอาหารไขมันต่ำหรือไม่ก็คาร์บต่ำหนึ่งปี 67 00:03:36,801 --> 00:03:40,012 การลดน้ำหนักที่ฉันทำก่อนหน้านี้ถือว่าน้อยที่สุด 68 00:03:40,096 --> 00:03:42,765 เป็นประสบการณ์ใหม่เอี่ยมของฉันเลย 69 00:03:42,848 --> 00:03:45,268 ฉันไปร่วมกินมื้อค่ำเพื่อฟังผล 70 00:03:45,351 --> 00:03:47,812 และข้อมูลทั้งหมดก็ถูกเผยให้เห็น 71 00:03:47,895 --> 00:03:51,065 มันประหลาดมากค่ะที่มันไม่เกี่ยวเลย 72 00:03:51,148 --> 00:03:54,193 ผลลัพธ์น่ะเหรอ ทั้งสองอย่างเหมือนกันทุกประการ 73 00:03:54,277 --> 00:03:57,655 บางคนก็ลดน้ำหนักได้มาก แต่ส่วนใหญ่ไม่ลด 74 00:03:57,780 --> 00:04:00,866 จีนนี่ลดไปหกปอนด์ ส่วนอีเว็ตต์เพิ่มขึ้นสี่ปอนด์ 75 00:04:01,575 --> 00:04:04,370 แล้วทำไมการลดน้ำหนักถึงได้ผลกับบางคน และไม่ได้ผลกับบางคน 76 00:04:04,870 --> 00:04:06,414 มีคำตอบง่ายๆ ข้อเดียว 77 00:04:06,539 --> 00:04:10,710 การลดน้ำหนักไม่ได้ผลสำหรับคนส่วนใหญ่ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่สามารถทำมันได้นาน 78 00:04:11,669 --> 00:04:14,505 แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังมองว่า มันคือความล้มเหลวเฉพาะบุคคล 79 00:04:14,964 --> 00:04:17,008 นั่นอาจเป็นเพราะการตลาดของการลดน้ำหนัก 80 00:04:18,551 --> 00:04:20,803 ที่ว่าการลดน้ำหนักฮวบฮาบนั้นง่าย และทำให้สำเร็จได้ 81 00:04:20,886 --> 00:04:22,138 ง่ายราวกับนับหนึ่ง สอง สาม 82 00:04:22,722 --> 00:04:25,099 มีวิธีที่คล้ายกันย้อนไปเมื่อปี 1863 83 00:04:25,182 --> 00:04:27,727 เมื่อสัปเหร่อชาวอังกฤษชื่อวิลเลียม แบนติง 84 00:04:27,810 --> 00:04:30,062 ตีพิมพ์หนังสือลดน้ำหนักขายดีเป็นเล่มแรก 85 00:04:31,063 --> 00:04:33,816 จดหมายถึงความอ้วนของแบนติง ส่งถึงมวลชน 86 00:04:33,899 --> 00:04:37,194 คือแผนการกินคาร์โบไฮเดรตต่ำ อย่างมีประสิทธิภาพ 16 หน้า 87 00:04:37,987 --> 00:04:41,157 เป็นบันทึกที่มีความเห็นอกเห็นใจ และเป็นอัตชีวประวัติมาก 88 00:04:41,240 --> 00:04:44,702 ซึ่งต่างจากบันทึกแบบการแพทย์ ที่น่าเชื่อถือก่อนหน้านี้ 89 00:04:44,785 --> 00:04:49,040 และเขาเขียนด้วยความรู้สึกเห็นใจ มีอารมณ์ขันนิดหน่อย 90 00:04:49,123 --> 00:04:53,044 ตามรูปแบบของยุคใหม่มากๆ เขาบอกว่า "ผมเห็นใจคุณนะ 91 00:04:53,127 --> 00:04:54,337 ผมก็เคยมีรูปร่างเหมือนคุณ 92 00:04:54,420 --> 00:04:56,881 ถ้าคุณทำตามแผนของผม ผมสัญญาว่าคุณจะปลอดภัย" 93 00:04:56,964 --> 00:04:58,924 แล้วหนังสือก็กลายเป็นหนังสือขายดีทันที 94 00:04:59,008 --> 00:05:03,429 ทั่วทั้งยุโรปส่วนใหญ่ ผู้คนเริ่มใช้คำว่า "แบนติง" แทนความหมายการลดน้ำหนัก 95 00:05:03,888 --> 00:05:05,389 ในสวีเดน ก็ยังคงใช้คำนี้อยู่ 96 00:05:05,806 --> 00:05:07,516 พวกเขาพูดว่า "ยอก แบนติง" "ฉันลดน้ำหนักอยู่" 97 00:05:07,600 --> 00:05:08,976 ภาษาสวีเดนไม่มีคำว่า "ลดน้ำหนัก" 98 00:05:09,060 --> 00:05:10,728 แต่ในประวัติศาสตร์ของเราส่วนใหญ่ 99 00:05:10,811 --> 00:05:13,773 การมีน้ำหนักเกินเป็นข้อยกเว้น ไม่ใช่เรื่องทั่วไป 100 00:05:14,190 --> 00:05:16,567 มื้ออาหารต้องผ่านการปลูกและเตรียมการ 101 00:05:16,650 --> 00:05:19,028 แค่กินอาหารให้เพียงพอ ก็ต้องใช้ความพยายามมากแล้ว 102 00:05:19,653 --> 00:05:22,740 แต่ในตะวันตก ทุกอย่างเปลี่ยนไป หลังสงครามโลกครั้งที่สอง 103 00:05:25,284 --> 00:05:29,789 ระบบการขนส่งดีขึ้น ระบบการผลิตดีขึ้น 104 00:05:29,872 --> 00:05:32,625 และบริษัทสามารถเริ่มผลิตอาหาร 105 00:05:32,708 --> 00:05:35,711 ที่ใส่ไว้ในกล่อง และมีอายุในการใช้งานนาน 106 00:05:36,045 --> 00:05:39,006 และคนก็ชอบเพราะมันสะดวกสบายมาก 107 00:05:39,423 --> 00:05:43,636 อาหารที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ยอดเยี่ยมคือ สิ่งที่เกิดขึ้นกับธัญพืชเต็มเมล็ด 108 00:05:43,719 --> 00:05:46,764 เมื่อคุณเปลี่ยนธัญพืชเต็มเมล็ดเป็นแป้งขาว 109 00:05:46,847 --> 00:05:51,727 คุณเอาเปลือกนอกของรำข้าวออกไป และเอาจมูกข้าวออกไป 110 00:05:51,811 --> 00:05:55,064 และนั่นคือส่วนที่มีวิตามิน แร่ธาตุ และกากใยทั้งนั้น 111 00:05:55,147 --> 00:05:59,068 ทางออกเหรอ ใส่วิตามินและแร่ธาตุพวกนั้นกลับเข้าไป 112 00:05:59,151 --> 00:06:02,571 และผู้บริโภคมากมาย ที่ไม่เคยได้ยินสารอาหารเหล่านี้มาก่อน 113 00:06:02,655 --> 00:06:05,408 จึงเชื่อมโยงการมีอยู่ของมัน ในอาหารรูปแบบใหม่กับคำว่าสุขภาพ 114 00:06:06,659 --> 00:06:10,162 แล้วอุตสาหกรรมอาหารยุคใหม่ก็เกิดขึ้น 115 00:06:10,788 --> 00:06:13,707 ในมื้อกลางวัน แทนที่จะกินอาหารที่ทำให้อ้วน 116 00:06:13,791 --> 00:06:16,669 พวกเขากินมิลก์เชกเมเทแคล หลากรสแสนอร่อย 117 00:06:17,002 --> 00:06:19,422 เพื่อรักษารูปร่างให้ผอมเพรียว 118 00:06:20,005 --> 00:06:23,968 เมเทรแคลคือโปรตีนเชกกระป๋อง ปริมาณ 225 แคลอรี 119 00:06:24,051 --> 00:06:27,638 มี 14 รสชาติ เพิ่มคุณค่าอาหารด้วยวิตามินและเกลือแร่ 120 00:06:28,347 --> 00:06:30,099 มันเป็นที่ตื่นตาตื่นใจเลยทีเดียว 121 00:06:30,766 --> 00:06:36,397 เทรเดอร์ วิคส์ ติกิบาร์ชื่อดัง เริ่มขายอาหารกลางวันเหลว 325 แคลอรี 122 00:06:37,022 --> 00:06:40,359 ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เบิร์กดอร์ฟ กูดแมน วางขายกระติกน้ำร้อนพกพา 123 00:06:40,443 --> 00:06:42,778 สำหรับคนที่แอบดื่มเมเทแคลทุกคน 124 00:06:43,279 --> 00:06:46,615 ร้านอาหารซีเนตมีเมเทรแคลในเมนู 125 00:06:46,699 --> 00:06:48,826 และแม้แต่เจเอฟเคก็ยังชอบดื่ม 126 00:06:48,909 --> 00:06:51,287 แต่ความคลั่งไคล้เมเทรแคลเชกก็มาถึงจุดจบ 127 00:06:51,370 --> 00:06:54,623 ช่วงต้นทศวรรษ 1980 บริษัทเลิกผลิตมัน 128 00:06:54,707 --> 00:06:58,169 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการดื่มเครื่องดื่มผสม รสชาติเหมือนชอล์กแทนอาหาร 129 00:06:58,252 --> 00:07:00,004 มันยากที่คนส่วนใหญ่จะทำได้นาน 130 00:07:00,087 --> 00:07:03,841 และส่วนหนึ่งเป็นเพราะ มันถูกแฟชั่นอาหารอื่นๆ ที่ผุดขึ้นมาแทนที่ 131 00:07:03,924 --> 00:07:04,758 (เวทวอทเชอร์) 132 00:07:04,842 --> 00:07:06,594 และนี่คือปัญหาที่เรากำลังเผชิญ 133 00:07:06,677 --> 00:07:09,472 อุตสาหกรรมอาหารลดน้ำหนัก ผลักดันให้เราลดแคลอรี 134 00:07:09,555 --> 00:07:12,725 ในขณะที่อุตสาหกรรมอาหาร บอกให้เรากินมันมากขึ้น 135 00:07:21,984 --> 00:07:25,946 ทุกอย่างเปลี่ยนไป จากการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวที่เกิดขึ้น 136 00:07:26,030 --> 00:07:28,032 ซึ่งเริ่มในทศวรรษ 1980 137 00:07:28,616 --> 00:07:33,496 รัฐบาลสหรัฐฯ เปลี่ยนนโยบาย มาให้เงินอุดหนุนเกษตรกรรม 138 00:07:33,579 --> 00:07:39,293 และกระตุ้นเกษตรกร ให้ปลูกอาหารมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 139 00:07:39,627 --> 00:07:42,087 อาหารราคาถูกลงและเรากินมันเยอะขึ้นมาก 140 00:07:42,171 --> 00:07:44,006 โดยเฉพาะระหว่างมื้ออาหาร 141 00:07:44,632 --> 00:07:48,636 ในช่วงปลายยุค 70 ผู้คน 28 เปอร์เซ็นต์ กินของว่างวันละสองครั้งหรือมากกว่านั้น 142 00:07:48,928 --> 00:07:52,681 เมื่อถึงกลางยุค 90 ตัวเลขนั้นไต่สูงขึ้นถึง 45 เปอร์เซ็นต์ 143 00:07:52,765 --> 00:07:55,309 เพื่อให้อธิบายเหตุผลของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 144 00:07:55,392 --> 00:07:59,396 ซึ่งเกิดขึ้นในชาวอเมริกัน ระหว่างปี 1980 ถึง 2000 ได้ 145 00:07:59,730 --> 00:08:02,274 คนเราต้องเพิ่มปริมาณการบริโภคแคลอรี 146 00:08:02,358 --> 00:08:04,693 ประมาณวันละ 500 แคลอรี 147 00:08:05,110 --> 00:08:07,905 ตอนนี้การลดน้ำหนักคือ ปัญหาสาธารณสุขเร่งด่วน 148 00:08:08,447 --> 00:08:11,033 รัฐบาลเริ่มทุ่มเงินในการวิจัย 149 00:08:11,116 --> 00:08:12,993 นำไปสู่ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์แบบใหม่ 150 00:08:13,077 --> 00:08:14,995 ว่าทำไมการลดน้ำหนักจึงยากเย็นนัก 151 00:08:15,788 --> 00:08:19,208 เจ็ดฤดูกาลแล้วที่บิ๊กเกสต์ลูสเซอร์ สร้างฮีโร่คนใหม่ให้คุณ 152 00:08:19,792 --> 00:08:21,502 คนพวกนี้ไม่เหมือนคุณ 153 00:08:22,461 --> 00:08:23,587 พวกเขาคือคุณ 154 00:08:24,588 --> 00:08:26,882 เดอะบิ๊กเกสต์ลูสเซอร์ คือประสบการณ์การวิจัยที่ไม่เหมือนใครจริงๆ 155 00:08:26,966 --> 00:08:29,009 เพราะมันคือครั้งแรกที่เราสามารถศึกษา คนที่ลดน้ำหนักไปได้เยอะมาก 156 00:08:31,720 --> 00:08:35,140 มากกว่า 130 ปอนด์โดยเฉลี่ย ภายในเจ็ดเดือน 157 00:08:35,224 --> 00:08:39,144 และคนพวกนี้เริ่มต้น จากการเป็นโรคอ้วนอย่างรุนแรงที่สุด 158 00:08:39,728 --> 00:08:44,775 โรคอ้วนคือการมีดัชนีมวลกาย หรือบีเอ็มไอมากกว่า 30 159 00:08:44,858 --> 00:08:48,112 นี่คือระดับของผู้แข่งขันเดอะบิ๊กเกสต์ลูสเซอร์ 160 00:08:48,195 --> 00:08:51,699 เราศึกษาคนกลุ่มนี้อยู่หกปีหลังการแข่งขัน น้ำหนักของพวกเขาเพิ่มกลับมา สองในสามของน้ำหนักที่ลดไปโดยเฉลี่ย 161 00:08:55,786 --> 00:08:59,665 สิ่งที่น่าประหลาดใจอย่างหนึ่งคือ กระบวนการเผาผลาญของพวกเขาช้าลง 162 00:08:59,748 --> 00:09:01,208 กว่าที่คุณคาดคิดเยอะมาก 163 00:09:01,500 --> 00:09:03,502 กระบวนการเผาผลาญคืออะไร 164 00:09:03,586 --> 00:09:07,214 กระบวนการเผาผลาญ จริงๆ แล้วคือพลังงานที่ต้องการ 165 00:09:07,298 --> 00:09:09,049 เพื่อให้เซลล์และเนื้อเยื่อมีชีวิต 166 00:09:09,383 --> 00:09:11,677 อาหารที่เรากินคือแหล่งพลังงานของเรา 167 00:09:12,803 --> 00:09:16,473 พลังงานส่วนใหญ่นั้น ประมาณ 70 ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ 168 00:09:16,557 --> 00:09:20,394 ถูกนำไปใช้ในกระบวนการต่างๆ ของร่างกายโดยเฉพาะ เช่นการย่อยอาหาร 169 00:09:20,477 --> 00:09:23,355 ทำให้หัวใจเต้น ทำให้ผมยาว เป็นต้น 170 00:09:23,856 --> 00:09:27,109 ไม่ใช่เพื่อเดิน ไม่ใช่เพื่อขี่จักรยาน ไม่ใช่เพื่อวิ่งเหยาะๆ 171 00:09:27,401 --> 00:09:31,322 กิจกรรมทางกายภาพนั้น ดีต่อความตึงตัวของกล้ามเนื้อและสุขภาพโดยรวม 172 00:09:31,405 --> 00:09:33,574 แต่มันไม่ได้เผาผลาญแคลอรีมากขนาดนั้น 173 00:09:33,657 --> 00:09:37,995 และหลังจากออกกำลังกาย คนเรามักจะ กินแคลอรีมากขึ้น ซึ่งก็ไม่ช่วยเช่นกัน 174 00:09:38,787 --> 00:09:41,248 การลดน้ำหนักไม่ใช่แค่ต้องใช้ความตั้งใจจริง 175 00:09:41,582 --> 00:09:44,585 จริงๆ แล้วร่างกายเรา ค่อนข้างต่อต้านการเปลี่ยนแปลงน้ำหนัก 176 00:09:44,668 --> 00:09:46,211 โดยเฉพาะเมื่อมันลดลง 177 00:09:46,879 --> 00:09:48,464 และยังมีเลปติน 178 00:09:48,547 --> 00:09:51,383 ฮอรโมนที่ส่งสัญญาณไปยังสมองว่าคุณหิวแค่ไหน 179 00:09:51,467 --> 00:09:54,887 งานวิจัยหลายชิ้นพบว่าระดับเลปตินจะต่ำกว่า 180 00:09:55,012 --> 00:09:56,430 ในคนที่เพิ่งน้ำหนักลด 181 00:09:56,764 --> 00:09:58,682 ช่วงท้ายของการแข่งเดอะบิ๊กเกสต์ลูสเซอร์ 182 00:09:58,766 --> 00:10:01,769 เราแทบวัดระดับเลปติน ในเลือดของพวกเขาไม่ได้เลย 183 00:10:01,852 --> 00:10:03,979 มันก็เลยเหมือนเป็นการซวยซ้ำสอง 184 00:10:04,063 --> 00:10:05,773 คุณเผาผลาญแคลอรีน้อยลง 185 00:10:05,856 --> 00:10:09,652 และคุณอยากกินแคลอรี มากกว่าก่อนที่คุณจะลดน้ำหนักเสียอีก 186 00:10:09,735 --> 00:10:13,822 คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยใช้ มาตรการรุนแรงขนาดนั้นในการลดน้ำหนัก 187 00:10:13,906 --> 00:10:15,074 หรือพยายามถอยห่างจากมัน 188 00:10:15,157 --> 00:10:17,951 แต่ก็ยังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง กระบวนการเผาผลาญเหมือนกัน 189 00:10:18,035 --> 00:10:19,787 และบางคนก็มีการเปลี่ยนแปลง ในเลปตินเหมือนกัน 190 00:10:19,870 --> 00:10:22,873 เหนือสิ่งอื่นใด ยังมีบางส่วนในร่างกายเรา 191 00:10:22,956 --> 00:10:25,626 และในการลดน้ำหนักที่เราควบคุมไม่ได้จริงๆ 192 00:10:25,959 --> 00:10:26,960 พันธุกรรมของเรานั่นเอง 193 00:10:27,044 --> 00:10:30,964 ความแตกต่างมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ของแต่ละคนและน้ำหนักของพวกเขา 194 00:10:31,048 --> 00:10:32,466 เป็นเพราะพันธุกรรมของพวกเขา 195 00:10:32,591 --> 00:10:35,135 นั่นไม่ได้แปลว่าน้ำหนักของคุณ ถูกกำหนดด้วยพันธุกรรมของคุณ 196 00:10:35,636 --> 00:10:38,806 แต่พันธุกรรมบางตัว ทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะน้ำหนักเกิน 197 00:10:38,889 --> 00:10:40,265 ตามสภาพแวดล้อม 198 00:10:40,933 --> 00:10:44,520 แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้เช่นกันคือ พันธุกรรมไม่เคยเปลี่ยนแปลงจนประเมินค่าได้ 199 00:10:44,603 --> 00:10:45,604 ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา 200 00:10:45,688 --> 00:10:48,607 ซึ่งสอดคล้องกับ การระบาดของโรคอ้วนที่เพิ่มมากขึ้น 201 00:10:49,191 --> 00:10:52,820 พันธุกรรมของเราอาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมาย แต่สภาพแวดล้อมของอาหารเปลี่ยน 202 00:10:53,320 --> 00:10:58,784 ในสหรัฐฯ อาหารที่ผ่านกระบวนการผลิตที่มี แคลอรีสูง เดี๋ยวนี้มักจะราคาถูกและหาง่ายกว่า 203 00:10:58,867 --> 00:11:01,662 อาหารเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะในย่านที่รายได้ต่ำ 204 00:11:02,204 --> 00:11:05,874 นั่นคือส่วนหนึ่งที่ทำให้อัตราของโรคอ้วน ในสหรัฐฯ แตกต่างกันมาก 205 00:11:05,958 --> 00:11:07,584 ในกลุ่มเชื้อชาติที่แตกต่างกัน 206 00:11:08,043 --> 00:11:11,171 และชาวอเมริกันหลายล้านคน ก็ไม่ได้อยู่ใกล้ซูเปอร์มาร์เก็ต 207 00:11:11,255 --> 00:11:13,298 และหาของสดได้ไม่ง่ายด้วย 208 00:11:18,804 --> 00:11:21,432 สภาพแวดล้อมของอาหารที่ผมหาซื้อได้ 209 00:11:21,765 --> 00:11:23,308 และชุมชนที่ผมโตมา 210 00:11:23,892 --> 00:11:25,686 มันจำกัดมากครับ 211 00:11:25,769 --> 00:11:28,689 มีพวกแมคโดนัลด์ ป็อปอายส์ ไวท์คาสเซิล 212 00:11:28,772 --> 00:11:30,065 ร้านอาหารจานด่วนเยอะมาก 213 00:11:30,649 --> 00:11:33,902 เป็นเวลาหลายศตวรรษ ที่เราต้องปลูกและทำอาหารเอง 214 00:11:33,986 --> 00:11:36,739 และภูมิปัญญานั้นก็ถูกส่งต่อจากพ่อแม่สู่ลูก 215 00:11:37,156 --> 00:11:41,452 ไร่ในเมืองเช่นที่นี่พยายาม นำภูมิปัญญานั้นกลับมาให้คนรุ่นใหม่ 216 00:11:41,535 --> 00:11:44,413 การได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับสารอาหาร 217 00:11:44,496 --> 00:11:46,248 และนำมาใช้ในชีวิตผมเอง 218 00:11:46,749 --> 00:11:48,542 มันเปลี่ยนให้ชีวิตผมดีขึ้นจริงๆ ครับ 219 00:11:48,959 --> 00:11:51,795 อำนาจมากมายเหลือเกินที่เราควบคุมไม่ได้ 220 00:11:51,879 --> 00:11:53,589 สภาพแวดล้อมของเรา พันธุกรรมของเรา 221 00:11:53,881 --> 00:11:55,841 การลดน้ำหนักอาจรู้สึกสิ้นหวัง 222 00:11:55,924 --> 00:11:58,177 แต่ไม่เลย จำการวิจัยสแตนฟอร์ดได้ไหม 223 00:11:58,594 --> 00:12:02,473 การให้ความสำคัญกับการกินอาหาร จากธรรมชาติ ทำให้ลดน้ำหนักได้จริงๆ 224 00:12:03,307 --> 00:12:05,934 และแม้ว่าอาหารจากธรรมชาติบางอย่าง จะมีแคลอรีสูงมาก 225 00:12:06,018 --> 00:12:08,395 แต่มันก็มีสารอาหารมากกว่าและอิ่มกว่า 226 00:12:08,479 --> 00:12:10,522 คุณจึงไม่ค่อยเลิกกินมัน 227 00:12:10,606 --> 00:12:12,900 ด้วยการไม่เน้นการนับแคลอรี 228 00:12:12,983 --> 00:12:16,195 ด้วยการเน้นกินคาร์บต่ำหรือไขมันต่ำ 229 00:12:16,278 --> 00:12:19,448 พวกเขาบอกจริงๆ ตอนที่เราถามพวกเขาว่ากินอะไร 230 00:12:19,531 --> 00:12:23,410 ทำให้ได้รู้ตัวว่ากินน้อยลง 500 แคลอรีต่อวัน 231 00:12:23,494 --> 00:12:26,705 สิ่งที่เราประทับใจคือ พวกเขาไม่รู้สึกหิวอย่างที่ควรจะเป็น 232 00:12:27,372 --> 00:12:30,876 ไม่เหมือนถ้าเราบอกว่า "โอเค เอาทุกอย่างที่คุณกินมาและลดลง 233 00:12:30,959 --> 00:12:32,503 หนึ่งในสี่หรือหนึ่งในสาม" 234 00:12:32,586 --> 00:12:35,589 และนั่นคือกุญแจสู่การลดน้ำหนักให้สำเร็จ 235 00:12:35,672 --> 00:12:37,341 หาอาหารที่คุณจะกินได้นาน 236 00:12:37,424 --> 00:12:38,801 มันจะได้ไม่ใช่การลดน้ำหนักอีกต่อไป 237 00:12:38,884 --> 00:12:40,177 เป็นแค่วิธีการกินของคุณ 238 00:12:40,511 --> 00:12:44,014 ความเห็นเหมือนๆ กัน ที่เราได้จากคนส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ 239 00:12:44,097 --> 00:12:47,476 นั่นคือเราได้ช่วยให้พวกเขา เปลี่ยนความสัมพันธ์ที่มีกับอาหาร 240 00:12:48,227 --> 00:12:50,729 และถึงแม้พวกเขาจะไปไม่ถึงน้ำหนักที่ตั้งเป้าไว้ 241 00:12:50,813 --> 00:12:53,941 ความสัมพันธ์ใหม่ที่พวกเขามีกับอาหาร ก็ทำให้พวกเขาสุขภาพดีขึ้นมาก 242 00:12:54,024 --> 00:12:57,736 ฉันสามารถก้าวออกมาจาก ระยะก่อนเป็นเบาหวาน 243 00:12:57,820 --> 00:13:01,740 ฉันไม่อยากออกไปกินลาซานญ่า กับพิซซ่าอีกจานแล้ว 244 00:13:01,824 --> 00:13:05,118 ฉันอยากออกไปกิน อาจจะเป็นสลัดผักสีเขียว 245 00:13:05,202 --> 00:13:10,082 และฉันอาจจะกินพิซซ่าสักหนึ่งชิ้น แต่ฉันจะสั่งแบบมังสวิรัติอะไรแบบนั้น 246 00:13:12,876 --> 00:13:15,712 ในประวัติศาสตร์มนุษย์ส่วนใหญ่ เราอาศัยอยู่ในชุมชน 247 00:13:15,796 --> 00:13:19,049 ที่สุ่มเสี่ยงต่อการ ขาดแคลนอาหารและอดอยาก 248 00:13:19,591 --> 00:13:22,719 เฝ้าฝันถึงดินแดนมหัศจรรย์ ที่เต็มไปด้วยอาหารแสนอร่อย หากินง่าย 249 00:13:23,595 --> 00:13:28,475 สิ่งที่แปลกมากในทุกวันนี้คือสำหรับพวกเรา หลายๆ คน โลกมีดินแดนมหัศจรรย์มากเกินไป 250 00:13:28,559 --> 00:13:31,812 ซึ่งเราสามารถกินได้เท่าที่ต้องการ ทุกเมื่อที่ต้องการ 251 00:13:31,895 --> 00:13:34,147 แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ เราก็ยังต้องดิ้นรน 252 00:13:34,690 --> 00:13:36,900 ผมว่าเหตุผลสำคัญสุด ที่คนลดน้ำหนักไม่สำเร็จ 253 00:13:36,984 --> 00:13:39,862 ก็เพราะพวกเขาเน้นแค่ ส่วนประกอบของการลดน้ำหนัก 254 00:13:39,945 --> 00:13:44,491 กลไกชีวภาพของมนุษย์ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้เรารักษาน้ำหนักไว้ 255 00:13:44,575 --> 00:13:47,619 และกลไกชีวภาพก็ไม่ชอบให้ต่อสู้ 256 00:13:47,703 --> 00:13:49,246 แต่การลดน้ำหนักสำเร็จได้ 257 00:13:49,329 --> 00:13:52,708 คุณแค่ต้องกินแคลอรีให้น้อยลง และทำให้ได้เรื่อยๆ 258 00:13:52,916 --> 00:13:56,336 ไม่มีอาหารวิเศษอะไรที่ช่วยให้ทุกคนทำแบบนั้นได้ 259 00:13:56,420 --> 00:13:58,297 สิ่งสำคัญคือสิ่งนี้ 260 00:13:58,380 --> 00:14:00,883 คำแนะนำเกี่ยวกับ การควบคุมอาหารนั้นง่ายมาก 261 00:14:00,966 --> 00:14:04,094 กินผลไม้และผัก อย่ากินอาหารขยะมากเกินไป 262 00:14:04,177 --> 00:14:05,929 และรักษาสมดุลแคลอรีที่บริโภคเข้าไป 263 00:14:06,013 --> 00:14:07,973 กับระดับกิจกรรมที่คุณทำ 264 00:14:08,056 --> 00:14:11,727 พยายามกินอาหาร ที่ไม่ผ่านกระบวนการผลิตให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ 265 00:14:11,810 --> 00:14:14,563 ไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่านี้เลยค่ะ