1 00:00:06,591 --> 00:00:09,719 ‎มาจินตนาการกันสักครู่ถึงทุกวิถีทาง ‎ที่ทำให้โลกนี้จบสิ้นได้ 2 00:00:11,471 --> 00:00:13,139 ‎อาจมาจากบนฟ้า 3 00:00:13,931 --> 00:00:15,349 ‎หรืออาจมาจากใต้พิภพ 4 00:00:18,811 --> 00:00:20,938 ‎หรือเราอาจทำตัวเอง 5 00:00:21,397 --> 00:00:23,191 ‎แต่เหตุหนึ่งที่ติดอันดับเป็นประจำ 6 00:00:23,274 --> 00:00:25,902 ‎ในฐานะของหนึ่งในสาเหตุที่อาจทำให้โลกแตก 7 00:00:26,611 --> 00:00:29,739 ‎ถ้าคิดถึงอะไรก็ตามที่อาจเกิดขึ้นแล้วฆ่า 8 00:00:29,822 --> 00:00:31,407 ‎ผู้คนนับล้าน 9 00:00:31,491 --> 00:00:33,826 ‎โรคระบาดคือความเสี่ยงใหญ่หลวงที่สุดของเรา 10 00:00:34,202 --> 00:00:38,873 ‎โรคระบาดคือโรคที่หลุดรอดจากการควบคุม ‎แพร่กระจายไปทั่วโลก 11 00:00:38,956 --> 00:00:41,918 ‎สังหารคนนับล้าน และเปลี่ยนแปลงอารยธรรม 12 00:00:42,460 --> 00:00:44,504 ‎เรารู้เพราะเราเคยประสบมันมาแล้ว... 13 00:00:44,796 --> 00:00:45,671 ‎สองสามครั้ง 14 00:00:46,130 --> 00:00:50,176 ‎ในศตวรรษที่หก ‎โรคระบาดคร่าชีวิตประชากรครึ่งโลก 15 00:00:50,593 --> 00:00:52,929 ‎ในศตวรรษที่ 14 มันกวาดล้างคน ‎หายไปครึ่งทวีปยุโรป 16 00:00:53,554 --> 00:00:57,975 ‎ในศตวรรษที่ 20 โรคระบาดคร่าชีวิต ‎เกือบร้อยละห้าของประชากรโลก 17 00:00:58,059 --> 00:00:59,185 ‎ภายในเวลาเพียงสองปี 18 00:01:00,686 --> 00:01:02,188 ‎แต่นั่นก็เป็นร้อยปีมาแล้ว 19 00:01:02,605 --> 00:01:06,150 ‎เราเรียนรู้จากโรคระบาดในอดีต ‎และคิดค้นพัฒนาการที่น่าทึ่งมากมาย 20 00:01:06,984 --> 00:01:11,489 ‎พัฒนาการตอบสนอง การฝึกฝน คณะทำงาน 21 00:01:11,572 --> 00:01:15,076 ‎เราพัฒนาระบบสอดส่อง พัฒนาการสื่อสาร 22 00:01:15,159 --> 00:01:18,621 ‎เรามีองค์กรอย่างองค์การอนามัยโลก ‎กรมควบคุมโรค 23 00:01:18,704 --> 00:01:23,835 ‎เราพัฒนาการวินิจฉัยโรค ‎ยา การรักษา วัคซีน 24 00:01:24,335 --> 00:01:27,547 ‎แต่ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นอีกครั้ง ‎กลับสูงขึ้นกว่าที่เคยมีมา 25 00:01:27,964 --> 00:01:29,215 ‎เราคำนวณกันแล้ว 26 00:01:29,298 --> 00:01:32,593 ‎เราคาดการณ์ว่ามีโรคใหม่เกิดขึ้น ‎ประมาณห้าโรค 27 00:01:32,677 --> 00:01:34,053 ‎ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้ทุกปี 28 00:01:34,137 --> 00:01:35,638 ‎และอัตรานั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 29 00:01:35,721 --> 00:01:38,182 ‎ดังนั้นจึงเลี่ยงไม่ได้ที่มันจะกลายเป็นโรคระบาด 30 00:01:38,266 --> 00:01:40,434 ‎ธรรมชาติคือผู้ก่อการร้ายทางชีวภาพตัวยง 31 00:01:41,018 --> 00:01:43,604 ‎เรากำลังแข่งกับเวลา ‎และเดิมพันก็สูงเป็นประวัติการณ์ 32 00:01:44,689 --> 00:01:49,110 ‎ภาพจำลองนี้ประเมินว่าโรคระบาด ‎ในปัจจุบันสามารถสังหารคน 33 ล้าน 33 00:01:49,193 --> 00:01:50,695 ‎ภายในแค่หกเดือน 34 00:01:51,362 --> 00:01:57,410 ‎ในแง่ของยอดผู้เสียชีวิต โรคระบาดสูสีกับ ‎มหาสงครามในอดีตเลยด้วยซ้ำ 35 00:01:57,535 --> 00:01:59,245 ‎เศรษฐกิจจะปิดตัวลง 36 00:01:59,328 --> 00:02:04,458 ‎มนุษยชาติจะสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ‎และจะไม่มีประเทศใดที่ไม่ได้รับผลกระทบ 37 00:02:04,542 --> 00:02:06,627 ‎จากปัญหาที่โรคระบาดก่อขึ้น 38 00:02:06,711 --> 00:02:09,463 ‎ดังนั้นคำถามจึงไม่ใช่ว่า ‎โรคระบาดครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ 39 00:02:09,630 --> 00:02:12,717 ‎โลกนี้มีเพียงสามสิ่งเท่านั้นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 40 00:02:12,800 --> 00:02:14,302 ‎ความตาย ภาษี และไข้ระบาด 41 00:02:14,385 --> 00:02:16,679 ‎หรือ... โรคระบาดครั้งถัดไปจะเกิดที่ไหน 42 00:02:16,762 --> 00:02:19,724 ‎เราคาดการณ์ว่ามีไวรัสประมาณ 1.3 ล้านชนิด 43 00:02:19,807 --> 00:02:21,934 ‎ที่เรายังไม่รู้จักอยู่ในสัตว์ป่า 44 00:02:22,018 --> 00:02:25,605 ‎และไวรัสหนึ่งในนั้น ‎อาจแพร่สู่ประชากรมนุษย์ตอนนี้เลยก็ได้ 45 00:02:25,688 --> 00:02:26,898 ‎คำถามก็คือ... 46 00:02:27,398 --> 00:02:28,941 ‎เราพร้อมรับมือกับมันหรือไม่ 47 00:02:29,567 --> 00:02:32,904 ‎เราต้องจัดการกับไข้หวัดใหญ่ระบาดอย่างจริงจัง 48 00:02:32,987 --> 00:02:36,115 ‎โลกเรากำลังต่อสู้กับเชื้ออีโบล่าที่ร้ายแรง ‎ที่สุดในประวัติศาสตร์ 49 00:02:36,365 --> 00:02:37,700 ‎เดิมพันครั้งนี้สูงสุดเท่าที่เคยมีมา 50 00:02:37,783 --> 00:02:40,703 ‎ไวรัสอาจทำลายล้างได้รุนแรงพอๆ กับ ‎ระเบิดหรือขีปนาวุธ 51 00:02:40,995 --> 00:02:43,831 ‎เชื้อโรคไม่รู้จักขอบเขต 52 00:02:43,915 --> 00:02:47,835 ‎ผู้อาศัยเชื่อว่าเมืองของพวกเขา ‎เป็นแหล่งไข้หวัดหมูระบาด 53 00:02:47,960 --> 00:02:50,671 ‎สัตว์ทุกชนิดอาจเป็นตัวการได้ทั้งนั้น 54 00:02:50,922 --> 00:02:54,050 ‎ผู้ป่วยสามารถรักษาได้ แต่ในระหว่างนั้น 55 00:02:54,133 --> 00:02:55,384 ‎บุคคลนั้นจะแพร่เชื้อ 56 00:02:55,468 --> 00:02:58,429 ‎โครงการรณรงค์ต่อต้านโรคติดต่อจะสำเร็จได้ 57 00:02:58,512 --> 00:03:00,014 ‎หากประชาชนให้ความร่วมมือ 58 00:03:00,097 --> 00:03:03,726 ‎เราก็แค่ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร 59 00:03:05,770 --> 00:03:08,981 ‎โรคระบาดเริ่มต้นในโลกที่ ‎มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า 60 00:03:10,233 --> 00:03:12,985 ‎จุลินทรีย์อาจเป็นสิ่งมีชีวิตสิ่งแรกบนโลกนี้ 61 00:03:13,277 --> 00:03:15,029 ‎หลายชนิดขยายพันธุ์เองไม่ได้ 62 00:03:15,279 --> 00:03:17,531 ‎พวกมันจึงต้องยึดเซลล์สิ่งมีชีวิตอื่นๆ 63 00:03:17,615 --> 00:03:19,408 ‎ทุกวันนี้พวกมันอยู่รอบตัวเรา 64 00:03:19,909 --> 00:03:20,993 ‎และบนตัวเรา 65 00:03:21,744 --> 00:03:22,662 ‎และภายในตัวเรา 66 00:03:23,829 --> 00:03:27,541 ‎เชื้อหลายตัวก็มาอย่างสันติ ‎แต่บางตัวก็ทำลายหรือฆ่าเซลล์ในร่างกายเรา 67 00:03:28,751 --> 00:03:30,920 ‎ไข้ ไอ จาม ท้องเสีย... 68 00:03:31,003 --> 00:03:33,130 ‎นั่นคือร่างกายของเรากำลังต่อสู้กับมัน 69 00:03:34,507 --> 00:03:38,135 ‎แต่เชื้อบางตัวก็แข็งแกร่งมาก ‎จนเอาชนะภูมิต้านทานของเราได้ 70 00:03:38,261 --> 00:03:39,220 ‎และฆ่าเรา 71 00:03:40,554 --> 00:03:43,307 ‎โรคระบาดหลักๆ แล้วเกิดขึ้นจาก ‎จุลินทรีย์สองประเภท 72 00:03:43,391 --> 00:03:44,934 ‎แบคทีเรียกับไวรัส 73 00:03:45,101 --> 00:03:50,106 ‎จุดที่น่าสนใจของไวรัสอยู่ตรงที่ ‎พวกมันปรับตัวเก่งมากเพื่อจะโดดจาก 74 00:03:50,189 --> 00:03:51,691 ‎สปีชีส์หนึ่งไปยังอีกสปีชีส์ 75 00:03:51,899 --> 00:03:55,194 ‎ไวรัสเป็นจุลินทรีย์ที่น่าจะกลายเป็น ‎โรคระบาดถัดไปได้มากที่สุด 76 00:03:55,778 --> 00:03:59,532 ‎คุณอาจพอเดาได้แล้วว่า ‎ไวรัสที่ก่อให้เกิดไข้หวัดนกนั้นมาจากนก 77 00:04:00,199 --> 00:04:01,826 ‎ไข้หวัดหมูมาจากสุกร 78 00:04:02,326 --> 00:04:04,370 ‎เอชไอวีมาจากลิงชิมแปนซี 79 00:04:04,662 --> 00:04:06,622 ‎อีโบล่าอาจจะมาจากค้างคาว 80 00:04:07,290 --> 00:04:09,417 ‎และโรคอีกมากมายมาจากยุง 81 00:04:10,668 --> 00:04:15,172 ‎พอมันแพร่เข้าสู่มนุษย์ ‎ไวรัสตัวใหม่ก็เรียกว่าไวรัสจากสัตว์สู่คน 82 00:04:15,256 --> 00:04:16,924 ‎แล้วมันก็อันตรายอย่างที่สุด 83 00:04:17,341 --> 00:04:22,221 ‎ไวรัสเหล่านี้กลายพันธุ์ไวมาก ‎ดังนั้นจึงเปลี่ยนรูปร่าง 84 00:04:22,305 --> 00:04:24,056 ‎และหลบเลี่ยงภูมิต้านทานได้รวดเร็ว 85 00:04:24,140 --> 00:04:28,060 ‎มันกลายสภาพเป็นไวรัสใหม่ ‎ทันทีที่เข้าสู่มนุษย์ 86 00:04:28,269 --> 00:04:30,229 ‎แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป 87 00:04:30,313 --> 00:04:31,397 ‎มันค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก 88 00:04:31,480 --> 00:04:34,692 ‎แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ‎ผลที่ตามมาอาจร้ายแรงมหาศาล 89 00:04:35,067 --> 00:04:38,571 ‎เราต้องขอย้อนกลับไปที่ฟาร์มในแคนซัส ‎เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน 90 00:04:39,113 --> 00:04:43,284 ‎ผู้เชี่ยวชาญไม่แน่ใจนัก แต่เชื่อว่า ‎ไข้หวัดใหญ่สเปนในปี 1918 อาจเริ่มต้นจาก 91 00:04:43,367 --> 00:04:45,995 ‎นกที่ติดเชื้อกับมนุษย์ที่ติดเชื้อ 92 00:04:46,078 --> 00:04:46,996 ‎มาเจอหมูตัวเดียวกัน 93 00:04:47,705 --> 00:04:51,125 ‎นกมีไข้หวัดนก ‎ซึ่งเป็นไวรัสไข้หวัดใหญ่ประเภทหนึ่ง 94 00:04:51,208 --> 00:04:54,837 ‎ที่แพร่เชื้อในไก่ เป็ด และห่าน ‎มาอย่างน้อยหนึ่งร้อยปี 95 00:04:55,171 --> 00:04:58,883 ‎ส่วนมนุษย์นั้นมีไข้หวัดใหญ่อีกสายพันธุ์ ‎เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล 96 00:04:58,966 --> 00:05:02,011 ‎ซึ่งนั่นทำให้มนุษย์คัดจมูกและมีไข้ตัวร้อน ‎มาหลายร้อยปีแล้ว 97 00:05:02,470 --> 00:05:05,556 ‎ไวรัสสองตัวนี้แพร่เชื้อให้แต่ละสปีชีส์ไม่ได้ 98 00:05:05,639 --> 00:05:07,516 ‎แต่ทั้งคู่แพร่เชื้อให้หมูได้ 99 00:05:07,600 --> 00:05:10,895 ‎ดังนั้นในเซลล์หนึ่งเซลล์ของหมู ‎ไวรัสสองตัวนี้จึงผสมกัน 100 00:05:11,103 --> 00:05:14,398 ‎สร้างไวรัสจากสัตว์สู่คน ‎สายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อ เอชวันเอ็นวัน 101 00:05:14,774 --> 00:05:18,444 ‎ไวรัสจากมนุษย์ในส่วนนี้ ‎ทำให้มันแพร่เชื้อให้แก่มนุษย์ได้ 102 00:05:18,611 --> 00:05:21,864 ‎แต่ไวรัสจากนกในส่วนนี้ขัดขวาง ‎ระบบภูมิต้านทานโรค 103 00:05:21,947 --> 00:05:24,617 ‎ทำให้ระบบไม่รู้จักมัน ‎และต่อสู้กับมันไม่ได้ดีนัก 104 00:05:25,659 --> 00:05:26,786 ‎ส่วนผสมที่อันตรายอย่างยิ่ง 105 00:05:27,787 --> 00:05:32,166 ‎มันฆ่าคนทั่วโลกไประหว่าง 50 ถึง 100 ล้านคน 106 00:05:32,291 --> 00:05:35,419 ‎ไม่เหมือนอะไรที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ 107 00:05:36,587 --> 00:05:38,714 ‎เราคิดถึงโรคได้ในสองระดับ 108 00:05:38,798 --> 00:05:41,133 ‎โรคนั้นแพร่เชื้อได้แค่ไหน และอันตรายแค่ไหน 109 00:05:41,759 --> 00:05:43,844 ‎นี่คือไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล 110 00:05:44,011 --> 00:05:45,554 ‎และนี่คือไข้หวัดนก 111 00:05:46,097 --> 00:05:48,599 ‎และนี่คือส่วนผสมของไข้หวัดใหญ่สเปนปี 1918 112 00:05:49,183 --> 00:05:51,519 ‎มันแพร่เชื้อได้ดีมาก ‎เพราะติดต่อได้ทางอากาศ 113 00:05:51,602 --> 00:05:55,731 ‎แปลว่าไวรัสสามารถตกค้างในอากาศ ‎และแพร่เข้าสู่คนที่สูดหายใจเข้าไป 114 00:05:55,856 --> 00:06:00,444 ‎และหนึ่งในสามของมนุษย์โลกติดเชื้อ ‎ไข้หวัดใหญ่ปี 1918 115 00:06:00,861 --> 00:06:04,115 ‎มันคร่าชีวิตร้อยละห้าของประชากรโลก 116 00:06:04,532 --> 00:06:06,951 ‎ส่วนผสมสุดท้ายคือนวัตกรรมของมนุษย์ 117 00:06:07,368 --> 00:06:10,621 ‎ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้ ‎เกิดขึ้นกลางสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง 118 00:06:11,288 --> 00:06:14,959 ‎เราส่งคนจากอเมริกาไปรบในทวีปยุโรป 119 00:06:15,042 --> 00:06:18,921 ‎จากนั้นก็พาพวกเขากลับมา ‎ดังนั้นไวรัสชนิดนี้จึงฉวยโอกาส 120 00:06:19,004 --> 00:06:22,591 ‎จากการเดินทางไปมา ‎และแพร่ไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว 121 00:06:22,675 --> 00:06:23,884 ‎และมีประสิทธิภาพมากด้วย 122 00:06:23,968 --> 00:06:28,848 ‎ที่จริง นวัตกรรมของมนุษย์ ‎มีส่วนทำให้เกิดโรคระบาดที่ผ่านมาทุกครั้ง 123 00:06:29,223 --> 00:06:31,308 ‎เพราะนำพาโรคติดตัวไปทั่วโลก 124 00:06:33,018 --> 00:06:37,189 ‎กาฬโรคมาถึงยุโรปผ่านทางเรือในศตวรรษที่ 14 125 00:06:37,773 --> 00:06:39,859 ‎เราแยกมันออกเป็นสองโรค 126 00:06:39,942 --> 00:06:44,280 ‎กาฬโรคต่อมน้ำเหลืองสังหาร ‎ผู้ที่ติดเชื้อนี้ถึงร้อยละ 60 127 00:06:44,572 --> 00:06:48,409 ‎ส่วนกาฬโรคปอดสังหารเกือบทุกคนที่ติดเชื้อนี้ 128 00:06:49,785 --> 00:06:51,203 ‎ตามมาด้วยฝีดาษ 129 00:06:51,620 --> 00:06:54,165 ‎มันอันตรายน้อยกว่ากาฬโรค 130 00:06:54,457 --> 00:06:58,627 ‎คร่าชีวิตไปร้อยละ 30 ของผู้ที่ติดเชื้อ ‎แต่ก็ติดโรคได้ไวกว่า 131 00:06:59,253 --> 00:07:01,172 ‎มนุษย์แพร่เชื้อนี้ไปทั่วโลก 132 00:07:01,297 --> 00:07:05,509 ‎ลำพังในศตวรรษที่ 20 ฝีดาษ ‎ทำมนุษย์เสียชีวิตไปราว 400 ล้านคน 133 00:07:06,010 --> 00:07:09,013 ‎โรคอื่นๆ เหล่านี้ก็กลายเป็นโรคระบาดเช่นกัน 134 00:07:10,473 --> 00:07:14,727 ‎แต่สุดท้ายเราพัฒนานวัตกรรมที่ปกป้องเราได้ 135 00:07:16,020 --> 00:07:20,232 ‎การคัดแยกผู้เดินทางชั่วคราว ‎เพื่อดูว่าติดเชื้อหรือไม่ 136 00:07:20,357 --> 00:07:21,859 ‎ปัจจุบันเรียกกันว่าด่านกักกันโรค 137 00:07:21,942 --> 00:07:23,986 ‎เป็นวิธีที่ใช้ครั้งแรกในช่วงเกิดกาฬโรค 138 00:07:24,528 --> 00:07:28,073 ‎ต่อมาเราก็ประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์ ‎ที่ทำให้เรามองเห็นศัตรู 139 00:07:28,157 --> 00:07:29,241 ‎เป็นครั้งแรก 140 00:07:30,201 --> 00:07:32,203 ‎ต่อมา เราพัฒนายาปฏิชีวนะ 141 00:07:32,536 --> 00:07:36,457 ‎นั่นทำให้โรคที่แพร่พันธุ์โดยแบคทีเรีย ‎เป็นอันตรายน้อยลงมาก 142 00:07:36,749 --> 00:07:40,669 ‎ฝีดาษทำให้เกิดการพัฒนาวัคซีนเป็นครั้งแรก 143 00:07:40,794 --> 00:07:43,214 ‎ซึ่งคุ้มกันเราจากไวรัสบางชนิด 144 00:07:44,340 --> 00:07:49,136 ‎วัคซีนทำงานด้วยการฉีดโปรตีนจากไวรัส 145 00:07:49,261 --> 00:07:53,098 ‎แล้วเราก็สร้างสารภูมิต้านทานขึ้นมา ‎มันคือเจ้าโมเลกุลเล็กๆ ที่ยึดกับ 146 00:07:53,182 --> 00:07:56,352 ‎โปรตีนเหล่านั้น และฆ่าไวรัส 147 00:07:56,435 --> 00:07:59,104 ‎แล้วค่อยขับมันออกจากร่างกาย 148 00:07:59,188 --> 00:08:03,984 ‎เมื่อเราติดเชื้อไวรัส ‎เราสามารถสร้างภูมิต้านทานได้รวดเร็ว 149 00:08:04,068 --> 00:08:06,362 ‎ส่งสารภูมิต้านทานออกไปและกำจัดไวรัส 150 00:08:06,946 --> 00:08:11,033 ‎ถ้ามีคนได้รับวัคซีนมากพอ ‎ก็แทบเป็นไปไม่ได้ 151 00:08:11,116 --> 00:08:12,576 ‎ที่โรคจะแพร่กระจาย 152 00:08:13,077 --> 00:08:16,830 ‎ดังนั้นในปี 1980 จึงมีการประกาศว่า ‎ฝีดาษถูกกำจัดหมดสิ้นแล้ว 153 00:08:17,122 --> 00:08:20,626 ‎โรคเหล่านี้ไม่คร่าชีวิตมนุษย์มากเท่าในอดีต 154 00:08:21,210 --> 00:08:26,924 ‎ยาต้านโรคเอดส์ทำให้ไวรัสเอชไอวี ‎อันตรายน้อยลงและติดได้ยากขึ้นมาก 155 00:08:27,675 --> 00:08:31,929 ‎สุดท้าย อินเทอร์เน็ตกำลังช่วยเรา ‎ตรวจจับและกักโรคไว้ล่วงหน้า 156 00:08:32,471 --> 00:08:36,934 ‎ดังนั้นการศึกษาจึงพบว่า ‎มีคนได้รับโรคติดต่อน้อยลงในปัจจุบัน 157 00:08:37,685 --> 00:08:41,355 ‎แต่ขณะเดียวกัน ‎จำนวนของโรคระบาดกลับเพิ่มขึ้น 158 00:08:41,438 --> 00:08:45,317 ‎และส่วนมากเป็นเพราะไวรัสจากสัตว์สู่คน ‎ซึ่งเพิ่มมากขึ้นทุกที 159 00:08:45,526 --> 00:08:50,531 ‎เราประมาณไว้ว่า ‎จากไวรัส 1.6 ล้านชนิดที่มีในสัตว์ป่า 160 00:08:50,656 --> 00:08:53,826 ‎เรารู้จักแค่ราวๆ 3,000 ชนิด 161 00:08:53,909 --> 00:08:56,579 ‎เท่ากับน้อยกว่าร้อยละ 0.1 เสียอีก 162 00:08:56,996 --> 00:09:01,125 ‎นั่นแปลว่าโรคระบาดครั้งถัดไปอาจเป็นไวรัส ‎ที่เราไม่ได้เตรียมตัวรับมือมาก่อน 163 00:09:01,208 --> 00:09:04,295 ‎เรารู้จักไวรัสบางชนิดที่อันตรายถึงตาย ‎แต่เราคาดว่ายังมีไวรัสอื่นๆ 164 00:09:04,420 --> 00:09:07,298 ‎ที่อันตรายยิ่งกว่า และอาจส่งต่อถึงกันได้ดีกว่า 165 00:09:07,381 --> 00:09:10,718 ‎โดยที่เราไม่มียาหรือวัคซีนเพื่อรักษา ‎ไวรัสเหล่านั้นคือภัยใหญ่ 166 00:09:11,260 --> 00:09:13,304 ‎เชื้อร้ายนี้เรียกว่าดีซีสเอ็กซ์ 167 00:09:13,887 --> 00:09:16,348 ‎และเราก็รู้ว่าเราขาดการเตรียมตัว 168 00:09:16,724 --> 00:09:18,309 ‎เพราะเราเคยประสบมันมาแล้ว 169 00:09:23,731 --> 00:09:25,941 ‎นี่คือตลาดสดในเมืองเหลียงฮัว ประเทศจีน 170 00:09:27,985 --> 00:09:31,780 ‎ต่างจากตลาดในตะวันตก ‎ซึ่งสัตว์จะตายแล้วก่อนมาถึงตลาด 171 00:09:31,864 --> 00:09:34,617 ‎ตลาดสดแห่งนี้ยังขายเนื้อที่สดมาก 172 00:09:35,242 --> 00:09:36,452 ‎ฆ่ากันให้เห็นกับตา 173 00:09:37,119 --> 00:09:39,455 ‎ที่นี่จึงเป็นแหล่งผลิตโรคดีซีสเอ็กซ์ 174 00:09:40,205 --> 00:09:43,292 ‎สัตว์สปีชีส์ต่างๆ ถูกวางทับซ้อนกัน 175 00:09:43,375 --> 00:09:46,962 ‎เลือดและเนื้อผสมกันก่อนถูกส่งต่อให้มนุษย์ ‎จากคนหนึ่งไปยังอีกคน 176 00:09:48,088 --> 00:09:52,426 ‎ตลอดเวลานั้น ไวรัสทั้งหลายก็ปะปนกัน ‎กลายพันธุ์ และเพิ่มโอกาสให้ไวรัส 177 00:09:52,509 --> 00:09:53,969 ‎ที่หาทางเข้าสู่ร่างมนุษย์จนได้ 178 00:09:55,179 --> 00:09:59,141 ‎เหตุการณ์อาจจะเป็นเช่นนี้เองเมื่อปี 2002 ‎ในตลาดแห่งหนึ่งทางใต้ของจีน 179 00:09:59,808 --> 00:10:03,520 ‎สมัยนั้น ตลาดสดในจีนขายสัตว์ป่า เช่น งู 180 00:10:03,604 --> 00:10:05,189 ‎แมวชะมด และค้างคาว 181 00:10:05,898 --> 00:10:07,441 ‎ความต้องการสัตว์พวกนี้ก็สูงมากด้วย 182 00:10:08,317 --> 00:10:12,821 ‎ในวันที่ 16 พฤศจิกายน ชายคนหนึ่ง ‎จากเมืองฝอซานป่วยหลังจากทำอาหาร 183 00:10:12,905 --> 00:10:14,531 ‎จากไก่ แมว และงู 184 00:10:14,615 --> 00:10:16,075 ‎เขามีอาการของโรคปวดบวม 185 00:10:16,659 --> 00:10:18,494 ‎มีไข้ ไอ และหายใจติดขัด 186 00:10:18,994 --> 00:10:21,080 ‎เมื่อใช้วิธีรักษาโรคปอดบวมไม่ได้ผล 187 00:10:21,163 --> 00:10:24,625 ‎ทางการจีนจึงรายงานง่ายๆ ว่าเป็น ‎"โรคปอดบวมผิดปกติ" 188 00:10:25,209 --> 00:10:26,627 ‎แต่แล้วมันก็เริ่มแพร่กระจาย 189 00:10:26,960 --> 00:10:28,212 ‎ผู้คนเริ่มล้มตาย 190 00:10:28,962 --> 00:10:33,342 ‎มีรายงานกลุ่มคนมากมายที่ติดเชื้อทางเดินหายใจ 191 00:10:33,425 --> 00:10:35,260 ‎ในโรงพยาบาลของประเทศจีน 192 00:10:35,344 --> 00:10:36,303 ‎แต่เราก็ชินแล้ว 193 00:10:36,387 --> 00:10:41,767 ‎มีเชื้อไข้หวัดใหญ่หลายสายพันธุ์ที่ ‎ทำให้เกิดไข้หวัดในเอเชียมาแล้วหลายครั้ง 194 00:10:42,267 --> 00:10:45,354 ‎และเรารับรู้ไว้เสมอ เรากังวลเสมอ 195 00:10:45,437 --> 00:10:48,649 ‎แต่เมื่อก่อนมันไม่ได้น่ากลัวสำหรับเรามากนัก 196 00:10:48,732 --> 00:10:51,318 ‎หน่วยงานอย่างกรมควบคุมโรค ‎และองค์การอนามัยโลก 197 00:10:51,402 --> 00:10:55,114 ‎เริ่มสังเกตข่าวลือเกี่ยวกับอาการป่วยเหล่านี้ 198 00:10:55,197 --> 00:11:00,327 ‎และติดต่อรัฐบาลจีนไปถามว่า "เกิดอะไรขึ้น" 199 00:11:00,411 --> 00:11:04,498 ‎รวมถึงโลกได้รู้ข่าวเรื่องโรคนี้ ‎จากการที่มีใครสักคน 200 00:11:04,581 --> 00:11:08,502 ‎จากหนึ่งในเมืองเหล่านั้นในจีน ‎ตัดสินใจเดินทางไปฮ่องกง 201 00:11:14,758 --> 00:11:17,886 ‎ฮ่องกงเป็นที่ที่ไม่เหมือนที่อื่น ‎และแย่มากหากเกิดโรคระบาดแบบนี้ 202 00:11:18,387 --> 00:11:22,433 ‎ในปี 2003 ฮ่องกงเป็นที่อยู่ของประชากร ‎ราวเจ็ดล้านคน 203 00:11:23,267 --> 00:11:26,145 ‎แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวกว่า 16 ล้านคน 204 00:11:26,270 --> 00:11:30,399 ‎มีเที่ยวบินนานาชาติกว่า 500 เที่ยวบิน ‎ออกจากท่าและลงจอดทุกวัน 205 00:11:30,733 --> 00:11:33,318 ‎ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ‎ชายคนหนึ่งเดินทางมาถึงฮ่องกง 206 00:11:33,402 --> 00:11:34,820 ‎เขารู้สึกไม่สบายอยู่แล้ว 207 00:11:36,363 --> 00:11:39,324 ‎เขาเข้าพักที่โรงแรมเมโทรโพล ‎และมุ่งหน้าขึ้นห้องพัก 208 00:11:39,408 --> 00:11:40,492 ‎ที่ชั้นเก้าของโรงแรม 209 00:11:40,576 --> 00:11:44,663 ‎ที่นั่น เขาอาเจียนหรือไอ ‎ทำให้ของเหลวกระจายไปทั่วลิฟต์ 210 00:11:44,747 --> 00:11:45,748 ‎และโถงทางเดิน 211 00:11:46,081 --> 00:11:50,085 ‎เขาทำให้คน 16 ชีวิตติดโรคด้วยวิธีนั้น ‎ซึ่งพวกเขาจะแพร่เชื้อต่อไป 212 00:11:50,169 --> 00:11:51,211 ‎ทั่วโลก 213 00:11:51,628 --> 00:11:54,173 ‎ชายในห้องนี้ขึ้นเครื่องในวันถัดไป 214 00:11:54,256 --> 00:11:58,093 ‎ไปถึงฮานอย ประเทศเวียดนาม ‎และเข้าตรวจที่โรงพยาบาล 215 00:11:58,510 --> 00:12:00,846 ‎เขาทำให้หมอและพยาบาลติดโรคไปด้วย 216 00:12:01,180 --> 00:12:03,932 ‎แพทย์คนหนึ่งนำโรคติดตัวมายังกรุงเทพฯ 217 00:12:04,892 --> 00:12:08,729 ‎ตอนนั้นเองที่องค์การอนามัยโลก ‎ประกาศเหตุฉุกเฉินระหว่างประเทศ 218 00:12:08,854 --> 00:12:11,273 ‎และตั้งชื่อโรคนั้นอย่างเป็นทางการ 219 00:12:11,565 --> 00:12:13,776 ‎โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง 220 00:12:13,859 --> 00:12:15,277 ‎หรือเรียกสั้นๆ ว่าโรคซาร์ส 221 00:12:15,652 --> 00:12:17,905 ‎ไม่กี่วันต่อมา นักวิทยาศาสตร์ก็พบสาเหตุ 222 00:12:17,988 --> 00:12:20,365 ‎ไวรัสที่พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน 223 00:12:21,700 --> 00:12:23,619 ‎กลับไปยังโรงแรมเมโทรโพล ‎ผู้หญิงในห้องนี้ 224 00:12:23,702 --> 00:12:25,746 ‎ขึ้นเครื่องบินกลับบ้านที่โทรอนโต ‎และเสียชีวิต 225 00:12:25,829 --> 00:12:28,040 ‎ลูกชายของเธอเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล 226 00:12:28,123 --> 00:12:29,875 ‎ผมจำได้ว่านั่งอยู่ที่นั่น ลูกๆ ก็อยู่ด้วย 227 00:12:29,958 --> 00:12:33,629 ‎ผมกำลังดูข่าว แล้วจู่ๆ ผมก็เห็น 228 00:12:34,087 --> 00:12:37,466 ‎ภาพโรงพยาบาลของตัวเองในข่าว ‎โรงพยาบาลเมาท์ไซนาย 229 00:12:37,633 --> 00:12:42,137 ‎นั่นเป็นครั้งแรกที่ตาสว่างเลยว่า ‎เรื่องนี้กำลังจะเป็นปัญหา 230 00:12:42,221 --> 00:12:47,935 ‎ประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น เราก็ระบุได้ว่า 231 00:12:48,018 --> 00:12:52,105 ‎มีเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลจำนวนไม่น้อย 232 00:12:52,272 --> 00:12:53,649 ‎ซึ่งป่วยเป็นโรคซาร์สด้วยเช่นกัน 233 00:12:53,732 --> 00:12:56,777 ‎ใครจะอยู่เวรวันอังคาร ต้องมีใครสักคนอยู่เวร 234 00:12:56,860 --> 00:12:58,987 ‎พวกเขาทำหน้าที่อะไร ใครจะมาทำแทน 235 00:12:59,071 --> 00:13:02,783 ‎บางครั้งการเสียแพทย์เรซิเดนท์อาวุโส ‎ในแผนกของเราแค่คนเดียว 236 00:13:02,866 --> 00:13:04,576 ‎ก็ทำให้ทั้งแผนกโกลาหลไปหมด 237 00:13:04,660 --> 00:13:07,955 ‎ตอนกลับบ้านฉันยังปกติดี แต่ตื่นขึ้นมากลางดึก 238 00:13:08,038 --> 00:13:10,457 ‎รู้สึกเป็นไข้ไม่สบายตัว และ... 239 00:13:10,582 --> 00:13:12,668 ‎แล้วฉันก็รู้ตัวว่าอาจจะป่วยด้วยโรคนั้น 240 00:13:12,751 --> 00:13:17,339 ‎พอถึงปลายเดือนมีนาคม เจ้าหน้าที่ 47 ราย ‎ในโรงพยาบาลป่วย และอีกหลายร้อย 241 00:13:17,422 --> 00:13:18,423 ‎อยู่ในด่านกักกันโรค 242 00:13:18,507 --> 00:13:19,633 ‎รวมถึงอัลลิสัน 243 00:13:20,050 --> 00:13:22,719 ‎นี่เป็นหนึ่งในเรื่องที่น่ากลัวที่สุดของซาร์ส 244 00:13:22,803 --> 00:13:25,931 ‎อาการระยะแรกเริ่มไม่ค่อยชัดเจนและดูยาก 245 00:13:26,014 --> 00:13:28,433 ‎ทำให้ระบาดได้แม้แต่ในโรงพยาบาล ‎ที่มีเครื่องมือก้าวหน้า 246 00:13:29,268 --> 00:13:31,770 ‎ย้อนกลับไปที่ฮ่องกง ฝันร้ายได้เกิดขึ้น 247 00:13:31,854 --> 00:13:33,981 ‎ซาร์สระบาดไปไวกว่าทุกโรค 248 00:13:34,606 --> 00:13:37,484 ‎ชายผู้ป่วยโรคซาร์สหนึ่งคน ‎อาศัยในห้องชุดห้องนี้ 249 00:13:37,860 --> 00:13:41,822 ‎เขามีอาการท้องร่วง และเมื่อใช้ห้องน้ำ ‎ไวรัสซาร์สก็ถูกส่งต่อ 250 00:13:41,905 --> 00:13:45,367 ‎ผ่านท่อระบายน้ำลงไปห้องชั้นล่าง ‎ที่ซึ่งพัดลดเป่าเชื้อไวรัส 251 00:13:45,450 --> 00:13:49,413 ‎กลับเข้าไปในระบบระบายอากาศของอาคาร ‎และเข้าไปยังห้องชุดชั้นบน 252 00:13:50,038 --> 00:13:53,166 ‎จากนั้นเป็นไปได้ว่าลมจะพัดเชื้อไวรัส ‎ไปยังอาคารในละแวกนั้น 253 00:13:53,250 --> 00:13:55,335 ‎ทำให้ควบคุมเชื้อได้ยากมาก 254 00:13:55,419 --> 00:13:57,129 ‎นั่นเป็นสถานการณ์ที่เหมือนฝันร้ายจริงๆ 255 00:13:57,212 --> 00:14:00,799 ‎เราไม่ได้ติดต่อทางกายกับบุคคล ‎ที่ทราบแน่ชัดว่าติดเชื้อ 256 00:14:00,883 --> 00:14:03,760 ‎เท่ากับเราตามรอยได้ยากขึ้นมาก ‎เพราะเราไม่รู้ว่า 257 00:14:03,844 --> 00:14:06,096 ‎แหล่งเชื้อโรคที่ทำให้เกิดโรคติดต่อนั้นอยู่ที่ไหน 258 00:14:06,638 --> 00:14:10,684 ‎รวมทั้งหมดมีคนติดเชื้อ ‎ในอะพาร์ตเมนต์แห่งนี้ 329 ราย 259 00:14:10,851 --> 00:14:12,519 ‎และอีกหลายร้อยอยู่ในด่านกักกันโรค 260 00:14:13,896 --> 00:14:15,522 ‎ถึงตอนนั้น โลกกำลังตื่นตระหนก 261 00:14:16,565 --> 00:14:21,320 ‎ความกลัวที่สุนัขและแมวอาจเป็นพาหะโรคซาร์ส ‎ทำให้ผู้อาศัยในกรุงปักกิ่งบางคน 262 00:14:21,403 --> 00:14:23,280 ‎ทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงที่รัก 263 00:14:23,363 --> 00:14:27,576 ‎หน่วยงานแท็กซี่ตั้งจุดตรวจคนขับ ‎เพื่อวัดอุณหภูมิสูง 264 00:14:27,659 --> 00:14:29,453 ‎ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารของโรคซาร์ส 265 00:14:29,578 --> 00:14:32,539 ‎ส่วนหนึ่งทั้งหมดเป็นเพราะสาธารณชน 266 00:14:32,664 --> 00:14:34,458 ‎ไว้ใจคำพูดที่ทางการบอกกับเรา 267 00:14:34,541 --> 00:14:38,378 ‎เราไม่ต้องสงสัยเลยจริงๆ หรือเปล่าว่านี่อาจจะ 268 00:14:38,462 --> 00:14:42,799 ‎เป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย ‎หรืออะไรทำนองนั้น 269 00:14:42,883 --> 00:14:46,261 ‎ผมว่าในเดือนมีนาคม ปี 2003 แบบนี้ ‎เราตัดเรื่องไหนออกไม่ได้เลย 270 00:14:46,345 --> 00:14:50,557 ‎ในฮ่องกงมีผู้ติดเชื้อ 1,755 ราย ‎และเสียชีวิต 300 ราย 271 00:14:50,682 --> 00:14:54,519 ‎ในโทรอนโต มีผู้ติดเชื้อ 251 ราย ‎และเสียชีวิต 41 ราย 272 00:14:54,770 --> 00:14:57,606 ‎รวมถึงเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ ‎อย่างน้อย 26 ประเทศ 273 00:14:58,148 --> 00:15:03,153 ‎สุดท้ายแล้ว ซาร์สคร่าชีวิตผู้คนไป 774 ราย ‎หรือประมาณร้อยละสิบของผู้ที่ติดเชื้อ 274 00:15:03,362 --> 00:15:06,615 ‎แต่แล้วซาร์สก็ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด... 275 00:15:06,865 --> 00:15:10,035 ‎ซาร์สมีเรื่องน่าตลกอยู่ที่ว่า ‎หลังจากผ่านไปสักพัก มันก็หายไปเอง 276 00:15:10,160 --> 00:15:12,579 ‎ซาร์สไม่ใช่ไวรัสที่อยู่ทน 277 00:15:12,663 --> 00:15:15,874 ‎ตอนนั้นเราไม่รู้ว่ามันหายไปเมื่อไหร่ ‎แต่มันก็เป็นแบบนั้น 278 00:15:15,958 --> 00:15:18,710 ‎แต่ผมว่าไม่ใช่เรื่องราวความสำเร็จหรอกนะ 279 00:15:18,794 --> 00:15:20,170 ‎ผมว่าส่วนใหญ่เราก็แค่โชคดี 280 00:15:20,671 --> 00:15:22,673 ‎เพราะเกิดความผิดพลาดขึ้นมากมาย 281 00:15:23,090 --> 00:15:28,220 ‎เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนแค่ยอมรับ ‎ว่ามีโรคระบาดหลังจากมี 18 คนได้เสียชีวิตไป 282 00:15:28,303 --> 00:15:29,972 ‎และมีคนป่วยอีกหลายร้อยคน 283 00:15:30,472 --> 00:15:33,475 ‎เราจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อแก้ไข ‎และปรับปรุงความอ่อนด้อย 284 00:15:33,558 --> 00:15:35,227 ‎และข้อผิดพลาดในงานของเรา 285 00:15:35,310 --> 00:15:38,438 ‎หลังโรคซาร์สระบาด องค์การอนามัยโลก 286 00:15:38,522 --> 00:15:42,609 ‎จัดประชุม 196 ประเทศ ‎ทุกประเทศต่างตกลงที่จะปรับปรุง 287 00:15:42,693 --> 00:15:48,240 ‎การ "ตรวจจับ ประเมิน แจ้งเตือน ‎และการรายงานสถานการณ์สาธารณสุข" 288 00:15:48,699 --> 00:15:49,866 ‎รวมถึงโรคระบาด 289 00:15:50,283 --> 00:15:54,413 ‎ในปี 2014 มีเพียงหนึ่งในสามที่ทำตามนั้น 290 00:15:55,789 --> 00:16:01,628 ‎ปัญหาใหญ่ของโรคระบาดก็คือ ‎เราไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ 291 00:16:01,712 --> 00:16:04,381 ‎ดังนั้นจึงผัดผ่อนไปเรื่อยๆ ได้ง่ายมาก 292 00:16:04,464 --> 00:16:07,926 ‎ต้องใช้มาตรการทางการเมืองจริงจังเพื่อบอกว่า 293 00:16:08,010 --> 00:16:11,596 ‎"ใช่ ตอนนี้สถานการณ์ดูไม่เลวร้ายขนาดนั้นก็จริง 294 00:16:11,680 --> 00:16:13,932 ‎แต่เราก็จะให้งบประมาณกับสาธารณสุขอยู่ดี 295 00:16:14,016 --> 00:16:16,893 ‎เพราะเรารู้ว่าสักวันจะต้องแย่แน่" 296 00:16:16,977 --> 00:16:22,399 ‎ซาร์สทำให้เห็นว่าไวรัสเดินทางได้ไว ‎และไปได้ไกลมากในโลกยุคใหม่ 297 00:16:22,733 --> 00:16:25,235 ‎ซาร์สไปทั่วโลกภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ 298 00:16:25,569 --> 00:16:29,322 ‎เป็นไปได้จริงๆ ว่าครั้งหน้า ‎มันจะแพร่ไปทั่วโลกในเวลาไม่กี่วัน 299 00:16:29,406 --> 00:16:31,491 ‎มันจะไวเกินกว่าที่เราจะตามได้ทัน 300 00:16:31,908 --> 00:16:34,828 ‎นั่นแปลว่าถ้าเราอยากหยุดโรคระบาดครั้งหน้า 301 00:16:34,911 --> 00:16:37,247 ‎ทางรอดที่ดีที่สุดของเราคือไล่จับมันที่ต้นตอ 302 00:16:41,043 --> 00:16:45,297 ‎ซาร์สเริ่มจากเป็นไวรัสที่อาศัยเงียบๆ ในสัตว์ป่า 303 00:16:45,714 --> 00:16:49,217 ‎ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าอยู่ในค้างคาว ‎ที่นี่ ณ ทางใต้ของจีน 304 00:16:49,843 --> 00:16:53,221 ‎นักวิทยาศาสตร์พวกนี้ ‎แวะมายังถ้ำเหล่านี้ตั้งแต่เกิดโรคระบาด 305 00:16:53,597 --> 00:16:57,309 ‎ไล่จับค้างคาวและสแกนหาไวรัสในตัวพวกมัน ‎ซึ่งใกล้เคียงกับซาร์ส 306 00:16:59,561 --> 00:17:01,646 ‎แล้วพวกเขาก็พบเจออะไรมากมาย ‎ซึ่งทำให้พวกเขา 307 00:17:01,730 --> 00:17:03,899 ‎สร้างระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าได้ 308 00:17:04,483 --> 00:17:08,361 ‎พบมันเมื่อไหร่ให้ส่งสัญญาณแจ้งเตือน ‎แล้วรัฐบาลจีนก็จะเข้ามา 309 00:17:08,487 --> 00:17:12,199 ‎พยายามลดโอกาสที่ประชาชนจะได้รับเชื้อไวรัส 310 00:17:12,324 --> 00:17:15,744 ‎จีนไม่ใช่แค่ประเทศเดียวที่พบไวรัสเหล่านี้ 311 00:17:15,869 --> 00:17:19,790 ‎แผนที่นี้แสดงให้เห็นตำแหน่งที่ ‎อาจเกิดไวรัสชนิดใหม่ได้มากที่สุด 312 00:17:20,207 --> 00:17:25,712 ‎ปราการด่านหน้าที่จะเกิดโรค ‎คือสถานที่อย่างสุดถนน 313 00:17:25,796 --> 00:17:28,173 ‎ในป่าเขตร้อนซึ่งมีคนเพิ่งสร้าง 314 00:17:28,256 --> 00:17:31,093 ‎เขตสัมปทานเหมืองแร่แห่งใหม่ ‎คนย้ายเข้ามาอยู่อาศัย 315 00:17:31,176 --> 00:17:33,845 ‎ไม่มีเสบียงอาหาร ‎พวกเขาจึงต้องออกล่าสัตว์ 316 00:17:34,179 --> 00:17:38,433 ‎หรือฟาร์มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ‎ซึ่งขยายพื้นที่และหนาแน่นขึ้น 317 00:17:38,975 --> 00:17:42,896 ‎ที่ซึ่งมีค้างคาวอยู่แถวนั้น ‎ที่จะแพร่เชื้อไวรัสใส่หมูในฟาร์ม 318 00:17:43,480 --> 00:17:48,026 ‎วิธีนี้พลิกโฉมหน้าการปกป้องมนุษย์ ‎จากโรคระบาดในอนาคต 319 00:17:48,318 --> 00:17:50,779 ‎แต่มันจับโรคใหม่ๆ ไม่ได้ทั้งหมด 320 00:17:50,862 --> 00:17:53,740 ‎ในตอนนี้ เราจำเป็นต้องพัฒนาวัคซีน 321 00:17:54,324 --> 00:17:57,702 ‎ถ้าเกิดโรคที่เราไม่เคยพบเห็นมาก่อน 322 00:17:57,786 --> 00:18:01,540 ‎ปกติต้องใช้สี่ถึงห้าปีเพื่อคิดค้นวัคซีน 323 00:18:01,623 --> 00:18:02,707 ‎ต้านโรคนั้นๆ 324 00:18:02,791 --> 00:18:06,586 ‎เทคโนโลยีใหม่ๆ อาจช่วยย่นระยะเวลาให้สั้นลง 325 00:18:06,920 --> 00:18:10,048 ‎ดังนั้นองค์กรที่เรียกว่าซีอีพีไอจึงก่อตั้งขึ้น 326 00:18:10,173 --> 00:18:13,009 ‎พวกเขากำลังพัฒนาวัคซีนต้านดีซีสเอ็กซ์ 327 00:18:13,677 --> 00:18:16,847 ‎วัคซีนแบบดั้งเดิมฉีดโมเลกุลโปรตีนจากไวรัส 328 00:18:16,930 --> 00:18:20,600 ‎การสร้างโปรตีนเหล่านั้น ‎เป็นขั้นตอนที่ยาวนานและราคาสูง 329 00:18:20,684 --> 00:18:23,228 ‎แต่วัคซีนใหม่นี้ไม่ใช้โปรตีน 330 00:18:23,436 --> 00:18:28,733 ‎มันฉีดสารพันธุกรรมซึ่งจะสั่งให้ร่างกาย ‎ผลิตโปรตีนเหล่านั้นด้วยตัวเอง 331 00:18:28,817 --> 00:18:33,363 ‎ร่างกายของเรากลายเป็นผู้ผลิต ‎สร้างโมเลกุลโปรตีน 332 00:18:33,446 --> 00:18:35,115 ‎และสร้างสารภูมิต้านทานขึ้นมา 333 00:18:35,407 --> 00:18:38,743 ‎นักวิทยาศาสตร์สามารถจัดสารพันธุกรรม ‎ตามความต้องการเพื่อให้ร่างกาย 334 00:18:38,827 --> 00:18:41,955 ‎ผลิตโมเลกุลโปรตีนของไวรัสได้เกือบทุกชนิด 335 00:18:42,122 --> 00:18:45,876 ‎ทันทีที่คิดวิธีส่งมันเข้าสู่ร่างกายได้ ‎มันจะช่วยลดเวลา 336 00:18:45,959 --> 00:18:51,256 ‎ที่จะใช้พัฒนาวัคซีนใหม่ ‎จากหลายปี... เหลือแค่  16 สัปดาห์ 337 00:18:52,299 --> 00:18:57,262 ‎ขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์กำลังพยายาม ‎พัฒนาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ครอบจักรวาล 338 00:18:57,345 --> 00:19:02,184 ‎ช็อตเดียวแต่สร้างภูมิคุ้มกัน ‎ป้องกันเราจากไข้หวัดทุกสายพันธุ์ไปตลอดชีวิต 339 00:19:02,475 --> 00:19:05,770 ‎ยังไม่มีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ครอบจักรวาล 340 00:19:05,854 --> 00:19:09,107 ‎อย่างที่พวกเขาเรียก ‎ที่นำมาให้ประชาชนใช้ได้ในเร็วๆ นี้เลย 341 00:19:09,232 --> 00:19:12,360 ‎แต่รัฐบาลกลางของสหรัฐ ‎และรัฐบาลต่างๆ ในยุโรป 342 00:19:12,444 --> 00:19:15,780 ‎ต่างสนับสนุนการวิจัยนั้นในแบบที่ไม่เคยทำ 343 00:19:16,198 --> 00:19:19,242 ‎เมื่อสองสามทศวรรษก่อนหน้านี้ ‎เพราะตอนนี้พวกเขาเข้าใจ 344 00:19:19,326 --> 00:19:23,663 ‎ว่าไข้หวัดใหญ่เป็นภัยคุกคามจริงจัง ‎ที่อยู่ยงคงกระพันมาช้านาน 345 00:19:24,164 --> 00:19:28,960 ‎ความจริงก็คือ เทคโนโลยีของมนุษย์ ‎ทำให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงโรคระบาดครั้งถัดไป 346 00:19:29,336 --> 00:19:32,714 ‎การตัดไม้ทำลายป่านำสัตว์ป่าเข้ามาติดต่อ 347 00:19:32,797 --> 00:19:33,924 ‎กับมนุษย์มากขึ้น 348 00:19:34,382 --> 00:19:39,054 ‎โรงงานฟาร์มสัตว์บีบให้สัตว์อยู่ใกล้กันมากขึ้น ‎ทำให้ไวรัสในตัวพวกมัน 349 00:19:39,137 --> 00:19:42,682 ‎มีโอกาสผสานรวมกัน ‎เป็นหนึ่งในเชื้อโรคที่ติดต่อถึงมนุษย์ได้ 350 00:19:43,266 --> 00:19:45,810 ‎แล้วเราก็มอบวิธีให้มันแพร่กระจายได้มากขึ้นอีก 351 00:19:45,894 --> 00:19:48,939 ‎แต่นวัตกรรมของมนุษย์เคยยับยั้ง ‎โรคระบาดครั้งก่อนๆ ได้ 352 00:19:49,022 --> 00:19:51,191 ‎และเป็นโอกาสเดียวของเรา ‎ที่จะใช้ต้านครั้งถัดไป 353 00:19:51,274 --> 00:19:55,946 ‎เรารู้ดี เพราะเราอยู่ในการแข่งขันนี้ ‎นับแต่ชีวิตถือกำเนิดบนโลก 354 00:19:56,321 --> 00:20:01,117 ‎เมื่อเกิดโรคระบาดไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ‎เรามักมองย้อนกลับไปและหวังว่า 355 00:20:01,243 --> 00:20:02,535 ‎เราน่าจะทุ่มเทให้มันมากกว่านี้ 356 00:20:06,206 --> 00:20:09,125 ‎เรายังห่างไกลจากสิ่งที่จำเป็นต้องทำอีกมาก 357 00:20:37,237 --> 00:20:39,239 ‎คำบรรยายโดย ศันสนีย์ โอบอ้อม