1 00:00:06,049 --> 00:00:09,135 ‎ฉันคิดว่าสิ่งที่ดึงดูดอินเดียมาเข้ากลุ่ม 2 00:00:09,719 --> 00:00:12,930 ‎ความรู้สึกของการมีจุดประสงค์ร่วมกัน 3 00:00:13,431 --> 00:00:14,849 ‎กลุ่มดังกล่าวคือเน็กเซียม 4 00:00:15,058 --> 00:00:17,935 ‎และจุดประสงค์ร่วมกันของกลุ่ม ‎คือการพัฒนาตัวเอง 5 00:00:18,311 --> 00:00:20,980 ‎ด้วยวิธีที่ผ่านการจดสิทธิบัตร ‎ที่เรียกว่า "การสอบถามด้วยเหตุผล" 6 00:00:21,064 --> 00:00:22,774 ‎เพื่อ "ความสำเร็จในการบริหาร" 7 00:00:23,107 --> 00:00:25,902 ‎ผู้นำของกลุ่มคือชายชื่อ ‎คีธ ราเนียรี่ 8 00:00:26,652 --> 00:00:29,947 ‎แต่คำกล่าวอ้างที่ว่าราเนียรี่ ‎เป็นผู้ที่มีไอคิวสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก 9 00:00:30,073 --> 00:00:33,201 ‎การที่ลูกศิษย์ต้องโค้งคำนับ ‎รูปภาพของเขาบนกำแพง 10 00:00:33,284 --> 00:00:35,161 ‎ทั้งยังต้องเรียกเขาว่า "ท่านผู้นำ" 11 00:00:35,536 --> 00:00:36,704 ‎ทำให้แคทเทอรีนตกใจ 12 00:00:36,954 --> 00:00:38,956 ‎สุดท้ายแล้ว อินเดียมาหาฉัน 13 00:00:39,040 --> 00:00:40,458 ‎บอกว่า "แม่ กลุ่มนี้แหละใช่เลย" 14 00:00:40,541 --> 00:00:42,668 ‎และฉันอ้าปากค้าง ฉันช็อกไปเลย 15 00:00:42,960 --> 00:00:46,464 ‎สุดท้ายแล้วอินเดียก็บริจาคเงิน ‎หลายแสนดอลลาร์ให้เน็กเซียม 16 00:00:46,631 --> 00:00:48,341 ‎และถูกลากเข้าไปสู่เรื่อง 17 00:00:48,424 --> 00:00:51,219 ‎ที่ร้ายแรงกว่า ‎"ความสำเร็จในการบริหาร" มาก 18 00:00:51,385 --> 00:00:53,137 ‎มีคนโทรมาหาฉัน 19 00:00:53,221 --> 00:00:56,265 ‎เธอบอกว่าในเน็กเซียม 20 00:00:56,349 --> 00:00:57,767 ‎ก็มีกลุ่มลับอยู่ 21 00:00:58,267 --> 00:01:00,478 ‎และนั่นคือครั้งแรกที่ฉันได้ยินคำว่า "ดอซ" 22 00:01:00,561 --> 00:01:03,439 ‎"ดอมินัส ออบซิเควียส ซอรอเรียม" 23 00:01:03,689 --> 00:01:06,984 ‎มันถูกโฆษณาว่าเป็นกลุ่มให้อำนาจแก่ผู้หญิง ‎แต่ว่า... 24 00:01:07,151 --> 00:01:12,573 ‎นั่นเป็นภาษาละติน แปลว่า ‎"เจ้านายเหนือทาสผู้หญิง" 25 00:01:12,824 --> 00:01:15,701 ‎แล้วยังบอกอีกว่ามีการประทับตราผู้หญิง 26 00:01:16,202 --> 00:01:19,080 ‎การประทับตราเป็นส่วนหนึ่ง ‎ในพิธีเข้าร่วมดอซ 27 00:01:19,455 --> 00:01:21,499 ‎สมาชิกใหม่จะถูกปิดตาไว้ 28 00:01:21,874 --> 00:01:23,709 ‎ถูกสั่งให้ถอดเสื้อผ้า 29 00:01:23,960 --> 00:01:25,586 ‎แล้วก็ให้นอนบนเตียงนวด 30 00:01:26,295 --> 00:01:29,757 ‎ผู้หญิงอีกสามคนจะกดขาและไหล่ ‎ของสมาชิกใหม่ลง 31 00:01:30,133 --> 00:01:31,467 ‎สมาชิกใหม่จะถูกสั่งให้พูดว่า 32 00:01:31,759 --> 00:01:34,804 ‎"นายท่าน โปรดประทับตราฉัน ‎โปรดสงเคราะห์ฉันที" 33 00:01:35,304 --> 00:01:37,765 ‎เขาบอกพวกผู้หญิงว่า ‎ตราประทับคือสัญลักษณ์แทนธาตุต่างๆ 34 00:01:38,141 --> 00:01:40,726 ‎แต่ที่จริงคือตัวย่อ ‎ของชื่อคีธ ราเนียรี่ 35 00:01:42,061 --> 00:01:45,022 ‎ในอดีตที่ผ่านมา มีกลุ่มที่เหมือนเน็กเซียม ‎มากมายหลายพันกลุ่ม 36 00:01:45,106 --> 00:01:47,233 ‎กลุ่มที่มักถูกเรียกว่า "ลัทธิ" 37 00:01:47,775 --> 00:01:49,193 ‎แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้จำนวนที่แน่นอน 38 00:01:49,277 --> 00:01:51,237 ‎เพราะลัทธิส่วนมาก ‎ยืนกรานว่าตนไม่ใช่ลัทธิ 39 00:01:51,654 --> 00:01:54,282 ‎และสมาชิกส่วนใหญ่ ‎ก็ไม่รู้ตัวว่าตนสังกัดลัทธิอยู่ 40 00:01:54,866 --> 00:01:56,742 ‎แล้วอะไรทำให้กลุ่มคนกลายเป็นลัทธิ 41 00:01:57,368 --> 00:01:59,704 ‎และทำไมบางกลุ่มถึงทำให้คนธรรมดา 42 00:01:59,787 --> 00:02:01,122 ‎ทำสิ่งที่เลวร้ายได้ 43 00:02:03,833 --> 00:02:07,295 ‎ข้าจักเป็นพระเจ้า ‎และจักไม่มีพระเจ้าองค์อื่นเคียงข้างข้า 44 00:02:07,378 --> 00:02:08,713 ‎(ผลงานซีรีส์สารคดีจาก NETFLIX) 45 00:02:08,796 --> 00:02:10,131 ‎เราอยากจะแบ่งปันความรู้นี้กับทุกคน 46 00:02:10,506 --> 00:02:12,884 ‎เรารู้สึกว่าใช้วิธีการใดก็ได้ที่จำเป็น 47 00:02:14,051 --> 00:02:15,720 ‎เพราะเราคือทายาทสวรรค์ 48 00:02:15,803 --> 00:02:17,722 ‎และพระเจ้ารู้ว่าเราทำไปทำไม 49 00:02:17,805 --> 00:02:20,683 ‎วาโกจะไม่ยอมให้ความร่วมมือแก่เอทีเอฟ 50 00:02:20,766 --> 00:02:23,311 ‎ถ้าคุณยังดึงดันจะบุกต่อ ‎ก็ต้องมีคนเจ็บตัว 51 00:02:23,644 --> 00:02:26,856 ‎เขาบอกให้คุณละทิ้งครอบครัว ‎ละทิ้งตัวตนเก่าของคุณ 52 00:02:28,149 --> 00:02:32,528 ‎ทางรอดเดียวของคุณ ‎คือไปกับพวกเรา 53 00:02:32,695 --> 00:02:37,617 ‎(ลัทธิคลั่ง) 54 00:02:38,826 --> 00:02:42,038 ‎ความรักคือยารักษาบรรเทา 55 00:02:42,455 --> 00:02:44,290 ‎ในยุคนั้น พีเพิลส์ เทมเพิล ‎แตกต่างจากกลุ่มอื่น 56 00:02:44,957 --> 00:02:48,753 ‎ในกลุ่มมีทั้งคนผิวดำ คนผิวขาว ‎อเมริกันอินเดียน และฮิสแปนิก 57 00:02:49,754 --> 00:02:52,131 ‎เราล้วนเข้าร่วม เพราะมีความคิดไร้เดียงสาว่า 58 00:02:52,256 --> 00:02:55,176 ‎"โอเค จิมบอกว่าเขาอยากได้ยูโทเปีย ‎ฉันอยากได้ยูโทเปีย" 59 00:02:55,301 --> 00:02:57,887 ‎เราคิดว่าเรากำลังเข้าร่วมขบวนการ ‎เพื่อทำให้โลกดีขึ้น 60 00:02:58,638 --> 00:03:00,014 ‎แต่สิ่งที่พวกเขาเข้าร่วมกันจริงๆ 61 00:03:00,097 --> 00:03:03,100 ‎กลับเป็นสิ่งที่ทำให้โลกได้รู้จัก ‎กับลัทธิสมัยใหม่ 62 00:03:03,351 --> 00:03:04,310 ‎ขอบคุณนะที่รัก 63 00:03:06,729 --> 00:03:09,565 ‎ปลายทศวรรษ 1970 ‎จิม โจนส์ผู้นำกลุ่ม 64 00:03:09,732 --> 00:03:11,400 ‎นำผู้ติดตามเกือบหนึ่งพันคน 65 00:03:11,484 --> 00:03:14,487 ‎จากพีเพิลส์ เทมเพิล ในแคลิฟอร์เนีย ‎ไปยังป่าในกายอานา 66 00:03:14,570 --> 00:03:15,988 ‎เพื่อสร้างโจนส์ทาวน์ 67 00:03:16,155 --> 00:03:18,407 ‎เขาโฆษณาว่าเป็นยูโทเปียที่พึ่งพาตนเองได้ 68 00:03:18,616 --> 00:03:21,035 ‎ไม่มีความรุนแรง ไม่มีการเหยียดเชื้อชาติ ‎ที่ระบาดหนักในอเมริกา 69 00:03:21,244 --> 00:03:23,079 ‎ทุกคนมีความสุขที่นี่ไหม มีความสุขไหมทอม 70 00:03:23,162 --> 00:03:24,080 ‎ครับ 71 00:03:24,163 --> 00:03:27,750 ‎ทุกคนที่นี่มีความสุข ‎แค่มองดูก็รู้ 72 00:03:28,167 --> 00:03:30,419 ‎แต่ญาติที่เป็นกังวล ‎เริ่มกดดันเจ้าหน้าที่ 73 00:03:30,503 --> 00:03:32,838 ‎ด้วยใบปลิวว่าด้วยเหตุร้ายที่โจนส์ทาวน์ 74 00:03:33,256 --> 00:03:35,174 ‎บอกว่าโจนส์ใช้ "การล้างสมอง" 75 00:03:35,466 --> 00:03:40,137 ‎ถึงขนาดจัด "การซ้อมฆ่าตัวตายหมู่" ‎เพื่อฝึกให้พวกเขา "พลีชีพ" 76 00:03:41,013 --> 00:03:44,392 ‎ลีโอ ไรอั้น ส.ส.จากแคลิฟอร์เนีย ‎บินไปที่กายอานาเพื่อสืบสวน 77 00:03:44,809 --> 00:03:45,810 ‎และไม่ได้กลับมาอีกเลย 78 00:03:45,935 --> 00:03:46,811 ‎สายไปแล้ว 79 00:03:46,894 --> 00:03:47,728 ‎(เสียงจิม โจนส์) 80 00:03:47,812 --> 00:03:49,605 ‎ส.ส.คนนั้นตายแล้ว ‎สภาตายแล้ว 81 00:03:49,689 --> 00:03:53,567 ‎ถ้าเราอยู่อย่างสงบไม่ได้ ‎งั้นมาตายอย่างสงบดีกว่า 82 00:03:59,490 --> 00:04:01,450 ‎ภาพของผู้เสียชีวิตเกือบหนึ่งพันคน 83 00:04:01,784 --> 00:04:04,578 ‎การฆาตกรรมและฆ่าตัวตายหมู่ ‎ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ 84 00:04:04,745 --> 00:04:05,788 ‎ทำให้คนทั้งโลกหวาดกลัว 85 00:04:06,080 --> 00:04:08,833 ‎สมาชิกลัทธิที่เชื่อทุกสิ่งที่จิม โจนส์พูด 86 00:04:09,083 --> 00:04:10,126 ‎ได้ฆ่าตัวตาย 87 00:04:10,209 --> 00:04:12,753 ‎บางคนโดนยิงตาย ‎แต่ส่วนมากดื่มยาพิษตาย 88 00:04:12,837 --> 00:04:15,548 ‎มีขวดโพแทสเซียมไซยาไนด์เปล่าๆ อยู่ 89 00:04:15,631 --> 00:04:17,591 ‎ครอบครัวดื่มยาพิษไปด้วยกัน 90 00:04:17,675 --> 00:04:20,594 ‎ในหมู่ศพก็มีศพของผู้ก่อตั้งผู้บ้าคลั่ง 91 00:04:20,678 --> 00:04:21,762 ‎บาทหลวงจิม โจนส์ 92 00:04:21,846 --> 00:04:22,847 ‎โจนส์บอกพวกเขา 93 00:04:22,930 --> 00:04:25,099 ‎"ถึงเวลาแล้วที่เราจะไปพบกันในชาติภพหน้า" 94 00:04:27,518 --> 00:04:29,020 ‎กลุ่มที่เรียกว่าลัทธิ 95 00:04:29,103 --> 00:04:30,313 ‎นำโดยผู้นำที่มีเสน่ห์ 96 00:04:30,396 --> 00:04:32,481 ‎พร้อมความเชื่อแบบสุดโต่ง ‎และผู้ติดตามที่บ้าคลั่ง 97 00:04:32,690 --> 00:04:35,192 ‎มีอยู่ในเกือบทุกประเทศทั่วโลก 98 00:04:35,735 --> 00:04:38,029 ‎แต่ความเสียหายขนาดที่เกิดขึ้นในโจนส์ทาวน์ 99 00:04:38,279 --> 00:04:41,490 ‎ทำให้คำว่า "ลัทธิ" ‎มีความหมายใหม่อันน่าสยดสยอง 100 00:04:42,158 --> 00:04:44,452 ‎และผลักดันให้นักสังคมศาสตร์ในสหรัฐฯ 101 00:04:44,535 --> 00:04:46,912 ‎ติพิมพ์งานวิจัยที่พยายามจะให้นิยาม 102 00:04:46,996 --> 00:04:48,998 ‎ว่ากลุ่มที่เป็นอันตรายเหล่านี้ ‎มีอะไรร่วมกัน 103 00:04:49,665 --> 00:04:51,792 ‎นักวิจัยสรุปว่ามี ‎ลักษณะร่วมกันสามประการ 104 00:04:51,876 --> 00:04:54,754 ‎ลัทธิเป็นกลุ่ม ‎หรือขบวนการทางสังคม 105 00:04:54,837 --> 00:04:58,299 ‎ที่นำโดยผู้นำที่มีเสน่ห์ 106 00:04:58,382 --> 00:05:00,134 ‎ที่เป็นเผด็จการ 107 00:05:00,217 --> 00:05:04,055 ‎และต้องการให้สาวก ‎บูชาตนเยี่ยงเทพเจ้า 108 00:05:04,138 --> 00:05:06,891 ‎เราถูกสอนให้เชื่อว่า ‎คำพูดของเขา 109 00:05:06,974 --> 00:05:08,768 ‎คือพระวจนะของพระเจ้า 110 00:05:08,851 --> 00:05:10,394 ‎ใน "ชุมชน" อย่างที่เราเรียกกัน 111 00:05:10,478 --> 00:05:11,729 ‎เขาคืออำนาจของพระเจ้า 112 00:05:11,937 --> 00:05:13,606 ‎ส่วนประกอบหลักที่สองของลัทธิ 113 00:05:13,814 --> 00:05:18,152 ‎ในกลุ่มจะมีโครงการปลูกฝังความเชื่อ 114 00:05:18,486 --> 00:05:20,237 ‎บางครั้งเรียกว่า "การปฏิรูปความคิด" 115 00:05:20,488 --> 00:05:21,947 ‎หรือการควบคุมจิตใจ 116 00:05:22,031 --> 00:05:24,742 ‎มันเหมือนว่าคัมภร์ไบเบิล ‎เป็นระบบปฏิบัติการ 117 00:05:24,825 --> 00:05:27,870 ‎แล้วเขาก็เอาโปรแกรมต่างๆ ของเขา ‎ไปใส่ไว้เพิ่ม 118 00:05:28,412 --> 00:05:30,081 ‎แล้วผู้คนก็ยอมรับมันกลายๆ 119 00:05:30,164 --> 00:05:33,667 ‎เพราะพวกเขายอมรับในไบเบิล ‎ก็เลยไม่ควรกังขาไบเบิล 120 00:05:33,751 --> 00:05:35,252 ‎พวกเขาก็เลยต้องเชื่อมัน 121 00:05:35,336 --> 00:05:37,671 ‎มันมีการฉวยผลประโยชน์ 122 00:05:38,172 --> 00:05:39,632 ‎ไม่ว่าจะทางเพศ ทางการเงิน 123 00:05:39,715 --> 00:05:41,425 ‎มีการฉวยผลประโยชน์จากสมาชิก 124 00:05:41,509 --> 00:05:44,845 ‎เมื่อไหร่ก็ตามที่ซัน มยุง มูน ‎ต้องการตัวพ่อแม่ของผม 125 00:05:44,929 --> 00:05:47,640 ‎ให้ไปทำภารกิจหรือทำอะไรบางอย่าง 126 00:05:47,723 --> 00:05:51,352 ‎ความต้องการของผู้นำลัทธิ ‎ย่อมต้องมาก่อนลูกๆ 127 00:05:51,435 --> 00:05:52,269 ‎แบบว่าพ่อผม... 128 00:05:52,353 --> 00:05:54,397 ‎ตอนที่ผมยังเด็ก พ่อแทบไม่ได้อยู่ติดบ้านเลย 129 00:05:55,106 --> 00:05:57,983 ‎แต่คำนิยามลัทธิเช่นนี้ ‎กลับมีปัญหาเล็กๆ อยู่ข้อหนึ่ง 130 00:05:58,109 --> 00:06:03,114 ‎มันเป็นการตัดสินจากคุณค่า ‎มากกว่าเป็นคำที่นำไปใช้ได้เลย 131 00:06:03,197 --> 00:06:08,536 ‎ศาสดาของศาสนาหลักๆ ทุกศาสนา ‎ถือว่าเป็นผู้นำที่มีเสน่ห์ได้ 132 00:06:08,619 --> 00:06:11,080 ‎จริงๆ แล้ว มุกตลกที่ใหญ่ที่สุด ‎ในวงการศาสนศึกษา 133 00:06:11,163 --> 00:06:14,041 ‎คือ "ลัทธิบวกเวลา เท่ากับศาสนา" 134 00:06:14,583 --> 00:06:17,086 ‎คำว่า "คัลท์" มาจากภาษาละติน "คัลทัส" 135 00:06:17,169 --> 00:06:19,588 ‎ซึ่งแปลว่า "การไถดินหรือเพาะปลูก" 136 00:06:19,713 --> 00:06:21,632 ‎และในยุคโบราณ คำนี้ก็ใช้เพื่ออธิบาย 137 00:06:21,715 --> 00:06:26,345 ‎การบูชายัญ เครื่องสังเวย และอนุสาวรีย์ ‎ที่สร้างขึ้นเพื่อให้เหล่าทวยเทพพอใจ 138 00:06:26,929 --> 00:06:29,765 ‎ในเวลาต่อมา ‎มันแปลว่าศาสนานอกรีตทุกศาสนา 139 00:06:30,141 --> 00:06:34,311 ‎จักรวรรดิโรมันเรียก ‎ศาสนายูดาห์ว่าเป็นลัทธิ 140 00:06:34,395 --> 00:06:38,524 ‎บางคนเรียกศาสนาอิสลามบางนิกาย ‎ว่าเป็นลัทธิ 141 00:06:38,607 --> 00:06:44,655 ‎ในทุกวันนี้ นักวิชาการส่วนมากชอบใช้คำว่า ‎"ขบวนการศาสนาใหม่" หรือ "เอ็นอาร์เอ็ม" 142 00:06:44,738 --> 00:06:47,366 ‎หลายขบวนการก็เกิดขึ้นมา ‎ไม่ได้เพื่อฉวยประโยชน์ผู้ติดตาม 143 00:06:47,616 --> 00:06:50,369 ‎แต่เพื่อช่วยให้พวกเขารอด ‎เมื่อต้องเผชิญกับภัยภายนอก 144 00:06:50,578 --> 00:06:56,125 ‎ความรู้สึกของการรวมตัวเป็นกลุ่มก้อน ‎ถูกโจมตีจากโลกภายนอก 145 00:06:56,292 --> 00:07:00,671 ‎และหนทางเดียที่จะกอบกู้ตัวตนของคนคนหนึ่ง 146 00:07:00,754 --> 00:07:06,343 ‎คือการมารวมตัวกันภายใต้การนำ ‎ของผู้มีอำนาจที่มีเสน่ห์ 147 00:07:06,635 --> 00:07:08,971 ‎แล้วก็สร้างตัวเองใหม่หมดจด 148 00:07:09,221 --> 00:07:10,890 ‎เยซูชาวนาซาเร็ธมีชีวิตอยู่ 149 00:07:11,140 --> 00:07:16,854 ‎ในช่วงที่มีความปั่นป่วน ‎ทางการเมืองและสังคมมากที่สุด 150 00:07:16,979 --> 00:07:18,522 ‎ในประวัติศาสตร์ของตะวันออกกลาง 151 00:07:18,606 --> 00:07:19,982 ‎คงพอเห็นภาพนะครับ 152 00:07:20,483 --> 00:07:26,489 ‎และพระเยซูก็เป็นผู้มาโปรดผู้หนึ่ง ‎จากนับสิบราย 153 00:07:26,572 --> 00:07:27,615 ‎ที่เรารู้จัก 154 00:07:28,032 --> 00:07:32,119 ‎ขบวนการศาสนาใหม่ต่างๆ ถือกำเนิดขึ้น ‎เพื่อช่วยให้มนุษย์ผ่านพ้นช่วงที่ปั่นป่วน 155 00:07:32,203 --> 00:07:33,287 ‎ในอดีตที่ผ่านมา 156 00:07:33,746 --> 00:07:36,457 ‎ในยุโรป มีขบวนการศาสนาใหม่มากมาย ‎เกิดขึ้นในยุคเรอเนสซองซ์ 157 00:07:36,540 --> 00:07:39,084 ‎เพื่อเป็นการโต้กลับศาสนากระแสหลัก 158 00:07:39,627 --> 00:07:41,879 ‎ในอินเดีย กลุ่มศานาเหล่านี้ ‎เติบโตมาจากความปั่นป่วนในสังคม 159 00:07:41,962 --> 00:07:43,881 ‎จากการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมเกษตรกรรม 160 00:07:44,173 --> 00:07:46,550 ‎และเพื่อตอบโต้การล่าอาณานิคมของอังกฤษ 161 00:07:47,051 --> 00:07:50,596 ‎แต่มีอยู่ประเทศหนึ่ง ‎ที่อ้าแขนรับศาสนาใหม่ๆ 162 00:07:50,679 --> 00:07:52,097 ‎ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งประเทศมา 163 00:07:52,348 --> 00:07:55,100 ‎ย้อนไปยังทศวรรษ 1600 164 00:07:55,684 --> 00:07:58,646 ‎อาณานิคมอเมริกันขึ้นชื่อ 165 00:07:58,938 --> 00:08:01,524 ‎ว่าเป็นแหล่งพักพิงที่ปลอดภัย ‎สำหรับผู้เชื่อในศาสนาสุดโต่ง 166 00:08:02,358 --> 00:08:04,276 ‎ซึ่งมีพื้นที่เล็กๆ ในอเมริกา 167 00:08:04,360 --> 00:08:07,404 ‎ที่ถูกยึดเป็นที่เฉพาะ ‎สำหรับศาสนาใหม่ที่แรงกล้านี้ 168 00:08:07,530 --> 00:08:10,199 ‎ที่ดินผืนหนึ่งที่ยาวจาก ‎อัลบานีถึงบัฟฟาโล 169 00:08:10,699 --> 00:08:12,701 ‎เรียกว่า "เขตเบิร์นโอเวอร์" 170 00:08:12,868 --> 00:08:17,289 ‎เขตเบิร์นโอเวอร์กลายเป็น ‎จุดกำเนิดของนิกายมอรมอน 171 00:08:17,498 --> 00:08:19,291 ‎ของนิกายเซเวนต์เดย์แอดเวนทิสต์ 172 00:08:19,375 --> 00:08:20,751 ‎ของเจตนิยม 173 00:08:21,210 --> 00:08:24,880 ‎และการเคลื่อนไหวทางสังคม การเมือง ‎และศาสนา อีกมากมายหลายรูปแบบ 174 00:08:25,047 --> 00:08:27,758 ‎เมื่อคุณเข้าไปข้องแวะกับศาสนาเหล่านี้ 175 00:08:27,841 --> 00:08:31,136 ‎ก็ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมี ‎ความเป็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง 176 00:08:31,762 --> 00:08:34,723 ‎เจมีม่า วิลคินสัน เป็นหนึ่งในศาสดา ‎จากพื้นที่นั้น 177 00:08:34,974 --> 00:08:37,768 ‎เธอป่วยเป็นไข้รากสาดน้อยจนเกือบตาย ‎แต่ก็รอดมาได้ 178 00:08:37,851 --> 00:08:41,188 ‎เพื่อที่จะประกาศว่าตัวเธอ ‎เป็นพระจิตกลับชาติมาเกิดใหม่ 179 00:08:41,272 --> 00:08:43,649 ‎ชื่อว่า "เพื่อนสากลสาธารณะ" 180 00:08:44,024 --> 00:08:45,651 ‎มันคงเป็นครั้งแรก 181 00:08:45,859 --> 00:08:50,864 ‎ที่ชาวอเมริกันส่วนมากได้เห็น ‎ผู้หญิงมาเทศนาหรือพูดในที่สาธารณะ 182 00:08:50,948 --> 00:08:52,741 ‎เหตุการณ์เช่นนี้ 183 00:08:52,825 --> 00:08:57,121 ‎ที่ผู้คนรู้สึกว่าได้ฟังพระวจนะของพระเจ้า ‎รู้สึกว่าพระเจ้าเสด็จลงมา 184 00:08:57,204 --> 00:08:59,290 ‎โดยเนื้อแท้แล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสนา 185 00:08:59,373 --> 00:09:01,834 ‎รูปแบบเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า 186 00:09:01,917 --> 00:09:04,587 ‎และแพร่กระจายออกไปนอกเขตเบิร์นโอเวอร์ 187 00:09:04,878 --> 00:09:07,339 ‎ไปยังนครนิวยอร์กในช่วงทศวรรษ 1930 188 00:09:07,423 --> 00:09:10,384 ‎ที่ซึ่งคนนับหมื่น ‎ถือว่าชายที่ชื่อว่า "หลวงพ่อดีไวน์" 189 00:09:10,467 --> 00:09:11,844 ‎เป็นพระเจ้าเดินดิน 190 00:09:12,636 --> 00:09:15,973 ‎ถึงมวลมนุษยชาติ ข้ากำลังถ่ายทอดอยู่ 191 00:09:17,224 --> 00:09:20,019 ‎เราต้องเข้าใจก่อนว่าหลวงพ่อดีไวน์ 192 00:09:20,102 --> 00:09:24,773 ‎เป็นผู้บุกเบิกคนแรกๆ ‎ของขบวนการสิทธิพลเมือง 193 00:09:24,982 --> 00:09:27,401 ‎ผู้ติดตามยุคแรกๆ ของหลวงพ่อดีไวน์ 194 00:09:27,568 --> 00:09:31,405 ‎มีส่วนร่วมในการประท้วง ‎และการล่ารายชื่อ 195 00:09:31,488 --> 00:09:35,868 ‎และแคมเปญการเขียนจดหมาย ‎ที่ยืนหยัดในเรื่องสิทธิพลเมือง 196 00:09:35,951 --> 00:09:39,580 ‎ในช่วงเวลาที่การเรียกร้องเรื่องนั้น ‎เงียบมากๆ ในวิถีชีวิตคนอเมริกัน 197 00:09:39,997 --> 00:09:41,165 ‎แต่การเรียกร้องนั้นก็ขยายตัว 198 00:09:41,248 --> 00:09:44,168 ‎และเริ่มต้นยุคใหม่ ‎ของความวุ่นวายทางสังคม 199 00:09:44,835 --> 00:09:47,212 ‎ด้วยความตึงเครียดระหว่างเชื้อชาติ ‎ที่กลายเป็นความรุนแรง 200 00:09:47,588 --> 00:09:49,798 ‎และการลอบสังหารทางการเมือง ‎ครั้งแล้วครั้งเล่า 201 00:09:51,133 --> 00:09:53,636 ‎หลายคนเริ่มกังขาว่า ‎สงครามเวียดนามนั้นถูกต้องหรือไม่ 202 00:09:54,345 --> 00:09:56,388 ‎ความไว้ใจในรัฐบาลของชาวอเมริกา ‎ดิ่งลงเหว 203 00:09:57,681 --> 00:10:00,601 ‎และอานุภาพการทำลายล้าง ‎ของอาวุธนิวเคลียร์ที่ตามหลอกหลอน 204 00:10:01,143 --> 00:10:03,979 ‎ทำให้คนทั้งประเทศ ‎รู้สึกว่าโดนข้าศึกปิดล้อม 205 00:10:04,730 --> 00:10:08,025 ‎มันผลักดันห้คนรุ่นหนึ่ง ‎ออกไปตามหาชุมชนแบบใหม่ๆ 206 00:10:08,192 --> 00:10:09,818 ‎และหาความหมายใหม่ๆ ให้ชีวิต 207 00:10:10,110 --> 00:10:12,279 ‎และสิ่งที่เราเห็นในตอนนั้น 208 00:10:12,363 --> 00:10:15,407 ‎คือการที่มีบุคคลที่มีเสน่ห์เหล่านี้เพิ่มขึ้น 209 00:10:15,491 --> 00:10:16,325 ‎บ้างก็เป็นอเมริกัน 210 00:10:16,408 --> 00:10:20,079 ‎หลายคนก็ใช้ธรรมเนียมจากฝั่งตะวันออก 211 00:10:20,162 --> 00:10:21,705 ‎โดยเฉพาะในอินเดีย 212 00:10:21,789 --> 00:10:24,166 ‎"เราเป็นไม่กี่คนที่มีคุณธรรม" 213 00:10:24,291 --> 00:10:25,959 ‎"เรารู้คำตอบ" 214 00:10:26,043 --> 00:10:32,925 ‎และความรู้นั้นเป็นยาแก้ ‎ช่วงเวลาที่ปั่นป่วนที่เราอาศัยอยู่กัน 215 00:10:34,718 --> 00:10:37,054 ‎แต่ความรู้นั้น บางครั้งก็มาพร้อมเงื่อนไข 216 00:10:38,013 --> 00:10:41,308 ‎การค้นหาความหมายในรูปแบบอื่น 217 00:10:41,392 --> 00:10:45,020 ‎พวกสิ่งที่มีรากฐานเหล่านั้น ‎มีความดึงดูดที่ทรงพลังมาก 218 00:10:45,104 --> 00:10:47,439 ‎และบางครั้ง ผู้คนก็เริ่มมา 219 00:10:47,523 --> 00:10:50,609 ‎ขนาดที่ตัวผู้นำเอง ‎ก็เชื่อในความดึงดูดนั้น 220 00:10:50,818 --> 00:10:52,986 ‎แต่มันก็มีแนวโน้มในธรรมชาติมนุษย์ 221 00:10:53,070 --> 00:10:57,074 ‎ที่อุดมคตินิยมอาจกลายเป็น ‎เผด็จการนิยมไปได้อย่างง่ายมากๆ 222 00:10:57,533 --> 00:11:00,244 ‎ความยอมรับทางศาสนา ‎ที่ทำให้ประเทศเติบโต 223 00:11:00,327 --> 00:11:01,453 ‎ก้าวเพื่อเปลี่ยนชีวิตสิ 224 00:11:01,537 --> 00:11:04,373 ‎ทำให้ชาวอเมริกันนั้นอ่อนไหวต่อ ‎การควบคุมเป็นพิเศษ 225 00:11:07,334 --> 00:11:08,877 ‎ขนาดหลวงพ่อดีไวน์ยังถูกกล่าวหา 226 00:11:08,961 --> 00:11:11,046 ‎ว่าฉวยโอกาสทางการเงิน ‎จากผู้ติดตามของเขา 227 00:11:11,171 --> 00:11:13,340 ‎รวมถึงการโน้มน้าวให้ผู้ติดตาม ‎ซื้อโรงแรมให้เขา 228 00:11:13,590 --> 00:11:15,551 ‎และหลอกลวงเอามรดกจากผู้หญิงคนหนึ่ง 229 00:11:16,552 --> 00:11:19,179 ‎และชายคนหนึ่งก็เฝ้าดูเรื่องนี้ ‎แล้วก็จดบันทึกบทเรียนไว้ 230 00:11:20,180 --> 00:11:21,348 ‎จิม โจนส์ 231 00:11:21,515 --> 00:11:24,393 ‎จิม โจนส์ ‎เขาศึกษาหลวงพ่อดีไวน์ 232 00:11:24,476 --> 00:11:27,146 ‎เพื่อดูวิธีการที่หลวงพ่อดีไวน์ ‎ก่อตั้งชุมชน 233 00:11:27,688 --> 00:11:29,773 ‎ความปรารถนาที่จะเรียนรู้จากดีไวน์ของโจนส์ 234 00:11:29,857 --> 00:11:32,860 ‎ปรากฏในมินิซีรีส์ทางโทรทัศน์ เมื่อปี 1980 235 00:11:33,110 --> 00:11:35,696 ‎นั่นเจมส์ เอิร์ล โจนส์ ‎เล่นเป็นหลวงพ่อดีไวน์ 236 00:11:35,779 --> 00:11:37,948 ‎แต่ท่านจะทำให้ขบวนการอย่างนี้ยั่งยืน ‎ได้อย่างไร 237 00:11:38,574 --> 00:11:41,368 ‎แล้วโมเสสบุตรข้า ‎จัดการฝูงแกะของเขาอย่างไรล่ะ 238 00:11:42,244 --> 00:11:43,245 ‎แล้วต้องแลกด้วยอะไร 239 00:11:43,537 --> 00:11:47,416 ‎ขอแล้วเจ้าจะได้รับ บุตรของข้า 240 00:11:47,958 --> 00:11:49,418 ‎ขอแล้วเจ้าจะได้รับ 241 00:11:49,501 --> 00:11:52,921 ‎จิม โจนส์ นำการอุทธรณ์ ‎ต่อความยุติธรรมในสังคมบางส่วน 242 00:11:53,130 --> 00:11:56,175 ‎ที่ฝังอยู่ในข้อความของหลวงพ่อดีไวน์ 243 00:11:56,383 --> 00:11:58,761 ‎แล้วเขาก็ใช้เพื่อดึงดูดคนในช่วงแรก 244 00:11:58,927 --> 00:12:00,471 ‎แล้วก็ควบคุมคนในช่วงหลัง 245 00:12:01,096 --> 00:12:03,515 ‎แล้วนั่นคือตอนที่การควบคุม ‎กลายเป็นการทำลายล้าง 246 00:12:03,640 --> 00:12:04,975 ‎นั่นคือตอนที่กลุ่มกลายเป็นลัทธิ 247 00:12:05,184 --> 00:12:06,894 ‎ตามที่นักสังคมศาสตร์กล่าวไว้ 248 00:12:06,977 --> 00:12:10,272 ‎มันก็ไม่เชิงว่าเป็นเรื่องของระบบความเชื่อ 249 00:12:10,355 --> 00:12:13,317 ‎มันเกี่ยวกับพฤติกรรมของกลุ่ม 250 00:12:13,400 --> 00:12:18,363 ‎และแนวทางที่กลุ่มใช้วิธิการต่างๆ ‎เพื่อสร้างอิทธิพลและควบคุม 251 00:12:18,655 --> 00:12:21,116 ‎เพื่อควบคุมและฉวยผลประโยชน์จากสมาชิก 252 00:12:22,785 --> 00:12:25,788 ‎ชาร์ลส์ แมนสัน โน้มน้าวให้ผู้ติดตามของเขา ‎ฆ่าคนเก้าคน 253 00:12:25,871 --> 00:12:27,581 ‎เพื่อพยายามยุยงให้เกิดสงครามเชื้อชาติ 254 00:12:28,165 --> 00:12:32,628 ‎โชโค อาซาฮาระ สั่งให้ผู้ติดตามของเขา ‎ปล่อยแก๊สซารินในรถไฟใต้ดินโตเกียว 255 00:12:33,170 --> 00:12:34,338 ‎ฆ่าคนไป 13 คน 256 00:12:35,422 --> 00:12:39,051 ‎และมาร์แชลล์ แอปเปิ้ลไวต์ แห่งเฮเวนส์เกต ‎โน้มน้าวผู้ติดตามของเขาด้วยเรื่องนี้ 257 00:12:39,134 --> 00:12:42,888 ‎ในบางครั้ง เมื่อสาวกศรัทธามากพอ 258 00:12:42,971 --> 00:12:46,391 ‎ผู้นำก็จะพาไปสู่ขั้นถัดไป 259 00:12:46,475 --> 00:12:49,520 ‎นำพาชีวิตให้พ้นจากขั้นวิวัฒนาการปัจจุบัน 260 00:12:49,603 --> 00:12:51,605 ‎ไปสู่ระดับขั้นวิวัฒนาการถัดไป 261 00:12:51,814 --> 00:12:54,650 ‎ซึ่งทำให้หลายคนตอนตัวเอง ‎แล้วก็ฆ่าตัวตาย 262 00:12:54,983 --> 00:12:57,861 ‎โดยที่เชื่อว่าจะทำให้ตัวเอง ‎ขึ้นไปอยู่ในภพภูมิที่ดีกว่า 263 00:12:58,737 --> 00:13:00,739 ‎ความพิศมัยกับลัทธิที่ไม่รู้จบ 264 00:13:01,031 --> 00:13:04,827 ‎เกิดมาจากปริศนาของวิธีการ ‎ที่ผู้นำลัทธิต่างๆ สามารถควบคุมได้เบ็ดเสร็จ 265 00:13:05,911 --> 00:13:08,580 ‎สิ่งที่พวกนั้นใช้คือจิตวิทยาสังคมพื้นฐาน 266 00:13:08,789 --> 00:13:12,584 ‎พวกนั้นใช้เทคนิคการโน้มน้าวและควบคุมทั่วไป 267 00:13:13,293 --> 00:13:15,420 ‎เพื่อเป็นการบริการสังคม ‎เราขอนำเสนอ 268 00:13:16,046 --> 00:13:20,300 ‎ปัจจัยทั้งเจ็ดที่นักสังคมศาสตร์บอกว่า ‎อาจนำไปสู่การปลูกฝังความเชื่อให้เข้าลัทธิ 269 00:13:20,968 --> 00:13:21,802 ‎หมายเลขหนึ่ง 270 00:13:22,094 --> 00:13:25,180 ‎คุณอยู่ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน ‎ที่อาจยากลำบาก 271 00:13:25,264 --> 00:13:28,016 ‎ผมเป็นนักแสดงที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ‎ที่หิวโหย 272 00:13:28,100 --> 00:13:29,643 ‎ตอนที่ผมอายุ 20 กว่าปี ‎ในนิวยอร์ก 273 00:13:29,726 --> 00:13:32,062 ‎พอคุณอยู่ในสภาพที่อ่อนไหวแบบนั้น 274 00:13:32,729 --> 00:13:35,524 ‎คุณก็เปิดกว้างที่จะลองอะไรใหม่ๆ มากกว่า 275 00:13:35,607 --> 00:13:39,778 ‎อาจดึงโฆษณามาจากกระดานข่าว 276 00:13:39,862 --> 00:13:41,655 ‎ที่เขียนว่า "มาเข้าชั้นเรียนโยคะนี่สิ" 277 00:13:41,905 --> 00:13:45,367 ‎การทำสมาธิครั้งแรกเริ่มข้น ‎และผมรู้สึกถึงประสบการณ์ 278 00:13:45,450 --> 00:13:49,204 ‎ของความรักและความผูกพัน ‎ระลอกแล้วระลอกเล่า 279 00:13:49,621 --> 00:13:51,623 ‎ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการชักชวนแบบเนียนๆ 280 00:13:51,790 --> 00:13:53,250 ‎ผมทำแบบสอบถาม 281 00:13:53,584 --> 00:13:56,420 ‎แค่คำถามเรื่องชีวิตและจักรวาล ‎"คุณมีความสุขไหม" 282 00:13:56,503 --> 00:13:58,046 ‎พอคุณเริ่มก้าวแรกนั้นไป 283 00:13:58,130 --> 00:14:03,385 ‎ไปร่วมการพบปะพูดคุย ‎หรือกลุ่มทำสมาธิหรือศึกษาไบเบิลครั้งแรก 284 00:14:03,468 --> 00:14:05,804 ‎พวกผู้ชักชวนก็จะมีโอกาส ‎ชวนให้คุณกลับมาอีก 285 00:14:05,888 --> 00:14:08,098 ‎แล้วจากนั้นมันก็เป็นกระบวนการเลย 286 00:14:08,181 --> 00:14:11,852 ‎เราจะสนับสนุนให้พวกเขา ‎ไปยังศูนย์ฝึกสมาธิในป่านี้ 287 00:14:12,102 --> 00:14:14,021 ‎ที่เราจะได้ปลูกฝังความคิดพวกเขาต่อ 288 00:14:14,438 --> 00:14:17,649 ‎นี่คือก้าวแรกสู่การสร้างความเป็นจริงใหม่ 289 00:14:17,941 --> 00:14:20,444 ‎เราถูกเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมแบบปิดนี้ 290 00:14:20,527 --> 00:14:23,739 ‎ไม่มีหนังสือ ทีวี หรือภาพยนตร์จากภายนอก 291 00:14:23,822 --> 00:14:26,700 ‎เพื่อปกป้องเรา ‎จากสิ่งที่พ่อแม่ของฉันคงเรียก 292 00:14:26,783 --> 00:14:28,201 ‎ว่าเป็นสิ่งแปดเปื้อนของโลก 293 00:14:28,285 --> 00:14:32,164 ‎เมื่อเวลาผ่านไป คุณก็จะถูก ‎ห้อมล้อมแน่นหนาขึ้นเรื่อยๆ 294 00:14:32,247 --> 00:14:34,499 ‎ในสิ่งที่ฉันเรียกว่า ‎ระบบการผนึกตนเอง 295 00:14:35,083 --> 00:14:39,004 ‎จนกว่าความสัมพันธ์ที่สำคัญที่สุดของคุณ ‎จะเป็นความสัมพันธ์กับ "ผู้นำที่รัก" 296 00:14:39,504 --> 00:14:43,759 ‎พวกเขาจะให้ซัน มยุง มูน ‎และ หรือสมาชิกครอบครัวของเขาออกมา 297 00:14:43,967 --> 00:14:47,554 ‎"ท่านสุภาพสตรีและท่านสุภาพบุรุษ ‎บุพการีที่แท้จริงของมนุษยชาติ 298 00:14:47,638 --> 00:14:49,389 ‎บาทหลวงซัน มยุง มูน" 299 00:14:49,473 --> 00:14:51,516 ‎คุณอยู่ในกลุ่มที่ค้นพบคำตอบแล้ว 300 00:14:51,600 --> 00:14:53,602 ‎และคุณมีผู้นำคนนี้ ‎ซึ่งเป็นผู้นำคนเดียว 301 00:14:53,685 --> 00:14:56,229 ‎ซึ่งเป็นคนเดียว ‎ที่พาคุณไปบนเส้นทางนี้ได้ 302 00:14:56,605 --> 00:14:59,399 ‎สิ่งอื่นๆ คนอื่นๆ นั้นผิดหมด 303 00:14:59,483 --> 00:15:01,818 ‎ทุกเช้าวันอาทิตย์ตอนตีห้า 304 00:15:01,902 --> 00:15:05,030 ‎เราก็จะโค้งคำนับรูปภาพ ‎ของบาทหลวงและคุณนายมูน 305 00:15:05,322 --> 00:15:06,156 ‎เขาบอกให้เรา 306 00:15:06,239 --> 00:15:09,034 ‎ให้รักบาทหลวงและคุณนายมูน ‎ดั่งพ่อแม่ของเรา 307 00:15:09,117 --> 00:15:11,370 ‎แต่รักให้มากกว่าพ่อแม่ของเราอีก 308 00:15:11,954 --> 00:15:15,123 ‎ผู้นำมักจะสร้างความเป็นหนึ่งเดียว ‎โดยการสร้างศัตรูภายนอก 309 00:15:15,207 --> 00:15:20,253 ‎เขาบอกกับฉัน ‎"คุณจะถูกข่มขืน คุณจะถูกซ้อม 310 00:15:20,337 --> 00:15:22,214 ‎คุณจะถูกทิ้งไว้ในหนองน้ำ" 311 00:15:22,297 --> 00:15:26,259 ‎เขาพูดสิ่งเลวร้ายทั้งหมดนี่ ‎ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันออกจากกลุ่ม 312 00:15:26,343 --> 00:15:28,428 ‎เพราะว่าโลกเป็นที่ที่เลวร้าย 313 00:15:28,512 --> 00:15:33,225 ‎นั่นคือคุณวิ่งเข้าหาคำแนะนำของผู้นำลัทธิ 314 00:15:33,517 --> 00:15:39,147 ‎คุณเอาแต่ปฏิเสธความสามารถ ‎ในการใช้เหตุผลของตัวเอง 315 00:15:39,231 --> 00:15:40,357 ‎คุณไม่ใช้เหตุผลอีกต่อไป 316 00:15:40,524 --> 00:15:42,901 ‎คนที่อยู่ในสภาวะการรู้คิดไม่ลงรอยกันเช่นนี้ 317 00:15:42,985 --> 00:15:45,195 ‎ก็จะเลือกเชื่อลัทธิ เลือกเชื่อผู้นำลัทธิ 318 00:15:45,278 --> 00:15:46,697 ‎ซ้ำๆ อยู่แบบนั้น 319 00:15:46,947 --> 00:15:50,325 ‎ซึ่งนำเราไปสู่วิธีสำคัญ ‎ที่ผู้นำลัทธิขยายการควบคุมของตน 320 00:15:50,742 --> 00:15:52,077 ‎การใช้แรงกดดันจากคนรอบข้าง 321 00:15:52,828 --> 00:15:56,206 ‎ความปรารถนาพื้นฐานของมนุษย์ ‎ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม 322 00:15:56,289 --> 00:15:58,875 ‎มีอำนาจเหนือกว่า ‎การรับรู้ความเป็นจริงของเราได้ 323 00:15:59,126 --> 00:16:02,879 ‎ในปี 1951 นักจิตวิทยาสังคม โซโลมอน แอช ‎ได้สาธิตเรื่องนี้ 324 00:16:03,046 --> 00:16:04,840 ‎โดยการพานักเรียนหลายคนมานั่งในห้อง 325 00:16:05,090 --> 00:16:06,842 ‎มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ‎ที่ไม่รู้เรื่องการทดลองนี้ 326 00:16:06,925 --> 00:16:08,427 ‎ภารกิจของคุณเรียบง่ายมาก 327 00:16:08,510 --> 00:16:10,178 ‎คุณจะมองที่เส้นทางด้านซ้าย 328 00:16:10,470 --> 00:16:12,514 ‎แล้วก็ดูว่าเส้นไหนทางด้านขวา 329 00:16:12,597 --> 00:16:13,849 ‎ที่มีความยาวเท่ากัน 330 00:16:13,932 --> 00:16:15,183 ‎- สอง ‎- สอง 331 00:16:16,101 --> 00:16:16,935 ‎สอง 332 00:16:19,479 --> 00:16:20,313 ‎สอง 333 00:16:20,856 --> 00:16:24,109 ‎ร้อยละ 75 ของผู้ร่วมทดสอบ ‎ตอบตามเสียงส่วนใหญ่ 334 00:16:24,568 --> 00:16:26,987 ‎แม้จะเห็นได้ชัดว่าเป็นคำตอบที่ผิด 335 00:16:27,237 --> 00:16:29,031 ‎แรงกดดันจากการไม่อยากแตกกลุ่มนี้เอง 336 00:16:29,364 --> 00:16:31,450 ‎ที่ผู้นำลัทธิใช้ควบคุมสมาชิก 337 00:16:32,034 --> 00:16:34,286 ‎ในทางหนึ่ง นั่นคือสิ่งที่เขาทำ ‎ในวันสุดท้ายที่โจนส์ทาวน์ 338 00:16:34,369 --> 00:16:35,912 ‎เขายุยงให้เกิดจลาจล 339 00:16:36,163 --> 00:16:39,207 ‎แล้วเขาก็ถอยมา ‎แล้วให้แรงกดดันจากคนรอบข้างจัดการ 340 00:16:39,416 --> 00:16:42,669 ‎ทั้งหมดเพื่อรับใช้ความคิดแปลกๆ ‎ของคนที่น่าจะเป็นโรคจิตหลงตัวเอง 341 00:16:42,794 --> 00:16:44,379 ‎เขาบอก "คุณอยู่โดยไม่มีผมไม่ได้หรอก 342 00:16:44,463 --> 00:16:46,715 ‎งั้นในเมื่อผมจะตายแล้ว ‎คุณก็จะต้องตายด้วย 343 00:16:47,257 --> 00:16:50,260 ‎ชีวิตคุณไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ‎เพราะชีวิตผมต่างหากที่สำคัญยิ่ง" 344 00:16:51,303 --> 00:16:54,514 ‎ตอนที่เด็กๆ ทุกคนอยู่ข้างนอกศาลา 345 00:16:54,598 --> 00:16:57,184 ‎เขาก็ให้เลขาและบรรดาเมียเก็บ ‎ตามออกไป 346 00:16:57,267 --> 00:16:58,727 ‎แล้วก็ฉีดพิษเข้าไปในปากเด็ก 347 00:16:58,810 --> 00:17:00,604 ‎พอเขาเริ่มฆ่าพวกเด็กๆ 348 00:17:00,687 --> 00:17:02,606 ‎ไม่มีพ่อแม่คนไหนจะนั่งเฉยอยู่ได้ 349 00:17:02,689 --> 00:17:05,150 ‎ทั้งที่ลูกตัวเองนอนตาย ‎อยู่ห่างไปสามเมตร 350 00:17:05,442 --> 00:17:09,488 ‎ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่คิดว่าตนจะกลับไป ‎ใช้ชีวิตปลอดมลทินในสหรัฐฯ ได้ 351 00:17:13,950 --> 00:17:15,327 ‎ในปัจจุบัน ภัยคุกคามที่แตกต่างไป 352 00:17:15,410 --> 00:17:17,788 ‎ผลักดันให้ผู้คนออกตามหา ‎ความหมายใหม่ๆ ให้ชีวิต 353 00:17:18,538 --> 00:17:20,624 ‎มีการระบาดของการโดดเดี่ยวทางสังคม 354 00:17:20,707 --> 00:17:24,544 ‎ร้ายแรงขนาดที่ได้รับการยอมรับ ‎ว่าเป็นภัยต่อสาธารณสุขในหลายประเทศทั่วโลก 355 00:17:24,878 --> 00:17:26,088 ‎ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์เชื่อว่า 356 00:17:26,171 --> 00:17:29,716 ‎ความเหงากำลังกลายเป็นวิกฤติสาธารณสุข ‎ใหม่ล่าสุดของออสเตรเลีย 357 00:17:29,800 --> 00:17:33,053 ‎ความเหงาระบาดหนักในอเมริกา 358 00:17:33,136 --> 00:17:35,680 ‎รัฐบาลได้แต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อรับมือความเหงา 359 00:17:35,764 --> 00:17:39,559 ‎มีคนอายุช่วงวัยกลางคน ‎ราวแปดถึงเก้าแสนคน 360 00:17:39,643 --> 00:17:41,436 ‎ที่ได้ถอนตัวเองจากสังคมโดยสิ้นเชิง 361 00:17:42,479 --> 00:17:45,857 ‎คนเราไม่ได้เป็นสมาชิกของชุมชนใดๆ ‎มาตั้งแต่เกิด 362 00:17:45,941 --> 00:17:47,984 ‎ไม่ว่าจะเป็นในระดับครอบครัว ‎ในระดับโบสถ์ 363 00:17:48,068 --> 00:17:49,194 ‎ในระดับละแวกบ้าน 364 00:17:49,486 --> 00:17:51,905 ‎เมื่อคนเรานับถือศาสนากันน้อยลง 365 00:17:52,030 --> 00:17:53,990 ‎เข้าร่วมชุมชนทางศาสนากันน้อยลง 366 00:17:54,366 --> 00:17:56,910 ‎ชุมชนเสมือนจริงก็เข้ามาถมช่องว่างนั้น 367 00:17:57,202 --> 00:17:59,412 ‎สิ่งที่อินเทอร์เน็ตได้ทำ 368 00:17:59,830 --> 00:18:02,666 ‎คือทำให้นิยามของชุมชน ‎ไม่ผูกติดอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งอีกต่อไป 369 00:18:03,041 --> 00:18:07,963 ‎นี่นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มนุยชาติ 370 00:18:08,171 --> 00:18:12,759 ‎เราตามหากลุ่มที่มีขนาดเล็กมากในทางสถิติ ‎ก็แต่ใหญ่พอสำหรับเรา 371 00:18:12,843 --> 00:18:14,177 ‎กลุ่มคนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน 372 00:18:14,261 --> 00:18:16,429 ‎กลุ่มคนที่คิดเหมือนเรา ‎ที่ส่งเสริมตัวตนของเรา 373 00:18:16,513 --> 00:18:19,224 ‎มันนำไปสู่ผู้นำออนไลน์รุ่นใหม่ 374 00:18:19,432 --> 00:18:23,019 ‎ที่ใช้เครื่องมือจากโซเชียลมีเดีย เพื่อดึงดูด ‎ผู้ติดตามอย่างแรงกล้าในโลกเสมือนจริง 375 00:18:23,103 --> 00:18:23,937 ‎คุณจะรู้สึก 376 00:18:24,020 --> 00:18:26,898 ‎เหมือนคุณมีมือของคุณเองในดินปั้นของคุณ 377 00:18:26,982 --> 00:18:27,816 ‎เพราะว่าคุณมี 378 00:18:27,899 --> 00:18:30,318 ‎ที่เดียวที่คุณจะพบสิ่งที่คุณตามหาอยู่ 379 00:18:30,402 --> 00:18:32,320 ‎คือในตัวคุณเอง 380 00:18:32,404 --> 00:18:35,490 ‎คุณจะยอมรับตัวเองอย่างที่คุณเป็น ‎ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ 381 00:18:35,574 --> 00:18:38,118 ‎ถ้าคนอื่นไม่ชอบ ก็แย่หน่อยนะ ‎แต่จะไปไหนก็ไป 382 00:18:38,201 --> 00:18:42,414 ‎คุณสามารถกระจายข้อมูล ‎สู่ผู้ติดตามได้มากมายอย่างรวดเร็ว 383 00:18:42,497 --> 00:18:45,417 ‎ถ้าคุณแค่อยู่ในห้องของคุณ ‎และไม่มีการเชื่อมต่อทางสังคม 384 00:18:45,500 --> 00:18:48,003 ‎คุณทำได้โดยอาศัยโครงข่าย ‎ขนาดมหึมาของอินเทอร์เน็ต 385 00:18:48,420 --> 00:18:50,922 ‎เพื่อตามหาชุมชนได้ทุกรูปแบบ 386 00:18:51,006 --> 00:18:54,092 ‎และความรู้สึกในการส่งเสริม ‎อาจทรงพลังมากๆ 387 00:18:54,176 --> 00:18:55,927 ‎ทีล สวอน ‎เป็นหนึ่งในผู้นำแบบนั้น 388 00:18:56,011 --> 00:18:59,347 ‎บางคนก็ใช้โรคซึมเศร้า ‎เพื่อเป็นวิธีในการเลี่ยงการฆ่าตัวตาย 389 00:18:59,431 --> 00:19:00,932 ‎เธอดึงดูดผู้ติดตามได้มากมาย 390 00:19:01,016 --> 00:19:04,019 ‎โดยการเสนอคำแนะนำสุดอื้อฉาว ‎แก่ผู้ป่วยและผู้โดดเดี่ยว 391 00:19:04,227 --> 00:19:06,897 ‎การฆ่าตัวตายคือการกดปุ่มรีเซ็ต 392 00:19:06,980 --> 00:19:09,649 ‎มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีหรือแย่ในตัวมันเอง 393 00:19:10,108 --> 00:19:12,777 ‎บางคนกล่าวหาว่าทีล ‎เป็นผู้นำลัทธิออนไลน์ 394 00:19:12,944 --> 00:19:13,987 ‎ซึ่งเธอได้ปฏิเสธ 395 00:19:14,112 --> 00:19:16,990 ‎ถึงแม้เธอจะยอมรับว่าเธอมี ‎"สูตรสำเร็จสำหรับลัทธิ" 396 00:19:17,407 --> 00:19:19,618 ‎"คนเหล่านี้สิ้นหวัง ‎พวกเขาต้องการคำชี้แนะจากฉัน 397 00:19:19,784 --> 00:19:21,119 ‎พวกนั้นจะทำทุกอย่างที่ฉันบอก" 398 00:19:21,620 --> 00:19:24,289 ‎และคุณสมบัติที่มาพร้อมกับ ‎สังคมออนไลน์ในปัจจุบัน 399 00:19:24,372 --> 00:19:25,790 ‎อาจทำให้คนที่เสี่ยงนั้นหลงทางได้ 400 00:19:26,124 --> 00:19:28,793 ‎คุณดูวิดีโอหนึ่ง ‎แล้วยูทูบก็จะเสนอวิดีโออื่นๆ 401 00:19:28,877 --> 00:19:32,380 ‎และบ่อยครั้งที่มันอาจนำไปสู่ความสุดโต่งได้ 402 00:19:32,631 --> 00:19:34,007 ‎และพื้นที่ออนไลน์มากมาย 403 00:19:34,090 --> 00:19:35,133 ‎อย่างกระดานข้อความ 404 00:19:35,217 --> 00:19:38,136 ‎สามารถสร้างชุมชนที่เหมือนลัทธิ ‎โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้นำเลย 405 00:19:38,303 --> 00:19:40,263 ‎ขบวนการทางเลือกเหล่านี้ได้ให้คำตอบ 406 00:19:40,347 --> 00:19:41,264 ‎ให้ที่พำนัก 407 00:19:41,348 --> 00:19:42,766 ‎ให้คนคอยรับฟัง 408 00:19:43,141 --> 00:19:45,810 ‎กลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิต ‎อาจพบเนื้อหาเหล่านี้ได้ง่าย 409 00:19:46,102 --> 00:19:49,231 ‎บ่อยครั้งจะมีเนื้อหาชักชวนแบบเนียนๆ ‎ที่ไม่สุดโต่งเท่าไหร่ 410 00:19:49,522 --> 00:19:52,567 ‎เหมือนเว็บบอร์ดที่ผู้ชายบ่น ‎เรื่องความหงุดหงิดทางเพศ 411 00:19:52,817 --> 00:19:54,903 ‎ที่สามารถดึงผู้คนเข้าสู่ความจริงใหม่ 412 00:19:55,237 --> 00:19:57,364 ‎ถูกบ่อนทำลายโดยศัตรูภายนอก 413 00:19:57,656 --> 00:19:59,324 ‎และถูกกดดันจากคนรอบข้าง 414 00:19:59,699 --> 00:20:02,035 ‎ผู้ชายคนอื่นๆ ยุให้พวกตนล้างแค้น 415 00:20:02,118 --> 00:20:04,871 ‎แค่เพราะพวกนั้นไม่มีพื้นที่ในโลกจริง 416 00:20:04,955 --> 00:20:08,291 ‎ไม่ได้ทำให้ลัทธิในยุคนี้ทรงพลังน้อยลง 417 00:20:08,625 --> 00:20:12,128 ‎ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉากอันน่าสยอสยองเหล่านี้ ‎ก็ปรากฏต่อสายตาคนทั่วโลก 418 00:20:12,212 --> 00:20:16,049 ‎เอลเลียต โรเจอร์ มือปืนผู้กราดยิงคน ‎ที่ซานตาบาร์บารา ได้ทิ้งคำขู่ไว้ในโลกออนไลน์ 419 00:20:16,132 --> 00:20:18,927 ‎เขาแทงหรือยิงคนตายไปหกคน 420 00:20:19,135 --> 00:20:22,389 ‎เว็บบอร์ดเหล่านี้ทำให้เกิด ‎เหตุรุนแรงในโลกจริง 421 00:20:22,472 --> 00:20:25,684 ‎รถตู้คันหนึ่งพุ่งชนคนที่สัญจรไปมา ‎บนถนนที่คนพลุกพล่านที่สุดในโทรอนโต 422 00:20:25,767 --> 00:20:27,519 ‎"อินเซล" เป็นชุมชนออนไลน์ 423 00:20:27,602 --> 00:20:30,647 ‎ที่คับข้องใจต่อชีวิตรักของตนกับผู้หญิง 424 00:20:30,814 --> 00:20:32,399 ‎ไม่กี่นาทีก่อนการโจมตีในโทรอนโต 425 00:20:32,732 --> 00:20:35,151 ‎ชายที่ก่อเหตุ โพสต์ข้อความเรียกถึงโฟร์แชน 426 00:20:35,485 --> 00:20:36,778 ‎ซึ่งเป็นเว็บบอร์ด 427 00:20:36,945 --> 00:20:38,697 ‎โดยเรียกมันว่า "จ่า" 428 00:20:38,780 --> 00:20:40,699 ‎เหมือนว่ามันเป็นทหารผู้บัญชาการเขา 429 00:20:41,116 --> 00:20:43,952 ‎มีเหตุการณ์กราดยิงที่มัสยิดในนิวซีแลนด์ 430 00:20:44,035 --> 00:20:45,704 ‎ฆ่าผู้คนไปหลายสิบคน 431 00:20:45,787 --> 00:20:49,207 ‎โดยที่มือปืนทำการถ่ายทอดเหตุการณ์สด ‎บนโซเชียลมีเดีย 432 00:20:49,791 --> 00:20:52,585 ‎และผู้ก่อเหตุในนิวซีแลนด์ ‎โม้ไว้กับชุมชนออนไลน์ของเขา 433 00:20:52,669 --> 00:20:53,837 ‎เรื่องการฆาตกรรมหมู่ 434 00:20:54,671 --> 00:20:57,340 ‎ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างกระตือรือร้น ‎จากสมาชิกในชุมชน 435 00:20:57,841 --> 00:21:01,553 ‎ซึ่งติดอยู่ในโลกคู่ขนานโดยสมบูรณ์ ‎เหมือนลัทธิในโลกความเป็นจริง 436 00:21:01,678 --> 00:21:03,680 ‎ลัทธิออนไลน์เหล่านี้ทำให้ผู้คน 437 00:21:03,763 --> 00:21:07,726 ‎ที่เชื่อว่าตนไม่ได้รับการยอมรับ ‎หรือถูกขับออกจากวัฒนธรรมหลัก 438 00:21:07,809 --> 00:21:10,645 ‎ได้มีเรื่องเล่าทางเลือกให้ยึดถือ 439 00:21:11,479 --> 00:21:15,608 ‎ไม่ว่าเรื่องเล่าทางเลือก ‎จะสร้างขึ้นในโลกออนไลน์หรือโลกจริง 440 00:21:15,817 --> 00:21:17,902 ‎ไม่ว่าจะเพื่อความยุติธรรมในสังคม 441 00:21:18,028 --> 00:21:21,281 ‎หรือเพื่อตัวตนที่ดีกว่า ‎มีความสุขกว่า ประสบความสำเร็จกว่า 442 00:21:21,614 --> 00:21:23,533 ‎ทั้งหมดก็ใช้วิธีเดียวกันในการควบคุม 443 00:21:23,616 --> 00:21:25,452 ‎และทั้งหมดก็หนีออกมาได้ยากมาก 444 00:21:26,161 --> 00:21:29,205 ‎การออกจากลัทธินั้นยากมาก ‎เพราะลัทธิคือโลกทั้งใบของคุณ 445 00:21:29,622 --> 00:21:32,625 ‎เมื่อเวลาผ่านไป สมาชิกลัทธิส่วนมาก ‎ก็จะลาออกไปเอง 446 00:21:33,126 --> 00:21:34,169 ‎มักเป็นตอนที่สมาชิกพบว่า 447 00:21:34,252 --> 00:21:36,963 ‎ผู้นำผู้ดีเลิศประเสริฐศรี ‎ก็ไม่ได้ดีเลิศขนาดนั้น 448 00:21:37,088 --> 00:21:38,173 ‎บ่อยครั้งมากๆ 449 00:21:38,256 --> 00:21:42,427 ‎ที่เขาจะพูดถึงวันสิ้นโลก 450 00:21:42,510 --> 00:21:46,056 ‎ถ้าคุณดูจากประวัติของเขา ‎เขาก็เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย 451 00:21:46,139 --> 00:21:48,141 ‎หรือพอพวกเขาค้นพบว่า ‎ผู้ชี้ทางสู่ชีวิตมีคุณธรรม 452 00:21:48,224 --> 00:21:49,184 ‎นั้นมือถือสากปากถือศีล 453 00:21:49,267 --> 00:21:51,561 ‎ทุกคนสาบานว่าจะละเว้นจากการร่วมเพศ 454 00:21:51,770 --> 00:21:53,396 ‎แสร้งทำเป็นรักษาคำสาบานไว้ 455 00:21:53,480 --> 00:21:54,564 ‎ตัวมุกทานันดาเอง 456 00:21:54,647 --> 00:21:55,815 ‎ผมมารู้ทีหลัง 457 00:21:55,899 --> 00:22:00,278 ‎ว่าเขาเป็นนักล่วงละเมิดทางเพศตัวยง ‎ที่บ้าคลั่งมากๆ 458 00:22:00,612 --> 00:22:03,073 ‎หรือตอนที่ความเป็นจริงที่สร้างขึ้นมีรอยร้าว 459 00:22:03,490 --> 00:22:04,824 ‎พ่อของฉันเสีย 460 00:22:04,908 --> 00:22:08,036 ‎พวกผู้นำอนุญาตให้ฉันไปงานศพได้ 461 00:22:08,119 --> 00:22:10,288 ‎แค่ได้ออกมาจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ 462 00:22:10,747 --> 00:22:13,458 ‎และมองดูสิ่งรอบตัวจากมุมมองที่ต่างไป 463 00:22:13,541 --> 00:22:16,711 ‎ฉันบอก "ฉันต้องไปจากที่นี่ 464 00:22:16,795 --> 00:22:18,296 ‎ฉันต้องพาลูกๆ ไปจากที่นี่" 465 00:22:18,380 --> 00:22:21,925 ‎ความคิดที่ว่าจะออกจากลัทธิ ‎แล้วกลับสู่โลกใบเดินนั้น 466 00:22:22,467 --> 00:22:24,260 ‎มันน่ากลัวมากๆ 467 00:22:24,511 --> 00:22:26,262 ‎จำได้ว่าฉันไม่กล้าข้ามถนน 468 00:22:26,346 --> 00:22:29,808 ‎เพราะฉันกลัวว่า ‎พระเจ้าจะเอาชีวิตฉัน 469 00:22:29,891 --> 00:22:34,521 ‎มันยาก เพราะคุณไม่ชินกับการตัดสินใจ ‎ด้วยตัวเอง 470 00:22:34,604 --> 00:22:38,233 ‎ประมาณ 7-8 ปีก่อน ‎ผมอยู่ในชมรมอ่านหนังสือ 471 00:22:38,316 --> 00:22:41,986 ‎และมันกระตุ้นความเจ็ดปวด เพราะมันแบบ ‎"คุณคิดยังไงกับหนังสือเล่มนี้" 472 00:22:42,404 --> 00:22:47,700 ‎ผมรู้สึกปั่นป่วน แทบพูดอะไรไมออก 473 00:22:47,784 --> 00:22:48,827 ‎ก็เลยเลิกไปชมรมนั่น 474 00:22:49,077 --> 00:22:51,329 ‎ผู้คนที่ผมรัก สิ่งที่ผมเชื่อ 475 00:22:51,413 --> 00:22:54,958 ‎จู่ๆ ก็ถูกพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องหลงผิด 476 00:22:55,583 --> 00:22:58,169 ‎คุณก็จะเกลียดตัวเองกลายๆ ‎เพราะเรื่องนั้น 477 00:22:58,253 --> 00:22:59,671 ‎มันจะเป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก 478 00:22:59,879 --> 00:23:02,882 ‎และหวังว่าคนคนนั้นจะมี ‎พื้นที่ปลอดภัย 479 00:23:02,966 --> 00:23:04,467 ‎ที่จะสร้างชีวิตตัวเองใหม่ 480 00:23:04,551 --> 00:23:06,386 ‎การจับกุมและตัดสินโทษคีธ ราเนียรี่ 481 00:23:06,469 --> 00:23:10,849 ‎ช่วยให้แคทเทอรีนและอินเดีย อ็อกเซนเบิร์ก ‎ได้เริ่มกระบวนการการฟื้นฟูอันยาวนาน 482 00:23:10,932 --> 00:23:14,477 ‎สุดท้ายแล้วเราก็กลับมาอยู่ด้วยกันโดยสมบูรณ์ 483 00:23:14,727 --> 00:23:15,603 ‎มันเป็นกระบวนการ 484 00:23:15,687 --> 00:23:17,814 ‎เธอเข้าใจว่ามันมีผลกระทบกับเธอ 485 00:23:17,897 --> 00:23:19,107 ‎และเธอไม่ได้เสียผู้เสียคน 486 00:23:19,441 --> 00:23:21,860 ‎แต่ว่าเธอก็ไม่ได้ไร้รอยแผลเสียทีเดียว 487 00:23:22,068 --> 00:23:24,320 ‎ส่วนหนึ่งของผม ‎ที่ผมพยายามจะกำจัด 488 00:23:24,404 --> 00:23:25,530 ‎พวกมันเริ่มกลับมา 489 00:23:25,613 --> 00:23:27,782 ‎มันอาจฟังดูไร้สาระ 490 00:23:27,866 --> 00:23:30,243 ‎แต่ผมเริ่มไปดูนก 491 00:23:30,577 --> 00:23:32,829 ‎นั่นคืองานอดิเรกของตัวตนเก่าของผม 492 00:23:33,163 --> 00:23:36,583 ‎สัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของผม ‎ยังไม่ป่นปี้ 493 00:23:36,833 --> 00:23:39,961 ‎และไม่ว่าสุดท้ายแล้ว ผมจะรอดหรือไม่ 494 00:23:40,044 --> 00:23:41,880 ‎นั่นคือสิ่งที่ผมให้ความสำคัญอยู่ 495 00:23:41,963 --> 00:23:43,548 ‎คุณไปเจอพวกคนพิลึกๆ 496 00:23:43,631 --> 00:23:47,135 ‎ไปเจอคนที่แปลกๆ ไม่เหมือนใคร 497 00:23:47,218 --> 00:23:48,845 ‎ตอนนี้ผมเป็นศิลปินอยู่แล้ว ก็เลย... 498 00:23:49,512 --> 00:23:51,681 ‎ศิลปินหลายคน ‎ก็เป็นคนแปลกๆ ใช่ไหมล่ะ 499 00:23:51,764 --> 00:23:53,641 ‎ยิ่งเจอคนพวกนี้มากเข้า 500 00:23:53,725 --> 00:23:57,479 ‎คุณก็จะคิดได้ว่า ‎"มันไม่อะไรต้องกลัวนี่" 501 00:23:57,562 --> 00:24:00,064 ‎ซึ่งผมก็ยังเรียนรู้อยู่ 502 00:24:00,565 --> 00:24:03,943 ‎ฉันเริ่มต้นชีวิตใหม่ในช่วงวัยยี่สิบปลายๆ 503 00:24:04,235 --> 00:24:07,405 ‎ฉันรู้สึกว่าตัวเองยังมี ‎ความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ 504 00:24:07,489 --> 00:24:09,449 ‎ที่คนอายุเท่าฉันเริ่มไม่มีแล้ว 505 00:24:09,824 --> 00:24:12,118 ‎และฉันคิดว่ามันเป็นเพราะว่า ‎ฉันอยากเรียนรู้อยู่ตลอด 506 00:24:12,494 --> 00:24:14,287 ‎เพราะฉันถูกพรากจากการเรียนรู้มาก่อน 507 00:24:14,954 --> 00:24:16,998 ‎ฉันตัดสินใจ ตอนอายุได้ 21 หรือ 22 ปี 508 00:24:17,081 --> 00:24:21,294 ‎ฉันรู้สึกจริงๆ ว่าในชีวิตนี้ ‎ฉันอยากที่จะ 509 00:24:21,377 --> 00:24:24,380 ‎ได้เป็นผู้ให้ ได้ช่วยเหลือคนอื่นบ้าง 510 00:24:24,464 --> 00:24:26,841 ‎อย่างที่ฉันไม่เคยได้รับ ‎ตอนที่ออกจากลัทธิมา 511 00:24:26,925 --> 00:24:29,010 ‎สอนพวกเขาว่าพวกเขาเลือกเพื่อตัวเองได้ 512 00:24:29,093 --> 00:24:31,012 ‎ว่าพวกเขาทำอะไรที่ดีกับตัวเองได้ 513 00:24:31,095 --> 00:24:33,223 ‎และพวกเขามีอิสระแบบนั้นได้ 514 00:24:33,431 --> 00:24:34,724 ‎ฉันเป็นผู้รอดชีวิต 515 00:24:34,807 --> 00:24:37,393 ‎และไม่นานจากนั้นมา 516 00:24:37,810 --> 00:24:40,396 ‎ฉันรู้สึกว่าทุกวันที่ฉันยังมีชีวิต 517 00:24:40,480 --> 00:24:42,690 ‎ฉันก็เหมือนเย้ยจิม โจนส์อยู่ 518 00:24:43,107 --> 00:24:47,153 ‎ลอร่า โคห์ลกลับไปที่กายอานา ในปี 2018 ‎พร้อมกับผู้รอดชีวิตจากโจนส์ทาวน์คนอื่นๆ 519 00:24:47,445 --> 00:24:49,656 ‎ไม่กี่คนที่โชคดีที่บังเอิญไม่อยู่ในโจนส์ทาวน์ 520 00:24:49,739 --> 00:24:51,199 ‎ในวันที่โศกนาฏกรรมเกิดขึ้น 521 00:24:52,242 --> 00:24:54,702 ‎ฉันคิดว่าเราต้องพูดถึงเรื่องนี้กันให้มากขึ้น 522 00:24:55,411 --> 00:24:58,873 ‎นี่ไม่ใช่เรื่องของจิม โจนส์ กับบรรดาผู้ติดตาม 523 00:24:58,957 --> 00:25:01,543 ‎แต่เป็นเรื่องของคน 917 คน กับไอ้บ้าคนหนึ่ง 524 00:25:12,971 --> 00:25:14,973 ‎คำบรรยายโดย ธัญ รัษฎานุกูล