1 00:00:02,000 --> 00:00:07,000 Downloaded from YTS.MX 2 00:00:08,000 --> 00:00:13,000 Official YIFY movies site: YTS.MX 3 00:00:21,522 --> 00:00:28,529 (ดนตรีหยั่งไปในท้องฟ้า… โบดแลร์) 4 00:00:51,218 --> 00:00:54,388 I've Got A Secret นำเสนอโดยวินสตัน 5 00:00:54,471 --> 00:00:57,432 บุหรี่กรองแล้วที่ขายดีที่สุด และรสชาติดีที่สุดของอเมริกา 6 00:00:58,141 --> 00:01:00,769 วินสตันรสชาติดี อย่างที่บุหรี่ควรเป็น 7 00:01:00,853 --> 00:01:04,230 วินสตันรสชาติดี อย่างที่บุหรี่ควรเป็น 8 00:01:04,313 --> 00:01:05,607 ใช่ครับ บุหรี่กรองแล้วของวินสตัน 9 00:01:05,691 --> 00:01:09,778 นำเสนอรายการตอบคำถามอันดับหนึ่ง ของอเมริกา I've Got A Secret 10 00:01:12,990 --> 00:01:16,076 ท่านคณะกรรมการครับ ด้วยเหตุผล ที่ท่านจะทราบในไม่กี่อึดใจนี้ 11 00:01:16,159 --> 00:01:19,037 เราจะเรียกสุภาพบุรุษ ทางซ้ายมือของผมว่าคุณเอ็กซ์ 12 00:01:19,121 --> 00:01:22,332 แต่ผมบอกได้ว่าเขามาจากเวลส์ 13 00:01:22,416 --> 00:01:25,502 เขาเป็นชาวเวลส์ และเป็นนักดนตรีอีกด้วย 14 00:01:29,256 --> 00:01:31,341 กลับมาเจอกันในอีก 20 วินาทีครับ 15 00:01:32,009 --> 00:01:34,803 แล้วแต่ละวันคุณซื้อเฮโรอีนจำนวนเท่าไร 16 00:01:35,971 --> 00:01:37,556 29 กรัม สี่หรือห้าดอลลาร์… 17 00:01:42,352 --> 00:01:45,230 ณ เมืองเลวิตทาวน์ ในสหรัฐฯ มีชุมชนที่วางแผนอย่างดี… 18 00:01:50,944 --> 00:01:55,365 จากเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ดูจะเป็น ทางการแล้ว ประธานาธิบดีเคนเนดี… 19 00:02:10,923 --> 00:02:12,841 หนึ่ง สอง สาม 20 00:02:57,803 --> 00:03:00,222 นี่คือคุณจอห์น เคล นักแต่งเพลงและนักดนตรี 21 00:03:00,305 --> 00:03:02,975 สัปดาห์ที่แล้วได้เล่นคอนเสิร์ต ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมี 22 00:03:03,058 --> 00:03:05,894 คอนเสิร์ตนี้มีอะไรต่างจาก คอนเสิร์ตอื่นๆ 23 00:03:05,978 --> 00:03:08,063 การแสดงครั้งนี้ใช้เวลา 18 ชั่วโมง 24 00:03:09,106 --> 00:03:11,733 มีใครเดาออกไหมว่าความลับ ของคุณเชนเซอร์คืออะไร 25 00:03:12,693 --> 00:03:16,488 เขาเป็นคนเดียวที่ทนดูคอนเสิร์ต จนครบ 18 ขั่วโมง 26 00:03:16,572 --> 00:03:18,365 เขาทำอย่างนั้นทำไม 27 00:03:20,242 --> 00:03:23,203 ทำไมการเล่นบทเพลงนี้ จึงใช้เวลาถึง 18 ชั่วโมง 40 นาที 28 00:03:23,996 --> 00:03:26,623 มีคำชี้แนะของนักประพันธ์เอริก ซาตี เขียนไว้ตรงนี้ 29 00:03:26,707 --> 00:03:30,210 ซึ่งบอกว่าบทเพลงชิ้นนี้ 30 00:03:30,294 --> 00:03:33,130 จะต้องเล่นซ้ำ 840 ครั้ง 31 00:03:33,755 --> 00:03:37,176 อะไรดลใจให้ชายคนหนึ่ง บอกว่าเราต้องเล่นซ้ำ 840 ครั้ง 32 00:03:37,259 --> 00:03:39,469 - เพื่อให้บทเพลงสมบูรณ์ - ผมไม่ทราบครับ 33 00:03:51,064 --> 00:03:55,777 (ลู) 34 00:04:15,047 --> 00:04:20,135 ลม ลมพัด 35 00:04:20,219 --> 00:04:25,057 ลม ลมพัด 36 00:04:25,140 --> 00:04:29,144 ลม ลมพัด 37 00:04:29,228 --> 00:04:31,563 ลม ลมพัด 38 00:04:31,647 --> 00:04:34,775 "ผมรู้สึกเหมือนผมอยู่ในโรงภาพยนตร์ 39 00:04:35,943 --> 00:04:39,404 ลำแขนทอดยาวของแสง ข้ามผ่านความมืดและหมุน 40 00:04:39,488 --> 00:04:40,697 (เสียงของลู รีด) 41 00:04:40,781 --> 00:04:42,658 สายตาผมจดจ่ออยู่กับหน้าจอ 42 00:04:43,909 --> 00:04:47,037 ภาพบนจอเต็มไปด้วยจุดและลำแสง 43 00:04:48,038 --> 00:04:51,208 ผมไม่มีตัวตนและลืมว่าตัวเองเป็นใคร 44 00:04:52,918 --> 00:04:55,963 มักเป็นอย่างนั้นเสมอ เวลาคนเราไปดูหนัง 45 00:04:57,256 --> 00:05:00,801 เหมือนยาเสพติดอย่างที่เขาว่า" 46 00:05:02,135 --> 00:05:07,558 ในความฝันที่สายลมพัดมาให้ฉัน 47 00:05:09,226 --> 00:05:11,103 เราย้ายมาลองไอส์แลนด์ ตอนดิฉันสี่ขวบ 48 00:05:11,186 --> 00:05:12,646 ส่วนพี่ลูอายุเก้าขวบ 49 00:05:12,729 --> 00:05:13,814 (เสียงของเมอร์ริลล์ รีด ไวเนอร์) 50 00:05:13,897 --> 00:05:16,483 เราอาศัยอยู่ชานเมืองที่ชื่อฟรีพอร์ต 51 00:05:16,567 --> 00:05:20,988 เมื่อมาจากบรุกลิน มาที่ชุมชนชานเมืองที่ห่างไกลนี้ 52 00:05:21,071 --> 00:05:23,240 เขาต้องปรับตัวมากอยู่เหมือนกัน 53 00:05:23,323 --> 00:05:25,158 ในวงแขนฉัน 54 00:05:25,242 --> 00:05:27,786 ลม ลม 55 00:05:27,870 --> 00:05:29,162 คุณแม่เป็นแม่บ้าน 56 00:05:29,246 --> 00:05:32,416 คุณพ่ออยากเป็นนักเขียนนิยาย นักเขียนหนังสือ 57 00:05:33,083 --> 00:05:35,711 คุณยายจะพูดว่า "ไม่ ลูกต้องเป็นนักบัญชี" 58 00:05:36,753 --> 00:05:38,255 คุณพ่อเลยเป็นนักบัญชี 59 00:05:40,591 --> 00:05:42,885 หากคุณคิดจะหากลุ่มคนหนึ่ง… 60 00:05:42,968 --> 00:05:44,178 (เสียงของอัลลัน ไฮแมน) 61 00:05:44,261 --> 00:05:47,264 เพื่อเล่นบทบาทครอบครัวยุค 1950 ที่พ่อจะรู้ดีที่สุด 62 00:05:47,347 --> 00:05:50,726 ผมว่าเขาไม่ค่อยได้ใช้เวลากับพ่อ พ่อของเขาทำงาน 63 00:05:50,809 --> 00:05:53,896 เขาไม่ใช่คนประเภทที่เรา จะออกไปโยนเล่นลูกบอลด้วย 64 00:05:55,063 --> 00:05:57,649 ไม่รู้ว่าคุณพ่อหวังอะไรจากพี่ลู 65 00:05:57,733 --> 00:06:00,068 บางทีพ่ออาจคิดว่าพี่ลู จะสืบสานกิจการต่อ 66 00:06:00,152 --> 00:06:02,613 แน่นอนว่าความหวังที่คุณพ่อ มีสำหรับดิฉัน 67 00:06:02,696 --> 00:06:04,656 คือดิฉันจะต้องทำซุบไก่ที่อร่อย 68 00:06:04,740 --> 00:06:07,117 ไม่ค่อยมีอารมณ์แบบว่า "ไปดูละครสัตว์กัน ไปพิพิธภัณฑ์…" 69 00:06:07,201 --> 00:06:08,452 ไม่มีเลย 70 00:06:08,535 --> 00:06:11,872 ฉันรู้ว่าเธอไปแล้ว แต่รักของฉัน… 71 00:06:11,955 --> 00:06:14,374 การฝึกดนตรีระยะแรกคือเปียโนคลาสสิก 72 00:06:15,459 --> 00:06:16,668 (เสียงของลู รีด) 73 00:06:16,752 --> 00:06:20,589 ผมน่าจะหยิบกีตาร์ครั้งแรกตอนอายุ สิบหรือ 11 ปี และเรียนหนึ่งครั้ง 74 00:06:20,672 --> 00:06:23,091 ผมคิดว่าผมถือเพลง "Blue Suede Shoes" ไป 75 00:06:23,175 --> 00:06:25,093 แล้วบอกว่า "สอนผมเล่นเพลงนี้หน่อย" 76 00:06:25,177 --> 00:06:27,471 ซึ่งพวกเขาคงไม่ได้มาเพื่อการนั้น 77 00:06:28,847 --> 00:06:30,891 การเรียนดนตรีของผมจึงจบลงตรงนั้น 78 00:06:32,142 --> 00:06:34,937 ผมเลยเรียนกีตาร์จากการเล่นตามเพลง 79 00:06:39,358 --> 00:06:44,154 แนวเพลงดูวอป เดอะพารากอนส์ เดอะเจสเตอร์ส์ เดอะดิอาโบลส์ 80 00:06:44,238 --> 00:06:46,156 และร็อกอะบิลลี 81 00:06:48,325 --> 00:06:49,952 ลูจะบอกผมตลอด 82 00:06:50,035 --> 00:06:54,206 ตั้งแต่แรกเลยว่าเขาอยากเป็นดาวร็อก 83 00:06:54,289 --> 00:06:55,541 นี่คือช่วงมัธยมปลาย 84 00:07:06,051 --> 00:07:10,264 พอผมอายุ 14 ปี ผมทำเพลงแรก ชื่อว่า "Leave Her for Me" 85 00:07:10,347 --> 00:07:12,599 ความผิดหวังฟางสุดท้ายของผม 86 00:07:12,683 --> 00:07:15,394 คือคืนที่เมอร์เรย์เดอะเค จะต้องเล่นเพลงนี้ทางวิทยุ 87 00:07:15,477 --> 00:07:17,104 แต่เขาดันป่วย 88 00:07:17,187 --> 00:07:20,858 พอล เชอร์แมนเป็นคนเล่นแทน ผมสลดใจมาก 89 00:07:20,941 --> 00:07:22,693 เราทุกคนนั่งอยู่ข้างวิทยุ 90 00:07:23,277 --> 00:07:26,321 เราได้เช็คค่าลิขสิทธิ์ 2.79 เหรียญ 91 00:07:26,405 --> 00:07:29,741 ซึ่งปรากฏว่ามากกว่าที่ผมหาได้ กับวง The Velvet Underground 92 00:07:31,785 --> 00:07:33,579 เอาดอกไม้บานทั้งหมดไป… 93 00:07:33,662 --> 00:07:35,330 มีอยู่ร้านหนึ่งชื่อว่า Hayloft 94 00:07:35,414 --> 00:07:37,416 เขามักจะไปเล่นที่นั่นคนเดียว 95 00:07:38,375 --> 00:07:40,460 คืนที่รักของฉันมา 96 00:07:40,544 --> 00:07:43,088 ทุกคนรู้ว่าที่นั่นคือไนต์คลับเกย์ 97 00:07:43,172 --> 00:07:47,259 ผมเคยถามเขาถึงเหตุผล ที่อยากเล่นในไนต์คลับเกย์ 98 00:07:47,342 --> 00:07:49,386 แล้วเขาตอบว่าที่นั่น มีกลุ่มคนที่น่าสนใจ 99 00:07:49,469 --> 00:07:53,182 โปรดคืนเธอมาให้ฉัน คืนที่รักของฉัน 100 00:07:53,265 --> 00:07:55,225 วงได้เล่นตามงานต่างๆ ในเมือง 101 00:07:55,309 --> 00:07:56,685 เขายังเรียนอยู่มัธยมปลาย 102 00:07:56,768 --> 00:07:57,936 (จอห์น) 103 00:07:58,020 --> 00:08:01,523 ดิฉันว่าเรื่องนี้ เป็นเหตุให้ชีวิตที่บ้านลำบากขึ้น 104 00:08:21,376 --> 00:08:23,754 ตอนนั้นเราอาศัยอยู่กับคุณยายผม 105 00:08:23,837 --> 00:08:27,424 แล้วคุณยายเป็นคนที่รักชาติมาก 106 00:08:27,508 --> 00:08:30,219 หนึ่งเรื่องที่คุณยายไม่พอใจ คือคุณแม่แต่งงานกับผู้ชายอังกฤษ… 107 00:08:30,302 --> 00:08:31,845 (เสียงของจอห์น เคล) 108 00:08:31,929 --> 00:08:33,514 และไม่พูดภาษาเวลส์ 109 00:08:33,597 --> 00:08:36,308 ไม่ใช่แค่แต่งกับผู้ชายอังกฤษ แต่ผู้ชายคนนั้นเป็นคนทำงานเหมือง 110 00:08:36,390 --> 00:08:39,686 คุณยายทุ่มเวลาหลายปี เพื่อให้ลูกๆ ออกจากชีวิตแบบนั้น 111 00:08:39,770 --> 00:08:44,441 คุณยายผลักดันให้ลูกชายทุกคน และคุณแม่ได้เข้าถึงการศึกษา 112 00:08:46,485 --> 00:08:49,029 พอคุณแม่แต่งงาน แล้วคุณพ่อย้ายเข้าบ้าน 113 00:08:49,112 --> 00:08:51,448 คุณยายห้ามการพูดภาษาอังกฤษในบ้าน 114 00:08:51,532 --> 00:08:53,909 จนกว่าผมจะได้เรียนภาษาอังกฤษ ที่โรงเรียนตอนเจ็ดขวบ 115 00:08:53,992 --> 00:08:55,827 ผมสื่อสารกับคุณพ่อไม่ได้ 116 00:08:57,788 --> 00:09:00,707 ความไม่พอใจที่ผม… ที่ผมได้รับจากคุณยาย 117 00:09:00,791 --> 00:09:02,793 จริงๆ เป็นความเกลียดชังรูปแบบหนึ่ง 118 00:09:03,961 --> 00:09:05,128 ค่อนข้างเศร้าอยู่ 119 00:09:06,588 --> 00:09:09,216 คุณแม่สอนผมเล่นเปียโนอยู่พักหนึ่ง 120 00:09:09,299 --> 00:09:11,218 พอผมเล่นได้ถึงจุดหนึ่ง 121 00:09:11,301 --> 00:09:13,554 คุณแม่ก็ให้คนอื่นสอนต่อ 122 00:09:13,637 --> 00:09:15,389 คุณแม่อดทนเพื่อผม 123 00:09:15,472 --> 00:09:18,642 ประมาณหกหรือเจ็ดปี 124 00:09:21,937 --> 00:09:24,356 ชีวิตในจินตนาการคือชีวิตในวิทยุ 125 00:09:25,148 --> 00:09:28,902 พอถึงตอนนั้น ผมได้หาทาง ที่จะใช้วิทยุให้มีประโยชน์ 126 00:09:28,986 --> 00:09:32,698 คือการเปิดไปฟัง การถ่ายทอดของต่างประเทศ 127 00:09:32,781 --> 00:09:35,826 สถานี Suisse Romande กับ Radio Moscow 128 00:09:37,703 --> 00:09:42,332 พอเข้าโรงเรียนมัธยม ที่โรงเรียน มีวงออร์เคสตรา ผมอยากเล่น 129 00:09:42,416 --> 00:09:45,836 ผมตั้งใจจะเล่นไวโอลิน แต่ที่โรงเรียนไม่มี 130 00:09:45,919 --> 00:09:48,130 มีแต่วิโอลา ผมเลยเล่นวิโอลาแทน 131 00:09:48,922 --> 00:09:52,968 พวกเขามีบทประพันธ์ของบัค บทประพันธ์เชลโลสำหรับวิโอลา 132 00:09:53,051 --> 00:09:55,888 ซึ่งดีมากๆ ทำให้เราได้ฝึกเยอะเลย 133 00:09:55,971 --> 00:09:59,683 แล้วก็มีเพลง Paganini Caprices… 134 00:09:59,766 --> 00:10:02,311 ซึ่งผมทำครูตกใจอยู่เหมือนกัน 135 00:10:02,394 --> 00:10:05,022 เมื่อบอกครูว่าผมจะเรียนเพลง Paganini Caprices 136 00:10:09,026 --> 00:10:11,695 คุณแม่ของผมต้องผ่าตัดหน้าอก 137 00:10:11,778 --> 00:10:15,866 คุณแม่หายตัวไปอยู่ ที่โรงพยาบาลที่แยกออกมา 138 00:10:15,949 --> 00:10:19,119 ซึ่งมีกำแพงด้านนอกสูง 25 ฟุต 139 00:10:19,203 --> 00:10:22,289 คุณพ่อของผมจะพาผมขึ้นไป และอุ้มผมไว้ 140 00:10:24,333 --> 00:10:25,501 คุณแม่หายตัวไป 141 00:10:26,418 --> 00:10:28,754 ทุกอย่างเริ่มไม่ปกติ 142 00:10:28,837 --> 00:10:30,047 ผมต้องพึ่งตัวเอง 143 00:10:30,589 --> 00:10:34,259 คุณพ่อได้แต่ออกไปทำงาน ผมรู้สึกโดดเดี่ยวมาก 144 00:10:36,053 --> 00:10:38,555 ผมไม่สามารถคุยกับคุณพ่อ ถึงเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น 145 00:10:38,639 --> 00:10:41,391 ผมไม่สามารถคุยกับคุณแม่ เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ 146 00:10:41,475 --> 00:10:46,355 ผมเลยถูกเอาเปรียบ และผมไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร 147 00:10:49,399 --> 00:10:51,693 มีบทประพันธ์หนึ่งที่ผมจำตอนเปิดได้ 148 00:10:51,777 --> 00:10:53,654 แต่จำตอนจบไม่ได้ 149 00:10:53,737 --> 00:10:55,781 ผมเลยต้องอิมโพรไวส์เพื่อจบให้ได้ 150 00:10:55,864 --> 00:10:58,408 ผมก็ทำได้ดีในการจบเพลง 151 00:10:58,492 --> 00:11:02,496 ผมรังสรรค์ตอนจบที่สวยงาม และรอดมาได้ 152 00:11:03,080 --> 00:11:06,583 ตอนที่ผมออกจากห้องนั้น ตอนแรกผมกลัวมาก 153 00:11:07,167 --> 00:11:10,295 ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วมันก็เกิด 154 00:11:10,379 --> 00:11:12,130 ช่วงเวลานั้นที่เกิดขึ้น 155 00:11:12,214 --> 00:11:15,092 นั่นคือสิ่งที่เปลี่ยนทุกอย่าง ตั้งแต่แรกเริ่ม 156 00:11:15,175 --> 00:11:18,220 เกี่ยวกับการหาทางออกจากปัญหา 157 00:11:18,303 --> 00:11:23,141 การกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดนั้น ไม่ใช่ปัญหา 158 00:11:23,225 --> 00:11:25,102 เป็นจุดเริ่มต้นของการอิมโพรไวส์ 159 00:11:29,022 --> 00:11:29,857 (จบ) 160 00:11:31,650 --> 00:11:35,153 ทุกอย่างเริ่มพุ่งมา ที่สิ่งที่ผมวางแผนจะทำอย่างช้าๆ 161 00:11:35,904 --> 00:11:38,407 และผมคิดว่าผมตัดสินใจอย่างมีเหตุผล 162 00:11:38,490 --> 00:11:40,742 ผมคิดว่า "อยากเป็นวาทยากร" 163 00:11:42,828 --> 00:11:45,998 นอกจากนี้ ผมชัดเจนมาก ว่าต้องออกจากเมืองเกิดให้ได้ 164 00:11:46,081 --> 00:11:49,668 เมืองนี้ไม่มีอะไร ผมตะเกียกตะกายที่จะออกจากที่นั่น 165 00:11:50,210 --> 00:11:53,964 มีครั้งหนึ่งที่ผมตกใจกลัวจนสติหลุด 166 00:11:54,047 --> 00:11:57,968 และต้องแสดงจนจบบทเพลง ให้ได้อย่างสวยงาม 167 00:12:00,804 --> 00:12:02,556 ประสบการณ์นั้นคือก้าวสำคัญ สำหรับชีวิตผมในอนาคต 168 00:12:03,015 --> 00:12:08,729 (นครนิวยอร์ก) 169 00:12:24,828 --> 00:12:26,914 เธอฆ่าลูกชายชาวยุโรปของเธอ 170 00:12:27,956 --> 00:12:30,250 เธอถากถางคนที่มีอายุต่ำกว่า 21 171 00:12:30,876 --> 00:12:32,711 แต่ตอนนี้รถสีน้ำเงิน ของเธอไม่อยู่แล้ว 172 00:12:32,794 --> 00:12:36,006 เธอคงต้องบอกลาก่อน เฮ้ เฮ้ เฮ้ บาย บาย บาย 173 00:12:36,089 --> 00:12:42,054 นิวยอร์กในช่วงสงคราม กลายเป็นที่ลี้ภัยของศิลปิน 174 00:12:42,137 --> 00:12:44,181 (เสียงของโจนัส เมคัส) 175 00:12:44,264 --> 00:12:46,975 เลยเป็นการพบปะของนิวยอร์ก 176 00:12:47,059 --> 00:12:52,022 กับศิลปินฝีมือดีที่สุด จากปารีสและเบอร์ลิน 177 00:12:52,105 --> 00:12:55,067 เธอคงต้องบอกว่าลาก่อน ตัวตลกบอกลาเธอ 178 00:12:56,818 --> 00:13:01,490 นิวยอร์กในช่วงท้ายปี 50 และตอนนี้เราจะเข้าสู่ปี 60 179 00:13:06,703 --> 00:13:11,542 ในขณะที่นูเวลล์วากของฝรั่งเศส มี Cinémathèque Française 180 00:13:12,376 --> 00:13:14,878 เรามีถนนหมายเลข 42 ของเรา 181 00:13:15,838 --> 00:13:18,632 ทุกคืนเราจะออกไปที่ถนนหมายเลข 42 182 00:13:18,715 --> 00:13:23,220 ซึ่งมีโรงภาพยนตร์ อีกประมาณ 15 หรือ 20 โรง 183 00:13:25,264 --> 00:13:28,767 และยุคนั้นเป็นช่วงที่ศิลปะทุกแขนง 184 00:13:28,851 --> 00:13:32,813 และรูปแบบชีวิตเริ่มเปลี่ยน 185 00:13:33,438 --> 00:13:36,191 เเละรุ่งเรืองในช่วงปี 60 186 00:13:41,864 --> 00:13:47,786 เราไม่ได้เป็นวัฒนธรรมย่อย หรือวัฒนธรรมปรปักษ์ เราคือวัฒนธรรม 187 00:13:54,126 --> 00:13:57,087 จิตรกร นักดนตรี ผู้กำกับภาพยนตร์ 188 00:13:57,171 --> 00:14:02,134 พวกเขาไม่ได้สนใจ การเล่าเรื่องที่เน้นเนื้อเรื่อง 189 00:14:03,385 --> 00:14:09,600 ความสุทนทรีย์ของภาพยนตร์ถูกยก ให้อยู่ในระดับเดียวกับศิลปะแขนงอื่น 190 00:14:18,859 --> 00:14:21,528 เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 1962 191 00:14:21,612 --> 00:14:25,157 สตูดิโอของผม The Film-Makers' Cooperative 192 00:14:25,240 --> 00:14:28,535 กลายเป็นจุดนัดพบ ของเหล่าผู้กำกับภาพยนตร์ 193 00:14:29,119 --> 00:14:31,413 ทุกค่ำคืนจะมีการฉายภาพยนตร์ 194 00:14:31,496 --> 00:14:34,791 แอนดีก็จะมาอยู่แถวนั้น 195 00:14:34,875 --> 00:14:37,336 แต่ผมไม่รู้ว่าเขาคือแอนดี 196 00:14:37,419 --> 00:14:40,255 เขาจะนั่งบนพื้นร่วมกับคนอื่นๆ 197 00:14:41,340 --> 00:14:44,301 นั่นคือที่ที่เขาพบดาราดัง ในยุคแรกๆ ของเขา 198 00:14:44,384 --> 00:14:48,889 อย่างมาริโอ มอนเตซ แจ็ก สมิธ และเจราร์ด มาลานกา 199 00:14:49,890 --> 00:14:51,808 ที่นั่นคือโรงเรียนภาพยนตร์ของแอนดี 200 00:15:02,903 --> 00:15:04,071 พอผมเข้าเรียนที่โกล์ดสมิธ… 201 00:15:04,154 --> 00:15:05,322 (จอห์น เคล) 202 00:15:05,405 --> 00:15:10,452 เป็นสถานศึกษาที่เปิดกว้างมาก 203 00:15:10,536 --> 00:15:15,290 ผมได้เรียนวิโอลาและการประพันธ์เพลง กับฮัมฟรีย์ เซอร์ล 204 00:15:15,374 --> 00:15:19,670 เขาเข้าใจเคจและคนเหล่านั้นที่ผมสนใจ 205 00:15:19,753 --> 00:15:23,298 จอห์น เคจ กับ "Water Walk" 206 00:15:27,511 --> 00:15:30,556 จอห์น เคจเป็นผู้นำของกลุ่มล้ำยุค 207 00:15:30,639 --> 00:15:34,059 ด้านดนตรีในนิวยอร์กและสหรัฐอเมริกา 208 00:15:34,142 --> 00:15:37,813 แต่ผมว่าลามอนต์ เตรียมที่จะชิงตำแหน่งนั้น 209 00:15:42,359 --> 00:15:46,905 ผมได้รับทุนการศึกษาเบิร์นสไตน์ ซึ่งจ่ายค่าการเดินทางและอื่นๆ ให้ผม 210 00:15:47,489 --> 00:15:51,702 เราอยู่ในโลกที่… คุณนายคูสเซวิตสกียังมีชีวิตอยู่ 211 00:15:52,286 --> 00:15:56,123 เธอจะมีงานเลี้ยงตอนบ่าย สำหรับนักเรียน 212 00:15:56,957 --> 00:15:59,668 พวกเขาไม่ยอมให้ผมทำการแสดง เพราะรุนแรงเกินไป 213 00:15:59,751 --> 00:16:03,672 ผมถามแฮร์รี เคราต์ ซึ่งดูแลกำหนดการ เขาถามว่าการแสดงรุนแรงไหม 214 00:16:04,631 --> 00:16:07,634 การแสดงชิ้นนั้นส่วนใหญ่ คือการอยู่ข้างในเปียโน 215 00:16:07,718 --> 00:16:10,220 และการทุบด้านในของเปียโน หรืออะไรก็ตาม 216 00:16:10,304 --> 00:16:11,763 แล้วผมก็ไปเอาขวานมา 217 00:16:17,186 --> 00:16:20,981 จำได้ว่ามีคนดูคนหนึ่งในแถวหน้า ลุกขึ้นวิ่งออกไป 218 00:16:21,064 --> 00:16:23,942 นั่นคือคุณนายคูสเซวิตสกี เธอ… เธอร้องไห้เลย 219 00:16:24,026 --> 00:16:27,821 แล้วผมพูดว่า "โห ผมเสียใจที่…" 220 00:16:27,905 --> 00:16:30,240 เธอไม่สบายใจสักพัก แต่ไม่ต้องห่วง 221 00:16:30,324 --> 00:16:32,826 เราพาเธอออกไปดื่มค็อกเทลในภายหลัง เธออารมณ์ดีขึ้น 222 00:16:35,871 --> 00:16:38,999 ตอนนั้นผมรู้จักกับคอร์นีเลียส คาร์ดิวแล้ว เราเที่ยวด้วยกัน 223 00:16:39,625 --> 00:16:43,086 เหมือนมีคนที่เข้าใจ เรื่องราวที่เราพูดถึง 224 00:16:43,170 --> 00:16:45,797 คอร์นีเลียสได้พบกับลามอนต์แล้ว 225 00:16:51,178 --> 00:16:54,765 ลามอนต์ ยัง เป็นคนถัดไป ที่จะสืบทอดต่อจากจอห์น เคจ 226 00:16:56,183 --> 00:16:58,852 การไปที่ร้าน Tanglewood เป็นเส้นทางของผมไปหาลามอนต์ 227 00:17:01,522 --> 00:17:03,023 มีการแยกส่วน… 228 00:17:03,106 --> 00:17:04,525 (เฮนรี ฟลินท์) 229 00:17:04,608 --> 00:17:06,484 ไปถึงจุดที่ไม่ใช่ดนตรีแล้ว 230 00:17:06,568 --> 00:17:07,694 เจอกันสัปดาห์หน้า สวัสดีครับ 231 00:17:09,029 --> 00:17:12,449 เมื่อใครได้เจอกับลามอนต์ ทุกอย่างจบ 232 00:17:12,532 --> 00:17:16,036 ทุกคนอยากจะทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ แล้วดูผมสิ 233 00:17:16,994 --> 00:17:18,454 ตอนนั้นผมทำสิ่งที่ผมตั้งใจ… 234 00:17:18,539 --> 00:17:19,873 (ลามอนต์ ยัง) 235 00:17:19,957 --> 00:17:21,541 จะพาคุณไปสู่สภาวะทางจิตที่สูงมาก 236 00:17:27,589 --> 00:17:31,051 ก่อนหน้าผมไม่เคยมีใครแต่งเพลง 237 00:17:31,134 --> 00:17:33,595 ที่มีแต่โทนเสียงที่ยาวและคงที่ 238 00:17:35,389 --> 00:17:38,183 จอห์นเป็นชาวเวลส์ 239 00:17:38,267 --> 00:17:40,686 เขาเขียนหาเรา เขาเขียนจดหมายหาเราจาก… 240 00:17:40,769 --> 00:17:43,272 - จากเวลส์ หรืออาจจะเป็นลอนดอน - เวลส์ หรือสหราชอาณาจักร 241 00:17:43,355 --> 00:17:44,565 (มาเรียน ซาซีลา) 242 00:17:44,648 --> 00:17:46,191 สักที่ในสหราชอาณาจักร 243 00:17:46,275 --> 00:17:47,818 เขาบอกว่าเขาอยากมาเรียน 244 00:17:47,901 --> 00:17:48,902 ใช่ 245 00:17:49,820 --> 00:17:52,114 - เรา… เราบอกว่าเขามาได้ - ใช่ 246 00:17:53,740 --> 00:17:56,368 ผมไม่ได้มานิวยอร์ก กระทั่งปี 1963 247 00:17:56,869 --> 00:18:01,582 เป็นครั้งแรกที่ผมมานิวยอร์ก และผมตกใจมากกับ… 248 00:18:01,665 --> 00:18:03,792 ไอน้ำที่ลอยขึ้นมาจากฟุตบาท 249 00:18:04,543 --> 00:18:07,504 "โอ้โห ที่นี่โสโครกสิ้นดี" 250 00:18:07,588 --> 00:18:10,048 (บัตรสมาชิก ฤดูใบไม้ผลิปี 1957) 251 00:18:10,132 --> 00:18:13,760 เสียงโดรนทุ้มต่ำ ของลามอนต์นั้นช่วยทำให้อุ่นใจ 252 00:18:14,219 --> 00:18:16,638 เรากลับมาอยู่กับดนตรี 253 00:18:16,722 --> 00:18:19,808 มุ่งอยู่กับสิ่งที่เราจะได้ฟัง 254 00:18:19,892 --> 00:18:25,772 เราได้ยินเสียงโดรน แต่จริงๆ แล้ว เรากำลังศึกษาเสียงประสานธรรมชาติ 255 00:18:30,527 --> 00:18:34,781 ลูโทรหาผม เขาบอกผม ว่าเขาอยู่ในภาวะซึมเศร้า 256 00:18:34,865 --> 00:18:35,991 (เสียงของอัลลัน ไฮแมน) 257 00:18:36,074 --> 00:18:37,784 เขาบอกว่าเขากำลังได้รับการรักษา 258 00:18:38,327 --> 00:18:43,957 เขาคิดว่าพ่อแม่เขาน่าจะพยายาม ช็อกความเป็นเกย์ออกจากตัวเขา 259 00:18:45,459 --> 00:18:48,253 ผมไม่มีทางเชื่อ เพราะผมรู้จักพ่อแม่เขา 260 00:18:50,088 --> 00:18:52,466 ไม่ว่าคุณอยากจะพูดหรือไม่ก็ตาม 261 00:18:52,549 --> 00:18:58,096 ว่า "เขาเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า เขาใช้ยาเสพติดจำนวนมากหรือเปล่า" 262 00:18:59,348 --> 00:19:03,435 ดิฉันว่าสภาพแวดล้อมของยุคนั้น ไม่ได้ช่วย 263 00:19:03,519 --> 00:19:07,356 และความช่วยเหลือที่มีในตอนนั้น ก็ไม่เพียงพอ 264 00:19:07,439 --> 00:19:09,733 เมื่อคุณถามถึงพี่ลูในช่วงเวลานั้น ดิฉันเลยไม่สบายใจ 265 00:19:09,816 --> 00:19:10,859 (เมอร์ริลล์ รีด ไวเนอร์) 266 00:19:10,943 --> 00:19:13,529 ดิฉันไม่สบายใจ เพราะความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น 267 00:19:13,612 --> 00:19:17,824 และนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขา หรือพ่อแม่ดิฉันควรจะได้รับ 268 00:19:17,908 --> 00:19:23,622 เป็นเรื่องที่ง่ายและน่าตลกเกินไป ที่จะคิดว่ามีคำอธิบายที่ง่าย 269 00:19:29,086 --> 00:19:30,629 เขากำลังจะได้เข้า มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก 270 00:19:31,797 --> 00:19:34,216 ถ้าจำไม่ผิด เขาเรียนได้เทอมครึ่ง 271 00:19:36,635 --> 00:19:41,181 เขาโทรหาผมมาบอกว่า เขาจะย้ายไปมหาวิทยาลัยซีราคิวส์ 272 00:19:53,694 --> 00:19:57,322 แล้วพอเขาไปถึงซีราคิวส์ เขากลายเป็นคนละคน 273 00:19:57,406 --> 00:19:59,741 บึ้งตึง ไม่เป็นมิตร 274 00:19:59,825 --> 00:20:03,287 เขาต่อต้านแทบทุกอย่าง 275 00:20:06,123 --> 00:20:08,208 ผมไม่ค่อยเข้าใจเขา 276 00:20:12,963 --> 00:20:14,965 เราจะเมากัญชา และเล่นดนตรีกัน 277 00:20:15,048 --> 00:20:18,594 บางครั้งเราเล่นเพลงของเรย์ ชาร์ลส์ หรือไม่ก็แฟรงกี ไลมอน 278 00:20:18,677 --> 00:20:19,845 (ริชาร์ด มิชกิน) 279 00:20:19,928 --> 00:20:23,098 เราจะเล่นที่สโมสรนักศึกษาชาย สโมสรนักศึกษาหญิง และบาร์ 280 00:20:23,182 --> 00:20:24,391 (เสียงของลู รีด) 281 00:20:24,474 --> 00:20:27,978 เราแย่มากจนเราต้องเปลี่ยนชื่อบ่อย 282 00:20:28,061 --> 00:20:29,688 เพราะไม่มีใครคิดจะจ้างเราซ้ำ 283 00:20:31,940 --> 00:20:35,861 จะมีบางครั้งที่ผมจะพลาดคิว หรือเล่นผิดจังหวะ 284 00:20:36,445 --> 00:20:37,779 แล้วเขาจะสติแตกเลย 285 00:20:37,863 --> 00:20:38,906 (อัลลัน ไฮแมน) 286 00:20:38,989 --> 00:20:42,201 เขาจะหันกลับมาทุบฉาบ 287 00:20:42,284 --> 00:20:44,161 เขาไม่มีความยับยั้งชั่งใจเลย 288 00:20:44,244 --> 00:20:48,665 ใครก็ตามที่ไม่สมบูรณ์แบบ หรือทำไม่ถูกใจ 289 00:20:51,001 --> 00:20:53,378 เรามีงานแสดงหนึ่ง ที่มหาวิทยาลัยเซนต์ลอว์เรนซ์ 290 00:20:53,462 --> 00:20:56,381 บนเรือลำหนึ่งบนแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ 291 00:20:56,465 --> 00:20:58,133 ลูบอกว่า "ผมไม่เล่นบนเรือลำนั้น" 292 00:20:58,217 --> 00:21:00,719 ผมก็บอกว่า "ลู เราต้องเล่นบนเรือ แค่…" 293 00:21:00,802 --> 00:21:03,096 เขาบอกว่า "ไม่เล่น" บึ้ม 294 00:21:03,180 --> 00:21:08,519 เขาเอามือชกกระจกบานประตู มือเขามีเลือดอาบ 295 00:21:08,602 --> 00:21:11,730 เราต้องพาเขาไปโรงพยาบาล เย็บไปหลายเข็ม 296 00:21:11,813 --> 00:21:15,067 ถ้าจำไม่ผิด เป็นมือข้างขวาของเขา 297 00:21:15,150 --> 00:21:17,444 เขาบอกว่า "เห็นไหมละ ผมเล่นไม่ได้" 298 00:21:17,528 --> 00:21:21,156 ผมบอกว่า "คุณร้องได้ ส่วนกีตาร์ คุณเล่นไม่ได้เรื่องอยู่ดี 299 00:21:21,240 --> 00:21:22,991 หาคนแทนได้" 300 00:21:23,075 --> 00:21:25,452 แล้วเราก็เล่น 301 00:21:25,536 --> 00:21:27,621 เขามีมุมที่เหมือนเด็กอายุสามขวบ 302 00:21:28,872 --> 00:21:30,707 โว้ เฮ้ ม้าหมุน 303 00:21:30,791 --> 00:21:34,002 เราทำเดโมขึ้นมาหนึ่งเพลง ชื่อว่า "Your Love" 304 00:21:34,086 --> 00:21:36,129 รักเล็กๆ ของเธอ 305 00:21:36,213 --> 00:21:39,007 รักของเธอ รักเล็กๆ ของเธอ 306 00:21:39,758 --> 00:21:43,804 ฉันไม่เคยคิดว่าฉันเป็นชายเต็มตัว จนมาเจอรักเธอ 307 00:21:43,887 --> 00:21:47,766 เราไปประชุมกันในเมือง 308 00:21:47,850 --> 00:21:51,812 กับผู้ชายที่ชอบเทปเดโมของลู 309 00:21:52,479 --> 00:21:54,648 เขาหันไปหาลู แล้วพูดว่า 310 00:21:54,731 --> 00:21:58,193 "คุณอยากทำอะไร คุณมีเป้าหมายอะไร" 311 00:21:58,277 --> 00:22:02,364 เขาตอบว่า "ผมอยากรวย ผมอยากเป็นนักร้องร็อก 312 00:22:02,447 --> 00:22:06,118 แล้วผมจะรวย และผมจะเป็นนักร้องร็อก 313 00:22:06,201 --> 00:22:08,036 ไม่ว่าคุณจะทำเพลงให้ผมหรือไม่ก็ตาม" 314 00:22:08,120 --> 00:22:11,290 เขาไม่สบายตัวในสถานที่ส่วนใหญ่ 315 00:22:11,373 --> 00:22:12,624 (เชลลี คอร์วิน) 316 00:22:12,708 --> 00:22:14,543 แล้วถ้าเขาไม่ได้สบายใจตั้งแต่ต้น 317 00:22:14,626 --> 00:22:18,881 เขาจะใช้ข้อนี้มางัด ทำให้คนอื่นๆ ไม่สบายใจไปด้วย 318 00:22:18,964 --> 00:22:20,507 นั่นคือความสบายใจของเขา 319 00:22:20,591 --> 00:22:24,636 ไม่รู้ว่าทำไมเขาไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ดิฉันว่าเขาขาดความมั่นใจมาก 320 00:22:24,720 --> 00:22:27,681 ดิฉันคิดว่าเขา ขาดความมั่นใจมาทั้งชีวิต 321 00:22:28,640 --> 00:22:32,019 เขาจะรู้สึกโกรธมากเวลาที่คนฏิเสธเขา 322 00:22:33,103 --> 00:22:35,814 เขาเลยจะเป็นฝ่ายตัดความสัมพันธ์ก่อน 323 00:22:41,653 --> 00:22:47,534 ในโบสถ์มืดมิดแห่งดนตรี ซึ่งไม่เคยมีแต่ดินหรือน้ำทะเล 324 00:22:47,618 --> 00:22:50,746 แต่ผลิบานในอากาศข้างในความนึกคิด 325 00:22:50,829 --> 00:22:52,748 (เสียงของเดลมอร์ ชวาร์ตซ์) 326 00:22:52,831 --> 00:22:57,044 แบบแผนที่เคลื่อนตัวและการกระทำ ขบวนที่ต่อเนื่อง 327 00:22:57,127 --> 00:23:00,255 เคลื่อนตัวด้วยความสง่าของความแน่นอน 328 00:23:00,339 --> 00:23:02,674 เพื่อเปิดม่านที่ปิดอยู่… 329 00:23:02,758 --> 00:23:05,052 ถึงตอนนี้เขา ก็เที่ยวเล่นกับเดลมอร์แล้ว 330 00:23:07,554 --> 00:23:10,390 คนที่ผมชื่นชมที่สุด คือเดลมอร์ ชวาร์ตซ์ 331 00:23:10,474 --> 00:23:15,020 ผมเรียนกวีนิพนธ์กับเขา แต่มีเรื่องอื่นๆ ด้วย 332 00:23:15,103 --> 00:23:17,981 ทั้งเรียงความ และเรื่องสั้นอันน่าทึ่ง 333 00:23:19,149 --> 00:23:25,989 ผมทึ่งที่มีคนทำแบบนี้ได้ กับภาษาธรรมดาทั่วไป 334 00:23:26,657 --> 00:23:29,701 ส่วนเดลมอร์ ชวาร์ตซ์ ก็คิดว่าลู มีพรสวรรค์อย่างมาก 335 00:23:29,785 --> 00:23:32,538 และตีพิมพ์กวีนิพนธ์ของเขาไปหลายงาน 336 00:23:32,621 --> 00:23:34,039 ในนิตยสาร Evergreen Review 337 00:23:34,623 --> 00:23:39,628 บทกวีของเขาจะเน้น เรื่องเกี่ยวกับเกย์ 338 00:23:39,711 --> 00:23:41,421 ในหัวข้อเกย์ที่แสนหม่นหมอง 339 00:23:41,505 --> 00:23:47,427 ความคิดที่จะเจอผู้ชาย ในห้องน้ำสาธารณะ 340 00:23:47,511 --> 00:23:53,559 ไปมีอะไรกับผู้ชายแถวๆ โถฉี่ และเอามาเขียนเป็นบทกวี 341 00:23:53,642 --> 00:23:56,186 พอผมได้อ่านหนึ่งในบทกวีเหล่านั้น 342 00:23:56,270 --> 00:23:59,273 ผมก็ถามเขาว่า "ลู อะไรวะ" 343 00:24:00,148 --> 00:24:05,279 ความคิดที่เสื่อมทราม เกี่ยวกับเซ็กซ์นี้มาจากไหน" 344 00:24:06,238 --> 00:24:10,450 เขาตอบว่า "ถ้าไม่หม่น ไม่เสื่อมทราม ก็ไม่ร้อนแรง ไม่ใช่เซ็กซ์" 345 00:24:10,993 --> 00:24:13,078 เขาบอกว่า "คุณไม่มีทางเข้าใจหรอก 346 00:24:13,161 --> 00:24:15,038 คุณกำลังกลายเป็น พวกนิยมระบบหัวโบราณ" 347 00:24:18,667 --> 00:24:21,962 น่าจะเป็นวันขอบคุณพระเจ้า หรือวันคริสต์มาสที่เราไป Hayloft 348 00:24:22,921 --> 00:24:25,757 ดิฉันจำอะไรไม่ค่อยได้ นอกจากว่าเป็นบาร์เกย์ 349 00:24:27,718 --> 00:24:32,472 มีผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่น ชื่อแอ็กชัน เขาพยายามจับคู่ดิฉันกับผู้หญิงคนนี้ 350 00:24:33,182 --> 00:24:35,684 ดิฉันบอกว่า "อืม ฉันไม่ได้เป็นเกย์ ฉันไม่อยากเป็นเกย์ 351 00:24:35,767 --> 00:24:37,978 ฉันไม่อยากทดลอง ฉันไม่สนใจ" 352 00:24:38,437 --> 00:24:41,648 เขาบอกว่า "ไปเต้นกับเธอสิ" ดิฉันก็เลย "โอเค เต้นก็ได้" 353 00:24:43,150 --> 00:24:46,153 ดิฉันว่าเขาพาดิฉันไป เพื่อให้รู้ว่าเขาไปไหนและทำอะไร 354 00:24:47,362 --> 00:24:49,239 คนจะถามว่า "แล้วทำไมไม่สนเรื่องนั้น 355 00:24:49,323 --> 00:24:52,201 คุณ อยู่กับเขาได้อย่างไร ถ้าเขาอยู่กับผู้ชาย 356 00:24:52,284 --> 00:24:54,411 ดิฉันก็ตอบว่า "นั่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน" 357 00:24:54,494 --> 00:24:57,623 ดิฉันไม่ได้หึงด้วย ดิฉันไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา 358 00:25:00,042 --> 00:25:04,129 สิ่งที่น่ากลัวกว่ามากคือการขับรถ เข้าไปแมนแฮตตัน ไปฮาร์เลม 359 00:25:04,213 --> 00:25:05,923 เพื่อไปรับ… น่าจะเป็นเฮโรอีน 360 00:25:06,006 --> 00:25:08,884 แล้วเราจะไปที่ถนน 125 และเซนต์นิโคลัส 361 00:25:08,967 --> 00:25:10,928 ไปที่บ้านอะพาร์ตเมนต์นี้ 362 00:25:11,011 --> 00:25:15,307 เขาชอบเหลือเกิน ที่จะพาดิฉันไปสถานที่ที่ไม่ปลอดภัย 363 00:25:16,683 --> 00:25:18,560 แล้วเขาแค่จัดฉาก 364 00:25:18,644 --> 00:25:21,271 เพื่อที่เขาจะได้มีเนื้อหามาเขียน 365 00:25:23,649 --> 00:25:25,025 เขาจะเขียนอยู่ตลอดเวลา 366 00:25:25,108 --> 00:25:29,571 ถ้าไม่เขียนเรื่อง ก็จะเขียนเนื้อเพลงหรือแต่งเพลง 367 00:25:29,655 --> 00:25:32,908 แต่เขาจะพูดเสมอว่ามันไม่ต่างกัน 368 00:25:32,991 --> 00:25:38,455 ระหว่างนักเขียนหนังสือ กับนักแต่งเพลง 369 00:25:40,958 --> 00:25:47,047 วอซเนเซนสกีเจ็ดคน คร่ำครวญแต่ไร้เสียง 370 00:25:47,840 --> 00:25:51,552 เสียงร้องของผมถูกฉีก 371 00:25:51,635 --> 00:25:57,391 กลายเป็นเส้นเทปและลิ้นสีแดง ยาวไม่สิ้นสุด 372 00:25:57,474 --> 00:26:03,313 สมัยที่ผมอยู่มหาวิทยาลัย ผมได้รับอิทธิพลจากกินส์เบิร์กมาก 373 00:26:03,397 --> 00:26:06,108 "Howl" กับ "Kaddish" 374 00:26:06,191 --> 00:26:08,026 Naked Lunch ของเบอร์โรส์ 375 00:26:08,110 --> 00:26:11,697 Last Exit to Brooklyn ของฮูเบิร์ต เซลบี จูเนียร์ 376 00:26:11,780 --> 00:26:15,909 ผมคิดในใจ "นั่นคือสิ่งที่ต้องการทำ แต่ใช้กลองกับกีตาร์" 377 00:26:15,993 --> 00:26:17,995 ดังนั้น "ฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังไปไหน 378 00:26:19,162 --> 00:26:21,582 ฉันจะพยายามชิงอาณาจักรหากทำไหว 379 00:26:22,291 --> 00:26:24,334 เพราะนั่นทำให้รู้สึกว่าตัวเอง เป็นผู้ชาย 380 00:26:25,502 --> 00:26:27,546 เมื่อเอาเข็มจิ้มเข้าเส้นเลือด 381 00:26:27,629 --> 00:26:30,632 รู้ไหมว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิม 382 00:26:30,716 --> 00:26:34,344 เมื่อฤทธิ์ยาพัดพาฉันไป และรู้สึกเหมือนเป็นบุตรพระเยซู 383 00:26:34,428 --> 00:26:37,639 ฉันคงไม่รู้อะไร ฉันคงไม่รู้อะไรเลย" 384 00:26:43,770 --> 00:26:45,772 น่าจะไม่เคยมีปัญหาใด 385 00:26:45,856 --> 00:26:50,027 ด้านพฤติกรรมมนุษย์หรือการประพฤติผิด ที่อยู่กับเรามานาน 386 00:26:50,110 --> 00:26:53,155 หรือขาดความเข้าใจมามาก เท่าการรักร่วมเพศ 387 00:26:58,994 --> 00:27:01,747 คุณคิดว่าอะไร คืออาชญากรรมทางเพศที่ร้ายแรงที่สุด 388 00:27:02,956 --> 00:27:04,541 อาชญากรรมต่อธรรมชาติ 389 00:27:07,794 --> 00:27:10,380 อะไรคือบทลงโทษ ของอาชญากรรมต่อธรรมชาติ 390 00:27:10,464 --> 00:27:13,300 โทษสูงสุดคือ 20 ปี ในทัณฑสถานรัฐ 391 00:27:15,844 --> 00:27:19,097 เราถูกจับในข้อหาไปเที่ยวบาร์ 392 00:27:19,181 --> 00:27:21,016 แล้วยังไง ก็เป็นส่วนหนึ่ง ของประสบการณ์ 393 00:27:24,853 --> 00:27:26,730 มีบาร์แห่งหนึ่งชื่อว่า San Remo 394 00:27:26,813 --> 00:27:31,026 ที่ทุกคนมีความเป็นเกย์ 395 00:27:31,109 --> 00:27:33,070 ฉลาดสุดๆ หรือมีความสร้างสรรค์มากๆ 396 00:27:33,153 --> 00:27:34,738 (แดนนี ฟีลด์ส) 397 00:27:34,821 --> 00:27:39,868 มีทั้งเอ็ดเวิร์ด อัลบี แอนดี วอร์ฮอล และแจสเปอร์ จอห์นส์ 398 00:27:39,952 --> 00:27:44,665 และใจกลางของทุกอย่าง คือโลกศิลปะที่ขยายอย่างรวดเร็ว 399 00:27:45,666 --> 00:27:49,628 เงินทอง ปาร์ตี้ อำนาจ 400 00:27:50,420 --> 00:27:52,047 วงการภาพยนตร์กำลังมาแรง 401 00:27:52,130 --> 00:27:54,716 เทศกาลภาพยนตร์นิวยอร์ก ศูนย์ลินคอล์น 402 00:27:54,800 --> 00:27:57,553 ทุกอย่างเกิดขึ้นช่วงกลางทศวรรษ 60 403 00:27:57,636 --> 00:28:03,684 เป็นความล้นแบบ… แคมป์เกินเหตุ 404 00:28:04,434 --> 00:28:09,690 สไตล์แคมป์เป็นอะไร ที่จะมีการทดลองมาก 405 00:28:09,773 --> 00:28:11,358 เหมือนที่แจ็ก สมิธทำ 406 00:28:22,661 --> 00:28:24,746 (ต้นปี 1964) 407 00:28:24,830 --> 00:28:28,834 โล… คืนนั้น เป็นคืนที่มีสิ่งกระตุ้นมากเกินไป 408 00:28:28,917 --> 00:28:30,752 ในคืนก่อนวันโลกแตก 409 00:28:30,836 --> 00:28:33,088 (จอห์น เคลย้ายมาอยู่กับนักประพันธ์ โทนี คอนราดที่หมายเลข 56 ลัดโลว์) 410 00:28:33,172 --> 00:28:38,510 ที่หมายเลข 56 ลัดโลว์ ผมแจ็ก สมิธพบแอนกัสกับโทนี 411 00:28:38,594 --> 00:28:42,681 (ผู้กำกับแจ็ก สมิธอาศัยอยู่ด้วย กับศิลปินและนักดนตรีมากมาย) 412 00:28:42,764 --> 00:28:44,975 โทนี คอนราดเป็นคนเอาอะพารตเมนต์ไป… 413 00:28:45,058 --> 00:28:46,727 (เสียงของเฮนรี ฟลินท์) 414 00:28:46,810 --> 00:28:48,645 ที่หมายเลข 56 ลัดโลว์ ซึ่งกลายมามีความสำคัญมาก 415 00:28:48,729 --> 00:28:49,730 (ถนนลัดโลว์ ถนนแกรนด์) 416 00:28:49,813 --> 00:28:52,441 ผมไม่อยากเป็นส่วนหนึ่ง ของระบบเศรษฐกิจ… 417 00:28:52,524 --> 00:28:53,692 (เสียงของโทนี คอนราด) 418 00:28:53,775 --> 00:28:58,280 ผมเลยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ ราคา 25.44 เหรียญต่อเดือน 419 00:28:58,363 --> 00:29:02,618 พอข้ามมา คุณจะเห็น ความเปลี่ยนแปลงที่แปลกมาก 420 00:29:02,701 --> 00:29:06,955 ระหว่างสารคดีโลเวอร์อีสต์ไซด์ วิถีชีวิตแบบล้ำยุค 421 00:29:07,039 --> 00:29:11,877 กับวงการศิลปะทางการ ที่กลายเป็นอัตลักษณ์ของย่านโซโห 422 00:29:13,337 --> 00:29:15,214 แจ็กก็คงย้ายไปอยู่กับเขา 423 00:29:15,297 --> 00:29:19,092 เพื่อนบ้านข้างๆ คือ เพียโร เฮลิกเซอร์กับเคต ภรรยาของเขา 424 00:29:19,176 --> 00:29:22,137 จากนั้นแอนกัส แม็กลีส ก็กลับจากนิวยอร์ก 425 00:29:22,221 --> 00:29:25,933 แล้วได้ไปอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ที่สาม บนชั้นเดียวกันที่ 56 ลัดโลว์ 426 00:29:26,016 --> 00:29:30,312 แล้วยังมีมาริโอ มอนเตซ ที่อาศัยอยู่ในตึก จอห์น… 427 00:29:30,395 --> 00:29:32,523 จอห์น เคลย้ายเข้ามาอยู่กับโทนี 428 00:29:36,527 --> 00:29:38,946 แต่ศูนย์กลางที่ถนนลัดโลว์นั้น… 429 00:29:39,029 --> 00:29:40,697 (เสียงของเอมี โทบิน) 430 00:29:40,781 --> 00:29:45,494 กลายเป็นวง The Dream Syndicate ที่มีลามอนต์ ยัง 431 00:29:45,577 --> 00:29:47,871 ลามอนต์ มาเรียน โทนี กับผม 432 00:29:47,955 --> 00:29:51,375 เราทำอย่างนี้วันละชั่วโมงครึ่ง ทุกวันเป็นเวลาปีครึ่ง 433 00:29:52,042 --> 00:29:56,171 ผมต้องทำเสียงโดรน ซึ่งต้องฝึก 434 00:29:56,255 --> 00:29:59,007 และเปิดโลกให้เรา เห็นความเป็นไปได้มากมาย 435 00:30:00,759 --> 00:30:03,387 ทุกความถี่มีการรับรู้… 436 00:30:03,470 --> 00:30:04,847 (เสียงของลามอนต์ ยัง) 437 00:30:04,930 --> 00:30:07,307 โดยเปลือกสมองใหญ่ในจุดที่ต่างกัน 438 00:30:07,391 --> 00:30:12,938 ดังนั้นเมื่อเราจัดกลุ่มความถี่ ที่เล่นซ้ำไปซ้ำมา 439 00:30:13,021 --> 00:30:18,986 จะเกิดสภาวะทางจิต ที่โดดเด่นและลึกซึ้งมาก 440 00:30:20,028 --> 00:30:23,574 เราจะสามารถได้ยินรายละเอียด ในอนุกรมฮาร์มอนิก 441 00:30:24,575 --> 00:30:29,329 ที่งดงามและแปลกอย่างเหลือเชื่อ 442 00:30:30,747 --> 00:30:32,875 เราจะเริ่มตระหนัก 443 00:30:32,958 --> 00:30:38,422 ว่ามีพื้นที่ใหม่ๆ ของเสียง ที่เราจะพบความพึงพอใจ 444 00:30:43,093 --> 00:30:46,513 เราไม่มีการ "ขอโน้ตเอหน่อย เรามา…" ไม่เลย 445 00:30:46,597 --> 00:30:52,853 เราพบว่าสิ่งที่เสถียรที่สุด ที่เราสามารถปรับเข้าหา 446 00:30:52,936 --> 00:30:56,857 คือเสียงฮัม 60 รอบของตู้เย็น 447 00:30:57,858 --> 00:31:03,197 เพราะสำหรับเราเสียงฮัม 60 รอบ คือเสียงโดรนของอารยธรรมตะวันตก 448 00:31:07,326 --> 00:31:10,537 โดยพื้นฐานแล้ว นั่นคือคีย์ที่เรากำลังเล่นอยู่ 449 00:31:10,621 --> 00:31:14,875 ถ้าเราใช้ฮาร์มอนิกที่สาม เป็น 60 รอบ นั่นคือสิบรอบ 450 00:31:14,958 --> 00:31:16,877 แล้วปรากฏว่าสิบรอบคือ… 451 00:31:16,960 --> 00:31:19,796 จังหวะคลื่นแอลฟาของสมอง ตอนที่เราหลับ 452 00:31:22,382 --> 00:31:25,052 อยู่ดีๆ "เฮ้ ได้เรื่องละ" 453 00:31:27,888 --> 00:31:30,766 สิ่งที่น่าสนใจ ของวง The Dream Syndicate 454 00:31:30,849 --> 00:31:32,935 คือดนตรีแนวมินิมอล 455 00:31:34,144 --> 00:31:37,272 สเกลเต็ม ค้างหนึ่งโน้ต 456 00:31:37,356 --> 00:31:40,234 และฟังทุกท่วงทำนองในโน้ตนั้น 457 00:31:41,610 --> 00:31:46,365 ลามอนต์ ยังจะยืดหนึ่งโน้ต ออกไปสี่ชั่วโมง 458 00:31:46,448 --> 00:31:47,449 (โจนัส เมคัส) 459 00:31:47,533 --> 00:31:49,868 ครั้งหนึ่งผมไปกับแอนดี ที่การแสดงของเขา 460 00:32:06,802 --> 00:32:11,014 ก่อนที่ดิฉันไป The Factory ดิฉันได้ดู Warhol's Kiss แล้ว 461 00:32:13,809 --> 00:32:15,018 ไม่มีการระบุชื่อใดๆ 462 00:32:15,102 --> 00:32:16,353 (เสียงของเอมี โทบิน) 463 00:32:16,436 --> 00:32:18,647 ดิฉันไม่รู้เลยว่าใครเป็นผู้สร้าง 464 00:32:18,730 --> 00:32:22,693 เป็นซีรีส์รายสัปดาห์ โดยทุกสัปดาห์ 465 00:32:22,776 --> 00:32:25,904 จะมีหนังยาวสองนาทีสี่สิบห้าวินาที 466 00:32:25,988 --> 00:32:29,867 ฉายที่ความเร็วปกติ ซึ่งก็คือ 16 เฟรมต่อวินาที 467 00:32:33,871 --> 00:32:37,624 สิ่งที่น่าสนใจเสมอ เกี่ยวกับหนังเงียบของวอร์ฮอล 468 00:32:37,708 --> 00:32:40,711 คือเหตุผลที่หนังไม่สมจริง 469 00:32:40,794 --> 00:32:45,507 นั่นคือหนังเหล่านี้ออกแบบมาให้ฉาย ที่อัตรา 16 เฟรมต่อวินาที 470 00:32:45,591 --> 00:32:50,637 นั่นหมายความว่าคนในหนังจะหายใจ 471 00:32:50,721 --> 00:32:55,017 และหัวใจเต้นในระยะเวลาที่ต่าง 472 00:32:55,100 --> 00:32:57,603 จากของคุณตอนที่คุณดู 473 00:32:57,686 --> 00:33:02,649 นั่นสร้างความห่าง เชิงสุนทรียภาพที่น่าทึ่ง 474 00:33:10,991 --> 00:33:14,077 มีที่ทำการไปรษณีย์ ในตึกเอ็มไพร์สเตต 475 00:33:15,829 --> 00:33:21,418 เรากำลังเดินไปพร้อมนิตยสาร Film Culture ไปยังที่ทำการไปรษณีย์ 476 00:33:21,502 --> 00:33:25,547 อยู่ดีๆ เราหยุดและมองตึก 477 00:33:27,799 --> 00:33:33,055 ผมพูดว่า "นี่เป็นภาพ ที่ช่างเหมาะกับแอนดี วอร์ฮอล" 478 00:33:35,807 --> 00:33:37,518 แล้วทุกอย่างก็เริ่มจากตรงนั้น 479 00:33:50,072 --> 00:33:55,452 วอร์ฮอล หนังแนวล้ำยุค และดนตรีแนวล้ำยุค 480 00:33:55,536 --> 00:33:58,580 ทุกอย่างเกี่ยวกับการยืดเวลา 481 00:34:22,521 --> 00:34:25,190 ในความคิดของลามอนต์ ดนตรีคือ… 482 00:34:25,274 --> 00:34:27,734 จริงๆ คือ… ผมว่าเป็นแนวคิดของจีน 483 00:34:27,818 --> 00:34:30,152 ใช่ เป็นแนวคิดของจีนเกี่ยวกับเวลา 484 00:34:30,862 --> 00:34:34,157 จริงๆ ดนตรีคงอยู่ได้หลายศตวรรษ 485 00:34:35,701 --> 00:34:41,665 นี่คือประสบการณ์การอิมโพรไวส์ ในบรรยากาศที่น่าศรัทธา 486 00:34:41,748 --> 00:34:43,583 และลึกลับมากอีกด้วย 487 00:34:45,793 --> 00:34:52,009 แล้ววันหนึ่งโทนีเดินเข้ามา พร้อมกับปิ๊กอัพ เท่านั้นแหละ 488 00:34:53,719 --> 00:34:56,929 เราได้พลังของการขยายเสียงมา 489 00:35:02,227 --> 00:35:04,479 มีอะไรเกิดขึ้นหลายอย่าง 490 00:35:05,105 --> 00:35:08,275 โทนเสียงที่แตกต่างกันและอื่นๆ ที่ทำให้ตึกสั่นคลอน 491 00:35:12,863 --> 00:35:15,240 ทรงพลังมาก 492 00:35:15,324 --> 00:35:17,201 อย่างเวลาที่เราเล่น 493 00:35:17,284 --> 00:35:19,661 จะมีเสียงเหมือนบี-52 อยู่ในห้องนั่งเล่นคุณ 494 00:35:30,130 --> 00:35:32,049 ฉันเป็นนักวิ่งบนถนน ที่รัก 495 00:35:32,132 --> 00:35:34,134 และเธอตามฉันไม่ทัน 496 00:35:36,762 --> 00:35:39,056 ฉันเป็นนักวิ่งบนถนน ที่รัก 497 00:35:39,640 --> 00:35:41,642 และเธอตามฉันไม่ทัน 498 00:35:44,102 --> 00:35:46,522 มาสิที่รัก มาแข่งกัน 499 00:35:47,022 --> 00:35:48,899 ที่รัก ที่รัก คุณจะ 500 00:35:48,982 --> 00:35:51,026 ผมเก็บสะสมอัลบั้มร็อกแอนด์โรลมา… 501 00:35:51,109 --> 00:35:52,277 (เสียงของโทนี คอนราด) 502 00:35:52,361 --> 00:35:53,403 ด้วยความคลั่งไคล้ 503 00:35:54,905 --> 00:35:59,076 จอห์นแปลกใจที่เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น ตอนที่เขาย้ายมาอยู่กับผม 504 00:36:06,291 --> 00:36:08,669 เราฟังอะไรที่… 505 00:36:08,752 --> 00:36:10,420 เกี่ยวกับสิ่งที่เรา กำลังทำกับลามอนต์ 506 00:36:10,504 --> 00:36:12,256 ด้วยเสียงประสานที่เกิดขึ้น 507 00:36:12,339 --> 00:36:14,049 เสียงประสานบริสุทธิ์ และอื่นๆ 508 00:36:15,092 --> 00:36:17,719 แฮงค์ วิลเลียมส์ กับวง The Everly Brothers 509 00:36:20,013 --> 00:36:22,140 ฝัน 510 00:36:22,224 --> 00:36:24,309 "ฝัน" ฝัน 511 00:36:24,393 --> 00:36:25,978 วิธีการที่เพลงนี้เปิดมา 512 00:36:26,061 --> 00:36:29,481 เราจะได้ยินโทน ที่แตกต่างกันมากมาย ผมรู้สึก "โห" 513 00:36:29,565 --> 00:36:32,192 ในช่วงนั้นผมตื่นตาตื่นใจ กับร็อกแอนด์โรลมาก 514 00:36:32,276 --> 00:36:34,319 ตื่นตากับสิ่งที่วงเดอะบีเทิลส์ทำ และ… 515 00:36:34,403 --> 00:36:36,029 และเนื้อเพลงที่เดอะบีเทิลส์ร้อง 516 00:36:36,113 --> 00:36:37,406 นี่ไม่ใช่เพลงใสๆ 517 00:36:37,489 --> 00:36:38,949 "ฉันรู้ว่าความตายรู้สึกอย่างไร 518 00:36:39,032 --> 00:36:40,909 และเธอทำให้ฉันรู้สึก เหมือนฉันไม่เคยเกิดมาเลย" 519 00:36:40,993 --> 00:36:43,537 เดี๋ยวนะ ลูก็ชอบเขียนอะไรแบบนี้ 520 00:36:43,620 --> 00:36:46,832 และจากนั้น วงที่บ้าที่สุดวงแรก ได้ถือกำเนิดขึ้น… 521 00:36:46,915 --> 00:36:48,375 (เอมี โทบิน) 522 00:36:48,458 --> 00:36:50,544 วงนั้นชื่อว่า The Primitives 523 00:36:50,627 --> 00:36:56,842 มีจอห์น กับวอลเตอร์ เดอ มาเรีย 524 00:36:56,925 --> 00:37:00,512 และโทนีกับลู 525 00:37:01,180 --> 00:37:02,681 โอเค ขอให้ทุกคน อยู่ในความสงบตอนนี้ 526 00:37:02,764 --> 00:37:04,224 เรามีอะไรใหม่ที่อยากให้ทุกคนดู 527 00:37:04,308 --> 00:37:06,435 รับรองว่าต้องประทับใจ เมื่อเราเข้าไปในหัวคุณ 528 00:37:06,518 --> 00:37:09,646 เตรียมตัวเลย เราจะเริ่มแล้ว ใช่ เอาละ 529 00:37:09,730 --> 00:37:13,108 ในฐานะนักแต่งเพลงประจำ ของค่ายเพลงทุนต่ำในลองไอส์แลนด์ซิตี 530 00:37:13,775 --> 00:37:15,110 ผมย้ายไปนิวยอร์ก 531 00:37:18,822 --> 00:37:22,868 Pickwick เป็นบริษัทเพลงทุนต่ำ ที่ประสบความสำเร็จมาก 532 00:37:22,951 --> 00:37:25,120 อัลบั้มเพลง 99 เซนต์ 533 00:37:25,204 --> 00:37:30,000 เพลงแนวเซิร์ฟ 12 เพลง หรือเพลงแนว "เราจะเลิกกัน" 12 เพลง 534 00:37:30,083 --> 00:37:31,835 จะมีวางขายที่ร้าน Woolworths 535 00:37:36,590 --> 00:37:37,799 เขามีวิสัยทัศน์ 536 00:37:37,883 --> 00:37:41,720 เขามีความสามารถเกินความสามารถตัวเอง จะพูดอย่างนั้นก็ได้ 537 00:37:42,262 --> 00:37:43,555 เขาร้องไม่ได้ เล่นดนตรีไม่ได้ 538 00:37:43,639 --> 00:37:45,224 (เทอร์รี ฟิลิปส์) 539 00:37:45,307 --> 00:37:49,770 แต่ทุกอย่างที่เขาทำ กับเสียงแตกๆ ของเขาสื่อถึงผมได้ 540 00:37:50,354 --> 00:37:54,608 เราตั้งใจที่จะเบิกทางใหม่กับลู ซึ่งสุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จ 541 00:37:57,694 --> 00:37:59,863 โทนีได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ 542 00:37:59,947 --> 00:38:02,699 พอเราไปที่นั่น มีชายคนหนึ่ง เดินมาหาเราแล้วพูดว่า "เฮ้ 543 00:38:02,783 --> 00:38:04,117 พวกคุณดูจะขายออกได้ง่ายๆ 544 00:38:04,201 --> 00:38:05,869 อยากมาโปรโมตอัลบั้มไหม 545 00:38:05,953 --> 00:38:08,080 มาที่ลองไอส์แลนด์ซิตีสิ" 546 00:38:08,163 --> 00:38:13,252 ปรากฏว่าเป็น Pickwick Records และนักแต่งเพลงในเวลานั้นคือลู รีด 547 00:38:15,712 --> 00:38:19,716 ตอนที่ผมพบลู เราจ้องกันไปมา 548 00:38:20,634 --> 00:38:23,762 เราดื่มกาแฟ ส่วนผมมีวิโอลา 549 00:38:23,846 --> 00:38:25,848 โอ้ อีกหนึ่งครั้ง 550 00:38:27,349 --> 00:38:29,560 ช่วงนั้นผมยังเล่นวิโอลาคลาสสิก 551 00:38:29,643 --> 00:38:33,021 ที่เน้นไวบราโต มีความคลาสสิกมาก 552 00:38:33,105 --> 00:38:34,731 ไพเราะมาก 553 00:38:34,815 --> 00:38:39,319 แล้วลูพูดว่า "นั่นไง นึกอยู่แล้ว ว่าคุณถือไพ่เหนือกว่าผม" 554 00:38:41,655 --> 00:38:43,657 ทุกคนคว่ำหน้าลงเลย 555 00:38:43,740 --> 00:38:45,409 พร้อมหรือยัง 556 00:38:45,492 --> 00:38:48,245 ผมอยากร่วม แต่งเพลงกับพวกเขา 557 00:38:48,328 --> 00:38:52,416 ผมบอกพวกเขาเสมอว่าเราน่าจะแต่งสดกัน 558 00:38:52,499 --> 00:38:54,585 ซึ่งทุกคนเห็นด้วย 559 00:38:54,668 --> 00:38:57,671 น่าสนใจที่เขาเป็นคนหลักในการแต่งเลย 560 00:38:57,754 --> 00:39:02,926 เขาเป็นนักแต่งเพลง พอเขาเริ่มเล่นทำนองขึ้นมา ผมชอบมาก 561 00:39:03,010 --> 00:39:07,598 จากนั้นทั้งจอห์นและคนอื่นๆ ก็ร่วมใส่กันเต็มที่ 562 00:39:07,681 --> 00:39:09,975 เราเลยได้เพลง The Ostrich มา 563 00:39:10,058 --> 00:39:12,311 ซึ่งเป็นเพลง ที่โปรดิวเซอร์ชื่อดังหลายคน 564 00:39:12,394 --> 00:39:16,398 อย่างวอร์เรน ทอมป์สัน จาก Elektra Records ต่างชื่นชอบ 565 00:39:16,481 --> 00:39:20,110 - ทำอย่างนกกระจอกเทศ - โว้ โว้ โว้ โว้ เย้ 566 00:39:20,194 --> 00:39:23,614 หันไปทางซ้าย แล้วเอาเท้าขึ้นด้านซ้าย 567 00:39:24,489 --> 00:39:25,532 ทำดีมาก 568 00:39:26,491 --> 00:39:29,077 เพลงนี้แต่งบนกีตาร์ ที่ปรับให้เล่นโน้ตเดียว 569 00:39:29,161 --> 00:39:33,957 กีตาร์ส่งเสียงที่ดังมาก ส่วนลูก็เล่นแทมบูรีนและร้องเพลง 570 00:39:34,041 --> 00:39:36,001 เขาปล่อยไปตามธรรชาติเลย 571 00:39:36,084 --> 00:39:38,879 เสียงแบบนั้นเลย เวลาที่เรานึกถึงหนุ่มๆ 572 00:39:38,962 --> 00:39:41,882 รวมตัวเล่นดนตรีกันในโรงรถ 573 00:39:41,965 --> 00:39:43,425 สุดยอดมาก 574 00:39:43,509 --> 00:39:45,552 ผมขาดสิ่งนั้นไปในวัยเด็กของผม 575 00:39:48,096 --> 00:39:51,350 จากนั้นเราได้เล่นในรายการ เดียวกับเชอร์ลี เอลลิส หรือ… 576 00:39:51,433 --> 00:39:54,269 "โบนานาบานา ฟีโฟฟัม" รู้จักไหม เพลงนั้น 577 00:39:54,353 --> 00:39:58,273 แล้วดีเจก็พูดว่า "เย้ เยี่ยมเลย เรามีวงดนตรีวงหนึ่ง" 578 00:39:58,357 --> 00:40:00,901 เขาพูดว่า "วง The Primitives ส่งตรงจากนครนิวยอร์ก 579 00:40:00,984 --> 00:40:03,195 มาพร้อมเพลงยอดนิยมล่าสุด 'The Ostrich'" 580 00:40:06,573 --> 00:40:11,495 ผมแทบไม่อยากเชื่อ ฟ้าทำพลาดหรือเปล่า 581 00:40:11,578 --> 00:40:13,038 (เสียงของโทนี คอนราด) 582 00:40:13,121 --> 00:40:14,998 มันผิดที่ผิดทางมาก 583 00:40:15,082 --> 00:40:21,630 ผมไม่เคยคิดที่จะใช้วิธีนี้ เบิกทางเส้นทางดนตรีของผม 584 00:40:23,215 --> 00:40:27,511 ที่ Pickwick ผมขอบอก ว่าเขามีประวัติที่โชกโชนมาก 585 00:40:27,594 --> 00:40:31,890 เรื่องการเมายา การป่วย 586 00:40:31,974 --> 00:40:37,604 การล้มลง การที่ผมต้องรีบ พาเขาไปโรงพยาบาล 587 00:40:38,397 --> 00:40:41,650 ถ้าให้พูดตรงๆ นั่นคือหนึ่งเหตุผลที่ผม 588 00:40:41,733 --> 00:40:46,572 คิดอยากจะยุติความสัมพันธ์ แม้ผมจะคิดว่าเขามีความสามารถมาก 589 00:40:47,072 --> 00:40:51,326 ลูบอกว่า "พวกเขาไม่ยอม ทำเพลงที่ผมอยากทำ" 590 00:40:51,827 --> 00:40:54,705 ผมฉุนเลย ผมพูดว่า "อะไรนะ" 591 00:40:55,497 --> 00:40:58,083 ผมถามว่า "แล้วคุณอยากทำเพลงอะไร" 592 00:40:58,166 --> 00:40:59,960 เขาเล่นเพลงอื่นๆ ของเขาให้ผมฟัง 593 00:41:00,043 --> 00:41:03,297 ผมเขียนถึงความเจ็บปวด 594 00:41:03,380 --> 00:41:06,383 และผมเขียนถึงสิ่งที่เจ็บ 595 00:41:06,466 --> 00:41:11,054 ผมเขียนถึงโลกความเป็นจริง ที่ผมรู้จัก หรือที่เพื่อนๆ ผมรู้จัก 596 00:41:11,138 --> 00:41:13,891 หรือสิ่งที่ผมได้เห็น ได้ยิน หรือ… 597 00:41:13,974 --> 00:41:18,937 ผมสนใจที่จะสื่อสาร กับคนที่อยู่นอกสังคม 598 00:41:19,021 --> 00:41:20,355 เขาบอกว่า "เหตุผล ที่พวกเขาไม่ยอมน่ะเหรอ" 599 00:41:20,439 --> 00:41:22,274 เพราะคนจะบ่นเกี่ยวกับเพลงพวกนี้ 600 00:41:22,357 --> 00:41:25,027 ว่าเป็นเพลง ที่ส่งเสริมการใช้ยาเสพติด 601 00:41:25,110 --> 00:41:26,570 แต่เพลงไม่ได้เกี่ยวกับยาเสพติด 602 00:41:26,653 --> 00:41:30,866 แต่เกี่ยวกับกลุ่มคนที่ป่วย และไม่พอใจกับชีวิตของตัวเอง 603 00:41:30,949 --> 00:41:32,534 ทำไมเราไม่ทำเองเลย 604 00:41:32,618 --> 00:41:39,541 ในปี 1964 อะพาร์ตเมนต์ห้องเดิม ที่ลัดโลว์ ตอนนั้นเหลือเคลกับรีด 605 00:41:39,625 --> 00:41:42,461 "I'm Waiting for the Man" คำร้องและดนตรีโดย ลู รีด 606 00:41:58,560 --> 00:42:01,939 การทำตัวเป็นปฏิปักษ์มีประโยชน์ 607 00:42:02,606 --> 00:42:05,651 เพราะเป็นการระบุจุดยืนของตัวเอง 608 00:42:05,734 --> 00:42:10,447 และระบุจุดยืนของฝ่ายตรงข้าม และพัฒนาต่อจากตรงนั้น 609 00:42:11,698 --> 00:42:14,117 สิ่งที่เราเข้าใจเกี่ยวกับตัวเรา 610 00:42:14,201 --> 00:42:17,412 และความไม่พอใจที่เรามี ต่อสิ่งอื่นๆ ซึ่งได้ผล 611 00:42:17,496 --> 00:42:20,707 เปล่าครับ ไม่ได้คิดเรื่องนั้นในหัวเลย 612 00:42:20,791 --> 00:42:22,751 แค่มารอเพื่อนที่รักมาก คนหนึ่งเท่านั้น 613 00:42:22,835 --> 00:42:26,004 อืม เขาจะ… เขาจะพูดตลอดว่า "เฮ้ย 614 00:42:26,088 --> 00:42:30,092 มันเกิดขึ้นได้ยังไง จากเวลส์เหรอ" 615 00:42:31,718 --> 00:42:35,180 เขาให้ผมดูเนื้อเพลง "Venus in Furs" กับ "I'm Waiting for the Man" 616 00:42:35,264 --> 00:42:39,059 ผมมองว่าเนื้อเพลงของสองเพลงนี้ มีความสอดคล้อง เขียนมาดีมาก 617 00:42:39,142 --> 00:42:44,439 แต่ผมพูดว่า "เดี๋ยวก่อน ดนตรีไม่ได้เสริมเนื้อเพลงเลย" 618 00:42:44,523 --> 00:42:46,692 ผมตื่นเต้นมาก ผมน่าจะทำให้ลูตื่นเต้นด้วย 619 00:42:46,775 --> 00:42:48,402 กับสิ่งที่เราสามารถทำได้ 620 00:42:49,444 --> 00:42:53,532 เราลองคาลิเบรชันที่หลากหลายมาก 621 00:42:53,615 --> 00:42:57,828 เครื่องดนตรีสามชิ้น สี่ชิ้น ลองหมด 622 00:43:21,059 --> 00:43:23,228 เงาวับ เงาวับ… 623 00:43:23,312 --> 00:43:28,609 วันหนึ่งบนรถไฟใต้ดิน เขาเจอ สเตอร์ลิงไม่สวมรองเท้าในฤดูหนาว 624 00:43:28,692 --> 00:43:31,028 เขาไม่ได้เจอสเตอร์ลิง ตั้งแต่ซีราคิวส์ 625 00:43:39,328 --> 00:43:41,413 ดิฉันเชื่อว่าเขาเห็นลู เล่นกับวงของเขาที่ซีราคิวส์ 626 00:43:41,496 --> 00:43:42,789 (มาร์ธา มอร์ริสัน) 627 00:43:42,873 --> 00:43:44,208 และเชื่อว่าเขาอยากร่วมด้วย 628 00:43:45,083 --> 00:43:47,127 ดิฉันว่าเขาแค่อยากทำ เขาพร้อม 629 00:43:47,211 --> 00:43:49,880 เขาเล่นดนตรีตั้งแต่อายุ 15 เรียนด้วยตัวเอง 630 00:43:49,963 --> 00:43:52,966 เขาจะถือกีตาร์ในงานปาร์ตี้ตลอด 631 00:43:53,050 --> 00:43:56,386 นั่นคือสิ่งที่เขาอยากจะทำ และ… นี่คือโอกาส 632 00:43:56,470 --> 00:43:58,096 (สเตอร์ลิง) 633 00:43:58,180 --> 00:44:01,725 อยู่ดีๆ เราก็มีมือกีตาร์ ที่ใส่ใจกับการโซโล่กีตาร์ 634 00:44:02,184 --> 00:44:04,478 ลูกับผมจะนั่งเล่นและอิมโพรไวส์ 635 00:44:04,561 --> 00:44:07,147 ส่วนสเตอร์ลิงจะเล่นโซโล่ 636 00:44:08,106 --> 00:44:11,902 เขาเล่นดีมาก สไตล์วง The Isley Brothers 637 00:44:12,611 --> 00:44:16,031 เขาเป็นธรรมชาติมาก… และอ่อนโยน 638 00:44:18,408 --> 00:44:24,581 ความคิดที่จะเอาแนวอาร์แอนด์บี มารวมกับแวกเนอร์ใกล้มาแล้ว 639 00:44:29,253 --> 00:44:33,674 (โม) 640 00:44:33,757 --> 00:44:36,552 วันหนึ่งฉันเรียนเสร็จ และกำลังขับรถกลับบ้าน 641 00:44:36,635 --> 00:44:41,306 วิทยุเล่นเพลง "Not Fade Away" ในเวอร์ชันของโรลลิงสโตนส์ 642 00:44:41,390 --> 00:44:46,144 แล้วต้องไปจอดข้างทาง เพราะตื่นเต้นเกินที่จะขับต่อ 643 00:44:48,772 --> 00:44:50,774 พวกเขากำลังหามือกลอง 644 00:44:50,858 --> 00:44:53,861 ดิฉันเลยบอกว่า "น้องสาวของจิมตีกลอง" 645 00:44:54,736 --> 00:44:56,488 ดิฉันขับรถพาลูไปหาเธอ 646 00:44:58,282 --> 00:45:01,410 แล้วมอรีน เป็นน้องสาวของเพื่อนเก่าผม… 647 00:45:01,493 --> 00:45:02,744 (เสียงของสเตอร์ลิง มอร์ริสัน) 648 00:45:02,828 --> 00:45:06,081 ที่เรียนที่ซีราคิวส์เหมือนกัน และเป็นเพื่อนกับลูด้วย 649 00:45:06,164 --> 00:45:11,170 ที่ผ่านมามอรีนเล่นอยู่ กับวงดนตรีผู้หญิงที่ลองไอส์แลนด์ 650 00:45:11,253 --> 00:45:12,713 ต่อมาวงแตก 651 00:45:13,755 --> 00:45:16,258 เธอเลยมา… 652 00:45:16,341 --> 00:45:18,260 ไม่รู้สิ มาเล่นกลองนิดๆ หน่อยๆ 653 00:45:18,343 --> 00:45:20,762 มาเล่นสนุกๆ เฉยๆ 654 00:45:20,846 --> 00:45:23,056 ไม่รู้สิ เราเป็นกันเองมาก 655 00:45:25,142 --> 00:45:27,769 แล้วพอเธอกลับถึงบ้าน ประมาณห้าโมงเย็น 656 00:45:27,853 --> 00:45:29,438 เธอก็จะเปิดเพลงของโบ ดิดลีย์ 657 00:45:29,521 --> 00:45:31,940 แล้วเล่นทุกคืน ตั้งแต่ห้าโมงเย็นยันเที่ยงคืน 658 00:45:32,024 --> 00:45:34,651 เราเลยคิดว่าเธอน่าจะเป็นมือกลอง ที่ลงตัว ซึ่งก็จริง 659 00:45:35,777 --> 00:45:38,906 สนุกค่ะ ดิฉันก็ตื่นเต้นมาก… 660 00:45:38,989 --> 00:45:40,365 (มอรีน ทักเกอร์) 661 00:45:40,449 --> 00:45:42,492 ที่จะได้มีโอกาสเล่นสดร่วมกับคนอื่น 662 00:45:42,576 --> 00:45:45,495 ดิฉันไม่เคยเล่นร่วมกับใครมาก่อน ก็เลยสนุกค่ะ 663 00:45:49,082 --> 00:45:51,710 วิธีที่เราท้าทายความสามารถ ของบ็อบ ดิลลัน 664 00:45:51,793 --> 00:45:55,130 คือการขึ้นเวทีและอิมโพรไวส์ เพลงต่างออกไปทุกคืน 665 00:45:55,214 --> 00:45:56,715 ลูเชี่ยวชาญเรื่องนี้มาก 666 00:45:56,798 --> 00:46:00,052 เขาสามารถด้นเนื้อเพลงสดได้เสมอ เกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ได้ 667 00:46:00,719 --> 00:46:04,306 เขาจะเข้ามา นั่งลงพร้อมกีตาร์ ส่วนผมก็เล่นวิโอลา 668 00:46:04,389 --> 00:46:06,016 แล้วเขาก็จะเริ่มเพลง 669 00:46:08,143 --> 00:46:11,772 อยู่ดีๆ ก็จะมีเนื้อเพลง ที่แปลกประหลาดมาก 670 00:46:11,855 --> 00:46:15,901 ร้องไปร้องมา ในที่สุดเราจะได้อะไรเสมอ 671 00:46:16,777 --> 00:46:20,697 เราจะไม่รู้เลย ว่าลูหรือจอห์นจะดึงออกนอกโลกเมื่อไร 672 00:46:20,781 --> 00:46:23,408 จะเล่นอะไรก็ไม่มีใครเดาทางได้ 673 00:46:23,492 --> 00:46:25,577 ดิฉันรู้สึกว่าหน้าที่ดิฉัน คือการอยู่ตรงนั้น 674 00:46:25,661 --> 00:46:28,664 พอพวกเขาพร้อมจะกลับมา ดิฉันก็พร้อม 675 00:46:29,373 --> 00:46:33,669 ลูซึ่งอยู่ข้างๆ ดิฉัน… เหมือนมีกำแพงเสียงผุดขึ้นมา 676 00:46:35,754 --> 00:46:38,757 ดิฉันต้องมองปากเขา เพื่อที่จะรู้ ว่าเราอยู่ช่วงไหนของเพลง 677 00:46:41,343 --> 00:46:43,428 หลักๆ คือดิฉันจะไปตามลู 678 00:46:45,097 --> 00:46:48,684 นอกเหนือจากเนื้อเพลง ที่เขาเขียนได้ดี 679 00:46:48,767 --> 00:46:51,103 ผมสนใจการอิมโพรไวส์ของเขา 680 00:46:54,857 --> 00:46:58,485 ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างมาก จากจิตใต้สำนึกโดยตรง 681 00:46:58,569 --> 00:47:02,322 พอผมได้ฟังเรื่องราวของลู เกี่ยวกับการบำบัดด้วยการช็อก 682 00:47:03,115 --> 00:47:05,951 ผมเรียบเรียงทุกอย่างในหัว 683 00:47:08,954 --> 00:47:11,456 ความเกี่ยวเนื่อง ของเรื่องนั้นกับดนตรี 684 00:47:11,540 --> 00:47:14,626 คือดนตรีนั้นจริงๆ แล้วเป็นดนตรีแนวดรีม 685 00:47:16,587 --> 00:47:20,757 สิ่งที่ผมชอบที่สุด เกี่ยวกับร็อกแอนด์โรลในสมัยนั้น 686 00:47:20,841 --> 00:47:23,427 คือลักษณะการซ้ำของริฟ 687 00:47:23,510 --> 00:47:26,138 เราจะรังสรรค์หนึ่งริฟอย่างไร 688 00:47:26,221 --> 00:47:31,351 ให้คงอยู่อย่างลงตัวตลอดทั้งเพลง 689 00:47:32,269 --> 00:47:34,479 มีเสียงโดรนรวมอยู่ในนั้นแน่นอน 690 00:47:59,505 --> 00:48:01,840 ตอนที่เราตั้งวง The Velvet Underground 691 00:48:01,924 --> 00:48:06,470 ผมมีเพลงอยู่ แล้วการที่ได้เห็น เพลงมีชีวิตขึ้นมาเป็นสิ่งที่สุดยอด 692 00:48:07,679 --> 00:48:10,516 คือผมเป็นนักดนตรีที่เล่นในวงตามบาร์ 693 00:48:14,770 --> 00:48:16,730 ในการร่วมงานส่วนใหญ่ 694 00:48:16,813 --> 00:48:18,815 พอลองทำกันดูก็ออกมาไม่ดีเท่าไร 695 00:48:20,943 --> 00:48:24,404 ความแปลกประหลาดนั้น ไม่ควรจะเกิดขึ้นที่นี่ 696 00:48:25,948 --> 00:48:29,076 แล้วจะมีการตั้งมาตรฐานเสมอ 697 00:48:30,160 --> 00:48:34,164 ว่าจะต้องสง่าอย่างไร และโหดอย่างไร 698 00:48:48,345 --> 00:48:53,475 บูทหนังที่เงาวับ เงาวับ เงาวับ 699 00:48:55,060 --> 00:48:59,356 เฆี่ยนเด็กสาวในความมืด 700 00:49:01,650 --> 00:49:06,905 มาตามกระดิ่ง ข้ารับใช้เธอ อย่าทรยศเขา 701 00:49:08,156 --> 00:49:12,870 ตีเลย แม่นางที่รักและรักษาใจเขา 702 00:49:24,798 --> 00:49:27,217 ฉันเหนื่อย 703 00:49:28,093 --> 00:49:29,887 ฉันอ่อนล้า 704 00:49:31,221 --> 00:49:36,226 ฉันนอนหลับได้เป็นพันปี 705 00:49:37,603 --> 00:49:43,066 พันความฝันที่จะทำให้ฉันตื่น 706 00:49:44,651 --> 00:49:47,738 เสียงโดรนได้รับการยอมรับ ทันทีที่ปล่อยเพลง Venus in Furs 707 00:49:47,821 --> 00:49:51,325 ผมรู้ว่าเรามีทางทำอะไร กับร็อกแอนด์โรล 708 00:49:51,408 --> 00:49:52,659 ที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน 709 00:49:55,078 --> 00:50:00,292 ทุกอย่างที่ทำกับกีตาร์เสียงเพี้ยน เป็นสิ่งที่ผมภูมิใจมาก 710 00:50:00,375 --> 00:50:02,127 เพราะผมจะพูดว่า "เฮ้ ลู 711 00:50:02,211 --> 00:50:04,880 ไม่มีทางที่ใครจะคิดออก ว่าจะทำเสียงนี้ออกมาได้อย่างไร" 712 00:50:06,048 --> 00:50:09,009 ในบางมุม ผมแปลกใจ กับเสียงตอบรับจากนิวยอร์ก 713 00:50:09,092 --> 00:50:12,012 ผมว่าเราทำสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำ 714 00:50:12,095 --> 00:50:15,891 หนังเงาวับในความมืด 715 00:50:16,808 --> 00:50:21,021 ตอนนั้นผมคิดว่า สิ่งที่เราทำนั้นกล้าหาญมาก 716 00:50:21,104 --> 00:50:23,815 จนผู้คนทึ่งและประทับใจ 717 00:50:24,691 --> 00:50:30,197 ตีเลย แม่นางที่รักและรักษาใจเขา 718 00:50:30,280 --> 00:50:32,866 Café Bizarre เป็นสถานที่เล็กๆ 719 00:50:33,492 --> 00:50:35,744 เราตื่นเต้นมากกับงานนี้ที่ได้รับ 720 00:50:36,578 --> 00:50:40,916 มีคนไม่กี่คนอยู่ที่นั่น ไม่มีใครออกมาเต้น แปลกมาก 721 00:50:40,999 --> 00:50:43,460 บางคนหันหลังให้ฝูงชน 722 00:50:45,295 --> 00:50:47,923 พวกเขามีรังสีที่ไม่เป็นมิตร 723 00:50:48,882 --> 00:50:51,260 ค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว 724 00:50:57,432 --> 00:51:01,478 บาร์บารา รูบิน เป็นผู้กำกับมีระดับจากใจกลางเมือง 725 00:51:01,562 --> 00:51:04,356 เธอรู้จักบ็อบ ดิลลันเป็นอย่างดี รู้จักแอนดี 726 00:51:04,439 --> 00:51:07,651 เธอพยายามหนักมากที่จะรวบรวมทุกคน 727 00:51:07,734 --> 00:51:11,154 เธอเข้ามาที่ The Factory และประกาศว่ามีวงหนึ่งที่ดาวน์ทาวน์ 728 00:51:11,238 --> 00:51:13,198 ที่ทุกคนควรมาดู 729 00:51:14,533 --> 00:51:17,202 อยู่ดีๆ คนเริ่มมาที่คลับมากขึ้น 730 00:51:23,542 --> 00:51:26,461 เจราร์ดเป็นตัวแทนการเจรจา ของ The Factory 731 00:51:26,545 --> 00:51:28,589 เขาเข้ามาหาผมและพูดว่า 732 00:51:28,672 --> 00:51:31,592 "พวกคุณได้รับเชิญให้ ไปที่ The Factory บ่ายพรุ่งนี้" 733 00:51:41,059 --> 00:51:43,854 บาร์บารา รูบิน พาพวกเขาเข้ามา ทุกคนแต่งชุดดำ… 734 00:51:45,731 --> 00:51:47,024 แล้วก็เริ่มเล่น… 735 00:51:50,611 --> 00:51:53,447 พวกเขาเล่นเพลง "Heroin" เราก็แบบ… 736 00:51:53,947 --> 00:51:55,616 (แมรี โวโรนอฟ) 737 00:51:55,699 --> 00:51:57,910 ไม่น่าเชื่อ เสียงตอบรับดีมาก 738 00:52:00,996 --> 00:52:06,168 สิ่งที่สร้างกำลังใจ และแรงบันดาลใจอย่างมาก 739 00:52:06,251 --> 00:52:10,255 คือพอเราไปถึง The Factory ทุกอย่างเป็นเรื่องงาน 740 00:52:12,591 --> 00:52:14,968 ทุกวันที่ผมเดินเข้าไป เขามาถึงที่นั่นก่อนผมเสมอ 741 00:52:15,052 --> 00:52:17,429 เขาจะถามว่า "คุณเขียนเพลงมากี่เพลง" 742 00:52:17,513 --> 00:52:20,557 "ผมเขียนสิบเพลง" แล้วเขาจะพูดว่า "คุณนี่อู้จัง 743 00:52:20,641 --> 00:52:22,267 ทำไมไม่เขียนมาสัก 15 เพลง" 744 00:52:24,603 --> 00:52:26,313 มีคนเข้ามา มีคนออกไป 745 00:52:26,396 --> 00:52:29,650 ใบหน้าที่เราคุ้นเคย จะเข้ามา แล้วก็ออกไป 746 00:52:32,945 --> 00:52:35,072 ทุกอย่างเป็นการค้า 747 00:52:36,949 --> 00:52:40,953 ฉันไม่รู้ 748 00:52:44,331 --> 00:52:46,542 ว่าฉันกำลังไปไหน 749 00:52:54,716 --> 00:52:57,135 แต่ฉัน 750 00:52:59,221 --> 00:53:01,682 จะพยายาม 751 00:53:01,765 --> 00:53:05,769 ชิงอาณาจักรหากทำไหว 752 00:53:05,853 --> 00:53:09,356 เพราะนั่นทำให้รู้สึก ว่าตัวเองเป็นผู้ชาย 753 00:53:09,439 --> 00:53:12,442 เมื่อเอาเข็มจิ้มเข้าเส้นเลือด 754 00:53:13,026 --> 00:53:16,321 และบอกเธอว่า ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม 755 00:53:16,405 --> 00:53:19,408 เมื่อฤทธิ์ยาพัดพาฉันไป 756 00:53:19,491 --> 00:53:22,578 และรู้สึกเหมือนเป็นบุตรพระเยซู 757 00:53:22,661 --> 00:53:25,914 สงสัยฉันแค่ไม่รู้ 758 00:53:25,998 --> 00:53:29,668 และสงสัยฉันไม่รู้เลย 759 00:53:31,461 --> 00:53:33,755 แอนดีเป็นเทพ 760 00:53:33,839 --> 00:53:37,467 เขาเป็นสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก 761 00:53:38,343 --> 00:53:41,930 เขาเหมือนพ่อ ที่พูดว่า "ได้ๆ ได้" เสมอ 762 00:53:42,014 --> 00:53:47,644 ผมว่าบุคลิกของเขาด้านนี้ ทำให้ทุกคนมาที่ The Factory 763 00:53:47,728 --> 00:53:49,271 พวกเขารู้สึกว่าที่นั่นเป็นบ้าน 764 00:53:49,354 --> 00:53:51,940 เมื่อเลือดเริ่มจะไหลเวียน 765 00:53:52,024 --> 00:53:55,319 เมื่อยาพุ่งขึ้นไปตามลำคอคนเสพ 766 00:53:55,402 --> 00:53:58,572 เมื่อฉันเข้าใกล้ความตาย 767 00:54:05,454 --> 00:54:08,957 ไม่มีใครช่วยได้ พวกนายช่วยไม่ได้ 768 00:54:09,041 --> 00:54:11,835 สาวสวยก็ช่วยไม่ได้ ด้วยคำหวานของพวกเธอ 769 00:54:11,919 --> 00:54:13,420 ดิฉันอยากทำให้เขาประทับใจ 770 00:54:15,005 --> 00:54:18,800 เขาเหมือนเป็นคนดู ดิฉันอยากจะมีคนดูเหลือเกิน 771 00:54:18,884 --> 00:54:21,720 เอาละ แค่… คุณไม่ต้องทำอะไร 772 00:54:22,596 --> 00:54:24,056 ทำเท่าที่ทำอยู่นั่นแหละ 773 00:54:31,104 --> 00:54:32,105 แค่นั้น 774 00:54:36,527 --> 00:54:37,986 ไม่มีการกำกับ 775 00:54:40,155 --> 00:54:41,240 เฮโรอีน 776 00:54:41,323 --> 00:54:42,991 วอร์ฮอลไม่พูดสักแอะ 777 00:54:43,075 --> 00:54:45,953 แต่เมื่อเวลาผ่านไป ภาพของเขา จุดประกายความเคลื่อนไหว 778 00:54:46,036 --> 00:54:47,663 เพราะเขาไม่พูดสักแอะ 779 00:54:47,746 --> 00:54:49,665 ต้องทำฉันตายแน่ 780 00:54:49,748 --> 00:54:51,959 เราเลยถูกกระตุ้นให้ทำอะไรสักอย่าง 781 00:54:58,841 --> 00:55:04,263 เฮโรอีน 782 00:55:05,889 --> 00:55:08,100 มองตรงมาที่กล้อง 783 00:55:08,183 --> 00:55:09,601 (เสียงของเอมี โทบิน) 784 00:55:09,685 --> 00:55:12,271 พยายามอย่าขยับ อย่ากะพริบตา 785 00:55:14,439 --> 00:55:16,024 ถือว่าเป็นทักษะจริงๆ 786 00:55:16,108 --> 00:55:18,944 แล้วฉันจะมีสภาพดีกว่าตาย 787 00:55:38,297 --> 00:55:41,800 และขอบคุณพระเจ้าที่ฉันไม่สนเลย 788 00:55:41,884 --> 00:55:45,095 และคงเป็นเพราะฉันไม่รู้เลย 789 00:55:45,179 --> 00:55:48,640 โอ้ และคงเป็นเพราะฉันไม่รู้เลย 790 00:55:57,191 --> 00:56:02,529 เฮโรอีน 791 00:56:04,656 --> 00:56:06,158 ต้องทำฉันตายแน่ 792 00:56:06,241 --> 00:56:09,369 เราเป็นสปอนเซอร์ให้วงดนตรีใหม่ ชื่อว่า The Velvet Underground 793 00:56:09,870 --> 00:56:11,955 เนื่องจากผมเลิกเชื่อในภาพวาดแล้ว 794 00:56:12,039 --> 00:56:14,666 ผมว่านี่เป็นทางที่ดีในการรวม… 795 00:56:14,750 --> 00:56:18,712 และเรามีโอกาสนี้ ที่จะรวมดนตรีกับศิลปะ 796 00:56:18,795 --> 00:56:21,882 และภาพยนตร์เข้าด้วยกัน 797 00:56:21,965 --> 00:56:24,968 และเรายังได้ทำงานใน… 798 00:56:25,052 --> 00:56:26,678 ดิสโก้เทคที่ใหญ่ที่สุดในโลก 799 00:56:51,453 --> 00:56:52,746 ผมจะบอกให้ 800 00:56:53,288 --> 00:56:57,125 และแทบทุกอย่าง ในเดือนมิถุนายน ไม่นานที่ผ่านมา… 801 00:56:58,043 --> 00:57:00,921 - มาหรือยัง - รายการปัจจุบัน… 802 00:57:03,340 --> 00:57:05,717 มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นมากมาย 803 00:57:05,801 --> 00:57:07,427 ในแง่ของธุรกิจ 804 00:57:07,511 --> 00:57:09,680 มีไพ่โลกขึ้นในตำแหน่งนี้ 805 00:57:09,763 --> 00:57:11,598 นั่นหมายถึงความสำเร็จและความสุข 806 00:57:11,682 --> 00:57:13,392 อย่างยิ่งยวดที่จะมาถึง 807 00:57:13,475 --> 00:57:15,853 และวงล้อแห่งโชคชะตา ซึ่ง… 808 00:57:15,936 --> 00:57:20,691 บ่งบอกถึงความทะเยอทะยาน และรวมถึง… 809 00:57:20,774 --> 00:57:23,610 เพื่อนสนิท คนที่ใกล้ชิด 810 00:57:23,694 --> 00:57:27,155 ไม่ค่อยมีความขัดแย้งในช่วงนี้ 811 00:57:27,906 --> 00:57:30,659 ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง หรืออะไรอย่างนั้น 812 00:57:30,742 --> 00:57:32,369 นั่นเป็นเพราะตอนนี้เราไม่ได้ทำงาน 813 00:57:32,452 --> 00:57:34,246 ใบนี้แสดง… 814 00:57:41,670 --> 00:57:45,841 การงาน ธุรกิจ… อาชีพของคุณ อะไรประมาณนั้น 815 00:57:45,924 --> 00:57:49,178 มีการแข่งขันสูงมาก… ตลอดเวลา 816 00:57:49,720 --> 00:57:52,806 จะมีการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา 817 00:57:56,351 --> 00:57:59,897 ส่วนใหญ่แล้ว คนที่มาที่ The Factory 818 00:57:59,980 --> 00:58:02,149 มาเพราะมีกล้องถ่ายอยู่ 819 00:58:02,232 --> 00:58:07,738 พวกเขาคิดว่าอาจมีโอกาสมีชื่อเสียง พวกเขาจะได้เป็นดารา 820 00:58:15,245 --> 00:58:17,831 อนาคตดูสดใสมาก มีความหยั่งรู้ใหม่ๆ 821 00:58:17,915 --> 00:58:19,750 และมีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย 822 00:58:20,375 --> 00:58:25,714 อุดมคติบางอย่าง เกี่ยวกับความงามของผู้หญิง 823 00:58:26,548 --> 00:58:31,220 และถ้าคุณมีไม่ถึง… 824 00:58:31,303 --> 00:58:33,889 แล้วใครกันจะมีถึง 825 00:58:35,057 --> 00:58:36,934 นั่นเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก 826 00:58:38,644 --> 00:58:40,521 ไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับผู้หญิง 827 00:58:41,355 --> 00:58:46,068 และถ้าคุณยอมรับไม่ได้ ถึงข้อเท็จจริงที่ว่าคุณถูกให้ค่า 828 00:58:46,151 --> 00:58:47,986 จากหน้าตาเป็นหลัก 829 00:58:52,241 --> 00:58:54,826 ก็จบ 830 00:58:57,788 --> 00:58:59,414 วันหนึ่งเราทำงานอยู่ที่ The Factory 831 00:58:59,498 --> 00:59:00,874 (เสียงของบิลลี เนม) 832 00:59:00,958 --> 00:59:02,835 แล้วเจราร์ดเพิ่งกลับมาจากยุโรป 833 00:59:02,918 --> 00:59:08,131 เขามีเพลงความเร็ว 45 รอบต่อนาที และเป็นเสียงที่แปลก… 834 00:59:08,215 --> 00:59:11,760 ว่าฉันจะสนว่าเธอรักฉัน 835 00:59:11,844 --> 00:59:14,137 ฉันไม่ได้บอกว่าฉันจะสน 836 00:59:14,221 --> 00:59:19,059 (นิโก) 837 00:59:19,142 --> 00:59:21,520 เธอได้เล่นหนังเรื่อง La Dolce Vita 838 00:59:21,603 --> 00:59:23,522 อนิตา เอ็กเบิร์กเป็นนางเอก 839 00:59:23,605 --> 00:59:28,443 แต่นิโกเป็นเหมือนใบหน้าลับ ในหนังที่ทุกคนเห็น 840 00:59:28,527 --> 00:59:30,612 เพราะเธอสวยจนลืมไม่ลงจริงๆ 841 00:59:35,409 --> 00:59:37,995 ในที่สุดนิโกก็มานิวยอร์ก 842 00:59:41,206 --> 00:59:45,502 พอลเริ่มสนใจนิโกในแง่ของการโปรโมต 843 00:59:47,045 --> 00:59:52,759 พอลเริ่มทำให้แอนดีเชื่อ ว่าจะมีแค่วงร็อกแอนด์โรลไม่ได้ 844 00:59:52,843 --> 00:59:57,431 เพราะลูไม่ได้มีหน้าตาหล่ออะไร 845 00:59:57,514 --> 01:00:00,976 เสียงเขาก็ไม่ได้ดีอะไร "ต้องมีสาวสวยในวงด้วย" 846 01:00:06,940 --> 01:00:10,777 แอนดีแทบจะต้องขอร้อง กว่าลูจะยอมทำ 847 01:00:15,866 --> 01:00:18,702 เธอออกไปอีกแล้ว 848 01:00:18,785 --> 01:00:21,622 ดิฉันรู้ว่าช่วงแรก พวกเขาหงุดหงิดแทบตาย 849 01:00:21,705 --> 01:00:24,625 ที่เธอคงระดับเสียงสูงต่ำไม่ได้เลย 850 01:00:27,544 --> 01:00:32,174 น่าจะเป็นจอห์นอีกนั่นแหละ ที่คิดออกว่าจะทำอย่างไรกับเสียงนั้น 851 01:00:36,178 --> 01:00:37,721 ส่วนใหญ่จะแปลกมาก 852 01:00:37,804 --> 01:00:39,890 ที่เธอทำอย่างนี้ไม่ได้ ทำอย่างนั้นไม่ได้ 853 01:00:39,973 --> 01:00:42,601 แล้วอยู่ดีๆ เธอทำทุกอย่างได้ดีมาก 854 01:00:43,644 --> 01:00:45,187 ดิฉันต้องเรียนรู้ 855 01:00:54,279 --> 01:00:58,408 อยู่ดีๆ เราได้ตระหนักถึงการโฆษณา 856 01:00:58,492 --> 01:01:02,996 และการที่มีสาวเยือกเย็นผมทอง อยู่กลางเวที 857 01:01:03,080 --> 01:01:04,915 ข้างๆ เราที่เหลือที่แต่งชุดดำ 858 01:01:05,499 --> 01:01:09,253 ฉันจะเป็นกระจกสะท้อนตัวเธอ 859 01:01:09,336 --> 01:01:11,129 เผื่อเธอไม่รู้ 860 01:01:11,213 --> 01:01:15,050 สามหรือสี่เพลงที่เธอร้อง เหมาะที่สุดสำหรับเธอ 861 01:01:15,133 --> 01:01:18,095 ถ้าคนอื่นมาร้อง มันฟังแล้วไม่ใช่ 862 01:01:20,055 --> 01:01:21,890 เธอเป็นคนลึกลับมากสำหรับเราสมาชิกวง 863 01:01:21,974 --> 01:01:23,475 (เสียงของสเตอร์ลิง มอร์ริสัน) 864 01:01:23,559 --> 01:01:25,143 เราไม่ได้มีโอกาสเดินทางมากนัก 865 01:01:25,227 --> 01:01:27,938 เราไม่ค่อยรอบรู้เท่าไร นอกจากจอห์น 866 01:01:28,730 --> 01:01:30,440 นอกจากเธอร้องเพลงได้ 867 01:01:30,524 --> 01:01:34,945 เธอไม่ได้มาเพื่อยืนสวยอย่างเดียว 868 01:01:35,028 --> 01:01:37,781 โปรดเอามือลง 869 01:01:37,865 --> 01:01:40,617 เพราะฉันเห็นเธอ 870 01:01:50,419 --> 01:01:54,840 แอนดีอยากให้เธอร้องเพลงในกล่องใส 871 01:01:54,923 --> 01:01:56,717 แต่นิโกไม่ยอม 872 01:01:57,467 --> 01:02:00,304 เธอเป็นนักดนตรีที่จริงจัง และเธออยากร้องเพลงเหล่านี้ 873 01:02:01,305 --> 01:02:04,141 ความสนใจในความงามของเธอ… 874 01:02:04,224 --> 01:02:05,434 (แจ็กสัน บราวน์) 875 01:02:05,517 --> 01:02:09,062 ผมว่าไม่ได้สำคัญกับเธอเลย 876 01:02:09,146 --> 01:02:11,565 เธอจะได้ไม่กลัว 877 01:02:11,648 --> 01:02:15,652 เมื่อเธอคิดว่ากลางคืน ได้เห็นจิตใจเธอแล้ว 878 01:02:16,320 --> 01:02:19,156 อาจจะเป็นมุมมองที่แอนดีมีต่อเธอ 879 01:02:19,239 --> 01:02:21,992 เธออยู่ห่างไกลมาก เธอเข้าถึงไม่ได้ 880 01:02:22,075 --> 01:02:23,911 ผมว่าเธอไม่ได้อยากโด่งดังเป็นพลุแตก 881 01:02:23,994 --> 01:02:27,789 ผมว่าเธอเพียงแต่อยากทำงานดีๆ งานที่ดีจริงๆ 882 01:02:28,582 --> 01:02:29,750 เพราะฉันเห็นเธอ 883 01:02:29,833 --> 01:02:32,461 เวลาที่คุณไม่มีชื่อเสียง คุณจะถูกเปรียบเทียบกับคนนู้นคนนี้ 884 01:02:32,544 --> 01:02:36,632 เธอจะโดนเปรียบเทียบ กับมาร์ลีน ดีทรีชหรือการ์โบ 885 01:02:37,132 --> 01:02:40,260 - ฉันจะเป็นกระจกของเธอ - สะท้อนตัวเธอ 886 01:02:41,261 --> 01:02:43,847 - ฉันจะเป็นกระจกของเธอ - สะท้อนตัวเธอ 887 01:02:43,931 --> 01:02:45,641 ตอนนี้คนจะเปรียบเทียบคนอื่นกับเธอ 888 01:02:45,724 --> 01:02:48,894 - ฉันจะเป็นกระจกของเธอ - สะท้อนตัวเธอ 889 01:02:50,771 --> 01:02:52,189 เราได้บางอย่างจากพวกเขา 890 01:02:52,272 --> 01:02:56,318 เราพบกับทอม วิลสัน ซึ่งผลิตเพลงให้บ็อบ ดิลลัน 891 01:02:56,401 --> 01:02:58,403 และเรามีความคืบหน้า 892 01:02:58,487 --> 01:03:00,072 เราสามารถออกอัลบั้ม 893 01:03:00,155 --> 01:03:04,576 นอร์แมน ดอล์ฟเดินเข้ามา เทเงิน 1,500 เหรียญให้แอนดีทำเพลง 894 01:03:05,410 --> 01:03:06,578 โห 895 01:03:07,454 --> 01:03:08,830 เรากำลังไล่ล่าอะไรสักอย่าง 896 01:03:13,627 --> 01:03:16,922 ฉันรอผู้ชายของฉันอยู่ 897 01:03:21,301 --> 01:03:23,929 ในมือมีอยู่ยี่สิบหกเหรียญ 898 01:03:27,933 --> 01:03:31,353 ไปถึงเล็กซิงตัน 125 899 01:03:31,436 --> 01:03:35,440 รู้สึกป่วยและสกปรก เหมือนตายมากกว่าเป็น 900 01:03:36,149 --> 01:03:39,278 แอนดีเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดา และจากใจจริงผมไม่คิด 901 01:03:39,361 --> 01:03:41,947 ว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ หากไม่มีแอนดี 902 01:03:42,030 --> 01:03:43,699 ผมไม่รู้ว่าเราจะได้เซ็นสัญญาไหม 903 01:03:43,782 --> 01:03:46,785 ถ้าเขาไม่ได้ตกลงที่จะทำปกให้ หรือถ้านิโกไม่ได้สวยขนาดนั้น 904 01:03:51,039 --> 01:03:55,252 เฮ้ หนุ่มผิวขาว นายมาไล่ต้อนหญิงสาวของเรารึ 905 01:04:03,177 --> 01:04:06,054 เราซ้อมกันหนึ่งปีเต็ม สำหรับอัลบั้มกล้วยนั่น 906 01:04:08,223 --> 01:04:09,975 แอนดีเป็นโปรดิวเซอร์ อัลบั้มแรกของเรา 907 01:04:10,058 --> 01:04:13,353 ในแบบที่เขามายืนหายใจอยู่ในสตูดิโอ 908 01:04:13,437 --> 01:04:15,981 แต่เขาก็ทำมากกว่านั้น 909 01:04:16,064 --> 01:04:18,150 เขาทำให้เรามีโอกาสออกอัลบั้ม 910 01:04:18,233 --> 01:04:22,529 โดยไม่มีใครมาเปลี่ยนอะไรเลย เพราะมีแอนดี วอร์ฮอล 911 01:04:25,115 --> 01:04:28,952 รองเท้าเปอร์โตริโก กับหมวกฟางใบใหญ่ 912 01:04:29,036 --> 01:04:30,954 เขาเข้าใจตัวตนของเราจริงๆ 913 01:04:31,038 --> 01:04:36,210 เข้าใจความสร้างสรรค์ของเรา และวิธีดึงศักยภาพนั้นออกมา 914 01:04:37,044 --> 01:04:39,463 เขาสนับสนุนเราอย่างมาก 915 01:04:39,546 --> 01:04:41,381 จะต้องรอ 916 01:04:41,465 --> 01:04:45,052 ฉันรอผู้ชายของฉันอยู่ 917 01:04:45,135 --> 01:04:48,680 นิโกหลงรักลู แอนดีหลงรักลู 918 01:04:49,473 --> 01:04:52,893 หนุ่มๆ สาวๆ ผู้หญิง ผู้ชาย ต่างตกหลุมรักเขา 919 01:05:03,362 --> 01:05:06,740 ตอนนั้นผมวาดรูปแล้ว และอยากให้คนอื่นเข้าใจ 920 01:05:06,823 --> 01:05:08,659 และกำลังมองหาที่ปลดปล่อย 921 01:05:08,742 --> 01:05:13,789 จนเพื่อนผมคนนึงเอาแผ่นเพลงมา ตอนที่ผมอายุ 15… 922 01:05:13,872 --> 01:05:15,290 (โจนาธาน ริชแมน) 923 01:05:15,374 --> 01:05:17,125 เขาอยากแลก เพราะเขา… ไม่ใช่แนวเขา 924 01:05:17,209 --> 01:05:20,212 ส่วนผมมีแผ่นของวง Fugs ที่ผมพอจะแลกได้ 925 01:05:20,295 --> 01:05:22,589 ผมชื่นชอบท่วงทำนองของลู รีด 926 01:05:22,673 --> 01:05:26,510 "รองเท้าเปอร์โตริโกกับหมวกฟาง ใบใหญ่" 927 01:05:28,011 --> 01:05:29,680 ความ… 928 01:05:32,683 --> 01:05:35,894 กับเสียงโดรนของเคลที่สอดแทรกอยู่ 929 01:05:37,145 --> 01:05:39,064 แบบนี้ ใช่เลย 930 01:05:39,147 --> 01:05:41,733 ไม่อยากได้แผ่นนี้เหรอ แผ่นนี้ผมต้องการ 931 01:05:41,817 --> 01:05:44,152 คนกลุ่มนี้จะเข้าใจ… คำแรกที่ออกจากปากผม 932 01:05:44,236 --> 01:05:46,905 น่าจะเป็น "คนกลุ่มนี้จะเข้าใจฉัน" 933 01:05:49,324 --> 01:05:51,702 เขามีของพร้อม มีให้ลองลิ้มรส 934 01:05:51,785 --> 01:05:53,537 มีบางองค์ประกอบในสิ่งที่ลูกำลังทำ… 935 01:05:53,620 --> 01:05:55,163 (เสียงของเดวิด โบวี) 936 01:05:55,247 --> 01:05:58,333 ที่ถูกต้องและไม่พลาด เป็นลักษณะการเขียนเนื้อเพลงของเขา 937 01:05:58,417 --> 01:06:03,589 ดีแลนได้นำความฉลาดรูปแบบใหม่ เข้ามาในการเขียนเพลงป็อป 938 01:06:03,672 --> 01:06:06,717 แต่ลูพาไปถึงความล้ำยุคเลย 939 01:06:06,800 --> 01:06:10,554 โดยมีรากฐานในโบดแลร์ แรงโบด์ และ… 940 01:06:10,637 --> 01:06:13,473 แต่ในเวลานั้น สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญ 941 01:06:18,645 --> 01:06:20,647 ไม่ได้รับการส่งเสริม 942 01:06:20,731 --> 01:06:23,609 สถานีวิทยุหลายแห่งไม่ยอมเปิดเพลงเรา 943 01:06:23,692 --> 01:06:26,570 เพลง "Heroin" พวกเขาไม่… พวกเขาไม่ยอมเปิด 944 01:06:27,821 --> 01:06:29,740 แต่ MGM ก็ไม่ใช่… 945 01:06:29,823 --> 01:06:33,118 ตอนนั้นพวกเขาน่าจะตัดสินใจแล้ว ว่า Mothers of Invention 946 01:06:33,202 --> 01:06:36,872 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า พวกเขาเลยแทบไม่ได้ทำอะไร 947 01:06:36,955 --> 01:06:39,750 เหมือนจับเรามาเซ็นสัญญา เพื่อที่เราจะไม่ต้องเร่ร่อน 948 01:06:39,833 --> 01:06:42,586 จนถึงพรุ่งนี้ แต่พรุ่งนี้ยังอีกไกล 949 01:06:43,670 --> 01:06:47,174 ฉันรอผู้ชายของฉันอยู่ 950 01:06:48,884 --> 01:06:50,302 แล้วเดินกลับบ้าน 951 01:06:58,227 --> 01:06:59,686 โอ้ ไม่เป็นไร 952 01:07:01,396 --> 01:07:03,190 เรามารวมตัวกันที่นี่ 953 01:07:03,273 --> 01:07:06,026 แอนดี วอร์ฮอล กวีเจราร์ด มาลานกา 954 01:07:06,109 --> 01:07:08,487 ตรงนั้น ถ้าหันกล้องไป เอ็ด ซานเดอร์ส 955 01:07:08,570 --> 01:07:10,697 จากวงร็อกแอนด์โรลที่ชื่อ The Fugs 956 01:07:10,781 --> 01:07:14,576 ปีเตอร์ ออร์ลอฟสกี ซึ่งเป็นกวี และร้องมันตราอินเดียด้วย 957 01:07:14,660 --> 01:07:17,287 อ่อ โจนัส เมคัสถ่ายหนัง จะเห็นว่าตอนนี้เขาก็ถ่ายอยู่ 958 01:07:19,414 --> 01:07:22,042 แค่ในนิวยอร์ก 959 01:07:22,125 --> 01:07:25,879 มีศิลปิน 30 หรือ 40 คน 960 01:07:25,963 --> 01:07:29,967 กำลังทำผลงานที่ไม่ได้ยึดติด กับแขนงของตน 961 01:07:30,050 --> 01:07:32,344 แต่รวมแขนงอื่นด้วย 962 01:07:34,763 --> 01:07:38,100 เราเลยจัดเทศกาลแบบนี้เป็นครั้งแรก 963 01:07:38,183 --> 01:07:41,562 เพื่อสำรวจว่ามีอะไรอยู่บ้าง 964 01:07:41,645 --> 01:07:45,816 ในวงการศิลปะและภาพยนตร์ ที่ขยายกว้างออกไป 965 01:07:45,899 --> 01:07:49,528 นั่นเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน หรือธันวาคม ปี 1965 966 01:07:49,611 --> 01:07:53,615 ในปี 1966 ผมเช่าโรงละคร บนถนนหมายเลข 41... 967 01:07:53,699 --> 01:07:55,158 (โจนัส เมคัส) 968 01:07:55,242 --> 01:07:58,537 ที่ไทม์สแควร์ เราไปต่อกันที่นั่น 969 01:08:02,916 --> 01:08:07,754 Chelsea Girls เปิดตัวที่นั่น มีการฉายหนังวอร์ฮอลหลายเรื่อง 970 01:08:16,889 --> 01:08:19,975 วัยรุ่นแมรีกล่าวกับลุงเดฟ 971 01:08:20,058 --> 01:08:23,478 "หนูขายวิญญาณ ต้องได้รับความช่วยเหลือ 972 01:08:23,562 --> 01:08:25,731 เราตัดสินใจ ว่าเราจะทำสื่อประสม… 973 01:08:25,814 --> 01:08:26,982 (เสียงของบิลลี เนม) 974 01:08:27,064 --> 01:08:30,068 ซึ่งเปิดให้ชมสองสามสัปดาห์ ชื่อ "Andy Warhol's Up-Tight" 975 01:08:30,652 --> 01:08:33,363 นำแสดงโดย The Velvet Underground กับเจราร์ด มาลานกา 976 01:08:33,447 --> 01:08:36,658 และแมรี โวโรนอฟ ทั้งเต้นรำและอีกมากมาย 977 01:08:36,742 --> 01:08:40,412 วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง เสพยาจนดับและตัวเธอ 978 01:08:40,495 --> 01:08:42,872 บอกเธอว่าต้องทำอะไร 979 01:08:44,082 --> 01:08:46,167 เพื่อเตรียมตัว เราได้… 980 01:08:46,251 --> 01:08:48,629 ถ่าย The Velvet Underground และนิโก ใน The Factory 981 01:08:50,130 --> 01:08:52,883 แล้วขณะที่พวกเขาแสดงสด 982 01:08:52,966 --> 01:08:56,553 บนเวทีที่หอภาพยนตร์ เรานำภาพนั้นมาฉายบนตัวพวกเขา 983 01:08:56,636 --> 01:08:59,430 ออกไปขายวิญญาณ เธอไม่เมายา 984 01:09:00,224 --> 01:09:02,350 เธอไม่รู้ คิดว่าจะซื้อได้ 985 01:09:02,434 --> 01:09:06,939 ร้าน Dom Polski ที่ถนนเซนต์มาร์กเพลส 986 01:09:07,022 --> 01:09:11,318 ในอีสต์วิลเลจมีห้องว่าง 987 01:09:11,401 --> 01:09:13,529 เราเลยอยู่ที่นั่นเดือนกว่าๆ 988 01:09:13,612 --> 01:09:19,243 และขยาย "Andy Warhol's Up-Tight" เป็น "Exploding Plastic Inevitable" 989 01:09:22,412 --> 01:09:25,290 ที่นี่เคยเป็นบ้านแห่งชาติของโปแลนด์ 990 01:09:25,374 --> 01:09:29,252 ตอนนี้เป็น The Dom ใจกลางชีวิตกลางคืนของอีสต์วิลเลจ 991 01:09:29,336 --> 01:09:32,339 ดนตรีโดยนิโก และ The Velvet Underground 992 01:09:32,421 --> 01:09:34,550 "The Exploding Plastic Inevitable" 993 01:09:34,633 --> 01:09:39,971 ออกแบบโดยแอนดี วอร์ฮอลแห่งวงการ ศิลปะป็อปและดาราสาวประจำปีของเขา 994 01:09:40,055 --> 01:09:43,392 สไตล์การร้องของเธอนั้นแปลก 995 01:09:46,895 --> 01:09:48,313 (แอนดีมีอะไรสำหรับทุกคน) 996 01:09:48,397 --> 01:09:53,819 แอนดีมีวงร็อกแอนด์โรล ที่ชื่อว่า The Velvet Underground 997 01:09:56,613 --> 01:10:01,410 ดิสโก้เทคในความคิดของเขา คือการเปิดหอเต้นรำ 998 01:10:01,493 --> 01:10:03,954 ให้นักดนตรีของเขาไปเล่น 999 01:10:04,037 --> 01:10:06,582 ฉายหนังหลายเรื่องไปพร้อมกัน 1000 01:10:06,665 --> 01:10:10,752 เปิดแสงไฟหลากสี ขณะที่คนเต้นหรือรับชม 1001 01:10:11,295 --> 01:10:12,671 สุดยอด 1002 01:10:16,341 --> 01:10:18,302 (แอนดี วอร์ฮอล - การแสดงสด The Velvet Underground) 1003 01:10:20,345 --> 01:10:23,807 ผมมาเป็นมือกีตาร์ให้นิโก ในโชว์ที่เธอเล่นที่ The Dom 1004 01:10:23,891 --> 01:10:25,517 ผมได้เล่นเปิดด้วย 1005 01:10:25,601 --> 01:10:29,396 ผมไม่ได้… ผมไม่ได้มีผลงานเพลง ไม่ได้เป็นจุดสนใจใดๆ 1006 01:10:29,479 --> 01:10:30,564 ผมแค่เล่นเพลงหนึ่งชุด 1007 01:10:33,650 --> 01:10:36,653 มักไม่มีใครมาจนกว่าแอนดีจะมา 1008 01:10:38,113 --> 01:10:39,364 เขานี่แหละที่เป็นจุดสนใจ 1009 01:10:55,130 --> 01:10:58,425 สำหรับระเบียง แอนดีมักจะวางโปรเจ็กเตอร์ 1010 01:10:58,509 --> 01:11:02,596 มีทั้งเจล สี และไฟมากมาย 1011 01:11:06,391 --> 01:11:08,519 เนื่องจากไม่มีใครใช้ไฟเป็น 1012 01:11:08,602 --> 01:11:10,187 เราเลยให้คนดูเล่น 1013 01:11:10,270 --> 01:11:11,730 นั่นเป็นอีกเหตุผลที่เราทำเงินไม่ได้ 1014 01:11:11,813 --> 01:11:14,399 คนดูจะทำพังตลอด หรือไม่ก็จะตกระเบียงไป 1015 01:11:14,483 --> 01:11:17,861 วิธีการของแอนดีจะประมาณว่า… 1016 01:11:17,945 --> 01:11:21,907 "อ่อ ใครรู้วิธีคุมไฟบ้าง อ่อ คุณรู้วิธีใช้ไฟไหม" 1017 01:11:28,539 --> 01:11:30,999 ผู้คนจะดูหนังของเขา 1018 01:11:31,083 --> 01:11:33,544 แต่พวกเขาดูไม่ได้ เพราะไม่มีเส้นเรื่อง 1019 01:11:33,627 --> 01:11:37,339 เลยเกิดความประหลาดที่ว่า "นี่คือความจริงหรือเรื่องแต่ง" 1020 01:11:37,422 --> 01:11:40,342 เราก็ไม่รู้ เหมือนเป็นการสะกดจิต 1021 01:12:14,376 --> 01:12:17,588 ชั้นบนกลายเป็นวงการ ที่พัฒนาต่อเนื่อง 1022 01:12:17,671 --> 01:12:20,674 บุคคลอย่างวอลเตอร์ ครอนไคต์ และแจ็กกี เคนเนดี 1023 01:12:20,757 --> 01:12:24,761 รวมถึงอีกหลายคนในวงสังคม จะมาเพราะแอนดี 1024 01:12:24,845 --> 01:12:30,142 และเพราะเส้นสายของเขาในหมู่นักสะสม ศิลปะบนถนนเซ็นทรัลปาร์กเวสต์ 1025 01:12:30,225 --> 01:12:32,561 บุคคลสำคัญมากมายมาร่วมเต้นรำกัน 1026 01:12:32,644 --> 01:12:34,771 นูเรเยฟก็มาเต้นรำ 1027 01:12:34,855 --> 01:12:38,025 New York City Ballet ทั้งคณะ ก็มาเต้นรำ 1028 01:12:56,293 --> 01:12:59,505 ผมคิดว่าพวกเขาไม่ได้รวมตัวกัน 1029 01:12:59,588 --> 01:13:02,841 เพื่อที่จะจัดเป็นงานแสดงบนเวที ที่ตระการตา 1030 01:13:02,925 --> 01:13:03,926 (แดนนี ฟีลด์ส) 1031 01:13:04,009 --> 01:13:09,097 พวกเขารวมตัวกัน เพราะมีความมหัศจรรย์ของดนตรี 1032 01:13:09,181 --> 01:13:12,643 ที่เกิดขึ้นในเพลงของลู 1033 01:13:14,102 --> 01:13:16,855 บาร์บารา รูบิน ผู้ที่ค้นพบพวกเขา ด้วยเหตุผลที่ถูกจุด 1034 01:13:16,939 --> 01:13:21,360 เป็นคนเริ่มฉายลายจุดบ้าๆ นั่น บนตัวพวกเขา 1035 01:13:21,443 --> 01:13:26,073 ตอนที่พวกเขาเล่น ทำอย่างกับว่า พวกเขายังไม่ตื่นเต้นพอ 1036 01:13:26,156 --> 01:13:29,618 ผมจะพูดว่า "ลู คุณ… ทำไมพวกเขาทำแบบนี้กับคุณ" 1037 01:13:29,701 --> 01:13:32,454 แน่นอนว่าเขาจะยักไหล่และพูดว่า 1038 01:13:32,538 --> 01:13:36,625 "แอนดีต้องการแบบนี้ คนกันเองทั้งนั้น" 1039 01:13:37,417 --> 01:13:41,505 หลังจากที่ทำอย่างนี้ ประมาณสามสัปดาห์ เราก็ออกทัวร์ 1040 01:13:54,351 --> 01:13:57,354 มีหลายครั้ง ที่เราจะเล่นในงานแสดงศิลปะ 1041 01:13:57,437 --> 01:14:02,025 พวกเขาเชิญแอนดีไป ส่วนเราเป็นส่วนของการแสดง 1042 01:14:03,735 --> 01:14:06,321 พวกเขาจะมากันเป็นขโยง เหล่าคนในวงสังคมที่ร่ำรวย 1043 01:14:06,405 --> 01:14:07,990 (สมาคมนิวยอร์ก เพื่อการวินิจฉัยโรคทางจิตเวช) 1044 01:14:08,073 --> 01:14:10,242 รวมถึงศิลปินและคนอื่นๆ และนี่คือ… 1045 01:14:10,325 --> 01:14:12,911 พวกเขาไม่ได้อยากฟังวงดนตรี และยิ่งไม่สนใจที่เราทำอยู่ 1046 01:14:14,621 --> 01:14:15,998 (สมาคมภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส นิวอาร์ก) 1047 01:14:16,081 --> 01:14:18,292 ผมได้รับชม Exploding Plastic Inevitable 1048 01:14:18,375 --> 01:14:20,335 กับ The Velvet Underground ที่ The Dom ในนิวยอร์กแล้ว 1049 01:14:20,419 --> 01:14:21,670 (จอห์น วอเตอร์ส) 1050 01:14:21,753 --> 01:14:23,338 แต่พอผมอยู่ที่นี่ และได้ยินว่าพวกเขาจะมา 1051 01:14:23,422 --> 01:14:25,591 ในเมืองโพรวินซ์ทาวน์ที่ผมอาศัยอยู่ 1052 01:14:25,674 --> 01:14:28,010 ที่พิพิธภัณฑ์ Chrysler ลงจองเป็นงานแสดงศิลปะ 1053 01:14:28,093 --> 01:14:29,219 (พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Chrysler โพรวินซ์ทาวน์) 1054 01:14:29,303 --> 01:14:31,930 มีคนไปไม่มาก คนเมืองนี้ไม่เข้าใจ 1055 01:14:33,515 --> 01:14:35,601 ใจผมคิดว่าน่าจะประหลาดมาก ถ้าจะให้พวกเขา… 1056 01:14:35,684 --> 01:14:36,810 (เทศกาลภาพยนตร์แอนน์ อาร์เบอร์ รัฐมิชิแกน) 1057 01:14:36,894 --> 01:14:38,812 มาดูจุดสูงสุดของยุคฮิปปี้ และอะไรแนวนี้ 1058 01:14:38,896 --> 01:14:40,814 ทั้งที่พวกเขาต่อต้านฮิปปีมาก 1059 01:14:41,690 --> 01:14:45,402 (งานแต่งงาน MOD งานแสดงนิทรรศการรัฐมิชิแกน) 1060 01:14:50,490 --> 01:14:52,826 ดิฉันรู้ว่าเรา ได้แฟนเพลงใหม่มากมายจากตรงนั้น 1061 01:14:52,910 --> 01:14:54,119 (งานการกุศลเมิร์ส คันนิงแฮม เมืองนิวคานาน) 1062 01:14:54,203 --> 01:14:56,622 แต่เรามักจะพูดเล่นกันว่า "เอาละ มีกี่คนที่เดินออก 1063 01:14:56,705 --> 01:14:58,999 ประมาณครึ่งหนึ่ง แปลว่าคืนนี้เราเล่นดี" 1064 01:15:10,177 --> 01:15:12,346 ไม่ได้เป็นแค่เสียง… 1065 01:15:12,429 --> 01:15:14,139 (เสียงของนิโก) 1066 01:15:14,223 --> 01:15:17,351 แต่เป็นดนตรีประเภทที่เราจะได้ยิน… 1067 01:15:17,434 --> 01:15:20,395 เวลาที่มีพายุ 1068 01:15:37,871 --> 01:15:41,291 จากนั้นพอลก็พาเราไปเล่นฝั่งตะวันตก 1069 01:15:46,046 --> 01:15:47,673 วันจันทร์ วันจันทร์ 1070 01:15:49,967 --> 01:15:52,302 ดีต่อฉันเหลือเกิน 1071 01:15:52,386 --> 01:15:54,221 ในด้านดนตรี ชายฝั่งตะวันตก 1072 01:15:54,304 --> 01:15:58,016 มีความพยายามอย่างเป็นแบบแผน ที่จะมีอิทธิพลในวงการป็อป 1073 01:15:58,100 --> 01:16:00,394 เป็นอย่างที่ฉันหวังทุกอย่าง 1074 01:16:00,477 --> 01:16:02,563 จำได้ว่าเราอยู่ในรถเช่า ขากลับจากสนามบิน 1075 01:16:02,646 --> 01:16:03,897 (เสียงของสเตอร์ลิง มอร์ริสัน) 1076 01:16:03,981 --> 01:16:06,233 ผมเปิดวิทยุ แล้วเพลงแรกที่เล่น คือเพลง "Monday, Monday" 1077 01:16:06,316 --> 01:16:08,235 ผมพูดว่า "ผมไม่แน่ใจ 1078 01:16:08,318 --> 01:16:10,112 บางทีเราอาจไม่พร้อม สำหรับอะไรแบบนี้" 1079 01:16:14,283 --> 01:16:16,243 เรามาถึงลอสแอนเจลีส 1080 01:16:16,326 --> 01:16:18,829 และครั้งแรกที่เราสังเกต ว่าเราแตกต่าง 1081 01:16:18,912 --> 01:16:22,875 คือตอนที่เรา ไปที่โรงแรม Tropicana Motel 1082 01:16:24,001 --> 01:16:27,671 เราสวมชุดดำที่มิดชิดทั้งตัว 1083 01:16:27,754 --> 01:16:29,506 และเรานั่งกันอยู่รอบสระว่ายน้ำ 1084 01:16:29,590 --> 01:16:30,591 (แมรี โวโรนอฟ) 1085 01:16:30,674 --> 01:16:32,467 แบบว่า เราแลดูโง่มาก 1086 01:16:32,968 --> 01:16:36,054 ยกเว้นเจราร์ด เจราร์ดอยู่ด้านหลัง กำลังเอากับใครอยู่ 1087 01:16:45,981 --> 01:16:49,067 เช้าวันอาทิตย์ 1088 01:16:50,319 --> 01:16:53,739 นำพารุ่งอรุณ 1089 01:16:55,115 --> 01:17:01,496 เป็นเพียงความรู้สึกอยู่ไม่สุข ข้างกายฉัน 1090 01:17:01,580 --> 01:17:04,082 เรายังไม่เคยมา ที่ชายฝั่งตะวันตก 1091 01:17:04,166 --> 01:17:08,128 และแปลกที่เรารู้สึกว่าทุกคน มีสุขภาพดีมาก 1092 01:17:08,837 --> 01:17:12,966 และการแสดงแสงสีในความคิดของพวกเขา คือการเปิดสไลด์ภาพพระพุทธเจ้าบนผนัง 1093 01:17:14,551 --> 01:17:17,930 พอเรามาถึงแคลิฟอร์เนีย เราไปที่ร้าน The Trip ที่นั่นมีเวที 1094 01:17:18,013 --> 01:17:20,724 มีเวทีแล้วต้องมีใคร เจราร์ดกับดิฉัน 1095 01:17:20,807 --> 01:17:25,729 เราจะทำการแสดงหนึ่ง เพื่อให้คนหันมามองวงเรามากขึ้น 1096 01:17:26,271 --> 01:17:32,319 จะมีหนึ่งคนรอบตัวคุณเสมอที่จะโทร 1097 01:17:33,362 --> 01:17:36,782 ไม่มีอะไรเลย 1098 01:17:38,408 --> 01:17:41,453 แล้วพวกเขาแอบเพิ่มชื่อ แฟรงก์ แซปปาในรายการแสดงด้วย 1099 01:17:41,537 --> 01:17:44,831 และวง Mothers of Invention เราทนพวกเขาไม่ได้จริงๆ 1100 01:17:44,915 --> 01:17:48,377 เรารู้สึกว่าพวกเขาเป็นทุกสิ่ง ที่ชายฝั่งตะวันตกเป็น 1101 01:17:49,419 --> 01:17:52,256 พวกเขาเป็นฮิปปี้ เราเกลียดฮิปปี้ 1102 01:17:52,339 --> 01:17:55,425 พลังบุปผา การเผาเสื้อยกทรง 1103 01:17:55,509 --> 01:17:57,594 ถามจริงๆ ว่าเป็นบ้าอะไรกัน 1104 01:17:57,678 --> 01:18:00,806 ความไร้สาระของ "รักและสันติภาพ" เราเกลียดมาก ตื่นเถิด 1105 01:18:01,431 --> 01:18:04,476 แล้ว… รักอิสระกับ… 1106 01:18:04,560 --> 01:18:07,312 "ทุกคนดีงาม ฉันรักทุกคน ฉันดีงามใช่ไหม" 1107 01:18:08,480 --> 01:18:13,110 ทุกคนอยากมีโลกที่สงบสุข โดยที่จะไม่โดนยิงหัวทิ้งเสียก่อน 1108 01:18:13,193 --> 01:18:16,363 แต่เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดคน โดยการยื่นดอกไม้ 1109 01:18:16,446 --> 01:18:18,323 ให้กับคนบ้าที่อยากจะยิงเรา 1110 01:18:19,157 --> 01:18:20,534 พวกเขาน่าจะ… 1111 01:18:21,827 --> 01:18:24,830 ช่วยเหลือคนไร้บ้าน หรือทำอะไรสักอย่าง 1112 01:18:24,913 --> 01:18:29,251 ลงมือแก้ปัญหา ไม่ใช่เดินไปเดินมา พร้อมดอกไม้ติดผม 1113 01:18:31,420 --> 01:18:35,883 นั่นเป็นการหลีกเลี่ยง ความสำคัญของอันตรายที่มีอยู่ 1114 01:18:35,966 --> 01:18:37,926 แล้วถ้าคุณหมกมุ่นอยู่กับโลกนั้น 1115 01:18:38,010 --> 01:18:40,929 คุณจะไม่ตระหนักถึง พลังของความอันตราย 1116 01:18:42,556 --> 01:18:44,391 เผ่าพันธุ์มนุษย์เละไม่เป็นท่า 1117 01:18:45,100 --> 01:18:49,438 และพวกเขากำลังถูกสังคมเอาเปรียบ 1118 01:18:49,521 --> 01:18:52,524 ดังนั้นความโศกเศร้า และการล้มลงไม่ช่วยอะไร 1119 01:18:52,608 --> 01:18:55,277 คุณต้องแข็งแกร่ง 1120 01:18:55,360 --> 01:18:58,614 และต่อต้านสิ่งต่างๆ ที่คนอื่นไม่ต่อต้าน 1121 01:18:58,697 --> 01:18:59,990 เพื่อที่จะไม่… 1122 01:19:00,073 --> 01:19:03,035 ตรงนี้จึงเป็นบทบาทของศิลปิน 1123 01:19:03,118 --> 01:19:05,871 เพราะศิลปินไม่ได้เห็นร่วมกับสังคม 1124 01:19:06,788 --> 01:19:07,915 ศิลปินแตกต่าง 1125 01:19:13,170 --> 01:19:17,424 ยากที่จะอธิบายความรู้สึก ของการเต้นแบบร็อก 1126 01:19:17,508 --> 01:19:21,011 นั่นอาจเป็นเหตุผลที่หนุ่มสาว จำนวนมากมาที่นี่ทุกสุดสัปดาห์ 1127 01:19:21,094 --> 01:19:24,389 เพื่อดูว่าบิลล์ แกรห์ม กับ Fillmore West มีอะไรดี 1128 01:19:24,473 --> 01:19:26,517 ผู้คนที่นี่น่ารัก สนุกกับชีวิต 1129 01:19:26,600 --> 01:19:30,479 มีบรรยากาศที่ไม่เหมือนกับเมืองอื่นๆ 1130 01:19:30,562 --> 01:19:32,523 ที่นิวยอร์ก ชิคาโก ดีทรอยต์ 1131 01:19:32,606 --> 01:19:35,901 ทุกอย่างจะหยาบกร้าน 1132 01:19:35,984 --> 01:19:37,653 โห เขาเกลียดเรา 1133 01:19:37,736 --> 01:19:39,947 ตอนที่เราจะขึ้นเวที 1134 01:19:40,822 --> 01:19:43,867 เขายืนอยู่ตรงนั้น แล้วพูดว่า "ขอให้ล้มไม่เป็นท่า" 1135 01:19:45,244 --> 01:19:47,996 แล้วทำไมคุณถึงขอ… คุณจองตัวเรามาทำไม 1136 01:19:48,080 --> 01:19:51,875 ดิฉันว่าเขาอิจฉาและอารมณ์เสีย 1137 01:19:51,959 --> 01:19:55,295 เพราะเขาพูดว่าเขาเป็นคนแรก ที่ทำสื่อประสม 1138 01:19:55,379 --> 01:20:00,551 ซึ่งดูแย่เมื่อเทียบ กับผลงานของแอนดี แย่จริงๆ 1139 01:20:00,634 --> 01:20:03,554 เราได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ 1140 01:20:03,637 --> 01:20:07,766 "The Velvet Underground ควรถูกฝัง 1141 01:20:07,850 --> 01:20:09,268 ฝังให้จมดินไปเลย" 1142 01:20:09,351 --> 01:20:10,519 ("วงนี้จะไม่มาแทนที่อะไร นอกจากการฆ่าตัวตาย") 1143 01:20:10,602 --> 01:20:12,437 นั่นคือสิ่งที่… เธอชื่ออะไรนะ แชร์พูด 1144 01:20:12,521 --> 01:20:15,649 แล้วเรากลับไปที่นิวยอร์ก พร้อมที่จะกลับไปยัง The Dom 1145 01:20:15,732 --> 01:20:18,694 แต่ไม่ได้ เรากลับไป ที่ The Dom ไม่ได้ "ทำไมล่ะ" 1146 01:20:18,777 --> 01:20:23,073 เขายกสัญญาเช่าให้กับอัล กรอสส์แมน 1147 01:20:23,156 --> 01:20:28,078 ซึ่งเป็นผู้จัดการของดีแลน และดีแลน ตั้งชื่อใหม่ว่า The Balloon Farm 1148 01:20:28,787 --> 01:20:31,582 เราเลย… อยู่ไม่ได้ 1149 01:20:33,876 --> 01:20:35,419 เธอมานั่นแล้ว 1150 01:20:37,129 --> 01:20:38,881 เธอไปแล้ว แล้ว แล้ว 1151 01:20:42,342 --> 01:20:44,845 พออัลบั้มที่สองออก เราจะเห็นเลย 1152 01:20:44,928 --> 01:20:47,139 ผลกระทบจากการเดินทางไม่หยุด 1153 01:20:47,222 --> 01:20:50,184 รวมถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่า… 1154 01:20:50,267 --> 01:20:53,228 ความรุนแรงสะท้อนทุกอย่าง ที่เกิดขึ้นภายในวง 1155 01:20:54,104 --> 01:20:56,356 เริ่มเป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเรา 1156 01:20:56,440 --> 01:20:58,775 ที่จะทำงานร่วมกัน 1157 01:20:59,318 --> 01:21:02,279 - ฉันรู้ว่าเธอตายจากไปนานแล้ว - ได้ยินเธอเรียกชื่อฉัน 1158 01:21:02,362 --> 01:21:05,532 - แต่ก็ไม่เหมือนเดิม - ได้ยินเธอเรียกชื่อฉัน 1159 01:21:05,616 --> 01:21:08,911 โอ้ พอฉันตื่นมาเมื่อเช้า แม่เอ๊ย 1160 01:21:08,994 --> 01:21:12,080 - ได้ยินเธอเรียกชื่อฉัน - ได้ยินเธอเรียกชื่อฉัน 1161 01:21:14,416 --> 01:21:18,045 น่าจะเป็นอัลบั้มที่เร็วที่สุด เท่าที่มีตอนนั้น จังหวะเร่งมาก 1162 01:21:18,128 --> 01:21:20,005 วิศวกรเสียงออกเลย 1163 01:21:20,088 --> 01:21:23,050 วิศวกรเสียงคนหนึ่งพูดว่า "ผมไม่จำเป็นต้องทนฟัง 1164 01:21:23,133 --> 01:21:26,762 ผมเปิดอัดแล้วจะออกเลย เล่นเสร็จก็มาเรียกแล้วกัน" 1165 01:21:37,356 --> 01:21:41,026 - แสงขาว - แสงขาวจะทำให้ใจฉันว้าวุ่น 1166 01:21:41,109 --> 01:21:42,945 - แสงขาว - และรู้ใช่ไหม 1167 01:21:43,028 --> 01:21:45,697 - แสงนี้จะทำให้ฉันตาบอด - ความร้อนสีขาว 1168 01:21:45,781 --> 01:21:48,742 ความร้อนสีขาว จั๊กจี้ไปจนถึงนิ้วเท้า 1169 01:21:48,825 --> 01:21:50,619 - แสงขาว - โอ้ เห็นใจเถิด 1170 01:21:50,702 --> 01:21:52,454 ตอนที่ฉันเป็น จะทนได้ถึงเมื่อไร 1171 01:21:52,538 --> 01:21:55,123 ทุกเพลงที่อยู่ในอัลบั้มที่สอง 1172 01:21:55,207 --> 01:21:58,126 ไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า และรุนแรงทั้งนั้น 1173 01:21:58,919 --> 01:22:01,880 มันคือแอมเฟตามีนล้วนๆ 1174 01:22:01,964 --> 01:22:04,675 ความร้อนสีขาว จั๊กจี้ไปจนถึงนิ้วเท้า 1175 01:22:05,259 --> 01:22:06,593 แต่ละคนแทบไม่คุยกัน 1176 01:22:07,511 --> 01:22:11,348 ทุกคนเริ่มขึ้นเสียงเรื่อยๆ 1177 01:22:11,431 --> 01:22:14,017 เสียงเลยดังขึ้น ดังขึ้น และดังขึ้น 1178 01:22:14,101 --> 01:22:18,313 "ไง ตอนนี้ใครดังสุด" เหมือนเด็กทะเลาะกัน 1179 01:22:22,025 --> 01:22:24,611 ถ้าเราไม่อิมโพรไวส์ ต่างคนต่างจะสติแตก 1180 01:22:24,695 --> 01:22:27,531 สุดท้ายเราก็สติแตกกันอยู่ดี 1181 01:22:27,614 --> 01:22:30,826 แต่การอิมโพรไวส์ช่วยได้ระหว่างทาง 1182 01:22:30,909 --> 01:22:34,621 สร้างความตื่นเต้น กับการเล่นเพลงเดิมซ้ำไปซ้ำมา 1183 01:22:35,664 --> 01:22:37,791 ความสามัคคีเริ่มพัง 1184 01:22:38,500 --> 01:22:41,420 แสงขาวเคลื่อนไปในตัวฉัน ผ่านสมองของฉัน 1185 01:22:41,503 --> 01:22:43,630 - แสงขาว - แสงขาวจะ 1186 01:22:43,714 --> 01:22:46,175 - ทำให้เราสติแตก - ความร้อนสีขาว 1187 01:22:46,258 --> 01:22:49,011 ความร้อนสีขาว จั๊กจี้ไปจนถึงนิ้วเท้า 1188 01:22:49,094 --> 01:22:52,723 (โปรดเงียบ รายการถ่ายทอดอยู่) 1189 01:22:52,806 --> 01:22:57,019 เราไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ เป็น The Velvet Underground กับนิโก 1190 01:22:57,102 --> 01:23:00,480 เราคิดว่านี่เป็นเพียง การร่วมมือชั่วคราว 1191 01:23:15,996 --> 01:23:18,999 นี่คือห้อง 546 1192 01:23:20,125 --> 01:23:23,337 มันแย่พอที่จะทำให้เอียน 1193 01:23:24,671 --> 01:23:27,633 บริจิดมัวแต่เสพยาจากฟอยล์ 1194 01:23:27,716 --> 01:23:29,301 (นิโก: CHELSEA GIRL) 1195 01:23:29,384 --> 01:23:30,928 ไม่รู้ว่า 1196 01:23:32,304 --> 01:23:35,682 นิโกทำทุกอย่าง ที่เราขอให้เธอทำในวง 1197 01:23:36,308 --> 01:23:39,144 แต่… ผมว่าลึกๆ ในใจเธอ 1198 01:23:39,228 --> 01:23:41,605 มีอย่างอื่นที่เธอสนใจมากกว่า 1199 01:23:44,483 --> 01:23:47,736 เธอจะนั่งเขียนเนื้อเพลง เขียนบทกวีอยู่เป็นประจำ 1200 01:23:49,112 --> 01:23:54,201 มีอะไรบางอย่างที่ดึงความสนใจ ของเธอไปจากงานที่ทำร่วมกัน 1201 01:23:57,829 --> 01:23:59,289 เธอเป็นคนเตร็ดเตร่ 1202 01:23:59,373 --> 01:24:04,670 เธอเตร็ดเตร่เข้ามาในสถานการณ์ แล้วเธอก็เตร็ดเตร่ออกไปอย่างเงียบๆ 1203 01:24:07,256 --> 01:24:10,801 ปากกาเมจิกเรียงเป็นแถว 1204 01:24:10,884 --> 01:24:13,887 ไม่รู้ว่า 1205 01:24:15,514 --> 01:24:19,059 จะเมากันถึงขั้นไหน 1206 01:24:20,686 --> 01:24:22,771 มานั่นกันแล้ว 1207 01:24:22,855 --> 01:24:25,732 หลังจากนั้น… หลังจากทุกอย่าง 1208 01:24:25,816 --> 01:24:28,819 อยู่ดีๆ ลูก็สติแตก 1209 01:24:31,196 --> 01:24:34,241 และไล่แอนดีออก 1210 01:24:35,075 --> 01:24:36,535 ส่วนแอนดีก็เรียกลูว่าเป็นคนเลว 1211 01:24:51,967 --> 01:24:54,887 ทุกอย่างเกิดขึ้นหลังบ้าน 1212 01:24:54,970 --> 01:24:56,930 ผมไม่รู้เลยว่าลูไล่แอนดีออกทำไม 1213 01:24:58,765 --> 01:25:01,560 คนคิดว่าแอนดี วอร์ฮอล เป็นมือกีตาร์หลัก 1214 01:25:01,643 --> 01:25:07,441 ชีวิตเลยลำบากขึ้นเล็กน้อยเมื่อเรา ออกจากอ้อมอกผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเรา 1215 01:25:28,170 --> 01:25:29,546 (แอนดี วอร์ฮอล ต่อสู้เพื่อมีชีวิตรอด) 1216 01:25:41,892 --> 01:25:43,310 เพลงนี้ชื่อ "Sister Ray" 1217 01:25:45,938 --> 01:25:47,523 เป็นเพลงเกี่ยวกับเกย์สาวสองคน 1218 01:25:49,399 --> 01:25:51,527 คนหนึ่งชื่อดัก ส่วนอีกคนชื่อแซลลี 1219 01:26:01,161 --> 01:26:04,206 ดักกับแซลลีอยู่ข้างใน 1220 01:26:05,457 --> 01:26:08,126 กำลังตามหายาให้เสพ 1221 01:26:09,294 --> 01:26:12,130 พลางจ้องไปที่คุณนายเรยอน 1222 01:26:13,674 --> 01:26:16,051 ที่กำลังทำการเบิร์นอยู่ 1223 01:26:17,886 --> 01:26:20,430 ฉันคลำหาเส้นเลือด 1224 01:26:22,224 --> 01:26:24,601 ฉันฉีดจากด้านข้างไม่ได้ 1225 01:26:24,685 --> 01:26:28,397 ศาสตราจารย์ฮาร์วาร์ด นางแบบแฟชันจากนิวยอร์ก 1226 01:26:29,064 --> 01:26:31,233 กลุ่มเด็กแสบมหาประลัย 1227 01:26:31,316 --> 01:26:32,818 แก๊งมอเตอร์ไซค์ 1228 01:26:34,903 --> 01:26:36,822 เนิร์ดอย่างตัวผม 1229 01:26:39,533 --> 01:26:42,578 แฟนเพลงวงเกรตฟูลเดด หลายคน เป็นแฟนเพลงของทั้งสองวง 1230 01:26:50,669 --> 01:26:53,589 เราเริ่มตระหนัก ว่ามีคนเริ่มติดตามเรา 1231 01:26:53,672 --> 01:26:56,842 ซึ่งแน่นอนเป็นเรื่องที่ดี 1232 01:26:56,925 --> 01:27:00,470 โดยเฉพาะในบอสตัน เพราะเราเล่นที่นั่นบ่อยมาก 1233 01:27:01,722 --> 01:27:04,516 ผมเจอพวกเขาประมาณ 60 หรือ 70 ครั้ง 1234 01:27:05,601 --> 01:27:09,313 ผมรู้สึกถึงอิสรภาพทางอารมณ์ เพราะดนตรีที่ผมได้ยินนี้ 1235 01:27:09,396 --> 01:27:11,607 ผมรู้ว่าไม่เหมือนอะไรที่เคยฟังมา 1236 01:27:11,690 --> 01:27:14,318 พวกเขาจะอินกับเสียงแบบหนึ่งสักพัก แล้วก็ไม่สนใจอีกเลย 1237 01:27:14,401 --> 01:27:15,819 ความตื่นเต้นอยู่ตรงนี้ 1238 01:27:15,903 --> 01:27:17,905 โอ้ ทำอย่างนั้น 1239 01:27:18,530 --> 01:27:20,532 ใช่ อย่างที่ซิสเตอร์เรย์บอก 1240 01:27:21,366 --> 01:27:24,912 ไม่ใช่แค่ใหม่ แต่แตกต่างอย่างสุดโต่ง 1241 01:27:25,704 --> 01:27:30,751 เป็นจังหวะช้า จังหวะปานกลางหรือช้า ที่ไม่ใช่ร็อกแอนด์โรล 1242 01:27:30,834 --> 01:27:33,754 เป็นทำนองที่แปลกประหลาด 1243 01:27:35,797 --> 01:27:37,299 เวลาดูพวกเขาเล่น 1244 01:27:38,258 --> 01:27:40,469 จะมีโอเวอร์โทนที่หาเหตุผลไม่ได้ 1245 01:27:40,552 --> 01:27:41,970 จะเห็นได้จาก… 1246 01:27:42,054 --> 01:27:43,347 (โจนาธาน ริชแมน) 1247 01:27:43,931 --> 01:27:46,141 จากนั้นจะได้ยินเสียงนำ เสียงแตกๆ ที่นำมา 1248 01:27:47,267 --> 01:27:49,019 สักอย่าง… แล้วจะได้ยินเสียงเบส 1249 01:27:51,772 --> 01:27:54,233 แต่จะมีเสียงอื่นๆ ในห้องด้วย 1250 01:27:54,316 --> 01:27:56,527 พอมองไปดูทุกคน ก็จะสงสัยว่า… 1251 01:27:56,610 --> 01:27:58,570 มาจากไหน 1252 01:27:58,654 --> 01:28:01,031 เป็นเสียงที่เกิดขึ้นพร้อมกัน 1253 01:28:13,418 --> 01:28:16,922 โดยทั่วไปจะเหมือน เวอร์ชันของเพลง "Sister Ray" 1254 01:28:17,005 --> 01:28:19,216 และห้าวินาทีหลังจากนั้น 1255 01:28:20,509 --> 01:28:24,221 ห้าวินาทีหลังนั้นเป็นตัวอย่างที่ดี ของสิ่งที่จะได้ยินเวลาไปดูพวกเขา 1256 01:28:24,304 --> 01:28:26,098 อยู่ดีๆ พวกเขาก็จะ… 1257 01:28:28,308 --> 01:28:30,519 ตามด้วยท่อนต่างๆ ของคีย์บอร์ด ดา น่า นา นา น่า นา น่า นา น้า 1258 01:28:33,689 --> 01:28:36,441 จากนั้นก็จะมีอะไรอีกมากมาย มีกลอง 1259 01:28:36,525 --> 01:28:37,609 แล้วอยู่ดีๆ 1260 01:28:39,152 --> 01:28:41,655 ก็จะหยุด ส่วนคนดู 1261 01:28:41,738 --> 01:28:45,409 ก็จะเงียบกริบไปหนึ่ง… 1262 01:28:49,538 --> 01:28:53,125 ห้า แล้วค่อยปรบมือกัน 1263 01:28:54,376 --> 01:28:58,297 The Velvet Underground ได้สะกดจิตพวกเขาอีกครั้ง 1264 01:29:01,175 --> 01:29:03,802 ผมอยู่ที่ Boston Tea Party 1265 01:29:03,886 --> 01:29:05,637 วง The Velvet Underground มาพร้อมเครื่องเสียง 1266 01:29:05,721 --> 01:29:08,891 พวกเขาเริ่มจัดเครื่องเสียงแล้ว ผมดูพวกเขาตั้งเสียง 1267 01:29:09,474 --> 01:29:10,809 ผมจะถามคำถาม 1268 01:29:10,893 --> 01:29:14,438 อย่าง "ทำไมถึงใช้โทนแตก ในท่อนนั้น เพราะอะไร" 1269 01:29:14,521 --> 01:29:15,814 และ "แล้วเสียงนั้นล่ะ" 1270 01:29:15,898 --> 01:29:19,568 เขาจะตอบว่า "พ่อหนุ่ม เสียงนั้นเป็นอะไรหลายอย่าง" 1271 01:29:21,236 --> 01:29:25,240 สเตอร์ลิง มอร์ริสัน เป็นคนสอนผมเล่นกีตาร์ 1272 01:29:25,324 --> 01:29:28,869 อิสรภาพนั้นทำให้ผมรู้สึก ได้ถอยห่างจากการเรียนมัธยมปลาย 1273 01:29:28,952 --> 01:29:32,122 ถอยห่างจากแบบแผนใดๆ ที่ดนตรีแนวอื่นมี 1274 01:29:32,206 --> 01:29:34,750 และช่วยให้ผมได้เรียนรู้ วิธีทำเพลงในแบบของผมเอง 1275 01:29:35,375 --> 01:29:38,462 พวกเขาเป็นแบบนั้น พวกเขาใจกว้าง 1276 01:29:38,545 --> 01:29:42,925 พวกเขาใจกว้างกับผมมาก พวกเขาให้ผมเล่นเปิดโชว์ของพวกเขา 1277 01:29:43,008 --> 01:29:46,470 บางทีเวลาที่มีความตึงเครียด ระหว่างคนในวง 1278 01:29:47,221 --> 01:29:49,181 ผมอยู่แถวนั้นได้ 1279 01:29:49,264 --> 01:29:51,183 พวกเขารู้ว่าผมไม่ปากโป้ง 1280 01:29:52,017 --> 01:29:55,103 แต่แน่นอนว่าช่วงนั้น รู้สึกได้ถึงความตึงเครียดบางอย่าง 1281 01:29:55,187 --> 01:29:58,607 แต่ผมช็อกมาก เพราะถือว่ารุนแรงมาก 1282 01:29:58,690 --> 01:30:02,027 ที่จอห์น เคลออกจากวง 1283 01:30:08,367 --> 01:30:11,203 ผู้ชายสามคนนั้น กระทบกระทั่งกันบ่อยครั้ง 1284 01:30:11,286 --> 01:30:16,333 ดิฉันแทบจะไปซ้อมไม่ได้ บรรยากาศเครียดมาก 1285 01:30:16,416 --> 01:30:19,628 พวกเขาอาจจะทะเลาะกันเรื่องของดนตรี 1286 01:30:19,711 --> 01:30:22,798 หรือลูเกิดอารมณ์ฉุนเฉียว 1287 01:30:22,881 --> 01:30:26,885 หรือเจ้ากี้เจ้าการมากเกินไป คอยสั่งให้คนอื่นทำนู่นทำนี่ 1288 01:30:28,053 --> 01:30:29,304 จะเป็นอย่างนี้เสมอ 1289 01:30:29,388 --> 01:30:30,389 (มาร์ธา มอร์ริสัน) 1290 01:30:30,472 --> 01:30:32,724 ลูสู้สุดฤทธิ์ที่จะอยู่เหนือทุกคน 1291 01:30:39,898 --> 01:30:41,900 ผมไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เขาถึงจะพอใจ 1292 01:30:42,651 --> 01:30:46,321 ไม่มีอะไรที่ผมทำได้ที่… 1293 01:30:46,947 --> 01:30:50,534 พอพยายามพูดดีๆ เขาจะเกลียดเรามากขึ้น เขา… 1294 01:30:53,203 --> 01:30:56,748 แล้วพอพยายามเสนออะไร เขาก็จะไม่สนใจ 1295 01:30:57,833 --> 01:30:59,459 เขามีความทุกข์กังวลมาก 1296 01:31:00,919 --> 01:31:04,173 แต่ต้องบอกว่าจอห์น เคล ก็อารมณ์ร้ายไม่เบา 1297 01:31:04,256 --> 01:31:07,634 เขาทำให้คนไม่อยากอยู่ใกล้เขา 1298 01:31:08,635 --> 01:31:10,137 ถ้าเขาอารมณ์ไม่ดี 1299 01:31:10,220 --> 01:31:11,346 และเขามีมุมมืด 1300 01:31:14,057 --> 01:31:17,561 สิ่งที่เราเข้าใจว่าเป็นจุด ที่เราอยู่ เป็นจุดที่ทุกอย่างอยู่ 1301 01:31:17,644 --> 01:31:20,147 และความไม่พอใจที่เรา มีต่อทุกสิ่งนอกเหนือจากนี้ 1302 01:31:20,856 --> 01:31:24,067 น่าเศร้าเพราะในท้ายที่สุดแล้ว 1303 01:31:24,151 --> 01:31:27,154 เรากลายเป็นสิ่งเหล่านั้น 1304 01:31:27,905 --> 01:31:31,158 ผมว่ามีจุดหนึ่ง ที่เรารู้สึกว่า "ให้ตายเหอะ 1305 01:31:31,241 --> 01:31:34,995 การทำตัวแบบนี้ ไม่ได้ช่วยให้เราแก้ปัญหาอะไร 1306 01:31:35,078 --> 01:31:39,041 และไม่มีใคร ที่จะช่วยให้เราแก้ปัญหาได้" 1307 01:31:39,124 --> 01:31:42,836 แล้วเราไม่ยอมให้ใครมาบอก ว่าเราต้องทำอะไร 1308 01:31:44,379 --> 01:31:48,926 ถ้าไม่มียาเสพติดเหล่านั้น เราคงมุ่งไขว่คว้าหาอะไรสักอย่าง 1309 01:31:49,801 --> 01:31:52,679 นั่นเป็นช่วงเวลา ที่ต้องถอยออกมาสักครู่ 1310 01:31:54,056 --> 01:31:55,557 เพราะความเชื่อใจไม่เหลือแล้ว 1311 01:31:57,100 --> 01:31:58,310 บางทีลูอาจอิจฉา 1312 01:31:58,393 --> 01:31:59,561 (เสียงของสเตอร์ลิง มอร์ริสัน) 1313 01:31:59,645 --> 01:32:01,188 ผมว่าน่าจะเป็นอะไรประมาณนั้น 1314 01:32:03,065 --> 01:32:07,986 ลูยื่นคำขาด ไม่เขาก็จอห์นจะต้องออก 1315 01:32:08,070 --> 01:32:11,698 เขาโทรหาสเตอร์ลิงกับผม เราไปเจอเขาที่ร้านกาแฟสักแห่ง 1316 01:32:11,782 --> 01:32:13,283 เขาบอกเราที่นั่น 1317 01:32:13,367 --> 01:32:15,285 เขาไม่สามารถทำงานกับจอห์นได้แล้ว 1318 01:32:15,369 --> 01:32:18,664 เราเลยต้องเลือก ว่าจะอยู่กับเขาหรืออยู่กับจอห์น 1319 01:32:20,249 --> 01:32:24,795 สเตอร์ลิงมาหาผม เขาบอกว่า "ไปเจอลูมา" 1320 01:32:24,878 --> 01:32:26,922 ผมก็บอกว่า "อืม เราต้องเริ่มซ้อมกันแล้ว 1321 01:32:27,005 --> 01:32:28,632 เราจะไปคลีฟแลนด์สุดสัปดาห์นี้" 1322 01:32:28,715 --> 01:32:32,094 เขาบอกว่า "ไม่แล้ว" เขาบอกว่า "คือเราไป แต่คุณไม่ไป" 1323 01:32:32,970 --> 01:32:34,221 ผมก็ถามว่า "พูดเรื่องอะไรกัน" 1324 01:32:34,304 --> 01:32:38,058 เขาตอบว่า "ลูให้ผมมาบอกว่า… 1325 01:32:38,141 --> 01:32:41,228 เขาบอกพวกเราที่เหลือว่าถ้าจอห์นไป เขาไม่ไป" 1326 01:32:41,979 --> 01:32:43,021 เท่านั้นเลย 1327 01:32:43,647 --> 01:32:45,649 แล้วช่วงเวลานั้นก็มาถึงอีกครั้ง 1328 01:32:45,732 --> 01:32:49,528 แวบของความสงสัย ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป 1329 01:32:52,322 --> 01:32:55,450 ผมก็คิดว่า "คงต้องหันไปทำงาน ด้านการผลิตแล้ว" 1330 01:33:00,247 --> 01:33:03,834 ผมทุกข์ใจมาก เพราะมาถึงตอนนี้ 1331 01:33:03,917 --> 01:33:06,670 วงนี้ได้ช่วยให้ผมได้เรียนรู้ชีวิต 1332 01:33:06,753 --> 01:33:10,883 เสียงที่พวกเขาเล่นออกมา ช่วยให้ผมสร้างดินแดนความฝัน 1333 01:33:10,966 --> 01:33:13,177 สีของโทนเสียงของพวกเขา… 1334 01:33:14,386 --> 01:33:17,556 ผมรู้สึกเหมือนผม ได้อยู่กับไมเคิลแองเจโล 1335 01:33:22,102 --> 01:33:26,982 ลูอยากเห็นความสำเร็จ ในระดับหนึ่งมากๆ 1336 01:33:27,065 --> 01:33:28,650 ความสำเร็จจริงๆ 1337 01:33:29,401 --> 01:33:35,073 บางทีเขาอยากลดความล้ำยุคลง หรืออะไรก็ตาม 1338 01:33:37,492 --> 01:33:38,994 คือทำให้ปกติมากขึ้น 1339 01:33:41,038 --> 01:33:42,623 เอาละ เริ่มเมื่อนับหนึ่ง 1340 01:33:52,341 --> 01:33:58,430 (ดัก) 1341 01:34:06,188 --> 01:34:08,357 เธออยู่ตรงมุมนั้น 1342 01:34:08,440 --> 01:34:11,109 เท่าที่ผมจำได้ ดัก ยูลมาถึง 1343 01:34:11,193 --> 01:34:13,487 ก็เรียนรู้เพลงต่างๆ ได้เร็วอย่างน่าชื่นชม 1344 01:34:14,112 --> 01:34:18,909 และตัวเขาเองเป็นนักดนตรี ที่เข้มงวดและจริงจังมาก 1345 01:34:19,535 --> 01:34:23,121 เขามีสไตล์ฮาร์มอนิกเป็นของตัวเอง ซึ่งทำให้เกิดสิ่งใหม่ในวง 1346 01:34:25,332 --> 01:34:27,125 ดิฉันว่าแตกต่างชัดเจน 1347 01:34:27,876 --> 01:34:29,545 ดิฉันคิดว่าเรายังเป็นวงที่ดีอยู่ 1348 01:34:29,628 --> 01:34:33,507 และดักมีของดีที่เข้ามาเสริมวง 1349 01:34:33,590 --> 01:34:35,884 แต่ไม่มีใครแทนที่เคลได้ 1350 01:34:35,968 --> 01:34:38,554 รู้อะไรไหม เธอส่งคืนมาทันที 1351 01:34:38,637 --> 01:34:40,097 เอาละ 1352 01:34:42,891 --> 01:34:44,685 สวัสดียามเย็นครับ 1353 01:34:44,768 --> 01:34:46,979 เราคือ The Velvet Underground ที่คุณคุ้นเคย 1354 01:34:47,062 --> 01:34:49,690 ดีใจที่ได้เจอทุกคน 1355 01:34:52,442 --> 01:34:53,777 ขอบคุณครับ 1356 01:34:53,861 --> 01:34:57,698 เราดีใจที่คนสามารถหาเวลาเล็กน้อย 1357 01:34:57,781 --> 01:35:00,450 เพื่อออกมาสนุกกับเพลงร็อกแอนด์โรล 1358 01:35:04,079 --> 01:35:05,497 พวกเขาเล่นเพลงที่เบามาก 1359 01:35:05,581 --> 01:35:07,416 มาถึงตอนนี้ พวกเขาเริ่มเล่นเบาลงมาก 1360 01:35:14,590 --> 01:35:17,342 บางครั้งฉันมีความสุขจัง 1361 01:35:20,345 --> 01:35:22,931 บางครั้งฉันรู้สึกเศร้าจัง 1362 01:35:26,059 --> 01:35:28,645 บางครั้งฉันมีความสุขจัง 1363 01:35:30,105 --> 01:35:33,984 แต่ส่วนใหญ่แล้วเธอทำให้ฉันโกรธ 1364 01:35:36,361 --> 01:35:39,781 ที่รัก เธอได้แต่ทำให้ฉันโกรธ 1365 01:35:43,827 --> 01:35:48,832 มองไม่วาง 1366 01:35:48,916 --> 01:35:52,002 ตาสีฟ้าจางของเธอ 1367 01:35:55,464 --> 01:36:00,469 มองไม่วาง 1368 01:36:00,552 --> 01:36:03,805 ตาสีฟ้าจางของเธอ 1369 01:36:03,889 --> 01:36:07,184 มีทฤษฎีหนุนอยู่ นั่นคือความเวิ้งว้าง 1370 01:36:07,267 --> 01:36:08,977 ทุกเพลงมีความเวิ้งว้างมาก 1371 01:36:09,061 --> 01:36:10,312 (เสียงของลู รีด) 1372 01:36:10,395 --> 01:36:12,356 เราไม่ได้ใส่อะไรลงไป แต่เราดึงสิ่งต่างๆ ออก 1373 01:36:12,439 --> 01:36:15,108 ซึ่งตรงข้ามกับวิธีการทำงาน ของคนอื่นๆ 1374 01:36:15,192 --> 01:36:19,363 เช่น เราไม่เคยเพิ่มเครื่องดนตรี เราไม่ชวนคนเข้ามาร่วมซ้อม 1375 01:36:19,446 --> 01:36:24,284 เราไม่… เราไม่ทำอะไร ที่เราไม่สามารถทำบนเวทีได้ 1376 01:36:35,504 --> 01:36:40,801 อัลบั้มที่สาม อัลบั้มสีเทา เราเล่นอยู่ที่แอลเอ… 1377 01:36:40,884 --> 01:36:42,427 (เสียงของดัก ยูล) 1378 01:36:42,511 --> 01:36:44,429 แล้วสตีฟมาบอกว่า "เรา… มีการเปลี่ยนแผน 1379 01:36:44,513 --> 01:36:47,057 เราจะอยู่ต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ เพื่อทำอัลบั้ม" 1380 01:36:48,100 --> 01:36:51,395 แคนดีบอกว่า 1381 01:36:53,605 --> 01:36:57,693 ฉันเรียนรู้ที่จะเกลียดร่างกายตัวเอง 1382 01:36:59,570 --> 01:37:03,448 และทุกสิ่งที่มันต้องการ… 1383 01:37:03,532 --> 01:37:05,826 เพลง "Candy Says" มีความตึงในแบบของตัวเอง 1384 01:37:05,909 --> 01:37:09,079 เพลงนี้กล่าวถึงคนที่พูดว่า "ฉัน เรียนรู้ที่จะเกลียดร่างกายตัวเอง 1385 01:37:09,162 --> 01:37:11,039 และทุกสิ่งที่ร่างกาย ต้องการจากโลกใบนี้" 1386 01:37:11,123 --> 01:37:13,542 ซึ่งประกอบด้วยดนตรีแนวน่ารัก 1387 01:37:13,625 --> 01:37:15,878 คุณจะเริ่มสงสัย "เรื่องอะไรกันนี่" 1388 01:37:15,961 --> 01:37:19,006 อัลบั้มที่สามทั้งอัลบั้ม เกี่ยวกับเรื่องนี้ 1389 01:37:19,715 --> 01:37:22,384 ข้ามไหล่ของฉัน 1390 01:37:22,467 --> 01:37:24,803 เธอคิดว่าฉันเห็นอะไร 1391 01:37:24,887 --> 01:37:28,432 ผมไม่รู้ตัวว่าจะต้องร้อง เพลงนั้นจนเรามาเริ่มทำเสียงร้อง 1392 01:37:28,515 --> 01:37:31,143 เขาร้องหนึ่งเพลง แล้วกลับเข้ามา ถามว่า "ไม่ร้องสักเพลงล่ะ" 1393 01:37:31,226 --> 01:37:35,063 เป็นเรื่องดีที่ไม่ต้องร้องตลอดเวลา สนุกกับการเอนกาย 1394 01:37:35,147 --> 01:37:37,524 เล่นกีตาร์และไม่ต้องเป็นนักร้องนำ" 1395 01:37:38,108 --> 01:37:41,236 นี่เป็นเพลงที่ตอนแรกผมคิดไว้ว่า 1396 01:37:41,320 --> 01:37:45,240 ผมจะร้องท่ามกลางแสงไฟ ในชุดกระโปรงสีทองมันวาว 1397 01:37:45,324 --> 01:37:47,743 แต่ผมก็คิด "อืม… ผมว่าไม่น่า… 1398 01:37:47,826 --> 01:37:49,244 ไม่รู้ว่าพวกเขาพร้อมจะยอมรับไหม" 1399 01:37:49,870 --> 01:37:51,872 เราเลยให้มอรีนออกโรงแทน 1400 01:37:51,955 --> 01:37:54,625 เราคิดว่าทุกคนจะเชื่อเธอ มากกว่าเชื่อผม 1401 01:37:54,708 --> 01:37:56,668 เพลงนี้จะเป็นเพลงสุดท้าย ของเราสำหรับชุดนี้ 1402 01:37:56,752 --> 01:37:58,462 เพลงนี้ชื่อ "After Hours" 1403 01:37:58,545 --> 01:38:01,757 ถ้าเธอปิดประตู 1404 01:38:03,008 --> 01:38:06,637 คืนนี้อาจยาวเป็นนิรันดร์ 1405 01:38:06,720 --> 01:38:10,098 ไม่ให้แสงอาทิตย์ส่องมา 1406 01:38:11,183 --> 01:38:13,727 ต้อนรับคำว่าไม่มีวัน 1407 01:38:13,810 --> 01:38:15,812 ดิฉันกลัวมาก 1408 01:38:15,896 --> 01:38:21,610 ดิฉันไม่เคยร้องอะไรเลย เกิดความรู้สึก "ฉันทำไม่ได้ และ…" 1409 01:38:21,693 --> 01:38:24,363 เราถึงขั้นต้องไล่สเตอร์ลิง ออกจากห้อง 1410 01:38:24,446 --> 01:38:26,490 เพราะเขาหัวเราะฉันไม่หยุด 1411 01:38:28,283 --> 01:38:30,577 ฉันไม่ต้องเห็นแสงตะวันอีกต่อไป 1412 01:38:30,661 --> 01:38:35,290 ดิฉันบอกลูว่า "ฉันไม่อยากร้องสด นอกจากจะมีคนขอ" 1413 01:38:35,374 --> 01:38:38,126 เพราะหวังในใจว่าจะไม่มีใครขอ 1414 01:38:38,919 --> 01:38:42,381 สองโชว์ต่อมา เราอยู่ที่เท็กซัส 1415 01:38:42,464 --> 01:38:44,758 แล้วมีคนขอ ดิฉันเลยต้องร้องไป 1416 01:38:44,842 --> 01:38:47,010 และชนแก้วให้คำว่าไม่มีวัน 1417 01:38:47,094 --> 01:38:50,639 พอพวกเขาไปแสดงที่ Boston Tea Party แล้วมอรีนออกมาร้อง 1418 01:38:50,722 --> 01:38:54,017 กลุ่มคนที่ไม่ได้เป็นแฟนเพลง ของวงในคืนนั้น 1419 01:38:54,101 --> 01:38:56,854 กลุ่มเด็กแสบ ที่เพิ่งถามว่า "พวกนี้ใคร" 1420 01:38:56,937 --> 01:39:00,023 ไม่มีการโซโล่กีตาร์สไตล์จิมมี เพจ ดนตรีบ้าบออะไร" 1421 01:39:00,107 --> 01:39:03,569 อยู่ดีๆ มอรีน ทักเกอร์ก็ออกมา 1422 01:39:03,652 --> 01:39:08,198 ออกมาร้องว่า "ถ้าเธอปิดประตู" 1423 01:39:08,282 --> 01:39:11,493 แล้วทุกคน… ทุกสายตาจะอยู่ที่เธอ 1424 01:39:12,494 --> 01:39:13,537 ขอบคุณค่ะ 1425 01:39:28,093 --> 01:39:30,762 เจนนีบอกว่าตอนเธออายุเพียงห้าขวบ 1426 01:39:30,846 --> 01:39:33,682 ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย 1427 01:39:37,227 --> 01:39:39,897 ทุกครั้งที่เธอเปิดวิทยุ 1428 01:39:39,980 --> 01:39:43,275 ไม่มีอะไรน่าฟังเลย 1429 01:39:43,358 --> 01:39:44,776 ไม่มีเลย 1430 01:39:46,361 --> 01:39:49,114 แล้วเช้าวันหนึ่ง เธอเปิดสถานีของนิวยอร์ก 1431 01:39:49,198 --> 01:39:51,867 เธอแทบไม่เชื่อสิ่งที่หูได้ยิน 1432 01:39:55,204 --> 01:39:57,789 เธอเริ่มดีดดิ้นไปกับดนตรีไพเราะนั้น 1433 01:39:57,873 --> 01:40:01,460 ร็อกแอนด์โรลช่วยชีวิตเธอ 1434 01:40:03,337 --> 01:40:06,507 แม้จะมีการตัดคำออกสักเท่าไร 1435 01:40:06,590 --> 01:40:10,385 เรารู้ว่าเรายังออกไปเต้น กับสถานีร็อกแอนด์โรลได้ 1436 01:40:10,469 --> 01:40:13,555 - แล้วทุกอย่างจะดี - ทุกอย่างจะดี 1437 01:40:13,639 --> 01:40:17,935 - เฮ้ ที่รัก เธอรู้ทุกอย่างจะดี - ทุกอย่างจะดี 1438 01:40:32,783 --> 01:40:35,994 อย่างที่เจนนีบอก ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ 1439 01:40:36,078 --> 01:40:39,498 เฮ้ รู้ไหม ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย 1440 01:40:39,581 --> 01:40:43,627 ถ้าผมย้อนเวลาได้ ผมจะขอไม่ทำอัลบั้ม Loaded 1441 01:40:43,710 --> 01:40:45,546 จนกว่ามอรีนจะร่วมเล่นได้ 1442 01:40:46,797 --> 01:40:51,260 อัลบั้ม Loaded อัดเสียงในเดือนเมษายน ปี 1970 1443 01:40:51,343 --> 01:40:54,304 ดิฉันตั้งครรภ์และพุงใหญ่เกิน ที่จะตีกลองได้ 1444 01:40:54,388 --> 01:40:55,722 ดิฉันเลยเล่นไม่ได้ 1445 01:40:56,849 --> 01:40:59,268 ดิฉันผิดหวังอยู่ เพราะมีหลายเพลงในอัลบั้มนั้น 1446 01:40:59,351 --> 01:41:02,020 ที่ดิฉันรู้สึกว่าต้องมีดิฉัน 1447 01:41:02,104 --> 01:41:03,522 แตกต่างกันมากอยู่ 1448 01:41:07,234 --> 01:41:09,820 มอรีนไม่ได้เล่น ส่วนสเตอร์ลิง… 1449 01:41:09,903 --> 01:41:13,323 เขาไม่มาสักพัก ผมเล่นกีตาร์เยอะมากใน Loaded 1450 01:41:13,407 --> 01:41:15,117 เขาน่าจะหงุดหงิดใจมาก 1451 01:41:15,200 --> 01:41:17,411 ที่ต้องนั่งในห้องควบคุมเสียง หลายชั่วโมง 1452 01:41:17,494 --> 01:41:21,081 ขณะที่มีการถกส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่ง 1453 01:41:21,790 --> 01:41:25,794 ผมรู้ว่าพวกเขากำลังทำอัลบั้ม ผมรู้ว่า… ผมไม่เคยเจอดัก 1454 01:41:26,503 --> 01:41:28,046 ผมไม่… 1455 01:41:28,130 --> 01:41:31,842 แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องของผมแล้ว 1456 01:41:32,342 --> 01:41:34,094 ลูแสดงให้เห็นชัดเจนมาก ว่าไม่ใช่เรื่องของผม 1457 01:41:35,971 --> 01:41:39,016 พวกเขาไม่เหมือนใครตั้งแต่แรกเริ่ม 1458 01:41:39,099 --> 01:41:40,809 (โจเซฟ ฟรีแมน) 1459 01:41:40,893 --> 01:41:43,312 สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วม ในแบบของตัวเองอย่างเท่าเทียมกัน 1460 01:41:43,395 --> 01:41:45,564 แต่ตอนนี้พวกเขา เหมือนวงร็อกแอนด์โรลทั่วไป 1461 01:41:45,647 --> 01:41:49,651 และมีคนที่มีหัวสร้างสรรค์สูงมาก เป็นคนคิดทุกอย่าง 1462 01:41:49,735 --> 01:41:52,321 ลูมีเพลงป็อปมากมาย 1463 01:41:53,447 --> 01:41:57,159 และลูเริ่มพยายามหาเสียงเฉพาะตัว 1464 01:41:59,661 --> 01:42:01,205 (เสียงของโทนี คอนราด) 1465 01:42:01,288 --> 01:42:03,290 ป็อปละลายวัฒนธรรมชั้นสูง นั่นคือสิ่งที่ลูนำเสนอ 1466 01:42:03,373 --> 01:42:05,709 หลั่งไหลออกมาจากลองไอส์แลนด์ 1467 01:42:05,792 --> 01:42:09,838 ละลายโครงสร้างผลึก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการอยู่แล้ว 1468 01:42:13,175 --> 01:42:15,636 ยืนอยู่ตรงมุมถนน 1469 01:42:17,846 --> 01:42:20,474 กระเป๋าเดินทางในมือ 1470 01:42:21,266 --> 01:42:24,686 แจ็กใส่เสื้อรัดทรง เจนสวมเสื้อกั๊ก 1471 01:42:26,271 --> 01:42:28,607 และฉัน ฉันอยู่ในวงร็อกแอนด์โรล 1472 01:42:32,069 --> 01:42:34,446 นั่งรถ Stutz Bear Cat จิม 1473 01:42:35,572 --> 01:42:38,867 ยุคสมัยนั้นต่างกัน 1474 01:42:40,661 --> 01:42:43,497 โอ้ กวีทั้งหลาย พวกเขาศึกษากฎของบทกลอน 1475 01:42:43,580 --> 01:42:46,959 ส่วนสตรีทั้งหลายกรอกตามองบน 1476 01:42:50,170 --> 01:42:54,174 เจนที่รัก 1477 01:42:54,967 --> 01:42:59,179 เจนที่รัก 1478 01:42:59,263 --> 01:43:02,641 เจนที่รัก 1479 01:43:02,724 --> 01:43:05,853 ผมรู้สึกว่ายอดเยี่ยมมากที่เรา เล่นเพลงพวกนี้ต่อหน้าสาธารณะได้ 1480 01:43:05,936 --> 01:43:08,814 ผมตื่นเต้นมาก ที่รู้ว่าพวกเขาตื่นเต้น 1481 01:43:08,897 --> 01:43:11,191 และเจน เธอเป็นเสมียน 1482 01:43:11,275 --> 01:43:13,861 เราไม่มีอะไรต้องพิสูจน์ ไม่มีเรื่องที่ต้องถกเถียง 1483 01:43:13,944 --> 01:43:17,114 ไม่มีอะไรที่ต้องบอกใคร 1484 01:43:17,197 --> 01:43:20,033 และเมื่อ เมื่อพวกเขากลับบ้านหลังเลิกงาน 1485 01:43:22,578 --> 01:43:24,371 เขารู้ว่าเขามีพรสวรรค์ 1486 01:43:24,454 --> 01:43:29,084 เขารู้ว่าเขาเป็นมือกีตาร์ที่เก่ง และนักแต่งเพลงที่เก่ง 1487 01:43:30,043 --> 01:43:34,506 และเราไปไม่ได้ไกลเท่าที่เขาหวัง 1488 01:43:35,757 --> 01:43:38,677 แบบให้ตายสิ… เมื่อไรจะเกิดขึ้นเสียที 1489 01:43:39,887 --> 01:43:43,182 แต่ใครที่เคยมีหัวใจ 1490 01:43:43,807 --> 01:43:48,187 โอ้ พวกเขาคงไม่วกกลับมาทำร้าย 1491 01:43:49,062 --> 01:43:52,399 และใครที่เคยร่วมมีบทบาท 1492 01:43:52,482 --> 01:43:56,778 โอ้ พวกเขาคง ไม่วกกลับมาเกลียดชัง 1493 01:43:58,488 --> 01:44:02,409 เจนที่รัก 1494 01:44:03,035 --> 01:44:06,163 เจนที่รัก 1495 01:44:06,246 --> 01:44:09,708 (Max's เมืองแคนซัส) 1496 01:44:12,794 --> 01:44:14,922 แล้วมีโชว์นั้นที่ร้าน Max's 1497 01:44:17,508 --> 01:44:18,926 เขาหยุดชะงักไปเลย 1498 01:44:21,678 --> 01:44:24,223 มาแล้วทะเล 1499 01:44:24,306 --> 01:44:26,808 (แอนดี) 1500 01:44:26,892 --> 01:44:30,229 และคลื่นที่ชายทะเล 1501 01:44:30,312 --> 01:44:32,523 ไม่น่าเชื่อว่านี่คือหลังผ่านไปห้าปี 1502 01:44:32,606 --> 01:44:39,112 ของการเล่นที่ชั้นบนของร้าน Max's กับวงที่หดตัวลงอย่างมาก 1503 01:44:39,196 --> 01:44:43,325 แล้วคลื่นเล่า ไปอยู่ไหนมา 1504 01:44:47,955 --> 01:44:51,208 เขาโอดครวญ แทบจะเล่นไม่ได้ 1505 01:44:51,291 --> 01:44:53,210 ไม่ได้มีความรู้สึกสนุกเลย 1506 01:44:53,293 --> 01:44:57,840 นั่นอาจทำให้ฉันคลั่ง 1507 01:44:57,923 --> 01:44:59,842 ผมตัดสินใจที่จะกลับไปเรียน 1508 01:44:59,925 --> 01:45:03,929 เพื่อหนีเรื่องราวเหล่านี้ 1509 01:45:05,681 --> 01:45:07,391 ดิฉันว่าเขาไม่อยากบอกเรา 1510 01:45:07,474 --> 01:45:11,562 เขาไม่ได้หนีหายไป แต่เขาเลือกบอกเรา ขณะที่เราเดินอยู่ในสนามบิน 1511 01:45:11,645 --> 01:45:13,856 เขาพูดออกมาว่า "ผมไม่ไป" 1512 01:45:16,525 --> 01:45:19,111 เขาบอกดิฉันด้วย ว่าเหตุผลที่ทำอย่างนั้น 1513 01:45:19,194 --> 01:45:21,154 เป็นเพราะเขากลัว ว่าทุกคนจะโน้มน้าวเขาให้ไป 1514 01:45:21,947 --> 01:45:24,032 โมต้องร้องไห้ ไม่ได้ 1515 01:45:25,576 --> 01:45:28,912 โมบอกว่าเหมือนถูกเขาเอามีดแทงหัวใจ 1516 01:45:29,496 --> 01:45:32,416 ของผืนดิน 1517 01:45:32,499 --> 01:45:38,172 ที่อยู่ที่ชายทะเล 1518 01:45:40,674 --> 01:45:45,554 ผมไปดูพวกเขาที่ร้าน Max's เพลงชุดนั้นจบพอดี 1519 01:45:45,637 --> 01:45:49,016 ลูมาถึงก็เดินไปที่ทางออก 1520 01:45:49,099 --> 01:45:51,518 ผมเรียก "เฮ้ ลู" แต่เขาไม่หยุดและเดินเร็วมาก 1521 01:45:53,395 --> 01:45:56,607 แล้วมีคนพูดขึ้นว่า "เขาเพิ่งลาออกจากวง" 1522 01:45:56,690 --> 01:45:59,359 ที่ชายทะเล 1523 01:46:00,611 --> 01:46:03,864 เขาลาออก เท่านั้นเลย คือ… ทุกอย่างจบ 1524 01:46:06,241 --> 01:46:12,706 มาแล้วทะเลและคลื่นลม 1525 01:46:12,789 --> 01:46:15,751 ที่ชายทะเล 1526 01:46:19,588 --> 01:46:23,300 มาแล้วทะเล 1527 01:46:23,383 --> 01:46:26,053 และคลื่นลม… 1528 01:46:26,136 --> 01:46:29,348 หลังจากที่เขาออกจาวง เขาไปอยู่บ้านพ่อแม่เขา 1529 01:46:29,431 --> 01:46:31,058 นานประมาณปีครึ่ง 1530 01:46:31,808 --> 01:46:35,938 เขาคงพยายามเรียบเรียงสติ 1531 01:46:36,522 --> 01:46:39,525 มีปัญหาค่อนข้างใหญ่… เกี่ยวกับการจัดการ 1532 01:46:39,608 --> 01:46:41,527 ผมออกไปเลียแผล 1533 01:46:41,610 --> 01:46:43,779 สมัยเรียน คุณแม่จะบอกผมว่า 1534 01:46:43,862 --> 01:46:47,491 "ลูกน่าจะเรียนพิมพ์ดีด จะได้มีงานรองรับไว้" 1535 01:46:47,574 --> 01:46:52,496 ฉันเป็นลูกชายที่ขี้เกียจ ไม่เคยทำอะไรสำเร็จ 1536 01:46:52,579 --> 01:46:57,209 ประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ 1537 01:46:57,292 --> 01:46:59,878 และนี่ 1538 01:46:59,962 --> 01:47:03,006 มาแล้วคลื่นลม 1539 01:47:06,260 --> 01:47:09,137 ที่ชายทะเล 1540 01:47:09,221 --> 01:47:11,807 พวกเขามีแสงเปล่งประกายมาก 1541 01:47:11,890 --> 01:47:16,979 จนไม่มีพื้นที่ใดสามารถรองรับ การหายไปของแสงนั้น 1542 01:47:25,112 --> 01:47:28,991 ต้องอาศัยฟิสิกส์ เพื่ออธิบายวงนั้นในจุดสูงสุดของวง 1543 01:47:29,074 --> 01:47:32,077 มาแล้วคลื่นลม 1544 01:47:35,163 --> 01:47:39,501 มีเอนโทรปีอยู่ 1545 01:47:40,586 --> 01:47:44,590 มาแล้วคลื่นลม 1546 01:47:44,673 --> 01:47:45,632 (ลู รีด - Transformer) 1547 01:47:53,765 --> 01:47:57,311 มาแล้วคลื่นลม 1548 01:47:57,394 --> 01:47:58,312 (นิโก THE MARBLE INDEX) 1549 01:48:03,358 --> 01:48:04,359 (มอรีน ทักเกอร์ PLAYIN' POSSUM) 1550 01:48:14,328 --> 01:48:20,083 (ลู รีด/จอห์น เคล SONGS FOR DRELLA) 1551 01:48:29,426 --> 01:48:35,474 มาแล้วคลื่นลม 1552 01:48:39,937 --> 01:48:45,943 มาแล้วคลื่นลม 1553 01:48:50,239 --> 01:48:55,202 มาแล้วคลื่นลม 1554 01:49:03,418 --> 01:49:05,671 สวัสดีครับ อืม 1555 01:49:06,213 --> 01:49:07,297 บาร์บาราโทรมา 1556 01:49:10,092 --> 01:49:12,010 อืม มีอะไรหรือเปล่า 1557 01:49:12,928 --> 01:49:14,054 อ่อ เยี่ยม 1558 01:49:14,805 --> 01:49:18,100 พูดอะไรอย่างนั้น รีบมาที่นี่เลย 1559 01:49:20,143 --> 01:49:21,270 ไว้คุยกัน 1560 01:49:25,023 --> 01:49:26,692 ชอบความสอดคล้องของสีในนั้นไหม 1561 01:49:26,775 --> 01:49:28,193 แปลกมาก 1562 01:49:28,277 --> 01:49:30,195 เป็นรูปถ่าย หรือ… 1563 01:49:30,279 --> 01:49:32,447 - ไม่ใช่ เป็นรูปวาด - สวยดี 1564 01:49:32,531 --> 01:49:34,700 มีรูปหนึ่งในนั้น เป็นรูป The Velvet Underground 1565 01:49:34,783 --> 01:49:36,660 เจ๋งใช่ไหม 1566 01:49:36,743 --> 01:49:38,370 เจ๋งมาก 1567 01:49:39,663 --> 01:49:40,956 คนนี้ใคร 1568 01:49:41,039 --> 01:49:42,249 - นั่นสเตอร์ลิง - อ่อ สเตอร์ลิง 1569 01:49:43,333 --> 01:49:45,794 อ่อ ลืมไปเลย 1570 01:49:45,878 --> 01:49:47,004 ยังเจอกันอยู่ไหมครับ 1571 01:49:47,087 --> 01:49:50,966 ครับ ผมเพิ่งเจอมอรีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 1572 01:49:51,550 --> 01:49:53,552 อืม ตอนนี้เธอ เป็นนักเขียนโปรแกรมแล้ว 1573 01:49:53,635 --> 01:49:55,470 - ใช่ เธอทำงานที่โรงงาน - แล้ว… 1574 01:49:55,554 --> 01:49:56,847 - ในหลายนัย - จริงเหรอ 1575 01:49:58,599 --> 01:50:00,809 IBM เธอมีลูก 1576 01:50:00,893 --> 01:50:03,520 ยังติดต่อจอห์นอยู่ไหม จอห์น เคล 1577 01:50:04,146 --> 01:50:06,064 ครับ เพิ่งคุยกับเขาเมื่อวันก่อน 1578 01:50:06,565 --> 01:50:09,443 แล้วเขา… เขา… แน่นอนว่าเขายังทำงานเขียน แต่… 1579 01:50:09,526 --> 01:50:12,029 เขาทำงาน ที่ไอส์แลนด์เรกคอร์ดส์ และ… 1580 01:50:12,905 --> 01:50:14,865 ไอส์แลนด์เหรอ ไม่รู้มาก่อน 1581 01:50:14,948 --> 01:50:17,201 ก่อนหน้านี้ทำกับวอร์เนอร์บราเธอร์ส ตอนนี้มาอยู่ไอส์แลนด์แล้ว 1582 01:50:25,751 --> 01:50:27,794 (วันที่ 22 ก.พ. 1987 แอนดี วอร์ฮอล เสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด) 1583 01:50:27,878 --> 01:50:29,129 เราใช้เวลาสักพักกว่าจะถึงจุดนี้ 1584 01:50:29,213 --> 01:50:32,174 (เขาอายุ 58 ปี) 1585 01:50:33,717 --> 01:50:37,721 (18 ก.ค. 1988 นิโกเสียชีวิต จากเลือดออกในสมอง เธออายุ 49 ปี) 1586 01:50:37,804 --> 01:50:40,140 ฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังจะไปไหน 1587 01:50:41,808 --> 01:50:45,103 (30 ส.ค. 1995 สเตอร์ลิง มอร์ริสัน เสียชีวิตจากมะเร็งต่อมน้ำเหลือง:) 1588 01:50:45,187 --> 01:50:46,897 แต่ฉันจะพยายาม 1589 01:50:46,980 --> 01:50:48,315 (เขาอายุ 53 ปี) 1590 01:50:48,398 --> 01:50:49,900 ชิงอาณาจักรหากทำไหว 1591 01:50:50,567 --> 01:50:54,905 (27 ต.ค. 2013 ลู รีด เสียชีวิตจากโรคตับ เขาอายุ 71 ปี) 1592 01:50:54,988 --> 01:50:59,785 เพราะทำให้รู้สึกว่าเป็นผู้ชาย เมื่อเอาเข็มจิ้มเข้าเส้นเลือด 1593 01:51:00,869 --> 01:51:04,915 ขอบอกเธอว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิม 1594 01:51:05,874 --> 01:51:09,419 เมื่อฤทธิ์ยาพัดพาฉันไป 1595 01:51:10,462 --> 01:51:13,799 และรู้สึกเหมือนเป็นบุตรพระเยซู 1596 01:51:14,842 --> 01:51:18,053 ฉันคงไม่รู้อะไร 1597 01:51:18,929 --> 01:51:21,890 ฉันคงไม่รู้อะไรเลย 1598 01:51:32,609 --> 01:51:34,319 ฉัน 1599 01:51:37,197 --> 01:51:38,907 ไม่รู้ 1600 01:51:41,159 --> 01:51:44,329 ฉันตัดสินใจบางอย่าง 1601 01:51:52,963 --> 01:51:54,923 แต่ฉัน 1602 01:51:57,718 --> 01:51:59,720 รู้ว่าฉัน 1603 01:52:01,346 --> 01:52:04,558 จะพยายามลบล้างชีวิตฉัน 1604 01:52:04,641 --> 01:52:08,812 เพราะเมื่อเลือดเริ่มไหลเวียน 1605 01:52:09,771 --> 01:52:12,983 เมื่อยาพุ่งขึ้นไปตามลำคอคนเสพ 1606 01:52:13,775 --> 01:52:16,862 เมื่อฉันเข้าใกล้ความตาย 1607 01:52:28,874 --> 01:52:30,876 ไม่มีใครช่วยได้ 1608 01:52:30,959 --> 01:52:33,962 พวกนายช่วยไม่ได้ สาวสวยก็ช่วยไม่ได้ 1609 01:52:34,046 --> 01:52:36,131 ด้วยคำหวานของพวกเธอ 1610 01:52:36,757 --> 01:52:39,927 ทุกคนจงออกไป 1611 01:52:40,677 --> 01:52:43,722 ฉันคงไม่รู้อะไร 1612 01:52:44,598 --> 01:52:47,017 ฉันคงไม่รู้อะไรเลย 1613 01:52:47,100 --> 01:52:48,435 (ลู รีด นักแต่งเพลง นักดนตรี และนักเขียน) 1614 01:52:48,519 --> 01:52:49,978 (ออกอัลบั้มสตูดิโอ 22 ชุด อัลบั้มสด เก้าชุดในฐานะศิลปินเดี่ยว) 1615 01:52:50,062 --> 01:52:51,230 (จอห์น เคล นักแต่งเพลง นักดนตรี และโปรดิวเซอร์) 1616 01:52:51,313 --> 01:52:52,689 (ออกอัลบั้มสตูดิโอ 16 ชุด อัลบั้มสด หกชุด และผลิตเพลงกว่า 75 เพลง) 1617 01:52:52,773 --> 01:52:54,525 (เขายังออกทัวร์ และอาศัยอยู่ที่ลอสแอนเจลิส) 1618 01:52:54,608 --> 01:52:56,652 (สเตอร์ลิง มอร์ริสัน นักดนตรี ได้รับปริญญาเอกและทำงานเป็น) 1619 01:52:56,735 --> 01:52:59,571 (ศาสตราจารย์การศึกษายุคกลาง ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส เมืองออสติน) 1620 01:52:59,655 --> 01:53:02,074 (มอรีน ทักเกอร์ นักแต่งเพลงและ นักดนตรี ออกอัลบั้มสตูดิโอสี่ชุด) 1621 01:53:02,157 --> 01:53:04,952 (ในฐานะศิลปินเดี่ยว และ อาศัยอยู่ที่ตอนใต้ของรัฐจอร์เจีย) 1622 01:53:05,035 --> 01:53:07,663 (นิโก นักแต่งเพลงและนักดนตรี) 1623 01:53:07,746 --> 01:53:10,666 (ออกอัลบั้มสตูดิโอหกชุด ในฐานะศิลปินเดี่ยว) 1624 01:53:10,749 --> 01:53:13,752 (ดัก ยูล นักดนตรี) 1625 01:53:13,836 --> 01:53:16,630 (ออกอัลบั้มสดหนึ่งชุดในฐานะ ศิลปินเดี่ยว อาศัยอยู่ที่ซีแอตเทิล) 1626 01:53:17,214 --> 01:53:19,466 (เมอร์ริลล์ รีด-ไวเนอร์ น้องสาวของลูรีด เป็นนักจิตบำบัด) 1627 01:53:19,550 --> 01:53:21,426 (อาศัยอยู่ที่ลองไอส์แลนด์ รัฐนิวยอร์ก) 1628 01:53:21,510 --> 01:53:23,762 (อัลลัน ไฮแมน เพื่อนสมัยเรียน และเพื่อนร่วมวงของลู รีด) 1629 01:53:23,846 --> 01:53:25,556 (อาศัยอยู่ที่ลองไอส์แลนด์ รัฐนิวยอร์ก) 1630 01:53:25,639 --> 01:53:27,724 (เฮนรี ฟลินท์ นักประพันธ์ นักดนตรี นักปรัชญา และนักเขียน) 1631 01:53:27,808 --> 01:53:29,184 (อาศัยอยู่ที่นครนิวยอร์ก) 1632 01:53:29,268 --> 01:53:31,937 (ลามอนต์ ยัง นักประพันธ์ นักดนตรี นักเขียน และผู้ก่อตั้งวง) 1633 01:53:32,020 --> 01:53:35,566 (มาเรียน ซาซีลา ศิลปิน นักดนตรี สมาชิกวง Theatre of Eternal Music) 1634 01:53:35,649 --> 01:53:37,484 (และ The Dream Syndicate อาศัยอยู่ที่นครนิวยอร์ก) 1635 01:53:37,568 --> 01:53:40,904 (ริชาร์ด มิชกิน เพื่อนมหาวิทยาลัย เพื่อนร่วมวงของลู รีด อยู่นิวยอร์ก) 1636 01:53:40,988 --> 01:53:42,823 (เชลลี คอร์วิน แฟนสาวสมัยมหาวิทยาลัยของลู) 1637 01:53:42,906 --> 01:53:44,616 (เป็นศิลปินที่อาศัยอยู่ที่ ตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย) 1638 01:53:44,700 --> 01:53:47,119 (แดนนี ฟีลด์ส ผู้จัดการเพลง และนักโฆษณา อยู่นิวยอร์กและลอนดอน) 1639 01:53:47,202 --> 01:53:49,329 (เอมี โทบิน นักแสดงหญิง และลูกค้า The Factory ในยุค 60) 1640 01:53:49,413 --> 01:53:51,498 (เป็นนักวิจารณ์ภาพยนตร์ อาศัยอยู่ที่นครนิวยอร์ก) 1641 01:53:51,582 --> 01:53:53,625 (เทอร์รี ฟิลิปส์ นักดนตรี และผู้บริหารของ Pickwick Records) 1642 01:53:53,709 --> 01:53:55,294 (อาศัยอยู่ที่นครนิวยอร์ก) 1643 01:53:55,377 --> 01:53:57,754 (มาร์ธา มอร์ริสัน ภรรยาของสเตอร์ลิง มอร์ริสัน ทำงานที่วิทยาลัยวัสซาร์) 1644 01:53:57,838 --> 01:54:00,007 (และอาศัยอยู่ที่นครนิวยอร์ก) 1645 01:54:00,090 --> 01:54:02,759 (แมรี โวโรนอฟ ดาราดังของวอร์ฮอล นักแสดงและนักเขียน อยู่ลอสแอนเจลิส) 1646 01:54:03,760 --> 01:54:05,679 (แจ็กสัน บราวน์ นักแต่งเพลง นักดนตรี และนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม) 1647 01:54:05,762 --> 01:54:06,972 (อาศัยอยู่ลอสแอนเจลิส) 1648 01:54:07,055 --> 01:54:09,099 (โจนาธาน ริชแมน นักดนตรี/แต่งเพลง และผู้ก่อตั้ง The Modern Lovers) 1649 01:54:09,183 --> 01:54:10,767 (อาศัยอยู่ทางตอนเหนือ ของแคลิฟอร์เนีย) 1650 01:54:10,851 --> 01:54:13,562 (จอห์น วอเตอร์ส ผู้กำกับ นักเขียน นักแสดง และศิลปิน) 1651 01:54:13,645 --> 01:54:15,522 (อาศัยอยู่ที่บัลติมอร์ ซานฟรานซิสโก และโพรวินซ์ทาวน์) 1652 01:54:15,606 --> 01:54:17,941 (โจเซฟ ฟรีแมน ผู้ช่วยวัยรุ่น ของวอร์ฮอลที่ The Factory) 1653 01:54:18,025 --> 01:54:19,234 (อาศัยอยู่ที่นครนิวยอร์ก) 1654 01:54:19,318 --> 01:54:20,736 (เดลมอร์ ชวาร์ตซ์ เป็นนักเขียน กวี) 1655 01:54:20,819 --> 01:54:22,237 (และศาสตราจารย์วิชาการเขียนเชิง สร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยซีราคิวส์) 1656 01:54:22,321 --> 01:54:24,448 (โทนี คอนราด เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ แนวทดลองและนักดนตรี) 1657 01:54:24,531 --> 01:54:25,908 (ซึ่งเป็นสมาชิกวง Theatre of Eternal Music และ The Primitives) 1658 01:54:25,991 --> 01:54:27,534 (ร่วมกับลู รีด และจอห์น เคล) 1659 01:54:27,618 --> 01:54:29,995 (บิลลี เนม หรือบิลลีลินิช เป็นผู้ร่วมงานกับวอร์ฮอล ช่างภาพ) 1660 01:54:30,078 --> 01:54:31,997 (และผู้ดูแลหลักที่ The Factory) 1661 01:54:32,080 --> 01:54:33,832 (เดวิด โบวี เป็นนักแต่งเพลง นักดนตรี นักแสดง) 1662 01:54:33,916 --> 01:54:35,918 (และผู้ผลิต Transformer อัลบั้มสนั่นวงการของลู รีด) 1663 01:54:36,001 --> 01:54:38,420 (ด้วยความระลึกถึงโจนัส เมคัส ผู้กำกับ ศิลปิน) 1664 01:54:38,504 --> 01:54:41,215 (และผู้ก่อตั้ง Anthology Film Archives) 1665 01:54:41,298 --> 01:54:44,676 (ผู้ทุ่มเทชีวิตให้กับภาพยนตร์ล้ำยุค ของสหรัฐอเมริกา) 1666 01:55:05,948 --> 01:55:12,663 แล้วสาวน้อยผู้น่าสงสารจะใส่ชุดอะไร 1667 01:55:15,457 --> 01:55:20,546 ไปงานปาร์ตี้ทั้งหลายของวันพรุ่งนี้ 1668 01:55:23,257 --> 01:55:29,555 กระโปรงมือสองจากใครก็ไม่รู้ 1669 01:55:32,432 --> 01:55:37,563 ไปงานปาร์ตี้ทั้งหลายของวันพรุ่งนี้ 1670 01:55:40,232 --> 01:55:45,362 แล้วเธอจะไปไหน แล้วเธอจะทำอย่างไร 1671 01:55:45,445 --> 01:55:49,700 เมื่อเที่ยงคืนวนมาถึง 1672 01:55:53,078 --> 01:55:59,293 เธอจะหันไปหา ตัวตลกวันอาทิตย์อีกครั้ง 1673 01:56:02,254 --> 01:56:06,925 และร้องไห้อยู่หลังประตู 1674 01:56:47,883 --> 01:56:54,389 แล้วสาวน้อยผู้น่าสงสารจะใส่ชุดอะไร 1675 01:56:57,476 --> 01:57:02,356 ไปงานปาร์ตี้ทั้งหลายของวันพรุ่งนี้ 1676 01:57:05,025 --> 01:57:11,240 ทำไมต้องผ้าไหมและลินิน จากชุดกระโปรงของเมื่อวาน 1677 01:57:14,284 --> 01:57:19,289 ไปงานปาร์ตี้ทั้งหลายของวันพรุ่งนี้ 1678 01:57:21,875 --> 01:57:27,089 แล้วเธอจะทำอย่างไรกับเศษผ้าวันพฤหัส 1679 01:57:27,172 --> 01:57:31,301 เมื่อวันจันทร์วนมาถึง 1680 01:57:34,763 --> 01:57:40,894 เธอจะหันไปหา ตัวตลกวันอาทิตย์อีกครั้ง 1681 01:57:43,814 --> 01:57:48,569 และร้องไห้อยู่หลังประตู 1682 01:58:47,085 --> 01:58:53,509 แล้วสาวน้อยผู้น่าสงสารจะใส่ชุดอะไร 1683 01:58:56,470 --> 01:59:01,642 ไปงานปาร์ตี้ทั้งหลายของวันพรุ่งนี้ 1684 01:59:04,019 --> 01:59:10,067 เพราะเด็กวันพฤหัส เป็นตัวตลกวันอาทิตย์ 1685 01:59:12,903 --> 01:59:17,950 ที่ไม่มีใครจะไว้ทุกข์ให้ 1686 01:59:20,577 --> 01:59:25,499 ผ้าคลุมสีคล้ำ ชุดกระโปรงมือสอง 1687 01:59:25,582 --> 01:59:30,462 ทำจากเศษผ้าและผ้าไหม ชุดเสื้อผ้า 1688 01:59:33,382 --> 01:59:40,389 ที่เหมาะกับคนที่นั่งร้องไห้ 1689 01:59:42,015 --> 01:59:47,396 เรื่องงานปาร์ตี้ทั้งหลาย ของวันพรุ่งนี้ 1690 02:00:15,132 --> 02:00:17,134 คำบรรยายโดย ธัญญา ศรีธัญญลักษณา