1 00:00:02,000 --> 00:00:07,000 Downloaded from YTS.MX 2 00:00:08,000 --> 00:00:13,000 Official YIFY movies site: YTS.MX 3 00:01:41,840 --> 00:01:43,720 ‎คุณต้องเป็นหนึ่งเดียวกับรถ 4 00:01:47,320 --> 00:01:51,240 ‎คุณควรรู้ว่าคุณจะใช้งานรถได้หนักถึงแค่ไหน 5 00:01:57,000 --> 00:01:58,960 ‎เพราะมีขีดจำกัดเสมอ 6 00:01:59,040 --> 00:02:02,960 ‎และคุณควรระวัง ‎เหมือนที่คุณระวังเวลาคุณใช้ของที่คุณชอบ 7 00:02:04,680 --> 00:02:08,680 ‎คุณต้องมีความรู้สึก ‎ที่จะไม่ทำเกินพอดีหรือทำน้อยเกินพอดี 8 00:02:08,759 --> 00:02:12,320 ‎ถ้าคุณทำแบบนั้น เราทั้งสองฝ่ายจะพอใจ 9 00:02:13,480 --> 00:02:14,440 ‎หมายถึงผมกับรถนะ 10 00:02:20,040 --> 00:02:21,480 ‎ความสมบูรณ์แบบเต็มร้อย 11 00:02:22,160 --> 00:02:23,920 ‎ไปให้ถึงร้อย 12 00:02:24,000 --> 00:02:25,920 ‎นั่นแหละเป้าหมายผม 13 00:02:26,520 --> 00:02:28,000 ‎ผมเป็นคนแบบนั้น 14 00:02:28,680 --> 00:02:30,720 ‎อะไรที่ต่ำกว่านั้นผมรับไม่ได้ 15 00:02:34,960 --> 00:02:38,440 ‎ผมไม่ชอบพูดถึงคุณภาพของตัวเอง ‎เพราะมันจะฟังดูขี้อวดและมั่นใจเกิน 16 00:02:39,280 --> 00:02:42,960 ‎และผมไม่ชอบพูดถึงความล้มเหลวของตัวเอง ‎เพราะมันคือหน้าที่คุณที่ต้องหาเอาเอง 17 00:03:12,680 --> 00:03:17,480 ‎(สปา ประเทศเบลเยียม ‎24 สิงหาคม 1991) 18 00:03:20,360 --> 00:03:25,560 ‎(การแข่งฟอร์มูล่าวันกรังด์ปรีซ์ครั้งแรก ‎ของชูมัคเคอร์ ) 19 00:03:32,240 --> 00:03:34,200 ‎บรรยากาศในแพดด็อกเต็มไปด้วยความตื่นเต้น 20 00:03:34,280 --> 00:03:36,400 ‎(เจมส์ แอลเล็น ‎อดีตผู้บรรยายกีฬาเอฟวันทางทีวี) 21 00:03:36,480 --> 00:03:38,960 ‎เพราะทุกคนรู้ว่าใครที่จะออกมาจากตรงนั้น 22 00:03:40,800 --> 00:03:44,240 ‎เรามีความรู้สึกว่าเขาคือคนที่มีโอกาสชนะสูง 23 00:03:50,400 --> 00:03:52,440 ‎ตอนที่มิชชาเอลเข้ามาเป็นนักแข่งฟอร์มูล่าวัน… 24 00:03:52,520 --> 00:03:54,360 ‎(ริชาร์ด วิลเลียมส์ ‎อดีตนักข่าวฟอร์มูล่าวัน) 25 00:03:54,440 --> 00:03:56,040 ‎ตอนนั้นมีนักแข่งเก่งๆ ดังๆ แล้วนะ 26 00:03:57,160 --> 00:03:59,440 ‎เซนนาเป็นแชมป์โลกแข่งให้แม็คลาเรน 27 00:03:59,520 --> 00:04:02,400 ‎แมนเซลล์แข่งให้วิลเลียมส์ 28 00:04:03,000 --> 00:04:04,800 ‎พรอสต์แข่งให้เฟอร์รารี่ 29 00:04:04,880 --> 00:04:06,760 ‎พวกเขาเป็นนักแข่งชื่อดัง 30 00:04:08,440 --> 00:04:12,320 ‎นักแข่งทุกคนอายุเกิน 27 28 ‎และมากประสบการณ์ 31 00:04:12,400 --> 00:04:14,000 ‎ในขณะที่มิชชาเอลเป็นนักแข่งวัยหนุ่ม 32 00:04:14,800 --> 00:04:17,120 ‎ตอนที่มิชชาเอลเข้ามา ‎นักแข่งทุกคนมองเขาแล้วก็แบบ… 33 00:04:17,200 --> 00:04:19,480 ‎(ฟลาวิโอ บริอาตอเร ‎ผอ.ทีมเบเนตตอง 1989 - 1997) 34 00:04:19,560 --> 00:04:20,640 ‎"เด็กไป ไวไป เร็วไป" 35 00:04:23,560 --> 00:04:27,760 ‎นักแข่งฟอร์มูล่าวันส่วนใหญ่ ‎มาจากการแข่งโกคาร์ทในรายการฟอร์มูล่าทรี 36 00:04:27,840 --> 00:04:31,320 ‎เขามีคนช่วยดึงมาอยู่ในฟอร์มูล่าวัน 37 00:04:31,880 --> 00:04:35,440 ‎จากการขับรถสปอร์ตแข่งให้เมอร์เซเดส 38 00:04:40,560 --> 00:04:43,280 ‎โชคช่วยให้เขาได้มาอยู่ในวงการฟอร์มูล่าวัน 39 00:04:43,360 --> 00:04:45,680 ‎นักแข่งคนหนึ่งออกพอดี ‎และพวกเขาต้องการนักแข่งคนใหม่ 40 00:04:45,760 --> 00:04:46,720 ‎(รอล์ฟ ชูมัคเคอร์ ‎พ่อ) 41 00:04:50,360 --> 00:04:53,280 ‎มิชชาเอลได้เข้ามาเป็นนักแข่งฟอร์มูล่าวัน ‎เพราะโชคช่วย 42 00:04:53,360 --> 00:04:56,160 ‎ตอนที่เอ็ดดี้ จอร์แดนกำลังหานักแข่งคนใหม่ 43 00:04:56,240 --> 00:04:58,440 ‎และทันใดนั้น ‎เขาก็ได้เข้าไปแข่งในช่วงหนึ่งของซีซั่น 44 00:04:59,320 --> 00:05:02,120 ‎พอผมรู้ ‎ผมก็ยกหูโทรศัพท์โทรหาเอ็ดดี้ จอร์แดนทันที 45 00:05:02,200 --> 00:05:03,760 ‎(วิลลี่ เวเบอร์ ‎ผู้จัดการ 1988 - 2009) 46 00:05:03,840 --> 00:05:07,920 ‎ผมบอกว่า "เอ็ดดี้ คุณต้องให้โอกาสนี้กับผม" 47 00:05:08,000 --> 00:05:10,240 ‎แล้วเขาก็ถามว่า "ใครคือมิชชาเอล ชูมัคเคอร์" 48 00:05:11,240 --> 00:05:12,680 ‎ผมตอบว่า "คุณต้องจำได้สิ 49 00:05:12,760 --> 00:05:15,960 ‎ที่แข่งฟอร์มูล่าทรีไง ‎ที่ชนะการแข่งที่มาเก๊า ชนะการแข่งที่ฟูจิ" 50 00:05:16,040 --> 00:05:17,680 ‎"อ๋อๆ นึกออกละ" 51 00:05:17,760 --> 00:05:19,200 ‎ผมเห็นเขาในฟอร์มูล่าทรี ผมมี… 52 00:05:19,280 --> 00:05:20,920 ‎(เอ็ดดี้ จอร์แดน ‎เจ้าของทีมจอร์แดน) 53 00:05:21,000 --> 00:05:23,280 ‎ทีมมีแนวคิดว่าเราควรให้โอกาสเด็ก 54 00:05:23,360 --> 00:05:24,680 ‎ทีมเราเกิดขึ้นมาด้วยแนวคิดนั้น 55 00:05:35,520 --> 00:05:37,880 ‎ทุกอย่างในอนาคตที่รอเราอยู่ 56 00:05:37,960 --> 00:05:42,440 ‎ความเป็นไปได้ที่เขาจะได้แสดงความสามารถ 57 00:05:42,520 --> 00:05:47,440 ‎มันเหลือเชื่อจริงๆ เราไม่รู้ด้วยซ้ำ 58 00:05:47,520 --> 00:05:51,920 ‎เย็นวันนั้นเรานั่งกินพิซซ่าที่จัตุรัส ‎ไม่มีใครมารบกวน 59 00:05:52,000 --> 00:05:54,880 ‎ที่นั่นคนแน่นมาก ผมว่าสี่ห้าร้อยคนได้เลยมั้ง 60 00:05:54,960 --> 00:05:56,440 ‎ไม่มีใครเดินมาหาเรา 61 00:05:57,520 --> 00:06:00,560 ‎นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ไม่มีใครมารบกวนเรา 62 00:06:08,200 --> 00:06:10,640 ‎ผมจำได้เลย ‎เสียงคนบรรยายในระบบกระจายเสียง… 63 00:06:12,080 --> 00:06:14,120 ‎กำลังบรรยายสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในรอบควอลิฟาย 64 00:06:14,200 --> 00:06:17,840 ‎แล้วผู้บรรยาย ‎ก็พูดชื่อมิชชาเอล ชูมัคเคอร์หลายครั้งมาก 65 00:06:18,640 --> 00:06:20,360 ‎เขาเป็นคนที่ใครๆ ก็ต้องสนใจ 66 00:06:27,040 --> 00:06:28,560 ‎ตอนที่มิชชาเอลได้อันดับเจ็ด 67 00:06:28,640 --> 00:06:31,560 ‎มันแบบว่า "นี่ดาวรุ่งดวงใหม่ชัดๆ" 68 00:06:31,640 --> 00:06:36,800 ‎ทุกคนตื่นเต้นมาก ‎ที่นักแข่งหน้าใหม่คนนี้แจ้งเกิดไวมาก 69 00:06:37,960 --> 00:06:39,600 ‎ผมดีใจมากครับ 70 00:06:39,680 --> 00:06:44,040 ‎แต่ก็ต้องบอกว่าด้วยรถคันนั้น ‎มันเป็นไปได้ที่จะทำเวลานั้นในรอบควอลิฟาย 71 00:06:44,120 --> 00:06:46,160 ‎รถขับสนุกมาก 72 00:06:46,240 --> 00:06:48,400 ‎ผมดีใจมากที่ทำเวลานั้นได้ 73 00:06:52,280 --> 00:06:53,600 ‎ทุกคนสังเกตเห็น 74 00:06:53,680 --> 00:06:56,440 ‎ทุกคนในทีมอื่นก็สังเกตเห็น 75 00:06:56,520 --> 00:06:57,800 ‎เขากลายเป็นคนที่ใครๆ 76 00:06:58,600 --> 00:07:00,000 ‎ก็ต้องการตัวขึ้นมาในทันที 77 00:07:02,240 --> 00:07:03,640 ‎หลังจากแข่งที่สปา 78 00:07:04,640 --> 00:07:06,760 ‎ผมโทรหาวิลลี่ เวเบอร์ 79 00:07:08,280 --> 00:07:10,640 ‎เราเจอกับมิชชาเอล วันจันทร์มั้ง 80 00:07:11,720 --> 00:07:14,400 ‎วันจันทร์หรือวันอังคารนี่แหละ ที่ลอนดอน 81 00:07:15,960 --> 00:07:19,920 ‎ตอนนั้นทีมเราพยายามแข่ง ‎เพื่อให้ได้ไปยืนบนโพเดียม 82 00:07:21,000 --> 00:07:23,240 ‎เราไม่ได้แข่งเพื่อเอาแชมป์ 83 00:07:23,320 --> 00:07:26,320 ‎แต่ในบางครั้งเราก็เกือบจะได้ไปยืนบนโพเดียม 84 00:07:27,640 --> 00:07:29,920 ‎สรุปคือ เราเซ็นสัญญากันครับ 85 00:07:36,680 --> 00:07:39,480 ‎มันเกิดขึ้นไวมาก ผมไปไม่ถูกเลยครับ 86 00:07:39,560 --> 00:07:41,040 ‎ผมเพิ่งแข่งครั้งแรกได้ไม่นาน 87 00:07:41,120 --> 00:07:44,720 ‎แต่ทีมอันดับสี่ของโลกยื่นข้อเสนอให้ผมแล้ว 88 00:07:44,800 --> 00:07:46,960 ‎ผมดีใจจนพูดไม่ออก 89 00:07:47,640 --> 00:07:50,600 ‎ผมประหลาดใจที่มันเกิดขึ้นเร็วมาก 90 00:07:50,680 --> 00:07:53,600 ‎ผมดีใจมากที่ได้เซ็นสัญญากับพวกเขา 91 00:07:53,680 --> 00:07:56,640 ‎มันเป็นสถานการณ์ที่วิเศษจริงๆ 92 00:08:07,680 --> 00:08:09,600 ‎เขามีความสดใสอยู่ในตัว 93 00:08:09,680 --> 00:08:13,760 ‎ผิวที่หน้าเขากระชับมาก ‎หนวดเคราโกนมาเนียนกริบ 94 00:08:13,840 --> 00:08:16,160 ‎และมีออร่าของความมั่นใจ 95 00:08:16,240 --> 00:08:19,360 ‎มิชชาเอลเป็นหนุ่มนักแข่ง ‎ที่แข่งกับนักแข่งเก่งๆ ที่มากประสบการณ์ 96 00:08:20,760 --> 00:08:22,720 ‎(สปา ประเทศเบลเยียม ‎30 สิงหาคม 1992) 97 00:08:22,800 --> 00:08:27,040 ‎ชูมัคเคอร์มาเป็นอันดับสี่ในรถเบเนตตอง 98 00:08:29,160 --> 00:08:33,240 ‎ชูมัคเคอร์กำลังไล่จี้จะแซงอาอีร์ตง เซนนา 99 00:08:33,320 --> 00:08:36,960 ‎ตอนนี้มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ขึ้นมานำในเบลเยียมกรังด์ปรีซ์แล้วครับ 100 00:08:38,159 --> 00:08:41,880 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎จะชนะกรังด์ปรีซ์รายการแรกของเขา 101 00:08:41,960 --> 00:08:45,680 ‎ที่สนามที่เขาแข่งรายการกรังด์ปรีซ์ ‎เป็นครั้งแรกหรือไม่ 102 00:08:50,080 --> 00:08:51,480 ‎อายุเพียง 23 ปีเท่านั้น 103 00:08:51,560 --> 00:08:54,800 ‎ผู้ชนะรายการกรังด์ปรีซ์ที่อายุน้อยที่สุด ‎หลังจากไม่มีใครทุบสถิติมานาน 104 00:08:54,880 --> 00:08:58,120 ‎นี่เป็นชัยชนะครั้งแรกของมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 105 00:08:58,200 --> 00:09:02,320 ‎เขาชูแขนขึ้นมาด้วยครับ เขาดีใจมากจริงๆ 106 00:09:04,160 --> 00:09:06,120 ‎เขาพูดว่า "เย่! ฉันชนะ" 107 00:09:37,160 --> 00:09:40,960 ‎ผมอธิบายไม่ถูก มันเหลือเชื่อจริงๆ ครับ 108 00:09:41,040 --> 00:09:47,800 ‎ผมว่าแฟนคลับชาวเยอรมัน ‎คงรอชัยชนะฟอร์มูล่าวันกรังด์ปรีซ์มานานแล้ว 109 00:09:48,320 --> 00:09:51,720 ‎และผมมอบชัยชนะนั้นให้กับแฟนคลับชาวเยอรมัน 110 00:09:51,800 --> 00:09:54,040 ‎อยากกล่าวอะไรก่อนจบถึงคนที่บ้านมั้ยครับ 111 00:09:54,640 --> 00:09:55,960 ‎คงเป็นพ่อกับแม่ครับ 112 00:09:56,560 --> 00:09:58,080 ‎ผมอยากทักทายพวกเขา 113 00:10:08,920 --> 00:10:10,760 ‎ทุกอย่างเริ่มขึ้นตอนผมอายุสี่ขวบ 114 00:10:10,840 --> 00:10:15,560 ‎พ่อผมสนใจซ่อมพวกแบบว่า 115 00:10:15,640 --> 00:10:18,040 ‎มอเตอร์ไซค์หรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่เสมอ 116 00:10:18,120 --> 00:10:20,440 ‎สิ่งที่เขาทำคือ 117 00:10:20,520 --> 00:10:24,040 ‎เรามีรถมอเตอร์ไซค์เล็กๆ คันเก่า 118 00:10:24,120 --> 00:10:26,760 ‎ความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 119 00:10:26,840 --> 00:10:29,120 ‎เขาเอามันมาแต่งใส่รถโกคาร์ทของเด็ก 120 00:10:30,320 --> 00:10:33,360 ‎ผมชอบมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ขับ 121 00:10:46,000 --> 00:10:47,280 ‎ผมชอบมันทุกครั้งที่ขับ 122 00:10:47,360 --> 00:10:50,040 ‎ผมจำได้เลย ตอนผมอายุหกเจ็ดขวบ 123 00:10:50,120 --> 00:10:54,920 ‎พ่อผมเริ่มปล่อยเช่ารถโกคาร์ทให้สโมสร 124 00:10:55,440 --> 00:10:58,320 ‎ผมอยู่กับพ่อตลอดเพื่อตรวจดูรถโกคาร์ท 125 00:10:58,400 --> 00:10:59,240 ‎เพื่อช่วยเขา 126 00:10:59,320 --> 00:11:00,720 ‎และทดสอบรถโกคาร์ท 127 00:11:00,800 --> 00:11:04,320 ‎พอเขาตรวจรถโกคาร์ทคันหนึ่งเสร็จ ‎ผมก็จะนำไปทดสอบเพื่อดูว่าใช้งานได้โอเคมั้ย 128 00:11:04,880 --> 00:11:08,280 ‎ผมนั่งรถโกคาร์ทกับเขาเป็นประจำ 129 00:11:08,360 --> 00:11:10,120 ‎เราทำทุกอย่างด้วยกัน 130 00:11:11,960 --> 00:11:13,680 ‎มันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก 131 00:11:35,840 --> 00:11:41,520 ‎พอมิชชาเอลอายุได้แปดเก้าขวบ ‎เขาก็ดูแลน้องชายเขาในยามที่จำเป็น 132 00:11:41,600 --> 00:11:46,240 ‎ผมขอให้เขาตรวจดูว่าประตูหน้าต่างล็อกหมดรึยัง 133 00:11:46,320 --> 00:11:47,360 ‎และเขาก็ทำ 134 00:11:48,760 --> 00:11:50,800 ‎มิชชาเอลเป็นคนที่พึ่งพาได้เสมอ 135 00:11:54,760 --> 00:11:56,720 ‎ครอบครัวชูมัคเคอร์ 136 00:11:57,320 --> 00:11:59,720 ‎ตอนแรกทำธุรกิจรถอาหารเคลื่อนที่ 137 00:12:00,680 --> 00:12:02,640 ‎หลังจากนั้นก็มาทำร้านอาหาร 138 00:12:03,200 --> 00:12:05,080 ‎ในแง่การเงิน ครอบครัวชูมัคเคอร์… 139 00:12:05,160 --> 00:12:06,960 ‎(แกร์ฮาร์ด โนอาค ‎ผู้สนับสนุนในช่วงแรก) 140 00:12:07,040 --> 00:12:10,720 ‎รอล์ฟเริ่มชีวิตการทำงาน ‎ด้วยการเป็นช่างปูนทำปล่องไฟ 141 00:12:10,800 --> 00:12:12,800 ‎จนสุดท้ายได้เป็นคนบริหารสนามแข่งรถโกคาร์ท 142 00:12:13,600 --> 00:12:14,600 ‎ส่วนเอลิซาเบธ 143 00:12:15,400 --> 00:12:20,000 ‎เธอต้องอยู่จนทุกอย่างจบ อยู่จนแขกทุกคนกลับ 144 00:12:22,360 --> 00:12:26,240 ‎พ่อแม่ผมทำงานหนักมาก ‎เพื่อให้เรามีชีวิตเหมือนคนทั่วไป 145 00:12:26,320 --> 00:12:29,640 ‎แต่เด็กรวยๆ หลายคนก็ยากจนเหมือนกัน ‎เพราะพ่อแม่ไม่มีเวลาให้ 146 00:12:29,720 --> 00:12:30,920 ‎(ราล์ฟ ชูมัคเคอร์ ‎น้องชาย) 147 00:12:31,000 --> 00:12:34,680 ‎พ่อแม่เราอยู่ด้วยที่สนามแข่ง 148 00:12:34,760 --> 00:12:36,080 ‎ซึ่งเป็นสนามเด็กเล่นที่ใหญ่มาก 149 00:12:47,440 --> 00:12:50,520 ‎ทุกครั้งเราจะใช้ชิ้นส่วนที่ถูกที่สุดที่มีอยู่ 150 00:12:50,600 --> 00:12:54,000 ‎ผมหาล้อที่คนไม่ใช้แล้วจากถังขยะ 151 00:12:54,080 --> 00:12:56,680 ‎เอามันมาใส่ที่รถโกคาร์ทของผม ‎และคว้าชัยชนะในการแข่งขัน 152 00:12:56,760 --> 00:13:03,520 ‎ผมดีใจทุกครั้งที่ชนะด้วยชิ้นส่วนที่แย่ที่สุด ‎ด้วยชิ้นส่วนที่ไม่ได้ดีที่สุด 153 00:13:03,600 --> 00:13:08,080 ‎การที่ต้องสู้ด้วยชิ้นส่วนที่ไม่ได้ดีที่สุด ‎เป็นแรงกระตุ้นอีกหนึ่งอย่างสำหรับผม 154 00:13:10,400 --> 00:13:13,280 ‎สวัสดีตอนบ่าย ยินดีต้อนรับสู่แคร์เพน 155 00:13:13,360 --> 00:13:17,760 ‎และการแข่งขันชิงแชม์โลกโกคาร์ทรุ่นเยาว์ 156 00:13:17,840 --> 00:13:21,320 ‎ประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขัน ‎มีทั้งหมด 18 ประเทศ 157 00:13:21,400 --> 00:13:23,320 ‎และมีนักแข่งประมาณ 80 คน 158 00:13:26,440 --> 00:13:30,520 ‎มีนักแข่งคนหนึ่งเป็นชาวเยอรมัน ‎แต่ไม่ได้แข่งให้เยอรมนี 159 00:13:30,600 --> 00:13:33,160 ‎และเป็นตัวเต็งของรายการ 160 00:13:33,240 --> 00:13:35,480 ‎เขาคนนั้นคือมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 161 00:13:35,560 --> 00:13:37,120 ‎คุณแข่งให้ลักเซมเบิร์ก เพราะอะไร 162 00:13:37,840 --> 00:13:41,760 ‎รอบควอลิฟายในเยอรมนีต้องใช้เงินครับ 163 00:13:41,840 --> 00:13:44,840 ‎ถ้าเราถูกคัดออก ‎เราจะไม่มีคุณสมบัติไปแข่งรอบชิงแชมป์โลก 164 00:13:45,360 --> 00:13:48,120 ‎แต่ที่ลักเซมเบิร์ก คู่แข่งก็มีแต่เรา 165 00:13:48,200 --> 00:13:49,200 ‎ไม่ต้องเสียเงิน 166 00:13:49,800 --> 00:13:51,040 ‎และเราก็มีคุณสมบัติด้วย 167 00:13:52,000 --> 00:13:55,520 ‎ตอนที่เขายังเด็ก ‎เขาฝึกเหมือนแชมป์โลกแล้วนะครับ 168 00:13:56,040 --> 00:14:01,680 ‎ยังเด็กก็จริง แต่รู้แล้วว่าตัวเองต้องการอะไร 169 00:14:03,960 --> 00:14:06,920 ‎เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ไปอยู่ในจุดสูงสุด 170 00:14:07,000 --> 00:14:12,000 ‎ผมว่าเขาได้ความเป็นมืออาชีพสุดๆ แบบนี้ ‎มาจากสมัยที่ยังเป็นเด็กมากๆ 171 00:14:12,080 --> 00:14:16,360 ‎เพราะถ้าพลาดแค่นิดเดียว ‎ก็อาจจะเป็นจุดจบของทุกอย่างได้ 172 00:14:24,280 --> 00:14:26,640 ‎ปี 1983 ในแคร์เพน-แมนไฮม์ 173 00:14:27,200 --> 00:14:30,800 ‎ปีนั้นเป็นครั้งแรกที่เราแข่งด้วยกัน 174 00:14:31,600 --> 00:14:34,320 ‎มันคือหนึ่งในความทรงจำ ‎ที่ผมจำได้แม่นในอาชีพแข่งรถของผม 175 00:14:34,400 --> 00:14:36,840 ‎(มิก้า ฮักคิเนน ‎แชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน 1998 และ 1999) 176 00:14:37,880 --> 00:14:43,000 ‎มันคือสนามแข่งในประเทศของมิชชาเอล 177 00:14:43,080 --> 00:14:45,800 ‎แน่นอนว่าเขารู้จักทุกมุมเป็นอย่างดี 178 00:14:45,880 --> 00:14:49,440 ‎มันจึงยากที่จะแข่งกับเขาในสนามนั้น 179 00:15:10,560 --> 00:15:14,120 ‎ดูจากวิธีที่เขาขับ มันเหลือเชื่อครับ 180 00:15:16,880 --> 00:15:21,240 ‎ในสนามจะมีโค้งชิเคนอยู่โค้งหนึ่ง ‎อยู่ตรงหน้าคนดู 181 00:15:21,320 --> 00:15:24,000 ‎เป็นโค้งที่ต้องวิ่งด้วยความเร็วสูง 182 00:15:24,080 --> 00:15:27,680 ‎มันน่าตื่นเต้นมาก ‎เวลาเห็นมิชชาเอลขับออกมาจากโค้งชิเคนนั้น 183 00:15:28,400 --> 00:15:31,640 ‎โดยขับต่างจากนักแข่งคนอื่นอย่างสิ้นเชิง 184 00:15:32,560 --> 00:15:33,680 ‎ควบคุมได้ดีมาก 185 00:15:34,560 --> 00:15:36,760 ‎วิธีการขับของเขาคือใช้ร่างกายบังคับ 186 00:15:36,840 --> 00:15:41,120 ‎ระดับการผิดพลาดของเขา ‎เวลาเลี้ยวตรงโค้งชิเคนในแต่ละครั้งต่ำมาก 187 00:15:41,680 --> 00:15:43,920 ‎นักแข่งคนอื่นขับรอบแรกได้ดี 188 00:15:44,000 --> 00:15:47,520 ‎แต่พอรอบสอง มีผิดพลาดนิดหน่อย 189 00:15:47,600 --> 00:15:50,520 ‎ในขณะที่มิชชาเอลขับดีตลอด ควบคุมรถได้ดีมาก 190 00:15:52,680 --> 00:15:55,560 ‎ตอนที่ผมดู ผมรู้เลยทันที 191 00:15:55,640 --> 00:15:58,160 ‎คนนี้เก่ง 192 00:16:00,000 --> 00:16:02,360 ‎ตอนนั้นเราอายุประมาณ 13 14 193 00:16:03,360 --> 00:16:04,200 ‎และก็ 194 00:16:05,640 --> 00:16:07,440 ‎มั่นใจมาก 195 00:16:08,120 --> 00:16:11,960 ‎ที่หนึ่งคือ มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 196 00:16:12,040 --> 00:16:15,920 ‎วันนี้เขาชนะไปแล้ว 460 มาร์ค 197 00:16:16,000 --> 00:16:20,760 ‎และตอนนี้จะได้รับอีก 236 มาร์ค 198 00:16:35,200 --> 00:16:36,320 ‎หลังจากหลายปีในช่วงนั้น 199 00:16:36,400 --> 00:16:39,840 ‎ผมเชื่อว่า ‎ยังไงผมก็คงเป็นนักแข่งโกคาร์ทไปตลอด 200 00:16:39,920 --> 00:16:45,640 ‎เพราะผมไม่กล้าคิด ‎ที่จะเข้าไปอยู่ในระดับฟอร์มูล่า 201 00:16:46,320 --> 00:16:47,720 ‎ด้วยเหตุผลเดียวเลยคือเงิน 202 00:16:58,440 --> 00:17:01,200 ‎ในปี 1988 มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่เตะตาผมอยู่ตลอด 203 00:17:01,280 --> 00:17:04,079 ‎เขาชื่อมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 204 00:17:04,160 --> 00:17:08,319 ‎ไม่ใช่เพราะชัยชนะอะไรนะ ‎แต่เป็นวิธีบังคับรถของเขา 205 00:17:08,400 --> 00:17:12,240 ‎ผมขอให้เขามาขับให้ทีมผม 206 00:17:12,319 --> 00:17:15,040 ‎แน่นอนว่าเงินคือปัญหา 207 00:17:15,599 --> 00:17:18,400 ‎ตอนนั้นมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ไม่มีอะไรเลย 208 00:17:18,480 --> 00:17:21,839 ‎ไม่มีแม้กระทั่งเงิน 500 มาร์ค ‎เป็นทุนในการแข่งหนึ่งซีซั่น 209 00:17:21,920 --> 00:17:24,720 ‎ซึ่งตอนนั้นถ้าจะแข่งต้องใช้เงินหกแสนถึงเจ็ดแสน 210 00:17:25,480 --> 00:17:27,240 ‎วิลลี่ เวเบอร์บอกเราว่า 211 00:17:28,040 --> 00:17:29,680 ‎"คืนนี้มาที่บ้านผมนะ 212 00:17:31,080 --> 00:17:32,480 ‎ผมจะให้เขาเซ็นสัญญาห้าปี 213 00:17:33,000 --> 00:17:34,240 ‎ให้รถหนึ่งคัน 214 00:17:34,320 --> 00:17:37,280 ‎และเงินเดือน 2,000 มาร์ค" 215 00:17:38,120 --> 00:17:40,520 ‎บ้าไปแล้ว 216 00:17:44,080 --> 00:17:46,160 ‎ถ้าคุณแข่งรถ 217 00:17:46,240 --> 00:17:51,400 ‎ผมว่าทุกคนฝัน ‎ว่าสักวันตัวเองจะได้แข่งฟอร์มูล่าวัน 218 00:17:51,480 --> 00:17:52,840 ‎ผมก็ฝันอย่างนั้น 219 00:18:07,200 --> 00:18:09,080 ‎ก่อนอื่นเลย 220 00:18:09,840 --> 00:18:13,880 ‎ฉันว่าฉันโชคดีมากที่ได้เจอมิชชาเอล 221 00:18:13,960 --> 00:18:17,800 ‎เขาเป็นคนที่น่ารักที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ 222 00:18:17,880 --> 00:18:19,120 ‎(โครินนา ชูมัคเคอร์ ‎ภรรยา) 223 00:18:23,480 --> 00:18:27,200 ‎มีอยู่ปีหนึ่งวันเกิดเขา ฉันทำมื้อเย็นให้เขา 224 00:18:27,280 --> 00:18:32,560 ‎เขาเป็นคนเดียว ‎ที่ช่วยฉันทำความสะอาดและล้างจาน 225 00:18:33,480 --> 00:18:37,040 ‎แล้วฉันก็คิดในใจว่า "ผู้ชายคนนี้ดีจริงๆ" 226 00:18:37,640 --> 00:18:41,320 ‎เขาเป็นคนตลกมาก ฉันเห็นความตลกในตัวเขา 227 00:18:41,400 --> 00:18:43,320 ‎ฉันตกหลุมรักเขา 228 00:18:44,040 --> 00:18:44,880 ‎เพราะ 229 00:18:45,680 --> 00:18:47,120 ‎เขาเป็นคนที่วิเศษจริงๆ 230 00:18:52,080 --> 00:18:55,760 ‎ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นสิ่งที่พิเศษสำหรับฉัน 231 00:19:06,560 --> 00:19:08,560 ‎ฉันไม่เคยคิดเลยว่า 232 00:19:08,640 --> 00:19:12,480 ‎"เขาเป็นนักแข่งรถที่สุดยอดมาก ‎ตั้งแต่เริ่มอาชีพเลย" 233 00:19:12,560 --> 00:19:15,640 ‎ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น 234 00:19:25,520 --> 00:19:28,680 ‎ตอนที่ผมเริ่ม ‎ผมพูดตลอดว่า "อย่าทำให้ผมเป็นคนดัง 235 00:19:28,760 --> 00:19:31,040 ‎อย่ากดดันผมเกิน ผมไม่ต้องการแบบนั้น" 236 00:19:37,240 --> 00:19:43,040 ‎สิ่งที่เขาไม่ชอบคือสื่อ ‎ผู้คน และการประโคมข่าวให้คนชอบเขา 237 00:19:43,120 --> 00:19:45,120 ‎เขาไม่ต้องการอะไรแบบนั้น 238 00:19:45,200 --> 00:19:46,880 ‎เขาแค่อยากแข่งกีฬา 239 00:19:57,240 --> 00:19:59,040 ‎เขาต้องการชีวิตธรรมดาเหมือนคนทั่วไป… 240 00:19:59,120 --> 00:20:00,000 ‎(จีน ท็อท ‎เพื่อน) 241 00:20:00,080 --> 00:20:03,160 ‎เขามีปัญหากับการเข้าใจว่า 242 00:20:03,240 --> 00:20:06,560 ‎เพราะอะไรเขาถึงมีชีวิตแบบคนทั่วไปไม่ได้ 243 00:20:06,640 --> 00:20:10,040 ‎เรื่องนี้เรื่องจริงนะ ‎บางครั้งเขาก็ดูเหมือนไม่เห็นใจผู้อื่น 244 00:20:10,800 --> 00:20:13,320 ‎เพราะเขาถูกเรียกร้องให้ทำนั่นนี่มากมาย 245 00:20:13,400 --> 00:20:16,680 ‎บ่อยครั้งมันมากเกินไป และเป็นการบีบรัดเขา 246 00:20:18,000 --> 00:20:22,160 ‎เพราะเขาขี้อายมาก ไม่ค่อยพูดหรือแสดงอารมณ์ 247 00:20:23,080 --> 00:20:28,640 ‎บางครั้งเขาก็จัดการความขี้อายของตัวเอง ‎ด้วยวิธีนั้น 248 00:20:35,160 --> 00:20:38,640 ‎ตอนที่มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎เข้ามาเป็นนักแข่งฟอร์มูล่าวัน 249 00:20:38,720 --> 00:20:42,200 ‎ตอนนั้นเซนนาเป็นนักแข่งที่ดังที่สุดในกีฬานี้ 250 00:20:43,640 --> 00:20:45,760 ‎แชมป์โลกครั้งที่สามของอาอีร์ตง เซนนา 251 00:20:45,840 --> 00:20:48,920 ‎เป็นตัวการันตีว่าเขา ‎จะเป็นหนึ่งในนักแข่งแถวหน้าตลอดกาล 252 00:20:51,240 --> 00:20:53,720 ‎อาอีร์ตงมีความลึกลับอยู่ในตัว 253 00:20:53,800 --> 00:20:55,640 ‎แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขาเป็นคนที่ไวมาก… 254 00:20:55,720 --> 00:20:57,560 ‎(เดม่อน ฮิลล์ ‎แชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน 1996) 255 00:20:57,640 --> 00:20:59,880 ‎ชอบเอาชนะมาก ดุดันมาก 256 00:20:59,960 --> 00:21:02,880 ‎และท้าทายมากสำหรับคู่แข่งคนอื่นๆ 257 00:21:02,960 --> 00:21:04,440 ‎เขาเลยครองวงการนี้ 258 00:21:11,360 --> 00:21:13,200 ‎เขาเป็นเบอร์หนึ่ง 259 00:21:14,040 --> 00:21:14,880 ‎เขาคือคนที่… 260 00:21:14,960 --> 00:21:16,040 ‎(เบอร์นี่ เอ็คเคิลสโตน) 261 00:21:16,120 --> 00:21:18,080 ‎ถ้าคุณถามนักแข่งฟอร์มูล่าวันหน้าใหม่ว่า 262 00:21:18,160 --> 00:21:19,600 ‎"คุณอยากเป็นอะไร" ทุกคนจะตอบว่า 263 00:21:20,320 --> 00:21:21,680 ‎"อาอีร์ตง เซนนา" 264 00:21:21,760 --> 00:21:23,120 ‎ทุกคนยกย่องเขา 265 00:21:23,840 --> 00:21:27,800 ‎ถ้าคุณเริ่มอาชีพเป็นนักแข่งฟอร์มูล่าวัน ‎คุณจะอยากเป็นเหมือนเขา 266 00:21:31,120 --> 00:21:35,160 ‎ตอนนั้นมิชชาเอลไม่มีชื่อเสียง ‎ไม่มีใครรู้ถึงความเก่งของเขา 267 00:21:35,760 --> 00:21:37,600 ‎และเขากำลังจะดวลกับคนที่เก่งที่สุด 268 00:21:42,000 --> 00:21:47,920 ‎(มักนีย์-กูร์ ประเทศฝรั่งเศส ‎5 กรกฎาคม 1992) 269 00:22:14,440 --> 00:22:16,480 ‎ในการแข่งเฟรนช์กรังด์ปรีซ์ที่มักนีย์-กูร์ 270 00:22:16,560 --> 00:22:18,720 ‎ชูมัคเคอร์ตามหลังเซนนา 271 00:22:18,800 --> 00:22:22,640 ‎ชูมัคเคอร์พยายามจะแซงอาอีร์ตง เซนนา ‎ที่อยู่ในรถแม็คลาเรน 272 00:22:36,920 --> 00:22:39,760 ‎พวกเขามาที่โค้งหักศอกแล้วครับ แล้วก็ชนกัน 273 00:22:39,840 --> 00:22:41,480 ‎นั่นใครครับ ชูมัคเคอร์ครับ 274 00:22:41,560 --> 00:22:43,840 ‎เขาชนใครครับ เขาชนเซนนา 275 00:22:43,920 --> 00:22:45,800 ‎นักแข่งกำลังขับเลี่ยงรถที่ขวางอยู่ 276 00:22:45,880 --> 00:22:47,440 ‎พวกเขาจะหยุดการแข่งขันมั้ย 277 00:22:47,520 --> 00:22:48,720 ‎ในรอบแรกเลยครับ 278 00:22:49,320 --> 00:22:50,480 ‎ที่โค้งหักศอก 279 00:22:50,560 --> 00:22:53,000 ‎เหมือนว่าชูมัคเคอร์กับเซนนา ‎จะต้องออกจากการแข่งขัน 280 00:22:53,080 --> 00:22:55,000 ‎ผมค่อนข้างมั่นใจว่าการแข่งขันจะไม่หยุด 281 00:22:59,840 --> 00:23:03,400 ‎ไม่แปลกใจครับที่อาอีร์ตง เซนนาจะโกรธ 282 00:23:03,480 --> 00:23:06,720 ‎และอาจจะมองว่ากลวิธีของมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 283 00:23:06,800 --> 00:23:09,080 ‎รุนแรงไปหน่อย 284 00:23:19,600 --> 00:23:22,360 ‎ผมว่ามิชชาเอลไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เขาโกรธ 285 00:23:22,440 --> 00:23:25,040 ‎ผมว่ามิชชาเอล ‎ก็แข่งกับทุกคนในฟอร์มูล่าวันนั่นแหละ 286 00:23:25,120 --> 00:23:27,720 ‎เขาก็แข่งเหมือนกับที่แข่งกับทุกคน ‎และแข่งในแบบที่ควรจะแข่ง 287 00:23:33,560 --> 00:23:35,280 ‎แต่มันกลับทำให้เกิดความบาดหมางขึ้น 288 00:23:35,360 --> 00:23:40,120 ‎มีอยู่สองสามครั้งที่อาอีร์ตง ‎พยายามทำให้มิชชาเอลรู้สึกด้อยบนสนาม 289 00:23:40,680 --> 00:23:43,120 ‎ซึ่งทำให้มิชชาเอลไม่พอใจ 290 00:23:43,200 --> 00:23:46,520 ‎เขาคิดว่าอาอีร์ตงไม่ให้เกียรติเขา ‎เหมือนที่เขาให้เกียรติอาอีร์ตง 291 00:23:46,600 --> 00:23:50,240 ‎ช่วงแรกๆ พวกเขาก็เลยหมางใจกัน 292 00:23:50,320 --> 00:23:52,680 ‎นายทำให้เราตกรอบ ‎ไม่เป็นไร ฉันมาคุยกับนายเฉยๆ 293 00:23:53,880 --> 00:23:55,320 ‎ไม่เป็นไรๆ ฉันมาคุยกับนายเฉยๆ 294 00:24:01,480 --> 00:24:05,640 ‎คุณจะเห็นได้ว่า ‎ตอนนั้นมิชชาเอลเป็นสุดยอดนักแข่ง 295 00:24:06,360 --> 00:24:08,680 ‎ตอนที่เขามีเรื่องกับเซนนา 296 00:24:10,200 --> 00:24:13,120 ‎เซนนาสัมผัสได้ว่าเขาไม่ธรรมดา 297 00:24:13,200 --> 00:24:14,080 ‎เมื่อคุณเป็นสิงโต 298 00:24:14,160 --> 00:24:16,960 ‎สิงโตทุกตัวจะสัมผัสได้ ‎เมื่อมีสิงโตหนุ่มตัวใหม่กำลังเข้ามา 299 00:24:17,040 --> 00:24:20,400 ‎เราจะหวงถิ่นของเรา 300 00:24:37,600 --> 00:24:40,080 ‎ปี 1994 เป็นปีที่รุ่งมาก 301 00:24:40,160 --> 00:24:43,080 ‎เป็นปีทองของมิชชาเอล และเป็นปีทองของผม 302 00:24:43,160 --> 00:24:46,120 ‎ไม่มีใครทำใจยอมรับได้ ‎ที่ทีมของเรามาจากไหนไม่รู้… 303 00:24:46,200 --> 00:24:48,480 ‎(รอส บรอว์น ‎อดีตผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค ทีมเบเนตตอง) 304 00:24:48,560 --> 00:24:49,760 ‎แต่ชนะการแข่งขันหลายครั้ง 305 00:24:49,840 --> 00:24:51,800 ‎จนได้มาแข่งในรายการชิงแชมป์ 306 00:24:54,440 --> 00:24:57,760 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์วิ่งได้ฉลุยครับ 307 00:25:02,000 --> 00:25:04,760 ‎นี่คือนักแข่งที่วิ่งนำในตอนนี้ มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 308 00:25:06,000 --> 00:25:09,600 ‎ในสมัยนั้นเขาจะสร้างปรากฏการณ์ ‎เมื่อมีความไม่แน่นอนว่าผู้ชนะจะเป็นใคร 309 00:25:09,680 --> 00:25:12,360 ‎คำถามคือ อาอีร์ตง เซนนาอยู่ไหน 310 00:25:13,000 --> 00:25:14,240 ‎รถเซนนาหมุนครับ 311 00:25:14,320 --> 00:25:16,600 ‎เซนนาถูกตัดออกจากการแข่งขันครับ 312 00:25:19,960 --> 00:25:22,120 ‎มาแล้วครับ เขาชนะแน่ 313 00:25:22,200 --> 00:25:24,560 ‎ธงตาหมากรุกยื่นออกมาแล้ว 314 00:25:24,640 --> 00:25:28,040 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ชนะแปซิฟิคกรังด์ปรีซ์ 315 00:25:28,840 --> 00:25:29,680 ‎โอ้โฮ 316 00:25:29,760 --> 00:25:33,560 ‎ซีซั่นของการแข่งฟอร์มูล่าวันในปีนี้จะต้องสนุกแน่ 317 00:25:37,640 --> 00:25:39,720 ‎หลังจากนั้นเราก็ได้เป็นผู้ท้าชิงแชมป์ 318 00:25:39,800 --> 00:25:41,920 ‎เราไม่ชินเลยครับ เราไม่รู้ว่าต้องทำยังไง 319 00:25:44,240 --> 00:25:48,000 ‎เมื่อคุณชนะเฟอร์รารี่ ‎ชนะแม็คลาเรน ชนะวิลเลียมส์ 320 00:25:48,720 --> 00:25:50,640 ‎ทีมเหล่านั้นเป็นทีมดังๆ ทั้งนั้น 321 00:25:50,720 --> 00:25:52,000 ‎แต่จู่ๆ 322 00:25:52,800 --> 00:25:54,560 ‎ก็มีผู้ผลิตเสื้อยืดเข้ามา 323 00:25:55,120 --> 00:25:57,400 ‎พร้อมกับเด็กคนหนึ่งจากเยอรมนี 324 00:25:58,000 --> 00:25:59,480 ‎แล้วก็ชนะทุกคนในทันใด 325 00:26:13,000 --> 00:26:14,480 ‎เขาชนะการแข่งที่ญี่ปุ่น 326 00:26:15,280 --> 00:26:17,760 ‎ตอนนั้นเรากำลังรออยู่ในสนามบิน 327 00:26:17,840 --> 00:26:23,000 ‎มิชชาเอลมั่นใจมาก ‎ว่าเขาเร็วพอที่จะเอาชนะอาอีร์ตง 328 00:26:23,560 --> 00:26:25,560 ‎และอาจจะชนะการแข่งชิงแชมป์ 329 00:26:26,160 --> 00:26:28,080 ‎เวลาคุยกับมิชชาเอล 330 00:26:29,080 --> 00:26:30,440 ‎เหมือนคุยกับ 331 00:26:30,960 --> 00:26:32,920 ‎เหมือนเขาทำงานนี้มาทั้งชีวิต 332 00:26:33,520 --> 00:26:34,760 ‎ซึ่งเป็นเรื่องปกติ 333 00:26:34,840 --> 00:26:36,000 ‎เซนนา… 334 00:26:36,080 --> 00:26:38,960 ‎สี่หรือห้าปีก่อนหน้านั้น 335 00:26:39,040 --> 00:26:41,600 ‎เขาติดโปสเตอร์รูปเซนนาในห้องนอนด้วยซ้ำ 336 00:26:43,440 --> 00:26:48,920 ‎(อิโมล่า ประเทศอิตาลี ‎1 พฤษภาคม 1994) 337 00:26:53,800 --> 00:26:58,000 ‎ตอนที่มิชชาเอลได้เข้าไปแข่งในสนามอิโมล่า ‎เขามาแรงมากๆ และมีแนวโน้มจะชนะ 338 00:26:58,080 --> 00:27:01,040 ‎เซนนารู้ว่าเขาต้องชนะการแข่งในอิโมล่าให้ได้ 339 00:27:01,120 --> 00:27:04,440 ‎เขาต้องเร่ิมลดช่องว่างของคะแนนที่ห่างกัน ‎ระหว่างเขากับมิชชาเอล 340 00:27:05,000 --> 00:27:07,200 ‎เขาต้องแสดงความเป็นเจ้าพ่อวงการ ‎ให้มิชชาเอลเห็น 341 00:27:07,280 --> 00:27:09,920 ‎ไม่อย่างนั้นมิชชาเอล ‎จะทิ้งห่างเขาในรอบชิงแชมป์ 342 00:27:18,480 --> 00:27:20,720 ‎ชูมัคเคอร์ตามหลังเซนนาครับ 343 00:27:21,440 --> 00:27:25,560 ‎ตอนนี้คู่แข่งหลักของอาอีร์ตง เซนนา ‎คือชูมัคเคอร์ 344 00:27:36,040 --> 00:27:37,080 ‎เซนนาวิ่งมาแล้วครับ 345 00:27:37,720 --> 00:27:39,040 ‎ตามด้วยชูมัคเคอร์ 346 00:27:45,280 --> 00:27:47,640 ‎วิ่งมาที่โค้งแทมบูเรลโล่ 347 00:28:02,760 --> 00:28:05,680 ‎เกิดอะไรขึ้นตรงนั้นครับ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน 348 00:28:07,160 --> 00:28:08,000 ‎เซนนา… 349 00:28:09,200 --> 00:28:11,080 ‎เซนนายังคงอยู่ในรถ 350 00:28:16,360 --> 00:28:18,680 ‎การแข่งขันยุติ ธงแดงถูกยกขึ้นแล้วครับ 351 00:28:19,600 --> 00:28:23,520 ‎เขาขับด้วยความเร็วประมาณ ‎305 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตรงจุดนั้น 352 00:28:23,600 --> 00:28:25,800 ‎ตอนที่ออกมาจากโค้งแทมบูเรลโล่ 353 00:28:29,080 --> 00:28:30,160 ‎ทุกคนเงียบ 354 00:28:30,240 --> 00:28:34,560 ‎บรรยากาศแปลกๆ 355 00:28:37,280 --> 00:28:39,600 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์… 356 00:28:40,720 --> 00:28:42,760 ‎หยุดรถและออกมาจากรถ 357 00:28:42,840 --> 00:28:45,080 ‎ถอดหมวก สีหน้าเคร่งเครียด 358 00:28:59,200 --> 00:29:01,720 ‎ความจริงคือ สิ่งที่เขากำลังทำตอนชน 359 00:29:01,800 --> 00:29:03,520 ‎ตอนที่รถเขาออกจากสนาม 360 00:29:03,600 --> 00:29:06,440 ‎เขาพยายามที่จะนำชูมัคเคอร์ 361 00:29:15,920 --> 00:29:19,640 ‎เราเคยเห็นการชนแบบนั้นมาแล้ว ‎รุนแรงกว่านั้นก็เคยเห็น 362 00:29:20,360 --> 00:29:24,480 ‎การชนที่เหมือนจะแรงกว่าที่เขาชน 363 00:29:26,120 --> 00:29:28,040 ‎และเราก็ไม่ได้คาดว่าจะเกิดอะไรแบบนั้นขึ้น 364 00:29:29,760 --> 00:29:34,320 ‎คุณแค่คิดว่า "อืม ก็คงจะมีแผลฟกช้ำที่แขน 365 00:29:34,400 --> 00:29:35,800 ‎หรือไม่ก็อาจจะขาหัก" 366 00:29:36,560 --> 00:29:37,600 ‎แล้วก็กลับไปบนสนาม 367 00:29:37,680 --> 00:29:39,600 ‎กริดสตาร์ทถูกตั้งใหม่ คุณไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 368 00:29:39,680 --> 00:29:42,080 ‎ไม่มีใครมาอธิบายให้คุณฟังว่าสถานการณ์คืออะไร 369 00:29:42,160 --> 00:29:45,960 ‎คุณก็จะคิดแค่ว่า "อ๋อ ต้องแข่งต่อ 370 00:29:46,040 --> 00:29:48,640 ‎ทุกคนต้องแข่งต่อ งั้นฉันก็ต้องแข่งต่อแหละ" 371 00:29:48,720 --> 00:29:50,800 ‎คุณไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ควรแข่งต่อ 372 00:29:58,080 --> 00:30:00,640 ‎ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าเซนนาเสียชีวิตมั้ย 373 00:30:06,360 --> 00:30:11,240 ‎ถ้ามีการประกาศที่สนามว่าเขาเสียชีวิต ‎พวกเขาจะยุติการแข่งขัน 374 00:30:14,000 --> 00:30:20,160 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ชนะซานมารีโนกรังด์ปรีซ์ประจำปี 1994 375 00:30:44,240 --> 00:30:46,160 ‎ก่อนที่ผมจะไปที่โพเดียม 376 00:30:46,240 --> 00:30:49,400 ‎ผมบอกมิชชาเอลว่า ‎"ไม่ถือแชมเปญนะ ไม่ถืออะไรทั้งนั้นมิชชาเอล" 377 00:30:49,480 --> 00:30:52,360 ‎เขาถามผมว่า "อาอีร์ตงเป็นไงบ้าง" ‎ผมตอบว่า "อาการแย่" 378 00:30:53,720 --> 00:30:55,760 ‎นั่นเป็นครั้งแรก… 379 00:30:57,080 --> 00:30:58,720 ‎ที่ผมเห็นมิชชาเอลเป็นอีกคน 380 00:31:12,880 --> 00:31:14,800 ‎เราขึ้นไปบนโพเดียม 381 00:31:14,880 --> 00:31:18,640 ‎เขาบอกเราว่า "อาอีร์ตงอาการโคม่า" 382 00:31:18,720 --> 00:31:21,240 ‎แต่อาการโคม่ามีหลายอย่าง 383 00:31:21,320 --> 00:31:25,000 ‎อาจจะเป็นอะไรสักอย่างแล้ววันถัดมาก็ดีขึ้น 384 00:31:25,960 --> 00:31:27,520 ‎หรืออาจจะแย่มากๆ เราจะไม่ตัดสิน 385 00:31:27,600 --> 00:31:30,760 ‎เพราะเรายังคงไม่เชื่อว่า 386 00:31:31,480 --> 00:31:34,480 ‎มันผิดธรรมดา อันตรายมากๆ หรือหนักมากๆ 387 00:31:35,320 --> 00:31:36,840 ‎เรายังคงไม่เชื่อ 388 00:31:36,920 --> 00:31:38,000 ‎ผมยัง… 389 00:31:39,160 --> 00:31:41,280 ‎สองชั่วโมงหลังจากแข่งเสร็จ 390 00:31:42,000 --> 00:31:46,440 ‎คุณวอลคินชอว์เดินมาหาผม ‎แล้วบอกว่า "ดูท่าจะไม่ดี" 391 00:31:46,520 --> 00:31:50,360 ‎แล้วผมก็คิดในใจว่า "ไม่นะ เขาแค่อาการโคม่า ‎โคม่าไม่ได้แปลว่าอาการหนักมาก" 392 00:31:50,440 --> 00:31:53,040 ‎เขาบอกว่า "ไม่ๆ อาการไม่สู้ดี" 393 00:31:55,960 --> 00:31:58,320 ‎หลังจากนั้นก็มีคนหนึ่งเดินมาหาผมแล้วบอกว่า 394 00:31:59,000 --> 00:32:00,120 ‎"เขาตายแล้ว" 395 00:32:01,880 --> 00:32:05,200 ‎หนึ่งนาทีต่อมา อีกคนเดินมาบอกว่า 396 00:32:05,280 --> 00:32:06,400 ‎"ไม่นะ เขาอาการโคม่า" 397 00:32:07,040 --> 00:32:10,720 ‎ณ ตอนนั้นข้อมูลน้อยมาก 398 00:32:11,520 --> 00:32:14,080 ‎จนไม่รู้ว่าควรคิดยังไงกับเรื่องนี้ 399 00:32:14,160 --> 00:32:17,920 ‎ผมยังคงไม่เชื่อว่าเขาจะตายจริงๆ 400 00:32:18,000 --> 00:32:21,440 ‎ตอนนั้นผมไม่สามารถที่จะคิดอย่างนั้นได้ 401 00:32:21,520 --> 00:32:24,320 ‎ผมคิดแค่ว่า ‎"ไม่ๆ เขาจะกลับมาคว้าแชมป์แน่นอน" 402 00:32:25,280 --> 00:32:28,600 ‎"เขาอาจจะไม่ได้แข่งแค่สองสามครั้ง ‎แต่หลังจากนั้นเขาจะต้องกลับมา" 403 00:32:32,800 --> 00:32:35,720 ‎สิ่งที่แย่ที่สุดคือสองอาทิตย์หลังจากนั้น 404 00:32:35,800 --> 00:32:40,160 ‎มันคือตอนที่ผมต้องยอมรับความจริง 405 00:32:40,240 --> 00:32:41,320 ‎ความจริงที่ว่าเขาตาย 406 00:32:41,400 --> 00:32:42,240 ‎มัน… 407 00:32:43,000 --> 00:32:43,960 ‎มัน… 408 00:32:45,880 --> 00:32:47,200 ‎มันเป็นอะไรที่บ้ามาก 409 00:32:58,360 --> 00:32:59,240 ‎เซนนาไม่อยู่แล้ว… 410 00:32:59,320 --> 00:33:00,920 ‎(ริชาร์ด วิลเลียมส์ ‎นักเขียนข่าวกีฬา) 411 00:33:01,000 --> 00:33:02,080 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 412 00:33:03,320 --> 00:33:05,280 ‎กลายเป็นเบอร์หนึ่งในวงการนี้ 413 00:33:06,400 --> 00:33:10,040 ‎ถึงจะยังไม่ได้ชนะแชมป์โลกก็ตาม 414 00:33:15,560 --> 00:33:18,200 ‎มันง่ายมั้ยครับที่จะกลับมาแข่งอีกครั้ง 415 00:33:29,280 --> 00:33:32,120 ‎ผมไปที่ซิลเวอร์สโตน 416 00:33:34,840 --> 00:33:37,160 ‎แล้วทันใดนั้น ‎ผมก็มองอะไรหลายอย่างด้วยมุมมองใหม่ 417 00:33:38,120 --> 00:33:41,440 ‎ผมขับรถยนต์แบบทั่วไปวนในสนามที่ซิลเวอร์สโตน 418 00:33:41,520 --> 00:33:44,400 ‎แล้วก็คิดในใจว่า "นี่คือจุดที่นายอาจจะตายได้ 419 00:33:44,480 --> 00:33:46,040 ‎นี่คือจุดที่นายอาจจะตายได้" 420 00:33:46,120 --> 00:33:49,880 ‎ผมคิดในใจว่า "ให้ตายเถอะ ‎นายทดสอบรถที่นี่เป็นประจำ แข่งที่นี่ประจำ 421 00:33:49,960 --> 00:33:53,360 ‎แต่มีหลายจุดมากที่นายอาจจะชนแล้วตายทันที" 422 00:33:53,440 --> 00:33:55,400 ‎ตอนนั้นผมคิดอยู่แต่เรื่องนั้น 423 00:34:00,720 --> 00:34:04,760 ‎ผมไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง ‎ถ้าผมกลับไปแข่งรถ 424 00:34:06,800 --> 00:34:07,840 ‎ผมไม่มั่นใจ 425 00:34:07,920 --> 00:34:10,560 ‎ผมจะแข่งโดยไม่คิดถึงเรื่องนั้นได้มั้ย 426 00:34:10,639 --> 00:34:13,120 ‎หรือว่าผมจะกลับไปแข่งแล้วคิดอยู่ในหัวตลอดว่า 427 00:34:13,199 --> 00:34:14,400 ‎"นายอาจจะตายที่ตรงนี้" 428 00:34:14,480 --> 00:34:16,840 ‎"ถ้านายหลุดออกสนามที่ตรงนี้ ‎อาการนายจะสาหัสและ…" 429 00:34:18,080 --> 00:34:19,159 ‎มัน… 430 00:34:20,400 --> 00:34:21,760 ‎เป็นอะไรที่แปลกมาก 431 00:34:31,400 --> 00:34:33,120 ‎ผมตื่นนอนกลางดึก 432 00:34:34,800 --> 00:34:37,679 ‎ผมนอนแค่ประมาณสามชั่วโมงต่อคืน 433 00:34:37,760 --> 00:34:38,880 ‎ผมมีอาการทำนองนั้น 434 00:34:57,720 --> 00:34:59,360 ‎แน่นอนว่าเราตกใจมาก 435 00:34:59,440 --> 00:35:03,800 ‎เราถามตัวเองว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง 436 00:35:03,880 --> 00:35:08,840 ‎มิชชาเอลก็ถามตัวเองเหมือนกันว่า ‎ทุกคนปฏิบัติตัวถูกต้องมั้ย 437 00:35:08,920 --> 00:35:10,920 ‎มัน… 438 00:35:12,640 --> 00:35:13,680 ‎ยากมาก 439 00:35:13,760 --> 00:35:16,520 ‎เขาต้องต่อสู้กับมันหนักมาก 440 00:35:16,600 --> 00:35:20,200 ‎แต่เขามีความสามารถ ‎ในการหยุดคิดถึงสิ่งที่ทำให้ไขว้เขว 441 00:35:20,280 --> 00:35:24,240 ‎เขาสามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังทำได้ดีมาก 442 00:35:24,320 --> 00:35:26,960 ‎จนไม่เผลอคิดถึงสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวเลย 443 00:35:28,320 --> 00:35:30,360 ‎เขาเข้มแข็งมากทางด้านจิตใจ 444 00:35:31,120 --> 00:35:32,640 ‎มันคือความสามารถที่เขามี 445 00:35:32,720 --> 00:35:34,320 ‎เข้มแข็งมากค่ะ 446 00:35:34,400 --> 00:35:38,040 ‎เขายังคงแสดงให้ฉันเห็นทุกวัน ‎ว่าเขาเข้มแข็งขนาดไหน 447 00:35:46,320 --> 00:35:49,240 ‎ตอนนั้นเดม่อน ฮิลล์ ‎ขึ้นมาเป็นนักแข่งหลักของทีมวิลเลียมส์ 448 00:35:49,880 --> 00:35:51,920 ‎เขาทำให้มิชชาเอลรู้สึกว่ามีคู่แข่ง 449 00:35:52,560 --> 00:35:55,720 ‎เดม่อน ฮิลล์ชนะบริติชกรังด์ปรีซ์ 450 00:35:55,800 --> 00:35:57,360 ‎สุดยอดจริงๆ 451 00:36:05,040 --> 00:36:07,760 ‎เดม่อน ฮิลล์ชนะอิตาเลียนกรังด์ปรีซ์ 452 00:36:07,840 --> 00:36:09,520 ‎ปีก่อนเขาก็ชนะที่นี่ 453 00:36:09,600 --> 00:36:11,040 ‎สิ้นสุดการชนะสามครั้งติดกันของ… 454 00:36:13,600 --> 00:36:20,080 ‎มันคือเหตุการณ์ที่ซับซ้อน ‎ดุเดือด และแปรปรวนของซีซั่นนั้นๆ 455 00:36:21,120 --> 00:36:26,800 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ชนะยูโรเปียนกรังด์ปรีซ์ที่เจเรซ 456 00:36:27,560 --> 00:36:30,760 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ทำให้มีช่องว่างของคะแนนอีกครั้ง 457 00:36:30,840 --> 00:36:33,040 ‎มันคือเรื่องราวของมนุษย์ที่เข้มข้น 458 00:36:33,120 --> 00:36:37,280 ‎เดม่อนกับมิชชาเอล ‎สลับกันชนะอย่างกับลูกตุ้มที่เหวี่ยงไปมา 459 00:36:39,240 --> 00:36:41,160 ‎เดม่อน ฮิลล์ชนะ 460 00:36:41,240 --> 00:36:43,600 ‎เดม่อน ฮิลล์ ‎จะต้องเจอความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต 461 00:36:43,680 --> 00:36:46,160 ‎เขาจะต้องดวลกับมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ตัวต่อตัว 462 00:36:46,240 --> 00:36:52,360 ‎(แอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย ‎13 พฤศจิกายน 1994) 463 00:36:54,240 --> 00:36:59,720 ‎ประเด็นคือเรารู้ว่า ‎การแข่งครั้งนี้เป็นการแข่งชี้ชะตาของเขา 464 00:37:00,280 --> 00:37:03,080 ‎กลยุทธ์ทั้งหมด วิธีการแซง 465 00:37:03,160 --> 00:37:05,840 ‎สถานการณ์จะเป็นไปตามปัจจัยเหล่านั้น 466 00:37:08,320 --> 00:37:11,360 ‎ชูมัคเคอร์กับฮิลล์คะแนนห่างกันแต้มเดียว 467 00:37:11,440 --> 00:37:15,160 ‎การแข่งชิงแชมป์จึงกลายเป็น ‎การแข่งนัดสุดท้ายที่แสนจะตื่นเต้นเร้าใจ 468 00:37:15,240 --> 00:37:18,920 ‎ตามความเป็นจริงคือ ‎มันดูเหมือนจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น 469 00:37:19,000 --> 00:37:20,720 ‎ผมไปแข่งนัดนั้น 470 00:37:21,600 --> 00:37:24,840 ‎จู่ๆ ก็ต้องไปแข่งชิงแชมป์กับมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 471 00:37:24,920 --> 00:37:29,240 ‎ไฟแดงที่แอดิเลดออกแล้วครับ 472 00:37:29,320 --> 00:37:32,680 ‎เรากำลังจะแข่งเป็นครั้งสุดท้ายในซีซั่นนี้ 473 00:37:32,760 --> 00:37:33,960 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์นำครับ 474 00:37:35,040 --> 00:37:35,920 ‎ชูมัคเคอร์นำครับ 475 00:37:36,000 --> 00:37:37,360 ‎หรือเดม่อน ฮิลล์กันแน่ 476 00:37:37,440 --> 00:37:39,280 ‎ชูมัคเคอร์นำฮิลล์อยู่ครับ 477 00:37:59,480 --> 00:38:01,680 ‎ผมต้องใช้พลังในการบังคับรถสูงมาก 478 00:38:02,280 --> 00:38:06,240 ‎มันยากมากสำหรับผม ‎ที่จะบังคับให้รถอยู่บนทางตลอดเวลา 479 00:38:07,000 --> 00:38:09,840 ‎และผมขับหนีไม่พ้นเดม่อน 480 00:38:16,120 --> 00:38:17,600 ‎เราวิ่งติดกันเลย 481 00:38:18,160 --> 00:38:19,960 ‎ประมาณ 20 รอบได้ 482 00:38:20,920 --> 00:38:22,320 ‎มิชชาเอลเริ่มทิ้งห่างเรื่อยๆ 483 00:38:22,920 --> 00:38:26,040 ‎แล้วผมก็เริ่มคิดว่า ‎"ผมวิ่งเร็วขนาดนั้นไม่ได้แน่ๆ" 484 00:38:42,280 --> 00:38:48,360 ‎มีอยู่ช่วงหนึ่งที่อยู่ๆ ‎ผมก็เจอเส้นที่ผมสามารถทิ้งห่างไปได้สักพัก 485 00:38:48,440 --> 00:38:50,640 ‎ประมาณสองวินาที สองวินาทีครึ่ง 486 00:39:07,800 --> 00:39:10,640 ‎ผมเหยียบสุดตลอด ผมสู้ขาดใจ 487 00:39:10,720 --> 00:39:13,440 ‎ผมวิ่งไปเจอลูกคลื่น แล้วรถก็ออกจากสนาม 488 00:39:13,960 --> 00:39:14,800 ‎แล้วก็ 489 00:39:15,480 --> 00:39:16,840 ‎ครูดกับกำแพง 490 00:39:18,160 --> 00:39:20,720 ‎ผมผิดหวังทันทีและคิดในใจว่า "เชี่ยเอ๊ย" 491 00:39:20,800 --> 00:39:23,680 ‎แต่ผมก็รู้สึกว่า "โอเค ไปต่อได้อยู่" 492 00:39:28,440 --> 00:39:31,840 ‎ตอนที่เรากำลังเลี้ยวตรงโค้งหนึ่ง ‎ผมเห็นเขาวิ่งกลับเข้ามาในสนาม 493 00:39:31,920 --> 00:39:35,080 ‎เหมือนเขาหลุดออกจากสนามแล้วกลับเข้ามา 494 00:39:35,160 --> 00:39:36,400 ‎แล้วผมก็เห็นรถเขาส่าย 495 00:39:36,960 --> 00:39:38,520 ‎ตอนที่ผมขับเบี่ยงไปทางซ้าย 496 00:39:38,600 --> 00:39:41,960 ‎ผมทำแบบนี้เพื่อเช็กทุกอย่าง ‎สลัดเอาสิ่งที่ติดล้อออก 497 00:39:42,760 --> 00:39:45,640 ‎ผมเห็นโอกาสในการแซง ‎และผมรู้สึกว่าผมต้องแซง 498 00:39:45,720 --> 00:39:47,280 ‎ดูเดม่อน ฮิลล์กับชูมัคเคอร์สิครับ 499 00:39:47,360 --> 00:39:48,760 ‎ไม่นะ 500 00:39:48,840 --> 00:39:50,600 ‎ทันทีที่ผมเลี้ยวเข้าโค้ง 501 00:39:50,680 --> 00:39:52,880 ‎เดม่อนมาชนผมที่กล่องดักลมด้านข้าง 502 00:39:53,480 --> 00:39:54,960 ‎รถเขาวิ่งกลับเข้ามา 503 00:39:55,800 --> 00:39:56,720 ‎แล้วก็ชนรถผม 504 00:39:57,320 --> 00:39:58,800 ‎แล้วรถเขาก็ยกขึ้นสองล้อ 505 00:40:04,000 --> 00:40:06,920 ‎ตอนนั้นผมลอยขึ้นในอากาศ ‎แล้วก็ไถลไปชนกำแพงล้อยาง 506 00:40:07,000 --> 00:40:09,560 ‎ผมแบบ ผมไม่เข้าใจ 507 00:40:11,760 --> 00:40:13,600 ‎ชูมัคเคอร์ออกจากการแข่งขันครับ 508 00:40:13,680 --> 00:40:17,240 ‎นักแข่งเยอรมัน ‎ออกจากการแข่งขันออสเตรเลียนกรังด์ปรีซ์ 509 00:40:17,320 --> 00:40:21,680 ‎ส่วนเดม่อน ฮิลล์ ‎ก็แค่ขับไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นแชมป์โลก 510 00:40:22,360 --> 00:40:25,200 ‎เรื่องที่คะแนนห่างกันไม่มีอะไรเลยครับ 511 00:40:25,280 --> 00:40:27,080 ‎เขาแค่คะแนนมากกว่าผม 512 00:40:27,600 --> 00:40:30,160 ‎ถ้าผมหรือเขาไม่ออกจากการแข่งขัน ‎เขาได้เป็นแชมป์แน่นอน 513 00:40:32,440 --> 00:40:35,000 ‎เดม่อน ฮิลล์ต้องกลับไปที่พิทสต็อปก่อน 514 00:40:39,680 --> 00:40:41,800 ‎ผมเห็นเลยว่าคานรถหัก 515 00:40:42,480 --> 00:40:43,800 ‎ผมไม่สามารถขับต่อได้ 516 00:40:45,080 --> 00:40:46,240 ‎ในฐานะคู่แข่ง 517 00:40:46,800 --> 00:40:48,440 ‎ยังไงเขาก็ต้องชนะ 518 00:40:49,640 --> 00:40:52,960 ‎มิชชาเอลทำสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อกันไม่ให้ผมชนะ 519 00:40:54,600 --> 00:40:55,680 ‎ให้ผมไปแข่ง 520 00:40:58,320 --> 00:40:59,160 ‎ที่แอดิเลด 521 00:40:59,240 --> 00:41:00,840 ‎แล้วให้แต้มของผมนำคู่แข่ง 522 00:41:00,920 --> 00:41:03,080 ‎แล้วคู่แข่งเข้ามาที่เส้นใน ผมต้องทำยังไง 523 00:41:03,760 --> 00:41:04,600 ‎ผมไม่รู้ครับ 524 00:41:05,560 --> 00:41:11,240 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ชนะการแข่งขันชิงแชมป์โลกปี 1994 525 00:41:11,320 --> 00:41:15,120 ‎(การแข่งขันชิงแชมป์โลกฟอร์มูล่าวันปี 1994) 526 00:41:44,960 --> 00:41:47,080 ‎โครินนาคอยสนับสนุนผมเป็นอย่างดี 527 00:41:47,160 --> 00:41:49,080 ‎และตอนนี้เธอก็กำลังทำอย่างนั้น 528 00:41:49,880 --> 00:41:52,520 ‎นั่นคือเหตุผลที่โครินนาอยากมา 529 00:41:52,600 --> 00:41:54,200 ‎และผมก็อยากให้เธอมา 530 00:41:54,280 --> 00:41:58,480 ‎เหมือนว่าเธอนำโชคมาให้ผมอีกครั้ง 531 00:42:10,000 --> 00:42:12,440 ‎ที่จริงแล้วตลอดหลายปีนั้น 532 00:42:13,080 --> 00:42:14,640 ‎ฉันไปกับเขาทุกครั้ง 533 00:42:14,720 --> 00:42:19,000 ‎เราอาจจะนั่งด้วยกันบนรถบัส ‎หรือไม่ก็แอบอยู่ด้วยกันตรงไหนสักที่ 534 00:42:19,600 --> 00:42:22,080 ‎แต่ฉันอยู่กับเขาตลอดเวลาเดินทาง 535 00:42:22,160 --> 00:42:24,160 ‎เราสนุกกันทุกครั้ง 536 00:42:27,640 --> 00:42:30,800 ‎มันเป็นการสนับสนุนเขาอย่างหนึ่ง 537 00:42:30,880 --> 00:42:33,600 ‎ที่ทำให้เขารู้ว่าเขาไม่ได้โดดเดี่ยว 538 00:42:40,720 --> 00:42:42,600 ‎เราเดินทางรอบโลก 539 00:42:43,760 --> 00:42:46,120 ‎เปลี่ยนเขตเวลาบ่อย 540 00:42:46,200 --> 00:42:50,520 ‎เราต้องทำให้เขาได้นอนหลับอย่างดี 541 00:42:50,600 --> 00:42:55,720 ‎มิชชาเอลวางแผนเกือบทุกอย่างไว้เป็นนาที 542 00:42:55,800 --> 00:42:57,080 ‎ตื่นเวลาเท่านี้นะ 543 00:42:57,760 --> 00:43:00,160 ‎ใช้เวลาในห้องน้ำ 15 ถึง 20 นาทีนะ 544 00:43:00,240 --> 00:43:01,680 ‎มีอยู่คืนหนึ่งเราอยู่ที่ซูซูกะ 545 00:43:01,760 --> 00:43:07,360 ‎ฉันรู้ว่ายังไงฉันก็นอนไม่หลับ 546 00:43:07,880 --> 00:43:11,760 ‎ฉันเลยใช้เวลาครึ่งหนึ่งของคืนนั้นนั่งอยู่ในห้องน้ำ 547 00:43:11,840 --> 00:43:16,040 ‎เพื่อที่เขาจะได้ไม่ตื่น เพื่อให้เขาหลับสนิทเต็มที่ 548 00:43:16,640 --> 00:43:19,160 ‎ฉันนั่งอ่านหนังสือในห้องน้ำ 549 00:43:19,240 --> 00:43:23,720 ‎ในทางกลับกัน ‎ถ้าเราอยู่ที่บ้าน แล้วมิชชาเอลต้องออกแต่เช้า 550 00:43:24,360 --> 00:43:25,920 ‎ฉันไม่เคยได้ยินเสียงเขาเลย 551 00:43:27,240 --> 00:43:28,880 ‎เขาเงียบมาก 552 00:43:28,960 --> 00:43:32,560 ‎ก่อนออกจากบ้าน เขาจะเดินมาที่เตียงฉัน 553 00:43:33,120 --> 00:43:37,320 ‎ลูบแขนฉัน หอมฉัน ‎แล้วก็บอกว่า "ผมจะไปแล้วนะ" 554 00:43:37,400 --> 00:43:38,440 ‎แล้วเขาก็ไป 555 00:43:38,520 --> 00:43:40,360 ‎เขาไม่เคยทำให้ฉันตื่นเลย 556 00:43:40,440 --> 00:43:42,360 ‎เขาเกรงใจฉันเสมอ 557 00:43:50,040 --> 00:43:53,240 ‎(ฮ็อคเคินไฮม์ ประเทศเยอรมนี ‎30 กรกฎาคม 1995) 558 00:43:53,320 --> 00:43:56,120 ‎ผู้ชมกำลังส่งเสียง ธงกำลังสะบัด 559 00:43:56,200 --> 00:43:57,560 ‎เพื่อต้อนรับมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 560 00:43:57,640 --> 00:44:01,200 ‎ไอดอลและฮีโร่ของพวกเขา ‎ในสนามที่ประเทศของตัวเอง 561 00:44:01,280 --> 00:44:04,160 ‎เขาชนะเยอรมันกรังด์ปรีซ์ 562 00:44:05,200 --> 00:44:07,000 ‎นี่คือฮีโร่ที่ผมพูดถึงครับ 563 00:44:07,080 --> 00:44:11,600 ‎และที่เห็นตรงนั้นคือคนที่ยกย่องและนับถือเขา 564 00:44:12,520 --> 00:44:15,640 ‎ตรงนั้นมีชาวเยอรมันมากกว่าหนึ่งแสนคน 565 00:44:15,720 --> 00:44:18,680 ‎นี่คือสิ่งที่พวกเขาเฝ้ารอมานาน 566 00:44:18,760 --> 00:44:21,920 ‎รอที่จะเห็นคนเยอรมันชนะเยอรมันกรังด์ปรีซ์ 567 00:44:23,080 --> 00:44:26,000 ‎(ไอดะ ประเทศญี่ปุ่น ‎22 ตุลาคม 1995) 568 00:44:26,080 --> 00:44:29,920 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎วิ่งเข้ามุมสุดท้ายของการแข่งขันรอบสุดท้าย 569 00:44:30,000 --> 00:44:31,280 ‎และของรอบวิ่งรอบสุดท้าย 570 00:44:31,360 --> 00:44:34,880 ‎เพื่อชนะแปซิฟิคกรังด์ปรีซ์ในญี่ปุ่น 571 00:44:34,960 --> 00:44:38,480 ‎และเป็นแชมป์โลกปี 1995 572 00:44:38,560 --> 00:44:42,040 ‎ทั้งนี้เขาเป็นแชมป์โลกปี 1994 ด้วยครับ 573 00:44:42,120 --> 00:44:45,400 ‎ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานเพิ่มเติม 574 00:44:45,480 --> 00:44:48,120 ‎ว่าเขาเป็นนักแข่งที่เก่งที่สุดในยุคของเขา 575 00:45:03,360 --> 00:45:08,320 ‎ผมว่ามิชชาเอล ‎ไม่ได้อยากเพิ่มจำนวนครั้งที่เขาชนะแชมป์โลก 576 00:45:08,960 --> 00:45:13,360 ‎ถ้าเขายังแข่งให้เบเนตตอง ‎ผมว่าเขาชนะแชมป์โลกปี 1996 ด้วยแน่นอน 577 00:45:14,080 --> 00:45:15,680 ‎แต่สิ่งนั้นไม่ได้จูงใจเขาแล้ว 578 00:45:27,840 --> 00:45:29,840 ‎เมื่อคุณกำลังขับรถ คุณกำลังคุมชะตาของตัวเอง 579 00:45:29,920 --> 00:45:31,320 ‎(รอน เดนนิส ‎อดีตผอ.ทีมแม็คลาเรน) 580 00:45:35,840 --> 00:45:37,360 ‎คุณมีโอกาสแค่ครั้งเดียว 581 00:45:37,440 --> 00:45:40,120 ‎ในวงการฟอร์มูล่าวัน ‎ทุกคนจะระวังการกระทำและคำพูดมาก 582 00:45:40,200 --> 00:45:45,040 ‎ไม่มีทางที่ใครจะเดินไปหานักแข่งที่พิทสต็อป ‎แล้วถามว่า "ขอคุยด้วยได้มั้ย" 583 00:45:45,120 --> 00:45:46,040 ‎ไม่มีครับ 584 00:45:46,120 --> 00:45:49,160 ‎เขาได้รับข้อเสนอมากมาย 585 00:45:49,840 --> 00:45:51,280 ‎เขาจะอยู่ที่เดิมก็ได้ 586 00:45:52,480 --> 00:45:54,160 ‎แต่ถ้าอยู่กับแม็คลาเรน 587 00:45:54,240 --> 00:45:56,800 ‎เขาจะได้ขับรถแม็คลาเรน ‎ที่เครื่องยนต์เป็นของเมอร์เซเดส 588 00:45:58,160 --> 00:46:00,400 ‎เขาจะเป็นนักแข่งให้เฟอร์รารี่ก็ได้ 589 00:46:01,520 --> 00:46:05,280 ‎ตอนนั้นนิกิ เลาดาเป็นที่ปรึกษาให้เฟอร์รารี่ 590 00:46:05,880 --> 00:46:08,800 ‎สถานการณ์ของเฟอร์รารี่ในตอนนั้นถือว่าดีทีเดียว 591 00:46:10,200 --> 00:46:12,240 ‎นิกิ เลาดามาหาผมแล้วพูดว่า 592 00:46:13,240 --> 00:46:18,200 ‎"ถ้าเขาอยู่กับแม็คลาเรน ‎เขาจะเป็นแค่นักแข่งคนหนึ่งที่ชนะการแข่งขัน 593 00:46:18,280 --> 00:46:22,040 ‎แต่ถ้าเขามาอยู่กับเฟอร์รารี่ ‎เขาจะเป็นนักแข่งชั้นเลิศ 594 00:46:22,120 --> 00:46:26,200 ‎ที่แม้จะหยุดแข่งไป ‎แต่ก็ยังชนะการแข่งขันด้วยรถเฟอร์รารี่" 595 00:46:26,280 --> 00:46:29,840 ‎สิ่งนั้นถูกจริตนักสู้ของเขา 596 00:46:29,920 --> 00:46:32,560 ‎ซึ่งเกิดขึ้นมาตอนที่เป็นนักแข่งโกคาร์ท 597 00:46:33,280 --> 00:46:36,040 ‎เขาชนะการแข่งขัน ‎ด้วยรถโกคาร์ทมือสองและยางที่ใช้แล้ว 598 00:46:36,120 --> 00:46:38,400 ‎แล้วทำไมเขา ‎จะไม่มาอยู่กับเฟอร์รารี่และทำสิ่งนั้นล่ะ 599 00:46:39,200 --> 00:46:40,600 ‎คำแนะนำสุดท้ายของผมคือ 600 00:46:40,680 --> 00:46:46,080 ‎"ถ้าคุณชนะแชมป์โลกด้วยรถเฟอร์รารี่ ‎คุณทิ้งหนังสือเดินทางได้เลย" 601 00:46:50,920 --> 00:46:52,040 ‎ชูมัคเคอร์ 602 00:47:26,240 --> 00:47:28,960 ‎เฟอร์รารี่คือทีมที่เก่าแก่ที่สุด 603 00:47:29,560 --> 00:47:35,520 ‎ในอิตาลี เฟอร์รารี่เป็นเหมือนศาสนาหนึ่งเลย 604 00:47:36,240 --> 00:47:37,520 ‎ดังนั้นมันมีความคาดหวังอยู่ 605 00:47:37,600 --> 00:47:42,000 ‎ผู้คนในอิตาลีคลั่งไคล้เฟอร์รารี่มาก 606 00:47:45,160 --> 00:47:51,160 ‎มีความคาดหวังสูง ‎กับนักแข่งทุกคนที่แข่งให้เฟอร์รารี่ 607 00:47:53,400 --> 00:47:55,640 ‎ประธานเฟอร์รารี่พูดว่า 608 00:47:55,720 --> 00:48:00,480 ‎"ปีก่อนเรามีนักแข่งฝีมือเยี่ยมสองคน ‎แต่ปีนี้เรามีนักแข่งดาวรุ่ง" 609 00:48:02,520 --> 00:48:05,520 ‎การขับรถเฟอร์รารี่หมายถึงความกดดันที่สูง 610 00:48:06,240 --> 00:48:09,880 ‎การขับรถเฟอร์รารี่หมายถึง ‎ถ้าคุณไม่ชนะ คุณคือคนโง่ 611 00:48:09,960 --> 00:48:12,200 ‎(ลูคา ดิ มอนเตเซโมโล ‎อดีตประธานของเฟอร์รารี่) 612 00:48:12,280 --> 00:48:16,320 ‎การขับรถเฟอร์รารี่หมายถึงการมีภาระหน้าที่ 613 00:48:16,400 --> 00:48:20,080 ‎เพราะคุณไม่ได้ขับรถฟอร์มูล่าวันทั่วไป 614 00:48:20,160 --> 00:48:21,760 ‎แต่คุณขับรถที่เป็นตำนาน 615 00:48:21,840 --> 00:48:24,720 ‎คุณขับสิ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ 616 00:48:27,280 --> 00:48:30,680 ‎เราเข้าไปเป็นนักแข่งของเฟอร์รารี่พร้อมกัน ‎ในปี 1996 617 00:48:31,400 --> 00:48:36,200 ‎ผมจำได้เลยว่าตอนนั่งในรถ ผมพูดว่า ‎"มันรู้สึกต่างจากคันอื่นๆ แบบน่าเป็นห่วง" 618 00:48:37,120 --> 00:48:38,680 ‎แล้วก็โชคไม่ดีจริงๆ ครับ 619 00:48:38,760 --> 00:48:40,200 ‎ที่ผมคิดนั้นถูก 620 00:48:40,280 --> 00:48:41,120 ‎(เอ็ดดี้ เออร์ไวน์) 621 00:48:41,200 --> 00:48:42,520 ‎รถห่วยมาก 622 00:48:48,280 --> 00:48:52,560 ‎เราไม่เข้าใจอยู่พักหนึ่งเลยว่ารถแย่ขนาดไหน 623 00:48:53,120 --> 00:48:53,960 ‎และ… 624 00:48:55,760 --> 00:48:58,080 ‎กลายเป็นว่ามันแทบจะซ่อมไม่ได้ 625 00:48:58,160 --> 00:49:01,280 ‎ปรัชญาพื้นฐานของรถมันผิด 626 00:49:02,680 --> 00:49:05,560 ‎เมื่อเช้านี้เดม่อน ฮิลล์ ‎ชนเฟรนท์เซนอย่างแรงตรงนี้ 627 00:49:05,640 --> 00:49:07,920 ‎ชูมัคเคอร์มีปัญหาแล้วครับ 628 00:49:08,000 --> 00:49:11,120 ‎เหมือนเครื่องยนต์ของชูมัคเคอร์ ‎จะมีปัญหาในรอบอุ่นเครื่อง 629 00:49:12,480 --> 00:49:14,680 ‎เหลือเชื่อจริงๆ 630 00:49:14,760 --> 00:49:17,920 ‎เครื่องยนต์เจ๊งจริงๆ ครับ ‎ก่อนการแข่งขันจะเริ่มด้วยซ้ำ 631 00:49:18,000 --> 00:49:19,440 ‎ชูมัคเคอร์ออกจากการแข่งขันครับ 632 00:49:19,520 --> 00:49:23,840 ‎ที่เฟรนช์กรังด์ปรีซ์ในมักนีย์-กูร์ ‎เขายังไม่ได้เริ่มแข่งด้วยซ้ำ 633 00:49:23,920 --> 00:49:26,120 ‎มันเป็นรถที่กะโหลกกะลามาก 634 00:49:26,200 --> 00:49:30,200 ‎มิชชาเอลนั่งอยู่ในรถ ‎โดยที่รถของเขาอยู่บนรถยกอีกที 635 00:49:30,960 --> 00:49:33,320 ‎เหมือนสัญลักษณ์ของความอ่อนด้อย 636 00:49:36,800 --> 00:49:41,040 ‎ผมไม่มั่นใจว่าเรา ‎จะแก้ปัญหาทั้งหมดได้ในสองเดือนมั้ย 637 00:49:42,000 --> 00:49:43,280 ‎ผมไม่เห็นเหตุผลที่ต้องทำ 638 00:49:43,360 --> 00:49:45,760 ‎เราอยู่ในจุดที่ชนะการชิงแชมป์ได้ 639 00:49:46,360 --> 00:49:48,160 ‎คงจะต้องโชคดีมากๆ 640 00:49:48,960 --> 00:49:50,720 ‎หรือไม่ก็เหมือนฝัน 641 00:49:50,800 --> 00:49:53,280 ‎แต่ผมไม่ได้นักฝันไงครับ ‎ผมมองทุกอย่างตามความเป็นจริง 642 00:49:54,160 --> 00:49:55,880 ‎ผมว่าสิ่งที่ผมพูดมันจริง 643 00:50:08,960 --> 00:50:10,520 ‎ในซีซั่นแรกนั้น 644 00:50:10,600 --> 00:50:14,640 ‎ผมจำได้เลย ‎คืนนั้นเป็นคืนวันศุกร์ก่อนวันแข่งจริง 645 00:50:14,720 --> 00:50:17,440 ‎ทุกคนกลับกันหมด นักแข่งกลับหมด 646 00:50:17,520 --> 00:50:18,840 ‎พนักงานดูแลทีมกลับหมด 647 00:50:20,160 --> 00:50:21,800 ‎แต่ในอู่เฟอร์รารี่ 648 00:50:23,040 --> 00:50:25,480 ‎มีรถอยู่คันหนึ่งที่กำลังถูกซ่อม ‎นั่นก็คือรถของมิชชาเอล 649 00:50:26,120 --> 00:50:28,680 ‎ในนั้นมีช่างสามคนกับมิชชาเอล 650 00:50:29,360 --> 00:50:31,800 ‎มิชชาเอลคุยกับช่างเบาๆ 651 00:50:33,240 --> 00:50:39,160 ‎ผมประทับใจมาก ‎ที่มิชชาเอลเต็มใจที่จะทำงานหนัก 652 00:50:39,240 --> 00:50:43,480 ‎ประทับใจที่เขาอยู่กับช่างเป็นคนสุดท้ายในอู่ทุกคืน 653 00:50:44,160 --> 00:50:46,880 ‎เขาไม่กลับก่อนเพื่อไปทำอย่างอื่น 654 00:50:46,960 --> 00:50:49,200 ‎เขาอยู่ในอู่กับช่าง 655 00:50:49,280 --> 00:50:52,480 ‎ทำงานกับพวกเขา ‎และทำให้พวกเขารู้สึกว่าเขาอยู่ด้วย 656 00:50:52,560 --> 00:50:56,560 ‎ทำให้พวกเขารู้สึกว่า ‎เขาใส่ใจกับการซ่อมรถของพวกเขา 657 00:50:57,320 --> 00:50:59,800 ‎สิ่งนั้นทำให้ทีมเปลี่ยนไป 658 00:51:02,320 --> 00:51:05,080 ‎มิชชาเอลคือหนึ่งในคนที่กลับเป็นคนสุดท้ายทุกครั้ง 659 00:51:05,880 --> 00:51:11,280 ‎ช่วงที่เขาอยู่กับเฟอร์รารี่ ‎เวลาประชุม เขาจะอยู่ในที่ประชุมจนถึงสี่ทุ่ม 660 00:51:11,360 --> 00:51:15,960 ‎เราไม่เคยออกมาทานข้าวเย็นที่ร้านอาหาร 661 00:51:16,040 --> 00:51:16,880 ‎ไม่เคยเลย 662 00:51:16,960 --> 00:51:19,920 ‎เรานั่งอยู่ในเต็นท์ตลอดเวลา 663 00:51:20,000 --> 00:51:21,400 ‎ฉันรอ 664 00:51:21,480 --> 00:51:23,480 ‎เรากินพาสต้ากัน 665 00:51:23,560 --> 00:51:24,400 ‎เรา… 666 00:51:25,200 --> 00:51:26,040 ‎คุยกัน 667 00:51:26,120 --> 00:51:28,720 ‎แล้วเขาก็ออกไปประชุมอีก แล้วก็กลับมา 668 00:51:29,840 --> 00:51:34,520 ‎แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณ ‎สำหรับทุกนาทีที่เราได้อยู่ด้วยกัน 669 00:51:36,960 --> 00:51:39,080 ‎มิชชาเอลมีความเป็นมืออาชีพมาก 670 00:51:39,160 --> 00:51:41,840 ‎เขาพูดว่า "ฟังนะ เราต้องแก้ไขมันให้ได้" 671 00:51:41,920 --> 00:51:43,560 ‎เขาขยันมาก 672 00:51:44,360 --> 00:51:45,720 ‎สิ่งดีๆ 673 00:51:46,960 --> 00:51:48,320 ‎ของการมีมิชชาเอลอยู่ในทีมคือ 674 00:51:49,280 --> 00:51:52,400 ‎ทุกคนได้รู้ว่าไม่มีใครที่จะขับได้เหมือนกับที่เขาขับ 675 00:51:56,360 --> 00:51:57,640 ‎เมื่อคืนฝันตกหนัก 676 00:51:57,720 --> 00:51:59,800 ‎(บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ‎2 มิถุนายน 1996) 677 00:51:59,880 --> 00:52:02,600 ‎และยังคงตกหนักทั้งวัน 678 00:52:02,680 --> 00:52:06,680 ‎มีความเป็นไปได้ว่าวันนี้ ‎จะต้องแข่งกันบนสนามเปียก 679 00:52:08,080 --> 00:52:10,520 ‎ที่เห็นตรงนั้นคือรถเฟอร์รารี่ ‎ของมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 680 00:52:10,600 --> 00:52:12,840 ‎(ซีซั่นแรกของชูมัคเคอร์ปี 1996 ‎สกูเดเรียเฟอร์รารี่) 681 00:52:12,920 --> 00:52:15,440 ‎เขาแซงแกร์ฮาร์ด เบอร์เกอร์ขึ้นมาอยู่อันดับสาม 682 00:52:15,520 --> 00:52:18,320 ‎เขาตามหลังวีลเนิฟว์กับอเลซี 683 00:52:18,400 --> 00:52:20,960 ‎และอีกไม่นานจะชิงตำแหน่งนำ 684 00:52:23,080 --> 00:52:26,560 ‎ถ้ารถคุณห่วย วิ่งกลางฝนยังไงก็ห่วย ‎คุณเอาชนะมันไม่ได้หรอก 685 00:52:27,280 --> 00:52:30,320 ‎แต่ในบาร์เซโลนา เขาสามารถที่จะหาวิธีขับ 686 00:52:30,400 --> 00:52:31,720 ‎วิธีรับมือ 687 00:52:31,800 --> 00:52:33,000 ‎(รอส บรอว์น ‎เพื่อน) 688 00:52:33,080 --> 00:52:34,680 ‎และปรับรูปแบบการขับ 689 00:52:35,600 --> 00:52:37,720 ‎ผมว่ามีนักแข่งไม่กี่คนที่ทำแบบนั้นได้ 690 00:52:39,000 --> 00:52:40,120 ‎เขาซิ่งหายไปเลย 691 00:52:40,200 --> 00:52:41,880 ‎และไม่มีนักแข่งคนไหนกำลังวิ่งใกล้เขา 692 00:52:45,840 --> 00:52:50,680 ‎ความฉลาดของมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ชดเชยข้อบกพร่องของรถเฟอร์รารี่คันนั้น 693 00:52:50,760 --> 00:52:54,560 ‎นี่คือการซิ่งรถขั้นเทพในสภาพที่ย่ำแย่ 694 00:53:01,960 --> 00:53:03,360 ‎เขาชอบฝนมาก 695 00:53:03,920 --> 00:53:05,680 ‎เราสามารถขยับขึ้นไปอีกขั้นได้ 696 00:53:06,240 --> 00:53:11,680 ‎ผมว่าสภาวะแบบนั้นแหละที่เผยให้เห็น ‎ว่าใครคืออัจฉริยะตัวจริงในกีฬาแข่งรถ 697 00:53:16,480 --> 00:53:19,240 ‎ตอนเป็นเด็ก ‎เราขับกลางฝนด้วยล้อที่ไม่มีดอกยาง 698 00:53:19,320 --> 00:53:22,440 ‎เราไปสนามแข่งโกคาร์ททุกครั้งที่ไปได้ 699 00:53:23,240 --> 00:53:27,120 ‎สิ่งนั้นทำให้เรา ‎พัฒนาฝีมืออันยอดเยี่ยมในการควบคุมรถ 700 00:53:27,200 --> 00:53:28,840 ‎เราจะมั่นใจในรถที่ขับ 701 00:53:28,920 --> 00:53:31,080 ‎และจะเป็นหนึ่งเดียวกับมัน 702 00:53:31,160 --> 00:53:34,880 ‎แล้วคุณก็จะสามารถแสดงปาฏิหาริย์ที่เป็นไปไม่ได้ 703 00:53:47,200 --> 00:53:51,600 ‎มันจะเป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ ‎สำหรับชูมัคเคอร์และเฟอร์รารี่ 704 00:53:51,680 --> 00:53:53,200 ‎มุมสุดท้ายครับ 705 00:53:53,280 --> 00:53:57,400 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ชนะสแปนิชกรังด์ปรีซ์ 706 00:53:57,480 --> 00:54:01,480 ‎หลังจากขับด้วยทักษะขั้นสูงสุด 707 00:54:06,080 --> 00:54:08,840 ‎การขับรถคันนั้นแล้วชนะการแข่งขัน 708 00:54:08,920 --> 00:54:12,840 ‎ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ‎ของนักแข่งทุกคน ผมพูดเลย 709 00:54:12,920 --> 00:54:16,320 ‎สิ่งที่เกิดขึ้นมันเหลือเชื่อ 710 00:54:16,400 --> 00:54:18,200 ‎ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำได้ยังไง 711 00:54:31,080 --> 00:54:33,000 ‎(เจมส์ แอลเล็น ‎นักเขียนชีวประวัติ) 712 00:54:33,080 --> 00:54:36,920 ‎ความท้าทายในการทำให้เฟอร์รารี่ ‎กลับมาอยู่ในระดับแชมป์โลกอีกครั้ง 713 00:54:37,000 --> 00:54:39,080 ‎เป็นความท้าทายที่เกินต้านสำหรับมิชชาเอล 714 00:54:39,680 --> 00:54:42,760 ‎ผมคุยกับเขาเรื่องนั้นแบบค่อนข้างละเอียด 715 00:54:42,840 --> 00:54:45,480 ‎เขารู้สึกว่าสิ่งที่ถูกต้องคือ 716 00:54:45,560 --> 00:54:48,560 ‎เขาต้องรับความท้าทายนั้น ‎และทำให้เฟอร์รารี่กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง 717 00:54:48,640 --> 00:54:53,000 ‎คืนตำแหน่งที่เฟอร์รารี่ถวิลหาตั้งแต่ปี 1979 718 00:54:59,400 --> 00:55:03,480 ‎เขาอยากทำสิ่งที่พรอสต์ไม่ได้ทำ 719 00:55:03,560 --> 00:55:04,880 ‎สิ่งที่เซนนาไม่ได้ทำ 720 00:55:04,960 --> 00:55:07,640 ‎สิ่งที่ไม่มีนักแข่งคนไหนเคยทำมาก่อนหน้านี้ 721 00:55:08,400 --> 00:55:10,320 ‎สิ่งนั้นคือความท้าทายที่แท้จริง 722 00:55:11,160 --> 00:55:16,280 ‎(เจเรซ ประเทศสเปน ‎26 ตุลาคม 1997) 723 00:55:16,960 --> 00:55:18,680 ‎ปี 1997 724 00:55:18,760 --> 00:55:21,720 ‎มิชชาเอลจะแข่งให้เฟอร์รารี่เป็นปีที่สอง 725 00:55:21,800 --> 00:55:24,680 ‎มีความรู้สึกเกิดขึ้นว่าพวกเขาควรจะท้าชิงแชมป์ 726 00:55:24,760 --> 00:55:26,800 ‎ในแง่หนึ่งแรงขับเคลื่อนอยู่ที่เขา 727 00:55:27,840 --> 00:55:30,880 ‎กองเชียร์ของสกูเดเรียเฟอร์รารี่คาดหวังสูงมาก 728 00:55:30,960 --> 00:55:35,440 ‎เรารู้ว่ากำลังจะมีการดวลฝีมือสุดมันส์ ‎ระหว่างวีลเนิฟว์กับชูมัคเคอร์ 729 00:55:43,720 --> 00:55:47,320 ‎ผมหวังว่ามันจะเป็นการประลองฝีมือ ‎ระหว่างเราสองคนบนสนามจริงๆ 730 00:55:47,960 --> 00:55:53,440 ‎ผมหวังว่าจะไม่มีสมาชิกคนอื่นในทีม ‎นักแข่งที่ถูกแซงรอบ หรือนักแข่งคนอื่นเข้ามายุ่ง 731 00:55:55,800 --> 00:55:57,920 ‎คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่ชัยชนะในที่นี้ 732 00:55:58,800 --> 00:56:00,880 ‎อย่างแรกเลยคือต้องไม่ถูกตัดออกจากการแข่งขัน 733 00:56:00,960 --> 00:56:01,800 ‎เรื่องนั้นสำคัญมาก 734 00:56:01,880 --> 00:56:02,880 ‎(ฌัก วีลเนิฟว์) 735 00:56:02,960 --> 00:56:05,880 ‎อีกหนึ่งข้อก็คือขับให้เร็ว ‎เร็วกว่ามิชชาเอล แค่นั้นครับ 736 00:56:10,360 --> 00:56:12,720 ‎การแข่งขันเริ่มขึ้นแล้วครับ 737 00:56:12,800 --> 00:56:16,720 ‎วีลเนิฟว์ทิ้งห่างออกมา ‎แต่ชูมัคเคอร์ทิ้งห่างออกมาไกลกว่า 738 00:56:16,800 --> 00:56:21,160 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์กำลังนำครับ ‎โดยมีวีลเนิฟว์ตามมาติดๆ 739 00:56:25,080 --> 00:56:27,400 ‎เรารู้ว่ารถของฌักเร็วกว่า 740 00:56:27,480 --> 00:56:30,640 ‎มันอยู่ที่ว่าฌักกับคนในทีม 741 00:56:30,720 --> 00:56:34,800 ‎จะสามารถใช้กลยุทธ์และความเร็ว ‎เอาชนะมิชชาเอลได้มั้ย 742 00:56:45,480 --> 00:56:52,400 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ กับ ฌัก วีลเนิฟว์ ‎วิ่งห่างกันแค่หนึ่งวินาทีนิดๆ 743 00:56:54,000 --> 00:56:56,920 ‎ดูเหมือนเกียร์จะมีปัญหา ‎เพราะวีลเนิฟว์ขยับขึ้นมาชิดเขา 744 00:56:57,000 --> 00:56:58,240 ‎ดูสิครับ วีลเนิฟว์แซงขึ้นมาได้ 745 00:56:58,320 --> 00:56:59,160 ‎แซงแล้ว 746 00:57:31,160 --> 00:57:32,120 ‎ในความคิดของเขาคือ 747 00:57:33,200 --> 00:57:34,960 ‎ฌัก วีลเนิฟว์ชนเขา 748 00:57:35,040 --> 00:57:36,480 ‎เขาไม่ได้แกล้งชน 749 00:57:37,160 --> 00:57:38,880 ‎เขาเข้าใจว่านั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น 750 00:57:41,040 --> 00:57:45,120 ‎ในเสี้ยววินาทีนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเขา 751 00:57:45,200 --> 00:57:46,120 ‎ไม่มีใครรู้ครับ 752 00:57:46,200 --> 00:57:47,840 ‎เขาไม่ได้ตั้งใจ… 753 00:57:47,920 --> 00:57:49,920 ‎มันไม่ใช่การกระทำที่มีการไตร่ตรองไว้ก่อน 754 00:57:50,640 --> 00:57:52,080 ‎มันคือเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น 755 00:57:52,640 --> 00:57:54,640 ‎เขากลับมาและเชื่ออย่างนั้น 756 00:57:54,720 --> 00:57:57,480 ‎และเขาไม่พยายาม ‎ที่จะพูดให้คนอื่นเชื่อว่าเขาไม่ได้ผิด 757 00:58:12,560 --> 00:58:13,480 ‎ในแง่ของจิตวิทยา 758 00:58:13,560 --> 00:58:17,080 ‎สำหรับมิชชาเอลแล้ว ‎มันเป็นช่วงเวลาที่ทำใจได้ยากมาก 759 00:58:17,160 --> 00:58:18,400 ‎เขานำอยู่แล้วแท้ๆ 760 00:58:18,480 --> 00:58:19,560 ‎เหลืออีกแค่สิบรอบ 761 00:58:20,200 --> 00:58:23,520 ‎ก็จะชนะการแข่งชิงแชมป์ปี 1997 762 00:58:23,600 --> 00:58:25,400 ‎กับทีมเฟอร์รารี่ในซีซั่นสอง 763 00:58:28,480 --> 00:58:30,160 ‎มิชชาเอลกลับไปที่พิท 764 00:58:30,760 --> 00:58:32,800 ‎และปักใจเชื่อว่าฌักชนเขา 765 00:58:34,640 --> 00:58:38,840 ‎แต่พอเราเปิดวิดีโอให้ดู ‎เขาก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น 766 00:58:40,360 --> 00:58:44,520 ‎เขาได้รู้ว่าเขาต่างหากที่ขับไปชนฌัก วีลเนิฟว์ 767 00:58:44,600 --> 00:58:48,480 ‎มันคือหนึ่งในช่วงเวลาที่เขาทำอาชีพนี้ 768 00:58:48,560 --> 00:58:54,360 ‎แล้วความมุ่งมั่น ‎ความอยากเอาชนะ และความทุ่มเทของเขา 769 00:58:54,440 --> 00:58:56,640 ‎มันเกินพอดีไปถึงสองสามครั้ง 770 00:58:56,720 --> 00:58:58,960 ‎มันยากสำหรับเราที่จะตัดสิน 771 00:58:59,480 --> 00:59:01,960 ‎แต่ผมว่าวันนั้นเขาทำเกินไป 772 00:59:09,520 --> 00:59:13,880 ‎บ่อยครั้งเขาก็ทำเกินไป ‎ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น 773 00:59:13,960 --> 00:59:16,880 ‎ทั้งๆ ที่เขาทำดีพอแล้ว ‎ไม่ว่าจะรอบควอลิฟายหรือไม่รอบควอลิฟาย 774 00:59:16,960 --> 00:59:17,920 ‎ได้จุดสตาร์ทแรกมั้ย 775 00:59:18,000 --> 00:59:20,760 ‎ไม่ว่าจะคว้าชัยชนะจากการแข่งหรือไม่ ‎ซึ่งเขาก็มีสิทธิ์สูงที่จะชนะ 776 00:59:20,840 --> 00:59:24,280 ‎หรือไม่ว่าจะเป็นการแข่งกันสองต่อสองหรือไม่ 777 00:59:24,360 --> 00:59:28,280 ‎บางครั้งเขาต้องเชื่อมั่นในตัวเองอยู่ตลอดเหรอ ‎ต้องเชื่อว่าตัวเขากำลังทำสิ่งที่ถูกต้องเหรอ 778 00:59:28,360 --> 00:59:30,280 ‎(มาร์ค เว็บเบอร์ ‎อดีตนักแข่งรถฟอร์มูล่าวัน) 779 00:59:30,360 --> 00:59:32,200 ‎เพราะเขากังวลว่าต้องทำออกมาให้ดีเลิศ 780 00:59:32,280 --> 00:59:34,920 ‎ต้องทำให้ดีขึ้นเพื่อพิสูจน์กับตัวเองให้มากขึ้น 781 00:59:35,000 --> 00:59:37,600 ‎เพราะท้ายที่สุดแล้ว ‎ส่วนใหญ่ก็คือเขาแข่งกับตัวเองนั่นแหละ 782 00:59:38,360 --> 00:59:40,560 ‎เขาสู้กับตัวเอง 783 00:59:40,640 --> 00:59:42,160 ‎แบบว่า "วันนี้ฉันทำดีพอรึยัง" 784 00:59:42,240 --> 00:59:43,480 ‎"ฉันอยากทำให้มากกว่านี้มั้ย" 785 00:59:43,560 --> 00:59:45,480 ‎"ฉันจะขยี้คู่แข่งให้มากขึ้นยังไงดี" 786 00:59:45,560 --> 00:59:46,480 ‎ฉันต้องทำยังไง 787 00:59:47,600 --> 00:59:51,360 ‎เพื่อให้เป็นนักแข่งเบอร์หนึ่งต่อไป 788 00:59:51,840 --> 00:59:53,640 ‎(ชูมี่ มันเป็นอะไรที่บ้ามาก) 789 00:59:53,720 --> 00:59:55,960 ‎(วีลเนิฟว์คือแชมป์ตัวจริง) 790 00:59:56,040 --> 01:00:00,080 ‎("มันไม่ใช่ความผิดผม ผมจะทำอีก") 791 01:00:00,160 --> 01:00:07,000 ‎(ชูมี่ยิ้มไม่ออก) 792 01:00:07,600 --> 01:00:10,720 ‎ผมว่าคนที่ควบคุมและอยากควบคุม 793 01:00:11,600 --> 01:00:13,720 ‎ไม่อยากยอมรับความจริงว่า 794 01:00:14,600 --> 01:00:16,160 ‎"ฉันอาจจะผิดก็ได้" 795 01:00:17,000 --> 01:00:19,640 ‎นั่นไม่ใช่นิสัยเขา 796 01:00:21,800 --> 01:00:23,000 ‎มิชชาเอลราศีมังกร 797 01:00:24,440 --> 01:00:26,520 ‎เขาเกิดราศีมังกร 798 01:00:26,600 --> 01:00:29,320 ‎คนที่เกิดราศีมังกรไม่เคยขอโทษ 799 01:00:29,400 --> 01:00:32,120 ‎ไม่สามารถที่จะขอโทษได้ และไม่เคยทำผิด 800 01:00:32,200 --> 01:00:35,080 ‎คำว่า "ผิดพลาด" ไม่มีอยู่สำหรับชาวราศีมังกร 801 01:00:35,160 --> 01:00:36,520 ‎เขาไม่เคยผิดพลาด 802 01:00:36,600 --> 01:00:38,600 ‎(สลาว ประเทศอังกฤษ ‎11 พฤศจิกายน 1997) 803 01:00:38,680 --> 01:00:39,600 ‎(สอบสวนวินัย เอฟไอเอ) 804 01:00:39,680 --> 01:00:41,200 ‎สวัสดีตอนเช้าจากลอนดอน มิชชาเอล 805 01:00:41,280 --> 01:00:42,280 ‎รู้สึกยังไงบ้างมิชชาเอล 806 01:00:43,520 --> 01:00:44,360 ‎มิชชาเอล 807 01:00:44,440 --> 01:00:45,720 ‎คุณชูมัคเคอร์ 808 01:00:51,320 --> 01:00:52,160 ‎มิชชาเอล 809 01:00:53,280 --> 01:00:58,680 ‎ทุกการแข่งขันก่อนหน้านี้ สื่อยกย่องผม 810 01:00:59,240 --> 01:01:03,160 ‎แต่หลังจากสิ้นสุดสัปดาห์นั้น อยู่ๆ ผมก็โดนสื่อถล่ม 811 01:01:03,240 --> 01:01:04,640 ‎จะเห็นได้ว่า 812 01:01:06,240 --> 01:01:08,160 ‎ผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนคนอื่นๆ 813 01:01:08,240 --> 01:01:09,120 ‎และ 814 01:01:09,920 --> 01:01:13,040 ‎เหตุการณ์ต่างๆ ‎เกิดขึ้นกับผมได้เหมือนที่เกิดขึ้นกับคนอื่นๆ 815 01:01:13,120 --> 01:01:18,960 ‎และมันเกิดขึ้นกับผม ซึ่งตอนนั้นผมไม่อยากยอมรับ 816 01:01:19,040 --> 01:01:21,480 ‎แต่ตอนนี้ผมคงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับ 817 01:01:21,560 --> 01:01:22,920 ‎ผมเข้าใจสิ่งที่ผมทำแล้วครับ 818 01:01:31,720 --> 01:01:36,480 ‎หน่วยงานกำกับพิจารณากรณีของเขา ‎และตัดสิทธิ์เขาออกจากการแข่งชิงแชมป์ปี 1997 819 01:01:37,320 --> 01:01:41,640 ‎มันเป็นเรื่องใหญ่ ‎ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการกีฬานี้ 820 01:01:44,520 --> 01:01:45,840 ‎มิชชาเอล มีความเห็นอะไรมั้ย 821 01:01:46,480 --> 01:01:47,320 ‎คุณจะ… 822 01:01:57,160 --> 01:02:03,320 ‎(ทริซิล ประเทศนอร์เวย์ ‎ธันวาคม 1997) 823 01:02:04,840 --> 01:02:06,360 ‎เราพักที่กระท่อม 824 01:02:06,440 --> 01:02:09,040 ‎เราเล่นเกมหลายเกมเลยค่ะ 825 01:02:09,120 --> 01:02:12,480 ‎เพราะเขาอยากพักผ่อนและคลายเครียด 826 01:02:12,560 --> 01:02:15,600 ‎มันคือช่วงเวลาพักผ่อนกับเพื่อนที่ดีมากๆ 827 01:02:15,680 --> 01:02:19,200 ‎บางครั้งก็มีกันตั้ง 30 คน สนุกมากค่ะ 828 01:02:20,080 --> 01:02:21,640 ‎เราพาทุกคนไปด้วยหมดเลย 829 01:02:22,200 --> 01:02:23,920 ‎ปู่ ย่า ป้า 830 01:02:25,200 --> 01:02:28,000 ‎นั่งเครื่องกันไปเต็มลำ สนุกมาก 831 01:03:09,800 --> 01:03:11,080 ‎เขาสนุกมากกับการไปที่นั่น 832 01:03:12,080 --> 01:03:14,080 ‎เราอยู่ที่นั่นหกสัปดาห์ 833 01:03:15,560 --> 01:03:20,160 ‎เราแทบจะไม่คุยเกี่ยวกับฟอร์มูล่าวันเลย 834 01:03:21,040 --> 01:03:23,240 ‎หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับงานของเขา 835 01:03:23,320 --> 01:03:25,240 ‎เราไปเพื่อสนุกจริงๆ 836 01:03:42,160 --> 01:03:45,480 ‎ตอนนั้นมิชชาเอลออกกำลังกายบ้าง ‎แต่ไม่หนักมาก 837 01:03:46,160 --> 01:03:49,480 ‎พอการทดสอบกลับมาเริ่มอีกครั้ง เขาพูดว่า 838 01:03:49,560 --> 01:03:53,280 ‎"ผมอยากรู้นะว่าผมยังเร็วพออยู่มั้ย ‎ผมยังทำได้เหมือนเดิมอยู่มั้ย" 839 01:03:54,120 --> 01:03:58,560 ‎บ่อยครั้งที่มิชชาเอลไม่มั่นใจในตัวเองในเรื่องนั้น 840 01:03:58,640 --> 01:04:00,080 ‎แบบ "ผมยังจะทำได้อยู่มั้ย" 841 01:04:00,160 --> 01:04:06,600 ‎(สนามทดลองของเฟอร์รารี่ ประเทศอิตาลี ‎ก่อนเริ่มซีซั่น ปี 1998) 842 01:04:09,480 --> 01:04:13,880 ‎มันสำคัญมากกับมิชชาเอล ‎ที่ต้องไม่มีใครในทีมสังเกต 843 01:04:14,400 --> 01:04:17,600 ‎ว่าเขากำลังต่อสู้อย่างหนัก กัดฟัน 844 01:04:17,680 --> 01:04:20,800 ‎หรืออาจจะถึงขั้นไม่แน่ใจ ‎หรือรู้สึกสิ้นหวังเลยด้วยซ้ำ 845 01:04:25,680 --> 01:04:27,440 ‎เขาปกปิดสิ่งเหล่านั้นได้ดี 846 01:04:27,960 --> 01:04:31,920 ‎เพราะจากภายนอก เวลาเขาไปอู่… 847 01:04:32,000 --> 01:04:33,000 ‎(ซาบีน เคห์ม ‎ผู้จัดการ) 848 01:04:33,080 --> 01:04:35,880 ‎หรือที่ไหนก็ตามที่มีคนเห็นเขา 849 01:04:35,960 --> 01:04:36,800 ‎เขาจะ 850 01:04:37,400 --> 01:04:38,720 ‎มีพลังและกระฉับกระเฉง 851 01:04:41,360 --> 01:04:45,480 ‎เขาตระหนักตั้งแต่ช่วงแรกที่เป็นนักแข่งแล้วว่า 852 01:04:45,560 --> 01:04:48,120 ‎ทุ่มไปเท่าไรก็ได้ออกมาเท่านั้น 853 01:04:48,640 --> 01:04:50,320 ‎สิ่งนั้นกลายเป็นคติประจำใจเขา 854 01:04:50,400 --> 01:04:52,760 ‎มันต้องทุ่มสุดตัว 855 01:04:52,840 --> 01:04:53,920 ‎เหมือนสงครามครับ 856 01:04:54,000 --> 01:04:57,360 ‎ถ้าไม่สู้ขาดใจ คุณก็จะไม่ได้ขึ้นมาเป็นที่หนึ่ง 857 01:04:57,440 --> 01:04:59,800 ‎นั่นคือปรัชญาของมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 858 01:05:08,240 --> 01:05:10,680 ‎ทุกอย่างในรถต้องสมบูรณ์แบบ 859 01:05:10,760 --> 01:05:13,480 ‎เขาใส่ใจรายละเอียดมากๆ 860 01:05:13,560 --> 01:05:14,720 ‎และต้องการให้เรา 861 01:05:15,640 --> 01:05:16,880 ‎ทำแบบเดียวกัน 862 01:05:17,480 --> 01:05:20,240 ‎กับคนก็เหมือนกัน 863 01:05:20,320 --> 01:05:22,640 ‎เขาใส่ใจรายละเอียดของคนอื่นมากๆ 864 01:05:22,720 --> 01:05:25,400 ‎เขายิ้มทุกครั้ง พูดคำว่า "ขอบคุณ" กับทุกคน 865 01:05:25,480 --> 01:05:27,200 ‎และขอร้องทุกคนอย่างสุภาพ 866 01:05:27,280 --> 01:05:28,800 ‎ขนาดช่วงที่เครียดมากก็ยังทำ 867 01:05:28,880 --> 01:05:29,720 ‎(จีอันลูคา พิล็อต) 868 01:05:29,800 --> 01:05:31,040 ‎มันคือการใส่ใจรายละเอียด… 869 01:05:31,120 --> 01:05:32,800 ‎(อดีตช่างยนต์ของสกูเดเรียเฟอร์รารี่) 870 01:05:32,880 --> 01:05:34,520 ‎ที่เขามีให้กับเราแต่ละคน 871 01:05:34,600 --> 01:05:38,880 ‎สำหรับเขา รถสำคัญ ทีมสำคัญ 872 01:05:38,960 --> 01:05:39,800 ‎สำคัญสำหรับทุกคน 873 01:05:40,480 --> 01:05:43,840 ‎มีอยู่ช่วงหนึ่ง ‎ที่การกระทำของมิชชาเอลส่งผลต่อคนรอบข้าง 874 01:05:44,840 --> 01:05:47,760 ‎นักแข่งส่งอิทธิพลต่อคนอื่นในเรื่องเหล่านั้นได้ 875 01:05:47,840 --> 01:05:49,280 ‎เป็นแรงกระตุ้นให้คนในทีม 876 01:05:50,240 --> 01:05:52,640 ‎มิชชาเอลรู้จักพนักงานทุกคน 877 01:05:52,720 --> 01:05:55,360 ‎รู้ชื่อพวกเขา บางทีก็รู้ยันชื่อภรรยา 878 01:05:56,120 --> 01:05:57,760 ‎เขาเล่นฟุตบอลกับพวกเขา 879 01:05:58,280 --> 01:05:59,760 ‎เขาเป็นนักสร้างแรงจูงใจที่ดี 880 01:06:00,360 --> 01:06:05,960 ‎ผู้คนสนับสนุนมิชชาเอลอย่างมาก ‎และพยายามทำให้เขาประสบความสำเร็จ 881 01:06:08,800 --> 01:06:12,640 ‎ถ้าคุณสามารถทำให้ทุกคนกระตือรือร้นกับคุณ ‎พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อคุณ 882 01:06:13,600 --> 01:06:15,000 ‎และมีความสุขที่ได้ทำ 883 01:06:16,240 --> 01:06:18,000 ‎ฉันว่านั่นคือสิ่งที่สำคัญ 884 01:06:18,080 --> 01:06:22,160 ‎ขนาดคนที่ทำพาสต้าให้พวกเขากิน ‎ยังมีความสุขเลยเวลาเขามา 885 01:06:22,240 --> 01:06:25,360 ‎เพราะเขาขอบคุณชายคนนั้นทุกครั้ง ‎และบอกว่า "พาสต้าของคุณอร่อยที่สุด" 886 01:06:25,440 --> 01:06:29,440 ‎เขาพูดว่า "ใช่ๆ ‎พาสต้าผัดกระเทียมน้ำมันมะกอก" 887 01:06:29,520 --> 01:06:30,600 ‎เขาชอบเมนูนั้นมาก 888 01:06:31,640 --> 01:06:35,920 ‎ขนาดพ่อครัวยังเป็นส่วนสำคัญของทีมเลย 889 01:06:36,000 --> 01:06:39,840 ‎มันคือครอบครัวใหญ่ที่ทำให้รู้สึกมั่นคงและปลอดภัย 890 01:06:47,880 --> 01:06:51,880 ‎ผมว่าช่างยนต์กับวิศวกรของผม ‎รู้ว่าต้องมองผมยังไง 891 01:06:51,960 --> 01:06:53,640 ‎พวกเขาเชื่อในตัวผมเต็มร้อย 892 01:06:53,720 --> 01:06:55,080 ‎ผมก็เชื่อในตัวพวกเขาเต็มร้อย 893 01:06:56,280 --> 01:06:59,640 ‎ทุกครั้งที่ผมอยู่บนสนามทั้งวัน 894 01:06:59,720 --> 01:07:02,560 ‎ผมจะพยายามหาว่า ‎ผมจะเปลี่ยนอะไรในรถได้บ้าง 895 01:07:03,440 --> 01:07:04,920 ‎เพื่อให้มันเร็วขึ้น 896 01:07:11,320 --> 01:07:14,240 ‎พวกเขาฉีดน้ำลงบนทาง ‎เพื่อทดสอบล้อสำหรับพื้นเปียก 897 01:07:14,320 --> 01:07:15,560 ‎ทดสอบล้อยางระดับกลาง 898 01:07:15,640 --> 01:07:20,200 ‎และลองสารพัดอย่างถ้าวันนั้นอยู่จนใกล้มืด 899 01:07:22,200 --> 01:07:25,600 ‎จำนวนชั่วโมงที่เขาใช้ในการพัฒนารถ 900 01:07:25,680 --> 01:07:28,920 ‎และทดสอบโดยที่ไม่มีคนทั่วไปดูอยู่ ‎ในรายการกรังด์ปรีซ์ 901 01:07:29,000 --> 01:07:29,840 ‎สูงมากจนต้องตะลึง 902 01:08:07,000 --> 01:08:09,160 ‎เราเริ่มทดสอบตอนแปดโมงเช้า 903 01:08:09,240 --> 01:08:11,600 ‎บางครั้งกว่าจะเลิกก็สองทุ่ม 904 01:08:15,320 --> 01:08:17,120 ‎เขาต้องการอะไรหลายอย่างจากตัวเอง 905 01:08:18,960 --> 01:08:19,800 ‎เขา… 906 01:08:20,600 --> 01:08:22,040 ‎พยายามถึงขีดสุด 907 01:08:22,680 --> 01:08:24,920 ‎ในการที่จะขับรถที่ไม่ดีเท่าของคู่แข่ง 908 01:08:26,040 --> 01:08:27,920 ‎ให้ออกมามีผลลัพธ์ 909 01:08:34,319 --> 01:08:36,920 ‎โดยพื้นฐานแล้วรถของแม็คลาเรนดีกว่ามาก 910 01:08:37,000 --> 01:08:39,040 ‎ไม่มีทางที่เราจะพัฒนาจนตามได้ทัน 911 01:08:41,680 --> 01:08:44,520 ‎สิ่งนั้นทำให้เขาวิตก 912 01:08:44,600 --> 01:08:45,920 ‎เป็นใครก็วิตก 913 01:08:55,000 --> 01:09:01,920 ‎ชูมัคเคอร์ ผู้ซึ่งร่วมพัฒนารถเฟอร์รารี่กับทีม ‎และทำให้มันมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น 914 01:09:02,000 --> 01:09:03,680 ‎พบว่าเขามีคู่แข่งคนใหม่ 915 01:09:04,359 --> 01:09:06,399 ‎นักแข่งฉายาฟลายอิ้งฟลินน์ 916 01:09:07,000 --> 01:09:07,840 ‎มิก้า ฮักคิเนน 917 01:09:14,160 --> 01:09:19,760 ‎มิก้า ฮักคิเนนรู้ว่าเขามีอาวุธร้ายกาจอยู่ในมือ ‎ตั้งแต่การทดสอบครั้งแรกแล้ว 918 01:09:19,840 --> 01:09:22,399 ‎ปีนั้นรถแม็คลาเรนคือจรวดดีๆ นี่เอง 919 01:09:22,479 --> 01:09:27,720 ‎เฟอร์รารี่ต้องพยายามอย่างหนัก ‎ในการพัฒนารถให้เทียบเท่ากับของแม็คลาเรน 920 01:09:29,560 --> 01:09:30,800 ‎มิก้า ฮักคิเนนกำลังนำ 921 01:09:30,880 --> 01:09:32,399 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์อยู่ไหนครับ 922 01:09:33,040 --> 01:09:35,080 ‎ละอองน้ำที่หลังรถเป็นเส้นยาวเลยครับ 923 01:09:35,160 --> 01:09:38,240 ‎ทางข้างหน้าของมิก้า ฮักคิเนน ‎โล่งและไม่มีรถคันไหนขวางอยู่ 924 01:09:44,000 --> 01:09:47,560 ‎มิก้า ฮักคิเนนจะทำให้เขา ‎มีความลำบากในการแซงหรือเอาชนะตั้งแต่เริ่ม 925 01:10:01,720 --> 01:10:05,360 ‎ฮักคิเนนกับชูมัคเคอร์ผลัดกันชนะผลัดกันแพ้ทั้งปี 926 01:10:05,440 --> 01:10:06,680 ‎ฮักคิเนนมีพลาดบ้าง 927 01:10:06,760 --> 01:10:09,160 ‎ส่วนชูมัคเคอร์ก็ชนะอย่างสวยงามในบางครั้ง 928 01:10:09,960 --> 01:10:12,520 ‎ชูมัคเคอร์มีสิทธิ์สูง ‎ที่จะชนะการแข่งชิงแชมป์โลกครั้งนั้น 929 01:10:13,680 --> 01:10:15,560 ‎มิชชาเอลกังวลอย่างเห็นได้ชัด 930 01:10:16,120 --> 01:10:21,200 ‎วิธีการเอาชนะของเขาคือ ต้องไม่มีความกลัว 931 01:10:21,960 --> 01:10:23,480 ‎ไม่มีการคิดว่า 932 01:10:24,640 --> 01:10:27,120 ‎"ฉันจะบาดเจ็บรึเปล่า คนอื่นจะบาดเจ็บรึเปล่า" 933 01:10:29,800 --> 01:10:31,440 ‎ผมไปคุยกับมิชชาเอลเลยครับ 934 01:10:31,520 --> 01:10:34,000 ‎ผมบอกเขาว่า "นี่ นายจะทำแบบนั้นไม่ได้ 935 01:10:35,680 --> 01:10:38,680 ‎นายจะทำแบบนั้นไม่ได้ ‎เพราะเรากำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง 936 01:10:38,760 --> 01:10:40,200 ‎วิ่งตั้ง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 937 01:10:40,280 --> 01:10:41,560 ‎และฉันก็เหยียบเร็วขึ้นด้วย 938 01:10:41,640 --> 01:10:42,720 ‎นายจะขวางรถฉันไม่ได้" 939 01:10:43,560 --> 01:10:44,480 ‎แล้วเขาก็แบบ 940 01:10:45,840 --> 01:10:48,600 ‎ยักไหล่แล้วก็พูดว่า "มิก้า นี่แข่งรถนะ" 941 01:10:50,520 --> 01:10:51,440 ‎ขยับครั้งสุดท้าย 942 01:10:52,440 --> 01:10:53,280 ‎แล้วก็เอาอีก 943 01:10:54,880 --> 01:10:55,720 ‎ก่อนที่นาย… 944 01:10:58,560 --> 01:11:01,880 ‎เราสนุกและยกย่องความสำเร็จของใครบางคน 945 01:11:01,960 --> 01:11:02,920 ‎ส่วนคนอื่นก็ยกย่องเรา 946 01:11:03,000 --> 01:11:04,440 ‎เราแต่ละคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง 947 01:11:05,440 --> 01:11:08,160 ‎แต่ในสนามเราเป็นคู่แข่งกัน 948 01:11:09,160 --> 01:11:10,760 ‎ดังนั้นมันยากที่จะเป็นเพื่อนกันในสนาม 949 01:11:11,520 --> 01:11:12,720 ‎ผมว่ามีอยู่สองด้านนะ ใช่มั้ย 950 01:11:12,800 --> 01:11:14,360 ‎ด้านหนึ่งคือมิชชาเอล เป็นนักแข่งรถ 951 01:11:14,440 --> 01:11:16,320 ‎(เดวิด โคลต์ฮาร์ด ‎อดีตนักแข่งรถฟอร์มูล่าวัน) 952 01:11:16,400 --> 01:11:17,720 ‎(ทีมแม็คลาเรน-เมอร์เซเดส) 953 01:11:17,800 --> 01:11:20,400 ‎นักแข่งที่เร็ว มุ่งมั่น ไม่ยอม และดุดัน 954 01:11:20,480 --> 01:11:23,280 ‎อีกด้านคือมิชชาเอล ผู้ชายทั่วไปที่รักครอบครัว 955 01:11:24,440 --> 01:11:26,680 ‎ผมสังสรรค์กับเขาตอนค่ำหลายครั้ง 956 01:11:27,600 --> 01:11:28,920 ‎ดื่มบาคาร์ดี้โค้ก 957 01:11:29,000 --> 01:11:30,400 ‎ส่วนเขาก็สูบบุหรี่ซิการ์ 958 01:11:30,480 --> 01:11:31,920 ‎เขาเป็นอีกคนเลยนะ 959 01:11:32,000 --> 01:11:34,560 ‎เพราะตอนนั้นเราไม่ต้องแข่งกัน 960 01:11:34,640 --> 01:11:37,360 ‎มันคือช่วงเวลาสังสรรค์ดีๆ ที่เราใช้ร่วมกัน 961 01:11:41,560 --> 01:11:44,720 ‎ถ้าไปปาร์ตี้นะ ‎เขาจะไปถึงเป็นคนแรกและกลับเป็นคนสุดท้าย 962 01:11:45,600 --> 01:11:46,800 ‎เขาชอบปาร์ตี้มาก 963 01:11:51,280 --> 01:11:53,880 ‎เราหัวเราะเฮฮา 964 01:11:53,960 --> 01:11:55,880 ‎สนุกสุดเหวี่ยง 965 01:11:55,960 --> 01:11:59,920 ‎เด็กๆ ยังจำได้อยู่เลยว่าสนุกมาก 966 01:12:00,000 --> 01:12:03,360 ‎มิชชาเอลชอบโยนคนอื่นลงในสระว่ายน้ำ 967 01:12:03,440 --> 01:12:05,840 ‎สุดท้ายเราทุกคนอยู่ในสระทุกครั้ง 968 01:12:05,920 --> 01:12:08,000 ‎มันเป็นสิ่งที่มิชชาเอลชอบ 969 01:12:08,080 --> 01:12:11,520 ‎ขนาดในงานแต่งเรา ‎คนในงานยังโดนอุ้มโยนลงน้ำเลย 970 01:12:13,000 --> 01:12:14,800 ‎เขาร้องเพลงไม่เก่ง 971 01:12:14,880 --> 01:12:17,240 ‎มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาไม่ถนัด 972 01:12:17,840 --> 01:12:19,800 ‎ร้องทีไรก็ร้องแต่เพลง "มายเวย์" 973 01:12:20,360 --> 01:12:21,440 ‎เพราะรู้เนื้อเพลง 974 01:12:22,360 --> 01:12:23,520 ‎ตลกมาก 975 01:12:40,520 --> 01:12:43,720 ‎แต่ก็มีหลายครั้งที่เขาอยู่คนเดียว 976 01:12:43,800 --> 01:12:45,320 ‎ไม่มีใครอยู่ใกล้เขา 977 01:12:46,280 --> 01:12:49,480 ‎ผมว่าการรู้จักมิชชาเอลค่อนข้างยากนะ 978 01:12:49,560 --> 01:12:51,000 ‎เขาเป็นคนที่… 979 01:12:51,760 --> 01:12:52,760 ‎เขา… 980 01:12:52,840 --> 01:12:54,960 ‎เหมือนเขามีกำแพง 981 01:13:00,360 --> 01:13:02,640 ‎มิชชาเอลเป็นคนขี้ระแวงมาก 982 01:13:04,760 --> 01:13:08,200 ‎ตอนแรกเขาจะเป็นอย่างนั้น 983 01:13:08,280 --> 01:13:12,600 ‎จนกว่าจะรู้สึกว่า ‎เขารู้จักคนคนนั้นจริงๆ หรือไว้ใจคนคนนั้นได้ 984 01:13:12,680 --> 01:13:14,520 ‎เขาถึงจะเปิดใจเต็มร้อย 985 01:13:14,600 --> 01:13:17,000 ‎ตอนแรกที่เขารู้จักฉัน เขาก็เป็นแบบนั้น 986 01:13:17,080 --> 01:13:19,760 ‎และไม่ใช่แค่กับฉัน กับเพื่อนคนอื่นๆ ก็ด้วย 987 01:13:20,560 --> 01:13:22,040 ‎เขาเป็นคนที่ 988 01:13:23,280 --> 01:13:25,880 ‎ขี้ระแวงมากมาตลอด 989 01:13:25,960 --> 01:13:26,880 ‎ฉันขอบอกเลยค่ะ 990 01:13:27,640 --> 01:13:28,800 ‎แต่ 991 01:13:30,240 --> 01:13:32,200 ‎ถ้าเขาเปิดใจ เขาจะเปิดเต็มร้อย 992 01:13:32,280 --> 01:13:33,160 ‎เปิดหมดทุกเรื่อง 993 01:13:33,760 --> 01:13:37,840 ‎(สปา ประเทศเบลเยียม ‎30 สิงหาคม 1998) 994 01:13:40,320 --> 01:13:41,680 ‎ในการแข่งขันชิงแชมป์นักแข่ง 995 01:13:41,760 --> 01:13:45,320 ‎มิก้า ฮักคิเนน ‎คะแนนนำมิชชาเอล ชูมัคเคอร์เจ็ดแต้ม 996 01:13:45,400 --> 01:13:46,920 ‎ข้างมิก้าในแถวหน้าสุด 997 01:13:47,520 --> 01:13:49,160 ‎คือเดวิด โคลต์ฮาร์ด เพื่อนร่วมทีม 998 01:13:49,680 --> 01:13:52,120 ‎ดังนั้นแถวหน้าสุดจึงมีแต่นักแข่งของแม็คลาเรน 999 01:13:55,680 --> 01:13:57,840 ‎มิก้า ฮักคิเนน ‎ได้จุดออกตัวจุดแรกเป็นครั้งที่เก้า… 1000 01:13:57,920 --> 01:14:00,320 ‎(ซีซั่นที่สามของชูมัคเคอร์ปี 1998 ‎สกูเดเรียเฟอร์รารี่) 1001 01:14:00,400 --> 01:14:03,680 ‎จากการแข่ง 13 ครั้งในปีนี้ 1002 01:14:03,760 --> 01:14:04,920 ‎ไฟออกครบห้าดวงแล้ว 1003 01:14:06,680 --> 01:14:08,600 ‎ออกตัวๆ 1004 01:14:08,680 --> 01:14:10,560 ‎ฮักคิเนนนำอีกแล้วครับ 1005 01:14:10,640 --> 01:14:12,280 ‎เออร์ไวน์ขึ้นมาทางด้านซ้ายอีกแล้ว 1006 01:14:12,360 --> 01:14:15,000 ‎เดม่อน ฮิลล์ออกตัวได้ดีแล้วก็ขึ้นมานำ 1007 01:14:15,080 --> 01:14:15,960 ‎เขาขึ้นมานำ 1008 01:14:16,040 --> 01:14:18,800 ‎เดม่อน ฮิลล์ขึ้นมานำทุกคนที่โค้งลาซอร์ส 1009 01:14:18,880 --> 01:14:22,800 ‎ชูมัคเคอร์อ้อมโค้งที่ด้านนอกแล้วก็ชนฮักคิเนน 1010 01:14:22,880 --> 01:14:24,240 ‎ชูมัคเคอร์ชนฮักคิเนน 1011 01:14:26,960 --> 01:14:29,440 ‎(ฮิลล์ 1 ‎จอร์แดน ฮอนด้า) 1012 01:14:29,520 --> 01:14:33,320 ‎ฮักคิเนนออกจากการแข่งขัน ‎หลังจากเริ่มแข่งได้ไม่นาน 1013 01:14:33,400 --> 01:14:37,360 ‎นี่คือโอกาสที่ชูมัคเคอร์ ‎นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ 1014 01:14:37,440 --> 01:14:38,800 ‎ใช้มันในการเอาแต้มสิบแต้ม 1015 01:14:38,880 --> 01:14:41,200 ‎ในขณะที่ฮักคิเนนจะไม่ได้เลยสักแต้ม 1016 01:14:41,280 --> 01:14:47,040 ‎นั่นคือสิ่งสำคัญสำหรับศึกชิงแชมป์โลกที่ยาวนาน ‎โดยที่แต่ละคนฝีมือสูสีกัน 1017 01:14:50,600 --> 01:14:53,520 ‎ถ้ามิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎นำเป็นอันดับหนึ่งได้เรื่อยๆ 1018 01:14:53,600 --> 01:14:57,600 ‎เขาจะได้ที่หนึ่ง ‎ในรายการชิงแชมป์โลกโดยมีคะแนนนำสามแต้ม 1019 01:14:58,360 --> 01:15:03,920 ‎(มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 1 ‎เฟอร์รารี่) 1020 01:15:04,000 --> 01:15:05,760 ‎เส้นทางวิ่งเต็มไปด้วยน้ำ 1021 01:15:09,000 --> 01:15:12,200 ‎(มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ รอบ 9 ‎รอบที่เร็วที่สุด 2:03.766) 1022 01:15:12,280 --> 01:15:15,560 ‎ล้อรถที่ใหญ่สะบัดเอาละอองน้ำขึ้นมา 1023 01:15:15,640 --> 01:15:16,640 ‎เอาน้ำขึ้นมาจากถนน 1024 01:15:17,200 --> 01:15:21,000 ‎ถ้าคุณวิ่งตามรถ ‎คุณจะไม่เห็นรถอีกคันหรือเห็นด้านข้างของถนน 1025 01:15:21,080 --> 01:15:22,200 ‎ไม่เห็นอะไรเลย 1026 01:15:23,240 --> 01:15:24,560 ‎(1 มิชชาเอล ‎8 โคลต์ฮาร์ด) 1027 01:15:27,480 --> 01:15:29,880 ‎มิชชาเอลชนะด้วยคะแนนทิ้งห่าง 1028 01:15:29,960 --> 01:15:33,960 ‎ทีมบอกผมว่า ‎"เบอร์หนึ่งกำลังจะแซงรอบคุณ" 1029 01:15:34,040 --> 01:15:36,000 ‎แต่ฝนตก ดังนั้นคุณมองไม่เห็น 1030 01:15:36,080 --> 01:15:37,400 ‎มีกระจกเล็กๆ ก็จริง 1031 01:15:37,480 --> 01:15:40,000 ‎แต่มีละอองน้ำเกาะ ‎จึงตัดสินไม่ได้ว่ารถอีกคันอยู่ตรงไหน 1032 01:15:40,520 --> 01:15:44,360 ‎ผมรอให้เขาแซง ‎ในช่วงที่เรากำลังจะเข้าโค้งบลังค์ชีมองต์ 1033 01:15:44,440 --> 01:15:45,920 ‎ซึ่งเป็นโค้งหักซ้ายที่ต้องวิ่งเร็วมาก 1034 01:15:49,280 --> 01:15:52,920 ‎อย่าลืมครับว่าเดวิด โคลต์ฮาร์ด ‎ก็อยู่ในสนามที่เปียกและขับยากมากนี้เหมือนกัน 1035 01:15:53,000 --> 01:15:54,320 ‎โอ้พระเจ้า 1036 01:15:54,400 --> 01:15:57,080 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ขับชนเดวิด โคลต์ฮาร์ด 1037 01:15:57,160 --> 01:16:00,120 ‎เดวิดออกจากการแข่งขันเบลเยียมกรังด์ปรีซ์ 1038 01:16:00,200 --> 01:16:04,240 ‎เขาน่าจะคิดให้รอบคอบกว่านี้ ‎ในการพยายามแซงเดวิด 1039 01:16:04,320 --> 01:16:06,720 ‎มิชชาเอลเปรียบเหมือน ‎คนโดยสารในอุบัติเหตุครั้งนั้น 1040 01:16:06,800 --> 01:16:07,960 ‎ว่างั้นละกัน 1041 01:16:08,040 --> 01:16:13,120 ‎ช่วงแรกของสนามง่ายมากสำหรับโคลต์ฮาร์ด ‎ที่จะเบี่ยงเข้าด้านข้างและให้มิชชาเอลแซง 1042 01:16:13,840 --> 01:16:16,320 ‎แต่เขาไม่ทำ เขาวิ่งที่เดิมและทำให้แซงยาก 1043 01:16:18,040 --> 01:16:20,360 ‎ผมว่าเดวิดปล่อยคันเร่ง 1044 01:16:21,840 --> 01:16:23,760 ‎เราจะไม่ทำอย่างนั้นเวลาขับบนถนนเปียก 1045 01:16:23,840 --> 01:16:25,960 ‎เพราะนักแข่งมองไม่เห็นว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น 1046 01:16:26,040 --> 01:16:28,000 ‎เราห้ามเอาเท้าออกจากคันเร่ง 1047 01:16:28,080 --> 01:16:29,280 ‎มิชชาเอลก็เลยชนเขาไง 1048 01:16:37,320 --> 01:16:39,240 ‎เข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งในการแข่งชิงแชมป์ 1049 01:16:39,320 --> 01:16:40,760 ‎ตอนนี้เขากำลังทำอะไรครับ 1050 01:16:40,840 --> 01:16:43,720 ‎เขากำลังเดินออกจากพิทเลน น่าจะไป… 1051 01:16:43,800 --> 01:16:46,600 ‎ดูครับๆ เขาพูดว่า "ผมจะไปหาคณะกรรมการ" 1052 01:16:46,680 --> 01:16:48,000 ‎เขากำลังเดินไปหาโคลต์ฮาร์ด 1053 01:16:48,080 --> 01:16:50,400 ‎เขาจะไปเคลียร์กับเดวิด โคลต์ฮาร์ด 1054 01:16:50,480 --> 01:16:51,680 ‎ผมรู้ว่าเขาโกรธ 1055 01:16:51,760 --> 01:16:54,480 ‎คอเขานี่แดงเลยครับ 1056 01:16:54,560 --> 01:16:55,400 ‎ตาเขาแบบ… 1057 01:16:55,480 --> 01:16:58,000 ‎แต่ทีมแยกเราไม่ให้ปะทะกัน 1058 01:16:58,080 --> 01:16:59,080 ‎จะฆ่าฉันรึไง 1059 01:17:12,880 --> 01:17:16,120 ‎เราไปเจอกันบนรถบัสของเบอร์นี่ เอ็คเคิลสโตน ‎เพื่อเคลียร์กัน 1060 01:17:16,200 --> 01:17:19,560 ‎ผมบอกเขาว่า ‎"ฉันยอมรับว่าฉันมีส่วนผิดในการชนครั้งนี้ 1061 01:17:19,640 --> 01:17:21,880 ‎แต่นายก็ต้องรับผิดด้วยส่วนหนึ่ง" 1062 01:17:21,960 --> 01:17:23,960 ‎เขาตอบว่า "ไม่ ฉันว่าไม่ใช่อย่างนั้น" 1063 01:17:24,040 --> 01:17:27,440 ‎ผมก็ตอบกลับไปว่า "เอาตามจริงนะ มิชชาเอล ‎นายมาชนที่ด้านหลังของฉัน 1064 01:17:27,520 --> 01:17:29,760 ‎ฉันไม่ได้ถอยไปชนนายสักหน่อย" 1065 01:17:29,840 --> 01:17:32,040 ‎เราคุยกันจนถึงจุดที่ผมพูดว่า 1066 01:17:32,120 --> 01:17:34,880 ‎"นี่ บางครั้งนายก็ต้องผิดบ้าง" 1067 01:17:34,960 --> 01:17:36,920 ‎เขาหยุดคิดสักพักแล้วก็พูดว่า 1068 01:17:37,640 --> 01:17:38,920 ‎"ไม่เห็นจำได้" 1069 01:17:48,560 --> 01:17:53,600 ‎ความคาดหวังและความผิดหวังสูงขึ้นเรื่อยๆ 1070 01:17:53,680 --> 01:17:55,240 ‎(ราชาคนเดียวคือชูมี่) 1071 01:17:55,320 --> 01:17:57,800 ‎เพราะสิ่งที่ผู้คนคิดคือ 1072 01:17:57,880 --> 01:18:00,680 ‎"มิชชาเอลเข้ามา ‎เฟอร์รารี่จะต้องชนะทันทีแน่นอน" 1073 01:18:00,760 --> 01:18:01,960 ‎(ชูมี่ตลอดไป) 1074 01:18:02,040 --> 01:18:05,440 ‎(มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ พระเจ้า) 1075 01:18:05,520 --> 01:18:07,880 ‎เขาร่วมแข่งในปี 1996 1076 01:18:08,640 --> 01:18:09,520 ‎1997 1077 01:18:10,240 --> 01:18:11,160 ‎1998 1078 01:18:12,000 --> 01:18:13,120 ‎แล้วก็ 1999 1079 01:18:13,200 --> 01:18:17,240 ‎จนถึงจุดหนึ่งมีคนสงสัยว่า ‎มิชชาเอลใช่นักแข่งสำหรับเรามั้ย 1080 01:18:17,320 --> 01:18:19,640 ‎หรือเราควรจ้างนักแข่งอย่างฮักคิเนน 1081 01:18:20,240 --> 01:18:25,560 ‎(ซิลเวอร์สโตน บริเตนใหญ่ ‎11 กรกฎาคม 1999) 1082 01:18:32,880 --> 01:18:35,080 ‎มิก้า ฮักคิเนน ‎ทำคะแนนไปได้อย่างสวยงามที่สนามนี้ 1083 01:18:35,160 --> 01:18:37,360 ‎(ซีซั่นที่สี่ของชูมัคเคอร์ปี 1999 ‎สกูเดเรียเฟอร์รารี่) 1084 01:18:37,440 --> 01:18:38,960 ‎เช้านี้เราแข่งรอบควอลิฟายไป 1085 01:18:39,040 --> 01:18:41,040 ‎และมิก้า ฮักคิเนนวิ่งได้เร็วที่สุด 1086 01:18:41,120 --> 01:18:45,160 ‎เขาวิ่งได้เร็วที่สุดอย่างสบายๆ ‎ในรอบควอลิฟายแต่ละรอบ 1087 01:18:45,960 --> 01:18:49,080 ‎ส่วนมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎เมื่อเช้านี้ในรอบอุ่นเครื่อง 1088 01:18:49,160 --> 01:18:52,720 ‎ช้ากว่ามิก้า ฮักคิเนนไป 0.7 วินาที 1089 01:18:52,800 --> 01:18:54,440 ‎เร็วที่สุดเป็นอันดับสอง 1090 01:18:57,560 --> 01:18:58,480 ‎ถึงเวลาแข่งจริงแล้ว 1091 01:18:59,520 --> 01:19:01,520 ‎ซิ่งบนสนามซิลเวอร์สโตนกันเลย 1092 01:19:02,680 --> 01:19:03,520 ‎เริ่ม 1093 01:20:13,160 --> 01:20:15,600 ‎ล้อหน้าเข้ามาถึงห้องคนขับ 1094 01:20:15,680 --> 01:20:17,560 ‎และติดอยู่ตรงไหนสักที่ในนั้น 1095 01:20:18,120 --> 01:20:23,840 ‎ผมออกมาไม่ได้ ‎ขาผมติด และผมพยายามดึงขาออก 1096 01:20:35,040 --> 01:20:38,880 ‎ผมก็นอนราบกับเบาะ ‎แล้วก็สังเกตว่าตัวเองเริ่มสงบขึ้น 1097 01:20:39,960 --> 01:20:42,000 ‎ทันใดนั้นผมก็รู้สึกว่าหัวใจเริ่มเต้นช้าลง 1098 01:20:42,600 --> 01:20:44,720 ‎ช้าลง แล้วก็ช้าลง 1099 01:20:45,320 --> 01:20:47,720 ‎จนอยู่ๆ มันก็หยุดเต้นไปเลย 1100 01:20:47,800 --> 01:20:51,800 ‎แล้วผมก็คิดในใจว่า ‎"นี่สินะ ความรู้สึกเมื่อกำลังจะไปสวรรค์" 1101 01:20:57,840 --> 01:21:00,080 ‎ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันอยู่ที่บ้าน 1102 01:21:00,160 --> 01:21:06,600 ‎เขาโบกมือจากหลังผ้าที่กั้นอยู่ ‎เพื่อบอกเราว่า "ทุกอย่างโอเค" 1103 01:21:13,320 --> 01:21:16,600 ‎ตอนนั้นเลยที่ฉันคิดว่า "ตายแล้ว" 1104 01:21:17,360 --> 01:21:18,920 ‎แต่โดยรวมแล้ว 1105 01:21:19,000 --> 01:21:24,440 ‎ทุกครั้งเราจะผ่านการแข่งขันไปได้อย่างปลอดภัย 1106 01:21:24,520 --> 01:21:27,480 ‎นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันมั่นใจ 1107 01:21:27,560 --> 01:21:32,360 ‎ว่าเขามีเทวทูตผู้พิทักษ์คอยปกป้องอยู่ 1108 01:21:42,240 --> 01:21:47,880 ‎ฉันไม่รู้ว่ามันคือกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นมาเอง 1109 01:21:48,640 --> 01:21:53,280 ‎หรือเพราะไร้เดียงสากันแน่ 1110 01:21:53,800 --> 01:21:55,680 ‎ฉันไม่รู้ค่ะ 1111 01:21:56,480 --> 01:21:59,920 ‎แต่ฉันไม่เคย 1112 01:22:00,560 --> 01:22:03,640 ‎คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับมิชชาเอล 1113 01:22:12,680 --> 01:22:14,000 ‎ปลายปี 1999 1114 01:22:14,640 --> 01:22:16,160 ‎พวกเขาแข่งไปทั้งหมดสี่ซีซั่น 1115 01:22:16,760 --> 01:22:18,120 ‎พวกเขาชนะบางการแข่งขัน 1116 01:22:18,200 --> 01:22:19,400 ‎มีความต้องการที่จะชนะ 1117 01:22:20,480 --> 01:22:23,560 ‎แต่ต้องมีความอดทนมากกว่านี้ 1118 01:22:25,360 --> 01:22:27,160 ‎หลังจากนั้นผู้คนก็เริ่มสงสัย 1119 01:22:27,240 --> 01:22:31,000 ‎ว่ามันจะเกิดขึ้นกับมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎และเฟอร์รารี่มั้ย 1120 01:22:43,640 --> 01:22:49,200 ‎เขารู้ว่าเขาคือผู้ชนะ เขารู้ว่าเขาคือแชมป์ 1121 01:22:49,800 --> 01:22:51,800 ‎เรามั่นใจว่าเราใกล้จะชนะแล้ว 1122 01:22:51,880 --> 01:22:53,880 ‎(ปีเอโร เฟอร์รารี่ ‎รองประธานของเฟอร์รารี่) 1123 01:22:53,960 --> 01:22:55,560 ‎แต่เราไม่ชนะการแข่งขันชิงแชมป์ 1124 01:22:55,640 --> 01:22:59,160 ‎พอเราไม่ชนะ ก็มีความสงสัยเกิดขึ้น 1125 01:22:59,240 --> 01:23:02,840 ‎สิ่งที่ผมกังวล ผมไม่มีความเห็นในเรื่องนั้น 1126 01:23:02,920 --> 01:23:05,640 ‎มันคือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติครับ 1127 01:23:06,960 --> 01:23:10,360 ‎ช่วงแรกของซีซั่นประจำปี 2000 ‎สิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ 1128 01:23:10,440 --> 01:23:11,960 ‎และทันใดนั้น 1129 01:23:12,880 --> 01:23:16,080 ‎เราก็มาจนถึงกลางซีซั่น 1130 01:23:17,160 --> 01:23:20,720 ‎มาอยู่ในจุดที่ยากที่จะเชื่อว่าเราสามารถชนะได้ 1131 01:23:23,160 --> 01:23:25,960 ‎เราเริ่มสงสัยในความสามารถของทุกคนในทีม 1132 01:23:26,880 --> 01:23:28,760 ‎รวมทั้งมิชชาเอลด้วย 1133 01:23:33,960 --> 01:23:36,160 ‎ถึงตอนนี้แล้วเราต้องชนะทุกการแข่งขัน 1134 01:23:37,160 --> 01:23:40,480 ‎เพราะถ้าเราไม่ชนะ เราจะไม่ได้เป็นแชมป์โลก 1135 01:23:41,720 --> 01:23:47,360 ‎(มอนซา อิตาลี ‎10 กันยายน 2000) 1136 01:23:52,520 --> 01:23:53,960 ‎นี่คือจุดชี้เป็นชี้ตาย 1137 01:23:54,040 --> 01:23:55,760 ‎ชูมัคเคอร์กำลังนำ ฮักคิเนนอยู่อันดับสอง 1138 01:23:55,840 --> 01:23:58,080 ‎(ซีซั่นที่ห้าของชูมัคเคอร์ปี 2000 ‎สกูเดเรียเฟอร์รารี่) 1139 01:23:58,160 --> 01:24:03,080 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์มองที่กระจก ‎เพื่อดูว่ามิก้า ฮักคิเนนอยู่ตรงนั้นมั้ย 1140 01:24:03,160 --> 01:24:06,240 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ชนะที่มอนซาในประเทศอิตาลี 1141 01:24:06,320 --> 01:24:09,840 ‎และลดช่องว่างคะแนน ‎ระหว่างเขากับมิก้า ฮักคิเนน 1142 01:24:09,920 --> 01:24:11,000 ‎ในการแข่งชิงแชมป์โลก 1143 01:24:11,080 --> 01:24:13,160 ‎คุณชนะเป็นครั้งที่ 41 ซึ่งเท่ากับอาอีร์ตง เซนนา 1144 01:24:13,240 --> 01:24:15,240 ‎คุณเป็นนักแข่งแถวหน้าตลอดกาล ‎คนที่สองต่อจากเขา 1145 01:24:15,320 --> 01:24:16,600 ‎สถิตินี้มีความหมายกับคุณมากมั้ย 1146 01:24:16,680 --> 01:24:17,760 ‎(งานแถลงข่าว มอนซา) 1147 01:24:17,840 --> 01:24:19,200 ‎ครับ มันมีความหมายกับผมมาก 1148 01:24:22,800 --> 01:24:23,640 ‎ขอโทษครับ 1149 01:24:36,280 --> 01:24:37,320 ‎ขอบคุณ มิชชาเอล 1150 01:24:38,440 --> 01:24:40,040 ‎มิก้าครับ ในการแข่งขันสองที่ผ่านมา 1151 01:24:40,120 --> 01:24:44,720 ‎มิชชาเอลใจกว้างพอสมควรเลย ‎ที่วันนั้นเขายอมรับว่าคุณมีรถที่เร็วที่สุด 1152 01:24:44,800 --> 01:24:45,720 ‎ซึ่งคือรถแม็คลาเรน 1153 01:24:45,800 --> 01:24:47,760 ‎คุณว่าวันนี้เฟอร์รารี่คือรถที่เร็วที่สุดมั้ยครับ 1154 01:24:49,640 --> 01:24:50,480 ‎พักก่อนได้มั้ย 1155 01:24:55,040 --> 01:24:59,960 ‎(ซูซูกะ ประเทศญี่ปุ่น ‎8 ตุลาคม 2000) 1156 01:25:00,040 --> 01:25:03,040 ‎ตอนนี้ความตึงเครียดเกินจะต้านไหว 1157 01:25:03,120 --> 01:25:06,040 ‎มือผมเหงื่อออก 1158 01:25:06,120 --> 01:25:11,120 ‎ผมหวังว่ามันจะเป็นการแข่งขันสุดระทึก ‎บนทุกตารางนิ้วของเส้นทาง 1159 01:25:15,720 --> 01:25:17,480 ‎การชิงตำแหน่งแชมป์ที่ซูซูกะ 1160 01:25:17,560 --> 01:25:20,720 ‎คือการชิงแชมป์วันสุดท้ายครั้งที่สี่ของเขา 1161 01:25:22,320 --> 01:25:24,040 ‎มันอาจจะเป็นการแข่งขันที่สำคัญที่สุด 1162 01:25:24,120 --> 01:25:26,760 ‎ในอาชีพนักแข่งฟอร์มูล่าวัน ‎ของชูมัคเคอร์เลยก็ว่าได้ 1163 01:25:28,560 --> 01:25:30,880 ‎เฟอร์รารี่รู้ว่ามิก้า ฮักคิเนนเร็วมาก 1164 01:25:30,960 --> 01:25:32,600 ‎ข้อได้เปรียบของเขาคือความเร็ว 1165 01:25:32,680 --> 01:25:34,120 ‎และเขาไม่ได้ซับซ้อนอะไร 1166 01:25:34,200 --> 01:25:37,440 ‎เขาเร็วจนเหลือเชื่อ ‎เร็วจนกลายเป็นแรงบันดาลใจ 1167 01:25:39,360 --> 01:25:43,360 ‎เขาก้มหัวลงแล้วก็หลับตา เหมือนกำลังทำสมาธิ 1168 01:25:43,880 --> 01:25:46,080 ‎กำลังจินตนาการว่าจะขับยังไงให้ชนะ 1169 01:25:46,160 --> 01:25:49,000 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ต้องชนะการแข่งชิงแชมป์ในครั้งนี้ 1170 01:25:49,080 --> 01:25:50,960 ‎เพื่อตัวเองและเพื่อเฟอร์รารี่ 1171 01:25:51,040 --> 01:25:53,880 ‎ผมว่าฮักคิเนนกำลังทำใจสบายๆ 1172 01:25:57,760 --> 01:26:00,560 ‎เราแพ้การแข่งขันรอบสุดท้ายของปี 1997 1173 01:26:00,640 --> 01:26:01,720 ‎1998 1174 01:26:01,800 --> 01:26:03,080 ‎และ 1999 1175 01:26:03,160 --> 01:26:05,080 ‎และปี 2000 เราก็อาจจะแพ้อีก 1176 01:26:07,600 --> 01:26:08,760 ‎จับตาดูให้ดี 1177 01:26:08,840 --> 01:26:09,680 ‎สี่ดวงแล้ว 1178 01:26:09,760 --> 01:26:12,120 ‎มาเต็มห้าดวงแล้วครับที่เจแปนนิสกรังด์ปรีซ์ 1179 01:26:13,600 --> 01:26:14,440 ‎การแข่งเริ่มขึ้นแล้ว 1180 01:26:14,520 --> 01:26:18,520 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์วิ่งตัดไปอีกด้าน ‎แล้วเบียดมิก้า ฮักคิเนนเข้ากำแพง 1181 01:26:18,600 --> 01:26:20,320 ‎ฮักคิเนนเอาอีกแล้วครับ 1182 01:26:20,400 --> 01:26:24,120 ‎เขาขึ้นมานำเหมือนปีก่อนและปีก่อนหน้าปีก่อน 1183 01:26:24,200 --> 01:26:27,320 ‎ค่อนข้างเป็นข่าวร้ายสำหรับมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 1184 01:26:38,400 --> 01:26:44,720 ‎(1 ฮักคิเนน ‎2 มิชชาเอล ชูมัคเคอร์) 1185 01:26:44,800 --> 01:26:48,200 ‎(1 ฮักคิเนน ‎2 มิชชาเอล ชูมัคเคอร์) 1186 01:26:48,280 --> 01:26:50,280 ‎(3 โคลต์ฮาร์ด ‎4 ราล์ฟ ชูมัคเคอร์) 1187 01:26:51,320 --> 01:26:53,040 ‎ฮักคิเนนนำเป็นอันดับหนึ่ง 1188 01:26:53,120 --> 01:26:57,000 ‎ตอนนี้เขาเข้าพิทสต็อปเป็นครั้งแรก ‎หลังจากวิ่งจบรอบที่ 22 1189 01:27:07,520 --> 01:27:10,000 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ขึ้นมานำครับ 1190 01:27:10,080 --> 01:27:13,360 ‎และเขารู้ว่าเขาต้อง "ซิ่งๆๆ!" ในรอบนี้ 1191 01:27:21,120 --> 01:27:22,240 ‎มิชชาเอลเข้าพิทสต็อป 1192 01:27:22,320 --> 01:27:23,360 ‎เจมส์ ยังอยู่มั้ย 1193 01:27:23,440 --> 01:27:24,560 ‎ยังอยู่ มาร์ติน 1194 01:27:24,640 --> 01:27:27,600 ‎ผมเพิ่งรู้ว่าฮักคิเนน ‎เติมเชื้อเพลิงที่วิ่งได้ 13 รอบ 1195 01:27:27,680 --> 01:27:28,800 ‎แค่นั้นครับ 1196 01:27:30,120 --> 01:27:31,040 ‎เจ็ดจุดสี่ 1197 01:27:31,120 --> 01:27:33,360 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎เติมน้ำมันเชื้อเพลิงแค่นิดเดียว 1198 01:27:34,120 --> 01:27:36,640 ‎ดูสิครับ มิก้า ฮักคิเนนวิ่งมาทางด้านขวา 1199 01:27:36,720 --> 01:27:39,440 ‎และกำลังจะแซงชูมัคเคอร์ 1200 01:27:39,520 --> 01:27:42,240 ‎สถานการณ์เดิมกลับมาแล้วครับ 1201 01:27:54,920 --> 01:27:59,080 ‎ช่างยนต์ของแม็คลาเรน ‎ออกมาเปลี่ยนยางเป็นครั้งที่สอง 1202 01:28:02,440 --> 01:28:04,200 ‎ตอนนั้นฮักคิเนนกำลังนำอยู่ 1203 01:28:04,280 --> 01:28:06,240 ‎เขานำอยู่สักพัก 1204 01:28:07,000 --> 01:28:10,120 ‎มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เรารอให้ช่างยนต์ที่พิทสต็อป 1205 01:28:10,960 --> 01:28:11,800 ‎เปลี่ยนยางให้เสร็จ 1206 01:28:12,360 --> 01:28:16,360 ‎ผมมองไปบนสนาม ‎แล้วเห็นมิก้ากำลังออกมาบนสนาม 1207 01:28:17,760 --> 01:28:19,360 ‎ฮักคิเนน 7.4 1208 01:28:19,440 --> 01:28:23,320 ‎สองรอบถัดจากนี้คือตัวตัดสินเจแปนนิสกรังด์ปรีซ์ 1209 01:28:24,280 --> 01:28:25,520 ‎เขาเข้าพิทสต็อปครับ 1210 01:28:25,600 --> 01:28:26,960 ‎- เจมส์ครับ ‎- ใช่ เขา… 1211 01:28:27,040 --> 01:28:29,640 ‎ดูสิ รอบนี้เขาเร็วกว่าฮักคิเนนครึ่งวินาที 1212 01:28:29,720 --> 01:28:31,560 ‎ตอนนี้นำแค่ 0.268 วินาทีครับ 1213 01:28:31,640 --> 01:28:34,480 ‎ฟังนะมิชชาเอล พอคุณออกไป เขาจะอยู่ตรงนั้น 1214 01:28:35,120 --> 01:28:36,440 ‎ผมจะคอยแนะคุณ 1215 01:28:36,520 --> 01:28:38,920 ‎ตอนนี้คุณกำลังนำอยู่ ได้เรื่อยๆ 1216 01:28:39,000 --> 01:28:40,240 ‎ได้เรื่อยๆ 1217 01:28:41,240 --> 01:28:43,000 ‎คุณยังนำอยู่ มิชชาเอล 1218 01:28:43,080 --> 01:28:45,280 ‎ดีมาก ดี สุดยอด 1219 01:28:45,360 --> 01:28:46,680 ‎วิ่งต่อไป 1220 01:28:46,760 --> 01:28:50,480 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์กลับเข้ามาในสนามแล้ว 1221 01:28:50,560 --> 01:28:53,400 ‎และกำลังนำมิก้า ฮักคิเนน 1222 01:28:53,480 --> 01:28:56,840 ‎เสียงแตรดังขึ้นเพราะพวกเขา ‎อยากให้เฟอร์รารี่ชนะในญี่ปุ่น 1223 01:28:56,920 --> 01:29:00,520 ‎เหมือนกับที่พวกเขาอยากให้ชนะในประเทศอื่นๆ 1224 01:29:00,600 --> 01:29:07,600 ‎(1 มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎2 ฮักคิเนน) 1225 01:29:08,680 --> 01:29:10,320 ‎พวกเขาจะเชื่อสิ่งที่เห็นมั้ย 1226 01:29:10,400 --> 01:29:12,840 ‎ช่างยนต์ของเฟอร์รารี่เดินออกมา 1227 01:29:12,920 --> 01:29:17,440 ‎เพื่อต้อนรับมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ฮีโร่ของพวกเขา กลับเข้าอาคาร 1228 01:29:40,520 --> 01:29:44,000 ‎มิชชาเอล คุณจะออกอากาศนะ ‎แสดงความรู้สึกออกมาเลย 1229 01:29:49,240 --> 01:29:50,080 ‎เหลือเชื่อ 1230 01:29:50,840 --> 01:29:53,160 ‎คุณเก่งมากรอส 1231 01:29:53,920 --> 01:29:54,840 ‎พวกคุณทุกคนเก่งมาก 1232 01:29:55,680 --> 01:29:56,720 ‎เหลือเชื่อจริงๆ 1233 01:29:59,040 --> 01:30:01,160 ‎เหลือเชื่อ เราชนะ 1234 01:30:01,240 --> 01:30:03,360 ‎(1 มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 98 แต้ม) 1235 01:30:03,440 --> 01:30:04,280 ‎ขอบคุณ 1236 01:30:04,360 --> 01:30:06,240 ‎ฝากส่งจุ๊บให้โครินนาด้วย 1237 01:30:06,320 --> 01:30:07,720 ‎(2 ฮักคิเนน 86 แต้ม) 1238 01:30:08,480 --> 01:30:10,720 ‎เอาละ เราจะได้เห็นความปีติกันแล้ว 1239 01:30:10,800 --> 01:30:11,680 ‎ดูสิครับ 1240 01:30:18,640 --> 01:30:20,320 ‎สุดยอดจริงๆ 1241 01:31:01,600 --> 01:31:07,360 ‎มิชชาเอล! 1242 01:32:01,400 --> 01:32:04,080 ‎พอเขาได้ตำแหน่งแชมป์ในปี 2000 1243 01:32:04,640 --> 01:32:08,280 ‎ความกดดันทั้งหมดที่เขาแบกไว้ก็หมดไป 1244 01:32:09,360 --> 01:32:11,880 ‎เขาไม่รู้สึกแล้วว่าเขาเป็นหนี้ใคร 1245 01:32:11,960 --> 01:32:15,920 ‎เขาคว้าตำแหน่งแชมป์โลกให้เฟอร์รารี่ได้แล้ว ‎ซึ่งเป็นสิ่งที่เฟอร์รารี่ต้องการมามากกว่า 20 ปี 1246 01:32:16,680 --> 01:32:18,760 ‎พอเลยจุดนั้นไปแล้ว ทุกอย่างคือโบนัส 1247 01:32:19,280 --> 01:32:21,800 ‎หลังจากนั้นเขาขับด้วยความรู้สึกอิสระ 1248 01:32:21,880 --> 01:32:24,760 ‎ขับด้วยหัวใจ ขับด้วยความคลั่งไคล้ 1249 01:32:24,840 --> 01:32:27,920 ‎ขับด้วยความรู้สึกสบายใจว่า 1250 01:32:28,000 --> 01:32:29,840 ‎"ฉันกำลังทำในสิ่งที่ฉันรัก 1251 01:32:29,920 --> 01:32:32,200 ‎และตอนนี้ฉันไม่ติดค้างอะไรใครแล้ว" 1252 01:32:32,880 --> 01:32:35,120 ‎แล้วเขาก็ก้าวขึ้นไปอีกระดับอีกครั้ง 1253 01:32:49,800 --> 01:32:55,000 ‎การดูมิชชาเอลขับด้วยความเร็วสูง ‎เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก 1254 01:32:55,080 --> 01:32:56,200 ‎มันคือ 1255 01:32:56,880 --> 01:33:03,320 ‎วิธีขับที่อาศัยสมาธิเต็มร้อย ‎และความทุ่มเทเต็มร้อย 1256 01:33:14,040 --> 01:33:16,600 ‎การเข้าโค้งด้วยความเร็ว ‎240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 1257 01:33:16,680 --> 01:33:20,800 ‎โดยรู้ว่าความสามารถของตัวเอง ‎จะทำให้ไปถึงอีกฝั่งได้อย่างปลอดภัย 1258 01:33:20,880 --> 01:33:22,600 ‎มันคือความสามารถพิเศษจริงๆ นะ 1259 01:33:22,680 --> 01:33:27,040 ‎มิชชาเอลมีพรสวรรค์นั้นสูงกว่าคนอื่น ‎มีพรสวรรค์ด้านความเร็วสูงกว่าคนอื่น 1260 01:33:27,120 --> 01:33:30,640 ‎ความพิเศษเกี่ยวกับมิชชาเอลคือ ‎เขาไม่ปล่อยให้พรสวรรค์นั้นไร้ประโยชน์ 1261 01:33:30,720 --> 01:33:36,320 ‎เขาทำทุกอย่าง ‎เพื่อให้ตัวเองสามารถใช้พรสวรรค์ที่ตัวเองมี 1262 01:33:41,600 --> 01:33:45,840 ‎มิชชาเอลเป็นคนไม่ค่อยกลัว ‎และผู้คนก็รู้ว่าเขาเป็นแบบนั้น 1263 01:33:45,920 --> 01:33:49,200 ‎ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ ‎ว่าพวกพวกเขาจะท้าสู้กับเขาได้มั้ย 1264 01:33:49,840 --> 01:33:52,960 ‎มิชชาเอลไม่ได้คิดเรื่องนั้น ‎เพราะเขารู้ขีดจำกัดของตัวเองดี 1265 01:33:53,680 --> 01:33:57,960 ‎ในขณะคนอื่นๆ ก็จะคิดว่า ‎"แอบเสี่ยงอยู่เหมือนกัน" แล้วก็ถอย 1266 01:33:58,560 --> 01:34:00,040 ‎แต่คุณจะไม่เห็นมิชชาเอลถอย 1267 01:34:03,400 --> 01:34:05,880 ‎เขาเป็นมืออาชีพ 1268 01:34:06,680 --> 01:34:08,040 ‎แต่ก็แสดงจิตใจที่ดีงามให้เห็น 1269 01:34:08,120 --> 01:34:11,280 ‎เขามีเสน่ห์ของความเป็นผู้นำ 1270 01:34:11,800 --> 01:34:15,640 ‎และนั่นคือของขวัญชิ้นดีที่เขามอบให้เรา 1271 01:34:15,720 --> 01:34:20,480 ‎นั่นคือสิ่งดีๆ ที่เขามอบให้กับวงการฟอร์มูล่าวัน 1272 01:34:24,280 --> 01:34:30,040 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ ‎ชนะแชมป์โลกฟอร์มูล่าวันเป็นครั้งที่เจ็ด 1273 01:34:30,120 --> 01:34:34,480 ‎ในวันที่เต็มไปด้วยความสนุกและน่าจดจำ ‎ของการแข่งรถฟอร์มูล่าวัน 1274 01:34:35,280 --> 01:34:36,920 ‎นี่คือประวัติศาสตร์ครับ 1275 01:34:40,440 --> 01:34:44,200 ‎เขาเป็นไอดอลของผม ‎ตั้งแต่สมัยที่ผมเริ่มขับรถโกคาร์ทแล้ว 1276 01:34:44,280 --> 01:34:46,400 ‎เขามีอิทธิพลต่อผมมาก 1277 01:34:46,480 --> 01:34:48,760 ‎นักแข่งรถที่ชื่อมิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 1278 01:34:48,840 --> 01:34:51,720 ‎คือฮีโร่ของผม ‎คือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากคว้าชัยชนะ 1279 01:34:52,720 --> 01:34:54,640 ‎ผมหลงใหลกีฬานี้มาก ‎ผมรู้จักนักแข่งคนอื่นนะ… 1280 01:34:54,720 --> 01:34:57,280 ‎(เซบาสเตียน เฟ็ทเทิล ‎แชมป์โลกฟอร์มูล่าวันสี่สมัย 2010 - 2013) 1281 01:34:57,360 --> 01:34:58,440 ‎แต่ไม่มีคนไหนเหมือนเขา 1282 01:35:02,480 --> 01:35:06,120 ‎การปฏิบัติงานให้เกิดผล ‎มีความสวยงามของความเป็นเลิศซ่อนอยู่ 1283 01:35:06,720 --> 01:35:08,960 ‎การปฏิบัติงานของเขา การปฏิบัติงานของทีม 1284 01:35:09,040 --> 01:35:13,520 ‎การชนะในระดับที่ยั่งยืน ‎โดยชนะทุกๆ ปีเป็นสิ่งที่ยากมาก 1285 01:35:13,600 --> 01:35:16,360 ‎และหลักฐานพิสูจน์ข้อเท็จจริงนั้นก็คือ ‎มันแทบจะไม่เกิดขึ้นเลย 1286 01:35:17,560 --> 01:35:20,400 ‎มันคือสิ่งที่ชูมัคเคอร์และทีมบรรลุ 1287 01:35:20,480 --> 01:35:24,880 ‎ตั้งแต่ปี 2000 ไปจนถึงปี 2004 1288 01:35:24,960 --> 01:35:27,680 ‎การไม่ยอมอ่อนข้อให้กับคู่แข่ง 1289 01:35:27,760 --> 01:35:30,120 ‎การไม่ยอมให้พวกเขาได้หวังแม้แต่น้อย 1290 01:35:30,200 --> 01:35:31,840 ‎เป็นอะไรที่น่าทึ่งจริงๆ 1291 01:35:35,240 --> 01:35:38,000 ‎เขากลายเป็นนักแข่งที่ไม่มีใครเทียบได้ 1292 01:35:38,880 --> 01:35:43,120 ‎ผู้คนมองย้อนกลับไปช่วงเวลาที่ครองชัยชนะ 1293 01:35:43,200 --> 01:35:46,120 ‎และมองว่ามันคือยุคทอง ซึ่งก็เป็นยุคทองจริงๆ 1294 01:35:46,200 --> 01:35:49,440 ‎เพราะชนะการแข่งขันชิงแชมป์ห้าปีซ้อน 1295 01:35:49,520 --> 01:35:51,240 ‎ผู้คนจะจดจำมันไปตลอด 1296 01:35:57,440 --> 01:35:59,760 ‎ตอนที่เราไปสนามกับพวกเขา 1297 01:35:59,840 --> 01:36:03,040 ‎และเห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้น 1298 01:36:03,120 --> 01:36:08,080 ‎เห็นว่ามีคนจำนวนมาก ‎ที่มองว่าเขาเก่งและยกย่องเขา 1299 01:36:08,160 --> 01:36:11,720 ‎ฉันคิดว่ามันเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ 1300 01:36:12,440 --> 01:36:15,400 ‎แล้วฉันก็คิดว่า… 1301 01:36:15,480 --> 01:36:16,600 ‎(จีน่า ชูมัคเคอร์ ‎ลูกสาว) 1302 01:36:16,680 --> 01:36:20,520 ‎"นั่นพ่อฉัน ฉันดีใจมากที่เขาคือพ่อฉัน" 1303 01:36:21,240 --> 01:36:23,840 ‎ผมนับถือพ่อมาก 1304 01:36:23,920 --> 01:36:24,960 ‎(มิค ชูมัคเคอร์ ‎ลูกชาย) 1305 01:36:25,040 --> 01:36:27,480 ‎ผมนับถือเขามาตลอด ‎เขาเหมือนมีรัศมีอะไรบางอย่าง 1306 01:36:28,040 --> 01:36:29,760 ‎เวลาเขาเดินเข้าไปในห้อง 1307 01:36:30,760 --> 01:36:33,800 ‎ทุกคนจะเงียบ 1308 01:36:33,880 --> 01:36:35,400 ‎ผมจำได้ว่าอย่างนั้น 1309 01:36:35,480 --> 01:36:38,120 ‎ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เงียบ 1310 01:36:39,080 --> 01:36:44,200 ‎อย่างที่บอกไป ‎เวลาฮีโร่ของผมเดินเข้าไปในห้อง 1311 01:36:45,320 --> 01:36:49,640 ‎เวลาผมมองเขาแล้วคิดในใจ ผมบอกตัวเองว่า 1312 01:36:49,720 --> 01:36:50,560 ‎"นี่แหละ 1313 01:36:51,560 --> 01:36:52,400 ‎สิ่งที่ฉันอยากเป็น" 1314 01:36:52,480 --> 01:36:55,520 ‎แข็งแกร่งและมีจิตใจที่สงบแบบนี้แหละ 1315 01:36:58,000 --> 01:36:58,840 ‎สิ้นปีนี้… 1316 01:36:58,920 --> 01:37:00,840 ‎(มอนซา ประเทศอิตาลี ‎10 กันยายน 2006) 1317 01:37:00,920 --> 01:37:03,880 ‎ผมตัดสินใจกับทีมแล้วว่า 1318 01:37:03,960 --> 01:37:06,240 ‎ผมจะออกจากวงการแข่งรถ 1319 01:37:07,000 --> 01:37:09,280 ‎ผมควรขอบคุณครอบครัวผม 1320 01:37:09,360 --> 01:37:11,240 ‎ที่สนับสนุนสิ่งที่ผมทำ 1321 01:37:12,520 --> 01:37:14,440 ‎มาตลอด 1322 01:37:14,520 --> 01:37:15,920 ‎ถ้าไม่ได้พวกเขาคอยสนับสนุน 1323 01:37:16,000 --> 01:37:21,800 ‎ถ้าพวกเขาไม่เข้มแข็งพอ ‎ที่จะอยู่ให้รอดในธุรกิจนี้ ในกีฬานี้ 1324 01:37:21,880 --> 01:37:23,080 ‎และทำผลงาน 1325 01:37:23,880 --> 01:37:25,960 ‎ผมว่ามันก็คงเป็นไปไม่ได้ 1326 01:37:26,600 --> 01:37:28,240 ‎ผมขอบคุณมากจริงๆ 1327 01:37:47,280 --> 01:37:49,280 ‎ผมลาออกจากวงการเพราะ 1328 01:37:50,120 --> 01:37:52,640 ‎ผมหมดความคลั่งไคล้แล้ว ผมไม่มีแรงจูงใจแล้ว 1329 01:37:52,720 --> 01:37:53,560 ‎ผมเหนื่อย 1330 01:37:57,320 --> 01:37:59,200 ‎เขาเจอความตื่นเต้นใหม่ๆ 1331 01:37:59,280 --> 01:38:01,200 ‎เขาไม่นั่งบนโซฟาแล้ว 1332 01:38:01,280 --> 01:38:05,880 ‎เขาต้องไปนั่นไปนี่ ทำนั่นทำนี่ 1333 01:38:05,960 --> 01:38:07,200 ‎ทำสิ่งนั้นต่อจากสิ่งนี้ 1334 01:38:11,440 --> 01:38:14,120 ‎มิชชาเอลทำกิจกรรมไม่หยุดไม่หย่อน 1335 01:38:14,200 --> 01:38:17,360 ‎ยกตัวอย่างเช่น สมมติถ้าอากาศดี 1336 01:38:17,960 --> 01:38:19,680 ‎"ผมไปกระโดดร่มดีกว่า" 1337 01:38:19,760 --> 01:38:23,160 ‎แล้วไม่ใช่ครั้งเดียวไง กระโดดตั้ง 24 ครั้ง 1338 01:38:26,040 --> 01:38:29,840 ‎หลังจากที่เขาออกจากวงการฟอร์มูล่าวัน ‎เขาถามตัวเองว่า "จะทำอะไรต่อดี" 1339 01:38:31,320 --> 01:38:35,480 ‎เขาถามฉันว่า "ทำอะไรดี" ‎ฉันตอบว่า "ฉันไปแข่งแรลลี่กับคุณก็ได้ 1340 01:38:35,560 --> 01:38:37,920 ‎ฉันอ่านแผนที่ไม่เก่งหรอก แต่ลองดูก็ไม่เสียหาย" 1341 01:38:38,000 --> 01:38:39,520 ‎เขาตอบว่า "ไม่เอา" 1342 01:38:40,880 --> 01:38:45,080 ‎(ชตุทท์การ์ท ประเทศเยอรมนี ‎25 มกราคม 2010) 1343 01:38:54,800 --> 01:38:55,920 ‎ผมว่าที่มิชชาเอลกลับมา 1344 01:38:56,000 --> 01:39:00,240 ‎เป็นเพราะความต้องการส่วนตัว ‎และความอยากเติมเต็มล้วนๆ 1345 01:39:00,320 --> 01:39:02,680 ‎เขาไม่มีอะไรต้องพิสูจน์ 1346 01:39:02,760 --> 01:39:06,560 ‎แต่เขารู้สึกว่าเขาต้องขับรถ ต้องแข่ง 1347 01:39:06,640 --> 01:39:09,360 ‎และต้องร่วมเส้นทางนั้นไปกับเมอร์เซเดส 1348 01:39:12,080 --> 01:39:16,440 ‎มันคือช่วงใหม่เลยนะ ‎มันคือวิถีใหม่ไปเลยสำหรับเขา 1349 01:39:17,040 --> 01:39:20,320 ‎เขาตระหนักว่าเขาสามารถ ‎สัมผัสประสบการณ์ฟอร์มูล่าวันได้ในรูปแบบใหม่ 1350 01:39:20,400 --> 01:39:25,320 ‎การเป็นผู้ชิงแชมป์โลก ‎ไม่น่าสนใจอีกต่อไปสำหรับเขา 1351 01:39:25,400 --> 01:39:28,840 ‎เขาสนุกกับมันจนถึงจุดหนึ่ง 1352 01:39:36,200 --> 01:39:39,720 ‎ผมไม่เคยอยู่ในระดับเดียวกับเขาในเรื่องฝีมือ 1353 01:39:39,800 --> 01:39:40,760 ‎แต่ผมรู้อย่างแน่ชัดว่า 1354 01:39:41,440 --> 01:39:44,600 ‎ตอนที่ใกล้จะหยุดทำอาชีพนี้ ปีสุดท้ายตอนอายุ 37 1355 01:39:45,320 --> 01:39:49,600 ‎ช่วงพักที่ผมถวิลหากำลังจะหายไป ‎ก่อนที่ผมจะได้พักจริงๆ 1356 01:39:49,680 --> 01:39:51,240 ‎เพราะยังไงเราก็แก่ตัวไปเรื่อยๆ 1357 01:39:51,320 --> 01:39:53,160 ‎มันเป็นธรรมดาของชีวิต 1358 01:40:02,760 --> 01:40:06,000 ‎ระหว่างการแข่งแต่ละครั้ง ‎เรามักจะพักที่ต่างประเทศ 1359 01:40:06,080 --> 01:40:08,760 ‎เพราะคงไม่ฉลาดนักที่จะบินกลับ 1360 01:40:09,280 --> 01:40:10,640 ‎เขาพูดอยู่บ่อยๆ ว่า 1361 01:40:10,720 --> 01:40:14,600 ‎"ผมมาทำอะไรที่นี่ ‎ผมคิดถึงครอบครัว ทำไมผมถึงอยู่ไกลแบบนี้ 1362 01:40:14,680 --> 01:40:18,520 ‎ผมรู้แล้วว่ามันไม่สำคัญเท่ากับที่มันเคยสำคัญ 1363 01:40:18,600 --> 01:40:22,240 ‎ตอนนี้ครอบครัวสำคัญกว่า" 1364 01:40:51,240 --> 01:40:58,240 ‎(เมรีเบล ประเทศฝรั่งเศส) 1365 01:41:06,400 --> 01:41:07,320 ‎มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ 1366 01:41:07,400 --> 01:41:10,200 ‎นักแข่งที่ประสบความสำเร็จที่สุด ‎ในประวัติศาสตร์ฟอร์มูล่าวัน 1367 01:41:10,280 --> 01:41:11,280 ‎ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลค่ะ 1368 01:41:11,360 --> 01:41:16,000 ‎(29 ธันวาคม 2013) 1369 01:41:20,560 --> 01:41:23,760 ‎ตอนนี้อาการของมิชชาเอล ชูมัคเคอร์สาหัสครับ 1370 01:41:33,040 --> 01:41:37,800 ‎ไม่นานก่อนที่มันจะเกิดขึ้นที่เมรีเบล ‎เขาบอกฉันว่า "หิมะไม่เป็นใจ 1371 01:41:38,360 --> 01:41:41,200 ‎เราบินไปดูไบดีกว่า ไปกระโดดร่มที่นั่น" 1372 01:41:45,600 --> 01:41:47,280 ‎โชคชะตาไม่อาจคาดเดาได้ 1373 01:41:49,520 --> 01:41:53,080 ‎ปกติโชคชะตามักจะใจดีกับมิชชาเอล 1374 01:41:54,080 --> 01:41:56,480 ‎แต่ครั้งนี้โชคชะตาไม่ใจดีกับเขา 1375 01:41:57,320 --> 01:41:59,080 ‎เขากลายเป็นเหยื่อของเคราะห์ร้าย 1376 01:42:03,440 --> 01:42:06,520 ‎วันที่ 29 ธันวาคม 2013 1377 01:42:07,280 --> 01:42:09,080 ‎ชีวิตของมิชชาเอลและครอบครัว 1378 01:42:10,600 --> 01:42:11,560 ‎เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง 1379 01:42:13,320 --> 01:42:17,800 ‎ชีวิตครอบครัว ‎เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงภายในพริบตา 1380 01:42:18,360 --> 01:42:21,640 ‎คุณพ่อที่เป็นผู้นำที่เข้มแข็ง 1381 01:42:21,720 --> 01:42:24,360 ‎มีคุณลักษณะที่ดี 1382 01:42:24,440 --> 01:42:29,360 ‎สิ่งนั้นพังทลายลงในพริบตา 1383 01:42:52,200 --> 01:42:54,560 ‎ฉันไม่เคย… 1384 01:42:57,360 --> 01:43:00,480 ‎โทษพระเจ้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น 1385 01:43:01,160 --> 01:43:04,520 ‎มันคือเคราะห์ร้าย 1386 01:43:04,600 --> 01:43:07,440 ‎เคราะห์ร้ายที่ใครๆ ก็เจอได้ในชีวิต 1387 01:43:09,120 --> 01:43:11,760 ‎มันแย่นะเวลาคุณพูดว่า 1388 01:43:11,840 --> 01:43:16,120 ‎"ทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับมิชชาเอลหรือเรา" 1389 01:43:16,200 --> 01:43:17,320 ‎แล้ว… 1390 01:43:18,200 --> 01:43:19,840 ‎ทำไมมันก็เกิดขึ้นกับคนอื่นเหมือนกัน 1391 01:43:46,280 --> 01:43:50,640 ‎แน่นอนว่าฉันคิดถึงมิชชาเอลทุกวัน 1392 01:43:50,720 --> 01:43:53,080 ‎แต่ก็ไม่ใช่แค่ฉันที่คิดถึงเขา 1393 01:43:53,160 --> 01:43:54,280 ‎ลูกๆ 1394 01:43:54,360 --> 01:43:55,600 ‎ครอบครัว 1395 01:43:55,680 --> 01:43:56,680 ‎พ่อเขา 1396 01:43:56,760 --> 01:43:58,040 ‎ทุกๆ คนรอบตัวเขา 1397 01:43:58,120 --> 01:44:01,120 ‎ทุกคนคิดถึงมิชชาเอล 1398 01:44:01,200 --> 01:44:02,280 ‎แต่มิชชาเอลอยู่ที่นี่ค่ะ 1399 01:44:03,000 --> 01:44:04,280 ‎ต่างจากเดิม แต่อยู่ที่นี่แหละ 1400 01:44:05,720 --> 01:44:09,320 ‎และนั่นทำให้เรามีแรงสู้ต่อ 1401 01:44:09,400 --> 01:44:10,360 ‎ฉันรู้สึกอย่างนั้น 1402 01:44:34,120 --> 01:44:35,480 ‎เราอยู่ด้วยกัน 1403 01:44:35,560 --> 01:44:37,960 ‎เราอยู่ด้วยกันที่บ้าน 1404 01:44:38,040 --> 01:44:38,880 ‎เรา… 1405 01:44:39,600 --> 01:44:40,560 ‎ทำการบำบัด 1406 01:44:40,640 --> 01:44:44,680 ‎เราทำทุกอย่างเพื่อให้มิชชาเอลดีขึ้น 1407 01:44:44,760 --> 01:44:46,040 ‎และเพื่อให้เขาสุขสบาย 1408 01:44:47,560 --> 01:44:52,040 ‎และทำให้เขารู้สึกว่ามีครอบครัว ‎รู้สึกถึงสายสัมพันธ์ของเรา 1409 01:44:52,120 --> 01:44:56,520 ‎ยังไงก็ตาม ฉันจะทำทุกอย่างที่ฉันจะทำได้ 1410 01:44:57,080 --> 01:44:58,080 ‎เราทุกคนจะทำทุกอย่าง 1411 01:45:17,400 --> 01:45:20,440 ‎ตอนนี้เวลาผมนึกถึงอดีต 1412 01:45:21,680 --> 01:45:25,160 ‎ภาพที่ผุดขึ้นมาในหัว 1413 01:45:27,080 --> 01:45:29,000 ‎มักจะเป็นภาพที่เราสี่คนกำลังสนุกกัน 1414 01:45:32,040 --> 01:45:34,360 ‎ผมเห็นภาพเรา 1415 01:45:35,920 --> 01:45:38,840 ‎กำลังขับรถโกคาร์ทบนลานหญ้า 1416 01:45:40,520 --> 01:45:43,360 ‎ผมเห็นภาพเราออกไปข้างนอก 1417 01:45:45,400 --> 01:45:48,520 ‎นั่งอยู่บนรถม้า และม้าที่ลากเป็นม้าตัวเล็ก 1418 01:45:48,600 --> 01:45:50,720 ‎มีช่วงเวลาหลายช่วง 1419 01:45:51,960 --> 01:45:53,880 ‎ที่ทำให้นึกถึงความสุข 1420 01:46:04,720 --> 01:46:07,640 ‎ที่เด่นๆ เลยคือตอนที่เขากลับมาบ้าน 1421 01:46:07,720 --> 01:46:09,240 ‎มันสนุกมาก 1422 01:46:09,320 --> 01:46:12,600 ‎เพราะเขาทนเล่นกับเราหลายชั่วโมง ‎หลังจากกลับมาบ้าน 1423 01:46:12,680 --> 01:46:16,120 ‎ทั้งๆ ที่เขาอาจจะเหนื่อยมาก 1424 01:46:16,200 --> 01:46:18,320 ‎แต่เราก็ไม่ได้สังเกต 1425 01:46:18,400 --> 01:46:21,360 ‎เราแค่มีความสุขที่ได้มีเขาอยู่ในบ้าน 1426 01:46:22,280 --> 01:46:23,120 ‎นั่นแหละค่ะ 1427 01:46:32,120 --> 01:46:33,960 ‎ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น 1428 01:46:35,440 --> 01:46:38,600 ‎ประสบการณ์เหล่านั้น 1429 01:46:39,680 --> 01:46:42,240 ‎ช่วงเวลาเหล่านั้น 1430 01:46:42,320 --> 01:46:44,920 ‎ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนได้ใช้ร่วมกับพ่อแม่ 1431 01:46:46,760 --> 01:46:47,600 ‎มันไม่มีอยู่แล้วครับ 1432 01:46:48,280 --> 01:46:49,520 ‎ถึงมีก็น้อยลง 1433 01:46:49,600 --> 01:46:51,640 ‎ในมุมมองผมนะ 1434 01:46:52,760 --> 01:46:54,000 ‎มัน… 1435 01:46:54,880 --> 01:46:55,840 ‎แอบไม่ยุติธรรม 1436 01:47:21,880 --> 01:47:22,800 ‎ผมว่า 1437 01:47:23,680 --> 01:47:24,800 ‎พ่อกับผม 1438 01:47:24,880 --> 01:47:25,760 ‎เรา… 1439 01:47:27,000 --> 01:47:29,560 ‎ถ้าเป็นตอนนี้ เราจะเข้าใจกันต่างจากเดิม 1440 01:47:30,400 --> 01:47:34,560 ‎เหตุผลก็เพราะเราพูดภาษาที่คล้ายกัน 1441 01:47:35,360 --> 01:47:36,800 ‎ภาษากีฬาแข่งรถ 1442 01:47:37,680 --> 01:47:39,000 ‎และเรา… 1443 01:47:40,440 --> 01:47:41,680 ‎จะมีเรื่องให้คุยกันมากขึ้น 1444 01:47:43,920 --> 01:47:48,560 ‎และส่วนใหญ่ผมก็คิดวนอยู่แต่เรื่องนี้ 1445 01:47:52,840 --> 01:47:54,400 ‎คิดว่ามันจะต้องดีมากๆ 1446 01:47:56,480 --> 01:47:58,800 ‎คิดว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้น 1447 01:47:58,880 --> 01:47:59,880 ‎ผม… 1448 01:48:00,600 --> 01:48:03,760 ‎จะสละทุกอย่างเพื่อสิ่งนั้นเลยครับ 1449 01:48:06,680 --> 01:48:07,520 ‎ครับ 1450 01:48:31,240 --> 01:48:35,400 ‎เราพยายามจะใช้ชีวิตครอบครัวต่อไป 1451 01:48:35,480 --> 01:48:39,680 ‎ในแบบที่มิชชาเอลชอบและยังคงชอบอยู่ 1452 01:48:40,240 --> 01:48:43,080 ‎เราใช้ชีวิตของเราต่อไป 1453 01:48:43,160 --> 01:48:46,080 ‎"ส่วนตัวก็คือส่วนตัว" อย่างที่เขาเคยพูดอยู่เสมอ 1454 01:48:46,160 --> 01:48:52,640 ‎มันสำคัญกับฉันมาก ‎ที่เขาจะต้องสามารถมีความสุขกับชีวิตส่วนตัว 1455 01:48:52,720 --> 01:48:55,480 ‎มีความสุขให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 1456 01:48:55,560 --> 01:48:57,640 ‎มิชชาเอลปกป้องเรามาตลอด 1457 01:48:58,320 --> 01:49:00,000 ‎ตอนนี้เราก็เลยปกป้องมิชชาเอลบ้าง 1458 01:50:17,080 --> 01:50:20,360 ‎(ถ้าไม่มีพวกเขา สารคดีนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น) 1459 01:52:05,320 --> 01:52:07,000 ‎คำบรรยายโดยเฉลิมรัชฏ์ อัครไชยนนท์